1 00:00:11,678 --> 00:00:15,182 (พิธีกร) (เดวิด แอทเทนโบโรห์) 2 00:00:16,517 --> 00:00:21,563 แน่นอนว่าหนึ่งในสัตว์มหัศจรรย์ที่สุด ซึ่งเคยเดินบนผืนโลก 3 00:00:22,105 --> 00:00:26,318 และหนึ่งในตัวที่โด่งดังที่สุดคือ ไดโนเสาร์พันธุ์หนึ่ง 4 00:00:27,361 --> 00:00:29,613 ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ 5 00:00:30,656 --> 00:00:35,202 สัตว์ซึ่งจุดประกายจินตนาการให้เราทุกคน 6 00:00:35,285 --> 00:00:38,247 มันเป็นสัตว์แบบไหนกัน 7 00:00:38,330 --> 00:00:41,542 หน้าตาของมันเป็นอย่างไร มันใช้ชีวิตอย่างไร 8 00:00:41,625 --> 00:00:45,587 ตอนนี้ งานวิจัยค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ สามารถตอบคำถามนั้นได้แล้ว 9 00:00:45,671 --> 00:00:47,923 และไม่เพียงแต่ตอบคำถามเรื่องที. เร็กซ์ 10 00:00:48,006 --> 00:00:51,343 แต่รวมไปถึงสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งอยู่ร่วมโลกในยุคเดียวกับมัน 11 00:00:51,426 --> 00:00:58,016 และเทคโนโลยีในการสร้างภาพล้ำสมัย ช่วยให้เราคืนชีวิตให้ทุกสิ่งได้ 12 00:01:01,436 --> 00:01:05,440 ดาวโลกของเรา เมื่อ 66 ล้านปีก่อน 13 00:01:13,949 --> 00:01:17,494 ท้องฟ้าเต็มไปด้วยยักษ์บินได้ 14 00:01:20,038 --> 00:01:24,084 ในทะเลก็มีสัตว์เลื้อยคลานมหึมา คอยลาดตระเวนห้วงทะเลลึก 15 00:01:26,128 --> 00:01:29,256 บนแผ่นดิน ไดโนเสาร์ทุกสายพันธุ์ 16 00:01:30,465 --> 00:01:33,218 ต่างกำลังดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด 17 00:01:39,391 --> 00:01:45,689 ตอนนี้เรามีความรู้เพิ่มขึ้นมาก เกี่ยวกับโลกซึ่งครองโดยไดโนเสาร์ 18 00:01:49,651 --> 00:01:52,196 และนี่คือเรื่องราวเหล่านั้น 19 00:02:05,167 --> 00:02:10,631 (ป่า) 20 00:02:14,468 --> 00:02:20,224 ป่าในอเมริกาใต้ มีต้นไม้ที่สูงที่สุดในโลกอยู่ส่วนหนึ่ง 21 00:02:24,603 --> 00:02:28,023 ต้นไม้เหล่านั้นอาจจะสูงได้เกินกว่า 90 เมตร 22 00:02:33,570 --> 00:02:36,573 แต่ที่นี่ก็มีสัตว์ยักษ์อยู่เช่นกัน 23 00:03:01,098 --> 00:03:03,433 ไดโนเสาร์กินพืช 24 00:03:11,108 --> 00:03:13,694 เจ้าพวกนี้ชื่อออสโตรโพไซดอน 25 00:03:14,278 --> 00:03:16,738 แต่ละตัวสูงเกือบ 25 เมตร 26 00:03:27,499 --> 00:03:30,043 และเป็นสัตว์ที่กินเก่งอย่างมโหฬาร 27 00:03:32,838 --> 00:03:36,758 ฟันของมันไม่ได้มีไว้เคี้ยว 28 00:03:37,342 --> 00:03:39,011 แต่มีไว้ตัดใบไม้ 29 00:03:44,349 --> 00:03:50,522 ฝูงแบบนี้อาจกินต้นไม้ใบหญ้าได้ถึง วันละสิบตัน 30 00:03:55,402 --> 00:04:01,450 พวกมันชอบกินใบไม้อ่อนที่ งอกอยู่ตามปลายกิ่งหรือยอดไม้ 31 00:04:03,035 --> 00:04:06,872 แต่ถ้าเจอต้นไหนที่สูงกว่าตัวพวกมัน 32 00:04:06,955 --> 00:04:08,498 มันก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ 33 00:04:21,386 --> 00:04:25,933 มันจะใช้น้ำหนักของตัว พร้อมกับกระดูกหน้าอกหนากว่า 20 เซนติเมตร 34 00:04:26,016 --> 00:04:29,144 ผลักต้นไม้ให้ล้มง่ายๆ เสียอย่างนั้น 35 00:05:03,095 --> 00:05:04,263 สำเร็จ 36 00:05:07,432 --> 00:05:10,477 แต่ชีวิตในป่าก็เป็นชีวิตที่ต้องสู้อยู่เสมอ 37 00:05:12,271 --> 00:05:15,399 โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดพื้นที่ใหม่แบบนี้ 38 00:05:33,333 --> 00:05:36,211 พืชพันธุ์ต่างแข่งกันงอกหาแสง… 39 00:05:38,255 --> 00:05:42,467 และใช้ทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะ 40 00:05:51,852 --> 00:05:55,063 ช่องว่างในผืนป่าถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว 41 00:06:01,153 --> 00:06:05,782 พื้นที่บนบกมากกว่าสามในสี่ ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้า 42 00:06:09,870 --> 00:06:13,832 โลกดึกดำบรรพ์เป็นโลกที่เขียวชอุ่ม 43 00:06:18,086 --> 00:06:21,882 ไดโนเสาร์หลายสปีชีส์ใช้ชีวิตอยู่ในป่า 44 00:06:25,052 --> 00:06:29,890 ไตรเซราทอปส์ หนึ่งในพันธุ์ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ 45 00:06:35,646 --> 00:06:38,065 ขนาดของมันอาจจะยาวได้ถึงแปดเมตร 46 00:06:43,111 --> 00:06:47,866 กระบังขนาดใหญ่บนหัว มีไว้ป้องกันตัวเองเวลาต่อสู้ 47 00:06:52,246 --> 00:06:54,665 แต่พืชก็มีเกราะป้องกันตัวเหมือนกัน 48 00:07:00,337 --> 00:07:02,005 สารพิษ 49 00:07:09,721 --> 00:07:12,724 สารเหล่านั้นอันตรายเป็นพิเศษต่อไดโนเสาร์เด็ก 50 00:07:15,936 --> 00:07:20,774 เจ้าลูกไตรเซราทอปส์ตัวนี้ เพิ่งมีขนาดหนึ่งใน 50 เท่าของแม่ 51 00:07:23,861 --> 00:07:28,198 และพิษจากพืชนั้นอาจทำให้มันป่วยหนักได้ 52 00:07:38,959 --> 00:07:43,088 แต่ไตรเซราทอปส์มีวิธีจัดการพิษพวกนี้ 53 00:07:44,965 --> 00:07:47,092 มันมียาถอนพิษ 54 00:07:54,057 --> 00:07:59,104 แหล่งยาถอนพิษแหล่งหนึ่งอยู่ในถ้ำ ซึ่งพวกมันไปเยือนบ่อยๆ 55 00:08:14,786 --> 00:08:19,124 แต่เจ้าวัยใสตัวนี้ไม่เคยมาที่นี่ 56 00:08:41,897 --> 00:08:44,232 พวกมันต้องค่อยๆ ลัดเลาะเข้าไปตามทางในถ้ำ 57 00:08:44,316 --> 00:08:49,363 ซึ่งถูกกัดเซาะโดยแม่น้ำใต้ดิน ผ่านเวลาหลายพันปี 58 00:09:09,800 --> 00:09:13,178 ตอนนี้มันเข้ามาลึกถึงจุดที่ไม่มีแสงสว่างแล้ว 59 00:09:15,806 --> 00:09:17,641 มันมองอะไรไม่เห็นเลย 60 00:09:23,146 --> 00:09:25,983 เจ้าตัวน้อยต้องพยายามอยู่ใกล้ๆ ผู้ใหญ่ 61 00:09:34,741 --> 00:09:36,243 แต่อย่าใกล้เกิน 62 00:09:56,889 --> 00:10:01,101 ทีนี้ ถ้าเลี้ยวผิดแม้แต่จุดเดียวก็อาจเป็นหายนะได้ 63 00:10:40,432 --> 00:10:44,394 ในที่สุดทั้งฝูงก็มาถึงจุดที่ตั้งใจไว้ 64 00:10:54,821 --> 00:10:59,535 นี่คือยาถอนพิษ ดินชนิดพิเศษ 65 00:11:02,621 --> 00:11:07,751 เขาเรียกกันว่าดินโป่ง และเจ้าฝูงนี้จะมาตรงนี้เป็นประจำ 66 00:11:28,188 --> 00:11:30,190 แต่มีใครสักคนหายไป 67 00:11:36,613 --> 00:11:38,240 ลูกไปอยู่ที่ไหน 68 00:12:06,351 --> 00:12:08,729 โชคยังเข้าข้างเจ้าตัวน้อยตัวนี้ 69 00:12:24,786 --> 00:12:27,331 เมื่อกินดินเข้าไปเคลือบกระเพาะ 70 00:12:27,414 --> 00:12:32,503 เขาก็จะได้มีภูมิคุ้มกันพิษจากใบไม้ที่กินเข้าไป 71 00:12:37,508 --> 00:12:42,054 อีกเดี๋ยว ทุกตัวจะมุ่งหน้ากลับออกจากถ้ำ ไปสู่ป่าและแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ 72 00:12:47,309 --> 00:12:50,354 อันที่จริง แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ 73 00:12:50,437 --> 00:12:53,524 แทบจะส่องมาไม่ถึงพื้นป่าทึบเหล่านี้เลย 74 00:12:55,567 --> 00:12:56,693 ในป่าพาทาโกเนีย 75 00:12:56,777 --> 00:13:01,156 พืชพันธุ์ที่ขึ้นกันหนาแน่น เบียดจนแทบไม่มีที่ว่างนับได้หลายร้อยกิโลเมตร 76 00:13:04,701 --> 00:13:09,414 แต่นานๆ ทีจะเจอช่องว่างปริศนาเช่นช่องนี้ 77 00:13:28,475 --> 00:13:35,107 นั่นเป็นผลงานของเจ้าคาร์โนทอรัส หนักสองตัน สูง 3.65 เมตร ตัวผู้ 78 00:13:39,862 --> 00:13:43,574 มันเก็บกวาดพื้นที่ส่วนนี้อยู่นานมาก 79 00:13:46,285 --> 00:13:50,372 และยังต้องใส่ใจอยู่เสมอ หากจะยังรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยไว้ 80 00:13:58,005 --> 00:14:01,884 นี่คือเวทีซึ่งทำไว้อวดตัวเมีย 81 00:14:05,220 --> 00:14:08,807 ทุกอย่างพร้อมแล้ว และมันก็ประกาศให้โลกรู้ 82 00:14:22,321 --> 00:14:24,156 เสียงเพรียกหาคู่ของมันมีความถี่ต่ำ 83 00:14:24,239 --> 00:14:27,284 นั่นทำให้เสียงดังได้ไกลในป่าดงทึบแบบนี้ 84 00:14:27,367 --> 00:14:29,494 มากกว่าเสียงร้องแหลมสูง 85 00:14:53,143 --> 00:14:56,230 ในที่สุดก็มีตัวเมียมาหนึ่งตัว 86 00:15:04,196 --> 00:15:07,824 ตัวเมียซึ่งขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ และแข็งแกร่งกว่าด้วย 87 00:15:22,214 --> 00:15:25,509 ตอนนี้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน มันต้องเอาชนะใจนางให้ได้ 88 00:15:30,305 --> 00:15:33,016 และอาจจะมีโอกาสแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว 89 00:15:36,645 --> 00:15:38,689 นางจับตาดูอยู่อย่างพินิจพิจารณา 90 00:15:42,901 --> 00:15:44,778 ถ้าอยากเอาชนะใจสาว 91 00:15:45,529 --> 00:15:49,032 มันต้องใช้ท่วงท่าซึ่งประหลาดมหัศจรรย์ที่สุด 92 00:15:59,710 --> 00:16:03,881 มันไม่ได้มีเขายิ่งใหญ่ หรือหางโตพิเศษกว่าใคร 93 00:16:06,216 --> 00:16:11,263 แต่ว่ามีแขนจิ๋วๆ ที่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ 94 00:16:15,434 --> 00:16:18,812 แล้วแขนแต่ละข้างก็มีข้อต่อแบบเบ้าที่ฐาน 95 00:16:18,896 --> 00:16:22,566 ซึ่งทำให้สามารถขยับแขนแต่ละข้างได้อิสระ 96 00:16:51,595 --> 00:16:52,721 วันนี้ชวด 97 00:17:00,020 --> 00:17:03,398 จะทำอีท่าไหนให้เลิศกว่านี้ได้อีก 98 00:17:08,694 --> 00:17:12,366 แต่ตอนนี้ก็กลับไปเก็บขยะต่อก่อน 99 00:17:20,582 --> 00:17:23,001 ที่นี่คือเอเชียตะวันออก 100 00:17:27,422 --> 00:17:31,677 ในป่าบนเทือกเขาเหล่านี้ ฤดูใบไม้ร่วงจะมาเร็วกว่าที่อื่น 101 00:17:37,516 --> 00:17:40,853 นี่เป็นจังหวะที่ต้นไม้ส่วนใหญ่ออกผลกัน 102 00:17:44,857 --> 00:17:49,987 และผลซึ่งล้ำค่าที่สุดชนิดหนึ่ง คือเมล็ดของต้นแปะก๊วย 103 00:17:56,952 --> 00:18:01,498 เหมือนเป็นขุมทรัพย์ของไดโนเสาร์ พันธุ์ที่ชื่อโครีโธแรปเตอร์ 104 00:18:06,211 --> 00:18:09,256 ถึงพวกมันจะมีขนแต่ก็บินไม่ได้ 105 00:18:13,552 --> 00:18:17,389 โครีโธแรปเตอร์กลุ่มนี้เจอ หย่อมที่มีผลแปะก๊วยตกลงมาเยอะมาก 106 00:18:18,974 --> 00:18:22,978 แต่การมารวมตัวกันแบบนี้ มักจะเรียกความสนใจแบบที่มันไม่ต้องการ 107 00:18:28,358 --> 00:18:33,447 เฉียนโจวซอรัส นักล่าตัวเอ้ที่สุดของป่าทวีปเอเชีย 108 00:18:40,829 --> 00:18:43,832 ตัวนี้เป็นตัวเมีย ลำตัวยาวถึงเก้าเมตรกว่า 109 00:18:48,587 --> 00:18:53,091 ถ้ามันอยากจะจับโครีโธแรปเตอร์ให้ได้ จะต้องเข้าไปใกล้กว่านี้ 110 00:19:01,183 --> 00:19:03,143 แถวนี้ไม่ค่อยมีที่กำบังเท่าไหร่ 111 00:19:08,232 --> 00:19:12,361 แต่เหยื่อของมันก็ยังไม่ทันสังเกตอยู่ดี 112 00:20:02,494 --> 00:20:04,037 พลาดเสียแล้ว 113 00:20:04,121 --> 00:20:05,873 แต่การล่าส่วนใหญ่ 114 00:20:05,956 --> 00:20:10,252 ในประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ล้มเหลวมากกว่าที่จะสำเร็จ 115 00:20:18,343 --> 00:20:20,596 ยิ่งฤดูกาลนำมาซึ่งลมพัดแรง 116 00:20:20,679 --> 00:20:25,726 ต้นไม้ส่วนใหญ่ในป่าโปร่งแห่งนี้จะเริ่มผลัดใบ 117 00:20:29,688 --> 00:20:32,274 ฤดูหนาวจะเป็นช่วงเวลาลำบาก 118 00:20:38,155 --> 00:20:43,160 ถึงอย่างนั้น พายุก็ช่วยเปิดโอกาสเล็กๆ ให้นักล่า 119 00:20:45,746 --> 00:20:47,247 มันกำลังจะลองใหม่ 120 00:20:51,710 --> 00:20:57,341 อากาศครึ้มช่วยให้มันแฝงตัวได้เนียนยิ่งขึ้น และเสียงลมพัดแรงก็ช่วยดึงความสนใจได้ดี 121 00:21:48,642 --> 00:21:50,811 รางวัลใหญ่ขนาด 36 กิโลกรัม 122 00:21:53,981 --> 00:21:57,985 รางวัลที่ยิ่งมีค่า เมื่อฤดูหนาวใกล้เข้ามาทุกที 123 00:22:06,618 --> 00:22:08,662 ในป่าที่อเมริกาเหนือ 124 00:22:09,246 --> 00:22:14,626 พวกที่อาศัยอยู่ในป่า จะต้องเจอกับภัยประจำปีเพิ่มจากที่อื่น 125 00:22:24,928 --> 00:22:28,974 ไฟป่าที่เกิดจากฟ้าผ่า 126 00:22:38,150 --> 00:22:43,363 ยิ่งไฟป่ากินวงกว้าง อุณหภูมิยิ่งพุ่งสูง เกินกว่า 1,000 องศาเซลเซียส 127 00:22:57,628 --> 00:23:01,048 เปลวไฟลุกโชนเสียดฟ้าสูงขึ้นไปเป็นร้อยเมตร 128 00:23:16,146 --> 00:23:17,814 สัตว์ส่วนใหญ่จะหนีจากไฟ 129 00:23:19,942 --> 00:23:24,154 แต่เจ้าเอ็นมอนโทซอรัสตัวเมียนี้ มีครอบครัวที่ต้องดูแล 130 00:23:26,573 --> 00:23:28,242 มันไม่ได้ทิ้งลูก 131 00:23:30,327 --> 00:23:35,791 ทีนี้พวกมันจะต้องหาทางหลบไฟให้ได้ จนกว่ามันจะดับไปเอง 132 00:23:47,302 --> 00:23:50,264 ภาพนี้อาจดูเหมือนหายนะ 133 00:23:57,312 --> 00:24:01,316 แต่น่าทึ่งมากที่พืชบางชนิดจะต้องถูกเผา 134 00:24:01,400 --> 00:24:04,027 จึงจะครบรอบวงจรชีวิตได้ 135 00:24:08,240 --> 00:24:12,911 ลูกสนโบราณจำเป็นต้อง ถูกเผาด้วยความร้อนแรงกล้า 136 00:24:15,372 --> 00:24:17,249 จึงจะเปิดและปล่อยเมล็ดออกมา 137 00:24:28,260 --> 00:24:31,597 และหลังจากไฟดับไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง 138 00:24:33,348 --> 00:24:36,101 สัตว์ต่างๆ ก็เริ่มกลับมา 139 00:24:39,980 --> 00:24:42,316 แมลงวงศ์ด้วงจะกลับมาเป็นกลุ่มแรกๆ 140 00:24:45,736 --> 00:24:47,696 มันจะเริ่มวางไข่ทันที 141 00:24:49,156 --> 00:24:52,618 เมื่อไข่ฟักเป็นตัว หนอนด้วงจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้อิ่มหนำ 142 00:24:52,701 --> 00:24:56,121 กับท่อนไม้ตายซากซึ่งเกลื่อนกลาดแทบไม่จำกัด 143 00:25:06,757 --> 00:25:10,260 เจ้าอาโทรซิแรปเตอร์ก็เป็นนักฉวยโอกาส 144 00:25:18,227 --> 00:25:21,939 รีบกลับเข้าพื้นที่ตอนที่ยังมีอาหารให้กิน 145 00:25:27,152 --> 00:25:29,530 และยังหาประโยชน์อย่างอื่น จากสถานการณ์นี้ได้อีก 146 00:25:40,332 --> 00:25:42,960 ควันไฟฆ่าแมลงได้ 147 00:25:47,214 --> 00:25:51,218 ดังนั้นจึงช่วยให้เจ้าตัวนี้ กำจัดปรสิตที่เกาะตามร่างกายได้ 148 00:25:57,224 --> 00:25:59,351 แต่ก็ต้องระวังเหมือนกัน 149 00:26:15,450 --> 00:26:18,537 แองไคโลซอร์ขนาดสองตัน 150 00:26:23,083 --> 00:26:26,920 มันก็กำลังมองหาอาหารที่น่ากิน หลังจากทั้งป่าถูกย่าง 151 00:26:36,096 --> 00:26:37,181 ถ่านไม้ 152 00:26:39,766 --> 00:26:45,230 มันจะเข้าไปผสมกับพิษจากพืชหลายชนิดในท้อง และแก้พิษเหล่านั้นได้ 153 00:26:57,242 --> 00:27:01,246 เจ้าเอ็ดมอนโทซอรัสตัวเมียนั้น กำลังจะออกจากป่าแล้ว 154 00:27:08,337 --> 00:27:12,716 ทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่มันก็พาลูกทั้งสองตัวหลบไฟได้อย่างปลอดภัย 155 00:27:27,189 --> 00:27:32,486 พวกมันต้องหาป่าเขียวแห่งใหม่ไว้หากิน จนกว่าพืชในป่านี้จะฟื้นตัวกลับมา 156 00:27:42,329 --> 00:27:46,750 แม้ไฟป่าจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ต้นไม้ก็ไม่ได้อยู่ยืนยงไปตลอดกาล 157 00:27:47,292 --> 00:27:52,422 เมื่อต้นไม้ตาย มันจะกลายเป็นอาหาร ของสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบโดยสิ้นเชิง 158 00:27:57,636 --> 00:28:02,057 ในยามกลางคืน สิ่งมีชีวิตบางชนิดก็โดดเด่นจนไม่น่าเชื่อ 159 00:28:05,936 --> 00:28:08,313 ที่พื้นป่านั้น… 160 00:28:11,525 --> 00:28:13,527 เห็ดรางอกขึ้นมา… 161 00:28:15,487 --> 00:28:17,739 และเริ่มเรืองแสง 162 00:28:25,831 --> 00:28:30,919 พวกมันสร้างแสงขึ้นมาจาก ปฏิกิริยาเคมีที่อยู่ในเนื้อเยื่อตัวเอง 163 00:28:35,048 --> 00:28:37,968 แต่สาเหตุที่มันเรืองแสงนั้นยังเป็นปริศนา 164 00:28:41,597 --> 00:28:44,266 อาจเป็นเพราะแสงจะล่อให้แมลงบินเข้ามา 165 00:28:44,349 --> 00:28:47,728 แล้วจะช่วยกระจายสปอร์ของเห็ดราเหล่านั้นได้ 166 00:28:56,236 --> 00:28:58,322 ที่เอเชียกลางแห่งนี้ 167 00:28:58,405 --> 00:29:03,076 ป่าในยามค่ำคืนเต็มไปด้วยเสียงประหลาด 168 00:29:09,791 --> 00:29:12,753 ซอโรพอดยักษ์กำลังหลับสนิท 169 00:29:19,259 --> 00:29:22,054 พวกมันมีถุงลมอยู่ในหัวและลำคอ 170 00:29:22,137 --> 00:29:26,350 ซึ่งช่วยลดน้ำหนักตัว แต่ก็ส่งผลขยายเสียงกรนของมันจนดังลั่นป่า 171 00:29:30,979 --> 00:29:33,398 แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะหลับใหล 172 00:29:37,569 --> 00:29:42,783 ถ้าเป็นสัตว์เล็ก การออกมาหากินในความมืด ก็ปลอดภัยกว่ายามกลางวัน 173 00:29:45,661 --> 00:29:50,791 เจ้าเธริซีโนซอรัสเหล่านี้ เพิ่งฟักจากไข่มาเมื่อหกเดือนก่อน 174 00:29:55,879 --> 00:30:00,634 ความยาวไม่ถึง 90 เซนติเมตร พวกมันเพิ่งโตได้หนึ่งในสิบของขนาดเต็มวัย 175 00:30:03,387 --> 00:30:08,892 กรงเล็บของมันอาจดูเหมือนกริช แต่ตอนนี้ใช้เป็นแค่ส้อมจิ้มผักเข้าปากมากกว่า 176 00:30:12,521 --> 00:30:15,315 เพราะเจ้าพวกนี้ก็เป็นตัวกินพืช 177 00:30:18,151 --> 00:30:23,907 แต่ป่าแห่งนี้ก็มีอาหารทุกรูปแบบ ถ้ารู้ว่าจะมองหาตรงไหน 178 00:30:26,076 --> 00:30:27,077 น้ำผึ้ง 179 00:30:29,371 --> 00:30:33,125 มันหยดลงมาจากรังผึ้งบนกิ่งไม้ 180 00:30:36,837 --> 00:30:41,091 ผึ้งมักจะทำรังในที่สูง ให้พวกสัตว์เดินเท้าเอื้อมไม่ถึง 181 00:30:42,801 --> 00:30:45,262 แต่รังนี้อยู่ต่ำกว่ารังผึ้งส่วนใหญ่ 182 00:30:47,764 --> 00:30:49,766 และมันก็เป็นโอกาสดีเกินห้ามใจ 183 00:31:08,410 --> 00:31:13,790 สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากไดโนเสาร์ส่วนใหญ่ คือเธริซีโนซอรัสเด็กๆ จะปีนต้นไม้ได้ 184 00:31:19,004 --> 00:31:21,798 ถึงพวกมันจะไม่ได้เชี่ยวชาญนักก็ตาม 185 00:31:55,791 --> 00:32:01,839 ผึ้งที่กำลังโมโหจะเล่นเวฟในรัง เพื่อเตือนให้ผู้บุกรุกถอยไปให้ห่าง… 186 00:32:08,387 --> 00:32:10,222 ไม่อย่างนั้นจะต้องเจอดี 187 00:32:39,543 --> 00:32:42,254 เธริซีโนซอรัสเต็มวัย 188 00:32:47,634 --> 00:32:53,098 ตัวใหญ่มาก สูงเกือบสิบเมตรและหนักห้าตัน 189 00:33:13,118 --> 00:33:16,496 ไม่ว่าฝูงผึ้งจะทำอะไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเจ้าตัวนี้ได้ 190 00:33:35,015 --> 00:33:37,476 ในที่สุดก็ได้กินของดี 191 00:33:39,478 --> 00:33:42,564 และโดนต่อยเพิ่มอีกเล็กน้อย 192 00:33:57,871 --> 00:34:03,126 ต่อให้เป็นกลางวัน ใต้ร่มไม้ในป่าทึบก็ยังเป็นที่มืด 193 00:34:03,210 --> 00:34:05,546 เช่นป่าแห่งนี้ในยุโรป 194 00:34:09,174 --> 00:34:12,844 ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ยากที่จะแยกออกได้ 195 00:34:18,934 --> 00:34:20,811 แต่มันก็ยังแฝงตัวอยู่ทุกที่ 196 00:34:26,233 --> 00:34:29,485 เทลมาโทซอรัสแทบไม่เคยโผล่ออกจากที่ซ่อน 197 00:34:39,413 --> 00:34:42,123 และอีกตัวที่ซุ่มเก่งไม่แพ้กัน… 198 00:34:46,043 --> 00:34:47,420 ซัลม็อกซีส 199 00:34:49,965 --> 00:34:53,302 พันธุ์สุดท้าย จากสายเลือดไดโนเสาร์เก่าแก่โบราณมาก 200 00:34:56,929 --> 00:35:00,809 ป่าแห่งนี้เป็นหนึ่งใน ป้อมปราการที่เหลืออยู่ของพวกมัน 201 00:35:04,771 --> 00:35:10,944 ด้วยความสูงแค่ 18 เซนติเมตร ลูกซัลม็อกซีสเป็นแค่ของว่างของพวกนักล่า 202 00:35:11,695 --> 00:35:14,740 แต่ต่อให้เป็นแค่ของว่างก็ยังคุ้มที่จะกิน 203 00:35:16,533 --> 00:35:18,327 พวกมันจึงต้องระวังตัวแจ 204 00:35:48,524 --> 00:35:52,694 แฮทเซกอเทอริกซ์สูงสี่เมตรครึ่ง 205 00:36:03,247 --> 00:36:07,918 อันที่จริง เจ้าตัวนี้เป็นเทอโรซอร์ สัตว์เลื้อยคลานที่มีปีก 206 00:36:08,001 --> 00:36:12,965 ปีกซึ่งเมื่อมันเดินอยู่ในหมู่ไม้ตรงนี้ มันจะต้องพับไว้แนบตัว 207 00:36:25,227 --> 00:36:30,858 ป่าซึ่งอุดมไปด้วยสัตว์เล็กๆ แห่งนี้ เป็นหนึ่งในพื้นที่หากินประจำของมัน 208 00:36:38,991 --> 00:36:42,035 ป่าตั้งอยู่ที่ชายฝั่งใต้สุดของยุโรป 209 00:37:09,521 --> 00:37:12,691 นี่คือสัตว์บินได้ที่น้ำหนักตัวมากที่สุดในโลก 210 00:37:12,774 --> 00:37:17,738 และในป่านี้ไม่มีจุดอื่นแล้ว ที่มันจะสามารถกางปีกยักษ์ 211 00:37:17,821 --> 00:37:20,199 ซึ่งวัดแล้วกว้างถึงเกือบสิบเมตร 212 00:37:29,583 --> 00:37:34,296 ผู้อาศัยถาวรส่วนใหญ่ในป่านี้ มักจะมาที่ชายหาดกันเสมอ… 213 00:37:37,841 --> 00:37:40,928 เพราะพืชที่นี่จะมีละอองน้ำทะเลเคลือบใบ 214 00:37:41,762 --> 00:37:44,681 ทำให้เป็นแหล่งเกลือชั้นดี 215 00:38:10,707 --> 00:38:15,754 ที่นี่ เหล่าซอโรพอดจะออกมาพบปะ และเชื่อมสัมพันธ์ครอบครัวอีกครั้ง… 216 00:38:18,632 --> 00:38:20,634 พร้อมสร้างสัมพันธ์ครั้งใหม่ 217 00:38:34,565 --> 00:38:38,485 แต่สำหรับเจ้าแฮทเซกอเทอริกซ์ หาดแห่งนี้เป็นลานขึ้นบิน 218 00:38:54,001 --> 00:38:57,754 ทีนี้ ปีกของมันจะพาบินไปยังป่าอีกแห่ง 219 00:38:57,838 --> 00:39:02,509 ซึ่งสิ่งมีชีวิตล้วนแพร่ขยายพันธุ์ อย่างหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ 220 00:39:02,593 --> 00:39:07,181 ยิ่งกว่าที่ใดๆ ในโลกดึกดำบรรพ์ของเรา 221 00:39:22,112 --> 00:39:25,115 หากสนใจหลักวิทยาศาสตร์ เบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้ 222 00:39:25,199 --> 00:39:29,995 เชิญอ่านข้อมูลต่อได้เลยใน เว็บเพจของรายการ Prehistoric Planet 223 00:40:57,624 --> 00:40:59,626 คำบรรยายโดย ปัทมวรรณ บูรณมาตร์