1 00:00:21,565 --> 00:00:28,572 (ดนตรีหยั่งไปในท้องฟ้า… โบดแลร์) 2 00:00:51,261 --> 00:00:54,431 I've Got A Secret นำเสนอโดยวินสตัน 3 00:00:54,514 --> 00:00:57,475 บุหรี่กรองแล้วที่ขายดีที่สุด และรสชาติดีที่สุดของอเมริกา 4 00:00:58,184 --> 00:01:00,812 วินสตันรสชาติดี อย่างที่บุหรี่ควรเป็น 5 00:01:00,896 --> 00:01:04,273 วินสตันรสชาติดี อย่างที่บุหรี่ควรเป็น 6 00:01:04,356 --> 00:01:05,650 ใช่ครับ บุหรี่กรองแล้วของวินสตัน 7 00:01:05,734 --> 00:01:09,821 นำเสนอรายการตอบคำถามอันดับหนึ่ง ของอเมริกา I've Got A Secret 8 00:01:13,033 --> 00:01:16,119 ท่านคณะกรรมการครับ ด้วยเหตุผล ที่ท่านจะทราบในไม่กี่อึดใจนี้ 9 00:01:16,202 --> 00:01:19,080 เราจะเรียกสุภาพบุรุษ ทางซ้ายมือของผมว่าคุณเอ็กซ์ 10 00:01:19,164 --> 00:01:22,375 แต่ผมบอกได้ว่าเขามาจากเวลส์ 11 00:01:22,459 --> 00:01:25,545 เขาเป็นชาวเวลส์ และเป็นนักดนตรีอีกด้วย 12 00:01:29,299 --> 00:01:31,384 กลับมาเจอกันในอีก 20 วินาทีครับ 13 00:01:32,052 --> 00:01:34,846 แล้วแต่ละวันคุณซื้อเฮโรอีนจำนวนเท่าไร 14 00:01:36,014 --> 00:01:37,599 29 กรัม สี่หรือห้าดอลลาร์… 15 00:01:42,395 --> 00:01:45,273 ณ เมืองเลวิตทาวน์ ในสหรัฐฯ มีชุมชนที่วางแผนอย่างดี… 16 00:01:50,987 --> 00:01:55,408 จากเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ดูจะเป็น ทางการแล้ว ประธานาธิบดีเคนเนดี… 17 00:02:10,966 --> 00:02:12,884 หนึ่ง สอง สาม 18 00:02:57,846 --> 00:03:00,265 นี่คือคุณจอห์น เคล นักแต่งเพลงและนักดนตรี 19 00:03:00,348 --> 00:03:03,018 สัปดาห์ที่แล้วได้เล่นคอนเสิร์ต ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมี 20 00:03:03,101 --> 00:03:05,937 คอนเสิร์ตนี้มีอะไรต่างจาก คอนเสิร์ตอื่นๆ 21 00:03:06,021 --> 00:03:08,106 การแสดงครั้งนี้ใช้เวลา 18 ชั่วโมง 22 00:03:09,149 --> 00:03:11,776 มีใครเดาออกไหมว่าความลับ ของคุณเชนเซอร์คืออะไร 23 00:03:12,736 --> 00:03:16,531 เขาเป็นคนเดียวที่ทนดูคอนเสิร์ต จนครบ 18 ขั่วโมง 24 00:03:16,615 --> 00:03:18,408 เขาทำอย่างนั้นทำไม 25 00:03:20,285 --> 00:03:23,246 ทำไมการเล่นบทเพลงนี้ จึงใช้เวลาถึง 18 ชั่วโมง 40 นาที 26 00:03:24,039 --> 00:03:26,666 มีคำชี้แนะของนักประพันธ์เอริก ซาตี เขียนไว้ตรงนี้ 27 00:03:26,750 --> 00:03:30,253 ซึ่งบอกว่าบทเพลงชิ้นนี้ 28 00:03:30,337 --> 00:03:33,173 จะต้องเล่นซ้ำ 840 ครั้ง 29 00:03:33,798 --> 00:03:37,219 อะไรดลใจให้ชายคนหนึ่ง บอกว่าเราต้องเล่นซ้ำ 840 ครั้ง 30 00:03:37,302 --> 00:03:39,512 - เพื่อให้บทเพลงสมบูรณ์ - ผมไม่ทราบครับ 31 00:03:51,107 --> 00:03:55,820 (ลู) 32 00:04:15,090 --> 00:04:20,178 ลม ลมพัด 33 00:04:20,262 --> 00:04:25,100 ลม ลมพัด 34 00:04:25,183 --> 00:04:29,187 ลม ลมพัด 35 00:04:29,271 --> 00:04:31,606 ลม ลมพัด 36 00:04:31,690 --> 00:04:34,818 "ผมรู้สึกเหมือนผมอยู่ในโรงภาพยนตร์ 37 00:04:35,986 --> 00:04:39,447 ลำแขนทอดยาวของแสง ข้ามผ่านความมืดและหมุน 38 00:04:39,531 --> 00:04:40,740 (เสียงของลู รีด) 39 00:04:40,824 --> 00:04:42,701 สายตาผมจดจ่ออยู่กับหน้าจอ 40 00:04:43,952 --> 00:04:47,080 ภาพบนจอเต็มไปด้วยจุดและลำแสง 41 00:04:48,081 --> 00:04:51,251 ผมไม่มีตัวตนและลืมว่าตัวเองเป็นใคร 42 00:04:52,961 --> 00:04:56,006 มักเป็นอย่างนั้นเสมอ เวลาคนเราไปดูหนัง 43 00:04:57,299 --> 00:05:00,844 เหมือนยาเสพติดอย่างที่เขาว่า" 44 00:05:02,178 --> 00:05:07,601 ในความฝันที่สายลมพัดมาให้ฉัน 45 00:05:09,269 --> 00:05:11,146 เราย้ายมาลองไอส์แลนด์ ตอนดิฉันสี่ขวบ 46 00:05:11,229 --> 00:05:12,689 ส่วนพี่ลูอายุเก้าขวบ 47 00:05:12,772 --> 00:05:13,857 (เสียงของเมอร์ริลล์ รีด ไวเนอร์) 48 00:05:13,940 --> 00:05:16,526 เราอาศัยอยู่ชานเมืองที่ชื่อฟรีพอร์ต 49 00:05:16,610 --> 00:05:21,031 เมื่อมาจากบรุกลิน มาที่ชุมชนชานเมืองที่ห่างไกลนี้ 50 00:05:21,114 --> 00:05:23,283 เขาต้องปรับตัวมากอยู่เหมือนกัน 51 00:05:23,366 --> 00:05:25,201 ในวงแขนฉัน 52 00:05:25,285 --> 00:05:27,829 ลม ลม 53 00:05:27,913 --> 00:05:29,205 คุณแม่เป็นแม่บ้าน 54 00:05:29,289 --> 00:05:32,459 คุณพ่ออยากเป็นนักเขียนนิยาย นักเขียนหนังสือ 55 00:05:33,126 --> 00:05:35,754 คุณยายจะพูดว่า "ไม่ ลูกต้องเป็นนักบัญชี" 56 00:05:36,796 --> 00:05:38,298 คุณพ่อเลยเป็นนักบัญชี 57 00:05:40,634 --> 00:05:42,928 หากคุณคิดจะหากลุ่มคนหนึ่ง… 58 00:05:43,011 --> 00:05:44,221 (เสียงของอัลลัน ไฮแมน) 59 00:05:44,304 --> 00:05:47,307 เพื่อเล่นบทบาทครอบครัวยุค 1950 ที่พ่อจะรู้ดีที่สุด 60 00:05:47,390 --> 00:05:50,769 ผมว่าเขาไม่ค่อยได้ใช้เวลากับพ่อ พ่อของเขาทำงาน 61 00:05:50,852 --> 00:05:53,939 เขาไม่ใช่คนประเภทที่เรา จะออกไปโยนเล่นลูกบอลด้วย 62 00:05:55,106 --> 00:05:57,692 ไม่รู้ว่าคุณพ่อหวังอะไรจากพี่ลู 63 00:05:57,776 --> 00:06:00,111 บางทีพ่ออาจคิดว่าพี่ลู จะสืบสานกิจการต่อ 64 00:06:00,195 --> 00:06:02,656 แน่นอนว่าความหวังที่คุณพ่อ มีสำหรับดิฉัน 65 00:06:02,739 --> 00:06:04,699 คือดิฉันจะต้องทำซุบไก่ที่อร่อย 66 00:06:04,783 --> 00:06:07,160 ไม่ค่อยมีอารมณ์แบบว่า "ไปดูละครสัตว์กัน ไปพิพิธภัณฑ์…" 67 00:06:07,244 --> 00:06:08,495 ไม่มีเลย 68 00:06:08,578 --> 00:06:11,915 ฉันรู้ว่าเธอไปแล้ว แต่รักของฉัน… 69 00:06:11,998 --> 00:06:14,417 การฝึกดนตรีระยะแรกคือเปียโนคลาสสิก 70 00:06:15,502 --> 00:06:16,711 (เสียงของลู รีด) 71 00:06:16,795 --> 00:06:20,632 ผมน่าจะหยิบกีตาร์ครั้งแรกตอนอายุ สิบหรือ 11 ปี และเรียนหนึ่งครั้ง 72 00:06:20,715 --> 00:06:23,134 ผมคิดว่าผมถือเพลง "Blue Suede Shoes" ไป 73 00:06:23,218 --> 00:06:25,136 แล้วบอกว่า "สอนผมเล่นเพลงนี้หน่อย" 74 00:06:25,220 --> 00:06:27,514 ซึ่งพวกเขาคงไม่ได้มาเพื่อการนั้น 75 00:06:28,890 --> 00:06:30,934 การเรียนดนตรีของผมจึงจบลงตรงนั้น 76 00:06:32,185 --> 00:06:34,980 ผมเลยเรียนกีตาร์จากการเล่นตามเพลง 77 00:06:39,401 --> 00:06:44,197 แนวเพลงดูวอป เดอะพารากอนส์ เดอะเจสเตอร์ส์ เดอะดิอาโบลส์ 78 00:06:44,281 --> 00:06:46,199 และร็อกอะบิลลี 79 00:06:48,368 --> 00:06:49,995 ลูจะบอกผมตลอด 80 00:06:50,078 --> 00:06:54,249 ตั้งแต่แรกเลยว่าเขาอยากเป็นดาวร็อก 81 00:06:54,332 --> 00:06:55,584 นี่คือช่วงมัธยมปลาย 82 00:07:06,094 --> 00:07:10,307 พอผมอายุ 14 ปี ผมทำเพลงแรก ชื่อว่า "Leave Her for Me" 83 00:07:10,390 --> 00:07:12,642 ความผิดหวังฟางสุดท้ายของผม 84 00:07:12,726 --> 00:07:15,437 คือคืนที่เมอร์เรย์เดอะเค จะต้องเล่นเพลงนี้ทางวิทยุ 85 00:07:15,520 --> 00:07:17,147 แต่เขาดันป่วย 86 00:07:17,230 --> 00:07:20,901 พอล เชอร์แมนเป็นคนเล่นแทน ผมสลดใจมาก 87 00:07:20,984 --> 00:07:22,736 เราทุกคนนั่งอยู่ข้างวิทยุ 88 00:07:23,320 --> 00:07:26,364 เราได้เช็คค่าลิขสิทธิ์ 2.79 เหรียญ 89 00:07:26,448 --> 00:07:29,784 ซึ่งปรากฏว่ามากกว่าที่ผมหาได้ กับวง The Velvet Underground 90 00:07:31,828 --> 00:07:33,622 เอาดอกไม้บานทั้งหมดไป… 91 00:07:33,705 --> 00:07:35,373 มีอยู่ร้านหนึ่งชื่อว่า Hayloft 92 00:07:35,457 --> 00:07:37,459 เขามักจะไปเล่นที่นั่นคนเดียว 93 00:07:38,418 --> 00:07:40,503 คืนที่รักของฉันมา 94 00:07:40,587 --> 00:07:43,131 ทุกคนรู้ว่าที่นั่นคือไนต์คลับเกย์ 95 00:07:43,215 --> 00:07:47,302 ผมเคยถามเขาถึงเหตุผล ที่อยากเล่นในไนต์คลับเกย์ 96 00:07:47,385 --> 00:07:49,429 แล้วเขาตอบว่าที่นั่น มีกลุ่มคนที่น่าสนใจ 97 00:07:49,512 --> 00:07:53,225 โปรดคืนเธอมาให้ฉัน คืนที่รักของฉัน 98 00:07:53,308 --> 00:07:55,268 วงได้เล่นตามงานต่างๆ ในเมือง 99 00:07:55,352 --> 00:07:56,728 เขายังเรียนอยู่มัธยมปลาย 100 00:07:56,811 --> 00:07:57,979 (จอห์น) 101 00:07:58,063 --> 00:08:01,566 ดิฉันว่าเรื่องนี้ เป็นเหตุให้ชีวิตที่บ้านลำบากขึ้น 102 00:08:21,419 --> 00:08:23,797 ตอนนั้นเราอาศัยอยู่กับคุณยายผม 103 00:08:23,880 --> 00:08:27,467 แล้วคุณยายเป็นคนที่รักชาติมาก 104 00:08:27,551 --> 00:08:30,262 หนึ่งเรื่องที่คุณยายไม่พอใจ คือคุณแม่แต่งงานกับผู้ชายอังกฤษ… 105 00:08:30,345 --> 00:08:31,888 (เสียงของจอห์น เคล) 106 00:08:31,972 --> 00:08:33,557 และไม่พูดภาษาเวลส์ 107 00:08:33,640 --> 00:08:36,351 ไม่ใช่แค่แต่งกับผู้ชายอังกฤษ แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนทำงานเหมือง 108 00:08:36,433 --> 00:08:39,729 คุณยายทุ่มเวลาหลายปี เพื่อให้ลูกๆ ออกจากชีวิตแบบนั้น 109 00:08:39,813 --> 00:08:44,484 คุณยายผลักดันให้ลูกชายทุกคน และคุณแม่ได้เข้าถึงการศึกษา 110 00:08:46,528 --> 00:08:49,072 พอคุณแม่แต่งงาน แล้วคุณพ่อย้ายเข้าบ้าน 111 00:08:49,155 --> 00:08:51,491 คุณยายห้ามการพูดภาษาอังกฤษในบ้าน 112 00:08:51,575 --> 00:08:53,952 จนกว่าผมจะได้เรียนภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียนตอนเจ็ดขวบ 113 00:08:54,035 --> 00:08:55,870 ผมสื่อสารกับคุณพ่อไม่ได้ 114 00:08:57,831 --> 00:09:00,750 ความไม่พอใจที่ผม… ที่ผมได้รับจากคุณยาย 115 00:09:00,834 --> 00:09:02,836 จริงๆ เป็นความเกลียดชังรูปแบบหนึ่ง 116 00:09:04,004 --> 00:09:05,171 ค่อนข้างเศร้าอยู่ 117 00:09:06,631 --> 00:09:09,259 คุณแม่สอนผมเล่นเปียโนอยู่พักหนึ่ง 118 00:09:09,342 --> 00:09:11,261 พอผมเล่นได้ถึงจุดหนึ่ง 119 00:09:11,344 --> 00:09:13,597 คุณแม่ก็ให้คนอื่นสอนต่อ 120 00:09:13,680 --> 00:09:15,432 คุณแม่อดทนเพื่อผม 121 00:09:15,515 --> 00:09:18,685 ประมาณหกหรือเจ็ดปี 122 00:09:21,980 --> 00:09:24,399 ชีวิตในจินตนาการคือชีวิตในวิทยุ 123 00:09:25,191 --> 00:09:28,945 พอถึงตอนนั้น ผมได้หาทาง ที่จะใช้วิทยุให้มีประโยชน์ 124 00:09:29,029 --> 00:09:32,741 คือการเปิดไปฟัง การถ่ายทอดของต่างประเทศ 125 00:09:32,824 --> 00:09:35,869 สถานี Suisse Romande กับ Radio Moscow 126 00:09:37,746 --> 00:09:42,375 พอเข้าโรงเรียนมัธยม ที่โรงเรียน มีวงออร์เคสตรา ผมอยากเล่น 127 00:09:42,459 --> 00:09:45,879 ผมตั้งใจจะเล่นไวโอลิน แต่ที่โรงเรียนไม่มี 128 00:09:45,962 --> 00:09:48,173 มีแต่วิโอลา ผมเลยเล่นวิโอลาแทน 129 00:09:48,965 --> 00:09:53,011 พวกเขามีบทประพันธ์ของบัค บทประพันธ์เชลโลสำหรับวิโอลา 130 00:09:53,094 --> 00:09:55,931 ซึ่งดีมากๆ ทำให้เราได้ฝึกเยอะเลย 131 00:09:56,014 --> 00:09:59,726 แล้วก็มีเพลง Paganini Caprices… 132 00:09:59,809 --> 00:10:02,354 ซึ่งผมทำครูตกใจอยู่เหมือนกัน 133 00:10:02,437 --> 00:10:05,065 เมื่อบอกครูว่าผมจะเรียนเพลง Paganini Caprices 134 00:10:09,069 --> 00:10:11,738 คุณแม่ของผมต้องผ่าตัดหน้าอก 135 00:10:11,821 --> 00:10:15,909 คุณแม่หายตัวไปอยู่ ที่โรงพยาบาลที่แยกออกมา 136 00:10:15,992 --> 00:10:19,162 ซึ่งมีกำแพงด้านนอกสูง 25 ฟุต 137 00:10:19,246 --> 00:10:22,332 คุณพ่อของผมจะพาผมขึ้นไป และอุ้มผมไว้ 138 00:10:24,376 --> 00:10:25,544 คุณแม่หายตัวไป 139 00:10:26,461 --> 00:10:28,797 ทุกอย่างเริ่มไม่ปกติ 140 00:10:28,880 --> 00:10:30,090 ผมต้องพึ่งตัวเอง 141 00:10:30,632 --> 00:10:34,302 คุณพ่อได้แต่ออกไปทำงาน ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาก 142 00:10:36,096 --> 00:10:38,598 ผมไม่สามารถคุยกับคุณพ่อ ถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น 143 00:10:38,682 --> 00:10:41,434 ผมไม่สามารถคุยกับคุณแม่ เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ 144 00:10:41,518 --> 00:10:46,398 ผมเลยถูกเอาเปรียบ และผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร 145 00:10:49,442 --> 00:10:51,736 มีบทประพันธ์หนึ่งที่ผมจำตอนเปิดได้ 146 00:10:51,820 --> 00:10:53,697 แต่จำตอนจบไม่ได้ 147 00:10:53,780 --> 00:10:55,824 ผมเลยต้องอิมโพรไวส์เพื่อจบให้ได้ 148 00:10:55,907 --> 00:10:58,451 ผมก็ทำได้ดีในการจบเพลง 149 00:10:58,535 --> 00:11:02,539 ผมรังสรรค์ตอนจบที่สวยงาม และรอดมาได้ 150 00:11:03,123 --> 00:11:06,626 ตอนที่ผมออกจากห้องนั้น ตอนแรกผมกลัวมาก 151 00:11:07,210 --> 00:11:10,338 ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วมันก็เกิด 152 00:11:10,422 --> 00:11:12,173 ช่วงเวลานั้นที่เกิดขึ้น 153 00:11:12,257 --> 00:11:15,135 นั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนทุกอย่าง ตั้งแต่แรกเริ่ม 154 00:11:15,218 --> 00:11:18,263 เกี่ยวกับการหาทางออกจากปัญหา 155 00:11:18,346 --> 00:11:23,184 การกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดนั้น ไม่ใช่ปัญหา 156 00:11:23,268 --> 00:11:25,145 เป็นจุดเริ่มต้นของการอิมโพรไวส์ 157 00:11:29,065 --> 00:11:29,900 (จบ) 158 00:11:31,693 --> 00:11:35,196 ทุกอย่างเริ่มพุ่งมา ที่สิ่งที่ผมวางแผนจะทำอย่างช้าๆ 159 00:11:35,947 --> 00:11:38,450 และผมคิดว่าผมตัดสินใจอย่างมีเหตุผล 160 00:11:38,533 --> 00:11:40,785 ผมคิดว่า "อยากเป็นวาทยากร" 161 00:11:42,871 --> 00:11:46,041 นอกจากนี้ ผมชัดเจนมาก ว่าต้องออกจากเมืองเกิดให้ได้ 162 00:11:46,124 --> 00:11:49,711 เมืองนี้ไม่มีอะไร ผมตะเกียกตะกายที่จะออกจากที่นั่น 163 00:11:50,253 --> 00:11:54,007 มีครั้งหนึ่งที่ผมตกใจกลัวจนสติหลุด 164 00:11:54,090 --> 00:11:58,011 และต้องแสดงจนจบบทเพลง ให้ได้อย่างสวยงาม 165 00:12:00,847 --> 00:12:02,599 ประสบการณ์นั้นคือก้าวสำคัญ สำหรับชีวิตผมในอนาคต 166 00:12:03,058 --> 00:12:08,772 (นครนิวยอร์ก) 167 00:12:24,871 --> 00:12:26,957 เธอฆ่าลูกชายชาวยุโรปของเธอ 168 00:12:27,999 --> 00:12:30,293 เธอถากถางคนที่มีอายุต่ำกว่า 21 169 00:12:30,919 --> 00:12:32,754 แต่ตอนนี้รถสีน้ำเงิน ของเธอไม่อยู่แล้ว 170 00:12:32,837 --> 00:12:36,049 เธอคงต้องบอกลาก่อน เฮ้ เฮ้ เฮ้ บาย บาย บาย 171 00:12:36,132 --> 00:12:42,097 นิวยอร์กในช่วงสงคราม กลายเป็นที่ลี้ภัยของศิลปิน 172 00:12:42,180 --> 00:12:44,224 (เสียงของโจนัส เมคัส) 173 00:12:44,307 --> 00:12:47,018 เลยเป็นการพบปะของนิวยอร์ก 174 00:12:47,102 --> 00:12:52,065 กับศิลปินฝีมือดีที่สุด จากปารีสและเบอร์ลิน 175 00:12:52,148 --> 00:12:55,110 เธอคงต้องบอกว่าลาก่อน ตัวตลกบอกลาเธอ 176 00:12:56,861 --> 00:13:01,533 นิวยอร์กในช่วงท้ายปี 50 และตอนนี้เราจะเข้าสู่ปี 60 177 00:13:06,746 --> 00:13:11,585 ในขณะที่นูเวลล์วากของฝรั่งเศส มี Cinémathèque Française 178 00:13:12,419 --> 00:13:14,921 เรามีถนนหมายเลข 42 ของเรา 179 00:13:15,881 --> 00:13:18,675 ทุกคืนเราจะออกไปที่ถนนหมายเลข 42 180 00:13:18,758 --> 00:13:23,263 ซึ่งมีโรงภาพยนตร์ อีกประมาณ 15 หรือ 20 โรง 181 00:13:25,307 --> 00:13:28,810 และยุคนั้นเป็นช่วงที่ศิลปะทุกแขนง 182 00:13:28,894 --> 00:13:32,856 และรูปแบบชีวิตเริ่มเปลี่ยน 183 00:13:33,481 --> 00:13:36,234 เเละรุ่งเรืองในช่วงปี 60 184 00:13:41,907 --> 00:13:47,829 เราไม่ได้เป็นวัฒนธรรมย่อย หรือวัฒนธรรมปรปักษ์ เราคือวัฒนธรรม 185 00:13:54,169 --> 00:13:57,130 จิตรกร นักดนตรี ผู้กำกับภาพยนตร์ 186 00:13:57,214 --> 00:14:02,177 พวกเขาไม่ได้สนใจ การเล่าเรื่องที่เน้นเนื้อเรื่อง 187 00:14:03,428 --> 00:14:09,643 ความสุทนทรีย์ของภาพยนตร์ถูกยก ให้อยู่ในระดับเดียวกับศิลปะแขนงอื่น 188 00:14:18,902 --> 00:14:21,571 เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 1962 189 00:14:21,655 --> 00:14:25,200 สตูดิโอของผม The Film-Makers' Cooperative 190 00:14:25,283 --> 00:14:28,578 กลายเป็นจุดนัดพบ ของเหล่าผู้กำกับภาพยนตร์ 191 00:14:29,162 --> 00:14:31,456 ทุกค่ำคืนจะมีการฉายภาพยนตร์ 192 00:14:31,539 --> 00:14:34,834 แอนดีก็จะมาอยู่แถวนั้น 193 00:14:34,918 --> 00:14:37,379 แต่ผมไม่รู้ว่าเขาคือแอนดี 194 00:14:37,462 --> 00:14:40,298 เขาจะนั่งบนพื้นร่วมกับคนอื่นๆ 195 00:14:41,383 --> 00:14:44,344 นั่นคือที่ที่เขาพบดาราดัง ในยุคแรกๆ ของเขา 196 00:14:44,427 --> 00:14:48,932 อย่างมาริโอ มอนเตซ แจ็ก สมิธ และเจราร์ด มาลานกา 197 00:14:49,933 --> 00:14:51,851 ที่นั่นคือโรงเรียนภาพยนตร์ของแอนดี 198 00:15:02,946 --> 00:15:04,114 พอผมเข้าเรียนที่โกล์ดสมิธ… 199 00:15:04,197 --> 00:15:05,365 (จอห์น เคล) 200 00:15:05,448 --> 00:15:10,495 เป็นสถานศึกษาที่เปิดกว้างมาก 201 00:15:10,579 --> 00:15:15,333 ผมได้เรียนวิโอลาและการประพันธ์เพลง กับฮัมฟรีย์ เซอร์ล 202 00:15:15,417 --> 00:15:19,713 เขาเข้าใจเคจและคนเหล่านั้นที่ผมสนใจ 203 00:15:19,796 --> 00:15:23,341 จอห์น เคจ กับ "Water Walk" 204 00:15:27,554 --> 00:15:30,599 จอห์น เคจเป็นผู้นำของกลุ่มล้ำยุค 205 00:15:30,682 --> 00:15:34,102 ด้านดนตรีในนิวยอร์กและสหรัฐอเมริกา 206 00:15:34,185 --> 00:15:37,856 แต่ผมว่าลามอนต์ เตรียมที่จะชิงตำแหน่งนั้น 207 00:15:42,402 --> 00:15:46,948 ผมได้รับทุนการศึกษาเบิร์นสไตน์ ซึ่งจ่ายค่าการเดินทางและอื่นๆ ให้ผม 208 00:15:47,532 --> 00:15:51,745 เราอยู่ในโลกที่… คุณนายคูสเซวิตสกียังมีชีวิตอยู่ 209 00:15:52,329 --> 00:15:56,166 เธอจะมีงานเลี้ยงตอนบ่าย สำหรับนักเรียน 210 00:15:57,000 --> 00:15:59,711 พวกเขาไม่ยอมให้ผมทำการแสดง เพราะรุนแรงเกินไป 211 00:15:59,794 --> 00:16:03,715 ผมถามแฮร์รี เคราต์ ซึ่งดูแลกำหนดการ เขาถามว่าการแสดงรุนแรงไหม 212 00:16:04,674 --> 00:16:07,677 การแสดงชิ้นนั้นส่วนใหญ่ คือการอยู่ข้างในเปียโน 213 00:16:07,761 --> 00:16:10,263 และการทุบด้านในของเปียโน หรืออะไรก็ตาม 214 00:16:10,347 --> 00:16:11,806 แล้วผมก็ไปเอาขวานมา 215 00:16:17,229 --> 00:16:21,024 จำได้ว่ามีคนดูคนหนึ่งในแถวหน้า ลุกขึ้นวิ่งออกไป 216 00:16:21,107 --> 00:16:23,985 นั่นคือคุณนายคูสเซวิตสกี เธอ… เธอร้องไห้เลย 217 00:16:24,069 --> 00:16:27,864 แล้วผมพูดว่า "โห ผมเสียใจที่…" 218 00:16:27,948 --> 00:16:30,283 เธอไม่สบายใจสักพัก แต่ไม่ต้องห่วง 219 00:16:30,367 --> 00:16:32,869 เราพาเธอออกไปดื่มค็อกเทลในภายหลัง เธออารมณ์ดีขึ้น 220 00:16:35,914 --> 00:16:39,042 ตอนนั้นผมรู้จักกับคอร์นีเลียส คาร์ดิวแล้ว เราเที่ยวด้วยกัน 221 00:16:39,668 --> 00:16:43,129 เหมือนมีคนที่เข้าใจ เรื่องราวที่เราพูดถึง 222 00:16:43,213 --> 00:16:45,840 คอร์นีเลียสได้พบกับลามอนต์แล้ว 223 00:16:51,221 --> 00:16:54,808 ลามอนต์ ยัง เป็นคนถัดไป ที่จะสืบทอดต่อจากจอห์น เคจ 224 00:16:56,226 --> 00:16:58,895 การไปที่ร้าน Tanglewood เป็นเส้นทางของผมไปหาลามอนต์ 225 00:17:01,565 --> 00:17:03,066 มีการแยกส่วน… 226 00:17:03,149 --> 00:17:04,568 (เฮนรี ฟลินท์) 227 00:17:04,651 --> 00:17:06,527 ไปถึงจุดที่ไม่ใช่ดนตรีแล้ว 228 00:17:06,611 --> 00:17:07,737 เจอกันสัปดาห์หน้า สวัสดีครับ 229 00:17:09,072 --> 00:17:12,492 เมื่อใครได้เจอกับลามอนต์ ทุกอย่างจบ 230 00:17:12,575 --> 00:17:16,079 ทุกคนอยากจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ แล้วดูผมสิ 231 00:17:17,037 --> 00:17:18,497 ตอนนั้นผมทำสิ่งที่ผมตั้งใจ… 232 00:17:18,582 --> 00:17:19,916 (ลามอนต์ ยัง) 233 00:17:20,000 --> 00:17:21,584 จะพาคุณไปสู่สภาวะทางจิตที่สูงมาก 234 00:17:27,632 --> 00:17:31,094 ก่อนหน้าผมไม่เคยมีใครแต่งเพลง 235 00:17:31,177 --> 00:17:33,638 ที่มีแต่โทนเสียงที่ยาวและคงที่ 236 00:17:35,432 --> 00:17:38,226 จอห์นเป็นชาวเวลส์ 237 00:17:38,310 --> 00:17:40,729 เขาเขียนหาเรา เขาเขียนจดหมายหาเราจาก… 238 00:17:40,812 --> 00:17:43,315 - จากเวลส์ หรืออาจจะเป็นลอนดอน - เวลส์ หรือสหราชอาณาจักร 239 00:17:43,398 --> 00:17:44,608 (มาเรียน ซาซีลา) 240 00:17:44,691 --> 00:17:46,234 สักที่ในสหราชอาณาจักร 241 00:17:46,318 --> 00:17:47,861 เขาบอกว่าเขาอยากมาเรียน 242 00:17:47,944 --> 00:17:48,945 ใช่ 243 00:17:49,863 --> 00:17:52,157 - เรา… เราบอกว่าเขามาได้ - ใช่ 244 00:17:53,783 --> 00:17:56,411 ผมไม่ได้มานิวยอร์ก กระทั่งปี 1963 245 00:17:56,912 --> 00:18:01,625 เป็นครั้งแรกที่ผมมานิวยอร์ก และผมตกใจมากกับ… 246 00:18:01,708 --> 00:18:03,835 ไอน้ำที่ลอยขึ้นมาจากฟุตบาท 247 00:18:04,586 --> 00:18:07,547 "โอ้โห ที่นี่โสโครกสิ้นดี" 248 00:18:07,631 --> 00:18:10,091 (บัตรสมาชิก ฤดูใบไม้ผลิปี 1957) 249 00:18:10,175 --> 00:18:13,803 เสียงโดรนทุ้มต่ำ ของลามอนต์นั้นช่วยทำให้อุ่นใจ 250 00:18:14,262 --> 00:18:16,681 เรากลับมาอยู่กับดนตรี 251 00:18:16,765 --> 00:18:19,851 มุ่งอยู่กับสิ่งที่เราจะได้ฟัง 252 00:18:19,935 --> 00:18:25,815 เราได้ยินเสียงโดรน แต่จริงๆ แล้ว เรากำลังศึกษาเสียงประสานธรรมชาติ 253 00:18:30,570 --> 00:18:34,824 ลูโทรหาผม เขาบอกผม ว่าเขาอยู่ในภาวะซึมเศร้า 254 00:18:34,908 --> 00:18:36,034 (เสียงของอัลลัน ไฮแมน) 255 00:18:36,117 --> 00:18:37,827 เขาบอกว่าเขากำลังได้รับการรักษา 256 00:18:38,370 --> 00:18:44,000 เขาคิดว่าพ่อแม่เขาน่าจะพยายาม ช็อกความเป็นเกย์ออกจากตัวเขา 257 00:18:45,502 --> 00:18:48,296 ผมไม่มีทางเชื่อ เพราะผมรู้จักพ่อแม่เขา 258 00:18:50,131 --> 00:18:52,509 ไม่ว่าคุณอยากจะพูดหรือไม่ก็ตาม 259 00:18:52,592 --> 00:18:58,139 ว่า "เขาเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า เขาใช้ยาเสพติดจำนวนมากหรือเปล่า" 260 00:18:59,391 --> 00:19:03,478 ดิฉันว่าสภาพแวดล้อมของยุคนั้น ไม่ได้ช่วย 261 00:19:03,562 --> 00:19:07,399 และความช่วยเหลือที่มีในตอนนั้น ก็ไม่เพียงพอ 262 00:19:07,482 --> 00:19:09,776 เมื่อคุณถามถึงพี่ลูในช่วงเวลานั้น ดิฉันเลยไม่สบายใจ 263 00:19:09,859 --> 00:19:10,902 (เมอร์ริลล์ รีด ไวเนอร์) 264 00:19:10,986 --> 00:19:13,572 ดิฉันไม่สบายใจ เพราะความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น 265 00:19:13,655 --> 00:19:17,867 และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขา หรือพ่อแม่ดิฉันควรจะได้รับ 266 00:19:17,951 --> 00:19:23,665 เป็นเรื่องที่ง่ายและน่าตลกเกินไป ที่จะคิดว่ามีคำอธิบายที่ง่าย 267 00:19:29,129 --> 00:19:30,672 เขากำลังจะได้เข้า มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก 268 00:19:31,840 --> 00:19:34,259 ถ้าจำไม่ผิด เขาเรียนได้เทอมครึ่ง 269 00:19:36,678 --> 00:19:41,224 เขาโทรหาผมมาบอกว่า เขาจะย้ายไปมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ 270 00:19:53,737 --> 00:19:57,365 แล้วพอเขาไปถึงซีราคิวส์ เขากลายเป็นคนละคน 271 00:19:57,449 --> 00:19:59,784 บึ้งตึง ไม่เป็นมิตร 272 00:19:59,868 --> 00:20:03,330 เขาต่อต้านแทบทุกอย่าง 273 00:20:06,166 --> 00:20:08,251 ผมไม่ค่อยเข้าใจเขา 274 00:20:13,006 --> 00:20:15,008 เราจะเมากัญชา และเล่นดนตรีกัน 275 00:20:15,091 --> 00:20:18,637 บางครั้งเราเล่นเพลงของเรย์ ชาร์ลส์ หรือไม่ก็แฟรงกี ไลมอน 276 00:20:18,720 --> 00:20:19,888 (ริชาร์ด มิชกิน) 277 00:20:19,971 --> 00:20:23,141 เราจะเล่นที่สโมสรนักศึกษาชาย สโมสรนักศึกษาหญิง และบาร์ 278 00:20:23,225 --> 00:20:24,434 (เสียงของลู รีด) 279 00:20:24,517 --> 00:20:28,021 เราแย่มากจนเราต้องเปลี่ยนชื่อบ่อย 280 00:20:28,104 --> 00:20:29,731 เพราะไม่มีใครคิดจะจ้างเราซ้ำ 281 00:20:31,983 --> 00:20:35,904 จะมีบางครั้งที่ผมจะพลาดคิว หรือเล่นผิดจังหวะ 282 00:20:36,488 --> 00:20:37,822 แล้วเขาจะสติแตกเลย 283 00:20:37,906 --> 00:20:38,949 (อัลลัน ไฮแมน) 284 00:20:39,032 --> 00:20:42,244 เขาจะหันกลับมาทุบฉาบ 285 00:20:42,327 --> 00:20:44,204 เขาไม่มีความยับยั้งชั่งใจเลย 286 00:20:44,287 --> 00:20:48,708 ใครก็ตามที่ไม่สมบูรณ์แบบ หรือทำไม่ถูกใจ 287 00:20:51,044 --> 00:20:53,421 เรามีงานแสดงหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยเซนต์ลอว์เรนซ์ 288 00:20:53,505 --> 00:20:56,424 บนเรือลำหนึ่งบนแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ 289 00:20:56,508 --> 00:20:58,176 ลูบอกว่า "ผมไม่เล่นบนเรือลำนั้น" 290 00:20:58,260 --> 00:21:00,762 ผมก็บอกว่า "ลู เราต้องเล่นบนเรือ แค่…" 291 00:21:00,845 --> 00:21:03,139 เขาบอกว่า "ไม่เล่น" บึ้ม 292 00:21:03,223 --> 00:21:08,562 เขาเอามือชกกระจกบานประตู มือเขามีเลือดอาบ 293 00:21:08,645 --> 00:21:11,773 เราต้องพาเขาไปโรงพยาบาล เย็บไปหลายเข็ม 294 00:21:11,856 --> 00:21:15,110 ถ้าจำไม่ผิด เป็นมือข้างขวาของเขา 295 00:21:15,193 --> 00:21:17,487 เขาบอกว่า "เห็นไหมละ ผมเล่นไม่ได้" 296 00:21:17,571 --> 00:21:21,199 ผมบอกว่า "คุณร้องได้ ส่วนกีตาร์ คุณเล่นไม่ได้เรื่องอยู่ดี 297 00:21:21,283 --> 00:21:23,034 หาคนแทนได้" 298 00:21:23,118 --> 00:21:25,495 แล้วเราก็เล่น 299 00:21:25,579 --> 00:21:27,664 เขามีมุมที่เหมือนเด็กอายุสามขวบ 300 00:21:28,915 --> 00:21:30,750 โว้ เฮ้ ม้าหมุน 301 00:21:30,834 --> 00:21:34,045 เราทำเดโมขึ้นมาหนึ่งเพลง ชื่อว่า "Your Love" 302 00:21:34,129 --> 00:21:36,172 รักเล็กๆ ของเธอ 303 00:21:36,256 --> 00:21:39,050 รักของเธอ รักเล็กๆ ของเธอ 304 00:21:39,801 --> 00:21:43,847 ฉันไม่เคยคิดว่าฉันเป็นชายเต็มตัว จนมาเจอรักเธอ 305 00:21:43,930 --> 00:21:47,809 เราไปประชุมกันในเมือง 306 00:21:47,893 --> 00:21:51,855 กับผู้ชายที่ชอบเทปเดโมของลู 307 00:21:52,522 --> 00:21:54,691 เขาหันไปหาลู แล้วพูดว่า 308 00:21:54,774 --> 00:21:58,236 "คุณอยากทำอะไร คุณมีเป้าหมายอะไร" 309 00:21:58,320 --> 00:22:02,407 เขาตอบว่า "ผมอยากรวย ผมอยากเป็นนักร้องร็อก 310 00:22:02,490 --> 00:22:06,161 แล้วผมจะรวย และผมจะเป็นนักร้องร็อก 311 00:22:06,244 --> 00:22:08,079 ไม่ว่าคุณจะทำเพลงให้ผมหรือไม่ก็ตาม" 312 00:22:08,163 --> 00:22:11,333 เขาไม่สบายตัวในสถานที่ส่วนใหญ่ 313 00:22:11,416 --> 00:22:12,667 (เชลลี คอร์วิน) 314 00:22:12,751 --> 00:22:14,586 แล้วถ้าเขาไม่ได้สบายใจตั้งแต่ต้น 315 00:22:14,669 --> 00:22:18,924 เขาจะใช้ข้อนี้มางัด ทำให้คนอื่นๆ ไม่สบายใจไปด้วย 316 00:22:19,007 --> 00:22:20,550 นั่นคือความสบายใจของเขา 317 00:22:20,634 --> 00:22:24,679 ไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ดิฉันว่าเขาขาดความมั่นใจมาก 318 00:22:24,763 --> 00:22:27,724 ดิฉันคิดว่าเขา ขาดความมั่นใจมาทั้งชีวิต 319 00:22:28,683 --> 00:22:32,062 เขาจะรู้สึกโกรธมากเวลาที่คนฏิเสธเขา 320 00:22:33,146 --> 00:22:35,857 เขาเลยจะเป็นฝ่ายตัดความสัมพันธ์ก่อน 321 00:22:41,696 --> 00:22:47,577 ในโบสถ์มืดมิดแห่งดนตรี ซึ่งไม่เคยมีแต่ดินหรือน้ำทะเล 322 00:22:47,661 --> 00:22:50,789 แต่ผลิบานในอากาศข้างในความนึกคิด 323 00:22:50,872 --> 00:22:52,791 (เสียงของเดลมอร์ ชวาร์ตซ์) 324 00:22:52,874 --> 00:22:57,087 แบบแผนที่เคลื่อนตัวและการกระทำ ขบวนที่ต่อเนื่อง 325 00:22:57,170 --> 00:23:00,298 เคลื่อนตัวด้วยความสง่าของความแน่นอน 326 00:23:00,382 --> 00:23:02,717 เพื่อเปิดม่านที่ปิดอยู่… 327 00:23:02,801 --> 00:23:05,095 ถึงตอนนี้เขา ก็เที่ยวเล่นกับเดลมอร์แล้ว 328 00:23:07,597 --> 00:23:10,433 คนที่ผมชื่นชมที่สุด คือเดลมอร์ ชวาร์ตซ์ 329 00:23:10,517 --> 00:23:15,063 ผมเรียนกวีนิพนธ์กับเขา แต่มีเรื่องอื่นๆ ด้วย 330 00:23:15,146 --> 00:23:18,024 ทั้งเรียงความ และเรื่องสั้นอันน่าทึ่ง 331 00:23:19,192 --> 00:23:26,032 ผมทึ่งที่มีคนทำแบบนี้ได้ กับภาษาธรรมดาทั่วไป 332 00:23:26,700 --> 00:23:29,744 ส่วนเดลมอร์ ชวาร์ตซ์ ก็คิดว่าลู มีพรสวรรค์อย่างมาก 333 00:23:29,828 --> 00:23:32,581 และตีพิมพ์กวีนิพนธ์ของเขาไปหลายงาน 334 00:23:32,664 --> 00:23:34,082 ในนิตยสาร Evergreen Review 335 00:23:34,666 --> 00:23:39,671 บทกวีของเขาจะเน้น เรื่องเกี่ยวกับเกย์ 336 00:23:39,754 --> 00:23:41,464 ในหัวข้อเกย์ที่แสนหม่นหมอง 337 00:23:41,548 --> 00:23:47,470 ความคิดที่จะเจอผู้ชาย ในห้องน้ำสาธารณะ 338 00:23:47,554 --> 00:23:53,602 ไปมีอะไรกับผู้ชายแถวๆ โถฉี่ และเอามาเขียนเป็นบทกวี 339 00:23:53,685 --> 00:23:56,229 พอผมได้อ่านหนึ่งในบทกวีเหล่านั้น 340 00:23:56,313 --> 00:23:59,316 ผมก็ถามเขาว่า "ลู อะไรวะ" 341 00:24:00,191 --> 00:24:05,322 ความคิดที่เสื่อมทราม เกี่ยวกับเซ็กซ์นี้มาจากไหน" 342 00:24:06,281 --> 00:24:10,493 เขาตอบว่า "ถ้าไม่หม่น ไม่เสื่อมทราม ก็ไม่ร้อนแรง ไม่ใช่เซ็กซ์" 343 00:24:11,036 --> 00:24:13,121 เขาบอกว่า "คุณไม่มีทางเข้าใจหรอก 344 00:24:13,204 --> 00:24:15,081 คุณกำลังกลายเป็น พวกนิยมระบบหัวโบราณ" 345 00:24:18,710 --> 00:24:22,005 น่าจะเป็นวันขอบคุณพระเจ้า หรือวันคริสต์มาสที่เราไป Hayloft 346 00:24:22,964 --> 00:24:25,800 ดิฉันจำอะไรไม่ค่อยได้ นอกจากว่าเป็นบาร์เกย์ 347 00:24:27,761 --> 00:24:32,515 มีผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่น ชื่อแอ็กชัน เขาพยายามจับคู่ดิฉันกับผู้หญิงคนนี้ 348 00:24:33,225 --> 00:24:35,727 ดิฉันบอกว่า "อืม ฉันไม่ได้เป็นเกย์ ฉันไม่อยากเป็นเกย์ 349 00:24:35,810 --> 00:24:38,021 ฉันไม่อยากทดลอง ฉันไม่สนใจ" 350 00:24:38,480 --> 00:24:41,691 เขาบอกว่า "ไปเต้นกับเธอสิ" ดิฉันก็เลย "โอเค เต้นก็ได้" 351 00:24:43,193 --> 00:24:46,196 ดิฉันว่าเขาพาดิฉันไป เพื่อให้รู้ว่าเขาไปไหนและทำอะไร 352 00:24:47,405 --> 00:24:49,282 คนจะถามว่า "แล้วทำไมไม่สนเรื่องนั้น 353 00:24:49,366 --> 00:24:52,244 คุณ อยู่กับเขาได้อย่างไร ถ้าเขาอยู่กับผู้ชาย 354 00:24:52,327 --> 00:24:54,454 ดิฉันก็ตอบว่า "นั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน" 355 00:24:54,537 --> 00:24:57,666 ดิฉันไม่ได้หึงด้วย ดิฉันไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา 356 00:25:00,085 --> 00:25:04,172 สิ่งที่น่ากลัวกว่ามากคือการขับรถ เข้าไปแมนแฮตตัน ไปฮาร์เลม 357 00:25:04,256 --> 00:25:05,966 เพื่อไปรับ… น่าจะเป็นเฮโรอีน 358 00:25:06,049 --> 00:25:08,927 แล้วเราจะไปที่ถนน 125 และเซนต์นิโคลัส 359 00:25:09,010 --> 00:25:10,971 ไปที่บ้านอะพาร์ตเมนต์นี้ 360 00:25:11,054 --> 00:25:15,350 เขาชอบเหลือเกิน ที่จะพาดิฉันไปสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย 361 00:25:16,726 --> 00:25:18,603 แล้วเขาแค่จัดฉาก 362 00:25:18,687 --> 00:25:21,314 เพื่อที่เขาจะได้มีเนื้อหามาเขียน 363 00:25:23,692 --> 00:25:25,068 เขาจะเขียนอยู่ตลอดเวลา 364 00:25:25,151 --> 00:25:29,614 ถ้าไม่เขียนเรื่อง ก็จะเขียนเนื้อเพลงหรือแต่งเพลง 365 00:25:29,698 --> 00:25:32,951 แต่เขาจะพูดเสมอว่ามันไม่ต่างกัน 366 00:25:33,034 --> 00:25:38,498 ระหว่างนักเขียนหนังสือ กับนักแต่งเพลง 367 00:25:41,001 --> 00:25:47,090 วอซเนเซนสกีเจ็ดคน คร่ำครวญแต่ไร้เสียง 368 00:25:47,883 --> 00:25:51,595 เสียงร้องของผมถูกฉีก 369 00:25:51,678 --> 00:25:57,434 กลายเป็นเส้นเทปและลิ้นสีแดง ยาวไม่สิ้นสุด 370 00:25:57,517 --> 00:26:03,356 สมัยที่ผมอยู่มหาวิทยาลัย ผมได้รับอิทธิพลจากกินส์เบิร์กมาก 371 00:26:03,440 --> 00:26:06,151 "Howl" กับ "Kaddish" 372 00:26:06,234 --> 00:26:08,069 Naked Lunch ของเบอร์โรส์ 373 00:26:08,153 --> 00:26:11,740 Last Exit to Brooklyn ของฮูเบิร์ต เซลบี จูเนียร์ 374 00:26:11,823 --> 00:26:15,952 ผมคิดในใจ "นั่นคือสิ่งที่ต้องการทำ แต่ใช้กลองกับกีตาร์" 375 00:26:16,036 --> 00:26:18,038 ดังนั้น "ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังไปไหน 376 00:26:19,205 --> 00:26:21,625 ฉันจะพยายามชิงอาณาจักรหากทำไหว 377 00:26:22,334 --> 00:26:24,377 เพราะนั่นทำให้รู้สึกว่าตัวเอง เป็นผู้ชาย 378 00:26:25,545 --> 00:26:27,589 เมื่อเอาเข็มจิ้มเข้าเส้นเลือด 379 00:26:27,672 --> 00:26:30,675 รู้ไหมว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม 380 00:26:30,759 --> 00:26:34,387 เมื่อฤทธิ์ยาพัดพาฉันไป และรู้สึกเหมือนเป็นบุตรพระเยซู 381 00:26:34,471 --> 00:26:37,682 ฉันคงไม่รู้อะไร ฉันคงไม่รู้อะไรเลย" 382 00:26:43,813 --> 00:26:45,815 น่าจะไม่เคยมีปัญหาใด 383 00:26:45,899 --> 00:26:50,070 ด้านพฤติกรรมมนุษย์หรือการประพฤติผิด ที่อยู่กับเรามานาน 384 00:26:50,153 --> 00:26:53,198 หรือขาดความเข้าใจมามาก เท่าการรักร่วมเพศ 385 00:26:59,037 --> 00:27:01,790 คุณคิดว่าอะไร คืออาชญากรรมทางเพศที่ร้ายแรงที่สุด 386 00:27:02,999 --> 00:27:04,584 อาชญากรรมต่อธรรมชาติ 387 00:27:07,837 --> 00:27:10,423 อะไรคือบทลงโทษ ของอาชญากรรมต่อธรรมชาติ 388 00:27:10,507 --> 00:27:13,343 โทษสูงสุดคือ 20 ปี ในทัณฑสถานรัฐ 389 00:27:15,887 --> 00:27:19,140 เราถูกจับในข้อหาไปเที่ยวบาร์ 390 00:27:19,224 --> 00:27:21,059 แล้วยังไง ก็เป็นส่วนหนึ่ง ของประสบการณ์ 391 00:27:24,896 --> 00:27:26,773 มีบาร์แห่งหนึ่งชื่อว่า San Remo 392 00:27:26,856 --> 00:27:31,069 ที่ทุกคนมีความเป็นเกย์ 393 00:27:31,152 --> 00:27:33,113 ฉลาดสุดๆ หรือมีความสร้างสรรค์มากๆ 394 00:27:33,196 --> 00:27:34,781 (แดนนี ฟีลด์ส) 395 00:27:34,864 --> 00:27:39,911 มีทั้งเอ็ดเวิร์ด อัลบี แอนดี วอร์ฮอล และแจสเปอร์ จอห์นส์ 396 00:27:39,995 --> 00:27:44,708 และใจกลางของทุกอย่าง คือโลกศิลปะที่ขยายอย่างรวดเร็ว 397 00:27:45,709 --> 00:27:49,671 เงินทอง ปาร์ตี้ อำนาจ 398 00:27:50,463 --> 00:27:52,090 วงการภาพยนตร์กำลังมาแรง 399 00:27:52,173 --> 00:27:54,759 เทศกาลภาพยนตร์นิวยอร์ก ศูนย์ลินคอล์น 400 00:27:54,843 --> 00:27:57,596 ทุกอย่างเกิดขึ้นช่วงกลางทศวรรษ 60 401 00:27:57,679 --> 00:28:03,727 เป็นความล้นแบบ… แคมป์เกินเหตุ 402 00:28:04,477 --> 00:28:09,733 สไตล์แคมป์เป็นอะไร ที่จะมีการทดลองมาก 403 00:28:09,816 --> 00:28:11,401 เหมือนที่แจ็ก สมิธทำ 404 00:28:22,704 --> 00:28:24,789 (ต้นปี 1964) 405 00:28:24,873 --> 00:28:28,877 โล… คืนนั้น เป็นคืนที่มีสิ่งกระตุ้นมากเกินไป 406 00:28:28,960 --> 00:28:30,795 ในคืนก่อนวันโลกแตก 407 00:28:30,879 --> 00:28:33,131 (จอห์น เคลย้ายมาอยู่กับนักประพันธ์ โทนี คอนราดที่หมายเลข 56 ลัดโลว์) 408 00:28:33,215 --> 00:28:38,553 ที่หมายเลข 56 ลัดโลว์ ผมแจ็ก สมิธพบแอนกัสกับโทนี 409 00:28:38,637 --> 00:28:42,724 (ผู้กำกับแจ็ก สมิธอาศัยอยู่ด้วย กับศิลปินและนักดนตรีมากมาย) 410 00:28:42,807 --> 00:28:45,018 โทนี คอนราดเป็นคนเอาอะพารตเมนต์ไป… 411 00:28:45,101 --> 00:28:46,770 (เสียงของเฮนรี ฟลินท์) 412 00:28:46,853 --> 00:28:48,688 ที่หมายเลข 56 ลัดโลว์ ซึ่งกลายมามีความสำคัญมาก 413 00:28:48,772 --> 00:28:49,773 (ถนนลัดโลว์ ถนนแกรนด์) 414 00:28:49,856 --> 00:28:52,484 ผมไม่อยากเป็นส่วนหนึ่ง ของระบบเศรษฐกิจ… 415 00:28:52,567 --> 00:28:53,735 (เสียงของโทนี คอนราด) 416 00:28:53,818 --> 00:28:58,323 ผมเลยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ ราคา 25.44 เหรียญต่อเดือน 417 00:28:58,406 --> 00:29:02,661 พอข้ามมา คุณจะเห็น ความเปลี่ยนแปลงที่แปลกมาก 418 00:29:02,744 --> 00:29:06,998 ระหว่างสารคดีโลเวอร์อีสต์ไซด์ วิถีชีวิตแบบล้ำยุค 419 00:29:07,082 --> 00:29:11,920 กับวงการศิลปะทางการ ที่กลายเป็นอัตลักษณ์ของย่านโซโห 420 00:29:13,380 --> 00:29:15,257 แจ็กก็คงย้ายไปอยู่กับเขา 421 00:29:15,340 --> 00:29:19,135 เพื่อนบ้านข้างๆ คือ เพียโร เฮลิกเซอร์กับเคต ภรรยาของเขา 422 00:29:19,219 --> 00:29:22,180 จากนั้นแอนกัส แม็กลีส ก็กลับจากนิวยอร์ก 423 00:29:22,264 --> 00:29:25,976 แล้วได้ไปอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ที่สาม บนชั้นเดียวกันที่ 56 ลัดโลว์ 424 00:29:26,059 --> 00:29:30,355 แล้วยังมีมาริโอ มอนเตซ ที่อาศัยอยู่ในตึก จอห์น… 425 00:29:30,438 --> 00:29:32,566 จอห์น เคลย้ายเข้ามาอยู่กับโทนี 426 00:29:36,570 --> 00:29:38,989 แต่ศูนย์กลางที่ถนนลัดโลว์นั้น… 427 00:29:39,072 --> 00:29:40,740 (เสียงของเอมี โทบิน) 428 00:29:40,824 --> 00:29:45,537 กลายเป็นวง The Dream Syndicate ที่มีลามอนต์ ยัง 429 00:29:45,620 --> 00:29:47,914 ลามอนต์ มาเรียน โทนี กับผม 430 00:29:47,998 --> 00:29:51,418 เราทำอย่างนี้วันละชั่วโมงครึ่ง ทุกวันเป็นเวลาปีครึ่ง 431 00:29:52,085 --> 00:29:56,214 ผมต้องทำเสียงโดรน ซึ่งต้องฝึก 432 00:29:56,298 --> 00:29:59,050 และเปิดโลกให้เรา เห็นความเป็นไปได้มากมาย 433 00:30:00,802 --> 00:30:03,430 ทุกความถี่มีการรับรู้… 434 00:30:03,513 --> 00:30:04,890 (เสียงของลามอนต์ ยัง) 435 00:30:04,973 --> 00:30:07,350 โดยเปลือกสมองใหญ่ในจุดที่ต่างกัน 436 00:30:07,434 --> 00:30:12,981 ดังนั้นเมื่อเราจัดกลุ่มความถี่ ที่เล่นซ้ำไปซ้ำมา 437 00:30:13,064 --> 00:30:19,029 จะเกิดสภาวะทางจิต ที่โดดเด่นและลึกซึ้งมาก 438 00:30:20,071 --> 00:30:23,617 เราจะสามารถได้ยินรายละเอียด ในอนุกรมฮาร์มอนิก 439 00:30:24,618 --> 00:30:29,372 ที่งดงามและแปลกอย่างเหลือเชื่อ 440 00:30:30,790 --> 00:30:32,918 เราจะเริ่มตระหนัก 441 00:30:33,001 --> 00:30:38,465 ว่ามีพื้นที่ใหม่ๆ ของเสียง ที่เราจะพบความพึงพอใจ 442 00:30:43,136 --> 00:30:46,556 เราไม่มีการ "ขอโน้ตเอหน่อย เรามา…" ไม่เลย 443 00:30:46,640 --> 00:30:52,896 เราพบว่าสิ่งที่เสถียรที่สุด ที่เราสามารถปรับเข้าหา 444 00:30:52,979 --> 00:30:56,900 คือเสียงฮัม 60 รอบของตู้เย็น 445 00:30:57,901 --> 00:31:03,240 เพราะสำหรับเราเสียงฮัม 60 รอบ คือเสียงโดรนของอารยธรรมตะวันตก 446 00:31:07,369 --> 00:31:10,580 โดยพื้นฐานแล้ว นั่นคือคีย์ที่เรากำลังเล่นอยู่ 447 00:31:10,664 --> 00:31:14,918 ถ้าเราใช้ฮาร์มอนิกที่สาม เป็น 60 รอบ นั่นคือสิบรอบ 448 00:31:15,001 --> 00:31:16,920 แล้วปรากฏว่าสิบรอบคือ… 449 00:31:17,003 --> 00:31:19,839 จังหวะคลื่นแอลฟาของสมอง ตอนที่เราหลับ 450 00:31:22,425 --> 00:31:25,095 อยู่ดีๆ "เฮ้ ได้เรื่องละ" 451 00:31:27,931 --> 00:31:30,809 สิ่งที่น่าสนใจ ของวง The Dream Syndicate 452 00:31:30,892 --> 00:31:32,978 คือดนตรีแนวมินิมอล 453 00:31:34,187 --> 00:31:37,315 สเกลเต็ม ค้างหนึ่งโน้ต 454 00:31:37,399 --> 00:31:40,277 และฟังทุกท่วงทำนองในโน้ตนั้น 455 00:31:41,653 --> 00:31:46,408 ลามอนต์ ยังจะยืดหนึ่งโน้ต ออกไปสี่ชั่วโมง 456 00:31:46,491 --> 00:31:47,492 (โจนัส เมคัส) 457 00:31:47,576 --> 00:31:49,911 ครั้งหนึ่งผมไปกับแอนดี ที่การแสดงของเขา 458 00:32:06,845 --> 00:32:11,057 ก่อนที่ดิฉันไป The Factory ดิฉันได้ดู Warhol's Kiss แล้ว 459 00:32:13,852 --> 00:32:15,061 ไม่มีการระบุชื่อใดๆ 460 00:32:15,145 --> 00:32:16,396 (เสียงของเอมี โทบิน) 461 00:32:16,479 --> 00:32:18,690 ดิฉันไม่รู้เลยว่าใครเป็นผู้สร้าง 462 00:32:18,773 --> 00:32:22,736 เป็นซีรีส์รายสัปดาห์ โดยทุกสัปดาห์ 463 00:32:22,819 --> 00:32:25,947 จะมีหนังยาวสองนาทีสี่สิบห้าวินาที 464 00:32:26,031 --> 00:32:29,910 ฉายที่ความเร็วปกติ ซึ่งก็คือ 16 เฟรมต่อวินาที 465 00:32:33,914 --> 00:32:37,667 สิ่งที่น่าสนใจเสมอ เกี่ยวกับหนังเงียบของวอร์ฮอล 466 00:32:37,751 --> 00:32:40,754 คือเหตุผลที่หนังไม่สมจริง 467 00:32:40,837 --> 00:32:45,550 นั่นคือหนังเหล่านี้ออกแบบมาให้ฉาย ที่อัตรา 16 เฟรมต่อวินาที 468 00:32:45,634 --> 00:32:50,680 นั่นหมายความว่าคนในหนังจะหายใจ 469 00:32:50,764 --> 00:32:55,060 และหัวใจเต้นในระยะเวลาที่ต่าง 470 00:32:55,143 --> 00:32:57,646 จากของคุณตอนที่คุณดู 471 00:32:57,729 --> 00:33:02,692 นั่นสร้างความห่าง เชิงสุนทรียภาพที่น่าทึ่ง 472 00:33:11,034 --> 00:33:14,120 มีที่ทำการไปรษณีย์ ในตึกเอ็มไพร์สเตต 473 00:33:15,872 --> 00:33:21,461 เรากำลังเดินไปพร้อมนิตยสาร Film Culture ไปยังที่ทำการไปรษณีย์ 474 00:33:21,545 --> 00:33:25,590 อยู่ดีๆ เราหยุดและมองตึก 475 00:33:27,842 --> 00:33:33,098 ผมพูดว่า "นี่เป็นภาพ ที่ช่างเหมาะกับแอนดี วอร์ฮอล" 476 00:33:35,850 --> 00:33:37,561 แล้วทุกอย่างก็เริ่มจากตรงนั้น 477 00:33:50,115 --> 00:33:55,495 วอร์ฮอล หนังแนวล้ำยุค และดนตรีแนวล้ำยุค 478 00:33:55,579 --> 00:33:58,623 ทุกอย่างเกี่ยวกับการยืดเวลา 479 00:34:22,564 --> 00:34:25,233 ในความคิดของลามอนต์ ดนตรีคือ… 480 00:34:25,317 --> 00:34:27,777 จริงๆ คือ… ผมว่าเป็นแนวคิดของจีน 481 00:34:27,861 --> 00:34:30,195 ใช่ เป็นแนวคิดของจีนเกี่ยวกับเวลา 482 00:34:30,905 --> 00:34:34,200 จริงๆ ดนตรีคงอยู่ได้หลายศตวรรษ 483 00:34:35,744 --> 00:34:41,708 นี่คือประสบการณ์การอิมโพรไวส์ ในบรรยากาศที่น่าศรัทธา 484 00:34:41,791 --> 00:34:43,626 และลึกลับมากอีกด้วย 485 00:34:45,836 --> 00:34:52,052 แล้ววันหนึ่งโทนีเดินเข้ามา พร้อมกับปิ๊กอัพ เท่านั้นแหละ 486 00:34:53,762 --> 00:34:56,972 เราได้พลังของการขยายเสียงมา 487 00:35:02,270 --> 00:35:04,522 มีอะไรเกิดขึ้นหลายอย่าง 488 00:35:05,148 --> 00:35:08,318 โทนเสียงที่แตกต่างกันและอื่นๆ ที่ทำให้ตึกสั่นคลอน 489 00:35:12,906 --> 00:35:15,283 ทรงพลังมาก 490 00:35:15,367 --> 00:35:17,244 อย่างเวลาที่เราเล่น 491 00:35:17,327 --> 00:35:19,704 จะมีเสียงเหมือนบี-52 อยู่ในห้องนั่งเล่นคุณ 492 00:35:30,173 --> 00:35:32,092 ฉันเป็นนักวิ่งบนถนน ที่รัก 493 00:35:32,175 --> 00:35:34,177 และเธอตามฉันไม่ทัน 494 00:35:36,805 --> 00:35:39,099 ฉันเป็นนักวิ่งบนถนน ที่รัก 495 00:35:39,683 --> 00:35:41,685 และเธอตามฉันไม่ทัน 496 00:35:44,145 --> 00:35:46,565 มาสิที่รัก มาแข่งกัน 497 00:35:47,065 --> 00:35:48,942 ที่รัก ที่รัก คุณจะ 498 00:35:49,025 --> 00:35:51,069 ผมเก็บสะสมอัลบั้มร็อกแอนด์โรลมา… 499 00:35:51,152 --> 00:35:52,320 (เสียงของโทนี คอนราด) 500 00:35:52,404 --> 00:35:53,446 ด้วยความคลั่งไคล้ 501 00:35:54,948 --> 00:35:59,119 จอห์นแปลกใจที่เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น ตอนที่เขาย้ายมาอยู่กับผม 502 00:36:06,334 --> 00:36:08,712 เราฟังอะไรที่… 503 00:36:08,795 --> 00:36:10,463 เกี่ยวกับสิ่งที่เรา กำลังทำกับลามอนต์ 504 00:36:10,547 --> 00:36:12,299 ด้วยเสียงประสานที่เกิดขึ้น 505 00:36:12,382 --> 00:36:14,092 เสียงประสานบริสุทธิ์ และอื่นๆ 506 00:36:15,135 --> 00:36:17,762 แฮงค์ วิลเลียมส์ กับวง The Everly Brothers 507 00:36:20,056 --> 00:36:22,183 ฝัน 508 00:36:22,267 --> 00:36:24,352 "ฝัน" ฝัน 509 00:36:24,436 --> 00:36:26,021 วิธีการที่เพลงนี้เปิดมา 510 00:36:26,104 --> 00:36:29,524 เราจะได้ยินโทน ที่แตกต่างกันมากมาย ผมรู้สึก "โห" 511 00:36:29,608 --> 00:36:32,235 ในช่วงนั้นผมตื่นตาตื่นใจ กับร็อกแอนด์โรลมาก 512 00:36:32,319 --> 00:36:34,362 ตื่นตากับสิ่งที่วงเดอะบีเทิลส์ทำ และ… 513 00:36:34,446 --> 00:36:36,072 และเนื้อเพลงที่เดอะบีเทิลส์ร้อง 514 00:36:36,156 --> 00:36:37,449 นี่ไม่ใช่เพลงใสๆ 515 00:36:37,532 --> 00:36:38,992 "ฉันรู้ว่าความตายรู้สึกอย่างไร 516 00:36:39,075 --> 00:36:40,952 และเธอทำให้ฉันรู้สึก เหมือนฉันไม่เคยเกิดมาเลย" 517 00:36:41,036 --> 00:36:43,580 เดี๋ยวนะ ลูก็ชอบเขียนอะไรแบบนี้ 518 00:36:43,663 --> 00:36:46,875 และจากนั้น วงที่บ้าที่สุดวงแรก ได้ถือกำเนิดขึ้น… 519 00:36:46,958 --> 00:36:48,418 (เอมี โทบิน) 520 00:36:48,501 --> 00:36:50,587 วงนั้นชื่อว่า The Primitives 521 00:36:50,670 --> 00:36:56,885 มีจอห์น กับวอลเตอร์ เดอ มาเรีย 522 00:36:56,968 --> 00:37:00,555 และโทนีกับลู 523 00:37:01,223 --> 00:37:02,724 โอเค ขอให้ทุกคน อยู่ในความสงบตอนนี้ 524 00:37:02,807 --> 00:37:04,267 เรามีอะไรใหม่ที่อยากให้ทุกคนดู 525 00:37:04,351 --> 00:37:06,478 รับรองว่าต้องประทับใจ เมื่อเราเข้าไปในหัวคุณ 526 00:37:06,561 --> 00:37:09,689 เตรียมตัวเลย เราจะเริ่มแล้ว ใช่ เอาละ 527 00:37:09,773 --> 00:37:13,151 ในฐานะนักแต่งเพลงประจำ ของค่ายเพลงทุนต่ำในลองไอส์แลนด์ซิตี 528 00:37:13,818 --> 00:37:15,153 ผมย้ายไปนิวยอร์ก 529 00:37:18,865 --> 00:37:22,911 Pickwick เป็นบริษัทเพลงทุนต่ำ ที่ประสบความสำเร็จมาก 530 00:37:22,994 --> 00:37:25,163 อัลบั้มเพลง 99 เซนต์ 531 00:37:25,247 --> 00:37:30,043 เพลงแนวเซิร์ฟ 12 เพลง หรือเพลงแนว "เราจะเลิกกัน" 12 เพลง 532 00:37:30,126 --> 00:37:31,878 จะมีวางขายที่ร้าน Woolworths 533 00:37:36,633 --> 00:37:37,842 เขามีวิสัยทัศน์ 534 00:37:37,926 --> 00:37:41,763 เขามีความสามารถเกินความสามารถตัวเอง จะพูดอย่างนั้นก็ได้ 535 00:37:42,305 --> 00:37:43,598 เขาร้องไม่ได้ เล่นดนตรีไม่ได้ 536 00:37:43,682 --> 00:37:45,267 (เทอร์รี ฟิลิปส์) 537 00:37:45,350 --> 00:37:49,813 แต่ทุกอย่างที่เขาทำ กับเสียงแตกๆ ของเขาสื่อถึงผมได้ 538 00:37:50,397 --> 00:37:54,651 เราตั้งใจที่จะเบิกทางใหม่กับลู ซึ่งสุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ 539 00:37:57,737 --> 00:37:59,906 โทนีได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ 540 00:37:59,990 --> 00:38:02,742 พอเราไปที่นั่น มีชายคนหนึ่ง เดินมาหาเราแล้วพูดว่า "เฮ้ 541 00:38:02,826 --> 00:38:04,160 พวกคุณดูจะขายออกได้ง่ายๆ 542 00:38:04,244 --> 00:38:05,912 อยากมาโปรโมตอัลบั้มไหม 543 00:38:05,996 --> 00:38:08,123 มาที่ลองไอส์แลนด์ซิตีสิ" 544 00:38:08,206 --> 00:38:13,295 ปรากฏว่าเป็น Pickwick Records และนักแต่งเพลงในเวลานั้นคือลู รีด 545 00:38:15,755 --> 00:38:19,759 ตอนที่ผมพบลู เราจ้องกันไปมา 546 00:38:20,677 --> 00:38:23,805 เราดื่มกาแฟ ส่วนผมมีวิโอลา 547 00:38:23,889 --> 00:38:25,891 โอ้ อีกหนึ่งครั้ง 548 00:38:27,392 --> 00:38:29,603 ช่วงนั้นผมยังเล่นวิโอลาคลาสสิก 549 00:38:29,686 --> 00:38:33,064 ที่เน้นไวบราโต มีความคลาสสิกมาก 550 00:38:33,148 --> 00:38:34,774 ไพเราะมาก 551 00:38:34,858 --> 00:38:39,362 แล้วลูพูดว่า "นั่นไง นึกอยู่แล้ว ว่าคุณถือไพ่เหนือกว่าผม" 552 00:38:41,698 --> 00:38:43,700 ทุกคนคว่ำหน้าลงเลย 553 00:38:43,783 --> 00:38:45,452 พร้อมหรือยัง 554 00:38:45,535 --> 00:38:48,288 ผมอยากร่วม แต่งเพลงกับพวกเขา 555 00:38:48,371 --> 00:38:52,459 ผมบอกพวกเขาเสมอว่าเราน่าจะแต่งสดกัน 556 00:38:52,542 --> 00:38:54,628 ซึ่งทุกคนเห็นด้วย 557 00:38:54,711 --> 00:38:57,714 น่าสนใจที่เขาเป็นคนหลักในการแต่งเลย 558 00:38:57,797 --> 00:39:02,969 เขาเป็นนักแต่งเพลง พอเขาเริ่มเล่นทำนองขึ้นมา ผมชอบมาก 559 00:39:03,053 --> 00:39:07,641 จากนั้นทั้งจอห์นและคนอื่นๆ ก็ร่วมใส่กันเต็มที่ 560 00:39:07,724 --> 00:39:10,018 เราเลยได้เพลง The Ostrich มา 561 00:39:10,101 --> 00:39:12,354 ซึ่งเป็นเพลง ที่โปรดิวเซอร์ชื่อดังหลายคน 562 00:39:12,437 --> 00:39:16,441 อย่างวอร์เรน ทอมป์สัน จาก Elektra Records ต่างชื่นชอบ 563 00:39:16,524 --> 00:39:20,153 - ทำอย่างนกกระจอกเทศ - โว้ โว้ โว้ โว้ เย้ 564 00:39:20,237 --> 00:39:23,657 หันไปทางซ้าย แล้วเอาเท้าขึ้นด้านซ้าย 565 00:39:24,532 --> 00:39:25,575 ทำดีมาก 566 00:39:26,534 --> 00:39:29,120 เพลงนี้แต่งบนกีตาร์ ที่ปรับให้เล่นโน้ตเดียว 567 00:39:29,204 --> 00:39:34,000 กีตาร์ส่งเสียงที่ดังมาก ส่วนลูก็เล่นแทมบูรีนและร้องเพลง 568 00:39:34,084 --> 00:39:36,044 เขาปล่อยไปตามธรรชาติเลย 569 00:39:36,127 --> 00:39:38,922 เสียงแบบนั้นเลย เวลาที่เรานึกถึงหนุ่มๆ 570 00:39:39,005 --> 00:39:41,925 รวมตัวเล่นดนตรีกันในโรงรถ 571 00:39:42,008 --> 00:39:43,468 สุดยอดมาก 572 00:39:43,552 --> 00:39:45,595 ผมขาดสิ่งนั้นไปในวัยเด็กของผม 573 00:39:48,139 --> 00:39:51,393 จากนั้นเราได้เล่นในรายการ เดียวกับเชอร์ลี เอลลิส หรือ… 574 00:39:51,476 --> 00:39:54,312 "โบนานาบานา ฟีโฟฟัม" รู้จักไหม เพลงนั้น 575 00:39:54,396 --> 00:39:58,316 แล้วดีเจก็พูดว่า "เย้ เยี่ยมเลย เรามีวงดนตรีวงหนึ่ง" 576 00:39:58,400 --> 00:40:00,944 เขาพูดว่า "วง The Primitives ส่งตรงจากนครนิวยอร์ก 577 00:40:01,027 --> 00:40:03,238 มาพร้อมเพลงยอดนิยมล่าสุด 'The Ostrich'" 578 00:40:06,616 --> 00:40:11,538 ผมแทบไม่อยากเชื่อ ฟ้าทำพลาดหรือเปล่า 579 00:40:11,621 --> 00:40:13,081 (เสียงของโทนี คอนราด) 580 00:40:13,164 --> 00:40:15,041 มันผิดที่ผิดทางมาก 581 00:40:15,125 --> 00:40:21,673 ผมไม่เคยคิดที่จะใช้วิธีนี้ เบิกทางเส้นทางดนตรีของผม 582 00:40:23,258 --> 00:40:27,554 ที่ Pickwick ผมขอบอก ว่าเขามีประวัติที่โชกโชนมาก 583 00:40:27,637 --> 00:40:31,933 เรื่องการเมายา การป่วย 584 00:40:32,017 --> 00:40:37,647 การล้มลง การที่ผมต้องรีบ พาเขาไปโรงพยาบาล 585 00:40:38,440 --> 00:40:41,693 ถ้าให้พูดตรงๆ นั่นคือหนึ่งเหตุผลที่ผม 586 00:40:41,776 --> 00:40:46,615 คิดอยากจะยุติความสัมพันธ์ แม้ผมจะคิดว่าเขามีความสามารถมาก 587 00:40:47,115 --> 00:40:51,369 ลูบอกว่า "พวกเขาไม่ยอม ทำเพลงที่ผมอยากทำ" 588 00:40:51,870 --> 00:40:54,748 ผมฉุนเลย ผมพูดว่า "อะไรนะ" 589 00:40:55,540 --> 00:40:58,126 ผมถามว่า "แล้วคุณอยากทำเพลงอะไร" 590 00:40:58,209 --> 00:41:00,003 เขาเล่นเพลงอื่นๆ ของเขาให้ผมฟัง 591 00:41:00,086 --> 00:41:03,340 ผมเขียนถึงความเจ็บปวด 592 00:41:03,423 --> 00:41:06,426 และผมเขียนถึงสิ่งที่เจ็บ 593 00:41:06,509 --> 00:41:11,097 ผมเขียนถึงโลกความเป็นจริง ที่ผมรู้จัก หรือที่เพื่อนๆ ผมรู้จัก 594 00:41:11,181 --> 00:41:13,934 หรือสิ่งที่ผมได้เห็น ได้ยิน หรือ… 595 00:41:14,017 --> 00:41:18,980 ผมสนใจที่จะสื่อสาร กับคนที่อยู่นอกสังคม 596 00:41:19,064 --> 00:41:20,398 เขาบอกว่า "เหตุผล ที่พวกเขาไม่ยอมน่ะเหรอ" 597 00:41:20,482 --> 00:41:22,317 เพราะคนจะบ่นเกี่ยวกับเพลงพวกนี้ 598 00:41:22,400 --> 00:41:25,070 ว่าเป็นเพลง ที่ส่งเสริมการใช้ยาเสพติด 599 00:41:25,153 --> 00:41:26,613 แต่เพลงไม่ได้เกี่ยวกับยาเสพติด 600 00:41:26,696 --> 00:41:30,909 แต่เกี่ยวกับกลุ่มคนที่ป่วย และไม่พอใจกับชีวิตของตัวเอง 601 00:41:30,992 --> 00:41:32,577 ทำไมเราไม่ทำเองเลย 602 00:41:32,661 --> 00:41:39,584 ในปี 1964 อะพาร์ตเมนต์ห้องเดิม ที่ลัดโลว์ ตอนนั้นเหลือเคลกับรีด 603 00:41:39,668 --> 00:41:42,504 "I'm Waiting for the Man" คำร้องและดนตรีโดย ลู รีด 604 00:41:58,603 --> 00:42:01,982 การทำตัวเป็นปฏิปักษ์มีประโยชน์ 605 00:42:02,649 --> 00:42:05,694 เพราะเป็นการระบุจุดยืนของตัวเอง 606 00:42:05,777 --> 00:42:10,490 และระบุจุดยืนของฝ่ายตรงข้าม และพัฒนาต่อจากตรงนั้น 607 00:42:11,741 --> 00:42:14,160 สิ่งที่เราเข้าใจเกี่ยวกับตัวเรา 608 00:42:14,244 --> 00:42:17,455 และความไม่พอใจที่เรามี ต่อสิ่งอื่นๆ ซึ่งได้ผล 609 00:42:17,539 --> 00:42:20,750 เปล่าครับ ไม่ได้คิดเรื่องนั้นในหัวเลย 610 00:42:20,834 --> 00:42:22,794 แค่มารอเพื่อนที่รักมาก คนหนึ่งเท่านั้น 611 00:42:22,878 --> 00:42:26,047 อืม เขาจะ… เขาจะพูดตลอดว่า "เฮ้ย 612 00:42:26,131 --> 00:42:30,135 มันเกิดขึ้นได้ยังไง จากเวลส์เหรอ" 613 00:42:31,761 --> 00:42:35,223 เขาให้ผมดูเนื้อเพลง "Venus in Furs" กับ "I'm Waiting for the Man" 614 00:42:35,307 --> 00:42:39,102 ผมมองว่าเนื้อเพลงของสองเพลงนี้ มีความสอดคล้อง เขียนมาดีมาก 615 00:42:39,185 --> 00:42:44,482 แต่ผมพูดว่า "เดี๋ยวก่อน ดนตรีไม่ได้เสริมเนื้อเพลงเลย" 616 00:42:44,566 --> 00:42:46,735 ผมตื่นเต้นมาก ผมน่าจะทำให้ลูตื่นเต้นด้วย 617 00:42:46,818 --> 00:42:48,445 กับสิ่งที่เราสามารถทำได้ 618 00:42:49,487 --> 00:42:53,575 เราลองคาลิเบรชันที่หลากหลายมาก 619 00:42:53,658 --> 00:42:57,871 เครื่องดนตรีสามชิ้น สี่ชิ้น ลองหมด 620 00:43:21,102 --> 00:43:23,271 เงาวับ เงาวับ… 621 00:43:23,355 --> 00:43:28,652 วันหนึ่งบนรถไฟใต้ดิน เขาเจอ สเตอร์ลิงไม่สวมรองเท้าในฤดูหนาว 622 00:43:28,735 --> 00:43:31,071 เขาไม่ได้เจอสเตอร์ลิง ตั้งแต่ซีราคิวส์ 623 00:43:39,371 --> 00:43:41,456 ดิฉันเชื่อว่าเขาเห็นลู เล่นกับวงของเขาที่ซีราคิวส์ 624 00:43:41,539 --> 00:43:42,832 (มาร์ธา มอร์ริสัน) 625 00:43:42,916 --> 00:43:44,251 และเชื่อว่าเขาอยากร่วมด้วย 626 00:43:45,126 --> 00:43:47,170 ดิฉันว่าเขาแค่อยากทำ เขาพร้อม 627 00:43:47,254 --> 00:43:49,923 เขาเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 15 เรียนด้วยตัวเอง 628 00:43:50,006 --> 00:43:53,009 เขาจะถือกีตาร์ในงานปาร์ตี้ตลอด 629 00:43:53,093 --> 00:43:56,429 นั่นคือสิ่งที่เขาอยากจะทำ และ… นี่คือโอกาส 630 00:43:56,513 --> 00:43:58,139 (สเตอร์ลิง) 631 00:43:58,223 --> 00:44:01,768 อยู่ดีๆ เราก็มีมือกีตาร์ ที่ใส่ใจกับการโซโล่กีตาร์ 632 00:44:02,227 --> 00:44:04,521 ลูกับผมจะนั่งเล่นและอิมโพรไวส์ 633 00:44:04,604 --> 00:44:07,190 ส่วนสเตอร์ลิงจะเล่นโซโล่ 634 00:44:08,149 --> 00:44:11,945 เขาเล่นดีมาก สไตล์วง The Isley Brothers 635 00:44:12,654 --> 00:44:16,074 เขาเป็นธรรมชาติมาก… และอ่อนโยน 636 00:44:18,451 --> 00:44:24,624 ความคิดที่จะเอาแนวอาร์แอนด์บี มารวมกับแวกเนอร์ใกล้มาแล้ว 637 00:44:29,296 --> 00:44:33,717 (โม) 638 00:44:33,800 --> 00:44:36,595 วันหนึ่งฉันเรียนเสร็จ และกำลังขับรถกลับบ้าน 639 00:44:36,678 --> 00:44:41,349 วิทยุเล่นเพลง "Not Fade Away" ในเวอร์ชันของโรลลิงสโตนส์ 640 00:44:41,433 --> 00:44:46,187 แล้วต้องไปจอดข้างทาง เพราะตื่นเต้นเกินที่จะขับต่อ 641 00:44:48,815 --> 00:44:50,817 พวกเขากำลังหามือกลอง 642 00:44:50,901 --> 00:44:53,904 ดิฉันเลยบอกว่า "น้องสาวของจิมตีกลอง" 643 00:44:54,779 --> 00:44:56,531 ดิฉันขับรถพาลูไปหาเธอ 644 00:44:58,325 --> 00:45:01,453 แล้วมอรีน เป็นน้องสาวของเพื่อนเก่าผม… 645 00:45:01,536 --> 00:45:02,787 (เสียงของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน) 646 00:45:02,871 --> 00:45:06,124 ที่เรียนที่ซีราคิวส์เหมือนกัน และเป็นเพื่อนกับลูด้วย 647 00:45:06,207 --> 00:45:11,213 ที่ผ่านมามอรีนเล่นอยู่ กับวงดนตรีผู้หญิงที่ลองไอส์แลนด์ 648 00:45:11,296 --> 00:45:12,756 ต่อมาวงแตก 649 00:45:13,798 --> 00:45:16,301 เธอเลยมา… 650 00:45:16,384 --> 00:45:18,303 ไม่รู้สิ มาเล่นกลองนิดๆ หน่อยๆ 651 00:45:18,386 --> 00:45:20,805 มาเล่นสนุกๆ เฉยๆ 652 00:45:20,889 --> 00:45:23,099 ไม่รู้สิ เราเป็นกันเองมาก 653 00:45:25,185 --> 00:45:27,812 แล้วพอเธอกลับถึงบ้าน ประมาณห้าโมงเย็น 654 00:45:27,896 --> 00:45:29,481 เธอก็จะเปิดเพลงของโบ ดิดลีย์ 655 00:45:29,564 --> 00:45:31,983 แล้วเล่นทุกคืน ตั้งแต่ห้าโมงเย็นยันเที่ยงคืน 656 00:45:32,067 --> 00:45:34,694 เราเลยคิดว่าเธอน่าจะเป็นมือกลอง ที่ลงตัว ซึ่งก็จริง 657 00:45:35,820 --> 00:45:38,949 สนุกค่ะ ดิฉันก็ตื่นเต้นมาก… 658 00:45:39,032 --> 00:45:40,408 (มอรีน ทักเกอร์) 659 00:45:40,492 --> 00:45:42,535 ที่จะได้มีโอกาสเล่นสดร่วมกับคนอื่น 660 00:45:42,619 --> 00:45:45,538 ดิฉันไม่เคยเล่นร่วมกับใครมาก่อน ก็เลยสนุกค่ะ 661 00:45:49,125 --> 00:45:51,753 วิธีที่เราท้าทายความสามารถ ของบ็อบ ดิลลัน 662 00:45:51,836 --> 00:45:55,173 คือการขึ้นเวทีและอิมโพรไวส์ เพลงต่างออกไปทุกคืน 663 00:45:55,257 --> 00:45:56,758 ลูเชี่ยวชาญเรื่องนี้มาก 664 00:45:56,841 --> 00:46:00,095 เขาสามารถด้นเนื้อเพลงสดได้เสมอ เกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ได้ 665 00:46:00,762 --> 00:46:04,349 เขาจะเข้ามา นั่งลงพร้อมกีตาร์ ส่วนผมก็เล่นวิโอลา 666 00:46:04,432 --> 00:46:06,059 แล้วเขาก็จะเริ่มเพลง 667 00:46:08,186 --> 00:46:11,815 อยู่ดีๆ ก็จะมีเนื้อเพลง ที่แปลกประหลาดมาก 668 00:46:11,898 --> 00:46:15,944 ร้องไปร้องมา ในที่สุดเราจะได้อะไรเสมอ 669 00:46:16,820 --> 00:46:20,740 เราจะไม่รู้เลย ว่าลูหรือจอห์นจะดึงออกนอกโลกเมื่อไร 670 00:46:20,824 --> 00:46:23,451 จะเล่นอะไรก็ไม่มีใครเดาทางได้ 671 00:46:23,535 --> 00:46:25,620 ดิฉันรู้สึกว่าหน้าที่ดิฉัน คือการอยู่ตรงนั้น 672 00:46:25,704 --> 00:46:28,707 พอพวกเขาพร้อมจะกลับมา ดิฉันก็พร้อม 673 00:46:29,416 --> 00:46:33,712 ลูซึ่งอยู่ข้างๆ ดิฉัน… เหมือนมีกำแพงเสียงผุดขึ้นมา 674 00:46:35,797 --> 00:46:38,800 ดิฉันต้องมองปากเขา เพื่อที่จะรู้ ว่าเราอยู่ช่วงไหนของเพลง 675 00:46:41,386 --> 00:46:43,471 หลักๆ คือดิฉันจะไปตามลู 676 00:46:45,140 --> 00:46:48,727 นอกเหนือจากเนื้อเพลง ที่เขาเขียนได้ดี 677 00:46:48,810 --> 00:46:51,146 ผมสนใจการอิมโพรไวส์ของเขา 678 00:46:54,900 --> 00:46:58,528 ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมาก จากจิตใต้สำนึกโดยตรง 679 00:46:58,612 --> 00:47:02,365 พอผมได้ฟังเรื่องราวของลู เกี่ยวกับการบำบัดด้วยการช็อก 680 00:47:03,158 --> 00:47:05,994 ผมเรียบเรียงทุกอย่างในหัว 681 00:47:08,997 --> 00:47:11,499 ความเกี่ยวเนื่อง ของเรื่องนั้นกับดนตรี 682 00:47:11,583 --> 00:47:14,669 คือดนตรีนั้นจริงๆ แล้วเป็นดนตรีแนวดรีม 683 00:47:16,630 --> 00:47:20,800 สิ่งที่ผมชอบที่สุด เกี่ยวกับร็อกแอนด์โรลในสมัยนั้น 684 00:47:20,884 --> 00:47:23,470 คือลักษณะการซ้ำของริฟ 685 00:47:23,553 --> 00:47:26,181 เราจะรังสรรค์หนึ่งริฟอย่างไร 686 00:47:26,264 --> 00:47:31,394 ให้คงอยู่อย่างลงตัวตลอดทั้งเพลง 687 00:47:32,312 --> 00:47:34,522 มีเสียงโดรนรวมอยู่ในนั้นแน่นอน 688 00:47:59,548 --> 00:48:01,883 ตอนที่เราตั้งวง The Velvet Underground 689 00:48:01,967 --> 00:48:06,513 ผมมีเพลงอยู่ แล้วการที่ได้เห็น เพลงมีชีวิตขึ้นมาเป็นสิ่งที่สุดยอด 690 00:48:07,722 --> 00:48:10,559 คือผมเป็นนักดนตรีที่เล่นในวงตามบาร์ 691 00:48:14,813 --> 00:48:16,773 ในการร่วมงานส่วนใหญ่ 692 00:48:16,856 --> 00:48:18,858 พอลองทำกันดูก็ออกมาไม่ดีเท่าไร 693 00:48:20,986 --> 00:48:24,447 ความแปลกประหลาดนั้น ไม่ควรจะเกิดขึ้นที่นี่ 694 00:48:25,991 --> 00:48:29,119 แล้วจะมีการตั้งมาตรฐานเสมอ 695 00:48:30,203 --> 00:48:34,207 ว่าจะต้องสง่าอย่างไร และโหดอย่างไร 696 00:48:48,388 --> 00:48:53,518 บูทหนังที่เงาวับ เงาวับ เงาวับ 697 00:48:55,103 --> 00:48:59,399 เฆี่ยนเด็กสาวในความมืด 698 00:49:01,693 --> 00:49:06,948 มาตามกระดิ่ง ข้ารับใช้เธอ อย่าทรยศเขา 699 00:49:08,199 --> 00:49:12,913 ตีเลย แม่นางที่รักและรักษาใจเขา 700 00:49:24,841 --> 00:49:27,260 ฉันเหนื่อย 701 00:49:28,136 --> 00:49:29,930 ฉันอ่อนล้า 702 00:49:31,264 --> 00:49:36,269 ฉันนอนหลับได้เป็นพันปี 703 00:49:37,646 --> 00:49:43,109 พันความฝันที่จะทำให้ฉันตื่น 704 00:49:44,694 --> 00:49:47,781 เสียงโดรนได้รับการยอมรับ ทันทีที่ปล่อยเพลง Venus in Furs 705 00:49:47,864 --> 00:49:51,368 ผมรู้ว่าเรามีทางทำอะไร กับร็อกแอนด์โรล 706 00:49:51,451 --> 00:49:52,702 ที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน 707 00:49:55,121 --> 00:50:00,335 ทุกอย่างที่ทำกับกีตาร์เสียงเพี้ยน เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจมาก 708 00:50:00,418 --> 00:50:02,170 เพราะผมจะพูดว่า "เฮ้ ลู 709 00:50:02,254 --> 00:50:04,923 ไม่มีทางที่ใครจะคิดออก ว่าจะทำเสียงนี้ออกมาได้อย่างไร" 710 00:50:06,091 --> 00:50:09,052 ในบางมุม ผมแปลกใจ กับเสียงตอบรับจากนิวยอร์ก 711 00:50:09,135 --> 00:50:12,055 ผมว่าเราทำสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำ 712 00:50:12,138 --> 00:50:15,934 หนังเงาวับในความมืด 713 00:50:16,851 --> 00:50:21,064 ตอนนั้นผมคิดว่า สิ่งที่เราทำนั้นกล้าหาญมาก 714 00:50:21,147 --> 00:50:23,858 จนผู้คนทึ่งและประทับใจ 715 00:50:24,734 --> 00:50:30,240 ตีเลย แม่นางที่รักและรักษาใจเขา 716 00:50:30,323 --> 00:50:32,909 Café Bizarre เป็นสถานที่เล็กๆ 717 00:50:33,535 --> 00:50:35,787 เราตื่นเต้นมากกับงานนี้ที่ได้รับ 718 00:50:36,621 --> 00:50:40,959 มีคนไม่กี่คนอยู่ที่นั่น ไม่มีใครออกมาเต้น แปลกมาก 719 00:50:41,042 --> 00:50:43,503 บางคนหันหลังให้ฝูงชน 720 00:50:45,338 --> 00:50:47,966 พวกเขามีรังสีที่ไม่เป็นมิตร 721 00:50:48,925 --> 00:50:51,303 ค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว 722 00:50:57,475 --> 00:51:01,521 บาร์บารา รูบิน เป็นผู้กำกับมีระดับจากใจกลางเมือง 723 00:51:01,605 --> 00:51:04,399 เธอรู้จักบ็อบ ดิลลันเป็นอย่างดี รู้จักแอนดี 724 00:51:04,482 --> 00:51:07,694 เธอพยายามหนักมากที่จะรวบรวมทุกคน 725 00:51:07,777 --> 00:51:11,197 เธอเข้ามาที่ The Factory และประกาศว่ามีวงหนึ่งที่ดาวน์ทาวน์ 726 00:51:11,281 --> 00:51:13,241 ที่ทุกคนควรมาดู 727 00:51:14,576 --> 00:51:17,245 อยู่ดีๆ คนเริ่มมาที่คลับมากขึ้น 728 00:51:23,585 --> 00:51:26,504 เจราร์ดเป็นตัวแทนการเจรจา ของ The Factory 729 00:51:26,588 --> 00:51:28,632 เขาเข้ามาหาผมและพูดว่า 730 00:51:28,715 --> 00:51:31,635 "พวกคุณได้รับเชิญให้ ไปที่ The Factory บ่ายพรุ่งนี้" 731 00:51:41,102 --> 00:51:43,897 บาร์บารา รูบิน พาพวกเขาเข้ามา ทุกคนแต่งชุดดำ… 732 00:51:45,774 --> 00:51:47,067 แล้วก็เริ่มเล่น… 733 00:51:50,654 --> 00:51:53,490 พวกเขาเล่นเพลง "Heroin" เราก็แบบ… 734 00:51:53,990 --> 00:51:55,659 (แมรี โวโรนอฟ) 735 00:51:55,742 --> 00:51:57,953 ไม่น่าเชื่อ เสียงตอบรับดีมาก 736 00:52:01,039 --> 00:52:06,211 สิ่งที่สร้างกำลังใจ และแรงบันดาลใจอย่างมาก 737 00:52:06,294 --> 00:52:10,298 คือพอเราไปถึง The Factory ทุกอย่างเป็นเรื่องงาน 738 00:52:12,634 --> 00:52:15,011 ทุกวันที่ผมเดินเข้าไป เขามาถึงที่นั่นก่อนผมเสมอ 739 00:52:15,095 --> 00:52:17,472 เขาจะถามว่า "คุณเขียนเพลงมากี่เพลง" 740 00:52:17,556 --> 00:52:20,600 "ผมเขียนสิบเพลง" แล้วเขาจะพูดว่า "คุณนี่อู้จัง 741 00:52:20,684 --> 00:52:22,310 ทำไมไม่เขียนมาสัก 15 เพลง" 742 00:52:24,646 --> 00:52:26,356 มีคนเข้ามา มีคนออกไป 743 00:52:26,439 --> 00:52:29,693 ใบหน้าที่เราคุ้นเคย จะเข้ามา แล้วก็ออกไป 744 00:52:32,988 --> 00:52:35,115 ทุกอย่างเป็นการค้า 745 00:52:36,992 --> 00:52:40,996 ฉันไม่รู้ 746 00:52:44,374 --> 00:52:46,585 ว่าฉันกำลังไปไหน 747 00:52:54,759 --> 00:52:57,178 แต่ฉัน 748 00:52:59,264 --> 00:53:01,725 จะพยายาม 749 00:53:01,808 --> 00:53:05,812 ชิงอาณาจักรหากทำไหว 750 00:53:05,896 --> 00:53:09,399 เพราะนั่นทำให้รู้สึก ว่าตัวเองเป็นผู้ชาย 751 00:53:09,482 --> 00:53:12,485 เมื่อเอาเข็มจิ้มเข้าเส้นเลือด 752 00:53:13,069 --> 00:53:16,364 และบอกเธอว่า ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม 753 00:53:16,448 --> 00:53:19,451 เมื่อฤทธิ์ยาพัดพาฉันไป 754 00:53:19,534 --> 00:53:22,621 และรู้สึกเหมือนเป็นบุตรพระเยซู 755 00:53:22,704 --> 00:53:25,957 สงสัยฉันแค่ไม่รู้ 756 00:53:26,041 --> 00:53:29,711 และสงสัยฉันไม่รู้เลย 757 00:53:31,504 --> 00:53:33,798 แอนดีเป็นเทพ 758 00:53:33,882 --> 00:53:37,510 เขาเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก 759 00:53:38,386 --> 00:53:41,973 เขาเหมือนพ่อ ที่พูดว่า "ได้ๆ ได้" เสมอ 760 00:53:42,057 --> 00:53:47,687 ผมว่าบุคลิกของเขาด้านนี้ ทำให้ทุกคนมาที่ The Factory 761 00:53:47,771 --> 00:53:49,314 พวกเขารู้สึกว่าที่นั่นเป็นบ้าน 762 00:53:49,397 --> 00:53:51,983 เมื่อเลือดเริ่มจะไหลเวียน 763 00:53:52,067 --> 00:53:55,362 เมื่อยาพุ่งขึ้นไปตามลำคอคนเสพ 764 00:53:55,445 --> 00:53:58,615 เมื่อฉันเข้าใกล้ความตาย 765 00:54:05,497 --> 00:54:09,000 ไม่มีใครช่วยได้ พวกนายช่วยไม่ได้ 766 00:54:09,084 --> 00:54:11,878 สาวสวยก็ช่วยไม่ได้ ด้วยคำหวานของพวกเธอ 767 00:54:11,962 --> 00:54:13,463 ดิฉันอยากทำให้เขาประทับใจ 768 00:54:15,048 --> 00:54:18,843 เขาเหมือนเป็นคนดู ดิฉันอยากจะมีคนดูเหลือเกิน 769 00:54:18,927 --> 00:54:21,763 เอาละ แค่… คุณไม่ต้องทำอะไร 770 00:54:22,639 --> 00:54:24,099 ทำเท่าที่ทำอยู่นั่นแหละ 771 00:54:31,147 --> 00:54:32,148 แค่นั้น 772 00:54:36,570 --> 00:54:38,029 ไม่มีการกำกับ 773 00:54:40,198 --> 00:54:41,283 เฮโรอีน 774 00:54:41,366 --> 00:54:43,034 วอร์ฮอลไม่พูดสักแอะ 775 00:54:43,118 --> 00:54:45,996 แต่เมื่อเวลาผ่านไป ภาพของเขา จุดประกายความเคลื่อนไหว 776 00:54:46,079 --> 00:54:47,706 เพราะเขาไม่พูดสักแอะ 777 00:54:47,789 --> 00:54:49,708 ต้องทำฉันตายแน่ 778 00:54:49,791 --> 00:54:52,002 เราเลยถูกกระตุ้นให้ทำอะไรสักอย่าง 779 00:54:58,884 --> 00:55:04,306 เฮโรอีน 780 00:55:05,932 --> 00:55:08,143 มองตรงมาที่กล้อง 781 00:55:08,226 --> 00:55:09,644 (เสียงของเอมี โทบิน) 782 00:55:09,728 --> 00:55:12,314 พยายามอย่าขยับ อย่ากะพริบตา 783 00:55:14,482 --> 00:55:16,067 ถือว่าเป็นทักษะจริงๆ 784 00:55:16,151 --> 00:55:18,987 แล้วฉันจะมีสภาพดีกว่าตาย 785 00:55:38,340 --> 00:55:41,843 และขอบคุณพระเจ้าที่ฉันไม่สนเลย 786 00:55:41,927 --> 00:55:45,138 และคงเป็นเพราะฉันไม่รู้เลย 787 00:55:45,222 --> 00:55:48,683 โอ้ และคงเป็นเพราะฉันไม่รู้เลย 788 00:55:57,234 --> 00:56:02,572 เฮโรอีน 789 00:56:04,699 --> 00:56:06,201 ต้องทำฉันตายแน่ 790 00:56:06,284 --> 00:56:09,412 เราเป็นสปอนเซอร์ให้วงดนตรีใหม่ ชื่อว่า The Velvet Underground 791 00:56:09,913 --> 00:56:11,998 เนื่องจากผมเลิกเชื่อในภาพวาดแล้ว 792 00:56:12,082 --> 00:56:14,709 ผมว่านี่เป็นทางที่ดีในการรวม… 793 00:56:14,793 --> 00:56:18,755 และเรามีโอกาสนี้ ที่จะรวมดนตรีกับศิลปะ 794 00:56:18,838 --> 00:56:21,925 และภาพยนตร์เข้าด้วยกัน 795 00:56:22,008 --> 00:56:25,011 และเรายังได้ทำงานใน… 796 00:56:25,095 --> 00:56:26,721 ดิสโก้เทคที่ใหญ่ที่สุดในโลก 797 00:56:51,496 --> 00:56:52,789 ผมจะบอกให้ 798 00:56:53,331 --> 00:56:57,168 และแทบทุกอย่าง ในเดือนมิถุนายน ไม่นานที่ผ่านมา… 799 00:56:58,086 --> 00:57:00,964 - มาหรือยัง - รายการปัจจุบัน… 800 00:57:03,383 --> 00:57:05,760 มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมาย 801 00:57:05,844 --> 00:57:07,470 ในแง่ของธุรกิจ 802 00:57:07,554 --> 00:57:09,723 มีไพ่โลกขึ้นในตำแหน่งนี้ 803 00:57:09,806 --> 00:57:11,641 นั่นหมายถึงความสำเร็จและความสุข 804 00:57:11,725 --> 00:57:13,435 อย่างยิ่งยวดที่จะมาถึง 805 00:57:13,518 --> 00:57:15,896 และวงล้อแห่งโชคชะตา ซึ่ง… 806 00:57:15,979 --> 00:57:20,734 บ่งบอกถึงความทะเยอทะยาน และรวมถึง… 807 00:57:20,817 --> 00:57:23,653 เพื่อนสนิท คนที่ใกล้ชิด 808 00:57:23,737 --> 00:57:27,198 ไม่ค่อยมีความขัดแย้งในช่วงนี้ 809 00:57:27,949 --> 00:57:30,702 ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง หรืออะไรอย่างนั้น 810 00:57:30,785 --> 00:57:32,412 นั่นเป็นเพราะตอนนี้เราไม่ได้ทำงาน 811 00:57:32,495 --> 00:57:34,289 ใบนี้แสดง… 812 00:57:41,713 --> 00:57:45,884 การงาน ธุรกิจ… อาชีพของคุณ อะไรประมาณนั้น 813 00:57:45,967 --> 00:57:49,221 มีการแข่งขันสูงมาก… ตลอดเวลา 814 00:57:49,763 --> 00:57:52,849 จะมีการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา 815 00:57:56,394 --> 00:57:59,940 ส่วนใหญ่แล้ว คนที่มาที่ The Factory 816 00:58:00,023 --> 00:58:02,192 มาเพราะมีกล้องถ่ายอยู่ 817 00:58:02,275 --> 00:58:07,781 พวกเขาคิดว่าอาจมีโอกาสมีชื่อเสียง พวกเขาจะได้เป็นดารา 818 00:58:15,288 --> 00:58:17,874 อนาคตดูสดใสมาก มีความหยั่งรู้ใหม่ๆ 819 00:58:17,958 --> 00:58:19,793 และมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย 820 00:58:20,418 --> 00:58:25,757 อุดมคติบางอย่าง เกี่ยวกับความงามของผู้หญิง 821 00:58:26,591 --> 00:58:31,263 และถ้าคุณมีไม่ถึง… 822 00:58:31,346 --> 00:58:33,932 แล้วใครกันจะมีถึง 823 00:58:35,100 --> 00:58:36,977 นั่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก 824 00:58:38,687 --> 00:58:40,564 ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้หญิง 825 00:58:41,398 --> 00:58:46,111 และถ้าคุณยอมรับไม่ได้ ถึงข้อเท็จจริงที่ว่าคุณถูกให้ค่า 826 00:58:46,194 --> 00:58:48,029 จากหน้าตาเป็นหลัก 827 00:58:52,284 --> 00:58:54,869 ก็จบ 828 00:58:57,831 --> 00:58:59,457 วันหนึ่งเราทำงานอยู่ที่ The Factory 829 00:58:59,541 --> 00:59:00,917 (เสียงของบิลลี เนม) 830 00:59:01,001 --> 00:59:02,878 แล้วเจราร์ดเพิ่งกลับมาจากยุโรป 831 00:59:02,961 --> 00:59:08,174 เขามีเพลงความเร็ว 45 รอบต่อนาที และเป็นเสียงที่แปลก… 832 00:59:08,258 --> 00:59:11,803 ว่าฉันจะสนว่าเธอรักฉัน 833 00:59:11,887 --> 00:59:14,180 ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะสน 834 00:59:14,264 --> 00:59:19,102 (นิโก) 835 00:59:19,185 --> 00:59:21,563 เธอได้เล่นหนังเรื่อง La Dolce Vita 836 00:59:21,646 --> 00:59:23,565 อนิตา เอ็กเบิร์กเป็นนางเอก 837 00:59:23,648 --> 00:59:28,486 แต่นิโกเป็นเหมือนใบหน้าลับ ในหนังที่ทุกคนเห็น 838 00:59:28,570 --> 00:59:30,655 เพราะเธอสวยจนลืมไม่ลงจริงๆ 839 00:59:35,452 --> 00:59:38,038 ในที่สุดนิโกก็มานิวยอร์ก 840 00:59:41,249 --> 00:59:45,545 พอลเริ่มสนใจนิโกในแง่ของการโปรโมต 841 00:59:47,088 --> 00:59:52,802 พอลเริ่มทำให้แอนดีเชื่อ ว่าจะมีแค่วงร็อกแอนด์โรลไม่ได้ 842 00:59:52,886 --> 00:59:57,474 เพราะลูไม่ได้มีหน้าตาหล่ออะไร 843 00:59:57,557 --> 01:00:01,019 เสียงเขาก็ไม่ได้ดีอะไร "ต้องมีสาวสวยในวงด้วย" 844 01:00:06,983 --> 01:00:10,820 แอนดีแทบจะต้องขอร้อง กว่าลูจะยอมทำ 845 01:00:15,909 --> 01:00:18,745 เธอออกไปอีกแล้ว 846 01:00:18,828 --> 01:00:21,665 ดิฉันรู้ว่าช่วงแรก พวกเขาหงุดหงิดแทบตาย 847 01:00:21,748 --> 01:00:24,668 ที่เธอคงระดับเสียงสูงต่ำไม่ได้เลย 848 01:00:27,587 --> 01:00:32,217 น่าจะเป็นจอห์นอีกนั่นแหละ ที่คิดออกว่าจะทำอย่างไรกับเสียงนั้น 849 01:00:36,221 --> 01:00:37,764 ส่วนใหญ่จะแปลกมาก 850 01:00:37,847 --> 01:00:39,933 ที่เธอทำอย่างนี้ไม่ได้ ทำอย่างนั้นไม่ได้ 851 01:00:40,016 --> 01:00:42,644 แล้วอยู่ดีๆ เธอทำทุกอย่างได้ดีมาก 852 01:00:43,687 --> 01:00:45,230 ดิฉันต้องเรียนรู้ 853 01:00:54,322 --> 01:00:58,451 อยู่ดีๆ เราได้ตระหนักถึงการโฆษณา 854 01:00:58,535 --> 01:01:03,039 และการที่มีสาวเยือกเย็นผมทอง อยู่กลางเวที 855 01:01:03,123 --> 01:01:04,958 ข้างๆ เราที่เหลือที่แต่งชุดดำ 856 01:01:05,542 --> 01:01:09,296 ฉันจะเป็นกระจกสะท้อนตัวเธอ 857 01:01:09,379 --> 01:01:11,172 เผื่อเธอไม่รู้ 858 01:01:11,256 --> 01:01:15,093 สามหรือสี่เพลงที่เธอร้อง เหมาะที่สุดสำหรับเธอ 859 01:01:15,176 --> 01:01:18,138 ถ้าคนอื่นมาร้อง มันฟังแล้วไม่ใช่ 860 01:01:20,098 --> 01:01:21,933 เธอเป็นคนลึกลับมากสำหรับเราสมาชิกวง 861 01:01:22,017 --> 01:01:23,518 (เสียงของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน) 862 01:01:23,602 --> 01:01:25,186 เราไม่ได้มีโอกาสเดินทางมากนัก 863 01:01:25,270 --> 01:01:27,981 เราไม่ค่อยรอบรู้เท่าไร นอกจากจอห์น 864 01:01:28,773 --> 01:01:30,483 นอกจากเธอร้องเพลงได้ 865 01:01:30,567 --> 01:01:34,988 เธอไม่ได้มาเพื่อยืนสวยอย่างเดียว 866 01:01:35,071 --> 01:01:37,824 โปรดเอามือลง 867 01:01:37,908 --> 01:01:40,660 เพราะฉันเห็นเธอ 868 01:01:50,462 --> 01:01:54,883 แอนดีอยากให้เธอร้องเพลงในกล่องใส 869 01:01:54,966 --> 01:01:56,760 แต่นิโกไม่ยอม 870 01:01:57,510 --> 01:02:00,347 เธอเป็นนักดนตรีที่จริงจัง และเธออยากร้องเพลงเหล่านี้ 871 01:02:01,348 --> 01:02:04,184 ความสนใจในความงามของเธอ… 872 01:02:04,267 --> 01:02:05,477 (แจ็กสัน บราวน์) 873 01:02:05,560 --> 01:02:09,105 ผมว่าไม่ได้สำคัญกับเธอเลย 874 01:02:09,189 --> 01:02:11,608 เธอจะได้ไม่กลัว 875 01:02:11,691 --> 01:02:15,695 เมื่อเธอคิดว่ากลางคืน ได้เห็นจิตใจเธอแล้ว 876 01:02:16,363 --> 01:02:19,199 อาจจะเป็นมุมมองที่แอนดีมีต่อเธอ 877 01:02:19,282 --> 01:02:22,035 เธออยู่ห่างไกลมาก เธอเข้าถึงไม่ได้ 878 01:02:22,118 --> 01:02:23,954 ผมว่าเธอไม่ได้อยากโด่งดังเป็นพลุแตก 879 01:02:24,037 --> 01:02:27,832 ผมว่าเธอเพียงแต่อยากทำงานดีๆ งานที่ดีจริงๆ 880 01:02:28,625 --> 01:02:29,793 เพราะฉันเห็นเธอ 881 01:02:29,876 --> 01:02:32,504 เวลาที่คุณไม่มีชื่อเสียง คุณจะถูกเปรียบเทียบกับคนนู้นคนนี้ 882 01:02:32,587 --> 01:02:36,675 เธอจะโดนเปรียบเทียบ กับมาร์ลีน ดีทรีชหรือการ์โบ 883 01:02:37,175 --> 01:02:40,303 - ฉันจะเป็นกระจกของเธอ - สะท้อนตัวเธอ 884 01:02:41,304 --> 01:02:43,890 - ฉันจะเป็นกระจกของเธอ - สะท้อนตัวเธอ 885 01:02:43,974 --> 01:02:45,684 ตอนนี้คนจะเปรียบเทียบคนอื่นกับเธอ 886 01:02:45,767 --> 01:02:48,937 - ฉันจะเป็นกระจกของเธอ - สะท้อนตัวเธอ 887 01:02:50,814 --> 01:02:52,232 เราได้บางอย่างจากพวกเขา 888 01:02:52,315 --> 01:02:56,361 เราพบกับทอม วิลสัน ซึ่งผลิตเพลงให้บ็อบ ดิลลัน 889 01:02:56,444 --> 01:02:58,446 และเรามีความคืบหน้า 890 01:02:58,530 --> 01:03:00,115 เราสามารถออกอัลบั้ม 891 01:03:00,198 --> 01:03:04,619 นอร์แมน ดอล์ฟเดินเข้ามา เทเงิน 1,500 เหรียญให้แอนดีทำเพลง 892 01:03:05,453 --> 01:03:06,621 โห 893 01:03:07,497 --> 01:03:08,873 เรากำลังไล่ล่าอะไรสักอย่าง 894 01:03:13,670 --> 01:03:16,965 ฉันรอผู้ชายของฉันอยู่ 895 01:03:21,344 --> 01:03:23,972 ในมือมีอยู่ยี่สิบหกเหรียญ 896 01:03:27,976 --> 01:03:31,396 ไปถึงเล็กซิงตัน 125 897 01:03:31,479 --> 01:03:35,483 รู้สึกป่วยและสกปรก เหมือนตายมากกว่าเป็น 898 01:03:36,192 --> 01:03:39,321 แอนดีเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดา และจากใจจริงผมไม่คิด 899 01:03:39,404 --> 01:03:41,990 ว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ หากไม่มีแอนดี 900 01:03:42,073 --> 01:03:43,742 ผมไม่รู้ว่าเราจะได้เซ็นสัญญาไหม 901 01:03:43,825 --> 01:03:46,828 ถ้าเขาไม่ได้ตกลงที่จะทำปกให้ หรือถ้านิโกไม่ได้สวยขนาดนั้น 902 01:03:51,082 --> 01:03:55,295 เฮ้ หนุ่มผิวขาว นายมาไล่ต้อนหญิงสาวของเรารึ 903 01:04:03,220 --> 01:04:06,097 เราซ้อมกันหนึ่งปีเต็ม สำหรับอัลบั้มกล้วยนั่น 904 01:04:08,266 --> 01:04:10,018 แอนดีเป็นโปรดิวเซอร์ อัลบั้มแรกของเรา 905 01:04:10,101 --> 01:04:13,396 ในแบบที่เขามายืนหายใจอยู่ในสตูดิโอ 906 01:04:13,480 --> 01:04:16,024 แต่เขาก็ทำมากกว่านั้น 907 01:04:16,107 --> 01:04:18,193 เขาทำให้เรามีโอกาสออกอัลบั้ม 908 01:04:18,276 --> 01:04:22,572 โดยไม่มีใครมาเปลี่ยนอะไรเลย เพราะมีแอนดี วอร์ฮอล 909 01:04:25,158 --> 01:04:28,995 รองเท้าเปอร์โตริโก กับหมวกฟางใบใหญ่ 910 01:04:29,079 --> 01:04:30,997 เขาเข้าใจตัวตนของเราจริงๆ 911 01:04:31,081 --> 01:04:36,253 เข้าใจความสร้างสรรค์ของเรา และวิธีดึงศักยภาพนั้นออกมา 912 01:04:37,087 --> 01:04:39,506 เขาสนับสนุนเราอย่างมาก 913 01:04:39,589 --> 01:04:41,424 จะต้องรอ 914 01:04:41,508 --> 01:04:45,095 ฉันรอผู้ชายของฉันอยู่ 915 01:04:45,178 --> 01:04:48,723 นิโกหลงรักลู แอนดีหลงรักลู 916 01:04:49,516 --> 01:04:52,936 หนุ่มๆ สาวๆ ผู้หญิง ผู้ชาย ต่างตกหลุมรักเขา 917 01:05:03,405 --> 01:05:06,783 ตอนนั้นผมวาดรูปแล้ว และอยากให้คนอื่นเข้าใจ 918 01:05:06,866 --> 01:05:08,702 และกำลังมองหาที่ปลดปล่อย 919 01:05:08,785 --> 01:05:13,832 จนเพื่อนผมคนนึงเอาแผ่นเพลงมา ตอนที่ผมอายุ 15… 920 01:05:13,915 --> 01:05:15,333 (โจนาธาน ริชแมน) 921 01:05:15,417 --> 01:05:17,168 เขาอยากแลก เพราะเขา… ไม่ใช่แนวเขา 922 01:05:17,252 --> 01:05:20,255 ส่วนผมมีแผ่นของวง Fugs ที่ผมพอจะแลกได้ 923 01:05:20,338 --> 01:05:22,632 ผมชื่นชอบท่วงทำนองของลู รีด 924 01:05:22,716 --> 01:05:26,553 "รองเท้าเปอร์โตริโกกับหมวกฟาง ใบใหญ่" 925 01:05:28,054 --> 01:05:29,723 ความ… 926 01:05:32,726 --> 01:05:35,937 กับเสียงโดรนของเคลที่สอดแทรกอยู่ 927 01:05:37,188 --> 01:05:39,107 แบบนี้ ใช่เลย 928 01:05:39,190 --> 01:05:41,776 ไม่อยากได้แผ่นนี้เหรอ แผ่นนี้ผมต้องการ 929 01:05:41,860 --> 01:05:44,195 คนกลุ่มนี้จะเข้าใจ… คำแรกที่ออกจากปากผม 930 01:05:44,279 --> 01:05:46,948 น่าจะเป็น "คนกลุ่มนี้จะเข้าใจฉัน" 931 01:05:49,367 --> 01:05:51,745 เขามีของพร้อม มีให้ลองลิ้มรส 932 01:05:51,828 --> 01:05:53,580 มีบางองค์ประกอบในสิ่งที่ลูกำลังทำ… 933 01:05:53,663 --> 01:05:55,206 (เสียงของเดวิด โบวี) 934 01:05:55,290 --> 01:05:58,376 ที่ถูกต้องและไม่พลาด เป็นลักษณะการเขียนเนื้อเพลงของเขา 935 01:05:58,460 --> 01:06:03,632 ดีแลนได้นำความฉลาดรูปแบบใหม่ เข้ามาในการเขียนเพลงป็อป 936 01:06:03,715 --> 01:06:06,760 แต่ลูพาไปถึงความล้ำยุคเลย 937 01:06:06,843 --> 01:06:10,597 โดยมีรากฐานในโบดแลร์ แรงโบด์ และ… 938 01:06:10,680 --> 01:06:13,516 แต่ในเวลานั้น สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ 939 01:06:18,688 --> 01:06:20,690 ไม่ได้รับการส่งเสริม 940 01:06:20,774 --> 01:06:23,652 สถานีวิทยุหลายแห่งไม่ยอมเปิดเพลงเรา 941 01:06:23,735 --> 01:06:26,613 เพลง "Heroin" พวกเขาไม่… พวกเขาไม่ยอมเปิด 942 01:06:27,864 --> 01:06:29,783 แต่ MGM ก็ไม่ใช่… 943 01:06:29,866 --> 01:06:33,161 ตอนนั้นพวกเขาน่าจะตัดสินใจแล้ว ว่า Mothers of Invention 944 01:06:33,245 --> 01:06:36,915 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า พวกเขาเลยแทบไม่ได้ทำอะไร 945 01:06:36,998 --> 01:06:39,793 เหมือนจับเรามาเซ็นสัญญา เพื่อที่เราจะไม่ต้องเร่ร่อน 946 01:06:39,876 --> 01:06:42,629 จนถึงพรุ่งนี้ แต่พรุ่งนี้ยังอีกไกล 947 01:06:43,713 --> 01:06:47,217 ฉันรอผู้ชายของฉันอยู่ 948 01:06:48,927 --> 01:06:50,345 แล้วเดินกลับบ้าน 949 01:06:58,270 --> 01:06:59,729 โอ้ ไม่เป็นไร 950 01:07:01,439 --> 01:07:03,233 เรามารวมตัวกันที่นี่ 951 01:07:03,316 --> 01:07:06,069 แอนดี วอร์ฮอล กวีเจราร์ด มาลานกา 952 01:07:06,152 --> 01:07:08,530 ตรงนั้น ถ้าหันกล้องไป เอ็ด ซานเดอร์ส 953 01:07:08,613 --> 01:07:10,740 จากวงร็อกแอนด์โรลที่ชื่อ The Fugs 954 01:07:10,824 --> 01:07:14,619 ปีเตอร์ ออร์ลอฟสกี ซึ่งเป็นกวี และร้องมันตราอินเดียด้วย 955 01:07:14,703 --> 01:07:17,330 อ่อ โจนัส เมคัสถ่ายหนัง จะเห็นว่าตอนนี้เขาก็ถ่ายอยู่ 956 01:07:19,457 --> 01:07:22,085 แค่ในนิวยอร์ก 957 01:07:22,168 --> 01:07:25,922 มีศิลปิน 30 หรือ 40 คน 958 01:07:26,006 --> 01:07:30,010 กำลังทำผลงานที่ไม่ได้ยึดติด กับแขนงของตน 959 01:07:30,093 --> 01:07:32,387 แต่รวมแขนงอื่นด้วย 960 01:07:34,806 --> 01:07:38,143 เราเลยจัดเทศกาลแบบนี้เป็นครั้งแรก 961 01:07:38,226 --> 01:07:41,605 เพื่อสำรวจว่ามีอะไรอยู่บ้าง 962 01:07:41,688 --> 01:07:45,859 ในวงการศิลปะและภาพยนตร์ ที่ขยายกว้างออกไป 963 01:07:45,942 --> 01:07:49,571 นั่นเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน หรือธันวาคม ปี 1965 964 01:07:49,654 --> 01:07:53,658 ในปี 1966 ผมเช่าโรงละคร บนถนนหมายเลข 41... 965 01:07:53,742 --> 01:07:55,201 (โจนัส เมคัส) 966 01:07:55,285 --> 01:07:58,580 ที่ไทม์สแควร์ เราไปต่อกันที่นั่น 967 01:08:02,959 --> 01:08:07,797 Chelsea Girls เปิดตัวที่นั่น มีการฉายหนังวอร์ฮอลหลายเรื่อง 968 01:08:16,932 --> 01:08:20,018 วัยรุ่นแมรีกล่าวกับลุงเดฟ 969 01:08:20,101 --> 01:08:23,521 "หนูขายวิญญาณ ต้องได้รับความช่วยเหลือ 970 01:08:23,605 --> 01:08:25,774 เราตัดสินใจ ว่าเราจะทำสื่อประสม… 971 01:08:25,857 --> 01:08:27,025 (เสียงของบิลลี เนม) 972 01:08:27,107 --> 01:08:30,111 ซึ่งเปิดให้ชมสองสามสัปดาห์ ชื่อ "Andy Warhol's Up-Tight" 973 01:08:30,695 --> 01:08:33,406 นำแสดงโดย The Velvet Underground กับเจราร์ด มาลานกา 974 01:08:33,490 --> 01:08:36,701 และแมรี โวโรนอฟ ทั้งเต้นรำและอีกมากมาย 975 01:08:36,785 --> 01:08:40,455 วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง เสพยาจนดับและตัวเธอ 976 01:08:40,538 --> 01:08:42,915 บอกเธอว่าต้องทำอะไร 977 01:08:44,125 --> 01:08:46,210 เพื่อเตรียมตัว เราได้… 978 01:08:46,294 --> 01:08:48,672 ถ่าย The Velvet Underground และนิโก ใน The Factory 979 01:08:50,173 --> 01:08:52,926 แล้วขณะที่พวกเขาแสดงสด 980 01:08:53,009 --> 01:08:56,596 บนเวทีที่หอภาพยนตร์ เรานำภาพนั้นมาฉายบนตัวพวกเขา 981 01:08:56,679 --> 01:08:59,473 ออกไปขายวิญญาณ เธอไม่เมายา 982 01:09:00,267 --> 01:09:02,393 เธอไม่รู้ คิดว่าจะซื้อได้ 983 01:09:02,477 --> 01:09:06,982 ร้าน Dom Polski ที่ถนนเซนต์มาร์กเพลส 984 01:09:07,065 --> 01:09:11,361 ในอีสต์วิลเลจมีห้องว่าง 985 01:09:11,444 --> 01:09:13,572 เราเลยอยู่ที่นั่นเดือนกว่าๆ 986 01:09:13,655 --> 01:09:19,286 และขยาย "Andy Warhol's Up-Tight" เป็น "Exploding Plastic Inevitable" 987 01:09:22,455 --> 01:09:25,333 ที่นี่เคยเป็นบ้านแห่งชาติของโปแลนด์ 988 01:09:25,417 --> 01:09:29,295 ตอนนี้เป็น The Dom ใจกลางชีวิตกลางคืนของอีสต์วิลเลจ 989 01:09:29,379 --> 01:09:32,382 ดนตรีโดยนิโก และ The Velvet Underground 990 01:09:32,464 --> 01:09:34,593 "The Exploding Plastic Inevitable" 991 01:09:34,676 --> 01:09:40,014 ออกแบบโดยแอนดี วอร์ฮอลแห่งวงการ ศิลปะป็อปและดาราสาวประจำปีของเขา 992 01:09:40,098 --> 01:09:43,435 สไตล์การร้องของเธอนั้นแปลก 993 01:09:46,938 --> 01:09:48,356 (แอนดีมีอะไรสำหรับทุกคน) 994 01:09:48,440 --> 01:09:53,862 แอนดีมีวงร็อกแอนด์โรล ที่ชื่อว่า The Velvet Underground 995 01:09:56,656 --> 01:10:01,453 ดิสโก้เทคในความคิดของเขา คือการเปิดหอเต้นรำ 996 01:10:01,536 --> 01:10:03,997 ให้นักดนตรีของเขาไปเล่น 997 01:10:04,080 --> 01:10:06,625 ฉายหนังหลายเรื่องไปพร้อมกัน 998 01:10:06,708 --> 01:10:10,795 เปิดแสงไฟหลากสี ขณะที่คนเต้นหรือรับชม 999 01:10:11,338 --> 01:10:12,714 สุดยอด 1000 01:10:16,384 --> 01:10:18,345 (แอนดี วอร์ฮอล - การแสดงสด The Velvet Underground) 1001 01:10:20,388 --> 01:10:23,850 ผมมาเป็นมือกีตาร์ให้นิโก ในโชว์ที่เธอเล่นที่ The Dom 1002 01:10:23,934 --> 01:10:25,560 ผมได้เล่นเปิดด้วย 1003 01:10:25,644 --> 01:10:29,439 ผมไม่ได้… ผมไม่ได้มีผลงานเพลง ไม่ได้เป็นจุดสนใจใดๆ 1004 01:10:29,522 --> 01:10:30,607 ผมแค่เล่นเพลงหนึ่งชุด 1005 01:10:33,693 --> 01:10:36,696 มักไม่มีใครมาจนกว่าแอนดีจะมา 1006 01:10:38,156 --> 01:10:39,407 เขานี่แหละที่เป็นจุดสนใจ 1007 01:10:55,173 --> 01:10:58,468 สำหรับระเบียง แอนดีมักจะวางโปรเจ็กเตอร์ 1008 01:10:58,552 --> 01:11:02,639 มีทั้งเจล สี และไฟมากมาย 1009 01:11:06,434 --> 01:11:08,562 เนื่องจากไม่มีใครใช้ไฟเป็น 1010 01:11:08,645 --> 01:11:10,230 เราเลยให้คนดูเล่น 1011 01:11:10,313 --> 01:11:11,773 นั่นเป็นอีกเหตุผลที่เราทำเงินไม่ได้ 1012 01:11:11,856 --> 01:11:14,442 คนดูจะทำพังตลอด หรือไม่ก็จะตกระเบียงไป 1013 01:11:14,526 --> 01:11:17,904 วิธีการของแอนดีจะประมาณว่า… 1014 01:11:17,988 --> 01:11:21,950 "อ่อ ใครรู้วิธีคุมไฟบ้าง อ่อ คุณรู้วิธีใช้ไฟไหม" 1015 01:11:28,582 --> 01:11:31,042 ผู้คนจะดูหนังของเขา 1016 01:11:31,126 --> 01:11:33,587 แต่พวกเขาดูไม่ได้ เพราะไม่มีเส้นเรื่อง 1017 01:11:33,670 --> 01:11:37,382 เลยเกิดความประหลาดที่ว่า "นี่คือความจริงหรือเรื่องแต่ง" 1018 01:11:37,465 --> 01:11:40,385 เราก็ไม่รู้ เหมือนเป็นการสะกดจิต 1019 01:12:14,419 --> 01:12:17,631 ชั้นบนกลายเป็นวงการ ที่พัฒนาต่อเนื่อง 1020 01:12:17,714 --> 01:12:20,717 บุคคลอย่างวอลเตอร์ ครอนไคต์ และแจ็กกี เคนเนดี 1021 01:12:20,800 --> 01:12:24,804 รวมถึงอีกหลายคนในวงสังคม จะมาเพราะแอนดี 1022 01:12:24,888 --> 01:12:30,185 และเพราะเส้นสายของเขาในหมู่นักสะสม ศิลปะบนถนนเซ็นทรัลปาร์กเวสต์ 1023 01:12:30,268 --> 01:12:32,604 บุคคลสำคัญมากมายมาร่วมเต้นรำกัน 1024 01:12:32,687 --> 01:12:34,814 นูเรเยฟก็มาเต้นรำ 1025 01:12:34,898 --> 01:12:38,068 New York City Ballet ทั้งคณะ ก็มาเต้นรำ 1026 01:12:56,336 --> 01:12:59,548 ผมคิดว่าพวกเขาไม่ได้รวมตัวกัน 1027 01:12:59,631 --> 01:13:02,884 เพื่อที่จะจัดเป็นงานแสดงบนเวที ที่ตระการตา 1028 01:13:02,968 --> 01:13:03,969 (แดนนี ฟีลด์ส) 1029 01:13:04,052 --> 01:13:09,140 พวกเขารวมตัวกัน เพราะมีความมหัศจรรย์ของดนตรี 1030 01:13:09,224 --> 01:13:12,686 ที่เกิดขึ้นในเพลงของลู 1031 01:13:14,145 --> 01:13:16,898 บาร์บารา รูบิน ผู้ที่ค้นพบพวกเขา ด้วยเหตุผลที่ถูกจุด 1032 01:13:16,982 --> 01:13:21,403 เป็นคนเริ่มฉายลายจุดบ้าๆ นั่น บนตัวพวกเขา 1033 01:13:21,486 --> 01:13:26,116 ตอนที่พวกเขาเล่น ทำอย่างกับว่า พวกเขายังไม่ตื่นเต้นพอ 1034 01:13:26,199 --> 01:13:29,661 ผมจะพูดว่า "ลู คุณ… ทำไมพวกเขาทำแบบนี้กับคุณ" 1035 01:13:29,744 --> 01:13:32,497 แน่นอนว่าเขาจะยักไหล่และพูดว่า 1036 01:13:32,581 --> 01:13:36,668 "แอนดีต้องการแบบนี้ คนกันเองทั้งนั้น" 1037 01:13:37,460 --> 01:13:41,548 หลังจากที่ทำอย่างนี้ ประมาณสามสัปดาห์ เราก็ออกทัวร์ 1038 01:13:54,394 --> 01:13:57,397 มีหลายครั้ง ที่เราจะเล่นในงานแสดงศิลปะ 1039 01:13:57,480 --> 01:14:02,068 พวกเขาเชิญแอนดีไป ส่วนเราเป็นส่วนของการแสดง 1040 01:14:03,778 --> 01:14:06,364 พวกเขาจะมากันเป็นขโยง เหล่าคนในวงสังคมที่ร่ำรวย 1041 01:14:06,448 --> 01:14:08,033 (สมาคมนิวยอร์ก เพื่อการวินิจฉัยโรคทางจิตเวช) 1042 01:14:08,116 --> 01:14:10,285 รวมถึงศิลปินและคนอื่นๆ และนี่คือ… 1043 01:14:10,368 --> 01:14:12,954 พวกเขาไม่ได้อยากฟังวงดนตรี และยิ่งไม่สนใจที่เราทำอยู่ 1044 01:14:14,664 --> 01:14:16,041 (สมาคมภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส นิวอาร์ก) 1045 01:14:16,124 --> 01:14:18,335 ผมได้รับชม Exploding Plastic Inevitable 1046 01:14:18,418 --> 01:14:20,378 กับ The Velvet Underground ที่ The Dom ในนิวยอร์กแล้ว 1047 01:14:20,462 --> 01:14:21,713 (จอห์น วอเตอร์ส) 1048 01:14:21,796 --> 01:14:23,381 แต่พอผมอยู่ที่นี่ และได้ยินว่าพวกเขาจะมา 1049 01:14:23,465 --> 01:14:25,634 ในเมืองโพรวินซ์ทาวน์ที่ผมอาศัยอยู่ 1050 01:14:25,717 --> 01:14:28,053 ที่พิพิธภัณฑ์ Chrysler ลงจองเป็นงานแสดงศิลปะ 1051 01:14:28,136 --> 01:14:29,262 (พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Chrysler โพรวินซ์ทาวน์) 1052 01:14:29,346 --> 01:14:31,973 มีคนไปไม่มาก คนเมืองนี้ไม่เข้าใจ 1053 01:14:33,558 --> 01:14:35,644 ใจผมคิดว่าน่าจะประหลาดมาก ถ้าจะให้พวกเขา… 1054 01:14:35,727 --> 01:14:36,853 (เทศกาลภาพยนตร์แอนน์ อาร์เบอร์ รัฐมิชิแกน) 1055 01:14:36,937 --> 01:14:38,855 มาดูจุดสูงสุดของยุคฮิปปี้ และอะไรแนวนี้ 1056 01:14:38,939 --> 01:14:40,857 ทั้งที่พวกเขาต่อต้านฮิปปีมาก 1057 01:14:41,733 --> 01:14:45,445 (งานแต่งงาน MOD งานแสดงนิทรรศการรัฐมิชิแกน) 1058 01:14:50,533 --> 01:14:52,869 ดิฉันรู้ว่าเรา ได้แฟนเพลงใหม่มากมายจากตรงนั้น 1059 01:14:52,953 --> 01:14:54,162 (งานการกุศลเมิร์ส คันนิงแฮม เมืองนิวคานาน) 1060 01:14:54,246 --> 01:14:56,665 แต่เรามักจะพูดเล่นกันว่า "เอาละ มีกี่คนที่เดินออก 1061 01:14:56,748 --> 01:14:59,042 ประมาณครึ่งหนึ่ง แปลว่าคืนนี้เราเล่นดี" 1062 01:15:10,220 --> 01:15:12,389 ไม่ได้เป็นแค่เสียง… 1063 01:15:12,472 --> 01:15:14,182 (เสียงของนิโก) 1064 01:15:14,266 --> 01:15:17,394 แต่เป็นดนตรีประเภทที่เราจะได้ยิน… 1065 01:15:17,477 --> 01:15:20,438 เวลาที่มีพายุ 1066 01:15:37,914 --> 01:15:41,334 จากนั้นพอลก็พาเราไปเล่นฝั่งตะวันตก 1067 01:15:46,089 --> 01:15:47,716 วันจันทร์ วันจันทร์ 1068 01:15:50,010 --> 01:15:52,345 ดีต่อฉันเหลือเกิน 1069 01:15:52,429 --> 01:15:54,264 ในด้านดนตรี ชายฝั่งตะวันตก 1070 01:15:54,347 --> 01:15:58,059 มีความพยายามอย่างเป็นแบบแผน ที่จะมีอิทธิพลในวงการป็อป 1071 01:15:58,143 --> 01:16:00,437 เป็นอย่างที่ฉันหวังทุกอย่าง 1072 01:16:00,520 --> 01:16:02,606 จำได้ว่าเราอยู่ในรถเช่า ขากลับจากสนามบิน 1073 01:16:02,689 --> 01:16:03,940 (เสียงของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน) 1074 01:16:04,024 --> 01:16:06,276 ผมเปิดวิทยุ แล้วเพลงแรกที่เล่น คือเพลง "Monday, Monday" 1075 01:16:06,359 --> 01:16:08,278 ผมพูดว่า "ผมไม่แน่ใจ 1076 01:16:08,361 --> 01:16:10,155 บางทีเราอาจไม่พร้อม สำหรับอะไรแบบนี้" 1077 01:16:14,326 --> 01:16:16,286 เรามาถึงลอสแอนเจลีส 1078 01:16:16,369 --> 01:16:18,872 และครั้งแรกที่เราสังเกต ว่าเราแตกต่าง 1079 01:16:18,955 --> 01:16:22,918 คือตอนที่เรา ไปที่โรงแรม Tropicana Motel 1080 01:16:24,044 --> 01:16:27,714 เราสวมชุดดำที่มิดชิดทั้งตัว 1081 01:16:27,797 --> 01:16:29,549 และเรานั่งกันอยู่รอบสระว่ายน้ำ 1082 01:16:29,633 --> 01:16:30,634 (แมรี โวโรนอฟ) 1083 01:16:30,717 --> 01:16:32,510 แบบว่า เราแลดูโง่มาก 1084 01:16:33,011 --> 01:16:36,097 ยกเว้นเจราร์ด เจราร์ดอยู่ด้านหลัง กำลังเอากับใครอยู่ 1085 01:16:46,024 --> 01:16:49,110 เช้าวันอาทิตย์ 1086 01:16:50,362 --> 01:16:53,782 นำพารุ่งอรุณ 1087 01:16:55,158 --> 01:17:01,539 เป็นเพียงความรู้สึกอยู่ไม่สุข ข้างกายฉัน 1088 01:17:01,623 --> 01:17:04,125 เรายังไม่เคยมา ที่ชายฝั่งตะวันตก 1089 01:17:04,209 --> 01:17:08,171 และแปลกที่เรารู้สึกว่าทุกคน มีสุขภาพดีมาก 1090 01:17:08,880 --> 01:17:13,009 และการแสดงแสงสีในความคิดของพวกเขา คือการเปิดสไลด์ภาพพระพุทธเจ้าบนผนัง 1091 01:17:14,594 --> 01:17:17,973 พอเรามาถึงแคลิฟอร์เนีย เราไปที่ร้าน The Trip ที่นั่นมีเวที 1092 01:17:18,056 --> 01:17:20,767 มีเวทีแล้วต้องมีใคร เจราร์ดกับดิฉัน 1093 01:17:20,850 --> 01:17:25,772 เราจะทำการแสดงหนึ่ง เพื่อให้คนหันมามองวงเรามากขึ้น 1094 01:17:26,314 --> 01:17:32,362 จะมีหนึ่งคนรอบตัวคุณเสมอที่จะโทร 1095 01:17:33,405 --> 01:17:36,825 ไม่มีอะไรเลย 1096 01:17:38,451 --> 01:17:41,496 แล้วพวกเขาแอบเพิ่มชื่อ แฟรงก์ แซปปาในรายการแสดงด้วย 1097 01:17:41,580 --> 01:17:44,874 และวง Mothers of Invention เราทนพวกเขาไม่ได้จริงๆ 1098 01:17:44,958 --> 01:17:48,420 เรารู้สึกว่าพวกเขาเป็นทุกสิ่ง ที่ชายฝั่งตะวันตกเป็น 1099 01:17:49,462 --> 01:17:52,299 พวกเขาเป็นฮิปปี้ เราเกลียดฮิปปี้ 1100 01:17:52,382 --> 01:17:55,468 พลังบุปผา การเผาเสื้อยกทรง 1101 01:17:55,552 --> 01:17:57,637 ถามจริงๆ ว่าเป็นบ้าอะไรกัน 1102 01:17:57,721 --> 01:18:00,849 ความไร้สาระของ "รักและสันติภาพ" เราเกลียดมาก ตื่นเถิด 1103 01:18:01,474 --> 01:18:04,519 แล้ว… รักอิสระกับ… 1104 01:18:04,603 --> 01:18:07,355 "ทุกคนดีงาม ฉันรักทุกคน ฉันดีงามใช่ไหม" 1105 01:18:08,523 --> 01:18:13,153 ทุกคนอยากมีโลกที่สงบสุข โดยที่จะไม่โดนยิงหัวทิ้งเสียก่อน 1106 01:18:13,236 --> 01:18:16,406 แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดคน โดยการยื่นดอกไม้ 1107 01:18:16,489 --> 01:18:18,366 ให้กับคนบ้าที่อยากจะยิงเรา 1108 01:18:19,200 --> 01:18:20,577 พวกเขาน่าจะ… 1109 01:18:21,870 --> 01:18:24,873 ช่วยเหลือคนไร้บ้าน หรือทำอะไรสักอย่าง 1110 01:18:24,956 --> 01:18:29,294 ลงมือแก้ปัญหา ไม่ใช่เดินไปเดินมา พร้อมดอกไม้ติดผม 1111 01:18:31,463 --> 01:18:35,926 นั่นเป็นการหลีกเลี่ยง ความสำคัญของอันตรายที่มีอยู่ 1112 01:18:36,009 --> 01:18:37,969 แล้วถ้าคุณหมกมุ่นอยู่กับโลกนั้น 1113 01:18:38,053 --> 01:18:40,972 คุณจะไม่ตระหนักถึง พลังของความอันตราย 1114 01:18:42,599 --> 01:18:44,434 เผ่าพันธุ์มนุษย์เละไม่เป็นท่า 1115 01:18:45,143 --> 01:18:49,481 และพวกเขากำลังถูกสังคมเอาเปรียบ 1116 01:18:49,564 --> 01:18:52,567 ดังนั้นความโศกเศร้า และการล้มลงไม่ช่วยอะไร 1117 01:18:52,651 --> 01:18:55,320 คุณต้องแข็งแกร่ง 1118 01:18:55,403 --> 01:18:58,657 และต่อต้านสิ่งต่างๆ ที่คนอื่นไม่ต่อต้าน 1119 01:18:58,740 --> 01:19:00,033 เพื่อที่จะไม่… 1120 01:19:00,116 --> 01:19:03,078 ตรงนี้จึงเป็นบทบาทของศิลปิน 1121 01:19:03,161 --> 01:19:05,914 เพราะศิลปินไม่ได้เห็นร่วมกับสังคม 1122 01:19:06,831 --> 01:19:07,958 ศิลปินแตกต่าง 1123 01:19:13,213 --> 01:19:17,467 ยากที่จะอธิบายความรู้สึก ของการเต้นแบบร็อก 1124 01:19:17,551 --> 01:19:21,054 นั่นอาจเป็นเหตุผลที่หนุ่มสาว จำนวนมากมาที่นี่ทุกสุดสัปดาห์ 1125 01:19:21,137 --> 01:19:24,432 เพื่อดูว่าบิลล์ แกรห์ม กับ Fillmore West มีอะไรดี 1126 01:19:24,516 --> 01:19:26,560 ผู้คนที่นี่น่ารัก สนุกกับชีวิต 1127 01:19:26,643 --> 01:19:30,522 มีบรรยากาศที่ไม่เหมือนกับเมืองอื่นๆ 1128 01:19:30,605 --> 01:19:32,566 ที่นิวยอร์ก ชิคาโก ดีทรอยต์ 1129 01:19:32,649 --> 01:19:35,944 ทุกอย่างจะหยาบกร้าน 1130 01:19:36,027 --> 01:19:37,696 โห เขาเกลียดเรา 1131 01:19:37,779 --> 01:19:39,990 ตอนที่เราจะขึ้นเวที 1132 01:19:40,865 --> 01:19:43,910 เขายืนอยู่ตรงนั้น แล้วพูดว่า "ขอให้ล้มไม่เป็นท่า" 1133 01:19:45,287 --> 01:19:48,039 แล้วทำไมคุณถึงขอ… คุณจองตัวเรามาทำไม 1134 01:19:48,123 --> 01:19:51,918 ดิฉันว่าเขาอิจฉาและอารมณ์เสีย 1135 01:19:52,002 --> 01:19:55,338 เพราะเขาพูดว่าเขาเป็นคนแรก ที่ทำสื่อประสม 1136 01:19:55,422 --> 01:20:00,594 ซึ่งดูแย่เมื่อเทียบ กับผลงานของแอนดี แย่จริงๆ 1137 01:20:00,677 --> 01:20:03,597 เราได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ 1138 01:20:03,680 --> 01:20:07,809 "The Velvet Underground ควรถูกฝัง 1139 01:20:07,893 --> 01:20:09,311 ฝังให้จมดินไปเลย" 1140 01:20:09,394 --> 01:20:10,562 ("วงนี้จะไม่มาแทนที่อะไร นอกจากการฆ่าตัวตาย") 1141 01:20:10,645 --> 01:20:12,480 นั่นคือสิ่งที่… เธอชื่ออะไรนะ แชร์พูด 1142 01:20:12,564 --> 01:20:15,692 แล้วเรากลับไปที่นิวยอร์ก พร้อมที่จะกลับไปยัง The Dom 1143 01:20:15,775 --> 01:20:18,737 แต่ไม่ได้ เรากลับไป ที่ The Dom ไม่ได้ "ทำไมล่ะ" 1144 01:20:18,820 --> 01:20:23,116 เขายกสัญญาเช่าให้กับอัล กรอสส์แมน 1145 01:20:23,199 --> 01:20:28,121 ซึ่งเป็นผู้จัดการของดีแลน และดีแลน ตั้งชื่อใหม่ว่า The Balloon Farm 1146 01:20:28,830 --> 01:20:31,625 เราเลย… อยู่ไม่ได้ 1147 01:20:33,919 --> 01:20:35,462 เธอมานั่นแล้ว 1148 01:20:37,172 --> 01:20:38,924 เธอไปแล้ว แล้ว แล้ว 1149 01:20:42,385 --> 01:20:44,888 พออัลบั้มที่สองออก เราจะเห็นเลย 1150 01:20:44,971 --> 01:20:47,182 ผลกระทบจากการเดินทางไม่หยุด 1151 01:20:47,265 --> 01:20:50,227 รวมถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่า… 1152 01:20:50,310 --> 01:20:53,271 ความรุนแรงสะท้อนทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นภายในวง 1153 01:20:54,147 --> 01:20:56,399 เริ่มเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเรา 1154 01:20:56,483 --> 01:20:58,818 ที่จะทำงานร่วมกัน 1155 01:20:59,361 --> 01:21:02,322 - ฉันรู้ว่าเธอตายจากไปนานแล้ว - ได้ยินเธอเรียกชื่อฉัน 1156 01:21:02,405 --> 01:21:05,575 - แต่ก็ไม่เหมือนเดิม - ได้ยินเธอเรียกชื่อฉัน 1157 01:21:05,659 --> 01:21:08,954 โอ้ พอฉันตื่นมาเมื่อเช้า แม่เอ๊ย 1158 01:21:09,037 --> 01:21:12,123 - ได้ยินเธอเรียกชื่อฉัน - ได้ยินเธอเรียกชื่อฉัน 1159 01:21:14,459 --> 01:21:18,088 น่าจะเป็นอัลบั้มที่เร็วที่สุด เท่าที่มีตอนนั้น จังหวะเร่งมาก 1160 01:21:18,171 --> 01:21:20,048 วิศวกรเสียงออกเลย 1161 01:21:20,131 --> 01:21:23,093 วิศวกรเสียงคนหนึ่งพูดว่า "ผมไม่จำเป็นต้องทนฟัง 1162 01:21:23,176 --> 01:21:26,805 ผมเปิดอัดแล้วจะออกเลย เล่นเสร็จก็มาเรียกแล้วกัน" 1163 01:21:37,399 --> 01:21:41,069 - แสงขาว - แสงขาวจะทำให้ใจฉันว้าวุ่น 1164 01:21:41,152 --> 01:21:42,988 - แสงขาว - และรู้ใช่ไหม 1165 01:21:43,071 --> 01:21:45,740 - แสงนี้จะทำให้ฉันตาบอด - ความร้อนสีขาว 1166 01:21:45,824 --> 01:21:48,785 ความร้อนสีขาว จั๊กจี้ไปจนถึงนิ้วเท้า 1167 01:21:48,868 --> 01:21:50,662 - แสงขาว - โอ้ เห็นใจเถิด 1168 01:21:50,745 --> 01:21:52,497 ตอนที่ฉันเป็น จะทนได้ถึงเมื่อไร 1169 01:21:52,581 --> 01:21:55,166 ทุกเพลงที่อยู่ในอัลบั้มที่สอง 1170 01:21:55,250 --> 01:21:58,169 ไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า และรุนแรงทั้งนั้น 1171 01:21:58,962 --> 01:22:01,923 มันคือแอมเฟตามีนล้วนๆ 1172 01:22:02,007 --> 01:22:04,718 ความร้อนสีขาว จั๊กจี้ไปจนถึงนิ้วเท้า 1173 01:22:05,302 --> 01:22:06,636 แต่ละคนแทบไม่คุยกัน 1174 01:22:07,554 --> 01:22:11,391 ทุกคนเริ่มขึ้นเสียงเรื่อยๆ 1175 01:22:11,474 --> 01:22:14,060 เสียงเลยดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้น 1176 01:22:14,144 --> 01:22:18,356 "ไง ตอนนี้ใครดังสุด" เหมือนเด็กทะเลาะกัน 1177 01:22:22,068 --> 01:22:24,654 ถ้าเราไม่อิมโพรไวส์ ต่างคนต่างจะสติแตก 1178 01:22:24,738 --> 01:22:27,574 สุดท้ายเราก็สติแตกกันอยู่ดี 1179 01:22:27,657 --> 01:22:30,869 แต่การอิมโพรไวส์ช่วยได้ระหว่างทาง 1180 01:22:30,952 --> 01:22:34,664 สร้างความตื่นเต้น กับการเล่นเพลงเดิมซ้ำไปซ้ำมา 1181 01:22:35,707 --> 01:22:37,834 ความสามัคคีเริ่มพัง 1182 01:22:38,543 --> 01:22:41,463 แสงขาวเคลื่อนไปในตัวฉัน ผ่านสมองของฉัน 1183 01:22:41,546 --> 01:22:43,673 - แสงขาว - แสงขาวจะ 1184 01:22:43,757 --> 01:22:46,218 - ทำให้เราสติแตก - ความร้อนสีขาว 1185 01:22:46,301 --> 01:22:49,054 ความร้อนสีขาว จั๊กจี้ไปจนถึงนิ้วเท้า 1186 01:22:49,137 --> 01:22:52,766 (โปรดเงียบ รายการถ่ายทอดอยู่) 1187 01:22:52,849 --> 01:22:57,062 เราไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ เป็น The Velvet Underground กับนิโก 1188 01:22:57,145 --> 01:23:00,523 เราคิดว่านี่เป็นเพียง การร่วมมือชั่วคราว 1189 01:23:16,039 --> 01:23:19,042 นี่คือห้อง 546 1190 01:23:20,168 --> 01:23:23,380 มันแย่พอที่จะทำให้เอียน 1191 01:23:24,714 --> 01:23:27,676 บริจิดมัวแต่เสพยาจากฟอยล์ 1192 01:23:27,759 --> 01:23:29,344 (นิโก: CHELSEA GIRL) 1193 01:23:29,427 --> 01:23:30,971 ไม่รู้ว่า 1194 01:23:32,347 --> 01:23:35,725 นิโกทำทุกอย่าง ที่เราขอให้เธอทำในวง 1195 01:23:36,351 --> 01:23:39,187 แต่… ผมว่าลึกๆ ในใจเธอ 1196 01:23:39,271 --> 01:23:41,648 มีอย่างอื่นที่เธอสนใจมากกว่า 1197 01:23:44,526 --> 01:23:47,779 เธอจะนั่งเขียนเนื้อเพลง เขียนบทกวีอยู่เป็นประจำ 1198 01:23:49,155 --> 01:23:54,244 มีอะไรบางอย่างที่ดึงความสนใจ ของเธอไปจากงานที่ทำร่วมกัน 1199 01:23:57,872 --> 01:23:59,332 เธอเป็นคนเตร็ดเตร่ 1200 01:23:59,416 --> 01:24:04,713 เธอเตร็ดเตร่เข้ามาในสถานการณ์ แล้วเธอก็เตร็ดเตร่ออกไปอย่างเงียบๆ 1201 01:24:07,299 --> 01:24:10,844 ปากกาเมจิกเรียงเป็นแถว 1202 01:24:10,927 --> 01:24:13,930 ไม่รู้ว่า 1203 01:24:15,557 --> 01:24:19,102 จะเมากันถึงขั้นไหน 1204 01:24:20,729 --> 01:24:22,814 มานั่นกันแล้ว 1205 01:24:22,898 --> 01:24:25,775 หลังจากนั้น… หลังจากทุกอย่าง 1206 01:24:25,859 --> 01:24:28,862 อยู่ดีๆ ลูก็สติแตก 1207 01:24:31,239 --> 01:24:34,284 และไล่แอนดีออก 1208 01:24:35,118 --> 01:24:36,578 ส่วนแอนดีก็เรียกลูว่าเป็นคนเลว 1209 01:24:52,010 --> 01:24:54,930 ทุกอย่างเกิดขึ้นหลังบ้าน 1210 01:24:55,013 --> 01:24:56,973 ผมไม่รู้เลยว่าลูไล่แอนดีออกทำไม 1211 01:24:58,808 --> 01:25:01,603 คนคิดว่าแอนดี วอร์ฮอล เป็นมือกีตาร์หลัก 1212 01:25:01,686 --> 01:25:07,484 ชีวิตเลยลำบากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเรา ออกจากอ้อมอกผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเรา 1213 01:25:28,213 --> 01:25:29,589 (แอนดี วอร์ฮอล ต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอด) 1214 01:25:41,935 --> 01:25:43,353 เพลงนี้ชื่อ "Sister Ray" 1215 01:25:45,981 --> 01:25:47,566 เป็นเพลงเกี่ยวกับเกย์สาวสองคน 1216 01:25:49,442 --> 01:25:51,570 คนหนึ่งชื่อดัก ส่วนอีกคนชื่อแซลลี 1217 01:26:01,204 --> 01:26:04,249 ดักกับแซลลีอยู่ข้างใน 1218 01:26:05,500 --> 01:26:08,169 กำลังตามหายาให้เสพ 1219 01:26:09,337 --> 01:26:12,173 พลางจ้องไปที่คุณนายเรยอน 1220 01:26:13,717 --> 01:26:16,094 ที่กำลังทำการเบิร์นอยู่ 1221 01:26:17,929 --> 01:26:20,473 ฉันคลำหาเส้นเลือด 1222 01:26:22,267 --> 01:26:24,644 ฉันฉีดจากด้านข้างไม่ได้ 1223 01:26:24,728 --> 01:26:28,440 ศาสตราจารย์ฮาร์วาร์ด นางแบบแฟชันจากนิวยอร์ก 1224 01:26:29,107 --> 01:26:31,276 กลุ่มเด็กแสบมหาประลัย 1225 01:26:31,359 --> 01:26:32,861 แก๊งมอเตอร์ไซค์ 1226 01:26:34,946 --> 01:26:36,865 เนิร์ดอย่างตัวผม 1227 01:26:39,576 --> 01:26:42,621 แฟนเพลงวงเกรตฟูลเดด หลายคน เป็นแฟนเพลงของทั้งสองวง 1228 01:26:50,712 --> 01:26:53,632 เราเริ่มตระหนัก ว่ามีคนเริ่มติดตามเรา 1229 01:26:53,715 --> 01:26:56,885 ซึ่งแน่นอนเป็นเรื่องที่ดี 1230 01:26:56,968 --> 01:27:00,513 โดยเฉพาะในบอสตัน เพราะเราเล่นที่นั่นบ่อยมาก 1231 01:27:01,765 --> 01:27:04,559 ผมเจอพวกเขาประมาณ 60 หรือ 70 ครั้ง 1232 01:27:05,644 --> 01:27:09,356 ผมรู้สึกถึงอิสรภาพทางอารมณ์ เพราะดนตรีที่ผมได้ยินนี้ 1233 01:27:09,439 --> 01:27:11,650 ผมรู้ว่าไม่เหมือนอะไรที่เคยฟังมา 1234 01:27:11,733 --> 01:27:14,361 พวกเขาจะอินกับเสียงแบบหนึ่งสักพัก แล้วก็ไม่สนใจอีกเลย 1235 01:27:14,444 --> 01:27:15,862 ความตื่นเต้นอยู่ตรงนี้ 1236 01:27:15,946 --> 01:27:17,948 โอ้ ทำอย่างนั้น 1237 01:27:18,573 --> 01:27:20,575 ใช่ อย่างที่ซิสเตอร์เรย์บอก 1238 01:27:21,409 --> 01:27:24,955 ไม่ใช่แค่ใหม่ แต่แตกต่างอย่างสุดโต่ง 1239 01:27:25,747 --> 01:27:30,794 เป็นจังหวะช้า จังหวะปานกลางหรือช้า ที่ไม่ใช่ร็อกแอนด์โรล 1240 01:27:30,877 --> 01:27:33,797 เป็นทำนองที่แปลกประหลาด 1241 01:27:35,840 --> 01:27:37,342 เวลาดูพวกเขาเล่น 1242 01:27:38,301 --> 01:27:40,512 จะมีโอเวอร์โทนที่หาเหตุผลไม่ได้ 1243 01:27:40,595 --> 01:27:42,013 จะเห็นได้จาก… 1244 01:27:42,097 --> 01:27:43,390 (โจนาธาน ริชแมน) 1245 01:27:43,974 --> 01:27:46,184 จากนั้นจะได้ยินเสียงนำ เสียงแตกๆ ที่นำมา 1246 01:27:47,310 --> 01:27:49,062 สักอย่าง… แล้วจะได้ยินเสียงเบส 1247 01:27:51,815 --> 01:27:54,276 แต่จะมีเสียงอื่นๆ ในห้องด้วย 1248 01:27:54,359 --> 01:27:56,570 พอมองไปดูทุกคน ก็จะสงสัยว่า… 1249 01:27:56,653 --> 01:27:58,613 มาจากไหน 1250 01:27:58,697 --> 01:28:01,074 เป็นเสียงที่เกิดขึ้นพร้อมกัน 1251 01:28:13,461 --> 01:28:16,965 โดยทั่วไปจะเหมือน เวอร์ชันของเพลง "Sister Ray" 1252 01:28:17,048 --> 01:28:19,259 และห้าวินาทีหลังจากนั้น 1253 01:28:20,552 --> 01:28:24,264 ห้าวินาทีหลังนั้นเป็นตัวอย่างที่ดี ของสิ่งที่จะได้ยินเวลาไปดูพวกเขา 1254 01:28:24,347 --> 01:28:26,141 อยู่ดีๆ พวกเขาก็จะ… 1255 01:28:28,351 --> 01:28:30,562 ตามด้วยท่อนต่างๆ ของคีย์บอร์ด ดา น่า นา นา น่า นา น่า นา น้า 1256 01:28:33,732 --> 01:28:36,484 จากนั้นก็จะมีอะไรอีกมากมาย มีกลอง 1257 01:28:36,568 --> 01:28:37,652 แล้วอยู่ดีๆ 1258 01:28:39,195 --> 01:28:41,698 ก็จะหยุด ส่วนคนดู 1259 01:28:41,781 --> 01:28:45,452 ก็จะเงียบกริบไปหนึ่ง… 1260 01:28:49,581 --> 01:28:53,168 ห้า แล้วค่อยปรบมือกัน 1261 01:28:54,419 --> 01:28:58,340 The Velvet Underground ได้สะกดจิตพวกเขาอีกครั้ง 1262 01:29:01,218 --> 01:29:03,845 ผมอยู่ที่ Boston Tea Party 1263 01:29:03,929 --> 01:29:05,680 วง The Velvet Underground มาพร้อมเครื่องเสียง 1264 01:29:05,764 --> 01:29:08,934 พวกเขาเริ่มจัดเครื่องเสียงแล้ว ผมดูพวกเขาตั้งเสียง 1265 01:29:09,517 --> 01:29:10,852 ผมจะถามคำถาม 1266 01:29:10,936 --> 01:29:14,481 อย่าง "ทำไมถึงใช้โทนแตก ในท่อนนั้น เพราะอะไร" 1267 01:29:14,564 --> 01:29:15,857 และ "แล้วเสียงนั้นล่ะ" 1268 01:29:15,941 --> 01:29:19,611 เขาจะตอบว่า "พ่อหนุ่ม เสียงนั้นเป็นอะไรหลายอย่าง" 1269 01:29:21,279 --> 01:29:25,283 สเตอร์ลิง มอร์ริสัน เป็นคนสอนผมเล่นกีตาร์ 1270 01:29:25,367 --> 01:29:28,912 อิสรภาพนั้นทำให้ผมรู้สึก ได้ถอยห่างจากการเรียนมัธยมปลาย 1271 01:29:28,995 --> 01:29:32,165 ถอยห่างจากแบบแผนใดๆ ที่ดนตรีแนวอื่นมี 1272 01:29:32,249 --> 01:29:34,793 และช่วยให้ผมได้เรียนรู้ วิธีทำเพลงในแบบของผมเอง 1273 01:29:35,418 --> 01:29:38,505 พวกเขาเป็นแบบนั้น พวกเขาใจกว้าง 1274 01:29:38,588 --> 01:29:42,968 พวกเขาใจกว้างกับผมมาก พวกเขาให้ผมเล่นเปิดโชว์ของพวกเขา 1275 01:29:43,051 --> 01:29:46,513 บางทีเวลาที่มีความตึงเครียด ระหว่างคนในวง 1276 01:29:47,264 --> 01:29:49,224 ผมอยู่แถวนั้นได้ 1277 01:29:49,307 --> 01:29:51,226 พวกเขารู้ว่าผมไม่ปากโป้ง 1278 01:29:52,060 --> 01:29:55,146 แต่แน่นอนว่าช่วงนั้น รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดบางอย่าง 1279 01:29:55,230 --> 01:29:58,650 แต่ผมช็อกมาก เพราะถือว่ารุนแรงมาก 1280 01:29:58,733 --> 01:30:02,070 ที่จอห์น เคลออกจากวง 1281 01:30:08,410 --> 01:30:11,246 ผู้ชายสามคนนั้น กระทบกระทั่งกันบ่อยครั้ง 1282 01:30:11,329 --> 01:30:16,376 ดิฉันแทบจะไปซ้อมไม่ได้ บรรยากาศเครียดมาก 1283 01:30:16,459 --> 01:30:19,671 พวกเขาอาจจะทะเลาะกันเรื่องของดนตรี 1284 01:30:19,754 --> 01:30:22,841 หรือลูเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว 1285 01:30:22,924 --> 01:30:26,928 หรือเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไป คอยสั่งให้คนอื่นทำนู่นทำนี่ 1286 01:30:28,096 --> 01:30:29,347 จะเป็นอย่างนี้เสมอ 1287 01:30:29,431 --> 01:30:30,432 (มาร์ธา มอร์ริสัน) 1288 01:30:30,515 --> 01:30:32,767 ลูสู้สุดฤทธิ์ที่จะอยู่เหนือทุกคน 1289 01:30:39,941 --> 01:30:41,943 ผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เขาถึงจะพอใจ 1290 01:30:42,694 --> 01:30:46,364 ไม่มีอะไรที่ผมทำได้ที่… 1291 01:30:46,990 --> 01:30:50,577 พอพยายามพูดดีๆ เขาจะเกลียดเรามากขึ้น เขา… 1292 01:30:53,246 --> 01:30:56,791 แล้วพอพยายามเสนออะไร เขาก็จะไม่สนใจ 1293 01:30:57,876 --> 01:30:59,502 เขามีความทุกข์กังวลมาก 1294 01:31:00,962 --> 01:31:04,216 แต่ต้องบอกว่าจอห์น เคล ก็อารมณ์ร้ายไม่เบา 1295 01:31:04,299 --> 01:31:07,677 เขาทำให้คนไม่อยากอยู่ใกล้เขา 1296 01:31:08,678 --> 01:31:10,180 ถ้าเขาอารมณ์ไม่ดี 1297 01:31:10,263 --> 01:31:11,389 และเขามีมุมมืด 1298 01:31:14,100 --> 01:31:17,604 สิ่งที่เราเข้าใจว่าเป็นจุด ที่เราอยู่ เป็นจุดที่ทุกอย่างอยู่ 1299 01:31:17,687 --> 01:31:20,190 และความไม่พอใจที่เรา มีต่อทุกสิ่งนอกเหนือจากนี้ 1300 01:31:20,899 --> 01:31:24,110 น่าเศร้าเพราะในท้ายที่สุดแล้ว 1301 01:31:24,194 --> 01:31:27,197 เรากลายเป็นสิ่งเหล่านั้น 1302 01:31:27,948 --> 01:31:31,201 ผมว่ามีจุดหนึ่ง ที่เรารู้สึกว่า "ให้ตายเหอะ 1303 01:31:31,284 --> 01:31:35,038 การทำตัวแบบนี้ ไม่ได้ช่วยให้เราแก้ปัญหาอะไร 1304 01:31:35,121 --> 01:31:39,084 และไม่มีใคร ที่จะช่วยให้เราแก้ปัญหาได้" 1305 01:31:39,167 --> 01:31:42,879 แล้วเราไม่ยอมให้ใครมาบอก ว่าเราต้องทำอะไร 1306 01:31:44,422 --> 01:31:48,969 ถ้าไม่มียาเสพติดเหล่านั้น เราคงมุ่งไขว่คว้าหาอะไรสักอย่าง 1307 01:31:49,844 --> 01:31:52,722 นั่นเป็นช่วงเวลา ที่ต้องถอยออกมาสักครู่ 1308 01:31:54,099 --> 01:31:55,600 เพราะความเชื่อใจไม่เหลือแล้ว 1309 01:31:57,143 --> 01:31:58,353 บางทีลูอาจอิจฉา 1310 01:31:58,436 --> 01:31:59,604 (เสียงของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน) 1311 01:31:59,688 --> 01:32:01,231 ผมว่าน่าจะเป็นอะไรประมาณนั้น 1312 01:32:03,108 --> 01:32:08,029 ลูยื่นคำขาด ไม่เขาก็จอห์นจะต้องออก 1313 01:32:08,113 --> 01:32:11,741 เขาโทรหาสเตอร์ลิงกับผม เราไปเจอเขาที่ร้านกาแฟสักแห่ง 1314 01:32:11,825 --> 01:32:13,326 เขาบอกเราที่นั่น 1315 01:32:13,410 --> 01:32:15,328 เขาไม่สามารถทำงานกับจอห์นได้แล้ว 1316 01:32:15,412 --> 01:32:18,707 เราเลยต้องเลือก ว่าจะอยู่กับเขาหรืออยู่กับจอห์น 1317 01:32:20,292 --> 01:32:24,838 สเตอร์ลิงมาหาผม เขาบอกว่า "ไปเจอลูมา" 1318 01:32:24,921 --> 01:32:26,965 ผมก็บอกว่า "อืม เราต้องเริ่มซ้อมกันแล้ว 1319 01:32:27,048 --> 01:32:28,675 เราจะไปคลีฟแลนด์สุดสัปดาห์นี้" 1320 01:32:28,758 --> 01:32:32,137 เขาบอกว่า "ไม่แล้ว" เขาบอกว่า "คือเราไป แต่คุณไม่ไป" 1321 01:32:33,013 --> 01:32:34,264 ผมก็ถามว่า "พูดเรื่องอะไรกัน" 1322 01:32:34,347 --> 01:32:38,101 เขาตอบว่า "ลูให้ผมมาบอกว่า… 1323 01:32:38,184 --> 01:32:41,271 เขาบอกพวกเราที่เหลือว่าถ้าจอห์นไป เขาไม่ไป" 1324 01:32:42,022 --> 01:32:43,064 เท่านั้นเลย 1325 01:32:43,690 --> 01:32:45,692 แล้วช่วงเวลานั้นก็มาถึงอีกครั้ง 1326 01:32:45,775 --> 01:32:49,571 แวบของความสงสัย ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป 1327 01:32:52,365 --> 01:32:55,493 ผมก็คิดว่า "คงต้องหันไปทำงาน ด้านการผลิตแล้ว" 1328 01:33:00,290 --> 01:33:03,877 ผมทุกข์ใจมาก เพราะมาถึงตอนนี้ 1329 01:33:03,960 --> 01:33:06,713 วงนี้ได้ช่วยให้ผมได้เรียนรู้ชีวิต 1330 01:33:06,796 --> 01:33:10,926 เสียงที่พวกเขาเล่นออกมา ช่วยให้ผมสร้างดินแดนความฝัน 1331 01:33:11,009 --> 01:33:13,220 สีของโทนเสียงของพวกเขา… 1332 01:33:14,429 --> 01:33:17,599 ผมรู้สึกเหมือนผม ได้อยู่กับไมเคิลแองเจโล 1333 01:33:22,145 --> 01:33:27,025 ลูอยากเห็นความสำเร็จ ในระดับหนึ่งมากๆ 1334 01:33:27,108 --> 01:33:28,693 ความสำเร็จจริงๆ 1335 01:33:29,444 --> 01:33:35,116 บางทีเขาอยากลดความล้ำยุคลง หรืออะไรก็ตาม 1336 01:33:37,535 --> 01:33:39,037 คือทำให้ปกติมากขึ้น 1337 01:33:41,081 --> 01:33:42,666 เอาละ เริ่มเมื่อนับหนึ่ง 1338 01:33:52,384 --> 01:33:58,473 (ดัก) 1339 01:34:06,231 --> 01:34:08,400 เธออยู่ตรงมุมนั้น 1340 01:34:08,483 --> 01:34:11,152 เท่าที่ผมจำได้ ดัก ยูลมาถึง 1341 01:34:11,236 --> 01:34:13,530 ก็เรียนรู้เพลงต่างๆ ได้เร็วอย่างน่าชื่นชม 1342 01:34:14,155 --> 01:34:18,952 และตัวเขาเองเป็นนักดนตรี ที่เข้มงวดและจริงจังมาก 1343 01:34:19,578 --> 01:34:23,164 เขามีสไตล์ฮาร์มอนิกเป็นของตัวเอง ซึ่งทำให้เกิดสิ่งใหม่ในวง 1344 01:34:25,375 --> 01:34:27,168 ดิฉันว่าแตกต่างชัดเจน 1345 01:34:27,919 --> 01:34:29,588 ดิฉันคิดว่าเรายังเป็นวงที่ดีอยู่ 1346 01:34:29,671 --> 01:34:33,550 และดักมีของดีที่เข้ามาเสริมวง 1347 01:34:33,633 --> 01:34:35,927 แต่ไม่มีใครแทนที่เคลได้ 1348 01:34:36,011 --> 01:34:38,597 รู้อะไรไหม เธอส่งคืนมาทันที 1349 01:34:38,680 --> 01:34:40,140 เอาละ 1350 01:34:42,934 --> 01:34:44,728 สวัสดียามเย็นครับ 1351 01:34:44,811 --> 01:34:47,022 เราคือ The Velvet Underground ที่คุณคุ้นเคย 1352 01:34:47,105 --> 01:34:49,733 ดีใจที่ได้เจอทุกคน 1353 01:34:52,485 --> 01:34:53,820 ขอบคุณครับ 1354 01:34:53,904 --> 01:34:57,741 เราดีใจที่คนสามารถหาเวลาเล็กน้อย 1355 01:34:57,824 --> 01:35:00,493 เพื่อออกมาสนุกกับเพลงร็อกแอนด์โรล 1356 01:35:04,122 --> 01:35:05,540 พวกเขาเล่นเพลงที่เบามาก 1357 01:35:05,624 --> 01:35:07,459 มาถึงตอนนี้ พวกเขาเริ่มเล่นเบาลงมาก 1358 01:35:14,633 --> 01:35:17,385 บางครั้งฉันมีความสุขจัง 1359 01:35:20,388 --> 01:35:22,974 บางครั้งฉันรู้สึกเศร้าจัง 1360 01:35:26,102 --> 01:35:28,688 บางครั้งฉันมีความสุขจัง 1361 01:35:30,148 --> 01:35:34,027 แต่ส่วนใหญ่แล้วเธอทำให้ฉันโกรธ 1362 01:35:36,404 --> 01:35:39,824 ที่รัก เธอได้แต่ทำให้ฉันโกรธ 1363 01:35:43,870 --> 01:35:48,875 มองไม่วาง 1364 01:35:48,959 --> 01:35:52,045 ตาสีฟ้าจางของเธอ 1365 01:35:55,507 --> 01:36:00,512 มองไม่วาง 1366 01:36:00,595 --> 01:36:03,848 ตาสีฟ้าจางของเธอ 1367 01:36:03,932 --> 01:36:07,227 มีทฤษฎีหนุนอยู่ นั่นคือความเวิ้งว้าง 1368 01:36:07,310 --> 01:36:09,020 ทุกเพลงมีความเวิ้งว้างมาก 1369 01:36:09,104 --> 01:36:10,355 (เสียงของลู รีด) 1370 01:36:10,438 --> 01:36:12,399 เราไม่ได้ใส่อะไรลงไป แต่เราดึงสิ่งต่างๆ ออก 1371 01:36:12,482 --> 01:36:15,151 ซึ่งตรงข้ามกับวิธีการทำงาน ของคนอื่นๆ 1372 01:36:15,235 --> 01:36:19,406 เช่น เราไม่เคยเพิ่มเครื่องดนตรี เราไม่ชวนคนเข้ามาร่วมซ้อม 1373 01:36:19,489 --> 01:36:24,327 เราไม่… เราไม่ทำอะไร ที่เราไม่สามารถทำบนเวทีได้ 1374 01:36:35,547 --> 01:36:40,844 อัลบั้มที่สาม อัลบั้มสีเทา เราเล่นอยู่ที่แอลเอ… 1375 01:36:40,927 --> 01:36:42,470 (เสียงของดัก ยูล) 1376 01:36:42,554 --> 01:36:44,472 แล้วสตีฟมาบอกว่า "เรา… มีการเปลี่ยนแผน 1377 01:36:44,556 --> 01:36:47,100 เราจะอยู่ต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ เพื่อทำอัลบั้ม" 1378 01:36:48,143 --> 01:36:51,438 แคนดีบอกว่า 1379 01:36:53,648 --> 01:36:57,736 ฉันเรียนรู้ที่จะเกลียดร่างกายตัวเอง 1380 01:36:59,613 --> 01:37:03,491 และทุกสิ่งที่มันต้องการ… 1381 01:37:03,575 --> 01:37:05,869 เพลง "Candy Says" มีความตึงในแบบของตัวเอง 1382 01:37:05,952 --> 01:37:09,122 เพลงนี้กล่าวถึงคนที่พูดว่า "ฉัน เรียนรู้ที่จะเกลียดร่างกายตัวเอง 1383 01:37:09,205 --> 01:37:11,082 และทุกสิ่งที่ร่างกาย ต้องการจากโลกใบนี้" 1384 01:37:11,166 --> 01:37:13,585 ซึ่งประกอบด้วยดนตรีแนวน่ารัก 1385 01:37:13,668 --> 01:37:15,921 คุณจะเริ่มสงสัย "เรื่องอะไรกันนี่" 1386 01:37:16,004 --> 01:37:19,049 อัลบั้มที่สามทั้งอัลบั้ม เกี่ยวกับเรื่องนี้ 1387 01:37:19,758 --> 01:37:22,427 ข้ามไหล่ของฉัน 1388 01:37:22,510 --> 01:37:24,846 เธอคิดว่าฉันเห็นอะไร 1389 01:37:24,930 --> 01:37:28,475 ผมไม่รู้ตัวว่าจะต้องร้อง เพลงนั้นจนเรามาเริ่มทำเสียงร้อง 1390 01:37:28,558 --> 01:37:31,186 เขาร้องหนึ่งเพลง แล้วกลับเข้ามา ถามว่า "ไม่ร้องสักเพลงล่ะ" 1391 01:37:31,269 --> 01:37:35,106 เป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องร้องตลอดเวลา สนุกกับการเอนกาย 1392 01:37:35,190 --> 01:37:37,567 เล่นกีตาร์และไม่ต้องเป็นนักร้องนำ" 1393 01:37:38,151 --> 01:37:41,279 นี่เป็นเพลงที่ตอนแรกผมคิดไว้ว่า 1394 01:37:41,363 --> 01:37:45,283 ผมจะร้องท่ามกลางแสงไฟ ในชุดกระโปรงสีทองมันวาว 1395 01:37:45,367 --> 01:37:47,786 แต่ผมก็คิด "อืม… ผมว่าไม่น่า… 1396 01:37:47,869 --> 01:37:49,287 ไม่รู้ว่าพวกเขาพร้อมจะยอมรับไหม" 1397 01:37:49,913 --> 01:37:51,915 เราเลยให้มอรีนออกโรงแทน 1398 01:37:51,998 --> 01:37:54,668 เราคิดว่าทุกคนจะเชื่อเธอ มากกว่าเชื่อผม 1399 01:37:54,751 --> 01:37:56,711 เพลงนี้จะเป็นเพลงสุดท้าย ของเราสำหรับชุดนี้ 1400 01:37:56,795 --> 01:37:58,505 เพลงนี้ชื่อ "After Hours" 1401 01:37:58,588 --> 01:38:01,800 ถ้าเธอปิดประตู 1402 01:38:03,051 --> 01:38:06,680 คืนนี้อาจยาวเป็นนิรันดร์ 1403 01:38:06,763 --> 01:38:10,141 ไม่ให้แสงอาทิตย์ส่องมา 1404 01:38:11,226 --> 01:38:13,770 ต้อนรับคำว่าไม่มีวัน 1405 01:38:13,853 --> 01:38:15,855 ดิฉันกลัวมาก 1406 01:38:15,939 --> 01:38:21,653 ดิฉันไม่เคยร้องอะไรเลย เกิดความรู้สึก "ฉันทำไม่ได้ และ…" 1407 01:38:21,736 --> 01:38:24,406 เราถึงขั้นต้องไล่สเตอร์ลิง ออกจากห้อง 1408 01:38:24,489 --> 01:38:26,533 เพราะเขาหัวเราะฉันไม่หยุด 1409 01:38:28,326 --> 01:38:30,620 ฉันไม่ต้องเห็นแสงตะวันอีกต่อไป 1410 01:38:30,704 --> 01:38:35,333 ดิฉันบอกลูว่า "ฉันไม่อยากร้องสด นอกจากจะมีคนขอ" 1411 01:38:35,417 --> 01:38:38,169 เพราะหวังในใจว่าจะไม่มีใครขอ 1412 01:38:38,962 --> 01:38:42,424 สองโชว์ต่อมา เราอยู่ที่เท็กซัส 1413 01:38:42,507 --> 01:38:44,801 แล้วมีคนขอ ดิฉันเลยต้องร้องไป 1414 01:38:44,885 --> 01:38:47,053 และชนแก้วให้คำว่าไม่มีวัน 1415 01:38:47,137 --> 01:38:50,682 พอพวกเขาไปแสดงที่ Boston Tea Party แล้วมอรีนออกมาร้อง 1416 01:38:50,765 --> 01:38:54,060 กลุ่มคนที่ไม่ได้เป็นแฟนเพลง ของวงในคืนนั้น 1417 01:38:54,144 --> 01:38:56,897 กลุ่มเด็กแสบ ที่เพิ่งถามว่า "พวกนี้ใคร" 1418 01:38:56,980 --> 01:39:00,066 ไม่มีการโซโล่กีตาร์สไตล์จิมมี เพจ ดนตรีบ้าบออะไร" 1419 01:39:00,150 --> 01:39:03,612 อยู่ดีๆ มอรีน ทักเกอร์ก็ออกมา 1420 01:39:03,695 --> 01:39:08,241 ออกมาร้องว่า "ถ้าเธอปิดประตู" 1421 01:39:08,325 --> 01:39:11,536 แล้วทุกคน… ทุกสายตาจะอยู่ที่เธอ 1422 01:39:12,537 --> 01:39:13,580 ขอบคุณค่ะ 1423 01:39:28,136 --> 01:39:30,805 เจนนีบอกว่าตอนเธออายุเพียงห้าขวบ 1424 01:39:30,889 --> 01:39:33,725 ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย 1425 01:39:37,270 --> 01:39:39,940 ทุกครั้งที่เธอเปิดวิทยุ 1426 01:39:40,023 --> 01:39:43,318 ไม่มีอะไรน่าฟังเลย 1427 01:39:43,401 --> 01:39:44,819 ไม่มีเลย 1428 01:39:46,404 --> 01:39:49,157 แล้วเช้าวันหนึ่ง เธอเปิดสถานีของนิวยอร์ก 1429 01:39:49,241 --> 01:39:51,910 เธอแทบไม่เชื่อสิ่งที่หูได้ยิน 1430 01:39:55,247 --> 01:39:57,832 เธอเริ่มดีดดิ้นไปกับดนตรีไพเราะนั้น 1431 01:39:57,916 --> 01:40:01,503 ร็อกแอนด์โรลช่วยชีวิตเธอ 1432 01:40:03,380 --> 01:40:06,550 แม้จะมีการตัดคำออกสักเท่าไร 1433 01:40:06,633 --> 01:40:10,428 เรารู้ว่าเรายังออกไปเต้น กับสถานีร็อกแอนด์โรลได้ 1434 01:40:10,512 --> 01:40:13,598 - แล้วทุกอย่างจะดี - ทุกอย่างจะดี 1435 01:40:13,682 --> 01:40:17,978 - เฮ้ ที่รัก เธอรู้ทุกอย่างจะดี - ทุกอย่างจะดี 1436 01:40:32,826 --> 01:40:36,037 อย่างที่เจนนีบอก ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ 1437 01:40:36,121 --> 01:40:39,541 เฮ้ รู้ไหม ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย 1438 01:40:39,624 --> 01:40:43,670 ถ้าผมย้อนเวลาได้ ผมจะขอไม่ทำอัลบั้ม Loaded 1439 01:40:43,753 --> 01:40:45,589 จนกว่ามอรีนจะร่วมเล่นได้ 1440 01:40:46,840 --> 01:40:51,303 อัลบั้ม Loaded อัดเสียงในเดือนเมษายน ปี 1970 1441 01:40:51,386 --> 01:40:54,347 ดิฉันตั้งครรภ์และพุงใหญ่เกิน ที่จะตีกลองได้ 1442 01:40:54,431 --> 01:40:55,765 ดิฉันเลยเล่นไม่ได้ 1443 01:40:56,892 --> 01:40:59,311 ดิฉันผิดหวังอยู่ เพราะมีหลายเพลงในอัลบั้มนั้น 1444 01:40:59,394 --> 01:41:02,063 ที่ดิฉันรู้สึกว่าต้องมีดิฉัน 1445 01:41:02,147 --> 01:41:03,565 แตกต่างกันมากอยู่ 1446 01:41:07,277 --> 01:41:09,863 มอรีนไม่ได้เล่น ส่วนสเตอร์ลิง… 1447 01:41:09,946 --> 01:41:13,366 เขาไม่มาสักพัก ผมเล่นกีตาร์เยอะมากใน Loaded 1448 01:41:13,450 --> 01:41:15,160 เขาน่าจะหงุดหงิดใจมาก 1449 01:41:15,243 --> 01:41:17,454 ที่ต้องนั่งในห้องควบคุมเสียง หลายชั่วโมง 1450 01:41:17,537 --> 01:41:21,124 ขณะที่มีการถกส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง 1451 01:41:21,833 --> 01:41:25,837 ผมรู้ว่าพวกเขากำลังทำอัลบั้ม ผมรู้ว่า… ผมไม่เคยเจอดัก 1452 01:41:26,546 --> 01:41:28,089 ผมไม่… 1453 01:41:28,173 --> 01:41:31,885 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องของผมแล้ว 1454 01:41:32,385 --> 01:41:34,137 ลูแสดงให้เห็นชัดเจนมาก ว่าไม่ใช่เรื่องของผม 1455 01:41:36,014 --> 01:41:39,059 พวกเขาไม่เหมือนใครตั้งแต่แรกเริ่ม 1456 01:41:39,142 --> 01:41:40,852 (โจเซฟ ฟรีแมน) 1457 01:41:40,936 --> 01:41:43,355 สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วม ในแบบของตัวเองอย่างเท่าเทียมกัน 1458 01:41:43,438 --> 01:41:45,607 แต่ตอนนี้พวกเขา เหมือนวงร็อกแอนด์โรลทั่วไป 1459 01:41:45,690 --> 01:41:49,694 และมีคนที่มีหัวสร้างสรรค์สูงมาก เป็นคนคิดทุกอย่าง 1460 01:41:49,778 --> 01:41:52,364 ลูมีเพลงป็อปมากมาย 1461 01:41:53,490 --> 01:41:57,202 และลูเริ่มพยายามหาเสียงเฉพาะตัว 1462 01:41:59,704 --> 01:42:01,248 (เสียงของโทนี คอนราด) 1463 01:42:01,331 --> 01:42:03,333 ป็อปละลายวัฒนธรรมชั้นสูง นั่นคือสิ่งที่ลูนำเสนอ 1464 01:42:03,416 --> 01:42:05,752 หลั่งไหลออกมาจากลองไอส์แลนด์ 1465 01:42:05,835 --> 01:42:09,881 ละลายโครงสร้างผลึก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการอยู่แล้ว 1466 01:42:13,218 --> 01:42:15,679 ยืนอยู่ตรงมุมถนน 1467 01:42:17,889 --> 01:42:20,517 กระเป๋าเดินทางในมือ 1468 01:42:21,309 --> 01:42:24,729 แจ็กใส่เสื้อรัดทรง เจนสวมเสื้อกั๊ก 1469 01:42:26,314 --> 01:42:28,650 และฉัน ฉันอยู่ในวงร็อกแอนด์โรล 1470 01:42:32,112 --> 01:42:34,489 นั่งรถ Stutz Bear Cat จิม 1471 01:42:35,615 --> 01:42:38,910 ยุคสมัยนั้นต่างกัน 1472 01:42:40,704 --> 01:42:43,540 โอ้ กวีทั้งหลาย พวกเขาศึกษากฎของบทกลอน 1473 01:42:43,623 --> 01:42:47,002 ส่วนสตรีทั้งหลายกรอกตามองบน 1474 01:42:50,213 --> 01:42:54,217 เจนที่รัก 1475 01:42:55,010 --> 01:42:59,222 เจนที่รัก 1476 01:42:59,306 --> 01:43:02,684 เจนที่รัก 1477 01:43:02,767 --> 01:43:05,896 ผมรู้สึกว่ายอดเยี่ยมมากที่เรา เล่นเพลงพวกนี้ต่อหน้าสาธารณะได้ 1478 01:43:05,979 --> 01:43:08,857 ผมตื่นเต้นมาก ที่รู้ว่าพวกเขาตื่นเต้น 1479 01:43:08,940 --> 01:43:11,234 และเจน เธอเป็นเสมียน 1480 01:43:11,318 --> 01:43:13,904 เราไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ ไม่มีเรื่องที่ต้องถกเถียง 1481 01:43:13,987 --> 01:43:17,157 ไม่มีอะไรที่ต้องบอกใคร 1482 01:43:17,240 --> 01:43:20,076 และเมื่อ เมื่อพวกเขากลับบ้านหลังเลิกงาน 1483 01:43:22,621 --> 01:43:24,414 เขารู้ว่าเขามีพรสวรรค์ 1484 01:43:24,497 --> 01:43:29,127 เขารู้ว่าเขาเป็นมือกีตาร์ที่เก่ง และนักแต่งเพลงที่เก่ง 1485 01:43:30,086 --> 01:43:34,549 และเราไปไม่ได้ไกลเท่าที่เขาหวัง 1486 01:43:35,800 --> 01:43:38,720 แบบให้ตายสิ… เมื่อไรจะเกิดขึ้นเสียที 1487 01:43:39,930 --> 01:43:43,225 แต่ใครที่เคยมีหัวใจ 1488 01:43:43,850 --> 01:43:48,230 โอ้ พวกเขาคงไม่วกกลับมาทำร้าย 1489 01:43:49,105 --> 01:43:52,442 และใครที่เคยร่วมมีบทบาท 1490 01:43:52,525 --> 01:43:56,821 โอ้ พวกเขาคง ไม่วกกลับมาเกลียดชัง 1491 01:43:58,531 --> 01:44:02,452 เจนที่รัก 1492 01:44:03,078 --> 01:44:06,206 เจนที่รัก 1493 01:44:06,289 --> 01:44:09,751 (Max's เมืองแคนซัส) 1494 01:44:12,837 --> 01:44:14,965 แล้วมีโชว์นั้นที่ร้าน Max's 1495 01:44:17,551 --> 01:44:18,969 เขาหยุดชะงักไปเลย 1496 01:44:21,721 --> 01:44:24,266 มาแล้วทะเล 1497 01:44:24,349 --> 01:44:26,851 (แอนดี) 1498 01:44:26,935 --> 01:44:30,272 และคลื่นที่ชายทะเล 1499 01:44:30,355 --> 01:44:32,566 ไม่น่าเชื่อว่านี่คือหลังผ่านไปห้าปี 1500 01:44:32,649 --> 01:44:39,155 ของการเล่นที่ชั้นบนของร้าน Max's กับวงที่หดตัวลงอย่างมาก 1501 01:44:39,239 --> 01:44:43,368 แล้วคลื่นเล่า ไปอยู่ไหนมา 1502 01:44:47,998 --> 01:44:51,251 เขาโอดครวญ แทบจะเล่นไม่ได้ 1503 01:44:51,334 --> 01:44:53,253 ไม่ได้มีความรู้สึกสนุกเลย 1504 01:44:53,336 --> 01:44:57,883 นั่นอาจทำให้ฉันคลั่ง 1505 01:44:57,966 --> 01:44:59,885 ผมตัดสินใจที่จะกลับไปเรียน 1506 01:44:59,968 --> 01:45:03,972 เพื่อหนีเรื่องราวเหล่านี้ 1507 01:45:05,724 --> 01:45:07,434 ดิฉันว่าเขาไม่อยากบอกเรา 1508 01:45:07,517 --> 01:45:11,605 เขาไม่ได้หนีหายไป แต่เขาเลือกบอกเรา ขณะที่เราเดินอยู่ในสนามบิน 1509 01:45:11,688 --> 01:45:13,899 เขาพูดออกมาว่า "ผมไม่ไป" 1510 01:45:16,568 --> 01:45:19,154 เขาบอกดิฉันด้วย ว่าเหตุผลที่ทำอย่างนั้น 1511 01:45:19,237 --> 01:45:21,197 เป็นเพราะเขากลัว ว่าทุกคนจะโน้มน้าวเขาให้ไป 1512 01:45:21,990 --> 01:45:24,075 โมต้องร้องไห้ ไม่ได้ 1513 01:45:25,619 --> 01:45:28,955 โมบอกว่าเหมือนถูกเขาเอามีดแทงหัวใจ 1514 01:45:29,539 --> 01:45:32,459 ของผืนดิน 1515 01:45:32,542 --> 01:45:38,215 ที่อยู่ที่ชายทะเล 1516 01:45:40,717 --> 01:45:45,597 ผมไปดูพวกเขาที่ร้าน Max's เพลงชุดนั้นจบพอดี 1517 01:45:45,680 --> 01:45:49,059 ลูมาถึงก็เดินไปที่ทางออก 1518 01:45:49,142 --> 01:45:51,561 ผมเรียก "เฮ้ ลู" แต่เขาไม่หยุดและเดินเร็วมาก 1519 01:45:53,438 --> 01:45:56,650 แล้วมีคนพูดขึ้นว่า "เขาเพิ่งลาออกจากวง" 1520 01:45:56,733 --> 01:45:59,402 ที่ชายทะเล 1521 01:46:00,654 --> 01:46:03,907 เขาลาออก เท่านั้นเลย คือ… ทุกอย่างจบ 1522 01:46:06,284 --> 01:46:12,749 มาแล้วทะเลและคลื่นลม 1523 01:46:12,832 --> 01:46:15,794 ที่ชายทะเล 1524 01:46:19,631 --> 01:46:23,343 มาแล้วทะเล 1525 01:46:23,426 --> 01:46:26,096 และคลื่นลม… 1526 01:46:26,179 --> 01:46:29,391 หลังจากที่เขาออกจาวง เขาไปอยู่บ้านพ่อแม่เขา 1527 01:46:29,474 --> 01:46:31,101 นานประมาณปีครึ่ง 1528 01:46:31,851 --> 01:46:35,981 เขาคงพยายามเรียบเรียงสติ 1529 01:46:36,565 --> 01:46:39,568 มีปัญหาค่อนข้างใหญ่… เกี่ยวกับการจัดการ 1530 01:46:39,651 --> 01:46:41,570 ผมออกไปเลียแผล 1531 01:46:41,653 --> 01:46:43,822 สมัยเรียน คุณแม่จะบอกผมว่า 1532 01:46:43,905 --> 01:46:47,534 "ลูกน่าจะเรียนพิมพ์ดีด จะได้มีงานรองรับไว้" 1533 01:46:47,617 --> 01:46:52,539 ฉันเป็นลูกชายที่ขี้เกียจ ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ 1534 01:46:52,622 --> 01:46:57,252 ประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ 1535 01:46:57,335 --> 01:46:59,921 และนี่ 1536 01:47:00,005 --> 01:47:03,049 มาแล้วคลื่นลม 1537 01:47:06,303 --> 01:47:09,180 ที่ชายทะเล 1538 01:47:09,264 --> 01:47:11,850 พวกเขามีแสงเปล่งประกายมาก 1539 01:47:11,933 --> 01:47:17,022 จนไม่มีพื้นที่ใดสามารถรองรับ การหายไปของแสงนั้น 1540 01:47:25,155 --> 01:47:29,034 ต้องอาศัยฟิสิกส์ เพื่ออธิบายวงนั้นในจุดสูงสุดของวง 1541 01:47:29,117 --> 01:47:32,120 มาแล้วคลื่นลม 1542 01:47:35,206 --> 01:47:39,544 มีเอนโทรปีอยู่ 1543 01:47:40,629 --> 01:47:44,633 มาแล้วคลื่นลม 1544 01:47:44,716 --> 01:47:45,675 (ลู รีด - Transformer) 1545 01:47:53,808 --> 01:47:57,354 มาแล้วคลื่นลม 1546 01:47:57,437 --> 01:47:58,355 (นิโก THE MARBLE INDEX) 1547 01:48:03,401 --> 01:48:04,402 (มอรีน ทักเกอร์ PLAYIN' POSSUM) 1548 01:48:14,371 --> 01:48:20,126 (ลู รีด/จอห์น เคล SONGS FOR DRELLA) 1549 01:48:29,469 --> 01:48:35,517 มาแล้วคลื่นลม 1550 01:48:39,980 --> 01:48:45,986 มาแล้วคลื่นลม 1551 01:48:50,282 --> 01:48:55,245 มาแล้วคลื่นลม 1552 01:49:03,461 --> 01:49:05,714 สวัสดีครับ อืม 1553 01:49:06,256 --> 01:49:07,340 บาร์บาราโทรมา 1554 01:49:10,135 --> 01:49:12,053 อืม มีอะไรหรือเปล่า 1555 01:49:12,971 --> 01:49:14,097 อ่อ เยี่ยม 1556 01:49:14,848 --> 01:49:18,143 พูดอะไรอย่างนั้น รีบมาที่นี่เลย 1557 01:49:20,186 --> 01:49:21,313 ไว้คุยกัน 1558 01:49:25,066 --> 01:49:26,735 ชอบความสอดคล้องของสีในนั้นไหม 1559 01:49:26,818 --> 01:49:28,236 แปลกมาก 1560 01:49:28,320 --> 01:49:30,238 เป็นรูปถ่าย หรือ… 1561 01:49:30,322 --> 01:49:32,490 - ไม่ใช่ เป็นรูปวาด - สวยดี 1562 01:49:32,574 --> 01:49:34,743 มีรูปหนึ่งในนั้น เป็นรูป The Velvet Underground 1563 01:49:34,826 --> 01:49:36,703 เจ๋งใช่ไหม 1564 01:49:36,786 --> 01:49:38,413 เจ๋งมาก 1565 01:49:39,706 --> 01:49:40,999 คนนี้ใคร 1566 01:49:41,082 --> 01:49:42,292 - นั่นสเตอร์ลิง - อ่อ สเตอร์ลิง 1567 01:49:43,376 --> 01:49:45,837 อ่อ ลืมไปเลย 1568 01:49:45,921 --> 01:49:47,047 ยังเจอกันอยู่ไหมครับ 1569 01:49:47,130 --> 01:49:51,009 ครับ ผมเพิ่งเจอมอรีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 1570 01:49:51,593 --> 01:49:53,595 อืม ตอนนี้เธอ เป็นนักเขียนโปรแกรมแล้ว 1571 01:49:53,678 --> 01:49:55,513 - ใช่ เธอทำงานที่โรงงาน - แล้ว… 1572 01:49:55,597 --> 01:49:56,890 - ในหลายนัย - จริงเหรอ 1573 01:49:58,642 --> 01:50:00,852 IBM เธอมีลูก 1574 01:50:00,936 --> 01:50:03,563 ยังติดต่อจอห์นอยู่ไหม จอห์น เคล 1575 01:50:04,189 --> 01:50:06,107 ครับ เพิ่งคุยกับเขาเมื่อวันก่อน 1576 01:50:06,608 --> 01:50:09,486 แล้วเขา… เขา… แน่นอนว่าเขายังทำงานเขียน แต่… 1577 01:50:09,569 --> 01:50:12,072 เขาทำงาน ที่ไอส์แลนด์เรกคอร์ดส์ และ… 1578 01:50:12,948 --> 01:50:14,908 ไอส์แลนด์เหรอ ไม่รู้มาก่อน 1579 01:50:14,991 --> 01:50:17,244 ก่อนหน้านี้ทำกับวอร์เนอร์บราเธอร์ส ตอนนี้มาอยู่ไอส์แลนด์แล้ว 1580 01:50:25,794 --> 01:50:27,837 (วันที่ 22 ก.พ. 1987 แอนดี วอร์ฮอล เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด) 1581 01:50:27,921 --> 01:50:29,172 เราใช้เวลาสักพักกว่าจะถึงจุดนี้ 1582 01:50:29,256 --> 01:50:32,217 (เขาอายุ 58 ปี) 1583 01:50:33,760 --> 01:50:37,764 (18 ก.ค. 1988 นิโกเสียชีวิต จากเลือดออกในสมอง เธออายุ 49 ปี) 1584 01:50:37,847 --> 01:50:40,183 ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังจะไปไหน 1585 01:50:41,851 --> 01:50:45,146 (30 ส.ค. 1995 สเตอร์ลิง มอร์ริสัน เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมน้ำเหลือง:) 1586 01:50:45,230 --> 01:50:46,940 แต่ฉันจะพยายาม 1587 01:50:47,023 --> 01:50:48,358 (เขาอายุ 53 ปี) 1588 01:50:48,441 --> 01:50:49,943 ชิงอาณาจักรหากทำไหว 1589 01:50:50,610 --> 01:50:54,948 (27 ต.ค. 2013 ลู รีด เสียชีวิตจากโรคตับ เขาอายุ 71 ปี) 1590 01:50:55,031 --> 01:50:59,828 เพราะทำให้รู้สึกว่าเป็นผู้ชาย เมื่อเอาเข็มจิ้มเข้าเส้นเลือด 1591 01:51:00,912 --> 01:51:04,958 ขอบอกเธอว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม 1592 01:51:05,917 --> 01:51:09,462 เมื่อฤทธิ์ยาพัดพาฉันไป 1593 01:51:10,505 --> 01:51:13,842 และรู้สึกเหมือนเป็นบุตรพระเยซู 1594 01:51:14,885 --> 01:51:18,096 ฉันคงไม่รู้อะไร 1595 01:51:18,972 --> 01:51:21,933 ฉันคงไม่รู้อะไรเลย 1596 01:51:32,652 --> 01:51:34,362 ฉัน 1597 01:51:37,240 --> 01:51:38,950 ไม่รู้ 1598 01:51:41,202 --> 01:51:44,372 ฉันตัดสินใจบางอย่าง 1599 01:51:53,006 --> 01:51:54,966 แต่ฉัน 1600 01:51:57,761 --> 01:51:59,763 รู้ว่าฉัน 1601 01:52:01,389 --> 01:52:04,601 จะพยายามลบล้างชีวิตฉัน 1602 01:52:04,684 --> 01:52:08,855 เพราะเมื่อเลือดเริ่มไหลเวียน 1603 01:52:09,814 --> 01:52:13,026 เมื่อยาพุ่งขึ้นไปตามลำคอคนเสพ 1604 01:52:13,818 --> 01:52:16,905 เมื่อฉันเข้าใกล้ความตาย 1605 01:52:28,917 --> 01:52:30,919 ไม่มีใครช่วยได้ 1606 01:52:31,002 --> 01:52:34,005 พวกนายช่วยไม่ได้ สาวสวยก็ช่วยไม่ได้ 1607 01:52:34,089 --> 01:52:36,174 ด้วยคำหวานของพวกเธอ 1608 01:52:36,800 --> 01:52:39,970 ทุกคนจงออกไป 1609 01:52:40,720 --> 01:52:43,765 ฉันคงไม่รู้อะไร 1610 01:52:44,641 --> 01:52:47,060 ฉันคงไม่รู้อะไรเลย 1611 01:52:47,143 --> 01:52:48,478 (ลู รีด นักแต่งเพลง นักดนตรี และนักเขียน) 1612 01:52:48,562 --> 01:52:50,021 (ออกอัลบั้มสตูดิโอ 22 ชุด อัลบั้มสด เก้าชุดในฐานะศิลปินเดี่ยว) 1613 01:52:50,105 --> 01:52:51,273 (จอห์น เคล นักแต่งเพลง นักดนตรี และโปรดิวเซอร์) 1614 01:52:51,356 --> 01:52:52,732 (ออกอัลบั้มสตูดิโอ 16 ชุด อัลบั้มสด หกชุด และผลิตเพลงกว่า 75 เพลง) 1615 01:52:52,816 --> 01:52:54,568 (เขายังออกทัวร์ และอาศัยอยู่ที่ลอสแอนเจลิส) 1616 01:52:54,651 --> 01:52:56,695 (สเตอร์ลิง มอร์ริสัน นักดนตรี ได้รับปริญญาเอกและทำงานเป็น) 1617 01:52:56,778 --> 01:52:59,614 (ศาสตราจารย์การศึกษายุคกลาง ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส เมืองออสติน) 1618 01:52:59,698 --> 01:53:02,117 (มอรีน ทักเกอร์ นักแต่งเพลงและ นักดนตรี ออกอัลบั้มสตูดิโอสี่ชุด) 1619 01:53:02,200 --> 01:53:04,995 (ในฐานะศิลปินเดี่ยว และ อาศัยอยู่ที่ตอนใต้ของรัฐจอร์เจีย) 1620 01:53:05,078 --> 01:53:07,706 (นิโก นักแต่งเพลงและนักดนตรี) 1621 01:53:07,789 --> 01:53:10,709 (ออกอัลบั้มสตูดิโอหกชุด ในฐานะศิลปินเดี่ยว) 1622 01:53:10,792 --> 01:53:13,795 (ดัก ยูล นักดนตรี) 1623 01:53:13,879 --> 01:53:16,673 (ออกอัลบั้มสดหนึ่งชุดในฐานะ ศิลปินเดี่ยว อาศัยอยู่ที่ซีแอตเทิล) 1624 01:53:17,257 --> 01:53:19,509 (เมอร์ริลล์ รีด-ไวเนอร์ น้องสาวของลูรีด เป็นนักจิตบำบัด) 1625 01:53:19,593 --> 01:53:21,469 (อาศัยอยู่ที่ลองไอส์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก) 1626 01:53:21,553 --> 01:53:23,805 (อัลลัน ไฮแมน เพื่อนสมัยเรียน และเพื่อนร่วมวงของลู รีด) 1627 01:53:23,889 --> 01:53:25,599 (อาศัยอยู่ที่ลองไอส์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก) 1628 01:53:25,682 --> 01:53:27,767 (เฮนรี ฟลินท์ นักประพันธ์ นักดนตรี นักปรัชญา และนักเขียน) 1629 01:53:27,851 --> 01:53:29,227 (อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1630 01:53:29,311 --> 01:53:31,980 (ลามอนต์ ยัง นักประพันธ์ นักดนตรี นักเขียน และผู้ก่อตั้งวง) 1631 01:53:32,063 --> 01:53:35,609 (มาเรียน ซาซีลา ศิลปิน นักดนตรี สมาชิกวง Theatre of Eternal Music) 1632 01:53:35,692 --> 01:53:37,527 (และ The Dream Syndicate อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1633 01:53:37,611 --> 01:53:40,947 (ริชาร์ด มิชกิน เพื่อนมหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมวงของลู รีด อยู่นิวยอร์ก) 1634 01:53:41,031 --> 01:53:42,866 (เชลลี คอร์วิน แฟนสาวสมัยมหาวิทยาลัยของลู) 1635 01:53:42,949 --> 01:53:44,659 (เป็นศิลปินที่อาศัยอยู่ที่ ตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย) 1636 01:53:44,743 --> 01:53:47,162 (แดนนี ฟีลด์ส ผู้จัดการเพลง และนักโฆษณา อยู่นิวยอร์กและลอนดอน) 1637 01:53:47,245 --> 01:53:49,372 (เอมี โทบิน นักแสดงหญิง และลูกค้า The Factory ในยุค 60) 1638 01:53:49,456 --> 01:53:51,541 (เป็นนักวิจารณ์ภาพยนตร์ อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1639 01:53:51,625 --> 01:53:53,668 (เทอร์รี ฟิลิปส์ นักดนตรี และผู้บริหารของ Pickwick Records) 1640 01:53:53,752 --> 01:53:55,337 (อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1641 01:53:55,420 --> 01:53:57,797 (มาร์ธา มอร์ริสัน ภรรยาของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน ทำงานที่วิทยาลัยวัสซาร์) 1642 01:53:57,881 --> 01:54:00,050 (และอาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1643 01:54:00,133 --> 01:54:02,802 (แมรี โวโรนอฟ ดาราดังของวอร์ฮอล นักแสดงและนักเขียน อยู่ลอสแอนเจลิส) 1644 01:54:03,803 --> 01:54:05,722 (แจ็กสัน บราวน์ นักแต่งเพลง นักดนตรี และนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม) 1645 01:54:05,805 --> 01:54:07,015 (อาศัยอยู่ลอสแอนเจลิส) 1646 01:54:07,098 --> 01:54:09,142 (โจนาธาน ริชแมน นักดนตรี/แต่งเพลง และผู้ก่อตั้ง The Modern Lovers) 1647 01:54:09,226 --> 01:54:10,810 (อาศัยอยู่ทางตอนเหนือ ของแคลิฟอร์เนีย) 1648 01:54:10,894 --> 01:54:13,605 (จอห์น วอเตอร์ส ผู้กำกับ นักเขียน นักแสดง และศิลปิน) 1649 01:54:13,688 --> 01:54:15,565 (อาศัยอยู่ที่บัลติมอร์ ซานฟรานซิสโก และโพรวินซ์ทาวน์) 1650 01:54:15,649 --> 01:54:17,984 (โจเซฟ ฟรีแมน ผู้ช่วยวัยรุ่น ของวอร์ฮอลที่ The Factory) 1651 01:54:18,068 --> 01:54:19,277 (อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1652 01:54:19,361 --> 01:54:20,779 (เดลมอร์ ชวาร์ตซ์ เป็นนักเขียน กวี) 1653 01:54:20,862 --> 01:54:22,280 (และศาสตราจารย์วิชาการเขียนเชิง สร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยซีราคิวส์) 1654 01:54:22,364 --> 01:54:24,491 (โทนี คอนราด เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ แนวทดลองและนักดนตรี) 1655 01:54:24,574 --> 01:54:25,951 (ซึ่งเป็นสมาชิกวง Theatre of Eternal Music และ The Primitives) 1656 01:54:26,034 --> 01:54:27,577 (ร่วมกับลู รีด และจอห์น เคล) 1657 01:54:27,661 --> 01:54:30,038 (บิลลี เนม หรือบิลลีลินิช เป็นผู้ร่วมงานกับวอร์ฮอล ช่างภาพ) 1658 01:54:30,121 --> 01:54:32,040 (และผู้ดูแลหลักที่ The Factory) 1659 01:54:32,123 --> 01:54:33,875 (เดวิด โบวี เป็นนักแต่งเพลง นักดนตรี นักแสดง) 1660 01:54:33,959 --> 01:54:35,961 (และผู้ผลิต Transformer อัลบั้มสนั่นวงการของลู รีด) 1661 01:54:36,044 --> 01:54:38,463 (ด้วยความระลึกถึงโจนัส เมคัส ผู้กำกับ ศิลปิน) 1662 01:54:38,547 --> 01:54:41,258 (และผู้ก่อตั้ง Anthology Film Archives) 1663 01:54:41,341 --> 01:54:44,719 (ผู้ทุ่มเทชีวิตให้กับภาพยนตร์ล้ำยุค ของสหรัฐอเมริกา) 1664 01:55:05,991 --> 01:55:12,706 แล้วสาวน้อยผู้น่าสงสารจะใส่ชุดอะไร 1665 01:55:15,500 --> 01:55:20,589 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1666 01:55:23,300 --> 01:55:29,598 กระโปรงมือสองจากใครก็ไม่รู้ 1667 01:55:32,475 --> 01:55:37,606 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1668 01:55:40,275 --> 01:55:45,405 แล้วเธอจะไปไหน แล้วเธอจะทำอย่างไร 1669 01:55:45,488 --> 01:55:49,743 เมื่อเที่ยงคืนวนมาถึง 1670 01:55:53,121 --> 01:55:59,336 เธอจะหันไปหา ตัวตลกวันอาทิตย์อีกครั้ง 1671 01:56:02,297 --> 01:56:06,968 และร้องไห้อยู่หลังประตู 1672 01:56:47,926 --> 01:56:54,432 แล้วสาวน้อยผู้น่าสงสารจะใส่ชุดอะไร 1673 01:56:57,519 --> 01:57:02,399 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1674 01:57:05,068 --> 01:57:11,283 ทำไมต้องผ้าไหมและลินิน จากชุดกระโปรงของเมื่อวาน 1675 01:57:14,327 --> 01:57:19,332 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1676 01:57:21,918 --> 01:57:27,132 แล้วเธอจะทำอย่างไรกับเศษผ้าวันพฤหัส 1677 01:57:27,215 --> 01:57:31,344 เมื่อวันจันทร์วนมาถึง 1678 01:57:34,806 --> 01:57:40,937 เธอจะหันไปหา ตัวตลกวันอาทิตย์อีกครั้ง 1679 01:57:43,857 --> 01:57:48,612 และร้องไห้อยู่หลังประตู 1680 01:58:47,128 --> 01:58:53,552 แล้วสาวน้อยผู้น่าสงสารจะใส่ชุดอะไร 1681 01:58:56,513 --> 01:59:01,685 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1682 01:59:04,062 --> 01:59:10,110 เพราะเด็กวันพฤหัส เป็นตัวตลกวันอาทิตย์ 1683 01:59:12,946 --> 01:59:17,993 ที่ไม่มีใครจะไว้ทุกข์ให้ 1684 01:59:20,620 --> 01:59:25,542 ผ้าคลุมสีคล้ำ ชุดกระโปรงมือสอง 1685 01:59:25,625 --> 01:59:30,505 ทำจากเศษผ้าและผ้าไหม ชุดเสื้อผ้า 1686 01:59:33,425 --> 01:59:40,432 ที่เหมาะกับคนที่นั่งร้องไห้ 1687 01:59:42,058 --> 01:59:47,439 เรื่องงานปาร์ตี้ทั้งหลาย ของวันพรุ่งนี้ 1688 02:00:15,175 --> 02:00:17,177 คำบรรยายโดย ธัญญา ศรีธัญญลักษณา