1 00:00:01,043 --> 00:00:03,547 คืนนี้จะเป็นเกมที่หก 2 00:00:03,629 --> 00:00:04,798 (ฟิลาเดลเฟีย) (15 พฤษภาคม 1980) 3 00:00:04,881 --> 00:00:08,301 ที่เลเกอร์สแข่งกับทีมเซเว่นตี้ซิกเซอร์ส เลเกอร์สต้องแข่งโดยไม่มีคารีม อับดุล-จาบบาร์ 4 00:00:08,385 --> 00:00:11,388 ที่ยังอยู่ลอสแองเจลิสและรักษาข้อเท้าที่พลิก 5 00:00:12,931 --> 00:00:14,891 ผมบอกโค้ชเวสต์เฮดเลย… บอกว่า "ให้ผมเล่นเซนเตอร์" 6 00:00:14,975 --> 00:00:15,976 (เออร์วิน "แมจิค" จอห์นสัน) 7 00:00:16,685 --> 00:00:18,853 "พวกนั้นจะไม่ทันตั้งตัวว่าต้องเจอกับอะไร" 8 00:00:19,604 --> 00:00:22,899 เขาบอก "ตอนม.ปลายผมก็เล่นเซนเตอร์" ซึ่งนั่นก็เพิ่งสองปีที่แล้วเอง 9 00:00:22,983 --> 00:00:24,359 (พอล เวสต์เฮด) (หัวหน้าโค้ชทีมเลเกอร์ส 1979-1981) 10 00:00:24,442 --> 00:00:27,779 เขาจะเล่นอยู่กลางเกมตั้งแต่ต้นเลย 11 00:00:27,862 --> 00:00:29,531 ตอนนี้เขาเป็นเซนเตอร์เกมบุกของเรา 12 00:00:29,614 --> 00:00:31,449 คืนนี้นัดสำคัญนะ เกมหก 13 00:00:31,533 --> 00:00:35,579 เลเกอร์สจะชนะได้แชมป์หรือไม่อย่างนั้น ก็กลับไปเล่นเกมเจ็ดที่ฟอรั่มวันอาทิตย์ 14 00:00:35,662 --> 00:00:38,540 คุณกำลังดูการถ่ายทอดสด กับผู้ชมเต็มสนามตั๋วเกลี้ยง 15 00:00:38,623 --> 00:00:40,333 ที่สนามสเปคตรัมในฟิลาเดลเฟีย 16 00:00:41,501 --> 00:00:42,502 (เลเกอร์ส) 17 00:00:42,586 --> 00:00:44,129 ผมว่าแมจิคจะเป็นคนจั๊มเปิด 18 00:00:44,212 --> 00:00:45,881 ฟิลาเดลเฟียเจองานหิน 19 00:00:45,964 --> 00:00:48,216 ในการตั้งทีมรับว่าใครจะประกบใคร 20 00:00:48,300 --> 00:00:49,259 (เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ) 21 00:00:49,342 --> 00:00:51,136 (ซี. โจนส์) 22 00:00:51,219 --> 00:00:53,763 คืนก่อนหน้านั้นผมคุยกับพ่อ ผมบอกพ่อ 23 00:00:53,847 --> 00:00:56,933 "พ่อ ผม… จะออกไปเล่น เหมือนที่เล่นสมัยมัธยม" 24 00:00:57,017 --> 00:01:00,395 และพ่อบอกว่า "โอเค เล่นอย่างที่เล่นได้เลย" 25 00:01:03,857 --> 00:01:06,276 ผู้เล่นปีแรกอายุ 20 ปี เจาะเข้ามาตรงกลาง 26 00:01:06,359 --> 00:01:10,196 จากขวามือครับ แมจิค จอห์นสันเจาะเข้าไปยิงผ่านจูเลียส 27 00:01:10,280 --> 00:01:12,282 แอสซิสต์ด่วนๆ สองลูก และยิงจากกลางสนามอีกลูก 28 00:01:12,365 --> 00:01:15,327 แมจิค จอห์นสันทำให้เลเกอร์สนำไปหกแต้ม 29 00:01:15,410 --> 00:01:16,661 (ไมเคิล คูเปอร์) (การ์ด เลเกอร์ส 1978-1990) 30 00:01:16,745 --> 00:01:19,623 เขาทำให้ทุกคนเล่นได้ดีขึ้น จามาล วิลคส์ได้แต้มสูงสุดในอาชีพที่ 37 แต้ม 31 00:01:19,706 --> 00:01:22,334 แมจิคเข้าไปแล้ว ปาให้วิลคส์ ส่งสวยมาก 32 00:01:22,417 --> 00:01:25,086 นี่เป็นเกมบาสเกตบอลที่ดีสุด เท่าที่เคยเห็นแมจิคเล่นมา 33 00:01:25,170 --> 00:01:26,796 ตำแหน่งแชมป์อยู่แค่เอื้อม 34 00:01:26,880 --> 00:01:31,259 ปาเร็วเข้าไปให้แมจิค ดูการส่งของเขาสิ 35 00:01:33,929 --> 00:01:35,138 หมดแล้วครับ จบแล้ว 36 00:01:35,222 --> 00:01:37,224 และผู้เล่นทรงคุณค่าที่สุดของเกมคือ แมจิค จอห์นสัน 37 00:01:37,307 --> 00:01:38,516 (ทำคะแนน 42 แต้ม - รีบาวนด์ 15 ครั้ง แอสซิสต์ 7 ครั้ง) 38 00:01:38,600 --> 00:01:40,060 สถิติ 42-15-7 39 00:01:40,143 --> 00:01:41,394 (ไมเคิล วิลบอน) (ผู้สื่อข่าวกีฬา อีเอสพีเอ็น) 40 00:01:41,478 --> 00:01:44,898 เป็นสถิติยอดเยี่ยมที่สุดในความคิดผมนะ ของประวัติศาสตร์รอบชิงเอ็นบีเอ 41 00:01:45,690 --> 00:01:47,943 ไม่ต้องสงสัยแล้วว่าเขาเป็นใคร 42 00:01:48,026 --> 00:01:50,445 หรือเขามีคุณค่าต่อทีมแค่ไหน ตอนนี้เรารู้แน่แล้ว 43 00:01:50,528 --> 00:01:52,155 ผมพูดเลยว่า "โห นายเออร์วิน จอห์นสันเนี่ย 44 00:01:52,239 --> 00:01:54,115 เขาจะเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล" 45 00:01:54,199 --> 00:01:56,326 ผู้ทรงเกียรติที่สุดมาแล้วครับ แมจิค จอห์นสัน 46 00:01:56,409 --> 00:01:59,371 แมจิค มีนักบาสหลายคนที่ยังไม่เคยมาถึงจุดนี้ 47 00:01:59,454 --> 00:02:00,455 ตลอดชีวิตเล่นอาชีพยาวนาน 48 00:02:00,538 --> 00:02:01,957 นี่เป็นปีแรกของคุณ คุณมาถึงตรงนี้แล้ว 49 00:02:02,040 --> 00:02:04,542 คุณอยากได้แชมป์แบบนี้ไปอีกกี่ครั้ง 50 00:02:04,626 --> 00:02:05,961 สัก 20 ได้มั้ย 51 00:02:06,044 --> 00:02:08,754 และผมอยากขอมอบถ้วยรางวัลแชมป์โลก 52 00:02:08,837 --> 00:02:11,341 ให้กับเจ้าของทีมลอสแองเจลิสเลเกอร์ส 53 00:02:11,424 --> 00:02:13,343 เจอร์รี บัส ถ้วยเป็นของคุณ 54 00:02:13,426 --> 00:02:16,513 สำหรับคุณพ่อ นั่นเป็นประสบการณ์ตื้นตันมาก 55 00:02:16,596 --> 00:02:18,181 (จีนนี่ บัส) (ประธานและเจ้าของร่วมของทีมเลเกอร์ส) 56 00:02:18,265 --> 00:02:20,684 นั่นเป็น ฉันว่านะคะ คิดว่าเป็นจังหวะที่เขาภูมิใจที่สุดในชีวิต 57 00:02:20,767 --> 00:02:23,353 ผมตื่นเต้น ผมดีใจแทนทุกคน 58 00:02:23,436 --> 00:02:25,105 คุณแค่อยากซื้อทีมบาสสักทีม ดูสิว่าได้อะไรมา 59 00:02:25,188 --> 00:02:27,524 แชมป์โลก เชื่อเขาเลยไหมล่ะ 60 00:02:27,607 --> 00:02:28,858 แชมป์โลก 61 00:02:28,942 --> 00:02:30,652 - ใช่ - มันไม่น่าเชื่อเลยครับ 62 00:02:30,735 --> 00:02:33,947 เจอร์รี บัสกับผมกอดกัน บอกว่า "เชื่อเขาเลยไหมล่ะ" 63 00:02:34,030 --> 00:02:38,785 ทำงานด้วยกันปีแรก เราได้แชมป์เอ็นบีเอเลย 64 00:02:38,868 --> 00:02:44,207 เขามีจังหวะนั้นร่วมกัน และมันดื่มด่ำมากสำหรับทั้งสองคน 65 00:02:44,291 --> 00:02:46,251 เพราะเป็นจังหวะที่ดาราคนหนึ่งแจ้งเกิด 66 00:02:47,127 --> 00:02:48,169 (แพนแอม) 67 00:02:51,047 --> 00:02:53,675 เมื่อกลับถึงบ้าน พอเครื่องบินลงจอด 68 00:02:53,758 --> 00:02:58,430 คารีม พี่ใหญ่ตัวเบ้ง เดินใส่หมวกคาวบอยขึ้นเครื่องมาเลย 69 00:02:58,513 --> 00:03:02,017 ไม่คิดจะรอเพื่อนกันเลย 70 00:03:02,100 --> 00:03:03,560 ฉันเตรียมทุกอย่างรอทุกคนไว้ละ 71 00:03:03,643 --> 00:03:07,439 - สาวๆ แชมเปญ - ของเราๆ 72 00:03:07,522 --> 00:03:10,734 คุณกลัวหรือเปล่าว่า ปีหน้าจะโดนแย่งตำแหน่ง 73 00:03:11,234 --> 00:03:13,987 ก็… ถ้าผมโดนแย่งตำแหน่ง ผมไปเล่นเป็นการ์ดได้เสมอ 74 00:03:14,070 --> 00:03:16,114 เราแลกตำแหน่งกันก็ได้ 75 00:03:16,197 --> 00:03:19,492 แหม หลังจากได้แชมป์มาแล้ว แม้แต่คารีมยังแบบ "โอเค" 76 00:03:20,076 --> 00:03:22,078 เขารู้แล้วว่าคารีมจะเป็นผู้นำทีมเรา 77 00:03:22,579 --> 00:03:26,833 เขาเป็นคนใหม่ เขาเป็นทั้งคารีมกับแมจิครวมกัน 78 00:03:27,334 --> 00:03:30,086 เราไม่ได้ตั้งเป้าจะอยากเป็นแชมป์ เราแค่อยากเล่นบาสดีๆ สักเกม 79 00:03:30,170 --> 00:03:32,380 แต่เมื่อชนะได้แชมป์มาแล้ว 80 00:03:32,464 --> 00:03:37,427 นั่นเปลี่ยนไดนามิกของบาสเกตบอล สำหรับเลเกอร์สไปเลย 81 00:03:37,510 --> 00:03:38,511 (สนูป ด็อกก์) (แฟนพันธุ์แท้ทีมเลเกอร์ส) 82 00:03:38,595 --> 00:03:43,058 ของที่ระลึกชิ้นแรกที่อยากอวดคือ ถ้วยแชมป์ของเลเกอร์สนะครับ 83 00:03:43,141 --> 00:03:44,267 เหมือนกับรอยสักของผมด้วย 84 00:03:44,351 --> 00:03:49,231 มีคำว่า "เลเกอร์ส" อยู่เหนือลูกบอล เพราะเราแม่งชนะมา 85 00:03:53,443 --> 00:03:56,655 ตอนที่เลเกอร์สชนะได้แชมป์ เมืองนี้ก็เหมือนจะเปลี่ยนไป 86 00:03:56,738 --> 00:03:57,739 (จิม ฮิลล์) (ผู้สื่อข่าวกีฬา เคซีบีเอส) 87 00:03:57,822 --> 00:03:59,074 (ลอสแองเจลิส) 88 00:04:00,575 --> 00:04:03,870 จากมุมมองของแฟน จนได้นำถ้วยแชมป์กลับมาให้เขา 89 00:04:03,954 --> 00:04:06,373 ในจุดที่ใครๆ อย่างน้อยก็คนที่นี่คิดว่า 90 00:04:06,456 --> 00:04:08,333 จะเป็นเกมที่ยากมากหากคารีมไม่ได้เล่น 91 00:04:08,416 --> 00:04:09,417 (ไบรอน สก็อตต์) (การ์ด เลเกอร์ส 1983-1993) 92 00:04:09,501 --> 00:04:12,045 เออร์วิน "แมจิค" จอห์นสัน ลงสนามแล้วจัด 93 00:04:12,128 --> 00:04:15,257 หนึ่งในเกมบาสซึ่งตราตรำความทรงจำที่สุด เท่าที่ผมเคยเห็นมา 94 00:04:20,470 --> 00:04:21,471 (แมจิคเป็นประธานาธิบดีเถอะ) 95 00:04:21,555 --> 00:04:23,098 คือทุกคนทึ่งกันหมด 96 00:04:23,181 --> 00:04:25,559 แมจิค! แมจิค! แมจิค! 97 00:05:26,578 --> 00:05:30,165 นานๆ ทีจะมีนักกีฬาหน้าใหม่ เข้ามาเติมชีวิตชีวา… 98 00:05:30,248 --> 00:05:31,249 (ลอสแองเจลิส) (เลเกอร์ส) 99 00:05:31,333 --> 00:05:33,627 เติมพลังให้กับทีมและกีฬาชนิดนั้นๆ 100 00:05:33,710 --> 00:05:37,380 นักกีฬาหน้าใหม่คนดังมาแล้วครับ เออร์วิน "แมจิค" จอห์นสัน! 101 00:05:39,174 --> 00:05:40,133 (มันคือมนตร์) 102 00:05:40,217 --> 00:05:41,676 ด้วยอายุเพียง 20 ปี เออร์วิน "แมจิค" จอห์นสัน 103 00:05:41,760 --> 00:05:43,011 ไม่เพียงแต่จับหัวใจ 104 00:05:43,094 --> 00:05:45,639 คนในเมืองลอสแองเจลิสได้ แต่ช่วยเสริมกำลังใจให้ทีมเลเกอร์ส 105 00:05:45,722 --> 00:05:46,973 พร้อมกับยอดซื้อตั๋วเข้าชมของทีมด้วย 106 00:05:47,057 --> 00:05:48,058 (เลเกอร์สเป็นทีมอันดับหนึ่ง) 107 00:05:48,141 --> 00:05:50,101 คุณเป็นคนดังของเมืองนี้แล้ว 108 00:05:52,562 --> 00:05:53,855 ฮีโร่ของฉัน 109 00:05:55,607 --> 00:05:59,694 เป็นหนึ่งในรอบปฐมฤกษ์ที่เต็มไปด้วยดารา 110 00:05:59,778 --> 00:06:05,325 คนที่ยืนสูงเด่นเป็นสง่าเหนือดารากับคนที่คอยชม คือเออร์วิน จอห์นสัน 111 00:06:05,408 --> 00:06:09,287 หรือรู้จักกันในชื่อแมจิค ชายใจเด็กในดินแดนแห่งความสำเร็จ 112 00:06:09,371 --> 00:06:13,333 ความสำเร็จที่ตามมาอย่าง เอ่อ ฉับพลัน สัญญาโฆษณาพรีเซนเตอร์พวกนั้น… 113 00:06:13,416 --> 00:06:14,417 (แมจิคเชื่อในผลิตภัณฑ์เอ็มแอนด์เอ็ม) 114 00:06:14,501 --> 00:06:18,505 เรื่องพวกนั้น… เงินก็เข้ามาอย่างเร็วมาก 115 00:06:18,588 --> 00:06:20,507 เมื่อแมจิคเข้ามา 116 00:06:20,590 --> 00:06:21,800 แมจิค จอห์นสัน เยี่ยม 117 00:06:21,883 --> 00:06:23,301 และมันพุ่งเข้าหาเออร์วินด้วย 118 00:06:23,385 --> 00:06:24,886 เออร์วิน จอห์นสันเป็นใครคะ 119 00:06:24,970 --> 00:06:26,221 เออร์วิน จอห์นสันเป็นใคร 120 00:06:26,304 --> 00:06:29,057 ไม่เคยได้ยินชื่อหล่อน 121 00:06:29,140 --> 00:06:30,183 หล่อนเป็นใคร 122 00:06:31,977 --> 00:06:34,563 พอได้ฉายาว่าแมจิค ก็ต้องประสบความสำเร็จ 123 00:06:34,646 --> 00:06:35,981 (ฮอลลีวูด - เลเกอร์ส - แมจิค) 124 00:06:36,064 --> 00:06:37,899 ดังนั้นจึงเริ่มเปลี่ยนโฉมพลิกไปหมดทุกอย่าง 125 00:06:38,483 --> 00:06:43,029 ตอนดร.บัสรู้แล้วว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้ได้ทุกอย่างคือแมจิค จอห์นสัน 126 00:06:43,613 --> 00:06:46,074 เมื่อก่อนเจอร์รีเคยพาเขา ไปไหนมาไหนหลายที่ 127 00:06:46,157 --> 00:06:47,617 เหมือนเป็นแหวนเพชรส่วนตัว 128 00:06:47,701 --> 00:06:49,536 (เจอร์รี เวสต์) (ผู้จัดการทีมเลเกอร์ส 1982-1994) 129 00:06:49,619 --> 00:06:53,999 "นี่นักบาสคนงามของผม ผมอยากเอามาอวด" 130 00:06:54,082 --> 00:06:55,083 (ลองส์ ออฟ แลนซิ่ง) 131 00:06:55,166 --> 00:06:59,462 เราไปดิสนีย์แลนด์กัน เขาเห็นป้าย "นี่มันแมจิคคิงด้อม" 132 00:07:01,381 --> 00:07:03,800 แล้วเขาก็บอกว่า "ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้" 133 00:07:05,218 --> 00:07:09,931 ถ้าเราเป็นดร.บัส แน่นอน เราต้องเข้าหาแมจิค จอห์นสัน 134 00:07:10,015 --> 00:07:13,226 แมจิคกลายเป็นคนดังเด่นสุดๆ ในลอสแองเจลิส 135 00:07:13,810 --> 00:07:18,398 คนแปดล้านคนที่อยู่ในแถบแคลิฟอร์เนียใต้ บูชาชายคนนี้ 136 00:07:19,107 --> 00:07:21,568 ก็คุณทำเงินให้ผม ยกระดับให้ผมดังขึ้นอีกต่างหาก 137 00:07:21,651 --> 00:07:23,069 (สตีเฟน เอ. สมิธ) (ผู้สื่อข่าวกีฬา อีเอสพีเอ็น) 138 00:07:23,153 --> 00:07:25,947 คุณกำลังจะยกแบรนด์ทีมเลเกอร์ส ขึ้นไปอีกระดับ 139 00:07:26,031 --> 00:07:29,492 ถ้าไม่พยายามสานสัมพันธ์ดีๆ กับคุณไว้ ผมก็โง่น่ะสิ 140 00:07:30,410 --> 00:07:33,914 ทีมลอสแองเจลิสเลเกอร์ส เซ็นสัญญาใหม่กับเขา 141 00:07:33,997 --> 00:07:36,207 เป็นระยะเวลาทั้งหมด 25 ปี 142 00:07:36,291 --> 00:07:41,796 นานกว่าช่วงเวลาที่เขาจะลงสนามได้ ด้วยยอดเงินตามรายงาน 25 ล้าน 143 00:07:41,880 --> 00:07:43,798 (เลเกอร์สเซ็นสัญญากับ 'แมจิค' ด้วยเงิน 25 ล้าน) 144 00:07:43,882 --> 00:07:47,135 เยอะขนาดนั้นเลย เซ็น 25 ปีเลย 145 00:07:47,219 --> 00:07:48,678 (สัญญายาวที่สุด แพงที่สุดในประวัติศาสตร์กีฬา) 146 00:07:48,762 --> 00:07:50,931 สัญญาที่ทำให้โลกกีฬาอ้าปากค้าง 147 00:07:51,014 --> 00:07:53,141 คือสัญญาที่แมจิคเซ็นกับเลเกอร์ส 148 00:07:53,225 --> 00:07:56,228 ทำให้เขาเป็นนักกีฬาอาชีพซึ่ง ได้ค่าตอบแทนสูงสุดในโลก 149 00:07:56,311 --> 00:07:57,312 หมอนี่เป็นใครกัน… 150 00:07:57,395 --> 00:07:59,648 (ร็อด ธอร์น) (ผู้จัดการทีมบูลส์ 1978-1985) 151 00:07:59,731 --> 00:08:01,900 เล่นมานานแค่ไหนนะ ทำอะไรมาบ้างนะ 152 00:08:01,983 --> 00:08:02,984 (แมจิคเงินล้าน) 153 00:08:03,068 --> 00:08:07,364 แน่นอนว่ากลายเป็นข่าวใหญ่ ซึ่งพ่อฉันก็ชอบทำแบบนั้นแหละ 154 00:08:07,447 --> 00:08:08,531 (บัส เจ้าของทีมปล่อยให้ 'หางคุมหัว') 155 00:08:08,615 --> 00:08:10,992 ในกลุ่มนักกีฬาก็คุยกันเลยว่า "นี่แปลว่าอะไร" 156 00:08:11,076 --> 00:08:12,452 (จามาล วิลคส์) (ฟอร์เวิร์ด เลเกอร์ส 1977-1985) 157 00:08:12,535 --> 00:08:17,082 เราทุกคนสงสัยว่า เออร์วินยังเป็นนักกีฬาหรือผู้บริหาร 158 00:08:18,166 --> 00:08:20,377 เพราะถ้าเซ็นสัญญาแบบนั้น ถือว่าเป็นผู้บริหารแล้วครับ 159 00:08:20,460 --> 00:08:21,878 (คารีม อับดุล-จาบบาร์) (เซนเตอร์ เลเกอร์ส 1975-1989) 160 00:08:21,962 --> 00:08:23,171 คือว่า… เหมือนเขารับเป็นลูกไปละ 161 00:08:24,756 --> 00:08:27,509 ผมว่าช่วงนั้นก็มีความตึงเครียดนิดๆ อันที่จริง 162 00:08:27,592 --> 00:08:32,389 ถ้าบอกว่าแค่ตึงเครียดนิดๆ ก็โกหกนะ เครียดเยอะเลย เรื่องใหญ่มาก 163 00:08:32,472 --> 00:08:33,640 (แมจิค - เลเกอร์สบางคนไม่ชอบใจ) 164 00:08:33,722 --> 00:08:36,518 คนในทีมเลเกอร์สไม่พอใจ คารีมก็ไม่พอใจ 165 00:08:37,226 --> 00:08:42,899 แล้วพอเราเข้าค่ายเก็บตัวฝึกซ้อม โค้ชเวสต์เฮดตัดสินใจเปลี่ยนวิธีเล่นหมดเลย 166 00:08:43,733 --> 00:08:48,863 ผมเปลี่ยนอะไรนิดหน่อย และถ้านั่นทำให้นักกีฬาหงุดหงิด 167 00:08:48,947 --> 00:08:50,949 ผมก็พอจะทนได้นะ 168 00:08:51,032 --> 00:08:52,993 เริ่มมีคำถามไปทั่วแฟบูลัสฟอรั่ม 169 00:08:53,076 --> 00:08:56,663 หลังการพ่ายแพ้ต่อทีมฟีนิกซ์เมื่อคืนวันศุกร์ "เลเกอร์สเป็นอะไรกันไป" 170 00:08:56,746 --> 00:08:57,747 พวกเราเล่นได้ไม่เข้าท่า 171 00:08:57,831 --> 00:09:00,625 เราไม่ได้ใช้ข้อเด่นที่ดีสุดของทีม ซึ่งคือความสามารถในการวิ่งทั่วสนาม 172 00:09:00,709 --> 00:09:03,378 จอห์นสันได้ลูก เหลือเวลาอีก 19 วินาที 173 00:09:03,461 --> 00:09:06,798 ทุกครั้งที่แมจิคได้ลูกและกำลังทำเกม โค้ชเวสต์เฮดจะไปข้างสนาม 174 00:09:06,882 --> 00:09:09,509 "เดี๋ยวๆ เดี๋ยว! เดี๋ยว อ้อ โอเค เล่นอย่างนี้" 175 00:09:09,593 --> 00:09:11,761 จนแมจิคต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ คอยมองเหลียวหลังตลอด 176 00:09:12,971 --> 00:09:15,891 - แมจิคดูนาฬิกาแล้ว - ขอเวลานอกๆ! 177 00:09:15,974 --> 00:09:19,978 พอลมีไอเดียอะไรของเขา ไอเดียนั้นไม่ได้เหมาะกับพวกเรา 178 00:09:20,061 --> 00:09:22,147 เพราะงั้น แมจิคก็เลยเริ่มบ่นออกเสียง 179 00:09:23,356 --> 00:09:28,028 เราเล่นอยู่ที่ยูทาห์และ… ยูทาห์ขอเวลานอก 180 00:09:28,737 --> 00:09:31,281 ผมเดินเข้าไปหาโค้ชแล้วบอกว่า "ฟังนะ 181 00:09:31,907 --> 00:09:35,952 ทุกคนงุ่นง่านกันหมด เพราะพวกเราเล่นได้ไม่เต็มที่ 182 00:09:36,036 --> 00:09:38,079 ยิงก็ไม่ค่อยลง เราเล่นได้ไม่ดี" 183 00:09:39,331 --> 00:09:41,625 โค้ชเวสต์เฮดหันมาหาผม "หุบปากไปเลย" 184 00:09:43,293 --> 00:09:45,754 ผมก็ช็อกเลยสิ แบบ "อะไรนะ" 185 00:09:47,672 --> 00:09:51,092 อ้อ คืองี้ ผมจะเล่าจากทางผมบ้าง 186 00:09:51,176 --> 00:09:55,263 ใกล้จะจบเกมแล้ว ตอนขอเวลานอก เขาใจลอยไปหมด 187 00:09:55,347 --> 00:10:01,144 เหมือนไม่ว่าจะพูดอะไร มันโอเค แต่ใจเขาไม่อยู่ตรงนี้ 188 00:10:01,228 --> 00:10:02,729 ทันทีหลังเกมนั้น 189 00:10:02,812 --> 00:10:06,816 เขาเรียกเออร์วินไปห้องส่วนตัว ที่ตรงข้ามกับห้องล็อกเกอร์ 190 00:10:06,900 --> 00:10:10,445 แล้วก็เริ่มด่าเลย "ฉันเบื่อพฤติกรรมของนาย 191 00:10:10,528 --> 00:10:12,656 และฉันเบื่อ…" และ… 192 00:10:12,739 --> 00:10:16,034 ผมบอกว่า "แมจิค อย่าทำแบบนี้อีก" 193 00:10:16,117 --> 00:10:17,702 เขาแทบไม่ตอบอะไรเลย เหมือน 194 00:10:17,786 --> 00:10:20,664 พยักหน้า เหมือนกับแค่ "พูดจบยัง" 195 00:10:20,747 --> 00:10:25,877 ผมรับไม่ได้แล้วไง คือ สุดท้ายก็ต้องเลือกว่าจะเอาผมหรือเขา 196 00:10:25,961 --> 00:10:28,338 เมื่อคืน ในการสัมภาษณ์หลังเกม แมจิค จอห์นสันบอกว่า 197 00:10:28,421 --> 00:10:30,674 เขาไม่สามารถเล่นให้โค้ชเวสต์เฮดได้แล้ว 198 00:10:30,757 --> 00:10:32,175 และอยากแลกตัวไปทีมอื่น 199 00:10:32,259 --> 00:10:34,678 ผมไม่ได้มีความสุขมาสักพัก ผมไม่มีความสุข 200 00:10:34,761 --> 00:10:36,972 ผมแค่ คือ อยากออกจากสถานการณ์นี้ 201 00:10:37,055 --> 00:10:38,056 (แมจิค - ผมหรือโค้ช) 202 00:10:38,139 --> 00:10:42,227 ทันทีที่เครื่องลง เจอร์รี เวสต์กับดร.บัส เรียกผมเข้าไปหาพวกเขา 203 00:10:42,310 --> 00:10:45,480 เออร์วินคุยกับเจอร์รีไว้แล้ว เพราะสองคนนั้นสนิทกันมาก 204 00:10:45,564 --> 00:10:48,316 และ "เจอร์รี" เขาบอก "เราต้องเปลี่ยนแปลงอะไรหน่อย" 205 00:10:48,984 --> 00:10:51,903 ผมกลับมาเพื่อจะคุยกับเจอร์รี บัส 206 00:10:51,987 --> 00:10:57,951 บอกเขาว่าเราต้องทำโทษ เออร์วิน "แมจิค" จอห์นสันเดี๋ยวนี้ 207 00:10:58,034 --> 00:11:03,456 ผมเข้าไปคุย แล้วเจอบัส แล้วเขา… เขาบอกผมทันทีเลย 208 00:11:03,540 --> 00:11:05,500 ไม่ได้กรองคำเลยด้วย 209 00:11:05,584 --> 00:11:08,837 พอล เวสต์เฮดโดนไล่ออก จากการเป็นโค้ชทีมลอสแองเจลิสเลเกอร์ส 210 00:11:08,920 --> 00:11:09,921 (เวสต์เฮด) (20 พฤศจิกายน 1981) 211 00:11:10,005 --> 00:11:12,549 หลังจากแมจิค จอห์นสัน ดาวเด่นของทีม บอกว่าอยากแลกตัวออกจากทีม 212 00:11:12,632 --> 00:11:13,633 (เลเกอร์สทะเลาะกัน) 213 00:11:13,717 --> 00:11:16,469 ดร.เจอร์รี บิสยืนยันว่า เขาไม่ได้เข้าข้าง 214 00:11:16,553 --> 00:11:18,138 ผู้เล่นค่าตัวหลายล้านของเขา 215 00:11:18,221 --> 00:11:20,265 มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย 216 00:11:20,348 --> 00:11:22,058 บัสยังพูดต่ออีกว่า 217 00:11:22,142 --> 00:11:24,269 แพท ไรลีย์จะเลื่อนจากผู้ช่วยโค้ช มาเป็นหัวหน้าโค้ช 218 00:11:24,352 --> 00:11:27,230 ตอนที่พอลโดนไล่ออก สถิติอยู่ที่ 7-3 เราก็ชนะอยู่แล้ว 219 00:11:27,314 --> 00:11:28,356 (แพท ไรลีย์) (หัวหน้าโค้ชทีมเลเกอร์ส 1981-1990) 220 00:11:28,440 --> 00:11:31,401 สถานการณ์ไปถึงจุดที่ คุณบอกผู้บริหารทีมว่า 221 00:11:31,484 --> 00:11:34,362 - "จะให้ผมออกหรือเขาออก" ไหม - ไม่ ผมไม่เคยพูดกับพวกเขาแบบนั้น 222 00:11:34,446 --> 00:11:37,616 เห็นชัดว่าเขามีอำนาจมากกว่าผม 223 00:11:37,699 --> 00:11:39,618 (แมจิคอยากได้อะไรต้องได้ เลเกอร์สไล่โค้ชเวสต์เฮดออก) 224 00:11:39,701 --> 00:11:42,996 เมื่อสื่อโทษเออร์วิน เออร์วินก็กลายเป็นตัวร้าย 225 00:11:43,079 --> 00:11:47,334 แฟนๆ ไม่ชอบสิ่งที่เขาเรียกว่า "ตัวฆ่าโค้ช" 226 00:11:47,417 --> 00:11:49,419 คือว่า แล้ว… แมจิคเลยโดนโห่ 227 00:11:49,502 --> 00:11:52,631 ตัวจริงของลอสแองเจลิส ตำแหน่งการ์ด จากมิชิแกนสเตท 228 00:11:52,714 --> 00:11:55,300 หมายเลข 32 แมจิค จอห์นสัน 229 00:11:56,551 --> 00:11:58,053 เกมแรกที่ผมเป็นหัวหน้าโค้ช 230 00:11:58,136 --> 00:12:01,097 เออร์วินโดนโห่หนักมากตอนลงสนาม 231 00:12:02,182 --> 00:12:06,394 โอ้โห เหมือนไม่มีใครชอบผมเลยสักคน 232 00:12:06,895 --> 00:12:07,979 (แมจิคเข้ากับเพื่อนร่วมทีมไม่ได้) 233 00:12:08,063 --> 00:12:10,023 "อย่าคุยกับเขา ไม่ต้องพูดอะไรกับเขาเลย" 234 00:12:10,106 --> 00:12:12,859 เรื่องพวกนั้น โห เหมือนในโลกนี้ผมไม่มีเพื่อนเหลือเลย 235 00:12:12,943 --> 00:12:18,073 แล้วทุกครั้งที่เขาโดนโห่ ผมจะบอกเขาว่า "เล่นให้หนักขึ้น 236 00:12:18,156 --> 00:12:21,660 แค่เล่นให้หนักขึ้น ทำให้เห็น เดี๋ยวเขาก็ยกโทษให้" 237 00:12:21,743 --> 00:12:24,829 เขากับผมเข้าใจกันได้ในทันที ทันทีเลย 238 00:12:24,913 --> 00:12:28,750 ผมบอก "โอเค งั้นผมก็แค่ต้องเล่นให้เยี่ยมมากๆ" 239 00:12:29,417 --> 00:12:31,044 เมื่อโค้ชไรลีย์รับช่วงแทน 240 00:12:31,127 --> 00:12:34,589 เราก็กลับไปเล่น เน้นที่การทำเกมเร็ว 241 00:12:34,673 --> 00:12:38,718 ซึ่งเป็นสไตล์การเล่นที่เราเก่งสุด แล้วก็เริ่มกลับมาชนะอีกรอบ 242 00:12:38,802 --> 00:12:40,512 (เลเกอร์สทีมดีสุดในเอ็นบีเอ แมจิคเป็นเอ็มวีพี) 243 00:12:40,595 --> 00:12:43,306 หมดเวลาครับ เลเกอร์สจะได้เป็นแชมป์อีกครั้ง 244 00:12:43,390 --> 00:12:44,724 (คืนน่าจดจำ คืนเปี่ยมมนตร์ขลังของเลเกอร์ส) 245 00:12:44,808 --> 00:12:48,395 เมื่อเราชนะได้แชมป์อีกครั้งตอนปี 1982 ทุกคนก็ตื่นเต้นสุดๆ 246 00:12:49,479 --> 00:12:51,523 แพท ไรลีย์ปล่อยให้แมจิคเป็นแมจิค 247 00:12:51,606 --> 00:12:56,027 เขาให้แมจิคใช้บุคลิก 'โชว์ไทม์' ขึ้นมา 248 00:12:56,111 --> 00:12:58,446 มนตร์กลับมาแล้ว ภาพลักษณ์ของเลเกอร์สกลับมาสดใสอีกครั้ง 249 00:12:58,530 --> 00:12:59,906 (เมื่อถึงเวลาต้องชนะ แมจิคก็เป็นแชมป์) 250 00:13:01,950 --> 00:13:02,951 โชว์ไทม์ 251 00:13:03,034 --> 00:13:04,828 (เดอะฟอรั่ม) (อิงเกิลวูด แคลิฟอร์เนีย) 252 00:13:04,911 --> 00:13:07,622 ขอต้อนรับสู่แฟบูลัสฟอรั่ม 253 00:13:07,706 --> 00:13:10,000 (สนามเหย้าของลอสแองเจลิสเลเกอร์ส) 254 00:13:14,212 --> 00:13:16,673 ผมได้ไปที่อาคาร เกรทเวสต์เทิร์นฟอรั่มที่อิงเกิลวูด 255 00:13:16,756 --> 00:13:18,758 ก่อนที่เออร์วินจะมาฮอลลีวูดครั้งหนึ่ง 256 00:13:18,842 --> 00:13:20,218 (อาร์เซนิโอ ฮอลล์) (เพื่อนและนักเล่นตลก) 257 00:13:20,302 --> 00:13:21,678 มันเหมือนคนละตึกกันเลย 258 00:13:23,555 --> 00:13:24,556 (ปีเตอร์ กูเบอร์) (หุ้นส่วนธุรกิจ) 259 00:13:24,639 --> 00:13:27,517 มันต่างกันแบบหน้ามือเป็นหลังเท้า นึกออกไหม 260 00:13:27,601 --> 00:13:31,229 ไม่มีอะไรเหมือนบรรยากาศที่ฟอรั่ม 261 00:13:31,313 --> 00:13:32,314 (ร็อบ โลว์) (เพื่อนและนักแสดง) 262 00:13:34,608 --> 00:13:38,278 โชว์ไทม์กับฟอรั่มนี่เหมือน คืนแรกของคอนเสิร์ตขนาดยักษ์ 263 00:13:38,361 --> 00:13:39,362 (พอลล่า อับดุล) (เลเกอร์เกิร์ลส์ 1980-1986) 264 00:13:39,446 --> 00:13:42,365 จำนวนคนดังที่จะมาดูเกมแต่ละคืน 265 00:13:42,449 --> 00:13:45,869 ทั้งน่าทึ่งและชวนให้อึ้งมากๆ 266 00:13:45,952 --> 00:13:52,751 แล้วยังมีเจ้าของทีมที่เก่ง ดร.บัส ซึ่งตั้งใจสร้างงานโชว์ตระการตา 267 00:13:52,834 --> 00:13:55,629 อาจไม่มีเจ้าของทีมกีฬาทีมไหน 268 00:13:55,712 --> 00:13:58,798 ที่สนุกกับไลฟ์สไตล์อย่างเปิดเผย มากไปกว่าเจอร์รี บัส 269 00:14:00,091 --> 00:14:02,344 บรรยากาศที่คุณพ่ออยากจะทำ 270 00:14:02,427 --> 00:14:05,972 คือการผสมผสานระหว่าง กีฬากับวงการบันเทิง 271 00:14:06,056 --> 00:14:08,225 แนวคิดทั้งหมดของเขาคือการเปลี่ยนแปลง 272 00:14:08,308 --> 00:14:13,230 เขารู้สึกว่าจะต้องมีอะไรมากกว่าแค่ เราเล่นกีฬาแข่งกับคู่แข่ง 273 00:14:14,064 --> 00:14:16,691 แดนซิ่งแบร์รี่ ใครเขาคิดเรื่องแบบนั้นกัน นึกออกไหม 274 00:14:17,984 --> 00:14:20,278 ทำคออะไรแบบนี้ 275 00:14:23,073 --> 00:14:29,663 เวลาทีมขอเวลานอก เขาอยากให้มีทีมเต้นออกมาให้ความบันเทิง 276 00:14:29,746 --> 00:14:32,123 แล้วเขาก็ตั้งชื่อทีมนั้นว่า เลเกอร์เกิร์ลส์ 277 00:14:33,708 --> 00:14:36,419 ฉันได้เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่แรก เพราะเป็นเลเกอร์เกิร์ลส์ค่ะ 278 00:14:37,212 --> 00:14:40,048 นี่คือทีมแดนเซอร์ใหม่เอี่ยมเลย 279 00:14:40,131 --> 00:14:44,344 และ… ฉันแทบจะฝึกสาวๆ พวกนี้ เป็นทีมเต้นที่แกร่งและแรงมากๆ 280 00:14:44,427 --> 00:14:48,265 และทุกคนรู้ว่าแจ็ค นิโคลสัน เป็นหนึ่งในแฟนตัวยงของเรา 281 00:14:48,348 --> 00:14:52,561 เวลาที่เลเกอร์เกิร์ลส์ขึ้นมาแสดง เขาจะเอากล้องส่องทางไกลออกมา 282 00:14:53,436 --> 00:14:55,438 นั่นเป็นไอเดียของดร.บัสทั้งนั้น 283 00:14:55,981 --> 00:15:01,111 ดร.เจอร์รี บัส เขาเหมือนฮิวจ์ เฮฟเนอร์ของวงการบาส 284 00:15:01,611 --> 00:15:03,280 บางคนอาจพูดว่า 285 00:15:03,363 --> 00:15:06,449 เหมือนคุณไปทำสัญญาทาสกับจอมปีศาจ 286 00:15:06,533 --> 00:15:09,786 เพราะทุกอย่างดูเข้าที่ลงตัวไปหมด นี่คือไลฟ์สไตล์ไร้ที่ติรึเปล่า 287 00:15:09,869 --> 00:15:11,496 ก็ผม… อย่างน้อยผมก็สนุกนะ 288 00:15:11,580 --> 00:15:16,835 มันคือการยั่วยวน มันเร้าหัวใจ มันช่างเปี่ยมมนตร์ขลัง 289 00:15:16,918 --> 00:15:20,338 คุณเอาชนะในสนามบาสได้แน่ แต่เอาชนะใจสาวได้ด้วยไหม 290 00:15:20,422 --> 00:15:23,341 ชีวิตเซ็กซ์ของคุณเป็นยังไง 291 00:15:23,425 --> 00:15:25,677 คุณเคยคิดไหมว่าจะเป็นยังไง 292 00:15:25,760 --> 00:15:28,305 ถ้าต้องเล่นบาสด้วยตารางแน่นแบบนี้ แต่แต่งงานไปด้วย 293 00:15:28,388 --> 00:15:30,223 เอาจริงๆ เราต้องทำอะไรเยอะมาก 294 00:15:30,307 --> 00:15:33,184 จนอยากกลับบ้านไปหาสาวคนพิเศษคนเดียว 295 00:15:37,230 --> 00:15:41,276 ตอนนั้นฉันอยู่ที่โทลีโด ทำงานในวงการสินค้าแฟชั่น 296 00:15:41,359 --> 00:15:42,444 ส่วนเขาอยู่ที่ลอสแองเจลิส 297 00:15:42,527 --> 00:15:43,528 (คุกกี้ จอห์นสัน) 298 00:15:43,612 --> 00:15:46,489 คือฉันก็มีฝันของฉัน และอยากทำตามฝันนั้น 299 00:15:48,033 --> 00:15:48,867 (มาร์ชา อีสลีย์ ออเดรย์ เวบสเตอร์) 300 00:15:48,950 --> 00:15:49,951 (เพนนีย์ วินเทอร์ส-แกรี) (เพื่อนมหาวิทยาลัย) 301 00:15:50,035 --> 00:15:52,370 นางก็ไต่เต้าในที่ทำงาน ทำเรื่องของนางไป 302 00:15:52,454 --> 00:15:55,624 เรารู้ว่าเธอรู้สึกยังไง รู้ใจเธอ เรารู้ใจเธอ และ… 303 00:15:55,707 --> 00:15:58,126 แต่เราก็รู้ด้วยว่าเออร์วินยังไม่พร้อม ที่จะไปไกลกว่านั้น 304 00:15:58,209 --> 00:16:00,712 เรา… เพราะเรารู้ว่า เออร์วินรู้อยู่ว่าตัวเองมีอะไร 305 00:16:01,296 --> 00:16:02,464 ตอนนั้นเราไม่ได้เป็นแฟนกัน 306 00:16:02,547 --> 00:16:06,259 แต่ก็ยังคุยกันอยู่ ติดต่อกันอยู่เสมอ 307 00:16:06,343 --> 00:16:12,641 มันดีมากที่จะสามารถโทรไป ฟังเสียงคนที่จะเข้าข้างเราที่ปลายสาย 308 00:16:12,724 --> 00:16:14,809 เพราะฉัน ก็แหม ฉันยังรักเขาอยู่น่ะนะ 309 00:16:15,393 --> 00:16:17,729 แต่ฉันก็คิดตลอดว่า สักวันเราอาจกลับมาดีกัน 310 00:16:17,812 --> 00:16:20,649 ส่วนเขาก็แบบ "งั้นคุณก็น่าจะมาเยี่ยมตรงนี้" 311 00:16:26,655 --> 00:16:29,866 ฉันยังจำครั้งแรกที่ไปดูบาสที่แอลเอได้ 312 00:16:30,408 --> 00:16:35,080 จำได้ว่านั่งอยู่แล้วคิดเลย "คุณพระช่วย" 313 00:16:35,664 --> 00:16:40,710 ฉันไม่เคยเห็นชุดที่รัดขนาดนี้ สั้นขนาดนี้ 314 00:16:40,794 --> 00:16:44,673 รองเท้าส้นสูงขนาดนี้ ผ้าที่มองทะลุได้ขนาดนั้น 315 00:16:44,756 --> 00:16:47,342 ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเลยค่ะ มันบ้ามากๆ 316 00:16:48,343 --> 00:16:50,637 ส่วนใหญ่แล้วเวลาฉันไปเยี่ยมเขา 317 00:16:50,720 --> 00:16:54,015 เราจะอยู่กันเงียบๆ ในห้องของเขามากกว่า 318 00:16:54,099 --> 00:16:55,642 เพราะผมทำงานหนักมาก 319 00:16:56,434 --> 00:16:59,646 ผมเลยไม่อยากทำอะไรแล้ว หลังจากเสร็จงานน่ะ 320 00:16:59,729 --> 00:17:03,567 เราเลยไม่ต้องออกไปไหนถึงจะสนุกกันได้ 321 00:17:04,651 --> 00:17:07,946 คือ เวลาเขาเล่นบาส เขาจริงจังหนักสุดๆ 322 00:17:08,530 --> 00:17:10,824 เพราะเป็นผู้เล่นตัวเอกของเลเกอร์ส 323 00:17:10,907 --> 00:17:14,703 แล้วทั้งทีมก็ค่อนข้างสนิทกันหมด 324 00:17:16,246 --> 00:17:20,708 กฎของแพท ไรลีย์คือ ห้ามเอาครอบครัวเดินทางไปกับทีม 325 00:17:20,792 --> 00:17:25,045 ระหว่างรอบเพลย์ออฟหรือแข่งชิงแชมป์ นักกีฬาจะโดนปรับ 326 00:17:25,130 --> 00:17:28,675 ถ้าจับได้ว่าเมียของใครไปทัวร์กับพวกเขา 327 00:17:29,509 --> 00:17:33,763 แพทบอกผมว่า เอ่อ ทีมเรามี 12 คน บวกสองบวกหนึ่ง 328 00:17:33,847 --> 00:17:35,640 (แกรี่ วิตตี) (เทรนเนอร์ เลเกอร์ส 1984-2016) 329 00:17:35,724 --> 00:17:38,226 นักกีฬา 12 คน โค้ชสองคน แล้วก็ผม 330 00:17:38,310 --> 00:17:41,771 นอกจากนั้นมองว่าเป็นคู่แข่ง 331 00:17:42,606 --> 00:17:45,859 ซึ่งจะดึงความสนใจไปจากงานตรงหน้าได้หมด 332 00:17:45,942 --> 00:17:47,402 (สื่อมวลชนมีบัตรเท่านั้น) 333 00:17:47,485 --> 00:17:49,237 รวมถึงครอบครัวของพวกเราด้วย 334 00:17:49,321 --> 00:17:52,073 เราต้องรับผิดชอบต่อความยิ่งใหญ่ของเรา 335 00:17:52,157 --> 00:17:55,076 ด้วยการทำให้แน่ใจว่าเรื่องพวกนี้ จะไม่เข้ามากวนใจอะไรทั้งสิ้น 336 00:17:56,661 --> 00:18:01,374 ช่วงวันแข่งผมก็ไม่ชอบวุ่นวาย ผมหงุดหงิด ผมขี้โมโห 337 00:18:01,458 --> 00:18:02,459 (โจมตี - ไม่ย่นย่อ - สงคราม) 338 00:18:02,542 --> 00:18:09,090 งั้นผมจะทุ่มใจให้เธอได้ยังไง ในเมื่อทุ่มให้บาสเกตบอลไปสุดตัวแล้ว 339 00:18:10,842 --> 00:18:14,679 นั่นเป็นจุดที่ฉันเริ่มเห็นว่า เอ่อ มีความแตกต่าง 340 00:18:14,763 --> 00:18:15,764 (เลเกอร์ส) 341 00:18:15,847 --> 00:18:18,433 และพูดง่ายๆ คือเขา… ตั้งแต่เขาเริ่มเล่นให้เลเกอร์ส 342 00:18:18,516 --> 00:18:23,480 เหมือนเขามีสองบุคลิกค่ะ มีแมจิค แล้วก็มีเออร์วิน 343 00:18:25,148 --> 00:18:28,526 ฉันเจอกับเออร์วิน นั่นคือคนที่ฉันตกหลุมรัก 344 00:18:28,610 --> 00:18:29,861 นั่นคือคนที่ฉันรู้จัก 345 00:18:30,362 --> 00:18:32,280 คุณทำยังไงให้ยังติดดินได้อยู่ 346 00:18:32,364 --> 00:18:34,324 - ก็ - คุณเหมือนดาราหนัง 347 00:18:35,659 --> 00:18:38,870 คือมันก็สนุกดีที่ได้ เป็นแมจิค จอห์นสันไปแปดเดือน 348 00:18:38,954 --> 00:18:42,082 แล้วก็เยี่ยมมากที่ได้ เป็นเออร์วิน จอห์นสันไปอีกสามเดือน 349 00:18:47,921 --> 00:18:51,216 ถึงฤดูร้อนทีไร แมจิคจะกลับไปที่แลนซิ่ง 350 00:18:51,925 --> 00:18:55,637 เพื่อไปอยู่ใกล้ๆ ครอบครัวกับเพื่อนฝูง 351 00:18:56,221 --> 00:18:59,307 มันเหมือนกับ คือ "โห นั่น… นั่นคือแมจิค" นึกออกไหม 352 00:18:59,391 --> 00:19:00,684 (ไอซิอาห์ โธมัส) (พอยต์การ์ด พิสตันส์ 1981-1994) 353 00:19:01,977 --> 00:19:05,939 ผมไม่มีวันลืมเลย เออร์วินมีรถเบนซ์สีทอง 354 00:19:07,440 --> 00:19:11,987 ยางสปอร์ต เคลือบอาร์เมอร์ออล กระจกติดฟิล์มสีฟ้า 355 00:19:12,070 --> 00:19:15,031 ผมก็แบบ "ว้าว" 356 00:19:16,283 --> 00:19:20,287 ผมมองแมจิค จอห์นสันเป็นคนที่ ประสบความสำเร็จสุดยอด 357 00:19:22,581 --> 00:19:27,669 เมื่อก่อนเขาจะมาหาจากชิคาโก ขึ้นรถไฟมานั่งเล่น ซ้อมเล่น 358 00:19:28,253 --> 00:19:30,088 คือ เราชอบเล่นบาสกันมาก 359 00:19:32,465 --> 00:19:35,844 จะเล่นกันทั้งวันจนถึงตีสองแน่ะ 360 00:19:36,720 --> 00:19:40,390 ตื่นมา วิ่ง ออกกำลัง แล้วเล่นต่อ 361 00:19:41,266 --> 00:19:44,060 หาอะไรกิน งีบ แล้วไปเล่นต่ออีก 362 00:19:44,144 --> 00:19:48,773 คือเราเอาแต่เล่นบาสกัน นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ 363 00:19:48,857 --> 00:19:53,528 ผมอยากได้เพื่อนคนนี้ที่รักกีฬานี้มากพอๆ กับผม 364 00:19:53,612 --> 00:19:54,696 (แมจิค จอห์นสัน) (ค่ายบาสเกตบอล) 365 00:19:54,779 --> 00:20:00,869 การ์ด 185 ซม. หนัก 84 กก. จากอินเดียนา หมายเลข 11 ไอซิอาห์ โธมัส 366 00:20:00,952 --> 00:20:02,871 สุดท้ายเขาถูกเรียกตัวเข้าทีมพิสตันส์ 367 00:20:03,747 --> 00:20:06,583 ตอนนี้เราเลยได้เล่นในเอ็นบีเอด้วยกัน 368 00:20:06,666 --> 00:20:09,586 เขาเป็นหนึ่งในพอยต์การ์ดที่เก่งที่สุด 369 00:20:09,669 --> 00:20:10,670 ซึ่งเคยเล่นในกีฬานี้มา 370 00:20:11,463 --> 00:20:15,175 ตอนที่เริ่มเข้าลีค ทีมของผมต้องเริ่มที่จุดต่ำสุดเลย 371 00:20:15,842 --> 00:20:17,594 แต่ทีมของเขาคืออยู่บน… บนสุด 372 00:20:17,677 --> 00:20:18,678 (ไอซิอาห์) 373 00:20:18,762 --> 00:20:21,765 แต่ผมก็โชคดีที่ แมจิคเป็นคนเปิดกว้างมาก 374 00:20:22,515 --> 00:20:24,100 ได้เห็นวิธีที่พวกเขาเล่นกัน 375 00:20:24,184 --> 00:20:27,395 ทีมนั้นอยู่ในโลกชิงแชมป์เอ็นบีเอไปแล้ว 376 00:20:28,521 --> 00:20:34,945 แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง คุณค่าจากมิดเวสต์ที่คนเขาพูดกัน 377 00:20:35,445 --> 00:20:40,450 ความไว้ใจ แบบว่า คำพูดคือคำสาบานเลยจริงๆ 378 00:20:40,533 --> 00:20:43,161 ถ้าผมให้คำมั่นไปแล้ว โอเค เราโอเคกัน นึกออกไหม 379 00:20:43,245 --> 00:20:45,580 ใช่ นั่นคือ… เมื่อก่อนเรามีกัน 380 00:20:45,664 --> 00:20:46,665 (ดีทรอยต์ พิสตันส์) 381 00:20:46,748 --> 00:20:49,918 เราทั้งคู่ต้องการกันและกัน เพราะเขาเป็นคนเดียว 382 00:20:50,001 --> 00:20:51,586 ที่เข้าใจสิ่งที่ผมกำลังเจออยู่ 383 00:20:51,670 --> 00:20:54,923 และในขณะเดียวกัน ผมก็เป็นคนเดียวที่เข้าใจเขาด้วย 384 00:20:55,924 --> 00:20:59,928 เวลาเราพูดถึงคนดำหรือเด็กผิวดำในอเมริกา 385 00:21:00,011 --> 00:21:03,640 ในกีฬาบาสเกตบอล นั่นคือทางที่เราจะออกจากสภาวะที่เป็นอยู่ 386 00:21:04,474 --> 00:21:09,813 และเออร์วินกับผมก็… เราเข้าใจเรื่องนั้นกันอย่างดีทีเดียว 387 00:21:18,697 --> 00:21:21,408 (แลนซิ่ง รัฐมิชิแกน) (ปี 1973) 388 00:21:22,450 --> 00:21:27,581 โรงเรียนมัธยมเซ็กซ์ตันตั้งอยู่ ใจกลางชุมชนคนดำในเวสต์ไซด์ 389 00:21:27,664 --> 00:21:28,665 (เซ็กซ์ตัน) 390 00:21:28,748 --> 00:21:32,502 ผมรู้จักนักกีฬาทุกเลยเพราะ เล่นกับพวกเขามาตั้งแต่เด็ก 391 00:21:32,586 --> 00:21:35,881 แล้วก็อยากเป็นนักกีฬาทีมเซ็กซ์ตันบิ๊กเร้ด 392 00:21:35,964 --> 00:21:37,382 (เร้ดส์กินขาดอีกแล้ว 74-61) 393 00:21:37,465 --> 00:21:38,300 (เซ็กซ์ตันวิ่งหนี) 394 00:21:38,383 --> 00:21:41,261 เซ็กซ์ตันครองสนาม เรารู้แค่นั้น ตั้งแต่เด็กมีแต่โรงเรียนมัธยมเซ็กซ์ตัน 395 00:21:41,344 --> 00:21:42,345 (แลร์รี จอห์นสัน) (พี่ชาย) 396 00:21:42,429 --> 00:21:43,763 แล้วก็รู้จักนักกีฬาทุกคน 397 00:21:43,847 --> 00:21:46,725 เพราะหลายคนก็อยู่… และเล่นกันใน… อยู่ในย่านเดียวกันกับเราเลย 398 00:21:46,808 --> 00:21:47,809 (เซ็กซ์ตันเก็บชัยชนะ ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม) 399 00:21:47,893 --> 00:21:52,230 คนแน่นโรงยิม วงโรงเรียนก็… แล้วเราก็แบบ 400 00:21:57,819 --> 00:22:02,657 ผมอยาก… อยากเดินลงสนามพร้อมกับเพลงนั้นน่ะ 401 00:22:02,741 --> 00:22:03,742 เด็กมันเก่ง 402 00:22:03,825 --> 00:22:04,868 (เคนนี่ เทอร์เนอร์) (เพื่อนสมัยเด็ก) 403 00:22:04,951 --> 00:22:07,746 เราก็อยากให้เขาเข้าโรงเรียนแถวบ้าน เพื่อสืบตำนานต่อไป 404 00:22:07,829 --> 00:22:11,374 คือผมรอให้ถึงตาของผม นั่นตาของผมแล้ว 405 00:22:11,458 --> 00:22:15,337 แล้วจู่ๆ เขาก็บอกว่า "เข้าโรงเรียนนั้นไม่ได้ 406 00:22:15,420 --> 00:22:18,423 จะให้เดินแค่ 10-15 นาทีจากบ้านไม่ได้ 407 00:22:19,299 --> 00:22:22,844 ต้องขึ้นรถโรงเรียนข้ามเมือง ไปเข้าโรงเรียนมัธยมเอเวอเรตต์" 408 00:22:22,928 --> 00:22:24,304 (ศาลสูงสุดเห็นชอบ โครงการรถโรงเรียนขนาดใหญ่) 409 00:22:24,387 --> 00:22:26,765 ศาลสูงสุดลงมติเป็นเอกฉันท์ ยืนยันหลักการของการจัดรถโรงเรียน 410 00:22:26,848 --> 00:22:29,351 ให้เด็กเข้าโรงเรียนที่ยกเลิกการแบ่งสีผิว 411 00:22:29,434 --> 00:22:32,437 ปัญหารถโรงเรียนที่ทำให้ชาวอเมริกันตื่นตัว ทั้งสนับสนุนและคัดค้านกันทั่วประเทศ… 412 00:22:32,520 --> 00:22:33,438 (รถโรงเรียน) 413 00:22:33,521 --> 00:22:37,734 อาจไม่มีที่ไหนเห็นได้ชัดเจนกว่า ที่ในมิชิแกนนี้ 414 00:22:40,111 --> 00:22:44,449 ผมโมโหมาก ผมร้องไห้อยู่สองถึงสามอาทิตย์ 415 00:22:44,532 --> 00:22:48,370 ที่ผมจะต้อง… ตอนนี้ผมต้อง ขึ้นรถโรงเรียนข้ามเมือง 416 00:22:48,453 --> 00:22:50,914 ไปโรงเรียนที่ไม่ได้มีชื่อเรื่องบาสเกตบอลด้วย 417 00:22:54,584 --> 00:22:56,002 (โรงเรียนประถมมาร์ค ทเวน) 418 00:22:56,086 --> 00:22:59,548 รถโรงเรียนไปจอด คนก็ปาหินและไม้ใส่รถเราเลย 419 00:23:03,802 --> 00:23:05,929 พวกนั้นไม่อยากให้เราเรียน ก่นด่าเราต่างๆ นานา 420 00:23:08,056 --> 00:23:10,141 ยิ่งเหมือนราดน้ำมันลงกองไฟ 421 00:23:10,225 --> 00:23:13,937 ตอนผมเข้าเอเวอเรตต์ เขาเริ่มตีกันตั้งแต่ต้น… วันแรกเลย 422 00:23:14,020 --> 00:23:15,021 (จอร์จ ฟ็อกซ์) (โค้ชระดับมัธยม) 423 00:23:15,105 --> 00:23:16,773 มีเด็กสองสามคนในทีมบาสเกตบอล 424 00:23:16,856 --> 00:23:21,152 เด็กขาวที่ไม่อาจทำใจรับได้ อย่างที่ควรจะเป็น 425 00:23:22,362 --> 00:23:26,157 สัปดาห์ที่สาม ครูใหญ่ยืนรอรถโรงเรียนเข้าจอดเลย 426 00:23:26,741 --> 00:23:29,160 เขาบอกว่า "เออร์วิน จอห์นสัน ไปที่ห้องครู" 427 00:23:29,244 --> 00:23:31,204 ผมคิดเลยว่าตัวเองต้องเดือดร้อนอะไรสักอย่าง 428 00:23:31,288 --> 00:23:32,998 ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 429 00:23:33,081 --> 00:23:38,253 เขาบอกว่า "ฟังนะ คุณต้อง หยุดเด็กดำไม่ให้หาเรื่อง" 430 00:23:38,336 --> 00:23:43,758 ผมบอก "เดี๋ยวนะ ผม… ผมอายุ 15 เอง เพิ่งเข้ามาด้วย" 431 00:23:44,885 --> 00:23:46,094 เขาบอก "ไม่ใช่… 432 00:23:48,179 --> 00:23:49,472 พวกนั้นจะยอมทำตามคุณ" 433 00:23:51,683 --> 00:23:56,438 ทางผมก็ "ฉันอยากสู้" ผม… คือว่า จะต้องทำให้คนเคารพให้ได้ 434 00:23:56,521 --> 00:23:59,858 แต่เขาใช้อีกทางหนึ่ง เขาทำขณะที่อยู่บนสนามบาส 435 00:24:07,824 --> 00:24:11,036 (บอสตัน) (ปี 1984) 436 00:24:11,119 --> 00:24:13,079 งานนี้ทีมบอสตันเซลติคส์ กับแลร์รี เบิร์ด 437 00:24:13,163 --> 00:24:15,498 แข่งกับแมจิค จอห์นสัน และลอสแองเจลิสเลเกอร์ส 438 00:24:15,582 --> 00:24:20,045 เป็นการเผชิญหน้าที่แฟนบาสเกตบอล รอคอยกันมานานแล้ว 439 00:24:20,128 --> 00:24:22,505 ให้มาเจอกันในเอ็นบีเอ แล้วก็มาถึงจนได้ 440 00:24:22,589 --> 00:24:23,590 (แซมมวล แอล. แจ็คสัน) (เพื่อนและนักแสดง) 441 00:24:23,673 --> 00:24:27,802 มุมมองของคนในประเทศคือ เลเกอร์สเป็นทีมอเมริกันผิวดำ 442 00:24:27,886 --> 00:24:30,138 และเซลติคส์เป็นทีมอเมริกันผิวขาว 443 00:24:30,222 --> 00:24:34,184 คำแนะนำสำหรับทีมเลเกอร์สคือ "ระวังตัวให้ให้ดี" 444 00:24:34,267 --> 00:24:36,436 พวกนั้นโดนอัดเละแน่ ผม… ผมเชียร์บอสตัน 445 00:24:36,519 --> 00:24:38,230 โดนอัดเละที่สุดในชีวิตแน่ๆ 446 00:24:38,313 --> 00:24:41,107 ผมเกลียดบอสตัน เกลียดบอสตันมาก 447 00:24:41,191 --> 00:24:43,026 ความรู้สึกนั้นมาจากไหน มันมาจากไหนกัน 448 00:24:43,109 --> 00:24:45,028 มันมาจากคนที่โดนปาอิฐ 449 00:24:45,111 --> 00:24:48,031 จนหน้าต่างแตก มาจากภาพรถโรงเรียนที่เราเห็น 450 00:24:48,114 --> 00:24:51,034 ช่วงปลายยุค 60 ถึงต้นยุค 70 มาจากเรื่องเวรพวกนั้น 451 00:24:51,117 --> 00:24:55,705 ผมรู้ว่าตัวเองมีความโกรธ และกักมันไว้ในใจ… 452 00:24:55,789 --> 00:24:56,790 (บ๊อบ แมคอาดู) (เซนเตอร์ เลเกอร์ส 1981-1985) 453 00:24:56,873 --> 00:25:00,460 เตรียมไว้ให้เซลติคส์ ผมจึง… พร้อมจะสู้มากๆ 454 00:25:01,169 --> 00:25:03,421 แล้วบ๊อบ แมคอาดูก็เอาเทปมัลคอล์ม เอ็กซ์ให้ดู 455 00:25:03,505 --> 00:25:04,339 (เจมส์ เวอร์ธี) (ฟอร์เวิร์ด เลเกอร์ส 1982-1994) 456 00:25:04,422 --> 00:25:07,175 สุนทรพจน์ของมัลคอล์ม "บัตรเลือกตั้งหรือลูกปืน" 457 00:25:07,259 --> 00:25:10,470 นั่นคือความจริงนะ ผมอยากให้คนอื่นๆ ได้ฟังด้วย 458 00:25:10,554 --> 00:25:13,765 สิ่งที่คุณกับผมต้องทำคือต้องเข้ามามีส่วนร่วม 459 00:25:13,848 --> 00:25:16,851 คุณกับผมต้องอยู่ ณ จุดนั้น หายใจรดต้นคอพวกเขา 460 00:25:16,935 --> 00:25:20,480 ทุกครั้งที่ใครเหลียวหลังดู อยากให้พวกนั้นเห็นเรา 461 00:25:21,940 --> 00:25:25,485 บ๊อบ แมคอาดูกบฏต่อการเหยียดสีผิว และเขา… 462 00:25:25,569 --> 00:25:28,113 เขาอยากให้เราภูมิใจที่เป็นคนผิวดำ 463 00:25:28,196 --> 00:25:32,993 ยืนหยัดเพื่อนักกีฬาผิวดำคนอื่นๆ เหมือนคนที่ทำมาก่อน 464 00:25:33,076 --> 00:25:36,246 แล้วเขาก็จี้ผมอยู่ตลอดเวลา 465 00:25:36,329 --> 00:25:39,416 เขาบอกว่า "เออร์วิน นายอยู่ในจุดที่ไม่เหมือนใคร 466 00:25:39,499 --> 00:25:43,628 ทุกอย่างที่นายทำ นายต้องทำแบบชายคนดำที่ภาคภูมิ" 467 00:25:43,712 --> 00:25:44,713 (สงครามซูเปอร์สตาร์) 468 00:25:44,796 --> 00:25:48,216 และยิ่งกว่านั้น ให้ตายสิ ผมจะแข่งกับแลร์รี เบิร์ด 469 00:25:48,300 --> 00:25:49,259 (สไปค์ ลี) (เพื่อนและคนทำหนัง) 470 00:25:49,342 --> 00:25:52,637 สื่อยกย่องให้เขาเป็น "ผู้มาโปรดคนขาว" 471 00:25:52,721 --> 00:25:53,805 (เบิร์ด 'ความหวังยิ่งใหญ่ของคนขาว') 472 00:25:53,889 --> 00:25:57,434 และทั้งแฟนและทุกคนที่ทำงาน 473 00:25:57,517 --> 00:26:01,563 ให้องค์กรเลเกอร์สก็เตือนเราเสมอว่า เราไม่เคยชนะเซลติคส์ 474 00:26:02,272 --> 00:26:03,607 เลย ในรอบชิงชนะเลิศของเอ็นบีเอ 475 00:26:03,690 --> 00:26:04,983 (เลเกอร์ส เซลติคส์ คู่ปรับตลอดกาลแห่งเอ็นบีเอเดือดอีก) 476 00:26:05,066 --> 00:26:06,067 (เบิร์ด ปะทะ แมจิค) 477 00:26:06,151 --> 00:26:08,528 เท่ากับ คือ เรามีแรงกดดันเยอะมาก 478 00:26:08,612 --> 00:26:10,906 อัดแอลเอ! 479 00:26:10,989 --> 00:26:13,033 เสียงจากด้านหลัง เขาเริ่มเชียร์แล้วครับว่า "อัดแอลเอ" 480 00:26:13,116 --> 00:26:14,117 (รอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอปี 1984) (นัดที่ 1) 481 00:26:18,663 --> 00:26:19,998 (เบิร์ด) 482 00:26:20,749 --> 00:26:23,418 ความตื่นเต้นกระตือรือร้น ก่อนจะเริ่มเกมนั้นมัน… 483 00:26:23,501 --> 00:26:24,878 (แลร์รี เบิร์ด) (ฟอร์เวิร์ด เซลติคส์ 1979-1991) 484 00:26:24,961 --> 00:26:26,379 สูงสุดเท่าที่ผมเคยเจอมา 485 00:26:28,465 --> 00:26:33,094 ผมอยากให้คนกลุ่มนั้นพูดไม่ออก อยากเอาชนะให้ได้ในบอสตันการ์เด้น 486 00:26:33,178 --> 00:26:36,264 ผมอยากเอาชนะแลร์รี เบิร์ด ในสนามบอสตันการ์เด้น 487 00:26:36,348 --> 00:26:39,392 แมจิค จอห์นสันกับแลร์รี เบิร์ด เขาจะสู้กันอีกแล้ว 488 00:26:40,644 --> 00:26:44,648 เท่าที่ผ่านมาแมจิคได้แต่ยิงจากนอกกะโหลก และคงต้องเล่นแบบนั้นต่อเรื่อยๆ 489 00:26:44,731 --> 00:26:46,566 ลอสแองเจลิสแทบจะพับสนามเล่น 490 00:26:49,319 --> 00:26:52,781 เราชนะนัดแรกที่บอสตัน แล้วเรา… โห เราพูดเลยว่า 491 00:26:52,864 --> 00:26:54,157 "โอเค เรารู้ละว่าเราเอาชนะทีมนี้ได้" 492 00:26:54,241 --> 00:26:55,617 (เลเกอร์สล้มเซลติคส์คว่ำ นำในการชิงแชมป์) 493 00:26:55,700 --> 00:26:57,953 เซลติคส์ลงสนามด้วย ชุดขาวขลิบเขียวเคลลี่ 494 00:26:58,036 --> 00:26:58,912 (นัดที่ 2) 495 00:26:58,995 --> 00:27:01,539 ส่วนเลเกอร์อยู่ในสี… เขาเรียกสีน้ำเงินฟอรั่มขลิบทอง 496 00:27:03,583 --> 00:27:05,335 แมจิค 497 00:27:05,418 --> 00:27:07,629 คูเปอร์เล่นเกมเร็ว จะเข้าทำแต้ม และ… 498 00:27:07,712 --> 00:27:10,048 ตอนนี้เลเกอร์สเหมือน คุมเกมเซลติคส์ได้ 499 00:27:10,131 --> 00:27:11,550 ในสนามบอสตันการ์เด้นของเขาเอง 500 00:27:11,633 --> 00:27:15,387 ตอนขึ้นนัดสอง เราพร้อมจะ นำขึ้นไปเป็นสองต่อศูนย์ 501 00:27:15,470 --> 00:27:17,514 ผมว่าตอนนั้นเหลือเวลาแค่สิบวินาที 502 00:27:17,597 --> 00:27:20,809 จับตาดูนาฬิกาที่ด้านล่างของจอครับ 503 00:27:20,892 --> 00:27:22,561 เขามองหาคารีมอยู่ 504 00:27:22,644 --> 00:27:24,980 แมจิค จอห์นสันมองไปในกะโหลก 505 00:27:25,063 --> 00:27:28,108 ผมเป็นคนประกบเขา แบบ "หมอนี่ทำอะไรวะเนี่ย" 506 00:27:28,191 --> 00:27:29,150 (เซดริค แม็กซ์เวลล์) (ฟอร์เวิร์ด เซลติคส์ 1977-1985) 507 00:27:29,234 --> 00:27:31,736 ผมดูนาฬิกาและมองหน้าเขา เขาเอาแต่เลี้ยงลูกไปเรื่อย 508 00:27:31,820 --> 00:27:35,156 สองวินาที หนึ่งวินาที แล้วยิงไม่ผ่านครับ 509 00:27:36,032 --> 00:27:37,492 เลเกอร์สยิงไม่ผ่าน 510 00:27:38,868 --> 00:27:40,453 เราไม่ได้ยิงด้วยซ้ำ 511 00:27:40,537 --> 00:27:42,872 (เลเกอร์สปล่อยให้เซลติคส์รอดต่อ) 512 00:27:42,956 --> 00:27:46,167 แล้วสุดท้ายพอต่อเวลา เราก็แพ้นัดนั้นไป 513 00:27:46,251 --> 00:27:47,961 นัดที่เราควรจะชนะ 514 00:27:50,088 --> 00:27:53,633 น่าจะได้สองต่อศูนย์ แล้วเราก็ควรจะไปต่อ 515 00:27:53,717 --> 00:27:55,427 ไม่แน่ รอบชิงนั้นอาจจะจบเลยก็ได้ 516 00:27:55,510 --> 00:27:56,511 (โชว์เบิร์ดกับแมจิค จะกลับไปทางตะวันตก) 517 00:27:56,595 --> 00:27:59,222 แต่แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เรากลับไปเล่นที่แอลเอเป็นนัดที่สาม 518 00:28:00,432 --> 00:28:01,725 (นัดที่ 3) 519 00:28:03,476 --> 00:28:06,146 ที่นี่เรียกว่า "โชว์ไทม์" ในลอสแองเจลิส 520 00:28:06,229 --> 00:28:07,689 และเลเกอร์สก็มาโชว์จริงๆ 521 00:28:08,690 --> 00:28:10,984 แมจิคแมนมาแล้ว เออร์วิน จอห์นสัน 522 00:28:11,067 --> 00:28:12,694 และเลเกอร์สก็ยังไม่พอ 523 00:28:14,863 --> 00:28:17,699 เราไปเล่นที่แอลเอ พวกนั้นชนะเราขาด 524 00:28:17,782 --> 00:28:18,992 ยิงเลย 525 00:28:20,702 --> 00:28:21,912 (เลเกอร์สต้อนเซลติคส์ 137-104 เบิร์ด - ทีมเราเล่นเหมือนตุ๊ด) 526 00:28:21,995 --> 00:28:24,789 แมจิค จอห์นสัน ทำสถิติสูงสุดในรอบชิงชนะเลิศ 527 00:28:24,873 --> 00:28:26,458 ด้วยการแอสซิสต์ทั้งหมด 21 ครั้ง 528 00:28:27,083 --> 00:28:29,169 ตอนนั้นความคิดเราคือ "เราต้องทำทุกวิถีทาง 529 00:28:29,252 --> 00:28:30,587 ที่จะเปลี่ยนจังหวะของเกมนี้" 530 00:28:30,670 --> 00:28:33,173 นั่นอาจต้องใช้การเล่นให้แรง 531 00:28:33,256 --> 00:28:35,050 และทำสิ่งที่พวกนั้นจะไม่ชอบใจ 532 00:28:35,133 --> 00:28:37,260 จำได้ว่าเควิน แมคเคลกับแลร์รีบอกว่า 533 00:28:37,344 --> 00:28:38,470 "เราต้องเก็บไอ้พวกนี้ไปเลย 534 00:28:38,553 --> 00:28:39,512 (แดนนี่ เองจ์) (การ์ด เซลติคส์ 1981-1989) 535 00:28:39,596 --> 00:28:43,058 ต้องมีใครสักคนฟาล์วแรงมากๆ" ผมบอกเควินว่า 536 00:28:43,141 --> 00:28:46,895 "นายแหละลองฟาล์วใครแรงๆ บ้าง 537 00:28:46,978 --> 00:28:50,273 ฉันทำอยู่ทุกเกมจนโดนโห่ จากทุกเมืองในอเมริกาแล้วเนี่ย" 538 00:28:50,357 --> 00:28:51,816 (นัดที่ 4) 539 00:28:51,900 --> 00:28:56,154 พวกนั้นเลยตัดสินใจที่จะ เอาตัวเข้าปะทะและฟาล์วแรงไปเลย 540 00:28:56,238 --> 00:28:58,448 เล่นสกปรกแบบถึงเนื้อถึงตัว 541 00:28:58,531 --> 00:29:00,992 ต้องทำให้พวกมันยิ้มไม่ออก 542 00:29:01,076 --> 00:29:02,452 นั่นแหละสิ่งที่เราต้องทำ 543 00:29:03,620 --> 00:29:05,914 คูเปอร์ส่งให้คารีม ส่งเวอร์ธี ส่งแรมบิส 544 00:29:05,997 --> 00:29:08,041 เขาควรขึ้นทำแต้มได้ โอ๊ย! ระวัง 545 00:29:08,124 --> 00:29:10,835 แมคเคลล็อกคอเขาจนล้ม หลังจากนั้นก็นรกแตกกันหมด 546 00:29:12,337 --> 00:29:14,214 ตัวสำรองลุกกันหมดเลยครับ 547 00:29:15,465 --> 00:29:16,466 (เคิร์ท แรมบิส) (ฟอร์เวิร์ด เลเกอร์ส 1981-1988) 548 00:29:16,550 --> 00:29:19,928 นั่นเล่นสกปรกมาก ผมจะหาทางฆ่ามันให้ได้ 549 00:29:20,011 --> 00:29:22,639 หลังจากเควิน แมคเคลจัดการเคิร์ท 550 00:29:22,722 --> 00:29:25,100 เราก็เริ่มหาเรื่องกันแทนที่จะเล่นกีฬา 551 00:29:25,892 --> 00:29:29,229 เบิร์ดสู้ คารีมเหวี่ยงศอก 552 00:29:29,312 --> 00:29:31,022 แล้วตะโกนด่าแลร์รี เบิร์ด 553 00:29:31,106 --> 00:29:33,858 "ไอ้ตูดเผือก กูจะเตะมึง" และ… 554 00:29:33,942 --> 00:29:36,903 ถ้าเราเหวี่ยงแขนล็อกไอ้พวกนั้นได้หมด 555 00:29:36,987 --> 00:29:37,988 เราก็คงยอมทำ 556 00:29:38,071 --> 00:29:41,658 ต่อเวลาครับ เสมอกันอยู่ที่ 123 557 00:29:46,204 --> 00:29:47,205 ยิงลูกแรกไม่เข้า 558 00:29:49,082 --> 00:29:50,417 จอห์นสันยิงไม่เข้าทั้งสองลูก 559 00:29:50,500 --> 00:29:53,336 (ไม่มีตอนจบแบบมนตร์แมจิคให้เลเกอร์ส จอห์นสันปล่อยหลุดอีกแล้ว) 560 00:29:55,255 --> 00:29:56,840 ตลอดชีวิตผม 561 00:29:57,799 --> 00:30:02,679 ผมเล่นใต้แรงกดดันได้ดีมาตลอด ในทุกจังหวะของการชิงแชมป์ 562 00:30:03,805 --> 00:30:08,268 ผมแค่ไม่รู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น 563 00:30:11,271 --> 00:30:13,106 เรากลับไปเล่น พวกนั้นชนะนัดที่ห้า 564 00:30:13,189 --> 00:30:17,152 เลเกอร์สดูเหนื่อยเต็มที 565 00:30:17,235 --> 00:30:19,237 นัดที่หก กลับมาเล่นที่บ้านแล้วก็ชนะ 566 00:30:19,321 --> 00:30:20,238 (กลับไปยังบอสตันร้อนๆ เลเกอร์สจะแข่งกับเซลติคส์) 567 00:30:20,322 --> 00:30:24,367 ไปเล่นนัดที่เจ็ดที่บอสตัน เป็นการประมือของแมจิคกับแลร์รี เบิร์ด 568 00:30:24,451 --> 00:30:26,703 (เซลติคส์กับเลเกอร์ส เตรียมลงสงครามเต็มตัว) 569 00:30:29,956 --> 00:30:31,249 แลร์รี เบิร์ด 570 00:30:31,333 --> 00:30:33,168 ชายซึ่งเซลติคส์จะอยู่หรือรอดขึ้นกับเขา 571 00:30:33,251 --> 00:30:34,961 เหลือเวลาอีกหนึ่งนาทีครึ่ง 572 00:30:37,088 --> 00:30:39,216 แมจิค จอห์นสันเลี้ยงเข้าไป แต่ลูกหลุดมือ 573 00:30:40,967 --> 00:30:45,305 เซดริค แม็กซ์เวลล์ล้วงลูกจากผม ตบไปจากมือ 574 00:30:45,388 --> 00:30:47,474 พวกนั้นไปทำคะแนนได้เลย 575 00:30:47,557 --> 00:30:50,727 นั่นทำให้เลเกอร์สหมดแรงสู้ 576 00:30:50,810 --> 00:30:53,688 มันทำร้ายทีมเรามากจริงๆ 577 00:30:53,772 --> 00:30:57,067 จอห์นสันได้ลูกแล้ว เลเกอร์สจะตามให้ห่างแต้มเดียว 578 00:31:00,028 --> 00:31:01,321 เสียบอลอีกครั้งครับ 579 00:31:01,404 --> 00:31:02,864 วินาทีสุดท้าย 580 00:31:04,950 --> 00:31:06,451 คูเปอร์ยิงสามแต้ม 581 00:31:06,534 --> 00:31:07,535 จบแล้วครับ 582 00:31:12,207 --> 00:31:14,584 โห พูดถึงอาการใจสลาย 583 00:31:15,418 --> 00:31:18,797 ผมทำให้เราแพ้รอบชิงครั้งนั้น เศร้ามาก 584 00:31:18,880 --> 00:31:19,881 (เรื่องโศกของแมจิค) 585 00:31:19,965 --> 00:31:21,716 เราชอบฉายานั้นมาก… 586 00:31:21,800 --> 00:31:22,801 (มนตร์โศกแมจิค) 587 00:31:22,884 --> 00:31:25,053 การที่เราทำให้เขาได้ฉายานั้นในตอนนั้น 588 00:31:25,136 --> 00:31:28,807 พอได้ยิน "มนตร์โศกแมจิค" หรือเห็นในหนังสือพิมพ์ 589 00:31:28,890 --> 00:31:33,228 เห็นคำว่า "ผมเทียบกับแลร์รี เบิร์ดไม่ได้" "เขาเล่นเก่งกว่า" 590 00:31:33,311 --> 00:31:34,896 เป็นความผิดหวังครั้งใหญ่ 591 00:31:34,980 --> 00:31:36,690 (แมจิคต้องอยู่กับความเจ็บปวด ที่แพ้เกมนัดที่เจ็ด) 592 00:31:36,773 --> 00:31:39,526 ถ้วยรางวัลหรือ… แหวนอะไรพวกนั้นไม่สำคัญ 593 00:31:39,609 --> 00:31:41,653 สำคัญคือเอาชนะเลเกอร์สกับเออร์วินได้ 594 00:31:41,736 --> 00:31:43,280 นั่นต่างหากที่สำคัญ 595 00:31:43,363 --> 00:31:44,573 (แมจิคล้มเหลวอย่างน่าทึ่งอีกครั้ง) 596 00:31:44,656 --> 00:31:48,827 การที่ผมไม่สามารถทำได้ เล่นให้ดีไม่ได้ ผมยังโมโหอยู่เลย 597 00:31:48,910 --> 00:31:53,248 แม้แต่ตอนที่นั่งคุยกับคุณตรงนี้ ผมก็ยังหงุดหงิด 598 00:31:53,331 --> 00:31:57,961 พอนั่งคิดถึงจังหวะต่างๆ ที่ปกติแล้วผมจะทำได้ดีมาก 599 00:31:58,044 --> 00:31:59,963 แต่ไม่รู้ทำไม คืนนั้นผมทำไม่ได้ 600 00:32:00,839 --> 00:32:03,675 หลังจากแพ้เกมนั้น… ผมไม่มีทางลืม 601 00:32:03,758 --> 00:32:08,972 เรากลับไปที่ห้องโรงแรม เราได้ยินเสียงเขาร้องห่มร้องไห้เลย 602 00:32:09,556 --> 00:32:14,644 พวกเราก็นั่งกับพื้นเงียบๆ อยู่ เอ่อ 603 00:32:14,728 --> 00:32:16,313 เรียกว่านั่งเงียบกันทั้งคืน 604 00:32:16,396 --> 00:32:18,064 ผมใจสลายมาก 605 00:32:18,148 --> 00:32:21,026 นั่นอาจเป็นจุดตกต่ำที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต 606 00:32:21,109 --> 00:32:22,736 ในฐานะนักบาสเกตบอลอาชีพ 607 00:32:23,737 --> 00:32:25,572 สภาพทางอารมณ์นะ 608 00:32:25,655 --> 00:32:29,326 ตอนนั้นเขาอยู่ในจุดที่อ่อนไหวและอ่อนแอที่สุด 609 00:32:39,878 --> 00:32:42,923 ผมรู้จักบาสเกตบอลครั้งแรกจากพ่อ 610 00:32:43,006 --> 00:32:47,052 โห การนั่งดูเกมกับเขา ตอนวันเสาร์วันอาทิตย์ 611 00:32:47,636 --> 00:32:51,473 ถ้าวันเสาร์เขาถ่ายทอดสี่เกม เราก็จะดูทั้งสี่เกมด้วยกัน 612 00:32:52,807 --> 00:32:55,393 ผมได้ใช้เวลากับฮีโร่ของผมสี่ชั่วโมง 613 00:32:55,477 --> 00:32:58,688 กับคนที่ผมอยากเป็นอย่างเขามาตลอด 614 00:32:58,772 --> 00:33:03,985 พ่อเป็นคนคอยอธิบายว่า ทำไมเขาถึงเล่นแบบนั้น 615 00:33:04,611 --> 00:33:07,739 ทำไมคนนั้นถึงตัดสินใจแบบนั้น 616 00:33:07,822 --> 00:33:11,493 เขาอยากให้ผมหัดมองเกมบาสโดยใช้สมอง 617 00:33:11,576 --> 00:33:14,871 สมัยเด็ก คุณฝันว่าสักวัน จะมาเล่นในเอ็นบีเอรึเปล่า 618 00:33:14,955 --> 00:33:17,165 แน่นอน เป็นฝันยิ่งใหญ่ที่สุดเลย 619 00:33:17,249 --> 00:33:21,253 และเป็นฝันของพ่อที่จะให้ผมมาถึงตรงนี้ด้วย มันก็ดีนะ 620 00:33:23,046 --> 00:33:24,965 พ่อผมมาจากมิสซิสซิปปี 621 00:33:25,048 --> 00:33:29,427 เวลาผมไปที่นั่น ไปตามที่รวมตัวของคน 622 00:33:29,511 --> 00:33:31,346 ในเมืองที่พ่อโตขึ้นมา 623 00:33:32,180 --> 00:33:36,977 คนที่นั่งอยู่ในนั้นจะบอกผมเลยว่า "พ่อนายเก่งมากนะ" 624 00:33:37,060 --> 00:33:42,190 เขาจะเล่าเรื่องที่ เขาทำคะแนนนั่นนี่ 625 00:33:42,274 --> 00:33:45,902 แล้วก็เป็นนักกีฬาที่เก่งทีเดียวและ… 626 00:33:45,986 --> 00:33:48,989 ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า "เราถึงได้รู้ 627 00:33:49,072 --> 00:33:53,076 ตอนที่นายเริ่มเล่นบาสแล้วเก่ง 628 00:33:53,159 --> 00:33:55,245 เรารู้อยู่แล้วว่าทำไมถึงเก่ง 629 00:33:55,328 --> 00:33:56,705 เพราะพ่อของนายไงล่ะ" 630 00:33:57,205 --> 00:34:01,918 ส่วนผมก็แบบ… หันไปมองหน้าพ่อ "พ่อ ไม่เห็นเคยเล่าให้ผมฟัง" 631 00:34:02,002 --> 00:34:06,965 พ่อบอก "ลูกเอ๊ย… คือพ่อไม่… พ่อเล่นต่อไม่ได้ 632 00:34:07,048 --> 00:34:09,800 พ่อต้องไปทำงานในไร่หาเลี้ยงครอบครัว 633 00:34:09,885 --> 00:34:11,928 พ่อต้องเลิกเล่นบาสเกตบอล" 634 00:34:14,931 --> 00:34:17,559 นั่นทำผมร้องไห้เลยนะ ร้องไห้เลย 635 00:34:26,276 --> 00:34:28,945 แล้วปี 84 ผมก็ยังไม่พร้อม 636 00:34:29,653 --> 00:34:32,907 สภาพจิตใจผมไม่แกร่งพอ นั่นคือสาเหตุที่เราพลาดแชมป์ 637 00:34:33,909 --> 00:34:37,287 แต่ผมจะไม่กลับไปทำผิดแบบเดิมซ้ำสอง 638 00:34:38,246 --> 00:34:42,626 ผมต้องไถ่บาปให้ตัวเอง ผมต้องกลับไปเป็นแมจิคอีกครั้ง 639 00:34:45,253 --> 00:34:46,588 หน้าร้อนปีนั้น… 640 00:34:47,547 --> 00:34:53,135 เขาทุ่มเต็มร้อยกับการซ้อมทุกรอบ 641 00:34:54,471 --> 00:34:57,349 "ฉันต้องซ้อมยิงตรงนี้ ฉันต้องซ้อมยิงท่านี้ 642 00:34:59,226 --> 00:35:01,770 ส่งมาให้อีก ทางนี้ ไม่ใช่ๆ นั่นยังไม่ดีพอ 643 00:35:01,853 --> 00:35:03,688 ส่งมาให้อีก" มันเหมือน "โอ๊ย พวก 644 00:35:03,772 --> 00:35:05,732 ซ้อมกันมาสามชั่วโมงแล้วนะ" 645 00:35:05,815 --> 00:35:09,319 เขาตั้งใจเลยว่า "ฉันจะไม่ยอมท้อ ฉันไม่ยอมถอดใจ 646 00:35:09,402 --> 00:35:10,695 ฉันจะต้องกลับไปให้ได้" 647 00:35:11,196 --> 00:35:14,366 จนในที่สุด มีครั้งหนึ่ง เราเล่นกันอยู่ 648 00:35:14,449 --> 00:35:19,496 เขาทุ่มบอลอัดผมอย่างแรงเลย ผมก็แบบ "เฮ้ย ฉันใส่เบอร์ 11 649 00:35:19,579 --> 00:35:22,582 ฉันไม่ได้ใส่เบอร์ 33 ไม่ได้เล่นให้เซลติคส์ 650 00:35:22,666 --> 00:35:25,585 ตอนนี้ก็ไม่ได้ใส่เสื้อเขียวนะ" 651 00:35:25,669 --> 00:35:26,670 (27 พฤษภาคม 1985) 652 00:35:26,753 --> 00:35:28,296 บอสตันเป็นเจ้าบ้าน ให้ทีมลอสแองเจลิสอีกครั้ง 653 00:35:28,380 --> 00:35:29,714 ในรอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอ ที่จะเริ่มวันนี้ 654 00:35:29,798 --> 00:35:32,884 แลร์รี เบิร์ดของบอสตัน เซลติคส์ กำลังเกาะคอนขั้นสูงที่สุด 655 00:35:32,968 --> 00:35:34,844 เขาได้เป็นเอ็มวีพีติดกันมาสองปี 656 00:35:34,928 --> 00:35:37,222 นี่ถือเป็นเกียรติมากสำหรับผม คงพูดไม่ได้ว่ามันดีกว่าเดิม 657 00:35:37,305 --> 00:35:39,724 จากที่ได้เมื่อปีที่แล้ว เพราะผมว่ามันก็เหมือนกัน 658 00:35:39,808 --> 00:35:40,809 (ใครเก่งกว่า จอห์นสันมีมือเทพ) 659 00:35:40,892 --> 00:35:44,646 สิ่งเดียวที่อยากทำคือเอาชนะเขาให้ได้ เอาคืนในปี 1985 แค่นั้น 660 00:35:44,729 --> 00:35:45,730 (ใครจะชนะเป็นแชมป์เอ็นบีเอ) 661 00:35:45,814 --> 00:35:48,191 เขาเรียกว่านี่เป็น คู่ปรับคู่แรงที่สุดในกีฬาทุกประเภท 662 00:35:48,275 --> 00:35:49,401 เซลติคส์กับเลเกอร์ส 663 00:35:49,484 --> 00:35:52,737 เป็นคู่ปรับซึ่งชนะอยู่ข้างเดียวที่สุด ในทุกวงการกีฬา 664 00:35:52,821 --> 00:35:55,365 มีนกยักษ์ที่เราแบกอยู่บนหลัง 665 00:35:55,448 --> 00:35:57,367 เลเกอร์สไม่เคยเอาชนะเซลติคส์ได้ 666 00:35:57,450 --> 00:35:58,994 แพ้มาติดๆ กันแปดครั้ง 667 00:35:59,077 --> 00:36:00,412 โอเค มาเลย จัดมา 668 00:36:00,495 --> 00:36:02,706 เกมจะเริ่มแล้วครับ มีเดิมพันเป็นตำแหน่งแชมป์ 669 00:36:02,789 --> 00:36:03,790 (รอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอปี 1985) (นัดที่ 1) 670 00:36:03,873 --> 00:36:07,335 (เซลติคส์ทำเลเกอร์ส กลายเป็นทีมมิคกี้เมาส์) 671 00:36:07,419 --> 00:36:09,462 ทุกอย่างที่พลาดได้ เราพลาดหมด 672 00:36:09,546 --> 00:36:12,090 นัดแรก พวกนั้นโดนเล่นเสียเละ 673 00:36:12,757 --> 00:36:15,135 เราโดนขยี้เลย แพ้ห่าง 34 แต้ม 674 00:36:15,218 --> 00:36:18,221 ทุกวันนี้เรียกกันว่าเป็น วันประหารเมมโมเรียลเดย์ 675 00:36:18,305 --> 00:36:23,018 ทั้งสื่อ บอสตันโกลบ หนังสือพิมพ์บอสตันทั้งหมดด่าเราเละ 676 00:36:23,101 --> 00:36:24,519 (วันประหารเมมโมเรียลเดย์) 677 00:36:24,603 --> 00:36:27,105 ผมต้องยอมรับว่า เราไม่พร้อมที่จะเล่น 678 00:36:31,276 --> 00:36:35,322 วันต่อมา คือว่า อีกสองนาทีจะหกโมงแล้ว 679 00:36:35,405 --> 00:36:36,740 คารีมยังไม่มาขึ้นรถ 680 00:36:36,823 --> 00:36:41,703 พอคารีมมา คนที่ตามมาด้วยคือ คุณอัลซินดอร์ 681 00:36:41,786 --> 00:36:42,996 พ่อของคารีม 682 00:36:43,079 --> 00:36:44,623 คุณพ่อเขาขึ้นมาบนรถ 683 00:36:45,290 --> 00:36:48,418 รถบัสคันนั้นเหมือนแดนศักดิ์สิทธิ์ 684 00:36:48,501 --> 00:36:51,046 ใครก็ขึ้นรถคันนั้นไม่ได้ 685 00:36:51,129 --> 00:36:54,090 คือ นั่นกฎของแพท ไรลีย์นะ 686 00:36:54,174 --> 00:36:57,427 ไม่ต้องคิดจะขึ้นมาบนรถคันนั้นเลย 687 00:36:57,510 --> 00:36:59,137 เป็นอุบัติเหตุน่ะ 688 00:37:01,431 --> 00:37:03,934 ตอนนั้นคุณพ่อผมป่วยเป็นความจำเสื่อม 689 00:37:04,017 --> 00:37:05,644 เพิ่งเริ่มเป็น 690 00:37:05,727 --> 00:37:08,813 ผมเห็นพ่อเดินหลงอยู่ในล็อบบี้ 691 00:37:09,522 --> 00:37:11,233 "พ่อมาทำอะไรที่นี่" ผมเลยต้องพาตัวเขา 692 00:37:11,316 --> 00:37:13,109 เอามาขึ้นรถด้วย 693 00:37:13,193 --> 00:37:15,820 เขามองหน้าไรลีย์แล้วถามว่า "ให้พ่อผมขึ้นรถไปด้วยได้ไหม" 694 00:37:15,904 --> 00:37:17,239 ผมตอบว่า "แน่นอน ได้เลย" 695 00:37:17,322 --> 00:37:19,908 ถ้าเขาอยากได้กำลังใจจากพ่อ 696 00:37:20,492 --> 00:37:23,119 ผมคงไม่ตอบว่า "ไม่ได้…" กับพ่อคุณหรอก 697 00:37:26,248 --> 00:37:29,084 ตอนที่เราไปถึงสนามแข่ง 698 00:37:29,167 --> 00:37:32,212 ไรลีย์กำลังคิดคำพูดปลุกใจก่อนลงสนาม 699 00:37:33,213 --> 00:37:35,507 การที่คารีมขึ้นรถมาพร้อมกับพ่อตัวเอง 700 00:37:36,758 --> 00:37:39,636 นั่นเปลี่ยนแนวคิดของผม จากเรื่องที่จะพูดในตอนแรกเลย 701 00:37:41,596 --> 00:37:43,306 คุณพ่อผมเองเคยบอกผมว่า 702 00:37:44,057 --> 00:37:46,434 "ถ้าเรื่องมันยาก เวลาที่มันยากมากๆ นะ แพท 703 00:37:46,518 --> 00:37:49,813 และชีวิตจะต้องยาก นึกออกไหม แต่ลูกจะต้องยืนหยัดให้มั่นคง 704 00:37:49,896 --> 00:37:52,232 แสดงจุดยืนว่าเราเป็นคนอย่างไร และเราเชื่อมั่นในสิ่งไหน 705 00:37:52,315 --> 00:37:54,317 และเมื่อถึงเวลา ลูกเอ๊ย ทำไปเลย" 706 00:37:55,694 --> 00:37:57,445 นั่นเป็นคำสุดท้าย 707 00:37:57,529 --> 00:38:02,409 ที่ผมได้ยินจากปากของพ่อ 708 00:38:02,492 --> 00:38:04,160 ผมว่าเราทุกคนรู้สึกทั้งนั้น 709 00:38:04,244 --> 00:38:07,330 เราทุกคนอยากลงสนามไปเล่น ให้พ่อของกัปตัน 710 00:38:07,414 --> 00:38:09,916 เล่นเพื่อพ่อของพวกเรา เพื่อพ่อของไรลีย์ 711 00:38:10,625 --> 00:38:14,629 ผมมีตัวตนทุกอย่างในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เพราะพ่อของผม 712 00:38:14,713 --> 00:38:19,384 เพราะสิ่งที่พ่อยอมสละให้ผม ผมยังมีชีวิตอยู่เพื่อพ่อ 713 00:38:19,467 --> 00:38:22,971 แมคเคลรีบาวนด์ แต่แมจิคขโมยไป แล้วสแลมดั๊งค์ใต้ห่วง 714 00:38:24,139 --> 00:38:27,684 แมคเคลกับแมจิคตัวต่อตัวแล้วๆ 715 00:38:27,767 --> 00:38:32,522 นั่นเป็นตอนที่ผมเริ่มเล่นบาสเกตบอล แบบแมจิค จอห์นสัน 716 00:38:32,606 --> 00:38:33,732 ไร้ความกลัว 717 00:38:33,815 --> 00:38:37,777 สี่ต่อหนึ่ง แมจิค แมจิคส่งคารีม สแลมดั๊งค์ 718 00:38:42,324 --> 00:38:46,202 ชนะไป 3-2 นัด ลอสแองเจลิสนำ แล้วเราจะกลับไปบอสตัน 719 00:38:47,454 --> 00:38:49,664 กว่าเราจะไปถึงนัดที่หก 720 00:38:49,748 --> 00:38:51,750 แล้วกำลังมุ่งกลับไปเล่นที่บอสตัน 721 00:38:51,833 --> 00:38:53,543 เรามีความมั่นใจล้นเหลือแล้ว 722 00:38:53,627 --> 00:38:55,629 เราชนะแน่ ผมบอกทีมเลย 723 00:38:55,712 --> 00:38:59,633 "เอาสูทมาชุดหนึ่ง ไม่ต้องเล่นนัดที่เจ็ดหรอก" 724 00:38:59,716 --> 00:39:01,718 เลเกอร์สชนะอีกเพียงนัดเดียว 725 00:39:01,801 --> 00:39:05,222 ก็จะได้แชมป์และ จบคำสาปอันยาวนานที่สุดเรื่องหนึ่ง 726 00:39:05,305 --> 00:39:06,765 ในประวัติศาสตร์กีฬาอาชีพ 727 00:39:06,848 --> 00:39:08,892 ผมรู้ว่าทีมเราเก่งกว่าทีมพวกเขา 728 00:39:09,601 --> 00:39:11,686 ผมรู้ดี เราก็แค่ต้องไปพิสูจน์ให้คนเห็น 729 00:39:16,191 --> 00:39:19,903 เกมนี้เล่นสองคน แมจิคกับคารีม เจาะแล้ว คารีม 730 00:39:20,487 --> 00:39:21,571 แมจิค จอห์นสัน 731 00:39:23,573 --> 00:39:24,991 แมจิคเห็นช่องว่าง 732 00:39:25,075 --> 00:39:27,327 ตอนนี้เลเกอร์สได้กลิ่นชัยชนะแล้วครับ 733 00:39:27,410 --> 00:39:30,747 ตัวสำรองลุกแล้ว เลเกอร์สใกล้ชนะเต็มที 734 00:39:31,373 --> 00:39:32,916 แชมป์สามรอบในหกปี 735 00:39:32,999 --> 00:39:35,752 แอลเอมาถึงบอสตัน และชนะได้แชมป์โลกไป 736 00:39:39,881 --> 00:39:42,509 ว้าว ในที่สุดเรา… เราก็ทำได้ 737 00:39:42,592 --> 00:39:43,927 (เลเกอร์ส) (แชมเปี้ยนโลกเอ็นบีเอปี 1985) 738 00:39:44,010 --> 00:39:46,429 ชนะเขาคาบ้านเลย ฉลองในเมืองของเขาด้วย 739 00:39:46,513 --> 00:39:48,223 เป็นความรู้สึกที่ดีสุดครั้งหนึ่งในโลก 740 00:39:48,306 --> 00:39:51,226 วันนี้คุณมาที่สนามก่อนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ 741 00:39:51,309 --> 00:39:53,645 และซ้อมยิงทั้งจัมป์ช็อตและเซทช็อต 742 00:39:53,728 --> 00:39:55,689 ด้วยสีหน้าตั้งใจมากๆ 743 00:39:55,772 --> 00:39:58,108 ไม่ต้องสงสัยเลยครับ ปีที่แล้วเป็นปีที่ยาวนานมาก 744 00:39:58,191 --> 00:39:59,859 ที่ต้องรอจังหวะตอนนี้ 745 00:39:59,943 --> 00:40:03,780 เป็นจังหวะสุดยอดที่ผมจะได้แก้ตัว 746 00:40:04,614 --> 00:40:07,701 เอาชนะคู่ปรับ แล้วชนะที่บอสตันการ์เด้น 747 00:40:07,784 --> 00:40:12,122 ไม่เคยมีทีมไหนได้แชมป์บนพื้นปาร์เก้ที่นั่น 748 00:40:14,332 --> 00:40:15,959 เราไม่มีทางลืมเรื่องนั้น 749 00:40:16,042 --> 00:40:18,795 เพราะเราอยู่ในจังหวะนั้นด้วยกันแบบพี่น้อง 750 00:40:18,879 --> 00:40:19,880 คำสาปถูกถอนแล้ว 751 00:40:19,963 --> 00:40:24,009 นั่นคือตอนที่ดร.บัสชูถ้วยขึ้นแล้วพูดว่า… 752 00:40:24,092 --> 00:40:25,886 ใครจะพูดอีกไม่ได้แล้วว่า 753 00:40:25,969 --> 00:40:28,805 เลเกอร์สไม่เคยเอาชนะเซลติคส์ได้ 754 00:40:28,889 --> 00:40:31,933 โอ๊ย พูดอีกก็ถูกอีกนะ 755 00:40:32,017 --> 00:40:34,394 คือว่าผมเนี่ย… ผมดีใจมากๆ 756 00:40:34,477 --> 00:40:36,271 (เลเกอร์สล้มบัลลังก์เซลติคส์ ในการแข่งหกเกม) 757 00:40:36,354 --> 00:40:39,983 บางคนอาจคิดว่า ทีมเซลติคส์เป็นสิ่งที่ไม่มีใครโค่นได้ 758 00:40:40,066 --> 00:40:43,445 แต่ชาวอเมริกันเชื่อในแมจิคไหมล่ะ พวกเราเชื่อแน่ 759 00:40:44,613 --> 00:40:46,990 (แลนซิ่ง มิชิแกน) 760 00:40:49,492 --> 00:40:52,913 หลังจากได้แชมป์ครั้งนั้น ผมก็ไปงานปาร์ตี้วันเกิดเขา 761 00:40:54,581 --> 00:40:57,459 หวังว่าทุกคนจะมีความสุข และสนุกกันนะครับ 762 00:40:57,542 --> 00:40:59,502 เขาเชิญลูเธอร์ แวนดรอสมาร้องเพลง 763 00:41:02,672 --> 00:41:05,258 ถามใคร ใครก็ตอบได้ 764 00:41:05,342 --> 00:41:08,553 ถ้ามาปาร์ตี้ของแมจิค จะมีแต่คนสวยๆ หล่อๆ 765 00:41:08,637 --> 00:41:10,597 พวกเราจะสนุกกันมาก 766 00:41:10,680 --> 00:41:13,391 คุณดาร์ก เกเบิล ไมเคิล คูเปอร์ 767 00:41:14,559 --> 00:41:17,771 ผมถามว่า "เอิร์ฟ ทำไมไม่ชวนคุกกี้มา" 768 00:41:17,854 --> 00:41:22,484 เขาบอกว่า "คูป เธอปล่อยให้ฉันเป็นฉัน แต่ใจฉันยังไงก็อยู่ตรงนั้น" 769 00:41:23,818 --> 00:41:27,030 คือเขาเป็นน้องชายฉันนะ ฉันก็ต้องเอาให้แน่ว่า 770 00:41:27,113 --> 00:41:28,114 (เพิร์ล จอห์นสัน) (พี่สาว) 771 00:41:28,198 --> 00:41:31,701 เขาอยู่กับคนที่ห่วงใจเขา รักเขา 772 00:41:31,785 --> 00:41:34,996 ฉันเลยเชิญเธอมางานวันเกิดด้วย 773 00:41:35,580 --> 00:41:38,375 ฉันไปงานวันเกิด แล้วก็คือ ฉันจำได้เลย 774 00:41:38,458 --> 00:41:41,920 ตอนเดินเข้าไป เขาบอก "มาทำอะไรที่นี่" 775 00:41:42,003 --> 00:41:44,923 แบบว่า เหมือนกับ "มาได้ยังไงตั้งแต่ต้นเนี่ย" 776 00:41:45,006 --> 00:41:49,010 แต่คืนนั้นทั้งคืน เขาก็มาเต้นกับฉัน 777 00:41:49,094 --> 00:41:51,096 นั่นทำให้เรากลับมาคบกันอีก 778 00:41:51,805 --> 00:41:54,808 ฉันจะเจอเขาบ่อยขึ้น ได้ใช้เวลากับเขามากขึ้น 779 00:41:55,934 --> 00:41:58,353 เขาจะมาเยี่ยมช่วงหน้าร้อน 780 00:41:58,436 --> 00:41:59,729 นั่นก็ดีนะ 781 00:42:00,564 --> 00:42:03,733 หน้าร้อนปีนั้นเราไปที่ซีดาร์ราพิดส์ 782 00:42:03,817 --> 00:42:05,527 สวนสนุกน่ะ 783 00:42:06,027 --> 00:42:07,445 ไปเล่นเป็นเด็กๆ 784 00:42:07,529 --> 00:42:10,240 คือว่าเรา… เราอยากไปขึ้นรถไฟเหาะ 785 00:42:12,951 --> 00:42:17,247 แล้วก็อยากเล่นเอาตุ๊กตาสัตว์ 786 00:42:17,330 --> 00:42:18,707 ให้สาวของเราให้เยอะสุดเท่าที่ทำได้ 787 00:42:18,790 --> 00:42:20,125 นึกออกไหม 788 00:42:20,208 --> 00:42:23,169 ก็ไปเล่นๆ สนุกขำๆ 789 00:42:23,253 --> 00:42:26,006 แค่การที่เราเพิ่งกลับมาคบกัน 790 00:42:26,089 --> 00:42:29,551 เหมือนค่อยๆ เติมเชื้อไฟใน ความสัมพันธ์ของเรา 791 00:42:30,135 --> 00:42:33,388 ไอซิอาห์แต่งงาน ไม่ใช่แค่ไอซิอาห์ 792 00:42:33,471 --> 00:42:36,308 เพื่อนทุกคนแต่งงานหมดแล้ว คนในวง 793 00:42:36,391 --> 00:42:39,060 เหลือผมคนเดียว ผมยังไม่ได้แต่งงาน 794 00:42:39,144 --> 00:42:41,271 ตอนนั้นผมก็บอกเออร์วินตลอด 795 00:42:41,354 --> 00:42:43,440 "ฉันรู้นะว่ามีคนอื่นอีกหลายคน 796 00:42:43,523 --> 00:42:48,153 แต่ไม่มีใครจะรักนายได้ เท่าผู้หญิงคนนี้หรอก" 797 00:42:49,571 --> 00:42:54,117 เขาอยู่ที่บ้านพ่อแม่ ฉันก็แวะไป 798 00:42:54,200 --> 00:42:55,827 จะได้ใช้เวลากับเขา 799 00:42:57,245 --> 00:43:00,373 ฉันเดินเข้าไป ก็คุยกับครอบครัวเขาอะไรอย่างนั้น 800 00:43:00,457 --> 00:43:03,168 แล้วเออร์วินก็ออกไป เพราะเขาทำแบบนั้นบ่อยๆ 801 00:43:03,251 --> 00:43:05,629 เขาจะออกไปแล้วกลับมาใหม่ ส่วนฉันก็… นั่นแหละ 802 00:43:05,712 --> 00:43:08,798 ฉันเป็นเพื่อนสนิทกับพี่สาวเขาคนหนึ่ง รักแม่ของเขาด้วย ฉันเลย… 803 00:43:08,882 --> 00:43:11,760 ฉันก็แค่เหมือนไปเยี่ยมพวกเขาแทน 804 00:43:11,843 --> 00:43:14,346 แล้วเขาก็กลับมา ลงมาจากรถ 805 00:43:14,429 --> 00:43:15,889 มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาด้วย 806 00:43:16,932 --> 00:43:19,601 เขาเข้ามาพร้อมเด็กคนนั้นและ… และ… 807 00:43:19,684 --> 00:43:23,271 เด็กชายเล็กๆ คนนั้นดูกลัวมาก 808 00:43:23,355 --> 00:43:24,940 เขายืนตรงนั้นแล้ว เหมือน… 809 00:43:25,649 --> 00:43:28,026 ทุกคนก็บอกว่า "นี่คืออังเดร" 810 00:43:28,109 --> 00:43:31,696 ฉันก็มองหน้าเออร์วิน มองหน้าอังเดร 811 00:43:31,780 --> 00:43:35,075 ในที่สุดเขาก็บอกว่า "ใช่ นี่ลูกชายผม" 812 00:43:35,992 --> 00:43:38,578 ผมบอกว่า "มันแค่คืนเดียว 813 00:43:38,662 --> 00:43:41,915 นอนกันคืนเดียว และผม… ผมก็ไม่เคยคิดว่า 814 00:43:41,998 --> 00:43:44,918 เอ่อ ว่า… เขาจะท้อง" 815 00:43:45,502 --> 00:43:49,172 ผมมารู้ทีหลัง แล้วเขาก็เป็นลูกผม 816 00:43:50,298 --> 00:43:52,842 จำเป็นมากที่ผมต้องแนะนำให้เธอรู้จักกับอังเดร 817 00:43:56,304 --> 00:43:57,514 อย่างว่า… 818 00:43:57,597 --> 00:44:00,767 ยังไงก็ยังกร่อยและทำใจยาก ไม่ว่าจะยังไง 819 00:44:00,850 --> 00:44:04,813 ฉันตกใจมาก มันเหมือน… ก็ตกใจอยู่แป๊บนึง 820 00:44:04,896 --> 00:44:06,189 แล้วผมบอกเธอว่า 821 00:44:06,273 --> 00:44:09,317 "สิ่งหนึ่งที่ยังไงผมจะทำแน่ๆ คือจะอยู่ในชีวิตของลูก 822 00:44:09,401 --> 00:44:12,320 และผมจะดูแลลูกชายผมเสมอ" 823 00:44:13,071 --> 00:44:15,782 ย้ำอีกทีนะคะ นี่เป็นจุดที่เราเพิ่ง 824 00:44:15,865 --> 00:44:17,867 กลับมาคืนดีกันได้ไม่นาน 825 00:44:19,077 --> 00:44:21,204 แต่ทันใดนั้นอีกความคิดหนึ่งก็คือ 826 00:44:21,288 --> 00:44:25,292 "ก็นั่นลูกชายเขา เราจะทำอะไรได้" นึกออกมั้ย 827 00:44:26,293 --> 00:44:30,088 เราแค่… ฉันตัดสินใจลองดูว่า จะไปต่อกันได้ถึงไหน 828 00:44:33,300 --> 00:44:37,220 ก่อนที่เขาจะต้องกลับไปแอลเอ 829 00:44:37,304 --> 00:44:41,474 เตรียมตัวเข้าค่ายฝึกซ้อมอีก เรานั่งอยู่ใน… ห้องนั่งเล่น 830 00:44:41,558 --> 00:44:42,726 บอกลากันอยู่ 831 00:44:42,809 --> 00:44:45,645 เพราะฉันก็จะขับรถกลับไปโทลีโด 832 00:44:45,729 --> 00:44:50,692 แล้วเขา… เขาก็… ฉันสังเกตเห็นว่าเขาดูตื่นๆ 833 00:44:51,276 --> 00:44:52,485 เขาบอกว่า 834 00:44:53,111 --> 00:44:58,617 "คุกกี้ ผมรักคุณและผม… ผมอยากแต่งงานกับคุณ" 835 00:44:58,700 --> 00:45:00,285 ฉันคิดเลยว่า "อะไรนะ" 836 00:45:00,869 --> 00:45:02,746 แบบจู่ๆ ก็พูด ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย 837 00:45:02,829 --> 00:45:06,291 เหมือนเขาอยากจะทำ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำจริงไหม 838 00:45:06,374 --> 00:45:07,542 แล้วเขาก็ขอไปเลย 839 00:45:07,626 --> 00:45:09,669 - เราทุกคนวี๊ดว๊ายตื่นเต้นสุดๆ - ใช่เลย 840 00:45:09,753 --> 00:45:13,757 เหมือน "โห ยอด คิดได้เสียทีว่าตรงนี้มีอะไรอยู่แล้ว" 841 00:45:17,135 --> 00:45:19,387 แต่วันต่อมาเขาก็กลับแอลเอ 842 00:45:19,471 --> 00:45:22,807 เรารู้… เราคุยโทรศัพท์กัน เราพูดเรื่องวางแผนแต่งงาน 843 00:45:22,891 --> 00:45:25,227 "โอ๊ยตาย ฉันต้องวางแผนงานแต่ง ฉันตื่นเต้นมาก" 844 00:45:25,310 --> 00:45:29,689 นั่นเป็นตอนที่เขาบอกว่า "ผมทำไม่ได้ ผมพยายามแล้ว ผมทำไม่ได้ 845 00:45:29,773 --> 00:45:32,108 เป็นความกดดันที่มากเกินไป มันก็แค่หนักเกินไป" 846 00:45:32,192 --> 00:45:37,155 ผมสามารถหมั้นกับเธอได้ เพราะนั่นเป็นส่วนที่ง่าย 847 00:45:37,239 --> 00:45:38,907 ส่วนที่ยากคือส่วนที่ต้องทำต่อ 848 00:45:38,990 --> 00:45:42,827 เขาบอกว่า "ผมแค่ทำไม่ได้ 849 00:45:42,911 --> 00:45:44,788 และผมแค่อยากจะขอถอนหมั้น" 850 00:45:44,871 --> 00:45:48,959 ฉันคิดว่า… ฉันบอกว่า "เอ่อ คือว่า ผ่านอะไรกันมาขนาดนี้ 851 00:45:49,042 --> 00:45:50,627 นั่นไม่… ฉันทำงั้นไม่ได้ 852 00:45:50,710 --> 00:45:53,129 ถ้าคุณคิดจะถอนหมั้น เราก็ต้องเลิกกัน" 853 00:45:56,550 --> 00:45:57,759 แมจิค จอห์นสันมาแล้วครับ 854 00:45:59,719 --> 00:46:01,930 ในชีวิตคุณมีสาวคนพิเศษหรือยัง 855 00:46:02,013 --> 00:46:04,349 ไม่มีครับ ตอนนี้ไม่มีแล้ว จำรอบที่แล้วได้ไหม 856 00:46:04,432 --> 00:46:06,601 ที่เราคุยว่าผมกำลังคิดว่าจะแต่งงาน 857 00:46:06,685 --> 00:46:08,687 แต่ผมฟังคำแนะนำคุณไง 858 00:46:09,688 --> 00:46:12,524 งั้นตอนนี้เวลาเหลือคุณจะทำอะไร ก่อนจะเปิดฤดูกาลใหม่ 859 00:46:12,607 --> 00:46:15,986 ผมจะอยู่สบายๆ ทำอะไรสนุกๆ ปาร์ตี้ 860 00:46:16,069 --> 00:46:18,446 - ก็ดีนะ สนุก ปาร์ตี้ - ครับ 861 00:46:33,003 --> 00:46:36,798 ข่าวกีฬา ผู้เล่นทรงคุณค่าในกีฬาบาสเกตบอล ปีนี้เป็นตำแหน่งของแมจิค จอห์นสัน 862 00:46:36,882 --> 00:46:37,924 จากทีมแอลเอ เลเกอร์ส 863 00:46:38,008 --> 00:46:42,596 จอห์นสันทำคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในอาชีพที่ 23.9 ต่อเกม และมีสถิติแอสซิสต์สูงสุดในลีค 864 00:46:42,679 --> 00:46:44,472 นี่เป็นรางวัลพิเศษมาก 865 00:46:44,556 --> 00:46:49,102 ผมขออุทิศให้กับคุณพ่อ หวังว่าพ่อจะภูมิใจและดีใจเท่าๆ กับผมในคืนนี้ 866 00:46:49,185 --> 00:46:50,312 (เลเกอร์ส) 867 00:46:50,395 --> 00:46:52,814 ทีมเลเกอร์สกำลังลง ชิงแชมป์รอบที่สามในเวลาห้าปี 868 00:46:52,898 --> 00:46:56,067 เซลติคส์เข้าชิงชนะเลิศ เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน 869 00:46:56,151 --> 00:46:57,193 (รอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอปี 1987) 870 00:46:57,277 --> 00:46:59,946 เป็นครั้งแรกในรอบสิบปี เซลติคส์ไม่ได้เปรียบในบ้านตัวเอง 871 00:47:00,030 --> 00:47:01,031 ในการแข่งเพลย์ออฟ 872 00:47:01,114 --> 00:47:04,618 ปี 87 พวกนั้นทำอะไรเราไม่ได้เลย 873 00:47:04,701 --> 00:47:08,455 เหลือห้าวินาที แมจิค จอห์นสัน ยิงฮุคที่ระยะ 3 เมตร ลง! 874 00:47:08,538 --> 00:47:12,083 เลเกอร์สขึ้นนำจาก สกายฮุคสุดยอดของแมจิค จอห์นสัน 875 00:47:12,167 --> 00:47:13,293 (แมจิค 'จูเนียร์สกายฮุค' ทำให้ชนะ) 876 00:47:13,376 --> 00:47:16,588 เป็นสกายฮุคเบาๆ น่ะ เขาว่าเป็นการคิดค้นท่าเบบี้สกายฮุค 877 00:47:16,671 --> 00:47:19,674 แพท ไรลีย์ ขณะที่เลเกอร์สเต้นออกจากสนาม 878 00:47:19,758 --> 00:47:20,759 (แมจิคเป็นพลังที่แข็งแกร่งกว่าเบิร์ด) 879 00:47:20,842 --> 00:47:23,929 เราคนใดคนหนึ่งกำลังจะ ได้เป็นแชมป์มากครั้งกว่ากัน 880 00:47:24,012 --> 00:47:25,013 (แมจิคบินสูงกว่า) 881 00:47:25,096 --> 00:47:27,849 นั่นเรื่องระหว่างแลร์รีกับผมเนอะ 882 00:47:27,933 --> 00:47:31,186 ผมต้องทำให้แน่ใจว่า ต้องเป็นทีมของผมที่ขึ้นนำ 2-1 883 00:47:31,269 --> 00:47:32,646 (จอห์นสันตอกตะปุ ปิดฝาโลงเซลติคส์ไปแล้ว) 884 00:47:32,729 --> 00:47:35,023 เพราะผมต้องนำเขาให้ได้ 885 00:47:45,325 --> 00:47:48,662 (รอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอปี 1987) (เลเกอร์สชนะ 4-2 นัด) 886 00:47:48,745 --> 00:47:54,084 โหย ตอนนั้นเราเป็นเครื่องจักรไร้ที่ติ 887 00:47:56,711 --> 00:48:02,008 นั่นเป็นทีมที่ดีสุดของเรา ถ้าไม่ใช่ทีมที่ดีสุดในประวัติศาสตร์เอ็นบีเอ 888 00:48:02,092 --> 00:48:06,179 เจอร์รี คนดูนัดชิงชนะเลิศนัดนี้ มากกว่าครั้งไหนในประวัติศาสตร์ 889 00:48:06,263 --> 00:48:07,472 พวกเขาได้ดูโชว์ชั้นเลิศ 890 00:48:07,556 --> 00:48:09,015 (ฟอรั่ม) (อิงเกิลวูด แคลิฟอร์เนีย) 891 00:48:10,225 --> 00:48:16,856 ผมแค่อยากให้พวกคุณทำ อย่างที่เราทำกันอยู่ ปาร์ตี้และสนุกให้สุดเหวี่ยง 892 00:48:20,277 --> 00:48:23,029 ไม่มีใครในโลกนี้แล้ว 893 00:48:23,113 --> 00:48:26,116 ที่คู่ควรกับการได้แชมป์โลกอีกครั้ง… 894 00:48:26,199 --> 00:48:27,242 (เอ็มวีพี) (แมจิค) 895 00:48:27,325 --> 00:48:29,286 เท่ากับคนที่อิงเกิลวูดนี่ 896 00:48:29,869 --> 00:48:34,457 ผมรับประกันกับทุกคนเลยว่า ปีหน้าเราก็จะชนะเอาถ้วยมาให้อีกครั้ง 897 00:48:37,961 --> 00:48:44,384 แมจิคเป็นแชมเปี้ยน เป็นเอ็มวีพีของลีค เป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุด 898 00:48:45,051 --> 00:48:47,470 สำหรับผม ในฐานะเพื่อนของเขา 899 00:48:47,554 --> 00:48:51,975 ได้เห็นเส้นทางสู่การเป็นผู้ชนะของเขา 900 00:48:52,559 --> 00:48:57,647 ยืนยันสิ่งที่ผมรู้ในใจว่า ปี 88 ผมอยากชนะบ้าง 901 00:48:57,731 --> 00:48:58,732 (รอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอปี 1988) 902 00:48:58,815 --> 00:49:02,319 เลเกอร์สกับดีทรอยต์พิสตันส์ กำลังจะเริ่มแข่งชิงแชมป์เอ็นบีเอ 903 00:49:02,402 --> 00:49:04,487 ผมว่าในนัดแรก สิ่งที่เราจะได้เห็น 904 00:49:04,571 --> 00:49:06,615 จะเป็นเหมือนการชกชิงแชมป์เฮฟวี่เวท 905 00:49:06,698 --> 00:49:10,368 การที่แมจิค จอห์นสัน กับไอซิอาห์ โธมัสเป็นเพื่อนสนิทกัน 906 00:49:10,452 --> 00:49:12,787 เว้นแต่เวลาที่พวกเขาแข่งกันเอง 907 00:49:12,871 --> 00:49:14,039 นี่ เราเห็นคุณเดินเข้าไป 908 00:49:14,122 --> 00:49:16,875 และหอมแก้มไอซิอาห์ โธมัส เพื่อนสนิทคุณเบาๆ 909 00:49:16,958 --> 00:49:20,503 เอ่อ นั่นมัน… เป็นประเพณีอะไร ของคุณสองคนเหรอ 910 00:49:20,587 --> 00:49:21,796 พวกคุณเป็นเพื่อนกันมานาน 911 00:49:21,880 --> 00:49:25,008 ใช่ครับ เราทักทายกันทุกครั้งที่เจอหน้า 912 00:49:25,091 --> 00:49:27,385 เราทักกันด้วยการจุ๊บแก้ม 913 00:49:28,094 --> 00:49:31,473 ผมว่านักกีฬาคนอื่นไม่ชอบ ผมรู้ว่าผมเองก็ไม่ชอบ 914 00:49:31,556 --> 00:49:34,267 ผมไม่ชอบการผูกสัมพันธ์ หรืออะไรพวกนั้นเลย 915 00:49:35,310 --> 00:49:37,312 จะมีเพื่อนอื่นๆ ไม่ได้ 916 00:49:37,395 --> 00:49:40,398 ถ้าไม่ได้ใส่เสื้อกล้ามสีม่วงเหลือง คนอื่นไม่ใช่เพื่อนทั้งนั้น 917 00:49:40,482 --> 00:49:41,775 เขาย้ำเรื่องนั้นเสมอ 918 00:49:42,943 --> 00:49:45,946 แพท ไรลีย์ไม่ชอบมิตรภาพนั้นเลย 919 00:49:46,029 --> 00:49:47,072 เขาเดินเข้ามาหาผม บอกว่า 920 00:49:47,155 --> 00:49:53,286 "เฮ้ย" ผมจะเล่นงานไอซิอาห์ไหม ถ้าเกิดสถานการณ์ขึ้นตรงหน้า 921 00:49:53,370 --> 00:49:58,792 จำได้ว่าทุกคนมองอยู่เหมือนกับ "จะรอดูว่ามันจะทำยังไง" 922 00:49:58,875 --> 00:50:01,419 เขาเป็นเพื่อนกันก่อนและหลังเกม ไม่ใช่ระหว่างเกม 923 00:50:02,796 --> 00:50:04,923 โธมัส… แมจิค จอห์นสัน 924 00:50:05,006 --> 00:50:07,717 แมจิคใช้ท่อนแขนเล่นงานเขาเลย 925 00:50:07,801 --> 00:50:10,178 แมจิคเล่นไม่สวยนะครับลูกนั้น 926 00:50:10,262 --> 00:50:12,472 รู้ตัวอีกทีเขาก็… ตูม 927 00:50:12,556 --> 00:50:14,224 ผมก็แบบ "โอเค ก็ได้" 928 00:50:14,307 --> 00:50:18,186 เขาโดดขึ้นมาแล้วเหวี่ยงใส่ผมบ้าง นั่นคือจุดเริ่มต้น 929 00:50:19,938 --> 00:50:22,482 เห็นแล้วว่าแมจิค จอห์นสันกำลัง… 930 00:50:23,358 --> 00:50:26,111 เวลาพูดเรื่องชัยชนะ ก็ต้องครองอำนาจเหนืออีกฝ่าย 931 00:50:26,736 --> 00:50:28,363 เราจะเจาะใจอีกฝ่ายได้ไหม 932 00:50:29,281 --> 00:50:35,370 จนเกิดความรู้สึกและอารมณ์ ความรักและความเกลียด 933 00:50:43,628 --> 00:50:46,965 นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันต่อ 934 00:50:47,716 --> 00:50:51,219 และไม่ แบบว่า ไม่ได้คุยกันแล้ว 935 00:50:54,097 --> 00:50:58,560 มิตรภาพของเราแตกลงเพราะ 936 00:50:58,643 --> 00:51:02,147 การเดินบนเส้นทางสู่ชัยชนะครับ 937 00:51:03,023 --> 00:51:06,526 ความปรารถนาไม่หยุดหย่อน ที่อยากเอาชนะเสมอ 938 00:51:08,570 --> 00:51:09,613 ไม่ปรานีใคร 939 00:51:11,531 --> 00:51:13,325 จบเกมแล้ว 940 00:51:13,408 --> 00:51:14,618 เลเกอร์สชนะครับ 941 00:51:14,701 --> 00:51:16,453 (ลอสแองเจลิสเลเกอร์ส) (แชมป์เอ็นบีเอปี 1988) 942 00:51:17,621 --> 00:51:21,333 สำหรับผมมันคือ… คือต้องชนะ ไม่ว่าจะแลกกับอะไร 943 00:51:22,876 --> 00:51:26,213 ถ้าจะต้องแลกกับมิตรสภาพก็ต้องแลกไป 944 00:51:27,464 --> 00:51:29,799 ได้เวลาปาร์ตี้อีกแล้ว 945 00:51:31,676 --> 00:51:35,639 ฉันติดตามการเล่นของเขาเสมอ และ คือ ฉันก็ดีใจกับเขาด้วย 946 00:51:35,722 --> 00:51:37,307 ตอนนี้ชอบเรารึยังล่ะ 947 00:51:38,558 --> 00:51:40,268 ทุกครั้งที่เขาชนะได้แชมป์หรืออะไรแบบนั้น 948 00:51:40,352 --> 00:51:42,312 ฉันจะโทรไปแสดงความยินดีกับเขาด้วย 949 00:51:43,313 --> 00:51:45,232 (ชิคาโก) 950 00:51:45,315 --> 00:51:47,943 ฉันเริ่มคบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ชิคาโก 951 00:51:48,026 --> 00:51:51,279 แต่เออร์วินก็อยู่ในใจฉันเสมอนะ 952 00:51:51,780 --> 00:51:54,658 ถึงตอนนั้น เราเริ่มกลับมาคุยโทรศัพท์กันบ่อยขึ้น 953 00:51:56,159 --> 00:52:00,247 วันหนึ่งเขาโทรมา ผู้ชายคนนั้นอยู่ด้วย เขาก็แบบ "เอ่อ ทำไมคุยไม่ได้" 954 00:52:00,330 --> 00:52:03,583 ฉันตอบว่า "เพราะมีคนอยู่ด้วย" เขาก็ "ทำไมถึงมีคนอยู่ด้วย" 955 00:52:03,667 --> 00:52:07,587 ฉันก็แบบ "อะไรนะ เราไม่ได้เป็นแฟนกัน พูดอะไรของคุณ" 956 00:52:08,088 --> 00:52:12,759 ฉันว่านั่นก็คงทำให้เขาเพิ่งรู้ตัว 957 00:52:12,842 --> 00:52:14,177 แบบ "เดี๋ยวนะ 958 00:52:14,261 --> 00:52:17,556 เธออาจไม่คิดจะนั่งรอฉันคนเดียวไปตลอด" 959 00:52:17,639 --> 00:52:21,977 ทำใจยากนะ เวลาเห็นคนที่เรารักอยู่กับคนอื่น ใช่ไหมล่ะ 960 00:52:22,060 --> 00:52:24,104 เราเลยกลับมาคบกัน 961 00:52:25,730 --> 00:52:27,190 เพลงของพวกเขาคือ… 962 00:52:27,274 --> 00:52:30,652 - "Reunited" มะ ใช่มั้ย - "Reunited" ใช่ๆ 963 00:52:31,319 --> 00:52:33,572 ฮื่อ ฉันว่านั่นคือเพลงกลับมาคืนดีกัน 964 00:52:35,240 --> 00:52:37,534 แบบฉันเองก็เคยใช้นะ แบบ… 965 00:52:37,617 --> 00:52:40,495 แล้วก็ต้องคืนดีกันบ่อยมาก 966 00:52:40,579 --> 00:52:46,751 เขาปิด เอ่อ ร้านอาหารรสชาติฝีมือแม่ จองทั้งร้านเลย 967 00:52:46,835 --> 00:52:50,255 เรียกครอบครัวเพื่อนฝูงมาหมด 968 00:52:51,673 --> 00:52:55,176 คือผมพยายามทำให้มันถูกต้องๆ 969 00:52:55,677 --> 00:52:59,806 แล้วเขาก็หยิบแหวนที่อยู่ในกล่องขึ้นมา 970 00:52:59,890 --> 00:53:03,852 บอกว่า หันมาหาฉันแล้วบอกว่า "คุกกี้ แต่งงานกับผมนะ" 971 00:53:05,979 --> 00:53:10,483 ฉันลุกขึ้นวิ่งไปกอดเขา เขาก็สวมแหวนให้ฉัน 972 00:53:11,151 --> 00:53:14,946 ส่วนหนึ่งในใจฉันคิดว่า "นี่วงเดิมรึเปล่าเนี่ย" 973 00:53:15,030 --> 00:53:18,033 แต่ไม่ใช่ค่ะ วงนี้เพชรใหญ่กว่าวงเก่าอีก 974 00:53:19,409 --> 00:53:21,661 การหมั้นรอบสองกลายเป็น 975 00:53:23,204 --> 00:53:26,791 วางแผนแต่งงานระหว่างฤดูกาลแข่งขัน 976 00:53:26,875 --> 00:53:32,464 ซ้อม ซ้อมก่อนซ้อม และไป… เตรียมตัวเข้าฤดูกาล ถึงฤดูกาลแข่ง 977 00:53:33,006 --> 00:53:36,885 แล้วกลายเป็น "เอ่อ ผมว่า… โอเค รอบนี้เราแต่งแน่ละ 978 00:53:36,968 --> 00:53:39,596 แต่กำหนดเวลาได้แค่ช่วง…" 979 00:53:39,679 --> 00:53:43,225 - ต้องจัดให้ได้ตอนนี้ - "สัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์นั้น" 980 00:53:43,308 --> 00:53:47,103 ฉันเรียกว่าเป็นรักรถไฟเหาะ เพราะมันไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ นะ 981 00:53:47,187 --> 00:53:48,396 ขึ้นไปๆ แล้วก็แบบ "ช่างมันละ" 982 00:53:48,480 --> 00:53:49,940 (แมจิค จอห์นสันจะแต่งงาน) 983 00:53:50,023 --> 00:53:55,278 และถ้าจะให้เปิดใจจริงๆ เออร์วินกับฉันได้คุยกัน 984 00:53:55,362 --> 00:54:00,867 ไม่รู้ว่าเขาจะจำได้ไหม แต่เขา… ตอนนั้นเขาไม่แน่ใจ 985 00:54:00,951 --> 00:54:04,120 ฉันเลยบอกเขา ฉันบอกว่า "เอางี้นะ ถ้านายไม่แน่ใจ อย่าแต่ง" 986 00:54:04,204 --> 00:54:05,664 ฉันไม่อยากให้เขาทำเธอเสียใจอีก 987 00:54:07,040 --> 00:54:12,003 พอจะต้องวางแผนแต่งอีกแล้ว มันก็ยากอีกละ 988 00:54:12,587 --> 00:54:17,759 ที่จะลากผมเดินตามทางเดิน ไปเข้าโบสถ์ นึกออกไหม 989 00:54:17,842 --> 00:54:19,302 แล้วเดินไปตามทางนั้น 990 00:54:19,970 --> 00:54:22,639 คุยกลับไปกลับมาสักพัก ฉันก็บอกว่า "งั้น เอางี้นะ 991 00:54:23,306 --> 00:54:27,060 จะเลื่อนงานแต่งก็ได้ แต่ไม่ให้ถอนหมั้น 992 00:54:27,143 --> 00:54:28,562 เท่ากับเราจะยังหมั้นกันอยู่" 993 00:54:29,145 --> 00:54:31,481 "คุกกี้ ไม่เอา เลิกเล่น เอาแหวนคืนมา" 994 00:54:31,565 --> 00:54:32,566 (งานแต่งแมจิคเลื่อนอีกแล้ว) 995 00:54:32,649 --> 00:54:36,987 พร้อมกันนั้นฉันเปิดประตูเลย แล้วบอกว่า "ไม่ รอบนี้จะไม่เหมือนเดิม" 996 00:54:37,070 --> 00:54:38,530 แล้วกระแทกประตูปิด 997 00:54:40,574 --> 00:54:43,451 ผมกำลังเตรียมชนกับไอซิอาห์ 998 00:54:44,369 --> 00:54:49,291 ปีนั้นพิสตันส์เก่งมาก เราต้องจัดเต็มร้อยถึงจะเอาชนะได้ 999 00:54:50,083 --> 00:54:52,627 เราได้แข่งกับพวกนั้นอีกรอบตอนปี 1989 1000 00:54:53,169 --> 00:54:55,422 แมจิค จอห์นสัน น่าจะเจ็บเอ็นร้อยหวาย 1001 00:54:55,505 --> 00:54:57,007 (รอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอปี 1989) (นัดที่ 2) 1002 00:54:58,300 --> 00:55:02,220 หนักมาก ตอนไปอาบน้ำผมร้องไห้เลย 1003 00:55:02,304 --> 00:55:05,849 พวกเขาต้อง… เขาต้อง ลากผมออกมาจากห้องอาบน้ำ 1004 00:55:06,725 --> 00:55:10,353 พอกลับมาถึงสนามเหย้า เขาพยายามจะลงสนาม แต่ลงไม่ได้ 1005 00:55:10,437 --> 00:55:14,274 เหมือนทีมโดนแทงไปแล้ว พวกนั้นทำให้เราอ่อนลงอีก 1006 00:55:14,941 --> 00:55:21,197 พวกเราเริ่มบอบช้ำ เริ่มแก่ขึ้น แล้ว เอ่อ ยุคนั้นก็จบไปแล้ว 1007 00:55:21,281 --> 00:55:23,241 ใช่ สุดท้ายพวกเราแพ้รวดเลย 1008 00:55:23,825 --> 00:55:25,160 (รอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอปี 1989) (พิสตันส์ชนะขาด 4-0 นัด) 1009 00:55:25,243 --> 00:55:28,288 ผมอยากพูดมานานแล้วว่า เป็นเบอร์หนึ่ง 1010 00:55:28,371 --> 00:55:29,456 (ไอซิอาห์ โธมัส) (ดีทรอยต์ พิสตันส์) 1011 00:55:30,665 --> 00:55:32,626 นั่นเป็นปีสุดท้ายของคารีม 1012 00:55:32,709 --> 00:55:35,545 หนึ่งในอาชีพซึ่งน่าจดจำที่สุด ในประวัติศาสตร์กีฬา 1013 00:55:35,629 --> 00:55:38,381 จบลงไปเมื่อคืนนี้ เมื่อทีมพิสตันส์เอาชนะเลเกอร์สได้ 1014 00:55:38,465 --> 00:55:41,134 นั่นเป็นเกมสุดท้ายในอาชีพ ของคารีม อับดุล-จาบบาร์ 1015 00:55:41,635 --> 00:55:45,096 นั่นเป็นตอนที่ผมเหมือนรู้ว่า… เหมือนทีมเซลติคส์ก่อนหน้านี้ 1016 00:55:45,180 --> 00:55:48,391 ที่ทำไว้ช่วงต้นของยุค 80 ยุคของเราก็ใกล้จะจบลงแล้ว 1017 00:55:49,434 --> 00:55:53,063 ปีต่อไป ผมดูออกว่า สถานการณ์จะยิงเละ 1018 00:55:56,066 --> 00:55:57,150 และก็จบแค่นั้น 1019 00:55:57,234 --> 00:56:00,278 ไม่ต้องคาดเดาต่อแล้วครับ แพท ไรลีย์สมัครใจ 1020 00:56:00,362 --> 00:56:02,072 ลาออกจากตำแหน่งโค้ชทีมเลเกอร์ส 1021 00:56:02,155 --> 00:56:05,659 ไรลีย์บอกว่าเขาพร้อมไปหาความท้าทายใหม่ หลังจากทำสำเร็จเกินคาดจากหน้าที่เก่า 1022 00:56:05,742 --> 00:56:09,704 ผมจำวันที่เขามาบ้านผม แล้วบอกว่าเขากำลังจะลาออกได้ 1023 00:56:10,372 --> 00:56:14,209 ผมบอก "ไปไม่ได้นะ" เราทั้งคู่ก็เริ่มร้องไห้ 1024 00:56:14,292 --> 00:56:20,549 และผมบอกเขาว่า "ไม่มีคุณ ผมก็เป็นแมจิคไม่ได้" 1025 00:56:21,550 --> 00:56:22,676 ที่นี่คือเดอะฟอรั่ม 1026 00:56:22,759 --> 00:56:26,179 เห็นแบบนี้อาจจำไม่ได้ เลเกอร์สก็จำไม่ได้ ที่จริง 1027 00:56:26,263 --> 00:56:29,516 ช่วงนี้แม้แต่ทีมตัวเอง เลเกอร์สยังจำสภาพตัวเองไม่ได้ 1028 00:56:29,599 --> 00:56:32,269 เสียงแห่งความเงียบ ในสนามช่วงนี้ของปี ชวนให้ใจหาย 1029 00:56:32,352 --> 00:56:33,353 (จิม เกรย์) (ข่าวกีฬา ซีบีเอส) 1030 00:56:33,436 --> 00:56:35,981 ไม่มีโชว์ไทม์ มนตร์จบลงแล้ว 1031 00:56:36,064 --> 00:56:38,316 เรื่องที่ต้องกลัวคือ มันจะกลับมาอีกไหม 1032 00:56:39,025 --> 00:56:42,279 ไรลีย์ไปแล้ว คารีมก็ไปแล้ว 1033 00:56:43,405 --> 00:56:46,783 มาถึงปี 1990 ก็มีทีมบูลส์ขึ้นมาอีก 1034 00:56:46,866 --> 00:56:49,411 จอร์แดนโดดไปที่ห่วง ลอยเลย ได้แต้ม! 1035 00:56:49,494 --> 00:56:51,621 ผมเข้าลีคมาตั้งแต่ปี 1984 1036 00:56:51,705 --> 00:56:52,914 (ไมเคิล จอร์แดน) (การ์ด บูลส์ 1984-1998) 1037 00:56:52,998 --> 00:56:55,417 แต่ช่วง 80 มีแต่เซลติคส์สู้กับเลเกอร์ส 1038 00:56:55,500 --> 00:56:57,210 (อดัม ซิลเวอร์) (ประธานเอ็นบีเอ 2014-ปัจจุบัน) 1039 00:56:57,294 --> 00:57:00,964 ไม่ว่าแมจิค จอห์นสันจะเป็นดาวเด่นแค่ไหน ไมเคิล จอร์แดนก็เริ่มได้แสง 1040 00:57:01,047 --> 00:57:04,759 ไม่มีใครเป็นเหมือนเขา ง่ายๆ เลย ไม่เคยเห็นใครเล่นแบบเขา 1041 00:57:05,719 --> 00:57:09,431 เขาเข้ามา แล้วก็ได้ดีลโฆษณาต่างๆ 1042 00:57:09,514 --> 00:57:13,518 เขาคือแอร์ จอร์แดนในสนาม และมีคุณสมบัติที่ดีพร้อมสำหรับแบรนด์ต่างๆ 1043 00:57:13,602 --> 00:57:16,354 ตอนนี้จอร์แดนได้รายได้ จากการโฆษณามากที่สุด 1044 00:57:16,438 --> 00:57:18,023 ในประวัติศาสตร์กีฬาอาชีพ 1045 00:57:18,106 --> 00:57:19,316 หนูต้องกินวีตตี้ส์ให้หมดนะ 1046 00:57:19,900 --> 00:57:22,277 แมจิค จอห์นสัน ควรได้ดีลพวกนั้นก่อนผมนานเลย 1047 00:57:22,360 --> 00:57:24,738 คือทั้งนิสัยของเขา ตัวบุคลิกท่าทางเขา 1048 00:57:25,864 --> 00:57:28,992 ผมว่านั่นคือจุดที่ มีความอิจฉาขึ้นระหว่างเราสองคน 1049 00:57:29,075 --> 00:57:31,828 ใช่ ผมโมโห ใช่สิ ผมอิจฉานะ 1050 00:57:31,912 --> 00:57:33,580 ใช่ ผมชอบเอาชนะ ผมต้องโมโหอยู่แล้ว 1051 00:57:34,956 --> 00:57:38,835 คือผมอาจได้โฆษณาแมคโดนัลด์ มีแบรนด์จอร์แดน 1052 00:57:38,919 --> 00:57:40,128 โน่นนี่ อะไรเยอะแยะ 1053 00:57:40,629 --> 00:57:45,091 แต่ในแง่ของชัยชนะ ซึ่งผมว่านั่นเป็นส่วนสำคัญที่สุด 1054 00:57:45,175 --> 00:57:46,384 เขาได้ไปแล้ว 1055 00:57:46,468 --> 00:57:49,387 และผมก็ต้องการ ผมอยากได้โดยผ่านเขาไปด้วย 1056 00:57:49,471 --> 00:57:51,890 ผมไม่ได้อยากจะอ้อมเขาแล้วได้มา ผมอยากทะลุผ่านเขาเลย 1057 00:57:52,807 --> 00:57:56,269 เราได้ยินมาเยอะเรื่องของ ไมเคิล จอร์แดน กับสิ่งที่เขาทำ 1058 00:57:56,353 --> 00:58:01,441 แต่ถ้าอยากสู้กับแมจิคและ อยากเริ่มได้แชมป์กับเขาบ้างใช่ไหม 1059 00:58:01,524 --> 00:58:02,901 อยากได้แหวนแชมป์เหรอ 1060 00:58:02,984 --> 00:58:05,654 โอเค ก็ได้ มาดูกันว่ามีฝีมือไหม 1061 00:58:06,279 --> 00:58:09,699 ตอนปี 1991 ยิ่งคนกังขาทีมเรา ผมยิ่งมีแรงฮึด 1062 00:58:09,783 --> 00:58:10,992 (พอร์ตแลนด์เก่งที่สุด ฝั่งตะวันตกเก่งที่สุด) 1063 00:58:11,910 --> 00:58:15,580 เมื่อไม่มีทั้งไรลีย์และอับดุล-จาบบาร์ ยุคแห่งโชว์ไทม์อาจจะจบลงแล้ว 1064 00:58:15,664 --> 00:58:18,750 แต่ภายใต้การนำของแมจิค ทีมเลเกอร์สยังคงเล่นต่อ 1065 00:58:18,833 --> 00:58:21,920 ปีนี้ทีมของเขามีสถิติดีที่สุดในลีค 1066 00:58:22,003 --> 00:58:24,589 ผมอยากพิสูจน์ให้คนเห็นว่า คือ 1067 00:58:24,673 --> 00:58:27,467 เรายังประสบความสำเร็จได้ถึงจะไม่มีคารีม 1068 00:58:29,803 --> 00:58:32,889 และผมอยากแข่งกับทีมชิคาโกบูลส์ 1069 00:59:33,700 --> 00:59:35,702 คำบรรยายโดย ปัทมวรรณ บูรณมาตร์