1 00:00:11,678 --> 00:00:15,182 (พิธีกร) (เดวิด แอทเทนโบโรห์) 2 00:00:16,517 --> 00:00:21,563 แน่นอนว่าหนึ่งในสัตว์มหัศจรรย์ที่สุด ซึ่งเคยเดินบนผืนโลก 3 00:00:22,105 --> 00:00:26,318 และหนึ่งในตัวที่โด่งดังที่สุดคือ ไดโนเสาร์พันธุ์หนึ่ง 4 00:00:27,361 --> 00:00:29,613 ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ 5 00:00:30,656 --> 00:00:35,202 สัตว์ซึ่งจุดประกายจินตนาการให้เราทุกคน 6 00:00:35,285 --> 00:00:38,247 มันเป็นสัตว์แบบไหนกัน 7 00:00:38,330 --> 00:00:41,542 หน้าตาของมันเป็นอย่างไร มันใช้ชีวิตอย่างไร 8 00:00:41,625 --> 00:00:45,587 ตอนนี้ งานวิจัยค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ สามารถตอบคำถามนั้นได้แล้ว 9 00:00:45,671 --> 00:00:47,923 และไม่เพียงแต่ตอบคำถามเรื่องที. เร็กซ์ 10 00:00:48,006 --> 00:00:51,343 แต่รวมไปถึงสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งอยู่ร่วมโลกในยุคเดียวกับมัน 11 00:00:51,426 --> 00:00:58,016 และเทคโนโลยีในการสร้างภาพล้ำสมัย ช่วยให้เราคืนชีวิตให้ทุกสิ่งได้ 12 00:01:01,436 --> 00:01:05,440 ดาวโลกของเรา เมื่อ 66 ล้านปีก่อน 13 00:01:13,949 --> 00:01:17,494 ท้องฟ้าเต็มไปด้วยยักษ์บินได้ 14 00:01:20,038 --> 00:01:24,084 ในทะเลก็มีสัตว์เลื้อยคลานมหึมา คอยลาดตระเวนห้วงทะเลลึก 15 00:01:26,128 --> 00:01:29,256 บนแผ่นดิน ไดโนเสาร์ทุกสายพันธุ์ 16 00:01:30,465 --> 00:01:33,218 ต่างกำลังดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด 17 00:01:39,391 --> 00:01:45,689 ตอนนี้เรามีความรู้เพิ่มขึ้นมาก เกี่ยวกับโลกซึ่งครองโดยไดโนเสาร์ 18 00:01:49,651 --> 00:01:52,196 และนี่คือเรื่องราวเหล่านั้น 19 00:02:05,250 --> 00:02:10,589 (แหล่งน้ำจืด) 20 00:02:16,470 --> 00:02:19,556 ตลอดเวลานับล้านๆ ปี แผ่นดินของดาวโลก 21 00:02:19,640 --> 00:02:21,433 ถูกสลักเสลาด้วยสายน้ำ 22 00:02:22,518 --> 00:02:26,772 แม่น้ำที่ไหลอยู่ ณ ที่นี่ ก็ยังปั้นแต่งภูมิประเทศของหุบผาใหญ่พวกนี้ 23 00:02:32,319 --> 00:02:36,365 สถานที่แบบนี้เป็นบ้านของ สัตว์เลื้อยคลานบินได้ 24 00:02:40,536 --> 00:02:41,703 เทอโรซอร์ 25 00:02:47,876 --> 00:02:52,548 ปีกหนังของมันแผ่จากปลายนิ้วขาหน้าถึงข้อขาหลัง 26 00:02:58,971 --> 00:03:02,766 และมันบินได้วันละหลายร้อยกิโลเมตร 27 00:03:38,510 --> 00:03:39,511 เมื่อถึงยามเย็นแต่ละวัน 28 00:03:39,595 --> 00:03:45,350 เทอโรซอร์จำนวนมหาศาลจะมารวมตัวที่หุบเขานี้ เพื่อเกาะหลับบนซอกผาแคบๆ 29 00:03:49,605 --> 00:03:51,648 มารวมกันมากๆ ก็ปลอดภัยกว่า 30 00:03:54,693 --> 00:03:58,071 ถึงอย่างไรก็แทบไม่มีนักล่าบนดินพันธุ์ไหน คิดจะกล้ามาถึงแถบนี้ 31 00:04:01,116 --> 00:04:02,701 เว้นเพียงพันธุ์เดียว 32 00:04:08,040 --> 00:04:11,210 ไดโนเสาร์พันธุ์หนึ่ง เวโลซิแรปเตอร์ 33 00:04:14,546 --> 00:04:18,175 ร่างกายของมันมีขนปกคลุมให้อบอุ่น แต่มันบินไม่ได้ 34 00:04:19,885 --> 00:04:23,055 ทว่า พวกมันปราดเปรียวว่องไวจนน่าทึ่ง 35 00:04:31,313 --> 00:04:32,481 ซึ่งก็ดีแล้ว 36 00:04:34,900 --> 00:04:37,903 เพราะมาถึงตรงนี้ พลาดเพียงก้าวเดียว อาจถึงกับหายนะได้ 37 00:04:44,910 --> 00:04:47,079 เหล่าเทอโรซอร์แตกตื่นง่ายมาก 38 00:04:47,162 --> 00:04:50,332 ถ้ามีแววว่ามีอันตรายแม้แต่น้อย พวกมันจะบินหนีไปทันที 39 00:04:55,420 --> 00:05:01,051 ถ้าเวโลซิแรปเตอร์อยากกินมื้อนี้ เรื่องจำเป็นที่สุดคือต้องไม่ให้เหยื่อรู้ตัว 40 00:05:21,280 --> 00:05:24,199 ลำตัวน้ำหนักเบาและขาหน้าขนนก 41 00:05:24,283 --> 00:05:25,993 ช่วยพยุงให้มันไต่ลงมาถามผาได้ดี 42 00:05:31,623 --> 00:05:36,044 และหางแผงใหญ่ก็ช่วยในการทรงตัว 43 00:05:45,179 --> 00:05:47,848 เทอโรซอร์ที่อยู่ชายขอบผา 44 00:05:47,931 --> 00:05:50,809 ของทั้งฝูงที่เกาะอยู่นั้นน่าจะเป็นเป้าที่ง่ายที่สุด 45 00:06:23,091 --> 00:06:27,846 เสียงน้ำตกลั่นกลบเสียงหินที่เคลื่อนตกจากผา 46 00:06:50,953 --> 00:06:53,205 ตัวเมียขึ้นต้อนจากที่สูง 47 00:06:55,749 --> 00:06:58,085 ตัวผู้สองตัวยังอยู่ด้านล่าง 48 00:07:15,352 --> 00:07:19,106 เทอโรซอร์หลายตัว เกือบอยู่ในระยะโจมตีถึงแล้ว 49 00:07:39,334 --> 00:07:44,173 จับได้หนึ่งตัว แต่ตอนนี้ทั้งฝูงแตกตื่นตกใจไปหมดแล้ว 50 00:08:06,278 --> 00:08:09,198 ระหว่างที่สับสนอลหม่านนั้น แม้แต่เหยื่อก็หลุดตกลงมาจากผา 51 00:08:18,707 --> 00:08:22,753 เจ้าตัวเมียพยายามทดสอบ สมรรถภาพของขนหางเต็มที่ 52 00:08:27,591 --> 00:08:30,636 จนสุดท้ายก็ยังได้กิน 53 00:08:33,847 --> 00:08:37,726 ส่วนตัวผู้ทั้งสองถูกทิ้งให้เผชิญกับเทอโรซอร์ 54 00:08:47,152 --> 00:08:50,948 พลังของน้ำจืดธรรมชาติ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วโลก 55 00:08:57,037 --> 00:08:58,789 อุณหภูมิของโลกสูง 56 00:09:00,082 --> 00:09:03,252 มีพายุรุนแรงและฝนตกฟ้าคะนองเสมอ 57 00:09:15,681 --> 00:09:19,977 พื้นที่ส่วนใหญ่ในอเมริกาเหนือ ปกคลุมด้วยป่าดิบชื้นอุดมสมบูรณ์ 58 00:09:25,065 --> 00:09:30,070 นี่คือที่อาศัยของสัตว์กินพืช ยักษ์ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีในโลก 59 00:09:33,115 --> 00:09:38,453 และพวกมันก็กลายเป็นเหยื่อ ของนักล่าที่ร้ายกาจที่สุด 60 00:10:09,776 --> 00:10:12,487 ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ 61 00:10:14,823 --> 00:10:19,077 เจ้าตัวผู้แก่ๆ นี้เพิ่งฆ่าไตรเซราทอปส์ได้ตัวหนึ่ง 62 00:10:25,292 --> 00:10:27,920 แต่กว่าจะสู้กันเสร็จ มันก็บาดเจ็บ 63 00:10:37,679 --> 00:10:41,225 สรีระของที. เร็กซ์ เหมาะกับการล่าสัตว์กินพืชขนาดใหญ่… 64 00:10:43,936 --> 00:10:47,314 แม้สัตว์เหล่านั้นหลายตัวจะมีวิวัฒนาการ จนมีอาวุธป้องกันตัวเองหนาหนัก 65 00:10:55,030 --> 00:10:59,034 การสู้กับเหยื่อติดเกราะมาเป็นสิบๆ ปี ทำให้ร่างของมันมีแผลเต็มตัว 66 00:11:07,668 --> 00:11:10,546 ศึกครั้งหนึ่งถึงกับทำให้มันต้องเสียปลายหางไป 67 00:11:19,555 --> 00:11:22,724 แต่แผลใหม่นี้หนักกว่าแผลอื่นๆ 68 00:11:28,105 --> 00:11:32,818 ยิ่งอายุมากขึ้น มันก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงขึ้น 69 00:11:46,999 --> 00:11:49,918 น้ำจากแม่น้ำช่วยชำระล้างแผลได้ 70 00:12:02,055 --> 00:12:06,226 มันมีโอกาสสูงที่จะรอดไปสู้ต่อได้อีกวัน 71 00:12:10,189 --> 00:12:12,691 แต่วันนั้นอาจมาถึงเร็วกว่าที่คิด 72 00:12:28,498 --> 00:12:30,167 ที. เร็กซ์อีกตัว 73 00:12:38,425 --> 00:12:39,468 ไม่เคยเจอกันมาก่อน 74 00:12:53,232 --> 00:12:56,777 แต่ผู้มาใหม่นี้กลิ่นไม่เหมือนตัวอื่น 75 00:13:02,282 --> 00:13:03,367 มันเป็นตัวเมีย 76 00:13:04,159 --> 00:13:06,912 ตัวเล็กกว่า อายุน้อยกว่า 77 00:13:12,459 --> 00:13:15,629 แต่ก็ยังอาจเป็นศัตรูกันได้ 78 00:13:25,430 --> 00:13:29,852 แต่ทางตัวผู้แสดงให้เห็นชัดๆ ว่า มันไม่คิดอยากจะสู้ 79 00:13:35,315 --> 00:13:37,192 มันอยากจับคู่กันมากกว่า 80 00:13:47,828 --> 00:13:49,496 ดูเหมือนอีกฝ่ายก็เห็นด้วย 81 00:14:00,048 --> 00:14:04,553 บริเวณใบหน้าของไทรันโนซอร์ ไวต่อการสัมผัสมาก 82 00:14:06,471 --> 00:14:07,598 และพวกมันก็ซุกไซ้กัน 83 00:14:13,270 --> 00:14:18,901 ขนาดตัวและแผลจากการออกศึก เป็นหลักฐานว่าตัวผู้นี้เป็นนักสู้ 84 00:14:21,195 --> 00:14:25,449 และในสายตาของตัวเมีย นั่นอาจทำให้เป็นคู่ครองที่ตรงใจ 85 00:14:44,718 --> 00:14:46,720 ทั้งสองจึงอยู่ด้วยกัน 86 00:14:47,221 --> 00:14:50,557 และในช่วงหลายสัปดาห์ต่อมา คู่นั้นผสมพันธุ์กันบ่อยๆ 87 00:14:52,851 --> 00:14:56,522 สุดท้ายแล้วตัวเมียจะวางไข่ได้มากถึง 15 ใบ 88 00:14:58,982 --> 00:15:02,694 แต่ละใบเป็นความหวังของรุ่นต่อไป 89 00:15:14,414 --> 00:15:20,087 แหล่งอาศัยที่ต้องพึ่งน้ำจืดทั้งหลาย อาจเปลี่ยนไปได้โดยเร็ว ไม่เหลือเค้าเดิม 90 00:15:26,176 --> 00:15:27,970 ณ ส่วนหนึ่งของเอเชียกลาง 91 00:15:28,053 --> 00:15:32,099 ฝนตามฤดูกาลตกหนักไหล่บ่าเต็มแม่น้ำ จนกระทั่งในที่สุด 92 00:15:32,182 --> 00:15:34,017 มันจะล้นออกมาจากตลิ่ง 93 00:15:37,771 --> 00:15:40,274 ที่ราบต่ำรอบๆ นั้นถูกน้ำท่วมทันที 94 00:15:53,370 --> 00:15:59,334 และในแหล่งน้ำนั้นก็มี ไดโนเสาร์ที่แปลกประหลาดที่สุดเดินลุยน้ำอยู่ 95 00:16:19,229 --> 00:16:20,898 ไดโนไครัส 96 00:16:23,942 --> 00:16:26,486 เจ้าตัวนี้สูงกว่าที. เร็กซ์เสียอีก 97 00:16:28,572 --> 00:16:32,034 และจมูกที่เหมือนปากเป็ดมหึมานั้น ก็มีประสิทธิภาพมาก 98 00:16:32,117 --> 00:16:33,869 ในการกวาดพืชน้ำมากิน 99 00:16:35,829 --> 00:16:38,582 เจ้าตัวผู้นี้จะกินได้ไม่หยุดหย่อน 100 00:16:38,665 --> 00:16:41,960 หลังจากช่วงฤดูแล้งยาวนาน ที่แทบไม่ได้กินอะไรเลย 101 00:16:46,131 --> 00:16:48,926 พืชน้ำมีสารอาหารอุดมสมบูรณ์มาก 102 00:16:50,135 --> 00:16:53,514 และกรงเล็บโง้งมหึมา ยาวข้างละกว่า 20 เซนติเมตร 103 00:16:53,597 --> 00:16:57,351 ก็ทำให้มันสามารถลากพืช จากส่วนลึกใต้ผิวน้ำขึ้นมากิน 104 00:17:08,904 --> 00:17:12,741 ตัวของมันเองก็เป็นแหล่งอาหาร ให้สัตว์เล็กๆ อื่นๆ 105 00:17:17,496 --> 00:17:21,916 เหลือบริ้นไรที่เกาะอยู่ตามขนของมัน 106 00:17:29,216 --> 00:17:31,969 นอกจากก่อความรำคาญ บางทีแมลงพวกนี้ก็กัดเจ็บ 107 00:17:32,928 --> 00:17:36,682 และแม้กรงเล็บใหญ่จะทำให้สามารถเกาได้… 108 00:17:39,643 --> 00:17:43,564 แต่ยังมีบางจุดที่เอื้อมไม่ถึงเสมอ 109 00:17:51,029 --> 00:17:54,074 ถ้าจะเกาให้ถูกที่คัน มันต้องหาตัวช่วย 110 00:17:58,078 --> 00:18:01,999 ต้นไม้ตายซาก นั่นอาจเป็นคำตอบสุดท้าย 111 00:18:23,520 --> 00:18:25,105 ค่อยยังชั่ว 112 00:18:40,037 --> 00:18:42,497 ทีนี้ก็กลับไปกินต่อได้ 113 00:18:48,086 --> 00:18:52,299 แต่การกินอาหารที่มีแต่พืชน้ำแฉะๆ 114 00:18:52,382 --> 00:18:56,303 ย่อมส่งผลตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 115 00:19:09,691 --> 00:19:15,739 อาหารสำหรับสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง กลายเป็นปุ๋ยของสิ่งมีชีวิตอีกมาก 116 00:19:21,286 --> 00:19:24,873 และสัตว์ยักษ์ขนาดเท่าไดโนไครัส 117 00:19:24,957 --> 00:19:28,126 จะปล่อยมูลสัตว์เป็นปริมาณกว่า 20 ตันในแต่ละปี 118 00:19:39,805 --> 00:19:41,265 ตอนใต้ของแอฟริกา 119 00:19:43,976 --> 00:19:47,187 ที่นี่ ฤดูฝนก็ทำให้เกิดน้ำท่วมทุกปีเช่นกัน 120 00:19:50,065 --> 00:19:53,819 ดินแดนทั้งหมดกลายสภาพเป็น วงกตแห่งคลองสายแคบๆ 121 00:19:53,902 --> 00:19:56,738 ไหลเชื่อมระหว่างเกาะเล็กๆ นับไม่ถ้วน 122 00:20:03,370 --> 00:20:06,373 ตอนนี้ที่นี่กลายเป็นป่าพรุ 123 00:20:13,672 --> 00:20:18,760 ที่นี่ดึงดูดหนึ่งในสัตว์บินได้ ขนาดตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา 124 00:20:18,844 --> 00:20:20,179 บนดาวโลกแห่งนี้ 125 00:20:31,690 --> 00:20:36,069 เทอโรซอร์ยักษ์พันธุ์หนึ่ง เควทซอลโคแอทลัส 126 00:20:49,416 --> 00:20:50,751 ตัวนี้เป็นตัวเมีย 127 00:20:51,418 --> 00:20:54,254 ปีกของมันกางเต็มที่วัดได้กว่าเก้าเมตร 128 00:20:57,090 --> 00:21:00,260 และมันมาที่นี่ด้วยเหตุผลเดียว 129 00:21:28,914 --> 00:21:31,792 เกาะเล็กๆ ที่เพิ่งกลายเป็นเกาะเพราะน้ำขึ้น 130 00:21:32,793 --> 00:21:35,504 เป็นที่เหมาะที่สุดสำหรับการวางไข่ 131 00:21:50,561 --> 00:21:53,814 เควทซอลโคแอทลัสบินได้เก่งแน่อยู่แล้ว 132 00:21:53,897 --> 00:21:58,235 แต่คนอาจจะประหลาดใจที่ได้รู้ว่า มันเคลื่อนไหวบนพื้นดินได้ดีไม่แพ้กัน 133 00:22:00,779 --> 00:22:05,659 ปีกแต่ละข้างมีโครงเป็นกระดูกที่ยาวเป็นพิเศษ 134 00:22:05,742 --> 00:22:07,286 จากนิ้วนางของมัน 135 00:22:08,245 --> 00:22:10,247 เมื่อพับปีกเก็บขึ้นไว้กับตัว 136 00:22:10,330 --> 00:22:13,667 มันจะสามารถเดินสี่ขาได้คล่องแคล่ว 137 00:22:25,387 --> 00:22:28,223 มันอุตส่าห์มาถึงนี่เพื่อจะทำรัง 138 00:22:35,689 --> 00:22:39,526 และเลือกทำรังบนดินพรุชื้นๆ 139 00:22:39,610 --> 00:22:43,197 ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ไข่เปลือกอ่อนแห้งไป 140 00:23:10,849 --> 00:23:13,560 สองใบแรกนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น 141 00:23:25,864 --> 00:23:29,910 ในช่วงสามสัปดาห์ข้างหน้า มันจะคอยเฝ้ารังที่ยังเปิดโล่ง… 142 00:23:37,000 --> 00:23:40,796 และวางไข่เพิ่มครั้งละสองใบ ทุกๆ สองสามวัน 143 00:23:50,764 --> 00:23:54,434 การวางไข่แต่ละครั้ง ต้องใช้พลังและความพยายามอย่างหนัก 144 00:23:55,269 --> 00:23:58,939 เพราะแต่ละฟองขนาดใหญ่มาก อาจจะหนักได้ถึงหนึ่งกิโลกรัม 145 00:24:12,578 --> 00:24:16,331 ในที่สุดมันก็วางไข่เสร็จทั้งหมด ประมาณ 12 ใบ 146 00:24:19,501 --> 00:24:22,754 มันเอากิ่งไม้ใบหญ้ามาคลุมซ่อนรังเอาไว้ 147 00:24:34,725 --> 00:24:37,102 ทีนี้ มันต้องไปหาอะไรกิน 148 00:24:39,563 --> 00:24:44,651 บนเกาะนี้น่าจะมีอาหารพอให้ลูกๆ กิน ตอนที่ฟักออกจากไข่ 149 00:24:46,236 --> 00:24:51,366 แต่ไม่มีอะไรมากพอจะดับความหิวของมันเองได้ 150 00:24:56,455 --> 00:25:00,083 มันต้องไปล่าเหยื่อที่อื่น 151 00:25:02,127 --> 00:25:07,674 และหวังว่าจุดวางไข่ห่างไกลตรงนี้ จะทำให้ลูกที่ยังไม่ฟักออกมาปลอดภัย 152 00:25:07,758 --> 00:25:09,176 ระหว่างที่มันไม่อยู่ 153 00:25:29,363 --> 00:25:32,741 เควทซอลโคแอทลัสตัวเมียอีกตัว ที่แก่ประสบการณ์กว่ามากโผล่มา 154 00:25:45,963 --> 00:25:49,675 มันก็กำลังหาที่ปลอดภัยเพื่อจะวางไข่เช่นกัน 155 00:25:52,010 --> 00:25:57,516 และที่เกาะนี้อาจมีอาหารไม่พอที่จะ เลี้ยงลูกที่เพิ่งออกจากไข่ทั้งสองรัง 156 00:25:58,851 --> 00:26:01,228 แต่มีวิธีแก้ปัญหานั้นได้ง่ายๆ 157 00:26:12,281 --> 00:26:15,492 ถึงยังไง ไข่ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ 158 00:26:43,145 --> 00:26:45,480 เจ้าของรังกลับมาแล้ว 159 00:27:24,728 --> 00:27:27,231 ผู้อาวุโสถูกไล่จนต้องหนีไป 160 00:27:35,155 --> 00:27:37,866 แต่รังของสาวก็พังไปแล้ว 161 00:28:01,932 --> 00:28:06,603 จากไข่จำนวนหนึ่งโหล ตอนนี้เหลือแค่สามใบ 162 00:28:12,860 --> 00:28:18,615 ชะตาของฤดูผสมพันธุ์ครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับไข่แสนเปราะบางแค่สามใบ 163 00:28:23,579 --> 00:28:28,750 มันจะพยายามปกป้องไข่ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ จนกว่าจะถึงเวลาฟักตัวในอีกสองสามเดือน 164 00:28:31,795 --> 00:28:35,966 แต่หลังจากนั้น ลูกๆ จะต้องดูแลตัวเอง 165 00:28:42,723 --> 00:28:44,975 เมื่อแม่น้ำไหลสู่ทะเล 166 00:28:45,058 --> 00:28:51,273 มันจะซัดเศษหินดินทรายและกรวดเป็นพันล้านตัน หรือบางทีก็ซัดไปได้แม้แต่หินก้อนใหญ่ 167 00:28:54,443 --> 00:28:58,197 เศษหินดินทรายละเอียดอาจถูกพัดไปได้ ไกลนับหลายร้อยกิโลเมตร 168 00:28:58,280 --> 00:29:01,283 แต่ยิ่งแม่น้ำกว้างเท่าไหร่ มันยิ่งไหลเอื่อยลง 169 00:29:02,868 --> 00:29:07,122 และสารแขวนลอยทั้งหลาย จะเริ่มตกตะกอนลงไปบ้าง 170 00:29:13,629 --> 00:29:18,425 สัตว์ซึ่งมีบรรพบุรุษมาจากทะเลเริ่มปรากฏตัวขึ้น 171 00:29:24,264 --> 00:29:25,265 ปู 172 00:29:30,020 --> 00:29:33,273 ในบางที่อาจมีปูอยู่หนาแน่น ถึงตารางเมตรละสิบๆ ตัว 173 00:29:48,080 --> 00:29:50,832 เจ้านี่คือมาซีคาซอรัส 174 00:29:51,667 --> 00:29:53,919 ตัวเมีย ยาวกว่า 180 เซนติเมตร 175 00:29:54,002 --> 00:29:56,839 และมันก็มีฟันคมกริบราวเข็มเต็มปาก 176 00:29:59,383 --> 00:30:03,679 เหมาะกับการเคี้ยวเหยื่อกินยากที่มีขายุ่บยั่บ 177 00:30:23,073 --> 00:30:28,370 เปลือกปูอาจจะแข็ง แต่ปูก็มีโปรตีนเยอะ 178 00:30:31,748 --> 00:30:34,209 เป็นโอกาสดีเกินจะปล่อยให้หลุดไป 179 00:30:44,845 --> 00:30:46,430 และไม่ใช่โอกาสของมันตัวเดียว 180 00:30:51,852 --> 00:30:53,562 มันมีลูกเล็กๆ สามตัวด้วย 181 00:30:57,024 --> 00:30:59,359 แต่ละตัวสูงแค่ประมาณ 10 เซนติเมตร 182 00:31:03,197 --> 00:31:06,533 และยังไม่พร้อมจะจัดการปูตัวใหญ่ 183 00:31:15,167 --> 00:31:18,003 พวกมันยังต้องพึ่งอาหารที่แม่กินเหลือ 184 00:31:23,759 --> 00:31:27,346 แต่เด็กบางตัวก็พัฒนาทักษะการล่าเร็วกว่าตัวอื่น 185 00:31:37,397 --> 00:31:38,565 น่าลองสุดๆ 186 00:31:45,489 --> 00:31:48,242 ถ้าเป็นปูตัวเล็กๆ มันจะสามารถกลืนไปได้ทั้งตัว 187 00:31:54,456 --> 00:32:00,087 แต่แย่หน่อยที่เจ้าปูตัวจิ๋ว ได้ความไวเร็วจี๋มาชดเชยขนาดตัว 188 00:32:18,105 --> 00:32:21,775 อย่าให้เจ้าตัวเล็กไปเล่นไกลนักจะดีกว่า 189 00:32:45,299 --> 00:32:48,886 บีลซีบูโฟ คางคกปีศาจ 190 00:32:50,721 --> 00:32:54,183 หนึ่งในสัตว์พันธุ์กบ ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีในโลก 191 00:33:05,861 --> 00:33:09,323 มันจะไม่ต้องกินอะไรไปอีกทั้งเดือน 192 00:33:19,208 --> 00:33:22,252 สันทรายเหล่านี้อาจเป็นที่หากินอุดมสมบูรณ์ 193 00:33:22,336 --> 00:33:25,923 แต่การอาศัยอยู่ที่นี่ก็มีอันตรายเช่นกัน 194 00:33:35,140 --> 00:33:38,477 น้ำจากแม่น้ำเริ่มใกล้ทะเลเข้าไปทุกที 195 00:33:42,022 --> 00:33:45,859 ตอนนี้ถ้าใครจะมาชิม คงเริ่มได้รสเกลือปะแล่มๆ แล้ว 196 00:33:53,700 --> 00:33:54,868 ยามน้ำขึ้น 197 00:33:54,952 --> 00:33:59,289 จะมีแขกจากทะเลเข้ามาสำรวจทางน้ำเหล่านี้ 198 00:34:35,909 --> 00:34:37,661 อีลาสโมซอร์ 199 00:34:39,830 --> 00:34:43,333 ที่จริงพวกมันเป็นสัตว์เลื้อยคลานทะเล 200 00:34:45,793 --> 00:34:50,215 แต่บางตัวก็แวะเข้ามาแถวปากน้ำ เพื่อจะสำรวจทางน้ำกร่อย 201 00:35:29,296 --> 00:35:32,007 ตรงนี้ สารแขวนลอยเป็นล้านๆ ตันในแม่น้ำ 202 00:35:32,090 --> 00:35:35,636 จะถูกซัดมาลงทะเล 203 00:35:41,391 --> 00:35:45,604 ต้องใช้เวลาสักระยะกว่าน้ำจากแม่น้ำ จะผสมเข้ากับน้ำจากมหาสมุทร 204 00:35:45,687 --> 00:35:48,607 และน้ำจากสองแหล่งจะไหลคู่ขนานกันไปพักใหญ่ 205 00:35:51,485 --> 00:35:52,486 ถึงอย่างนั้น 206 00:35:52,569 --> 00:35:57,533 จะมีฝูงปลามากมายพากันมา กินสารอาหารที่ได้จากแหล่งน้ำตรงนี้ 207 00:36:01,662 --> 00:36:06,625 ความขุ่นจากสารแขวนลอย ช่วยทำให้มองไม่เห็นปลาหากมองจากระยะไกล 208 00:36:09,670 --> 00:36:14,550 แต่เหล่าอีลาสโมซอร์ไม่เคยลังเล ที่จะว่ายเข้ามาในเขตน้ำขุ่นคลั่ก 209 00:36:14,633 --> 00:36:16,218 เพื่อมาล่าเหยื่อ 210 00:36:35,779 --> 00:36:37,990 ปลาไม่มีทางหนีไปไหนพ้น… 211 00:36:45,706 --> 00:36:47,791 ต่อให้โผเหนือน้ำก็ไม่รอด 212 00:37:07,936 --> 00:37:12,441 อีลาสโมซอร์เหล่านี้ คอยรับของขวัญที่แม่น้ำมอบให้เป็นครั้งสุดท้าย 213 00:37:12,524 --> 00:37:19,198 ก่อนที่ร่องรอยน้ำจืดจะจางหาย ผสมไปในมหาสมุทรแห่งโลกดึกดำบรรพ์ 214 00:37:31,543 --> 00:37:33,587 ตอนหน้า ในรายการ Prehistoric Planet 215 00:37:33,670 --> 00:37:38,008 ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก ต้องถูกทดสอบถึงขีดสุด 216 00:37:38,091 --> 00:37:40,093 เมื่อพวกมันต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด 217 00:37:40,802 --> 00:37:44,932 ศัตรูคู่อาฆาตต้องสู้กันเอง และสู้กับพายุหิมะโหมกระหน่ำ 218 00:37:46,141 --> 00:37:49,978 และไดโนเสาร์มีขน ครองโลกน้ำแข็งเย็นยะเยือก 219 00:37:50,646 --> 00:37:53,649 หากสนใจหลักวิทยาศาสตร์ เบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้ 220 00:37:53,732 --> 00:37:58,070 เชิญอ่านข้อมูลต่อได้เลยใน เว็บเพจของรายการ Prehistoric Planet 221 00:39:26,283 --> 00:39:28,285 คำบรรยายโดย ปัทมวรรณ บูรณมาตร์