1 00:00:06,340 --> 00:00:10,845 ‎(ในปี 1968 ริชาร์ด เอ็ม. นิกสัน ได้รับเลือก ‎เป็นประธานาธิบดีคนที่ 37 ของสหรัฐฯ) 2 00:00:10,928 --> 00:00:13,389 ‎(โดยมีนโยบายที่ผลักดัน ‎กฎหมายและความสงบเรียบร้อย) 3 00:00:13,765 --> 00:00:17,393 ‎(เขาเรียกจอห์น มิตเชลล์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ ‎ว่าเป็นที่ปรึกษาที่เขาไว้ใจที่สุด) 4 00:00:17,477 --> 00:00:21,814 ‎(และเรียกมาร์ธา ภรรยาของมิตเชลล์ ‎ว่าเป็นบุคคลอันตราย) 5 00:00:27,236 --> 00:00:31,949 ‎(ปี 1974 นิกสันก้าวลงจากตำแหน่ง ‎สืบเนื่องมาจากคดีวอเตอร์เกต) 6 00:00:32,241 --> 00:00:34,786 ‎คุณว่าประเทศเราจะดีขึ้นกว่าเดิมไหมครับ 7 00:00:35,787 --> 00:00:37,747 ‎เราลืมเรื่องวอเตอร์เกตไว้ในอดีตหรือยัง 8 00:00:37,830 --> 00:00:39,957 ‎ฉันหวังว่าเราจะไม่ลืมเรื่องวอเตอร์เกต 9 00:00:40,041 --> 00:00:41,501 ‎เพราะมันก็มีข้อดีเหมือนกัน 10 00:00:41,584 --> 00:00:44,754 ‎เป็นการสั่งสอนนักการเมือง ‎ให้ทำอะไรโปร่งใส อย่าทุจริต 11 00:00:49,133 --> 00:00:51,844 ‎ผมเชื่อว่าถ้าไม่ใช่เพราะมาร์ธา 12 00:00:53,096 --> 00:00:54,555 ‎เรื่องวอเตอร์เกตก็คงไม่เกิด 13 00:00:58,017 --> 00:01:00,686 ‎(ภาพยนตร์สารคดีจาก NETFLIX) 14 00:01:01,229 --> 00:01:03,314 ‎คุณมิตเชลล์ 15 00:01:03,397 --> 00:01:04,649 ‎จะเรียกประชาธิปไตยได้หรือ 16 00:01:04,732 --> 00:01:08,611 ‎ถ้าผู้คนไม่อาจแสดงความคิดเห็น ‎หรือพูดความจริงได้ 17 00:01:08,694 --> 00:01:10,238 ‎คุณก็รู้ว่าฉันรักสื่อมวลชน 18 00:01:11,906 --> 00:01:16,536 ‎ถ้าฉันมีอะไรในใจ ‎ฉันไม่ออกไปป่าวประกาศให้ใครฟังหรอก 19 00:01:16,619 --> 00:01:20,498 ‎นอกซะจากฉันจะเชื่อว่า ‎มันเป็นสิ่งที่ควรพูดหรือควรกระทำ 20 00:01:33,970 --> 00:01:35,346 ‎ตอนที่คุณเดินทางมาถึง… 21 00:01:35,429 --> 00:01:36,264 ‎(ปี 1974) 22 00:01:36,347 --> 00:01:37,807 ‎สนามบินลอนดอนเมื่อเช้าวานนี้ 23 00:01:37,890 --> 00:01:42,103 ‎คุณบอกว่า ‎"ริชาร์ด นิกสันทำลายชีวิตคู่ของฉัน" 24 00:01:42,186 --> 00:01:47,066 ‎ทำไมริชาร์ด นิกสันจึงส่งผลกระทบ ‎ต่อชีวิตคุณมากมายถึงเพียงนี้ครับ 25 00:01:49,152 --> 00:01:52,113 ‎เดวิดคะ คุณเปิดประเด็นในเรื่องที่พูดยากมาก 26 00:01:52,822 --> 00:01:55,366 ‎และฉันก็ไม่ทราบว่า ‎จะสามารถอธิบายให้กระจ่างแจ้ง 27 00:01:55,449 --> 00:01:58,161 ‎ภายในช่วงเวลาจำกัดที่เราจะคุยกันได้หรือเปล่า 28 00:01:58,244 --> 00:01:59,954 ‎เรามีเวลาอย่างน้อย 30 นาทีครับ 29 00:02:00,705 --> 00:02:03,124 ‎ต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น 30 00:02:04,167 --> 00:02:09,380 ‎(ปี 1968) 31 00:02:11,674 --> 00:02:13,801 ‎จอห์น นิวตัน มิตเชลล์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ 32 00:02:13,885 --> 00:02:17,638 ‎อาศัยอยู่กับมาร์ธา ภริยา ‎ที่อะพาร์ตเมนต์วอเตอร์เกตในกรุงวอชิงตัน 33 00:02:18,139 --> 00:02:20,016 ‎พวกเขาดูจะมีชีวิตที่สุขสบาย 34 00:02:21,684 --> 00:02:24,312 ‎ฉันทราบว่าท่านประธานาธิบดี ‎โปรดปรานสามีฉันมาก 35 00:02:24,395 --> 00:02:27,565 ‎พวกเขาเคยเป็นหุ้นส่วนบริษัทกฎหมายกันมา ‎พวกเขาสนิทกันมาก 36 00:02:27,648 --> 00:02:30,151 ‎มิตเชลล์เคยเป็นทนายตราสารหนี้ 37 00:02:30,234 --> 00:02:33,571 ‎ก่อนที่เขาจะมาดูแล ‎แคมเปญหาเสียงปี 1968 ของคุณนิกสัน 38 00:02:33,654 --> 00:02:35,406 ‎เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมืองมาก่อน 39 00:02:35,990 --> 00:02:37,408 ‎หลังขึ้นมาเป็นอัยการสูงสุดสหรัฐฯ 40 00:02:37,491 --> 00:02:41,037 ‎เขาก็ได้จัดการกับปัญหาข้อพิพาท ‎ในปัจจุบันมานับครั้งไม่ถ้วน 41 00:02:42,205 --> 00:02:43,331 ‎หลายคนบอกว่าสามีของคุณ 42 00:02:43,414 --> 00:02:46,542 ‎คือชายผู้ที่มีอำนาจเป็นอันดับสองในวอชิงตัน 43 00:02:46,626 --> 00:02:48,669 ‎ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับว่า ‎เขาเป็นคนอย่างไร 44 00:02:48,753 --> 00:02:53,674 ‎สามีฉันน่าจะเป็นผู้ชาย ‎ที่ฉลาดที่สุดคนหนึ่งในประเทศนี้ 45 00:02:54,508 --> 00:02:56,135 ‎หรือในโลกเลยก็ว่าได้ 46 00:02:58,804 --> 00:03:00,932 ‎คุณมิตเชลล์ ‎คุณพบรักกับภรรยาได้อย่างไรหรือคะ 47 00:03:01,015 --> 00:03:02,475 ‎นัดบอดหรือเปล่าคะ 48 00:03:02,558 --> 00:03:06,103 ‎ก็คงไม่บอดทั้งสองคนแหละครับ ‎เพราะเท่าที่ผ่านมาก็ราบรื่นดี 49 00:03:08,606 --> 00:03:13,069 ‎ตอนนั้นฉันเป็นเพียงคุณนายมิตเชลล์ ‎ที่อาศัยอยู่เมืองไรย์ในนิวยอร์ก 50 00:03:14,237 --> 00:03:17,031 ‎วอชิงตันเหมือนเป็นอีกประเทศเลย 51 00:03:30,253 --> 00:03:35,341 ‎การอาศัยอยู่ในวอชิงตันแบบกึ่งทางการ ‎ทำให้มีหลายสิ่งหลายอย่าง 52 00:03:35,424 --> 00:03:39,428 ‎ที่ฉันต้องทำหรือถูกขอให้ทำ ‎ในฐานะที่เป็นภรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง 53 00:03:42,098 --> 00:03:46,477 ‎ฉันอยากกระชับความสัมพันธ์ของอเมริกา 54 00:03:46,560 --> 00:03:48,271 ‎กับประเทศอื่นๆ ในโลกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น 55 00:03:49,021 --> 00:03:52,149 ‎ฉันอยากพยายามส่งมอบความรักออกไปสู่โลกใบนี้ 56 00:03:53,693 --> 00:03:56,529 ‎ผมมักให้คำแนะนำกับผู้สมัครหนุ่มๆ ‎ว่าทำอย่างไรจึงจะชนะ 57 00:03:56,612 --> 00:03:58,364 ‎ข้อแรกคือต้องเลือกภรรยาให้ดี 58 00:04:00,449 --> 00:04:02,243 ‎คนที่จะไม่ตกเป็นข่าวให้คนจับจ้อง 59 00:04:02,326 --> 00:04:06,580 ‎และจะต้องรู้ว่าสามีของเธอ ‎คือคนที่จะตกเป็นข่าวอยู่เสมอ 60 00:04:09,667 --> 00:04:12,920 ‎วอชิงตันเป็นเมืองที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ 61 00:04:14,130 --> 00:04:17,425 ‎บริหารโดยกลุ่มชายผิวขาวที่ทำเนียบขาว 62 00:04:17,925 --> 00:04:21,095 ‎และเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับที่เป็นเพศชาย 63 00:04:22,847 --> 00:04:28,227 ‎ผู้หญิงที่อยู่ในสังคมวอชิงตัน ‎มักจะมีหน้าที่แค่รับรองแขกเหรื่อ 64 00:04:28,311 --> 00:04:31,439 ‎ผู้หญิงจะต้องเข้าไปดื่มกาแฟอยู่อีกห้อง 65 00:04:31,522 --> 00:04:34,483 ‎ในขณะที่ผู้ชายคุยเรื่องสำคัญกัน 66 00:04:35,276 --> 00:04:37,987 ‎แต่มาร์ธา มิตเชลล์ไม่เล่นตามกฎของวอชิงตัน 67 00:04:39,071 --> 00:04:40,614 ‎เธอไม่อยากเป็นแค่ภรรยา 68 00:04:40,698 --> 00:04:43,367 ‎ที่นั่งอยู่ฉากหลังและไม่มีสิทธิ์มีเสียง 69 00:04:45,953 --> 00:04:49,123 ‎ชีวิตของนักการเมือง ‎ไม่เหมือนชีวิตคนธรรมดาสามัญ 70 00:04:49,707 --> 00:04:51,834 ‎ที่อยากพูดหรืออยากทำอะไรก็ได้ 71 00:04:52,585 --> 00:04:54,712 ‎- แต่ฉันเป็นคนที่อยากพูดอะไรก็พูด ‎- ครับ 72 00:04:55,212 --> 00:04:57,131 ‎เธอจ๋า ฉันจะบอกให้นะ 73 00:04:57,214 --> 00:04:59,175 ‎ฉันเห็นในหนังสือพิมพ์วันนี้แล้ว 74 00:04:59,258 --> 00:05:02,094 ‎และฉันก็คิดว่าพวกเธอคงไม่ได้ทำการบ้านกันมา 75 00:05:04,096 --> 00:05:06,349 ‎ถ้ารู้ว่ามาร์ธาจะมาร่วมทานมื้อเย็นที่ทำเนียบขาว 76 00:05:06,432 --> 00:05:08,768 ‎ทุกคนจะคอยระวังตัว 77 00:05:09,352 --> 00:05:13,647 ‎ผู้หญิงในสมัยนั้นมักจะสงวนท่าที ‎แต่ไม่ใช่มาร์ธา 78 00:05:15,608 --> 00:05:18,486 ‎ซึ่งท่านประธานาธิบดีก็ทราบดี 79 00:05:18,569 --> 00:05:21,405 ‎ไม่ใช่ว่าท่านไม่ชอบผู้หญิงนะ 80 00:05:21,489 --> 00:05:26,035 ‎แต่ท่านแค่ไม่ชอบผู้หญิงที่พูดจาโผงผาง 81 00:05:29,205 --> 00:05:31,832 ‎สมัยนั้นฉันปั่นหัวประธานาธิบดีสนุกเลยแหละ 82 00:05:31,916 --> 00:05:34,752 ‎เขาไม่รู้ว่าตอนไหนฉันพูดเล่นหรือพูดจริง 83 00:05:35,544 --> 00:05:38,005 ‎เขามองว่าฉันเป็นคนแปลกประหลาด 84 00:05:39,757 --> 00:05:42,176 ‎บางครั้งเธอดื่มมากเกินควร 85 00:05:42,885 --> 00:05:47,181 ‎และมักจะเดินไปที่โทรศัพท์ ‎แล้วยกหูโทรไปที่วอชิงตัน 86 00:05:50,559 --> 00:05:51,811 ‎เธอชอบโทรหาประธานาธิบดี 87 00:05:51,894 --> 00:05:53,396 ‎(เสียงของดไวท์ แชพิน ‎รองผู้ช่วยปธน.นิกสัน) 88 00:05:53,479 --> 00:05:55,856 ‎เธอชอบโทรหา "ประธานาธิบดีของฉัน" 89 00:05:56,899 --> 00:05:58,609 ‎คุณได้โทรหาประธานาธิบดีนิกสัน 90 00:05:58,692 --> 00:06:01,445 ‎และพูดคุยกับเขาทางโทรศัพท์ ‎เมื่อเร็วๆ นี้หรือเปล่าคะ มาร์ธา 91 00:06:01,529 --> 00:06:05,825 ‎- โทรไปออกคำสั่งกับเขาหรือคะ ‎- ฉันให้คำแนะนำเขาบ้างเป็นครั้งคราว 92 00:06:08,077 --> 00:06:10,329 ‎(สงครามไม่ดีต่อเด็ก) 93 00:06:10,413 --> 00:06:14,500 ‎มาร์ธา มิตเชลล์กล่าวในวันนี้ว่า ‎ผู้ที่สนับสนุนการปฏิวัติรุนแรงในสหรัฐฯ 94 00:06:14,583 --> 00:06:16,794 ‎ควรถูกไล่ออกจากประเทศนี้ 95 00:06:16,877 --> 00:06:19,880 ‎แต่ไม่ได้บอกว่าให้ไล่ไปอยู่ประเทศไหน 96 00:06:19,964 --> 00:06:21,132 ‎(มาร์ธาให้ตรึงกางเขนส.ว.) 97 00:06:21,215 --> 00:06:24,385 ‎วันนี้เมื่อราวสองนาฬิกา ‎เธอโทรหาอาร์แคนซอกาเซตต์ในลิตเติลร็อก 98 00:06:24,468 --> 00:06:27,096 ‎เรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาฟูลไบรท์ ‎ถูกตรึงกางเขน 99 00:06:27,680 --> 00:06:30,474 ‎คุณนายมิตเชลล์กลายเป็นคนที่ ‎ค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว 100 00:06:30,558 --> 00:06:34,061 ‎ซึ่งเป็นที่น่าสนใจมาก 101 00:06:34,145 --> 00:06:37,606 ‎ฉันคิดมาตลอดว่าคุณฟูลไบรท์นั่นน่ะ… ‎ถ้าอยากเรียกแบบนี้กัน 102 00:06:37,690 --> 00:06:39,567 ‎แต่ฉันเรียกชื่อเขาด้วยความลำบากใจมาก 103 00:06:39,650 --> 00:06:42,653 ‎สติปัญญาเขาไม่ไบรท์สมชื่อ ‎จากครึ่งหนึ่งลดมาเหลือเสี้ยวเดียวแล้วมั้ง 104 00:06:45,406 --> 00:06:47,032 ‎หนึ่งในผู้นำฝ่ายรีพับลิกันในรัฐสภา 105 00:06:47,116 --> 00:06:50,035 ‎ถูกถามว่าได้ข่าวมาร์ธา มิตเชลล์หรือยัง ‎ก่อนจะตอบว่า 106 00:06:50,119 --> 00:06:51,996 ‎"พระเจ้า เธอโทรหาใครอีกแล้วหรือ" 107 00:06:52,580 --> 00:06:54,582 ‎สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ 108 00:06:56,125 --> 00:06:58,544 ‎ผมไม่คิดว่าจะมีใครเริ่มตั้งคำถามเร็วขนาดนั้น 109 00:06:58,627 --> 00:07:02,131 ‎พวกเขาชอบที่มาร์ธาเป็นที่สนใจของผู้คน 110 00:07:03,132 --> 00:07:05,009 ‎เธอเก่งนะ พูดจาสอดคล้องกับนโยบาย 111 00:07:06,510 --> 00:07:08,471 ‎ถึงเธอจะสนับสนุนนิกสัน 112 00:07:08,554 --> 00:07:10,764 ‎แต่เธอก็พูดอย่างที่ใจคิด 113 00:07:12,224 --> 00:07:15,561 ‎และมิตเชลล์ก็ดูจะเห็นดีเห็นงามด้วย ‎ซึ่งยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีก 114 00:07:15,644 --> 00:07:19,148 ‎ผมไม่อาจควบคุมสิ่งที่เธอพูดหรือทำได้เลย 115 00:07:21,859 --> 00:07:25,446 ‎อันที่จริง คนเริ่มขนานนามเธอว่า ‎"จรวดมิสไซล์ไร้วิถี" 116 00:07:26,989 --> 00:07:28,532 ‎เธอจ๋า ฉันจะบอกอะไรให้นะ 117 00:07:29,116 --> 00:07:31,619 ‎ถ้าฉันทำอะไรผิดพลาดในรัฐบาลนี้ 118 00:07:31,702 --> 00:07:33,162 ‎ก็ขอให้บอกมาตรงๆ 119 00:07:33,829 --> 00:07:35,831 ‎ได้ทุกเมื่อเลย จริงๆ 120 00:07:44,131 --> 00:07:47,760 ‎รัฐบาลชุดนั้นไม่ค่อยกินเส้นกับสื่อ 121 00:07:48,260 --> 00:07:51,972 ‎นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ฉันเป็นมิตรกับสื่อ 122 00:07:52,056 --> 00:07:53,516 ‎หนุ่มๆ ของฉันเป็นไงบ้าง 123 00:07:54,141 --> 00:07:55,434 ‎ตอนที่ฉันก้าวเข้ามา 124 00:07:55,518 --> 00:07:58,187 ‎คนอเมริกันคิดว่าฉันสะท้อน ‎ตัวตนของพวกเขาได้ทางใดทางหนึ่ง 125 00:07:59,104 --> 00:08:01,690 ‎รัฐบาลก็ยังไม่อยากเชื่อ 126 00:08:02,274 --> 00:08:04,276 ‎เราจะทำยังไงกับมาร์ธา มิตเชลล์ดีล่ะเนี่ย 127 00:08:04,777 --> 00:08:06,904 ‎(ทูเทลเดอะทรูธ) 128 00:08:07,196 --> 00:08:11,075 ‎ภริยาของอัยการสูงสุดสหรัฐฯ ‎คุณมาร์ธา มิตเชลล์ครับ 129 00:08:12,868 --> 00:08:17,122 ‎เราโหวตให้คุณเป็นคนที่ ‎ทำประโยชน์ให้มาเบลมากที่สุด 130 00:08:17,206 --> 00:08:21,126 ‎และรางวัลของคุณคือโทรศัพท์รูปศาลสูงสุด 131 00:08:22,294 --> 00:08:25,130 ‎ถ้าเอาไปติดกำแพงคงสนุกน่าดู 132 00:08:25,839 --> 00:08:28,300 ‎(ซิมมอนส์ ธนาคารชาติแห่งแรก ‎มาร์ธา มิตเชลล์) 133 00:08:30,928 --> 00:08:32,513 ‎(มาร์ธาผู้มีคารมคมเฉียบ) 134 00:08:34,139 --> 00:08:35,099 ‎(มาร์ธา มิตเชลล์ผู้น่าทึ่ง) 135 00:08:35,641 --> 00:08:37,434 ‎(มาร์ธาถูกล้อเป็นสตรีหมายเลขหนึ่ง ‎ของคณะทำงาน) 136 00:08:39,270 --> 00:08:41,689 ‎ฉันว่ามาร์ธา มิตเชลล์พุ่งแรงเหมือนระเบิดเลย 137 00:08:41,772 --> 00:08:42,606 ‎(มาร์ธาช่างเจรจา) 138 00:08:43,482 --> 00:08:44,984 ‎(มาร์ธา มิตเชลล์โด่งดังชั่วข้ามคืน) 139 00:08:45,317 --> 00:08:46,527 ‎เธอทำให้คนรู้สึกสดชื่น… 140 00:08:46,610 --> 00:08:47,987 ‎(มาร์ธาว่าเธอพูดเพื่อคนอเมริกัน) 141 00:08:48,070 --> 00:08:51,448 ‎นักข่าวทุกคนในเมืองอยากสัมภาษณ์เธอ ‎รวมถึงฉันด้วย 142 00:08:53,200 --> 00:08:55,995 ‎ฉันจำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง ‎ตอนที่บินกลับจากแคลิฟอร์เนีย 143 00:08:56,078 --> 00:08:58,289 ‎สามีภรรยามิตเชลล์อยู่บนเครื่องด้วย 144 00:09:00,416 --> 00:09:02,418 ‎เรานั่งอยู่ส่วนท้ายของเครื่องบิน 145 00:09:02,501 --> 00:09:04,545 ‎พวกผู้ชายกำลังเล่นไพ่ 146 00:09:04,628 --> 00:09:06,463 ‎และมาร์ธา มิตเชลล์ก็เดินมา 147 00:09:06,547 --> 00:09:09,633 ‎ฉันถามว่า "คุณคิดยังไงกับมินิสเกิร์ตคะ" 148 00:09:09,717 --> 00:09:12,678 ‎"ทำไมไม่ถามเรื่องที่สำคัญๆ ล่ะ" 149 00:09:12,761 --> 00:09:16,515 ‎ฉันก็ว่า "โอเค คุณมีความคิดอย่างไร ‎เกี่ยวกับเรื่องสงความเวียดนามคะ 150 00:09:16,599 --> 00:09:18,350 ‎เธอบอกว่า "ห่วยแตก" 151 00:09:19,727 --> 00:09:23,480 ‎พวกผู้ชายหยุดเล่นไพ่ ‎แล้วหาสมุดโน้ตมาจดกันใหญ่ 152 00:09:24,481 --> 00:09:28,319 ‎แล้วเธอก็ถูกสั่งห้าม ‎ไม่ให้ขึ้นเครื่องแอร์ฟอร์ซวันอีก 153 00:09:29,486 --> 00:09:30,362 ‎(จิตวิญญาณปี 76) 154 00:09:30,446 --> 00:09:33,157 ‎(มาร์ธามองว่า: ‎สงคราม "ห่วยแตก") 155 00:09:33,240 --> 00:09:35,159 ‎เวียดนามเป็นสงครามที่มีความจำเป็น 156 00:09:35,242 --> 00:09:38,120 ‎ที่สหรัฐฯ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง 157 00:09:38,203 --> 00:09:41,415 ‎รัฐบาลหลายสมัยรับช่วงต่อ 158 00:09:41,498 --> 00:09:44,460 ‎และนิกสันก็ต้องรับมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ 159 00:09:44,543 --> 00:09:45,586 ‎(จะฆ่าอีกกี่คน) 160 00:09:45,669 --> 00:09:49,256 ‎ความเห็นของมาร์ธาจึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง 161 00:09:49,340 --> 00:09:53,719 ‎ไม่มีผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาล ‎แม้เพียงน้อยนิด 162 00:09:53,802 --> 00:09:55,638 ‎ที่จะมีวันพูดอะไรแบบนี้เด็ดขาด 163 00:09:56,347 --> 00:09:59,767 ‎คุณคงรู้ใช่ไหมครับว่า ‎มันอาจส่งผลเสียต่อพรรคการเมือง 164 00:09:59,850 --> 00:10:01,101 ‎การที่ภรรยาออกมาพูด 165 00:10:01,769 --> 00:10:04,521 ‎- คนคงมักจะคิดว่า "อย่าให้เธอพูดเลย" ‎- ไม่หรอกค่ะ 166 00:10:04,605 --> 00:10:06,273 ‎- หรือครับ ‎- ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ 167 00:10:06,357 --> 00:10:09,401 ‎มันแค่เป็นเรื่องแปลกประหลาด ‎ที่ผู้หญิงคนหนึ่งพูดในสิ่งที่ใจคิด 168 00:10:17,034 --> 00:10:20,788 ‎นิกสัน: มาร์ธาไม่ได้บ้า ‎เธอรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ 169 00:10:21,413 --> 00:10:23,582 ‎(เอช. อาร์. ฮัลเดแมน ‎เสนาธิการทำเนียบขาว) 170 00:10:24,291 --> 00:10:26,126 ‎ฮัลเดแมน: เธอคงไม่สร้างปัญหาหรอกครับ 171 00:10:26,919 --> 00:10:27,795 ‎นิกสัน: แน่หรือ 172 00:10:28,879 --> 00:10:30,297 ‎(ระหว่างปี 1971 ถึง 1973) 173 00:10:30,381 --> 00:10:33,634 ‎(ประธานาธิบดีนิกสันแอบบันทึก ‎บทสนทนาของเขา) 174 00:10:33,717 --> 00:10:35,844 ‎(กับคณะทำงานหลายนายในทำเนียบขาว) 175 00:10:35,928 --> 00:10:40,516 ‎(มีการเอ่ยชื่อมาร์ธา มิตเชลล์กว่า 100 ครั้ง) 176 00:10:40,599 --> 00:10:45,229 ‎นิกสัน: เธอสร้างความรำคาญใจให้ผมมาตลอด ‎ทำให้ผมหวั่นใจอยู่เสมอ ผมทนไม่ได้เลย 177 00:10:50,150 --> 00:10:56,156 ‎(ปี 1972 ‎แคมเปญหาเสียงเลือกตั้งสมัยที่สองของนิกสัน) 178 00:10:57,032 --> 00:10:58,075 ‎(เพื่อสันติภาพ ‎นิกสัน '72) 179 00:11:05,916 --> 00:11:10,045 ‎ปี 1972 เป็นปีแห่งโอกาสที่จะเกิดสันติสุข 180 00:11:10,546 --> 00:11:13,674 ‎อย่างที่อเมริกาไม่เคยมีมาก่อน ‎ในประวัติศาสตร์ของประเทศ 181 00:11:13,757 --> 00:11:15,342 ‎(นิกสันอีกสมัย) 182 00:11:22,141 --> 00:11:23,475 ‎(เราสนับสนุนประธานาธิบดี) 183 00:11:29,231 --> 00:11:32,609 ‎สายัณห์สวัสดีครับ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ ‎จอห์น มิตเชลล์ ลาออกจากตำแหน่งวันนี้ 184 00:11:32,693 --> 00:11:34,903 ‎จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ‎เพื่อกลับไปทำงานเก่า 185 00:11:34,987 --> 00:11:37,656 ‎นั่นคือการดูแลแคมเปญหาเสียง ‎ให้กับริชาร์ด นิกสัน 186 00:11:40,075 --> 00:11:44,329 ‎ในปี 1972 จอห์น มิตเชลล์เป็นผู้จัดการแคมเปญ 187 00:11:44,913 --> 00:11:47,958 ‎มาร์ธา มิตเชลล์ก็มักจะแสวงหาโอกาส 188 00:11:48,041 --> 00:11:50,878 ‎ที่จะไปปรากฎตัว ‎ต่อหน้าสาธารณชนในการหาเสียง 189 00:11:51,920 --> 00:11:54,923 ‎ฉันเป็นหนึ่งในคณะกรรมการยุคแรกๆ ของครีป 190 00:11:55,007 --> 00:11:58,010 ‎ซึ่งก็คือคณะกรรมาธิการ ‎เพื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่สอง 191 00:11:59,094 --> 00:12:01,930 ‎มากรูเดอร์ พอร์เตอร์ และตัวฉันเอง 192 00:12:02,014 --> 00:12:04,975 ‎คือสามคนแรกที่ตั้งครีปขึ้นมา 193 00:12:05,851 --> 00:12:08,353 ‎ฉันมีคณะทำงานของตัวเอง มีออฟฟิศของตัวเอง 194 00:12:08,854 --> 00:12:11,440 ‎ฉันมีส่วนร่วมตลอดทั้งการหาเสียง 195 00:12:12,733 --> 00:12:15,319 ‎ฉันรู้จักมาร์ธาผ่านทางแม่ของฉัน ‎ชื่อจูน แดงค์เวิร์ธ 196 00:12:15,402 --> 00:12:17,362 ‎ที่ทำงานกับครีป 197 00:12:18,280 --> 00:12:20,741 ‎พอทำงานร่วมกันหลายปี ‎สองคนนั้นก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน 198 00:12:20,824 --> 00:12:22,910 ‎และสำหรับฉัน เธอคือป้ามาร์ธา 199 00:12:23,994 --> 00:12:26,705 ‎พวกเขาชอบมาร์ธาเพราะประชาชนชอบเธอ 200 00:12:26,789 --> 00:12:30,209 ‎เธอมักจะชื่นชอบเป็นจุดสนใจ ‎และออกเดินทางไปทั่ว 201 00:12:31,710 --> 00:12:34,630 ‎ฉันเดินทางไปทั่วประเทศ 202 00:12:35,339 --> 00:12:40,344 ‎ทำงานหนักทั้งวันทั้งคืน ‎เพื่อให้ผู้ชายคนนี้ได้เป็นประธานาธิบดี 203 00:12:41,512 --> 00:12:44,890 ‎เธอภักดีต่อพรรคและประธานาธิบดีมาก 204 00:12:44,973 --> 00:12:49,061 ‎และในตอนแรกก็ดูเหมือนจะชื่นชอบ ‎ปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณชน 205 00:12:50,062 --> 00:12:52,189 ‎แต่เหมือนเธอจะถูกบังคับกะเกณฑ์มากขึ้นเรื่อยๆ 206 00:12:52,272 --> 00:12:53,982 ‎(ยินดีต้อนรับประธานาธิบดีนิกสัน) 207 00:12:54,525 --> 00:12:55,734 ‎(ความสุขคืออาร์. นิกสัน) 208 00:12:55,818 --> 00:12:58,654 ‎อะไรที่เปลี่ยนความรู้สึกที่คุณมีต่อเขา ‎เพราะผมรู้ว่าครั้งหนึ่ง 209 00:12:58,737 --> 00:13:00,948 ‎คุณเคยเชื่อมั่นในริชาร์ด นิกสัน ‎ทั้งคุณและสามีเลย 210 00:13:01,532 --> 00:13:02,366 ‎เกิดอะไรขึ้นครับ 211 00:13:03,033 --> 00:13:03,867 ‎แคลิฟอร์เนีย 212 00:13:08,747 --> 00:13:11,500 ‎ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้คิดอยากจะมาหรอก 213 00:13:11,583 --> 00:13:15,128 ‎ฉันถูกบังคับให้มาที่นี่ในวินาทีสุดท้าย 214 00:13:15,504 --> 00:13:20,175 ‎(ปี 1972 - คืนเกิดเหตุบุกรุกวอเตอร์เกต) 215 00:13:24,012 --> 00:13:25,430 ‎สวัสดีค่ะ ทุกคน 216 00:13:25,514 --> 00:13:26,807 ‎คืนนี้ทำอะไรกันบ้างคะ 217 00:13:28,183 --> 00:13:29,726 ‎จอห์น มิตเชลล์กับผม 218 00:13:29,810 --> 00:13:33,939 ‎และคณะหาเสียงคนอื่นๆ ยังอยู่ลอสแอนเจลิส 219 00:13:34,022 --> 00:13:35,774 ‎มีงานระดมทุน 220 00:13:37,442 --> 00:13:41,280 ‎บริกรถือโทรศัพท์เดินมาให้ ‎และผมก็ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 221 00:13:45,242 --> 00:13:46,910 ‎ชายห้าคนถูกจับเมื่อเช้าวันเสาร์ 222 00:13:46,994 --> 00:13:49,413 ‎ในขณะที่พยายามติดตั้งอุปกรณ์ดักฟัง 223 00:13:49,496 --> 00:13:51,832 ‎ณ ที่ทำการคณะกรรมาธิการแห่งชาติ ‎พรรคเดโมแครต 224 00:13:51,915 --> 00:13:54,418 ‎ผู้บุกรุกเข้าไปห้องทำงานของคณะกรรมาธิการ 225 00:13:54,501 --> 00:13:57,296 ‎มีการตรวจค้นแฟ้ม ‎และนำเอกสารบางอย่างออกไป 226 00:13:57,379 --> 00:14:01,341 ‎หลังจากตรวจพบว่ามีการบุกรุก ‎ชายทั้งห้าก็ถูกตำรวจใช้อาวุธปืนเข้าจำกุม 227 00:14:08,015 --> 00:14:10,434 ‎จอห์นทิ้งฉันไว้ที่แคลิฟอร์เนีย 228 00:14:12,811 --> 00:14:14,688 ‎ไม่ใช่สิ่งที่ฉันหวังไว้เลย 229 00:14:18,400 --> 00:14:21,737 ‎แล้วฉันก็ได้อ่านหนังสือพิมพ์ ‎เป็นครั้งแรกในรอบห้าวัน 230 00:14:22,154 --> 00:14:24,990 ‎(ผู้ต้องสงสัยดักฟังพรรคเดโมแครต ‎ทำงานให้พรรครีพับลิกัน) 231 00:14:25,073 --> 00:14:26,617 ‎(โดยบ็อบ วูดาร์ด ‎และคาร์ล เบิร์นสตีน) 232 00:14:26,700 --> 00:14:29,995 ‎นี่คือรูปถ่ายที่ได้จากตำรวจ ‎ของเจมส์ ดับเบิลยู. แม็คคอร์ด 233 00:14:30,078 --> 00:14:31,371 ‎เขาเป็นหนึ่งในห้าคน 234 00:14:31,455 --> 00:14:34,374 ‎ที่ถูกจับกุมอย่างไม่ทันตั้งตัว ‎ในที่ทำการสำนักงานใหญ่ 235 00:14:34,458 --> 00:14:36,919 ‎ของคณะกรรมาธิการแห่งชาติ ‎พรรคเดโมแครตในวอชิงตัน 236 00:14:37,002 --> 00:14:38,629 ‎ทราบไหมครับว่าเขาเป็นใคร 237 00:14:38,712 --> 00:14:42,174 ‎ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการหาเสียงเลือกตั้ง ‎สมัยที่สองของปธน.ริชาร์ด นิกสัน 238 00:14:46,386 --> 00:14:48,347 ‎ฉันรู้จักแม็คคอร์ดดี 239 00:14:48,430 --> 00:14:50,307 ‎(เจมส์ แม็คคอร์ด) 240 00:14:50,390 --> 00:14:53,769 ‎เจมส์ แม็คคอร์ดเคยเป็นบอดี้การ์ดให้เธอ 241 00:14:53,852 --> 00:14:55,896 ‎และเป็นคนไปส่งลูกสาวเธอที่โรงเรียน 242 00:14:57,064 --> 00:15:01,401 ‎จอห์น มิตเชลล์จ้างเขา ‎มาเป็นผู้ช่วยของครอบครัว 243 00:15:05,030 --> 00:15:09,034 ‎จอห์น มิตเชลล์กลับจากแคลิฟอร์เนีย ‎มายังกรุงวอชิงตัน 244 00:15:10,494 --> 00:15:12,913 ‎ตอนนั้นเขามีปัญหาใหญ่หลวง 245 00:15:12,996 --> 00:15:15,916 ‎เพราะเขาเป็นคนที่อนุญาต ‎ให้คนเหล่านั้นบุกรุกเข้าไปอย่างโง่ๆ 246 00:15:18,335 --> 00:15:21,713 ‎วันนี้ จอห์น มิตเชลล์ ประธานกรรมการ ‎คณะหาเสียงเลือกตั้งของปธน.นิกสัน 247 00:15:21,797 --> 00:15:23,840 ‎ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์นี้ 248 00:15:24,341 --> 00:15:25,968 ‎(รีพับลิกันปัดมีส่วนเกี่ยวข้อง) 249 00:15:26,051 --> 00:15:29,304 ‎ทำไมพวกเขาถึงปล่อยให้ฉันไม่รู้เรื่องอยู่ตั้งนาน 250 00:15:29,388 --> 00:15:31,515 ‎ว่าเกิดเหตุการณ์บุกรุกที่วอเตอร์เกต 251 00:15:32,808 --> 00:15:35,811 ‎ทำไมพวกเขาถึงทิ้งฉันไว้ที่แคลิฟอร์เนีย 252 00:15:36,979 --> 00:15:39,272 ‎จุดนี้เลยทำให้ฉันเชื่อว่า 253 00:15:39,356 --> 00:15:43,568 ‎คนเหล่านั้นน่าจะวางแผน ‎ให้ฉันออกมาจากวอชิงตัน 254 00:15:43,652 --> 00:15:45,195 ‎เพราะเรื่องวอเตอร์เกตนี่แหละ 255 00:15:47,406 --> 00:15:49,783 ‎ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที 256 00:15:49,866 --> 00:15:53,203 ‎และโทรไปที่วอชิงตัน ‎เพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ 257 00:15:54,871 --> 00:15:57,708 ‎ผมไปพบจอห์น มิตเชลล์ที่อะพาร์ตเมนต์ของเขา 258 00:15:59,543 --> 00:16:02,045 ‎มีสายเข้าจากมาร์ธาอยู่เรื่อยๆ 259 00:16:02,587 --> 00:16:07,050 ‎เธอโกรธมากที่จอห์นทิ้งเธอไว้ที่แคลิฟอร์เนีย 260 00:16:07,134 --> 00:16:09,136 ‎และไม่เล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง 261 00:16:11,221 --> 00:16:15,142 ‎ผมได้ยินแค่ว่ามาร์ธาสติแตกกระเจิง 262 00:16:15,225 --> 00:16:17,519 ‎เธอโวยวายใหญ่โต 263 00:16:21,815 --> 00:16:24,067 ‎ตอนนั้นเราอยู่ที่วิลล่าในโรงแรม 264 00:16:25,068 --> 00:16:27,654 ‎ฉันนั่งอยู่บนเตียงและโทรหาเฮเลน โทมัส 265 00:16:28,238 --> 00:16:29,740 ‎มีบอดี้การ์ดเดินเข้ามา 266 00:16:32,659 --> 00:16:35,537 ‎เขาบอกว่า "คุณนายมิตเชลล์ ‎กำลังคุยโทรศัพท์กับเฮเลน โทมัสอยู่ 267 00:16:38,540 --> 00:16:41,460 ‎เฮเลนเล่าเรื่องวอเตอร์เกตให้เธอฟังอยู่ 268 00:16:42,002 --> 00:16:43,128 ‎ให้ผมทำยังไงดี" 269 00:16:45,839 --> 00:16:49,217 ‎หลังจากนั้นไม่นาน ‎ฉันก็ได้ยินเธอตะโกนว่า "ออกไปนะ ออกไป" 270 00:16:49,301 --> 00:16:52,387 ‎ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วสายก็หลุด 271 00:17:02,773 --> 00:17:05,400 ‎ผมเป็นหมอประจำโรงแรมที่เข้าเวรในตอนนั้น 272 00:17:07,944 --> 00:17:09,780 ‎ผมไปที่ห้องส่วนตัวผู้เข้าพัก 273 00:17:11,740 --> 00:17:13,033 ‎มีคนอยู่ข้างในหลายคน 274 00:17:13,116 --> 00:17:16,161 ‎กำลังวิตกกังวล ‎เรื่องที่เธอเอาแต่ตะโกนและกรีดร้อง 275 00:17:17,621 --> 00:17:19,331 ‎พวกเขาอยากให้เธอสงบลง 276 00:17:20,832 --> 00:17:24,753 ‎เธอถูกจับกดไว้และผมก็ฉีดยากล่อมประสาทให้ 277 00:17:30,300 --> 00:17:32,260 ‎เรื่องทั้งหมดนี้มันฟังดูแปลกมากใช่ไหมล่ะ 278 00:17:33,178 --> 00:17:36,306 ‎แต่ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงสั่งให้ทำ 279 00:17:36,389 --> 00:17:37,432 ‎คุณก็ต้องทำ 280 00:17:38,975 --> 00:17:42,854 ‎นั่นคือจุดเริ่มต้นของชีวิตนักโทษที่ถูกจองจำของฉัน 281 00:17:43,647 --> 00:17:45,148 ‎คุณเป็นนักโทษที่ถูกจองจำเลยหรือ 282 00:17:45,232 --> 00:17:48,443 ‎ฉันถูกจองจำไว้ในห้องที่มีกำแพงสี่ด้านจริงๆ 283 00:17:48,527 --> 00:17:50,987 ‎("ฉันเป็นนักโทษของพรรครีพับลิกัน": มาร์ธา) 284 00:17:51,071 --> 00:17:53,782 ‎หลังเหตุการดักฟังที่วอเตอร์เกตที่น่าอัปยศอดสู 285 00:17:53,865 --> 00:17:55,951 ‎มาร์ธา มิตเชลล์ออกมาพูดอีกแล้ว 286 00:17:56,034 --> 00:17:57,786 ‎เมื่อค่ำวานนี้ เธอบอกนักข่าวว่า 287 00:17:57,869 --> 00:18:00,914 ‎เธอถูกจองจำโดนบอดี้การ์ดของสามีเธอเอง 288 00:18:00,997 --> 00:18:04,376 ‎พอเธอจะใช้โทรศัพท์ ‎เธอบอกว่าทั้งห้าคนกระชากมันหลุดจากกำแพง 289 00:18:04,459 --> 00:18:08,672 ‎และ "เหวี่ยงฉันลงบนเตียง ‎แล้วเอาเข็มจิ้มก้นฉัน" 290 00:18:08,755 --> 00:18:10,590 ‎(มาร์ธา มิตเชลล์: ‎พวกเขาไม่อยากให้ฉันพูด) 291 00:18:10,674 --> 00:18:14,761 ‎ฉันไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงหลายคน ‎ในประเทศนี้ที่จะโทรมาแล้วบอกว่า 292 00:18:14,845 --> 00:18:17,139 ‎"ตอนนี้ฉันถูกจองจำเป็นนักโทษทางการเมือง" 293 00:18:17,222 --> 00:18:18,849 ‎พอฟังดูก็มีความรู้สึกว่า 294 00:18:18,932 --> 00:18:22,144 ‎อาจมีการใช้กำลังกันก็ได้ 295 00:18:22,227 --> 00:18:23,728 ‎(คุณนายมิตเชลล์กล่าวว่าถูกบอดี้การ์ดซ้อม) 296 00:18:23,812 --> 00:18:25,397 ‎เธอให้ดูรอยช้ำบนแขน 297 00:18:25,480 --> 00:18:28,108 ‎และบอกว่ามีรอยช้ำที่ต้นขาอีกหลายรอย 298 00:18:28,191 --> 00:18:32,028 ‎เธอบอกว่า "ฉันเป็นคนรักชาติ ‎จนเมื่อฉันถูกลอบทำร้าย" 299 00:18:38,785 --> 00:18:41,705 ‎วันนี้ท่านประธานาธิบดี ‎มีเรื่องการเมืองให้ต้องสะสางหลายอย่าง 300 00:18:41,788 --> 00:18:45,750 ‎สิ่งที่ท่านกังวลใจเป็นพิเศษ ‎ก็คือคำถามเกี่ยวกับมาร์ธา มิตเชลล์ 301 00:18:47,210 --> 00:18:50,547 ‎ประธานาธิบดีคิดว่าจอห์นควรจะต้อง ‎ปิดปากเธอทางใดสักทาง 302 00:18:50,630 --> 00:18:51,464 ‎หรือขังเธอไว้ซะ 303 00:18:51,548 --> 00:18:54,426 ‎เขาจะปล่อยให้เธอออกมาพูดพล่ามอยู่แบบนี้ไม่ได้ 304 00:18:54,509 --> 00:18:56,928 ‎ไม่งั้นมันอาจสร้างปัญหาใหญ่ระดับชาติ 305 00:19:01,141 --> 00:19:04,436 ‎มาร์ธา มิตเชลล์บอกกับนักข่าวว่า ‎เธอจะออกห่างจากสามี 306 00:19:04,519 --> 00:19:06,438 ‎จนกว่าเขาจะตัดสินใจเลิกเล่นการเมือง 307 00:19:06,521 --> 00:19:07,856 ‎(มาร์ธายื่นคำขาด: ‎ปธน. หรือฉัน) 308 00:19:07,939 --> 00:19:10,317 ‎เธอบอกว่า "ฉันรักสามีฉันมาก 309 00:19:10,400 --> 00:19:13,862 ‎แต่ฉันจะไม่ทนกับเรื่องสกปรกทั้งหมดที่เกิดขึ้น" 310 00:19:19,034 --> 00:19:21,286 ‎(คลิปเสียงจากทำเนียบขาว) 311 00:19:22,913 --> 00:19:24,623 ‎นิกสัน: ผมเชื่อว่าถ้าไม่ใช่เพราะมาร์ธา 312 00:19:24,706 --> 00:19:27,584 ‎จอห์นคงไม่ปล่อยให้เรื่องวอเตอร์เกต ‎กลายเป็นปัญหาแบบนี้แน่ 313 00:19:30,670 --> 00:19:32,923 ‎ฮัลเดแมน: ‎ถึงจะเอาฝาครอบไว้ แต่คงปิดได้ไม่นาน 314 00:19:33,006 --> 00:19:37,093 ‎และ… ถ้าเขาไปซะ อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ 315 00:19:42,015 --> 00:19:45,185 ‎แฟนๆ มาร์ธาจะได้คิดว่า ‎"แหม ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ" 316 00:19:46,019 --> 00:19:47,520 ‎ผู้ชายคนนี้ยอมออกจากงาน 317 00:19:47,604 --> 00:19:49,022 ‎เหมือนดยุกแห่งวินด์เซอร์ไง 318 00:19:49,105 --> 00:19:51,691 ‎ที่สละบัลลังก์เพื่อผู้หญิงที่ตัวเองรัก 319 00:19:54,361 --> 00:19:56,279 ‎หญิงผู้น่าสงสารคนนี้ไม่สบาย 320 00:19:56,363 --> 00:19:58,782 ‎เขาต้องไปอยู่เคียงข้างเธอ อะไรแบบนี้ 321 00:19:58,865 --> 00:20:01,952 ‎นิกสัน: งั้นเราก็ต้องปล่อยข่าวว่าเธอไม่สบาย ‎ประโคมเข้าไป 322 00:20:02,035 --> 00:20:03,787 ‎- ต้องทำแบบนี้ ‎- ฮัลเดแมน: ทำอยู่ครับ 323 00:20:04,287 --> 00:20:05,247 ‎(ปัญหา) 324 00:20:05,330 --> 00:20:06,373 ‎(ติดเหล้า) 325 00:20:06,456 --> 00:20:10,252 ‎จู่ๆ ก็มีข่าวลือออกมาจากทำเนียบขาว 326 00:20:10,335 --> 00:20:11,336 ‎(มาร์ธา มิตเชลล์ "ป่วย") 327 00:20:11,419 --> 00:20:14,339 ‎พอรู้ตัวอีกที ก็เห็นหนังสือพิมพ์ ‎ลงข่าวว่าฉันบ้ามั่งแหละ 328 00:20:14,422 --> 00:20:15,966 ‎ว่าฉันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้บ้างแหละ 329 00:20:16,049 --> 00:20:17,926 ‎(มีปัญหาทางอารมณ์) 330 00:20:18,927 --> 00:20:20,845 ‎ฮัลเดแมน: การลาออกจะเป็นเรื่องที่ดี 331 00:20:20,929 --> 00:20:22,430 ‎ใช้มาร์ธาเป็นข้ออ้างได้เลย 332 00:20:23,556 --> 00:20:25,308 ‎นิกสัน: ผมว่าคุณควรเป็นคนทำนะ 333 00:20:25,392 --> 00:20:27,060 ‎เรียกนักข่าวมา 334 00:20:29,729 --> 00:20:31,731 ‎จอห์น มิตเชลล์ อดีตอัยการสูงสุดสหรัฐฯ 335 00:20:31,815 --> 00:20:34,192 ‎ลงจากตำแหน่ง ‎หัวหน้าคณะหาเสียงของปธน.นิกสัน 336 00:20:34,276 --> 00:20:35,694 ‎(มิตเชลล์ลาออก: ‎"ภรรยาต้องมาก่อน") 337 00:20:35,777 --> 00:20:38,697 ‎เขาบอกประธานาธิบดีว่า ‎สาเหตุที่ลาออกเป็นเพราะคุณนายมิตเชลล์ 338 00:20:38,780 --> 00:20:39,614 ‎(ภรรยาของผม) 339 00:20:39,698 --> 00:20:42,993 ‎สมาชิกพรรคเดโมแครตบางคนยังยืนยันว่า ‎เหตุโจรกรรมที่สำนักงานใหญ่ 340 00:20:43,076 --> 00:20:45,620 ‎โดยที่หนึ่งในผู้ก่อเหตุทำงานให้กับมิตเชลล์ 341 00:20:45,704 --> 00:20:46,663 ‎อาจเป็นปัจจัยหนึ่งก็ได้ 342 00:20:47,247 --> 00:20:49,416 ‎พรรครีพับลิกันปฏิเสธเรื่องนี้อย่างเสียงแข็ง 343 00:20:49,499 --> 00:20:52,210 ‎โดยบอกว่าเหตุผลเพียงหนึ่งเดียว ‎ก็คือคุณนายมิตเชลล์ 344 00:20:52,794 --> 00:20:56,047 ‎มิตรสหายครอบครัวมิตเชลล์ ‎จากกระทรวงยุติธรรมกล่าวหลังจากนั้นว่า 345 00:20:56,131 --> 00:20:57,632 ‎"มาร์ธามีปัญหาพิเศษ 346 00:20:58,216 --> 00:21:00,885 ‎เห็นชัดว่ามันทวีความรุนแรงขึ้น" 347 00:21:07,309 --> 00:21:09,936 ‎ฉันรู้สึกอับอาย เจ็บปวด 348 00:21:10,979 --> 00:21:13,440 ‎และฉันก็ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ทำร้ายฉัน 349 00:21:16,067 --> 00:21:19,112 ‎ฉันคิดว่าเหตุการณ์ที่แคลิฟอร์เนีย ‎เป็นเพียงจุดเริ่มต้น 350 00:21:19,195 --> 00:21:21,406 ‎(เสียงของไพเพอร์ แดงค์เวิร์ธ ‎คนสนิทครอบครัว) 351 00:21:21,489 --> 00:21:23,575 ‎นั่นคือตอนที่เธอรู้ว่า 352 00:21:23,658 --> 00:21:27,495 ‎เธอกำลังถูกปิดปาก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม 353 00:21:30,040 --> 00:21:35,170 ‎สุดท้ายแล้ว มาร์ธา มิตเชลล์ก็บอกว่า ‎ตัวเองตกเป็นนักโทษทางการเมือง 354 00:21:38,423 --> 00:21:42,552 ‎ผมคิดว่าเราทุกคนมีส่วนรับผิดชอบ ‎ที่จะต้องปลดมาร์ธา มิตเชลล์จากพันธนาการนี้ 355 00:21:45,472 --> 00:21:47,682 ‎(ปี 1972 งานประชุมประจำปีพรรคเดโมแครต) 356 00:21:47,766 --> 00:21:49,309 ‎ปล่อยมาร์ธา มิตเชลล์ 357 00:21:49,392 --> 00:21:51,061 ‎(มาร์ธา มิตเชลล์ต้องการซุปร้อนๆ) 358 00:21:51,144 --> 00:21:54,481 ‎ไม่เอาน่า นิกสัน ‎ปล่อยมาร์ธา มิตเชลล์ซะ 359 00:21:55,148 --> 00:21:57,108 ‎(ปล่อยมาร์ธา มิตเชลล์) 360 00:21:57,400 --> 00:22:01,196 ‎เรื่องที่เธอถูกจองจำโดยที่ไม่ยินยอม 361 00:22:01,279 --> 00:22:03,073 ‎มันช่างดูเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝัน 362 00:22:04,616 --> 00:22:06,242 ‎ผู้คนเชื่อเธอจริงๆ หรือ 363 00:22:06,826 --> 00:22:08,787 ‎ฉันไม่คิดว่าจะมีใครเชื่อหรอก 364 00:22:08,870 --> 00:22:10,413 ‎("พวกเขากลัวที่ฉันพูดความจริง") 365 00:22:10,497 --> 00:22:13,041 ‎(มาร์ธาวางหู) 366 00:22:13,124 --> 00:22:16,336 ‎(มาร์ธา "เป็นอิสระแล้ว" ‎ออกมาสร้างชีวิตใหม่ในนครนิวยอร์ก) 367 00:22:19,255 --> 00:22:21,508 ‎ฉันอยู่ในอะพาร์ตเมนต์เล็กๆ 368 00:22:21,591 --> 00:22:24,135 ‎ซ่อนตัวอยู่ เพราะฉันอับอายมากเหลือเกิน 369 00:22:24,636 --> 00:22:26,012 ‎(หมดวันชื่นคืนสุขสำหรับมาร์ธา) 370 00:22:26,096 --> 00:22:30,350 ‎ฉันลาออกจากเวทีการเมืองโดยสิ้นเชิง 371 00:22:30,934 --> 00:22:33,186 ‎ขณะที่พวกนั้นพยายามทุกวิถีทาง 372 00:22:33,269 --> 00:22:35,230 ‎เพื่อจัดการปัญหาวอเตอร์เกตให้หมดไป 373 00:22:35,313 --> 00:22:38,066 ‎(ตราประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา) 374 00:22:42,028 --> 00:22:44,114 ‎(เดอะวอชิงตันโพสต์) 375 00:22:46,366 --> 00:22:50,286 ‎คดีวอเตอร์เกตไม่ใช่แค่เพียงคดีลักทรัพย์ธรรมดา 376 00:22:55,291 --> 00:22:57,127 ‎แต่วอเตอร์เกต 377 00:22:57,210 --> 00:22:59,170 ‎คือแคมเปญเลือกตั้งมหึมา 378 00:22:59,254 --> 00:23:03,508 ‎ที่ใช้กลโกงสกปรกกับคนอื่น ‎เพื่อให้ได้ชัยชนะเลือกตั้งสมัยที่สอง 379 00:23:07,095 --> 00:23:11,391 ‎มันคือการพยายามปกปิดความผิดอย่างลวกๆ 380 00:23:11,474 --> 00:23:16,229 ‎ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ‎อย่างน้อยก็จนถึงการเลือกตั้ง ปี 1972 381 00:23:16,312 --> 00:23:17,647 ‎(ปี 1972 ปีแห่งการเลือกตั้ง) 382 00:23:21,317 --> 00:23:22,694 ‎(ชนะหรือปราชัย) 383 00:23:23,945 --> 00:23:26,739 ‎อีกสี่ปี อีกสี่ปี 384 00:23:26,823 --> 00:23:28,491 ‎และมันก็ประสบความสำเร็จ 385 00:23:28,575 --> 00:23:30,535 ‎นิกสันชนะถล่มทลาย 386 00:23:32,620 --> 00:23:37,125 ‎(ปี 1973 ‎วันที่ 20 มกราคม วันปฏิญาณตนรับตำแหน่ง) 387 00:23:37,834 --> 00:23:41,671 ‎ยุคสมัยประธานาธิบดีของเขา ‎เต็มไปด้วยความเกลียดชัง 388 00:23:44,215 --> 00:23:47,385 ‎ใช้อำนาจความเป็นประธานาธิบดี 389 00:23:47,469 --> 00:23:49,721 ‎เป็นเครื่องมือในการแก้แค้น 390 00:23:49,804 --> 00:23:53,099 ‎ใครก็ตามที่ขวางทางเขา 391 00:23:53,183 --> 00:23:55,351 ‎รวมถึงมาร์ธา มิตเชลล์ด้วย 392 00:24:08,031 --> 00:24:11,743 ‎หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ‎เรื่องวอเตอร์เกตก็ซาลง 393 00:24:11,826 --> 00:24:13,036 ‎และเงียบหายไปในที่สุด 394 00:24:15,455 --> 00:24:18,208 ‎ไม่มีใครพูดถึงมันอีก จนกระทั่งแม็คคอร์ด 395 00:24:21,044 --> 00:24:21,878 ‎(ปี 1973 ‎มีนาคม) 396 00:24:21,961 --> 00:24:23,922 ‎เจมส์ แม็คคอร์ด ผู้ได้กล่าวต่อผู้พิพากษาว่า 397 00:24:24,005 --> 00:24:26,925 ‎ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพูดถึง ‎ในคดีวอเตอร์เกต 398 00:24:27,008 --> 00:24:30,220 ‎ไปพบคณะกรรมาธิการวุฒิสภาในวันนี้ ‎เพื่อบอกในสิ่งที่เขารู้ 399 00:24:31,429 --> 00:24:35,808 ‎แม็คคอร์ดกล่าวว่าจอห์น มิตเชลล์ ‎รู้เบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับคดีวอเตอร์เกต 400 00:24:36,309 --> 00:24:40,021 ‎คุณมิตเชลล์ครับ คุณเคยเป็นเสมือน ‎สัญลักษณ์ของกฎหมายและระเบียบในสังคม 401 00:24:40,104 --> 00:24:41,439 ‎ผมก็ยังเป็นอยู่ 402 00:24:41,523 --> 00:24:42,732 ‎คุณควรจะเชื่อไว้บ้างนะ 403 00:24:44,817 --> 00:24:48,530 ‎(นครนิวยอร์ก) 404 00:24:49,656 --> 00:24:52,408 ‎ตอนนั้น จอห์น มิตเชลล์ ‎ไม่ได้มีตำแหน่งอยู่ในรัฐบาลแล้ว 405 00:24:52,492 --> 00:24:54,035 ‎เขาเป็นประชาชนธรรมดา 406 00:24:54,118 --> 00:24:57,288 ‎แต่มาร์ธาก็เริ่มพูดกับเพื่อนๆ ในแวดวงนักข่าว 407 00:24:57,914 --> 00:25:01,167 ‎เฟร็ด ลารูบอกผมว่า ‎เวลาพูดโทรศัพท์ให้ระวังด้วย 408 00:25:01,251 --> 00:25:04,045 ‎เพราะมาร์ธาจะรับโทรศัพท์แล้วแอบฟัง 409 00:25:04,712 --> 00:25:07,298 ‎เพราะงั้นขอให้ระวังคำพูดคำจาด้วย 410 00:25:12,971 --> 00:25:15,223 ‎(เทปจากทำเนียบขาว) 411 00:25:15,306 --> 00:25:17,559 ‎ฮัลเดแมน: เห็นที่มาร์ธา มิตเชลล์ทำไหมครับ 412 00:25:18,977 --> 00:25:20,728 ‎นิกสัน: ไม่รู้ เธอโทรหาใครอีกหรือ 413 00:25:20,812 --> 00:25:22,480 ‎ฮัลเดแมน: เดอะนิวยอร์กไทมส์ครับ 414 00:25:23,064 --> 00:25:28,111 ‎(คุณนายมิตเชลล์กลัวว่ามีคนคิด ‎โยนความผิดคดีวอเตอร์เกตให้สามี) 415 00:25:29,112 --> 00:25:30,321 ‎นิกสัน: แล้วพูดว่ายังไง 416 00:25:30,822 --> 00:25:34,534 ‎ฮัลเดแมน: พูดว่า "พวกเขาจัดฉากให้จอห์นผิด ‎และฉันจะไม่ยอมให้พวกเขาทำแบบนั้น" 417 00:25:35,410 --> 00:25:37,245 ‎บอกว่า "ฉันไม่ให้พวกเขา ‎โยนความผิดให้จอห์นหรอก 418 00:25:37,328 --> 00:25:39,414 ‎ไม่มีวัน และฉันไม่สนด้วยว่าใครจะโดนหางเลข 419 00:25:39,497 --> 00:25:40,873 ‎ให้ฉันบอกชื่อก็ยังได้" 420 00:25:44,335 --> 00:25:48,923 ‎ฉันว่าเธอคงโกรธนิกสัน ‎ที่ทำให้จอห์นต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ 421 00:25:49,007 --> 00:25:50,800 ‎เธออยากปกป้องจอห์น 422 00:25:50,883 --> 00:25:54,554 ‎แต่ฉันว่าเธอคงไม่รู้ว่า ‎จริงๆ แล้วจอห์นมีส่วนเกี่ยวข้องมากแค่ไหน 423 00:25:55,430 --> 00:25:58,057 ‎ความรักที่เธอมีให้จอห์นคงบังตาอยู่ 424 00:25:58,850 --> 00:26:03,605 ‎ฉันเบื่อและเหนื่อยใจกับการที่คนพูดว่า ‎ฉันอยากเสนอหน้าออกข่าว 425 00:26:03,688 --> 00:26:09,986 ‎แต่ถ้าฉันต้องพยายามออกข่าว ‎เพื่อกู้ชื่อผู้บริสุทธิ์สองคน ฉันก็จะทำ 426 00:26:10,069 --> 00:26:11,779 ‎เพื่อสามีและตัวฉันเอง 427 00:26:12,280 --> 00:26:16,492 ‎ถ้าจะโทษใครก็โทษทำเนียบขาวนั่นแหละ 428 00:26:16,576 --> 00:26:18,369 ‎หมายความว่าไงครับ "โทษทำเนียบขาว" 429 00:26:18,453 --> 00:26:20,121 ‎(วันที่ 24 พ.ค. 1973 ช่องข่าวเอ็นบีซี) 430 00:26:20,204 --> 00:26:22,206 ‎ฉันหมายความว่ายังไงเรื่องทำเนียบขาวน่ะหรือ 431 00:26:22,290 --> 00:26:23,875 ‎ที่ว่าโทษทำเนียบขาว 432 00:26:23,958 --> 00:26:26,586 ‎คุณคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากอะไรล่ะ 433 00:26:26,669 --> 00:26:28,880 ‎คิดหรือว่าสามีฉันจะโง่ขนาดนั้น 434 00:26:29,380 --> 00:26:31,883 ‎แล้วคุณคิดว่าเขากำลังปกป้องใครอยู่ล่ะ 435 00:26:32,759 --> 00:26:33,801 ‎ใครกัน 436 00:26:33,885 --> 00:26:35,219 ‎ผมไม่ทราบหรอก ใครหรือครับ 437 00:26:36,262 --> 00:26:38,973 ‎ก็ท่านประธานาธิบดีน่ะสิ คนที่เขาปกป้องอยู่น่ะ 438 00:26:39,515 --> 00:26:42,143 ‎ดูออกชัดเจนแจ่มแจ้ง 439 00:26:44,312 --> 00:26:46,648 ‎ฉันจะประกาศให้ทุกคนรู้ ‎รู้ใช่ไหมว่าพวกเขาจะทำอะไร 440 00:26:46,731 --> 00:26:48,733 ‎ก็คงจะฆ่าปิดปากฉันนั่นแหละ 441 00:26:48,816 --> 00:26:53,154 ‎แต่ฉันหวังพึ่งพวกคุณ สื่อมวลชนทุกคน ‎ให้ช่วยกันปกป้องฉันด้วย 442 00:26:57,867 --> 00:27:02,205 ‎ตอนนั้นฉันอยู่แมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ‎เธอไปตามหาฉันจนเจอ 443 00:27:02,288 --> 00:27:04,666 ‎และบอกฉันว่านิกสันควรจะลาออก 444 00:27:05,249 --> 00:27:06,292 ‎เธอเป็นคนแรกที่พูดแบบนั้น 445 00:27:06,376 --> 00:27:07,877 ‎("ต้องลาออก" ‎มาร์ธาบอกสามีปกป้องนิกสัน) 446 00:27:08,461 --> 00:27:10,296 ‎ภรรยาของอดีตผู้จัดการแคมเปญของนิกสัน 447 00:27:10,380 --> 00:27:14,092 ‎กล่าวว่าสามีของเธอและประธานาธิบดี ‎มักใช้เวลายามเย็นวางแผนกลยุทธ์ด้วยกัน 448 00:27:14,175 --> 00:27:16,052 ‎และคุณนายมิตเชลล์กล่าวว่า 449 00:27:16,135 --> 00:27:18,930 ‎"ประธานาธิบดีรู้ดีเสมอว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง" 450 00:27:19,639 --> 00:27:25,019 ‎ประธานาธิบดีกำลังบอกกับ ‎พวกเราชาวอเมริกันว่า 451 00:27:25,103 --> 00:27:27,730 ‎เขาไม่รู้เรื่องเลวร้ายทั้งหมด 452 00:27:27,814 --> 00:27:29,607 ‎ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าเขาเนี่ยนะ 453 00:27:31,150 --> 00:27:33,486 ‎ผู้ชายคนนี้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 454 00:27:33,569 --> 00:27:38,241 ‎หรือไม่อย่างนั้น เขาก็ละเลยหน้าที่ประธานาธิบดี 455 00:27:39,826 --> 00:27:41,160 ‎เธอรับรู้ได้ 456 00:27:41,244 --> 00:27:42,620 ‎(มาร์ธา: นิกสันรู้เรื่องการปกปิด) 457 00:27:42,704 --> 00:27:45,123 ‎เธอรู้ว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากล 458 00:27:46,332 --> 00:27:49,001 ‎ผมกับคาร์ล เบิร์นสตีนเริ่มรู้แล้วว่า 459 00:27:49,085 --> 00:27:50,962 ‎เธอเปรียบเสมือนกระบอกเสียงอันมหึมา 460 00:27:51,045 --> 00:27:52,922 ‎เพราะสิ่งที่เธอพูดคือความจริง 461 00:27:53,005 --> 00:27:54,924 ‎(คดีวอเตอร์เกต ‎ให้การเท็จ กดดันให้แจ้งข้อหา) 462 00:27:55,007 --> 00:27:59,178 ‎เมื่อคุณเป็นคู่ชีวิตของคนที่ ‎กำลังตกที่นั่งลำบากในทางกฎหมาย 463 00:27:59,262 --> 00:28:01,806 ‎อย่างจอห์น มิตเชลล์ในตอนนั้น คุณก็จะรู้ 464 00:28:03,683 --> 00:28:06,477 ‎เรื่องเดียวที่ทำให้จอห์น มิตเชลล์โกรธ 465 00:28:06,561 --> 00:28:10,189 ‎คือตอนที่ฉันบอกว่าประธานาธิบดีควรจะลาออก 466 00:28:11,649 --> 00:28:15,153 ‎เดาว่าเขาคงจะโดนคนในทำเนียบขาวกดดันมา 467 00:28:17,280 --> 00:28:18,531 ‎มาร์ธาบอกจอห์น มิตเชลล์ว่า 468 00:28:18,614 --> 00:28:21,492 ‎"ถ้ายังอยู่กับนิกสัน มีหวังได้ติดคุกแน่ 469 00:28:22,368 --> 00:28:25,204 ‎ขณะที่ชายผู้เป็นต้นเหตุเดินชูคออย่างอิสระ" 470 00:28:31,711 --> 00:28:34,839 ‎อดีตอัยการสูงสุดสหรัฐฯ จอห์น มิตเชลล์ ‎ได้แยกทางกับภรรยา 471 00:28:34,922 --> 00:28:37,091 ‎และย้ายเข้าไปอยู่โรงแรมแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก 472 00:28:37,967 --> 00:28:42,388 ‎นิวส์วีคกล่าวว่านี่คือผลพวงมาจาก ‎การทะเลาะกันอย่างรุนแรง 473 00:28:42,472 --> 00:28:45,141 ‎โดยคุณนายมิตเชลล์โยนเสื้อผ้าของสามีเธอ 474 00:28:45,224 --> 00:28:47,351 ‎ออกไปตรงระเบียงทางเดินของตึกอะพาร์ตเมนต์ 475 00:28:47,435 --> 00:28:49,604 ‎เพื่อนๆ กล่าวว่ามิตเชลล์เคยพูดว่า 476 00:28:49,687 --> 00:28:51,272 ‎ภรรยาของเขามีอาการป่วยทางจิต 477 00:28:51,355 --> 00:28:54,692 ‎แต่เขาไม่อาจทำใจดำเนินการตามกฎหมาย 478 00:28:54,776 --> 00:28:56,110 ‎เพื่อให้เธอไปอยู่ร.พ.จิตเวช 479 00:29:15,296 --> 00:29:16,964 ‎(เสียงของไพเพอร์ แดงค์เวิร์ธ ‎คนสนิทครอบครัว) 480 00:29:17,048 --> 00:29:18,966 ‎เธออยู่ตัวคนเดียวหลังจากที่เขาออกไป 481 00:29:20,968 --> 00:29:22,929 ‎ลูกสาวของเธอ มาร์ตี้ ก็ไม่ได้อยู่ด้วย 482 00:29:23,012 --> 00:29:26,057 ‎และฉันก็รู้ว่าตอนที่พวกเขาห่างเหินกัน 483 00:29:26,140 --> 00:29:28,601 ‎ได้เกิดช่องโหว่ขึ้นภายในจิตใจของมาร์ธา 484 00:29:31,020 --> 00:29:33,147 ‎ฉันผ่านเรื่องราวเลวร้ายอย่างแสนสาหัสมา 485 00:29:33,231 --> 00:29:36,901 ‎และถ้ามีใครที่จะกลายเป็นคนติดเหล้าละก็ ‎คงเป็นตัวฉันเองนี่แหละ 486 00:29:36,984 --> 00:29:37,944 ‎แต่ฉันก็ไม่เป็นแบบนั้น 487 00:29:46,536 --> 00:29:50,998 ‎ฉันว่าเธอคิดกลัวอยู่ในใจตลอดเวลา ‎ว่าอาจมีอะไรเกิดขึ้นกับเธออีก 488 00:29:51,707 --> 00:29:55,002 ‎เธอบอกว่า "ฉันรู้ว่าพวกเขาทำแบบนี้ ‎เพราะคิดว่าฉันรู้มากเกินไป" 489 00:29:59,757 --> 00:30:00,842 ‎ฉันเคยถูกมอมยา 490 00:30:03,845 --> 00:30:06,764 ‎พวกเขาเคยพยายามจับฉัน ‎เข้าโรงพยาบาลจิตเวชมาแล้วสองครั้ง 491 00:30:10,810 --> 00:30:11,978 ‎เคยพยายามฆ่าฉัน 492 00:30:14,355 --> 00:30:15,648 ‎ฉันกลัวแทบตาย 493 00:30:20,278 --> 00:30:23,906 ‎เพราะทุกวัน ฉันตื่นขึ้นมาแล้วคิดว่า ‎"วันนี้จะมีเรื่องอะไรอีกนะ" 494 00:30:32,206 --> 00:30:37,211 ‎ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่คิดไหวตัว 495 00:30:37,295 --> 00:30:39,297 ‎ว่าเรื่องมันเป็นยังไง ฉันไม่รู้เลยจริงๆ 496 00:30:44,760 --> 00:30:46,387 ‎จนกระทั่งฉันรู้ว่า 497 00:30:46,470 --> 00:30:49,265 ‎ริชาร์ด นิกสันกับมิตเชลล์ ‎นั่งในห้องทำงานรูปไข่ 498 00:30:49,348 --> 00:30:51,893 ‎และรวมหัวกันวางแผนทำเรื่องนี้กับฉัน 499 00:30:51,976 --> 00:30:53,185 ‎หลักฐานก็มีอยู่ในเทป 500 00:30:54,061 --> 00:30:56,814 ‎เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอง ‎ที่คณะกรรมธิการวุฒิสภาคดีวอเตอร์เกต 501 00:30:56,898 --> 00:30:58,733 ‎ได้รู้ว่ามีเทปที่บันทึกเสียงสนทนา 502 00:30:58,816 --> 00:31:00,526 ‎ของประธานาธิบดีนิกสันอยู่ 503 00:31:00,610 --> 00:31:03,362 ‎รวมถึงบทสนทนาเกี่ยวกับคดีวอเตอร์เกต 504 00:31:05,740 --> 00:31:10,077 ‎จอห์น มิตเชลล์ ที่ฉันเคยคิดว่าลาออกเพราะฉัน 505 00:31:10,578 --> 00:31:14,248 ‎แต่ในเทปที่บันทึกเสียงไว้กลับ ‎แสดงให้เห็นตรงกันข้าม 506 00:31:14,332 --> 00:31:18,461 ‎ว่าเขากับริชาร์ด นิกสันควบคุมฉัน 507 00:31:18,544 --> 00:31:21,464 ‎และพวกเขาได้วางแผน 508 00:31:21,547 --> 00:31:26,010 ‎ให้มิตเชลล์ออกจากแคมเปญก่อนแล้ว 509 00:31:30,139 --> 00:31:32,350 ‎(เทปจากทำเนียบขาว) 510 00:31:34,477 --> 00:31:37,563 ‎(วันที่ 30 มิถุนายน ปี 1972 ‎สองปีก่อนหน้า) 511 00:31:39,649 --> 00:31:44,195 ‎จอห์น มิตเชลล์: ครั้งนี้เธอทำเกินไปจริงๆ 512 00:31:45,696 --> 00:31:49,575 ‎เหมือนเราได้สร้างปีศาจ ‎ที่เที่ยวป่าวประกาศกับสื่อและบ่อนทำลายเรา 513 00:31:50,159 --> 00:31:51,452 ‎นิกสัน: เธอเป็นคนดัง 514 00:31:51,535 --> 00:31:52,828 ‎มิตเชลล์: ใช่ 515 00:31:54,914 --> 00:31:57,458 ‎ผมพยายามทำให้เรื่องเงียบก็ได้นะ 516 00:31:58,626 --> 00:32:01,253 ‎ฮัลเดแมน: ถ้าคุณทำแบบนั้น (ลาออก) ‎คนคงแปลกใจแน่ 517 00:32:01,879 --> 00:32:02,713 ‎ถ้าไม่อย่างนั้น… 518 00:32:02,797 --> 00:32:05,841 ‎คุณพูดถูก มันจะถูกโยงกับคดีวอเตอร์เกต 519 00:32:13,766 --> 00:32:15,726 ‎ผู้ร่วมงานทางการเมืองที่ใกล้ชิดที่สุดของนิกสัน 520 00:32:15,810 --> 00:32:18,104 ‎ถูกดำเนินคดีอาญาในวันนี้ 521 00:32:18,187 --> 00:32:21,232 ‎เมื่อการสืบสวนคดีวอเตอร์เกต ‎เดินทางมาถึงช่วงสำคัญที่สุด 522 00:32:21,315 --> 00:32:24,568 ‎จอห์น มิตเชลล์ อดีตอัยการสูงสุดสหรัฐฯ ‎และผู้อำนวยการแคมเปญหาเสียง 523 00:32:24,652 --> 00:32:29,031 ‎ถูกตั้งข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ‎โดยให้การเท็จต่อหน้าคณะลูกขุนใหญ่และเอฟบีไอ 524 00:32:29,115 --> 00:32:30,700 ‎ถูกตัดสินให้รับโทษ 30 ปีในเรือนจำ 525 00:32:34,328 --> 00:32:37,164 ‎มิตเชลล์คงคิดว่าเดี๋ยวเขาก็ได้รับการอภัยโทษ 526 00:32:37,790 --> 00:32:41,127 ‎แต่นิกสันก็ออกจากตำแหน่ง ‎โดยที่ไม่ออกคำสั่งอภัยโทษให้เขา 527 00:32:44,171 --> 00:32:47,008 ‎ตลอดระยะเวลาอันยาวนานและยากลำบาก ‎ที่เกิดเรื่องวอเตอร์เกต 528 00:32:47,091 --> 00:32:49,385 ‎ผมคิดมาตลอดว่าตัวเอง ‎มีหน้าที่ที่จะต้องยืนหยัดสู้ต่อไป 529 00:32:51,137 --> 00:32:54,390 ‎แต่ผมได้ตระหนักรู้อย่างชัดเจนแล้วว่า 530 00:32:55,391 --> 00:32:59,645 ‎ผมไม่มีฐานทางการเมืองในสภาคองเกรส ‎ที่แข็งแรงและมั่นคงเพียงพออีกต่อไป 531 00:33:00,396 --> 00:33:03,691 ‎ผมจึงใคร่ขอลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ‎ซึ่งจะมีผลพรุ่งนี้เวลาเที่ยงตรง 532 00:33:05,401 --> 00:33:12,324 ‎(ปี 1974 ‎วันที่ 9 สิงหาคม) 533 00:33:22,001 --> 00:33:24,420 ‎คืนที่นิกสันลาออก 534 00:33:25,212 --> 00:33:31,218 ‎เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น 535 00:33:32,261 --> 00:33:35,431 ‎และนั่นคือจุดเริ่มของความคิดที่ว่า… 536 00:33:36,348 --> 00:33:37,933 ‎"ฉันต้องลุกขึ้นสู้" 537 00:33:41,562 --> 00:33:43,105 ‎ผู้คนต่างเคยคิดว่า 538 00:33:43,189 --> 00:33:45,399 ‎มาร์ธา มิตเชลล์เป็นคนตลกและบ้าดีเดือด 539 00:33:45,483 --> 00:33:48,944 ‎เพราะการแสดงความคิดเห็นอย่างโผงผาง ‎และโทรหาคนนั้นคนนี้ยามดึกดื่น 540 00:33:49,028 --> 00:33:51,947 ‎หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ ‎ที่เธอพูดถึงคดีวอเตอร์เกตด้วยความโมโห 541 00:33:52,031 --> 00:33:55,117 ‎และทุกคนก็ได้ตระหนักว่า ‎สิ่งที่มาร์ธา มิตเชลล์พูดนั้นเป็นความจริง 542 00:33:56,035 --> 00:33:57,536 ‎(เรารู้เรื่องแล้ว มาร์ธา) 543 00:33:59,371 --> 00:34:00,873 ‎(มาร์ธาออกทีวีหลายช่อง) 544 00:34:01,123 --> 00:34:03,042 ‎ขอต้อนรับสู่พาโนรามา ผมมอรี โพวิช 545 00:34:03,125 --> 00:34:06,587 ‎โปรดต้อนรับพิธีกรร่วมในสัปดาห์นี้ ‎คุณมาร์ธา มิตเชลล์ครับ 546 00:34:07,463 --> 00:34:08,297 ‎(มาร์ธา เปลี่ยนลุค) 547 00:34:08,380 --> 00:34:09,632 ‎(มาร์ธา กลายเป็นหงส์ได้อย่างไร) 548 00:34:11,509 --> 00:34:12,968 ‎(ได้รับฉายา "วีรสตรีวอเตอร์เกต") 549 00:34:13,552 --> 00:34:14,970 ‎(การเมืองทำลายชีวิตคู่ฉันอย่างไร) 550 00:34:15,054 --> 00:34:16,305 ‎(ถามมาร์ธา "จอห์นไหนเหรอ") 551 00:34:16,388 --> 00:34:20,559 ‎ทำเนียบขาวบอกกับนักข่าวอย่างดิฉันว่า 552 00:34:20,643 --> 00:34:23,229 ‎จอห์น มิตเชลล์ลาออก 553 00:34:23,312 --> 00:34:26,857 ‎เพราะเขาต้องไปดูแลภรรยาที่เสียสติ 554 00:34:26,941 --> 00:34:29,276 ‎- จอห์นผู้น่าสงสารต้องมาดูแลฉัน ‎- ใช่ค่ะ 555 00:34:30,444 --> 00:34:32,863 ‎(มาร์ธา มิตเชลล์ไม่ได้บ้า ‎โดยนอร่า เอฟรอน) 556 00:34:32,947 --> 00:34:35,282 ‎มีคนบอกว่าคุณเป็นต้นเหตุ ‎ที่ทำให้เกิดเรื่องวอเตอร์เกต 557 00:34:35,366 --> 00:34:38,244 ‎- เพราะคุณบอกให้ทุกคนรู้ ‎- ใช่แล้วค่ะ 558 00:34:38,327 --> 00:34:41,163 ‎- คุณพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไหม ‎- พอใจสิคะ 559 00:34:41,247 --> 00:34:42,748 ‎คุณคิดไหมครับว่าถ้าประธานาธิบดี… 560 00:34:42,832 --> 00:34:45,209 ‎นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศนี้แล้ว 561 00:34:45,292 --> 00:34:47,336 ‎เราจะทำให้นักการเมืองทุกคน 562 00:34:48,003 --> 00:34:50,131 ‎ซื่อสัตย์มือสะอาดกันอีกครั้ง 563 00:34:50,214 --> 00:34:51,966 ‎พวกเขาจะไม่ทุจริตอีกต่อไป 564 00:34:52,049 --> 00:34:56,512 ‎ชายผู้สนิทกับริชาร์ด นิกสันมากที่สุด ‎ทั้งในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการเมือง 565 00:34:56,595 --> 00:34:58,973 ‎ถูกตัดสินจำคุกในวันนี้ ‎สืบเนื่องมาจากการมีส่วนเกี่ยวข้อง 566 00:34:59,056 --> 00:35:00,432 ‎ในการปกปิดเรื่องวอเตอร์เกต 567 00:35:01,767 --> 00:35:05,271 ‎สำหรับหลายๆ คน นี่คือฉากจบที่ยิ่งใหญ่ ‎ของมหากาพย์วอเตอร์เกต 568 00:35:06,272 --> 00:35:08,649 ‎หลังจากนั้น จอห์น มิตเชลล์ได้กล่าวดังนี้ 569 00:35:08,732 --> 00:35:09,984 ‎โดนแค่นี้ก็บุญแล้ว 570 00:35:10,067 --> 00:35:12,194 ‎ดีกว่าต้องถูกตัดสินให้ไปอยู่กับมาร์ธา มิตเชลล์ 571 00:35:12,278 --> 00:35:14,321 ‎ผมก็เลยคิดว่าผมโชคดีแล้วครับ 572 00:35:18,284 --> 00:35:21,662 ‎- คุณทุกข์ใจกับเรื่องนี้ไหมครับ ‎- มากเลยค่ะ 573 00:35:27,835 --> 00:35:33,340 ‎(ปี 1975) 574 00:35:34,383 --> 00:35:35,467 ‎มาร์ธา มิตเชลล์ 575 00:35:35,551 --> 00:35:39,221 ‎สตรีผู้เคยได้ชื่อว่าเป็นกระบอกเสียง ‎ประจำทำเนียบขาว 576 00:35:39,305 --> 00:35:41,599 ‎ได้เปลี่ยนอาชีพมาขายเสื้อผ้าอาภรณ์ที่บ้านสีชมพู 577 00:35:42,892 --> 00:35:45,853 ‎เธอฟ้องร้องจอห์น มิตเชลล์ ‎เพื่อเรียกค่าเลี้ยงดูที่ติดค้างไว้ 578 00:35:45,936 --> 00:35:48,981 ‎และภายในสองอาทิตย์สุดท้าย ‎มีเอกสารจากศาลที่บรรยาถึงเธอว่า 579 00:35:49,064 --> 00:35:53,277 ‎มีอาการป่วยอย่างหนัก ‎ไม่มีเงินทอง และไม่มีมิตรสหาย 580 00:35:54,486 --> 00:35:58,240 ‎พอเธอล้มป่วยลง ‎เธอก็ไม่อยากไปเจอเพื่อนฝูงหลายคน 581 00:35:58,741 --> 00:36:01,410 ‎คนคนเดียวที่เธออยากเจอก็ปฏิเสธที่จะพบเธอ 582 00:36:19,428 --> 00:36:23,015 ‎ผู้คนราว 400 คนมารวมตัวกัน ‎ที่ไพน์บลัฟฟ์ รัฐอาร์แคนซอในเช้าวันนี้ 583 00:36:23,098 --> 00:36:25,559 ‎เพื่อแสดงความเคารพต่อมาร์ธา มิตเชลล์ ‎เป็นครั้งสุดท้าย 584 00:36:25,643 --> 00:36:28,437 ‎(ปี 1976 ‎วันที่ 3 มิถุนายน) 585 00:36:28,520 --> 00:36:32,233 ‎ความจริงใจของเธอ ‎ทำให้เธอมีปัญหากับรัฐบาลนิกสัน 586 00:36:32,316 --> 00:36:34,193 ‎และสามีของเธอเอง 587 00:36:35,694 --> 00:36:38,447 ‎แต่กลับได้ใจผู้คนมากมายที่บ้านเกิด 588 00:36:38,530 --> 00:36:40,366 ‎บางคนส่งดอกไม้มาให้ก็มี 589 00:36:40,991 --> 00:36:44,536 ‎มีคนจัดเรียงดอกเก๊กฮวยสีขาว ‎ออกมาเป็นข้อความดังนี้ 590 00:36:44,620 --> 00:36:46,372 ‎"มาร์ธาพูดถูก" 591 00:36:46,455 --> 00:36:47,539 ‎ไม่มีการ์ดแนบมา 592 00:36:48,165 --> 00:36:52,002 ‎(มาร์ธาพูดถูก) 593 00:36:58,425 --> 00:36:59,760 ‎เธอบ้าจริงๆ หรือเปล่าคะ 594 00:37:01,804 --> 00:37:05,015 ‎ฉันไม่คิดแบบนั้นจริงๆ ‎ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่วิเศษมาก 595 00:37:05,099 --> 00:37:08,269 ‎และฉันก็คิดว่า ‎เธอเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ในทางหนึ่ง 596 00:37:08,894 --> 00:37:09,812 ‎เธอมองเห็นอนาคต 597 00:37:17,444 --> 00:37:19,738 ‎คุณนายมิตเชลล์คะ อีกหน่อยคุณคงจะต้องปรากฏ 598 00:37:19,822 --> 00:37:21,365 ‎อยู่ในหน้าหนังสือประวัติศาสตร์แน่ 599 00:37:21,448 --> 00:37:23,284 ‎คุณอยากให้คนมองว่าคุณเป็นคนอย่างไรคะ 600 00:37:23,367 --> 00:37:24,952 ‎(คลิปเสียงจากทูเดย์ ‎2 พ.ย. 1971 เอ็นบีซี) 601 00:37:25,035 --> 00:37:27,162 ‎บาร์บาราจ๊ะ ถ้าฉันเคยทำดีมาบ้าง 602 00:37:27,246 --> 00:37:31,959 ‎ฉันก็อยากให้คนจดจำ ‎ในฐานะคนที่เคยทำดีเพื่อชาติบ้านเมือง 603 00:37:32,042 --> 00:37:34,211 ‎แค่นั้นฉันก็มีความสุขที่สุดในโลกแล้วจ้ะ 604 00:37:34,712 --> 00:37:37,256 ‎- และวิธีของคุณก็คือการพูดความจริง ‎- ใช่แล้ว 605 00:37:41,135 --> 00:37:43,512 ‎(จอห์น มิตเชลล์ รับโทษในเรือนจำ 19 เดือน) 606 00:37:43,595 --> 00:37:46,056 ‎(ฐานมีส่วนเกี่ยวข้อง ‎ในการปกปิดเรื่องคดีอื้อฉาว) 607 00:37:46,140 --> 00:37:48,809 ‎(ริชาร์ด นิกสันได้รับการอภัยโทษ ‎หลังลงจากตำแหน่ง 30 วัน) 608 00:37:48,892 --> 00:37:51,312 ‎(โดยประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด ‎ผู้มารับตำแหน่งแทน) 609 00:37:51,395 --> 00:37:53,897 ‎(ในปี 1988 นักจิตวิทยาฮาร์วาร์ด ‎เบรนแดน เมเฮอร์) 610 00:37:53,981 --> 00:37:56,191 ‎(บัญญัติคำขึ้นมาว่า ‎"มาร์ธา มิตเชลล์ เอฟเฟ็กต์") 611 00:37:56,275 --> 00:37:58,652 ‎(เพื่อใช้อธิบายกระบวนการ ‎ที่ความเชื่อของคนคนหนึ่ง) 612 00:37:58,736 --> 00:38:00,070 ‎(ถูกมองว่าคิดไปเองในทีแรก) 613 00:38:00,154 --> 00:38:07,119 ‎(แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องจริง) 614 00:39:23,028 --> 00:39:26,156 ‎(ด้วยความรำลึกถึงฟลอเรนซ์ อี. อัลเวอร์เก) 615 00:39:38,043 --> 00:39:43,048 ‎คำบรรยายโดย เพียงพัชร์ น้ำทิพย์