1 00:00:05,985 --> 00:00:07,945 ‎(ผลงานซีรีส์จาก NETFLIX) 2 00:00:44,273 --> 00:00:49,153 ‎ด้วยแรงกระเหี้ยนกระหือรือ ‎อยากพิชิตญี่ปุ่นภาคกลาง 3 00:00:49,236 --> 00:00:53,324 ‎โนบุนากะจึงทำลายศัตรูมากมาย ‎ที่ประเมินเขาต่ำไป 4 00:00:54,075 --> 00:00:58,996 ‎การเปิดศึกเหี้ยมโหด ‎โค่นสถาบันทางศาสนาที่ทรงอำนาจ 5 00:00:59,080 --> 00:01:02,458 ‎ทำให้ประชาชนมากมายต่อต้านเขา 6 00:01:03,042 --> 00:01:07,004 ‎แม้แต่แม่ทัพบางคนของเขา ‎ก็เริ่มมีใจออกห่างโนบุนากะ 7 00:01:09,590 --> 00:01:10,716 ‎เมื่อไร้ผู้ขัดขวาง 8 00:01:10,800 --> 00:01:15,387 ‎ตอนนี้โนบุนากะจึงพุ่งเป้าไปที่ ‎กลุ่มต่อต้านบนเขาในจังหวัดอิงะ 9 00:01:15,471 --> 00:01:17,932 ‎ซึ่งไม่ยอมสยบใต้การปกครองของเขา 10 00:01:25,397 --> 00:01:29,693 ‎(จังหวัดอิงะ ญี่ปุ่นภาคกลาง) 11 00:01:40,538 --> 00:01:45,459 ‎นาน 150 ปีแล้วที่ ‎"กลุ่มต่อต้านแห่งอิงะ" ตามที่เรียกกัน 12 00:01:45,543 --> 00:01:51,549 ‎ปกครองตนเอง ปิดกั้นผู้บุกรุก ‎ไม่ให้เข้าเขตแดน ไม่ว่าจะเป็นใคร 13 00:02:01,559 --> 00:02:07,940 ‎กลุ่มนี้ประกอบด้วยคนตัดไม้ ชาวนา ชาวประมง 14 00:02:08,023 --> 00:02:11,402 ‎และผู้ยากไร้อื่นๆ ที่เลือกจะ 15 00:02:11,485 --> 00:02:15,447 ‎ดิ้นรนมีชีวิตบนแนวเขาเลียบจังหวัดอิงะ 16 00:02:20,077 --> 00:02:24,165 ‎พวกเขาใช้ชีวิตกลางหินผาที่มีเลือดเนื้อ 17 00:02:24,248 --> 00:02:28,502 ‎เติบโตขึ้นจากผืนดินแห้งผากอย่างทรหด 18 00:02:37,052 --> 00:02:40,139 ‎พวกเขารู้จักภูมิประเทศนี้ดีกว่าใคร 19 00:02:40,222 --> 00:02:43,642 ‎และสามารถเปิดศึกการรบแบบที่ ‎สมัยนี้เราเรียกว่าการรบแบบกองโจร 20 00:02:44,268 --> 00:02:47,229 ‎เพื่อรับมือใครก็ตาม ‎ที่กล้าย่างเท้าเข้าอาณาเขตของตน 21 00:03:14,048 --> 00:03:18,719 ‎พวกเขาถนัดวิธีการรบแบบไม่ธรรมดา 22 00:03:18,802 --> 00:03:22,014 ‎ซึ่งใช้เครื่องมือเท่าที่เขาหาได้ 23 00:03:22,097 --> 00:03:26,602 ‎ซึ่งเรื่องนี้เองทำให้เกิดตำนานนินจาแห่งอิงะ 24 00:03:30,105 --> 00:03:33,943 ‎คำว่า "นินจา" ซึ่งเราคุ้นเคยมากในปัจจุบัน 25 00:03:34,026 --> 00:03:38,405 ‎จริงๆ แล้วเป็นการอ่าน ‎การแสดงออกแบบญี่ปุ่นในแบบสมัยใหม่ 26 00:03:38,489 --> 00:03:39,949 ‎ซึ่งบอกเป็นนัยถึงความลึกลับ 27 00:03:40,032 --> 00:03:42,159 ‎และคำนี้ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ชิโนบิ 28 00:03:53,963 --> 00:03:57,800 ‎ชิโนบิที่ดีชำนาญแทบทุกด้าน 29 00:04:00,511 --> 00:04:01,637 ‎สายลับ... 30 00:04:03,305 --> 00:04:05,391 ‎การเก็บข้อมูลทุกรูปแบบ 31 00:04:10,729 --> 00:04:11,772 ‎และมือสังหาร 32 00:04:23,742 --> 00:04:26,161 ‎การฝึกฝนชิโนบิจะเริ่มตั้งแต่ยังเล็กมาก 33 00:04:27,830 --> 00:04:30,291 ‎แต่นอกจากฝึกศิลปะป้องกันตัวตามปกติแล้ว 34 00:04:30,374 --> 00:04:33,669 ‎ยังรวมถึงวิชาทำระเบิดด้วย 35 00:04:33,752 --> 00:04:36,839 ‎และในบางรายถึงกับมีฝีมือปรุงยาพิษ 36 00:04:41,844 --> 00:04:44,388 ‎ผู้หญิงจำนวนมากก็ได้รับการฝึกเป็นชิโนบิ 37 00:04:44,471 --> 00:04:46,682 ‎พูดอีกแบบคือ พวกเธอถูกฝึกให้เป็นสายลับ 38 00:04:46,765 --> 00:04:48,851 ‎นักฆ่า ผู้หาข่าว 39 00:04:49,977 --> 00:04:52,521 ‎พวกเธอสามารถแทรกซึม ‎เข้าไปในบ้านของเป้าหมาย 40 00:04:52,604 --> 00:04:55,024 ‎ซ่อนตัวได้ในที่โล่ง 41 00:04:55,107 --> 00:04:58,319 ‎พวกเธอถูกฝึกให้กลมกลืนกับสังคม 42 00:04:58,402 --> 00:05:01,905 ‎แต่เพื่อปฏิบัติงานของชิโนบิ 43 00:05:04,783 --> 00:05:08,370 ‎ชิโนบิหญิงคนหนึ่งชื่อ โมชิสึกิ ชิโยเมะ 44 00:05:08,454 --> 00:05:10,873 ‎เธอเองก็ผ่านการฝึกในหุบเขา 45 00:05:13,459 --> 00:05:16,670 ‎เธอจะเข้าหาผู้ชายเพื่อล้วงข้อมูล 46 00:05:19,673 --> 00:05:21,592 ‎ถ้าจำเป็นก็หลับนอนกับชายเหล่านั้น 47 00:05:25,554 --> 00:05:30,225 ‎บางครั้ง พวกเธอจะสังหารคนหลังได้ข้อมูลแล้ว 48 00:05:32,936 --> 00:05:35,647 ‎สรุปแล้วพวกเธอถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าด้วย 49 00:05:36,231 --> 00:05:38,484 ‎(แม่ทัพของตระกูลโอดะถูกลอบสังหาร ปี 1571) 50 00:05:38,567 --> 00:05:40,444 ‎ไม่ว่าคุณอยากเรียกพวกเขาว่าอะไร 51 00:05:40,527 --> 00:05:43,322 ‎ชิโนบิ นินจา หรือกลุ่มต่อต้าน 52 00:05:43,405 --> 00:05:47,284 ‎คนเหล่านี้พัฒนาฝีมือของตน 53 00:05:47,368 --> 00:05:50,537 ‎กลางหุบเขาในอิงะมาหลายร้อยปี 54 00:05:53,749 --> 00:05:58,295 ‎ชีวิตที่ยากลำบาก ‎หล่อหลอมชายและหญิงผู้แข็งแกร่ง 55 00:06:00,297 --> 00:06:06,136 ‎มือสังหาร สายลับและเหยี่ยวข่าวเหล่านี้ ‎ไม่ใช่คนที่เราจะมองข้ามได้ 56 00:06:06,220 --> 00:06:10,974 ‎เพราะแค่เงินไม่กี่เหรียญ พวกเขา ‎สามารถทำสิ่งที่ทั้งกองทัพทำไม่ได้ 57 00:06:20,901 --> 00:06:23,445 ‎และเพื่อตอกย้ำบาดแผลให้สาใจ 58 00:06:23,529 --> 00:06:28,575 ‎นักรบอิงะยังจู่โจม ‎อาณาเขตของตระกูลโอดะต่อไป 59 00:06:31,036 --> 00:06:36,083 ‎พวกเขาประกาศตัวตามรังควาน ‎ฝ่ายของโอดะ โนบุนากะ 60 00:06:36,166 --> 00:06:39,086 ‎เป็นกลุ่มคนที่โนบุนากะมุ่งมั่นจะกำจัดให้สิ้นซาก 61 00:06:40,629 --> 00:06:42,589 ‎ฆ่ามันให้หมดทุกคน 62 00:06:46,510 --> 00:06:48,679 ‎ไอ้พวกเน่าหนอน! 63 00:06:50,013 --> 00:06:51,223 ‎มันกล้าดียังไง 64 00:06:55,936 --> 00:06:58,272 ‎เอาสาเกมาให้ข้า 65 00:06:58,355 --> 00:07:01,650 ‎นอกจากพวกอิงะโจมตี ‎เส้นทางส่งข่าวของเขาแล้ว 66 00:07:01,733 --> 00:07:04,445 ‎จังหวัดเล็กๆ ของพวกเขายังอยู่ติดกับ 67 00:07:04,528 --> 00:07:08,782 ‎อาณาเขตของ โอดะ โนบุคัตสึ ‎ลูกชายของโนบุนากะ 68 00:07:10,742 --> 00:07:13,203 ‎สาเก เอาสาเกมาให้ข้า! 69 00:07:18,959 --> 00:07:23,755 ‎โอดะ โนบุคัตสึตัดสินใจทำลายพวกเขาแทนบิดา 70 00:07:25,757 --> 00:07:31,722 ‎แน่นอนว่า โนบุคัตสึโดดเด่น ‎น้อยกว่าพี่ชายของตนในหลายด้าน 71 00:07:33,682 --> 00:07:36,059 ‎โนบุคัตสึคงมองว่านี่เป็นโอกาส 72 00:07:36,143 --> 00:07:39,062 ‎ที่จะพิสูจน์คุณค่าของตนเองให้โนบุนากะเห็น 73 00:07:48,113 --> 00:07:50,616 ‎แผนของโอดะ โนบุคัตสึเรียบง่ายมาก 74 00:07:51,200 --> 00:07:54,828 ‎เขาจะแบ่งกองกำลังสามหน่วย ‎บุกอิงะสามช่องทาง 75 00:07:54,912 --> 00:07:58,248 ‎แล้วไปรวมพลกันเพื่อทำลายชาวบ้านกลุ่มนี้ 76 00:08:12,804 --> 00:08:15,349 ‎ยิ่งโนบุคัตสึใช้วิธีเดิม 77 00:08:15,432 --> 00:08:17,226 ‎เคลื่อนพลเข้าอิงะ 78 00:08:17,309 --> 00:08:20,812 ‎โดยคิดว่าคนเหล่านี้เป็นแค่พวกหลังเขา 79 00:09:09,111 --> 00:09:12,072 ‎ฝ่ายอิงะก็ยิ่งรู้แน่ชัดว่าพวกเขาจะไปอยู่จุดไหน 80 00:09:12,155 --> 00:09:15,242 ‎และจุดไหนที่เหมาะสำหรับการจู่โจม 81 00:09:16,577 --> 00:09:18,328 ‎ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการรบแบบกองโจร 82 00:09:18,412 --> 00:09:22,958 ‎พวกเขาไม่รีรอที่จะพลิกภูเขาในอิงะเป็นอาวุธ 83 00:09:35,512 --> 00:09:37,264 ‎เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น 84 00:09:37,347 --> 00:09:42,561 ‎กองกำลังของโนบุคัตสึ ‎พยายามจะตั้งค่ายเพื่อยิงตอบโต้ 85 00:09:42,644 --> 00:09:43,520 ‎บุก! 86 00:09:43,604 --> 00:09:45,772 ‎แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะยิงใคร 87 00:09:47,774 --> 00:09:52,738 ‎ตลอดเวลานั้น ฝ่ายอิงะ ‎เคลื่อนที่ไปมาหน้าหลังตลอดเวลา 88 00:10:06,918 --> 00:10:09,671 ‎ฉากแบบนี้ชวนสับสนที่สุด 89 00:10:13,050 --> 00:10:15,969 ‎ศึกครั้งนี้ไม่ใช่การรบ มันคือการโจมตีฝ่ายเดียว 90 00:10:16,595 --> 00:10:18,597 ‎ไม่มีระเบียบแบบแผน ไม่มีเป้าหมาย 91 00:10:20,182 --> 00:10:25,812 ‎ระหว่างการโจมตี นายพลคนหนึ่ง ‎ของโนบุคัตสึถูกสังหาร 92 00:10:31,109 --> 00:10:34,488 ‎โอดะ โนบุคัตสึอับอายถึงขีดสุด 93 00:10:34,571 --> 00:10:36,865 ‎เขาเลยสั่งให้ถอยทัพในทันที 94 00:10:42,287 --> 00:10:44,456 ‎และระหว่างทางกลับเข้าเมืองอิเสะ 95 00:10:44,539 --> 00:10:48,710 ‎พวกเขาโดนชาวบ้านคุกคามไปตลอดทาง 96 00:10:48,794 --> 00:10:52,255 ‎ชาวบ้านที่ไม่มีอาวุธก็คว้าหยิบไม้กับก้อนหิน 97 00:10:52,339 --> 00:10:56,468 ‎ทำร้ายทหารที่กำลังซมซานถอยทัพ 98 00:11:00,639 --> 00:11:03,809 ‎ทหารที่รอดชีวิตเร่งถอยทัพ 99 00:11:03,892 --> 00:11:07,229 ‎โดยไม่รู้ว่าตัวเองสู้กับใครหรืออะไร 100 00:11:28,333 --> 00:11:30,877 ‎เจ้าแพ้ชาวนาได้อย่างไร 101 00:11:30,961 --> 00:11:33,505 ‎เจ้าทำให้ชื่อของโอดะเสื่อมเสีย 102 00:11:38,635 --> 00:11:42,264 ‎ศึกครั้งนั้นคือหายนะแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 103 00:11:50,522 --> 00:11:51,523 ‎พอแล้ว 104 00:11:52,107 --> 00:11:52,983 ‎ออกไป 105 00:11:53,900 --> 00:11:57,696 ‎ถ้าฝ่ายศัตรูไม่ถูกลงโทษในครั้งนี้ 106 00:11:57,779 --> 00:11:59,865 ‎เป็นไปได้มากที่ 107 00:12:00,741 --> 00:12:03,744 ‎จะเกิดกบฏกลุ่มใหญ่กว่านี้ลุกฮือต่อต้านเขา 108 00:12:06,913 --> 00:12:10,542 ‎และเรารู้ดีว่าโนบุนากะโกรธมาก 109 00:12:10,625 --> 00:12:13,170 ‎พอที่จะคิดประหารโนบุคัตสึ 110 00:12:16,047 --> 00:12:17,758 ‎ข้าอยากให้เจ้าฆ่ามันให้หมด 111 00:12:18,842 --> 00:12:24,765 ‎แต่เขากลับมีแผนจะกวาดล้าง ‎ชาวอิงะให้หมดจากแผ่นดิน 112 00:12:30,854 --> 00:12:36,151 ‎ปี 1581 โนบุนากะเลือกแม่ทัพ ‎มากประสบการณ์ที่สุดห้านาย 113 00:12:36,234 --> 00:12:42,783 ‎สำหรับการบุกอิงะครั้งใหญ่ซึ่งแบ่งเป็นห้าทิศทาง 114 00:12:45,911 --> 00:12:49,706 ‎ชาวอิงะต้านทานเท่าที่ทำได้ 115 00:12:52,876 --> 00:12:56,463 ‎แต่ชาวอิงะไม่สามารถใช้วิธีเดิม 116 00:12:56,546 --> 00:12:59,132 ‎แบบที่เคยใช้เมื่อโนบุคัตสึบุก 117 00:12:59,925 --> 00:13:04,513 ‎พวกเขาไม่มีกำลังพล ‎จะซุ่มโจมตีกองทัพจากห้าทิศทาง 118 00:13:04,596 --> 00:13:07,098 ‎ทหารของโนบุนากะรุกคืบ 119 00:13:07,182 --> 00:13:10,393 ‎เผาทุกหมู่บ้าน เผาบ้านทุกหลังที่พบ 120 00:13:15,315 --> 00:13:18,318 ‎และสังหารทุกคนที่หลบภัย 121 00:13:23,114 --> 00:13:26,117 ‎จริงๆ แล้วนี่เหมือนเหตุการณ์ต่อสู้ ‎ระหว่างเดวิดกับโกไลแอธ 122 00:13:27,035 --> 00:13:29,287 ‎แต่ครั้งนี้โกไลแอธจะเป็นผู้ชนะ 123 00:13:29,996 --> 00:13:34,417 ‎ไม่ว่าชาย หญิง หรือเด็ก ‎ต่างก็ตายด้วยคมดาบหรือโดนไฟเผา 124 00:13:39,172 --> 00:13:43,927 ‎ถึงกับมีคำกล่าวว่าแทนที่จะให้ผู้เป็นที่รัก 125 00:13:44,010 --> 00:13:46,054 ‎ตกอยู่ในมือของศัตรู 126 00:13:46,137 --> 00:13:51,351 ‎ทหารอิงะจะฆ่าคนในครอบครัวเสียเอง ‎ก่อนที่จะฆ่าตัวตาย 127 00:13:53,478 --> 00:13:57,691 ‎ไม่ใช่แค่ปกป้องเกียรติของครอบครัว ‎แต่เพื่อรักษาความลับของตนด้วย 128 00:14:01,695 --> 00:14:03,572 ‎นี่คือสงครามล้างเผ่าพันธุ์ 129 00:14:03,655 --> 00:14:09,160 ‎จงใจทำลายทุกชีวิตในอิงะอย่างเป็นระบบ 130 00:14:10,704 --> 00:14:16,209 ‎โนบุนากะโดนหยามจนเกินที่เขาจะทนได้ 131 00:14:16,293 --> 00:14:20,714 ‎และคนทั้งจังหวัดนั้นจึงต้องชดใช้ด้วยชีวิต 132 00:14:28,513 --> 00:14:31,975 ‎หลังจากปราบอิงะได้ราบคาบ 133 00:14:33,560 --> 00:14:39,149 ‎ผมคิดว่าโอดะ โนบุนากะมาถึง ‎จุดสูงสุดของอำนาจและการปกครองแล้ว 134 00:14:41,902 --> 00:14:43,987 ‎(โมโมจิ ซันดะยู หัวหน้ากลุ่มกบฏอิงะ) 135 00:14:48,283 --> 00:14:53,455 ‎อีกอึดใจเดียวเขาก็จะ ‎รวมญี่ปุ่นทั้งประเทศเป็นหนึ่งเดียว 136 00:15:19,314 --> 00:15:23,443 ‎นอกจากเขาพิชิตบุคคลที่ ‎ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแล้ว 137 00:15:23,526 --> 00:15:25,862 ‎เขายังประกาศอำนาจของตนเอง 138 00:15:25,946 --> 00:15:29,824 ‎ด้วยการสร้างป้อมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในญี่ปุ่น 139 00:15:30,408 --> 00:15:32,702 ‎นั่นคือปราสาทอาซูจิ 140 00:15:35,497 --> 00:15:39,501 ‎หอกลางสูงเจ็ดชั้นของตัวปราสาท ‎เป็นการตกแต่งที่ใหม่แหวกแนว 141 00:15:41,044 --> 00:15:43,129 ‎แต่ละชั้นของหอกลางนี้ 142 00:15:43,213 --> 00:15:49,177 ‎มีการอ้างอิงถึงเทพเจ้า สัตว์ ‎หรือบุคคลทรงอำนาจแตกต่างกันไป 143 00:15:50,804 --> 00:15:52,973 ‎ดังนั้นเมื่อเราขึ้นไปที่หอกลาง 144 00:15:53,056 --> 00:15:56,101 ‎เราจะได้พบบุคคลที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ‎เรียกว่าอย่างนั้นก็ได้ 145 00:16:01,439 --> 00:16:05,151 ‎แต่ที่ชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของโนบุนากะ 146 00:16:05,235 --> 00:16:06,486 ‎ไม่มีเครื่องประดับอะไรเลย 147 00:16:08,363 --> 00:16:09,531 ‎นอกจากกระจกบานเดียว 148 00:16:10,532 --> 00:16:12,450 ‎ที่เดียวที่เขามองหน้าของตนเองได้ 149 00:16:25,463 --> 00:16:29,676 ‎เหมือนที่อเล็กซานเดอร์มหาราช ‎ยกตัวเองเป็นเทพกลางทะเลทรายของอียิปต์ 150 00:16:29,759 --> 00:16:33,430 ‎เชื่อกันว่าการที่โนบุนากะ ‎มีแต่กระจกนี้ประดับห้องส่วนตัว 151 00:16:33,513 --> 00:16:37,100 ‎ซึ่งเมื่อกระจกเป็นเครื่องหมายดั้งเดิม ‎ของเทพเจ้าในญี่ปุ่น 152 00:16:37,183 --> 00:16:39,310 ‎เขาน่าจะคิดว่าตัวเองคือเทพเจ้า 153 00:16:45,942 --> 00:16:48,570 ‎เขากลายเป็นผู้พิพากษาที่กระหายเลือด 154 00:16:48,653 --> 00:16:51,656 ‎ตะลุยทุกชนชั้น 155 00:16:52,407 --> 00:16:54,242 ‎บุกทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น 156 00:16:54,325 --> 00:16:57,245 ‎สร้างอำนาจให้ตนเอง 157 00:16:58,663 --> 00:17:01,666 ‎จากการเข่นฆ่าผู้อื่นอย่างเหี้ยมโหด 158 00:17:01,750 --> 00:17:06,087 ‎หลายคนในเกียวโต 159 00:17:06,171 --> 00:17:09,424 ‎มอบฉายาให้เขาว่า จอมมารแห่งสวรรค์ชั้นฟ้า 160 00:17:13,970 --> 00:17:15,805 ‎คุณมาถึงจุดที่ 161 00:17:15,888 --> 00:17:20,060 ‎คุณต้องก้าวลงจากอำนาจ 162 00:17:20,894 --> 00:17:22,936 ‎หรือเข่นฆ่าต่อไป 163 00:17:24,188 --> 00:17:26,691 ‎โนบุนากะเลือกอย่างหลัง 164 00:17:32,197 --> 00:17:33,031 ‎(ญี่ปุ่น ปี 1582) 165 00:17:33,114 --> 00:17:37,702 ‎จอมมารที่เรียกกันยังทำตามแผนโหดเหี้ยม ‎ขยายอาณาเขตต่อไป 166 00:17:37,786 --> 00:17:39,954 ‎และหันเหความสนใจไปที่เป้าหมายใหม่ 167 00:17:40,038 --> 00:17:44,793 ‎ตระกูลโมริที่ทรงอำนาจ ‎เจ้าปกครองอาณาเขตขนาดใหญ่ทางตะวันตก 168 00:17:44,876 --> 00:17:49,255 ‎เขาสั่งบริวารเก่าแก่และนายพลที่ไว้ใจได้ ‎โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ 169 00:17:49,339 --> 00:17:51,466 ‎โจมตีปราสาทสำคัญซึ่งเป็นฐานที่มั่นของโมริ 170 00:17:51,549 --> 00:17:52,467 ‎(ปราสาททาคามัตสึ) 171 00:17:52,550 --> 00:17:56,638 ‎นี่คือการเคลื่อนไหวที่จะ ‎มีผลเด่นชัดต่ออนาคตของชายสองคน 172 00:18:05,814 --> 00:18:07,649 ‎(โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ) 173 00:18:07,732 --> 00:18:10,610 ‎ในช่วงนั้น ฮิเดโยชิเป็นหนึ่งใน ‎แม่ทัพระดับสูงของโนบุนากะแล้ว 174 00:18:10,693 --> 00:18:13,071 ‎และเขาได้รับความไว้ใจให้นำศึกสู้กับ 175 00:18:13,154 --> 00:18:17,659 ‎ตระกูลโมริแห่งญี่ปุ่นภาคตะวันตก หนึ่งใน ‎ตระกูลไดเมียวที่ทรงอำนาจที่สุด 176 00:18:22,372 --> 00:18:27,127 ‎ฮิเดโยชิล้อมปราสาทแห่งหนึ่งของโมริ ‎ปราสาททาคามัตสึ 177 00:18:29,587 --> 00:18:33,550 ‎ประสาทแห่งนี้มีกำลังทหารประมาณ 5,000 นาย 178 00:18:33,633 --> 00:18:37,720 ‎ซึ่งถูกทหาร 30,000 นายของฮิเดโซชิล้อมไว้ 179 00:18:37,804 --> 00:18:44,519 ‎แต่เขาได้รับรายงานว่าฝ่ายโมริกำลังนำ ‎ไพร่พลมาสมทบกว่า 40,000 นาย 180 00:18:48,231 --> 00:18:50,733 ‎สถานการณ์นี้ทำให้ฮิเดโยชิตกอยู่ในอันตราย 181 00:18:52,694 --> 00:18:56,364 ‎ถ้ากำลังหนุนของโมริมาถึง 182 00:18:56,447 --> 00:18:58,575 ‎เขาจะติดอยู่ระหว่าง 183 00:18:58,658 --> 00:19:02,745 ‎ฝ่ายป้องกันปราสาทและตัวปราสาทเอง ‎กับกองหนุนของโมริ 184 00:19:14,549 --> 00:19:18,720 ‎ฮิเดโยชิส่งสารกลับไปที่โอดะ โนบุนากะ 185 00:19:18,803 --> 00:19:20,680 ‎เล่ารายละเอียดของสถานการณ์นี้ 186 00:19:20,763 --> 00:19:24,726 ‎และร้องขอให้โนบุนากะนำไพร่พลจำนวนมาก 187 00:19:24,809 --> 00:19:27,312 ‎รับมือกองหนุนของฝ่ายโมริที่กำลังใกล้เข้ามา 188 00:19:37,780 --> 00:19:41,451 ‎มิตสึฮิเดะส่งกองทหารของเจ้าไปช่วยฮิเดโยชิ 189 00:19:41,534 --> 00:19:42,744 ‎ข้าจะรีบตามไป 190 00:19:44,913 --> 00:19:47,624 ‎ด้วยความที่รู้ดีว่าสถานการณ์นี้ฉุกเฉิน 191 00:19:47,707 --> 00:19:52,879 ‎โนบุนากะจึงสั่งมิตสึฮิเดะ ‎เคลื่อนพลไปภาคตะวันตกโดยเร็วที่สุด 192 00:19:52,962 --> 00:19:56,591 ‎โนบุนากะเตรียมความพร้อม ‎เพื่อจะนำกองทหารของตนตามไป 193 00:19:58,092 --> 00:19:59,719 ‎(อาเคจิ มิตสึฮิเดะ) 194 00:19:59,802 --> 00:20:02,680 ‎อาเคจิ มิตสึฮิเดะมีปูมหลังไม่ธรรมดา 195 00:20:04,307 --> 00:20:07,268 ‎เขาเข้ารับใช้โนบุนากะในฐานะโรนิน 196 00:20:07,352 --> 00:20:11,064 ‎หรือหมายถึงซามูไร ‎ที่เจ้านายเก่าถูกสังหารในการรบ 197 00:20:11,898 --> 00:20:16,819 ‎เจ้านายส่วนมากจะเลือกบริวารจากตระกูลที่ ‎เคยเป็นพันธมิตรกันมาหลายร้อยปี 198 00:20:16,903 --> 00:20:18,404 ‎เพื่อมาเป็นแม่ทัพระดับสูง 199 00:20:18,488 --> 00:20:21,449 ‎โนบุนากะยินดีเลือกซามูไรเร่ร่อนผู้นี้ 200 00:20:21,532 --> 00:20:25,662 ‎ซึ่งไม่มีสัมพันธ์กับตระกูลโอดะเลย ‎และแต่งตั้งเขาเป็นหัวหน้านำทัพ 201 00:20:27,705 --> 00:20:30,833 ‎(สิบเอ็ดปีก่อน) 202 00:20:31,459 --> 00:20:33,503 ‎มิตสึฮิเดะเคยเป็นพระผู้เคร่งศาสนา 203 00:20:33,586 --> 00:20:38,216 ‎และเคยไม่พอใจมาก ‎กับการสังหารหมู่พระที่เขาฮิเอ 204 00:20:50,853 --> 00:20:52,730 ‎ได้โปรด หยุดเถอะ 205 00:20:58,611 --> 00:21:00,947 ‎และเรารู้ดีว่าบางครั้ง 206 00:21:01,030 --> 00:21:05,493 ‎โนบุนากะดูหมิ่นเขาต่อหน้าผู้คน ‎ถึงกับทำให้เขาอับอายด้วย 207 00:21:05,576 --> 00:21:08,162 ‎ได้โปรด หยุดเถอะ 208 00:21:10,999 --> 00:21:14,877 ‎กล่าวกันว่าในบรรดาเรื่องที่โนบุนากะ ‎ทำให้มิตสึฮิเดะเคืองคือ 209 00:21:15,837 --> 00:21:18,506 ‎ในการรบครั้งหนึ่ง 210 00:21:18,589 --> 00:21:21,634 ‎ความโหดร้ายของโนบุนากะถึงกับทำให้ 211 00:21:21,718 --> 00:21:24,220 ‎แม่ของมิตสึฮิเดะเสียชีวิต 212 00:21:27,932 --> 00:21:32,228 ‎ความโกรธแค้นเหล่านี้ ‎การถูกเหยียดหยามดูแคลนบ่อยครั้ง 213 00:21:32,312 --> 00:21:36,065 ‎สั่งสมในจิตใจของเขา ‎ซึ่งดูเหมือนจะบีบคั้นให้เขาเหลืออด 214 00:21:45,825 --> 00:21:46,701 ‎ได้เวลาแล้ว 215 00:21:48,828 --> 00:21:50,079 ‎เราจะออกรบ 216 00:21:51,039 --> 00:21:51,914 ‎รับทราบ 217 00:21:59,630 --> 00:22:02,383 ‎แทนที่จะเคลื่อนพลไปช่วยฮิเดโยชิ 218 00:22:03,176 --> 00:22:06,512 ‎มิตสึฮิเดะกลับสั่งทหารเคลื่อนพลไปเกียวโต 219 00:22:09,974 --> 00:22:12,810 ‎และในเสี้ยวนาทีสุดท้ายเท่านั้น 220 00:22:12,894 --> 00:22:15,813 ‎ที่เขาแจ้งแผนการให้แม่ทัพของตนรู้ 221 00:22:15,897 --> 00:22:20,485 ‎ซึ่งก็คือสังหารโนบุนากะ ‎และยึดญี่ปุ่นเป็นของตนเอง 222 00:22:31,079 --> 00:22:36,084 ‎ในคืนนั้นโนบุนากะพักผ่อนที่ ‎วัดเล็กๆ แห่งหนึ่งในเกียวโต ชื่อว่าฮอนโนจิ 223 00:22:39,962 --> 00:22:43,007 ‎โนบุนากะจะมีกลุ่มเด็กรับใช้ 224 00:22:43,091 --> 00:22:46,135 ‎และองครักษ์ทำหน้าที่กองกำลังส่วนตัวเขา 225 00:22:47,095 --> 00:22:48,930 ‎นี่คือช่วงเวลาที่เขาเปราะบางที่สุด 226 00:22:53,726 --> 00:22:56,562 ‎นี่คือโอกาสที่อาจไม่มีมาอีกแล้ว 227 00:22:56,646 --> 00:22:59,315 ‎ดูเหมือนมิตสึฮิเดะเห็นโอกาสนี้ 228 00:23:05,321 --> 00:23:09,409 ‎มิตสึฮิเดะเคลื่อนพลตรงเข้าใจกลางเกียวโต 229 00:23:09,492 --> 00:23:13,746 ‎และเปิดฉากโจมตีดุเดือดที่วัดฮอนโนจิ 230 00:23:23,423 --> 00:23:27,427 ‎โนบุนากะโดนจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว 231 00:23:32,306 --> 00:23:34,517 ‎เมื่อเขารู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น 232 00:23:39,897 --> 00:23:41,816 ‎เขาสู้อย่างกล้าหาญจนถึงที่สุด 233 00:23:45,695 --> 00:23:49,782 ‎ในไม่ช้าโอดะ โนบุนากะก็เข้าใจว่าหมดหวังแล้ว 234 00:23:53,161 --> 00:23:55,538 ‎แต่เขาไม่สามารถหลบหนี 235 00:23:58,749 --> 00:24:02,503 ‎เขาจึงถอยเข้าไปในห้องหนึ่งของวัด 236 00:25:01,687 --> 00:25:06,150 ‎คนทั้งโลกต่างมองว่าโนบุนากะ ‎จะผงาดขึ้นเป็นใหญ่อย่างที่ไม่มีใครยับยั้งได้ 237 00:25:09,570 --> 00:25:12,198 ‎ในเวลาประมาณ 20 ปี เขาเลื่อนระดับจาก 238 00:25:12,281 --> 00:25:15,409 ‎การปกครองส่วนหนึ่งของจังหวัดเล็กๆ 239 00:25:15,493 --> 00:25:17,578 ‎มาปกครองประเทศหนึ่งในสาม 240 00:25:18,538 --> 00:25:22,458 ‎และตอนนี้ ภายในชั่วเวลาหนึ่งวัน ‎โลกของเขาก็กลับตาลปัตร 241 00:25:26,671 --> 00:25:31,801 ‎นี่คือเหตุการณ์น่าตกตะลึงที่สุดซึ่งไม่มีผู้ใดคาดคิด 242 00:25:33,553 --> 00:25:37,139 ‎โนบุทากะ บุตรชายคนโต ‎ทายาทของโนบุนากะยิ่งไม่ทันเตรียมใจ 243 00:25:37,223 --> 00:25:40,851 ‎ในตอนนั้น โนบุทากะพักที่ปราสาทอาซูจิ ‎ห่างออกไปทางตะวันออกประมาณ 32 กม. 244 00:25:43,938 --> 00:25:46,232 ‎สิ่งที่มิตสึฮิเดะทำต่อไปคือ 245 00:25:46,315 --> 00:25:49,694 ‎เคลื่อนพลไปที่อาซูจิเพื่อสังหารโนบุทากะ 246 00:25:54,574 --> 00:25:57,702 ‎หลังจากสังหารโนบุนากะและทายาทของเขา 247 00:25:57,785 --> 00:26:02,456 ‎อาเคจิ มิตสึฮิเดะทำให้เกิด ‎สูญญากาศทางอำนาจในญี่ปุ่น 248 00:26:03,457 --> 00:26:07,169 ‎และเป็นสูญญากาศที่ตัวเขาเอง ‎ตั้งใจจะเป็นผู้เสียบแทน 249 00:26:12,550 --> 00:26:15,928 ‎การตายของโนบุนากะในเงื้อมมือของ ‎อาเคจิ มิตสึฮิเดะเป็นเรื่องน่าตกใจ 250 00:26:19,098 --> 00:26:22,143 ‎ขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่กลับถูกสังหาร 251 00:26:22,226 --> 00:26:25,646 ‎และโครงสร้างทางการเมือง ‎ที่ทุกคนคิดว่ากำลังอยู่ตัวแล้ว 252 00:26:25,730 --> 00:26:27,565 ‎กลับเปิดให้ทุกคนแย่งชิงอำนาจเต็มที่ 253 00:26:27,648 --> 00:26:30,443 ‎ตอนนี้คือการแข่งขันว่า ‎ใครจะชิงอำนาจได้เร็วที่สุด 254 00:26:30,526 --> 00:26:33,821 ‎หลักๆ แล้วบริวารแบ่งเป็นสามกลุ่ม ‎ฝ่ายของอาเคจิ มิตสึฮิเดะ 255 00:26:34,905 --> 00:26:38,492 ‎ฝ่ายของโทกูงาวะ อิเอยาซุซึ่งอยู่ภาคตะวันออก 256 00:26:38,576 --> 00:26:40,786 ‎และฝ่ายโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ 257 00:26:44,874 --> 00:26:49,754 ‎ระหว่างเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น ‎ฮิเดโยชิกำลังรบกับโมริอยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น 258 00:26:49,837 --> 00:26:53,382 ‎เขากำลังรอข่าวกำลังเสริม ‎จากศูนย์กลางตระกูลโอดะ 259 00:26:53,466 --> 00:26:55,051 ‎ด้วยความกังวลอย่างยิ่ง 260 00:26:56,385 --> 00:26:58,471 ‎เมื่อคนส่งสารมาถึงในที่สุด 261 00:26:58,554 --> 00:27:02,391 ‎ข่าวที่เขาบอกฮิเดโยชิ ‎กลับเปลี่ยนทิศทางของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น 262 00:27:05,394 --> 00:27:06,771 ‎โนบุนากะตายแล้ว 263 00:27:11,776 --> 00:27:15,488 ‎ฮิเดโยชิจะต้องทำสิ่งที่ขุนศึกผู้ภักดีควรทำ 264 00:27:15,571 --> 00:27:20,868 ‎และล้างแค้นเพื่อแสดงความภักดี ‎ต่อโนบุนากะแม้เขาต้องตาย 265 00:27:25,039 --> 00:27:28,250 ‎สิบเอ็ดวันแล้วที่ไม่มีผู้ใดยับยั้งมิตสึฮิเดะ 266 00:27:29,710 --> 00:27:32,922 ‎ฮิเดโยชิต้องแก้แค้นให้กับนายผู้ล่วงลับ 267 00:27:33,005 --> 00:27:36,884 ‎โดยเกรงว่าขุนศึกรายอื่นจะเข้าข้างมิตสึฮิเดะ 268 00:27:37,968 --> 00:27:42,098 ‎ฮิเดโยชิจึงเร่งมุ่งหน้า ‎ไปรบกับมิตสึฮิเดะที่เกียวโต 269 00:27:42,181 --> 00:27:45,351 ‎เพื่อตัดสินใจว่า ‎ใครจะยึดอำนาจเหนือญี่ปุ่นภาคกลาง 270 00:27:53,651 --> 00:27:56,070 ‎ในตอนนั้น มิตสึฮิเดะตกใจมาก 271 00:27:56,153 --> 00:27:59,365 ‎ที่ฮิเดโยชิเคลื่อนพล ‎มาปะทะกับเขาได้เร็วขนาดนั้น 272 00:27:59,448 --> 00:28:04,328 ‎เขาเชื่อว่าตนมีเวลาสร้างขุมกำลังในภาคกลาง 273 00:28:04,412 --> 00:28:07,206 ‎ก่อนที่เขาจะต้องเผชิญภัยคุกคามใดๆ 274 00:28:08,874 --> 00:28:10,751 ‎เราจะเคลื่อนพลไปทิศนี้ 275 00:28:11,335 --> 00:28:14,588 ‎เขารู้ว่าตัวเองมีกำลังพลน้อยกว่า 276 00:28:14,672 --> 00:28:18,509 ‎เขาจึงเลือกจุดยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า ยามาซากิ 277 00:28:22,680 --> 00:28:25,391 ‎เหตุผลที่ศึกนี้เกิดขึ้นที่ยามาซากิ 278 00:28:25,474 --> 00:28:31,313 ‎เพราะปราสาทของอาเคจิ มิตสึฮิเดะ ‎ตั้งอยู่บนถนนสายที่แคบมาก 279 00:28:31,397 --> 00:28:35,276 ‎โดยมีภูเขาขนาบด้านหนึ่ง แม่น้ำขนาบอีกด้านหนึ่ง 280 00:28:35,359 --> 00:28:37,903 ‎เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นจุดตั้งรับการโจมตี 281 00:28:43,743 --> 00:28:46,912 ‎ถ้าเราเลือกสมรภูมิไม่ได้ แต่เลือกตำแหน่ง 282 00:28:46,996 --> 00:28:51,375 ‎ที่จะป้องกันข้าศึกปิดล้อม ‎ในขณะที่เรามีกำลังพลน้อยกว่า 283 00:28:51,459 --> 00:28:53,586 ‎เราจะไม่มีวันแพ้ 284 00:28:53,669 --> 00:28:57,798 ‎ตัวอย่างที่ชัดที่สุดในกรณีนี้คือ ‎ยุทธการที่เทอร์มอพิลี ถูกมั้ย 285 00:28:57,882 --> 00:29:01,552 ‎นักรบสปาร์ตัน 300 คนยันกองทหารเปอร์เซีย 286 00:29:01,635 --> 00:29:03,179 ‎นั่นคือทฤษฎีของมิตสึฮิเดะ 287 00:29:03,262 --> 00:29:07,057 ‎เขาเชื่อว่าจะใช้ความได้เปรียบ ‎ของฐานที่มั่นให้เป็นประโยชน์ 288 00:29:10,394 --> 00:29:12,229 ‎แต่เขาทำผิดพลาดร้ายแรง 289 00:29:12,313 --> 00:29:16,817 ‎เขาไม่ได้วางกำลังทหารไว้บนเขา ‎ซึ่งเรียกว่าเขาเทนโน 290 00:29:33,667 --> 00:29:37,129 ‎กองทัพของฮิเดโยชิไปถึงที่นั่นก่อน ‎และยึดพื้นที่สูงไว้ 291 00:30:04,156 --> 00:30:07,451 ‎ฮิเดโยชิเปิดฉากบุก ‎เส้นทางลำเลียงพลของอาเคจิจากปีกขวา 292 00:30:11,497 --> 00:30:14,291 ‎เมื่อพวกเขาเข้าปะทะแล้ว ‎ฮิเดโยชิก็บุกจากปีกซ้ายด้วย 293 00:30:17,628 --> 00:30:21,549 ‎ดังนั้นเขาจึงบดขยี้ ‎กองทหารของอาเคจิจากสองฟาก 294 00:30:26,554 --> 00:30:29,557 ‎เมื่อทั้งสองฝ่ายเปิดฉากรบ 295 00:30:30,224 --> 00:30:33,185 ‎ช่วงแรกดูเหมือนว่าศึกนี้เข้าทางของมิตสึฮิเดะ 296 00:30:39,900 --> 00:30:42,486 ‎ศึกที่ยามาซากิเป็นการรบที่ดุเดือดมาก 297 00:30:45,614 --> 00:30:49,577 ‎เสียงผู้คนกรีดร้อง เลือดพุ่งจากบาดแผล 298 00:30:55,124 --> 00:30:59,962 ‎และเสียงปืนอาร์ควิบัสกระหน่ำไม่ขาดสาย 299 00:31:00,045 --> 00:31:02,715 ‎ปืนอาร์ควิบัสกลายเป็นอาวุธปกติ ‎เมื่อซามูไรออกศึกไปแล้ว 300 00:31:06,260 --> 00:31:09,680 ‎ดังนั้นการรบจึงเริ่มขมุกขมัวด้วยควันปืน 301 00:31:10,723 --> 00:31:14,977 ‎และเราจะได้เห็นประกายไฟ ‎จากกระบอกปืนกลางดงเสียงปืนนี้ 302 00:31:15,060 --> 00:31:18,731 ‎ได้ยินเสียงม้าร้อง ได้ยินเสียงดาบฟาดฟัน 303 00:31:34,330 --> 00:31:35,289 ‎อาเคจิ! 304 00:31:39,919 --> 00:31:41,837 ‎การโจมตีครั้งนี้เกินต้านแล้ว 305 00:31:43,213 --> 00:31:44,673 ‎มิตสึฮิเดะจำต้องหนี 306 00:31:51,972 --> 00:31:54,558 ‎ซึ่งมิตสึฮิเดะหาทางหนีจนได้ 307 00:31:56,101 --> 00:31:59,355 ‎เขาควบม้าหนีไปพร้อม ‎ผู้ติดตามที่จงรักภักดีหยิบมือหนึ่ง 308 00:31:59,438 --> 00:32:02,024 ‎และพยายามซ่อนตัวในหมู่บ้านใกล้เคียง 309 00:32:05,569 --> 00:32:07,821 ‎มีชาวนาบางคนเห็นเขา 310 00:32:11,283 --> 00:32:13,744 ‎มิตสึฮิเดะถูกล้อม 311 00:32:15,829 --> 00:32:17,289 ‎และถูกแทงจนตาย 312 00:32:24,171 --> 00:32:26,548 ‎อาเคจิ มิตสึฮิเดะเสียชีวิต 313 00:32:26,632 --> 00:32:30,761 ‎หลังลอบสังหารโอดะ โนบุนากะ ‎เจ้านายของตนเพียง 13 วัน 314 00:32:34,890 --> 00:32:37,977 ‎ด้วยเหตุนี้ คนรุ่นหลังจึงเรียกเขา 315 00:32:38,060 --> 00:32:41,855 ‎ในเชิงล้อเลียนว่า "โชกุน 13 วัน" 316 00:32:45,401 --> 00:32:49,405 ‎เมื่อแก้แค้นให้เจ้านายของตนด้วยการ ‎สังหารคนทรยศอย่าง อาเคจิ มิตสึฮิเดะแล้ว 317 00:32:49,488 --> 00:32:53,158 ‎ฮิเดโยชิจึงก้าวเข้าสู่ ‎สุญญากาศทางการเมืองที่เกิดขึ้นเต็มตัว 318 00:32:53,242 --> 00:32:55,953 ‎เขาโต้กลับเร็วที่สุดในหมู่ไดเมียว 319 00:32:56,036 --> 00:32:59,081 ‎เขาโค่นมิตสึฮิเดะได้อย่างราบคาบ 320 00:32:59,164 --> 00:33:01,750 ‎ภายในเวลาแค่สองสัปดาห์ ‎หลังการตายของโนบุนากะ 321 00:33:01,834 --> 00:33:05,004 ‎และตอนนี้เขาตัดหัวของ ‎อาเคจิ มิตสึฮิเดะเสียบประจาน 322 00:33:07,089 --> 00:33:08,882 ‎ซึ่งเป็นการประกาศสำคัญว่า 323 00:33:08,966 --> 00:33:13,345 ‎ฮิเดโยชิคิดจะเป็นไดเมียว ‎ผู้ทรงอำนาจที่สุดในแผ่นดิน 324 00:33:16,432 --> 00:33:18,392 ‎มันคือคำเตือนผู้อื่น 325 00:33:19,852 --> 00:33:22,521 ‎ว่าถ้าเจ้ากบฏ เจ้าจะลงเอยแบบนี้ 326 00:33:22,604 --> 00:33:26,191 ‎ขณะเดียวกันก็ยังหมายความว่า ฮิเดโยชิ 327 00:33:26,275 --> 00:33:29,319 ‎คือผู้สังหารกบฏ 328 00:33:29,403 --> 00:33:33,115 ‎เขาป่าวประกาศข่าวด้วยวิธีนี้ 329 00:33:35,951 --> 00:33:38,996 ‎ฮิเดโยชิเกิดมาในครอบครัวไร้สกุลรุนชาติ 330 00:33:39,079 --> 00:33:41,832 ‎บ้างถึงกับคิดว่าเขาเป็นลูกนอกสมรส 331 00:33:41,915 --> 00:33:46,378 ‎เขาขึ้นมาเป็นใหญ่โดยอาศัยฝีมือ ‎ปัญญา ความเจ้าเล่ห์เป็นพิเศษ 332 00:33:50,257 --> 00:33:51,258 ‎ฮิเดโยชิน่ะ 333 00:33:52,301 --> 00:33:55,137 ‎ผมว่าการก้าวขึ้นสู่อำนาจของเขา ‎เรียกได้ว่ารวดเร็วที่สุด 334 00:33:55,888 --> 00:33:59,141 ‎ชาวนาจำนวนมากในยุคนั้นทำศึกสงคราม 335 00:33:59,224 --> 00:34:01,852 ‎ในฐานะพลทหารเดินเท้า ‎แต่กลับก้าวไปเหนือกว่านั้น 336 00:34:01,935 --> 00:34:05,564 ‎เป็นสิ่งที่เราเรียกตามลำดับชั้นได้ว่า ‎ติดยศสัญญาบัตร 337 00:34:05,647 --> 00:34:07,357 ‎ซึ่งหายากมาก 338 00:34:07,441 --> 00:34:10,443 ‎ผลก็คือตอนนี้ ฮิเดโยชิอยู่ในจุดที่ผมคิดว่า 339 00:34:10,526 --> 00:34:15,115 ‎เกินจะหยั่งถึงแล้วจริงๆ ‎สำหรับผู้ที่อยู่ในสถานะทางสังคมเช่นเขา 340 00:34:15,740 --> 00:34:17,450 ‎เขามีอำนาจล้นเหลือ 341 00:34:29,671 --> 00:34:33,133 ‎แม้ว่าฮิเดโยชิกลายเป็น ‎ไดเมียวผู้ทรงอำนาจที่สุดในญี่ปุ่น 342 00:34:33,217 --> 00:34:37,095 ‎และมีความชอบธรรมจากการล้างแค้นให้เจ้านาย 343 00:34:37,179 --> 00:34:38,514 ‎เขาก็ยังไม่ปลอดภัยเลย 344 00:34:39,555 --> 00:34:43,310 ‎มีไดเมียวผู้ยิ่งใหญ่ในภาคอื่นๆ ของญี่ปุ่น ‎ทั้งตะวันตกและออก 345 00:34:43,392 --> 00:34:45,938 ‎และมีไดเมียวที่เคยเป็นบริวารของโนบุนากะ 346 00:34:46,021 --> 00:34:48,606 ‎ที่อยากยึดอำนาจเป็นของตนเอง 347 00:34:48,689 --> 00:34:50,651 ‎ดังนั้น เขายังนิ่งนอนใจไม่ได้ 348 00:34:50,734 --> 00:34:53,862 ‎แต่จนถึงขณะนั้น เขาอยู่ในจุดที่ได้เปรียบที่สุด 349 00:35:01,620 --> 00:35:04,498 ‎ภรรยาของฮิเดโยชินามว่าท่านหญิงเนเน่ 350 00:35:04,581 --> 00:35:09,211 ‎ซึ่งมีความสำคัญที่สุดต่อการที่เขา ‎คิดรับช่วงอำนาจจากโนบุนากะ 351 00:35:09,294 --> 00:35:12,089 ‎เธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของฮิเดโยชิ 352 00:35:12,172 --> 00:35:14,883 ‎เธอคือผู้ที่เขาไว้ใจได้ที่สุด ‎และสนับสนุนเขาอย่างดีเยี่ยม 353 00:35:36,905 --> 00:35:40,617 ‎เธอคือผู้ดูแลกิจการทุกอย่างในปราสาทโอซากะ 354 00:35:40,701 --> 00:35:43,203 ‎ดังนั้นเธอจึงเป็นผู้รักษา ‎ความเป็นระเบียบเรียบร้อย 355 00:35:43,871 --> 00:35:46,707 ‎สรุปก็คือเธอเป็นไดเมียวทุกเมื่อที่เขาไม่อยู่ 356 00:35:48,959 --> 00:35:53,172 ‎เมื่อฮิเดโยชิออกรบ พวกเขาจะส่งจดหมายถึงกัน 357 00:35:55,591 --> 00:36:00,929 ‎เนเน่ยังเคยแนะนำฮิเดโยชิว่า ‎ควรทำอย่างไรกับตัวประกัน 358 00:36:01,013 --> 00:36:02,431 ‎แนะนำการสร้างพันธมิตร 359 00:36:02,514 --> 00:36:06,560 ‎และแนะนำว่าฮิเดโยชิต้องมอบ ‎เงื่อนไขแบบไหนต่อผู้อื่น 360 00:36:09,062 --> 00:36:13,650 ‎เนเน่กับฮิเดโยชิเริ่มมองว่า ‎ญี่ปุ่นเป็นแผ่นดินของตนเอง 361 00:36:13,734 --> 00:36:19,072 ‎พวกเขาเริ่มมองว่าแผ่นดินนี้คืออาณาจักร ‎ที่ชะตากำหนดให้พวกเขาปกครอง 362 00:36:34,630 --> 00:36:37,799 ‎สำหรับฮิเดโยชิ นี่คือชะตาฟ้ากำหนด 363 00:36:38,508 --> 00:36:42,763 ‎ตอนนี้เขามีโอกาสรับช่วง ‎อาณาเขตของโนบุนากะมาเป็นของตนเอง 364 00:36:44,097 --> 00:36:48,185 ‎แต่ก่อนอื่น เขาต้องถอนกำลัง ‎ฝ่ายตรงข้ามที่เหลืออยู่ 365 00:36:48,268 --> 00:36:50,646 ‎ในตระกูลโอดะ 366 00:36:54,066 --> 00:36:59,655 ‎หลังจากมิตสึฮิเดะกบฏ ‎บุตรชายสองคนของโนบุนากะรอดชีวิต 367 00:37:02,074 --> 00:37:06,745 ‎คนโตคือโนบุทากะ คนเล็กคือโนบุคัตสึ 368 00:37:07,829 --> 00:37:12,834 ‎สิทธิที่โอดะ โนบุคัตสึอ้างมีแค่ ‎เขาคือทายาทแท้จริงของโนบุนากะ 369 00:37:12,918 --> 00:37:16,630 ‎ส่วนฮิเดโยชิกระทำการก่อกบฏ 370 00:37:19,132 --> 00:37:21,843 ‎โอดะ โนบุทากะตอบโต้ทันทีด้วยการ 371 00:37:21,927 --> 00:37:26,098 ‎หาพันธมิตรเพื่อป้องกันฮิเดโยชิก้าวขึ้นสู่อำนาจ 372 00:37:26,181 --> 00:37:27,933 ‎ด้วยการโค่นล้มเขา 373 00:37:32,187 --> 00:37:35,941 ‎โอดะ โนบุทากะได้พบ ‎อดีตแม่ทัพของโอดะ โนบุนากะ 374 00:37:36,984 --> 00:37:41,655 ‎หนึ่งในนั้นคือแม่ทัพคนสำคัญยิ่งที่ชื่อ ‎ชิบาตะ คัตสึอิเอะ 375 00:37:43,865 --> 00:37:49,246 ‎คัตสึอิเอะรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับโนบุนากะ ‎มาตั้งแต่ยุทธการโอเกะฮะซะมะ 376 00:37:50,163 --> 00:37:52,916 ‎และยังเคยผ่านศึกหนักหลายครั้ง 377 00:37:53,000 --> 00:37:58,797 ‎เช่น สมรภูมิอาเนะกาว่า ศึกนางาชิโน่ ‎และศึกยาวนานกับอิกโกะ-อิกกิ 378 00:38:01,091 --> 00:38:04,928 ‎และเขายังจงรักภักดีต่อโนบุนากะ 379 00:38:05,012 --> 00:38:09,766 ‎เขาจึงเป็นพันธมิตรที่โอดะ โนบุทากะต้องการ 380 00:38:09,850 --> 00:38:11,810 ‎เขาคือศัตรูที่ร้ายกาจ 381 00:38:15,522 --> 00:38:19,109 ‎ซึ่งชิบาตะ คัตสึอิเอะคิดว่า "นี่คือจังหวะของข้า 382 00:38:19,192 --> 00:38:23,405 ‎นี่คือโอกาสให้ข้าโค่นฮิเดโยชิ ‎และประกาศจุดยืนของตนเอง 383 00:38:23,488 --> 00:38:25,449 ‎ในฐานะที่เทียบเท่าสมาชิกตระกูลโอดะคนอื่น" 384 00:38:26,241 --> 00:38:31,705 ‎ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้ง ‎การปะทะระหว่างฮิเดโยชิและชิบาตะ 385 00:38:35,167 --> 00:38:39,463 ‎ข้อเสียเปรียบสำคัญของชิบาตะ คัตสึอิเอะคือ 386 00:38:39,546 --> 00:38:44,426 ‎เขาไม่สามารถรวบรวมกำลังพล ‎ปะทะฮิเดโยชิได้ทันที 387 00:38:44,509 --> 00:38:46,928 ‎ซึ่งเป็นเพราะสภาพอากาศแท้ๆ 388 00:38:48,305 --> 00:38:50,057 ‎ตอนนั้นเป็นฤดูหนาว 389 00:38:50,140 --> 00:38:54,686 ‎และภูเขาระหว่างจังหวัดของเขา ‎กับเกียวโตมีหิมะปกคลุม 390 00:38:55,479 --> 00:38:59,608 ‎เขาคงต้องรอจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิ ‎กว่าจะเคลื่อนพลได้ 391 00:38:59,691 --> 00:39:03,695 ‎ซึ่งทำให้ฮิเดโยชิได้เปรียบอย่างมาก 392 00:39:03,779 --> 00:39:05,030 ‎(ญี่ปุ่น ปี 1582) 393 00:39:05,113 --> 00:39:06,782 ‎ช่วงฤดูหนาวปีนั้นเอง 394 00:39:06,865 --> 00:39:11,161 ‎ฮิเดโยชิเสริมกำลังป้อมสามแห่งของเขา ‎ที่ป้องกันเส้นทางผ่านภูเขา 395 00:39:11,244 --> 00:39:14,414 ‎เพื่อพยายามชะลอการรุกคืบของคัตสึอิเอะ 396 00:39:14,790 --> 00:39:15,749 ‎(คัตสึอิเอะ) 397 00:39:15,832 --> 00:39:19,503 ‎ฮิเดโยชิจึงล้อมปราสาทกิฟูที่อยู่ใกล้เคียง 398 00:39:19,586 --> 00:39:21,546 ‎ซึ่งพันธมิตรของคัตสึอิเอะยึดไว้ 399 00:39:21,630 --> 00:39:22,464 ‎(ปราสาทกิฟู) 400 00:39:22,547 --> 00:39:24,633 ‎เมื่อฤดูใบไม้ผลิทำให้หิมะละลาย 401 00:39:24,716 --> 00:39:27,803 ‎คัตสึอิเอะจึงเคลื่อนพลยึดป้อมบนเขา 402 00:39:28,637 --> 00:39:30,222 ‎ถ้าเขาทำสำเร็จ 403 00:39:30,305 --> 00:39:34,935 ‎ฝันของฮิเดโยชิที่จะครองญี่ปุ่น ‎ก็จะหายวับไปเร็วเหมือนเมื่อเริ่มต้น 404 00:39:42,317 --> 00:39:47,280 ‎(ปราสาทคิตะโนโซ ‎ศูนย์บัญชาการของชิบาตะ คัตสึอิเอะ ปี1583) 405 00:39:53,161 --> 00:39:54,955 ‎เมื่อฤดูใบไม้ผลิย่างกรายมาถึง 406 00:39:55,038 --> 00:39:58,583 ‎ชิบาตะ คัตสึอิเอะจึงส่งกองทหารจำนวนมาก 407 00:39:58,667 --> 00:40:02,170 ‎ยึดป้อมชายแดนทั้งสามแห่ง 408 00:40:02,254 --> 00:40:05,340 ‎ที่ฮิเดโยชิสร้างไว้บนยอดเขา 409 00:40:13,348 --> 00:40:18,395 ‎ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะรับรองความปลอดภัย ‎ให้กองทัพของเขาเดินผ่าน 410 00:40:22,607 --> 00:40:24,526 ‎ตอนแรก แผนการสำเร็จ 411 00:40:26,403 --> 00:40:30,532 ‎คนของคัตสึอิเอะยึดสองป้อมแรกโดยสมบูรณ์ 412 00:40:39,458 --> 00:40:43,962 ‎ทหารฝ่ายตั้งรับที่รอดตาย ‎หลบหนีไปหาที่หลบภัยในป้อมที่สาม 413 00:40:44,045 --> 00:40:48,175 ‎นั่นคือป้อมชิซุงะตะเกะ ‎ซึ่งเป็นป้อมที่ใหญ่ที่สุดของสามป้อม 414 00:40:51,219 --> 00:40:57,100 ‎ชิบาตะ คัตสึอิเอะรวมไพร่พลของตนอีกครั้ง ‎เพื่อคว้าบรรณาการสุดท้าย 415 00:40:57,184 --> 00:41:00,061 ‎ที่จะยันการบุกของฮิเดโยชิสำเร็จ 416 00:41:01,480 --> 00:41:03,523 ‎ถ้าป้อมชิซุงะตะเกะแตก 417 00:41:03,607 --> 00:41:06,026 ‎อำนาจของฮิเดโยชิคงเป็นอันสิ้นสุด 418 00:41:13,408 --> 00:41:16,786 ‎ฮิเดโยชิน่าจะเดิมพันสูงที่สุดในครั้งนี้ 419 00:41:23,126 --> 00:41:27,297 ‎ตอนนี้กงล้อเริ่มเคลื่อนแล้ว ‎ในการแย่งชิงอำนาจครั้งสำคัญที่สุด 420 00:41:27,380 --> 00:41:29,549 ‎เท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น 421 00:41:57,744 --> 00:42:02,749 ‎(คำบรรยายโดย กิตติพล เอี่ยมกมล)