1 00:00:11,678 --> 00:00:15,182 (พิธีกร) (เดวิด แอทเทนโบโรห์) 2 00:00:16,517 --> 00:00:21,563 แน่นอนว่าหนึ่งในสัตว์มหัศจรรย์ที่สุด ซึ่งเคยเดินบนผืนโลก 3 00:00:22,105 --> 00:00:26,318 และหนึ่งในตัวที่โด่งดังที่สุดคือ ไดโนเสาร์พันธุ์หนึ่ง 4 00:00:27,361 --> 00:00:29,613 ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ 5 00:00:30,656 --> 00:00:35,202 สัตว์ซึ่งจุดประกายจินตนาการให้เราทุกคน 6 00:00:35,285 --> 00:00:38,247 มันเป็นสัตว์แบบไหนกัน 7 00:00:38,330 --> 00:00:41,542 หน้าตาของมันเป็นอย่างไร มันใช้ชีวิตอย่างไร 8 00:00:41,625 --> 00:00:45,587 ตอนนี้ งานวิจัยค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ สามารถตอบคำถามนั้นได้แล้ว 9 00:00:45,671 --> 00:00:47,923 และไม่เพียงแต่ตอบคำถามเรื่องที. เร็กซ์ 10 00:00:48,006 --> 00:00:51,343 แต่รวมไปถึงสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งอยู่ร่วมโลกในยุคเดียวกับมัน 11 00:00:51,426 --> 00:00:58,016 และเทคโนโลยีในการสร้างภาพล้ำสมัย ช่วยให้เราคืนชีวิตให้ทุกสิ่งได้ 12 00:01:01,436 --> 00:01:05,440 ดาวโลกของเรา เมื่อ 66 ล้านปีก่อน 13 00:01:13,949 --> 00:01:17,494 ท้องฟ้าเต็มไปด้วยยักษ์บินได้ 14 00:01:20,038 --> 00:01:24,084 ในทะเลก็มีสัตว์เลื้อยคลานมหึมา คอยลาดตระเวนห้วงทะเลลึก 15 00:01:26,128 --> 00:01:29,256 บนแผ่นดิน ไดโนเสาร์ทุกสายพันธุ์ 16 00:01:30,465 --> 00:01:33,218 ต่างกำลังดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด 17 00:01:39,391 --> 00:01:45,689 ตอนนี้เรามีความรู้เพิ่มขึ้นมาก เกี่ยวกับโลกซึ่งครองโดยไดโนเสาร์ 18 00:01:49,651 --> 00:01:52,196 และนี่คือเรื่องราวเหล่านั้น 19 00:02:08,544 --> 00:02:11,673 (ทะเลทราย) 20 00:02:11,757 --> 00:02:14,301 ฝั่งตะวันตกของอเมริกาใต้ 21 00:02:14,384 --> 00:02:19,097 หนึ่งในพื้นที่โล่งร้างที่สุดบนโลกดึกดำบรรพ์ 22 00:02:20,682 --> 00:02:23,477 ที่นี่แทบไม่มีสัตว์ชนิดไหนกล้ำกรายเข้ามา 23 00:02:23,560 --> 00:02:28,524 แต่กลับเป็นพื้นที่ของ การรวมฝูงอันน่าทึ่งที่สุดครั้งหนึ่งในโลก 24 00:02:49,878 --> 00:02:51,380 เดรดนอททัส 25 00:03:15,404 --> 00:03:21,326 ไดโนเสาร์กลุ่มไททันโนซอร์ลำตัวยาว 26 เมตร และน้ำหนักถึง 40 ตัน 26 00:03:33,255 --> 00:03:35,257 กลุ่มนี้เป็นตัวผู้ทั้งสิ้น 27 00:03:35,841 --> 00:03:39,595 พวกมันเดินทางไกล มาจากป่าอุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นที่หากิน 28 00:03:42,222 --> 00:03:47,519 พวกมันมาเพื่อจุดประสงค์เดียว มาสู้เพื่อโอกาสในการผสมพันธุ์ 29 00:03:49,813 --> 00:03:53,609 ฝูงตัวเมียจับตาวิเคราะห์ตัวผู้ที่เพิ่งมาถึง 30 00:03:54,693 --> 00:03:57,362 ประเมินพละกำลังและ ความเหมาะสมในการผสมพันธุ์ 31 00:04:05,621 --> 00:04:08,123 ลำคอมหึมาของไททันโนซอร์ 32 00:04:08,207 --> 00:04:12,711 มีกระดูกโปร่งน้ำหนักเบามากเป็นโครงภายใน 33 00:04:15,339 --> 00:04:18,884 กระดูกคอโปร่งนี้จะเชื่อมกับต่อมลม 34 00:04:18,966 --> 00:04:22,721 ซึ่งเป่าถุงลมประหลาดที่คอให้โป่งขึ้นได้ 35 00:04:35,609 --> 00:04:41,823 ตัวผู้ซึ่งเป่าถุงลมได้ยิ่งใหญ่น่าประทับใจที่สุด จะดึงดูดตัวเมียได้มากที่สุด 36 00:04:48,622 --> 00:04:53,001 เจ้าตัวผู้ตัวมหึมาที่ฝุ่นทรายจับจนเกือบขาวนี้ 37 00:04:53,585 --> 00:04:56,547 ครองเวทีในพื้นที่นี้มาสองสัปดาห์แล้ว 38 00:04:59,842 --> 00:05:02,928 ตัวของมันหนักเกือบ 50 ตัน 39 00:05:11,728 --> 00:05:14,189 และเท่าที่ผ่านมา การแสดงพละกำลังของมัน 40 00:05:15,315 --> 00:05:17,818 ทำให้ผู้ท้าชิงทั้งหลายถอยหนีไปหมด 41 00:05:35,502 --> 00:05:36,753 แต่เจ้าตัวผู้ที่มาใหม่ตัวนี้… 42 00:05:42,634 --> 00:05:43,760 ไม่คิดจะเปลี่ยนใจถอยหนี 43 00:06:39,149 --> 00:06:42,778 การยกลำตัวมหึมาหนักอึ้งขึ้นยืนสองขา ทำให้เหนื่อยง่ายมาก 44 00:06:47,407 --> 00:06:49,910 นี่คือการแข่งความอึดถึกทนโดยแท้ 45 00:06:52,621 --> 00:06:58,168 ยิ่งมันสู้กันแรงขึ้น แต่ละฝ่ายจะพยายามสร้างแผลให้คู่ต่อสู้ 46 00:06:58,252 --> 00:07:01,964 ใช้นิ้วเท้าแหลมคมเหมือนมีดแทงอีกฝ่าย 47 00:07:03,507 --> 00:07:05,884 และใช้ฟันครูดผิวเป็นแผลยาว 48 00:07:15,310 --> 00:07:17,229 จนกระทั่งในที่สุด… 49 00:07:26,989 --> 00:07:28,615 ก็ซัดจนล้ม 50 00:07:39,960 --> 00:07:45,924 วาระการครองเวทีของตัวผู้ตัวเก่าสิ้นสุดลงแล้ว 51 00:07:54,516 --> 00:07:59,646 เจ้าหนุ่มผู้ครองชัยชนะ เข้ามาครองเวทีได้บ้างเสียที 52 00:08:09,489 --> 00:08:13,952 สำหรับไดโนเสาร์บางตัว ราคาของความพ่ายแพ้นั้นสูงลิ่วทีเดียว 53 00:08:40,102 --> 00:08:44,107 แม้สัตว์หลายชนิด จะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในทะเลทรายได้ดี 54 00:08:45,400 --> 00:08:48,153 แต่ชีวิตของพวกมันก็ล้วนแขวนอยู่บนเส้นด้าย 55 00:08:49,530 --> 00:08:51,281 โดยเฉพาะที่ในทวีปเอเชียนี้ 56 00:08:52,032 --> 00:08:53,825 ที่ซึ่งเมื่อถึงช่วงกลางฤดูร้อน 57 00:08:53,909 --> 00:08:58,038 อุณหภูมิอาจสูงได้เกิน 60 องศาเซลเซียส 58 00:09:04,753 --> 00:09:07,965 น้ำจะระเหิดแห้งไปได้ในพริบตา 59 00:09:14,930 --> 00:09:18,016 แถวนี้มีสัตว์เลื้อยคลานที่ดูดุร้ายน่ากลัวมากด้วย 60 00:09:24,982 --> 00:09:29,444 แต่เจ้ากิ้งก่าตัวนี้ขนาดยาวเพียงไม่กี่นิ้ว 61 00:09:34,241 --> 00:09:37,661 อยู่ที่นี่ การหาของกินไม่เคยเป็นเรื่องง่าย 62 00:09:51,758 --> 00:09:54,845 ซากสัตว์มหึมาตรงนี้น่าจะเป็นแหล่งอาหารที่ดี 63 00:10:00,267 --> 00:10:02,352 ซากซอโรพอด 64 00:10:03,353 --> 00:10:06,440 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอาหารมื้อใหญ่ ให้สัตว์หลายชนิด 65 00:10:11,195 --> 00:10:13,739 แต่น่าประหลาดนักที่ทุกอย่างกลับนิ่งสนิท 66 00:10:17,159 --> 00:10:18,827 ทาร์โบซอรัส… 67 00:10:20,162 --> 00:10:23,707 ถ้าเป็นในทะเลทรายแห่งนี้ เจ้าตัวนี้ก็เทียบได้กับที. เร็กซ์ 68 00:10:27,294 --> 00:10:30,088 พวกมันทำให้ตัวอื่นๆ ได้แต่คอยดูห่างๆ 69 00:10:39,056 --> 00:10:42,768 แต่สำหรับเจ้ากิ้งก่าน้อย นี่อาจเป็นโอกาสงาม 70 00:10:55,739 --> 00:11:00,369 ถ้าจะมีอะไรที่แมลงวันตอมยิ่งกว่าซากศพ… 71 00:11:05,499 --> 00:11:10,504 คงต้องเป็นทาร์โบซอร์ ที่กินซากศพซากนั้นก่อนจะมานอนหลับล่อแมลง 72 00:11:32,943 --> 00:11:34,778 ถึงเวลาต้องกล้า 73 00:11:55,424 --> 00:11:57,467 เวโลซิแรปเตอร์ 74 00:12:13,442 --> 00:12:15,611 ถึงเวลาต้องระวัง 75 00:12:19,323 --> 00:12:23,702 เพราะเวโลซิแรปเตอร์มักออกล่ากันเป็นฝูง 76 00:13:28,642 --> 00:13:30,519 แล้วฝูงทาร์โบซอร์ก็จากไป 77 00:13:39,862 --> 00:13:42,072 นั่นทำให้เหล่าเทอโรซอร์บินลงมา… 78 00:13:44,575 --> 00:13:46,827 และแบ่งกินซากนั้นกับเขาบ้าง 79 00:14:09,933 --> 00:14:15,439 หมดโอกาสของเจ้ากิ้งก่าตัวจ้อยแล้ว 80 00:14:22,487 --> 00:14:27,868 การพยายามฉวยโอกาสให้ได้มากที่สุด สำคัญมากต่อการเอาตัวรอดในทะเลทราย 81 00:14:28,493 --> 00:14:33,457 ไดโนเสาร์บางพันธุ์ก็สามารถทำได้ อย่างมีประสิทธิภาพมาก 82 00:14:41,548 --> 00:14:44,676 โมโนไนคัสเป็นผู้เชี่ยวชาญแห่งทะเลทราย 83 00:14:49,640 --> 00:14:51,558 ก็เหมือนกับสัตว์ทะเลทรายส่วนใหญ่ 84 00:14:51,642 --> 00:14:55,812 มันจะต้องตระเวนพื้นที่กว้างใหญ่ เพื่อให้มีอาหารพอกิน 85 00:14:59,775 --> 00:15:03,028 ขาที่ไร้ขนช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย 86 00:15:04,029 --> 00:15:08,116 ขนบนลำตัวช่วยปกป้องจากแสงอาทิตย์ 87 00:15:08,200 --> 00:15:11,078 และยังทำให้มันมีโสตสัมผัสทรงพลัง 88 00:15:18,836 --> 00:15:23,590 ขนเรียงตัวกันเป็นแผ่นบนใบหน้า ที่ช่วยให้จับแม้แต่เสียงเบาที่สุดได้ 89 00:15:45,612 --> 00:15:48,490 ประสาทรับเสียงที่ไวต่อทิศทางเป็นพิเศษเช่นนี้ 90 00:15:48,574 --> 00:15:54,580 ทำให้มันสามารถนึกสภาพภายในท่อนไม้กลวง พร้อมกับสิ่งที่อยู่ในนั้นได้ 91 00:16:09,595 --> 00:16:13,724 ต่อจากนี้มันจะใช้อาวุธซึ่ง ทำให้ได้ชื่ออย่างนี้มา 92 00:16:15,642 --> 00:16:20,814 โมโนไนคัส กรงเล็บเดี่ยวยักษ์ 93 00:16:22,316 --> 00:16:26,862 อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเจาะรังปลวก 94 00:16:36,413 --> 00:16:39,666 นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์พิเศษอีกหนึ่งอย่าง 95 00:16:42,753 --> 00:16:46,590 ลิ้นที่แสนยืดหยุ่น ยาวกว่าส่วนหัวของมันถึงสองเท่า 96 00:16:52,429 --> 00:16:54,932 เป็นมื้ออาหารอุดมโปรตีนเลยทีเดียว 97 00:16:55,557 --> 00:16:58,769 ถ้าเพียงแต่ปลวกจะไม่น่ารำคาญอย่างที่เป็น 98 00:17:05,901 --> 00:17:10,656 สัตว์เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างโมโนไนคัส จะใช้ชีวิตดีๆ ได้ในทะเลทรายแห้งแล้งนี้ 99 00:17:14,034 --> 00:17:16,869 แต่สภาพแวดล้อมจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นไปตลอด 100 00:17:18,288 --> 00:17:19,873 บางครั้งนานๆ ที 101 00:17:19,957 --> 00:17:25,587 ลมเย็นจากเทือกเขาจะพัดลงมา ผสมปนเปกับลมร้อนที่ลอยตัวสูงขึ้น 102 00:17:26,505 --> 00:17:31,468 จนเกิดเป็นพายุทะเลทราย หอบฝนซึ่งทุกคนรอคอยลงมาด้วย 103 00:17:47,067 --> 00:17:51,321 ในชีวิตของมันอาจไม่เคยเห็นแผ่นดินชุ่มน้ำขนาดนี้ 104 00:17:58,954 --> 00:18:03,041 มวลน้ำนั้นจะเปลี่ยนภูมิประเทศไป ในแบบที่ใครก็คาดไม่ถึง 105 00:18:13,427 --> 00:18:17,639 เมล็ดพันธุ์พืชที่ซุกแห้งอยู่ในดิน งอกมีชีวิตขึ้นมา 106 00:18:29,860 --> 00:18:34,573 พืชพันธุ์ทั้งหลายเปลี่ยนสภาพภูมิประเทศแห้งแล้ง ในเวลาเพียงไม่กี่วัน 107 00:18:38,911 --> 00:18:43,081 สิ่งที่มาพร้อมกับต้นไม้ใบหญ้า คืออาหารอุดมสมบูรณ์ 108 00:18:44,374 --> 00:18:46,210 ถ้าเพียงแต่รู้ว่าจะจับยังไง 109 00:18:58,639 --> 00:19:03,018 เอนันทิออร์นิไทน์ นกโบราณชนิดหนึ่ง 110 00:19:04,144 --> 00:19:06,480 แต่นั่นอาจตัวใหญ่เกินจะจัดการได้ไหว 111 00:19:12,569 --> 00:19:16,573 การต้องปรับตัวให้เข้ากับ โลกที่เปลี่ยนไปไม่คุ้นเคยก็อาจจะยาก 112 00:19:22,788 --> 00:19:23,789 โอ๊ย แย่ละ 113 00:19:44,017 --> 00:19:46,395 ในที่สุดก็หาอะไรกินได้ 114 00:19:49,147 --> 00:19:52,234 แต่อุปสรรคใหม่ที่เจอนี้จะไม่คงอยู่นาน 115 00:19:52,317 --> 00:19:54,945 สิ่งหนึ่งในทะเลทรายที่มั่นใจได้ 116 00:19:55,028 --> 00:19:58,949 ความร้อนแผดเผาและผืนดินผ่าว จะคืนกลับมา 117 00:20:00,701 --> 00:20:04,538 ดอกไม้ใบหญ้าจะกลายเป็น เพียงความทรงจำที่ผ่านเลยไปไกล 118 00:20:11,920 --> 00:20:15,299 ไม่ใช่เพียงแต่แสงร้อนทรงพลังของดวงอาทิตย์ 119 00:20:15,382 --> 00:20:18,260 ที่ทำให้ทะเลทรายกลายเป็น พื้นที่ซึ่งอาศัยอยู่ได้ลำบาก 120 00:20:18,343 --> 00:20:20,429 แต่ลมก็มีผลเช่นกัน 121 00:20:24,349 --> 00:20:28,145 ในตอนกลางของทวีปเอเชีย ลมพัดกรรโชกผ่านภูมิประเทศทั้งแถบ 122 00:20:28,228 --> 00:20:32,524 พัดผืนดินแห้งแล้งไกลออกไป จนต้นไม้ทั้งหลายไม่อาจหยั่งราก 123 00:20:42,951 --> 00:20:45,287 ไดโนเสาร์ขนาดใหญ่จะเคลื่อนที่ย้ายถิ่นตลอด 124 00:20:45,370 --> 00:20:48,207 เพื่อพยายามรับมือกับสภาพแวดล้อมร้ายเหล่านี้ 125 00:20:51,168 --> 00:20:55,380 ไดโนเสาร์ปากเป็ดกลุ่มนี้คือบาร์สโบเดีย 126 00:21:14,441 --> 00:21:17,611 พวกนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญการเดินทางไกล 127 00:21:18,362 --> 00:21:22,699 และสามารถอยู่โดยไม่ต้องดื่มน้ำ เป็นเวลานานน่ามหัศจรรย์มาก 128 00:21:24,034 --> 00:21:27,579 แต่ในโอกาสพิเศษที่มีบ้างนานๆ ครั้ง จะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ขึ้นมา 129 00:21:33,919 --> 00:21:35,045 ยามที่ฝนตกในทะเลทราย 130 00:21:35,128 --> 00:21:40,551 น้ำจะซึมลงไป และไหลใต้ดินไปได้ไกลทีเดียว 131 00:21:41,385 --> 00:21:46,139 จนกระทั่งมาถึงที่พิเศษบางแห่ง ซึ่งน้ำจะผุดขึ้นมาที่ผิวโลก 132 00:21:46,223 --> 00:21:48,267 จนกลายเป็นโอเอซิส 133 00:21:51,562 --> 00:21:56,733 แหล่งน้ำใหม่จะทำให้สัตว์ทะเลทรายทุกชนิด พากันเดินทางมาจากที่แสนไกล 134 00:22:02,406 --> 00:22:05,284 บางพันธุ์ก็เป็นยักษ์ใหญ่ จนตัวอื่นๆ ดูกระจ้อยร่อยไปหมด 135 00:22:07,870 --> 00:22:10,205 เจ้าไททันแห่งมองโกเลีย 136 00:22:12,583 --> 00:22:14,334 พวกมันตัวใหญ่มหึมา 137 00:22:14,418 --> 00:22:16,295 แต่ละตัวหนักกว่า 70 ตัน 138 00:22:16,378 --> 00:22:20,507 และเป็นหนึ่งในสัตว์ขนาดใหญ่ที่สุด ที่เคยมีมาบนโลกนี้ 139 00:22:23,468 --> 00:22:27,931 เป็นที่เสี่ยงมากหากเจ้าจ้อยโมโนไนคัส จะมากินน้ำบ้าง 140 00:22:34,563 --> 00:22:36,356 ถึงจะมากันแน่น 141 00:22:36,440 --> 00:22:41,570 แต่ถ้ามีคอยาวที่สุดในโลก ก็สามารถลัดแถวได้ง่ายๆ 142 00:23:11,099 --> 00:23:13,977 การที่สัตว์มารวมตัวกันแบบนี้ ย่อมดึงดูดความสนใจ 143 00:23:20,984 --> 00:23:22,319 เจ้าทาร์โบซอร์ 144 00:24:33,015 --> 00:24:39,563 แต่ก็เหมือนกับทุกตัว วันนี้เจ้านักล่ามาเพื่อกินน้ำเท่านั้น 145 00:24:56,371 --> 00:25:00,417 เมื่อสัตว์กระหายน้ำจำนวนมาก มาดื่มกันทั้งวันทั้งคืน 146 00:25:00,501 --> 00:25:02,419 ไม่นานแหล่งน้ำก็หมด 147 00:25:04,379 --> 00:25:06,423 สัตว์ทั้งหลายแยกย้ายกันไป 148 00:25:06,507 --> 00:25:10,886 สภาพแวดล้อมแห้งแล้งเลวร้ายกลับมาอีกครั้ง 149 00:25:17,893 --> 00:25:21,939 ตลอดเวลาเป็นล้านๆ ปี สายน้ำกัดเซาะทะเลทรายบางแห่ง 150 00:25:22,022 --> 00:25:24,483 จนกลายเป็นภูมิประเทศที่ชวนตื่นตา… 151 00:25:27,236 --> 00:25:30,072 เช่นที่นี่ ในแอฟริกาเหนือ 152 00:25:30,155 --> 00:25:35,452 หุบเขาเหล่านี้เปิดโอกาสพิเศษ ให้กับแขกผู้มาเยือนทะเลทราย 153 00:25:38,288 --> 00:25:43,669 เจ้าบาร์บาริดัคไทลัส เทอโรซอร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งวัดความยาวปลายปีกได้ห้าเมตร 154 00:25:43,752 --> 00:25:47,256 จะใช้ประโยชน์จากกลุ่มอากาศร้อน ด้วยทักษะอันเยี่ยมยอด… 155 00:25:50,425 --> 00:25:52,594 ทำให้มันสามารถบินได้ไกลมาก 156 00:25:52,678 --> 00:25:57,099 ถึงแม้ว่าบางตัวจะมี หงอนที่หัวขนาดใหญ่มากก็ตาม 157 00:26:15,492 --> 00:26:20,622 ทุกๆ ปี ทั้งตัวผู้และตัวเมีย จะมารวมตัวกันในลานพิเศษลอยฟ้าเหล่านี้ 158 00:26:20,706 --> 00:26:22,583 นับจำนวนได้เป็นพันๆ ตัว 159 00:26:37,681 --> 00:26:42,936 ณ ยอดที่ราบสูงอันแยกขาดจากแผ่นดินอื่นแบบนี้ จะไม่มีสัตว์ผู้ล่าจากพื้นดิน 160 00:26:43,020 --> 00:26:45,355 ดังนั้นจึงเป็นที่ร่อนลงพักได้อย่างปลอดภัย 161 00:26:45,939 --> 00:26:50,652 ตัวผู้ที่ตัวใหญ่กว่าตัวอื่น จะเลือกพื้นที่สยายปีกอวดตัวเมีย… 162 00:26:52,279 --> 00:26:55,699 ขณะที่กลุ่มหนุ่มโสดหารัก ได้แต่บินวนอยู่ด้านบน 163 00:27:01,163 --> 00:27:03,874 เจ้าของพื้นที่จะเตือน ไม่ให้ใครเข้ามา 164 00:27:08,253 --> 00:27:12,216 คำเตือนซึ่งบางครั้งก็ต้อง ใช้ความรุนแรงช่วยย้ำ 165 00:27:55,259 --> 00:27:59,680 แต่บางครั้ง ต่อให้ตัวไม่ใหญ่กว่าใคร ก็ประสบความสำเร็จได้ 166 00:28:00,973 --> 00:28:05,310 ตัวผู้บางตัวไม่มีหงอนใหญ่บนหัว 167 00:28:14,278 --> 00:28:18,657 พวกนี้เป็นตัวผู้เจ้าเล่ห์ที่หน้าตาเหมือนตัวเมีย 168 00:28:20,158 --> 00:28:23,078 ดังนั้นจึงทำตัวเนียนไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวได้ 169 00:28:35,257 --> 00:28:37,718 นี่เป็นกลยุทธ์อันตรายทีเดียว… 170 00:28:40,637 --> 00:28:44,808 เพราะเจ้าตัวผู้ตัวใหญ่ คอยตรวจตราพื้นที่อยู่เสมอ 171 00:28:49,396 --> 00:28:51,648 แล้วก็ยังสยายปีกอวดตัวเองให้ดู 172 00:29:08,582 --> 00:29:11,168 มันสังเกตเห็นเจ้าตัวตีเนียนแล้ว 173 00:29:37,486 --> 00:29:38,904 แต่ที่จริง… 174 00:29:40,072 --> 00:29:43,200 เจ้าตัวผู้ตัวใหญ่นั่นมาสนใจมันต่างหาก 175 00:29:57,422 --> 00:30:01,051 เจ้าหนุ่มตีเนียนก็แกล้งทำเป็นสาวเล่นตัว… 176 00:30:07,015 --> 00:30:09,393 แล้วปฏิเสธไม่รับรักของตัวผู้ตัวนั้น 177 00:30:13,438 --> 00:30:16,149 กลับมาสู่ภารกิจตรงหน้า… 178 00:30:17,651 --> 00:30:19,778 ได้เวลาหาคู่ของตัวเองบ้าง 179 00:30:38,881 --> 00:30:40,090 สำเร็จ 180 00:31:06,283 --> 00:31:09,203 ตัวผู้ตัวใหญ่อาจจะดูน่าดึงดูดใจกว่า 181 00:31:10,287 --> 00:31:14,208 แต่ดูเหมือนว่าเหล่าตัวเมีย กลับต้องการผลิตลูกที่แข็งแรง 182 00:31:14,291 --> 00:31:17,794 ด้วยการหาคู่ผสมพันธุ์ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้… 183 00:31:20,380 --> 00:31:24,510 ไม่ว่าอีกฝ่ายจะตัวใหญ่น่าประทับใจ หรือแค่เจ้าเล่ห์ 184 00:31:39,316 --> 00:31:42,444 ไม่ได้มีแต่สัตว์โลกแปลกประหลาด 185 00:31:42,528 --> 00:31:45,531 อยู่ในทะเลทรายบนโลกดึกดำบรรพ์ 186 00:31:48,408 --> 00:31:52,454 แต่ที่นั่นก็มีภูมิประเทศประหลาด เหมือนมาจากนอกโลกด้วย 187 00:31:54,206 --> 00:31:56,583 เช่นที่อเมริกาใต้แห่งนี้ 188 00:32:01,839 --> 00:32:04,550 ที่นี่ ดูด้วยตาอาจเหมือนละอองหิมะ 189 00:32:04,633 --> 00:32:10,556 แต่เนินใหญ่เหล่านี้ไม่ใช่เนินทราย แต่เป็นเนินยิปซัม 190 00:32:11,306 --> 00:32:16,311 ยิปซัมเป็นแร่สีขาวผงละเอียด ที่ละลายน้ำได้ง่ายมาก 191 00:32:16,395 --> 00:32:21,191 มันจึงอยู่ในสถานะของแข็งได้ เฉพาะในพื้นที่แห้งที่สุดในโลก 192 00:32:26,488 --> 00:32:30,993 เนินเหล่านี้แห้งผากเสียจน แทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ 193 00:32:32,828 --> 00:32:36,123 แต่ยังมีไดโนเสาร์บางชนิดที่อยู่ได้ 194 00:32:39,459 --> 00:32:43,005 ซีเซอโนซอรัส แฮโดรซอร์ขนาดเล็กพันธุ์หนึ่ง 195 00:32:47,801 --> 00:32:50,846 ถึงแม้พวกมันจะอยู่ได้ด้วยอาหารแร่ธาตุต่ำ 196 00:32:50,929 --> 00:32:55,309 แต่ทุกๆ ประมาณสิบปี พื้นที่นี้จะแห้งหนักกว่าปกติ 197 00:32:55,392 --> 00:32:59,104 จนพืชเกือบทั้งหมดแห้งเฉาตายไป 198 00:33:02,524 --> 00:33:07,070 เมื่อยังมีลูกเล็กๆ ต้องเลี้ยง สภาพแบบนี้อาจทำให้ทั้งฝูงตายได้ 199 00:33:12,326 --> 00:33:15,829 แต่มีบางตัวที่อาวุโสและมีประสบการณ์ 200 00:33:15,913 --> 00:33:19,583 อาจจำได้ว่ามีแหล่งน้ำและอาหารแหล่งอื่น 201 00:33:21,126 --> 00:33:25,797 พวกมันรู้ว่าวิธีการเอาตัวรอด ไม่ใช่การพยายามออกไปจากทะเลทรายนี้ 202 00:33:25,881 --> 00:33:29,760 แต่ต้องข้ามเนินร้อนผ่าวนั่นไปอีก 203 00:33:36,725 --> 00:33:42,022 เมื่อมีลมแรงและทรายเปลี่ยนรูปตลอดเวลา ทะเลทรายเป็นสิ่งที่ไม่เคยนิ่ง 204 00:33:44,983 --> 00:33:47,110 นั่นทำให้การหาทิศเป็นเรื่องยากมาก 205 00:34:08,215 --> 00:34:11,301 ฝูงนี้ชอบเดินทางตอนกลางคืนมากกว่า 206 00:34:30,654 --> 00:34:32,197 ไม่ใช่แค่เพราะกลางคืนเย็นกว่า 207 00:34:32,281 --> 00:34:37,077 แต่มันยังเผยแผนที่ให้สัตว์เหล่านั้นรู้ทาง 208 00:34:37,159 --> 00:34:40,414 ผ่านทะเลทรายซึ่งไร้ที่สังเกต และเปลี่ยนภูมิทัศน์ตลอด 209 00:34:42,291 --> 00:34:45,210 แผนที่บนฟ้า 210 00:34:48,172 --> 00:34:50,132 ก็เหมือนกับสัตว์อพยพส่วนใหญ่ 211 00:34:50,215 --> 00:34:54,178 แฮโดรซอร์อ่านป้ายบอกทางที่อยู่บนฟากฟ้าได้ 212 00:35:00,475 --> 00:35:04,563 ช่วงกลางวัน แสงอาทิตย์ร้อนผ่าว ยังแผดเผาจากด้านบน 213 00:35:14,239 --> 00:35:19,953 ต่อให้สามารถหาที่ร่มหลบพัก จุดนี้ก็อาจเป็นจุดจบของหลายตัว 214 00:35:28,003 --> 00:35:30,881 แต่อาจมีอย่างอื่นที่ช่วยพวกมันได้อีก 215 00:35:35,928 --> 00:35:40,140 เสียงคลื่นใหญ่สะเทือนเลื่อนลั่น ที่ซัดเข้ากับชายฝั่งไกลๆ 216 00:35:40,224 --> 00:35:42,768 ดังอยู่ในเนินทะเลทรายได้ไกลหลายกิโลเมตร 217 00:35:44,978 --> 00:35:49,274 เสียงเบาจนสัตว์ส่วนใหญ่ไม่อาจได้ยิน 218 00:35:49,358 --> 00:35:54,696 แต่แฮโดรซอร์ได้ยิน และสามารถหาทางกลับไปยังชายฝั่งได้ 219 00:35:57,115 --> 00:36:01,787 แต่ทะเลทรายนี้ยังมีอุปสรรคอีกหนึ่งด่าน ให้พวกมันก้าวข้าม 220 00:36:03,580 --> 00:36:07,376 เนินทรายยักษ์ที่ชายฝั่งขวางทางของมันอยู่ 221 00:36:23,767 --> 00:36:28,981 พื้นทรายของเนินชันที่คอยจะไหล ดูดพลังงานของพวกมันไปในทุกก้าว 222 00:37:20,115 --> 00:37:21,491 พวกมันข้ามมาได้แล้ว 223 00:37:32,794 --> 00:37:38,383 รางวัลแรกที่ได้คือการเลียหยดน้ำซึ่งกลั่นตัว มาเกาะผิวของพวกมัน 224 00:37:38,467 --> 00:37:42,304 จากหมอกซึ่งก่อตัวขึ้น ณ จุดที่เนินทรายบรรจบกับมหาสมุทร 225 00:37:53,232 --> 00:37:57,986 กลุ่มหมอกนี้ยังเป็นสารอาหาร ให้กับแดนสวรรค์อุดมสมบูรณ์ที่ชายฝั่ง 226 00:38:10,123 --> 00:38:13,752 ทุ่งนี้จะพอเลี้ยงทั้งฝูงได้ระยะใหญ่ 227 00:38:14,253 --> 00:38:18,090 แต่เมื่อพืชหมดไป พวกมันคงต้องออกเดินทางอีกครั้ง… 228 00:38:22,219 --> 00:38:25,222 และต้องเจอกับอุปสรรคในชีวิต 229 00:38:25,806 --> 00:38:29,142 ในทะเลทรายบนโลกดึกดำบรรพ์ 230 00:38:35,816 --> 00:38:37,568 ตอนหน้า ในรายการ Prehistoric Planet 231 00:38:37,651 --> 00:38:41,071 หนึ่งในไดโนเสาร์ประหลาดที่สุด ซึ่งเคยอยู่บนโลก 232 00:38:41,154 --> 00:38:46,159 เจ้ายักษ์ปากเป็ดแสนประหลาด ซึ่งหากินในบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ 233 00:38:48,078 --> 00:38:50,497 และเมื่อน้ำจืดไหลจากแหล่งน้ำลงทะเล 234 00:38:50,581 --> 00:38:53,834 มันส่งผลต่อทุกชีวิตที่วนเวียนอยู่รอบแหล่งน้ำ 235 00:38:55,127 --> 00:38:58,213 หากสนใจหลักวิทยาศาสตร์ เบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้ 236 00:38:58,297 --> 00:39:02,718 เชิญอ่านข้อมูลต่อได้เลยใน เว็บเพจของรายการ Prehistoric Planet 237 00:40:30,764 --> 00:40:32,766 คำบรรยายโดย ปัทมวรรณ บูรณมาตร์