1 00:00:08,717 --> 00:00:10,552 {\an8}ไดโนเสาร์เคยครองโลก... 2 00:00:10,552 --> 00:00:12,179 {\an8}(พิธีกร) (เดวิด แอทเทนโบโรห์) 3 00:00:12,179 --> 00:00:14,806 {\an8}เป็นเวลานานกว่า 150 ล้านปี 4 00:00:15,682 --> 00:00:18,727 พวกมันอยู่กันแทบจะทุกมุมโลก 5 00:00:19,311 --> 00:00:23,148 มีกันในทุกรูปแบบและทุกขนาด เท่าที่จะจินตนาการได้ 6 00:00:24,358 --> 00:00:27,402 บางพันธุ์ดูแล้วช่างมหัศจรรย์ 7 00:00:30,822 --> 00:00:34,535 ตอนนี้เรารู้แล้วว่าที. เร็กซ์ว่ายน้ําได้แข็งมาก 8 00:00:36,787 --> 00:00:40,082 เวโลซิแรปเตอร์เป็นนักล่ามีขนที่เฉลียวฉลาด 9 00:00:42,000 --> 00:00:45,963 และไดโนเสาร์บางพันธุ์ มีพฤติกรรมประหลาดล้ําที่สุด 10 00:00:48,841 --> 00:00:52,594 แต่เรายังค้นพบองค์ความรู้ใหม่ๆ เกือบทุกวัน 11 00:00:52,594 --> 00:00:57,641 ทําให้เรารู้เรื่องของชีวิตสัตว์บนดาวโลก เมื่อ 66 ล้านปีก่อนมากขึ้น 12 00:01:02,604 --> 00:01:05,482 ในรายการ Prehistoric Planet ซีซั่นนี้ 13 00:01:05,482 --> 00:01:08,026 เราจะเผยให้เห็นสัตว์โลกชนิดใหม่... 14 00:01:09,403 --> 00:01:13,740 และความรู้มุมใหม่ในการพยายามหาคู่... 15 00:01:15,576 --> 00:01:18,203 อุปสรรคขวากหนามในการเลี้ยงครอบครัว... 16 00:01:19,496 --> 00:01:21,415 และการประลองกําลังขนาดยักษ์ 17 00:01:29,506 --> 00:01:33,969 มาร่วมเดินทางสู่ช่วงเวลาซึ่งธรรมชาติ จัดละครฉากยิ่งใหญ่อลังการให้เราชม 18 00:01:37,514 --> 00:01:41,727 นี่คือ Prehistoric Planet 2 19 00:01:55,991 --> 00:02:01,163 (หมู่เกาะ) 20 00:02:02,456 --> 00:02:07,836 สามเหลี่ยมปากแม่น้ําทางตอนใต้ของยุโรป เมื่อ 66 ล้านปีก่อน 21 00:02:11,507 --> 00:02:16,970 หลังจากเพิ่งเกิดพายุโซนร้อน ซากสวะก็ลอยตามน้ํามา 22 00:02:22,809 --> 00:02:28,065 ในบรรดาสวะที่ลอยมาตามน้ํานั้นมีพืชพันธุ์ ที่ถูกเซาะมาจากแผ่นดินทั้งยวงด้วย 23 00:02:31,235 --> 00:02:35,948 สําหรับเจ้าเทอโรซอร์ที่เหนื่อยล้า นี่อาจเป็นจุดเหมาะที่จะแวะพัก 24 00:02:42,287 --> 00:02:44,540 แต่มันห่างไกลจากคําว่าปลอดภัยนัก 25 00:03:05,769 --> 00:03:09,231 โมซาซอร์ขนาดยักษ์ นักล่าร้ายกาจแห่งโลกใต้น้ํา 26 00:03:09,731 --> 00:03:11,775 กําลังหาอาหารมื้อง่ายๆ กิน 27 00:03:16,822 --> 00:03:21,535 เช่นเจ้าไดโนเสาร์ตัวน้อย ซัลม็อกซีสตัวนี้ 28 00:03:27,332 --> 00:03:29,501 จะอยู่ตรงนี้ก็จะเสี่ยงเกินไป 29 00:03:31,253 --> 00:03:34,715 มันต้องหาแพใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ด่วนด้วย 30 00:03:41,597 --> 00:03:43,849 ไม่มีทางเลือกอื่น ต้องว่ายไปให้ถึง 31 00:04:12,586 --> 00:04:14,630 มันไม่ได้มาถึงเป็นตัวแรก 32 00:04:20,219 --> 00:04:21,553 ยังมีอีกตัวที่หลงมาเหมือนกัน 33 00:04:22,763 --> 00:04:24,139 เป็นตัวเมีย 34 00:04:29,978 --> 00:04:32,356 แพของทั้งคู่กําลังจะลอยลงทะเลไปแล้ว 35 00:04:45,827 --> 00:04:48,914 บางครั้ง สัตว์หลงในแพดินแบบนี้ 36 00:04:49,706 --> 00:04:53,252 จะถูกคลื่นพัดจนไปเกยตื้นบนเกาะห่างไกล 37 00:04:57,548 --> 00:05:02,010 ถ้าพวกมันโชคดี เจ้าคู่นี้อาจกลายเป็นผู้บุกเบิกแหล่งที่อยู่ใหม่ 38 00:05:14,106 --> 00:05:20,153 และอาจเป็นต้นตระกูลของสัตว์กลุ่มใหม่ ที่ในที่สุดจะกลายเป็นสปีชีส์ใหม่ 39 00:05:25,409 --> 00:05:27,286 ไม่เหมือนที่ใครเคยเห็นมาก่อน 40 00:05:35,002 --> 00:05:37,629 ยิ่งเกาะนั้นถูกตัดขาดจากแผ่นดินมานานแค่ไหน 41 00:05:38,463 --> 00:05:41,758 สัตว์ผู้อาศัยบนเกาะเหล่านั้น ก็ยิ่งแตกต่างจากบนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น 42 00:05:45,095 --> 00:05:47,556 เกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ของยุโรป 43 00:05:48,182 --> 00:05:52,853 เป็นบ้านของแฮโดรซอร์พันธุ์ประหลาด ที่ค่อนข้างขี้อาย 44 00:05:59,943 --> 00:06:05,949 เจ้าตัวที่หากินอยู่ทั่วกลางต้นอ่อนของต้นสนนี้ มีชื่อว่าเทเธียสแฮดรอส 45 00:06:25,844 --> 00:06:29,431 ตัวมันมีขนาดเพียงหนึ่งในสี่ เมื่อเทียบกับญาติในวงศ์เดียวกันบนแผ่นดินใหญ่ 46 00:06:30,098 --> 00:06:33,143 ร่างไม่ได้สูงไปกว่ามนุษย์ปัจจุบัน 47 00:06:40,108 --> 00:06:44,780 แต่ด้วยจะงอยปากคล้ายฟันเลื่อยไม่เหมือนใคร มันจึงสามารถสอยพืชพันธุ์แข็งๆ ได้ดี 48 00:06:54,164 --> 00:06:58,460 นักล่าอย่างที. เร็กซ์ไม่ได้มาถึงเกาะเล็กๆ นี่ 49 00:06:59,711 --> 00:07:03,674 ตรงนี้จึงควรเป็นที่ปลอดภัย ให้แม่ไดโนเสาร์เลี้ยงลูกได้สบายใจ 50 00:07:11,598 --> 00:07:14,226 แต่ก็ไม่เสมอไป 51 00:07:48,260 --> 00:07:49,970 แฮทเซกอปเทอริกซ์ 52 00:07:54,099 --> 00:07:56,560 เทอโรซอร์นักล่าขนาดยักษ์ 53 00:08:00,647 --> 00:08:05,360 โอกาสในการเอาตัวรอดที่ดีที่สุด คือไปหลบในกําบังต้นไม้ที่สูงกว่าตัวพวกมัน 54 00:08:16,121 --> 00:08:19,708 เจ้าตัวเล็กพวกนี้ถูกปล่อยทิ้งไว้ในพุ่มไม้ 55 00:08:24,755 --> 00:08:26,965 แม่กับลูกพลัดกันเสียแล้ว 56 00:08:38,852 --> 00:08:42,397 แฮทเซกอปเทอริกซ์เป็นเทอโรซอร์ที่ฉลาดมาก 57 00:08:44,691 --> 00:08:48,987 ในเมื่อตอนนี้ไม่อาจซุ่มโจมตีได้อีก มันจึงเปลี่ยนกลยุทธ์ 58 00:08:51,782 --> 00:08:53,575 กระจายตัวกันไปในทุ่งนั้น 59 00:08:53,575 --> 00:08:56,828 และพยายามต้อนเหยื่อที่อาจยังหลงอยู่ได้ 60 00:09:05,712 --> 00:09:09,550 โอกาสที่วัยรุ่นจะรอด ขึ้นอยู่กับการอยู่ให้นิ่งที่สุด 61 00:09:15,597 --> 00:09:18,642 และอย่าวิ่งหนี 62 00:09:51,967 --> 00:09:55,137 เจ้าสองตัวนี้ยังโชคดีที่ได้กลับมาอยู่กับแม่ 63 00:10:09,193 --> 00:10:14,239 เทอโรซอร์ที่บินท่องไปตามเกาะ ก็ออกไปเสี่ยงดวงที่อื่น 64 00:10:27,169 --> 00:10:29,963 แฮโดรซอร์กลับไปหากินต่อได้ 65 00:10:43,060 --> 00:10:46,396 เกาะมาดากัสการ์ถูกตัดขาด 66 00:10:46,396 --> 00:10:50,442 จากแผ่นดินใหญ่ทวีปแอฟริกา เป็นเวลา 80 ล้านปีแล้ว 67 00:10:53,570 --> 00:10:57,366 ขาดกันมานานเสียจนสัตว์ส่วนใหญ่บนนี้ แตกต่างโดยสิ้นเชิง 68 00:10:58,075 --> 00:10:59,910 จากสัตว์ที่ค้นพบในที่อื่นๆ 69 00:11:19,721 --> 00:11:21,849 นี่คือไซโมซูคัส 70 00:11:25,310 --> 00:11:29,690 ไม่ใช่ไดโนเสาร์ แต่เป็นญาติห่างๆ ตัวน้อยของจระเข้ 71 00:11:30,732 --> 00:11:33,360 พันธุ์ที่ใช้ชีวิตบนบกตลอด 72 00:11:34,403 --> 00:11:38,574 แถมยังเป็นมังสวิรัติไม่กินเนื้อ 73 00:11:52,212 --> 00:11:57,092 ไซโมซูคัสมีร่างที่หุ้มด้วยหนังหนาเกราะแกร่ง ปกป้องตัวมันจากการโจมตี 74 00:11:57,092 --> 00:11:58,802 ของเหล่านักล่าที่อยู่บนเกาะนี้ 75 00:12:00,888 --> 00:12:03,724 แปลว่ามันเสี่ยงอยู่อย่างสบายใจ ไม่ต้องระวังตัวได้ 76 00:12:07,895 --> 00:12:08,896 เป็นบางขณะน่ะนะ 77 00:12:18,155 --> 00:12:23,702 มาจังก้าซอรัส นักล่าอันดับหนึ่งของมาดากัสการ์ 78 00:12:34,338 --> 00:12:37,341 เจ้าตัวเมียตัวนี้ตาบอดไปข้างหนึ่ง 79 00:12:38,634 --> 00:12:44,473 มันจึงหาเหยื่อลําบากและตอนนี้มันก็หิวมาก 80 00:13:03,408 --> 00:13:06,995 ไซโมซูคัสมีโครงข่ายเส้นทางหลบหนี 81 00:13:06,995 --> 00:13:09,414 ซึ่งจะพาพวกมันลงโพรงใต้ดิน 82 00:13:12,584 --> 00:13:16,880 เมื่อเข้าไปแล้ว มันจะหันหลังที่เป็นเกราะหนามากั้นทางเข้าโพรง 83 00:13:32,020 --> 00:13:34,648 เจ้าหนุ่มตัวนี้ติดจะโชคร้าย 84 00:13:38,694 --> 00:13:40,988 แต่ไม่ถึงกับสิ้นทาง 85 00:13:55,836 --> 00:14:00,340 การถอยเอาท้ายโจมตี สะบัดหางและเตะสุดแรง 86 00:14:17,191 --> 00:14:20,694 จมูกของนักล่าตัวนี้หนาเกินจะเจาะโพรงได้ลึก 87 00:14:33,165 --> 00:14:38,921 แต่ปลอดภัยไว้ก่อน เจ้าไซโมซูคัสจึงรีบขุดโพรงให้ลึกลงไปอีก 88 00:14:47,554 --> 00:14:52,226 สําหรับเจ้ามาจังก้าซอรัสตัวนี้ จึงเป็นการล่าที่ปิดฉากด้วยความผิดหวังอีกครั้ง 89 00:15:03,946 --> 00:15:09,034 ไซโมซูคัสไม่ใช่สายพันธุ์แหวกสายวิวัฒนาการ พันธุ์เดียวที่ใช้ชีวิตอยู่ในมาดากัสการ์ 90 00:15:14,581 --> 00:15:19,920 เกาะนี้ยังเป็นบ้านของ สัตว์ที่แปลกประหลาดมากๆ อีกกลุ่ม 91 00:15:24,091 --> 00:15:25,092 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 92 00:15:34,226 --> 00:15:36,728 นี่คืออาดาลาธีเรียมตัวเมีย 93 00:15:38,939 --> 00:15:40,774 มันมีขนาดตัวประมาณ 60 เซนติเมตร 94 00:15:40,774 --> 00:15:45,279 แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ตัวใหญ่สุดที่มีวิวัฒนาการมาในยุคนี้ 95 00:15:51,243 --> 00:15:54,830 มันใช้เวลาเกือบทั้งวันไปกับการหาอาหาร 96 00:16:03,463 --> 00:16:08,051 ที่ปลายอุโมงค์นี้มีไข่ 97 00:16:11,638 --> 00:16:14,474 อาจเป็นแหล่งโปรตีนที่สมบูรณ์มาก 98 00:16:21,565 --> 00:16:24,568 แต่มันกลับไม่กินไข่ในรังนี้ 99 00:16:28,071 --> 00:16:30,824 เพราะนี่คือไข่ของมันเอง 100 00:16:32,576 --> 00:16:34,912 และนี่ก็เป็นโพรงของมันด้วย 101 00:16:48,258 --> 00:16:50,552 ไข่เริ่มจะฟักตัวแล้ว 102 00:17:15,743 --> 00:17:18,829 ตัวอ่อนที่ออกมายังไม่ลืมตา 103 00:17:18,829 --> 00:17:24,837 แต่มันก็คลานหาแม่ได้โดยสัญชาตญาณ ไปกินนม 104 00:17:28,882 --> 00:17:32,553 ตัวแม่ผลิตน้ํานมจากต่อมเหงื่อบนหน้าท้อง ที่วิวัฒนาการเป็นต่อมน้ํานม 105 00:17:33,554 --> 00:17:36,557 ตอนนี้ นี่เป็นอาหารแบบเดียวที่มันต้องการ 106 00:17:50,279 --> 00:17:54,741 สองเดือนต่อมา ลูกๆ ขนาดตัวเพิ่มเป็นสี่เท่า 107 00:17:56,994 --> 00:17:58,829 การผลิตนมให้เพียงพอต่อความต้องการของลูก 108 00:17:58,829 --> 00:18:01,832 แปลว่าตัวแม่จะต้องกินอาหารเยอะมาก 109 00:18:04,251 --> 00:18:09,173 ทุกคืนมันจึงต้องละจากความปลอดภัยในรัง เพื่อไปหาอาหารกิน 110 00:18:27,858 --> 00:18:31,236 สายตาของมันก็เหมือนสัตว์โพรงส่วนใหญ่ 111 00:18:31,236 --> 00:18:33,071 ที่สายตาไม่ดีนัก 112 00:18:37,326 --> 00:18:40,537 มันพึ่งสัมผัสทางการได้ยินมากกว่า 113 00:18:45,209 --> 00:18:47,920 และถ้ามันได้ยินเสียงอะไรที่อาจส่อถึงอันตราย 114 00:18:47,920 --> 00:18:49,963 มันจะหยุดนิ่งไม่ไหวติง 115 00:18:56,970 --> 00:18:58,514 เลี่ยงปัญหาได้อีกครั้ง 116 00:19:01,642 --> 00:19:06,021 แล้วมันก็กลับไปขุดดินหารากไม้และเมล็ดพืชกิน 117 00:19:21,995 --> 00:19:26,667 ลูกๆ โตไวมาก ความอยากอาหารก็เพิ่มตามไปด้วย 118 00:19:32,673 --> 00:19:37,052 ถึงตอนนี้ เจ้าตัวเมียนั้นแทบต้องหาอาหารตลอดเวลา 119 00:19:44,476 --> 00:19:48,146 ลูกๆ จึงถูกทิ้งให้อยู่ตามลําพังครั้งละหลายชั่วโมง 120 00:19:58,699 --> 00:20:00,242 มาชีกาซอรัส 121 00:20:05,080 --> 00:20:06,081 นักล่า 122 00:20:06,081 --> 00:20:10,627 แถมเป็นพันธุ์ที่ปรับตัว มาเพื่อจับเหยื่อในโพรงโดยเฉพาะ 123 00:20:14,923 --> 00:20:17,134 ด้วยคอยาวๆ จมูกเรียวแหลม 124 00:20:17,134 --> 00:20:20,429 มันสามารถสอดจมูกเข้าไปในรูทุกแหล่ง ที่อาจมีอาหารให้กิน 125 00:20:55,005 --> 00:20:59,218 แต่บางครั้ง ผู้ล่าก็กลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง 126 00:21:11,396 --> 00:21:17,152 แมดท์ซอยา งูขนาดลําตัวยาวเกือบแปดเมตร ใช้วิธีรัดเหยื่อจนตาย 127 00:21:20,739 --> 00:21:23,867 ย่านนี้เริ่มอันตรายเกินไปแล้ว 128 00:21:46,932 --> 00:21:52,771 เมื่อถึงยามกลางคืน ตัวแม่จึงต้อนลูกๆ ออกจากโพรงเป็นครั้งแรก 129 00:22:01,238 --> 00:22:04,992 อย่างน้อยช่วงนี้ทุกตัวยังต้องอยู่ใกล้ๆ กันก่อน 130 00:22:19,840 --> 00:22:24,928 ในส่วนใต้สุดของโลก บนหมู่เกาะปลายคาบสมุทรแอนตาร์กติกา 131 00:22:25,470 --> 00:22:28,557 ฤดูหนาวจะมาพร้อมกับอากาศยะเยือกหลายเดือน 132 00:22:32,227 --> 00:22:35,981 ที่นี่ การเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวก็มีประโยชน์ 133 00:22:43,071 --> 00:22:47,284 กล้องจับอุณหภูมิทําให้เห็นร่างสัตว์ที่ซุกอยู่ด้วยกัน 134 00:22:55,959 --> 00:22:57,169 อิมเพโรบาทอร์ 135 00:22:58,504 --> 00:22:59,505 นักล่า 136 00:23:04,051 --> 00:23:07,596 มันก็เป็นสัตว์เลือดอุ่นเหมือนไดโนเสาร์ส่วนใหญ่ 137 00:23:10,182 --> 00:23:13,310 แต่การรักษาร่างกายให้อบอุ่น ต้องใช้อาหารจํานวนมาก 138 00:23:14,978 --> 00:23:18,148 มันจึงต้องล่าเหยื่อให้ได้ทุกๆ สองสามวัน 139 00:23:25,614 --> 00:23:28,951 หิมะที่เพิ่งตกใหม่ๆ จะช่วยกลบเสียงฝีเท้า 140 00:23:28,951 --> 00:23:33,205 ทําให้มันเคลื่อนที่หาเหยื่อในป่าได้ โดยไม่มีใครระแคะระคาย 141 00:23:38,836 --> 00:23:40,254 มอร์โรซอรัส 142 00:23:46,593 --> 00:23:51,390 สัตว์กินพืชชนิดหนึ่ง ฤดูหนาวจึงเป็นช่วงชีวิตลําบากอย่างเลี่ยงไม่ได้ 143 00:24:06,780 --> 00:24:10,284 อิมเพโรบาทอร์เชี่ยวชาญการล่าเหยื่อแบบนี้มาก 144 00:24:23,422 --> 00:24:26,133 มอร์โรซอรัสนั้นวิ่งได้เร็วกว่า 145 00:24:32,639 --> 00:24:34,683 แต่จํานวนของมันก็สู้ทั้งฝูงไม่ได้ 146 00:24:49,072 --> 00:24:53,952 หางที่มีขนยาวของอิมเพโรบาทอร์ ทําให้มันวิ่งเปลี่ยนทิศทางได้รวดเร็วน่าทึ่ง 147 00:25:05,047 --> 00:25:07,925 พวกมันไล่ล่ากันมาจนถึงขอบสุดราวป่า 148 00:25:10,511 --> 00:25:14,473 ไกลจากนั้นคือทะเลสาบน้ําแข็ง ที่กว้างเกือบหนึ่งกิโลเมตร 149 00:25:15,974 --> 00:25:21,355 ที่ราบกว้างแห่งนี้ อาจทําให้มอร์โรซอรัสที่เร็วกว่าได้เปรียบ 150 00:25:24,066 --> 00:25:26,485 แต่ผิวทะเลสาบที่เป็นน้ําแข็งก็อันตรายมาก 151 00:25:35,994 --> 00:25:39,665 ยิ่งฝูงอิมเพโรบาทอร์จี้เข้ามา มันจึงไม่มีทางเลือกมากนัก 152 00:26:17,661 --> 00:26:19,079 ก้าวผิดเพียงก้าวเดียว 153 00:26:19,788 --> 00:26:24,251 เป็นโอกาสให้มอร์โรซอรัสเร่งเท้า พ้นรัศมีการล่าไปจนได้ 154 00:26:28,338 --> 00:26:30,257 แต่ที่นี่เป็นเกาะ 155 00:26:30,257 --> 00:26:33,552 ไม่ว่าจะเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า ไม่ช้าทุกตัวก็น่าจะได้มาเจอกันใหม่ 156 00:26:44,646 --> 00:26:47,107 เกาะบางแห่งนั้นเล็กมาก 157 00:26:47,107 --> 00:26:50,027 จนไม่มีสัตว์ใหญ่อาศัยอยู่ได้ 158 00:26:53,238 --> 00:26:56,408 แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังอาจมีแขกมาเยือนเกาะเป็นระยะ 159 00:27:03,665 --> 00:27:05,000 แฮทเซกอปเทอริกซ์ 160 00:27:13,592 --> 00:27:18,472 เจ้าตัวผู้นี้มาพร้อมกับคาบซากเทเธียสแฮดรอส ขนาด 18 กิโลกรัมมาด้วย 161 00:27:19,598 --> 00:27:21,725 รางวัลที่ได้มาจากการล่าก่อนหน้านี้ 162 00:27:29,691 --> 00:27:34,404 มันตัวสูงเกือบห้าเมตร ระยะปลายปีกวัดได้เก้าเมตร 163 00:27:36,323 --> 00:27:39,868 แฮทเซกอปเทอริกซ์ เป็นสัตว์นักล่าอันดับหนึ่งของยุโรป 164 00:27:42,538 --> 00:27:47,459 แต่เจ้าตัวผู้นี้มาเผยบุคลิกอีกด้านให้เราได้เห็น 165 00:28:21,702 --> 00:28:26,999 มันสร้างแผงอวดผลงาน ให้ตัวเมียที่อาจจะบินโฉบไปมาได้เห็น 166 00:28:27,708 --> 00:28:30,043 ว่ามันกําลังมองหาคู่ 167 00:28:32,671 --> 00:28:36,508 แต่อาจจะต้องรอกันนานทีเดียว กว่าจะมีใครตอบรับคําเชิญมาชม 168 00:28:57,404 --> 00:29:00,324 ในที่สุดก็มีสาวมา 169 00:29:04,870 --> 00:29:06,455 ดูเหมือนจะสนใจเสียด้วย 170 00:29:06,455 --> 00:29:09,166 แต่อาจจะต้องออกแรงเชิญชวนกันอีกเล็กน้อย 171 00:29:10,709 --> 00:29:12,753 หนุ่มต้องระวังตัวให้หนัก 172 00:29:14,004 --> 00:29:16,173 เพราะเพียงสาวเล็งเป้าจิกตรงจุดเดียว 173 00:29:16,673 --> 00:29:20,010 อาจดับฝันของมันได้ตลอดฤดูผสมพันธุ์นี้ 174 00:29:25,766 --> 00:29:29,937 การแสดงตัวนี้ต้องทําให้เห็นว่า มันมีกรรมพันธุ์ดี 175 00:29:29,937 --> 00:29:32,606 เหมาะที่ลูกๆ จะได้รับช่วงสายพันธุ์ไป 176 00:29:35,442 --> 00:29:38,904 ซากไดโนเสาร์ตายทําให้เห็นว่า มันเป็นนักล่าที่เก่งกาจ 177 00:29:38,904 --> 00:29:42,449 และการคาบมาจนถึงจุดนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่ามันบินได้อย่างแข็งแกร่ง 178 00:29:45,953 --> 00:29:51,416 แต่ต่อให้จะถูกใจ สาวก็ยังไม่แสดงออก 179 00:29:55,754 --> 00:30:00,300 ถึงเวลาต้องนําเสนอหลักฐานเพิ่มเติมว่า มันเป็นหนุ่มที่ควรคู่กับสาว 180 00:30:04,513 --> 00:30:08,016 การยกหัวคือการเชิญให้ตัวเมียก้าวเข้ามาใกล้ 181 00:30:22,322 --> 00:30:25,659 ตอนนี้ สาวก็เริ่มให้กําลังใจกันนิดหน่อย 182 00:30:52,436 --> 00:30:56,356 ท่าที่เข้าจังหวะกันได้ ช่วยสร้างความไว้ใจระหว่างกัน 183 00:31:19,463 --> 00:31:20,589 ตัวผู้อีกตัว 184 00:31:22,633 --> 00:31:26,345 ตัวนี้เด็กกว่ามาก แต่ก็ยังอาจเป็นคู่แข่งกันได้ 185 00:31:48,992 --> 00:31:50,410 จัดการได้เสียที 186 00:31:56,458 --> 00:31:59,586 แย่ละ สาวหนีไปเสียแล้ว 187 00:32:07,344 --> 00:32:09,513 มันอาจเสียโอกาสไปอย่างถาวร 188 00:32:25,320 --> 00:32:26,321 แต่เธอก็กลับมา 189 00:32:28,824 --> 00:32:33,495 การไล่คู่แข่งออกไปได้ อาจช่วยทําคะแนนให้มันเพิ่มขึ้นเสียอีก 190 00:32:42,254 --> 00:32:45,215 มันจึงสานต่อจากจุดที่ค้างไว้ทันที 191 00:32:54,057 --> 00:32:56,727 เตือนให้เห็นอีกครั้งว่ามันแกร่งแค่ไหน 192 00:33:01,857 --> 00:33:05,068 นี่จะเป็นสิ่งเดียวที่มันฝากไว้ในชีวิตการเป็นพ่อ 193 00:33:15,245 --> 00:33:17,998 ทุกอย่างจบลงในเวลาไม่กี่วินาที 194 00:33:20,417 --> 00:33:25,422 แต่นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของรุ่นต่อไป ในสายพันธุ์ยักษ์นักล่าบินได้เหล่านี้ 195 00:33:32,429 --> 00:33:34,890 เกาะแบบนี้อาจจะเล็ก 196 00:33:36,058 --> 00:33:38,769 แต่ก็เหมือนเกาะอีกนับไม่ถ้วนรอบโลก 197 00:33:40,437 --> 00:33:43,065 มันเป็นพยานถึงจังหวะสําคัญ 198 00:33:43,065 --> 00:33:46,401 ในชีวิตของสัตว์โลกที่แปลกตาที่สุด 199 00:33:47,194 --> 00:33:49,571 บนโลกยุคดึกดําบรรพ์ 200 00:33:59,748 --> 00:34:04,253 (Prehistoric Planet: ค้นพบ) 201 00:34:06,129 --> 00:34:08,924 {\an8}(เทอโรซอร์ยักษ์เป็นนักล่าบนบกได้จริงหรือไม่) 202 00:34:09,842 --> 00:34:12,219 ในยุคของไดโนเสาร์ 203 00:34:12,761 --> 00:34:18,433 ท้องฟ้าถูกปกครองด้วยสัตว์เลื้อยคลานบินได้ ที่เรียกว่าเทอโรซอร์ 204 00:34:23,397 --> 00:34:26,440 เราค้นพบมากกว่า 250 สายพันธุ์ 205 00:34:28,443 --> 00:34:30,612 และบางสายพันธุ์มีขนาดมหึมา 206 00:34:33,824 --> 00:34:36,493 หนึ่งในพันธุ์ที่น่าสนใจที่สุด เพราะมันแปลกหลุดโลกที่สุด 207 00:34:36,493 --> 00:34:37,995 {\an8}คือพวกแอซดาร์คิดเทอโรซอร์ 208 00:34:37,995 --> 00:34:39,663 {\an8}(ดร.มาร์ค วิทตัน) (ศิลปินบรรพชีวิน - นักบรรพชีวินวิทยา) 209 00:34:39,663 --> 00:34:40,831 {\an8}การที่จะพยายามอธิบาย 210 00:34:40,831 --> 00:34:43,292 {\an8}ลักษณะของแอซดาร์คิดเทอโรซอร์ เป็นเรื่องยากมากครับ 211 00:34:44,251 --> 00:34:46,170 พวกมันตัวสูงเท่ายีราฟ 212 00:34:46,795 --> 00:34:49,255 เฉพาะหัวอาจจะยาวได้ถึงสองเมตร 213 00:34:49,922 --> 00:34:51,341 ระยะปลายปีกสิบเมตร 214 00:34:52,967 --> 00:34:56,096 เป็นสิ่งที่หน้าตาประหลาดที่สุด เท่าที่เคยมีวิวัฒนาการบนโลกนี้ 215 00:34:58,557 --> 00:35:03,145 ถึงขนาดตัวจะใหญ่ แต่เจ้ายักษ์เหล่านี้วิวัฒนาการมาจนบินเก่ง 216 00:35:04,813 --> 00:35:08,025 แล้วทําไมเราจึงคิดว่า มันจะล่าหาอาหารบนพื้นดิน 217 00:35:10,485 --> 00:35:12,905 {\an8}ปีกของแอซดาร์คิดเป็นเนื้อเยื่อผิวหนัง 218 00:35:12,905 --> 00:35:14,448 {\an8}(ดร.ดาร์เรน เนช) (หัวหน้าทีมที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์) 219 00:35:14,448 --> 00:35:17,743 {\an8}ขึงน้ําหนักทั้งหมด อยู่บนนิ้วที่สี่ซึ่งพัฒนาใหญ่กว่านิ้วอื่น 220 00:35:18,243 --> 00:35:19,369 {\an8}(แอซดาร์คิเด - ระยะปีก) 221 00:35:19,369 --> 00:35:23,248 {\an8}เนื้อเยื่อผิวหนังนี้แผ่จากปลายสุดของนิ้วที่สี่ 222 00:35:23,248 --> 00:35:26,001 {\an8}ยาวไปจนถึงต้นขาหลัง 223 00:35:28,086 --> 00:35:31,465 แอซดาร์คิดพัฒนาพันธุ์มาดีมาก จนบินระยะไกลๆ ได้เก่ง 224 00:35:31,465 --> 00:35:34,635 แต่มันก็ไม่ใช่สัตว์ที่จะบิดตัวคล่องแคล่ว 225 00:35:34,635 --> 00:35:37,012 หรือเคลื่อนไหวว่องไวระหว่างบิน 226 00:35:39,431 --> 00:35:42,476 เพราะอย่างนั้นจึงยากที่แอซดาร์คิด 227 00:35:42,476 --> 00:35:44,811 จะจับสัตว์บินได้ตัวอื่นกิน 228 00:35:46,563 --> 00:35:48,690 พวกมันต้องมีวิธีล่าเหยื่อแบบอื่น 229 00:35:50,609 --> 00:35:54,988 หนึ่งในแนวคิดหลักเรื่องที่ว่า แอซดาร์คิดเทอโรซอร์หากินยังไง 230 00:35:54,988 --> 00:35:59,284 คือการใช้กลยุทธ์ประหลาดในการเก็บของกิน ที่เรียกว่าหาเหยื่อผิวน้ํา 231 00:36:00,494 --> 00:36:04,706 ทุกวันนี้ สัตว์อย่างนกกรีดน้ําก็หากินด้วยวิธีนี้ 232 00:36:06,291 --> 00:36:09,211 เป็นวิธีหาอาหารที่ตลกที่สุดเท่าที่จะคิดได้ 233 00:36:09,211 --> 00:36:11,547 มันจะอ้าปากแล้วเอาปากล่างระไปกับผิวน้ํา 234 00:36:11,547 --> 00:36:13,048 ให้ชนอาหารไปเอง 235 00:36:14,967 --> 00:36:18,971 คอของนกกรีดน้ํา ถูกสร้างมาให้รับแรงกระแทกได้ดี 236 00:36:21,682 --> 00:36:25,811 แต่หลักฐานฟอสซิลเผยให้เห็นว่า แอซดาร์คิดไม่ได้มีวิวัฒนาการกายภาพแบบนั้น 237 00:36:27,104 --> 00:36:31,066 ความจริงคือถ้าทําอย่างนั้น พวกมันน่าจะคอหักจากแรงปะทะ 238 00:36:31,066 --> 00:36:33,485 ตอนที่พยายามไสปากล่างไปตามน้ํา 239 00:36:36,363 --> 00:36:38,532 แอซดาร์คิดไม่มีทางเลือก 240 00:36:39,908 --> 00:36:42,369 มันต้องร่อนลงบนผืนดินเพื่อหาอาหาร 241 00:36:45,998 --> 00:36:48,792 แต่มันเดินเร็วพอที่จะล่าสัตว์ได้จริงเหรอ 242 00:36:51,253 --> 00:36:54,423 นักวิทยาศาสตร์ต้องการหลักฐานก่อนจะเชื่อว่า 243 00:36:54,423 --> 00:36:57,551 เจ้าตัวนี้ทําอะไรได้มากกว่าแค่เดินเตาะแตะ 244 00:36:59,678 --> 00:37:04,057 หลักฐานนั้นมาจากรอยเท้าอายุ 66 ล้านปี 245 00:37:06,059 --> 00:37:08,437 รอยเท้าเทอโรซอร์ที่ใหญ่สุดในโลก 246 00:37:08,437 --> 00:37:10,355 ก็มาจากแอซดาร์คิดยักษ์ที่เดินดินเอาไว้ 247 00:37:11,273 --> 00:37:12,816 นั่นไม่ใช่แค่เรื่องเจ๋งที่ได้ค้นพบ 248 00:37:12,816 --> 00:37:15,903 แต่มันยืนยันข้อมูลหลายอย่าง ว่าพวกมันเดินได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน 249 00:37:15,903 --> 00:37:17,321 {\an8}(เกาหลีใต้) 250 00:37:18,405 --> 00:37:20,073 รอยเท้าเหล่านี้ทําให้เห็นว่า 251 00:37:20,073 --> 00:37:23,160 มันเก็บปีกเข้ามาใต้ร่างทั้งหมด 252 00:37:24,536 --> 00:37:26,747 ทําให้มันยืนตรงได้ 253 00:37:28,749 --> 00:37:30,250 ตีนของมันมีเนื้อ 254 00:37:32,252 --> 00:37:34,671 และที่ต่างจากเทอโรซอร์พันธุ์เล็ก 255 00:37:34,671 --> 00:37:38,175 ขายาวๆ ของมันทําให้ก้าวได้ยาวมาก 256 00:37:40,385 --> 00:37:42,804 ถึงแอซดาร์คิดจะเป็นสัตว์ที่ดูประหลาดตา 257 00:37:42,804 --> 00:37:44,139 แต่มันเคลื่อนไหวได้มีประสิทธิภาพมาก 258 00:37:49,102 --> 00:37:53,315 แอซดาร์คิดผสมผสาน ความสามารถในการเดินบนบกได้อย่างดี 259 00:37:53,315 --> 00:37:55,526 กับส่วนหัวที่ยาวเหมือนนกกระสายักษ์ 260 00:37:56,693 --> 00:37:59,071 แทบจะแน่ใจได้เลยว่ามันเป็นนักล่า 261 00:37:59,071 --> 00:38:02,574 ที่จะเดินไปทั่วและจิกจับสัตว์มาได้ 262 00:38:07,412 --> 00:38:08,830 เราต้องไม่ลืมด้วยว่า 263 00:38:08,830 --> 00:38:11,333 แค่ขนาดลําคอของเจ้าตัวพวกนี้ ก็กว้างถึงครึ่งเมตร 264 00:38:11,333 --> 00:38:13,377 แทบจะเท่าความกว้างของบ่าผม 265 00:38:14,253 --> 00:38:18,173 เรานี่แหละจะอยู่ในเมนูอาหารของมัน ถ้ามันยังอยู่จนถึงทุกวันนี้ 266 00:38:22,553 --> 00:38:27,057 เทอโรซอร์อาจเป็น ภาพที่อัศจรรย์ตายามบินอยู่บนฟ้า 267 00:38:31,228 --> 00:38:36,275 แต่เจ้ายักษ์เหล่านี้ยิ่งน่าประทับใจมากกว่า และน่ากลัวกว่ายามที่เดินอยู่บนดิน 268 00:41:05,174 --> 00:41:07,176 คําบรรยายโดย ปัทมวรรณ บูรณมาตร์