1 00:01:41,883 --> 00:01:43,763 ‎คุณต้องเป็นหนึ่งเดียวกับรถ 2 00:01:47,363 --> 00:01:51,283 ‎คุณควรรู้ว่าคุณจะใช้งานรถได้หนักถึงแค่ไหน 3 00:01:57,043 --> 00:01:59,003 ‎เพราะมีขีดจำกัดเสมอ 4 00:01:59,083 --> 00:02:03,003 ‎และคุณควรระวัง ‎เหมือนที่คุณระวังเวลาคุณใช้ของที่คุณชอบ 5 00:02:04,723 --> 00:02:08,723 ‎คุณต้องมีความรู้สึก ‎ที่จะไม่ทำเกินพอดีหรือทำน้อยเกินพอดี 6 00:02:08,802 --> 00:02:12,363 ‎ถ้าคุณทำแบบนั้น เราทั้งสองฝ่ายจะพอใจ 7 00:02:13,523 --> 00:02:14,483 ‎หมายถึงผมกับรถนะ 8 00:02:20,083 --> 00:02:21,523 ‎ความสมบูรณ์แบบเต็มร้อย 9 00:02:22,203 --> 00:02:23,963 ‎ไปให้ถึงร้อย 10 00:02:24,043 --> 00:02:25,963 ‎นั่นแหละเป้าหมายผม 11 00:02:26,563 --> 00:02:28,043 ‎ผมเป็นคนแบบนั้น 12 00:02:28,723 --> 00:02:30,763 ‎อะไรที่ต่ำกว่านั้นผมรับไม่ได้ 13 00:02:35,003 --> 00:02:38,483 ‎ผมไม่ชอบพูดถึงคุณภาพของตัวเอง ‎เพราะมันจะฟังดูขี้อวดและมั่นใจเกิน 14 00:02:39,323 --> 00:02:43,003 ‎และผมไม่ชอบพูดถึงความล้มเหลวของตัวเอง ‎เพราะมันคือหน้าที่คุณที่ต้องหาเอาเอง 15 00:03:12,723 --> 00:03:17,523 ‎(สปา ประเทศเบลเยียม ‎24 สิงหาคม 1991) 16 00:03:20,403 --> 00:03:25,603 ‎(การแข่งฟอร์มูล่าวันกรังด์ปรีซ์ครั้งแรก ‎ของชูมัคเคอร์ ) 17 00:03:32,283 --> 00:03:34,243 ‎บรรยากาศในแพดด็อกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น 18 00:03:34,323 --> 00:03:36,443 ‎(เจมส์ แอลเล็น ‎อดีตผู้บรรยายกีฬาเอฟวันทางทีวี) 19 00:03:36,523 --> 00:03:39,003 ‎เพราะทุกคนรู้ว่าใครที่จะออกมาจากตรงนั้น 20 00:03:40,843 --> 00:03:44,283 ‎เรามีความรู้สึกว่าเขาคือคนที่มีโอกาสชนะสูง 21 00:03:50,443 --> 00:03:52,483 ‎ตอนที่มิชชาเอลเข้ามาเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน… 22 00:03:52,563 --> 00:03:54,403 ‎(ริชาร์ด วิลเลียมส์ ‎อดีตนักข่าวฟอร์มูล่าวัน) 23 00:03:54,483 --> 00:03:56,083 ‎ตอนนั้นมีนักแข่งเก่งๆ ดังๆ แล้วนะ 24 00:03:57,203 --> 00:03:59,483 ‎เซนนาเป็นแชมป์โลกแข่งให้แม็คลาเรน 25 00:03:59,563 --> 00:04:02,443 ‎แมนเซลล์แข่งให้วิลเลียมส์ 26 00:04:03,043 --> 00:04:04,843 ‎พรอสต์แข่งให้เฟอร์รารี่ 27 00:04:04,923 --> 00:04:06,803 ‎พวกเขาเป็นนักแข่งชื่อดัง 28 00:04:08,483 --> 00:04:12,363 ‎นักแข่งทุกคนอายุเกิน 27 28 ‎และมากประสบการณ์ 29 00:04:12,443 --> 00:04:14,043 ‎ในขณะที่มิชชาเอลเป็นนักแข่งวัยหนุ่ม 30 00:04:14,843 --> 00:04:17,163 ‎ตอนที่มิชชาเอลเข้ามา ‎นักแข่งทุกคนมองเขาแล้วก็แบบ… 31 00:04:17,243 --> 00:04:19,523 ‎(ฟลาวิโอ บริอาตอเร ‎ผอ.ทีมเบเนตตอง 1989 - 1997) 32 00:04:19,603 --> 00:04:20,683 ‎"เด็กไป ไวไป เร็วไป" 33 00:04:23,603 --> 00:04:27,803 ‎นักแข่งฟอร์มูล่าวันส่วนใหญ่ ‎มาจากการแข่งโกคาร์ทในรายการฟอร์มูล่าทรี 34 00:04:27,883 --> 00:04:31,363 ‎เขามีคนช่วยดึงมาอยู่ในฟอร์มูล่าวัน 35 00:04:31,923 --> 00:04:35,483 ‎จากการขับรถสปอร์ตแข่งให้เมอร์เซเดส 36 00:04:40,603 --> 00:04:43,323 ‎โชคช่วยให้เขาได้มาอยู่ในวงการฟอร์มูล่าวัน 37 00:04:43,403 --> 00:04:45,723 ‎นักแข่งคนหนึ่งออกพอดี ‎และพวกเขาต้องการนักแข่งคนใหม่ 38 00:04:45,803 --> 00:04:46,763 ‎(รอล์ฟ ชูมัคเคอร์ ‎พ่อ) 39 00:04:50,403 --> 00:04:53,323 ‎มิชชาเอลได้เข้ามาเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน ‎เพราะโชคช่วย 40 00:04:53,403 --> 00:04:56,203 ‎ตอนที่เอ็ดดี้ จอร์แดนกำลังหานักแข่งคนใหม่ 41 00:04:56,283 --> 00:04:58,483 ‎และทันใดนั้น ‎เขาก็ได้เข้าไปแข่งในช่วงหนึ่งของซีซั่น 42 00:04:59,363 --> 00:05:02,163 ‎พอผมรู้ ‎ผมก็ยกหูโทรศัพท์โทรหาเอ็ดดี้ จอร์แดนทันที 43 00:05:02,243 --> 00:05:03,803 ‎(วิลลี่ เวเบอร์ ‎ผู้จัดการ 1988 - 2009) 44 00:05:03,883 --> 00:05:07,963 ‎ผมบอกว่า "เอ็ดดี้ คุณต้องให้โอกาสนี้กับผม" 45 00:05:08,043 --> 00:05:10,283 ‎แล้วเขาก็ถามว่า "ใครคือมิชชาเอล ชูมัคเคอร์" 46 00:05:11,283 --> 00:05:12,723 ‎ผมตอบว่า "คุณต้องจำได้สิ 47 00:05:12,803 --> 00:05:16,003 ‎ที่แข่งฟอร์มูล่าทรีไง ‎ที่ชนะการแข่งที่มาเก๊า ชนะการแข่งที่ฟูจิ" 48 00:05:16,083 --> 00:05:17,723 ‎"อ๋อๆ นึกออกละ" 49 00:05:17,803 --> 00:05:19,243 ‎ผมเห็นเขาในฟอร์มูล่าทรี ผมมี… 50 00:05:19,323 --> 00:05:20,963 ‎(เอ็ดดี้ จอร์แดน ‎เจ้าของทีมจอร์แดน) 51 00:05:21,043 --> 00:05:23,323 ‎ทีมมีแนวคิดว่าเราควรให้โอกาสเด็ก 52 00:05:23,403 --> 00:05:24,723 ‎ทีมเราเกิดขึ้นมาด้วยแนวคิดนั้น 53 00:05:35,563 --> 00:05:37,923 ‎ทุกอย่างในอนาคตที่รอเราอยู่ 54 00:05:38,003 --> 00:05:42,483 ‎ความเป็นไปได้ที่เขาจะได้แสดงความสามารถ 55 00:05:42,563 --> 00:05:47,483 ‎มันเหลือเชื่อจริงๆ เราไม่รู้ด้วยซ้ำ 56 00:05:47,563 --> 00:05:51,963 ‎เย็นวันนั้นเรานั่งกินพิซซ่าที่จัตุรัส ‎ไม่มีใครมารบกวน 57 00:05:52,043 --> 00:05:54,923 ‎ที่นั่นคนแน่นมาก ผมว่าสี่ห้าร้อยคนได้เลยมั้ง 58 00:05:55,003 --> 00:05:56,483 ‎ไม่มีใครเดินมาหาเรา 59 00:05:57,563 --> 00:06:00,603 ‎นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ไม่มีใครมารบกวนเรา 60 00:06:08,243 --> 00:06:10,683 ‎ผมจำได้เลย ‎เสียงคนบรรยายในระบบกระจายเสียง… 61 00:06:12,123 --> 00:06:14,163 ‎กำลังบรรยายสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในรอบควอลิฟาย 62 00:06:14,243 --> 00:06:17,883 ‎แล้วผู้บรรยาย ‎ก็พูดชื่อมิชชาเอล ชูมัคเคอร์หลายครั้งมาก 63 00:06:18,683 --> 00:06:20,403 ‎เขาเป็นคนที่ใครๆ ก็ต้องสนใจ 64 00:06:27,083 --> 00:06:28,603 ‎ตอนที่มิชชาเอลได้อันดับเจ็ด 65 00:06:28,683 --> 00:06:31,603 ‎มันแบบว่า "นี่ดาวรุ่งดวงใหม่ชัดๆ" 66 00:06:31,683 --> 00:06:36,843 ‎ทุกคนตื่นเต้นมาก ‎ที่นักแข่งหน้าใหม่คนนี้แจ้งเกิดไวมาก 67 00:06:38,003 --> 00:06:39,643 ‎ผมดีใจมากครับ 68 00:06:39,723 --> 00:06:44,083 ‎แต่ก็ต้องบอกว่าด้วยรถคันนั้น ‎มันเป็นไปได้ที่จะทำเวลานั้นในรอบควอลิฟาย 69 00:06:44,163 --> 00:06:46,203 ‎รถขับสนุกมาก 70 00:06:46,283 --> 00:06:48,443 ‎ผมดีใจมากที่ทำเวลานั้นได้ 71 00:06:52,323 --> 00:06:53,643 ‎ทุกคนสังเกตเห็น 72 00:06:53,723 --> 00:06:56,483 ‎ทุกคนในทีมอื่นก็สังเกตเห็น 73 00:06:56,563 --> 00:06:57,843 ‎เขากลายเป็นคนที่ใครๆ 74 00:06:58,643 --> 00:07:00,043 ‎ก็ต้องการตัวขึ้นมาในทันที 75 00:07:02,283 --> 00:07:03,683 ‎หลังจากแข่งที่สปา 76 00:07:04,683 --> 00:07:06,803 ‎ผมโทรหาวิลลี่ เวเบอร์ 77 00:07:08,323 --> 00:07:10,683 ‎เราเจอกับมิชชาเอล วันจันทร์มั้ง 78 00:07:11,763 --> 00:07:14,443 ‎วันจันทร์หรือวันอังคารนี่แหละ ที่ลอนดอน 79 00:07:16,003 --> 00:07:19,963 ‎ตอนนั้นทีมเราพยายามแข่ง ‎เพื่อให้ได้ไปยืนบนโพเดียม 80 00:07:21,043 --> 00:07:23,283 ‎เราไม่ได้แข่งเพื่อเอาแชมป์ 81 00:07:23,363 --> 00:07:26,363 ‎แต่ในบางครั้งเราก็เกือบจะได้ไปยืนบนโพเดียม 82 00:07:27,683 --> 00:07:29,963 ‎สรุปคือ เราเซ็นสัญญากันครับ 83 00:07:36,723 --> 00:07:39,523 ‎มันเกิดขึ้นไวมาก ผมไปไม่ถูกเลยครับ 84 00:07:39,603 --> 00:07:41,083 ‎ผมเพิ่งแข่งครั้งแรกได้ไม่นาน 85 00:07:41,163 --> 00:07:44,763 ‎แต่ทีมอันดับสี่ของโลกยื่นข้อเสนอให้ผมแล้ว 86 00:07:44,843 --> 00:07:47,003 ‎ผมดีใจจนพูดไม่ออก 87 00:07:47,683 --> 00:07:50,643 ‎ผมประหลาดใจที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก 88 00:07:50,723 --> 00:07:53,643 ‎ผมดีใจมากที่ได้เซ็นสัญญากับพวกเขา 89 00:07:53,723 --> 00:07:56,683 ‎มันเป็นสถานการณ์ที่วิเศษจริงๆ 90 00:08:07,723 --> 00:08:09,643 ‎เขามีความสดใสอยู่ในตัว 91 00:08:09,723 --> 00:08:13,803 ‎ผิวที่หน้าเขากระชับมาก ‎หนวดเคราโกนมาเนียนกริบ 92 00:08:13,883 --> 00:08:16,203 ‎และมีออร่าของความมั่นใจ 93 00:08:16,283 --> 00:08:19,403 ‎มิชชาเอลเป็นหนุ่มนักแข่ง ‎ที่แข่งกับนักแข่งเก่งๆ ที่มากประสบการณ์ 94 00:08:20,803 --> 00:08:22,763 ‎(สปา ประเทศเบลเยียม ‎30 สิงหาคม 1992) 95 00:08:22,843 --> 00:08:27,083 ‎ชูมัคเคอร์มาเป็นอันดับสี่ในรถเบเนตตอง 96 00:08:29,203 --> 00:08:33,283 ‎ชูมัคเคอร์กำลังไล่จี้จะแซงอาอีร์ตง เซนนา 97 00:08:33,363 --> 00:08:37,003 ‎ตอนนี้มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ขึ้นมานำในเบลเยียมกรังด์ปรีซ์แล้วครับ 98 00:08:38,202 --> 00:08:41,923 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎จะชนะกรังด์ปรีซ์รายการแรกของเขา 99 00:08:42,003 --> 00:08:45,723 ‎ที่สนามที่เขาแข่งรายการกรังด์ปรีซ์ ‎เป็นครั้งแรกหรือไม่ 100 00:08:50,123 --> 00:08:51,523 ‎อายุเพียง 23 ปีเท่านั้น 101 00:08:51,603 --> 00:08:54,843 ‎ผู้ชนะรายการกรังด์ปรีซ์ที่อายุน้อยที่สุด ‎หลังจากไม่มีใครทุบสถิติมานาน 102 00:08:54,923 --> 00:08:58,163 ‎นี่เป็นชัยชนะครั้งแรกของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 103 00:08:58,243 --> 00:09:02,363 ‎เขาชูแขนขึ้นมาด้วยครับ เขาดีใจมากจริงๆ 104 00:09:04,203 --> 00:09:06,163 ‎เขาพูดว่า "เย่! ฉันชนะ" 105 00:09:37,203 --> 00:09:41,003 ‎ผมอธิบายไม่ถูก มันเหลือเชื่อจริงๆ ครับ 106 00:09:41,083 --> 00:09:47,843 ‎ผมว่าแฟนคลับชาวเยอรมัน ‎คงรอชัยชนะฟอร์มูล่าวันกรังด์ปรีซ์มานานแล้ว 107 00:09:48,363 --> 00:09:51,763 ‎และผมมอบชัยชนะนั้นให้กับแฟนคลับชาวเยอรมัน 108 00:09:51,843 --> 00:09:54,083 ‎อยากกล่าวอะไรก่อนจบถึงคนที่บ้านมั้ยครับ 109 00:09:54,683 --> 00:09:56,003 ‎คงเป็นพ่อกับแม่ครับ 110 00:09:56,603 --> 00:09:58,123 ‎ผมอยากทักทายพวกเขา 111 00:10:08,963 --> 00:10:10,803 ‎ทุกอย่างเริ่มขึ้นตอนผมอายุสี่ขวบ 112 00:10:10,883 --> 00:10:15,603 ‎พ่อผมสนใจซ่อมพวกแบบว่า 113 00:10:15,683 --> 00:10:18,083 ‎มอเตอร์ไซค์หรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่เสมอ 114 00:10:18,163 --> 00:10:20,483 ‎สิ่งที่เขาทำคือ 115 00:10:20,563 --> 00:10:24,083 ‎เรามีรถมอเตอร์ไซค์เล็กๆ คันเก่า 116 00:10:24,163 --> 00:10:26,803 ‎ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 117 00:10:26,883 --> 00:10:29,163 ‎เขาเอามันมาแต่งใส่รถโกคาร์ทของเด็ก 118 00:10:30,363 --> 00:10:33,403 ‎ผมชอบมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ขับ 119 00:10:46,043 --> 00:10:47,323 ‎ผมชอบมันทุกครั้งที่ขับ 120 00:10:47,403 --> 00:10:50,083 ‎ผมจำได้เลย ตอนผมอายุหกเจ็ดขวบ 121 00:10:50,163 --> 00:10:54,963 ‎พ่อผมเริ่มปล่อยเช่ารถโกคาร์ทให้สโมสร 122 00:10:55,483 --> 00:10:58,363 ‎ผมอยู่กับพ่อตลอดเพื่อตรวจดูรถโกคาร์ท 123 00:10:58,443 --> 00:10:59,283 ‎เพื่อช่วยเขา 124 00:10:59,363 --> 00:11:00,763 ‎และทดสอบรถโกคาร์ท 125 00:11:00,843 --> 00:11:04,363 ‎พอเขาตรวจรถโกคาร์ทคันหนึ่งเสร็จ ‎ผมก็จะนำไปทดสอบเพื่อดูว่าใช้งานได้โอเคมั้ย 126 00:11:04,923 --> 00:11:08,323 ‎ผมนั่งรถโกคาร์ทกับเขาเป็นประจำ 127 00:11:08,403 --> 00:11:10,163 ‎เราทำทุกอย่างด้วยกัน 128 00:11:12,003 --> 00:11:13,723 ‎มันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก 129 00:11:35,883 --> 00:11:41,563 ‎พอมิชชาเอลอายุได้แปดเก้าขวบ ‎เขาก็ดูแลน้องชายเขาในยามที่จำเป็น 130 00:11:41,643 --> 00:11:46,283 ‎ผมขอให้เขาตรวจดูว่าประตูหน้าต่างล็อกหมดรึยัง 131 00:11:46,363 --> 00:11:47,403 ‎และเขาก็ทำ 132 00:11:48,803 --> 00:11:50,843 ‎มิชชาเอลเป็นคนที่พึ่งพาได้เสมอ 133 00:11:54,803 --> 00:11:56,763 ‎ครอบครัวชูมัคเคอร์ 134 00:11:57,363 --> 00:11:59,763 ‎ตอนแรกทำธุรกิจรถอาหารเคลื่อนที่ 135 00:12:00,723 --> 00:12:02,683 ‎หลังจากนั้นก็มาทำร้านอาหาร 136 00:12:03,243 --> 00:12:05,123 ‎ในแง่การเงิน ครอบครัวชูมัคเคอร์… 137 00:12:05,203 --> 00:12:07,003 ‎(แกร์ฮาร์ด โนอาค ‎ผู้สนับสนุนในช่วงแรก) 138 00:12:07,083 --> 00:12:10,763 ‎รอล์ฟเริ่มชีวิตการทำงาน ‎ด้วยการเป็นช่างปูนทำปล่องไฟ 139 00:12:10,843 --> 00:12:12,843 ‎จนสุดท้ายได้เป็นคนบริหารสนามแข่งรถโกคาร์ท 140 00:12:13,643 --> 00:12:14,643 ‎ส่วนเอลิซาเบธ 141 00:12:15,443 --> 00:12:20,043 ‎เธอต้องอยู่จนทุกอย่างจบ อยู่จนแขกทุกคนกลับ 142 00:12:22,403 --> 00:12:26,283 ‎พ่อแม่ผมทำงานหนักมาก ‎เพื่อให้เรามีชีวิตเหมือนคนทั่วไป 143 00:12:26,363 --> 00:12:29,683 ‎แต่เด็กรวยๆ หลายคนก็ยากจนเหมือนกัน ‎เพราะพ่อแม่ไม่มีเวลาให้ 144 00:12:29,763 --> 00:12:30,963 ‎(ราล์ฟ ชูมัคเคอร์ ‎น้องชาย) 145 00:12:31,043 --> 00:12:34,723 ‎พ่อแม่เราอยู่ด้วยที่สนามแข่ง 146 00:12:34,803 --> 00:12:36,123 ‎ซึ่งเป็นสนามเด็กเล่นที่ใหญ่มาก 147 00:12:47,483 --> 00:12:50,563 ‎ทุกครั้งเราจะใช้ชิ้นส่วนที่ถูกที่สุดที่มีอยู่ 148 00:12:50,643 --> 00:12:54,043 ‎ผมหาล้อที่คนไม่ใช้แล้วจากถังขยะ 149 00:12:54,123 --> 00:12:56,723 ‎เอามันมาใส่ที่รถโกคาร์ทของผม ‎และคว้าชัยชนะในการแข่งขัน 150 00:12:56,803 --> 00:13:03,563 ‎ผมดีใจทุกครั้งที่ชนะด้วยชิ้นส่วนที่แย่ที่สุด ‎ด้วยชิ้นส่วนที่ไม่ได้ดีที่สุด 151 00:13:03,643 --> 00:13:08,123 ‎การที่ต้องสู้ด้วยชิ้นส่วนที่ไม่ได้ดีที่สุด ‎เป็นแรงกระตุ้นอีกหนึ่งอย่างสำหรับผม 152 00:13:10,443 --> 00:13:13,323 ‎สวัสดีตอนบ่าย ยินดีต้อนรับสู่แคร์เพน 153 00:13:13,403 --> 00:13:17,803 ‎และการแข่งขันชิงแชม์โลกโกคาร์ทรุ่นเยาว์ 154 00:13:17,883 --> 00:13:21,363 ‎ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน ‎มีทั้งหมด 18 ประเทศ 155 00:13:21,443 --> 00:13:23,363 ‎และมีนักแข่งประมาณ 80 คน 156 00:13:26,483 --> 00:13:30,563 ‎มีนักแข่งคนหนึ่งเป็นชาวเยอรมัน ‎แต่ไม่ได้แข่งให้เยอรมนี 157 00:13:30,643 --> 00:13:33,203 ‎และเป็นตัวเต็งของรายการ 158 00:13:33,283 --> 00:13:35,523 ‎เขาคนนั้นคือมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 159 00:13:35,603 --> 00:13:37,163 ‎คุณแข่งให้ลักเซมเบิร์ก เพราะอะไร 160 00:13:37,883 --> 00:13:41,803 ‎รอบควอลิฟายในเยอรมนีต้องใช้เงินครับ 161 00:13:41,883 --> 00:13:44,883 ‎ถ้าเราถูกคัดออก ‎เราจะไม่มีคุณสมบัติไปแข่งรอบชิงแชมป์โลก 162 00:13:45,403 --> 00:13:48,163 ‎แต่ที่ลักเซมเบิร์ก คู่แข่งก็มีแต่เรา 163 00:13:48,243 --> 00:13:49,243 ‎ไม่ต้องเสียเงิน 164 00:13:49,843 --> 00:13:51,083 ‎และเราก็มีคุณสมบัติด้วย 165 00:13:52,043 --> 00:13:55,563 ‎ตอนที่เขายังเด็ก ‎เขาฝึกเหมือนแชมป์โลกแล้วนะครับ 166 00:13:56,083 --> 00:14:01,723 ‎ยังเด็กก็จริง แต่รู้แล้วว่าตัวเองต้องการอะไร 167 00:14:04,003 --> 00:14:06,963 ‎เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ไปอยู่ในจุดสูงสุด 168 00:14:07,043 --> 00:14:12,043 ‎ผมว่าเขาได้ความเป็นมืออาชีพสุดๆ แบบนี้ ‎มาจากสมัยที่ยังเป็นเด็กมากๆ 169 00:14:12,123 --> 00:14:16,403 ‎เพราะถ้าพลาดแค่นิดเดียว ‎ก็อาจจะเป็นจุดจบของทุกอย่างได้ 170 00:14:24,323 --> 00:14:26,683 ‎ปี 1983 ในแคร์เพน-แมนไฮม์ 171 00:14:27,243 --> 00:14:30,843 ‎ปีนั้นเป็นครั้งแรกที่เราแข่งด้วยกัน 172 00:14:31,643 --> 00:14:34,363 ‎มันคือหนึ่งในความทรงจำ ‎ที่ผมจำได้แม่นในอาชีพแข่งรถของผม 173 00:14:34,443 --> 00:14:36,883 ‎(มิก้า ฮักคิเนน ‎แชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 1998 และ 1999) 174 00:14:37,923 --> 00:14:43,043 ‎มันคือสนามแข่งในประเทศของมิชชาเอล 175 00:14:43,123 --> 00:14:45,843 ‎แน่นอนว่าเขารู้จักทุกมุมเป็นอย่างดี 176 00:14:45,923 --> 00:14:49,483 ‎มันจึงยากที่จะแข่งกับเขาในสนามนั้น 177 00:15:10,603 --> 00:15:14,163 ‎ดูจากวิธีที่เขาขับ มันเหลือเชื่อครับ 178 00:15:16,923 --> 00:15:21,283 ‎ในสนามจะมีโค้งชิเคนอยู่โค้งหนึ่ง ‎อยู่ตรงหน้าคนดู 179 00:15:21,363 --> 00:15:24,043 ‎เป็นโค้งที่ต้องวิ่งด้วยความเร็วสูง 180 00:15:24,123 --> 00:15:27,723 ‎มันน่าตื่นเต้นมาก ‎เวลาเห็นมิชชาเอลขับออกมาจากโค้งชิเคนนั้น 181 00:15:28,443 --> 00:15:31,683 ‎โดยขับต่างจากนักแข่งคนอื่นอย่างสิ้นเชิง 182 00:15:32,603 --> 00:15:33,723 ‎ควบคุมได้ดีมาก 183 00:15:34,603 --> 00:15:36,803 ‎วิธีการขับของเขาคือใช้ร่างกายบังคับ 184 00:15:36,883 --> 00:15:41,163 ‎ระดับการผิดพลาดของเขา ‎เวลาเลี้ยวตรงโค้งชิเคนในแต่ละครั้งต่ำมาก 185 00:15:41,723 --> 00:15:43,963 ‎นักแข่งคนอื่นขับรอบแรกได้ดี 186 00:15:44,043 --> 00:15:47,563 ‎แต่พอรอบสอง มีผิดพลาดนิดหน่อย 187 00:15:47,643 --> 00:15:50,563 ‎ในขณะที่มิชชาเอลขับดีตลอด ควบคุมรถได้ดีมาก 188 00:15:52,723 --> 00:15:55,603 ‎ตอนที่ผมดู ผมรู้เลยทันที 189 00:15:55,683 --> 00:15:58,203 ‎คนนี้เก่ง 190 00:16:00,043 --> 00:16:02,403 ‎ตอนนั้นเราอายุประมาณ 13 14 191 00:16:03,403 --> 00:16:04,243 ‎และก็ 192 00:16:05,683 --> 00:16:07,483 ‎มั่นใจมาก 193 00:16:08,163 --> 00:16:12,003 ‎ที่หนึ่งคือ มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 194 00:16:12,083 --> 00:16:15,963 ‎วันนี้เขาชนะไปแล้ว 460 มาร์ค 195 00:16:16,043 --> 00:16:20,803 ‎และตอนนี้จะได้รับอีก 236 มาร์ค 196 00:16:35,243 --> 00:16:36,363 ‎หลังจากหลายปีในช่วงนั้น 197 00:16:36,443 --> 00:16:39,883 ‎ผมเชื่อว่า ‎ยังไงผมก็คงเป็นนักแข่งโกคาร์ทไปตลอด 198 00:16:39,963 --> 00:16:45,683 ‎เพราะผมไม่กล้าคิด ‎ที่จะเข้าไปอยู่ในระดับฟอร์มูล่า 199 00:16:46,363 --> 00:16:47,763 ‎ด้วยเหตุผลเดียวเลยคือเงิน 200 00:16:58,483 --> 00:17:01,243 ‎ในปี 1988 มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่เตะตาผมอยู่ตลอด 201 00:17:01,323 --> 00:17:04,122 ‎เขาชื่อมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 202 00:17:04,203 --> 00:17:08,362 ‎ไม่ใช่เพราะชัยชนะอะไรนะ ‎แต่เป็นวิธีบังคับรถของเขา 203 00:17:08,443 --> 00:17:12,283 ‎ผมขอให้เขามาขับให้ทีมผม 204 00:17:12,362 --> 00:17:15,083 ‎แน่นอนว่าเงินคือปัญหา 205 00:17:15,642 --> 00:17:18,443 ‎ตอนนั้นมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ไม่มีอะไรเลย 206 00:17:18,523 --> 00:17:21,882 ‎ไม่มีแม้กระทั่งเงิน 500 มาร์ค ‎เป็นทุนในการแข่งหนึ่งซีซั่น 207 00:17:21,963 --> 00:17:24,763 ‎ซึ่งตอนนั้นถ้าจะแข่งต้องใช้เงินหกแสนถึงเจ็ดแสน 208 00:17:25,523 --> 00:17:27,283 ‎วิลลี่ เวเบอร์บอกเราว่า 209 00:17:28,083 --> 00:17:29,723 ‎"คืนนี้มาที่บ้านผมนะ 210 00:17:31,123 --> 00:17:32,523 ‎ผมจะให้เขาเซ็นสัญญาห้าปี 211 00:17:33,043 --> 00:17:34,283 ‎ให้รถหนึ่งคัน 212 00:17:34,363 --> 00:17:37,323 ‎และเงินเดือน 2,000 มาร์ค" 213 00:17:38,163 --> 00:17:40,563 ‎บ้าไปแล้ว 214 00:17:44,123 --> 00:17:46,203 ‎ถ้าคุณแข่งรถ 215 00:17:46,283 --> 00:17:51,443 ‎ผมว่าทุกคนฝัน ‎ว่าสักวันตัวเองจะได้แข่งฟอร์มูล่าวัน 216 00:17:51,523 --> 00:17:52,883 ‎ผมก็ฝันอย่างนั้น 217 00:18:07,243 --> 00:18:09,123 ‎ก่อนอื่นเลย 218 00:18:09,883 --> 00:18:13,923 ‎ฉันว่าฉันโชคดีมากที่ได้เจอมิชชาเอล 219 00:18:14,003 --> 00:18:17,843 ‎เขาเป็นคนที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ 220 00:18:17,923 --> 00:18:19,163 ‎(โครินนา ชูมัคเคอร์ ‎ภรรยา) 221 00:18:23,523 --> 00:18:27,243 ‎มีอยู่ปีหนึ่งวันเกิดเขา ฉันทำมื้อเย็นให้เขา 222 00:18:27,323 --> 00:18:32,603 ‎เขาเป็นคนเดียว ‎ที่ช่วยฉันทำความสะอาดและล้างจาน 223 00:18:33,523 --> 00:18:37,083 ‎แล้วฉันก็คิดในใจว่า "ผู้ชายคนนี้ดีจริงๆ" 224 00:18:37,683 --> 00:18:41,363 ‎เขาเป็นคนตลกมาก ฉันเห็นความตลกในตัวเขา 225 00:18:41,443 --> 00:18:43,363 ‎ฉันตกหลุมรักเขา 226 00:18:44,083 --> 00:18:44,923 ‎เพราะ 227 00:18:45,723 --> 00:18:47,163 ‎เขาเป็นคนที่วิเศษจริงๆ 228 00:18:52,123 --> 00:18:55,803 ‎ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับฉัน 229 00:19:06,603 --> 00:19:08,603 ‎ฉันไม่เคยคิดเลยว่า 230 00:19:08,683 --> 00:19:12,523 ‎"เขาเป็นนักแข่งรถที่สุดยอดมาก ‎ตั้งแต่เริ่มอาชีพเลย" 231 00:19:12,603 --> 00:19:15,683 ‎ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น 232 00:19:25,563 --> 00:19:28,723 ‎ตอนที่ผมเริ่ม ‎ผมพูดตลอดว่า "อย่าทำให้ผมเป็นคนดัง 233 00:19:28,803 --> 00:19:31,083 ‎อย่ากดดันผมเกิน ผมไม่ต้องการแบบนั้น" 234 00:19:37,283 --> 00:19:43,083 ‎สิ่งที่เขาไม่ชอบคือสื่อ ‎ผู้คน และการประโคมข่าวให้คนชอบเขา 235 00:19:43,163 --> 00:19:45,163 ‎เขาไม่ต้องการอะไรแบบนั้น 236 00:19:45,243 --> 00:19:46,923 ‎เขาแค่อยากแข่งกีฬา 237 00:19:57,283 --> 00:19:59,083 ‎เขาต้องการชีวิตธรรมดาเหมือนคนทั่วไป… 238 00:19:59,163 --> 00:20:00,043 ‎(จีน ท็อท ‎เพื่อน) 239 00:20:00,123 --> 00:20:03,203 ‎เขามีปัญหากับการเข้าใจว่า 240 00:20:03,283 --> 00:20:06,603 ‎เพราะอะไรเขาถึงมีชีวิตแบบคนทั่วไปไม่ได้ 241 00:20:06,683 --> 00:20:10,083 ‎เรื่องนี้เรื่องจริงนะ ‎บางครั้งเขาก็ดูเหมือนไม่เห็นใจผู้อื่น 242 00:20:10,843 --> 00:20:13,363 ‎เพราะเขาถูกเรียกร้องให้ทำนั่นนี่มากมาย 243 00:20:13,443 --> 00:20:16,723 ‎บ่อยครั้งมันมากเกินไป และเป็นการบีบรัดเขา 244 00:20:18,043 --> 00:20:22,203 ‎เพราะเขาขี้อายมาก ไม่ค่อยพูดหรือแสดงอารมณ์ 245 00:20:23,123 --> 00:20:28,683 ‎บางครั้งเขาก็จัดการความขี้อายของตัวเอง ‎ด้วยวิธีนั้น 246 00:20:35,203 --> 00:20:38,683 ‎ตอนที่มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎เข้ามาเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน 247 00:20:38,763 --> 00:20:42,243 ‎ตอนนั้นเซนนาเป็นนักแข่งที่ดังที่สุดในกีฬานี้ 248 00:20:43,683 --> 00:20:45,803 ‎แชมป์โลกครั้งที่สามของอาอีร์ตง เซนนา 249 00:20:45,883 --> 00:20:48,963 ‎เป็นตัวการันตีว่าเขา ‎จะเป็นหนึ่งในนักแข่งแถวหน้าตลอดกาล 250 00:20:51,283 --> 00:20:53,763 ‎อาอีร์ตงมีความลึกลับอยู่ในตัว 251 00:20:53,843 --> 00:20:55,683 ‎แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาเป็นคนที่ไวมาก… 252 00:20:55,763 --> 00:20:57,603 ‎(เดม่อน ฮิลล์ ‎แชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 1996) 253 00:20:57,683 --> 00:20:59,923 ‎ชอบเอาชนะมาก ดุดันมาก 254 00:21:00,003 --> 00:21:02,923 ‎และท้าทายมากสำหรับคู่แข่งคนอื่นๆ 255 00:21:03,003 --> 00:21:04,483 ‎เขาเลยครองวงการนี้ 256 00:21:11,403 --> 00:21:13,243 ‎เขาเป็นเบอร์หนึ่ง 257 00:21:14,083 --> 00:21:14,923 ‎เขาคือคนที่… 258 00:21:15,003 --> 00:21:16,083 ‎(เบอร์นี่ เอ็คเคิลสโตน) 259 00:21:16,163 --> 00:21:18,123 ‎ถ้าคุณถามนักแข่งฟอร์มูล่าวันหน้าใหม่ว่า 260 00:21:18,203 --> 00:21:19,643 ‎"คุณอยากเป็นอะไร" ทุกคนจะตอบว่า 261 00:21:20,363 --> 00:21:21,723 ‎"อาอีร์ตง เซนนา" 262 00:21:21,803 --> 00:21:23,163 ‎ทุกคนยกย่องเขา 263 00:21:23,883 --> 00:21:27,843 ‎ถ้าคุณเริ่มอาชีพเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน ‎คุณจะอยากเป็นเหมือนเขา 264 00:21:31,163 --> 00:21:35,203 ‎ตอนนั้นมิชชาเอลไม่มีชื่อเสียง ‎ไม่มีใครรู้ถึงความเก่งของเขา 265 00:21:35,803 --> 00:21:37,643 ‎และเขากำลังจะดวลกับคนที่เก่งที่สุด 266 00:21:42,043 --> 00:21:47,963 ‎(มักนีย์-กูร์ ประเทศฝรั่งเศส ‎5 กรกฎาคม 1992) 267 00:22:14,483 --> 00:22:16,523 ‎ในการแข่งเฟรนช์กรังด์ปรีซ์ที่มักนีย์-กูร์ 268 00:22:16,603 --> 00:22:18,763 ‎ชูมัคเคอร์ตามหลังเซนนา 269 00:22:18,843 --> 00:22:22,683 ‎ชูมัคเคอร์พยายามจะแซงอาอีร์ตง เซนนา ‎ที่อยู่ในรถแม็คลาเรน 270 00:22:36,963 --> 00:22:39,803 ‎พวกเขามาที่โค้งหักศอกแล้วครับ แล้วก็ชนกัน 271 00:22:39,883 --> 00:22:41,523 ‎นั่นใครครับ ชูมัคเคอร์ครับ 272 00:22:41,603 --> 00:22:43,883 ‎เขาชนใครครับ เขาชนเซนนา 273 00:22:43,963 --> 00:22:45,843 ‎นักแข่งกำลังขับเลี่ยงรถที่ขวางอยู่ 274 00:22:45,923 --> 00:22:47,483 ‎พวกเขาจะหยุดการแข่งขันมั้ย 275 00:22:47,563 --> 00:22:48,763 ‎ในรอบแรกเลยครับ 276 00:22:49,363 --> 00:22:50,523 ‎ที่โค้งหักศอก 277 00:22:50,603 --> 00:22:53,043 ‎เหมือนว่าชูมัคเคอร์กับเซนนา ‎จะต้องออกจากการแข่งขัน 278 00:22:53,123 --> 00:22:55,043 ‎ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการแข่งขันจะไม่หยุด 279 00:22:59,883 --> 00:23:03,443 ‎ไม่แปลกใจครับที่อาอีร์ตง เซนนาจะโกรธ 280 00:23:03,523 --> 00:23:06,763 ‎และอาจจะมองว่ากลวิธีของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 281 00:23:06,843 --> 00:23:09,123 ‎รุนแรงไปหน่อย 282 00:23:19,643 --> 00:23:22,403 ‎ผมว่ามิชชาเอลไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาโกรธ 283 00:23:22,483 --> 00:23:25,083 ‎ผมว่ามิชชาเอล ‎ก็แข่งกับทุกคนในฟอร์มูล่าวันนั่นแหละ 284 00:23:25,163 --> 00:23:27,763 ‎เขาก็แข่งเหมือนกับที่แข่งกับทุกคน ‎และแข่งในแบบที่ควรจะแข่ง 285 00:23:33,603 --> 00:23:35,323 ‎แต่มันกลับทำให้เกิดความบาดหมางขึ้น 286 00:23:35,403 --> 00:23:40,163 ‎มีอยู่สองสามครั้งที่อาอีร์ตง ‎พยายามทำให้มิชชาเอลรู้สึกด้อยบนสนาม 287 00:23:40,723 --> 00:23:43,163 ‎ซึ่งทำให้มิชชาเอลไม่พอใจ 288 00:23:43,243 --> 00:23:46,563 ‎เขาคิดว่าอาอีร์ตงไม่ให้เกียรติเขา ‎เหมือนที่เขาให้เกียรติอาอีร์ตง 289 00:23:46,643 --> 00:23:50,283 ‎ช่วงแรกๆ พวกเขาก็เลยหมางใจกัน 290 00:23:50,363 --> 00:23:52,723 ‎นายทำให้เราตกรอบ ‎ไม่เป็นไร ฉันมาคุยกับนายเฉยๆ 291 00:23:53,923 --> 00:23:55,363 ‎ไม่เป็นไรๆ ฉันมาคุยกับนายเฉยๆ 292 00:24:01,523 --> 00:24:05,683 ‎คุณจะเห็นได้ว่า ‎ตอนนั้นมิชชาเอลเป็นสุดยอดนักแข่ง 293 00:24:06,403 --> 00:24:08,723 ‎ตอนที่เขามีเรื่องกับเซนนา 294 00:24:10,243 --> 00:24:13,163 ‎เซนนาสัมผัสได้ว่าเขาไม่ธรรมดา 295 00:24:13,243 --> 00:24:14,123 ‎เมื่อคุณเป็นสิงโต 296 00:24:14,203 --> 00:24:17,003 ‎สิงโตทุกตัวจะสัมผัสได้ ‎เมื่อมีสิงโตหนุ่มตัวใหม่กำลังเข้ามา 297 00:24:17,083 --> 00:24:20,443 ‎เราจะหวงถิ่นของเรา 298 00:24:37,643 --> 00:24:40,123 ‎ปี 1994 เป็นปีที่รุ่งมาก 299 00:24:40,203 --> 00:24:43,123 ‎เป็นปีทองของมิชชาเอล และเป็นปีทองของผม 300 00:24:43,203 --> 00:24:46,163 ‎ไม่มีใครทำใจยอมรับได้ ‎ที่ทีมของเรามาจากไหนไม่รู้… 301 00:24:46,243 --> 00:24:48,523 ‎(รอส บรอว์น ‎อดีตผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ทีมเบเนตตอง) 302 00:24:48,603 --> 00:24:49,803 ‎แต่ชนะการแข่งขันหลายครั้ง 303 00:24:49,883 --> 00:24:51,843 ‎จนได้มาแข่งในรายการชิงแชมป์ 304 00:24:54,483 --> 00:24:57,803 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์วิ่งได้ฉลุยครับ 305 00:25:02,043 --> 00:25:04,803 ‎นี่คือนักแข่งที่วิ่งนำในตอนนี้ มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 306 00:25:06,043 --> 00:25:09,643 ‎ในสมัยนั้นเขาจะสร้างปรากฏการณ์ ‎เมื่อมีความไม่แน่นอนว่าผู้ชนะจะเป็นใคร 307 00:25:09,723 --> 00:25:12,403 ‎คำถามคือ อาอีร์ตง เซนนาอยู่ไหน 308 00:25:13,043 --> 00:25:14,283 ‎รถเซนนาหมุนครับ 309 00:25:14,363 --> 00:25:16,643 ‎เซนนาถูกตัดออกจากการแข่งขันครับ 310 00:25:20,003 --> 00:25:22,163 ‎มาแล้วครับ เขาชนะแน่ 311 00:25:22,243 --> 00:25:24,603 ‎ธงตาหมากรุกยื่นออกมาแล้ว 312 00:25:24,683 --> 00:25:28,083 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ชนะแปซิฟิคกรังด์ปรีซ์ 313 00:25:28,883 --> 00:25:29,723 ‎โอ้โฮ 314 00:25:29,803 --> 00:25:33,603 ‎ซีซั่นของการแข่งฟอร์มูล่าวันในปีนี้จะต้องสนุกแน่ 315 00:25:37,683 --> 00:25:39,763 ‎หลังจากนั้นเราก็ได้เป็นผู้ท้าชิงแชมป์ 316 00:25:39,843 --> 00:25:41,963 ‎เราไม่ชินเลยครับ เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง 317 00:25:44,283 --> 00:25:48,043 ‎เมื่อคุณชนะเฟอร์รารี่ ‎ชนะแม็คลาเรน ชนะวิลเลียมส์ 318 00:25:48,763 --> 00:25:50,683 ‎ทีมเหล่านั้นเป็นทีมดังๆ ทั้งนั้น 319 00:25:50,763 --> 00:25:52,043 ‎แต่จู่ๆ 320 00:25:52,843 --> 00:25:54,603 ‎ก็มีผู้ผลิตเสื้อยืดเข้ามา 321 00:25:55,163 --> 00:25:57,443 ‎พร้อมกับเด็กคนหนึ่งจากเยอรมนี 322 00:25:58,043 --> 00:25:59,523 ‎แล้วก็ชนะทุกคนในทันใด 323 00:26:13,043 --> 00:26:14,523 ‎เขาชนะการแข่งที่ญี่ปุ่น 324 00:26:15,323 --> 00:26:17,803 ‎ตอนนั้นเรากำลังรออยู่ในสนามบิน 325 00:26:17,883 --> 00:26:23,043 ‎มิชชาเอลมั่นใจมาก ‎ว่าเขาเร็วพอที่จะเอาชนะอาอีร์ตง 326 00:26:23,603 --> 00:26:25,603 ‎และอาจจะชนะการแข่งชิงแชมป์ 327 00:26:26,203 --> 00:26:28,123 ‎เวลาคุยกับมิชชาเอล 328 00:26:29,123 --> 00:26:30,483 ‎เหมือนคุยกับ 329 00:26:31,003 --> 00:26:32,963 ‎เหมือนเขาทำงานนี้มาทั้งชีวิต 330 00:26:33,563 --> 00:26:34,803 ‎ซึ่งเป็นเรื่องปกติ 331 00:26:34,883 --> 00:26:36,043 ‎เซนนา… 332 00:26:36,123 --> 00:26:39,003 ‎สี่หรือห้าปีก่อนหน้านั้น 333 00:26:39,083 --> 00:26:41,643 ‎เขาติดโปสเตอร์รูปเซนนาในห้องนอนด้วยซ้ำ 334 00:26:43,483 --> 00:26:48,963 ‎(อิโมล่า ประเทศอิตาลี ‎1 พฤษภาคม 1994) 335 00:26:53,843 --> 00:26:58,043 ‎ตอนที่มิชชาเอลได้เข้าไปแข่งในสนามอิโมล่า ‎เขามาแรงมากๆ และมีแนวโน้มจะชนะ 336 00:26:58,123 --> 00:27:01,083 ‎เซนนารู้ว่าเขาต้องชนะการแข่งในอิโมล่าให้ได้ 337 00:27:01,163 --> 00:27:04,483 ‎เขาต้องเร่ิมลดช่องว่างของคะแนนที่ห่างกัน ‎ระหว่างเขากับมิชชาเอล 338 00:27:05,043 --> 00:27:07,243 ‎เขาต้องแสดงความเป็นเจ้าพ่อวงการ ‎ให้มิชชาเอลเห็น 339 00:27:07,323 --> 00:27:09,963 ‎ไม่อย่างนั้นมิชชาเอล ‎จะทิ้งห่างเขาในรอบชิงแชมป์ 340 00:27:18,523 --> 00:27:20,763 ‎ชูมัคเคอร์ตามหลังเซนนาครับ 341 00:27:21,483 --> 00:27:25,603 ‎ตอนนี้คู่แข่งหลักของอาอีร์ตง เซนนา ‎คือชูมัคเคอร์ 342 00:27:36,083 --> 00:27:37,123 ‎เซนนาวิ่งมาแล้วครับ 343 00:27:37,763 --> 00:27:39,083 ‎ตามด้วยชูมัคเคอร์ 344 00:27:45,323 --> 00:27:47,683 ‎วิ่งมาที่โค้งแทมบูเรลโล่ 345 00:28:02,803 --> 00:28:05,723 ‎เกิดอะไรขึ้นตรงนั้นครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน 346 00:28:07,203 --> 00:28:08,043 ‎เซนนา… 347 00:28:09,243 --> 00:28:11,123 ‎เซนนายังคงอยู่ในรถ 348 00:28:16,403 --> 00:28:18,723 ‎การแข่งขันยุติ ธงแดงถูกยกขึ้นแล้วครับ 349 00:28:19,643 --> 00:28:23,563 ‎เขาขับด้วยความเร็วประมาณ ‎305 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตรงจุดนั้น 350 00:28:23,643 --> 00:28:25,843 ‎ตอนที่ออกมาจากโค้งแทมบูเรลโล่ 351 00:28:29,123 --> 00:28:30,203 ‎ทุกคนเงียบ 352 00:28:30,283 --> 00:28:34,603 ‎บรรยากาศแปลกๆ 353 00:28:37,323 --> 00:28:39,643 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์… 354 00:28:40,763 --> 00:28:42,803 ‎หยุดรถและออกมาจากรถ 355 00:28:42,883 --> 00:28:45,123 ‎ถอดหมวก สีหน้าเคร่งเครียด 356 00:28:59,243 --> 00:29:01,763 ‎ความจริงคือ สิ่งที่เขากำลังทำตอนชน 357 00:29:01,843 --> 00:29:03,563 ‎ตอนที่รถเขาออกจากสนาม 358 00:29:03,643 --> 00:29:06,483 ‎เขาพยายามที่จะนำชูมัคเคอร์ 359 00:29:15,963 --> 00:29:19,683 ‎เราเคยเห็นการชนแบบนั้นมาแล้ว ‎รุนแรงกว่านั้นก็เคยเห็น 360 00:29:20,403 --> 00:29:24,523 ‎การชนที่เหมือนจะแรงกว่าที่เขาชน 361 00:29:26,163 --> 00:29:28,083 ‎และเราก็ไม่ได้คาดว่าจะเกิดอะไรแบบนั้นขึ้น 362 00:29:29,803 --> 00:29:34,363 ‎คุณแค่คิดว่า "อืม ก็คงจะมีแผลฟกช้ำที่แขน 363 00:29:34,443 --> 00:29:35,843 ‎หรือไม่ก็อาจจะขาหัก" 364 00:29:36,603 --> 00:29:37,643 ‎แล้วก็กลับไปบนสนาม 365 00:29:37,723 --> 00:29:39,643 ‎กริดสตาร์ทถูกตั้งใหม่ คุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 366 00:29:39,723 --> 00:29:42,123 ‎ไม่มีใครมาอธิบายให้คุณฟังว่าสถานการณ์คืออะไร 367 00:29:42,203 --> 00:29:46,003 ‎คุณก็จะคิดแค่ว่า "อ๋อ ต้องแข่งต่อ 368 00:29:46,083 --> 00:29:48,683 ‎ทุกคนต้องแข่งต่อ งั้นฉันก็ต้องแข่งต่อแหละ" 369 00:29:48,763 --> 00:29:50,843 ‎คุณไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรแข่งต่อ 370 00:29:58,123 --> 00:30:00,683 ‎ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าเซนนาเสียชีวิตมั้ย 371 00:30:06,403 --> 00:30:11,283 ‎ถ้ามีการประกาศที่สนามว่าเขาเสียชีวิต ‎พวกเขาจะยุติการแข่งขัน 372 00:30:14,043 --> 00:30:20,203 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะซานมารีโนกรังด์ปรีซ์ประจำปี 1994 373 00:30:44,283 --> 00:30:46,203 ‎ก่อนที่ผมจะไปที่โพเดียม 374 00:30:46,283 --> 00:30:49,443 ‎ผมบอกมิชชาเอลว่า ‎"ไม่ถือแชมเปญนะ ไม่ถืออะไรทั้งนั้นมิชชาเอล" 375 00:30:49,523 --> 00:30:52,403 ‎เขาถามผมว่า "อาอีร์ตงเป็นไงบ้าง" ‎ผมตอบว่า "อาการแย่" 376 00:30:53,763 --> 00:30:55,803 ‎นั่นเป็นครั้งแรก… 377 00:30:57,123 --> 00:30:58,763 ‎ที่ผมเห็นมิชชาเอลเป็นอีกคน 378 00:31:12,923 --> 00:31:14,843 ‎เราขึ้นไปบนโพเดียม 379 00:31:14,923 --> 00:31:18,683 ‎เขาบอกเราว่า "อาอีร์ตงอาการโคม่า" 380 00:31:18,763 --> 00:31:21,283 ‎แต่อาการโคม่ามีหลายอย่าง 381 00:31:21,363 --> 00:31:25,043 ‎อาจจะเป็นอะไรสักอย่างแล้ววันถัดมาก็ดีขึ้น 382 00:31:26,003 --> 00:31:27,563 ‎หรืออาจจะแย่มากๆ เราจะไม่ตัดสิน 383 00:31:27,643 --> 00:31:30,803 ‎เพราะเรายังคงไม่เชื่อว่า 384 00:31:31,523 --> 00:31:34,523 ‎มันผิดธรรมดา อันตรายมากๆ หรือหนักมากๆ 385 00:31:35,363 --> 00:31:36,883 ‎เรายังคงไม่เชื่อ 386 00:31:36,963 --> 00:31:38,043 ‎ผมยัง… 387 00:31:39,203 --> 00:31:41,323 ‎สองชั่วโมงหลังจากแข่งเสร็จ 388 00:31:42,043 --> 00:31:46,483 ‎คุณวอลคินชอว์เดินมาหาผม ‎แล้วบอกว่า "ดูท่าจะไม่ดี" 389 00:31:46,563 --> 00:31:50,403 ‎แล้วผมก็คิดในใจว่า "ไม่นะ เขาแค่อาการโคม่า ‎โคม่าไม่ได้แปลว่าอาการหนักมาก" 390 00:31:50,483 --> 00:31:53,083 ‎เขาบอกว่า "ไม่ๆ อาการไม่สู้ดี" 391 00:31:56,003 --> 00:31:58,363 ‎หลังจากนั้นก็มีคนหนึ่งเดินมาหาผมแล้วบอกว่า 392 00:31:59,043 --> 00:32:00,163 ‎"เขาตายแล้ว" 393 00:32:01,923 --> 00:32:05,243 ‎หนึ่งนาทีต่อมา อีกคนเดินมาบอกว่า 394 00:32:05,323 --> 00:32:06,443 ‎"ไม่นะ เขาอาการโคม่า" 395 00:32:07,083 --> 00:32:10,763 ‎ณ ตอนนั้นข้อมูลน้อยมาก 396 00:32:11,563 --> 00:32:14,123 ‎จนไม่รู้ว่าควรคิดยังไงกับเรื่องนี้ 397 00:32:14,203 --> 00:32:17,963 ‎ผมยังคงไม่เชื่อว่าเขาจะตายจริงๆ 398 00:32:18,043 --> 00:32:21,483 ‎ตอนนั้นผมไม่สามารถที่จะคิดอย่างนั้นได้ 399 00:32:21,563 --> 00:32:24,363 ‎ผมคิดแค่ว่า ‎"ไม่ๆ เขาจะกลับมาคว้าแชมป์แน่นอน" 400 00:32:25,323 --> 00:32:28,643 ‎"เขาอาจจะไม่ได้แข่งแค่สองสามครั้ง ‎แต่หลังจากนั้นเขาจะต้องกลับมา" 401 00:32:32,843 --> 00:32:35,763 ‎สิ่งที่แย่ที่สุดคือสองอาทิตย์หลังจากนั้น 402 00:32:35,843 --> 00:32:40,203 ‎มันคือตอนที่ผมต้องยอมรับความจริง 403 00:32:40,283 --> 00:32:41,363 ‎ความจริงที่ว่าเขาตาย 404 00:32:41,443 --> 00:32:42,283 ‎มัน… 405 00:32:43,043 --> 00:32:44,003 ‎มัน… 406 00:32:45,923 --> 00:32:47,243 ‎มันเป็นอะไรที่บ้ามาก 407 00:32:58,403 --> 00:32:59,283 ‎เซนนาไม่อยู่แล้ว… 408 00:32:59,363 --> 00:33:00,963 ‎(ริชาร์ด วิลเลียมส์ ‎นักเขียนข่าวกีฬา) 409 00:33:01,043 --> 00:33:02,123 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 410 00:33:03,363 --> 00:33:05,323 ‎กลายเป็นเบอร์หนึ่งในวงการนี้ 411 00:33:06,443 --> 00:33:10,083 ‎ถึงจะยังไม่ได้ชนะแชมป์โลกก็ตาม 412 00:33:15,603 --> 00:33:18,243 ‎มันง่ายมั้ยครับที่จะกลับมาแข่งอีกครั้ง 413 00:33:29,323 --> 00:33:32,163 ‎ผมไปที่ซิลเวอร์สโตน 414 00:33:34,883 --> 00:33:37,203 ‎แล้วทันใดนั้น ‎ผมก็มองอะไรหลายอย่างด้วยมุมมองใหม่ 415 00:33:38,163 --> 00:33:41,483 ‎ผมขับรถยนต์แบบทั่วไปวนในสนามที่ซิลเวอร์สโตน 416 00:33:41,563 --> 00:33:44,443 ‎แล้วก็คิดในใจว่า "นี่คือจุดที่นายอาจจะตายได้ 417 00:33:44,523 --> 00:33:46,083 ‎นี่คือจุดที่นายอาจจะตายได้" 418 00:33:46,163 --> 00:33:49,923 ‎ผมคิดในใจว่า "ให้ตายเถอะ ‎นายทดสอบรถที่นี่เป็นประจำ แข่งที่นี่ประจำ 419 00:33:50,003 --> 00:33:53,403 ‎แต่มีหลายจุดมากที่นายอาจจะชนแล้วตายทันที" 420 00:33:53,483 --> 00:33:55,443 ‎ตอนนั้นผมคิดอยู่แต่เรื่องนั้น 421 00:34:00,763 --> 00:34:04,803 ‎ผมไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง ‎ถ้าผมกลับไปแข่งรถ 422 00:34:06,843 --> 00:34:07,883 ‎ผมไม่มั่นใจ 423 00:34:07,963 --> 00:34:10,603 ‎ผมจะแข่งโดยไม่คิดถึงเรื่องนั้นได้มั้ย 424 00:34:10,682 --> 00:34:13,163 ‎หรือว่าผมจะกลับไปแข่งแล้วคิดอยู่ในหัวตลอดว่า 425 00:34:13,242 --> 00:34:14,443 ‎"นายอาจจะตายที่ตรงนี้" 426 00:34:14,523 --> 00:34:16,883 ‎"ถ้านายหลุดออกสนามที่ตรงนี้ ‎อาการนายจะสาหัสและ…" 427 00:34:18,123 --> 00:34:19,202 ‎มัน… 428 00:34:20,443 --> 00:34:21,803 ‎เป็นอะไรที่แปลกมาก 429 00:34:31,443 --> 00:34:33,163 ‎ผมตื่นนอนกลางดึก 430 00:34:34,843 --> 00:34:37,722 ‎ผมนอนแค่ประมาณสามชั่วโมงต่อคืน 431 00:34:37,803 --> 00:34:38,923 ‎ผมมีอาการทำนองนั้น 432 00:34:57,763 --> 00:34:59,403 ‎แน่นอนว่าเราตกใจมาก 433 00:34:59,483 --> 00:35:03,843 ‎เราถามตัวเองว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง 434 00:35:03,923 --> 00:35:08,883 ‎มิชชาเอลก็ถามตัวเองเหมือนกันว่า ‎ทุกคนปฏิบัติตัวถูกต้องมั้ย 435 00:35:08,963 --> 00:35:10,963 ‎มัน… 436 00:35:12,683 --> 00:35:13,723 ‎ยากมาก 437 00:35:13,803 --> 00:35:16,563 ‎เขาต้องต่อสู้กับมันหนักมาก 438 00:35:16,643 --> 00:35:20,243 ‎แต่เขามีความสามารถ ‎ในการหยุดคิดถึงสิ่งที่ทำให้ไขว้เขว 439 00:35:20,323 --> 00:35:24,283 ‎เขาสามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำได้ดีมาก 440 00:35:24,363 --> 00:35:27,003 ‎จนไม่เผลอคิดถึงสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวเลย 441 00:35:28,363 --> 00:35:30,403 ‎เขาเข้มแข็งมากทางด้านจิตใจ 442 00:35:31,163 --> 00:35:32,683 ‎มันคือความสามารถที่เขามี 443 00:35:32,763 --> 00:35:34,363 ‎เข้มแข็งมากค่ะ 444 00:35:34,443 --> 00:35:38,083 ‎เขายังคงแสดงให้ฉันเห็นทุกวัน ‎ว่าเขาเข้มแข็งขนาดไหน 445 00:35:46,363 --> 00:35:49,283 ‎ตอนนั้นเดม่อน ฮิลล์ ‎ขึ้นมาเป็นนักแข่งหลักของทีมวิลเลียมส์ 446 00:35:49,923 --> 00:35:51,963 ‎เขาทำให้มิชชาเอลรู้สึกว่ามีคู่แข่ง 447 00:35:52,603 --> 00:35:55,763 ‎เดม่อน ฮิลล์ชนะบริติชกรังด์ปรีซ์ 448 00:35:55,843 --> 00:35:57,403 ‎สุดยอดจริงๆ 449 00:36:05,083 --> 00:36:07,803 ‎เดม่อน ฮิลล์ชนะอิตาเลียนกรังด์ปรีซ์ 450 00:36:07,883 --> 00:36:09,563 ‎ปีก่อนเขาก็ชนะที่นี่ 451 00:36:09,643 --> 00:36:11,083 ‎สิ้นสุดการชนะสามครั้งติดกันของ… 452 00:36:13,643 --> 00:36:20,123 ‎มันคือเหตุการณ์ที่ซับซ้อน ‎ดุเดือด และแปรปรวนของซีซั่นนั้นๆ 453 00:36:21,163 --> 00:36:26,843 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะยูโรเปียนกรังด์ปรีซ์ที่เจเรซ 454 00:36:27,603 --> 00:36:30,803 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ทำให้มีช่องว่างของคะแนนอีกครั้ง 455 00:36:30,883 --> 00:36:33,083 ‎มันคือเรื่องราวของมนุษย์ที่เข้มข้น 456 00:36:33,163 --> 00:36:37,323 ‎เดม่อนกับมิชชาเอล ‎สลับกันชนะอย่างกับลูกตุ้มที่เหวี่ยงไปมา 457 00:36:39,283 --> 00:36:41,203 ‎เดม่อน ฮิลล์ชนะ 458 00:36:41,283 --> 00:36:43,643 ‎เดม่อน ฮิลล์ ‎จะต้องเจอความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต 459 00:36:43,723 --> 00:36:46,203 ‎เขาจะต้องดวลกับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ตัวต่อตัว 460 00:36:46,283 --> 00:36:52,403 ‎(แอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ‎13 พฤศจิกายน 1994) 461 00:36:54,283 --> 00:36:59,763 ‎ประเด็นคือเรารู้ว่า ‎การแข่งครั้งนี้เป็นการแข่งชี้ชะตาของเขา 462 00:37:00,323 --> 00:37:03,123 ‎กลยุทธ์ทั้งหมด วิธีการแซง 463 00:37:03,203 --> 00:37:05,883 ‎สถานการณ์จะเป็นไปตามปัจจัยเหล่านั้น 464 00:37:08,363 --> 00:37:11,403 ‎ชูมัคเคอร์กับฮิลล์คะแนนห่างกันแต้มเดียว 465 00:37:11,483 --> 00:37:15,203 ‎การแข่งชิงแชมป์จึงกลายเป็น ‎การแข่งนัดสุดท้ายที่แสนจะตื่นเต้นเร้าใจ 466 00:37:15,283 --> 00:37:18,963 ‎ตามความเป็นจริงคือ ‎มันดูเหมือนจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น 467 00:37:19,043 --> 00:37:20,763 ‎ผมไปแข่งนัดนั้น 468 00:37:21,643 --> 00:37:24,883 ‎จู่ๆ ก็ต้องไปแข่งชิงแชมป์กับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 469 00:37:24,963 --> 00:37:29,283 ‎ไฟแดงที่แอดิเลดออกแล้วครับ 470 00:37:29,363 --> 00:37:32,723 ‎เรากำลังจะแข่งเป็นครั้งสุดท้ายในซีซั่นนี้ 471 00:37:32,803 --> 00:37:34,003 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์นำครับ 472 00:37:35,083 --> 00:37:35,963 ‎ชูมัคเคอร์นำครับ 473 00:37:36,043 --> 00:37:37,403 ‎หรือเดม่อน ฮิลล์กันแน่ 474 00:37:37,483 --> 00:37:39,323 ‎ชูมัคเคอร์นำฮิลล์อยู่ครับ 475 00:37:59,523 --> 00:38:01,723 ‎ผมต้องใช้พลังในการบังคับรถสูงมาก 476 00:38:02,323 --> 00:38:06,283 ‎มันยากมากสำหรับผม ‎ที่จะบังคับให้รถอยู่บนทางตลอดเวลา 477 00:38:07,043 --> 00:38:09,883 ‎และผมขับหนีไม่พ้นเดม่อน 478 00:38:16,163 --> 00:38:17,643 ‎เราวิ่งติดกันเลย 479 00:38:18,203 --> 00:38:20,003 ‎ประมาณ 20 รอบได้ 480 00:38:20,963 --> 00:38:22,363 ‎มิชชาเอลเริ่มทิ้งห่างเรื่อยๆ 481 00:38:22,963 --> 00:38:26,083 ‎แล้วผมก็เริ่มคิดว่า ‎"ผมวิ่งเร็วขนาดนั้นไม่ได้แน่ๆ" 482 00:38:42,323 --> 00:38:48,403 ‎มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อยู่ๆ ‎ผมก็เจอเส้นที่ผมสามารถทิ้งห่างไปได้สักพัก 483 00:38:48,483 --> 00:38:50,683 ‎ประมาณสองวินาที สองวินาทีครึ่ง 484 00:39:07,843 --> 00:39:10,683 ‎ผมเหยียบสุดตลอด ผมสู้ขาดใจ 485 00:39:10,763 --> 00:39:13,483 ‎ผมวิ่งไปเจอลูกคลื่น แล้วรถก็ออกจากสนาม 486 00:39:14,003 --> 00:39:14,843 ‎แล้วก็ 487 00:39:15,523 --> 00:39:16,883 ‎ครูดกับกำแพง 488 00:39:18,203 --> 00:39:20,763 ‎ผมผิดหวังทันทีและคิดในใจว่า "เชี่ยเอ๊ย" 489 00:39:20,843 --> 00:39:23,723 ‎แต่ผมก็รู้สึกว่า "โอเค ไปต่อได้อยู่" 490 00:39:28,483 --> 00:39:31,883 ‎ตอนที่เรากำลังเลี้ยวตรงโค้งหนึ่ง ‎ผมเห็นเขาวิ่งกลับเข้ามาในสนาม 491 00:39:31,963 --> 00:39:35,123 ‎เหมือนเขาหลุดออกจากสนามแล้วกลับเข้ามา 492 00:39:35,203 --> 00:39:36,443 ‎แล้วผมก็เห็นรถเขาส่าย 493 00:39:37,003 --> 00:39:38,563 ‎ตอนที่ผมขับเบี่ยงไปทางซ้าย 494 00:39:38,643 --> 00:39:42,003 ‎ผมทำแบบนี้เพื่อเช็กทุกอย่าง ‎สลัดเอาสิ่งที่ติดล้อออก 495 00:39:42,803 --> 00:39:45,683 ‎ผมเห็นโอกาสในการแซง ‎และผมรู้สึกว่าผมต้องแซง 496 00:39:45,763 --> 00:39:47,323 ‎ดูเดม่อน ฮิลล์กับชูมัคเคอร์สิครับ 497 00:39:47,403 --> 00:39:48,803 ‎ไม่นะ 498 00:39:48,883 --> 00:39:50,643 ‎ทันทีที่ผมเลี้ยวเข้าโค้ง 499 00:39:50,723 --> 00:39:52,923 ‎เดม่อนมาชนผมที่กล่องดักลมด้านข้าง 500 00:39:53,523 --> 00:39:55,003 ‎รถเขาวิ่งกลับเข้ามา 501 00:39:55,843 --> 00:39:56,763 ‎แล้วก็ชนรถผม 502 00:39:57,363 --> 00:39:58,843 ‎แล้วรถเขาก็ยกขึ้นสองล้อ 503 00:40:04,043 --> 00:40:06,963 ‎ตอนนั้นผมลอยขึ้นในอากาศ ‎แล้วก็ไถลไปชนกำแพงล้อยาง 504 00:40:07,043 --> 00:40:09,603 ‎ผมแบบ ผมไม่เข้าใจ 505 00:40:11,803 --> 00:40:13,643 ‎ชูมัคเคอร์ออกจากการแข่งขันครับ 506 00:40:13,723 --> 00:40:17,283 ‎นักแข่งเยอรมัน ‎ออกจากการแข่งขันออสเตรเลียนกรังด์ปรีซ์ 507 00:40:17,363 --> 00:40:21,723 ‎ส่วนเดม่อน ฮิลล์ ‎ก็แค่ขับไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นแชมป์โลก 508 00:40:22,403 --> 00:40:25,243 ‎เรื่องที่คะแนนห่างกันไม่มีอะไรเลยครับ 509 00:40:25,323 --> 00:40:27,123 ‎เขาแค่คะแนนมากกว่าผม 510 00:40:27,643 --> 00:40:30,203 ‎ถ้าผมหรือเขาไม่ออกจากการแข่งขัน ‎เขาได้เป็นแชมป์แน่นอน 511 00:40:32,483 --> 00:40:35,043 ‎เดม่อน ฮิลล์ต้องกลับไปที่พิทสต็อปก่อน 512 00:40:39,723 --> 00:40:41,843 ‎ผมเห็นเลยว่าคานรถหัก 513 00:40:42,523 --> 00:40:43,843 ‎ผมไม่สามารถขับต่อได้ 514 00:40:45,123 --> 00:40:46,283 ‎ในฐานะคู่แข่ง 515 00:40:46,843 --> 00:40:48,483 ‎ยังไงเขาก็ต้องชนะ 516 00:40:49,683 --> 00:40:53,003 ‎มิชชาเอลทำสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อกันไม่ให้ผมชนะ 517 00:40:54,643 --> 00:40:55,723 ‎ให้ผมไปแข่ง 518 00:40:58,363 --> 00:40:59,203 ‎ที่แอดิเลด 519 00:40:59,283 --> 00:41:00,883 ‎แล้วให้แต้มของผมนำคู่แข่ง 520 00:41:00,963 --> 00:41:03,123 ‎แล้วคู่แข่งเข้ามาที่เส้นใน ผมต้องทำยังไง 521 00:41:03,803 --> 00:41:04,643 ‎ผมไม่รู้ครับ 522 00:41:05,603 --> 00:41:11,283 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะการแข่งขันชิงแชมป์โลกปี 1994 523 00:41:11,363 --> 00:41:15,163 ‎(การแข่งขันชิงแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันปี 1994) 524 00:41:45,003 --> 00:41:47,123 ‎โครินนาคอยสนับสนุนผมเป็นอย่างดี 525 00:41:47,203 --> 00:41:49,123 ‎และตอนนี้เธอก็กำลังทำอย่างนั้น 526 00:41:49,923 --> 00:41:52,563 ‎นั่นคือเหตุผลที่โครินนาอยากมา 527 00:41:52,643 --> 00:41:54,243 ‎และผมก็อยากให้เธอมา 528 00:41:54,323 --> 00:41:58,523 ‎เหมือนว่าเธอนำโชคมาให้ผมอีกครั้ง 529 00:42:10,043 --> 00:42:12,483 ‎ที่จริงแล้วตลอดหลายปีนั้น 530 00:42:13,123 --> 00:42:14,683 ‎ฉันไปกับเขาทุกครั้ง 531 00:42:14,763 --> 00:42:19,043 ‎เราอาจจะนั่งด้วยกันบนรถบัส ‎หรือไม่ก็แอบอยู่ด้วยกันตรงไหนสักที่ 532 00:42:19,643 --> 00:42:22,123 ‎แต่ฉันอยู่กับเขาตลอดเวลาเดินทาง 533 00:42:22,203 --> 00:42:24,203 ‎เราสนุกกันทุกครั้ง 534 00:42:27,683 --> 00:42:30,843 ‎มันเป็นการสนับสนุนเขาอย่างหนึ่ง 535 00:42:30,923 --> 00:42:33,643 ‎ที่ทำให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้โดดเดี่ยว 536 00:42:40,763 --> 00:42:42,643 ‎เราเดินทางรอบโลก 537 00:42:43,803 --> 00:42:46,163 ‎เปลี่ยนเขตเวลาบ่อย 538 00:42:46,243 --> 00:42:50,563 ‎เราต้องทำให้เขาได้นอนหลับอย่างดี 539 00:42:50,643 --> 00:42:55,763 ‎มิชชาเอลวางแผนเกือบทุกอย่างไว้เป็นนาที 540 00:42:55,843 --> 00:42:57,123 ‎ตื่นเวลาเท่านี้นะ 541 00:42:57,803 --> 00:43:00,203 ‎ใช้เวลาในห้องน้ำ 15 ถึง 20 นาทีนะ 542 00:43:00,283 --> 00:43:01,723 ‎มีอยู่คืนหนึ่งเราอยู่ที่ซูซูกะ 543 00:43:01,803 --> 00:43:07,403 ‎ฉันรู้ว่ายังไงฉันก็นอนไม่หลับ 544 00:43:07,923 --> 00:43:11,803 ‎ฉันเลยใช้เวลาครึ่งหนึ่งของคืนนั้นนั่งอยู่ในห้องน้ำ 545 00:43:11,883 --> 00:43:16,083 ‎เพื่อที่เขาจะได้ไม่ตื่น เพื่อให้เขาหลับสนิทเต็มที่ 546 00:43:16,683 --> 00:43:19,203 ‎ฉันนั่งอ่านหนังสือในห้องน้ำ 547 00:43:19,283 --> 00:43:23,763 ‎ในทางกลับกัน ‎ถ้าเราอยู่ที่บ้าน แล้วมิชชาเอลต้องออกแต่เช้า 548 00:43:24,403 --> 00:43:25,963 ‎ฉันไม่เคยได้ยินเสียงเขาเลย 549 00:43:27,283 --> 00:43:28,923 ‎เขาเงียบมาก 550 00:43:29,003 --> 00:43:32,603 ‎ก่อนออกจากบ้าน เขาจะเดินมาที่เตียงฉัน 551 00:43:33,163 --> 00:43:37,363 ‎ลูบแขนฉัน หอมฉัน ‎แล้วก็บอกว่า "ผมจะไปแล้วนะ" 552 00:43:37,443 --> 00:43:38,483 ‎แล้วเขาก็ไป 553 00:43:38,563 --> 00:43:40,403 ‎เขาไม่เคยทำให้ฉันตื่นเลย 554 00:43:40,483 --> 00:43:42,403 ‎เขาเกรงใจฉันเสมอ 555 00:43:50,083 --> 00:43:53,283 ‎(ฮ็อคเคินไฮม์ ประเทศเยอรมนี ‎30 กรกฎาคม 1995) 556 00:43:53,363 --> 00:43:56,163 ‎ผู้ชมกำลังส่งเสียง ธงกำลังสะบัด 557 00:43:56,243 --> 00:43:57,603 ‎เพื่อต้อนรับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 558 00:43:57,683 --> 00:44:01,243 ‎ไอดอลและฮีโร่ของพวกเขา ‎ในสนามที่ประเทศของตัวเอง 559 00:44:01,323 --> 00:44:04,203 ‎เขาชนะเยอรมันกรังด์ปรีซ์ 560 00:44:05,243 --> 00:44:07,043 ‎นี่คือฮีโร่ที่ผมพูดถึงครับ 561 00:44:07,123 --> 00:44:11,643 ‎และที่เห็นตรงนั้นคือคนที่ยกย่องและนับถือเขา 562 00:44:12,563 --> 00:44:15,683 ‎ตรงนั้นมีชาวเยอรมันมากกว่าหนึ่งแสนคน 563 00:44:15,763 --> 00:44:18,723 ‎นี่คือสิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอมานาน 564 00:44:18,803 --> 00:44:21,963 ‎รอที่จะเห็นคนเยอรมันชนะเยอรมันกรังด์ปรีซ์ 565 00:44:23,123 --> 00:44:26,043 ‎(ไอดะ ประเทศญี่ปุ่น ‎22 ตุลาคม 1995) 566 00:44:26,123 --> 00:44:29,963 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎วิ่งเข้ามุมสุดท้ายของการแข่งขันรอบสุดท้าย 567 00:44:30,043 --> 00:44:31,323 ‎และของรอบวิ่งรอบสุดท้าย 568 00:44:31,403 --> 00:44:34,923 ‎เพื่อชนะแปซิฟิคกรังด์ปรีซ์ในญี่ปุ่น 569 00:44:35,003 --> 00:44:38,523 ‎และเป็นแชมป์โลกปี 1995 570 00:44:38,603 --> 00:44:42,083 ‎ทั้งนี้เขาเป็นแชมป์โลกปี 1994 ด้วยครับ 571 00:44:42,163 --> 00:44:45,443 ‎ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเพิ่มเติม 572 00:44:45,523 --> 00:44:48,163 ‎ว่าเขาเป็นนักแข่งที่เก่งที่สุดในยุคของเขา 573 00:45:03,403 --> 00:45:08,363 ‎ผมว่ามิชชาเอล ‎ไม่ได้อยากเพิ่มจำนวนครั้งที่เขาชนะแชมป์โลก 574 00:45:09,003 --> 00:45:13,403 ‎ถ้าเขายังแข่งให้เบเนตตอง ‎ผมว่าเขาชนะแชมป์โลกปี 1996 ด้วยแน่นอน 575 00:45:14,123 --> 00:45:15,723 ‎แต่สิ่งนั้นไม่ได้จูงใจเขาแล้ว 576 00:45:27,883 --> 00:45:29,883 ‎เมื่อคุณกำลังขับรถ คุณกำลังคุมชะตาของตัวเอง 577 00:45:29,963 --> 00:45:31,363 ‎(รอน เดนนิส ‎อดีตผอ.ทีมแม็คลาเรน) 578 00:45:35,883 --> 00:45:37,403 ‎คุณมีโอกาสแค่ครั้งเดียว 579 00:45:37,483 --> 00:45:40,163 ‎ในวงการฟอร์มูล่าวัน ‎ทุกคนจะระวังการกระทำและคำพูดมาก 580 00:45:40,243 --> 00:45:45,083 ‎ไม่มีทางที่ใครจะเดินไปหานักแข่งที่พิทสต็อป ‎แล้วถามว่า "ขอคุยด้วยได้มั้ย" 581 00:45:45,163 --> 00:45:46,083 ‎ไม่มีครับ 582 00:45:46,163 --> 00:45:49,203 ‎เขาได้รับข้อเสนอมากมาย 583 00:45:49,883 --> 00:45:51,323 ‎เขาจะอยู่ที่เดิมก็ได้ 584 00:45:52,523 --> 00:45:54,203 ‎แต่ถ้าอยู่กับแม็คลาเรน 585 00:45:54,283 --> 00:45:56,843 ‎เขาจะได้ขับรถแม็คลาเรน ‎ที่เครื่องยนต์เป็นของเมอร์เซเดส 586 00:45:58,203 --> 00:46:00,443 ‎เขาจะเป็นนักแข่งให้เฟอร์รารี่ก็ได้ 587 00:46:01,563 --> 00:46:05,323 ‎ตอนนั้นนิกิ เลาดาเป็นที่ปรึกษาให้เฟอร์รารี่ 588 00:46:05,923 --> 00:46:08,843 ‎สถานการณ์ของเฟอร์รารี่ในตอนนั้นถือว่าดีทีเดียว 589 00:46:10,243 --> 00:46:12,283 ‎นิกิ เลาดามาหาผมแล้วพูดว่า 590 00:46:13,283 --> 00:46:18,243 ‎"ถ้าเขาอยู่กับแม็คลาเรน ‎เขาจะเป็นแค่นักแข่งคนหนึ่งที่ชนะการแข่งขัน 591 00:46:18,323 --> 00:46:22,083 ‎แต่ถ้าเขามาอยู่กับเฟอร์รารี่ ‎เขาจะเป็นนักแข่งชั้นเลิศ 592 00:46:22,163 --> 00:46:26,243 ‎ที่แม้จะหยุดแข่งไป ‎แต่ก็ยังชนะการแข่งขันด้วยรถเฟอร์รารี่" 593 00:46:26,323 --> 00:46:29,883 ‎สิ่งนั้นถูกจริตนักสู้ของเขา 594 00:46:29,963 --> 00:46:32,603 ‎ซึ่งเกิดขึ้นมาตอนที่เป็นนักแข่งโกคาร์ท 595 00:46:33,323 --> 00:46:36,083 ‎เขาชนะการแข่งขัน ‎ด้วยรถโกคาร์ทมือสองและยางที่ใช้แล้ว 596 00:46:36,163 --> 00:46:38,443 ‎แล้วทำไมเขา ‎จะไม่มาอยู่กับเฟอร์รารี่และทำสิ่งนั้นล่ะ 597 00:46:39,243 --> 00:46:40,643 ‎คำแนะนำสุดท้ายของผมคือ 598 00:46:40,723 --> 00:46:46,123 ‎"ถ้าคุณชนะแชมป์โลกด้วยรถเฟอร์รารี่ ‎คุณทิ้งหนังสือเดินทางได้เลย" 599 00:46:50,963 --> 00:46:52,083 ‎ชูมัคเคอร์ 600 00:47:26,283 --> 00:47:29,003 ‎เฟอร์รารี่คือทีมที่เก่าแก่ที่สุด 601 00:47:29,603 --> 00:47:35,563 ‎ในอิตาลี เฟอร์รารี่เป็นเหมือนศาสนาหนึ่งเลย 602 00:47:36,283 --> 00:47:37,563 ‎ดังนั้นมันมีความคาดหวังอยู่ 603 00:47:37,643 --> 00:47:42,043 ‎ผู้คนในอิตาลีคลั่งไคล้เฟอร์รารี่มาก 604 00:47:45,203 --> 00:47:51,203 ‎มีความคาดหวังสูง ‎กับนักแข่งทุกคนที่แข่งให้เฟอร์รารี่ 605 00:47:53,443 --> 00:47:55,683 ‎ประธานเฟอร์รารี่พูดว่า 606 00:47:55,763 --> 00:48:00,523 ‎"ปีก่อนเรามีนักแข่งฝีมือเยี่ยมสองคน ‎แต่ปีนี้เรามีนักแข่งดาวรุ่ง" 607 00:48:02,563 --> 00:48:05,563 ‎การขับรถเฟอร์รารี่หมายถึงความกดดันที่สูง 608 00:48:06,283 --> 00:48:09,923 ‎การขับรถเฟอร์รารี่หมายถึง ‎ถ้าคุณไม่ชนะ คุณคือคนโง่ 609 00:48:10,003 --> 00:48:12,243 ‎(ลูคา ดิ มอนเตเซโมโล ‎อดีตประธานของเฟอร์รารี่) 610 00:48:12,323 --> 00:48:16,363 ‎การขับรถเฟอร์รารี่หมายถึงการมีภาระหน้าที่ 611 00:48:16,443 --> 00:48:20,123 ‎เพราะคุณไม่ได้ขับรถฟอร์มูล่าวันทั่วไป 612 00:48:20,203 --> 00:48:21,803 ‎แต่คุณขับรถที่เป็นตำนาน 613 00:48:21,883 --> 00:48:24,763 ‎คุณขับสิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ 614 00:48:27,323 --> 00:48:30,723 ‎เราเข้าไปเป็นนักแข่งของเฟอร์รารี่พร้อมกัน ‎ในปี 1996 615 00:48:31,443 --> 00:48:36,243 ‎ผมจำได้เลยว่าตอนนั่งในรถ ผมพูดว่า ‎"มันรู้สึกต่างจากคันอื่นๆ แบบน่าเป็นห่วง" 616 00:48:37,163 --> 00:48:38,723 ‎แล้วก็โชคไม่ดีจริงๆ ครับ 617 00:48:38,803 --> 00:48:40,243 ‎ที่ผมคิดนั้นถูก 618 00:48:40,323 --> 00:48:41,163 ‎(เอ็ดดี้ เออร์ไวน์) 619 00:48:41,243 --> 00:48:42,563 ‎รถห่วยมาก 620 00:48:48,323 --> 00:48:52,603 ‎เราไม่เข้าใจอยู่พักหนึ่งเลยว่ารถแย่ขนาดไหน 621 00:48:53,163 --> 00:48:54,003 ‎และ… 622 00:48:55,803 --> 00:48:58,123 ‎กลายเป็นว่ามันแทบจะซ่อมไม่ได้ 623 00:48:58,203 --> 00:49:01,323 ‎ปรัชญาพื้นฐานของรถมันผิด 624 00:49:02,723 --> 00:49:05,603 ‎เมื่อเช้านี้เดม่อน ฮิลล์ ‎ชนเฟรนท์เซนอย่างแรงตรงนี้ 625 00:49:05,683 --> 00:49:07,963 ‎ชูมัคเคอร์มีปัญหาแล้วครับ 626 00:49:08,043 --> 00:49:11,163 ‎เหมือนเครื่องยนต์ของชูมัคเคอร์ ‎จะมีปัญหาในรอบอุ่นเครื่อง 627 00:49:12,523 --> 00:49:14,723 ‎เหลือเชื่อจริงๆ 628 00:49:14,803 --> 00:49:17,963 ‎เครื่องยนต์เจ๊งจริงๆ ครับ ‎ก่อนการแข่งขันจะเริ่มด้วยซ้ำ 629 00:49:18,043 --> 00:49:19,483 ‎ชูมัคเคอร์ออกจากการแข่งขันครับ 630 00:49:19,563 --> 00:49:23,883 ‎ที่เฟรนช์กรังด์ปรีซ์ในมักนีย์-กูร์ ‎เขายังไม่ได้เริ่มแข่งด้วยซ้ำ 631 00:49:23,963 --> 00:49:26,163 ‎มันเป็นรถที่กะโหลกกะลามาก 632 00:49:26,243 --> 00:49:30,243 ‎มิชชาเอลนั่งอยู่ในรถ ‎โดยที่รถของเขาอยู่บนรถยกอีกที 633 00:49:31,003 --> 00:49:33,363 ‎เหมือนสัญลักษณ์ของความอ่อนด้อย 634 00:49:36,843 --> 00:49:41,083 ‎ผมไม่มั่นใจว่าเรา ‎จะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ในสองเดือนมั้ย 635 00:49:42,043 --> 00:49:43,323 ‎ผมไม่เห็นเหตุผลที่ต้องทำ 636 00:49:43,403 --> 00:49:45,803 ‎เราอยู่ในจุดที่ชนะการชิงแชมป์ได้ 637 00:49:46,403 --> 00:49:48,203 ‎คงจะต้องโชคดีมากๆ 638 00:49:49,003 --> 00:49:50,763 ‎หรือไม่ก็เหมือนฝัน 639 00:49:50,843 --> 00:49:53,323 ‎แต่ผมไม่ได้นักฝันไงครับ ‎ผมมองทุกอย่างตามความเป็นจริง 640 00:49:54,203 --> 00:49:55,923 ‎ผมว่าสิ่งที่ผมพูดมันจริง 641 00:50:09,003 --> 00:50:10,563 ‎ในซีซั่นแรกนั้น 642 00:50:10,643 --> 00:50:14,683 ‎ผมจำได้เลย ‎คืนนั้นเป็นคืนวันศุกร์ก่อนวันแข่งจริง 643 00:50:14,763 --> 00:50:17,483 ‎ทุกคนกลับกันหมด นักแข่งกลับหมด 644 00:50:17,563 --> 00:50:18,883 ‎พนักงานดูแลทีมกลับหมด 645 00:50:20,203 --> 00:50:21,843 ‎แต่ในอู่เฟอร์รารี่ 646 00:50:23,083 --> 00:50:25,523 ‎มีรถอยู่คันหนึ่งที่กำลังถูกซ่อม ‎นั่นก็คือรถของมิชชาเอล 647 00:50:26,163 --> 00:50:28,723 ‎ในนั้นมีช่างสามคนกับมิชชาเอล 648 00:50:29,403 --> 00:50:31,843 ‎มิชชาเอลคุยกับช่างเบาๆ 649 00:50:33,283 --> 00:50:39,203 ‎ผมประทับใจมาก ‎ที่มิชชาเอลเต็มใจที่จะทำงานหนัก 650 00:50:39,283 --> 00:50:43,523 ‎ประทับใจที่เขาอยู่กับช่างเป็นคนสุดท้ายในอู่ทุกคืน 651 00:50:44,203 --> 00:50:46,923 ‎เขาไม่กลับก่อนเพื่อไปทำอย่างอื่น 652 00:50:47,003 --> 00:50:49,243 ‎เขาอยู่ในอู่กับช่าง 653 00:50:49,323 --> 00:50:52,523 ‎ทำงานกับพวกเขา ‎และทำให้พวกเขารู้สึกว่าเขาอยู่ด้วย 654 00:50:52,603 --> 00:50:56,603 ‎ทำให้พวกเขารู้สึกว่า ‎เขาใส่ใจกับการซ่อมรถของพวกเขา 655 00:50:57,363 --> 00:50:59,843 ‎สิ่งนั้นทำให้ทีมเปลี่ยนไป 656 00:51:02,363 --> 00:51:05,123 ‎มิชชาเอลคือหนึ่งในคนที่กลับเป็นคนสุดท้ายทุกครั้ง 657 00:51:05,923 --> 00:51:11,323 ‎ช่วงที่เขาอยู่กับเฟอร์รารี่ ‎เวลาประชุม เขาจะอยู่ในที่ประชุมจนถึงสี่ทุ่ม 658 00:51:11,403 --> 00:51:16,003 ‎เราไม่เคยออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหาร 659 00:51:16,083 --> 00:51:16,923 ‎ไม่เคยเลย 660 00:51:17,003 --> 00:51:19,963 ‎เรานั่งอยู่ในเต็นท์ตลอดเวลา 661 00:51:20,043 --> 00:51:21,443 ‎ฉันรอ 662 00:51:21,523 --> 00:51:23,523 ‎เรากินพาสต้ากัน 663 00:51:23,603 --> 00:51:24,443 ‎เรา… 664 00:51:25,243 --> 00:51:26,083 ‎คุยกัน 665 00:51:26,163 --> 00:51:28,763 ‎แล้วเขาก็ออกไปประชุมอีก แล้วก็กลับมา 666 00:51:29,883 --> 00:51:34,563 ‎แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณ ‎สำหรับทุกนาทีที่เราได้อยู่ด้วยกัน 667 00:51:37,003 --> 00:51:39,123 ‎มิชชาเอลมีความเป็นมืออาชีพมาก 668 00:51:39,203 --> 00:51:41,883 ‎เขาพูดว่า "ฟังนะ เราต้องแก้ไขมันให้ได้" 669 00:51:41,963 --> 00:51:43,603 ‎เขาขยันมาก 670 00:51:44,403 --> 00:51:45,763 ‎สิ่งดีๆ 671 00:51:47,003 --> 00:51:48,363 ‎ของการมีมิชชาเอลอยู่ในทีมคือ 672 00:51:49,323 --> 00:51:52,443 ‎ทุกคนได้รู้ว่าไม่มีใครที่จะขับได้เหมือนกับที่เขาขับ 673 00:51:56,403 --> 00:51:57,683 ‎เมื่อคืนฝันตกหนัก 674 00:51:57,763 --> 00:51:59,843 ‎(บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ‎2 มิถุนายน 1996) 675 00:51:59,923 --> 00:52:02,643 ‎และยังคงตกหนักทั้งวัน 676 00:52:02,723 --> 00:52:06,723 ‎มีความเป็นไปได้ว่าวันนี้ ‎จะต้องแข่งกันบนสนามเปียก 677 00:52:08,123 --> 00:52:10,563 ‎ที่เห็นตรงนั้นคือรถเฟอร์รารี่ ‎ของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 678 00:52:10,643 --> 00:52:12,883 ‎(ซีซั่นแรกของชูมัคเคอร์ปี 1996 ‎สกูเดเรียเฟอร์รารี่) 679 00:52:12,963 --> 00:52:15,483 ‎เขาแซงแกร์ฮาร์ด เบอร์เกอร์ขึ้นมาอยู่อันดับสาม 680 00:52:15,563 --> 00:52:18,363 ‎เขาตามหลังวีลเนิฟว์กับอเลซี 681 00:52:18,443 --> 00:52:21,003 ‎และอีกไม่นานจะชิงตำแหน่งนำ 682 00:52:23,123 --> 00:52:26,603 ‎ถ้ารถคุณห่วย วิ่งกลางฝนยังไงก็ห่วย ‎คุณเอาชนะมันไม่ได้หรอก 683 00:52:27,323 --> 00:52:30,363 ‎แต่ในบาร์เซโลนา เขาสามารถที่จะหาวิธีขับ 684 00:52:30,443 --> 00:52:31,763 ‎วิธีรับมือ 685 00:52:31,843 --> 00:52:33,043 ‎(รอส บรอว์น ‎เพื่อน) 686 00:52:33,123 --> 00:52:34,723 ‎และปรับรูปแบบการขับ 687 00:52:35,643 --> 00:52:37,763 ‎ผมว่ามีนักแข่งไม่กี่คนที่ทำแบบนั้นได้ 688 00:52:39,043 --> 00:52:40,163 ‎เขาซิ่งหายไปเลย 689 00:52:40,243 --> 00:52:41,923 ‎และไม่มีนักแข่งคนไหนกำลังวิ่งใกล้เขา 690 00:52:45,883 --> 00:52:50,723 ‎ความฉลาดของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชดเชยข้อบกพร่องของรถเฟอร์รารี่คันนั้น 691 00:52:50,803 --> 00:52:54,603 ‎นี่คือการซิ่งรถขั้นเทพในสภาพที่ย่ำแย่ 692 00:53:02,003 --> 00:53:03,403 ‎เขาชอบฝนมาก 693 00:53:03,963 --> 00:53:05,723 ‎เราสามารถขยับขึ้นไปอีกขั้นได้ 694 00:53:06,283 --> 00:53:11,723 ‎ผมว่าสภาวะแบบนั้นแหละที่เผยให้เห็น ‎ว่าใครคืออัจฉริยะตัวจริงในกีฬาแข่งรถ 695 00:53:16,523 --> 00:53:19,283 ‎ตอนเป็นเด็ก ‎เราขับกลางฝนด้วยล้อที่ไม่มีดอกยาง 696 00:53:19,363 --> 00:53:22,483 ‎เราไปสนามแข่งโกคาร์ททุกครั้งที่ไปได้ 697 00:53:23,283 --> 00:53:27,163 ‎สิ่งนั้นทำให้เรา ‎พัฒนาฝีมืออันยอดเยี่ยมในการควบคุมรถ 698 00:53:27,243 --> 00:53:28,883 ‎เราจะมั่นใจในรถที่ขับ 699 00:53:28,963 --> 00:53:31,123 ‎และจะเป็นหนึ่งเดียวกับมัน 700 00:53:31,203 --> 00:53:34,923 ‎แล้วคุณก็จะสามารถแสดงปาฏิหาริย์ที่เป็นไปไม่ได้ 701 00:53:47,243 --> 00:53:51,643 ‎มันจะเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ ‎สำหรับชูมัคเคอร์และเฟอร์รารี่ 702 00:53:51,723 --> 00:53:53,243 ‎มุมสุดท้ายครับ 703 00:53:53,323 --> 00:53:57,443 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ชนะสแปนิชกรังด์ปรีซ์ 704 00:53:57,523 --> 00:54:01,523 ‎หลังจากขับด้วยทักษะขั้นสูงสุด 705 00:54:06,123 --> 00:54:08,883 ‎การขับรถคันนั้นแล้วชนะการแข่งขัน 706 00:54:08,963 --> 00:54:12,883 ‎ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ‎ของนักแข่งทุกคน ผมพูดเลย 707 00:54:12,963 --> 00:54:16,363 ‎สิ่งที่เกิดขึ้นมันเหลือเชื่อ 708 00:54:16,443 --> 00:54:18,243 ‎ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำได้ยังไง 709 00:54:31,123 --> 00:54:33,043 ‎(เจมส์ แอลเล็น ‎นักเขียนชีวประวัติ) 710 00:54:33,123 --> 00:54:36,963 ‎ความท้าทายในการทำให้เฟอร์รารี่ ‎กลับมาอยู่ในระดับแชมป์โลกอีกครั้ง 711 00:54:37,043 --> 00:54:39,123 ‎เป็นความท้าทายที่เกินต้านสำหรับมิชชาเอล 712 00:54:39,723 --> 00:54:42,803 ‎ผมคุยกับเขาเรื่องนั้นแบบค่อนข้างละเอียด 713 00:54:42,883 --> 00:54:45,523 ‎เขารู้สึกว่าสิ่งที่ถูกต้องคือ 714 00:54:45,603 --> 00:54:48,603 ‎เขาต้องรับความท้าทายนั้น ‎และทำให้เฟอร์รารี่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 715 00:54:48,683 --> 00:54:53,043 ‎คืนตำแหน่งที่เฟอร์รารี่ถวิลหาตั้งแต่ปี 1979 716 00:54:59,443 --> 00:55:03,523 ‎เขาอยากทำสิ่งที่พรอสต์ไม่ได้ทำ 717 00:55:03,603 --> 00:55:04,923 ‎สิ่งที่เซนนาไม่ได้ทำ 718 00:55:05,003 --> 00:55:07,683 ‎สิ่งที่ไม่มีนักแข่งคนไหนเคยทำมาก่อนหน้านี้ 719 00:55:08,443 --> 00:55:10,363 ‎สิ่งนั้นคือความท้าทายที่แท้จริง 720 00:55:11,203 --> 00:55:16,323 ‎(เจเรซ ประเทศสเปน ‎26 ตุลาคม 1997) 721 00:55:17,003 --> 00:55:18,723 ‎ปี 1997 722 00:55:18,803 --> 00:55:21,763 ‎มิชชาเอลจะแข่งให้เฟอร์รารี่เป็นปีที่สอง 723 00:55:21,843 --> 00:55:24,723 ‎มีความรู้สึกเกิดขึ้นว่าพวกเขาควรจะท้าชิงแชมป์ 724 00:55:24,803 --> 00:55:26,843 ‎ในแง่หนึ่งแรงขับเคลื่อนอยู่ที่เขา 725 00:55:27,883 --> 00:55:30,923 ‎กองเชียร์ของสกูเดเรียเฟอร์รารี่คาดหวังสูงมาก 726 00:55:31,003 --> 00:55:35,483 ‎เรารู้ว่ากำลังจะมีการดวลฝีมือสุดมันส์ ‎ระหว่างวีลเนิฟว์กับชูมัคเคอร์ 727 00:55:43,763 --> 00:55:47,363 ‎ผมหวังว่ามันจะเป็นการประลองฝีมือ ‎ระหว่างเราสองคนบนสนามจริงๆ 728 00:55:48,003 --> 00:55:53,483 ‎ผมหวังว่าจะไม่มีสมาชิกคนอื่นในทีม ‎นักแข่งที่ถูกแซงรอบ หรือนักแข่งคนอื่นเข้ามายุ่ง 729 00:55:55,843 --> 00:55:57,963 ‎คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ชัยชนะในที่นี้ 730 00:55:58,843 --> 00:56:00,923 ‎อย่างแรกเลยคือต้องไม่ถูกตัดออกจากการแข่งขัน 731 00:56:01,003 --> 00:56:01,843 ‎เรื่องนั้นสำคัญมาก 732 00:56:01,923 --> 00:56:02,923 ‎(ฌัก วีลเนิฟว์) 733 00:56:03,003 --> 00:56:05,923 ‎อีกหนึ่งข้อก็คือขับให้เร็ว ‎เร็วกว่ามิชชาเอล แค่นั้นครับ 734 00:56:10,403 --> 00:56:12,763 ‎การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้วครับ 735 00:56:12,843 --> 00:56:16,763 ‎วีลเนิฟว์ทิ้งห่างออกมา ‎แต่ชูมัคเคอร์ทิ้งห่างออกมาไกลกว่า 736 00:56:16,843 --> 00:56:21,203 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์กำลังนำครับ ‎โดยมีวีลเนิฟว์ตามมาติดๆ 737 00:56:25,123 --> 00:56:27,443 ‎เรารู้ว่ารถของฌักเร็วกว่า 738 00:56:27,523 --> 00:56:30,683 ‎มันอยู่ที่ว่าฌักกับคนในทีม 739 00:56:30,763 --> 00:56:34,843 ‎จะสามารถใช้กลยุทธ์และความเร็ว ‎เอาชนะมิชชาเอลได้มั้ย 740 00:56:45,523 --> 00:56:52,443 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ กับ ฌัก วีลเนิฟว์ ‎วิ่งห่างกันแค่หนึ่งวินาทีนิดๆ 741 00:56:54,043 --> 00:56:56,963 ‎ดูเหมือนเกียร์จะมีปัญหา ‎เพราะวีลเนิฟว์ขยับขึ้นมาชิดเขา 742 00:56:57,043 --> 00:56:58,283 ‎ดูสิครับ วีลเนิฟว์แซงขึ้นมาได้ 743 00:56:58,363 --> 00:56:59,203 ‎แซงแล้ว 744 00:57:31,203 --> 00:57:32,163 ‎ในความคิดของเขาคือ 745 00:57:33,243 --> 00:57:35,003 ‎ฌัก วีลเนิฟว์ชนเขา 746 00:57:35,083 --> 00:57:36,523 ‎เขาไม่ได้แกล้งชน 747 00:57:37,203 --> 00:57:38,923 ‎เขาเข้าใจว่านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น 748 00:57:41,083 --> 00:57:45,163 ‎ในเสี้ยววินาทีนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขา 749 00:57:45,243 --> 00:57:46,163 ‎ไม่มีใครรู้ครับ 750 00:57:46,243 --> 00:57:47,883 ‎เขาไม่ได้ตั้งใจ… 751 00:57:47,963 --> 00:57:49,963 ‎มันไม่ใช่การกระทำที่มีการไตร่ตรองไว้ก่อน 752 00:57:50,683 --> 00:57:52,123 ‎มันคือเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น 753 00:57:52,683 --> 00:57:54,683 ‎เขากลับมาและเชื่ออย่างนั้น 754 00:57:54,763 --> 00:57:57,523 ‎และเขาไม่พยายาม ‎ที่จะพูดให้คนอื่นเชื่อว่าเขาไม่ได้ผิด 755 00:58:12,603 --> 00:58:13,523 ‎ในแง่ของจิตวิทยา 756 00:58:13,603 --> 00:58:17,123 ‎สำหรับมิชชาเอลแล้ว ‎มันเป็นช่วงเวลาที่ทำใจได้ยากมาก 757 00:58:17,203 --> 00:58:18,443 ‎เขานำอยู่แล้วแท้ๆ 758 00:58:18,523 --> 00:58:19,603 ‎เหลืออีกแค่สิบรอบ 759 00:58:20,243 --> 00:58:23,563 ‎ก็จะชนะการแข่งชิงแชมป์ปี 1997 760 00:58:23,643 --> 00:58:25,443 ‎กับทีมเฟอร์รารี่ในซีซั่นสอง 761 00:58:28,523 --> 00:58:30,203 ‎มิชชาเอลกลับไปที่พิท 762 00:58:30,803 --> 00:58:32,843 ‎และปักใจเชื่อว่าฌักชนเขา 763 00:58:34,683 --> 00:58:38,883 ‎แต่พอเราเปิดวิดีโอให้ดู ‎เขาก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น 764 00:58:40,403 --> 00:58:44,563 ‎เขาได้รู้ว่าเขาต่างหากที่ขับไปชนฌัก วีลเนิฟว์ 765 00:58:44,643 --> 00:58:48,523 ‎มันคือหนึ่งในช่วงเวลาที่เขาทำอาชีพนี้ 766 00:58:48,603 --> 00:58:54,403 ‎แล้วความมุ่งมั่น ‎ความอยากเอาชนะ และความทุ่มเทของเขา 767 00:58:54,483 --> 00:58:56,683 ‎มันเกินพอดีไปถึงสองสามครั้ง 768 00:58:56,763 --> 00:58:59,003 ‎มันยากสำหรับเราที่จะตัดสิน 769 00:58:59,523 --> 00:59:02,003 ‎แต่ผมว่าวันนั้นเขาทำเกินไป 770 00:59:09,563 --> 00:59:13,923 ‎บ่อยครั้งเขาก็ทำเกินไป ‎ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น 771 00:59:14,003 --> 00:59:16,923 ‎ทั้งๆ ที่เขาทำดีพอแล้ว ‎ไม่ว่าจะรอบควอลิฟายหรือไม่รอบควอลิฟาย 772 00:59:17,003 --> 00:59:17,963 ‎ได้จุดสตาร์ทแรกมั้ย 773 00:59:18,043 --> 00:59:20,803 ‎ไม่ว่าจะคว้าชัยชนะจากการแข่งหรือไม่ ‎ซึ่งเขาก็มีสิทธิ์สูงที่จะชนะ 774 00:59:20,883 --> 00:59:24,323 ‎หรือไม่ว่าจะเป็นการแข่งกันสองต่อสองหรือไม่ 775 00:59:24,403 --> 00:59:28,323 ‎บางครั้งเขาต้องเชื่อมั่นในตัวเองอยู่ตลอดเหรอ ‎ต้องเชื่อว่าตัวเขากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องเหรอ 776 00:59:28,403 --> 00:59:30,323 ‎(มาร์ค เว็บเบอร์ ‎อดีตนักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน) 777 00:59:30,403 --> 00:59:32,243 ‎เพราะเขากังวลว่าต้องทำออกมาให้ดีเลิศ 778 00:59:32,323 --> 00:59:34,963 ‎ต้องทำให้ดีขึ้นเพื่อพิสูจน์กับตัวเองให้มากขึ้น 779 00:59:35,043 --> 00:59:37,643 ‎เพราะท้ายที่สุดแล้ว ‎ส่วนใหญ่ก็คือเขาแข่งกับตัวเองนั่นแหละ 780 00:59:38,403 --> 00:59:40,603 ‎เขาสู้กับตัวเอง 781 00:59:40,683 --> 00:59:42,203 ‎แบบว่า "วันนี้ฉันทำดีพอรึยัง" 782 00:59:42,283 --> 00:59:43,523 ‎"ฉันอยากทำให้มากกว่านี้มั้ย" 783 00:59:43,603 --> 00:59:45,523 ‎"ฉันจะขยี้คู่แข่งให้มากขึ้นยังไงดี" 784 00:59:45,603 --> 00:59:46,523 ‎ฉันต้องทำยังไง 785 00:59:47,643 --> 00:59:51,403 ‎เพื่อให้เป็นนักแข่งเบอร์หนึ่งต่อไป 786 00:59:51,883 --> 00:59:53,683 ‎(ชูมี่ มันเป็นอะไรที่บ้ามาก) 787 00:59:53,763 --> 00:59:56,003 ‎(วีลเนิฟว์คือแชมป์ตัวจริง) 788 00:59:56,083 --> 01:00:00,123 ‎("มันไม่ใช่ความผิดผม ผมจะทำอีก") 789 01:00:00,203 --> 01:00:07,043 ‎(ชูมี่ยิ้มไม่ออก) 790 01:00:07,643 --> 01:00:10,763 ‎ผมว่าคนที่ควบคุมและอยากควบคุม 791 01:00:11,643 --> 01:00:13,763 ‎ไม่อยากยอมรับความจริงว่า 792 01:00:14,643 --> 01:00:16,203 ‎"ฉันอาจจะผิดก็ได้" 793 01:00:17,043 --> 01:00:19,683 ‎นั่นไม่ใช่นิสัยเขา 794 01:00:21,843 --> 01:00:23,043 ‎มิชชาเอลราศีมังกร 795 01:00:24,483 --> 01:00:26,563 ‎เขาเกิดราศีมังกร 796 01:00:26,643 --> 01:00:29,363 ‎คนที่เกิดราศีมังกรไม่เคยขอโทษ 797 01:00:29,443 --> 01:00:32,163 ‎ไม่สามารถที่จะขอโทษได้ และไม่เคยทำผิด 798 01:00:32,243 --> 01:00:35,123 ‎คำว่า "ผิดพลาด" ไม่มีอยู่สำหรับชาวราศีมังกร 799 01:00:35,203 --> 01:00:36,563 ‎เขาไม่เคยผิดพลาด 800 01:00:36,643 --> 01:00:38,643 ‎(สลาว ประเทศอังกฤษ ‎11 พฤศจิกายน 1997) 801 01:00:38,723 --> 01:00:39,643 ‎(สอบสวนวินัย เอฟไอเอ) 802 01:00:39,723 --> 01:00:41,243 ‎สวัสดีตอนเช้าจากลอนดอน มิชชาเอล 803 01:00:41,323 --> 01:00:42,323 ‎รู้สึกยังไงบ้างมิชชาเอล 804 01:00:43,563 --> 01:00:44,403 ‎มิชชาเอล 805 01:00:44,483 --> 01:00:45,763 ‎คุณชูมัคเคอร์ 806 01:00:51,363 --> 01:00:52,203 ‎มิชชาเอล 807 01:00:53,323 --> 01:00:58,723 ‎ทุกการแข่งขันก่อนหน้านี้ สื่อยกย่องผม 808 01:00:59,283 --> 01:01:03,203 ‎แต่หลังจากสิ้นสุดสัปดาห์นั้น อยู่ๆ ผมก็โดนสื่อถล่ม 809 01:01:03,283 --> 01:01:04,683 ‎จะเห็นได้ว่า 810 01:01:06,283 --> 01:01:08,203 ‎ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนคนอื่นๆ 811 01:01:08,283 --> 01:01:09,163 ‎และ 812 01:01:09,963 --> 01:01:13,083 ‎เหตุการณ์ต่างๆ ‎เกิดขึ้นกับผมได้เหมือนที่เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ 813 01:01:13,163 --> 01:01:19,003 ‎และมันเกิดขึ้นกับผม ซึ่งตอนนั้นผมไม่อยากยอมรับ 814 01:01:19,083 --> 01:01:21,523 ‎แต่ตอนนี้ผมคงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับ 815 01:01:21,603 --> 01:01:22,963 ‎ผมเข้าใจสิ่งที่ผมทำแล้วครับ 816 01:01:31,763 --> 01:01:36,523 ‎หน่วยงานกำกับพิจารณากรณีของเขา ‎และตัดสิทธิ์เขาออกจากการแข่งชิงแชมป์ปี 1997 817 01:01:37,363 --> 01:01:41,683 ‎มันเป็นเรื่องใหญ่ ‎ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการกีฬานี้ 818 01:01:44,563 --> 01:01:45,883 ‎มิชชาเอล มีความเห็นอะไรมั้ย 819 01:01:46,523 --> 01:01:47,363 ‎คุณจะ… 820 01:01:57,203 --> 01:02:03,363 ‎(ทริซิล ประเทศนอร์เวย์ ‎ธันวาคม 1997) 821 01:02:04,883 --> 01:02:06,403 ‎เราพักที่กระท่อม 822 01:02:06,483 --> 01:02:09,083 ‎เราเล่นเกมหลายเกมเลยค่ะ 823 01:02:09,163 --> 01:02:12,523 ‎เพราะเขาอยากพักผ่อนและคลายเครียด 824 01:02:12,603 --> 01:02:15,643 ‎มันคือช่วงเวลาพักผ่อนกับเพื่อนที่ดีมากๆ 825 01:02:15,723 --> 01:02:19,243 ‎บางครั้งก็มีกันตั้ง 30 คน สนุกมากค่ะ 826 01:02:20,123 --> 01:02:21,683 ‎เราพาทุกคนไปด้วยหมดเลย 827 01:02:22,243 --> 01:02:23,963 ‎ปู่ ย่า ป้า 828 01:02:25,243 --> 01:02:28,043 ‎นั่งเครื่องกันไปเต็มลำ สนุกมาก 829 01:03:09,843 --> 01:03:11,123 ‎เขาสนุกมากกับการไปที่นั่น 830 01:03:12,123 --> 01:03:14,123 ‎เราอยู่ที่นั่นหกสัปดาห์ 831 01:03:15,603 --> 01:03:20,203 ‎เราแทบจะไม่คุยเกี่ยวกับฟอร์มูล่าวันเลย 832 01:03:21,083 --> 01:03:23,283 ‎หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับงานของเขา 833 01:03:23,363 --> 01:03:25,283 ‎เราไปเพื่อสนุกจริงๆ 834 01:03:42,203 --> 01:03:45,523 ‎ตอนนั้นมิชชาเอลออกกำลังกายบ้าง ‎แต่ไม่หนักมาก 835 01:03:46,203 --> 01:03:49,523 ‎พอการทดสอบกลับมาเริ่มอีกครั้ง เขาพูดว่า 836 01:03:49,603 --> 01:03:53,323 ‎"ผมอยากรู้นะว่าผมยังเร็วพออยู่มั้ย ‎ผมยังทำได้เหมือนเดิมอยู่มั้ย" 837 01:03:54,163 --> 01:03:58,603 ‎บ่อยครั้งที่มิชชาเอลไม่มั่นใจในตัวเองในเรื่องนั้น 838 01:03:58,683 --> 01:04:00,123 ‎แบบ "ผมยังจะทำได้อยู่มั้ย" 839 01:04:00,203 --> 01:04:06,643 ‎(สนามทดลองของเฟอร์รารี่ ประเทศอิตาลี ‎ก่อนเริ่มซีซั่น ปี 1998) 840 01:04:09,523 --> 01:04:13,923 ‎มันสำคัญมากกับมิชชาเอล ‎ที่ต้องไม่มีใครในทีมสังเกต 841 01:04:14,443 --> 01:04:17,643 ‎ว่าเขากำลังต่อสู้อย่างหนัก กัดฟัน 842 01:04:17,723 --> 01:04:20,843 ‎หรืออาจจะถึงขั้นไม่แน่ใจ ‎หรือรู้สึกสิ้นหวังเลยด้วยซ้ำ 843 01:04:25,723 --> 01:04:27,483 ‎เขาปกปิดสิ่งเหล่านั้นได้ดี 844 01:04:28,003 --> 01:04:31,963 ‎เพราะจากภายนอก เวลาเขาไปอู่… 845 01:04:32,043 --> 01:04:33,043 ‎(ซาบีน เคห์ม ‎ผู้จัดการ) 846 01:04:33,123 --> 01:04:35,923 ‎หรือที่ไหนก็ตามที่มีคนเห็นเขา 847 01:04:36,003 --> 01:04:36,843 ‎เขาจะ 848 01:04:37,443 --> 01:04:38,763 ‎มีพลังและกระฉับกระเฉง 849 01:04:41,403 --> 01:04:45,523 ‎เขาตระหนักตั้งแต่ช่วงแรกที่เป็นนักแข่งแล้วว่า 850 01:04:45,603 --> 01:04:48,163 ‎ทุ่มไปเท่าไรก็ได้ออกมาเท่านั้น 851 01:04:48,683 --> 01:04:50,363 ‎สิ่งนั้นกลายเป็นคติประจำใจเขา 852 01:04:50,443 --> 01:04:52,803 ‎มันต้องทุ่มสุดตัว 853 01:04:52,883 --> 01:04:53,963 ‎เหมือนสงครามครับ 854 01:04:54,043 --> 01:04:57,403 ‎ถ้าไม่สู้ขาดใจ คุณก็จะไม่ได้ขึ้นมาเป็นที่หนึ่ง 855 01:04:57,483 --> 01:04:59,843 ‎นั่นคือปรัชญาของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 856 01:05:08,283 --> 01:05:10,723 ‎ทุกอย่างในรถต้องสมบูรณ์แบบ 857 01:05:10,803 --> 01:05:13,523 ‎เขาใส่ใจรายละเอียดมากๆ 858 01:05:13,603 --> 01:05:14,763 ‎และต้องการให้เรา 859 01:05:15,683 --> 01:05:16,923 ‎ทำแบบเดียวกัน 860 01:05:17,523 --> 01:05:20,283 ‎กับคนก็เหมือนกัน 861 01:05:20,363 --> 01:05:22,683 ‎เขาใส่ใจรายละเอียดของคนอื่นมากๆ 862 01:05:22,763 --> 01:05:25,443 ‎เขายิ้มทุกครั้ง พูดคำว่า "ขอบคุณ" กับทุกคน 863 01:05:25,523 --> 01:05:27,243 ‎และขอร้องทุกคนอย่างสุภาพ 864 01:05:27,323 --> 01:05:28,843 ‎ขนาดช่วงที่เครียดมากก็ยังทำ 865 01:05:28,923 --> 01:05:29,763 ‎(จีอันลูคา พิล็อต) 866 01:05:29,843 --> 01:05:31,083 ‎มันคือการใส่ใจรายละเอียด… 867 01:05:31,163 --> 01:05:32,843 ‎(อดีตช่างยนต์ของสกูเดเรียเฟอร์รารี่) 868 01:05:32,923 --> 01:05:34,563 ‎ที่เขามีให้กับเราแต่ละคน 869 01:05:34,643 --> 01:05:38,923 ‎สำหรับเขา รถสำคัญ ทีมสำคัญ 870 01:05:39,003 --> 01:05:39,843 ‎สำคัญสำหรับทุกคน 871 01:05:40,523 --> 01:05:43,883 ‎มีอยู่ช่วงหนึ่ง ‎ที่การกระทำของมิชชาเอลส่งผลต่อคนรอบข้าง 872 01:05:44,883 --> 01:05:47,803 ‎นักแข่งส่งอิทธิพลต่อคนอื่นในเรื่องเหล่านั้นได้ 873 01:05:47,883 --> 01:05:49,323 ‎เป็นแรงกระตุ้นให้คนในทีม 874 01:05:50,283 --> 01:05:52,683 ‎มิชชาเอลรู้จักพนักงานทุกคน 875 01:05:52,763 --> 01:05:55,403 ‎รู้ชื่อพวกเขา บางทีก็รู้ยันชื่อภรรยา 876 01:05:56,163 --> 01:05:57,803 ‎เขาเล่นฟุตบอลกับพวกเขา 877 01:05:58,323 --> 01:05:59,803 ‎เขาเป็นนักสร้างแรงจูงใจที่ดี 878 01:06:00,403 --> 01:06:06,003 ‎ผู้คนสนับสนุนมิชชาเอลอย่างมาก ‎และพยายามทำให้เขาประสบความสำเร็จ 879 01:06:08,843 --> 01:06:12,683 ‎ถ้าคุณสามารถทำให้ทุกคนกระตือรือร้นกับคุณ ‎พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ 880 01:06:13,643 --> 01:06:15,043 ‎และมีความสุขที่ได้ทำ 881 01:06:16,283 --> 01:06:18,043 ‎ฉันว่านั่นคือสิ่งที่สำคัญ 882 01:06:18,123 --> 01:06:22,203 ‎ขนาดคนที่ทำพาสต้าให้พวกเขากิน ‎ยังมีความสุขเลยเวลาเขามา 883 01:06:22,283 --> 01:06:25,403 ‎เพราะเขาขอบคุณชายคนนั้นทุกครั้ง ‎และบอกว่า "พาสต้าของคุณอร่อยที่สุด" 884 01:06:25,483 --> 01:06:29,483 ‎เขาพูดว่า "ใช่ๆ ‎พาสต้าผัดกระเทียมน้ำมันมะกอก" 885 01:06:29,563 --> 01:06:30,643 ‎เขาชอบเมนูนั้นมาก 886 01:06:31,683 --> 01:06:35,963 ‎ขนาดพ่อครัวยังเป็นส่วนสำคัญของทีมเลย 887 01:06:36,043 --> 01:06:39,883 ‎มันคือครอบครัวใหญ่ที่ทำให้รู้สึกมั่นคงและปลอดภัย 888 01:06:47,923 --> 01:06:51,923 ‎ผมว่าช่างยนต์กับวิศวกรของผม ‎รู้ว่าต้องมองผมยังไง 889 01:06:52,003 --> 01:06:53,683 ‎พวกเขาเชื่อในตัวผมเต็มร้อย 890 01:06:53,763 --> 01:06:55,123 ‎ผมก็เชื่อในตัวพวกเขาเต็มร้อย 891 01:06:56,323 --> 01:06:59,683 ‎ทุกครั้งที่ผมอยู่บนสนามทั้งวัน 892 01:06:59,763 --> 01:07:02,603 ‎ผมจะพยายามหาว่า ‎ผมจะเปลี่ยนอะไรในรถได้บ้าง 893 01:07:03,483 --> 01:07:04,963 ‎เพื่อให้มันเร็วขึ้น 894 01:07:11,363 --> 01:07:14,283 ‎พวกเขาฉีดน้ำลงบนทาง ‎เพื่อทดสอบล้อสำหรับพื้นเปียก 895 01:07:14,363 --> 01:07:15,603 ‎ทดสอบล้อยางระดับกลาง 896 01:07:15,683 --> 01:07:20,243 ‎และลองสารพัดอย่างถ้าวันนั้นอยู่จนใกล้มืด 897 01:07:22,243 --> 01:07:25,643 ‎จำนวนชั่วโมงที่เขาใช้ในการพัฒนารถ 898 01:07:25,723 --> 01:07:28,963 ‎และทดสอบโดยที่ไม่มีคนทั่วไปดูอยู่ ‎ในรายการกรังด์ปรีซ์ 899 01:07:29,043 --> 01:07:29,883 ‎สูงมากจนต้องตะลึง 900 01:08:07,043 --> 01:08:09,203 ‎เราเริ่มทดสอบตอนแปดโมงเช้า 901 01:08:09,283 --> 01:08:11,643 ‎บางครั้งกว่าจะเลิกก็สองทุ่ม 902 01:08:15,363 --> 01:08:17,163 ‎เขาต้องการอะไรหลายอย่างจากตัวเอง 903 01:08:19,003 --> 01:08:19,843 ‎เขา… 904 01:08:20,643 --> 01:08:22,083 ‎พยายามถึงขีดสุด 905 01:08:22,723 --> 01:08:24,963 ‎ในการที่จะขับรถที่ไม่ดีเท่าของคู่แข่ง 906 01:08:26,083 --> 01:08:27,963 ‎ให้ออกมามีผลลัพธ์ 907 01:08:34,362 --> 01:08:36,963 ‎โดยพื้นฐานแล้วรถของแม็คลาเรนดีกว่ามาก 908 01:08:37,043 --> 01:08:39,083 ‎ไม่มีทางที่เราจะพัฒนาจนตามได้ทัน 909 01:08:41,723 --> 01:08:44,563 ‎สิ่งนั้นทำให้เขาวิตก 910 01:08:44,643 --> 01:08:45,963 ‎เป็นใครก็วิตก 911 01:08:55,043 --> 01:09:01,963 ‎ชูมัคเคอร์ ผู้ซึ่งร่วมพัฒนารถเฟอร์รารี่กับทีม ‎และทำให้มันมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น 912 01:09:02,043 --> 01:09:03,723 ‎พบว่าเขามีคู่แข่งคนใหม่ 913 01:09:04,402 --> 01:09:06,442 ‎นักแข่งฉายาฟลายอิ้งฟลินน์ 914 01:09:07,043 --> 01:09:07,883 ‎มิก้า ฮักคิเนน 915 01:09:14,203 --> 01:09:19,803 ‎มิก้า ฮักคิเนนรู้ว่าเขามีอาวุธร้ายกาจอยู่ในมือ ‎ตั้งแต่การทดสอบครั้งแรกแล้ว 916 01:09:19,883 --> 01:09:22,442 ‎ปีนั้นรถแม็คลาเรนคือจรวดดีๆ นี่เอง 917 01:09:22,522 --> 01:09:27,763 ‎เฟอร์รารี่ต้องพยายามอย่างหนัก ‎ในการพัฒนารถให้เทียบเท่ากับของแม็คลาเรน 918 01:09:29,603 --> 01:09:30,843 ‎มิก้า ฮักคิเนนกำลังนำ 919 01:09:30,923 --> 01:09:32,442 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์อยู่ไหนครับ 920 01:09:33,083 --> 01:09:35,123 ‎ละอองน้ำที่หลังรถเป็นเส้นยาวเลยครับ 921 01:09:35,203 --> 01:09:38,283 ‎ทางข้างหน้าของมิก้า ฮักคิเนน ‎โล่งและไม่มีรถคันไหนขวางอยู่ 922 01:09:44,043 --> 01:09:47,603 ‎มิก้า ฮักคิเนนจะทำให้เขา ‎มีความลำบากในการแซงหรือเอาชนะตั้งแต่เริ่ม 923 01:10:01,763 --> 01:10:05,403 ‎ฮักคิเนนกับชูมัคเคอร์ผลัดกันชนะผลัดกันแพ้ทั้งปี 924 01:10:05,483 --> 01:10:06,723 ‎ฮักคิเนนมีพลาดบ้าง 925 01:10:06,803 --> 01:10:09,203 ‎ส่วนชูมัคเคอร์ก็ชนะอย่างสวยงามในบางครั้ง 926 01:10:10,003 --> 01:10:12,563 ‎ชูมัคเคอร์มีสิทธิ์สูง ‎ที่จะชนะการแข่งชิงแชมป์โลกครั้งนั้น 927 01:10:13,723 --> 01:10:15,603 ‎มิชชาเอลกังวลอย่างเห็นได้ชัด 928 01:10:16,163 --> 01:10:21,243 ‎วิธีการเอาชนะของเขาคือ ต้องไม่มีความกลัว 929 01:10:22,003 --> 01:10:23,523 ‎ไม่มีการคิดว่า 930 01:10:24,683 --> 01:10:27,163 ‎"ฉันจะบาดเจ็บรึเปล่า คนอื่นจะบาดเจ็บรึเปล่า" 931 01:10:29,843 --> 01:10:31,483 ‎ผมไปคุยกับมิชชาเอลเลยครับ 932 01:10:31,563 --> 01:10:34,043 ‎ผมบอกเขาว่า "นี่ นายจะทำแบบนั้นไม่ได้ 933 01:10:35,723 --> 01:10:38,723 ‎นายจะทำแบบนั้นไม่ได้ ‎เพราะเรากำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง 934 01:10:38,803 --> 01:10:40,243 ‎วิ่งตั้ง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 935 01:10:40,323 --> 01:10:41,603 ‎และฉันก็เหยียบเร็วขึ้นด้วย 936 01:10:41,683 --> 01:10:42,763 ‎นายจะขวางรถฉันไม่ได้" 937 01:10:43,603 --> 01:10:44,523 ‎แล้วเขาก็แบบ 938 01:10:45,883 --> 01:10:48,643 ‎ยักไหล่แล้วก็พูดว่า "มิก้า นี่แข่งรถนะ" 939 01:10:50,563 --> 01:10:51,483 ‎ขยับครั้งสุดท้าย 940 01:10:52,483 --> 01:10:53,323 ‎แล้วก็เอาอีก 941 01:10:54,923 --> 01:10:55,763 ‎ก่อนที่นาย… 942 01:10:58,603 --> 01:11:01,923 ‎เราสนุกและยกย่องความสำเร็จของใครบางคน 943 01:11:02,003 --> 01:11:02,963 ‎ส่วนคนอื่นก็ยกย่องเรา 944 01:11:03,043 --> 01:11:04,483 ‎เราแต่ละคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง 945 01:11:05,483 --> 01:11:08,203 ‎แต่ในสนามเราเป็นคู่แข่งกัน 946 01:11:09,203 --> 01:11:10,803 ‎ดังนั้นมันยากที่จะเป็นเพื่อนกันในสนาม 947 01:11:11,563 --> 01:11:12,763 ‎ผมว่ามีอยู่สองด้านนะ ใช่มั้ย 948 01:11:12,843 --> 01:11:14,403 ‎ด้านหนึ่งคือมิชชาเอล เป็นนักแข่งรถ 949 01:11:14,483 --> 01:11:16,363 ‎(เดวิด โคลต์ฮาร์ด ‎อดีตนักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน) 950 01:11:16,443 --> 01:11:17,763 ‎(ทีมแม็คลาเรน-เมอร์เซเดส) 951 01:11:17,843 --> 01:11:20,443 ‎นักแข่งที่เร็ว มุ่งมั่น ไม่ยอม และดุดัน 952 01:11:20,523 --> 01:11:23,323 ‎อีกด้านคือมิชชาเอล ผู้ชายทั่วไปที่รักครอบครัว 953 01:11:24,483 --> 01:11:26,723 ‎ผมสังสรรค์กับเขาตอนค่ำหลายครั้ง 954 01:11:27,643 --> 01:11:28,963 ‎ดื่มบาคาร์ดี้โค้ก 955 01:11:29,043 --> 01:11:30,443 ‎ส่วนเขาก็สูบบุหรี่ซิการ์ 956 01:11:30,523 --> 01:11:31,963 ‎เขาเป็นอีกคนเลยนะ 957 01:11:32,043 --> 01:11:34,603 ‎เพราะตอนนั้นเราไม่ต้องแข่งกัน 958 01:11:34,683 --> 01:11:37,403 ‎มันคือช่วงเวลาสังสรรค์ดีๆ ที่เราใช้ร่วมกัน 959 01:11:41,603 --> 01:11:44,763 ‎ถ้าไปปาร์ตี้นะ ‎เขาจะไปถึงเป็นคนแรกและกลับเป็นคนสุดท้าย 960 01:11:45,643 --> 01:11:46,843 ‎เขาชอบปาร์ตี้มาก 961 01:11:51,323 --> 01:11:53,923 ‎เราหัวเราะเฮฮา 962 01:11:54,003 --> 01:11:55,923 ‎สนุกสุดเหวี่ยง 963 01:11:56,003 --> 01:11:59,963 ‎เด็กๆ ยังจำได้อยู่เลยว่าสนุกมาก 964 01:12:00,043 --> 01:12:03,403 ‎มิชชาเอลชอบโยนคนอื่นลงในสระว่ายน้ำ 965 01:12:03,483 --> 01:12:05,883 ‎สุดท้ายเราทุกคนอยู่ในสระทุกครั้ง 966 01:12:05,963 --> 01:12:08,043 ‎มันเป็นสิ่งที่มิชชาเอลชอบ 967 01:12:08,123 --> 01:12:11,563 ‎ขนาดในงานแต่งเรา ‎คนในงานยังโดนอุ้มโยนลงน้ำเลย 968 01:12:13,043 --> 01:12:14,843 ‎เขาร้องเพลงไม่เก่ง 969 01:12:14,923 --> 01:12:17,283 ‎มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาไม่ถนัด 970 01:12:17,883 --> 01:12:19,843 ‎ร้องทีไรก็ร้องแต่เพลง "มายเวย์" 971 01:12:20,403 --> 01:12:21,483 ‎เพราะรู้เนื้อเพลง 972 01:12:22,403 --> 01:12:23,563 ‎ตลกมาก 973 01:12:40,563 --> 01:12:43,763 ‎แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาอยู่คนเดียว 974 01:12:43,843 --> 01:12:45,363 ‎ไม่มีใครอยู่ใกล้เขา 975 01:12:46,323 --> 01:12:49,523 ‎ผมว่าการรู้จักมิชชาเอลค่อนข้างยากนะ 976 01:12:49,603 --> 01:12:51,043 ‎เขาเป็นคนที่… 977 01:12:51,803 --> 01:12:52,803 ‎เขา… 978 01:12:52,883 --> 01:12:55,003 ‎เหมือนเขามีกำแพง 979 01:13:00,403 --> 01:13:02,683 ‎มิชชาเอลเป็นคนขี้ระแวงมาก 980 01:13:04,803 --> 01:13:08,243 ‎ตอนแรกเขาจะเป็นอย่างนั้น 981 01:13:08,323 --> 01:13:12,643 ‎จนกว่าจะรู้สึกว่า ‎เขารู้จักคนคนนั้นจริงๆ หรือไว้ใจคนคนนั้นได้ 982 01:13:12,723 --> 01:13:14,563 ‎เขาถึงจะเปิดใจเต็มร้อย 983 01:13:14,643 --> 01:13:17,043 ‎ตอนแรกที่เขารู้จักฉัน เขาก็เป็นแบบนั้น 984 01:13:17,123 --> 01:13:19,803 ‎และไม่ใช่แค่กับฉัน กับเพื่อนคนอื่นๆ ก็ด้วย 985 01:13:20,603 --> 01:13:22,083 ‎เขาเป็นคนที่ 986 01:13:23,323 --> 01:13:25,923 ‎ขี้ระแวงมากมาตลอด 987 01:13:26,003 --> 01:13:26,923 ‎ฉันขอบอกเลยค่ะ 988 01:13:27,683 --> 01:13:28,843 ‎แต่ 989 01:13:30,283 --> 01:13:32,243 ‎ถ้าเขาเปิดใจ เขาจะเปิดเต็มร้อย 990 01:13:32,323 --> 01:13:33,203 ‎เปิดหมดทุกเรื่อง 991 01:13:33,803 --> 01:13:37,883 ‎(สปา ประเทศเบลเยียม ‎30 สิงหาคม 1998) 992 01:13:40,363 --> 01:13:41,723 ‎ในการแข่งขันชิงแชมป์นักแข่ง 993 01:13:41,803 --> 01:13:45,363 ‎มิก้า ฮักคิเนน ‎คะแนนนำมิชชาเอล ชูมัคเคอร์เจ็ดแต้ม 994 01:13:45,443 --> 01:13:46,963 ‎ข้างมิก้าในแถวหน้าสุด 995 01:13:47,563 --> 01:13:49,203 ‎คือเดวิด โคลต์ฮาร์ด เพื่อนร่วมทีม 996 01:13:49,723 --> 01:13:52,163 ‎ดังนั้นแถวหน้าสุดจึงมีแต่นักแข่งของแม็คลาเรน 997 01:13:55,723 --> 01:13:57,883 ‎มิก้า ฮักคิเนน ‎ได้จุดออกตัวจุดแรกเป็นครั้งที่เก้า… 998 01:13:57,963 --> 01:14:00,363 ‎(ซีซั่นที่สามของชูมัคเคอร์ปี 1998 ‎สกูเดเรียเฟอร์รารี่) 999 01:14:00,443 --> 01:14:03,723 ‎จากการแข่ง 13 ครั้งในปีนี้ 1000 01:14:03,803 --> 01:14:04,963 ‎ไฟออกครบห้าดวงแล้ว 1001 01:14:06,723 --> 01:14:08,643 ‎ออกตัวๆ 1002 01:14:08,723 --> 01:14:10,603 ‎ฮักคิเนนนำอีกแล้วครับ 1003 01:14:10,683 --> 01:14:12,323 ‎เออร์ไวน์ขึ้นมาทางด้านซ้ายอีกแล้ว 1004 01:14:12,403 --> 01:14:15,043 ‎เดม่อน ฮิลล์ออกตัวได้ดีแล้วก็ขึ้นมานำ 1005 01:14:15,123 --> 01:14:16,003 ‎เขาขึ้นมานำ 1006 01:14:16,083 --> 01:14:18,843 ‎เดม่อน ฮิลล์ขึ้นมานำทุกคนที่โค้งลาซอร์ส 1007 01:14:18,923 --> 01:14:22,843 ‎ชูมัคเคอร์อ้อมโค้งที่ด้านนอกแล้วก็ชนฮักคิเนน 1008 01:14:22,923 --> 01:14:24,283 ‎ชูมัคเคอร์ชนฮักคิเนน 1009 01:14:27,003 --> 01:14:29,483 ‎(ฮิลล์ 1 ‎จอร์แดน ฮอนด้า) 1010 01:14:29,563 --> 01:14:33,363 ‎ฮักคิเนนออกจากการแข่งขัน ‎หลังจากเริ่มแข่งได้ไม่นาน 1011 01:14:33,443 --> 01:14:37,403 ‎นี่คือโอกาสที่ชูมัคเคอร์ ‎นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ 1012 01:14:37,483 --> 01:14:38,843 ‎ใช้มันในการเอาแต้มสิบแต้ม 1013 01:14:38,923 --> 01:14:41,243 ‎ในขณะที่ฮักคิเนนจะไม่ได้เลยสักแต้ม 1014 01:14:41,323 --> 01:14:47,083 ‎นั่นคือสิ่งสำคัญสำหรับศึกชิงแชมป์โลกที่ยาวนาน ‎โดยที่แต่ละคนฝีมือสูสีกัน 1015 01:14:50,643 --> 01:14:53,563 ‎ถ้ามิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎นำเป็นอันดับหนึ่งได้เรื่อยๆ 1016 01:14:53,643 --> 01:14:57,643 ‎เขาจะได้ที่หนึ่ง ‎ในรายการชิงแชมป์โลกโดยมีคะแนนนำสามแต้ม 1017 01:14:58,403 --> 01:15:03,963 ‎(มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 1 ‎เฟอร์รารี่) 1018 01:15:04,043 --> 01:15:05,803 ‎เส้นทางวิ่งเต็มไปด้วยน้ำ 1019 01:15:09,043 --> 01:15:12,243 ‎(มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ รอบ 9 ‎รอบที่เร็วที่สุด 2:03.766) 1020 01:15:12,323 --> 01:15:15,603 ‎ล้อรถที่ใหญ่สะบัดเอาละอองน้ำขึ้นมา 1021 01:15:15,683 --> 01:15:16,683 ‎เอาน้ำขึ้นมาจากถนน 1022 01:15:17,243 --> 01:15:21,043 ‎ถ้าคุณวิ่งตามรถ ‎คุณจะไม่เห็นรถอีกคันหรือเห็นด้านข้างของถนน 1023 01:15:21,123 --> 01:15:22,243 ‎ไม่เห็นอะไรเลย 1024 01:15:23,283 --> 01:15:24,603 ‎(1 มิชชาเอล ‎8 โคลต์ฮาร์ด) 1025 01:15:27,523 --> 01:15:29,923 ‎มิชชาเอลชนะด้วยคะแนนทิ้งห่าง 1026 01:15:30,003 --> 01:15:34,003 ‎ทีมบอกผมว่า ‎"เบอร์หนึ่งกำลังจะแซงรอบคุณ" 1027 01:15:34,083 --> 01:15:36,043 ‎แต่ฝนตก ดังนั้นคุณมองไม่เห็น 1028 01:15:36,123 --> 01:15:37,443 ‎มีกระจกเล็กๆ ก็จริง 1029 01:15:37,523 --> 01:15:40,043 ‎แต่มีละอองน้ำเกาะ ‎จึงตัดสินไม่ได้ว่ารถอีกคันอยู่ตรงไหน 1030 01:15:40,563 --> 01:15:44,403 ‎ผมรอให้เขาแซง ‎ในช่วงที่เรากำลังจะเข้าโค้งบลังค์ชีมองต์ 1031 01:15:44,483 --> 01:15:45,963 ‎ซึ่งเป็นโค้งหักซ้ายที่ต้องวิ่งเร็วมาก 1032 01:15:49,323 --> 01:15:52,963 ‎อย่าลืมครับว่าเดวิด โคลต์ฮาร์ด ‎ก็อยู่ในสนามที่เปียกและขับยากมากนี้เหมือนกัน 1033 01:15:53,043 --> 01:15:54,363 ‎โอ้พระเจ้า 1034 01:15:54,443 --> 01:15:57,123 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ขับชนเดวิด โคลต์ฮาร์ด 1035 01:15:57,203 --> 01:16:00,163 ‎เดวิดออกจากการแข่งขันเบลเยียมกรังด์ปรีซ์ 1036 01:16:00,243 --> 01:16:04,283 ‎เขาน่าจะคิดให้รอบคอบกว่านี้ ‎ในการพยายามแซงเดวิด 1037 01:16:04,363 --> 01:16:06,763 ‎มิชชาเอลเปรียบเหมือน ‎คนโดยสารในอุบัติเหตุครั้งนั้น 1038 01:16:06,843 --> 01:16:08,003 ‎ว่างั้นละกัน 1039 01:16:08,083 --> 01:16:13,163 ‎ช่วงแรกของสนามง่ายมากสำหรับโคลต์ฮาร์ด ‎ที่จะเบี่ยงเข้าด้านข้างและให้มิชชาเอลแซง 1040 01:16:13,883 --> 01:16:16,363 ‎แต่เขาไม่ทำ เขาวิ่งที่เดิมและทำให้แซงยาก 1041 01:16:18,083 --> 01:16:20,403 ‎ผมว่าเดวิดปล่อยคันเร่ง 1042 01:16:21,883 --> 01:16:23,803 ‎เราจะไม่ทำอย่างนั้นเวลาขับบนถนนเปียก 1043 01:16:23,883 --> 01:16:26,003 ‎เพราะนักแข่งมองไม่เห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น 1044 01:16:26,083 --> 01:16:28,043 ‎เราห้ามเอาเท้าออกจากคันเร่ง 1045 01:16:28,123 --> 01:16:29,323 ‎มิชชาเอลก็เลยชนเขาไง 1046 01:16:37,363 --> 01:16:39,283 ‎เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งชิงแชมป์ 1047 01:16:39,363 --> 01:16:40,803 ‎ตอนนี้เขากำลังทำอะไรครับ 1048 01:16:40,883 --> 01:16:43,763 ‎เขากำลังเดินออกจากพิทเลน น่าจะไป… 1049 01:16:43,843 --> 01:16:46,643 ‎ดูครับๆ เขาพูดว่า "ผมจะไปหาคณะกรรมการ" 1050 01:16:46,723 --> 01:16:48,043 ‎เขากำลังเดินไปหาโคลต์ฮาร์ด 1051 01:16:48,123 --> 01:16:50,443 ‎เขาจะไปเคลียร์กับเดวิด โคลต์ฮาร์ด 1052 01:16:50,523 --> 01:16:51,723 ‎ผมรู้ว่าเขาโกรธ 1053 01:16:51,803 --> 01:16:54,523 ‎คอเขานี่แดงเลยครับ 1054 01:16:54,603 --> 01:16:55,443 ‎ตาเขาแบบ… 1055 01:16:55,523 --> 01:16:58,043 ‎แต่ทีมแยกเราไม่ให้ปะทะกัน 1056 01:16:58,123 --> 01:16:59,123 ‎จะฆ่าฉันรึไง 1057 01:17:12,923 --> 01:17:16,163 ‎เราไปเจอกันบนรถบัสของเบอร์นี่ เอ็คเคิลสโตน ‎เพื่อเคลียร์กัน 1058 01:17:16,243 --> 01:17:19,603 ‎ผมบอกเขาว่า ‎"ฉันยอมรับว่าฉันมีส่วนผิดในการชนครั้งนี้ 1059 01:17:19,683 --> 01:17:21,923 ‎แต่นายก็ต้องรับผิดด้วยส่วนหนึ่ง" 1060 01:17:22,003 --> 01:17:24,003 ‎เขาตอบว่า "ไม่ ฉันว่าไม่ใช่อย่างนั้น" 1061 01:17:24,083 --> 01:17:27,483 ‎ผมก็ตอบกลับไปว่า "เอาตามจริงนะ มิชชาเอล ‎นายมาชนที่ด้านหลังของฉัน 1062 01:17:27,563 --> 01:17:29,803 ‎ฉันไม่ได้ถอยไปชนนายสักหน่อย" 1063 01:17:29,883 --> 01:17:32,083 ‎เราคุยกันจนถึงจุดที่ผมพูดว่า 1064 01:17:32,163 --> 01:17:34,923 ‎"นี่ บางครั้งนายก็ต้องผิดบ้าง" 1065 01:17:35,003 --> 01:17:36,963 ‎เขาหยุดคิดสักพักแล้วก็พูดว่า 1066 01:17:37,683 --> 01:17:38,963 ‎"ไม่เห็นจำได้" 1067 01:17:48,603 --> 01:17:53,643 ‎ความคาดหวังและความผิดหวังสูงขึ้นเรื่อยๆ 1068 01:17:53,723 --> 01:17:55,283 ‎(ราชาคนเดียวคือชูมี่) 1069 01:17:55,363 --> 01:17:57,843 ‎เพราะสิ่งที่ผู้คนคิดคือ 1070 01:17:57,923 --> 01:18:00,723 ‎"มิชชาเอลเข้ามา ‎เฟอร์รารี่จะต้องชนะทันทีแน่นอน" 1071 01:18:00,803 --> 01:18:02,003 ‎(ชูมี่ตลอดไป) 1072 01:18:02,083 --> 01:18:05,483 ‎(มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ พระเจ้า) 1073 01:18:05,563 --> 01:18:07,923 ‎เขาร่วมแข่งในปี 1996 1074 01:18:08,683 --> 01:18:09,563 ‎1997 1075 01:18:10,283 --> 01:18:11,203 ‎1998 1076 01:18:12,043 --> 01:18:13,163 ‎แล้วก็ 1999 1077 01:18:13,243 --> 01:18:17,283 ‎จนถึงจุดหนึ่งมีคนสงสัยว่า ‎มิชชาเอลใช่นักแข่งสำหรับเรามั้ย 1078 01:18:17,363 --> 01:18:19,683 ‎หรือเราควรจ้างนักแข่งอย่างฮักคิเนน 1079 01:18:20,283 --> 01:18:25,603 ‎(ซิลเวอร์สโตน บริเตนใหญ่ ‎11 กรกฎาคม 1999) 1080 01:18:32,923 --> 01:18:35,123 ‎มิก้า ฮักคิเนน ‎ทำคะแนนไปได้อย่างสวยงามที่สนามนี้ 1081 01:18:35,203 --> 01:18:37,403 ‎(ซีซั่นที่สี่ของชูมัคเคอร์ปี 1999 ‎สกูเดเรียเฟอร์รารี่) 1082 01:18:37,483 --> 01:18:39,003 ‎เช้านี้เราแข่งรอบควอลิฟายไป 1083 01:18:39,083 --> 01:18:41,083 ‎และมิก้า ฮักคิเนนวิ่งได้เร็วที่สุด 1084 01:18:41,163 --> 01:18:45,203 ‎เขาวิ่งได้เร็วที่สุดอย่างสบายๆ ‎ในรอบควอลิฟายแต่ละรอบ 1085 01:18:46,003 --> 01:18:49,123 ‎ส่วนมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎เมื่อเช้านี้ในรอบอุ่นเครื่อง 1086 01:18:49,203 --> 01:18:52,763 ‎ช้ากว่ามิก้า ฮักคิเนนไป 0.7 วินาที 1087 01:18:52,843 --> 01:18:54,483 ‎เร็วที่สุดเป็นอันดับสอง 1088 01:18:57,603 --> 01:18:58,523 ‎ถึงเวลาแข่งจริงแล้ว 1089 01:18:59,563 --> 01:19:01,563 ‎ซิ่งบนสนามซิลเวอร์สโตนกันเลย 1090 01:19:02,723 --> 01:19:03,563 ‎เริ่ม 1091 01:20:13,203 --> 01:20:15,643 ‎ล้อหน้าเข้ามาถึงห้องคนขับ 1092 01:20:15,723 --> 01:20:17,603 ‎และติดอยู่ตรงไหนสักที่ในนั้น 1093 01:20:18,163 --> 01:20:23,883 ‎ผมออกมาไม่ได้ ‎ขาผมติด และผมพยายามดึงขาออก 1094 01:20:35,083 --> 01:20:38,923 ‎ผมก็นอนราบกับเบาะ ‎แล้วก็สังเกตว่าตัวเองเริ่มสงบขึ้น 1095 01:20:40,003 --> 01:20:42,043 ‎ทันใดนั้นผมก็รู้สึกว่าหัวใจเริ่มเต้นช้าลง 1096 01:20:42,643 --> 01:20:44,763 ‎ช้าลง แล้วก็ช้าลง 1097 01:20:45,363 --> 01:20:47,763 ‎จนอยู่ๆ มันก็หยุดเต้นไปเลย 1098 01:20:47,843 --> 01:20:51,843 ‎แล้วผมก็คิดในใจว่า ‎"นี่สินะ ความรู้สึกเมื่อกำลังจะไปสวรรค์" 1099 01:20:57,883 --> 01:21:00,123 ‎ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันอยู่ที่บ้าน 1100 01:21:00,203 --> 01:21:06,643 ‎เขาโบกมือจากหลังผ้าที่กั้นอยู่ ‎เพื่อบอกเราว่า "ทุกอย่างโอเค" 1101 01:21:13,363 --> 01:21:16,643 ‎ตอนนั้นเลยที่ฉันคิดว่า "ตายแล้ว" 1102 01:21:17,403 --> 01:21:18,963 ‎แต่โดยรวมแล้ว 1103 01:21:19,043 --> 01:21:24,483 ‎ทุกครั้งเราจะผ่านการแข่งขันไปได้อย่างปลอดภัย 1104 01:21:24,563 --> 01:21:27,523 ‎นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันมั่นใจ 1105 01:21:27,603 --> 01:21:32,403 ‎ว่าเขามีเทวทูตผู้พิทักษ์คอยปกป้องอยู่ 1106 01:21:42,283 --> 01:21:47,923 ‎ฉันไม่รู้ว่ามันคือกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นมาเอง 1107 01:21:48,683 --> 01:21:53,323 ‎หรือเพราะไร้เดียงสากันแน่ 1108 01:21:53,843 --> 01:21:55,723 ‎ฉันไม่รู้ค่ะ 1109 01:21:56,523 --> 01:21:59,963 ‎แต่ฉันไม่เคย 1110 01:22:00,603 --> 01:22:03,683 ‎คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับมิชชาเอล 1111 01:22:12,723 --> 01:22:14,043 ‎ปลายปี 1999 1112 01:22:14,683 --> 01:22:16,203 ‎พวกเขาแข่งไปทั้งหมดสี่ซีซั่น 1113 01:22:16,803 --> 01:22:18,163 ‎พวกเขาชนะบางการแข่งขัน 1114 01:22:18,243 --> 01:22:19,443 ‎มีความต้องการที่จะชนะ 1115 01:22:20,523 --> 01:22:23,603 ‎แต่ต้องมีความอดทนมากกว่านี้ 1116 01:22:25,403 --> 01:22:27,203 ‎หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มสงสัย 1117 01:22:27,283 --> 01:22:31,043 ‎ว่ามันจะเกิดขึ้นกับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎และเฟอร์รารี่มั้ย 1118 01:22:43,683 --> 01:22:49,243 ‎เขารู้ว่าเขาคือผู้ชนะ เขารู้ว่าเขาคือแชมป์ 1119 01:22:49,843 --> 01:22:51,843 ‎เรามั่นใจว่าเราใกล้จะชนะแล้ว 1120 01:22:51,923 --> 01:22:53,923 ‎(ปีเอโร เฟอร์รารี่ ‎รองประธานของเฟอร์รารี่) 1121 01:22:54,003 --> 01:22:55,603 ‎แต่เราไม่ชนะการแข่งขันชิงแชมป์ 1122 01:22:55,683 --> 01:22:59,203 ‎พอเราไม่ชนะ ก็มีความสงสัยเกิดขึ้น 1123 01:22:59,283 --> 01:23:02,883 ‎สิ่งที่ผมกังวล ผมไม่มีความเห็นในเรื่องนั้น 1124 01:23:02,963 --> 01:23:05,683 ‎มันคือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติครับ 1125 01:23:07,003 --> 01:23:10,403 ‎ช่วงแรกของซีซั่นประจำปี 2000 ‎สิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ 1126 01:23:10,483 --> 01:23:12,003 ‎และทันใดนั้น 1127 01:23:12,923 --> 01:23:16,123 ‎เราก็มาจนถึงกลางซีซั่น 1128 01:23:17,203 --> 01:23:20,763 ‎มาอยู่ในจุดที่ยากที่จะเชื่อว่าเราสามารถชนะได้ 1129 01:23:23,203 --> 01:23:26,003 ‎เราเริ่มสงสัยในความสามารถของทุกคนในทีม 1130 01:23:26,923 --> 01:23:28,803 ‎รวมทั้งมิชชาเอลด้วย 1131 01:23:34,003 --> 01:23:36,203 ‎ถึงตอนนี้แล้วเราต้องชนะทุกการแข่งขัน 1132 01:23:37,203 --> 01:23:40,523 ‎เพราะถ้าเราไม่ชนะ เราจะไม่ได้เป็นแชมป์โลก 1133 01:23:41,763 --> 01:23:47,403 ‎(มอนซา อิตาลี ‎10 กันยายน 2000) 1134 01:23:52,563 --> 01:23:54,003 ‎นี่คือจุดชี้เป็นชี้ตาย 1135 01:23:54,083 --> 01:23:55,803 ‎ชูมัคเคอร์กำลังนำ ฮักคิเนนอยู่อันดับสอง 1136 01:23:55,883 --> 01:23:58,123 ‎(ซีซั่นที่ห้าของชูมัคเคอร์ปี 2000 ‎สกูเดเรียเฟอร์รารี่) 1137 01:23:58,203 --> 01:24:03,123 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์มองที่กระจก ‎เพื่อดูว่ามิก้า ฮักคิเนนอยู่ตรงนั้นมั้ย 1138 01:24:03,203 --> 01:24:06,283 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะที่มอนซาในประเทศอิตาลี 1139 01:24:06,363 --> 01:24:09,883 ‎และลดช่องว่างคะแนน ‎ระหว่างเขากับมิก้า ฮักคิเนน 1140 01:24:09,963 --> 01:24:11,043 ‎ในการแข่งชิงแชมป์โลก 1141 01:24:11,123 --> 01:24:13,203 ‎คุณชนะเป็นครั้งที่ 41 ซึ่งเท่ากับอาอีร์ตง เซนนา 1142 01:24:13,283 --> 01:24:15,283 ‎คุณเป็นนักแข่งแถวหน้าตลอดกาล ‎คนที่สองต่อจากเขา 1143 01:24:15,363 --> 01:24:16,643 ‎สถิตินี้มีความหมายกับคุณมากมั้ย 1144 01:24:16,723 --> 01:24:17,803 ‎(งานแถลงข่าว มอนซา) 1145 01:24:17,883 --> 01:24:19,243 ‎ครับ มันมีความหมายกับผมมาก 1146 01:24:22,843 --> 01:24:23,683 ‎ขอโทษครับ 1147 01:24:36,323 --> 01:24:37,363 ‎ขอบคุณ มิชชาเอล 1148 01:24:38,483 --> 01:24:40,083 ‎มิก้าครับ ในการแข่งขันสองที่ผ่านมา 1149 01:24:40,163 --> 01:24:44,763 ‎มิชชาเอลใจกว้างพอสมควรเลย ‎ที่วันนั้นเขายอมรับว่าคุณมีรถที่เร็วที่สุด 1150 01:24:44,843 --> 01:24:45,763 ‎ซึ่งคือรถแม็คลาเรน 1151 01:24:45,843 --> 01:24:47,803 ‎คุณว่าวันนี้เฟอร์รารี่คือรถที่เร็วที่สุดมั้ยครับ 1152 01:24:49,683 --> 01:24:50,523 ‎พักก่อนได้มั้ย 1153 01:24:55,083 --> 01:25:00,003 ‎(ซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น ‎8 ตุลาคม 2000) 1154 01:25:00,083 --> 01:25:03,083 ‎ตอนนี้ความตึงเครียดเกินจะต้านไหว 1155 01:25:03,163 --> 01:25:06,083 ‎มือผมเหงื่อออก 1156 01:25:06,163 --> 01:25:11,163 ‎ผมหวังว่ามันจะเป็นการแข่งขันสุดระทึก ‎บนทุกตารางนิ้วของเส้นทาง 1157 01:25:15,763 --> 01:25:17,523 ‎การชิงตำแหน่งแชมป์ที่ซูซูกะ 1158 01:25:17,603 --> 01:25:20,763 ‎คือการชิงแชมป์วันสุดท้ายครั้งที่สี่ของเขา 1159 01:25:22,363 --> 01:25:24,083 ‎มันอาจจะเป็นการแข่งขันที่สำคัญที่สุด 1160 01:25:24,163 --> 01:25:26,803 ‎ในอาชีพนักแข่งฟอร์มูล่าวัน ‎ของชูมัคเคอร์เลยก็ว่าได้ 1161 01:25:28,603 --> 01:25:30,923 ‎เฟอร์รารี่รู้ว่ามิก้า ฮักคิเนนเร็วมาก 1162 01:25:31,003 --> 01:25:32,643 ‎ข้อได้เปรียบของเขาคือความเร็ว 1163 01:25:32,723 --> 01:25:34,163 ‎และเขาไม่ได้ซับซ้อนอะไร 1164 01:25:34,243 --> 01:25:37,483 ‎เขาเร็วจนเหลือเชื่อ ‎เร็วจนกลายเป็นแรงบันดาลใจ 1165 01:25:39,403 --> 01:25:43,403 ‎เขาก้มหัวลงแล้วก็หลับตา เหมือนกำลังทำสมาธิ 1166 01:25:43,923 --> 01:25:46,123 ‎กำลังจินตนาการว่าจะขับยังไงให้ชนะ 1167 01:25:46,203 --> 01:25:49,043 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ต้องชนะการแข่งชิงแชมป์ในครั้งนี้ 1168 01:25:49,123 --> 01:25:51,003 ‎เพื่อตัวเองและเพื่อเฟอร์รารี่ 1169 01:25:51,083 --> 01:25:53,923 ‎ผมว่าฮักคิเนนกำลังทำใจสบายๆ 1170 01:25:57,803 --> 01:26:00,603 ‎เราแพ้การแข่งขันรอบสุดท้ายของปี 1997 1171 01:26:00,683 --> 01:26:01,763 ‎1998 1172 01:26:01,843 --> 01:26:03,123 ‎และ 1999 1173 01:26:03,203 --> 01:26:05,123 ‎และปี 2000 เราก็อาจจะแพ้อีก 1174 01:26:07,643 --> 01:26:08,803 ‎จับตาดูให้ดี 1175 01:26:08,883 --> 01:26:09,723 ‎สี่ดวงแล้ว 1176 01:26:09,803 --> 01:26:12,163 ‎มาเต็มห้าดวงแล้วครับที่เจแปนนิสกรังด์ปรีซ์ 1177 01:26:13,643 --> 01:26:14,483 ‎การแข่งเริ่มขึ้นแล้ว 1178 01:26:14,563 --> 01:26:18,563 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์วิ่งตัดไปอีกด้าน ‎แล้วเบียดมิก้า ฮักคิเนนเข้ากำแพง 1179 01:26:18,643 --> 01:26:20,363 ‎ฮักคิเนนเอาอีกแล้วครับ 1180 01:26:20,443 --> 01:26:24,163 ‎เขาขึ้นมานำเหมือนปีก่อนและปีก่อนหน้าปีก่อน 1181 01:26:24,243 --> 01:26:27,363 ‎ค่อนข้างเป็นข่าวร้ายสำหรับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 1182 01:26:38,443 --> 01:26:44,763 ‎(1 ฮักคิเนน ‎2 มิชชาเอล ชูมัคเคอร์) 1183 01:26:44,843 --> 01:26:48,243 ‎(1 ฮักคิเนน ‎2 มิชชาเอล ชูมัคเคอร์) 1184 01:26:48,323 --> 01:26:50,323 ‎(3 โคลต์ฮาร์ด ‎4 ราล์ฟ ชูมัคเคอร์) 1185 01:26:51,363 --> 01:26:53,083 ‎ฮักคิเนนนำเป็นอันดับหนึ่ง 1186 01:26:53,163 --> 01:26:57,043 ‎ตอนนี้เขาเข้าพิทสต็อปเป็นครั้งแรก ‎หลังจากวิ่งจบรอบที่ 22 1187 01:27:07,563 --> 01:27:10,043 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ขึ้นมานำครับ 1188 01:27:10,123 --> 01:27:13,403 ‎และเขารู้ว่าเขาต้อง "ซิ่งๆๆ!" ในรอบนี้ 1189 01:27:21,163 --> 01:27:22,283 ‎มิชชาเอลเข้าพิทสต็อป 1190 01:27:22,363 --> 01:27:23,403 ‎เจมส์ ยังอยู่มั้ย 1191 01:27:23,483 --> 01:27:24,603 ‎ยังอยู่ มาร์ติน 1192 01:27:24,683 --> 01:27:27,643 ‎ผมเพิ่งรู้ว่าฮักคิเนน ‎เติมเชื้อเพลิงที่วิ่งได้ 13 รอบ 1193 01:27:27,723 --> 01:27:28,843 ‎แค่นั้นครับ 1194 01:27:30,163 --> 01:27:31,083 ‎เจ็ดจุดสี่ 1195 01:27:31,163 --> 01:27:33,403 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎เติมน้ำมันเชื้อเพลิงแค่นิดเดียว 1196 01:27:34,163 --> 01:27:36,683 ‎ดูสิครับ มิก้า ฮักคิเนนวิ่งมาทางด้านขวา 1197 01:27:36,763 --> 01:27:39,483 ‎และกำลังจะแซงชูมัคเคอร์ 1198 01:27:39,563 --> 01:27:42,283 ‎สถานการณ์เดิมกลับมาแล้วครับ 1199 01:27:54,963 --> 01:27:59,123 ‎ช่างยนต์ของแม็คลาเรน ‎ออกมาเปลี่ยนยางเป็นครั้งที่สอง 1200 01:28:02,483 --> 01:28:04,243 ‎ตอนนั้นฮักคิเนนกำลังนำอยู่ 1201 01:28:04,323 --> 01:28:06,283 ‎เขานำอยู่สักพัก 1202 01:28:07,043 --> 01:28:10,163 ‎มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรารอให้ช่างยนต์ที่พิทสต็อป 1203 01:28:11,003 --> 01:28:11,843 ‎เปลี่ยนยางให้เสร็จ 1204 01:28:12,403 --> 01:28:16,403 ‎ผมมองไปบนสนาม ‎แล้วเห็นมิก้ากำลังออกมาบนสนาม 1205 01:28:17,803 --> 01:28:19,403 ‎ฮักคิเนน 7.4 1206 01:28:19,483 --> 01:28:23,363 ‎สองรอบถัดจากนี้คือตัวตัดสินเจแปนนิสกรังด์ปรีซ์ 1207 01:28:24,323 --> 01:28:25,563 ‎เขาเข้าพิทสต็อปครับ 1208 01:28:25,643 --> 01:28:27,003 ‎- เจมส์ครับ ‎- ใช่ เขา… 1209 01:28:27,083 --> 01:28:29,683 ‎ดูสิ รอบนี้เขาเร็วกว่าฮักคิเนนครึ่งวินาที 1210 01:28:29,763 --> 01:28:31,603 ‎ตอนนี้นำแค่ 0.268 วินาทีครับ 1211 01:28:31,683 --> 01:28:34,523 ‎ฟังนะมิชชาเอล พอคุณออกไป เขาจะอยู่ตรงนั้น 1212 01:28:35,163 --> 01:28:36,483 ‎ผมจะคอยแนะคุณ 1213 01:28:36,563 --> 01:28:38,963 ‎ตอนนี้คุณกำลังนำอยู่ ได้เรื่อยๆ 1214 01:28:39,043 --> 01:28:40,283 ‎ได้เรื่อยๆ 1215 01:28:41,283 --> 01:28:43,043 ‎คุณยังนำอยู่ มิชชาเอล 1216 01:28:43,123 --> 01:28:45,323 ‎ดีมาก ดี สุดยอด 1217 01:28:45,403 --> 01:28:46,723 ‎วิ่งต่อไป 1218 01:28:46,803 --> 01:28:50,523 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์กลับเข้ามาในสนามแล้ว 1219 01:28:50,603 --> 01:28:53,443 ‎และกำลังนำมิก้า ฮักคิเนน 1220 01:28:53,523 --> 01:28:56,883 ‎เสียงแตรดังขึ้นเพราะพวกเขา ‎อยากให้เฟอร์รารี่ชนะในญี่ปุ่น 1221 01:28:56,963 --> 01:29:00,563 ‎เหมือนกับที่พวกเขาอยากให้ชนะในประเทศอื่นๆ 1222 01:29:00,643 --> 01:29:07,643 ‎(1 มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎2 ฮักคิเนน) 1223 01:29:08,723 --> 01:29:10,363 ‎พวกเขาจะเชื่อสิ่งที่เห็นมั้ย 1224 01:29:10,443 --> 01:29:12,883 ‎ช่างยนต์ของเฟอร์รารี่เดินออกมา 1225 01:29:12,963 --> 01:29:17,483 ‎เพื่อต้อนรับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ฮีโร่ของพวกเขา กลับเข้าอาคาร 1226 01:29:40,563 --> 01:29:44,043 ‎มิชชาเอล คุณจะออกอากาศนะ ‎แสดงความรู้สึกออกมาเลย 1227 01:29:49,283 --> 01:29:50,123 ‎เหลือเชื่อ 1228 01:29:50,883 --> 01:29:53,203 ‎คุณเก่งมากรอส 1229 01:29:53,963 --> 01:29:54,883 ‎พวกคุณทุกคนเก่งมาก 1230 01:29:55,723 --> 01:29:56,763 ‎เหลือเชื่อจริงๆ 1231 01:29:59,083 --> 01:30:01,203 ‎เหลือเชื่อ เราชนะ 1232 01:30:01,283 --> 01:30:03,403 ‎(1 มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 98 แต้ม) 1233 01:30:03,483 --> 01:30:04,323 ‎ขอบคุณ 1234 01:30:04,403 --> 01:30:06,283 ‎ฝากส่งจุ๊บให้โครินนาด้วย 1235 01:30:06,363 --> 01:30:07,763 ‎(2 ฮักคิเนน 86 แต้ม) 1236 01:30:08,523 --> 01:30:10,763 ‎เอาละ เราจะได้เห็นความปีติกันแล้ว 1237 01:30:10,843 --> 01:30:11,723 ‎ดูสิครับ 1238 01:30:18,683 --> 01:30:20,363 ‎สุดยอดจริงๆ 1239 01:31:01,643 --> 01:31:07,403 ‎มิชชาเอล! 1240 01:32:01,443 --> 01:32:04,123 ‎พอเขาได้ตำแหน่งแชมป์ในปี 2000 1241 01:32:04,683 --> 01:32:08,323 ‎ความกดดันทั้งหมดที่เขาแบกไว้ก็หมดไป 1242 01:32:09,403 --> 01:32:11,923 ‎เขาไม่รู้สึกแล้วว่าเขาเป็นหนี้ใคร 1243 01:32:12,003 --> 01:32:15,963 ‎เขาคว้าตำแหน่งแชมป์โลกให้เฟอร์รารี่ได้แล้ว ‎ซึ่งเป็นสิ่งที่เฟอร์รารี่ต้องการมามากกว่า 20 ปี 1244 01:32:16,723 --> 01:32:18,803 ‎พอเลยจุดนั้นไปแล้ว ทุกอย่างคือโบนัส 1245 01:32:19,323 --> 01:32:21,843 ‎หลังจากนั้นเขาขับด้วยความรู้สึกอิสระ 1246 01:32:21,923 --> 01:32:24,803 ‎ขับด้วยหัวใจ ขับด้วยความคลั่งไคล้ 1247 01:32:24,883 --> 01:32:27,963 ‎ขับด้วยความรู้สึกสบายใจว่า 1248 01:32:28,043 --> 01:32:29,883 ‎"ฉันกำลังทำในสิ่งที่ฉันรัก 1249 01:32:29,963 --> 01:32:32,243 ‎และตอนนี้ฉันไม่ติดค้างอะไรใครแล้ว" 1250 01:32:32,923 --> 01:32:35,163 ‎แล้วเขาก็ก้าวขึ้นไปอีกระดับอีกครั้ง 1251 01:32:49,843 --> 01:32:55,043 ‎การดูมิชชาเอลขับด้วยความเร็วสูง ‎เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก 1252 01:32:55,123 --> 01:32:56,243 ‎มันคือ 1253 01:32:56,923 --> 01:33:03,363 ‎วิธีขับที่อาศัยสมาธิเต็มร้อย ‎และความทุ่มเทเต็มร้อย 1254 01:33:14,083 --> 01:33:16,643 ‎การเข้าโค้งด้วยความเร็ว ‎240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 1255 01:33:16,723 --> 01:33:20,843 ‎โดยรู้ว่าความสามารถของตัวเอง ‎จะทำให้ไปถึงอีกฝั่งได้อย่างปลอดภัย 1256 01:33:20,923 --> 01:33:22,643 ‎มันคือความสามารถพิเศษจริงๆ นะ 1257 01:33:22,723 --> 01:33:27,083 ‎มิชชาเอลมีพรสวรรค์นั้นสูงกว่าคนอื่น ‎มีพรสวรรค์ด้านความเร็วสูงกว่าคนอื่น 1258 01:33:27,163 --> 01:33:30,683 ‎ความพิเศษเกี่ยวกับมิชชาเอลคือ ‎เขาไม่ปล่อยให้พรสวรรค์นั้นไร้ประโยชน์ 1259 01:33:30,763 --> 01:33:36,363 ‎เขาทำทุกอย่าง ‎เพื่อให้ตัวเองสามารถใช้พรสวรรค์ที่ตัวเองมี 1260 01:33:41,643 --> 01:33:45,883 ‎มิชชาเอลเป็นคนไม่ค่อยกลัว ‎และผู้คนก็รู้ว่าเขาเป็นแบบนั้น 1261 01:33:45,963 --> 01:33:49,243 ‎ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ ‎ว่าพวกพวกเขาจะท้าสู้กับเขาได้มั้ย 1262 01:33:49,883 --> 01:33:53,003 ‎มิชชาเอลไม่ได้คิดเรื่องนั้น ‎เพราะเขารู้ขีดจำกัดของตัวเองดี 1263 01:33:53,723 --> 01:33:58,003 ‎ในขณะคนอื่นๆ ก็จะคิดว่า ‎"แอบเสี่ยงอยู่เหมือนกัน" แล้วก็ถอย 1264 01:33:58,603 --> 01:34:00,083 ‎แต่คุณจะไม่เห็นมิชชาเอลถอย 1265 01:34:03,443 --> 01:34:05,923 ‎เขาเป็นมืออาชีพ 1266 01:34:06,723 --> 01:34:08,083 ‎แต่ก็แสดงจิตใจที่ดีงามให้เห็น 1267 01:34:08,163 --> 01:34:11,323 ‎เขามีเสน่ห์ของความเป็นผู้นำ 1268 01:34:11,843 --> 01:34:15,683 ‎และนั่นคือของขวัญชิ้นดีที่เขามอบให้เรา 1269 01:34:15,763 --> 01:34:20,523 ‎นั่นคือสิ่งดีๆ ที่เขามอบให้กับวงการฟอร์มูล่าวัน 1270 01:34:24,323 --> 01:34:30,083 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันเป็นครั้งที่เจ็ด 1271 01:34:30,163 --> 01:34:34,523 ‎ในวันที่เต็มไปด้วยความสนุกและน่าจดจำ ‎ของการแข่งรถฟอร์มูล่าวัน 1272 01:34:35,323 --> 01:34:36,963 ‎นี่คือประวัติศาสตร์ครับ 1273 01:34:40,483 --> 01:34:44,243 ‎เขาเป็นไอดอลของผม ‎ตั้งแต่สมัยที่ผมเริ่มขับรถโกคาร์ทแล้ว 1274 01:34:44,323 --> 01:34:46,443 ‎เขามีอิทธิพลต่อผมมาก 1275 01:34:46,523 --> 01:34:48,803 ‎นักแข่งรถที่ชื่อมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 1276 01:34:48,883 --> 01:34:51,763 ‎คือฮีโร่ของผม ‎คือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากคว้าชัยชนะ 1277 01:34:52,763 --> 01:34:54,683 ‎ผมหลงใหลกีฬานี้มาก ‎ผมรู้จักนักแข่งคนอื่นนะ… 1278 01:34:54,763 --> 01:34:57,323 ‎(เซบาสเตียน เฟ็ทเทิล ‎แชมป์โลกฟอร์มูล่าวันสี่สมัย 2010 - 2013) 1279 01:34:57,403 --> 01:34:58,483 ‎แต่ไม่มีคนไหนเหมือนเขา 1280 01:35:02,523 --> 01:35:06,163 ‎การปฏิบัติงานให้เกิดผล ‎มีความสวยงามของความเป็นเลิศซ่อนอยู่ 1281 01:35:06,763 --> 01:35:09,003 ‎การปฏิบัติงานของเขา การปฏิบัติงานของทีม 1282 01:35:09,083 --> 01:35:13,563 ‎การชนะในระดับที่ยั่งยืน ‎โดยชนะทุกๆ ปีเป็นสิ่งที่ยากมาก 1283 01:35:13,643 --> 01:35:16,403 ‎และหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริงนั้นก็คือ ‎มันแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย 1284 01:35:17,603 --> 01:35:20,443 ‎มันคือสิ่งที่ชูมัคเคอร์และทีมบรรลุ 1285 01:35:20,523 --> 01:35:24,923 ‎ตั้งแต่ปี 2000 ไปจนถึงปี 2004 1286 01:35:25,003 --> 01:35:27,723 ‎การไม่ยอมอ่อนข้อให้กับคู่แข่ง 1287 01:35:27,803 --> 01:35:30,163 ‎การไม่ยอมให้พวกเขาได้หวังแม้แต่น้อย 1288 01:35:30,243 --> 01:35:31,883 ‎เป็นอะไรที่น่าทึ่งจริงๆ 1289 01:35:35,283 --> 01:35:38,043 ‎เขากลายเป็นนักแข่งที่ไม่มีใครเทียบได้ 1290 01:35:38,923 --> 01:35:43,163 ‎ผู้คนมองย้อนกลับไปช่วงเวลาที่ครองชัยชนะ 1291 01:35:43,243 --> 01:35:46,163 ‎และมองว่ามันคือยุคทอง ซึ่งก็เป็นยุคทองจริงๆ 1292 01:35:46,243 --> 01:35:49,483 ‎เพราะชนะการแข่งขันชิงแชมป์ห้าปีซ้อน 1293 01:35:49,563 --> 01:35:51,283 ‎ผู้คนจะจดจำมันไปตลอด 1294 01:35:57,483 --> 01:35:59,803 ‎ตอนที่เราไปสนามกับพวกเขา 1295 01:35:59,883 --> 01:36:03,083 ‎และเห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น 1296 01:36:03,163 --> 01:36:08,123 ‎เห็นว่ามีคนจำนวนมาก ‎ที่มองว่าเขาเก่งและยกย่องเขา 1297 01:36:08,203 --> 01:36:11,763 ‎ฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ 1298 01:36:12,483 --> 01:36:15,443 ‎แล้วฉันก็คิดว่า… 1299 01:36:15,523 --> 01:36:16,643 ‎(จีน่า ชูมัคเคอร์ ‎ลูกสาว) 1300 01:36:16,723 --> 01:36:20,563 ‎"นั่นพ่อฉัน ฉันดีใจมากที่เขาคือพ่อฉัน" 1301 01:36:21,283 --> 01:36:23,883 ‎ผมนับถือพ่อมาก 1302 01:36:23,963 --> 01:36:25,003 ‎(มิค ชูมัคเคอร์ ‎ลูกชาย) 1303 01:36:25,083 --> 01:36:27,523 ‎ผมนับถือเขามาตลอด ‎เขาเหมือนมีรัศมีอะไรบางอย่าง 1304 01:36:28,083 --> 01:36:29,803 ‎เวลาเขาเดินเข้าไปในห้อง 1305 01:36:30,803 --> 01:36:33,843 ‎ทุกคนจะเงียบ 1306 01:36:33,923 --> 01:36:35,443 ‎ผมจำได้ว่าอย่างนั้น 1307 01:36:35,523 --> 01:36:38,163 ‎ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เงียบ 1308 01:36:39,123 --> 01:36:44,243 ‎อย่างที่บอกไป ‎เวลาฮีโร่ของผมเดินเข้าไปในห้อง 1309 01:36:45,363 --> 01:36:49,683 ‎เวลาผมมองเขาแล้วคิดในใจ ผมบอกตัวเองว่า 1310 01:36:49,763 --> 01:36:50,603 ‎"นี่แหละ 1311 01:36:51,603 --> 01:36:52,443 ‎สิ่งที่ฉันอยากเป็น" 1312 01:36:52,523 --> 01:36:55,563 ‎แข็งแกร่งและมีจิตใจที่สงบแบบนี้แหละ 1313 01:36:58,043 --> 01:36:58,883 ‎สิ้นปีนี้… 1314 01:36:58,963 --> 01:37:00,883 ‎(มอนซา ประเทศอิตาลี ‎10 กันยายน 2006) 1315 01:37:00,963 --> 01:37:03,923 ‎ผมตัดสินใจกับทีมแล้วว่า 1316 01:37:04,003 --> 01:37:06,283 ‎ผมจะออกจากวงการแข่งรถ 1317 01:37:07,043 --> 01:37:09,323 ‎ผมควรขอบคุณครอบครัวผม 1318 01:37:09,403 --> 01:37:11,283 ‎ที่สนับสนุนสิ่งที่ผมทำ 1319 01:37:12,563 --> 01:37:14,483 ‎มาตลอด 1320 01:37:14,563 --> 01:37:15,963 ‎ถ้าไม่ได้พวกเขาคอยสนับสนุน 1321 01:37:16,043 --> 01:37:21,843 ‎ถ้าพวกเขาไม่เข้มแข็งพอ ‎ที่จะอยู่ให้รอดในธุรกิจนี้ ในกีฬานี้ 1322 01:37:21,923 --> 01:37:23,123 ‎และทำผลงาน 1323 01:37:23,923 --> 01:37:26,003 ‎ผมว่ามันก็คงเป็นไปไม่ได้ 1324 01:37:26,643 --> 01:37:28,283 ‎ผมขอบคุณมากจริงๆ 1325 01:37:47,323 --> 01:37:49,323 ‎ผมลาออกจากวงการเพราะ 1326 01:37:50,163 --> 01:37:52,683 ‎ผมหมดความคลั่งไคล้แล้ว ผมไม่มีแรงจูงใจแล้ว 1327 01:37:52,763 --> 01:37:53,603 ‎ผมเหนื่อย 1328 01:37:57,363 --> 01:37:59,243 ‎เขาเจอความตื่นเต้นใหม่ๆ 1329 01:37:59,323 --> 01:38:01,243 ‎เขาไม่นั่งบนโซฟาแล้ว 1330 01:38:01,323 --> 01:38:05,923 ‎เขาต้องไปนั่นไปนี่ ทำนั่นทำนี่ 1331 01:38:06,003 --> 01:38:07,243 ‎ทำสิ่งนั้นต่อจากสิ่งนี้ 1332 01:38:11,483 --> 01:38:14,163 ‎มิชชาเอลทำกิจกรรมไม่หยุดไม่หย่อน 1333 01:38:14,243 --> 01:38:17,403 ‎ยกตัวอย่างเช่น สมมติถ้าอากาศดี 1334 01:38:18,003 --> 01:38:19,723 ‎"ผมไปกระโดดร่มดีกว่า" 1335 01:38:19,803 --> 01:38:23,203 ‎แล้วไม่ใช่ครั้งเดียวไง กระโดดตั้ง 24 ครั้ง 1336 01:38:26,083 --> 01:38:29,883 ‎หลังจากที่เขาออกจากวงการฟอร์มูล่าวัน ‎เขาถามตัวเองว่า "จะทำอะไรต่อดี" 1337 01:38:31,363 --> 01:38:35,523 ‎เขาถามฉันว่า "ทำอะไรดี" ‎ฉันตอบว่า "ฉันไปแข่งแรลลี่กับคุณก็ได้ 1338 01:38:35,603 --> 01:38:37,963 ‎ฉันอ่านแผนที่ไม่เก่งหรอก แต่ลองดูก็ไม่เสียหาย" 1339 01:38:38,043 --> 01:38:39,563 ‎เขาตอบว่า "ไม่เอา" 1340 01:38:40,923 --> 01:38:45,123 ‎(ชตุทท์การ์ท ประเทศเยอรมนี ‎25 มกราคม 2010) 1341 01:38:54,843 --> 01:38:55,963 ‎ผมว่าที่มิชชาเอลกลับมา 1342 01:38:56,043 --> 01:39:00,283 ‎เป็นเพราะความต้องการส่วนตัว ‎และความอยากเติมเต็มล้วนๆ 1343 01:39:00,363 --> 01:39:02,723 ‎เขาไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ 1344 01:39:02,803 --> 01:39:06,603 ‎แต่เขารู้สึกว่าเขาต้องขับรถ ต้องแข่ง 1345 01:39:06,683 --> 01:39:09,403 ‎และต้องร่วมเส้นทางนั้นไปกับเมอร์เซเดส 1346 01:39:12,123 --> 01:39:16,483 ‎มันคือช่วงใหม่เลยนะ ‎มันคือวิถีใหม่ไปเลยสำหรับเขา 1347 01:39:17,083 --> 01:39:20,363 ‎เขาตระหนักว่าเขาสามารถ ‎สัมผัสประสบการณ์ฟอร์มูล่าวันได้ในรูปแบบใหม่ 1348 01:39:20,443 --> 01:39:25,363 ‎การเป็นผู้ชิงแชมป์โลก ‎ไม่น่าสนใจอีกต่อไปสำหรับเขา 1349 01:39:25,443 --> 01:39:28,883 ‎เขาสนุกกับมันจนถึงจุดหนึ่ง 1350 01:39:36,243 --> 01:39:39,763 ‎ผมไม่เคยอยู่ในระดับเดียวกับเขาในเรื่องฝีมือ 1351 01:39:39,843 --> 01:39:40,803 ‎แต่ผมรู้อย่างแน่ชัดว่า 1352 01:39:41,483 --> 01:39:44,643 ‎ตอนที่ใกล้จะหยุดทำอาชีพนี้ ปีสุดท้ายตอนอายุ 37 1353 01:39:45,363 --> 01:39:49,643 ‎ช่วงพักที่ผมถวิลหากำลังจะหายไป ‎ก่อนที่ผมจะได้พักจริงๆ 1354 01:39:49,723 --> 01:39:51,283 ‎เพราะยังไงเราก็แก่ตัวไปเรื่อยๆ 1355 01:39:51,363 --> 01:39:53,203 ‎มันเป็นธรรมดาของชีวิต 1356 01:40:02,803 --> 01:40:06,043 ‎ระหว่างการแข่งแต่ละครั้ง ‎เรามักจะพักที่ต่างประเทศ 1357 01:40:06,123 --> 01:40:08,803 ‎เพราะคงไม่ฉลาดนักที่จะบินกลับ 1358 01:40:09,323 --> 01:40:10,683 ‎เขาพูดอยู่บ่อยๆ ว่า 1359 01:40:10,763 --> 01:40:14,643 ‎"ผมมาทำอะไรที่นี่ ‎ผมคิดถึงครอบครัว ทำไมผมถึงอยู่ไกลแบบนี้ 1360 01:40:14,723 --> 01:40:18,563 ‎ผมรู้แล้วว่ามันไม่สำคัญเท่ากับที่มันเคยสำคัญ 1361 01:40:18,643 --> 01:40:22,283 ‎ตอนนี้ครอบครัวสำคัญกว่า" 1362 01:40:51,283 --> 01:40:58,283 ‎(เมรีเบล ประเทศฝรั่งเศส) 1363 01:41:06,443 --> 01:41:07,363 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 1364 01:41:07,443 --> 01:41:10,243 ‎นักแข่งที่ประสบความสำเร็จที่สุด ‎ในประวัติศาสตร์ฟอร์มูล่าวัน 1365 01:41:10,323 --> 01:41:11,323 ‎ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลค่ะ 1366 01:41:11,403 --> 01:41:16,043 ‎(29 ธันวาคม 2013) 1367 01:41:20,603 --> 01:41:23,803 ‎ตอนนี้อาการของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์สาหัสครับ 1368 01:41:33,083 --> 01:41:37,843 ‎ไม่นานก่อนที่มันจะเกิดขึ้นที่เมรีเบล ‎เขาบอกฉันว่า "หิมะไม่เป็นใจ 1369 01:41:38,403 --> 01:41:41,243 ‎เราบินไปดูไบดีกว่า ไปกระโดดร่มที่นั่น" 1370 01:41:45,643 --> 01:41:47,323 ‎โชคชะตาไม่อาจคาดเดาได้ 1371 01:41:49,563 --> 01:41:53,123 ‎ปกติโชคชะตามักจะใจดีกับมิชชาเอล 1372 01:41:54,123 --> 01:41:56,523 ‎แต่ครั้งนี้โชคชะตาไม่ใจดีกับเขา 1373 01:41:57,363 --> 01:41:59,123 ‎เขากลายเป็นเหยื่อของเคราะห์ร้าย 1374 01:42:03,483 --> 01:42:06,563 ‎วันที่ 29 ธันวาคม 2013 1375 01:42:07,323 --> 01:42:09,123 ‎ชีวิตของมิชชาเอลและครอบครัว 1376 01:42:10,643 --> 01:42:11,603 ‎เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง 1377 01:42:13,363 --> 01:42:17,843 ‎ชีวิตครอบครัว ‎เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงภายในพริบตา 1378 01:42:18,403 --> 01:42:21,683 ‎คุณพ่อที่เป็นผู้นำที่เข้มแข็ง 1379 01:42:21,763 --> 01:42:24,403 ‎มีคุณลักษณะที่ดี 1380 01:42:24,483 --> 01:42:29,403 ‎สิ่งนั้นพังทลายลงในพริบตา 1381 01:42:52,243 --> 01:42:54,603 ‎ฉันไม่เคย… 1382 01:42:57,403 --> 01:43:00,523 ‎โทษพระเจ้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น 1383 01:43:01,203 --> 01:43:04,563 ‎มันคือเคราะห์ร้าย 1384 01:43:04,643 --> 01:43:07,483 ‎เคราะห์ร้ายที่ใครๆ ก็เจอได้ในชีวิต 1385 01:43:09,163 --> 01:43:11,803 ‎มันแย่นะเวลาคุณพูดว่า 1386 01:43:11,883 --> 01:43:16,163 ‎"ทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับมิชชาเอลหรือเรา" 1387 01:43:16,243 --> 01:43:17,363 ‎แล้ว… 1388 01:43:18,243 --> 01:43:19,883 ‎ทำไมมันก็เกิดขึ้นกับคนอื่นเหมือนกัน 1389 01:43:46,323 --> 01:43:50,683 ‎แน่นอนว่าฉันคิดถึงมิชชาเอลทุกวัน 1390 01:43:50,763 --> 01:43:53,123 ‎แต่ก็ไม่ใช่แค่ฉันที่คิดถึงเขา 1391 01:43:53,203 --> 01:43:54,323 ‎ลูกๆ 1392 01:43:54,403 --> 01:43:55,643 ‎ครอบครัว 1393 01:43:55,723 --> 01:43:56,723 ‎พ่อเขา 1394 01:43:56,803 --> 01:43:58,083 ‎ทุกๆ คนรอบตัวเขา 1395 01:43:58,163 --> 01:44:01,163 ‎ทุกคนคิดถึงมิชชาเอล 1396 01:44:01,243 --> 01:44:02,323 ‎แต่มิชชาเอลอยู่ที่นี่ค่ะ 1397 01:44:03,043 --> 01:44:04,323 ‎ต่างจากเดิม แต่อยู่ที่นี่แหละ 1398 01:44:05,763 --> 01:44:09,363 ‎และนั่นทำให้เรามีแรงสู้ต่อ 1399 01:44:09,443 --> 01:44:10,403 ‎ฉันรู้สึกอย่างนั้น 1400 01:44:34,163 --> 01:44:35,523 ‎เราอยู่ด้วยกัน 1401 01:44:35,603 --> 01:44:38,003 ‎เราอยู่ด้วยกันที่บ้าน 1402 01:44:38,083 --> 01:44:38,923 ‎เรา… 1403 01:44:39,643 --> 01:44:40,603 ‎ทำการบำบัด 1404 01:44:40,683 --> 01:44:44,723 ‎เราทำทุกอย่างเพื่อให้มิชชาเอลดีขึ้น 1405 01:44:44,803 --> 01:44:46,083 ‎และเพื่อให้เขาสุขสบาย 1406 01:44:47,603 --> 01:44:52,083 ‎และทำให้เขารู้สึกว่ามีครอบครัว ‎รู้สึกถึงสายสัมพันธ์ของเรา 1407 01:44:52,163 --> 01:44:56,563 ‎ยังไงก็ตาม ฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันจะทำได้ 1408 01:44:57,123 --> 01:44:58,123 ‎เราทุกคนจะทำทุกอย่าง 1409 01:45:17,443 --> 01:45:20,483 ‎ตอนนี้เวลาผมนึกถึงอดีต 1410 01:45:21,723 --> 01:45:25,203 ‎ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัว 1411 01:45:27,123 --> 01:45:29,043 ‎มักจะเป็นภาพที่เราสี่คนกำลังสนุกกัน 1412 01:45:32,083 --> 01:45:34,403 ‎ผมเห็นภาพเรา 1413 01:45:35,963 --> 01:45:38,883 ‎กำลังขับรถโกคาร์ทบนลานหญ้า 1414 01:45:40,563 --> 01:45:43,403 ‎ผมเห็นภาพเราออกไปข้างนอก 1415 01:45:45,443 --> 01:45:48,563 ‎นั่งอยู่บนรถม้า และม้าที่ลากเป็นม้าตัวเล็ก 1416 01:45:48,643 --> 01:45:50,763 ‎มีช่วงเวลาหลายช่วง 1417 01:45:52,003 --> 01:45:53,923 ‎ที่ทำให้นึกถึงความสุข 1418 01:46:04,763 --> 01:46:07,683 ‎ที่เด่นๆ เลยคือตอนที่เขากลับมาบ้าน 1419 01:46:07,763 --> 01:46:09,283 ‎มันสนุกมาก 1420 01:46:09,363 --> 01:46:12,643 ‎เพราะเขาทนเล่นกับเราหลายชั่วโมง ‎หลังจากกลับมาบ้าน 1421 01:46:12,723 --> 01:46:16,163 ‎ทั้งๆ ที่เขาอาจจะเหนื่อยมาก 1422 01:46:16,243 --> 01:46:18,363 ‎แต่เราก็ไม่ได้สังเกต 1423 01:46:18,443 --> 01:46:21,403 ‎เราแค่มีความสุขที่ได้มีเขาอยู่ในบ้าน 1424 01:46:22,323 --> 01:46:23,163 ‎นั่นแหละค่ะ 1425 01:46:32,163 --> 01:46:34,003 ‎ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น 1426 01:46:35,483 --> 01:46:38,643 ‎ประสบการณ์เหล่านั้น 1427 01:46:39,723 --> 01:46:42,283 ‎ช่วงเวลาเหล่านั้น 1428 01:46:42,363 --> 01:46:44,963 ‎ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนได้ใช้ร่วมกับพ่อแม่ 1429 01:46:46,803 --> 01:46:47,643 ‎มันไม่มีอยู่แล้วครับ 1430 01:46:48,323 --> 01:46:49,563 ‎ถึงมีก็น้อยลง 1431 01:46:49,643 --> 01:46:51,683 ‎ในมุมมองผมนะ 1432 01:46:52,803 --> 01:46:54,043 ‎มัน… 1433 01:46:54,923 --> 01:46:55,883 ‎แอบไม่ยุติธรรม 1434 01:47:21,923 --> 01:47:22,843 ‎ผมว่า 1435 01:47:23,723 --> 01:47:24,843 ‎พ่อกับผม 1436 01:47:24,923 --> 01:47:25,803 ‎เรา… 1437 01:47:27,043 --> 01:47:29,603 ‎ถ้าเป็นตอนนี้ เราจะเข้าใจกันต่างจากเดิม 1438 01:47:30,443 --> 01:47:34,603 ‎เหตุผลก็เพราะเราพูดภาษาที่คล้ายกัน 1439 01:47:35,403 --> 01:47:36,843 ‎ภาษากีฬาแข่งรถ 1440 01:47:37,723 --> 01:47:39,043 ‎และเรา… 1441 01:47:40,483 --> 01:47:41,723 ‎จะมีเรื่องให้คุยกันมากขึ้น 1442 01:47:43,963 --> 01:47:48,603 ‎และส่วนใหญ่ผมก็คิดวนอยู่แต่เรื่องนี้ 1443 01:47:52,883 --> 01:47:54,443 ‎คิดว่ามันจะต้องดีมากๆ 1444 01:47:56,523 --> 01:47:58,843 ‎คิดว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น 1445 01:47:58,923 --> 01:47:59,923 ‎ผม… 1446 01:48:00,643 --> 01:48:03,803 ‎จะสละทุกอย่างเพื่อสิ่งนั้นเลยครับ 1447 01:48:06,723 --> 01:48:07,563 ‎ครับ 1448 01:48:31,283 --> 01:48:35,443 ‎เราพยายามจะใช้ชีวิตครอบครัวต่อไป 1449 01:48:35,523 --> 01:48:39,723 ‎ในแบบที่มิชชาเอลชอบและยังคงชอบอยู่ 1450 01:48:40,283 --> 01:48:43,123 ‎เราใช้ชีวิตของเราต่อไป 1451 01:48:43,203 --> 01:48:46,123 ‎"ส่วนตัวก็คือส่วนตัว" อย่างที่เขาเคยพูดอยู่เสมอ 1452 01:48:46,203 --> 01:48:52,683 ‎มันสำคัญกับฉันมาก ‎ที่เขาจะต้องสามารถมีความสุขกับชีวิตส่วนตัว 1453 01:48:52,763 --> 01:48:55,523 ‎มีความสุขให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 1454 01:48:55,603 --> 01:48:57,683 ‎มิชชาเอลปกป้องเรามาตลอด 1455 01:48:58,363 --> 01:49:00,043 ‎ตอนนี้เราก็เลยปกป้องมิชชาเอลบ้าง 1456 01:50:17,123 --> 01:50:20,403 ‎(ถ้าไม่มีพวกเขา สารคดีนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น) 1457 01:52:05,363 --> 01:52:07,043 ‎คำบรรยายโดยเฉลิมรัชฏ์ อัครไชยนนท์