1 00:00:17,851 --> 00:00:20,895 (แจ็คเดอะริปเปอร์ ปี 1959) 2 00:00:20,979 --> 00:00:23,565 เดอะริปเปอร์ เขาลงมืออีกแล้ว 3 00:00:23,648 --> 00:00:25,567 เดอะริปเปอร์ลงมืออีกแล้ว 4 00:00:27,318 --> 00:00:28,903 (แจ็คเดอะริปเปอร์) 5 00:00:30,572 --> 00:00:33,199 ผู้คนเคยได้ยินชื่อแจ็คเดอะริปเปอร์ 6 00:00:33,283 --> 00:00:36,119 ต่อให้ไม่รู้สิ่งที่แจ็คเดอะริปเปอร์ทำ 7 00:00:36,202 --> 00:00:38,830 เขาเป็นฆาตกรที่โหดเหี้ยม แจ็คเดอะริปเปอร์ ใช่ 8 00:00:38,913 --> 00:00:42,917 และเขาไม่เคยถูกจับหรือถูกลงโทษเลย ฉลาดจริงๆ เย่ 9 00:00:43,501 --> 00:00:48,339 เหตุเกิดขึ้นในยุควิกตอเรียในลอนดอน แต่มีหนังสือเกี่ยวกับแจ็คเดอะริปเปอร์ 10 00:00:48,423 --> 00:00:51,468 เป็นภาษาญี่ปุ่น จีน อิตาเลียนและสเปน 11 00:00:51,551 --> 00:00:53,720 ชื่อนี้ดังไปทุกที่ 12 00:00:54,304 --> 00:00:55,346 {\an8}แจ็คเดอะริปเปอร์ 13 00:00:55,430 --> 00:00:56,931 {\an8}มันจบแล้วสำหรับแจ็คเดอะริปเปอร์ 14 00:00:57,015 --> 00:00:58,850 เลิกใช้ชื่องี่เง่านั่นสักที 15 00:00:59,726 --> 00:01:04,731 แจ็คกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า การกระทำของเขาไปแล้ว 16 00:01:05,273 --> 00:01:07,609 แต่เมื่อคุณรู้รายละเอียดอันสยดสยอง ของอาชญากรรมนี้ 17 00:01:07,692 --> 00:01:09,444 มุมมองของคุณจะเปลี่ยนไป 18 00:01:10,945 --> 00:01:12,363 คดีอาชญากรรมนี้โหดร้ายมาก 19 00:01:12,447 --> 00:01:15,408 เขาพยายามตัดจมูกเธอออก พยายามตัดหู 20 00:01:15,492 --> 00:01:17,577 ทั้งกรีดและเฉือนไปทั่ว 21 00:01:18,161 --> 00:01:19,704 เขาควักหัวใจเธอออกมา 22 00:01:19,788 --> 00:01:22,165 มันน่าใจหายจริงๆ 23 00:01:22,916 --> 00:01:25,835 ถ้าลองคิดดู มีหลายเหตุผลที่ปริศนานี้โด่งดัง 24 00:01:25,919 --> 00:01:28,088 ข้อแรก แจ็คเดอะริปเปอร์ทำให้ผู้คนหวาดกลัว 25 00:01:28,171 --> 00:01:30,590 ในแบบที่ไม่มีฆาตกรคนไหนเคยทำมาก่อน 26 00:01:30,673 --> 00:01:32,675 และคงไม่มีฆาตกรคนไหนทำได้ตั้งแต่นั้นมา 27 00:01:33,176 --> 00:01:37,263 อีกเหตุผลหนึ่งที่เรื่องนี้ยังโด่งดัง เพราะมันเป็นเรื่องที่พัฒนาอยู่ตลอด 28 00:01:37,347 --> 00:01:40,141 เหตุเกิดขึ้นเมื่อกว่า 135 ปีก่อน 29 00:01:40,225 --> 00:01:42,894 แต่เราก็ยังพยายามไขปริศนานี้อยู่ 30 00:02:12,048 --> 00:02:15,802 (คดีปริศนา) 31 00:02:22,934 --> 00:02:26,938 {\an8}(วันที่ 31 สิงหาคม ปี 1888) 32 00:02:31,067 --> 00:02:33,611 {\an8}(เขตไวต์แชปเปิล) 33 00:02:33,695 --> 00:02:37,866 {\an8}(สามกิโลเมตรไปทางตะวันออก ของเซ็นทรัลลอนดอน) 34 00:02:39,450 --> 00:02:42,245 ในช่วงเช้าตรู่วันที่ 31 สิงหาคม ปี 1888 35 00:02:42,328 --> 00:02:45,039 ตำรวจคนหนึ่งเดินลาดตระเวนที่ไวต์แชปเปิล 36 00:02:47,458 --> 00:02:50,044 ทันใดนั้นเขาก็เห็นอะไรบางอย่างนอนอยู่ที่ประตู 37 00:02:50,128 --> 00:02:52,839 {\an8}พอเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น 38 00:02:53,548 --> 00:02:56,634 เขามีตะเกียงเลยส่องตะเกียงไปที่เธอ 39 00:02:57,343 --> 00:02:58,887 และเห็นว่าเธอถูกกรีดคอ 40 00:03:01,556 --> 00:03:03,016 สิ่งที่เขามองไม่เห็นคือ 41 00:03:03,099 --> 00:03:06,269 ใต้เสื้อผ้าเปื้อนเลือดของเธอ เธอถูกคว้านท้องออก 42 00:03:07,187 --> 00:03:09,272 มีคนมากมายอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น 43 00:03:09,355 --> 00:03:13,526 {\an8}มีคนอาศัยอยู่ในบ้านที่ติดกับประตูที่พบศพเธอ 44 00:03:13,610 --> 00:03:14,944 {\an8}แต่พวกเขาไม่ได้ยินหรือเห็นอะไรเลย 45 00:03:15,028 --> 00:03:17,322 เห็นได้ชัดว่ามันเกิดขึ้นเงียบๆ 46 00:03:17,405 --> 00:03:19,657 ใต้หน้าต่าง 47 00:03:19,741 --> 00:03:22,452 ที่มีผู้คนนอนหลับอยู่บนเตียง 48 00:03:23,369 --> 00:03:25,830 มันเป็นการทำร้ายที่โหดเหี้ยมมาก 49 00:03:28,583 --> 00:03:32,921 ที่ห้องเก็บศพ พบว่ามีบาดแผลที่ลึกและขรุขระ 50 00:03:33,004 --> 00:03:36,007 {\an8}จากกระดูกสันอกยาวไปจนถึงช่องท้อง 51 00:03:36,090 --> 00:03:39,260 {\an8}ตัดเนื้อเยื่อในช่องท้องเธอจนขาด 52 00:03:41,804 --> 00:03:45,266 พอเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนสอบถามว่า "มีใครจำคนคนนี้ได้บ้าง" 53 00:03:45,350 --> 00:03:47,769 เธอถูกระบุตัวว่าเป็นคนที่รู้จักกันในชื่อพอลลี่ 54 00:03:49,395 --> 00:03:52,774 {\an8}แมรี่ แอนน์ นิโคลส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อพอลลี่ 55 00:03:52,857 --> 00:03:55,610 {\an8}อายุ 43 ปีตอนที่ถูกฆาตกรรม 56 00:03:56,736 --> 00:04:00,156 พอลลี่เพิ่งมาอยู่ย่านอีสต์เอนด์ ในลอนดอนได้ไม่นาน เท่าที่เรารู้ 57 00:04:00,240 --> 00:04:03,409 แต่เธอกลายเป็นคนติดเหล้า และนั่นก็ทำให้ชีวิตเธอตกต่ำลง 58 00:04:04,452 --> 00:04:06,996 เธอยากจนมาก อยู่ตัวคนเดียว 59 00:04:07,080 --> 00:04:10,708 ดิ้นรนหาเลี้ยงตัวอง ด้วยการขายประเวณีเป็นครั้งคราว 60 00:04:16,714 --> 00:04:18,383 คืนนั้นเธอดื่มเหล้ามา 61 00:04:18,466 --> 00:04:20,551 และไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าเตียง 62 00:04:20,635 --> 00:04:23,346 {\an8}เธอเลยถูกไล่ออกจากบ้านพัก 63 00:04:26,474 --> 00:04:30,019 {\an8}เธอออกไปขายบริการ พยายามหาเงินเช่าเตียงสำหรับคืนนั้น 64 00:04:31,187 --> 00:04:34,732 คำพูดสุดท้ายที่พอลลี่พูดกับคนดูแลบ้านพักคือ 65 00:04:34,816 --> 00:04:36,609 "เห็นไหมว่าหมวกฉันสวยขนาดไหน" 66 00:04:36,693 --> 00:04:38,945 {\an8}เธอพูดอะไรทำนองนั้น 67 00:04:39,028 --> 00:04:41,698 {\an8}"ฉันจะออกไปข้างนอกเพื่อหาลูกค้า 68 00:04:42,407 --> 00:04:44,200 เห็นไหมว่าตอนนี้ฉันสวยขนาดไหน" 69 00:04:44,284 --> 00:04:47,203 "ฉันจะกลับมา เก็บเตียงไว้ให้ด้วย เดี๋ยวก็มาแล้ว" 70 00:04:48,121 --> 00:04:52,375 นั่นคือตอนที่เธอถูกทำร้าย และถูกชำแหละศพอย่างโหดร้าย 71 00:04:55,128 --> 00:04:57,672 ฆาตกรบีบคอเธอ 72 00:04:57,755 --> 00:05:00,216 ฆ่าเธอก่อนที่เธอจะทันร้องออกมา 73 00:05:01,342 --> 00:05:02,927 ในย่านอีสต์เอนด์ยุค 1880 74 00:05:03,011 --> 00:05:06,723 การฆาตกรรมไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างที่คิด 75 00:05:07,640 --> 00:05:09,017 {\an8}ดังนั้นการฆาตกรรมพอลลี่ 76 00:05:09,100 --> 00:05:12,353 {\an8}ตำรวจน่าจะมองว่าเป็นกรณีพิเศษ 77 00:05:17,859 --> 00:05:20,903 ลอนดอนในปี 1888 เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก 78 00:05:20,987 --> 00:05:22,989 มีย่านเวสต์เอนด์ที่ร่ำรวยและเจริญมาก 79 00:05:23,072 --> 00:05:25,074 ย่านอีสต์เอนด์นั้นยากจนมาก 80 00:05:25,867 --> 00:05:28,786 ไวต์แชปเปิลเป็นเขต ในย่านอีสต์เอนด์ของลอนดอน 81 00:05:29,704 --> 00:05:33,458 {\an8}มันเป็นย่านที่ผู้คนแทบจะไม่มีกิน 82 00:05:33,541 --> 00:05:37,211 {\an8}ผู้คนยากจน แทบจะอดตายกัน 83 00:05:38,713 --> 00:05:39,964 จากถนนสายหลัก 84 00:05:40,048 --> 00:05:44,010 ก็มีตรอกซอกซอยและลานที่มีหนูชุกชุม 85 00:05:44,093 --> 00:05:47,055 สยดสยองจริงๆ ผู้คนใช้ชีวิตในสภาพที่เลวร้าย 86 00:05:49,140 --> 00:05:53,019 หญิงโสดมากมายในอีสต์เอนด์ ไม่มีเงินซื้อบ้านหรือแฟลตของตัวเอง 87 00:05:53,102 --> 00:05:56,939 ดังนั้นพวกเขาต้องพยายาม รวบรวมเงินสี่เพนนีทุกวัน 88 00:05:57,023 --> 00:05:58,358 เพื่อเช่าเตียงหนึ่งคืน 89 00:05:58,441 --> 00:06:01,194 ในที่ที่เราเรียกว่าบ้านพักรวมหรือที่พักห้องแถว 90 00:06:01,277 --> 00:06:02,236 ฉันพูดว่าเตียง 91 00:06:02,320 --> 00:06:05,448 แต่ในหลายที่ มันเป็นโลงศพมากกว่า 92 00:06:05,531 --> 00:06:07,992 วางเรียงกันเป็นแถวติดผนัง 93 00:06:08,743 --> 00:06:11,412 ผู้หญิงหลายคนคงต้องหันไปค้าประเวณี 94 00:06:11,496 --> 00:06:16,667 มันเป็นสิ่งที่พวกเธอต้องทำเพื่อหาเงิน 95 00:06:16,751 --> 00:06:17,877 (ผู้หญิง) 96 00:06:17,960 --> 00:06:21,255 มีคำเรียกผู้หญิงพวกนี้ "อาภัพ" 97 00:06:21,339 --> 00:06:23,383 เพราะพวกเธอถูกหลงลืมไป 98 00:06:25,593 --> 00:06:28,304 ฉันคิดว่าแจ็คเดอะริปเปอร์พุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงพวกนี้ 99 00:06:28,388 --> 00:06:33,142 เพราะตกเป็นเหยื่อได้ง่าย และเป็นผู้หญิงที่เสี่ยงเพราะทำงานตามท้องถนน 100 00:06:33,226 --> 00:06:35,978 ถ้าพวกเธอค้าบริการเพื่อให้มีชีวิตรอด 101 00:06:36,062 --> 00:06:38,106 พวกเธอก็รู้จักท้องถนนดี 102 00:06:38,898 --> 00:06:42,235 ที่จริงแล้วเหยื่อกลายเป็น คนเลือกสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรม 103 00:06:42,318 --> 00:06:45,696 เพราะงานของพวกเธอ พวกเธอจึงรู้ว่าจะพาลูกค้าไปที่ไหน 104 00:06:45,780 --> 00:06:47,865 ที่ที่ไม่น่าเสี่ยงว่าจะถูกขัดจังหวะ 105 00:06:47,949 --> 00:06:52,537 พวกเธอจึงเลือกที่ที่เหมาะจะถูกฆ่า โดยไม่รู้ตัวเลย 106 00:06:59,043 --> 00:07:00,461 (ปี 1888) 107 00:07:00,545 --> 00:07:03,131 พอลลี่ นิโคลส์ถูกฆ่าวันที่ 31 สิงหาคม 108 00:07:03,214 --> 00:07:05,800 หนึ่งสัปดาห์ต่อมา วันที่ 8 กันยายน 109 00:07:05,883 --> 00:07:08,761 มีการฆาตกรรมเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งก็คือแอนนี่ แชปแมน 110 00:07:09,303 --> 00:07:12,598 แอนนี่ถูกฆ่าตายที่ลานด้านหลังถนนแฮนเบอรี 111 00:07:13,808 --> 00:07:17,395 {\an8}และที่อีสต์เอนด์ ใกล้กับจุดที่พอลลี่ถูกฆ่า 112 00:07:18,646 --> 00:07:23,192 เธอนอนหงายอยู่ในสนาม หน้าหันไปทางบันได 113 00:07:24,360 --> 00:07:27,780 เธอถูกชำแหละอย่างโหดเหี้ยม แบบเดียวกับพอลลี่ 114 00:07:28,781 --> 00:07:30,450 ฆาตกรเอาบางอย่างไปเป็นที่ระลึกด้วย 115 00:07:30,533 --> 00:07:33,035 เขาตัดมดลูกของเหยื่อไป 116 00:07:33,953 --> 00:07:36,497 ซึ่งบ่งบอกว่าเหตุผลของการฆาตกรรมนี้ 117 00:07:36,581 --> 00:07:40,668 ตั้งใจทำเพื่อให้ฆาตกรเอาอวัยวะส่วนนั้นไปได้ 118 00:07:40,751 --> 00:07:44,422 {\an8}แอนนี่เป็นเหยื่อที่อายุมากที่สุด เธออายุ 47 ปี 119 00:07:45,506 --> 00:07:49,677 {\an8}ตามรายงานของตำรวจ แอนนี่ไม่มีรายได้เลย 120 00:07:50,511 --> 00:07:53,848 เธอเริ่มขายเครื่องประดับตามถนน เพื่อความอยู่รอด 121 00:07:55,266 --> 00:07:59,520 เมื่อไม่ได้ผล เธอก็หันไปขายบริการเป็นครั้งคราว 122 00:08:01,564 --> 00:08:05,651 เช่นเดียวกับพอลลี่ นิโคลส์ ในคืนก่อนที่เธอถูกฆาตกรรม 123 00:08:05,735 --> 00:08:07,862 เธอไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าเตียง 124 00:08:09,071 --> 00:08:12,909 {\an8}(เวลา 1:45 น. แอนนี่ออกจากบ้านพัก) 125 00:08:12,992 --> 00:08:17,246 {\an8}พยานบอกว่าเธอเดินเตร็ดเตร่มองหาลูกค้า 126 00:08:17,872 --> 00:08:19,499 {\an8}จากนั้นสักช่วงเวลาในคืนนั้น 127 00:08:19,582 --> 00:08:21,584 {\an8}มีพยานเห็นแอนนี่คุยกับผู้ชายคนหนึ่ง 128 00:08:21,667 --> 00:08:24,879 {\an8}นอกประตูหน้าเลขที่ 29 ถนนแฮนเบอรี 129 00:08:24,962 --> 00:08:26,589 {\an8}แต่เธอไม่เห็นหน้าเขา 130 00:08:27,089 --> 00:08:29,592 หลังจากนั้นเธอพูดว่าเขาดูเหมือนคนต่างชาติ 131 00:08:29,675 --> 00:08:31,302 จากการแต่งตัวของเขา 132 00:08:31,385 --> 00:08:33,846 เชื่อกันว่านั่นคือแจ็คเดอะริปเปอร์ 133 00:08:34,722 --> 00:08:37,975 และจากบันทึกของตำรวจ สิ่งที่เรารู้ว่าจะเกิดขึ้นต่อไป 134 00:08:38,059 --> 00:08:41,979 ทั้งสองคนเดินเข้าทางประตู ที่ไม่เคยล็อกของเลขที่ 29 135 00:08:42,730 --> 00:08:44,190 เข้าไปในทางเดิน 136 00:08:44,690 --> 00:08:47,527 และทางเดินอันมืดมิดนำไปสู่สนามหลังบ้าน 137 00:08:47,610 --> 00:08:49,070 นั่นคือที่ที่แจ็คฆ่าแอนนี่ 138 00:08:50,821 --> 00:08:52,240 (ภาพประกอบในหนังสือพิมพ์) 139 00:08:53,074 --> 00:08:56,994 ผู้ที่พักอยู่เลขที่ 27 ถนนแฮนเบอรี ตอนที่แอนนี่ถูกฆาตกรรม 140 00:08:57,078 --> 00:08:58,704 ซึ่งเป็นบ้านข้างๆ 141 00:08:58,788 --> 00:09:01,290 คือผู้ชายชื่ออัลเบิร์ต คาดอช 142 00:09:01,374 --> 00:09:05,419 เขากำลังไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ตรงท้ายสวน 143 00:09:05,503 --> 00:09:10,341 และเขาได้ยินเสียงร้อง "ไม่" และเสียงดังตุ้บที่รั้ว 144 00:09:10,424 --> 00:09:13,135 หลายคนเชื่อว่า เป็นเสียงศพของแอนนี่กระแทกกับรั้ว 145 00:09:16,222 --> 00:09:18,724 {\an8}เป็นไปได้ว่าถ้าเขามองข้ามรั้วไป 146 00:09:18,808 --> 00:09:22,019 {\an8}เขาคงได้เห็น การฆาตกรรมแอนนี่ แชปแมนกลางคัน 147 00:09:27,567 --> 00:09:30,069 {\an8}คอของแอนนี่ถูกเฉือนจากซ้ายไปขวา 148 00:09:30,152 --> 00:09:31,737 {\an8}กลับไปที่กระดูกสันหลัง 149 00:09:31,821 --> 00:09:33,823 {\an8}เธอถูกกรีดจนถึงกระดูกหน้าอก 150 00:09:33,906 --> 00:09:37,034 ลำไส้ของเธอถูกควักออกมา และวางไว้บนไหล่ของเธอ 151 00:09:37,118 --> 00:09:40,746 ที่เท้าเธอมีข้าวของหลายอย่าง จากกระเป๋าผ้าของเธอ 152 00:09:40,830 --> 00:09:42,415 ที่ถูกกรีดออก 153 00:09:42,498 --> 00:09:44,458 มีหวี เศษกระดาษ 154 00:09:44,542 --> 00:09:47,837 ของมากมายที่ควักออกมาจากกระเป๋าที่เธอใส่อยู่ 155 00:09:48,588 --> 00:09:51,424 เขาเอาทุกอย่างออกมาวางที่เท้าเธอ อย่างเป็นระเบียบ 156 00:09:51,507 --> 00:09:52,466 แปลกมากค่ะ 157 00:09:54,594 --> 00:09:58,472 เธอถูกชำแหละแบบเดียวกับพอลลี่ 158 00:09:59,140 --> 00:10:02,351 ตำรวจจึงเชื่อว่าการฆาตกรรมทั้งสองครั้ง เป็นฝีมือคนเดียวกัน 159 00:10:04,854 --> 00:10:06,063 ในที่เกิดเหตุ 160 00:10:06,147 --> 00:10:08,941 ตำรวจหาเบาะแสที่ฆาตกรทิ้งไว้ 161 00:10:09,525 --> 00:10:12,570 แล้วตำรวจก็พบผ้ากันเปื้อนหนังที่เพิ่งซัก 162 00:10:12,653 --> 00:10:13,863 ตรงมุมสนาม 163 00:10:13,946 --> 00:10:16,657 พวกเขาคิดว่า "เราได้ตัวเขาแล้ว เราได้ตัวฆาตกรแล้ว" 164 00:10:17,575 --> 00:10:20,119 ที่พวกเขาตื่นเต้นกันเพราะว่า 165 00:10:20,202 --> 00:10:22,246 หลังจากการฆาตกรรมพอลลี่ นิโคลส์ 166 00:10:22,330 --> 00:10:26,459 ตำรวจกำลังสืบสวนผู้ต้องสงสัย ที่รู้จักกันในชื่อผ้ากันเปื้อนหนังอยู่แล้ว 167 00:10:27,251 --> 00:10:29,211 ตอนนี้โสเภณีในไวต์แชปเปิล 168 00:10:29,295 --> 00:10:32,840 เริ่มคุยกันเรื่องคนร้ายชื่อผ้ากันเปื้อนหนัง 169 00:10:32,923 --> 00:10:35,343 และพวกเธอเชื่อว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้ก่อเหตุ 170 00:10:35,426 --> 00:10:39,013 ผ้ากันเปื้อนหนังเป็นชายชื่อจอห์น ไพเซอร์ ที่เคยอยู่ที่ไวต์แชปเปิล 171 00:10:39,096 --> 00:10:42,475 เขาเป็นช่างทำรองเท้า ใส่ผ้ากันเปื้อนหนังประจำเวลาทำงาน 172 00:10:43,726 --> 00:10:45,603 พอตำรวจพบผ้ากันเปื้อนหนัง 173 00:10:45,686 --> 00:10:47,897 ก็ลากตัวเขาไปที่สถานีตำรวจ 174 00:10:47,980 --> 00:10:50,024 แล้วสอบปากคำละเอียด 175 00:10:50,650 --> 00:10:53,444 กลายเป็นว่าผ้ากันเปื้อนหนังที่พวกเขาพบ 176 00:10:53,527 --> 00:10:55,571 ไม่เกี่ยวอะไรกับการฆาตกรรมเลย 177 00:10:55,655 --> 00:10:58,783 เป็นแค่ชาวบ้านที่ทำความสะอาด ผ้ากันเปื้อนหนังของตัวเอง 178 00:10:58,866 --> 00:11:01,118 แล้วพาดไว้บนรั้วเพื่อตากให้แห้ง 179 00:11:01,994 --> 00:11:05,164 ไพเซอร์มีพยานยืนยันที่อยู่แน่นหนา สำหรับคืนที่เกิดเหตุฆาตกรรม 180 00:11:05,247 --> 00:11:07,333 เขาจึงถูกปล่อยตัวจากการเป็นผู้ต้องสงสัย 181 00:11:07,833 --> 00:11:12,797 และปรากฏว่าเขาเป็นเพียงคนแรก ในบรรดาผู้ต้องสงสัยอีกมากมายในคดีนี้ 182 00:11:14,048 --> 00:11:16,467 ถึงจุดนี้ตำรวจรู้แล้ว 183 00:11:16,550 --> 00:11:20,054 ว่ามีบางอย่างผิดปกติมากในไวต์แชปเปิล 184 00:11:20,137 --> 00:11:23,057 {\an8}ฆาตกรรมสยองสองครั้ง การชำแหละศพที่โหดร้าย 185 00:11:23,140 --> 00:11:25,351 น่าจะถูกฆ่าด้วยคนเดียวกัน 186 00:11:26,644 --> 00:11:30,856 สิ่งที่น่ากลัวคือมีคนอยู่ข้างนอกนั่น 187 00:11:30,940 --> 00:11:32,775 ที่อยากฆ่าคุณ 188 00:11:33,943 --> 00:11:36,946 คนที่คุณไม่เคยเจอ คุณไม่เคยทำร้ายพวกเขา 189 00:11:37,655 --> 00:11:42,410 {\an8}พวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าคุณ 190 00:11:43,619 --> 00:11:46,205 {\an8}เกิดความหวาดกลัวฆาตกรรมสยองนี้ 191 00:11:47,498 --> 00:11:50,710 คนคิดว่า "คนใจโฉดแบบไหนทำแบบนี้ได้" 192 00:11:51,961 --> 00:11:54,338 (ปีศาจไวต์แชปเปิล) 193 00:11:56,716 --> 00:11:59,427 มีความรู้สึกว่าฆาตกรคุ้นเคยกับย่านไวต์แชปเปิลดี 194 00:11:59,510 --> 00:12:02,680 ตอนนั้นไวต์แชปเปิล ประกอบด้วยตรอกซอกซอยแคบๆ มากมาย 195 00:12:02,763 --> 00:12:05,558 ทางเดินเล็กๆ คดเคี้ยวที่เชื่อมระหว่างตึกต่างๆ 196 00:12:06,517 --> 00:12:09,270 เขาแค่ต้องรู้ว่าที่ซ่อนตัวที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหน 197 00:12:09,353 --> 00:12:12,606 ที่เขาจะไปจากที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว 198 00:12:13,399 --> 00:12:15,276 {\an8}พอเขาไปถึงถนนไวต์แชปเปิล 199 00:12:15,359 --> 00:12:16,235 {\an8}ถนนสายหลักที่พลุกพล่าน 200 00:12:16,318 --> 00:12:19,071 {\an8}ที่ทะลุผ่านใจกลางของย่านนั้น หรือถนนคอมเมอร์เชียล 201 00:12:19,155 --> 00:12:20,448 {\an8}ทางสัญจรที่พลุกพล่าน 202 00:12:20,531 --> 00:12:23,492 {\an8}เขาก็จะออกไปได้และกลืนไปกับฝูงชน 203 00:12:30,624 --> 00:12:34,003 ตำรวจตัดสินใจไม่พูดกับสื่อตั้งแต่เนิ่นๆ 204 00:12:34,086 --> 00:12:37,631 เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ หรือการสืบสวนของพวกเขา 205 00:12:37,715 --> 00:12:42,094 และเป็นธรรมชาติของสื่อ ที่มองหาข่าวที่น่าตื่นเต้น 206 00:12:42,636 --> 00:12:45,681 แล้วก็ไม่พอใจเมื่อไม่มีเบาะแสให้ทำข่าว 207 00:12:45,765 --> 00:12:47,725 {\an8}ยกเว้นผู้ต้องสงสัย ผ้ากันเปื้อนหนัง 208 00:12:49,852 --> 00:12:52,521 วันที่ 27 กันยายน ปี 1888 209 00:12:52,605 --> 00:12:56,567 สำนักข่าวเซ็นทรัลนิวส์ ได้รับจดหมายที่น่าสนใจมาก 210 00:12:56,650 --> 00:12:57,902 เขียนด้วยหมึกสีแดง 211 00:12:57,985 --> 00:13:02,656 {\an8}มันเริ่มว่า "เจ้านายที่รัก ฉันได้ยินอยู่เรื่อยว่าตำรวจจับฉันได้แล้ว" 212 00:13:02,740 --> 00:13:04,575 {\an8}"พวกเขายังจับฉันไม่ได้หรอก" 213 00:13:05,075 --> 00:13:07,912 แล้วก็ใช้คำพูดเย้ยหยันโอ้อวดถึงสิ่งที่เขาทำ 214 00:13:07,995 --> 00:13:09,580 ตำรวจจับเขาไม่ได้ 215 00:13:10,664 --> 00:13:14,710 สุดท้ายก็ลงชื่อว่า "ขอแสดงความนับถือ แจ็คเดอะริปเปอร์" 216 00:13:18,297 --> 00:13:23,093 {\an8}จดหมาย "เจ้านายที่รัก" น่าจะเป็น เอกสารที่สำคัญที่สุดที่เรามี 217 00:13:23,177 --> 00:13:26,388 {\an8}เพราะมันเป็นเอกสารที่ทำให้เราได้ชื่อ "แจ็คเดอะริปเปอร์" มา 218 00:13:26,472 --> 00:13:29,475 มันสรุปว่าเขาทำอะไรกับพวกผู้หญิง 219 00:13:29,558 --> 00:13:30,893 พวกเธอถูกคว้านท้องออก 220 00:13:30,976 --> 00:13:33,854 ฉายาที่สยดสยองอย่างนั้น 221 00:13:34,730 --> 00:13:37,149 แจ็คเดอะริปเปอร์ เป็นความฝันของนักข่าวเลย 222 00:13:37,733 --> 00:13:41,111 ฆาตกรมีฉายาแล้ว เขาไม่ใช่บุคคลที่เร้นลับอีกต่อไป 223 00:13:41,195 --> 00:13:44,031 เขามีฉายา แจ็คเดอะริปเปอร์ 224 00:13:44,114 --> 00:13:45,783 (ขอแสดงความนับถือ แจ็คเดอะริปเปอร์) 225 00:13:45,866 --> 00:13:48,953 ปัญหาคือตำรวจส่วนใหญ่เชื่อว่าจดหมายฉบับนี้ 226 00:13:49,036 --> 00:13:51,247 เป็นผลงานของนักข่าวชาวลอนดอน ที่กล้าได้กล้าเสีย 227 00:13:51,330 --> 00:13:53,123 เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักสืบอาวุโสสกอตแลนด์ยาร์ด 228 00:13:53,207 --> 00:13:57,336 พูดอีกอย่างคือ นักข่าวเขียนจดหมาย มันเป็นข่าวปลอม 229 00:13:57,419 --> 00:14:00,631 ผู้คนมากมายในตอนนั้น รวมทั้งตำรวจที่เกี่ยวข้อง 230 00:14:00,714 --> 00:14:04,593 เชื่อว่าพวกเขารู้ตัวตนของคนที่ทำ 231 00:14:04,677 --> 00:14:08,264 ว่าคนเขียนมาจากสำนักข่าวเซ็นทรัลนิวส์เอง 232 00:14:08,347 --> 00:14:11,767 {\an8}พยายามสร้างความตื่นเต้นในสื่อ 233 00:14:11,851 --> 00:14:14,520 {\an8}ส่วนตัวแล้ว ฉันเลยไม่คิดว่า จดหมาย "เจ้านายที่รัก" 234 00:14:14,603 --> 00:14:16,438 {\an8}เขียนโดยแจ็คเดอะริปเปอร์ 235 00:14:16,939 --> 00:14:18,274 {\an8}ตอนที่พวกเขาได้จดหมายริปเปอร์ 236 00:14:18,357 --> 00:14:21,318 ดูเหมือนไม่มีผู้ต้องสงสัยที่แน่นหนาสักคน 237 00:14:21,402 --> 00:14:24,697 ตำรวจก็ไม่มีแนวทางการสืบสวนที่ชัดเจนด้วย 238 00:14:24,780 --> 00:14:26,949 ตำรวจกำลังท้อแท้ต้องการความคืบหน้า 239 00:14:27,032 --> 00:14:28,742 พวกเขาจึงเผยแพร่จดหมายต่อสาธารณะ 240 00:14:29,577 --> 00:14:31,579 แล้วคนก็ทำสำเนาไปติดเป็นโปสเตอร์ 241 00:14:31,662 --> 00:14:34,123 แต่ก็เอาลงหนังสือพิมพ์ด้วย 242 00:14:35,124 --> 00:14:37,042 การเผยแพร่จดหมายกลายเป็นความผิดพลาด 243 00:14:37,126 --> 00:14:40,254 เพราะฉายานั้นถูกต้องจนน่าขนลุก 244 00:14:40,337 --> 00:14:42,840 แจ็คเดอะริปเปอร์ แล้วมันก็ติดหู 245 00:14:42,923 --> 00:14:46,135 แล้วนักต้มตุ๋นทั่วประเทศก็เริ่มคว้าปากกามาเขียน 246 00:14:46,218 --> 00:14:50,139 ตลอดทั้งเดือนตุลาคม ตำรวจได้รับจดหมายล้นหลาม 247 00:14:50,222 --> 00:14:52,057 หลายฉบับลงชื่อว่า "แจ็คเดอะริปเปอร์" 248 00:14:52,141 --> 00:14:56,186 แทบจะกลายเป็นงานอดิเรกระดับชาติ เขียนจดหมายลงชื่อว่า "แจ็คเดอะริปเปอร์" 249 00:14:56,770 --> 00:14:59,440 ต้องเปิดจดหมายทุกฉบับอ่าน ต้องประเมิน 250 00:14:59,523 --> 00:15:02,234 และถ้าเป็นไปได้ก็ต้องตามรอยผู้เขียนจดหมาย 251 00:15:02,318 --> 00:15:05,321 เป็นผลให้นักสืบที่หักโหมงานกันอยู่แล้ว 252 00:15:05,404 --> 00:15:07,489 ยิ่งเหนื่อยล้าขึ้นจนเกือบจะถึงจุดแตกหัก 253 00:15:09,408 --> 00:15:11,285 วันที่ 30 กันยายน 254 00:15:11,368 --> 00:15:14,663 ภายในไม่กี่วันหลังจากตำรวจ ได้รับจดหมาย "เจ้านายที่รัก" 255 00:15:14,747 --> 00:15:19,251 ฆาตกรลงมืออีกครั้งและก่อเหตุฆาตกรรมสองราย ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง 256 00:15:19,335 --> 00:15:22,671 คืนนั้นคือคืนที่เราเรียกตอนนี้ว่า "คืนฆาตกรรมคู่" 257 00:15:26,050 --> 00:15:28,928 ที่ตรงนี้เวลาตีหนึ่ง 258 00:15:29,011 --> 00:15:31,722 {\an8}ลูอิส ดีมชูตซ์ขี่รถเทียมม้าของเขาเข้าไปในลาน 259 00:15:31,805 --> 00:15:33,349 {\an8}ตรงข้างหลังผมนี่เลย 260 00:15:34,808 --> 00:15:36,477 {\an8}เขาเห็นศพของผู้หญิงคนหนึ่ง 261 00:15:36,560 --> 00:15:39,980 {\an8}เป็นศพของเอลิซาเบธ สไตรด์ เหยื่อรายที่สามของแจ็คเดอะริปเปอร์ 262 00:15:42,858 --> 00:15:44,777 {\an8}เอลิซาเบธเป็นชาวสวีเดน 263 00:15:44,860 --> 00:15:48,530 {\an8}เธอเคยทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่พักหนึ่ง และเป็นคนทำความสะอาด 264 00:15:48,614 --> 00:15:51,075 จากนั้นก็น่าเศร้าที่เธอหันมาทำงานขายบริการ 265 00:15:52,826 --> 00:15:55,204 เธอมาอังกฤษตอนอายุ 20 ต้นๆ 266 00:15:55,287 --> 00:15:57,164 ตอนแรกเธอมาอาศัยที่ 267 00:15:57,247 --> 00:16:01,418 ย่านบริคเลนในบ้านพักรวมแถวนี้ 268 00:16:01,502 --> 00:16:03,462 และภายในสิ้นเดือนกันยายน 269 00:16:03,545 --> 00:16:05,965 เธอหาเงินได้ไม่กี่ชิลลิง 270 00:16:06,048 --> 00:16:08,008 ด้วยการทำความสะอาดบ้านพักที่เธอพักอยู่ 271 00:16:08,092 --> 00:16:11,929 เธอเริ่มออกไปเที่ยวกลางคืน และใช้เงินที่เธอหามาได้ 272 00:16:16,392 --> 00:16:19,478 {\an8}ตอนที่พบศพ เธอมีผ้าพันคอพันรอบคอ 273 00:16:19,561 --> 00:16:23,857 ที่ด้านนึงถูกบิดและดึงปมแน่นมาก 274 00:16:23,941 --> 00:16:25,651 มีรอยกรีดเป็นรอยหยักขนาดใหญ่ 275 00:16:25,734 --> 00:16:28,570 ที่แทบจะเป็นแนวเดียวกับผ้าพันคอ 276 00:16:28,654 --> 00:16:32,408 ราวกับว่าผ้าพันคอนั้นใช้เป็นแนวกรีดให้ฆาตกร 277 00:16:32,491 --> 00:16:35,285 มีเลือดไหลนองจากคอ 278 00:16:35,369 --> 00:16:38,080 ลงไปในรางน้ำในมุมตรงข้าม 279 00:16:38,163 --> 00:16:41,792 เธอต่างจากเหยื่อรายอื่นที่มีแค่คอเธอที่ถูกกรีด 280 00:16:42,835 --> 00:16:44,712 ไม่มีการชำแหละศพ 281 00:16:45,838 --> 00:16:49,466 บางคนเชื่อว่า เหตุผลที่แจ็คเชือดคอเอลิซาเบธเท่านั้น 282 00:16:49,550 --> 00:16:53,345 เป็นเพราะเขาถูกขัดจังหวะ โดยลูกม้ากับรถเทียมม้าที่เข้ามาในลาน 283 00:16:53,846 --> 00:16:56,557 เพราะเขาไม่ทันได้ชำแหละศพจนสาแก่ใจ 284 00:16:56,640 --> 00:16:59,143 ฆาตกรจึงออกตามหาเหยื่อรายอื่น 285 00:17:02,980 --> 00:17:05,649 {\an8}สี่สิบห้านาทีต่อมาในลอนดอน 286 00:17:05,733 --> 00:17:08,652 {\an8}ศพของแคทเธอรีน เอ็ดโดวส์ ถูกพบในจัตุรัสไมเตอร์ 287 00:17:10,320 --> 00:17:14,950 {\an8}(แคทเธอรีน เอ็ดโดวส์ ถูกฆาตกรรม 30 กันยายน 1888 - อายุ 46) 288 00:17:15,034 --> 00:17:17,036 ที่ที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้ 289 00:17:17,119 --> 00:17:20,039 {\an8}เป็นจุดที่พบศพของเอ็ดโดวส์ 290 00:17:20,122 --> 00:17:21,957 {\an8}ในคืนฆาตกรรมคู่ 291 00:17:22,875 --> 00:17:24,918 แคทเธอรีนเกิดที่วุลเวอร์แฮมป์ตัน 292 00:17:25,002 --> 00:17:26,920 พอพ่อแม่ของเธอตาย 293 00:17:27,004 --> 00:17:29,673 เธอถูกส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า 294 00:17:29,757 --> 00:17:31,759 ในที่สุดเธอย้ายไปอยู่ลอนดอน 295 00:17:31,842 --> 00:17:34,303 รู้กันว่าเธอเป็นคนค้าบริการในตอนนั้น 296 00:17:34,386 --> 00:17:36,388 แต่อาจจะแค่เป็นครั้งคราว 297 00:17:36,472 --> 00:17:39,600 เธอถูกพบเมื่อเวลา 1.45 น. 298 00:17:39,683 --> 00:17:42,102 โดยพลตำรวจวัตกินส์ 299 00:17:42,186 --> 00:17:44,646 ที่เดินอ้อมมาข้างหลังแถวถนนไมเตอร์ 300 00:17:44,730 --> 00:17:46,440 เขาเข้ามาในจัตุรัส 301 00:17:46,523 --> 00:17:48,317 เขาค้นหา… เขากำลังออกลาดตระเวน 302 00:17:49,109 --> 00:17:51,445 {\an8}เขาส่องตะเกียงไปแล้วก็ช็อกมาก 303 00:17:51,528 --> 00:17:52,780 {\an8}เมื่อเจอศพอยู่ตรงนี้ 304 00:17:52,863 --> 00:17:54,990 {\an8}ก่อนหน้านั้น 15 นาทีเธอยังไม่อยู่ตรงนั้น 305 00:17:57,076 --> 00:18:01,705 {\an8}เธอถูกชำแหละมากที่สุด ในบรรดาเหยื่อทุกคนจนถึงตอนนั้น 306 00:18:01,789 --> 00:18:03,165 นี่เป็นการยกระดับ 307 00:18:03,248 --> 00:18:05,626 คอถูกเชือด เธอถูกคว้านออก 308 00:18:05,709 --> 00:18:08,462 แก้มและเปลือกตาของเธอถูกกรีดเป็นตัววี 309 00:18:08,545 --> 00:18:11,673 ติ่งหูส่วนหนึ่งถูกตัดออก ปลายจมูก 310 00:18:12,508 --> 00:18:15,761 และฆาตกรกรีดและควักมดลูกกับไตข้างซ้ายไป 311 00:18:17,554 --> 00:18:21,391 มีคนอาศัยอยู่ที่จัตุรัสแค่คนเดียว พลตำรวจริชาร์ด เพียร์ซ 312 00:18:21,475 --> 00:18:23,185 นอนหลับอยู่ตรงนั้นกับครอบครัวของเขา 313 00:18:23,268 --> 00:18:24,978 ตำรวจไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย 314 00:18:25,062 --> 00:18:28,565 และน่าทึ่งมากที่ยามกะกลางคืน ไม่ได้ยินและไม่เห็นอะไรเลย 315 00:18:28,649 --> 00:18:31,193 ราวกับมีผีฆ่าเธอที่นี่ 316 00:18:34,196 --> 00:18:35,322 {\an8}เมื่อแคทเธอรีนถูกพาตัวไป 317 00:18:35,405 --> 00:18:37,741 {\an8}ยังห้องเก็บศพลอนดอนและถอดเสื้อผ้าออก 318 00:18:37,825 --> 00:18:40,953 {\an8}พวกเขาสังเกตเห็นว่าผ้ากันเปื้อนที่เธอใส่อยู่ 319 00:18:41,036 --> 00:18:43,831 เปื้อนเลือดเต็มไปหมด ซึ่งก็เข้าใจได้ 320 00:18:43,914 --> 00:18:46,542 แต่มีส่วนหนึ่งที่หายไป ราวกับว่ามันถูกตัดออก 321 00:18:47,709 --> 00:18:49,878 หลังจากพบศพของแคทเธอรีน เอ็ดโดวส์ 322 00:18:49,962 --> 00:18:52,756 ตำรวจคนหนึ่งเดินไปตามถนนกูลสตัน 323 00:18:52,840 --> 00:18:57,177 เขาส่องตะเกียงไปที่ประตู ดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนอยู่ 324 00:18:57,261 --> 00:18:58,887 พยายามมองหาอาวุธ 325 00:18:58,971 --> 00:19:03,976 และเห็นเลือดตรงทางเข้า ของบ้านบนถนนกูลสตัน 326 00:19:04,059 --> 00:19:06,937 และในรอยเลือดนั่น เขาเห็นวัตถุชิ้นหนึ่ง 327 00:19:07,020 --> 00:19:10,566 ที่จริงแล้วมันคือส่วนหนึ่ง ของผ้ากันเปื้อนของแคทเธอรีน เอ็ดโดวส์ 328 00:19:10,649 --> 00:19:12,985 ที่ตัดออกจากศพของเธอที่จัตุรัสไมเตอร์ 329 00:19:14,027 --> 00:19:17,698 บางคนเชื่อว่าเหตุผลที่ผ้ากันเปื้อนถูกทิ้งไว้ตรงนั้น 330 00:19:17,781 --> 00:19:21,535 เป็นเพราะฆาตกรเช็ดมือและมีดของเขา 331 00:19:21,618 --> 00:19:24,663 แต่ทำไมถึงทิ้งไว้ตรงประตูนั้น ไม่มีใครรู้ 332 00:19:25,831 --> 00:19:27,875 สิ่งสำคัญของเลือดบนผ้ากันเปื้อนชิ้นนั้น 333 00:19:27,958 --> 00:19:31,003 มันอาจจะเป็นเลือดของแคทเธอรีน จากบาดแผลของเธอก็ได้ 334 00:19:31,086 --> 00:19:34,047 อาจเป็นเลือดของฆาตกร ที่บังเอิญทำมีดบาดตัวเอง 335 00:19:34,131 --> 00:19:35,549 ขณะทำการชำแหละก็ได้ 336 00:19:36,717 --> 00:19:39,803 {\an8}น่าเสียดายที่สมัยนั้นยังไม่มีหมู่เลือด 337 00:19:40,429 --> 00:19:41,972 {\an8}มันเลยไร้ประโยชน์ 338 00:19:44,141 --> 00:19:47,269 สิ่งหนึ่งที่จดหมายหลายฉบับ ของแจ็คเดอะริปเปอร์ข่มขู่ไว้ 339 00:19:47,352 --> 00:19:49,771 คือเขาจะส่งชิ้นส่วนร่างกายไปให้ตำรวจ 340 00:19:52,816 --> 00:19:55,277 สองสัปดาห์หลังคืนฆาตกรรมคู่ 341 00:19:55,360 --> 00:19:57,529 ตอนที่เอลิซาเบธกับแคทเธอรีนถูกฆ่า 342 00:19:57,613 --> 00:20:00,782 ชาวบ้านชื่อจอร์จ ลัสก์ได้รับจดหมาย 343 00:20:01,408 --> 00:20:04,328 เขานั่งลงที่โต๊ะอาหารวันที่ 16 ตุลาคม 344 00:20:04,411 --> 00:20:06,830 และมีพัสดุชิ้นเล็กๆ ส่งมาถึง พร้อมกับจดหมายช่วงเย็น 345 00:20:06,914 --> 00:20:10,292 เขาเปิดออกมา ข้างในคือจดหมายจากนรก 346 00:20:11,418 --> 00:20:15,255 และแนบมากับจดหมายฉบับนั้น คือไตมนุษย์ครึ่งนึง 347 00:20:17,216 --> 00:20:18,592 จอร์จ ลัสก์เป็นหัวหน้า 348 00:20:18,675 --> 00:20:21,970 {\an8}คณะกรรมการเฝ้าระวัง ของไวต์แชปเปิลไมล์เอนด์ 349 00:20:22,054 --> 00:20:24,932 พูดง่ายๆ คือ พวกเขาออกไปตอนกลางคืน ลาดตระเวนตามท้องถนน 350 00:20:25,015 --> 00:20:28,143 และคอยจับตาดูบุคคลที่น่าสงสัย 351 00:20:28,769 --> 00:20:31,897 จดหมายที่ส่งไปถึงบ้านคุณลัสก์เขียนว่า 352 00:20:31,980 --> 00:20:37,277 "คุณลัสก์ครับ ผมส่งไตให้คุณครึ่งนึง ที่ผมเอามาจากผู้หญิงคนนึง" 353 00:20:37,361 --> 00:20:39,112 "เก็บไว้ให้คุณ" 354 00:20:39,196 --> 00:20:42,950 "อีกชิ้นผมทอดกินไปแล้ว มันอร่อยมาก" 355 00:20:43,033 --> 00:20:45,911 "ผมอาจจะส่งมีดเปื้อนเลือด ที่ใช้ควักไตออกมาไปให้คุณ 356 00:20:45,994 --> 00:20:48,163 ถ้าคุณรออีกสักพัก" 357 00:20:48,247 --> 00:20:51,416 "ลงชื่อ จับผมให้ได้สิถ้าคุณแน่จริง คุณลัสก์" 358 00:20:53,669 --> 00:20:55,754 เขาบอกชัดเจนเลยว่าเขาเป็นมนุษย์กินคน 359 00:20:56,338 --> 00:20:59,925 และเขากินชิ้นส่วนไตของเหยื่อไปจริงๆ 360 00:21:00,467 --> 00:21:01,385 โหดร้ายมาก 361 00:21:03,220 --> 00:21:06,556 มีการโต้เถียงกันในกรมตำรวจ เรื่องจดหมายของลัสก์ 362 00:21:06,640 --> 00:21:09,851 ว่าเป็นไตของแคทเธอรีนจริงรึเปล่า 363 00:21:09,935 --> 00:21:13,105 แน่นอนว่าความเห็นทางการแพทย์ ในตอนนั้นเห็นต่างกัน 364 00:21:13,855 --> 00:21:15,399 แต่มันเป็นไตข้างที่ถูกต้อง 365 00:21:15,482 --> 00:21:19,611 เป็นไตข้างซ้าย และไตข้างซ้ายของแคทเธอรีนก็ถูกควักออกไป 366 00:21:20,237 --> 00:21:22,572 ถ้านั่นเป็นไตของแคทเธอรีนจริงๆ 367 00:21:22,656 --> 00:21:26,285 แปลว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นของจริง และมีโอกาส 50/50 368 00:21:26,368 --> 00:21:29,121 ส่วนตัวแล้ว ฉันเชื่อมั่นในจดหมายฉบับนั้นมาตลอด 369 00:21:29,204 --> 00:21:32,499 และเชื่อว่าจดหมายของลัสก์เป็นของจริง แม้ว่าคนอื่นจะเห็นต่างไป 370 00:21:32,582 --> 00:21:35,210 มีคนพูดว่ามันเป็นจดหมายของจริงฉบับเดียว 371 00:21:35,294 --> 00:21:36,586 ที่ส่งมาจากฆาตกร 372 00:21:36,670 --> 00:21:38,255 ส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าไม่ใช่ 373 00:21:38,338 --> 00:21:41,341 ผมคิดว่าน่าจะเป็นการเล่นตลกของนักศึกษาแพทย์ 374 00:21:41,425 --> 00:21:45,512 เป็นเรื่องปกติ ที่นักศึกษาแพทย์จะหาอวัยวะมนุษย์มาได้ 375 00:21:46,013 --> 00:21:49,683 ประเด็นคือทุกคนติด เรื่องสยองแจ็คเดอะริปเปอร์นี่งอมแงม 376 00:21:49,766 --> 00:21:52,561 มันเกือบจะกลายเป็นความหมกมุ่น 377 00:21:52,644 --> 00:21:55,439 ผู้คนพูดว่า "ฉันต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง ฉันอยากมีส่วนร่วม" 378 00:21:59,860 --> 00:22:02,029 ในเดือนตุลาคม ปี 1888 379 00:22:02,821 --> 00:22:05,198 ตำรวจจัดการค้นทีละบ้าน 380 00:22:05,282 --> 00:22:06,825 ทั่วทั้งไวต์แชปเปิล 381 00:22:06,908 --> 00:22:09,411 มีการค้นบ้านหลายร้อยหลัง 382 00:22:09,494 --> 00:22:12,539 ผู้คนถูกสอบสวนนับพันคน 383 00:22:12,622 --> 00:22:17,002 แต่พวกเขาไม่ได้เบาะแสมากเท่าไหร่เลย 384 00:22:18,920 --> 00:22:23,550 สิ่งสำคัญที่ควรจำไว้คือ ในปี 1888 ตำรวจถูกจำกัด 385 00:22:23,633 --> 00:22:26,511 ด้วยจำนวนเครื่องมือสืบสวนที่มี 386 00:22:27,596 --> 00:22:29,639 พวกเขาไม่มีอะไรง่ายๆ อย่างรอยนิ้วมือ 387 00:22:29,723 --> 00:22:32,476 และแน่นอนว่าไม่มีกล้องวงจรปิด 388 00:22:32,559 --> 00:22:36,688 ที่จะช่วยให้จับตาดูพื้นที่ต่างๆ ได้ 389 00:22:38,565 --> 00:22:42,277 ดังนั้นการสืบสวนของตำรวจ ขึ้นอยู่กับการตรวจค้นพื้นที่นั้นๆ 390 00:22:42,361 --> 00:22:45,364 อาจมีรอยเท้าที่นำไปใช้ได้ไหม 391 00:22:45,447 --> 00:22:50,118 แต่วิธีสืบสวนอาชญากรรมแบบดั้งเดิม ใช้ไม่ได้ผลเลย 392 00:22:51,745 --> 00:22:54,873 เรามีพยานที่พูดว่า "อ๋อ ฉันเห็นนี่เห็นนั่น" 393 00:22:54,956 --> 00:22:58,085 แต่เราไม่รู้ว่าพวกเขาเห็นฆาตกรจริงๆ รึเปล่า 394 00:22:58,960 --> 00:23:02,297 หลายคนบอกว่าเขาสูง ประมาณ 170-75 ซม. 395 00:23:02,381 --> 00:23:06,134 แต่ก็นั่นแหละ นั่นคงเป็น ความสูงเฉลี่ยของผู้ชายในสมัยนั้น 396 00:23:07,803 --> 00:23:11,598 อายุหลากหลายจาก 20 กว่าถึง 40 กว่า เสื้อผ้าก็ต่างกัน 397 00:23:12,307 --> 00:23:15,477 ปัญหาของการระบุตัวตนจากพยานในตอนนั้น 398 00:23:15,560 --> 00:23:17,145 คือไม่ค่อยมีแสงสว่างมากนัก 399 00:23:17,229 --> 00:23:20,690 ตอนนั้นเป็นเวลาตีสองตีสามและมืดมาก เรามีแสงจำกัด 400 00:23:20,774 --> 00:23:22,317 เราสังเกตสิ่งต่างๆ ได้ดีแค่ไหน 401 00:23:22,401 --> 00:23:26,530 บ่อยครั้งที่พยานอาจบังเอิญเข้าใจผิดได้ ตอนบอกรูปพรรณสัณฐาน 402 00:23:27,364 --> 00:23:31,326 โชคไม่ดีที่ไม่มีใครรู้ว่า แจ็คเดอะริปเปอร์หน้าตาเป็นยังไง 403 00:23:35,330 --> 00:23:38,125 ถึงจุดนี้ ตำรวจตระเวนทั่ว ย่านอีสต์เอนด์ในลอนดอน 404 00:23:38,208 --> 00:23:39,793 เพื่อค้นหาตัวฆาตกร 405 00:23:41,044 --> 00:23:42,671 และยังมีสถานการณ์ที่น่าสนใจ 406 00:23:42,754 --> 00:23:44,840 ที่มีคนมากมายปลอมตัว 407 00:23:44,923 --> 00:23:46,508 เพื่อพยายามจับเดอะริปเปอร์ด้วย 408 00:23:47,008 --> 00:23:49,261 เรารู้ว่ามีนักศึกษาแพทย์สามคนถูกใช้เป็นเหยื่อล่อ 409 00:23:49,344 --> 00:23:51,471 เพื่อลวงให้ฆาตกรออกมา 410 00:23:52,305 --> 00:23:55,767 ผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิง เดินไปทั่วอีสต์เอนด์ 411 00:23:55,851 --> 00:23:58,103 หวังว่าจะโดนแจ็คเดอะริปเปอร์ทำร้าย 412 00:23:58,186 --> 00:23:59,938 จะได้จับกุมเขา 413 00:24:00,647 --> 00:24:02,983 ผู้หญิงเริ่มพกอาวุธติดตัว 414 00:24:03,066 --> 00:24:07,696 {\an8}เราจึงมีรูปพวกผู้หญิงถือมีด ปืน กรรไกร 415 00:24:08,280 --> 00:24:10,907 เพราะพวกเธอรู้ว่าต้องออกไปเดินตามถนน 416 00:24:10,991 --> 00:24:14,077 พวกเธอไม่มีที่อื่นให้ไป ต้องหาเงินมาเช่าที่ซุกหัวนอน 417 00:24:14,161 --> 00:24:16,204 แต่ช่างเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายจริงๆ 418 00:24:16,288 --> 00:24:19,541 เมื่อคิดว่าลูกค้าคนต่อไปอาจจะเป็นคนสุดท้ายก็ได้ 419 00:24:26,089 --> 00:24:28,758 ทั้งเดือนตุลาคมผ่านไปโดยไม่เกิดเหตุฆาตกรรม 420 00:24:29,468 --> 00:24:33,305 ส่วนใหญ่เพราะมีตำรวจพลุกพล่าน ในพื้นที่นั้นมากขึ้น 421 00:24:33,805 --> 00:24:38,185 จึงไม่เกิดอะไรขึ้นจนเกิดเหตุฆาตกรรมครั้งต่อไป วันที่ 9 พฤศจิกายน 422 00:24:38,852 --> 00:24:41,438 และมันเลวร้ายที่สุดในบรรดาเหตุที่เกิดขึ้น 423 00:24:46,193 --> 00:24:48,570 แมรี่ เจน เคลลี่อยู่ในวัย 20 กว่า 424 00:24:48,653 --> 00:24:50,780 เธออายุน้อยที่สุดในบรรดาเหยื่อทุกคน 425 00:24:52,365 --> 00:24:54,284 และเช่นเดียวกับเหยื่อรายอื่นๆ 426 00:24:54,367 --> 00:24:58,914 เธอต้องหาเงิน จึงทำงานเป็นหญิงขายบริการ 427 00:25:00,165 --> 00:25:02,959 เธอมีห้องของตัวเองในไวต์แชปเปิล 428 00:25:05,212 --> 00:25:10,717 ผู้ชายชื่อโทมัส โบว์เยอร์ไปเก็บค่าเช่า จากแมรี่ เจน เคลลี่ 429 00:25:10,800 --> 00:25:13,303 เขามาเคาะประตู ไม่มีใครตอบ 430 00:25:13,386 --> 00:25:15,931 เขาจึงเดินอ้อมไปทางหน้าต่างด้านข้างที่แตกอยู่ 431 00:25:16,014 --> 00:25:19,893 เขาเปิดม่านออกแล้วก็เห็นภาพที่สยดสยอง 432 00:25:19,976 --> 00:25:21,561 น่าตกใจที่สุด 433 00:25:23,438 --> 00:25:25,565 การมีโอกาสในห้องที่ล็อกอยู่นั้น 434 00:25:25,649 --> 00:25:28,026 ฆาตกรจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ 435 00:25:28,860 --> 00:25:31,154 ศพของแมรี่ เคลลี่ถูกชำแหละจนไม่เหลืออะไร 436 00:25:31,238 --> 00:25:34,533 หน้าของเธอถูกตัดออก หน้าอกก็ถูกตัดออกไป 437 00:25:34,616 --> 00:25:37,744 เธอนอนอยู่บนเตียง อวัยวะภายในกระจายไปทั่ว 438 00:25:39,746 --> 00:25:40,914 เธอถูกฆ่าตายในบ้าน 439 00:25:40,997 --> 00:25:45,085 {\an8}เธอเป็นคนเดียวที่โดนฆ่าในบ้าน 440 00:25:46,545 --> 00:25:48,922 {\an8}ตำรวจถ่ายรูปศพที่นอนอยู่บนเตียง 441 00:25:49,005 --> 00:25:51,967 มันเป็นภาพถ่ายที่เกิดเหตุภาพแรกๆ ที่เรามี 442 00:25:52,050 --> 00:25:55,887 คิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่านั่นเป็นมนุษย์ มันสยดสยองมาก 443 00:25:57,222 --> 00:25:59,849 เขาตัดเนื้อไปสามชิ้น 444 00:25:59,933 --> 00:26:01,893 วางไว้บนโต๊ะข้างเตียง 445 00:26:01,977 --> 00:26:06,565 เขาตัดและคว้านหลายส่วนของช่องท้องเธอออก 446 00:26:06,648 --> 00:26:08,316 วางไว้รอบๆ ตัวเธอ 447 00:26:08,400 --> 00:26:12,404 และถ้านั่นยังไม่พอ เขากรีดเนื้อจากต้นขาเธอ 448 00:26:13,697 --> 00:26:15,282 จนเห็นกระดูกต้นขา 449 00:26:16,408 --> 00:26:18,868 แล้วก็ควักหัวใจเธอออกไป 450 00:26:19,995 --> 00:26:23,331 แต่น่าเศร้าที่ไม่เคยมีใครพบหัวใจ ของแมรี่ เจน เคลลี่ 451 00:26:24,374 --> 00:26:26,876 {\an8}(พอลลี่ นิโคลส์ เหยื่อรายแรก แอนนี่ แชปแมน เหยื่อรายที่สอง) 452 00:26:27,210 --> 00:26:31,256 {\an8}ศัลยแพทย์ประจำกรมตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด นพ.โทมัส บอนด์ 453 00:26:31,339 --> 00:26:34,676 {\an8}เขาชันสูตรศพแมรี่ เคลลี่ขณะที่เธอนอนอยู่ในห้อง 454 00:26:36,177 --> 00:26:39,097 พวกเขาบอกว่าดูเหมือนแมรี่ 455 00:26:39,180 --> 00:26:42,017 อาจจะหลับอยู่ตอนที่เธอถูกทำร้าย 456 00:26:42,601 --> 00:26:47,105 {\an8}เซอร์โรเบิร์ต แอนเดอร์สัน ผู้ช่วยผู้บัญชาการ ของสกอตแลนด์ยาร์ดในตอนนั้น 457 00:26:47,188 --> 00:26:51,026 {\an8}ขอความเห็นจากนพ.โทมัส บอนด์ เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมทั้งห้า 458 00:26:51,526 --> 00:26:53,778 {\an8}แอนเดอร์สันส่งรายงานการไต่สวนให้เขา 459 00:26:53,862 --> 00:26:56,698 เรื่องการตายของแมรี่ นิโคลส์ แอนนี่ แชปแมน 460 00:26:56,781 --> 00:26:59,159 เอลิซาเบธ สไตรด์ และแคทเธอรีน เอ็ดโดวส์ 461 00:26:59,242 --> 00:27:02,454 นพ.บอนด์นั้นเป็นที่รู้จักกันว่าให้คำปรึกษา 462 00:27:02,537 --> 00:27:06,291 เรื่องคดีที่ฉาวโฉ่บางคดี ในช่วงยุค 1870 และ 1880 463 00:27:06,374 --> 00:27:08,418 ทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ที่ลอนดอน 464 00:27:08,501 --> 00:27:11,963 หลังจากทำงานให้สกอตแลนด์ยาร์ดหลายปี 465 00:27:13,048 --> 00:27:16,217 เขาเริ่มสนใจเรื่องจิตใจของฆาตกร 466 00:27:16,301 --> 00:27:19,846 เขาพยายามทำความเข้าใจว่า การฆาตกรรมเกิดขึ้นได้อย่างไร 467 00:27:19,929 --> 00:27:22,724 ไม่ใช่แค่ด้านร่างกาย ด้านการแพทย์ 468 00:27:24,309 --> 00:27:26,186 นพ.โทมัส บอนด์ทำ 469 00:27:26,269 --> 00:27:29,105 สิ่งที่น่าจะเป็นการพยายามทำสารบบ พฤติกรรมฆาตกรต่อเนื่องเป็นครั้งแรก 470 00:27:29,981 --> 00:27:35,070 และในวันที่ 10 พฤศจิกายน เขาส่งรายงานไปที่สกอตแลนด์ยาร์ด 471 00:27:35,153 --> 00:27:39,908 ซึ่งมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อความคิด ที่เรามีต่อเดอะริปเปอร์ในวันนี้ 472 00:27:41,368 --> 00:27:44,120 บอนด์พูดถึงความคล้ายคลึงกัน ของการฆาตกรรมแต่ละครั้ง 473 00:27:44,621 --> 00:27:48,041 เขาบอกว่ามันน่าจะเป็น การทำร้ายแบบไม่ให้ตั้งตัว 474 00:27:48,124 --> 00:27:50,043 พวกเธอคงคาดไม่ถึง 475 00:27:50,126 --> 00:27:52,712 หลักฐานบ่งชี้ว่าด้วยเหตุผลบางอย่าง 476 00:27:52,796 --> 00:27:57,342 เขาใช้กำลังเอาชนะเหยื่อได้รวดเร็ว และทำให้พวกเธอหมดสติไป 477 00:27:59,678 --> 00:28:02,972 ความคิดที่ว่าเหยื่อถูกฆ่าขณะที่พวกเขานอนอยู่ 478 00:28:03,056 --> 00:28:05,892 เป็นข้อสรุปที่นพ.บอนด์เขียนในรายงานของเขา 479 00:28:05,975 --> 00:28:08,895 มันน่าเชื่อถือมากเพราะมีรอยนิ้วโป้ง 480 00:28:08,978 --> 00:28:11,648 และรอยนิ้วมือที่คอของเหยื่อ 481 00:28:11,731 --> 00:28:15,819 ซึ่งบ่งชี้ว่าพวกเธอถูกรัดคอจนหมดสิ 482 00:28:15,902 --> 00:28:18,947 วางลงบนพื้นแล้วถูกเฉือนคอ 483 00:28:21,324 --> 00:28:23,952 และถูกชำแหละหลังจากตายแล้ว 484 00:28:30,959 --> 00:28:33,169 แน่นอนว่าในช่วงยุค 1880 485 00:28:33,253 --> 00:28:37,090 ยังไม่มีความคิดเรื่องฆาตกรต่อเนื่อง อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน 486 00:28:37,966 --> 00:28:40,677 จนถึงยุค 1970 487 00:28:40,760 --> 00:28:45,974 ถึงเรียกได้ว่ามีการสร้างคำ "ฆาตกรต่อเนื่อง" ขึ้นมา 488 00:28:46,057 --> 00:28:51,271 แต่ในปี 1888 ประชาชนทั่วไปไม่เชื่อเลย 489 00:28:51,354 --> 00:28:54,691 ว่ามีใครออกไปฆ่าคนโดยไม่มี 490 00:28:54,774 --> 00:28:57,068 สิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นแรงจูงใจ 491 00:28:57,736 --> 00:29:03,908 สื่อและประชาชนจึงคิดหาผู้ต้องสงสัย อย่างหมอโรคจิต 492 00:29:04,868 --> 00:29:06,411 หมอตำแย 493 00:29:07,036 --> 00:29:08,163 คนขายเนื้อ 494 00:29:08,955 --> 00:29:13,460 เพราะพวกเขามีทักษะหลากหลาย เหมือนแจ็คเดอะริปเปอร์ 495 00:29:14,586 --> 00:29:16,671 คนขายเนื้อมีความรู้ทางกายวิภาค 496 00:29:16,755 --> 00:29:19,007 {\an8}แต่อาจจะไม่มีฝีมือด้านการผ่าตัด 497 00:29:19,549 --> 00:29:21,509 {\an8}แน่นอนว่าหมอต้องมีทั้งสองอย่าง 498 00:29:22,969 --> 00:29:27,557 แต่สมัยนั้น หมอมีความเห็นต่างกัน 499 00:29:27,640 --> 00:29:33,062 ว่าฆาตกรมีทักษะด้านการผ่าตัด และความรู้ทางกายวิภาคหรือไม่ 500 00:29:33,146 --> 00:29:37,484 แน่นอนว่าดูเหมือนเขามีความรู้ 501 00:29:37,567 --> 00:29:40,278 ว่าอวัยวะต่างๆ อยู่ตรงไหนในร่างกายมนุษย์ 502 00:29:40,361 --> 00:29:43,573 เพื่อผ่าเอาอวัยวะต่างๆ ออกมาได้ 503 00:29:44,908 --> 00:29:47,786 ในบางครั้ง เขาคงต้องผ่าตัด 504 00:29:47,869 --> 00:29:50,997 ท่ามกลางความมืดมากหรืออาจจะมืดสนิท 505 00:29:52,040 --> 00:29:57,712 ผมว่าเขาต้องมีความรู้และทักษะระดับหนึ่ง 506 00:29:57,796 --> 00:29:59,380 ถึงจะทำอย่างนั้นได้ 507 00:30:02,759 --> 00:30:06,721 เรารู้ว่าการฆาตกรรมนั้น ไม่ได้ทำไปเพื่อปล้นทรัพย์ 508 00:30:06,805 --> 00:30:08,389 ไม่ได้ทำเพื่อแก้แค้น 509 00:30:08,473 --> 00:30:10,099 ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน 510 00:30:10,183 --> 00:30:12,185 หรือความหึงหวง ไม่ใช่เพราะผู้ก่อเหตุเมามาย 511 00:30:12,268 --> 00:30:17,232 แต่ทำเพื่อความสะใจที่ได้ชำแหละล้วนๆ 512 00:30:18,942 --> 00:30:22,362 {\an8}การชำแหละยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเกิดฆาตกรรมมากขึ้น 513 00:30:22,445 --> 00:30:25,698 {\an8}เพราะการชำแหละที่เบากว่านั้นยังไม่เพียงพอ 514 00:30:25,782 --> 00:30:28,451 {\an8}ที่จะมอบความตื่นเต้นที่เขาต้องการได้ 515 00:30:29,202 --> 00:30:31,996 มันเกิดขึ้นเพื่อความตื่นเต้นทางเพศล้วนๆ 516 00:30:34,499 --> 00:30:39,045 แรงจูงใจนั้นหรือมุมมองทางจิตใจของผู้ก่อเหตุ 517 00:30:39,128 --> 00:30:41,089 ไม่เคยมีใครพิจารณามาก่อน 518 00:30:43,591 --> 00:30:46,302 บอนด์แสดงความคิดเห็นไว้ในรายงานด้วย 519 00:30:46,386 --> 00:30:49,472 ("บางครั้งสติไม่ค่อยปกติ") 520 00:30:50,306 --> 00:30:54,853 เขาเป็นคนเงียบๆ เป็นที่เคารพนับถือ น่าจะแต่งตัวสุภาพ 521 00:30:54,936 --> 00:30:57,188 เขาพูดถึงที่พักอาศัยของฆาตกรด้วย 522 00:30:57,272 --> 00:30:59,816 ว่าเขาอาจจะมีห้อง 523 00:30:59,899 --> 00:31:02,944 อย่างน้อยก็ห้องที่เอาไว้ปลีกตัว ทำความสะอาดร่างกายได้ 524 00:31:03,528 --> 00:31:04,946 เขาพูดถึงรายได้ของฆาตกรด้วย 525 00:31:05,029 --> 00:31:08,283 ว่าเขาอาจมีเงินบำนาญหรือรายได้ส่วนตัว 526 00:31:08,366 --> 00:31:10,493 เขาบอกว่าฆาตกรอาศัยอยู่กับครอบครัว 527 00:31:10,577 --> 00:31:12,287 ครอบครัวอาจกำลังปกป้องเขาอยู่ 528 00:31:13,580 --> 00:31:17,417 สมัยนั้นหลายคนคิดว่า แจ็คเดอะริปเปอร์อาจเป็นคนวิกลจริต 529 00:31:17,500 --> 00:31:19,711 อาจจะเดินไปมาตามท้องถนน 530 00:31:19,794 --> 00:31:23,423 น้ำลายฟูมปาก หน้าตาดูชั่วร้ายอย่างเห็นได้ชัด 531 00:31:23,506 --> 00:31:24,549 และดูไม่ดีเลย 532 00:31:24,632 --> 00:31:27,135 แน่นอนว่าหญิงขายบริการไหวพริบดี 533 00:31:27,218 --> 00:31:29,637 พวกเธอคงไม่เข้าหาคนที่ดูเป็นอย่างนั้นหรอก 534 00:31:33,683 --> 00:31:37,729 ผมคิดว่าความคิดว่า แจ็คเดอะริปเปอร์เป็นคนร้ายนิรนาม 535 00:31:37,812 --> 00:31:41,232 ใส่หมวกทรงสูงเดินไปมา ตามท้องถนนที่รกร้างยามเช้าตรู่ 536 00:31:41,316 --> 00:31:42,609 ถือกระเป๋าสีดำของเขา 537 00:31:42,692 --> 00:31:45,737 เป็นภาพที่อยู่กับเรามากว่า 100 ปีแล้ว 538 00:31:47,572 --> 00:31:49,741 เมื่อดูหนังเงียบในยุคแรกๆ 539 00:31:49,824 --> 00:31:52,911 ที่มีผู้หญิงตกอยู่ในอันตราย ถูกมัดอยู่กับทางรถไฟ 540 00:31:52,994 --> 00:31:56,372 คนร้ายจะสวมหมวกทรงสูง เสื้อคลุมสีดำเสมอ 541 00:31:56,456 --> 00:31:57,790 ปกติจะไว้หนวดสวยๆ ด้วย 542 00:31:57,874 --> 00:32:01,002 ตรงกับภาพเมื่อคิดถึง แจ็คเดอะริปเปอร์ทุกวันนี้เลย 543 00:32:01,085 --> 00:32:05,214 และเขาก็เข้ากับลักษณะ ของคนร้ายที่กระทำชั่วมาก 544 00:32:10,178 --> 00:32:11,888 ส่วนกระเป๋าสีดำ 545 00:32:12,430 --> 00:32:17,810 มาจากชายที่ถูกพบเห็นอยู่ใกล้กับ การฆาตกรรมเอลิซาเบธ สไตรด์ 546 00:32:18,770 --> 00:32:20,897 เขาถือกระเป๋าสีดำอยู่ 547 00:32:20,980 --> 00:32:24,484 แต่ที่จริงเขาไปทำธุระที่ไหนสักแห่ง และจะกำลังกลับบ้าน 548 00:32:24,567 --> 00:32:27,278 เขามีหลักฐานยืนยันที่อยู่แน่นหนา และไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย 549 00:32:27,362 --> 00:32:29,072 แต่กระเป๋าดำนั้นติดตาไปแล้ว 550 00:32:30,990 --> 00:32:33,826 แจ็คเดอะริปเปอร์ใส่หมวกทรงสูง ถือกระเป๋าแกลดสโตน 551 00:32:33,910 --> 00:32:35,453 และสวมเสื้อคลุม 552 00:32:36,371 --> 00:32:38,957 ผมว่าเขาน่าจะดูผิดที่ผิดทางมาก 553 00:32:39,040 --> 00:32:41,542 ในย่านอีสต์เอนด์ของลอนดอนในตอนนั้น 554 00:32:42,126 --> 00:32:45,338 แจ็คเดอะริปเปอร์ตัวจริงต้องเดินไปตามถนนได้ 555 00:32:45,421 --> 00:32:48,091 โดยไม่สะดุดตาเป็นที่สังเกต 556 00:32:50,468 --> 00:32:53,554 อีกอย่างนึงคือสมัยนั้น ย่านนั้นมีโรงฆ่าสัตว์มากมาย 557 00:32:53,638 --> 00:32:57,350 เป็นเรื่องธรรมดา ที่จะเห็นผู้คนใส่เสื้อผ้าเปื้อนเลือด 558 00:32:57,433 --> 00:33:00,144 เดินไปมาในช่วงเช้าตรู่ 559 00:33:03,189 --> 00:33:06,734 หลังจากเหตุฆาตกรรมแมรี่ เคลลี่ มีเรื่องไม่ปกติเกิดขึ้น 560 00:33:06,818 --> 00:33:11,030 เวลาผ่านไปสักพัก ฆาตกรรมก็หยุดลง 561 00:33:13,116 --> 00:33:15,535 แล้วฆาตกรหยุดทำไมล่ะ 562 00:33:18,204 --> 00:33:22,917 เขาสนองความกระหายเลือดของตัวเอง จากการชำแหละแมรี่อย่างสยดสยองแล้วเหรอ 563 00:33:23,960 --> 00:33:26,379 ถ้าการฆาตกรรมจบลงแล้ว ต้องเกิดอะไรขึ้นกับฆาตกร 564 00:33:26,462 --> 00:33:27,922 เขาตายไปแล้วรึเปล่า 565 00:33:28,423 --> 00:33:31,134 เขาอาจออกนอกประเทศไปแล้ว อาจจะไปเที่ยวพักผ่อน 566 00:33:31,217 --> 00:33:32,969 อาจจะถูกขังคุกสำหรับคดีอื่น 567 00:33:33,052 --> 00:33:37,015 บางคนก็คาดคะเนว่าเขาอาจจะป่วยหนัก 568 00:33:38,683 --> 00:33:41,853 บางคนก็คิดว่าเขาอาจจะเป็นกะลาสี 569 00:33:42,812 --> 00:33:46,399 ลงมือฆ่าแล้วหายตัวไปกับเรือที่ออกทะเลไป 570 00:33:47,483 --> 00:33:51,404 แทบจะเป็นวิธีก่อคดีฆาตกรรมที่สมบูรณ์แบบ 571 00:33:52,363 --> 00:33:54,866 และแน่นอนว่ามีทฤษฎีโรงพยาบาลจิตเวช 572 00:33:55,366 --> 00:33:59,245 เหตุฆาตกรรมจบลง เพราะฆาตกรเข้าโรงพยาบาลจิตเวช 573 00:34:03,791 --> 00:34:08,337 ช่วงแรกๆ ของการสืบสวน ตำรวจมีผู้ต้องสงสัยจำนวนมาก 574 00:34:08,421 --> 00:34:13,593 ตำรวจลากตัวคนไปสอบปากคำคนแล้วคนเล่า ราวกับใส่สายพานมาเลย 575 00:34:14,635 --> 00:34:19,098 {\an8}ทุกคนที่อาจจะถูกเรียกตัวได้ ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย 576 00:34:19,182 --> 00:34:22,518 หรือดูเหมือนคนที่มีพยานเห็น 577 00:34:22,602 --> 00:34:24,228 ตำรวจก็ต้องตามสืบพวกเขา 578 00:34:26,022 --> 00:34:27,690 และเมื่อผ่านไปหลายปี 579 00:34:27,774 --> 00:34:30,401 แน่นอนว่ามีคนมากมาย 580 00:34:30,485 --> 00:34:33,488 ที่ค้นคว้าด้วยตัวเอง และรวบรวมรายชื่อผู้ต้องสงสัยเอง 581 00:34:33,571 --> 00:34:36,991 และมีผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่งที่ควรพิจารณาจริงจัง 582 00:34:37,950 --> 00:34:41,662 {\an8}ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งในแฟ้มคดีของตำรวจ คือมอนทากิว จอห์น ดรูอิตต์ 583 00:34:43,790 --> 00:34:46,334 ดรูอิตต์เป็นทนายในเซาท์ลอนดอน 584 00:34:47,418 --> 00:34:49,212 แต่เขาก็เป็นครูด้วย 585 00:34:51,714 --> 00:34:54,342 ประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 1888 เขาถูกไล่ออก 586 00:34:57,637 --> 00:35:02,433 พบศพของเขาลอยอยู่ในแม่น้ำเทมส์ วันสุดท้ายของปี 1888 587 00:35:04,352 --> 00:35:05,728 เมื่อการฆาตกรรมหยุดลง 588 00:35:05,812 --> 00:35:08,648 สิ่งหนึ่งที่ตำรวจคิดคือเขาฆ่าตัวตาย 589 00:35:08,731 --> 00:35:11,818 ตำรวจจึงสืบสวนการฆ่าตัวตายทั้งหมดที่เกิดขึ้น 590 00:35:11,901 --> 00:35:13,736 หลังเหตุฆาตกรรมแมรี่ 591 00:35:14,362 --> 00:35:17,865 การฆ่าตัวตายครั้งนึงที่เปิดเผยออกมา คือคดีของมอนทากิว จอห์น ดรูอิตต์ 592 00:35:18,991 --> 00:35:20,493 จากรายงานของตำรวจ 593 00:35:20,576 --> 00:35:23,371 ครอบครัวของเขาเองก็คิดว่าเขาเป็นฆาตกร 594 00:35:24,330 --> 00:35:29,043 พี่ชายเขาให้การว่า สภาพจิตใจเขาไม่ปกติมาสักพักแล้ว 595 00:35:29,127 --> 00:35:31,587 พี่ชายเขาเจอจดหมายที่เขียนว่า เขารู้สึกว่าจะเป็นบ้า 596 00:35:31,671 --> 00:35:33,089 เขาควรตายซะดีกว่า 597 00:35:35,007 --> 00:35:39,512 แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่บ่งชี้ว่า ดรูอิตต์เคยไปย่านไวต์แชปเปิล 598 00:35:39,595 --> 00:35:43,141 ยิ่งเป็นไปได้ยากว่ามีคนเห็นเขา อยู่กับผู้หญิงเหล่านั้นในคืนเกิดเหตุ 599 00:35:43,224 --> 00:35:47,979 ประเด็นหลักอยู่ที่เขาถูกพบว่า จมน้ำอยู่ในแม่น้ำเทมส์ 600 00:35:48,062 --> 00:35:50,439 ตอนสิ้นปีนั้น 601 00:35:56,696 --> 00:36:00,241 {\an8}นพ.ฟรานซิส ทัมเบิลที เป็นผู้ต้องสงสัยที่น่าสนใจที่สุดคนนึง 602 00:36:01,117 --> 00:36:04,745 {\an8}เขาเป็นผู้ต้องสงสัยคนเดียว ที่ถูกจับในข้อหาฆาตกรรม 603 00:36:04,829 --> 00:36:06,914 {\an8}ก่อนเหตุฆาตกรรมแมรี่ เคลลี่ 604 00:36:06,998 --> 00:36:09,709 เขาเป็นคนอเมริกัน แล้วได้รับการประกันตัว 605 00:36:09,792 --> 00:36:13,212 เขาหนีการประกันตัวแล้วกลับไปอเมริกา 606 00:36:13,296 --> 00:36:16,924 ตอนที่เขาอยู่นิวยอร์ก ทัมเบิลทีเริ่มให้สัมภาษณ์ว่า 607 00:36:17,008 --> 00:36:20,303 "ผมถูกจับเพราะต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกร" 608 00:36:21,179 --> 00:36:24,098 ทัมเบิลทีบอกว่า "ผมแค่ทำเหมือนที่ใครๆ ก็ทำ" 609 00:36:24,182 --> 00:36:27,810 "ผมสนใจคดีนี้ เลยไปดูย่านที่เกิดเหตุ" 610 00:36:28,311 --> 00:36:30,771 {\an8}แล้วเขาก็ดันโดนจับ 611 00:36:30,855 --> 00:36:33,858 ในฐานะผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ คดีฆาตกรรมแจ็คเดอะริปเปอร์ 612 00:36:34,483 --> 00:36:37,737 แต่แน่นอน ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า เขาเป็นฆาตกรเลย 613 00:36:40,990 --> 00:36:43,784 ผู้ต้องสงสัยคนสุดท้าย หลังจากทัมเบิลทีกับดรูอิตต์ 614 00:36:43,868 --> 00:36:45,870 มีแค่ชื่อว่าคอสมินสกี 615 00:36:47,955 --> 00:36:52,835 ดูเหมือนชื่อคอสมินสกีมาจากแฟ้มของตำรวจ 616 00:36:53,461 --> 00:36:58,257 ที่บรรยายว่าเขาเป็นคนโปแลนด์เชื้อสายยิว ที่ถูกจับส่งโรงพยาบาลจิตเวช 617 00:36:59,258 --> 00:37:01,135 เราไม่รู้ว่าคอสมินสกีคือใคร 618 00:37:01,219 --> 00:37:05,973 แต่มีการตรวจค้นที่ดูเหมือน 619 00:37:06,057 --> 00:37:09,268 เป็นการตรวจค้นบันทึก ของโรงพยาบาลที่ค่อนข้างละเอียด 620 00:37:09,352 --> 00:37:10,895 เพื่อตามหาคอสมินสกี 621 00:37:11,812 --> 00:37:17,109 และคนเดียวที่ค้นเจอคือ ผู้ชายชื่อว่าแอรอน คอสมินสกี 622 00:37:18,236 --> 00:37:20,947 แอรอน คอสมินสกีเคยอยู่ที่ไวต์แชปเปิล 623 00:37:21,030 --> 00:37:23,366 เขาเป็นชายหนุ่มชาวโปแลนด์เชื้อสายยิว 624 00:37:24,617 --> 00:37:28,162 แต่เขาไม่ได้เข้าโรงพยาบาลจนปี 1891 625 00:37:28,246 --> 00:37:31,666 เขายังเดินเร่ร่อนอยู่แถวไวต์แชปเปิล สามปีหลังจากแมรี่ เคลลี่ถูกฆ่า 626 00:37:31,749 --> 00:37:34,835 มันเลยไม่สอดคล้องกับความคิด 627 00:37:34,919 --> 00:37:38,923 ที่ว่าผู้ต้องสงสัยถูกจับตัวไปไม่นาน หลังการฆาตกรรมครั้งล่าสุด 628 00:37:40,591 --> 00:37:41,801 {\an8}เซอร์โรเบิร์ต แอนเดอร์สัน 629 00:37:41,884 --> 00:37:44,512 {\an8}และสารวัตรโดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์ สวอนสัน 630 00:37:44,595 --> 00:37:46,806 {\an8}เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดสองคนในคดีนี้ 631 00:37:46,889 --> 00:37:51,060 {\an8}ทั้งคู่ต่างคิดว่าผู้ชายชื่อคอสมินสกีเป็นฆาตกร 632 00:37:51,143 --> 00:37:53,229 แอนเดอร์สันและสวอนสันอยู่ในสถานะที่รู้ 633 00:37:53,312 --> 00:37:55,147 หลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย 634 00:37:55,231 --> 00:37:57,900 ถ้าพวกเขาคิดว่าหลักฐานปรักปรำคอสมินสกี 635 00:37:57,984 --> 00:38:00,403 แน่นหนากว่าหลักฐานปรักปรำผู้ต้องสงสัยคนอื่น 636 00:38:00,486 --> 00:38:03,781 เขาก็ย่อมอยู่ในอันดับต้นๆ ของบรรดาผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแจ็คเดอะริปเปอร์ 637 00:38:04,407 --> 00:38:08,995 ปัญหาเดียวคือเราพูดด้วยความมั่นใจไม่ได้ 638 00:38:09,078 --> 00:38:13,332 ว่าแอรอน คอสมินสกีเป็นคนเดียว กับคอสมินสกีที่พวกเขาคิดไว้ 639 00:38:19,880 --> 00:38:22,842 ตลอดหลายปีนั้น มีผู้ต้องสงสัยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ 640 00:38:22,925 --> 00:38:25,428 และมีทฤษฎีมากมาย 641 00:38:26,012 --> 00:38:28,306 ที่จริงแล้ว หนังจอห์นนี่ เดปป์ เรื่องชำแหละพิสดารจากนรก 642 00:38:28,389 --> 00:38:32,601 และซีรีส์ของไมเคิล เคนจากปี 1988 643 00:38:32,685 --> 00:38:37,690 อาจเป็นสองเรื่องแต่ง จากคดีริปเปอร์ที่โด่งดังที่สุด 644 00:38:37,773 --> 00:38:40,401 ทั้งสองเรื่องนำเสนอว่า เซอร์วิลเลียม กัลล์เป็นริปเปอร์ 645 00:38:45,323 --> 00:38:48,117 {\an8}เซอร์วิลเลียม กัลล์ที่ถูกหาว่าเป็นฆาตกร 646 00:38:48,200 --> 00:38:50,202 {\an8}ในหนังแทบทุกเรื่องที่เคยดู 647 00:38:50,286 --> 00:38:52,288 ถูกเชื่อมโยงกับสิ่งที่เราเรียกว่า 648 00:38:52,371 --> 00:38:54,999 ทฤษฎีสมคบคิดราชวงศ์มาตั้งแต่ยุค 1970 649 00:38:55,958 --> 00:38:57,418 ทฤษฎีนี้อ้างว่า 650 00:38:57,501 --> 00:38:59,795 พระราชนัดดาของพระราชินีวิกตอเรีย เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ 651 00:38:59,879 --> 00:39:03,049 มีความสัมพันธ์กับโสเภณี จากอีสต์เอนด์และมีลูกด้วยกัน 652 00:39:03,132 --> 00:39:04,550 เป็นลูกสาวชื่ออลิซ 653 00:39:04,633 --> 00:39:06,802 อลิซมีพี่เลี้ยง แมรี่ เจน เคลลี่ 654 00:39:06,886 --> 00:39:08,137 แมรี่ เจนมีเพื่อนสี่คน 655 00:39:08,220 --> 00:39:10,931 {\an8}พอลลี่ นิโคลส์ แอนนี่ แชปแมน เอลิซาเบธ สไตรด์ แคทเธอรีน เอ็ดโดวส์ 656 00:39:11,015 --> 00:39:14,602 {\an8}และทั้งกลุ่มนี้ก็เริ่มวางแผน แบล็กเมลราชวงศ์และรัฐบาล 657 00:39:14,685 --> 00:39:16,771 ด้วยความลับเกี่ยวกับเด็กคนนี้ 658 00:39:16,854 --> 00:39:19,648 {\an8}ดังนั้น หมอหลวงเซอร์วิลเลียม กัลล์ 659 00:39:19,732 --> 00:39:21,692 {\an8}จึงถูกส่งไปตามหาพวกเธอแล้วฆ่าซะ 660 00:39:21,776 --> 00:39:23,778 {\an8}เพื่อปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตลอดไป 661 00:39:25,029 --> 00:39:26,280 ปัญหาของทฤษฎีนั้นคือ 662 00:39:26,364 --> 00:39:28,949 เซอร์วิลเลียม กัลล์ เป็นเส้นเลือดในสมองแตกในปี 1887 663 00:39:29,033 --> 00:39:32,578 เขาจึงไม่สามารถเข็นตัวเองไปทั่วไวต์แชปเปิล 664 00:39:32,661 --> 00:39:34,789 ก่อเหตุฆาตกรรมและชำแหละศพแบบนั้นได้ 665 00:39:35,289 --> 00:39:37,541 เซอร์วิลเลียมไม่เคยเป็นผู้ต้องสงสัยในสมัยนั้น 666 00:39:37,625 --> 00:39:39,752 ชื่อของเขาไม่ปรากฏในแฟ้มข้อมูลของตำรวจ 667 00:39:39,835 --> 00:39:41,087 ในหนังสือพิมพ์สมัยนั้น 668 00:39:41,170 --> 00:39:44,256 ในเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ในตอนนั้นเลย 669 00:39:45,132 --> 00:39:47,885 แน่นอนว่าเมื่อทฤษฎีนั้นถูกลบล้างโดยสิ้นเชิง 670 00:39:47,968 --> 00:39:49,804 มันยังอยู่ในความทรงจำของผู้คนต่อไป 671 00:39:49,887 --> 00:39:53,808 หลายคนอยากโทษใครก็ได้ที่มีชีวิตอยู่ในตอนนั้น 672 00:39:53,891 --> 00:39:57,728 และฉันคิดว่าคนมากมาย ถูกกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน 673 00:39:57,812 --> 00:40:00,147 เพราะน่าเศร้าที่เหลือบันทึกอยู่เพียงน้อยนิด 674 00:40:02,817 --> 00:40:06,070 คดีฆาตกรรมแจ็คเดอะริปเปอร์ ตามที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึง 675 00:40:06,153 --> 00:40:08,322 เกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1888 676 00:40:08,406 --> 00:40:11,617 เท่ากับมีเหยื่อห้าคนในเวลาไม่กี่สัปดาห์ 677 00:40:11,700 --> 00:40:14,537 แต่แฟ้มคดีของตำรวจมีแฟ้มที่ชื่อว่า คดีฆาตกรรมไวต์แชปเปิล 678 00:40:14,620 --> 00:40:18,791 ซึ่งอยู่ในช่วงปี 1888 ไปจนถึงปี 1891 679 00:40:18,874 --> 00:40:21,627 และครอบคลุมมากกว่าเหยื่อห้ารายนี้ 680 00:40:21,710 --> 00:40:23,587 เราไม่รู้ว่ามีเหยื่ออีกกี่คน 681 00:40:23,671 --> 00:40:27,174 ในบรรดาเหยื่อรายอื่น ในแฟ้มคดีฆาตกรรมไวต์แชปเปิล 682 00:40:27,258 --> 00:40:29,385 ที่อาจจะถูกฆ่าโดยแจ็คเดอะริปเปอร์ 683 00:40:36,434 --> 00:40:39,812 มีแฟ้มที่เราเรียกว่า "แฟ้มผู้ต้องสงสัย" 684 00:40:40,479 --> 00:40:43,607 เกี่ยวกับคนที่เคยถูกสอบปากคำ ในคดีเดอะริปเปอร์ 685 00:40:43,691 --> 00:40:46,944 {\an8}และอาจเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่สักพัก 686 00:40:47,570 --> 00:40:50,865 {\an8}แฟ้มนั้นหายไปแล้ว เราไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน หรือเกิดอะไรขึ้นกับมัน 687 00:40:51,365 --> 00:40:54,618 เป็นที่รู้กันดีว่าหลังจากช่วงยุค 1880 688 00:40:54,702 --> 00:40:55,953 เข้าสู่ยุค 1890 689 00:40:56,036 --> 00:40:59,415 ตำรวจได้รับอนุญาตให้เข้าไปตรวจดูเอกสารได้ 690 00:41:00,040 --> 00:41:03,919 และดูเหมือนว่าจากจุดนั้น เอกสารบางหน้าหรือบางรายงาน 691 00:41:04,003 --> 00:41:06,213 ภาพถ่ายเหยื่อที่เรามีทุกวันนี้ 692 00:41:06,297 --> 00:41:11,302 ค่อยๆ ถูกเอาออกไปโดยนักล่าของที่ระลึก 693 00:41:12,303 --> 00:41:15,473 รายงานของบอนด์หายไปจากแฟ้มนานหลายปี 694 00:41:15,556 --> 00:41:19,185 ตอนที่ได้คืนมา มันก็ส่งไปที่สกอตแลนด์ยาร์ดโดยไม่ระบุชื่อผู้ส่ง 695 00:41:19,977 --> 00:41:22,104 จดหมาย "เจ้านายที่รัก" หายไป 696 00:41:22,188 --> 00:41:24,607 โชคดีที่ได้กลับคืนมา 697 00:41:24,690 --> 00:41:27,485 และภาพถ่ายเหยื่อบางภาพ 698 00:41:28,194 --> 00:41:32,072 ถูกค้นพบในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา 699 00:41:33,282 --> 00:41:35,367 มันเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ 700 00:41:35,451 --> 00:41:36,994 คุณมีชิ้นส่วนทั้งหมดแล้ว 701 00:41:37,786 --> 00:41:41,707 แต่บางชิ้นดันต่อไม่เข้ากับจิ๊กซอว์นั้น 702 00:41:41,790 --> 00:41:45,336 เลยได้แต่ต่อชิ้นส่วนที่น่าจะกลายเป็นภาพได้ 703 00:41:45,419 --> 00:41:49,465 จนพอได้เป็นภาพ แต่ก็มีบางส่วนที่หายไป 704 00:41:55,471 --> 00:41:57,306 มันน่าหงุดหงิดนะ ในฐานะนักประวัติศาสตร์อาชญากรรม 705 00:41:57,389 --> 00:42:00,184 ที่พูดไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ 706 00:42:00,267 --> 00:42:03,187 และที่สำคัญกว่านั้นคือ การไขคดีฆาตกรรมพวกนี้ได้ 707 00:42:03,270 --> 00:42:07,483 เพื่อครอบครัวและทายาทของเหยื่อ เพราะพวกเขายังอยู่ข้างนอกนั่น 708 00:42:08,275 --> 00:42:11,403 ยิ่งมีคนสนใจคดีนี้มากเท่าไหร่ ข้อเท็จจริงก็จะยิ่งกระจ่างมากขึ้น 709 00:42:11,487 --> 00:42:14,990 และยิ่งข้อเท็จจริงกระจ่างมากขึ้น เรื่องราวก็จะดำเนินต่อ 710 00:42:15,074 --> 00:42:18,160 พัฒนาไปและมีหลายมุมมอง 711 00:42:18,244 --> 00:42:21,580 และไปในทิศทางที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะไปได้ 712 00:42:22,122 --> 00:42:24,500 แน่สิ เราอยากรู้ว่าแจ็คเดอะริปเปอร์เป็นใคร 713 00:42:24,583 --> 00:42:27,753 ถ้าได้รู้ตอนจบของปริศนาก็จะเยี่ยมมาก 714 00:42:28,337 --> 00:42:32,174 สิ่งที่เราอยากได้คือข้อมูลใหม่ๆ อะไรก็ได้ 715 00:42:32,258 --> 00:42:34,051 อะไรก็ได้ที่คนมี 716 00:42:34,885 --> 00:42:37,680 อาจจะมีเอกสาร ซ่อนอยู่ในห้องใต้หลังคาของใครสักคน 717 00:42:37,763 --> 00:42:39,473 อาจจะอยู่ในห้องใต้ดิน 718 00:42:41,016 --> 00:42:44,103 ผมเชื่อว่าอาจมีบางอย่างอยู่ข้างนอก 719 00:42:44,186 --> 00:42:47,273 ที่จะทำให้คดีคืบหน้าไปได้ และอาจคลี่คลายคดีได้ด้วย 720 00:42:47,356 --> 00:42:50,985 สักวันอาจจะมีใครสักคน เปิดหีบหรือกระเป๋าออกมา 721 00:42:51,068 --> 00:42:53,404 แล้วมีหลักฐานที่ระบุตัวตน แจ็คเดอะริปเปอร์อยู่ในนั้น 722 00:42:55,823 --> 00:42:58,450 แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น มันยังเป็นปริศนาอยู่ 723 00:43:00,369 --> 00:43:02,538 (ถ้าคุณมีเอกสารหรือสิ่งของอะไรก็ตาม) 724 00:43:02,621 --> 00:43:05,708 (ที่เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมแจ็คเดอะริปเปอร์ ไปที่ UNSOLVED.COM) 725 00:44:17,237 --> 00:44:21,909 คำบรรยายโดย อรภาริน อ่อนกอ