1 00:00:22,605 --> 00:00:24,482 น้ำนี่ทำให้จิตใจสงบดีจัง 2 00:00:24,566 --> 00:00:25,900 แน่นอน 3 00:00:25,984 --> 00:00:29,779 เราอยู่ตรงนี้ที่แอตแลนติก มันจะทำให้จิตใจสงบกว่านี้เยอะ 4 00:00:29,863 --> 00:00:34,200 เมื่อเรามองไปทางแอฟริกาที่อยู่ทางตะวันออก 5 00:00:35,535 --> 00:00:39,372 เพราะน้ำนี้คือช่องกำเนิด ของชาวแอฟริกันอเมริกัน 6 00:00:40,540 --> 00:00:42,834 น้ำนี้ค้ำจุนเราไว้ 7 00:00:44,044 --> 00:00:46,171 น้ำนี้พาเรามาที่นี่ 8 00:00:47,255 --> 00:00:49,007 น้ำนี้ทำให้เรามีชีวิตอยู่ 9 00:00:53,720 --> 00:00:55,013 ในการเดินทางครั้งล่าสุด 10 00:00:55,513 --> 00:00:58,933 ดร.เจสสิก้า แฮร์ริสกับผมไปสำรวจชายฝั่งเบนิน 11 00:00:59,017 --> 00:01:00,435 เรามีถั่วตาดำ 12 00:01:00,518 --> 00:01:03,271 เรามีกระเจี๊ยบ เรามีแตงโม 13 00:01:03,354 --> 00:01:04,981 มันเดินทางไปกับเรา 14 00:01:07,442 --> 00:01:11,237 ตามรอยวัตถุดิบและรสชาติ ที่เป็นแก่นแท้ของประวัติศาสตร์ของเรา 15 00:01:11,321 --> 00:01:12,155 อร่อยจัง 16 00:01:12,238 --> 00:01:16,159 ทุกอย่างที่คุณมีอยู่ที่นี่มีมาก่อนเรือค้าทาส 17 00:01:26,127 --> 00:01:27,545 และในอเมริกา 18 00:01:28,046 --> 00:01:31,674 เราได้สำรวจความอุตสาหะและสร้างสรรค์ ในการทำอาหารของคนผิวดำ 19 00:01:31,758 --> 00:01:34,302 - เรามีข้าว - นั่นคือส่วนผสมอันดับหนึ่ง 20 00:01:35,011 --> 00:01:37,472 ตลอดการมาถึงของเรา การเป็นทาส 21 00:01:37,972 --> 00:01:39,682 และการเลิกทาส 22 00:01:43,311 --> 00:01:47,524 มีการประกาศการเลิกทาส ในวันที่ 1 มกราคม 1863 23 00:01:47,607 --> 00:01:49,526 นั่นคือตอนที่เราเป็นอิสระตามกฎหมาย 24 00:01:56,241 --> 00:01:58,451 ตอนนี้เรากำลังเริ่มการเดินทางครั้งใหม่ 25 00:01:59,077 --> 00:02:00,703 และจะหยุดแวะที่แรก 26 00:02:01,371 --> 00:02:02,413 นิวออร์ลีนส์ 27 00:02:02,497 --> 00:02:05,792 ส่วนที่ดีที่สุดคือสามคำสุดท้ายของสูตรนี้ 28 00:02:05,875 --> 00:02:07,502 "ส่งซอสเผ็ดมา" 29 00:02:08,419 --> 00:02:09,838 ผมสตีเฟ่น แซตเตอร์ฟิลด์ 30 00:02:10,421 --> 00:02:12,465 ในฐานะนักเขียนเกี่ยวกับอาหารที่ฝึกเป็นเชฟ 31 00:02:12,549 --> 00:02:14,968 และทำงานเป็นซอมเมอลิเยร์นานกว่าสิบปี 32 00:02:15,051 --> 00:02:16,261 - ดื่ม - ดื่ม 33 00:02:16,344 --> 00:02:18,763 ผมใช้เวลาเล่าเรื่องอาหารนานมาก 34 00:02:18,847 --> 00:02:23,143 เธอเลี้ยงอาหารและกระตุ้น ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมืองได้ 35 00:02:23,226 --> 00:02:25,812 หลังการเลิกทาสมาจนถึงปัจจุบัน 36 00:02:25,895 --> 00:02:28,022 ดร.เจกับผมเดินทางอย่างต่อเนื่อง 37 00:02:28,106 --> 00:02:31,192 เพื่อเปิดเผยเรื่องราวของชาวแอฟริกันอเมริกัน 38 00:02:31,734 --> 00:02:35,238 ผ่านอาหารที่เราปลูก เตรียม และพูดคุยกัน 39 00:02:38,116 --> 00:02:39,242 ขอพระเจ้าคุ้มครอง 40 00:02:39,325 --> 00:02:42,328 อาหารที่เปลี่ยนโฉมอเมริกา 41 00:03:25,914 --> 00:03:27,707 (High on the Hog) 42 00:03:27,790 --> 00:03:30,627 (อาหารแอฟริกันอเมริกันพลิกโฉมอเมริกา) 43 00:03:30,710 --> 00:03:33,713 (อาหารสัญจร) 44 00:03:38,092 --> 00:03:43,348 (ลุยเซียนา) 45 00:03:43,431 --> 00:03:48,478 (นิวออร์ลีนส์) 46 00:03:48,561 --> 00:03:51,689 น่านน้ำในนิวออร์ลีนส์นำคนใหม่ๆ เข้ามา 47 00:03:51,773 --> 00:03:54,567 ภาษาใหม่ๆ ส่วนผสมใหม่ๆ 48 00:03:54,651 --> 00:03:56,945 สร้างวัฒนธรรมผสมใหม่ 49 00:03:57,904 --> 00:03:59,489 เกิดในโลกใหม่ 50 00:04:00,365 --> 00:04:01,950 วัฒนธรรมครีโอล 51 00:04:02,784 --> 00:04:05,119 แม้จะได้รับอิทธิพลจากหลายประเทศ 52 00:04:05,203 --> 00:04:10,083 แต่ในลุยเซียน่า เมล็ดพันธุ์ของครีโอล เป็นคนผิวดำอย่างปฏิเสธไม่ได้ 53 00:04:12,418 --> 00:04:14,796 - ไม่มีน้ำตาลผง - ไม่มีน้ำตาลผง ดูนั่นสิ 54 00:04:16,589 --> 00:04:19,092 ผมมาถึงนิวออร์ลีนส์กับที่ปรึกษาของผม 55 00:04:19,175 --> 00:04:21,511 ดร.เจ ผู้ซึ่งใช้เวลาหลายสิบปี 56 00:04:21,594 --> 00:04:23,888 ศึกษาโลกผ่านอาหาร 57 00:04:23,972 --> 00:04:26,182 เจสสิก้า แฮร์ริส เธอเพิ่งออกหนังสือเล่มแรก 58 00:04:26,266 --> 00:04:29,352 ชื่อฮอตสตัฟใช่ไหม คุณเอาอาหารอะไรมาให้เราครับ 59 00:04:29,435 --> 00:04:32,772 นี่ชิกเก้นยาสซา ปูเลตยาสซา จากเซเนกัลในแอฟริกาตะวันตก 60 00:04:32,855 --> 00:04:35,316 คุณถือว่าตัวเองเป็น นักมานุษยวิทยาด้านการทำอาหาร 61 00:04:35,400 --> 00:04:37,527 - หมายความว่าไงครับ - ฉันไปประเทศต่างๆ 62 00:04:37,610 --> 00:04:39,988 ฉันไม่ได้สนใจแค่อาหารและรสชาติของมัน 63 00:04:40,071 --> 00:04:42,699 แต่สนใจด้วยว่ามันเกี่ยวข้องกับ วัฒนธรรมของประเทศยังไง 64 00:04:42,782 --> 00:04:45,326 มันเติบโตจากอะไร มีประเพณีอะไรโดยเฉพาะ 65 00:04:45,410 --> 00:04:48,329 จึงไม่มีใครเหมาะสมกว่านี้ ที่จะสำรวจนิวออร์ลีนส์ด้วย 66 00:04:48,413 --> 00:04:50,790 รวมทั้งสิ่งที่ทำให้การทำอาหารของมันพิเศษมาก 67 00:04:51,541 --> 00:04:53,543 นิวออร์ลีนส์เป็นที่ที่น่าทึ่งมาก 68 00:04:53,626 --> 00:04:58,423 เพราะหลังจากการเลิกทาส และแม้แต่ก่อนการเลิกทาส 69 00:04:58,506 --> 00:05:00,675 มีระบบการเมือง 70 00:05:00,758 --> 00:05:04,220 ภายใต้ฝรั่งเศสและสเปน แล้วก็ฝรั่งเศสอีกครั้ง 71 00:05:04,304 --> 00:05:09,684 ที่อนุญาตให้มีประชากรคนผิวสี หลายพันคนที่เป็นอิสระ 72 00:05:09,767 --> 00:05:11,811 และพวกเขาหลายคนก็เป็นครีโอล 73 00:05:12,645 --> 00:05:16,274 พวกเขาจึงสร้างโลกอีกแบบ 74 00:05:17,900 --> 00:05:21,863 หนังสือพิมพ์ ดนตรี ร้านเสริมสวย 75 00:05:21,946 --> 00:05:24,949 เราเริ่มได้ควบคุมทางการเมืองด้วย 76 00:05:26,075 --> 00:05:27,785 ในช่วงการฟื้นฟู 77 00:05:28,494 --> 00:05:30,955 คนผิวดำ 2,000 คน 78 00:05:31,039 --> 00:05:34,542 ทำงานในตำแหน่งรัฐบาล 79 00:05:35,418 --> 00:05:39,172 คุณมีคนที่เริ่มสร้างความมั่งคั่งของคนผิวดำ 80 00:05:39,255 --> 00:05:42,759 ความมั่งคั่งที่กลายเป็นความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น 81 00:05:42,842 --> 00:05:47,096 เรายังพบว่าผู้หญิงมีส่วนร่วมในสิ่งต่างๆ 82 00:05:47,180 --> 00:05:52,268 พวกเธอขายคาลา ไรซ์ฟริตเตอร์ที่มาจากแอฟริกาตะวันตก 83 00:05:52,852 --> 00:05:56,356 พวกเธอทำมันตามคำสั่งซื้อ แล้วพวกเธอก็ขายมัน 84 00:05:56,439 --> 00:06:00,026 "คาลา คาลา คาลาสวยๆ อร่อยๆ ร้อนๆ คาลามาแล้วจ้า" 85 00:06:00,109 --> 00:06:02,779 เราจึงมีการรวมกันของวัฒนธรรมต่างๆ 86 00:06:02,862 --> 00:06:05,531 อิทธิพลของฝรั่งเศส อิทธิพลของสเปน 87 00:06:05,615 --> 00:06:07,325 - คนที่อิสระ ชาวแอฟริกัน - แอฟริกัน 88 00:06:07,408 --> 00:06:10,828 สิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ถูกสร้างมาเพื่อสถานที่ที่แตกต่างกัน 89 00:06:19,087 --> 00:06:22,423 การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรม ที่ทำให้นิวออร์ลีนพิเศษมาก 90 00:06:22,507 --> 00:06:25,218 ปัจจุบันยังคงสะท้อนผ่านการทำอาหารของมัน 91 00:06:25,760 --> 00:06:28,846 ดร.เจกับผมไปเยือน เชฟชาวอเมริกันเชื้อสายเซเนกัล 92 00:06:28,930 --> 00:06:32,725 เซรีญ เอ็มบาเยแห่งร้านอาหารดาคาร์โนลา 93 00:06:33,810 --> 00:06:37,563 ที่ซึ่งเมนูของเขาแสดงให้เห็น ความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง 94 00:06:37,647 --> 00:06:39,899 ระหว่างแอฟริกาตะวันตกกับนิวออร์ลีนส์ 95 00:06:40,900 --> 00:06:46,114 ผู้ที่มาร่วมโต๊ะกับเราคือมิเชล โจน ปาปิยอง ชาวพื้นเมืองครีโอลรุ่นที่แปด 96 00:06:46,197 --> 00:06:49,200 พอผมพูดว่า "นังกา เดฟ" พวกคุณก็พูดว่า "มานยี ฟี" 97 00:06:49,283 --> 00:06:50,827 - โอเค - คุณพูดว่า "สวัสดี" 98 00:06:52,912 --> 00:06:54,372 ทีนี้ก็พูดแบบจริงจังซิ 99 00:06:55,331 --> 00:06:57,834 คำนี้ฟังดูเหมือนภาษาลุยเซียนาครีโอล 100 00:06:57,917 --> 00:06:59,252 - มานยี ฟี - ใช่ 101 00:06:59,335 --> 00:07:01,796 - มานยี ฟี ผมอยู่นี่ - นั่นคือสิ่งที่เราพูด 102 00:07:01,879 --> 00:07:03,131 - ชอบมากเลย - ดีจังค่ะ 103 00:07:03,214 --> 00:07:04,173 ทานให้อร่อยนะครับ 104 00:07:04,257 --> 00:07:05,466 - ขอบคุณค่ะ - ขอบคุณ เชฟ 105 00:07:05,550 --> 00:07:06,384 ขอบคุณค่ะ เชฟ 106 00:07:06,467 --> 00:07:09,804 นี่เหมือนงานคืนสู่เหย้า เวลาคนถามว่า "ทำไมต้องนิวออร์ลีนส์" 107 00:07:09,887 --> 00:07:13,599 คำตอบมาตรฐานของฉันคือ "เพราะนั่นคือที่ที่ทำให้ฉันรู้สึกดีที่สุด" 108 00:07:13,683 --> 00:07:16,018 เพราะที่นี่เป็น 109 00:07:16,102 --> 00:07:18,855 เมืองอาหารที่สำคัญแห่งหนึ่งของซีกโลก 110 00:07:18,938 --> 00:07:22,859 ใช่ครับ ประวัติศาสตร์ของนิวออร์ลีนส์น่าทึ่งมาก 111 00:07:22,942 --> 00:07:27,697 และผมรู้สึกว่ามันยังสัมผัสได้ชัดเจนในผู้คน 112 00:07:27,780 --> 00:07:30,908 ไม่ใช่แค่จากนิวออร์ลีนส์ แต่ลุยเซียนาในวงกว้างมากกว่า 113 00:07:30,992 --> 00:07:31,826 ใช่ค่ะ 114 00:07:31,909 --> 00:07:36,539 คุณมาจากเซาเทิร์นลุยเซียนาใกล้ลาฟาแยตเหรอ 115 00:07:36,622 --> 00:07:37,707 ลึกเข้าไปในประเทศ 116 00:07:37,790 --> 00:07:41,878 ฉันเรียกมันว่าบายู คันทรี เพราะลำธารไหลผ่านบ้านเรา 117 00:07:41,961 --> 00:07:45,006 ส่วนหนึ่งของที่ดินถูกแผ้วถางให้โล่ง และบ้านก็ตั้งอยู่ที่นั่น 118 00:07:45,089 --> 00:07:47,008 และป่าก็เป็นสวนหลังบ้าน 119 00:07:47,091 --> 00:07:49,635 แล้วพอคุณเดินทะลุป่าไปก็จะอยู่ที่ลำธาร 120 00:07:49,719 --> 00:07:50,553 อยู่ที่ลำธาร 121 00:07:50,636 --> 00:07:54,515 และวงศ์ตระกูลของเราก็เชื่อมโยงกับมาร์เกอริต 122 00:07:54,599 --> 00:07:58,144 หนึ่งในบรรพบุรุษที่สร้างตระกูลของฉัน 123 00:07:58,227 --> 00:08:00,813 เรื่องราวของเธอในช่วงยุค 1700 124 00:08:00,897 --> 00:08:04,400 ได้รับคำสัญญาว่า จะเป็นอิสระจากคนที่จับเธอไปเป็นทาส 125 00:08:04,484 --> 00:08:06,110 เกรกัวร์ จิลลอรี 126 00:08:06,194 --> 00:08:09,780 เธอเชื่อว่าเธอจะเป็นอิสระเมื่อเขาตาย 127 00:08:09,864 --> 00:08:11,908 ลูกๆ ของเขาโต้แย้งเรื่องนั้น 128 00:08:11,991 --> 00:08:15,161 เธอเลยหนีไปยังศาลสเปนที่นิวออร์ลีนส์ 129 00:08:15,244 --> 00:08:17,163 และฟ้องร้อง แล้วเธอก็ชนะ 130 00:08:17,246 --> 00:08:23,085 เธอกับลูกๆ ของเธอกลับมาลุยเซียนาตอนใต้ 131 00:08:23,169 --> 00:08:26,130 แล้วเข้าไปอยู่ในป่า 132 00:08:26,214 --> 00:08:30,009 และเราก็อยู่ที่นั่นมาตั้งแต่ตอนนั้น 133 00:08:30,092 --> 00:08:31,594 ฉันจะดื่มให้มาร์เกอริต 134 00:08:31,677 --> 00:08:33,471 ใช่ ขอบคุณมาร์เกอริตกัน 135 00:08:33,554 --> 00:08:36,432 ขอบคุณมาร์เกอริตสำหรับเรื่องนั้น ใช่ 136 00:08:36,516 --> 00:08:41,771 ผมอยากถามคุณเรื่องครีโอล ที่ว่ามันหมายถึงอัตลักษณ์ของคุณ 137 00:08:41,854 --> 00:08:44,190 ถ้าคุณระบุมันแบบนั้นนะ และคุณเติบโตมายังไง 138 00:08:44,273 --> 00:08:46,192 ในความสัมพันธ์กับคำนั้นและอัตลักษณ์ 139 00:08:46,275 --> 00:08:49,820 ใช่ค่ะ ฉันระบุแบบนั้นมาตลอด 140 00:08:49,904 --> 00:08:52,406 และฉันคิดว่าสิ่งที่ครีโอลมีความหมายกับเรา 141 00:08:52,490 --> 00:08:57,328 คือการผสมผสานระหว่างชาวแอฟริกา ชาวฝรั่งเศส และชาวพื้นเมือง 142 00:08:57,411 --> 00:09:00,248 และวิธีที่ทุกอย่างนั้นมารวมกัน 143 00:09:00,331 --> 00:09:03,084 และประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานกันนี้ 144 00:09:03,167 --> 00:09:05,628 เป็นส่วนหนึ่งของประเพณี "ครีโอล" 145 00:09:05,711 --> 00:09:09,757 อย่างแรกเลย มันเป็นคำที่มาจากภาษาสเปน "ครีอาร์" 146 00:09:09,840 --> 00:09:13,010 ซึ่งก็คือสร้าง แทบจะหมายถึงเกิดเลยละ 147 00:09:13,844 --> 00:09:17,014 ดังนั้นที่ต้นกำเนิด มันอาจหมายถึง 148 00:09:17,098 --> 00:09:21,185 เด็กๆ ชาวแอฟริกา 149 00:09:21,269 --> 00:09:23,980 ที่เกิดในโลกใหม่ 150 00:09:25,189 --> 00:09:26,732 เป็นครีโอล 151 00:09:26,816 --> 00:09:29,569 ฉันคิดว่าสิ่งที่นิยามได้มากที่สุด 152 00:09:29,652 --> 00:09:32,989 เมื่อฉันคิดถึงวัฒนธรรมครีโอล 153 00:09:33,072 --> 00:09:36,784 คืออาหารที่เรากิน เพราะมันเป็นสิ่งที่เราปลูก 154 00:09:36,867 --> 00:09:40,913 ดังนั้นข้าวจึงเป็นอาหารหลัก กระเจี๊ยบจึงเป็นอาหารหลัก 155 00:09:40,997 --> 00:09:43,624 ถั่วตาดำคือสิ่งที่เราจะเพาะปลูก 156 00:09:43,708 --> 00:09:47,211 นั่นคือสามสิ่งที่มีต้นกำเนิดในทวีปแอฟริกา 157 00:09:47,295 --> 00:09:48,671 มันมากับเรา 158 00:09:49,839 --> 00:09:51,215 โอเค เชฟ 159 00:09:51,799 --> 00:09:55,428 นี่คือซูปูคานยา ซึ่งหลักๆ แล้ว 160 00:09:55,511 --> 00:09:58,973 ซูปูแปลว่าซุป คานยาแปลว่ากระเจี๊ยบ 161 00:09:59,056 --> 00:10:03,144 ซึ่งเป็นที่รู้จักในนิวออร์ลีนส์ว่ากัมโบ 162 00:10:03,644 --> 00:10:06,230 - โอเค - หวังว่าคุณคงอร่อยกับมันนะครับ 163 00:10:06,314 --> 00:10:08,316 - ทานให้อร่อยนะครับ - ขอบคุณค่ะ 164 00:10:09,650 --> 00:10:10,776 ตักข้าวสิครับ 165 00:10:11,652 --> 00:10:12,612 ขอบคุณครับ 166 00:10:22,496 --> 00:10:24,540 ว้าว อร่อยมากครับ เชฟ 167 00:10:26,042 --> 00:10:28,628 หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจ 168 00:10:28,711 --> 00:10:34,925 ในการเดินทางจากแอฟริกาตะวันตกสู่ลุยเซียนา 169 00:10:35,551 --> 00:10:38,554 คือบทบาทของชาวฝรั่งเศส 170 00:10:38,638 --> 00:10:43,601 มีอะไรในเทคนิคของอาหารเหล่านี้ 171 00:10:43,684 --> 00:10:47,313 ที่มาจากอิทธิพลการทำอาหารฝรั่งเศสไหม 172 00:10:47,396 --> 00:10:49,565 พูดตามตรง ผมเชื่อจริงๆ ว่า 173 00:10:49,649 --> 00:10:54,111 เซเนกัลเป็นแรงบันดาลใจ การทำอาหารในนิวออร์ลีนส์ในหลายๆ แง่ 174 00:10:54,195 --> 00:10:56,822 และเมื่อผมพูดถึงชาวเซเนแกมเบียน 175 00:10:56,906 --> 00:11:00,534 ผมรวมถึงทุกประเทศในแอฟริกาตะวันตกด้วย 176 00:11:01,118 --> 00:11:02,620 แต่เรายังไม่ได้ความดีความชอบ 177 00:11:02,703 --> 00:11:05,665 เพราะชาวฝรั่งเศสคือผู้ทียึดเราเป็นอาณานิคม 178 00:11:05,748 --> 00:11:07,291 หลายคนเชื่อว่า… 179 00:11:09,085 --> 00:11:11,003 กัมโบได้รับแรงบันดาลใจจากบูยาแบส 180 00:11:11,087 --> 00:11:15,091 มันไม่ใช่เลย ถ้าคุณดูอาหารที่เป็นที่รู้จักในนิวออร์ลีนส์ 181 00:11:15,883 --> 00:11:17,426 สิ่งที่เห็นได้ชัดคือข้าว 182 00:11:17,510 --> 00:11:20,888 ถ้าคุณดูเซเนกัล อาหารของเราส่วนใหญ่เป็นข้าว 183 00:11:20,971 --> 00:11:22,890 ข้าวหมกโจลลอฟ มีแค่ข้าวกับเนื้อ 184 00:11:22,973 --> 00:11:25,393 คุณจะเห็นเส้นทางระหว่างสองวัฒนธรรม 185 00:11:25,476 --> 00:11:26,727 ใช่ค่ะ 186 00:11:27,228 --> 00:11:29,063 ข้าวหมกจอลลอฟ นั่นก็คือจัมบาลายา 187 00:11:29,146 --> 00:11:31,899 เมื่อคุณพูดถึงการทำอาหารของชาวแอฟริกัน 188 00:11:31,982 --> 00:11:33,901 และวิธีที่ชาวแอฟริกันทำอาหาร 189 00:11:33,984 --> 00:11:39,407 คือสิ่งที่นิยามการทำอาหารในแบบต่างๆ 190 00:11:40,866 --> 00:11:44,662 เราไม่ได้พูดถึงเทคนิคฝรั่งเศส 191 00:11:44,745 --> 00:11:47,748 เรากำลังพูดถึงส่วนผสม 192 00:11:47,832 --> 00:11:51,794 ที่แปลความหมายและนิยามอาหาร 193 00:11:53,212 --> 00:11:58,092 ความคิดทั้งหมดของการดูเซเนกัลกับนิวออร์ลีนส์ 194 00:11:58,175 --> 00:12:01,804 เชื่อมโยงกันบนอาหารจานหนึ่ง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก 195 00:12:01,887 --> 00:12:04,473 และมันน่าสนใจมากที่เป็นเซเนกัล 196 00:12:04,557 --> 00:12:07,518 เพราะสตีเฟ่นกับฉันอยู่ที่เบนิน 197 00:12:07,601 --> 00:12:10,396 เซเนกัลและเบนินต่างก็มีหลายจุด 198 00:12:10,479 --> 00:12:13,524 ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้น 199 00:12:13,607 --> 00:12:18,696 ของชาวแอฟริกันหลายแสนคนที่ตกเป็นทาส 200 00:12:20,281 --> 00:12:21,115 วอยลา 201 00:12:22,408 --> 00:12:24,326 ถั่วตาดำชุบแป้งทอด 202 00:12:26,036 --> 00:12:28,831 แล้วก็มีซอสหัวหอม 203 00:12:29,540 --> 00:12:30,916 ค่ะ ขอบคุณค่ะ 204 00:12:33,919 --> 00:12:36,630 ซอสนี้เป็นกุญแจสำคัญของฟริตเตอร์ 205 00:12:36,714 --> 00:12:38,549 หัวหอมเป็นหนึ่งในบรรดาผัก 206 00:12:38,632 --> 00:12:41,010 ที่ถ้าคุณต้มนานพอ ความหวานจะออกมา 207 00:12:41,093 --> 00:12:41,927 ใช่ค่ะ 208 00:12:42,011 --> 00:12:45,890 ดูเหมือนหัวหอมแทบจะ ละลายลงไปในซอสเกือบหมดแล้ว 209 00:12:45,973 --> 00:12:48,726 - ใช่ - เคี่ยวมันนานกว่าแปดชั่วโมง 210 00:12:49,393 --> 00:12:50,227 น่าทึ่งจริงๆ 211 00:12:51,061 --> 00:12:53,481 ฉันว่าซอสหัวหอมรสชาติเหมือนเซเนกัลเลย 212 00:12:53,564 --> 00:12:55,107 ใช่ แน่นอน 213 00:12:55,191 --> 00:12:56,275 อร่อยจัง 214 00:12:57,026 --> 00:13:00,237 ผมมีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับถั่วตาดำ 215 00:13:00,321 --> 00:13:02,031 ที่เพิ่งรู้มาเมื่อเร็วๆ นี้ 216 00:13:02,114 --> 00:13:05,201 ทริปสุดท้ายที่ผมไปเกาะกอเร่ 217 00:13:05,910 --> 00:13:08,287 ที่ที่บรรพบุรุษของเราหลายคน เห็นมันเป็นครั้งสุดท้าย 218 00:13:08,370 --> 00:13:10,748 มีผู้ชายคนหนึ่งเล่าเรื่องพวกนี้ให้ผมฟัง 219 00:13:10,831 --> 00:13:12,416 แล้วผมก็ถามเขาว่า 220 00:13:13,375 --> 00:13:16,128 "คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับอาหารที่พวกเขากิน" 221 00:13:16,712 --> 00:13:20,466 และเขาบอกว่า บรรพบุรุษของเราต้องหนัก 60 กิโลกรัม 222 00:13:20,549 --> 00:13:22,968 ถึงจะลงเรือข้ามไปได้ 223 00:13:23,677 --> 00:13:27,139 และสิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำให้บรรพบุรุษกิน เพื่อให้พวกเขาอ้วนขึ้น 224 00:13:27,223 --> 00:13:29,099 และทุกครั้งที่ผมพูดเรื่องนี้ ผม… 225 00:13:30,976 --> 00:13:34,313 แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาให้บรรพบุรุษกิน คือถั่วตาดำและน้ำมันปาล์ม 226 00:13:34,396 --> 00:13:35,773 เรามีอาคารา 227 00:13:36,398 --> 00:13:39,568 ถั่วตาดำกับหัวหอม ที่ใส่น้ำมันปาล์มเข้าไป 228 00:13:40,736 --> 00:13:42,196 เป็นเครื่องบรรณาการที่สวยงาม 229 00:13:48,661 --> 00:13:53,916 ชาวครีโอลเชื่อมโยงกับ บรรพบุรุษของพวกเขาในแอฟริกา 230 00:13:53,999 --> 00:13:58,796 สัมผัสรสชาติและสิ่งที่เราปลูก 231 00:13:58,879 --> 00:14:00,798 มันอยู่ในดีเอ็นเอ 232 00:14:00,881 --> 00:14:05,761 บรรพบุรุษถูกนำตัวไปยังลุยเซียนาในฐานะทาส 233 00:14:05,845 --> 00:14:10,599 ดังนั้นในหัวของพวกเขา ในหัวใจและในมือพวกเขา 234 00:14:11,183 --> 00:14:12,893 พวกเขาจึงนำอาหารมาด้วย 235 00:14:21,318 --> 00:14:25,364 (เอ็ดการ์ด ลุยเซียนา) 236 00:14:26,991 --> 00:14:30,077 เพื่อที่จะเข้าใจต้นกำเนิด การทำอาหารครีโอลได้ดีขึ้น 237 00:14:30,160 --> 00:14:34,206 ผมเดินทางไปเอ็ดการ์ด ลุยเซียนา กับมิเชล โจน ปาปิยอง 238 00:14:34,290 --> 00:14:37,793 ตามคลองที่ตระกูล ของแมทธิว รุสเซฟเป็นเจ้าของ 239 00:14:37,877 --> 00:14:40,004 ตั้งแต่ปลายยุค 1850 240 00:14:42,089 --> 00:14:44,425 ทุ่งหญ้าและลำธารของลุยเซียนา 241 00:14:44,508 --> 00:14:47,136 เลี้ยงครอบครัวมากมายมาหลายชั่วอายุคน 242 00:14:52,349 --> 00:14:54,518 นานหลายชั่วอายุคน 243 00:14:54,602 --> 00:14:58,731 ที่เราทำนาและเพาะปลูกบนผืนดิน 244 00:14:58,814 --> 00:15:03,193 ทำไร่ ทำทุกอย่างที่ต้องการเพื่อให้พอเพียง 245 00:15:03,736 --> 00:15:07,323 ยายฉันหัดตกปลาตั้งแต่เธอยังเด็ก 246 00:15:07,406 --> 00:15:09,658 และงานของเธอก็กลายเป็น 247 00:15:09,742 --> 00:15:13,245 คนที่ออกไปหาปลามาเลี้ยงครอบครัว 248 00:15:13,329 --> 00:15:16,373 พวกเขาเป็นชาวไร่ชาวนา พวกเขาปลูกสิ่งต่างๆ ในสวน 249 00:15:16,457 --> 00:15:19,126 พวกเขามีพืชผลและเธอก็ไปที่ทะเลสาบ 250 00:15:19,209 --> 00:15:22,129 เพื่อช่วยเหลือและเลี้ยงครอบครัว 251 00:15:22,212 --> 00:15:24,590 และนั่นก็เป็นกิจวัตรประจำวัน 252 00:15:24,673 --> 00:15:29,178 สำหรับเธอแล้ว น้ำเป็นธรรมชาติ มากพอๆ กับการอยู่ในไร่นา 253 00:15:30,179 --> 00:15:35,017 และเราก็มีไม้ไผ่แบบโบราณ 254 00:15:35,100 --> 00:15:36,560 สำหรับทำคันเบ็ดตกปลา 255 00:15:36,644 --> 00:15:38,979 คุณตกปลาแบบไหน 256 00:15:39,063 --> 00:15:42,358 เราตกปลากะพง ปลากระบือ ปลาเพิร์ช 257 00:15:42,441 --> 00:15:43,692 เรามีปลาเทราต์ 258 00:15:44,944 --> 00:15:46,779 เรามีปลาแบส 259 00:15:47,613 --> 00:15:50,658 การเป็นเด็กในเมืองและเติบโตมาในแอตแลนตา 260 00:15:50,741 --> 00:15:54,036 ผมไม่ต้องคิดเลยว่าของชำของเรามาจากไหน 261 00:15:54,787 --> 00:15:56,747 สำหรับครอบครัวของมิเชลและแมตต์ 262 00:15:56,830 --> 00:16:01,168 พวกเขาต้องพึ่งพาลำธาร เป็นแหล่งอาหารของพวกเขา 263 00:16:01,877 --> 00:16:04,046 คลองนี้ชื่อคลองสตัมป์ 264 00:16:04,129 --> 00:16:05,839 ผมเข้าใจว่าทำไมพวกเขาเรียกมันว่าคลองสตัมป์ 265 00:16:05,923 --> 00:16:07,383 ใช่ มันมีตอไม้อยู่ในนี้เยอะมาก 266 00:16:07,466 --> 00:16:10,302 ในฤดูหนาว คุณตกปลาแครปปี้ได้เยอะมาก 267 00:16:10,386 --> 00:16:14,139 ตอนนี้คุณตกปลาเพิร์ชในนี้ได้เยอะ มีปลาเพิร์ชเยอะมาก 268 00:16:14,723 --> 00:16:16,976 การใช้ชีวิตนอกชายฝั่งลุยเซียนา 269 00:16:17,059 --> 00:16:20,813 ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสำคัญของวัฒนธรรมครีโอล 270 00:16:20,896 --> 00:16:23,065 ผมมีจิ้งหรีดที่ดูเชื่องๆ ให้คุณด้วย 271 00:16:23,148 --> 00:16:24,984 ต้องอย่างนี้สิ 272 00:16:25,067 --> 00:16:28,404 ปัจจุบันแมตต์กับครอบครัว ยังใช้ชีวิตอยู่กับผืนน้ำเหล่านี้ 273 00:16:29,029 --> 00:16:31,031 ตกปลาจากมันเป็นอาหารค่ำทุกสัปดาห์ 274 00:16:31,991 --> 00:16:35,786 ผมตกปลาในคลองนี้มา 30 กว่าปี หรือไม่ก็นานกว่านั้น 275 00:16:35,869 --> 00:16:36,745 น่าทึ่งจริงๆ 276 00:16:36,829 --> 00:16:39,665 ผมรู้ว่าปลาอยู่ตรงไหนทุกช่วงเวลาของปี 277 00:16:39,748 --> 00:16:42,876 ทีนี้มาดูกัน ดูตรงนี้สิ ดูเหมือนมีบางอย่าง… 278 00:16:42,960 --> 00:16:46,130 - คุณเหวี่ยงสายเบ็ดไปตรงนั้น - ข้างๆ ตอไม้นั่น 279 00:16:46,213 --> 00:16:47,506 - ข้างๆ ตอไม้นั่น - ดูนี่นะ 280 00:16:47,589 --> 00:16:49,883 - ฉันเห็นปลาอยู่ใต้น้ำ - ดูนะ 281 00:16:49,967 --> 00:16:51,885 เราจะหามันให้เจอ มันอยู่แถวๆ นี้แหละ 282 00:16:51,969 --> 00:16:54,096 - อยู่นั่นไง ดูสิ - นั่นไง ตรงนั้น 283 00:16:54,179 --> 00:16:55,931 อยู่นั่นไง สวยมาก ดูสิ 284 00:16:56,015 --> 00:16:58,267 - ใช่ ตกปลาเพิร์ชขึ้นจากน้ำ - แบบนั้นแหละ 285 00:16:58,976 --> 00:17:00,394 - ตัวนี้สวยดี - ใช่ 286 00:17:00,477 --> 00:17:02,438 ตกปลาเพิร์ชขึ้นจากน้ำ เราได้ตัวนึงแล้ว 287 00:17:05,524 --> 00:17:07,443 การอยู่บนผืนน้ำเหล่านี้กับชาวบ้าน 288 00:17:07,526 --> 00:17:11,071 ที่ยังใช้ชีวิตและ ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารกินเองนั้นเรียบง่ายมาก 289 00:17:12,740 --> 00:17:17,578 มันเป็นเครื่องเตือนใจผมว่าการมีที่ดิน สามารถให้อาหาร ที่อยู่อาศัย และความมั่นคง 290 00:17:17,661 --> 00:17:19,830 สำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปอีกหลายรุ่น 291 00:17:30,090 --> 00:17:33,761 ขณะที่ผมสำรวจดินแดนที่ให้อาหารครีโอลกับเรา 292 00:17:35,554 --> 00:17:38,599 ผมไม่สามารถหลบเลี่ยงประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อน 293 00:17:38,682 --> 00:17:41,393 ของชนชั้นแรงงานผิวดำที่ถูกฝังอยู่ในผืนดินได้ 294 00:17:43,479 --> 00:17:46,565 แม้ว่าหลังจากการเลิกทาสและการฟื้นฟู 295 00:17:46,648 --> 00:17:50,319 ในช่วงปลายยุค 1800 และต้นยุค 1900 296 00:17:50,402 --> 00:17:53,781 ครอบครัวคนผิวดำหลายครอบครัว ยังคงผูกพันกับการเพาะปลูก 297 00:17:53,864 --> 00:17:57,910 ทำงานเป็นชาวไร่ชาวนา ใช้แรงงาน 100 เปอร์เซ็นต์ 298 00:17:57,993 --> 00:18:01,288 แต่ได้เงินเพียงบางส่วนของกำไร 299 00:18:01,830 --> 00:18:05,751 การแลกเปลี่ยนการทำงานที่ไม่สมดุล ที่เรียกว่าเกษตรกรรมจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต 300 00:18:06,460 --> 00:18:09,046 ระบบที่ไม่สิ้นสุดลงทั้งหมด 301 00:18:09,129 --> 00:18:11,340 จนถึงยุค 1960 302 00:18:13,217 --> 00:18:17,971 ผมเดินทางไปยังพื้นที่เพาะปลูกในลุยเซียนา เพื่อพบกับคุณเอลวิน ชิลด์ส 303 00:18:18,055 --> 00:18:21,767 วิศวกรเครื่องจักรกลที่เกษียณแล้วซึ่งโตมา กับการเป็นเกตรกรจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต 304 00:18:22,351 --> 00:18:24,436 - สบายดีไหมครับ คุณชิลด์ส - สบายมากครับ 305 00:18:24,520 --> 00:18:25,813 - ดีครับ - สุดยอดเลย 306 00:18:28,565 --> 00:18:32,444 ผมอยากถามคุณเกี่ยวกับเรื่องราวส่วนตัวของคุณ 307 00:18:32,528 --> 00:18:35,155 คุณเติบโตที่ไหน และเติบโตมายังไง 308 00:18:35,239 --> 00:18:37,908 ผมเติบโตบนพื้นที่เพาะปลูกเคนริเวอร์ 309 00:18:38,826 --> 00:18:41,078 ในครอบครัวเกษตรกรรมจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต 310 00:18:41,161 --> 00:18:44,957 ช่วยบอกผมอีกหน่อยได้ไหมครับ ว่ามันหมายถึงอะไร 311 00:18:45,040 --> 00:18:47,084 ในการเป็นเกษตรกรจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต 312 00:18:47,167 --> 00:18:49,711 ที่เติบโตมาในยุค 40 และ 50 313 00:18:49,795 --> 00:18:55,384 คุณได้กระท่อมทาสห้าหรือหกร้อยตารางฟุต 314 00:18:55,467 --> 00:18:58,011 และคุณก็ได้รับ 315 00:18:58,095 --> 00:19:02,683 ที่ดินอีกประมาณครึ่งเอเคอร์เพื่อปลูกพืชผล 316 00:19:03,642 --> 00:19:07,354 เลี้ยงไก่ และเลี้ยงหมูสองสามตัว 317 00:19:08,981 --> 00:19:13,068 มันก็แค่หากินไปวันๆ คุณไม่มีเงิน 318 00:19:13,152 --> 00:19:15,112 เราไม่มีอะไรเลยนอกจากแรงงาน 319 00:19:15,195 --> 00:19:17,990 ครอบครัวคุณใช้แรงงานแบบไหน 320 00:19:18,073 --> 00:19:19,867 ก็เก็บฝ้ายน่ะครับ 321 00:19:21,410 --> 00:19:23,620 นั่นหมายถึงตั้งแต่ตะวันขึ้นจนตะวันตกดิน 322 00:19:23,704 --> 00:19:28,458 และคุณก็ตกลงรับครึ่งหนึ่ง 323 00:19:28,542 --> 00:19:32,588 กำไรครึ่งหนึ่งเป็นของคุณ 324 00:19:32,671 --> 00:19:36,341 ส่วนอีกครึ่งเป็นของเจ้าของที่ดิน 325 00:19:36,425 --> 00:19:39,595 แต่ถ้าคุณไม่มีคอก 326 00:19:39,678 --> 00:19:41,638 ไม่มีคันไถ 327 00:19:41,722 --> 00:19:43,515 ไม่มีเกวียน 328 00:19:43,599 --> 00:19:46,977 คุณต้องเช่ามันจากเจ้าของไร่ 329 00:19:47,728 --> 00:19:51,023 ทันทีที่มันเกิดขึ้น 330 00:19:51,732 --> 00:19:55,694 กำไรครึ่งหนึ่งของคุณจะเหลือแค่หนึ่งในสาม 331 00:19:55,777 --> 00:19:56,945 เห็นไหมว่าเกิดอะไรขึ้น 332 00:19:57,613 --> 00:20:01,283 แล้วพอถึงสิ้นปี คุณก็เท่าทุน 333 00:20:01,783 --> 00:20:02,868 อาจจะ 334 00:20:02,951 --> 00:20:06,788 สิ่งที่คุณชิลด์สอธิบาย ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอิสรภาพที่แท้จริง 335 00:20:07,456 --> 00:20:08,957 อย่างน้อยก็ไม่ใช่สำหรับผม 336 00:20:09,041 --> 00:20:13,545 เกษตรกรจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต แม้จะมีสัญญาที่ไม่ยุติธรรมกับเจ้าของที่ดิน 337 00:20:13,629 --> 00:20:17,382 แต่ก็ต้องหาทางเลี้ยงตัวเองและครอบครัว 338 00:20:18,175 --> 00:20:21,803 ทุกไร่มีร้านของตัวเอง 339 00:20:21,887 --> 00:20:26,225 ในระหว่างปี คุณไม่มีเงินเลยจนกว่าพืชผลจะเก็บเกี่ยวได้ 340 00:20:27,017 --> 00:20:29,061 พวกเขาจะให้เครดิตคุณ 341 00:20:29,144 --> 00:20:32,231 และก็ขายของให้คุณจากร้าน 342 00:20:32,314 --> 00:20:34,942 แล้วคุณก็ซื้อแป้ง 343 00:20:35,025 --> 00:20:38,070 ซื้อคอร์นมีล น้ำตาล 344 00:20:38,153 --> 00:20:41,782 และทำมันเป็นสิ่งที่เรียกว่าคุชขนมปังข้าวโพด 345 00:20:41,865 --> 00:20:42,950 คุชขนมปังข้าวโพด 346 00:20:43,033 --> 00:20:47,621 ใช่ คุณจะใช้น้ำมัน มันหมู ซึ่งมาจากหมูของคุณ 347 00:20:48,247 --> 00:20:50,916 ตอนคุณทำกากหมู คุณเอาน้ำมันออกมา 348 00:20:50,999 --> 00:20:54,086 แล้วก็ใส่ลงในกระทะ และใส่มีลลงไป 349 00:20:54,169 --> 00:20:57,756 ใส่น้ำลงไปแล้วก็ตีมันเหมือนคุณจะทำเค้ก 350 00:20:58,257 --> 00:21:01,468 แต่พอน้ำมันร้อน ก็เทลงในกระทะ 351 00:21:01,551 --> 00:21:04,137 กระทะดำๆ แล้วคนให้เข้ากัน 352 00:21:04,763 --> 00:21:08,141 ใส่น้ำตาลลงไป โรยกากน้ำตาลลงไป 353 00:21:08,976 --> 00:21:11,436 แล้วเทนมลงไป คุณก็ได้ซีเรียลแล้ว 354 00:21:12,271 --> 00:21:17,693 โอเค นั่นคือสิ่งที่คุณกิน เยอะเลย แต่นั่นคือสิ่งที่เรามี 355 00:21:17,776 --> 00:21:21,113 พวกเขาเจออะไรก็ตามที่ราคาถูกที่สุด 356 00:21:21,196 --> 00:21:24,616 พวกเขาจะวางไว้บนชั้น สำหรับเกษตรกรจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต 357 00:21:25,325 --> 00:21:30,747 อาหารหลักทั่วไปของอาหารทาส ก็มีคอร์นมีล เนื้อหมู และกากน้ำตาล 358 00:21:31,373 --> 00:21:33,041 ซึ่งใกล้เคียงกับอาหาร 359 00:21:33,125 --> 00:21:36,378 ที่คุณชิลด์สกินเกือบ 100 ปีต่อมา 360 00:21:37,254 --> 00:21:42,676 อะไรคือความแตกต่างระหว่างยุคทาส 361 00:21:42,759 --> 00:21:46,805 กับยุคฟื้นฟูของเกษตรกรรมจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต 362 00:21:46,888 --> 00:21:51,935 ความแตกต่างในยุคนั้นคือ คุณไม่มีแรงงานแบบกลุ่ม 363 00:21:52,978 --> 00:21:55,939 คุณเป็นผู้รับเหมาอิสระ 364 00:21:56,023 --> 00:22:01,028 ตอนนี้คุณอาจมีศักดิ์ศรีอะไรสักอย่าง 365 00:22:01,111 --> 00:22:04,990 ฝ้ายนี่ ผมปลูกมันเอง 366 00:22:05,073 --> 00:22:09,328 กำไรจากมันเป็นของผมส่วนหนึ่ง 367 00:22:09,411 --> 00:22:11,038 ไม่ว่าจะน้อยแค่ไหน 368 00:22:11,872 --> 00:22:15,667 คุณคิดว่าเกษตรกรรมจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต จะคงอยู่ตลอดไป 369 00:22:17,461 --> 00:22:19,546 จนกระทั่งเครื่องจักรมาถึง 370 00:22:20,630 --> 00:22:21,923 แล้วตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นครับ 371 00:22:22,007 --> 00:22:24,217 พวกเขาไม่ต้องการเราแล้ว 372 00:22:24,885 --> 00:22:26,762 เครื่องจักรเก็บฝ้ายมาถึง 373 00:22:27,262 --> 00:22:30,640 เพื่อเก็บฝ้าย แล้วพวกเขาก็ขอให้คนงานออกไป 374 00:22:32,309 --> 00:22:36,063 แล้วคุณก็รอคนมาเคาะประตู 375 00:22:38,148 --> 00:22:39,858 "คุณออกไปวันพุธได้ไหม" 376 00:22:41,276 --> 00:22:44,738 หลังจากหลายร้อยปี คุณก็ถูกขอให้ออกไป 377 00:22:46,156 --> 00:22:49,868 "และก็ไม่ได้ คุณยืมเกวียนผมใส่ของคุณไปไม่ได้" 378 00:22:51,328 --> 00:22:53,663 "และผมก็ไม่มีที่ให้คุณอยู่" 379 00:22:55,665 --> 00:22:59,920 สำหรับผม มันโหดร้ายมาก 380 00:23:00,796 --> 00:23:04,007 และสำหรับผม มันดูเหมือน 381 00:23:04,841 --> 00:23:07,010 เจ้าของไร่พวกนี้ เพราะก็อีกนั่นแหละ 382 00:23:07,094 --> 00:23:11,306 เรากำลังพูดถึงช่วงเวลาหลายสิบปีหลังเลิกทาส 383 00:23:12,057 --> 00:23:14,601 ดังนั้นสิ่งที่พวกเขายึดมั่น 384 00:23:15,519 --> 00:23:19,147 คืออำนาจที่จะพูดได้ว่า 385 00:23:19,231 --> 00:23:22,526 - "คุณต้องออกไปวันพุธ" - ใช่ครับ 386 00:23:22,609 --> 00:23:25,487 พวกเขาไม่มีมนุษยธรรมอยู่ดี 387 00:23:25,570 --> 00:23:26,780 ไม่มีความเคารพ 388 00:23:26,863 --> 00:23:28,532 เราทำงานบนที่ดินผืนนั้น 389 00:23:29,241 --> 00:23:31,159 เราอาศัยอยู่บนที่ดินผืนนั้น 390 00:23:31,243 --> 00:23:32,577 เรารู้แค่นั้น 391 00:23:33,161 --> 00:23:35,330 และคุณถูกบังคับให้ออกไปจากที่ดิน 392 00:23:37,457 --> 00:23:38,583 คุณจะไปไหนได้ 393 00:23:39,084 --> 00:23:40,836 ใช่ เราสูญเสียไปเยอะมาก 394 00:23:40,919 --> 00:23:42,421 เราสูญเสียไปเยอะมากกับที่นั่น 395 00:23:42,504 --> 00:23:45,340 พอครอบครัวย้ายมาอยู่ในเมือง 396 00:23:46,675 --> 00:23:49,678 รัฐบาลก็มาบอกว่า 397 00:23:49,761 --> 00:23:53,181 "เราจะสร้างหมู่บ้านของรัฐให้พวกคุณอยู่กัน" 398 00:23:53,265 --> 00:23:57,102 จากนั้นรัฐบาลก็เข้าไปยังส่วนที่แย่ที่สุดของเมือง 399 00:23:57,185 --> 00:24:00,647 สร้างบ้านโครงการของรัฐบาลหลายหลัง 400 00:24:02,107 --> 00:24:04,734 และสร้างสลัม 401 00:24:04,818 --> 00:24:07,946 นั่นคือเหตุผลที่ตอนผมขับรถผ่านแพลนเทชั่น คันทรี 402 00:24:08,029 --> 00:24:08,947 ผมเห็นบ้านของผม 403 00:24:09,781 --> 00:24:13,702 นี่คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นในฐานะคนผิวดำ 404 00:24:14,536 --> 00:24:18,957 แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นเจ้าของมัน และจะไม่มีใครอยู่ที่นั่นกับเรา 405 00:24:19,040 --> 00:24:20,542 แต่มันเป็นของเรา 406 00:24:20,625 --> 00:24:23,044 ในฐานะคนผิวดำ เราอยู่บนพื้นที่เพาะปลูก 407 00:24:23,128 --> 00:24:25,046 เวลาผมได้ยินคำว่าพื้นที่เพาะปลูก 408 00:24:25,964 --> 00:24:27,507 มันทำให้ผมไม่สบายใจ 409 00:24:27,591 --> 00:24:31,219 เพราะผมเติบโตมากับคำนี้ 410 00:24:31,303 --> 00:24:35,098 มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดถึง 411 00:24:35,724 --> 00:24:39,352 มันเป็นที่มาของความอับอาย 412 00:24:40,228 --> 00:24:42,856 พื้นที่เพาะปลูกเป็นของเรา 413 00:24:42,939 --> 00:24:45,859 อย่าทำให้มันเป็นคำที่ไม่ดี 414 00:24:45,942 --> 00:24:48,904 เพราะบรรพบุรุษของคุณเป็นทาสอยู่ที่นั่น 415 00:24:48,987 --> 00:24:52,324 ประสบการณ์คนอเมริกันผิวดำส่วนใหญ่ 416 00:24:52,407 --> 00:24:54,242 เกี่ยวข้องกับการหยุดยั้ง 417 00:24:54,326 --> 00:24:58,997 เราหยุดยั้งเรื่องราวดั้งเดิมของเรา เกี่ยวกับพื้นที่เพาะปลูก 418 00:24:59,080 --> 00:25:02,334 เพื่อที่ตอนนี้คนผิวดำจะได้พูดว่า 419 00:25:02,417 --> 00:25:04,085 "ฉันไม่อยากทำงานบนผืนดินอีกแล้ว 420 00:25:04,169 --> 00:25:07,172 เพราะมันมากเกินไปเหมือนกับสิ่งอื่น" 421 00:25:07,255 --> 00:25:10,342 แต่เราไม่ได้มีความสัมพันธ์กับสิ่งอื่นใช่ไหม 422 00:25:10,425 --> 00:25:11,635 นอกจากผืนดิน 423 00:25:11,718 --> 00:25:15,597 บรรพบุรุษของผมมีชีวิตอยู่และตายที่นี่ 424 00:25:16,890 --> 00:25:20,060 และเราสร้างชุมชนคนผิวดำแห่งแรก 425 00:25:20,143 --> 00:25:22,729 ในประเทศนี้ บนพื้นที่เพาะปลูก 426 00:25:23,939 --> 00:25:27,943 และเราก็อยู่ที่นั่นด้วยกันสองสามร้อยปี 427 00:25:29,027 --> 00:25:30,779 แล้วตอนนี้จู่ๆ… 428 00:25:32,864 --> 00:25:36,076 เราก็ควรกลัวมัน เกลียดมันหรือดูถูกมัน 429 00:25:36,159 --> 00:25:39,746 ไม่ มันคือคำพูดของเรา เราเป็นเจ้าของมัน 430 00:25:40,914 --> 00:25:43,750 เราสร้างมันขึ้นมาและเราก็เป็นเจ้าของมัน 431 00:25:43,833 --> 00:25:46,253 ว้าว นั่นทรงพลังมากเลย คุณชิลด์ส 432 00:25:47,671 --> 00:25:50,924 - ผมรู้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่… - ผมเข้าใจแล้ว ผมเข้าใจ 433 00:25:55,637 --> 00:25:58,765 ขณะที่ครอบครัวของเอลวิน ถูกเจ้าของที่ดินบังคับให้ออกไปจากไร่ 434 00:25:58,848 --> 00:26:01,893 อีกหลายครอบครัวหลบหนีพวกมาเฟียเหยียดผิว 435 00:26:01,977 --> 00:26:03,812 กฎหมายที่เข้มงวดของจิม โครว์ 436 00:26:04,604 --> 00:26:07,357 และมองหาโอกาสในการทำงานที่ดีกว่า 437 00:26:09,276 --> 00:26:11,653 พวกเขาทิ้งผืนดินที่พวกเขาเพาะปลูก 438 00:26:11,736 --> 00:26:13,196 มาหลายร้อยปี 439 00:26:13,905 --> 00:26:16,408 และที่ที่พวกเขาเรียกว่าบ้าน 440 00:26:17,534 --> 00:26:20,704 ในช่วงการอพยพครั้งใหญ่ที่เริ่มในปี 1910 441 00:26:20,787 --> 00:26:24,958 ชาวแอฟริกันอเมริกัน เกือบหกล้านคนออกจากพื้นที่เพาะปลูกทางใต้ 442 00:26:25,041 --> 00:26:28,295 แล้วมุ่งหน้าไปทางเหนือสู่สถานที่ต่างๆ อย่างเช่น ชิคาโก อิลลินอยส์ 443 00:26:30,797 --> 00:26:33,633 มันไม่ใช่แค่การขึ้นเหนือเพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ 444 00:26:34,217 --> 00:26:36,595 มันเป็นการบอกลาทางใต้ด้วยเช่นกัน 445 00:26:42,517 --> 00:26:45,145 (หลุมศพของทาสนิรนาม) 446 00:26:46,605 --> 00:26:50,650 และการรวมตัวกันเพื่อกินอาหาร ในฐานะชุมชนก่อนที่คุณจะจากไป 447 00:26:50,734 --> 00:26:52,861 คือวิธีหนึ่งในการแสดงความเคารพ 448 00:26:52,944 --> 00:26:56,114 ต่อชีวิตและผู้เป็นที่รักที่คุณทิ้งไว้ข้างหลัง 449 00:26:56,740 --> 00:27:00,619 และในประเพณีนี้ อาหารค่ำที่โบสถ์นิวออร์ลีนส์ 450 00:27:00,702 --> 00:27:03,997 ทำโดยร้านอาหารดูกี้เชสในตำนาน 451 00:27:04,080 --> 00:27:06,833 และดำเนินการโดยสเตลล่า เชส รีส 452 00:27:06,916 --> 00:27:11,254 ลูกสาวของราชินีแห่งอาหารครีโอล ผู้ล่วงลับ ลีอาห์ เชส 453 00:27:11,338 --> 00:27:12,756 ดูเหมาะสมดี 454 00:27:14,174 --> 00:27:16,843 ฉันเล็งขนมปังข้าวโพดอยู่ 455 00:27:17,510 --> 00:27:18,345 ขอบคุณค่ะ 456 00:27:18,428 --> 00:27:20,764 ผู้ที่มาร่วมโต๊ะกับดร.เจ มิเชล ปาปิยอง และผม 457 00:27:20,847 --> 00:27:24,934 เป็นชาวพื้นเมืองลุยเซียนาและเชฟส่วนตัว ลาชอนดา ครอส 458 00:27:25,644 --> 00:27:27,896 นี่มีทุกอย่างเลยนะคะ 459 00:27:27,979 --> 00:27:29,648 มีทุกอย่างเลยค่ะ 460 00:27:29,731 --> 00:27:32,400 มีถั่วแดงและจัมบาลายาด้วย ดีมากเลย 461 00:27:32,484 --> 00:27:35,153 - อาหารค่ำแสนอร่อยที่โบสถ์ - ใช่ค่ะ 462 00:27:35,236 --> 00:27:37,197 ฉันเติบโตในโบสถ์แบปติสต์ และสิ่งหนึ่ง 463 00:27:37,280 --> 00:27:39,240 ที่ฉันจำได้จากวัยเด็ก 464 00:27:39,324 --> 00:27:41,242 ก็คือหลังจากเข้าโบสถ์แล้ว 465 00:27:41,326 --> 00:27:42,744 ก็มีอาหาร 466 00:27:42,827 --> 00:27:47,082 ใช่ วางเรียงกันบนโต๊ะเป็นแถวๆ 467 00:27:48,249 --> 00:27:50,752 แต่มันเหมาะสมมากที่เรามาอยู่ในโบสถ์นี้ 468 00:27:50,835 --> 00:27:52,962 เพราะเรากำลังฉลองกันอยู่ 469 00:27:53,588 --> 00:27:57,759 และเป็นการเลียนแบบสิ่งที่ผู้คนทำ 470 00:27:57,842 --> 00:28:01,262 ตอนที่พวกเขาอพยพมาจากทางใต้ทั่วทุกที่ 471 00:28:01,346 --> 00:28:03,306 ไม่ใช่แค่ลุยเซียนา 472 00:28:03,390 --> 00:28:06,059 ความคิดทั้งหมดของการมารวมตัวกัน 473 00:28:06,935 --> 00:28:08,478 ในสถานที่สักการะ… 474 00:28:08,561 --> 00:28:09,562 ค่ะ 475 00:28:09,646 --> 00:28:12,524 เพื่อมื้อค่ำอำลาครั้งสุดท้าย 476 00:28:12,607 --> 00:28:15,860 นี่คือเวลาที่พวกเขามารวมตัวกัน 477 00:28:15,944 --> 00:28:18,822 เพื่อขอพรจากพระเจ้าในสถานที่สักการะ 478 00:28:19,364 --> 00:28:23,576 แล้วก็มารวมตัวกันในฐานะครอบครัว เพื่อทำสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด 479 00:28:24,202 --> 00:28:26,496 กินอาหารอร่อยๆ ให้อิ่มหนำสำราญกัน 480 00:28:26,579 --> 00:28:28,123 - นั่นแหละ - แน่นอน 481 00:28:28,206 --> 00:28:30,834 แม่ของคุณสามารถ 482 00:28:30,917 --> 00:28:35,380 หาทางให้ตัวเองได้ ในฐานะผู้ประกอบการหญิงผิวดำ 483 00:28:35,463 --> 00:28:36,297 ใช่ค่ะ 484 00:28:36,381 --> 00:28:39,884 อะไรคือบทบาทของ 485 00:28:39,968 --> 00:28:42,554 ผู้อาวุโสหญิงผิวดำและบรรพบุรุษ 486 00:28:43,138 --> 00:28:45,765 ฉันรู้ว่าแม่ฉันเคยพูดว่า 487 00:28:45,849 --> 00:28:47,934 "แม่ไม่รู้ว่าแม่ทำอะไร" 488 00:28:48,560 --> 00:28:51,229 "แม่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำสิ่งที่แม่ทำได้ดีที่สุด" 489 00:28:51,312 --> 00:28:52,814 ซึ่งก็คือการทำอาหารนี้ 490 00:28:52,897 --> 00:28:54,858 และมันก็ทำให้เธอรู้สึกดี 491 00:28:54,941 --> 00:28:58,111 เธอทำให้คนมีความสุขด้วยอาหารของเธอ 492 00:28:58,194 --> 00:29:01,531 และเธอก็ไม่ใช่แค่ทำให้ คนมีความสุขด้วยอาหารของเธอ 493 00:29:01,614 --> 00:29:05,577 แต่เธอจัดงานระดมทุน ทำอาหารให้โบสถ์ 494 00:29:05,660 --> 00:29:08,997 แต่ทำมันด้วยพรสวรรค์ของเธอในการทำอาหาร 495 00:29:09,080 --> 00:29:10,081 ค่ะ 496 00:29:10,165 --> 00:29:14,127 ผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสี โดยเฉพาะผู้หญิงครีโอล 497 00:29:14,210 --> 00:29:19,549 มีความสามารถมากกว่าที่จะใช้ พรสวรรค์ในการทำอาหารเพื่อสร้างความมั่งคั่ง 498 00:29:19,632 --> 00:29:23,178 ตั้งแต่คนอย่างโรส นิโคด์ 499 00:29:24,179 --> 00:29:26,514 ตั้งแต่คนอย่างโรเซ็ตต์ โรฌอง 500 00:29:26,598 --> 00:29:29,851 เราไม่รู้ชื่อของพราลีเนีย 501 00:29:29,934 --> 00:29:31,811 ผู้หญิงที่ขายพราลีนบางคนด้วยซ้ำ 502 00:29:31,895 --> 00:29:33,313 - ใช่แล้ว - คุณก็รู้ 503 00:29:33,396 --> 00:29:39,277 ผู้หญิงหลายคนที่แทบจะเป็น บทสวดแห่งความสำเร็จได้เลย 504 00:29:39,360 --> 00:29:42,071 ความสำเร็จที่เกิดจากการทำอาหาร 505 00:29:43,031 --> 00:29:45,909 ทำมันได้สำเร็จ นั่นเป็นเรื่องจริง 506 00:29:45,992 --> 00:29:48,745 และมันก็สำคัญมาก 507 00:29:48,828 --> 00:29:52,624 ที่ต้องยกย่องและยอมรับเรื่องนั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่ั 508 00:29:52,707 --> 00:29:57,921 ช่วยให้เราทำกันต่อที่นี่ 509 00:29:58,004 --> 00:30:01,090 แล้วก็ในที่ต่างๆ ที่ผู้คนไป 510 00:30:02,133 --> 00:30:05,303 ระหว่างทางไปเหนือ ระหว่างทางไปตะวันตก 511 00:30:05,929 --> 00:30:09,015 และพวกเขารู้ถึงความสำคัญของการมาที่โต๊ะ 512 00:30:09,098 --> 00:30:12,352 แม่ฉันชอบพูดว่า "กลับมาที่โต๊ะ" 513 00:30:12,852 --> 00:30:16,314 คุณต้องกินอาหารกับครอบครัวก่อนไป 514 00:30:16,397 --> 00:30:18,942 เพราะมันเป็นที่ที่เราจะได้พบกับ 515 00:30:19,651 --> 00:30:22,529 ความสบายใจและจิตวิญญาณ 516 00:30:22,612 --> 00:30:26,199 เราเลยมารวมตัวกันแล้วกินอาหารค่ำที่โบสถ์ 517 00:30:26,282 --> 00:30:29,118 คนเชื้อสายแอฟริกันมีจิตวิญญาณมาก 518 00:30:30,411 --> 00:30:33,832 เราจึงเป็นคนที่เข้าใจ 519 00:30:35,083 --> 00:30:37,168 ความจำเป็นของพิธี 520 00:30:37,252 --> 00:30:41,214 อาหารแบบนี้เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ทุกอย่างมารวมกัน 521 00:30:41,297 --> 00:30:44,926 พิธีคือเครื่องหมายวรรคตอน 522 00:30:45,009 --> 00:30:47,637 ที่ทำให้ชีวิตเรามีจังหวะและคล้องจอง 523 00:30:47,720 --> 00:30:50,557 และนิยามชีวิตเรา 524 00:30:51,140 --> 00:30:53,518 และเท่าเทียมกันบนโต๊ะ 525 00:30:53,601 --> 00:30:58,940 ดังนั้นความจำเป็นในการจัดพิธี 526 00:30:59,023 --> 00:31:00,942 เมื่อจะจากไปคือสิ่งสำคัญ 527 00:31:01,025 --> 00:31:04,529 เพราะมันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง 528 00:31:04,612 --> 00:31:08,283 เพราะมันต้องใช้ความกล้า ในการมุ่งหน้าไปยังสิ่งที่เราไม่รู้จัก 529 00:31:09,284 --> 00:31:15,081 ตามคำพูดที่มายา แองเจลูเคยใช้ เพื่อสร้างเส้นทางใหม่ 530 00:31:16,040 --> 00:31:19,127 เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกเขาทำ พวกเขาสร้างเส้นทางใหม่ 531 00:31:19,836 --> 00:31:22,130 พวกเขามุ่งมั่นเผชิญชะตากรรม 532 00:31:22,755 --> 00:31:26,634 และย้ายไปยังที่ที่ไม่มีใครรู้จัก นั่นคือการอพยพครั้งใหญ่ 533 00:31:34,267 --> 00:31:35,351 (ลุยเซียนา) 534 00:31:35,435 --> 00:31:36,561 (นิวออร์ลีนส์) 535 00:31:36,644 --> 00:31:39,397 ผมเดินตามรอยบรรพบุรุษของผม 536 00:31:39,480 --> 00:31:41,274 มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปชิคาโก 537 00:31:41,357 --> 00:31:43,943 (ชิคาโก) 538 00:31:44,027 --> 00:31:46,696 เหมือนชาวอเมริกันผิวดำเกือบครึ่งล้านคน 539 00:31:46,779 --> 00:31:49,449 ที่เดินทางมาที่นี่ในช่วงการอพยพครั้งใหญ่ 540 00:31:51,451 --> 00:31:55,204 ผมได้แต่นึกภาพว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้พวกเขาลำบากแค่ไหน 541 00:31:57,624 --> 00:32:00,752 คนผิวดำเดินทางกันเองด้วยวิธีไหนก็ตามที่ทำได้ 542 00:32:02,086 --> 00:32:06,132 รถบัส เกวียน รถไฟ 543 00:32:08,593 --> 00:32:12,764 ในขณะเดียวกัน บางคนก็ทำงานบนรถไฟที่มุ่งหน้าไปทางเหนือ 544 00:32:12,847 --> 00:32:15,308 ในรถนอนหรูที่ถูกออกแบบ 545 00:32:15,391 --> 00:32:16,893 โดยจอร์จ พูลแมน 546 00:32:17,477 --> 00:32:21,397 ซึ่งใช้ประโยชน์ จากความคาดหวังของคนงานผิวดำ 547 00:32:21,481 --> 00:32:23,149 ที่จะรับใช้ลูกค้าผิวขาว 548 00:32:23,232 --> 00:32:26,194 และจ้างพนักงานผิวดำเกือบทั้งหมด 549 00:32:27,528 --> 00:32:29,572 ผู้ชายแอฟริกันอเมริกันเหล่านั้น 550 00:32:29,656 --> 00:32:34,035 เป็นที่รู้จักในชื่อพนักงานยกกระเป๋าของพูลแมน 551 00:32:35,119 --> 00:32:38,081 ค่าจ้าง ทิป และสหภาพแรงงาน ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากคนผิวดำ 552 00:32:38,164 --> 00:32:41,751 และนำโดยคนผิวดำ ทำให้เกิดโอกาสพิเศษ 553 00:32:41,834 --> 00:32:45,880 สำหรับชาวแอฟริกันอเมริกันบางคน ที่จะก้าวขึ้นสู่ชนชั้นแรงงาน 554 00:32:47,340 --> 00:32:49,050 พนักงานยกกระเป๋าและเชฟผิวดำเหล่านี้ 555 00:32:49,133 --> 00:32:51,719 ทำงานในทางเดินแคบๆ และห้องครัวแคบๆ 556 00:32:51,803 --> 00:32:54,973 แต่สร้างประสบการณ์อันหรูหรามีระดับ 557 00:32:55,056 --> 00:32:57,892 ที่จัดให้ผู้โดยสารที่จ่ายเงินจำนวนมาก 558 00:32:58,810 --> 00:33:01,896 อาหารที่มีคุณภาพและการบริการที่ยอดเยี่ยม 559 00:33:01,980 --> 00:33:04,774 คือสิ่งที่ทำให้ประสบการณ์พูลแมนเป็นตำนาน 560 00:33:09,654 --> 00:33:12,865 และปู่ของผม เวอร์นอน แซตเตอร์ฟิลด์ ซีเนียร์ 561 00:33:12,949 --> 00:33:16,452 ที่ตายก่อนผมเกิด ก็เป็นพนักงานยกกระเป๋าของพูลแมนเช่นกัน 562 00:33:17,704 --> 00:33:19,831 ผมรู้เรื่องราวของเขาน้อยมาก 563 00:33:21,582 --> 00:33:24,544 แต่วันนี้ผมหวังว่าจะได้เห็นชีวิตของปู่ 564 00:33:24,627 --> 00:33:27,130 ตอนนั่งคุยกับลูกชายของบริกรบนตู้รถไฟ 565 00:33:27,213 --> 00:33:28,923 คุณไมเคิล แมคโกอิงส์ 566 00:33:29,007 --> 00:33:32,802 และอดีตพนักงานยกกระเป๋าของพูลแมนวัย 99 ปี 567 00:33:32,885 --> 00:33:34,721 คุณเบนจามิน เกนส์ ซีเนียร์ 568 00:33:36,139 --> 00:33:39,475 คุณเกนส์ คุณอายุเกือบ 100 ปีแล้ว 569 00:33:39,559 --> 00:33:40,852 ขอคารวะคุณครับ 570 00:33:40,935 --> 00:33:45,440 บอกเราหน่อยครับว่า บทบาทของพนักงานยกกระเป๋าคืออะไร 571 00:33:45,523 --> 00:33:47,400 และคุณมีประสบการณ์ยังไงบ้าง 572 00:33:47,483 --> 00:33:49,318 ตอนที่ผมเริ่มทำมัน 573 00:33:49,402 --> 00:33:53,406 มีผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานบนตู้รถไฟไปรษณีย์ 574 00:33:53,489 --> 00:33:56,284 เขาบอกผมว่า "ไปทำงานกับการรถไฟสิ" 575 00:33:56,367 --> 00:33:59,287 เขาบอกผมเรื่องสหภาพและทุกอย่าง 576 00:33:59,370 --> 00:34:01,956 เขาบอกว่าค่าจ้างเยอะดีนะ 577 00:34:02,040 --> 00:34:06,002 ผมเลยออกจากเคนทักกีแล้วมาชิคาโก 578 00:34:06,085 --> 00:34:08,629 และเริ่มทำงานกับบริษัทพูลแมน 579 00:34:09,213 --> 00:34:13,718 คุณรับผู้โดยสาร พาพวกเขาไปที่ห้อง 580 00:34:13,801 --> 00:34:15,386 ทำให้พวกเขารู้สึกสบาย 581 00:34:16,304 --> 00:34:20,975 และตู้รถไฟพูลแมน ทุกอย่างมันเลิศหรูมาก 582 00:34:21,059 --> 00:34:23,561 ตู้รถไฟร้านอาหารมีอาหารที่ดีที่สุด 583 00:34:23,644 --> 00:34:27,482 เพราะในช่วงสงคราม ผู้คนเคยนั่งรถไฟ 584 00:34:28,608 --> 00:34:30,151 แค่เพื่อกินอาหารดีๆ 585 00:34:30,651 --> 00:34:34,155 พวกเขาแทบจะชกต่อยกันเลย เพื่อได้ขึ้นรถไฟ ถ้าพวกเขาต้องทำ 586 00:34:34,238 --> 00:34:35,698 เพื่อได้กินอาหารดีๆ 587 00:34:35,782 --> 00:34:37,533 บอกเราหน่อยครับถ้าคุณบอกได้ 588 00:34:37,617 --> 00:34:40,661 คุณพูดถึงปีอะไรหรือยุคไหน 589 00:34:40,745 --> 00:34:42,830 - มันอยู่ในยุค 40 - ในยุค 40 590 00:34:42,914 --> 00:34:44,832 โอเค นั่นคือตอนที่ปู่ผม 591 00:34:44,916 --> 00:34:49,003 เริ่มทำงานกับการรถไฟชิคาโกเช่นกัน 592 00:34:50,755 --> 00:34:52,840 - และก็คุณแมคโกอิงส์ครับ - ครับ 593 00:34:52,924 --> 00:34:56,469 คุณเติบโตมากับการเดินทางบนรถไฟ 594 00:34:56,552 --> 00:34:58,179 มันเป็นยังไงบ้างครับ 595 00:34:58,679 --> 00:35:00,890 ทันทีที่ผมโตพอ 596 00:35:00,973 --> 00:35:05,228 ผมก็ขึ้นรถไฟไปกับพ่อ บางครั้งก็ไปวันเดียว แล้วกลับบ้าน 597 00:35:05,895 --> 00:35:07,396 เพราะเขาชอบซื้อของ 598 00:35:07,480 --> 00:35:12,318 เขามีรสนิยมที่ซับซ้อนมากเกี่ยวกับเสื้อผ้า 599 00:35:12,401 --> 00:35:17,365 การทำงานที่แคปิตอลลิมิเต็ด มีทั้งพวกนักการเมือง 600 00:35:17,448 --> 00:35:21,410 นักธุรกิจที่ใส่สูทและก็อะไรแบบนั้น 601 00:35:21,494 --> 00:35:24,747 เขาซึมซับจากพวกเขาเยอะมาก 602 00:35:24,831 --> 00:35:27,208 โดยเฉพาะการแต่งตัวของพวกเขา 603 00:35:28,292 --> 00:35:31,462 สูททุกชุดของเขา และก็มีเยอะมาก 604 00:35:31,546 --> 00:35:32,713 สั่งตัดทุกชุด 605 00:35:32,797 --> 00:35:37,051 และเขาก็นำสิ่งแปลกๆ ที่น่าสนใจนั้น กลับมาให้เราที่บ้าน 606 00:35:37,135 --> 00:35:39,303 และเราก็ซึมซับมัน 607 00:35:39,387 --> 00:35:44,100 การเข้าถึงรถไฟทำให้เราได้รับสิ่งนั้น 608 00:35:44,183 --> 00:35:48,813 มันเปิดหูเปิดตาเรา ทำให้วิสัยทัศน์และความคิดของเรากว้างขึ้น 609 00:35:48,896 --> 00:35:51,941 มันเป็นมรดกที่สวยงามที่ควรส่งต่อ 610 00:35:52,567 --> 00:35:56,904 ผมไม่คิดว่าผมเชื่อมโยงกับสิ่งนั้น 611 00:35:56,988 --> 00:36:00,700 ผมแค่คิดว่าผมชอบเดินทาง ผมเกิดมาแบบนี้ 612 00:36:00,783 --> 00:36:03,452 แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมเชื่อมโยง 613 00:36:03,536 --> 00:36:08,166 กับเชื้อสายแห่งการเคลื่อนที่ การเดินทางและความอยากรู้อยากเห็น 614 00:36:09,625 --> 00:36:11,586 อาหารมื้อนี้อร่อยมาก 615 00:36:14,463 --> 00:36:16,591 คุณน้ำลายสอเลย มันอร่อยมาก 616 00:36:18,676 --> 00:36:22,722 มันเป็นอาหารที่อร่อยมาก เนื้อแกะเป็นหนึ่งในเมนูโปรดของผม 617 00:36:23,681 --> 00:36:27,351 เห็นได้ชัดว่ามีคนผิวดำไม่มากนัก 618 00:36:27,435 --> 00:36:32,231 ที่ได้กินอาหารแบบนี้ในฐานะลูกค้าบนรถไฟ 619 00:36:32,315 --> 00:36:36,152 แต่พวกคุณคนไหนมีความทรงจำเกี่ยวกับ 620 00:36:37,403 --> 00:36:40,615 อาหารชั้นเลิศที่เสิร์ฟให้ลูกค้าไหม 621 00:36:40,698 --> 00:36:44,827 ผมคิดว่าสิ่งที่ผมจำได้ดีที่สุดคือไก่งวง 622 00:36:44,911 --> 00:36:48,664 มันถูกปรุงอย่างดีเยี่ยมที่นั่น 623 00:36:48,748 --> 00:36:51,459 ผมอยากรู้เกี่ยวกับคุณด้วยครับ คุณเกนส์ 624 00:36:51,542 --> 00:36:54,712 เชฟผิวดำ และพวกเขาก็เป็นพ่อครัวที่เยี่ยมมาก 625 00:36:55,796 --> 00:36:57,423 พวกเขามาจากทางใต้ 626 00:36:58,216 --> 00:37:01,928 และพวกเขาเคยทำอาหารของพนักงานให้เรา 627 00:37:02,011 --> 00:37:04,847 ทุกครั้งมันจะอร่อยมาก 628 00:37:04,931 --> 00:37:08,726 พวกเขามีรสมือบางอย่างที่ใส่ลงในอาหาร 629 00:37:08,809 --> 00:37:11,562 ซึ่งทำให้มันอร่อยมาก 630 00:37:11,646 --> 00:37:13,064 เราอร่อยกับอาหารที่นั่น 631 00:37:13,147 --> 00:37:17,235 ครับ คุณทำงานเป็น พนักงานยกกระเป๋าในยุค 1940 632 00:37:17,318 --> 00:37:18,694 สำหรับคุณมันเป็นยังไงครับ 633 00:37:18,778 --> 00:37:22,782 คุณต้องยอมรับว่าในช่วงเวลานี้ 634 00:37:23,324 --> 00:37:27,203 การแบ่งแยกเป็นเรื่องใหญ่มาก 635 00:37:27,286 --> 00:37:31,999 และก็มีคน 636 00:37:32,083 --> 00:37:36,212 ที่ไม่เคารพคุณในฐานะคนคนหนึ่ง 637 00:37:36,295 --> 00:37:39,215 พวกเขาจะเรียกคุณว่าจอร์จ 638 00:37:39,298 --> 00:37:41,259 คำนั้นมีความหมายว่าอะไรครับ 639 00:37:41,342 --> 00:37:42,635 จอร์จ พูลแมน 640 00:37:43,844 --> 00:37:47,265 มันเป็นวิธี 641 00:37:47,348 --> 00:37:51,227 ที่จะทำให้คุณรู้ฐานะของตัวเอง ถ้าจะว่าไปแล้ว 642 00:37:52,895 --> 00:37:55,314 คุณไม่ใช่มนุษย์ 643 00:37:55,398 --> 00:37:59,610 คุณไม่ใช่ผู้ใหญ่ 644 00:37:59,694 --> 00:38:00,987 คุณยังเป็นเด็ก 645 00:38:02,488 --> 00:38:05,324 ผมขออนุญาตพูดต่อจากสิ่งที่คุณเกนส์พูดนะครับ 646 00:38:05,408 --> 00:38:09,161 พ่อผมมีปัญหาเยอะมากกับชื่อจอร์จ 647 00:38:09,245 --> 00:38:13,332 และคำตอบของเขาคือ 648 00:38:13,416 --> 00:38:15,209 "ผมไม่ได้ชื่อจอร์จ" 649 00:38:15,293 --> 00:38:18,587 "ถ้าคุณอยากเรียกใครสักคนว่าจอร์จ 650 00:38:19,255 --> 00:38:22,675 คุณควรจะมีลูกสักคนแล้วตั้งชื่อเขาว่าจอร์จ" 651 00:38:25,720 --> 00:38:27,471 ฟังดูคุ้นๆ นะ 652 00:38:27,555 --> 00:38:29,515 ผมอยู่ที่เวสต์โคสต์ 653 00:38:30,266 --> 00:38:34,145 และทำงานเป็นพนักงานบนตู้รถไฟคลับ 654 00:38:34,228 --> 00:38:38,024 ผมกำลังเสิร์ฟเครื่องดื่ม แล้วจู่ๆ 655 00:38:40,026 --> 00:38:42,820 ก็รู้สึกว่ามีเท้ามาโดนก้น 656 00:38:44,530 --> 00:38:47,658 และมีปฏิกิริยาตอบกลับ 657 00:38:48,534 --> 00:38:50,578 ผมถือถาดอยู่ 658 00:38:51,871 --> 00:38:54,498 และหันเหวี่ยงมันไป 659 00:38:54,582 --> 00:38:56,959 อยู่แบบนี้ ตรงหน้าผากเขา 660 00:38:57,585 --> 00:38:59,462 พระเจ้าหยุดถาดนั่น 661 00:39:00,004 --> 00:39:03,674 เพราะผมไม่ได้หยุดมัน ถ้าผมฟาดโดนหัวเขา เขาคงตายไปแล้ว 662 00:39:04,508 --> 00:39:09,764 ผมโมโหมาก โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลย 663 00:39:09,847 --> 00:39:11,015 ครับ 664 00:39:11,098 --> 00:39:14,769 ผมเดินไปที่บุฟเฟต์ แล้วบอกคนอื่นว่า 665 00:39:14,852 --> 00:39:16,771 "ผมจะปิดบุฟเฟต์สักพักนึงก่อน" 666 00:39:17,355 --> 00:39:20,900 คนที่ทำมันพูดว่า 667 00:39:20,983 --> 00:39:22,610 "คุณเป็นพวกนิโกรอวดฉลาด" 668 00:39:23,486 --> 00:39:25,696 แล้วเขาก็ก้าวเข้ามาในห้องบุฟเฟต์ของผม 669 00:39:25,780 --> 00:39:28,282 ผมเอามือผลักเขาออกไป 670 00:39:29,367 --> 00:39:34,789 นั่นคือหนึ่งในเหตุการณ์ที่ผมเจอ… 671 00:39:37,249 --> 00:39:41,170 มันยากมากและมันก็… 672 00:39:43,089 --> 00:39:45,049 เป็นอะไรที่… 673 00:39:47,343 --> 00:39:50,554 ผมไม่เคยลืม ก็อย่างที่คุณคงดูออก 674 00:39:50,638 --> 00:39:53,974 ผมยังจำมันได้ชัดเจนมาก 675 00:39:54,892 --> 00:39:58,396 ความทรงจำแบบนั้นจะอยู่กับคุณไปชั่วชีวิต 676 00:40:00,356 --> 00:40:04,402 ผมไม่เคยเจอปู่ของผม แต่ได้ฟังเรื่องราวของคุณเกนส์แล้ว 677 00:40:04,485 --> 00:40:08,072 ผมนึกภาพออกว่าชีวิตเขาในฐานะ พนักงานยกกระเป๋าของพูลแมนเป็นยังไง 678 00:40:10,574 --> 00:40:14,620 ผมนึกภาพเขาเชิดหน้า และเดินไปอย่างมีศักดิ์ศรีเช่นกัน 679 00:40:25,631 --> 00:40:29,051 ในชิคาโก เราพบมรดกของการอพยพครั้งใหญ่ 680 00:40:29,135 --> 00:40:32,054 ได้ดีที่สุดผ่านอัญมณีการทำอาหารของเซาท์ไซด์ 681 00:40:32,138 --> 00:40:33,139 (ธุรกิจของคนผิวดำ) 682 00:40:33,722 --> 00:40:36,976 สถานที่อย่างเลมส์บาร์บีคิว สืบทอดมาจากการอพยพครั้งใหญ่ 683 00:40:37,643 --> 00:40:41,772 นำรสชาติของทางใต้มาปรับให้เข้ากับทางเหนือ 684 00:40:42,523 --> 00:40:44,942 รสชาติอาหารใต้เหล่านี้ยังคงอยู่ 685 00:40:45,443 --> 00:40:47,319 และถูกจินตนาการใหม่ 686 00:40:47,403 --> 00:40:51,740 โดยเชฟเจ้าของรางวัลเจมส์ เบียร์ด เอริค วิลเลียมส์แห่งร้านอาหารเวอร์ชู 687 00:40:52,283 --> 00:40:55,119 ผู้ที่มาร่วมโต๊ะกับผมที่นี่เป็นชาวพื้นเมืองชิคาโก 688 00:40:55,202 --> 00:40:58,122 ดาริโอ เดอแรม นักพอดแคสต์อาหารท้องถิ่น 689 00:40:58,205 --> 00:41:01,834 และนาตาลี มัวร์ นักหนังสือพิมพ์และผู้เขียนหนังสือ 690 00:41:01,917 --> 00:41:04,211 เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เซาท์ไซด์ของชิคาโก 691 00:41:05,463 --> 00:41:09,008 ขอบคุณครับเชฟ ที่ให้การต้อนรับเราที่เวอร์ชูแห่งนี้ 692 00:41:09,091 --> 00:41:10,259 บอกหน่อยว่าเราอยู่ที่ไหน 693 00:41:10,342 --> 00:41:13,679 คุณอยู่ในไฮด์พาร์ก คุณอยู่ที่เซาท์ไซด์ของชิคาโก 694 00:41:13,762 --> 00:41:16,765 หนึ่งในย่านที่น่าจะมีความหนาแน่นมากที่สุด 695 00:41:16,849 --> 00:41:18,851 ของความมั่งคั่งของคนผิวดำในเมืองเรา 696 00:41:18,934 --> 00:41:24,148 มีทั้งผู้พิพากษา พนักงานไปรษณีย์ ครู และคนที่อยู่ในบรรษัทอเมริกา 697 00:41:24,231 --> 00:41:26,233 เป็นชุมชนที่แน่นแฟ้นมาก 698 00:41:26,317 --> 00:41:29,236 เซาท์ไซด์มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน 699 00:41:29,320 --> 00:41:33,324 พูดได้ว่าเป็นศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ ของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา 700 00:41:33,407 --> 00:41:35,534 รวมทั้งความบันเทิงและศิลปะ 701 00:41:36,160 --> 00:41:38,454 - ธุรกิจของคนผิวดำ ธนาคาร - ใช่ 702 00:41:38,537 --> 00:41:41,207 - เอโบนี เจ็ต ร้านตัดผม - ทั้งหมดเลย ผิวดำทั้งนั้น 703 00:41:41,290 --> 00:41:43,918 เราคงไม่มีลอนผมด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะชิคาโก 704 00:41:44,001 --> 00:41:45,461 ขอบคุณพระเจ้า ชิคาโก 705 00:41:45,544 --> 00:41:48,380 - เรามีผมที่เงางามมากและน้อย - เงางามทุกแบบ 706 00:41:48,464 --> 00:41:51,008 - และความมันเงา - เราได้ไอด้า บี. เวลส์ 707 00:41:51,091 --> 00:41:53,010 เธอร่วมก่อตั้งเอ็นเอเอซีพี 708 00:41:53,093 --> 00:41:55,513 เบสซี่ โคลแมน ผู้หญิงผิวดำคนแรกที่ขับเครื่องบิน 709 00:41:55,596 --> 00:41:57,431 มาฮาเลีย แจ็กสันสร้างสรรค์เพลงกอสเปล 710 00:41:57,515 --> 00:41:59,308 - โทมัส ดอร์ซีย์ - อย่าลืมเพลงบลูส์ 711 00:41:59,391 --> 00:42:00,935 คุณจะลืมเพลงบลูส์ไม่ได้ 712 00:42:02,770 --> 00:42:05,397 เราคงเต้นไม่ถูกต้องด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะชิคาโก 713 00:42:08,567 --> 00:42:13,948 การอพยพครั้งใหญ่ ช่วยเราสร้างรอยเท้าที่นี่ในชิคาโก 714 00:42:14,031 --> 00:42:18,577 สำหรับพวกคุณทุกคน คุณเข้าใจต้นกำเนิดของตัวเอง 715 00:42:18,661 --> 00:42:22,623 ในชิคาโกว่าเกี่ยวข้องกับการอพยพไหมครับ 716 00:42:22,706 --> 00:42:23,874 หรือพวกคุณรู้อะไร 717 00:42:23,958 --> 00:42:26,460 เกี่ยวกับประวัติครอบครัวหรือชุมชนของคุณ 718 00:42:27,044 --> 00:42:29,296 ฉันเป็นหลานสาวของการอพยพครั้งใหญ่ 719 00:42:29,380 --> 00:42:31,507 ฝั่งแม่ฉันมาจากจอร์เจีย 720 00:42:31,590 --> 00:42:34,593 ส่วนปู่ฉัน เขามาเพราะเขาหนีความรุนแรง 721 00:42:34,677 --> 00:42:37,555 ทางเชื้อชาติในแนชวิลล์ 722 00:42:37,638 --> 00:42:40,516 เขามีพี่น้องสองคนที่ต้องออกจากที่นั่นกลางดึก 723 00:42:40,599 --> 00:42:42,142 พวกเขาเสี่ยงต่อการถูกฆ่าแขวนคอ 724 00:42:42,226 --> 00:42:45,062 แต่เขาเคยเป็นพนักงานยกกระเป๋าของพูลแมน 725 00:42:45,646 --> 00:42:48,440 ผมฟังอยู่ แต่เหมือนมันเรื่องราวของผมเลย 726 00:42:48,524 --> 00:42:53,153 เพราะผมมาจากจอร์เจีย ปู่ผมมาจากเทนเนสซี 727 00:42:53,237 --> 00:42:55,614 เขามาที่ชิคาโกตอนหนุ่มๆ 728 00:42:55,698 --> 00:42:57,992 และเป็นพนักงานยกกระเป๋าของพูลแมน 729 00:42:58,075 --> 00:43:01,954 ผมจึงเป็นผลผลิตจากประวัติศาสตร์เดียวกัน 730 00:43:02,037 --> 00:43:06,041 ก่อนการอพยพครั้งใหญ่ ประชากรผิวดำในชิคาโกมีสองเปอร์เซ็นต์ 731 00:43:06,125 --> 00:43:10,129 หลังการอพยพครั้งใหญ่ มี 33 เปอร์เซ็นต์ และพวกเขามาจากทางใต้ 732 00:43:10,212 --> 00:43:13,632 ฉะนั้นเราฝังรากลึก เข้าใจไหมครับ 733 00:43:13,716 --> 00:43:17,720 เราฝังรากลึกกับมิสซิสซิปปี อาร์คันซอและทางใต้ทั้งหมด 734 00:43:19,597 --> 00:43:21,223 เชฟ นี่ดูน่าทึ่งมากเลย 735 00:43:21,307 --> 00:43:24,810 เรามีถั่วแดงซูกินีอ่อนสีเหลืองเขียว 736 00:43:24,893 --> 00:43:27,438 กระเจี๊ยบทอดและดอกสควอช 737 00:43:27,980 --> 00:43:30,441 กับพริกแดงดองซอสเผ็ด 738 00:43:30,524 --> 00:43:31,775 ในอาหารจานนี้โดยเฉพาะ 739 00:43:31,859 --> 00:43:34,612 เรามุ่งเน้นที่พลังงานจากผัก 740 00:43:34,695 --> 00:43:37,072 แต่เพราะเราเข้าใจความจริงที่ว่า 741 00:43:37,156 --> 00:43:39,908 ผักโตเร็วกว่าสัตว์มาก 742 00:43:39,992 --> 00:43:42,870 ในช่วงหลายปีของการจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต และ/หรือการเป็นทาส 743 00:43:42,953 --> 00:43:48,000 เรายังชีพด้วยผักได้ง่ายกว่า 744 00:43:48,083 --> 00:43:50,628 การยังชีพด้วยผลิตภัณฑ์จากสัตว์เยอะ 745 00:43:51,211 --> 00:43:53,172 ว้าว กระเจี๊ยบนี่อร่อยมากเลย 746 00:43:53,797 --> 00:43:55,883 คุณบอกว่ามันเป็นซอสเผ็ด… 747 00:43:55,966 --> 00:43:57,134 พริกดองครับ 748 00:43:58,302 --> 00:43:59,136 โอโฮ 749 00:43:59,637 --> 00:44:00,846 ว้าว อร่อยมากเลย 750 00:44:00,929 --> 00:44:03,140 เรามาจากทางใต้ 751 00:44:03,223 --> 00:44:07,519 เราทำไร่ทำนา ในชิคาโก ฝั่งใต้ของชิคาโก 752 00:44:07,603 --> 00:44:12,024 ผมกำลังพูดถึงช่วงต้นถึงกลางศตวรรษที่ 19 ที่นี่เป็นทีลุ่มน้ำขังทั้งหมด 753 00:44:12,107 --> 00:44:15,027 มันมีไร่นาหลายแห่ง และเราก็มีไร่นา เข้าใจนะครับ 754 00:44:15,110 --> 00:44:16,779 เพราะนั้นสิ่งที่เรารู้ 755 00:44:16,862 --> 00:44:19,782 - และประเพณีเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไป - แน่นอน 756 00:44:19,865 --> 00:44:21,241 เท่าที่ผมจำได้ 757 00:44:21,325 --> 00:44:24,328 มีสวน ในสวนหลังบ้านของย่าผม 758 00:44:24,411 --> 00:44:29,458 มีการพลิกหน้าดิน เป็นแถวๆ และมะเขือเทศ 759 00:44:29,541 --> 00:44:31,126 ผักใบเขียวและกะหล่ำปลี 760 00:44:31,710 --> 00:44:34,797 นั่นเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์ของผม 761 00:44:34,880 --> 00:44:38,509 ในครอบครัวผม พ่อผมเติบโตในแกรี่ 762 00:44:38,592 --> 00:44:43,806 กับสวนของพวกเขาเพื่อทำ… ปู่ย่าของผมเคยทำสวนด้วยกัน 763 00:44:43,889 --> 00:44:48,018 พวกเขาปลูกมะเขือเทศ เลี้ยงไก่ พวกเขาฆ่ากระต่าย 764 00:44:48,102 --> 00:44:52,898 ผมคุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ในครอบครัวผมมาก 765 00:44:52,981 --> 00:44:56,318 แต่ผมก็รู้สึกเสมอ 766 00:44:57,152 --> 00:45:01,156 ในช่วงแรกๆ ของชีวิตผม ที่รู้สึกไม่สะดวกสบาย 767 00:45:01,240 --> 00:45:03,575 แบบว่า มือเปื้อนดิน 768 00:45:03,659 --> 00:45:06,745 และก็ทำงานให้คนอื่น 769 00:45:06,829 --> 00:45:08,956 แม้แต่การเติบโตในวงการร้านอาหาร 770 00:45:09,039 --> 00:45:13,001 ในฐานะซอมเมอลิเยร์อายุน้อย เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ผมออกจากพื้นที่นั้น 771 00:45:13,085 --> 00:45:17,464 เพราะผมรู้สึกว่า คนไม่เห็นค่าความเชี่ยวชาญของผม 772 00:45:17,548 --> 00:45:20,134 ผมรู้สึกว่าพวกคุณแค่อยากให้ผมรับใช้คุณ 773 00:45:20,217 --> 00:45:24,138 ผมเลยอยากรู้ว่ามันสะท้อนชีวิต ของพวกคุณทุกคนหรือเปล่า 774 00:45:24,221 --> 00:45:26,807 ที่ในฐานะคน ในฐานะคนอเมริกันผิวดำ 775 00:45:26,890 --> 00:45:29,268 เรายังห่างไกลจากความสามารถ 776 00:45:29,351 --> 00:45:33,856 ที่จะดูแลตัวเราเองบนที่ดินได้ เพราะความเป็นทาส 777 00:45:33,939 --> 00:45:37,025 ที่นี่มีการเคลื่อนไหวของภาคเกษตรในเมือง 778 00:45:37,109 --> 00:45:40,863 และมีความตระหนักด้วยว่า "อย่าทำให้เมืองนี้มีการจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต" 779 00:45:40,946 --> 00:45:41,780 ใช่ครับ 780 00:45:41,864 --> 00:45:44,324 ดังนั้นผู้สนับสนุนความยุติธรรมด้านอาหาร 781 00:45:44,408 --> 00:45:47,244 คนที่อยู่ในพื้นที่นี้และมีความรู้ 782 00:45:47,327 --> 00:45:50,414 กำลังดูแลเรื่องนั้นอยู่ 783 00:45:50,497 --> 00:45:53,375 ว่าคุณไม่ใช่แค่ทำงานบนที่ดิน 784 00:45:53,459 --> 00:45:56,670 ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง 785 00:45:56,754 --> 00:45:59,840 ว่าคุณทำแบบนี้ได้ทางตะวันตกเฉียงใต้ 786 00:45:59,923 --> 00:46:01,759 - และไม่ได้รับค่าจ้าง - ครับ 787 00:46:01,842 --> 00:46:03,761 ผมดีใจที่รู้ว่า ใช่ครับ 788 00:46:03,844 --> 00:46:07,473 มีคนที่เป็นหัวหน้าขบวนการยุติธรรมด้านอาหาร 789 00:46:07,556 --> 00:46:11,685 ที่ช่วยให้เรากลับมามีความสัมพันธ์กับที่ดิน 790 00:46:11,769 --> 00:46:15,647 ในทางที่ดีต่อสุขภาพ และให้เหตุผลสำหรับความชอกช้ำจิตใจบางอย่าง 791 00:46:15,731 --> 00:46:18,358 ที่เราอาจนำมาสู่ประสบการณ์เหล่านั้น 792 00:46:19,026 --> 00:46:22,362 เพราะที่ดิน มีความสามารถในการเยียวยาเราด้วย 793 00:46:22,446 --> 00:46:26,116 เราพูดคุยกันเยอะมากเกี่ยวกับตัวแทนของเรา 794 00:46:26,617 --> 00:46:29,787 ในการมีที่ดินเหล่านี้และเลี้ยงตัวเอง 795 00:46:29,870 --> 00:46:32,956 นั่นเป็นส่วนหนึ่งในมรดกของเราด้วย 796 00:46:35,167 --> 00:46:37,169 เชฟพยายามทำให้เราหลับ 797 00:46:37,753 --> 00:46:40,839 โอเค นี่เป็นเมนูที่เหมาะสมมาก 798 00:46:40,923 --> 00:46:44,051 มิดเวสต์ถูกประกาศให้เป็นเมืองสเต๊กและมันฝรั่ง 799 00:46:44,134 --> 00:46:46,804 เรามีซี่โครงหมูตุ๋น 800 00:46:46,887 --> 00:46:49,431 กับมันฝรั่งยูคอนโกลด์บด 801 00:46:49,515 --> 00:46:52,559 และหัวหอมทอดกรอบอยู่ด้านบน 802 00:46:52,643 --> 00:46:54,520 ถูกใจคุณแน่ เนื้อหลุดออกจากกระดูกเลย 803 00:46:54,603 --> 00:46:57,314 มันนุ่มมาก ผมไม่ต้องใช้มีดเลย 804 00:46:57,397 --> 00:46:59,107 - ไม่ต้องค่ะ - อร่อยจริงๆ 805 00:47:02,486 --> 00:47:04,738 ปรากฏว่าผมก็ไม่ต้องใช้ฟันเคี้ยวด้วย 806 00:47:04,822 --> 00:47:05,948 หรือเหงือก 807 00:47:08,200 --> 00:47:11,161 เนื้อกับมันฝรั่งอาจเป็นอาหารหลักของมิดเวสต์ 808 00:47:11,245 --> 00:47:13,872 แต่รสชาติของทางใต้นั้นปฏิเสธไม่ได้เลย 809 00:47:13,956 --> 00:47:16,834 มันทำให้ผมนึกถึงวัยเด็กของผมในจอร์เจีย 810 00:47:16,917 --> 00:47:19,169 ที่ที่่พ่อผมย่างเนื้อเกือบทุกสุดสัปดาห์ 811 00:47:20,838 --> 00:47:24,258 เชฟเอริกยังคง แสดงความยกย่องการอพยพครั้งใหญ่ต่อไป 812 00:47:24,341 --> 00:47:27,803 และแสดงให้เห็นว่าอาหารใต้ มาอยู่บนจานในคอร์สสุดท้ายของเขายังไง 813 00:47:28,470 --> 00:47:30,806 มีเค้กปอนด์เล็กๆ กับเลมอนเคิร์ด 814 00:47:30,889 --> 00:47:31,974 และของอร่อยๆ บางอย่าง 815 00:47:32,057 --> 00:47:34,977 มันอยู่ในแพ็กเกจที่สวยงาม 816 00:47:35,060 --> 00:47:37,521 อาหารจานนี้สำคัญตรงไหนครับ 817 00:47:37,604 --> 00:47:41,358 นี่เป็นการแสดงความยกย่อง 818 00:47:41,441 --> 00:47:43,402 อาหารในกล่องใส่รองเท้า 819 00:47:43,485 --> 00:47:46,989 รถราง ขณะที่มันพาเราขึ้นเหนือ 820 00:47:47,072 --> 00:47:48,323 ถูกแยกออกจากกัน 821 00:47:48,407 --> 00:47:51,410 เลยไม่มีที่ให้เรากินอาหารอย่างเหมาะสม 822 00:47:51,493 --> 00:47:54,204 และวิธีที่เราพกพาอาหาร 823 00:47:54,288 --> 00:47:57,541 และบ่อยครั้งที่อาหารพวกนั้นเป็นไก่ทอด 824 00:47:58,208 --> 00:48:01,003 เพราะมันเหมาะกับการเดินทางมาก 825 00:48:01,086 --> 00:48:02,713 มันจะอยู่ในกล่องใส่รองเท้า 826 00:48:02,796 --> 00:48:04,923 ไม่ใช่กล่องใส่รองเท้าอย่างที่เราคิดตอนนี้ 827 00:48:05,007 --> 00:48:06,675 มันเป็นกล่องใส่รองเท้าที่หรูหรา 828 00:48:06,758 --> 00:48:09,261 เพราะปู่ย่าตายายและทวดทุกคน 829 00:48:09,344 --> 00:48:12,014 ลงรายละเอียดดีมากเพื่อทำให้ประสบการณ์นั้น 830 00:48:12,097 --> 00:48:14,141 เป็นสิ่งที่ควรเป็นสำหรับลูกหลาน 831 00:48:14,224 --> 00:48:19,021 ผมชอบที่บรรจุภัณฑ์เชื่อมโยงกับอาหารนี้ 832 00:48:19,104 --> 00:48:20,772 เป็นเรื่องราว "การอพยพ" 833 00:48:20,856 --> 00:48:24,234 ผู้อาวุโสและบรรพบุรุษของเรามีความฉลาด 834 00:48:24,318 --> 00:48:26,236 ที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ 835 00:48:26,320 --> 00:48:28,655 ในช่วงเวลาที่ผู้คนไม่ต้องการเรา 836 00:48:28,739 --> 00:48:31,199 มีอะไรที่ง่ายๆ อย่างอาหารที่กินร่วมกัน 837 00:48:32,326 --> 00:48:34,536 นี่คือตัวตนของเรา 838 00:48:35,203 --> 00:48:37,122 แม้จะผ่านการสูญเสียที่ดิน 839 00:48:37,789 --> 00:48:40,250 ถูกบังคับให้เป็นหนี้และความรุนแรงทางเชื้อชาติ 840 00:48:40,334 --> 00:48:41,752 เราก็พบหนทาง 841 00:48:46,214 --> 00:48:48,508 เราพบหนทางอยู่เสมอ 842 00:48:49,635 --> 00:48:52,638 ไม่ว่าจะเป็นการหาเลี้ยงครอบครัวเรา ด้วยการจ่ายค่าเช่าด้วยผลผลิต 843 00:48:52,721 --> 00:48:54,973 หรือย้ายไปอยู่ทางเหนืออย่างกล้าหาญ 844 00:48:55,057 --> 00:48:57,809 โดยไม่มีคำสัญญาว่าเราจะเจออะไร 845 00:49:00,646 --> 00:49:03,440 ความคิดสร้างสรรค์พื้นฐานของเรา 846 00:49:03,523 --> 00:49:06,860 นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางผิวดำ 847 00:49:07,986 --> 00:49:10,405 เมืองชิคาโกครอบครองประวัติศาสตร์นี้ 848 00:49:10,489 --> 00:49:12,324 เหมือนตราแห่งเกียรติยศ 849 00:49:12,407 --> 00:49:13,951 การอพยพที่นำ 850 00:49:14,034 --> 00:49:16,453 และสร้างแรงบันดาลใจให้กับรสชาติและสไตล์ 851 00:49:16,536 --> 00:49:19,790 ที่เมืองแห่งลมยังคงเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้ 852 00:49:21,917 --> 00:49:25,462 และความคิดสร้างสรรค์นั้น ก็เดินทางมาจากทางใต้เช่นกัน 853 00:49:25,545 --> 00:49:28,382 สู่จุดหมายต่อไปของผม นิวยอร์กซิตี 854 00:49:28,882 --> 00:49:31,009 ที่ที่ชาวแอฟริกันอเมริกัน 855 00:49:31,093 --> 00:49:33,762 อาศัยอยู่ในรัศมีสามไมล์ 856 00:49:33,845 --> 00:49:37,057 จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในการทำอาหาร 857 00:49:37,140 --> 00:49:38,976 และการแสดงออกทางวัฒนธรรม 858 00:49:40,852 --> 00:49:42,020 ยุคฟื้นฟูศิลปะ 859 00:50:37,409 --> 00:50:40,328 คำบรรยายโดย ธนิศา ขำคง