1 00:00:06,089 --> 00:00:09,926 ‎(สารคดีจาก NETFLIX) 2 00:00:11,177 --> 00:00:14,639 ‎ถ้าไม่ใช่เพราะบิล รัสเซลล์ ‎คว้าแชมป์มาได้มากมายขนาดนั้น 3 00:00:14,723 --> 00:00:18,184 ‎จะมีใครพูดถึงทีมบอสตันเซลติกส์มั้ย ไม่มีหรอก 4 00:00:18,268 --> 00:00:20,812 ‎ล้อเล่นรึเปล่า เรื่องนี้ไม่ต้องเถียงกันเลย 5 00:00:20,895 --> 00:00:23,481 ‎เขายิ่งใหญ่ที่สุด เป็นผู้ชนะที่โดดเด่นที่สุด 6 00:00:23,565 --> 00:00:26,401 ‎เท่าที่เคยเห็นกันมาในประวัติศาสตร์บาสเกตบอล 7 00:00:26,985 --> 00:00:30,739 ‎แล้วมือเขามีอะไรรู้ไหม ‎มีแหวนเยอะจนนิ้วใส่ไม่พอเลยไง 8 00:00:31,406 --> 00:00:35,410 ‎แหวนแชมป์เจ็ดวง ใครจะเทียบเขาได้ 9 00:00:35,493 --> 00:00:37,370 ‎สมัยนี้ไม่มีทางเจอผู้ชนะขนาดนั้นอีกแล้ว 10 00:00:37,454 --> 00:00:40,165 ‎เขาชนะพระเจ้าได้ด้วยซ้ำ เขาคือบิ๊กแบง 11 00:00:40,790 --> 00:00:44,919 ‎เขาได้แชมป์ 11 สมัย ‎สองสมัยชนะในฐานะทั้งผู้เล่นและโค้ช 12 00:00:45,003 --> 00:00:49,299 ‎เขาได้รับเลือกเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าที่สุด ‎ของเอ็นบีเอห้าครั้ง 13 00:00:50,300 --> 00:00:53,470 ‎มรดกของบิล รัสเซลล์ ผู้บุกเบิกกีฬานี้ 14 00:00:54,262 --> 00:01:00,018 ‎เขาสร้างสุดยอดทีมกีฬาเท่าที่เคยมีมา 15 00:01:00,810 --> 00:01:03,730 ‎ทุกคนในลีก เวลาคิดถึงบิล รัสเซลล์ 16 00:01:03,813 --> 00:01:04,898 ‎คิดถึงชัยชนะครับ 17 00:01:04,981 --> 00:01:08,193 ‎เขาเอาชนะได้โดยไม่ต้องทำคะแนนเอง ‎ไม่มีใครทำได้แบบนั้น 18 00:01:08,276 --> 00:01:11,362 ‎เขาเป็นผู้เล่นที่ฉลาดที่สุดที่เคยลงสนาม 19 00:01:11,446 --> 00:01:15,283 ‎บิลขู่ทุกคนที่พยายามเข้าทำคะแนน ‎ให้กลัวหัวหดกันไปหมด 20 00:01:15,366 --> 00:01:19,329 ‎เพราะรัสเซลล์ ผมเลยไม่ชอบสีเขียว ‎ไม่ชอบซุปหอยบอสตัน 21 00:01:19,412 --> 00:01:21,623 ‎ผมไม่ชอบอะไรที่เป็นบอสตันเลย 22 00:01:21,706 --> 00:01:27,128 ‎ทุกทีม ผู้เล่นทุกคนในลีกตอนนั้น ‎พยายามจะโค่นทีมเขาให้ได้ 23 00:01:27,212 --> 00:01:29,422 ‎และมีคนเดียวที่เกือบทำได้ 24 00:01:30,048 --> 00:01:32,801 ‎เป็นการต่อกรกันที่ถึงพริกถึงขิง ฝีมือพอกัน 25 00:01:32,884 --> 00:01:37,305 ‎เหมือนปีศาจในตำนานสองตน ‎เหมือนยักษ์ไททันแย่งชิงแหวนกัน 26 00:01:37,388 --> 00:01:40,517 ‎เป็นศึกมหากาพย์ นั่นคือสิ่งที่พวกเรามาดู 27 00:01:40,600 --> 00:01:44,479 ‎แชมเบอร์เลนยืนตระหง่านค้ำหัวเขา ‎คุมผู้เล่นทุกคนได้หมด 28 00:01:44,562 --> 00:01:46,147 ‎เขาอยู่ไปทั่วสนาม 29 00:01:46,231 --> 00:01:50,985 ‎แต่เขาไม่ได้ตัวเลขที่สำคัญ ‎และนั่นคือการชนะตำแหน่งแชมป์ 30 00:01:53,196 --> 00:01:56,950 ‎ผู้ได้รับเหรียญเสรีภาพในปีนี้ ‎เป็นผู้เผยให้เห็นตัวตนที่ดีที่สุดของเรา 31 00:01:57,033 --> 00:01:58,827 ‎และตัวตนที่เราอยากจะเป็น 32 00:01:59,577 --> 00:02:01,788 ‎เขาเป็นยิ่งกว่านักกีฬาแห่งยุค 33 00:02:01,871 --> 00:02:04,415 ‎บิล รัสเซลล์กลายเป็นนิยามของ "ผู้ชนะ" 34 00:02:04,499 --> 00:02:07,168 ‎บิล รัสเซลล์ ‎เมื่ออยู่นอกสนามก็เป็นชายซึ่งยืนหยัด 35 00:02:07,252 --> 00:02:09,420 ‎ต่อสู้เพื่อสิทธิ์และเกียรติศักดิ์ศรีของทุกคน 36 00:02:09,921 --> 00:02:11,673 ‎เขาเดินขบวนกับมาร์ติน ลูเธอร์ คิง 37 00:02:11,756 --> 00:02:13,091 ‎เขายืนหยัดเคียงข้างอาลี 38 00:02:13,174 --> 00:02:16,219 ‎เขากรุยทางเพื่อความสำเร็จ ‎ของคนรุ่นหลังมากมายที่ตามมา 39 00:02:16,302 --> 00:02:19,139 ‎ข้อดีของผู้นำคือการทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง 40 00:02:19,222 --> 00:02:22,517 ‎เขาเปลี่ยนกฎมากมาย ‎ทำลายสิ่งกีดขวางที่เคยมี 41 00:02:22,600 --> 00:02:25,895 ‎บิลสู้เพื่ออะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น 42 00:02:25,979 --> 00:02:30,150 ‎สู้เพื่อการได้อยู่บนสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน 43 00:02:30,233 --> 00:02:31,609 ‎กับชาวอเมริกันผิวขาว 44 00:03:16,029 --> 00:03:22,994 ‎(บิล รัสเซลล์: เจ้าตำนาน) 45 00:03:27,749 --> 00:03:28,875 ‎(31 กรกฎาคม ปี 2022) 46 00:03:28,958 --> 00:03:30,543 ‎ช่วงก่อนหน้าของวันนี้มีการประกาศ 47 00:03:30,627 --> 00:03:35,381 ‎ตำนานบาสเกตบอลทีมบอสตันเซลติก ‎บิล รัสเซลล์ เสียชีวิตด้วยวัย 88 ปี 48 00:03:37,050 --> 00:03:40,929 ‎แต่คืนนี้เราจะระลึกถึงเขา ‎ในฐานะนักกีฬาและนักเคลื่อนไหว 49 00:03:41,554 --> 00:03:45,266 ‎ผลงานของบิลตลอดชีวิต ‎ทั้งในและนอกสนาม 50 00:03:45,350 --> 00:03:48,102 ‎ช่วยปลุกปั้นนักกีฬารุ่นหลังให้ดียิ่งขึ้น 51 00:03:48,186 --> 00:03:49,938 ‎และเราก็จะซาบซึ้งในความดีนั้นตลอดไป 52 00:03:50,021 --> 00:03:52,774 ‎เราอยู่ที่หน้ารูปปั้นที่ทำพิธีเปิดเมื่อปี 2013 53 00:03:52,857 --> 00:03:56,361 ‎วันนี้คนแวะมาที่นี่ทั้งวัน แบ่งปันเรื่องราว 54 00:03:56,444 --> 00:03:59,072 ‎และช่วยรังสรรค์ภาพอิทธิพลของรัสเซลล์ 55 00:03:59,155 --> 00:04:01,950 ‎(บิล รัสเซลล์ - 10,000 แต้ม ‎12 ธันวาคม 1964) 56 00:04:02,033 --> 00:04:04,452 ‎ตอนที่บิลจากไป ผมไม่อยากจะเชื่อ 57 00:04:04,535 --> 00:04:08,456 ‎แต่พอย้อนคิดถึงเรื่องดีๆ ที่เขาทำมาในชีวิต 58 00:04:08,539 --> 00:04:10,917 ‎พร้อมกับผลงานที่เขามอบไว้แก่มนุษยชาติ 59 00:04:11,000 --> 00:04:12,752 ‎นั่นต่างหากที่สำคัญ 60 00:04:13,753 --> 00:04:15,713 ‎เจ็ดเดือนก่อนจะเสียชีวิต 61 00:04:15,797 --> 00:04:18,967 ‎รัสเซลล์เปิดประมูลของสะสมส่วนตัว 62 00:04:21,594 --> 00:04:24,097 ‎ทั้งหมดเป็นของสะสมส่วนตัว ‎ส่วนหนึ่งของนักกีฬาอายุ 87 ปี 63 00:04:24,180 --> 00:04:28,476 ‎รวมทั้งแหวนที่ระลึกแชมป์ ‎ถ้วยผู้เล่นทรงคุณค่าและเสื้อกีฬาที่ใส่แข่ง 64 00:04:28,559 --> 00:04:32,188 ‎รายได้ส่วนหนึ่งจะแบ่งเข้า ‎การกุศลของรัสเซลล์ "เมนทอร์" 65 00:04:32,272 --> 00:04:35,608 ‎องค์กรซึ่งอุทิศให้กับสิ่งที่เขาทุ่มเทมาตลอดชีวิต 66 00:04:35,692 --> 00:04:38,569 ‎ซึ่งก็คือการสร้างช่องทางเปิดโอกาส ‎ให้เด็กรุ่นใหม่ทุกคน 67 00:04:40,113 --> 00:04:44,701 ‎ผมก็อยากได้ของพวกนั้นบ้างเหมือนกัน ‎เขาดีต่อผมมาตลอด 68 00:04:44,784 --> 00:04:45,618 ‎เขาเป็น… 69 00:04:45,702 --> 00:04:49,622 ‎สิ่งที่เขาทำเพื่อขบวนการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ‎ในประเทศนี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเทียบได้ 70 00:04:49,706 --> 00:04:51,791 ‎(นักกีฬาเซลติกส์ห้าคนไม่ยอมลงเล่น ‎หลังจากถูกแบ่งสีผิวให้บริการ) 71 00:04:51,874 --> 00:04:56,546 ‎ผมอยากเก็บแหวนทั้ง 11 วงของเขาไว้ ‎ไม่มีใครประมูลแข่งผมได้ 72 00:04:56,629 --> 00:05:00,842 ‎ผมน่าจะอยากได้ต้นฉบับ ‎หนังสือสักเล่มของเขา 73 00:05:00,925 --> 00:05:03,845 ‎อย่างเช่น ร่างแรกต้นฉบับของ "เซคันด์วินด์" 74 00:05:03,928 --> 00:05:06,014 ‎แบบนั้นก็คงจะพิเศษเหมือนกัน 75 00:05:06,097 --> 00:05:08,182 ‎ให้ 950,000 ผู้ซื้อออนไลน์ 76 00:05:08,266 --> 00:05:09,559 ‎เรียกครั้งที่สาม ครั้งสุดท้าย 77 00:05:11,561 --> 00:05:14,814 ‎ขายที่ 950,000 ให้ผู้ซื้อออนไลน์ 78 00:05:16,774 --> 00:05:20,945 ‎(เซลติกส์ - ยินดีต้อนรับสู่บอสตัน) 79 00:05:21,362 --> 00:05:24,157 ‎กีฬาบาสเกตบอลเริ่มต้นและจบที่นาฬิกา 80 00:05:24,240 --> 00:05:25,950 ‎เหมือนอาชีพนักบาสเกตบอล 81 00:05:30,913 --> 00:05:34,542 ‎เมื่ออยู่นอกสนาม ‎เราไม่ค่อยมีจุดยึดโยงง่ายๆ แบบนั้น 82 00:05:34,625 --> 00:05:37,211 ‎ที่จะบอกได้ว่าเหตุต่างๆ ‎เริ่มขึ้นและจบลงที่ตรงไหน 83 00:05:40,048 --> 00:05:42,425 ‎ปกติแล้วมันก็ขึ้นกับว่าเราเริ่มจากจุดไหน 84 00:05:42,508 --> 00:05:43,968 ‎และเรามีมุมมองอย่างไร 85 00:05:45,595 --> 00:05:49,682 ‎(ยินดีต้อนรับสู่บอสตัน) 86 00:05:53,436 --> 00:05:58,733 ‎ในเดือนธันวาคมปี 1965 บิลกับโรส รัสเซลล์ ‎มาถึงสนามบินโลแกนของบอสตัน 87 00:05:58,816 --> 00:06:01,611 ‎ทั้งสองเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ 88 00:06:02,195 --> 00:06:05,198 ‎ตอนที่เข้าทีมเซลติกส์ ผมไม่เคยมาบอสตันเลย 89 00:06:05,782 --> 00:06:09,786 ‎ไม่เคย จนกระทั่งมาถึงเพื่อเซ็นสัญญา 90 00:06:09,869 --> 00:06:14,582 ‎บิลเป็นแชมป์ระดับมหาวิทยาลัย ‎และได้เหรียญทองโอลิมปิกมาแล้ว 91 00:06:15,541 --> 00:06:19,629 ‎และตอนนี้ แฟนๆ เซลติกส์หวังว่า ‎บิลจะนำตำแหน่งแชมป์มาให้เมืองนี้บ้าง 92 00:06:33,726 --> 00:06:37,855 ‎ผมเพิ่งอายุ 22 และยังไม่เริ่มหัดโกนหนวด 93 00:06:37,939 --> 00:06:40,733 ‎ผมเลยมีหนวดแพะจุ๋มจิ๋มอย่างที่เขาเรียกกัน 94 00:06:41,984 --> 00:06:45,405 ‎คำถามแรกของนักข่าว ‎ที่ถามในงานแถลงครั้งแรกสุดคือ 95 00:06:45,488 --> 00:06:47,740 ‎"เมื่อไหร่จะโกนหนวดออก" 96 00:06:47,824 --> 00:06:51,077 ‎ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อน ‎เลยบอกว่า "เอางี้นะ" 97 00:06:51,619 --> 00:06:55,164 ‎"ไว้เซลติกส์ชนะได้แชมป์ครั้งแรก ‎ผมจะโกน" 98 00:06:56,457 --> 00:06:59,544 ‎("งานแรกของรัสเซลล์ ‎ต้องเรียกความมั่นใจของเซลติกส์" อาวร์แบค) 99 00:07:02,213 --> 00:07:06,175 ‎คนนึกว่าเพิ่งแข่งโอลิมปิกมา ‎ร่างกายเขาคงจะฟิตมาก แต่ไม่ฟิตเลย 100 00:07:06,259 --> 00:07:10,388 ‎เขาบอกว่า "ไม่เคยรู้เลยว่า ‎กีฬาอาชีพจะเป็นแบบนั้น โหดมาก" 101 00:07:11,514 --> 00:07:15,309 ‎ผมพลาดช่วงต้นของฤดูกาลนั้น ‎ร่างกายก็ไม่ฟิต 102 00:07:15,393 --> 00:07:18,563 ‎ผมไม่ได้แตะลูกบาสเกตบอลมาหนึ่งเดือน 103 00:07:19,981 --> 00:07:23,901 ‎ผมเข้ามาเล่นอาชีพ ‎โดยไม่ค่อยมั่นใจฝีมือยิงลูกของตัวเอง 104 00:07:23,985 --> 00:07:27,029 ‎กองแช่งของผมมักพูดว่า ‎ผมไม่มีทางเล่นอาชีพได้รอด 105 00:07:27,113 --> 00:07:30,074 ‎เพราะผมยิงลูกจากระยะไกลกว่าสามฟุตไม่แม่น 106 00:07:31,033 --> 00:07:35,538 ‎ดังนั้นสิ่งเดียวที่ผมอยากจะทำ ‎จึงเป็นการยิงจากวงนอก 107 00:07:36,330 --> 00:07:40,793 ‎แน่นอน ผมยิงแทบไม่เข้าเลย ‎และเมื่อพลาด คนก็ส่ายหน้า 108 00:07:40,877 --> 00:07:43,504 ‎แล้วพูดว่า "เข้าใจที่พูดรึยัง เขาเล่นไม่เป็น" 109 00:07:46,632 --> 00:07:50,094 ‎สื่อบอสตันตั้งคำถามว่า ‎รัสเซลล์จะมีประโยชน์ต่อทีมจริงหรือ 110 00:07:50,178 --> 00:07:52,972 ‎และเทียบฝีมือชั่วงต้นๆ ของเขากับหน้าใหม่อีกคน 111 00:07:53,055 --> 00:07:56,767 ‎ทอมมี่ ไฮน์ซอห์น ‎ซึ่งเป็นนักทำแต้มชั้นนำตลอดกาลจากโฮลี่ครอส 112 00:07:57,810 --> 00:08:00,354 ‎สื่อบอสตันไม่รู้ว่ารัสเซลล์เก่งเรื่องไหน 113 00:08:00,938 --> 00:08:04,317 ‎คนไม่คิดว่ารัสเซลล์ ‎จะมาเป็นตัวสำคัญในเอ็นบีเอ 114 00:08:04,400 --> 00:08:08,029 ‎เขาอาจเลย์อัพขึ้นไปยิงแต่ลูกข้ามกระดานไป ‎เขาไม่ถนัดเล่นเกมรุกเลย 115 00:08:08,112 --> 00:08:12,158 ‎จนกระทั่งเราไม่อาจนึกภาพว่า ‎รัสเซลล์จะช่วยสโมสรบาสได้ยังไง 116 00:08:12,241 --> 00:08:14,035 ‎(รัสเซลล์ไม่อาจช่วยเซลติกส์) 117 00:08:14,118 --> 00:08:17,163 ‎ยิ่งต้องเดินทางไปแข่งนอกบ้านบ่อยๆ ‎รัสเซลล์ยิ่งไม่ได้พัก 118 00:08:18,122 --> 00:08:22,960 ‎ที่สนามกีฬาคีล ‎คืนธันวาคม 1956 นั้นคนนั่งกันเต็ม 119 00:08:23,794 --> 00:08:26,964 ‎ตอนเริ่มแข่ง ‎ผมกับบ๊อบ เพทิตของทีมฮอว์คส์จั๊มป์แย่งกัน 120 00:08:27,507 --> 00:08:30,801 ‎"ไอ้ดำ!" "กลับแอฟริกาไป ไอ้ลิงบาบูน!" 121 00:08:30,885 --> 00:08:33,679 ‎"ระวังนะ เพทิต เดี๋ยวช็อกโกแลตติดตัว" 122 00:08:34,180 --> 00:08:36,349 ‎ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแฟนๆ ตะโกนด่าใคร 123 00:08:36,849 --> 00:08:39,101 ‎ผมเป็นนักกีฬานิโกรคนเดียวในทั้งสองทีมนั้น 124 00:08:41,604 --> 00:08:46,025 ‎แข่งไปได้ห้าเกม ‎ผมก็เริ่มกังขาในความสามารถตัวเองจริงจัง 125 00:08:46,901 --> 00:08:51,781 ‎กลับมาบ้าน ผมบอกโรสว่า ‎"เราเตรียมเก็บกระเป๋าดีกว่า 126 00:08:51,864 --> 00:08:53,824 ‎น่าจะได้อยู่ที่นี่ไม่นาน" 127 00:09:03,459 --> 00:09:06,212 ‎ก่อนมาอยู่บอสตัน ‎รัสเซลล์ย้ายมาจากย่านเบย์แอเรีย 128 00:09:07,213 --> 00:09:09,465 ‎เขาเรียนหนังสือที่เวสต์โอ๊คแลนด์ 129 00:09:09,549 --> 00:09:11,634 ‎และเข้ามหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก 130 00:09:12,385 --> 00:09:15,638 ‎มหาวิทยาลัยเดียวที่เสนอทุนบาสเกตบอลให้เขา 131 00:09:17,348 --> 00:09:21,727 ‎ในสายตาพวกเราชาวเวสต์โอ๊คแลนด์ ‎ซานฟรานซิสโกเหมือนแดนแปลกใหม่ 132 00:09:22,728 --> 00:09:25,481 ‎สะพานเบย์บริดจ์นั้นพาดผ่าน ‎ช่องว่างทางวัฒนธรรมที่กว้างเสียจน 133 00:09:25,565 --> 00:09:28,067 ‎คนจากสองฟากฟั่งพูดกันคนละภาษา 134 00:09:28,150 --> 00:09:31,529 ‎ผมชอบพูดเล่นเสมอว่า ‎ไม่เคยรู้ว่าคำว่า "แม่" ใช้เดี่ยวๆ ได้ 135 00:09:31,612 --> 00:09:33,739 ‎จนกระทั่งมาถึงซานฟรานซิสโก 136 00:09:34,657 --> 00:09:37,994 ‎แล้วทันใดนั้นผมก็ต้องมาอยู่กลางดงคนขาว 137 00:09:39,745 --> 00:09:42,832 ‎ผมเดินเข้าไปในห้องคอมมอน ‎แล้วมีเด็กปีหนึ่งพูดขึ้น 138 00:09:42,915 --> 00:09:44,959 ‎"เฮ้ย ไอ้หนู แถวบ้านเรียกว่าอะไร" 139 00:09:45,876 --> 00:09:50,047 ‎ผมตอบว่า "ฉันชื่อวิลเลียม รัสเซลล์" ‎เขาบอก "เดี๋ยวตั้งฉายาให้" 140 00:09:50,131 --> 00:09:52,508 ‎ผมบอก "ถ้าตั้งมา ฉันจะอัดให้น่วม" 141 00:09:53,593 --> 00:09:57,096 ‎สมัยที่เรียนยูเอสเอฟ ‎มีนักศึกษาผิวดำทั้งหมดแค่ห้าคน 142 00:09:58,097 --> 00:09:58,931 ‎แค่นั้น 143 00:10:00,057 --> 00:10:03,686 ‎เพื่อนร่วมห้องผมชื่อเค.ซี. โจนส์ 144 00:10:05,313 --> 00:10:07,898 ‎บิลกับเค.ซี. สนิทกันด้วยบาสเกตบอล 145 00:10:07,982 --> 00:10:10,318 ‎และนอกสนามก็คอยช่วยเหลือกัน ‎ให้มีเงินพอใช้ 146 00:10:10,401 --> 00:10:14,780 ‎เราสองคนไม่ได้มีเสื้อผ้ามากมายให้ใส่ไปเรียน 147 00:10:14,864 --> 00:10:18,200 ‎ตอนนั้นผมมีรายได้เดือนละ 30 เหรียญ 148 00:10:18,284 --> 00:10:22,455 ‎เพราะไปรับจ้างตัดหญ้าอะไรแบบนั้น ‎ส่วนรัสเซลล์ไม่มีเลย 149 00:10:22,538 --> 00:10:26,334 ‎ทีนี้ เราจะใช้… เราแบ่งกางเกงในใส่กัน 150 00:10:27,376 --> 00:10:30,838 ‎เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ ‎เราสองคนใช้ขนาดเดียวกันได้ 151 00:10:31,339 --> 00:10:35,968 ‎รัสเซลล์ตัดสินใจทดสอบความเป็นนักกีฬา ‎ด้วยการไปสมัครเล่นกีฬาอีกชนิด 152 00:10:37,219 --> 00:10:40,264 ‎ช่วงหน้าร้อน ผมตัดสินใจไปเล่นกรีฑา 153 00:10:40,348 --> 00:10:42,683 ‎ที่จริงผมตัดสินใจแบบนั้นด้วยสองเหตุผล 154 00:10:43,267 --> 00:10:46,604 ‎มีแต่นักกีฬาทีมมหาวิทยาลัย ‎ถึงจะได้สเวตเตอร์ไปใช้ 155 00:10:46,687 --> 00:10:48,648 ‎ผมจำเป็นต้องมีสเวตเตอร์สักตัว 156 00:10:49,315 --> 00:10:52,151 ‎เหตุผลที่สองคือผมชอบวิ่ง ชอบกระโดด 157 00:10:53,361 --> 00:10:55,571 ‎เขาตัดสินใจไปลงเล่นกรีฑาเอาขำๆ 158 00:10:55,655 --> 00:10:58,699 ‎จู่ๆ ก็ไปเล่นกระโดดสูง ท่าของเขาเก้งก้างมาก 159 00:10:58,783 --> 00:11:01,327 ‎โดดเอาหน้าเข้าข้ามราว 160 00:11:02,161 --> 00:11:04,080 ‎เขาโดดคนละท่ากับทุกคน 161 00:11:04,163 --> 00:11:08,250 ‎เขาจะถอยไป 50 หลา ‎เริ่มวิ่งช้าๆ แล้วสะสมความเร็ว 162 00:11:08,334 --> 00:11:11,629 ‎จนได้ความเร็ว 160 กม.ต่อชั่วโมงแล้วค่อยโดด 163 00:11:11,712 --> 00:11:13,881 ‎เขาโดดได้ 200 ถึง 205 เซนติเมตร 164 00:11:13,964 --> 00:11:17,468 ‎เท่ากับว่าตั้งแต่เริ่ม ‎เขาก็แทบจะเป็นนักกระโดดสูงระดับโลกแล้ว 165 00:11:18,844 --> 00:11:21,722 ‎แต่เมื่อเขาพยายาม ‎นำความเชี่ยวชาญการกระโดดสูง 166 00:11:21,806 --> 00:11:25,226 ‎มาใช้ในสนามบาสเกตบอล โค้ชทุกคนต่างห้าม 167 00:11:27,311 --> 00:11:32,358 ‎เราไปเล่นกับแคล-เบิร์กลีย์ ‎เซ็นเตอร์เขาเป็นคนขาวอเมริกันแท้ๆ มือเก๋า 168 00:11:33,192 --> 00:11:35,611 ‎ห้าลูกแรกที่เขายิงมา ผมบล็อกได้หมด 169 00:11:37,279 --> 00:11:40,241 ‎คนในโรงยิมไม่เคยมีใครเห็นอะไรแบบนั้น 170 00:11:40,324 --> 00:11:43,327 ‎เขาเลยเรียกเวลานอก ผมเข้าไปฟัง 171 00:11:43,411 --> 00:11:46,163 ‎โค้ชบอกว่า "เล่นเกมรับแบบนั้นไม่ได้" 172 00:11:47,665 --> 00:11:50,042 ‎"ทีมรับที่ดีจะไม่โดดเท้าลอย" 173 00:11:50,126 --> 00:11:52,628 ‎"นายโดดขึ้นไปบล็อกไม่ให้ยิง" เล่นแบบนั้นไม่ได้ 174 00:11:53,963 --> 00:11:55,965 ‎ผมเลยกลับลงสนามแล้วลองไม่โดด 175 00:11:56,048 --> 00:11:58,884 ‎หมอนั่นเลย์อัพยิงได้สามลูกติด 176 00:11:58,968 --> 00:12:01,011 ‎ผมเลยกลับไปเล่นวิธีของผม 177 00:12:04,348 --> 00:12:07,226 ‎รัสเซลล์กับความสูง 208 ซม. ‎โดดตบลูกออกไปง่ายๆ แบบนั้น 178 00:12:08,728 --> 00:12:12,440 ‎เรียกได้ว่าบิล รัสเซลล์เป็นคนคิดค้น ‎การเล่นเกมรับของบาสเกตบอลสมัยใหม่ 179 00:12:12,940 --> 00:12:16,110 ‎เขาเปลี่ยนจากที่เล่นแนวราบตามสนาม 180 00:12:16,193 --> 00:12:20,614 ‎ที่ส่วนใหญ่นักกีฬาผิวขาวขาติดพื้นเล่นกัน ‎มาเป็นการแข่งที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ 181 00:12:20,698 --> 00:12:23,117 ‎วิธีของบิล เราจะเห็นได้จากเทป 182 00:12:23,200 --> 00:12:26,537 ‎เขาไม่ได้ตบเพื่อให้คนต้องอาย ตบให้ออก 183 00:12:26,620 --> 00:12:29,832 ‎เขายังคุมให้ลูกอยู่ในสนาม ‎เพราะมันก็เหมือนรีบาวด์ 184 00:12:29,915 --> 00:12:32,251 ‎ฝ่ายรุกอยู่ด้านนอก ฝ่ายรับอยู่ด้านใน 185 00:12:32,334 --> 00:12:35,171 ‎ถ้าเขาชิงลูกมาได้ เพื่อนร่วมทีมสักคน 186 00:12:35,254 --> 00:12:38,591 ‎จะรับลูกได้เร็วกว่า ทำให้เล่นเร็วได้ 187 00:12:38,674 --> 00:12:41,135 ‎ความสามารถในการเดาทางลูกของเขา ‎สูงทะลุกราฟ 188 00:12:41,635 --> 00:12:43,721 ‎เขาจะโดดขึ้นไปบล็อก 189 00:12:43,804 --> 00:12:46,557 ‎แล้วถ้าเขาบล็อกไม่ให้ยิงได้เลย 190 00:12:46,640 --> 00:12:49,059 ‎ไม่งั้นก็จะทำให้เรายิงนกยิงไม้ 191 00:12:49,143 --> 00:12:52,229 ‎หรือยิงเบี้ยวไปไหน หรือยิงท่าที่ยังไงก็ไม่ลง 192 00:12:53,481 --> 00:12:57,401 ‎การเล่นเกมรับของรัสเซลล์ ‎ทำให้ทีมยูเอสเอฟดอนส์กลายเป็นทีมไร้พ่าย 193 00:12:59,361 --> 00:13:01,822 ‎เขาขึ้นยิง ลงไปสวยๆ 194 00:13:01,906 --> 00:13:03,324 ‎ดอนส์ชนะอีกแล้ว 195 00:13:04,074 --> 00:13:07,536 ‎ทีมดอนส์ที่บิล รัสเซลล์เล่นให้ ‎ชนะ 55 เกมรวด 196 00:13:08,037 --> 00:13:10,790 ‎และได้แชมป์เอ็นซีเอเอสองสมัยติดกัน 197 00:13:10,873 --> 00:13:13,793 ‎บิล รัสเซลล์ถือเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าที่สุด 198 00:13:17,087 --> 00:13:18,798 ‎แค่ดูที่เขาเล่น 199 00:13:18,881 --> 00:13:22,426 ‎ดูการข่มขวัญคนในทีมระดับมหาวิทยาลัยทั้งทีม 200 00:13:22,510 --> 00:13:23,761 ‎นั่นมันพิเศษมาก 201 00:13:23,844 --> 00:13:29,391 ‎เขาเป็นเหตุผลเดียวที่ทีมนั้นชนะได้ 202 00:13:29,475 --> 00:13:34,146 ‎แต่รางวัลและอะไรๆ ที่ควรเป็นของเขา 203 00:13:34,230 --> 00:13:35,189 ‎เขาไม่ได้รับ 204 00:13:35,898 --> 00:13:41,195 ‎ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีสาม ‎เฉลี่ยแล้วผมได้เกมละกว่า 20 แต้ม 20 รีบาวด์ 205 00:13:41,278 --> 00:13:43,656 ‎เกมนึงผมบล็อกได้มากกว่า 15 ช็อต 206 00:13:44,240 --> 00:13:46,534 ‎ผมเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าที่สุดในการแข่งชิงแชมป์ 207 00:13:46,617 --> 00:13:50,454 ‎พอกลับบ้าน เจองานเลี้ยง ‎สมาคมบาสแคลิฟอร์เนียเหนือ 208 00:13:50,538 --> 00:13:53,249 ‎เขากลับเลือกคนอื่นเป็นนักกีฬาแห่งปีเฉยเลย 209 00:13:53,332 --> 00:13:56,293 ‎ผมดูแล้ว ‎คุณสมบัติเดียวของเขาคือผมทอง 210 00:13:56,377 --> 00:13:58,087 ‎พวกนั้นรู้ตัวนะว่ามันน่าเกลียด 211 00:13:58,170 --> 00:14:02,299 ‎เขาเลยสั่งโค้ชให้มาบอกผม ‎"ลุกขึ้นไปพูดอะไรหน่อย 212 00:14:02,383 --> 00:14:06,512 ‎ยินดีกับเด็กนั่น หวังว่าปีหน้าจะชนะบ้าง'" 213 00:14:06,595 --> 00:14:08,472 ‎ผมบอก "ผมไม่ทำหรอก" 214 00:14:11,851 --> 00:14:15,938 ‎การได้แชมป์มหาวิทยาลัยแห่งชาติสองปีซ้อน ‎เป็นปรากฏการณ์ใหม่ 215 00:14:16,981 --> 00:14:19,859 ‎แต่ผมว่าคนไม่ชอบใจกันหรอก 216 00:14:19,942 --> 00:14:24,154 ‎การที่นักกีฬาผิวดำสามคน ‎เป็นตัวจริงของทีมซานฟรานซิสโก 217 00:14:24,238 --> 00:14:26,782 ‎มีหลายที่ซึ่งพวกเขาไปเล่นและไม่ได้รับอนุญาต 218 00:14:26,866 --> 00:14:29,785 ‎ให้เข้าห้องพักหรือกินอาหารในร้าน 219 00:14:32,329 --> 00:14:35,374 ‎เรื่องที่เกิดขึ้นคือผมออกจากโรงแรม 220 00:14:35,457 --> 00:14:38,043 ‎แล้วเข้าไปที่ร้านอาหารแถวนั้น 221 00:14:38,127 --> 00:14:40,379 ‎ผมบอกว่าขออะไรกินหน่อย 222 00:14:42,131 --> 00:14:45,342 ‎เขาบอกว่าจะกินก็ได้ แต่ต้องไปกินในครัว 223 00:14:45,426 --> 00:14:49,179 ‎ผมจึงปฏิเสธ กลับโรงแรมแล้วเข้านอนเลย 224 00:14:50,598 --> 00:14:55,185 ‎ปี 1955 เกิดเหตุการณ์สองเรื่อง ‎ที่ติดใจผมมาตลอดชีวิต 225 00:14:55,269 --> 00:14:59,982 ‎เด็กหนุ่มอายุ 14 ปีชื่อเอ็มเมตต์ ทิล ‎ถูกชายผิวขาวสองคนฆ่า 226 00:15:00,065 --> 00:15:02,443 ‎เพราะสงสัยว่าเขาไปหลู่เกียรติสตรีผิวขาว 227 00:15:02,985 --> 00:15:06,280 ‎แม่ของเขายืนยันให้จัดงานศพแบบเปิดโลง 228 00:15:06,363 --> 00:15:10,075 ‎เพื่อให้โลกเห็นความโหดร้าย ‎ที่ผู้คนทำต่อลูกชายของเธอ 229 00:15:11,577 --> 00:15:15,039 ‎ปีเดียวกันนั้น ‎โรซ่า พาร์ค ช่างตัดเสื้อผิวดำ 230 00:15:15,122 --> 00:15:18,292 ‎ถูกจับเพราะปฏิเสธไม่ยอมลุกให้ผู้โดยสารผิวขาว 231 00:15:18,375 --> 00:15:20,711 ‎บนรถประจำทางเมืองมอนต์โกมอรี รัฐอลาบามา 232 00:15:21,879 --> 00:15:24,465 ‎ถึงเวลาที่จะไม่ทนอีกต่อไป 233 00:15:24,548 --> 00:15:27,718 ‎ฉันทนมาพอแล้ว นี่คือจุดสิ้นสุดจริงๆ 234 00:15:30,137 --> 00:15:33,474 ‎การเป็นวัยรุ่นผิวดำในช่วงปี 1950 235 00:15:34,350 --> 00:15:38,896 ‎ช่วงเวลาเหล่านั้นชีวิตต้องลำบากมาก 236 00:15:38,979 --> 00:15:39,980 ‎ถึงอย่างนั้น 237 00:15:41,315 --> 00:15:43,359 ‎เขาก็ยังวางเรื่องพวกนั้นไว้ก่อน 238 00:15:43,442 --> 00:15:49,198 ‎และลงสนามไปเล่นกีฬาด้วยทักษะชั้นยอดที่สุด 239 00:15:50,532 --> 00:15:54,453 ‎ผมตัดสินใจจะเป็นนักบาสเกตบอลชั้นเยี่ยม 240 00:15:54,536 --> 00:15:58,040 ‎ทุกอย่างในใจผมก็ทุ่มเทไปกับการตัดสินใจครั้งนั้น 241 00:15:58,123 --> 00:16:01,961 ‎ความโกรธและความสงสัยทั้งหลาย ‎หลอมรวมกันด้วยจุดประสงค์เดียว 242 00:16:12,638 --> 00:16:14,598 ‎(เมืองมอนโร รัฐลุยเซียนา) 243 00:16:14,807 --> 00:16:17,142 ‎บิล รัสเซลล์โตมาในรัฐตอนใต้ ‎ที่มีกฎหมายจิม โครว์ 244 00:16:17,226 --> 00:16:20,562 ‎เขาเป็นเด็กยุค 1930 ที่เมืองมอนโร ลุยเซียนา 245 00:16:20,646 --> 00:16:24,942 ‎รูปแบบรัฐใต้กฎจิม โครว์ ‎คือการลิดรอนสิทธิ์เสียงของคนดำ 246 00:16:25,025 --> 00:16:29,488 ‎ริบสิทธิ์ในการเลือกตั้ง ‎กีดกันแบ่งแยกพื้นที่ทางกายภาพ 247 00:16:29,571 --> 00:16:32,157 ‎รวมถึงการใช้ความรุนแรง การโบยตีทำร้าย 248 00:16:34,743 --> 00:16:36,537 ‎กฎจิม โครว์คือการใช้อำนาจบังคับ 249 00:16:36,620 --> 00:16:39,248 ‎ให้ชาวแอฟริกันอเมริกันเป็นพลเมืองชั้นสอง 250 00:16:39,832 --> 00:16:44,211 ‎ผมรู้ว่าอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งแบ่งแยกสีผิวเต็มรูปแบบ 251 00:16:45,087 --> 00:16:48,841 ‎ผมมองชีวิตตัวเอง โดยเฉพาะสมัยยังเด็ก 252 00:16:48,924 --> 00:16:50,467 ‎เป็นชีวิตที่อยู่ในกรอบไม่รู้เรื่องรู้ราว 253 00:16:51,802 --> 00:16:55,222 ‎พ่อแม่คอยดูแลไม่ให้ผมเจออันตราย 254 00:16:56,974 --> 00:17:00,144 ‎พ่อผมมีประสบการณ์ตรงกับชีวิตทาส 255 00:17:00,936 --> 00:17:02,855 ‎พ่อสืบเชื้อสายห่างจากคนเป็นทาสแค่รุ่นเดียว 256 00:17:02,938 --> 00:17:04,898 ‎คนในครอบครัวของพ่อก็เคยเป็นทาส 257 00:17:04,982 --> 00:17:07,651 ‎ทาสเป็นรูปแบบการเหยียดหยามชีวิตคนที่สุด 258 00:17:07,735 --> 00:17:11,030 ‎พ่อจึงทำทุกทางเพื่อไม่ให้ได้รับการปฏิบัติ 259 00:17:11,113 --> 00:17:12,990 ‎เหมือนเป็นทาสโดยเด็ดขาด 260 00:17:13,574 --> 00:17:17,828 ‎หนึ่งในเรื่องสำคัญมากสำหรับพ่อ 261 00:17:17,911 --> 00:17:20,122 ‎คือการใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติศักดิ์ศรี 262 00:17:20,205 --> 00:17:22,624 ‎เพื่อให้ลูกๆ ภูมิใจในตัวเขา 263 00:17:28,088 --> 00:17:32,259 ‎ตอนนั้นพ่อทำงานในโรงงาน เขาขอขึ้นเงินเดือน 264 00:17:33,635 --> 00:17:36,346 ‎เจ้านายบอกว่า "ให้ไม่ได้ ชาร์ลี" 265 00:17:37,765 --> 00:17:40,726 ‎"ถ้าขึ้นเงินให้แก แกจะได้เงินเท่ากับคนขาว 266 00:17:40,809 --> 00:17:44,229 ‎ฉันจ่ายให้พวกแกเท่ากับคนขาวไม่ได้" 267 00:17:45,731 --> 00:17:48,275 ‎เขาใช้คำตัวน. กับพ่อด้วย 268 00:17:49,443 --> 00:17:52,196 ‎เหมือนมันเป็นคำ…ทั่วไป 269 00:17:53,489 --> 00:17:55,949 ‎คืนนั้นพ่อเลยกลับบ้าน 270 00:17:56,033 --> 00:17:58,702 ‎พ่อพูดเสียงดังเลยนะ บอกว่า 271 00:18:00,079 --> 00:18:03,457 ‎"ฉันต้องไปจากที่นี่แล้ว เพราะถ้าอยู่ต่อ 272 00:18:05,959 --> 00:18:09,379 ‎ถ้าฉันไม่ฆ่าพวกมันเข้าสักวัน ‎พวกมันจะต้องฆ่าฉัน" 273 00:18:20,432 --> 00:18:23,727 ‎เราอพยพออกจากที่นั่นตอนผมเก้าขวบ 274 00:18:24,311 --> 00:18:25,729 ‎ย้ายไปแคลิฟอร์เนีย 275 00:18:31,193 --> 00:18:33,612 ‎อย่าลืมนะ ผมเป็นแค่เด็กเก้าขวบ 276 00:18:34,571 --> 00:18:37,449 ‎นี่เป็นการผจญภัยครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต 277 00:18:39,034 --> 00:18:40,244 ‎ได้ขึ้นรถไฟ 278 00:18:41,662 --> 00:18:45,290 ‎ได้ไปที่ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไร 279 00:18:51,171 --> 00:18:54,299 ‎การย้ายบ้านทำให้ผมกับพี่ชายตกใจมาก 280 00:18:54,383 --> 00:18:56,051 ‎พวกเราไม่ค่อยได้เดินทางไปไหน 281 00:18:56,135 --> 00:18:58,637 ‎ผมนั่งข้างๆ แม่ในรถไฟตู้คนดำ 282 00:18:58,720 --> 00:19:00,180 ‎ตลอดทางไปจนถึงเซนต์หลุยส์ 283 00:19:02,141 --> 00:19:04,726 ‎จากนั้น เป็นครั้งแรกในชีวิตพวกเราทุกคน 284 00:19:05,394 --> 00:19:06,728 ‎เราจะไปนั่งตรงไหนก็ได้ 285 00:19:14,820 --> 00:19:17,739 ‎การย้ายถิ่นของครอบครัวรัสเซลล์ ‎เป็นส่วนหนึ่งของการอพยพครั้งใหญ่ 286 00:19:17,823 --> 00:19:20,784 ‎ที่ชาวอเมริกันผิวดำย้ายออกจาก ‎รัฐใต้กฎจิม โครว์ 287 00:19:20,868 --> 00:19:23,829 ‎เพื่อไปหาโอกาสที่ดีกว่า ‎ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 288 00:19:30,419 --> 00:19:35,841 ‎บิลเล่าเรื่องที่เขามาถึงแคลิฟอร์เนี่ย ‎ในฐานะของ "ผู้อพยพ" 289 00:19:35,924 --> 00:19:38,886 ‎เพราะเหมือนมาจากคนละประเทศเลยจริงๆ 290 00:19:38,969 --> 00:19:44,016 ‎พวกเขาต้องมาเรียนรู้วิถีของประเทศใหม่ 291 00:19:44,099 --> 00:19:47,519 ‎ซึ่งคนดื่มน้ำจากก๊อกเดียวกันได้ 292 00:19:48,020 --> 00:19:51,106 ‎นั่งที่ไหนบนรถเมล์ก็ได้ 293 00:19:52,691 --> 00:19:55,611 ‎พ่อกับแม่ทำงานท่าเรือ 294 00:19:57,321 --> 00:20:01,825 ‎โรงเรียนก็เป็นโรงเรียนรวมทุกสีผิว ‎นั่นเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ 295 00:20:03,118 --> 00:20:07,164 ‎ผมไม่เคยเห็นคนเล่นบาสเกตบอล ‎หรือได้ยิน… ไม่รู้เลยว่ามีกีฬานี้ 296 00:20:07,664 --> 00:20:11,251 ‎เด็กๆ ไปเอาแป้นกับห่วงมาจากไหนไม่รู้ 297 00:20:11,335 --> 00:20:14,379 ‎ไม่รู้หรอกว่าเอามาจากไหน ‎แต่แน่ใจว่าไม่ได้ซื้อแน่ๆ 298 00:20:16,924 --> 00:20:19,426 ‎ผมเห็นพวกนั้นเล่นบาสเกตบอลอยู่ 299 00:20:19,509 --> 00:20:24,014 ‎ผมเลยเข้าไปเล่นด้วย ก็เล่นไม่เก่งหรอก 300 00:20:24,556 --> 00:20:30,520 ‎เมื่อบิลไปถึงโอ๊คแลนด์ ‎แม่เขาพาไปที่อาคารหลังหนึ่ง 301 00:20:30,604 --> 00:20:32,898 ‎บิลบอกว่าเป็นอาคารหน้าตาแปลกๆ 302 00:20:32,981 --> 00:20:35,150 ‎แม่บอกว่า "แกจะต้องใช้เวลาที่นี่เยอะเลย" 303 00:20:35,234 --> 00:20:39,821 ‎บิลถามว่าแม่หมายถึงอะไร ‎แม่เขาก็ชี้ไปที่ห้องสมุด 304 00:20:39,905 --> 00:20:44,409 ‎ตอนอยู่ลุยเซียนา พวกเขาเข้าห้องสมุดไม่ได้ 305 00:20:44,493 --> 00:20:46,870 ‎คนดำไม่ได้รับอนุญาตให้อ่านหนังสือ 306 00:20:46,954 --> 00:20:50,832 ‎ผมจะไปอ่านหนังสือในห้องสมุด ‎ผมอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ 307 00:20:51,458 --> 00:20:53,627 ‎มีย่อหน้าหนึ่งเขียนไว้ว่า 308 00:20:55,170 --> 00:20:59,967 ‎"ชีวิตทาสในอเมริกานั้นดีกว่าตอนมีเสรีภาพ 309 00:21:00,050 --> 00:21:01,468 ‎สมัยอยู่ที่บ้านเกิดพวกเขาเสียอีก" 310 00:21:03,428 --> 00:21:05,138 ‎ผมทึ่งกับความกล้าเขียน 311 00:21:05,222 --> 00:21:09,017 ‎ผมอายุแค่สิบขวบยังพูดเลยว่าเป็นไปไม่ได้ 312 00:21:09,101 --> 00:21:14,106 ‎เพราะทุกคนบนโลกนี้ต้องการมีเสรีภาพ 313 00:21:17,359 --> 00:21:21,071 ‎ผมมีโลกส่วนตัวของผม ‎และสมบัติที่มีค่าที่สุดตอนนั้น 314 00:21:21,154 --> 00:21:24,157 ‎คือบัตรห้องสมุด ‎จากห้องสมุดประชาชนโอ๊คแลนด์ 315 00:21:24,741 --> 00:21:26,410 ‎ผมไปที่นั่นเกือบทุกวัน 316 00:21:26,493 --> 00:21:30,706 ‎ผมจะยืมสำเนาภาพเขียนกลับไปที่บ้าน 317 00:21:30,789 --> 00:21:33,292 ‎ภาพของดาวินชี ไมเคิลแองเจโล 318 00:21:34,668 --> 00:21:36,586 ‎ภาพเหล่านั้นสะกดผมอยู่หมัด 319 00:21:36,670 --> 00:21:41,300 ‎ผมศึกษาภาพของไมเคิลแองเจโลได้เป็นชั่วโมง ‎พยายามจดจำรายละเอียดทุกอย่าง 320 00:21:41,883 --> 00:21:45,429 ‎ผ่านไปหลายสัปดาห์กว่าผมจะพอใจ ‎จนสามารถหลับตา 321 00:21:45,512 --> 00:21:49,433 ‎และนึกภาพที่คล้ายกับสิ่งที่เห็น ‎จากภาพสำเนาเหล่านั้นได้ 322 00:21:49,516 --> 00:21:52,436 ‎จากนั้นผมจะลองกระตุ้นตัวเอง ‎ให้ทดสอบตัวเอง 323 00:21:52,519 --> 00:21:54,521 ‎แล้ววาดภาพนั้นจากความจำ 324 00:21:55,022 --> 00:21:57,149 ‎ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้ผมหงุดหงิดเสมอ 325 00:22:00,819 --> 00:22:03,780 ‎ตอนนั้นโรงเรียนเพิ่งเปิดเทอม ‎ฤดูใบไม้ร่วงของปี 1946 326 00:22:03,864 --> 00:22:08,076 ‎ผมกลับบ้านมาแล้วพบว่าแม่ต้องเข้าโรงพยาบาล 327 00:22:08,160 --> 00:22:10,704 ‎เขาบอกว่าแม่เป็นไข้หวัดใหญ่ ‎ไม่ได้เป็นอะไรมาก 328 00:22:11,496 --> 00:22:14,624 ‎ตลอดสองสัปดาห์ ‎เวลาไปเยี่ยมแม่ แม่จะหัวเราะ 329 00:22:14,708 --> 00:22:17,544 ‎เราคุยกันว่าแม่ทำให้หมอสับสนใหญ่ 330 00:22:18,211 --> 00:22:21,757 ‎แต่หลังจากไปเยี่ยมครั้งหนึ่ง ‎คุณชาร์ลีก็เข้ามาปลุกเราขณะที่หลับสนิท 331 00:22:21,840 --> 00:22:24,468 ‎แล้วบอกว่า "คุณแม่เสียแล้วคืนนี้" 332 00:22:26,094 --> 00:22:29,431 ‎ผมอายุ 12 ปี แม่จากไปแล้ว 333 00:22:32,642 --> 00:22:35,645 ‎เมื่อคุณแม่เสียชีวิต สมัยนั้น 334 00:22:35,729 --> 00:22:39,691 ‎ธรรมเนียมคือให้ป้าหรือน้าหญิง 335 00:22:39,775 --> 00:22:42,819 ‎มาพาตัวเด็กๆ ไปเลี้ยง 336 00:22:42,903 --> 00:22:46,990 ‎คุณพ่อเขาบอกว่า "ไม่ ฉันจะเอาลูกไปอยู่ด้วย" 337 00:22:47,074 --> 00:22:49,951 ‎"ฉันสัญญากับแม่เด็กไว้" นั่นเหตุผลแรก ‎เหตุผลที่สอง 338 00:22:50,035 --> 00:22:53,330 ‎เขาไม่ยอมให้ใครคนอื่นมาเลี้ยงลูกแทน 339 00:22:53,413 --> 00:22:56,249 ‎แต่สำหรับบิล นั่นเป็นช่วงชีวิตลำบาก 340 00:22:57,876 --> 00:23:02,422 ‎ผมไม่ใช่ผมคนเดิม ‎ผมกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร 341 00:23:03,256 --> 00:23:05,217 ‎ผมรู้สึกกังขาขึ้นมาจริงๆ ว่า 342 00:23:05,300 --> 00:23:08,178 ‎ผมจะประสบความสำเร็จอะไรได้หรือเมื่อไม่มีแม่ 343 00:23:10,430 --> 00:23:14,226 ‎ทุกคนที่พบเจอ ‎ก็รู้สึกว่าผมมีอะไรไม่ปกติสักอย่าง 344 00:23:14,309 --> 00:23:16,269 ‎ที่แย่กว่านั้น ผมเห็นด้วยกับพวกเขา 345 00:23:17,979 --> 00:23:19,856 ‎ผมทำอะไรก็ไม่เก่ง 346 00:23:24,653 --> 00:23:29,574 ‎ตอนเข้าเรียนมัธยมต้น ‎เรามีการแข่ง "กีฬาห้องโฮมรูม" 347 00:23:29,658 --> 00:23:33,203 ‎แต่ละห้องจะส่งคนมาเล่นบาส 15 นาที ‎ช่วงพักกลางวัน 348 00:23:33,286 --> 00:23:35,831 ‎ผมยังเป็นได้แค่ตัวสำรองของทีมโฮมรูม 349 00:23:38,959 --> 00:23:42,212 ‎ตอนนั้นคงไม่มีใครรู้เลยว่า ‎เขาจะกลายเป็นนักกีฬาแบบไหน 350 00:23:42,295 --> 00:23:44,798 ‎เขาเองยังไม่รู้ตัวเลยว่า ‎เขาจะกลายเป็นนักกีฬาแบบไหน 351 00:23:44,881 --> 00:23:50,011 ‎เขาเกิดมากับลักษณะรูปร่าง ‎ในแบบที่เขาเองยังไม่เข้าใจว่ามันดียังไง 352 00:23:50,095 --> 00:23:51,513 ‎และจะใช้เป็นประโยชน์ได้ยังไง 353 00:23:53,598 --> 00:23:58,437 ‎ผมถูกตัดออกจากทีมห้องตอนอยู่ม.ห้า 354 00:23:58,520 --> 00:24:01,606 ‎โค้ชทีมโรงเรียนที่เป็นครูประจำชั้น 355 00:24:01,690 --> 00:24:04,651 ‎ตอนม.ต้นบอกว่า ‎"ดีแล้วที่แกถูกตัดออกจากทีมตอนนั้น 356 00:24:05,819 --> 00:24:08,321 ‎เพราะวันนี้จะได้มาลองเล่นให้ทีมโรงเรียน" 357 00:24:08,905 --> 00:24:13,660 ‎โค้ชจอร์จ โพลส์เห็นศักยภาพในการเล่นของบิล ‎ก่อนที่ตัวเขาเองจะเห็น 358 00:24:15,620 --> 00:24:17,622 ‎จำได้ว่าผมบอกบิล 359 00:24:17,706 --> 00:24:20,834 ‎ให้ไปซ้อมบาสให้มากที่สุดในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน 360 00:24:20,917 --> 00:24:24,880 ‎เพราะฤดูกาลต่อมา ‎เขาจะได้เป็นเซ็นเตอร์ตัวจริงของทีม 361 00:24:24,963 --> 00:24:26,381 ‎เริ่มตั้งแต่เดือนตุลา 362 00:24:27,299 --> 00:24:30,385 ‎เขาบอกว่าจะไปลองเล่นที่บอยส์คลับ 363 00:24:30,469 --> 00:24:31,803 ‎(โอ๊คแลนด์ บอยส์คลับ) 364 00:24:31,887 --> 00:24:33,513 ‎ผมให้เขาไปหนึ่งดอลล่าร์ 365 00:24:33,597 --> 00:24:36,475 ‎นั่นคงเป็นเงินหนึ่งดอลล่าร์ที่คุ้มที่สุดในชีวิต 366 00:24:36,558 --> 00:24:40,103 ‎เพราะเขาเข้าบอยส์คลับ ‎ช่วงหน้าร้อนนั้นด้วยเงินหนึ่งเหรียญ 367 00:24:40,187 --> 00:24:42,397 ‎แล้วก็ไปเล่นบาสตลอดเวลา 368 00:24:44,524 --> 00:24:48,987 ‎ผมเริ่มจริงจังกับกีฬา ‎ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตมัธยม 369 00:24:50,155 --> 00:24:54,284 ‎ผ่านไปได้ครึ่งฤดูกาล ‎ผมก็เริ่มมองและสังเกตสนาม 370 00:24:57,329 --> 00:25:00,290 ‎จู่ๆ ก็รู้ตัวว่าสามารถระบายฝีมือ ‎ในสนามบาสเกตบอล 371 00:25:00,373 --> 00:25:03,043 ‎แบบที่ไม่สามารถทำกับภาพเขียน 372 00:25:04,044 --> 00:25:07,797 ‎ผมนั่งหลับตา ดูเกมต่างๆ ในหัว 373 00:25:10,258 --> 00:25:12,928 ‎เหมือนได้อยู่ในห้องทดลองบาสเกตบอลส่วนตัว 374 00:25:13,011 --> 00:25:14,804 ‎เริ่มสร้างพิมพ์เขียวของตัวเอง 375 00:25:17,599 --> 00:25:19,017 ‎ผมบล็อกคนอื่นได้หลายช็อต 376 00:25:19,100 --> 00:25:22,562 ‎สนุกดีที่ได้ทำตามแผนที่ผมคิดเอาไว้ 377 00:25:23,063 --> 00:25:25,774 ‎บางทีผมก็คิดถูกตั้งแต่ต้น 378 00:25:25,857 --> 00:25:30,487 ‎สำหรับผม นั่นก็เหมือน ‎วาดผืนผ้าใบได้ในระดับไมเคิลแองเจโล 379 00:25:31,154 --> 00:25:33,573 ‎ผมบอกตัวเองว่า "ทำได้แล้ว" 380 00:25:34,324 --> 00:25:39,120 ‎เป็นแนวคิดที่เจ๋งมากเลยนะ ‎เพราะเขาเห็นคนเล่นแค่ครั้งเดียว 381 00:25:39,746 --> 00:25:42,624 ‎และสามารถนึกภาพซ้ำๆ ได้เรื่อยๆ 382 00:25:42,707 --> 00:25:44,834 ‎ก่อนที่จะลองเอาไปเล่นเอง 383 00:25:44,918 --> 00:25:48,213 ‎นั่นกลายเป็นนิสัยติดตัว ‎ก่อนที่จะลองแข่งจริงเสียอีก 384 00:25:51,758 --> 00:25:56,763 ‎รัสเซลล์ใช้แผนเกมรับเหล่านั้น ‎เป็นแม่แบบในการคว้าแชมป์ระดับมหาวิทยาลัย 385 00:25:56,846 --> 00:25:59,307 ‎ก่อนจะเอาไปใช้ในระดับโลก 386 00:25:59,391 --> 00:26:03,019 ‎กับทีมโอลิมปิกชายสหรัฐอเมริกาปี 1956 387 00:26:03,728 --> 00:26:05,605 ‎ตรงนี้คือนักกีฬาชาวอเมริกันแท้ๆ 388 00:26:05,689 --> 00:26:09,734 ‎ไม่เคยแพ้ตลอดฤดูกาล ‎และได้รับเลือกเข้าทีมโอลิมปิก 389 00:26:09,818 --> 00:26:12,237 ‎คุณตั้งตารอจะได้เดินทางกับทีมโอลิมปิกรึเปล่า 390 00:26:12,320 --> 00:26:15,490 ‎ผมก็ตั้งตารอมานานเท่าที่จำความได้ 391 00:26:15,574 --> 00:26:17,534 ‎(การแข่งขันโอลิมปิกปี 1956 ‎เมลเบิร์น ออสเตรเลีย) 392 00:26:18,910 --> 00:26:22,247 ‎สมัยนั้น การแข่งโอลิมปิก ‎สำคัญที่ไปแข่งกีฬากันอย่างเดียว 393 00:26:23,415 --> 00:26:27,043 ‎ไม่สำคัญว่านักกีฬาคนนั้นมาจากไหน 394 00:26:29,296 --> 00:26:34,050 ‎เกมรับที่มีลูกล่อลูกชนของรัสเซลล์ ‎ทำให้ทีมอเมริกาได้เหรียญทอง 395 00:26:34,134 --> 00:26:35,969 ‎ชนะทีมสหภาพโซเวียต 396 00:26:36,052 --> 00:26:40,098 ‎ความตื่นเต้นจริงๆ ส่วนหนึ่งที่ได้เหรียญทอง 397 00:26:41,433 --> 00:26:42,976 ‎คือในจังหวะสั้นๆ ตอนนั้น 398 00:26:43,893 --> 00:26:46,605 ‎เรารู้ว่าเราเก่งที่สุดในโลก 399 00:26:46,688 --> 00:26:50,525 ‎และนั่นเป็นสิ่งที่เราภูมิใจได้เลยจริงๆ 400 00:26:53,528 --> 00:26:56,656 ‎เมื่อได้แชมป์ระดับมหาวิทยาลัยสองครั้ง ‎เหรียญทองอีกหนึ่งเหรียญ 401 00:26:56,740 --> 00:26:58,450 ‎บิลก็พร้อมเล่นในระดับอาชีพแล้ว 402 00:27:00,744 --> 00:27:06,207 ‎ตอนนี้คนไม่รู้กันแล้วล่ะ ‎แต่สมัยนั้น เอ็นบีเอขาวโพลนเลย 403 00:27:06,291 --> 00:27:10,420 ‎ถ้าไปดูภาพถ่ายช่วงต้นๆ ‎มันเป็นลีกที่ส่วนใหญ่มีแต่คนขาว 404 00:27:11,838 --> 00:27:14,924 ‎ระบบโควต้าที่เข้าใจกันโดยไม่ต้องตั้งกฎ ‎คือมีผู้เล่นผิวดำได้หนึ่งคน 405 00:27:15,008 --> 00:27:18,428 ‎เมื่อลีกเริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆ ‎ก็เริ่มให้มีผู้เล่นผิวดำได้สองคน 406 00:27:18,511 --> 00:27:22,015 ‎เหตุผลหนึ่งก็เพราะต้องนอนห้องเดียวกันอยู่แล้ว ‎แต่มากกว่านั้นไม่ได้ 407 00:27:22,599 --> 00:27:26,645 ‎นักกีฬาผิวดำคนแรกที่ได้เข้าเอ็นบีเอ 408 00:27:26,728 --> 00:27:29,147 ‎คือชัค คูเปอร์จากดูเคย์น 409 00:27:29,648 --> 00:27:35,111 ‎การตัดสินใจครั้งนั้นมาจาก ‎โค้ชทีมบอสตันเซลติกส์ เร้ด อาวร์แบค 410 00:27:36,571 --> 00:27:40,367 ‎อาวร์แบคไม่สนใจความขัดแย้งเรื่องสีผิว 411 00:27:40,450 --> 00:27:44,537 ‎เขารู้ว่าสิ่งสำคัญในกีฬานี้คือต้องชนะ 412 00:27:44,621 --> 00:27:48,166 ‎และต้องทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อชนะให้ได้ 413 00:27:48,249 --> 00:27:52,879 ‎นั่นแปลว่าต้องจัดหาทีมที่เหมาะที่สุด ‎กับนักกีฬาที่เก่งที่สุด 414 00:27:55,799 --> 00:27:59,260 ‎ทีมบอสตัสเซลติกส์ในช่วงยุค 1950 ‎เหมือนทีมเพื่อนเจ้าสาวครับ 415 00:27:59,344 --> 00:28:01,221 ‎เป็นทีมที่เล่นเกมรุกได้ดี 416 00:28:01,304 --> 00:28:04,766 ‎เพราะมีคนอย่างบิล ชาร์แมนและบ๊อบ คูซีย์ 417 00:28:04,974 --> 00:28:07,185 ‎ซึ่งเป็นคู่หลังที่เด่นมากของช่วงปี 1950 418 00:28:07,268 --> 00:28:09,479 ‎แต่แค่นั้นยังไม่ช่วยให้ได้แชมป์ 419 00:28:09,562 --> 00:28:13,024 ‎บ๊อบ คูซีย์เป็นซูเปอร์สตาร์คนแรกๆ ของเอ็นบีเอ 420 00:28:13,108 --> 00:28:16,778 ‎ถ้าถามคนทั่วไปในช่วงปี 1950 421 00:28:16,861 --> 00:28:20,323 ‎ขอให้บอกชื่อนักกีฬาบาสเกตบอลมาทันทีหนึ่งคน 422 00:28:20,407 --> 00:28:23,952 ‎คนส่วนใหญ่จะพูดชื่อของบ๊อบ คูซีย์ ‎มากกว่าชื่ออื่น 423 00:28:24,035 --> 00:28:27,247 ‎คูซีย์วิ่งไปกัน ช็อตนี้เร้าใจมาก 424 00:28:28,581 --> 00:28:31,835 ‎ผมสามารถเล่นอะไรได้ไม่เหมือนคนอื่น 425 00:28:31,918 --> 00:28:36,131 ‎และคิดว่าผมก็มีจินตนาการพอ ‎ที่จะเสริมทักษะการเล่นแบบนั้นด้วย 426 00:28:36,214 --> 00:28:39,592 ‎ได้เล่นท่าแบบที่ไม่เคยมีใครคนอื่นทำได้มาก่อน 427 00:28:40,260 --> 00:28:44,013 ‎เขาให้ฉายาผมว่า "มิสเตอร์บาสเกตบอล" ‎"ฮูดินี่แห่งพื้นปาร์เก้" 428 00:28:44,973 --> 00:28:47,517 ‎เซลติกส์มีทีมรุกที่เดือดมาก 429 00:28:48,017 --> 00:28:51,521 ‎แต่เล่นเกมรับไม่เก่ง ‎เมื่อลูกสะท้อนกระดานแล้วก็ไปต่อไม่ได้ 430 00:28:52,063 --> 00:28:54,023 ‎การครองลูกให้ได้เป็นเรื่องสำคัญ 431 00:28:54,107 --> 00:28:56,025 ‎ถ้าสามารถรีบาวด์ได้ 432 00:28:56,109 --> 00:28:58,778 ‎จะสามารถคุมแทบทุกอย่างในสนามได้ 433 00:28:58,862 --> 00:29:03,241 ‎ปีก่อนหน้านั้น อาร์โนลด์เดินมาหาผม ‎นั่นเป็นครั้งเดียวที่เขาทำแบบนั้น 434 00:29:03,324 --> 00:29:06,828 ‎บอกว่ามีเด็กคนหนึ่งที่แคลิฟอร์เนีย ‎ถ้าเราชวนเขามาเข้าทีมได้ 435 00:29:07,370 --> 00:29:09,998 ‎เขาจะเป็นตัวแก้ปัญหาทุกอย่างให้เรา 436 00:29:11,541 --> 00:29:15,587 ‎ผมไม่เคยกังขาว่าเราต้องได้ตัวบิล รัสเซลล์ 437 00:29:15,670 --> 00:29:18,840 ‎เขามีปฏิกิริยาว่องไว โต้ตอบได้เร็วมาก 438 00:29:18,923 --> 00:29:21,217 ‎แถมแขนยาว ยอดเยี่ยมที่สุด 439 00:29:21,843 --> 00:29:23,887 ‎การเรียกตัวรัสเซลล์มาเข้าทีมไม่ใช่เรื่องง่าย 440 00:29:23,970 --> 00:29:27,098 ‎สิทธิ์ในการเลือกนักกีฬาคนแรก ‎เป็นของทีมโรเชสเตอร์รอยัลส์ 441 00:29:28,600 --> 00:29:31,102 ‎เซลติกส์ได้สิทธิ์เลือกเป็นอันดับที่เจ็ด 442 00:29:31,186 --> 00:29:34,564 ‎เร้ดจึงต้องแลกตัวนักกีฬาคนอื่น ‎เพื่อให้ได้เลื่อนขึ้นไปเป็นอันดับสอง 443 00:29:36,441 --> 00:29:37,609 ‎แต่นั่นยังไม่พอ 444 00:29:39,194 --> 00:29:43,281 ‎เร้ด อาวร์แบคจะหามุม ‎หาวิธีทำให้ได้สิ่งที่ต้องการมาเสมอ 445 00:29:43,364 --> 00:29:45,992 ‎เขาไปหาวอลเตอร์ บราวน์ เจ้าของทีมเซลติกส์ 446 00:29:46,075 --> 00:29:48,828 ‎ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของไอซ์คาเพดส์ 447 00:29:48,912 --> 00:29:52,332 ‎ซึ่งเคยเป็นการแสดงที่โด่งดังมาก 448 00:29:52,415 --> 00:29:55,001 ‎ไปเล่นที่ไหนคนก็ซื้อตั๋วเต็มสนามหมด 449 00:29:55,084 --> 00:29:59,756 ‎เมื่อเร้ด อาวร์แบคยุ วอลเตอร์ บราวน์ ‎จึงไปคุยกับเจ้าของทีมโรเชสเตอร์รอยัลส์ 450 00:29:59,839 --> 00:30:02,133 ‎แล้วบอกว่า "ผมจะเอาอย่างนี้นะ 451 00:30:02,217 --> 00:30:05,970 ‎เราจะส่งไอซ์คาเพดส์มาเล่นให้ ‎อยากได้กี่รอบบอกมาเลย 452 00:30:06,054 --> 00:30:10,058 ‎ถ้าคุณยอมไม่เลือกบิล รัสเซลล์ ‎ตอนที่ได้เลือกเป็นทีมแรก" 453 00:30:10,141 --> 00:30:12,977 ‎เท่ากับบิล รัสเซลล์โดนแลกตัว ‎กับไอซ์คาเพดส์ครับ 454 00:30:13,061 --> 00:30:14,938 ‎นั่นเป็นฝีมือของเร้ด อาวร์แบคแท้ๆ 455 00:30:17,774 --> 00:30:19,818 ‎เร้ดพาตัวรัสเซลล์เข้าทีมจนได้ 456 00:30:20,318 --> 00:30:22,821 ‎แต่เมื่อเด็กใหม่เจอปัญหา ‎ไม่อาจทำได้ตามความคาดหวัง 457 00:30:22,904 --> 00:30:26,324 ‎รัสเซลล์เองเป็นฝ่ายที่เริ่มสงสัยว่า ‎เขาเหมาะกับทีมนี้หรือไม่ 458 00:30:26,950 --> 00:30:29,202 ‎จนกระทั่งได้คุยกับเร้ดก่อนการลงสนามนัดหนึ่ง 459 00:30:30,495 --> 00:30:34,040 ‎เขาบอกว่า "มาสนามให้ไวหน่อยนะ ‎ฉันอยากคุยด้วย" 460 00:30:34,123 --> 00:30:36,042 ‎เรานั่งกันที่สนามบอสตันการ์เด้น 461 00:30:36,125 --> 00:30:40,255 ‎คนงานกำลังปูพื้น ตั้งเสาอะไรแบบนั้นเลย 462 00:30:40,338 --> 00:30:42,799 ‎เขาบอกว่ามีเรื่องอยากจะบอก 463 00:30:42,882 --> 00:30:45,927 ‎"ฉันไม่สนว่าแกจะทำแต้มได้กี่แต้ม 464 00:30:46,010 --> 00:30:48,096 ‎แค่อยากให้แกช่วยให้ทีมเราชนะ" 465 00:30:49,472 --> 00:30:54,018 ‎ผมก็บอกเขา "เงินเดือนแก ‎จะถูกตัดสินด้วยตาสองข้างของฉันนี่" 466 00:30:54,102 --> 00:30:56,563 ‎ไม่ใช่ว่าไม่ต้องพยายามยิงทำแต้ม 467 00:30:56,646 --> 00:30:58,731 ‎แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องสถิติอะไรทั้งนั้น 468 00:30:58,815 --> 00:31:01,609 ‎ห่วงแค่ "เราชนะ หรือเราแพ้" พอ 469 00:31:01,693 --> 00:31:03,152 ‎สำคัญแค่นั้น 470 00:31:04,654 --> 00:31:07,323 ‎นั่นช่วยลดความกดดันได้เยอะ 471 00:31:07,407 --> 00:31:09,450 ‎ต่อทั้งผมและเขาเอง และหลังจากนั้น 472 00:31:09,534 --> 00:31:12,453 ‎เร้ดก็เริ่มมองเห็นว่าผมสร้างผลงานได้ 473 00:31:12,537 --> 00:31:14,539 ‎ด้วยการรีบาวด์และเล่นเกมรับที่ดี 474 00:31:18,251 --> 00:31:23,006 ‎ในเกมที่มีการโต้กลับไปกลับมา ‎เราต้องการคนที่คุมเกมรับได้ 475 00:31:23,089 --> 00:31:26,009 ‎ต้องรีบาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ‎นั่นคือสิ่งที่รัสทำได้ดี 476 00:31:27,218 --> 00:31:31,431 ‎หัวใจสำคัญของการเล่นเกมเร็ว ‎คือรีบาวด์เกมรับแล้วส่งออกมาอย่างไว 477 00:31:33,600 --> 00:31:37,103 ‎เมื่อลูกลอยขึ้นไป ผมจะไปยืนอยู่ข้างหนึ่ง 478 00:31:37,186 --> 00:31:40,064 ‎ข้างที่ใกล้ที่สุด รอรับลูกจากเขา 479 00:31:40,148 --> 00:31:43,568 ‎เพื่อจะได้รีบวิ่งไปอีกฝั่งและเล่นเกมรุกเร็ว 480 00:31:43,651 --> 00:31:46,154 ‎เพราะผมรู้เลยว่าเขาจะรีบาวด์ได้ทุกลูก 481 00:31:47,363 --> 00:31:48,948 ‎อีกทีมก็ยิงไปเถอะ 482 00:31:49,032 --> 00:31:53,077 ‎กว่าคนยิงจะเท้าติดพื้น ‎เราก็เลย์อัพขึ้นไปอีกฝั่งแล้ว 483 00:31:59,334 --> 00:32:03,880 ‎งานของเขาคือรีบาวด์ ‎บล็อกการยิง ขวางการส่งลูกให้ได้ 484 00:32:03,963 --> 00:32:07,675 ‎จากนั้นก็พลิกสถานการณ์เป็นเกมรุกเลย 485 00:32:07,759 --> 00:32:11,679 ‎และปล่อยให้คนอื่นๆ ที่เหลือในทีมวิ่งไปอีกฝั่ง 486 00:32:11,763 --> 00:32:13,348 ‎เหมือนคลื่นซัดไม่หยุด 487 00:32:19,312 --> 00:32:20,855 ‎บ๊อบ คุณคงรู้สึกดีมาก 488 00:32:20,939 --> 00:32:23,858 ‎ที่เป็นสุดยอดนักบาสเกตบอลของยุคนี้ 489 00:32:23,942 --> 00:32:27,403 ‎และมีคนที่คุณวางใจว่าจะได้ลูกแน่ ‎นั่นทำให้รู้สึกอย่างไร 490 00:32:27,487 --> 00:32:30,782 ‎แน่นอน แฟนๆ บาสเกตบอลส่วนใหญ่ 491 00:32:30,865 --> 00:32:33,576 ‎ที่ดูการเล่นของทีมเซลติกส์ ‎รู้กลการบุกของเราอยู่แล้ว 492 00:32:33,660 --> 00:32:35,578 ‎รู้ว่าเรามักเล่นเกมบุกเร็ว 493 00:32:35,662 --> 00:32:38,081 ‎ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีใครตัวใหญ่พอจะเก็บลูกได้ 494 00:32:38,164 --> 00:32:43,419 ‎แม้แต่ในจุดนี้ ผมคิดว่า ‎เรื่องของรีบาวด์ ส่งลูก เกมรับ 495 00:32:43,503 --> 00:32:46,673 ‎ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ‎รัสเซลล์ทำได้เหนือกว่าคนอื่นทั้งหมด 496 00:32:46,756 --> 00:32:48,257 ‎(สุดยอด! ยักษ์ใหญ่!) 497 00:32:51,511 --> 00:32:53,054 ‎ผมเป็นหนี้บุญคุณภรรยาทั้งหมด 498 00:32:54,138 --> 00:32:58,309 ‎หลายครั้งผมกังขาและท้อ แต่โรสไม่เลย ‎เธอไม่เคยเลิกคุยกับผม 499 00:32:58,393 --> 00:33:01,187 ‎หลังการซ้อม หรือแม้แต่ระหว่างช่วงที่พัก 500 00:33:01,270 --> 00:33:02,480 ‎เธอคอยให้กำลังใจผม 501 00:33:02,563 --> 00:33:04,691 ‎หลังการแข่งนัดที่เล่นในบ้าน ‎เธอก็ทำแบบเดียวกัน 502 00:33:04,774 --> 00:33:07,652 ‎ช่วงเดียวที่เธอมาให้กำลังใจไม่ได้ ‎คือเวลาเราไปแข่งที่อื่น 503 00:33:08,152 --> 00:33:10,238 ‎เวลาแบบนั้นผมจะคิดถึงคำปลุกใจจากเธอมาก 504 00:33:12,907 --> 00:33:17,954 ‎ตอนแต่งงานกับโรสเมื่อปี 1956 ‎ผมอายุ 22 ปี เพิ่งแข่งโอลิมปิกมาหมาดๆ 505 00:33:18,037 --> 00:33:21,165 ‎ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรในชีวิต 506 00:33:21,249 --> 00:33:24,419 ‎รู้เพียงแต่ว่าโรสยอมรับและมีใจให้ผม 507 00:33:25,169 --> 00:33:29,007 ‎มากกว่าแค่สนใจบาสเกตบอล ‎นั่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับผม 508 00:33:31,843 --> 00:33:34,595 ‎เซลติกส์เล่นจบฤดูกาลปกติ ‎เป็นที่หนึ่งของดิวิชั่นตะวันออก 509 00:33:34,679 --> 00:33:36,597 ‎เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีม 510 00:33:40,518 --> 00:33:43,896 ‎พวกเขาต้องแข่งกับเซนต์หลุยส์ฮอว์คส์ ‎เพื่อชิงแชมป์ 511 00:33:43,980 --> 00:33:47,734 ‎(เซลติกส์เจอกับฮอว์คส์ในเกมเปิดเพลย์ออฟ) 512 00:33:48,818 --> 00:33:52,280 ‎จากบอสตัน ผู้ชมเต็มสนาม ‎มาชมการแข่งขันชิงแชมป์เอ็นบีเอ 513 00:33:52,363 --> 00:33:55,366 ‎ระหว่างเซนต์หลุยส์ฮอว์คส์ ‎กับบอสตันเซลติกส์ 514 00:33:57,201 --> 00:33:58,453 ‎รัสเซลล์แย่งลูก 515 00:33:59,620 --> 00:34:01,039 ‎เป็นการแข่งขันที่ดี 516 00:34:01,122 --> 00:34:04,083 ‎บิล รัสเซลล์ ยิ่งเกมยากยิ่งเล่นเก่ง 517 00:34:04,167 --> 00:34:07,253 ‎ผมเข้าไปเลย์อัพสี่ครั้ง ‎เขาบล็อกสองครั้งแรกได้หมด 518 00:34:07,336 --> 00:34:09,338 ‎สองลูกหลังผมยิงพลาดเพราะมัวแต่มองหาเขา 519 00:34:11,883 --> 00:34:14,385 ‎การแข่งชุดนั้นและปีแรกของรัสเซลล์ 520 00:34:14,469 --> 00:34:17,472 ‎ตัดสินกันที่นาทีสุดท้ายของเกมที่เจ็ด 521 00:34:18,097 --> 00:34:20,349 ‎ท้ายควอเตอร์ที่สี่แล้ว เกมเสมอกันอยู่ 522 00:34:20,433 --> 00:34:24,145 ‎รัสเซลล์ขึ้นยิงจากซ้ายแล้วเลย์อัพขึ้นไป ‎ขึ้นนำแล้วครับ! 523 00:34:24,228 --> 00:34:26,731 ‎แมคคัลเลย์ได้บอล เหนือกะโหลก 524 00:34:26,814 --> 00:34:29,901 ‎ส่งต่อให้เพทิต เขาขึ้นยิง ‎โดนรัสเซลล์ทำฟาวล์ 525 00:34:29,984 --> 00:34:33,488 ‎เขาจะได้ยิงลูกโทษ ‎และมีโอกาสตีเสมออีกครั้ง 526 00:34:34,906 --> 00:34:38,618 ‎พร้อมแล้ว ย่อ ยิง ‎ลูกวนรอบห่วงแล้วเข้าไปครับ! 527 00:34:38,701 --> 00:34:42,038 ‎เกมนั้นมีการเล่นที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยดู 528 00:34:42,121 --> 00:34:43,456 ‎ลูกแรกเป็นของรัสเซลล์ 529 00:34:43,539 --> 00:34:45,833 ‎เสมอกันอีกแล้วครับ เวลาใกล้จะหมด 530 00:34:45,917 --> 00:34:48,461 ‎เซลติกส์เลี้ยงลูกมาทางซ้าย คูซีย์ 531 00:34:48,544 --> 00:34:52,215 ‎คูซีย์ส่งลูกยาวให้เขา เขาจะต้องรับแล้วยิง 532 00:34:52,298 --> 00:34:55,968 ‎ทำให้ได้ในจังหวะเดียว แต่เขายิงไม่ลง 533 00:34:56,052 --> 00:34:59,680 ‎ไม่ลง! รีบาวด์ส่งให้มาร์ติน ‎มาร์ตินเลี้ยงไปถึงกลางสนาม 534 00:34:59,764 --> 00:35:01,516 ‎ตอนนี้เซนต์หลุยส์ได้ครองบอล 535 00:35:01,599 --> 00:35:04,519 ‎ส่งรอบเดียวก็ไปถึงมือคนที่เลี้ยงเด้งเดียว 536 00:35:04,602 --> 00:35:06,813 ‎แล้วจะเลย์อัพขึ้นไปจนชนะทั้งเกม 537 00:35:07,396 --> 00:35:10,399 ‎นายโคลแมนนี่นำหน้าทุกคนไปหมด 538 00:35:10,483 --> 00:35:14,320 ‎แจ็ค โคลแมนเลี้ยงลูกขึ้นไปแล้ว ‎จะต้องพยายามขึ้นนำอีกครั้ง 539 00:35:14,403 --> 00:35:17,198 ‎ผมก็ก้มหน้าก้มตา พยายามทุ่มเต็มที่ 540 00:35:17,281 --> 00:35:19,534 ‎บิล รัสเซลล์วิ่งขึ้นไปดัก 541 00:35:20,034 --> 00:35:22,203 ‎รัสเซลล์วิ่งฉิวผ่านผมไปเลย 542 00:35:22,286 --> 00:35:26,666 ‎เขาเลย์ขึ้นไป รัสเซลล์บล็อกได้ ‎บิล รัสเซลล์เล่นได้เยี่ยมเหลือเกิน! 543 00:35:28,459 --> 00:35:32,463 ‎ถ้ายิงได้พวกเขาจะขึ้นนำ ‎โดยเหลือเวลาแค่สามหรือสี่วินาที 544 00:35:32,547 --> 00:35:36,259 ‎เอาละครับ ตอนนี้ 113-113 ‎หลังการต่อเวลา… 545 00:35:36,843 --> 00:35:39,762 ‎การเล่นชั้นยอดอีกครั้งมาจากอเล็กซ์ แฮนนัม 546 00:35:39,846 --> 00:35:42,223 ‎ที่เหลือแค่วินาทีเดียวแล้วขอเวลานอก 547 00:35:42,306 --> 00:35:43,933 ‎จิม ลอสคูทอฟฟ์ยิงลูกโทษได้ 548 00:35:44,016 --> 00:35:47,770 ‎เซลติกส์นำสองแต้ม ‎แต่ฮอว์คส์ยังมีเวลายิงได้อีกลูก 549 00:35:47,854 --> 00:35:50,815 ‎ฮอว์คส์เข้ามามุง ‎รอบตัวโค้ชผู้เล่น อเล็กซ์ แฮนนัม 550 00:35:50,898 --> 00:35:54,318 ‎แฮนนัมบอกว่า "ผมจะขว้างบอลยาวไปเลย 551 00:35:54,402 --> 00:35:58,406 ‎จะปาให้กระดอนแป้น ‎เพทิตรับแล้วยัดให้ลง ทำให้ได้" 552 00:36:01,534 --> 00:36:03,161 ‎เขาส่งบอลได้ไร้ที่ติ 553 00:36:04,745 --> 00:36:08,499 ‎ผมโดดรับ ไม่รอให้ลูกตกพื้น ‎รับแล้วยิงกลางอากาศเลย 554 00:36:09,709 --> 00:36:12,378 ‎ได้ผลนะ เสียแต่ว่าผมยิงพลาด 555 00:36:13,296 --> 00:36:15,464 ‎แล้วเกมก็จบด้วยเสียงนกหวีด! 556 00:36:16,299 --> 00:36:19,552 ‎ทีมเซลติกส์ชนะได้แชมป์เป็นครั้งแรก 557 00:36:19,635 --> 00:36:23,264 ‎และสำหรับกระผม ‎นี่เป็นเกมแชมป์ครั้งแรกที่ได้เป็นผู้ประกาศ 558 00:36:28,895 --> 00:36:30,855 ‎เราดีใจกันมาก ได้เป็นแชมป์ครั้งแรก 559 00:36:31,522 --> 00:36:35,067 ‎ทีมเร้ดซ็อกซ์ไม่ชนะมาหลายปีแล้ว ‎บรูอินส์ก็ไม่ได้ชนะมานาน 560 00:36:35,693 --> 00:36:37,820 ‎สมัยนั้นยังไม่มีทีมเพทริออทส์ 561 00:36:43,618 --> 00:36:45,161 ‎หลังจากเกมนั้น 562 00:36:46,746 --> 00:36:49,707 ‎เร้ดเลยบอกว่า "มาโกนเครานายดีกว่า" 563 00:36:50,541 --> 00:36:52,877 ‎ผมลืมไปแล้ว จนกระทั่งเข้าไปในห้องล็อกเกอร์ 564 00:36:52,960 --> 00:36:56,714 ‎แล้วเทรนเนอร์เอามีดโกนกับครีมโกนหนวดมา 565 00:36:57,548 --> 00:37:00,551 ‎คืนนั้น ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมจริงๆ 566 00:37:01,552 --> 00:37:04,263 ‎(เซลติกส์ได้แชมป์ 125-123) 567 00:37:04,347 --> 00:37:08,517 ‎(เซลติกส์ได้แชมป์เอ็นบีเอครั้งแรก) 568 00:37:13,064 --> 00:37:15,399 ‎เมื่อจบปีแรกด้วยชัยชนะอย่างงดงาม 569 00:37:15,483 --> 00:37:19,987 ‎บิลกับโรสจึงตัดสินใจว่า ‎น่าจะตั้งรกรากในบอสตันได้อย่างปลอดภัย 570 00:37:20,738 --> 00:37:22,573 ‎ทั้งสองซื้อบ้านในเมืองเร้ดดิ้ง 571 00:37:24,408 --> 00:37:28,162 ‎เร้ดดิ้งเป็นเมืองย่านที่อยู่อาศัย ‎ส่วนใหญ่เป็นชนชั้นแรงงาน อนุรักษ์นิยม 572 00:37:28,246 --> 00:37:31,540 ‎รัสเซลล์อยู่ที่เร้ดดิ้งตลอดช่วงที่เล่นให้เซลติกส์ 573 00:37:31,624 --> 00:37:34,877 ‎แต่เขาไม่เคยรู้สึกสบายใจ ‎ได้รับการยอมรับจากที่นั่นอย่างแท้จริง 574 00:37:37,046 --> 00:37:40,633 ‎เขาจะบ่นเสมอว่าชาวบ้านแถวนั้นก่อกวนเขา 575 00:37:40,716 --> 00:37:42,843 ‎พวกเขาโดนตามดู 576 00:37:42,927 --> 00:37:44,971 ‎พวกอันธพาลจะเอาถังขยะมาเทรอบบ้านเขา 577 00:37:45,680 --> 00:37:48,391 ‎ตอนที่ย้ายไปอยู่เร้ดดิ้ง แมสซาชูเซตส์แรกๆ 578 00:37:48,474 --> 00:37:50,726 ‎เราเป็นครอบครัวผิวดำบ้านแรกของเมือง 579 00:37:50,810 --> 00:37:53,145 ‎ทุกครั้งที่พ่อไม่อยู่ 580 00:37:53,229 --> 00:37:57,275 ‎จะมี "แรคคูน" มาชนถังขยะล้มกระจาย 581 00:37:57,358 --> 00:38:00,444 ‎ตอนเช้าจะมีขยะกระจายเต็มหน้าบ้าน 582 00:38:00,528 --> 00:38:03,656 ‎พ่อไปแจ้งที่สถานีตำรวจ บอกว่า ‎"เวลาผมออกไปแข่ง 583 00:38:03,739 --> 00:38:07,618 ‎มีคนมากวนใจภรรยาผม ‎ล้มถังขยะจนหกเลอะ" 584 00:38:07,702 --> 00:38:11,122 ‎ตำรวจก็บอกว่า ‎"เราทำอะไร 'แรคคูน' ไม่ได้" 585 00:38:11,956 --> 00:38:15,835 ‎ผมเลยไปที่หน่วยงานรัฐ 586 00:38:15,918 --> 00:38:17,753 ‎แล้วขอใบอนุญาตพกปืน 587 00:38:21,799 --> 00:38:24,593 ‎ทันใดนั้น พวก "แรคคูน" ไม่กลับมาอีกเลย 588 00:38:27,388 --> 00:38:29,974 ‎บอสตันน่าจะเป็นเมืองที่เปิดกว้างด้านเชื้อชาติ 589 00:38:30,057 --> 00:38:34,145 ‎สมัยศตวรรษที่ 19 มันได้ชื่อว่าเป็น ‎"กรุงเอเธนส์แห่งอเมริกา" 590 00:38:34,228 --> 00:38:36,731 ‎แต่รัสเซลล์กลับพบว่าที่นี่มีวัฒนธรรมล้าหลัง 591 00:38:36,814 --> 00:38:40,443 ‎และชนชั้นแรงงานผิวขาวส่วนใหญ่ ‎ไม่ชอบใจที่มีคนดำมาอยู่ด้วย 592 00:38:41,277 --> 00:38:42,570 ‎บอสตันเป็น 593 00:38:43,863 --> 00:38:45,072 ‎เมืองที่ 594 00:38:46,240 --> 00:38:49,660 ‎จิตใจคับแคบที่สุดในเอ็นบีเอ สมัยที่ผมเพิ่งไปอยู่ 595 00:38:49,744 --> 00:38:51,871 ‎ไม่ต้องไปบอสตันเขาก็เจอการเหยียดชาติพันธุ์ 596 00:38:51,954 --> 00:38:54,373 ‎นั่นคืออเมริกาในยุค 1950 597 00:38:54,457 --> 00:38:57,835 ‎สี่ หก แปด ไม่อยากรวมกับใคร! 598 00:38:57,918 --> 00:39:01,172 ‎สอง สี่ หก แปด ไม่อยากรวมกับใคร! 599 00:39:01,255 --> 00:39:03,466 ‎(โรงเรียนขาวๆ รักษาให้ขาวต่อไป) 600 00:39:05,426 --> 00:39:09,597 ‎รัสเซลล์พยายามทำใจกับความรุนแรง ‎และการขัดแย้งสีผิวระดับประเทศ 601 00:39:09,680 --> 00:39:13,809 ‎ด้วยการไม่ใช่แค่เล่นกีฬา ‎แต่ต้องเล่นจนได้ชัยชนะเป็นธรรมเนียม 602 00:39:14,727 --> 00:39:18,189 ‎(เซลติกส์นำสามวันรวด ‎บี้ฟิลาเดลเฟีย 106-92) 603 00:39:18,272 --> 00:39:19,815 ‎(เซลติกส์ถล่มนิวยอร์กเละ) 604 00:39:19,899 --> 00:39:23,903 ‎ทีมเซลติกส์เดินทัพผ่านฤดูกาลปี 1957-1958 605 00:39:23,986 --> 00:39:27,990 ‎เปลี่ยนการรีบาวด์เกมละ 22 ครั้งของรัสเซลล์ ‎เป็นคะแนนให้ทีมง่ายๆ 606 00:39:29,492 --> 00:39:32,119 ‎ดูเหมือนพวกเขาจะขึ้นแท่น ‎ได้แชมป์เอ็นบีเออีกสมัย 607 00:39:32,203 --> 00:39:35,498 ‎(เซลติกส์มีแต้มต่อฮอว์คส์ ‎เมื่อเริ่มชิงศึกเอ็นบีเอ) 608 00:39:37,083 --> 00:39:39,960 ‎สวัสดีแฟนๆ บาสเกตบอล ‎ผมจอห์นนี่ โมสต์จากข้างสนามด้านบน 609 00:39:40,044 --> 00:39:43,005 ‎ขอต้อนรับสู่เกมแรกของการชิงแชมป์ปี 1958 610 00:39:43,089 --> 00:39:45,132 ‎ระหว่างทีมฮอว์คส์และเซลติกส์ 611 00:39:46,384 --> 00:39:49,595 ‎ในครึ่งหลังของเกมที่สาม ‎ขณะที่ยังเสมอกันในซีรีส์นั้น 612 00:39:49,678 --> 00:39:52,473 ‎รัสเซลล์กระโดดขึ้นไปบล็อก แต่ลงผิดท่า 613 00:39:52,556 --> 00:39:55,601 ‎ถึงกับเอ็นขาดและกระดูกข้อเท้าร้าว 614 00:39:59,897 --> 00:40:02,108 ‎เราไม่ได้อยากให้บิลต้องโชคร้าย 615 00:40:02,191 --> 00:40:05,986 ‎แต่เราก็ไม่ได้พอใจที่เขาข้อเท้าแพลงแบบนั้น 616 00:40:06,070 --> 00:40:10,032 ‎ข้อเท้าผมแพลงอย่างหนัก ‎จนลงเล่นไม่ได้อยูหลายนัด 617 00:40:10,574 --> 00:40:13,369 ‎รัสเซลล์กลับมาเล่นได้ ‎เมื่อถึงเกมที่หกที่เมืองเซนต์หลุยส์ 618 00:40:13,452 --> 00:40:16,288 ‎ขณะที่เซลติกส์ตามอยู่สามเกมต่อสอง 619 00:40:16,831 --> 00:40:19,250 ‎เขาวิ่งกะเผลกทั้งๆ ที่ข้อเท้าแพลงอย่างนั้น 620 00:40:19,750 --> 00:40:20,918 ‎เพทิตเจาะลึก 621 00:40:21,001 --> 00:40:22,962 ‎ยิงข้ามหัวทอม ไฮน์ซอห์นไป ได้สองแต้ม 622 00:40:23,045 --> 00:40:26,006 ‎เพทิตฉุดไม่อยู่เลยครับ ‎แม้แต่รัสเซลล์ก็หยุดเขาไม่ได้ 623 00:40:27,800 --> 00:40:30,636 ‎แมคคอเลย์ได้ลูกไป มันจบแล้ว! 624 00:40:31,512 --> 00:40:33,889 ‎ปีนี้แชมป์เป็นของเซนต์หลุยส์ฮอว์คส์ 625 00:40:33,973 --> 00:40:36,016 ‎จาก 50 คะแนนของบ๊อบ เพทิต 626 00:40:37,309 --> 00:40:38,936 ‎เราแพ้ในเกมที่หก 627 00:40:39,019 --> 00:40:43,274 ‎แต่เรารู้ดีว่านั่นเหมือนความแตกต่าง ‎ระหว่างยากจนกับถังแตก 628 00:40:43,357 --> 00:40:47,736 ‎ความยากจนเป็นภาวะในความคิด ‎แต่ถังแตกเป็นแค่สถานการณ์ชั่วคราว 629 00:40:48,696 --> 00:40:51,490 ‎เรารู้ว่านั่นเป็นสถานการณ์ชั่วคราวแน่ๆ 630 00:40:52,241 --> 00:40:57,329 ‎เท่ากับปีหน้าเราต้องไปแข่ง ‎และพยายามเอาชนะให้ได้มากที่สุด 631 00:40:57,413 --> 00:41:00,082 ‎เราเป็นพวกชอบเอาชนะ ‎เริ่มตั้งแต่อาร์โนลด์ที่เป็นโค้ช 632 00:41:00,166 --> 00:41:02,501 ‎เลี้ยงบอลไปสิวะ เมนดี้! ครั้งเดียว 633 00:41:02,585 --> 00:41:04,879 ‎(อาร์โนลด์ "เร้ด" อาวร์แบค ‎โค้ชเซลติกส์ 1950-1966) 634 00:41:06,088 --> 00:41:07,506 ‎เร้ดเป็นคนแรงๆ 635 00:41:08,382 --> 00:41:12,595 ‎เขาไม่อยากให้เราจับมือกับคู่แข่งก่อนจะเริ่มเกม 636 00:41:12,678 --> 00:41:14,096 ‎เราเกลียดพวกนั้นหมด 637 00:41:14,930 --> 00:41:17,766 ‎แต่อาร์โนลด์ก็อาจจะยกระดับไปอีกขั้น 638 00:41:17,850 --> 00:41:20,269 ‎เขาไม่อยากให้เราอยู่ร่วมโลก 639 00:41:20,352 --> 00:41:22,146 ‎นอกจากอยู่เพื่อเอาชนะพวกนั้น 640 00:41:22,897 --> 00:41:26,442 ‎ปีต่อไป ฤดูกาล 1958-1959 641 00:41:26,525 --> 00:41:29,528 ‎เซลติกส์เล่นจบฤดูกาลด้วยสถิติที่ดีที่สุดในลีก 642 00:41:29,612 --> 00:41:32,656 ‎เราเล่นบาสเกตบอลได้ทุกแบบ 643 00:41:32,740 --> 00:41:34,283 ‎เราส่งให้ใครทำแต้มคืนเร็วก็ได้ 644 00:41:35,117 --> 00:41:38,037 ‎หรือเล่นแบบค่อยๆ เลี้ยงไปครึ่งสนามได้ทุกคน 645 00:41:38,787 --> 00:41:40,247 ‎ทุกคนมีความสามารถเท่าเทียมกัน 646 00:41:43,876 --> 00:41:48,464 ‎เร้ดเสริมทีมด้วยคนหนุ่ม ‎ที่เขาหวังจะสร้างทีมไปด้วยกัน 647 00:41:52,801 --> 00:41:55,846 ‎หลังจากเรียกตัวปี 1957 ‎เร้ดเรียกผมไปคุยแล้วบอกว่า 648 00:41:56,347 --> 00:42:00,059 ‎"ฉันเรียกตัวแซม โจนส์ ‎มาจากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาเซ็นทรัล 649 00:42:00,142 --> 00:42:03,145 ‎คนนี้เป็นยังไง รัส เขาจะช่วยทีมเราได้ไหม" 650 00:42:04,146 --> 00:42:08,442 ‎ผมถามว่า "แซม โจนส์มันใครวะ" ‎"‎เป็นชวาร์ตเซ" 651 00:42:08,526 --> 00:42:10,736 ‎นั่นเป็นภาษายิวที่ใช้พูดถึงคนดำ 652 00:42:10,819 --> 00:42:15,282 ‎"นึกว่ารู้จักซะอีก" ผมตอบว่า ‎"เฮ้ย เร้ด ผมจะรู้จักคนดำไปหมดได้ไง" 653 00:42:16,492 --> 00:42:17,576 ‎ไม่ว่าจะรู้จักกันหรือไม่ 654 00:42:17,660 --> 00:42:21,997 ‎ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแซม โจนส์ ‎จะได้เป็นนักบาสเกตบอลลีกใหญ่ 655 00:42:23,290 --> 00:42:26,502 ‎เรื่องตลกก็คือแซมดูเหมือนคนแก่มาตั้งแต่ต้น 656 00:42:27,086 --> 00:42:31,048 ‎แซม โจนส์ไม่ได้รับชื่อเสียงแบบที่ควรได้ ‎ในฐานะของนักบาส 657 00:42:31,131 --> 00:42:34,218 ‎คนที่เข้าใจเกมนี้อย่างถ่องแท้ ‎จะรู้ว่าแซมเก่งในเกมกดดัน 658 00:42:34,301 --> 00:42:38,639 ‎เราไม่รู้หรอกว่าเขาจะวิ่งไปไหน ‎แต่รู้ว่าจะหาจุดยิงลงจนได้ 659 00:42:40,015 --> 00:42:42,851 ‎เราไม่อยากแข่งกับเขาหรอก 660 00:42:42,935 --> 00:42:46,814 ‎เขาไม่เคยลังเลที่จะขึ้นยิง แล้วก็ไม่เคยยิงพลาด 661 00:42:51,694 --> 00:42:56,282 ‎เร้ดยังจัดการให้บิลได้กลับไปเจอ ‎รูมเมทเก่าสมัยมหาลัย เค.ซี. โจนส์ 662 00:42:57,741 --> 00:43:01,161 ‎นักข่าวคอยจี้เร้ด ‎เวลาจะให้เค.ซี.ลงสนามเสมอ 663 00:43:01,245 --> 00:43:05,124 ‎เขาจะบอกว่า ‎"ให้ลงทำไม ลงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้" 664 00:43:05,207 --> 00:43:08,627 ‎เร้ดจะยกซิการ์ขึ้นสูบ พ่นควันฉุย 665 00:43:08,711 --> 00:43:11,880 ‎แล้วบอกว่า "นี่ เค.ซี. โจนส์น่ะนะ ผมรู้แค่ว่า 666 00:43:11,964 --> 00:43:15,092 ‎เอาเขาลงเล่นทีไร ทีมเราจะขึ้นนำ" 667 00:43:16,260 --> 00:43:19,388 ‎โดนเค.ซี. โจนส์ดักเอาไว้ได้ ‎เซลติกส์บุกแล้วครับ 668 00:43:20,139 --> 00:43:23,601 ‎ผมว่าเค.ซี. เป็นการ์ดรับที่เก่งสุดเท่าที่เคยเจอ 669 00:43:27,438 --> 00:43:30,941 ‎เร้ดสร้างวัฒนธรรมในทีม ‎จากนิสัยส่วนตัวของนักกีฬา 670 00:43:31,025 --> 00:43:33,152 ‎อนุญาตให้พวกเขาเป็นตัวของตัวเอง 671 00:43:33,235 --> 00:43:36,322 ‎เขาสร้างสิ่งที่เป็นยิ่งกว่าทีมที่ชนะ 672 00:43:36,405 --> 00:43:38,407 ‎นี่คือกลุ่มพี่น้องร่วมสาบาน 673 00:43:38,490 --> 00:43:41,035 ‎พวกเราเหมือนครอบครัวเดียวกัน แล้วก็โชคดี 674 00:43:41,118 --> 00:43:43,287 ‎ที่รวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวได้ 675 00:43:43,370 --> 00:43:46,123 ‎เราคอยเป็นกำลังใจ ‎ช่วยเหลือประคับประคองกัน 676 00:43:46,206 --> 00:43:49,752 ‎และทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ‎เพื่อให้เพื่อนในทีมประสบความสำเร็จ 677 00:43:51,045 --> 00:43:52,379 ‎พ่อรักเพื่อนร่วมทีมมาก 678 00:43:52,463 --> 00:43:55,257 ‎และในหลายๆ ทาง ‎พวกนั้นก็เหมือนครอบครัวที่สอง 679 00:43:56,008 --> 00:43:58,427 ‎พวกเรารักใคร่กลมเกลียว 680 00:43:58,510 --> 00:44:01,430 ‎วิธีแสดงความรักได้ดีที่สุดคือใช้อารมณ์ขัน 681 00:44:02,640 --> 00:44:04,975 ‎ถ้าคุยกับคนที่รู้จักบิล รัสเซลล์ 682 00:44:05,059 --> 00:44:09,521 ‎สิ่งแรกที่จะคิดถึงคือเสียงระเบิดหัวเราะ ‎เสียงหัวเราะขำก๊ากของเขา 683 00:44:13,901 --> 00:44:16,153 ‎คือเขาเป็นคนจองหองมาก 684 00:44:16,236 --> 00:44:17,988 ‎เขาเป็นบิล รัสเซลล์เลยนะ 685 00:44:18,572 --> 00:44:22,159 ‎แต่เขาก็เป็นไอ้บ้าที่จะหัวเราะและเล่นหัวกับเรา 686 00:44:22,242 --> 00:44:23,285 ‎คอยสนุกไปด้วยกัน 687 00:44:23,911 --> 00:44:27,956 ‎เราได้ยินเสียงหัวเราะอันโด่งดังของเขาได้เลย 688 00:44:28,040 --> 00:44:31,710 ‎เสียงหัวเราะของเขาชวนให้ขำตาม ‎มันไม่เหมือนใคร 689 00:44:31,794 --> 00:44:32,753 ‎จริงใจ 690 00:44:36,840 --> 00:44:37,841 ‎เหมือนกับ… 691 00:44:42,388 --> 00:44:44,765 ‎ได้ยินเสียงระเบิดหัวเราะนั่นครั้งแรก ผมบอก 692 00:44:44,848 --> 00:44:47,226 ‎"นั่นมันหัวเราะเยาะฉันรึเปล่า หรือ… 693 00:44:47,309 --> 00:44:48,394 ‎ทำอะไรของเขา" 694 00:44:52,064 --> 00:44:54,775 ‎ถ้าพูดให้เขาหัวเราะได้ก็รอดแล้วค่ะ 695 00:44:58,779 --> 00:45:01,323 ‎เร้ดชอบพูดว่าถ้าไม่ใช่เสียงหัวเราะ ‎ก็เป็นอ้วกของผมนี่แหละ 696 00:45:01,407 --> 00:45:03,325 ‎ที่จะทำให้เขาออกจากวงการบาส 697 00:45:05,119 --> 00:45:08,664 ‎บางทีผมไปถึงสนามแล้วก็อาเจียน 698 00:45:08,747 --> 00:45:11,291 ‎สำหรับผม จำเป็นจะต้องหวั่นใจนะ 699 00:45:11,375 --> 00:45:14,962 ‎คนบางคนเขาจริงจังมาก 700 00:45:16,338 --> 00:45:19,091 ‎จนต้องหาวิธีระบายความจริงจังออก 701 00:45:19,174 --> 00:45:22,386 ‎เพื่อให้ผ่อนคลายและลงเล่นได้ 702 00:45:23,053 --> 00:45:26,765 ‎อาเจียนแล้วก็ค่อยยังชั่ว ‎แต่ภาพที่เห็นมันแย่กว่าที่เล่าให้ฟัง 703 00:45:30,018 --> 00:45:32,771 ‎จำได้ว่าเกมหนึ่งเรากำลังอบอุ่นร่างกาย 704 00:45:32,855 --> 00:45:34,314 ‎ผมบอก "โห คือ 705 00:45:34,398 --> 00:45:38,402 ‎รัสเซลล์ลืมไปอ้วก" ‎ผมเรียกทั้งทีมให้ออกจากสนาม 706 00:45:38,485 --> 00:45:41,196 ‎สั่งให้ทุกคนกลับไปที่ห้องล็อกเกอร์ 707 00:45:41,280 --> 00:45:44,074 ‎หันกลับไปแล้วบอกเลย "รัสเซลล์ ไปอ้วก" 708 00:45:44,783 --> 00:45:47,411 ‎เขาก็ไปอ้วก เรากลับลงสนามแล้วชนะ 709 00:45:47,494 --> 00:45:52,040 ‎เราจะได้ยินเขาโก่งคอ ทุกคนคิดเลยว่า ‎"ขอบคุณพระเจ้าที่เขาไปอ้วก" 710 00:45:52,124 --> 00:45:55,878 ‎เพราะเราจะได้รู้ว่าเขาพร้อมแล้ว ‎เขาจะเล่นได้ดีมาก 711 00:45:58,922 --> 00:46:01,175 ‎เมื่อจบฤดูกาล 1958-1959 712 00:46:01,258 --> 00:46:04,094 ‎เซลติกส์มีโอกาสได้แชมป์อีกครั้ง 713 00:46:05,471 --> 00:46:06,597 ‎การเจอกันครั้งแรก 714 00:46:06,680 --> 00:46:09,558 ‎ระหว่างเซลติกส์กับเลเกอร์ส ‎เกิดขึ้นในปี 1959 715 00:46:09,641 --> 00:46:12,644 ‎เลเกอร์สยังอยู่ที่มินนีอาโพลิส ‎คนมักจะลืมไปแล้ว 716 00:46:12,728 --> 00:46:16,356 ‎แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เซลติกส์ ‎เอาชนะเลเกอร์สได้ต่อเนื่อง 717 00:46:16,440 --> 00:46:20,360 ‎บอสตันชนะสามนัดรวด ‎งานนี้เลเกอร์สต้องชนะเท่านั้น 718 00:46:21,361 --> 00:46:25,073 ‎ในนัดที่สี่ รัสเซลล์ไม่ให้ใครขึ้นยิงได้เลย 719 00:46:25,157 --> 00:46:27,117 ‎เขารีบาวด์ได้ทั้งหมด 30 ลูก 720 00:46:27,826 --> 00:46:31,872 ‎บ๊อบ คูซีย์จะขึ้นยิง บอสตันยิ่งกดดันหนักขึ้น 721 00:46:31,955 --> 00:46:34,500 ‎เซลติกส์ชนะไป 118-113 722 00:46:34,583 --> 00:46:38,253 ‎ทีมของอาวร์แบคเป็นทีมแรก ‎ที่ชนะการแข่งชิงแชมป์รวดเดียวสี่เกม 723 00:46:38,337 --> 00:46:41,423 ‎เซลติกส์ครองสนามการชิงแชมป์ปี 1959 724 00:46:41,507 --> 00:46:43,759 ‎พิสูจน์ว่าทีมเขาประสบความสำเร็จแท้จริง 725 00:46:43,842 --> 00:46:46,428 ‎และทำให้บิลกลับเป็นแชมป์อีกครั้ง 726 00:46:46,512 --> 00:46:51,308 ‎(เซลติกส์ชนะสี่นัดรวด ‎ได้แชมป์ครั้งที่สองในรอบสามปี) 727 00:46:51,892 --> 00:46:54,728 ‎ตอนนั้นผมยังรักอาชีพตัวเอง 728 00:46:54,812 --> 00:46:58,774 ‎ผมรักมาก รักทุกนาทีของมัน 729 00:47:07,032 --> 00:47:10,452 ‎นั่นเป็นช่วงเวลาแสนวิเศษในชีวิตของผม 730 00:48:03,088 --> 00:48:07,217 ‎แต่ปีนั้น รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าเอ็นบีเอ ‎ไม่ได้ตกเป็นของรัสเซลล์ 731 00:48:07,301 --> 00:48:09,303 ‎แต่เป็นของบ๊อบ เพทิตจากทีมฮอว์คส์ 732 00:48:10,178 --> 00:48:11,054 ‎แต่ที่บอสตัน 733 00:48:11,138 --> 00:48:15,142 ‎ทุกคนเห็นได้ชัดแล้วว่า ‎บิล รัสเซลล์เป็นเซลติกส์ที่ทรงคุณค่าที่สุด 734 00:48:15,976 --> 00:48:19,271 ‎ผมรู้แต่แรกว่าเขารีบาวด์เก่ง ส่งลูกเก่ง 735 00:48:19,354 --> 00:48:21,398 ‎แต่ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีด้วย 736 00:48:22,274 --> 00:48:25,652 ‎คนส่วนใหญ่ไม่รู้ แต่เขาทุ่มเทให้กับชัยชนะ 737 00:48:26,236 --> 00:48:29,156 ‎และโครงสร้างของทีม 738 00:48:29,823 --> 00:48:32,200 ‎สิ่งสำคัญที่สุดคือพ่อเป็นผู้ชนะค่ะ 739 00:48:32,284 --> 00:48:36,622 ‎ดังนั้นพ่อจึงรู้สึกว่า ‎เขาควรได้รับความเคารพในระดับหนึ่ง 740 00:48:36,705 --> 00:48:40,250 ‎จากสิ่งที่ทุกคนทำได้ในฐานะของทั้งทีม 741 00:48:40,334 --> 00:48:43,712 ‎บ๊อบ คูซีย์เป็นผู้นำทีมมาก่อน ‎แต่ตอนนั้นไม่สงสัยแล้วว่าใครจะมานำทัพต่อ 742 00:48:44,212 --> 00:48:47,049 ‎บ๊อบมาเล่นที่นี่ เขาเป็นดาราประจำทีม 743 00:48:47,132 --> 00:48:52,304 ‎เขาพูดได้ว่า "เฮ้ย ฉันเป็นดารา" ‎แต่เขาพูดแค่ "มาลุยกันเถอะ" 744 00:48:52,387 --> 00:48:53,430 ‎- ทำด้วยกัน ‎- ใช่ 745 00:48:54,097 --> 00:48:56,808 ‎ผมเคยเป็นหัวหน้าตอนเขาเพิ่งมาถึงบอสตัน 746 00:48:56,892 --> 00:48:58,894 ‎แล้วเขาก็กลายเป็นหัวหน้าแทน 747 00:48:58,977 --> 00:49:03,148 ‎แต่สื่อไม่ให้เกียรติเขาในฐานะผู้นำทีมเลย 748 00:49:04,524 --> 00:49:08,028 ‎ก่อนการแข่งนอกบ้านนัดหนึ่ง ‎บ๊อบ คูซีย์ข้อเท้าพลิก 749 00:49:09,404 --> 00:49:12,574 ‎เราออกไปแข่งเยือน แข่งทั้งหมดห้านัดรวด 750 00:49:13,867 --> 00:49:16,203 ‎รัสเซลล์อยากแสดงฝีมือว่า ‎เขาเล่นได้โดยไม่ต้องมีคูซีย์ 751 00:49:16,286 --> 00:49:19,581 ‎เขาบล็อกไป 9,000 ลูกได้มั้ง ไม่น่าเชื่อเลย 752 00:49:19,665 --> 00:49:21,875 ‎ลารุสโซขึ้นยิง รัสเซลล์บล็อกได้! 753 00:49:22,501 --> 00:49:23,794 ‎เราชนะรวดทั้งห้านัด 754 00:49:25,212 --> 00:49:29,591 ‎กลับมาที่บอสตัน พาดหัวเขียนแต่ ‎"คืนนี้คูซีย์จะเล่นไหม" 755 00:49:30,717 --> 00:49:33,220 ‎(คูซีย์ไม่ลง แต่เซลติกส์ยังชนะ) 756 00:49:33,303 --> 00:49:35,889 ‎(เซลติกส์ยังคงไร้พ่าย ‎แม้ในยามที่คูซีย์ไม่ได้เล่น) 757 00:49:35,973 --> 00:49:38,809 ‎(แฟนจะพิสูจน์ว่าคูซีย์ยังเหนือคน) 758 00:49:38,892 --> 00:49:40,560 ‎ตอนที่ผมโตมาในบอสตัน 759 00:49:40,644 --> 00:49:43,105 ‎ทีมของรัสเซลล์กับคูซีย์ 760 00:49:43,188 --> 00:49:46,233 ‎เป็นทีมกีฬาอาชีพเดียวที่ได้ชัยชนะ 761 00:49:46,316 --> 00:49:48,151 ‎ในย่านที่อยู่ของผม 762 00:49:51,196 --> 00:49:53,448 ‎(รัสเซลล์ - เก่ง ‎ไฮน์ซอห์น - เก่งกว่า) 763 00:49:53,532 --> 00:49:55,158 ‎(คูซีย์ - เก่งที่สุด ‎18 แต้ม) 764 00:49:57,828 --> 00:50:01,832 ‎ทีมเซลติกส์ได้ใจแฟนๆ มากขึ้นทุกที ‎แต่คนไม่ได้ชื่นชอบบิลมากตามไปด้วย 765 00:50:04,459 --> 00:50:07,754 ‎บิล รัสเซลล์ไม่ได้ความยกย่องเต็มที่ 766 00:50:07,838 --> 00:50:11,133 ‎อย่างที่สมควรได้รับ ‎ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าเขาเป็นคนดำ 767 00:50:11,216 --> 00:50:12,926 ‎มันง่ายแบบนั้นเลยครับ 768 00:50:13,010 --> 00:50:16,346 ‎พวกคนเขียนข่าวก็หยามเกียรติกันอย่างที่สุด 769 00:50:16,430 --> 00:50:18,849 ‎เวลาเรามีสื่อที่เป็นคนขาวล้วน 770 00:50:18,932 --> 00:50:20,767 ‎ที่มีอคติติดมาด้วย 771 00:50:20,851 --> 00:50:25,063 ‎และยิ่งเมื่อมาเจอกัน ‎คลื่นลูกที่หนึ่งและลูกที่สองของคนดำ 772 00:50:25,564 --> 00:50:27,441 ‎มันแย่มาก 773 00:50:28,358 --> 00:50:35,073 ‎มีนักข่าวผิวขาวหัวรุนแรงบางส่วน ‎ที่จะใช้คำแรงๆ เวลาคุยส่วนตัว 774 00:50:35,157 --> 00:50:39,536 ‎ผมแน่ใจว่าเรื่องแบบนั้นก็ส่งผลต่อ ‎งานเขียนที่เผยแพร่สาธารณะ มันเลวร้ายมาก 775 00:50:40,078 --> 00:50:43,331 ‎"นักกีฬาผิวดำไร้ปัญญา ‎พวกเขาเล่นกีฬาเป็นอย่างเดียว" 776 00:50:43,415 --> 00:50:46,918 ‎"ไม่ใช่คนที่มีหัวคิด ‎อาจจะวิ่งและกระโดดได้สูง" 777 00:50:48,336 --> 00:50:50,756 ‎เขาเรียกส่วนระเบียงชั้นบน 778 00:50:50,839 --> 00:50:54,051 ‎ในสนามบอสตันการ์เด้นว่าเป็น ‎สวรรค์คำเหยียดคนดำ 779 00:50:54,134 --> 00:50:56,303 ‎เราได้ยินคำพวกนี้ในส่วนที่นั่งผู้สื่อข่าว 780 00:50:56,386 --> 00:50:59,014 ‎สมัยนั้นไม่มีคนดำเล่นในลีกเยอะเท่าไหร่ 781 00:50:59,097 --> 00:51:02,893 ‎ยังเป็นกีฬาของคนขาว นักข่าวผิวขาว ผู้ชมขาว 782 00:51:02,976 --> 00:51:05,312 ‎และเมืองนี้ยังไม่ "พร้อม" ที่จะรับมือกับบิล 783 00:51:06,021 --> 00:51:09,608 ‎รถเขาเสียกลางพายุฝน คนขับรถผ่านไป 784 00:51:09,691 --> 00:51:13,612 ‎คนรู้แหละว่าเขาเป็นใคร ‎เขาเป็นบิล รัสเซลล์เชียวนะ 785 00:51:13,695 --> 00:51:17,908 ‎คนขับรถผ่านไปแล้วก็ก่อกวนเขา ‎แทนที่จะหยุดช่วยเขา 786 00:51:17,991 --> 00:51:20,077 ‎ลองนึกว่าแลร์รี่ เบิร์ดรถเสียสิ 787 00:51:20,160 --> 00:51:23,914 ‎คนคงแวะจอดช่วยแลร์รี่จนรถติดเป็นลานจอด 788 00:51:25,832 --> 00:51:29,211 ‎ถ้ารัสเซลล์เจอกับลมต้านตามท้องถนนบอสตัน 789 00:51:29,294 --> 00:51:31,880 ‎เขากำลังจะต้องเจอกับพายุหนักในสนาม 790 00:51:33,381 --> 00:51:36,843 ‎ฤดูกาลที่แล้ว ‎ทีมเซลติกส์ชนะแชมป์เอ็นบีเอสมัยที่สอง 791 00:51:36,927 --> 00:51:38,720 ‎แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเจอปัญหา 792 00:51:40,388 --> 00:51:42,808 ‎ปัญหาในรูปของวิลท์ แชมเบอร์เลน 793 00:51:42,891 --> 00:51:46,812 ‎ซึ่งทำให้แม้แต่รัสเซลล์ยังดูตัวเตี้ย ‎วิลท์ต่อขาสูงถึง 218 เซนติเมตร 794 00:51:50,273 --> 00:51:51,650 ‎ผมก็โชคดี 795 00:51:51,733 --> 00:51:54,277 ‎ผมเริ่มเล่นกีฬาด้วยการแข่งกับมืออาชีพ 796 00:51:54,361 --> 00:51:58,281 ‎ตั้งแต่สมัยอยู่มัธยมต้น ‎ไปจนถึงช่วงต้นของมัธยมปลาย 797 00:51:58,782 --> 00:52:01,159 ‎ผมจึงชินกับการเอาชนะพวกนั้นขาดลอย 798 00:52:02,160 --> 00:52:05,664 ‎ผมรู้ว่าผมสามารถเล่นอาชีพได้ดีพอตัว 799 00:52:05,747 --> 00:52:07,082 ‎แม้แต่ตอนยังเด็ก 800 00:52:07,582 --> 00:52:10,836 ‎วิลท์ แชมเบอร์เลน ‎อาจเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 801 00:52:10,919 --> 00:52:12,754 ‎เท่าที่เคยอยู่มา ไม่ว่าจะในกีฬาไหน 802 00:52:13,839 --> 00:52:16,800 ‎ชายคนนี้เป็นสุดยอดนักกีฬา 803 00:52:16,883 --> 00:52:20,428 ‎รูปร่างสูง 218 ซม. น้ำหนัก 122.5 กก. 804 00:52:21,346 --> 00:52:25,225 ‎วิลท์ แชมเบอร์เลน ‎เรียกว่าเป็นแชคก่อนที่แชคจะมีตัวตน 805 00:52:25,308 --> 00:52:28,436 ‎ถ้าแชคเป็นนักกีฬาระดับโอลิมปิกด้วยน่ะนะ 806 00:52:28,520 --> 00:52:31,314 ‎ถ้าเราสูงเกิน 200 ซม. หนักร้อยกว่ากิโล 807 00:52:31,398 --> 00:52:34,067 ‎จะยืนตรงไหนในกะโหลกก็คุมสนามทั้งนั้น 808 00:52:34,151 --> 00:52:35,694 ‎ถ้าไม่มีวิลท์ 809 00:52:35,777 --> 00:52:39,156 ‎ก็ไม่มีเมจิค ไม่มีเบิร์ด ไม่มีเอ็มเจ ไม่มีเลย 810 00:52:40,991 --> 00:52:44,911 ‎แต่ข้อเสนองานบาสเกตบอลงานแรก ‎ที่มาถึงมือวิลท์ไม่ใช่สนามเอ็นบีเอ 811 00:52:46,329 --> 00:52:47,622 ‎ด้วยสิ่งน่าสนใจใหม่ใหญ่มหึมา 812 00:52:47,706 --> 00:52:51,501 ‎ฮาร์เล็มโกลบทร็อตเตอร์ ‎ดึงดูดใจแฟนๆ เพิ่มขึ้นถึง 20% ในปี 1958 813 00:52:51,585 --> 00:52:54,880 ‎กลุ่มนักกีฬาเปี่ยมสีสันที่ก่อตั้งโดย ‎เอบ ซาเบอร์สทีน 814 00:52:54,963 --> 00:52:57,424 ‎อ้างว่ามีแฟนๆ นับไม่ถ้วนกระจายทั่วโลก 815 00:52:58,717 --> 00:53:01,845 ‎ตอนเราเป็นเด็ก โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กผิวดำ 816 00:53:01,928 --> 00:53:04,431 ‎ทีมฮาร์เล็มโกลบทร็อตเตอร์เหมือนสวรรค์ 817 00:53:05,223 --> 00:53:09,144 ‎วิลท์รับบทบาทคนตรงๆ ‎ในการแสดงของโกลบทร็อตเตอร์ 818 00:53:09,936 --> 00:53:13,148 ‎เขาส่งสำเนาเช็คมูลค่า 100,000 เหรียญมาให้ 819 00:53:13,231 --> 00:53:17,402 ‎เสนอให้ 100,000 เหรียญ ‎เพื่อไปออกทัวร์กับเขาแค่หกเดือน 820 00:53:17,485 --> 00:53:20,572 ‎คนแบบคุณอาจได้เท่านั้นเป็นปกติ ‎แต่ผมเนี่ยนะ 821 00:53:20,655 --> 00:53:24,159 ‎ให้แสนนึงผมนี่ยอมโดดลงมา ‎จากตึกเอ็มไพร์สเตทเลย 822 00:53:26,912 --> 00:53:29,372 ‎ในสายตาคุณปู่หรือคนรุ่นนั้น 823 00:53:29,456 --> 00:53:32,542 ‎ทีมฮาร์เล็มโกลบทร็อตเตอร์ ‎เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ 824 00:53:32,626 --> 00:53:36,838 ‎พวกเขาออกทัวร์ไปทั่วประเทศ ‎เล่นยังไงก็ชนะทีมวอชิงตันเจเนรัล 825 00:53:37,589 --> 00:53:41,176 ‎แต่ก็ได้รับคำวิจารณ์จากกลุ่มปัญญาชนคนดำ 826 00:53:41,259 --> 00:53:43,178 ‎หาว่าพวกเขาเป็นตัวตลก 827 00:53:43,261 --> 00:53:46,681 ‎ว่าที่จริงแล้วเป็นแค่ส่วนขยาย ‎ของแมนทัน มอร์แลนด์ 828 00:53:46,765 --> 00:53:49,809 ‎และตัวละครคนดำโง่เง่าคนอื่นๆ 829 00:53:50,560 --> 00:53:53,563 ‎สำหรับผู้ชมคนดำบางส่วนแล้ว ‎พวกเขากลายสภาพจากฮีโร่ 830 00:53:53,647 --> 00:53:55,690 ‎ไปเป็นคนที่ลดทอนความสำเร็จของคนดำ 831 00:53:56,483 --> 00:54:00,111 ‎ปี 1956 บิล รัสเซลล์ก็เคยได้ข้อเสนออย่างงาม 832 00:54:00,195 --> 00:54:02,906 ‎ให้เข้าร่วมทีมโกลบทร็อตเตอร์ ‎ตั้งแต่เขายังอยู่มหาวิทยาลัย 833 00:54:02,989 --> 00:54:06,618 ‎พวกเขาเข้าหาบิล รัสเซลล์ ‎"อยากได้เงินเหรอ มากับเราสิ!" 834 00:54:06,701 --> 00:54:09,537 ‎แต่รัสเซลล์เป็นรัสเซลล์ ‎เขาตอบว่า "ไม่มีทาง" 835 00:54:10,121 --> 00:54:14,334 ‎พ่อผมบอกไว้ว่า "ลูกฉันจะต้อง ‎ไม่ไปเล่นให้ทีมโกลบทร็อตเตอร์ 836 00:54:14,417 --> 00:54:17,379 ‎เพราะเขาเป็นนักบาสที่เก่งที่สุดในโลก 837 00:54:17,462 --> 00:54:18,922 ‎เขาไม่ใช่ตัวตลกนะ" 838 00:54:19,005 --> 00:54:22,884 ‎"ทำไมจะต้องเซ็น ทั้งที่เป็นนักกีฬาโอลิมปิก" 839 00:54:22,968 --> 00:54:23,885 ‎"ผมเป็นผู้ชนะ" 840 00:54:23,969 --> 00:54:26,972 ‎"ผมไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้ ‎เพื่อยืนยันความสำคัญตัวเองก็ได้" 841 00:54:28,723 --> 00:54:31,476 ‎วิลท์ก็ไม่ได้ต้องการคำยืนยันอะไร 842 00:54:31,559 --> 00:54:34,062 ‎หลังสัญญากับโกลบทร็อตเตอร์จบลง 843 00:54:34,145 --> 00:54:38,566 ‎เขาก็เข้าร่วมลีกเอ็นบีเอในปี 1959 ‎กับทีมฟิลาเดลเฟียวอร์ริเออร์ส 844 00:54:39,276 --> 00:54:42,988 ‎แฟนบาสเกตบอลกำลังรอดูว่า ‎คุณจะทำอย่างไร 845 00:54:43,071 --> 00:54:46,241 ‎โดยเฉพาะเมื่อเจอกับผู้เล่นอย่างบิล รัสเซลล์ 846 00:54:46,324 --> 00:54:48,285 ‎คุณรู้สึกว่าพร้อมหรือยัง 847 00:54:48,368 --> 00:54:50,704 ‎ผมว่าผมพอจะจัดการตัวเองได้ 848 00:54:50,787 --> 00:54:53,039 ‎เมื่อเทียบตัวต่อตัวกับใครก็ตามในลีกนี้ 849 00:54:56,626 --> 00:54:59,504 ‎ทีมวอร์ริเออร์สเพิ่งเจอกับฤดูกาลที่แพ้หลุดลุ่ย 850 00:54:59,587 --> 00:55:01,798 ‎แต่วิลท์ทำให้พวกเขาเริ่มได้เปรียบ 851 00:55:04,384 --> 00:55:09,723 ‎เมื่อวิลท์เข้าลีกตอนแรก ‎เขาเข้ามาทำสถิติอะไรยอดไปหมด 852 00:55:11,016 --> 00:55:14,978 ‎เฉลี่ยเล่นได้เกมละ 37 แต้มและ 27 รีบาวด์ 853 00:55:15,478 --> 00:55:18,356 ‎จู่ๆ ทีมฟิลาเดลเฟียก็กลายเป็นมีศักยภาพขึ้นมา 854 00:55:18,440 --> 00:55:20,483 ‎วิลท์ต่อขายังไฟแรง 855 00:55:24,571 --> 00:55:26,323 ‎อยากยิงเมื่อไหร่ก็ยิงได้ 856 00:55:26,406 --> 00:55:29,576 ‎เขาแข็งแรงที่สุด โดดได้สูงกว่าใครๆ ในลีก 857 00:55:29,659 --> 00:55:32,954 ‎เมื่อเขาจับบอลยัดห่วง ไม่มีใครคิดจะกันเขา 858 00:55:33,038 --> 00:55:34,205 ‎มันกันไม่อยู่ 859 00:55:36,791 --> 00:55:40,128 ‎จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกในฤดูกาลปกติที่บอสตัน 860 00:55:40,211 --> 00:55:41,796 ‎(รัสเซลล์ ดาวเซลติกส์จะได้เจอวิลท์) 861 00:55:41,880 --> 00:55:44,841 ‎ตั๋วสนามการ์เด้นขายหมด ‎หลายเดือนก่อนจะเริ่มเกมจริง 862 00:55:44,924 --> 00:55:47,510 ‎คนก็เข้ามานั่งกันเต็มตั้งแต่ก่อนเริ่มอบอุ่นร่างกาย 863 00:55:52,974 --> 00:55:55,226 ‎(บิลกับวิลท์เจอกันครั้งแรก ‎7 พฤศจิกายน 1959) 864 00:55:55,727 --> 00:55:59,522 ‎เมื่อทีมฟิลาเดลเฟียเข้ามาในสนาม ‎ความตื่นเต้นยิ่งพุ่งไปใหญ่ 865 00:56:00,648 --> 00:56:04,486 ‎เสียงดังกึกก้องไปหมด ‎ผมมองมือของเขาแล้วก็รู้เลย 866 00:56:04,569 --> 00:56:07,489 ‎"ไอ้หมอนี่ถือลูกบาสได้เหมือนลูกเบสบอล" 867 00:56:08,615 --> 00:56:12,535 ‎เรารู้ว่าจะเล่นยากละ รัสเซลล์ก็จะเล่นยาก 868 00:56:15,413 --> 00:56:17,874 ‎ผมว่าเขาสูงกว่ารัสเซลล์อย่างน้อย 13 ซม. 869 00:56:19,125 --> 00:56:23,213 ‎แล้วผมก็คิดว่าจะมองตาเขายังไง ‎หรือต้องเงยหน้ามอง 870 00:56:25,590 --> 00:56:28,385 ‎ผมเลยบอกว่า ‎"เอ้า งั้นมองตรงไปข้างหน้าแล้วกัน" 871 00:56:29,803 --> 00:56:31,471 ‎เท่ากับผมมองแค่อกเขา 872 00:56:32,514 --> 00:56:34,015 ‎แบบนั้นไม่สวยหรอก 873 00:56:39,396 --> 00:56:42,232 ‎เราได้นักกีฬาเก่งที่สุดในยุคนั้นลงสนามเดียวกัน 874 00:56:42,315 --> 00:56:45,902 ‎มาแข่งกันเองเป็นครั้งแรก 875 00:57:08,133 --> 00:57:09,759 ‎แชมเบอร์เลนทำแต้มได้ 876 00:57:09,843 --> 00:57:14,931 ‎ทำกับรัสเซลล์เหมือนกับเซ็นเตอร์คนอื่นๆ ในลีก ‎แต่รัสเซลล์ก็ยังยันไว้ได้ 877 00:57:16,641 --> 00:57:19,811 ‎ในยุคของเรา คนตัวใหญ่ขนาดนั้น ‎ต้องโดนประกบคู่แล้ว 878 00:57:19,894 --> 00:57:24,399 ‎แต่ในคลิปทั้งหมด ‎ผมเห็นแต่คุณรัสเซลล์สู้ตัวต่อตัวกับเขา 879 00:57:24,482 --> 00:57:26,943 ‎เท่ากับเขาต้องใช้มุม ใช้ฟิสิกส์ 880 00:57:28,695 --> 00:57:32,031 ‎รัสเซลล์รู้ดีว่าเขาจะไม่สามารถ 881 00:57:32,115 --> 00:57:35,785 ‎หยุดแชมเบอร์เลนได้ ‎เว้นแต่จะทำเรื่องแปลกไปจากเดิม 882 00:57:36,995 --> 00:57:39,038 ‎เราเห็นว่าบิลวางตำแหน่งตัวเอง 883 00:57:39,122 --> 00:57:41,541 ‎พยายามกันบอลเขาทุกทาง 884 00:57:41,624 --> 00:57:46,921 ‎ในขณะเดียวกันก็เห็นว่าวิลท์กำลังคิดคำนวณ 885 00:57:47,005 --> 00:57:49,299 ‎พยายามหักล้างสิ่งที่บิลทำอยู่ 886 00:57:50,216 --> 00:57:52,469 ‎ผมรู้ว่าผมหยุดเขาไม่ได้ 887 00:57:54,012 --> 00:57:58,349 ‎แต่ผมลดความเร็วเขาได้ ‎ตอนนั้นผมก็คิดดีที่สุดได้แค่นั้น 888 00:58:00,018 --> 00:58:04,105 ‎ผมว่าผมทำได้ 20 แต้ม ‎และรีบาวด์ได้เกิน 20 ครั้ง 889 00:58:05,190 --> 00:58:09,694 ‎ผมว่าเขาก็เล่นได้ดีมาก ‎รีบาวด์ได้เกิน 20 ครั้ง ยิงได้ 30 แต้ม 890 00:58:11,070 --> 00:58:13,573 ‎เราทั้งคู่บล็อกและอะไรอื่นๆ ได้เยอะ 891 00:58:15,909 --> 00:58:18,745 ‎เกมนั้น แชมเบอร์เลนได้สถิติดีกว่าทุกทาง… 892 00:58:18,828 --> 00:58:20,038 ‎(เสียงเร้ด อาวร์แบค) 893 00:58:20,121 --> 00:58:22,248 ‎เว้นเรื่องเดียว เขาไม่ชนะ 894 00:58:28,338 --> 00:58:29,547 ‎(วิลท์ไม่ยอมเหี่ยว) 895 00:58:31,716 --> 00:58:36,221 ‎(วิลท์ต่อขาโดนรัสเซลล์หั่นขา ‎ในการเผชิญหน้าของยักษ์เอ็นบีเอครั้งแรก) 896 00:58:50,443 --> 00:58:53,696 ‎ช่วงต้นยุค 1960 เอ็นบีเออยากได้ผู้ชมมากขึ้น 897 00:58:53,780 --> 00:58:56,241 ‎ด้วยการจัดทัวร์ก่อนฤดูกาลและจัดแข่งซ้อมโชว์ 898 00:58:56,741 --> 00:58:59,452 ‎ในปี 1961 ทีมเซลติกส์กับฮอว์คส์ 899 00:58:59,536 --> 00:59:01,871 ‎ตกลงจะประลองฝีมือกันที่เล็กซิงตัน เคนทักกี้ 900 00:59:03,164 --> 00:59:05,041 ‎แล้วก็ขายหมดเกลี้ยง 901 00:59:05,124 --> 00:59:08,419 ‎เป็นครั้งแรกที่เราเรียกผู้ชม ‎เข้าสนามได้เป็นหมื่นคน 902 00:59:09,045 --> 00:59:12,840 ‎เช้าวันแข่ง ทีมเซลติกส์เช็คอินเข้าโรงแรมฟีนิกซ์ 903 00:59:13,341 --> 00:59:17,679 ‎แต่ที่เล็กซิงตันก็เหมือนหลายๆ เมืองตอนใต้ ‎ที่ยังเป็นเมืองแบ่งแยกสีผิว 904 00:59:18,263 --> 00:59:20,473 ‎เราเดินลงไปชั้นล่างของโรงแรม 905 00:59:20,557 --> 00:59:23,476 ‎คนที่อยู่หลังเคาน์เตอร์บอกเราว่า 906 00:59:23,560 --> 00:59:25,812 ‎"ในนี้ไม่บริการนิโกร" 907 00:59:25,895 --> 00:59:28,648 ‎โรงแรมเดียวกัน ‎แต่เราสั่งของกินเหมือนกันไม่ได้ 908 00:59:28,731 --> 00:59:30,149 ‎ผมเลยตัดสินใจ 909 00:59:30,233 --> 00:59:33,736 ‎คนอื่นๆ ก็ตัดสินใจทำตามผม คือเราจะไม่เล่น 910 00:59:33,820 --> 00:59:36,072 ‎ผมเลยไปบอกเร้ดว่าเราจะกลับละ 911 00:59:36,155 --> 00:59:39,242 ‎เขาบอก "เดี๋ยวนะ ขอดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น" 912 00:59:40,410 --> 00:59:41,828 ‎อาร์โนลด์ยกหูโทรศัพท์ 913 00:59:41,911 --> 00:59:45,623 ‎โทรหาผู้จัดการของห้องอาหาร ‎บอกว่า "นั่นเป็นแขกโรงแรม! 914 00:59:45,707 --> 00:59:48,126 ‎คุณต้องบริการทุกคนที่เป็นแขก" 915 00:59:48,209 --> 00:59:53,381 ‎เราเลยกลับเข้าไป เขาบอกว่า ‎"เราได้รับคำสั่งให้บริการคุณ" 916 00:59:54,507 --> 00:59:59,095 ‎รัสบอกว่า "ล้อเล่นน่ะ เราไม่ได้อยู่โรงแรมนี้" 917 00:59:59,178 --> 01:00:01,764 ‎นั่นเป็นตอนที่เขาพูดอีกว่า ‎"งั้นเราก็บริการไม่ได้" 918 01:00:01,848 --> 01:00:04,475 ‎"โรงแรมนี้ไม่บริการนิโกร" 919 01:00:04,559 --> 01:00:09,397 ‎สุดท้ายเราเลยเก็บของออกมา 920 01:00:10,857 --> 01:00:11,941 ‎ผมบอกเร้ด 921 01:00:12,025 --> 01:00:15,820 ‎ผมอยากให้เซลติกส์ลงสนามเล่นไป ‎แต่ให้เข้าใจอย่างชัดกันไปเลย 922 01:00:15,903 --> 01:00:19,407 ‎คนดำในทีมยืนยันว่า ‎"เราจะไม่ลงเล่นในสภาพแบบนั้น" 923 01:00:19,490 --> 01:00:21,701 ‎ผมโทรบอกคนในทีมอื่น 924 01:00:21,784 --> 01:00:25,038 ‎บอกว่านักกีฬาผิวดำจากเซลติกส์จะไม่ลงเล่น 925 01:00:25,538 --> 01:00:30,001 ‎นักกีฬาผิวดำจากอีกทีมหนึ่ง ‎จึงตัดสินใจไม่ลงเล่นเหมือนกัน 926 01:00:31,586 --> 01:00:36,090 ‎คืนนั้นทีมเซลติกส์กับฮอว์คส์ในแบบผิวขาวล้วน ‎แข่งกันที่เล็กซิงตัน 927 01:00:36,758 --> 01:00:41,387 ‎สื่อโวยวายกันใหญ่ว่า ‎พวกเขาควรถูกพักงานหรือถูกปรับ 928 01:00:41,471 --> 01:00:44,599 ‎พวกเขาทำผิดต่อพื่อนร่วมทีม ‎พวกนั้นเหมือนขโมยเงิน 929 01:00:44,682 --> 01:00:47,226 ‎เพราะพวกเขาได้เงินแต่ไม่ลงสนาม 930 01:00:47,310 --> 01:00:49,020 ‎แต่บิลพูดไว้ชัดเจนมาก 931 01:00:49,103 --> 01:00:52,273 ‎"ถ้าเกิดเรื่องนี้อีก เราก็จะทำแบบเดิมอีก" 932 01:00:52,357 --> 01:00:56,694 ‎เขายังเป็นส่วนหนึ่งของนักกีฬาผิวดำชุดแรกๆ 933 01:00:56,778 --> 01:01:01,574 ‎เขารู้ดีว่าเขาต้องแบกปัญหาแบ่งเชื้อชาติไว้บนบ่า 934 01:01:01,658 --> 01:01:05,328 ‎ต้องเป็นตัวแทนที่ไม่ใช่แค่ ‎แสดงภาพตัวเอง แต่ภาพของชุมชนทั้งหมด 935 01:01:06,579 --> 01:01:09,874 ‎ฉันคิดเลยว่านักกีฬาทุกวันนี้ ‎รับช่วงภาระนั้นและกำลังสานต่อ 936 01:01:09,957 --> 01:01:11,793 ‎พวกเรามีเวทีแสดงออกของตัวเอง 937 01:01:11,876 --> 01:01:13,878 ‎ถ้าเป็นเราเจอร้านแบบนั้น ‎ป่านนี้คงลงทวิตเตอร์ 938 01:01:13,961 --> 01:01:16,881 ‎แบบ "เดี๋ยว ไม่คิดจะบริการพวกเราเหรอ" 939 01:01:16,964 --> 01:01:19,884 ‎พวกเราต้องกระจายข่าวทางทวิตเตอร์ทันที 940 01:01:19,967 --> 01:01:20,968 ‎ผมเป็นไอ้เด็กเคยตัว 941 01:01:21,052 --> 01:01:24,430 ‎ผมไม่รู้เลยว่ามันเป็นยังไง ‎เมื่อเข้าไปในโรงแรมแล้วเขาบอกว่า 942 01:01:24,514 --> 01:01:27,433 ‎"นอนที่นี่ไม่ได้ แกต้องไปนอนข้างหลัง" 943 01:01:27,517 --> 01:01:31,020 ‎ผมไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงถ้าจะต้อง ‎กินน้ำจากก๊อกน้ำดื่ม "คนขาวเท่านั้น" 944 01:01:31,104 --> 01:01:33,648 ‎คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนักกีฬาที่เล่นอยู่ตอนนี้ 945 01:01:33,731 --> 01:01:37,402 ‎ไม่ได้ผ่านประสบการณ์หนึ่งในสิบ ‎อย่างที่เขาต้องเจอด้วยซ้ำ 946 01:01:40,363 --> 01:01:46,786 ‎เรื่องที่ตลกคือในระหว่างที่พวกเขา ‎ต้องเจอกับการแบ่งแยกสีผิวนอกสนาม 947 01:01:46,869 --> 01:01:50,498 ‎นักกีฬาผิวดำก็ยิ่งครองสนามบาสเกตบอลมากขึ้น 948 01:01:51,666 --> 01:01:52,917 ‎มาถึงช่วงต้นยุค 1960 949 01:01:53,000 --> 01:01:56,129 ‎เอ็นบีเอเริ่มเข้าสู่กระแสหลัก ‎ของวงการกีฬาอเมริกา 950 01:01:56,212 --> 01:01:59,090 ‎กำลังจะเข้าสู่ยุคที่กีฬานั้นขายได้เป็นกอบเป็นกำ 951 01:01:59,632 --> 01:02:01,926 ‎ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เติบโตเช่นนั้นคือการมาถึง 952 01:02:02,009 --> 01:02:04,637 ‎ของซูเปอร์สตาร์แอฟริกันอเมริกันทั้งหลาย 953 01:02:04,721 --> 01:02:07,932 ‎ออสการ์ โรเบิร์ตสัน, เอลจิน เบย์เลอร์ 954 01:02:08,015 --> 01:02:11,102 ‎พวกนี้เป็นนักบาสเกตบอลที่เก่งมาก 955 01:02:11,894 --> 01:02:15,398 ‎การเสริมทัพนักกีฬาผิวดำเก่งๆ จำนวนมากในลีก 956 01:02:15,481 --> 01:02:17,358 ‎ทำให้มันยิ่งเติบโตเบ่งบาน 957 01:02:18,651 --> 01:02:21,821 ‎คนพวกนี้ช่วยยกระดับบาสเกตบอล 958 01:02:22,363 --> 01:02:26,826 ‎ผมเรียกมันว่าศิลปะกีฬาคนดำ ‎"ผมจะแสดงตัวตนผ่านเกมกีฬาได้ยังไง" 959 01:02:32,290 --> 01:02:35,460 ‎ในขณะเดียวกัน ‎ประชาชนก็สนใจความเป็นอริคู่แค้น 960 01:02:35,543 --> 01:02:37,503 ‎ระหว่างเซ็นเตอร์ตัวกลั่นผิวดำสองคน 961 01:02:37,587 --> 01:02:40,715 ‎ทั้งสื่อ แฟนๆ และทุกคนปั่นเรื่องนี้กันหมด 962 01:02:40,798 --> 01:02:42,258 ‎เป็นการต่อสู้ที่กินกันไม่ลง 963 01:02:42,341 --> 01:02:44,385 ‎(บิล - 'กันวิลท์ทีเหมือนต้องไปรบ') 964 01:02:44,469 --> 01:02:45,970 ‎(วิลท์ - 'บิลเหมือนนักสู้เกลดิเอเตอร์') 965 01:02:46,053 --> 01:02:49,849 ‎เอ็นบีเอใช้รัสเซลล์กับวิลท์ทำการตลาด ‎แล้วก็ได้ผลด้วย 966 01:02:51,934 --> 01:02:54,312 ‎พวกเขาทำให้คนมาดูกีฬานี้เยอะขึ้น 967 01:02:54,395 --> 01:02:58,608 ‎คุณอาจเรียกว่าปั่นกระแส ‎ผมเรียกว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนมาดู 968 01:02:59,150 --> 01:03:01,736 ‎ตั๋วของทั้งสองทีมจะขายหมดทันที 969 01:03:02,612 --> 01:03:06,240 ‎มันดีต่อพวกสื่อ ดีต่อการเรียกคนมาดู 970 01:03:06,324 --> 01:03:09,869 ‎แต่เราไม่สนหรอกว่าเขียนข่าวยังไง ‎เราแค่อยากชนะ 971 01:03:10,703 --> 01:03:12,872 ‎แข่งกับแชมเบอร์เลนไม่ใช่เรื่องหมูๆ นะ 972 01:03:15,374 --> 01:03:20,671 ‎วิลท์เพิ่งเล่นมาแค่สองปี ‎แต่เขาเป็นนักกีฬาที่ครองสนามได้มากที่สุด 973 01:03:22,465 --> 01:03:24,675 ‎เขาจะครองทั้งเกม 974 01:03:25,802 --> 01:03:31,098 ‎เฉลี่ยทำแต้มได้ 50 แต้มต่อเกมในฤดูกาลนั้น ‎นั่นค่าเฉลี่ยนะ 50 แต้ม ทุกเกม 975 01:03:31,766 --> 01:03:34,018 ‎นึกออกมั้ยว่าใครทำแต้มเฉลี่ยได้ 50 แต้มอีก 976 01:03:34,101 --> 01:03:39,232 ‎ผมทำได้แค่ครั้งเดียวตลอดที่แข่ง 13 ปี ‎แถมต้องต่อเวลาถึงสี่รอบกว่าจะถึง! 977 01:03:40,316 --> 01:03:45,696 ‎และในนัดที่แข่งกับนิวยอร์กนิคส์ ‎เมื่อเดือนมีนาคม 1962 วิลท์ทำเกินหน้าตัวเอง 978 01:03:46,405 --> 01:03:49,575 ‎และทำสถิติที่คนส่วนใหญ่ ‎เห็นตรงกันว่าจะไม่มีทางถูกทำลายได้ 979 01:03:50,159 --> 01:03:52,119 ‎เขาได้แต้มทั้งหมด 100 แต้ม 980 01:03:53,412 --> 01:03:56,916 ‎หลังนัดนั้น ทุกคืนผู้คนรอแต่จะดูให้ได้ 100 แต้ม 981 01:03:58,042 --> 01:04:03,339 ‎ในสายตาของประชาชน ‎คนเดียวที่จะท้าสู้กับวิลท์ได้คือบิล รัสเซลล์ 982 01:04:05,299 --> 01:04:07,635 ‎สื่อก็หยิบเรื่องนั้นไปปั่นกระแสต่อ 983 01:04:07,718 --> 01:04:10,972 ‎เพิ่มแรงกดดันให้ยักษ์ไททันทั้งสองต้องทำให้ได้ 984 01:04:12,431 --> 01:04:15,017 ‎ผมรู้สึกเหมือนกับทุกวันอาทิตย์ 985 01:04:16,394 --> 01:04:19,522 ‎เราจะต้องถูกถ่ายทอดทีวีทั่วประเทศ 986 01:04:19,605 --> 01:04:23,943 ‎ถ้าผมลงสนามแล้วเล่นตามปกติ ‎ผมจะโดนด่าหนัก 987 01:04:24,026 --> 01:04:26,404 ‎คือเขาจะยิงได้ 60 หรือ 65 แต้ม 988 01:04:27,238 --> 01:04:30,241 ‎วิลท์กับบิลชิงดีชิงเด่นกัน 989 01:04:30,324 --> 01:04:34,579 ‎แบบที่เราไม่อาจเทียบได้กับนักกีฬาทุกวันนี้ ‎สมัยนั้นเล่นไม่เหมือนกัน 990 01:04:34,662 --> 01:04:38,624 ‎คนฟันธงไม่ได้ว่าใครเป็นคนดี ใครเป็นตัวร้าย 991 01:04:38,708 --> 01:04:41,627 ‎เพราะแชมเบอร์เลนมีอัธยาศัยไมตรีดีกว่ามาก 992 01:04:41,711 --> 01:04:43,629 ‎เขาเป็นคนที่เข้าถึงง่ายกว่ามาก 993 01:04:43,713 --> 01:04:46,757 ‎"เราอยากให้นิโกรเป็นแบบนี้" มากกว่า 994 01:04:46,841 --> 01:04:48,217 ‎แต่อีกมุมหนึ่ง 995 01:04:48,301 --> 01:04:51,637 ‎ก็มีบิล รัสเซลล์ที่เป็นนิโกรตัวเอ้ 996 01:04:51,721 --> 01:04:54,807 ‎"ดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเขาชอบหน้าเรารึเปล่า" ‎นึกออกมั้ย 997 01:04:56,392 --> 01:05:01,355 ‎ปลายฤดูกาล 1961-1962 ‎วิลท์ได้พยายามพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง 998 01:05:01,439 --> 01:05:04,358 ‎ว่าเขาสามารถพาทีมวอร์ริเออร์สไปถึงเส้นชัย 999 01:05:04,442 --> 01:05:06,152 ‎และโค่นแชมป์อย่างเซลติกส์ได้ 1000 01:05:09,697 --> 01:05:12,533 ‎บิลอาจเป็นซูเปอร์สตาร์ในยุคของเขา 1001 01:05:12,617 --> 01:05:16,287 ‎แต่เขาก็ทำเหมือนตัวเองเป็นแค่หนึ่งในทีมห้าคน 1002 01:05:16,370 --> 01:05:20,249 ‎วิลท์จะทำเหมือน "ข้าคือวิลท์ แชมเบอร์เลน ‎ข้ามาแล้ว ข้าจะยิง 100 แต้ม" 1003 01:05:20,333 --> 01:05:22,627 ‎"พวกเอ็งจะทำอะไรก็ทำ ข้าจะทำให้ชนะ" 1004 01:05:22,710 --> 01:05:24,128 ‎เป็นการนำทีมคนละแบบกันเลย 1005 01:05:24,962 --> 01:05:27,340 ‎ทั้งสองแบบได้ผลทั้งคู่ 1006 01:05:27,423 --> 01:05:30,927 ‎ทีมของบิลต้อนจนวอร์ริเออร์สจนมุม ‎ในนัดเปิดสนาม 1007 01:05:31,010 --> 01:05:32,178 ‎แต่ในนัดที่สอง 1008 01:05:32,261 --> 01:05:35,389 ‎การทำคะแนนไม่หยุดหย่อนของวิลท์ ‎ทำให้ตีตื้นขึ้นมาเสมอ 1009 01:05:35,473 --> 01:05:40,561 ‎ผมต้องเตือนตัวเอง ‎อย่าไปแข่งเกมตัวเลขกับเขา 1010 01:05:41,562 --> 01:05:44,649 ‎ในการแข่งซีรีส์นั้น รัสเซลล์จะเข้าไปในห้องพัก 1011 01:05:44,732 --> 01:05:48,152 ‎บอกว่า "ฉันจะจัดการวิลท์จริงๆ 1012 01:05:48,235 --> 01:05:51,364 ‎แต่จะจัดการได้ ก็ต้องลงแรงเยอะมาก 1013 01:05:51,447 --> 01:05:54,951 ‎พวกนายควรพยายามขึ้นนำให้ได้" 1014 01:05:56,285 --> 01:06:00,373 ‎หลังจากทั้งพยายามขโมยลูกจากวิลท์ ‎กระโดดเข้าไปขวางเขา 1015 01:06:00,456 --> 01:06:03,042 ‎เล่นประกบหลังเขา สับขาหลอกจนเขาเป๋ 1016 01:06:03,125 --> 01:06:05,586 ‎และพยายามบีบให้ยิงลูกได้ยากขึ้น 1017 01:06:05,670 --> 01:06:09,632 ‎แทบไม่เหลืออะไรในสนามที่เขาจะทำต่อได้ 1018 01:06:09,715 --> 01:06:13,135 ‎แต่ผมบอกแค่นี้แล้วกัน ‎หลังจากที่รัสเซลล์ร่ายมนตร์เสร็จ 1019 01:06:13,928 --> 01:06:16,597 ‎วิลท์ก็เป็นหนุ่มหัวร้อนเลย 1020 01:06:17,181 --> 01:06:20,017 ‎มีเรื่องกันแล้ว แชมเบอร์เลนอยู่ใจกลางเลย 1021 01:06:20,101 --> 01:06:26,357 ‎สุดท้ายเขาจะทำได้แค่ 35 แต้ม ‎และในนัดเหล่านั้น ครึ่งหนึ่งเราชนะ 1022 01:06:26,440 --> 01:06:28,818 ‎(เซลติกส์ผงาด ‎แซม โจนส์และวิลท์ปะทะกัน) 1023 01:06:28,901 --> 01:06:33,489 ‎สถิติส่วนตัวของเขา ‎อาจไม่สวยงามเมื่อเทียบกับวิลท์ 1024 01:06:33,572 --> 01:06:35,783 ‎แต่สุดท้ายแล้ว 1025 01:06:35,866 --> 01:06:40,496 ‎พ่อคิดเสมอว่าเราจะเล่นยังไงก็ไม่สำคัญ 1026 01:06:40,579 --> 01:06:41,872 ‎ได้กี่คะแนนก็ไม่สำคัญ 1027 01:06:41,956 --> 01:06:45,084 ‎ตราบใดที่สุดท้ายแล้วเราพูดได้ว่า "เราชนะ" 1028 01:06:47,086 --> 01:06:49,130 ‎แข่งไปถึงจุดที่เสมอกันสามต่อสามนัด 1029 01:06:49,755 --> 01:06:51,298 ‎ตอนนี้ก็ทีใครทีมันแล้ว 1030 01:06:52,508 --> 01:06:55,636 ‎เมื่อการแข่งชิงแชมป์ดิวิชั่นตะวันออก ‎ปี 1962 เสมอกัน 1031 01:06:55,720 --> 01:06:59,724 ‎นัดที่เจ็ดจะยิ่งเน้นความแตกต่าง ‎ระหว่างแชมเบอร์เลนกับรัสเซลล์ 1032 01:07:00,725 --> 01:07:02,268 ‎แชมเบอร์เลนเล่นได้สุดยอด 1033 01:07:03,936 --> 01:07:07,773 ‎แต่รัสเซลล์มีความอยากเอาชนะเหมือนสิงโต 1034 01:07:07,857 --> 01:07:11,610 ‎ไม่ว่าจะต้องทำอะไรเพื่อชัยชนะ เขาทำได้เสมอ 1035 01:07:11,694 --> 01:07:16,198 ‎สุดท้ายต้องตัดกันที่ ‎การทำเกมหนึ่งหรือสองครั้งสุดท้ายของนัด 1036 01:07:17,575 --> 01:07:19,660 ‎และนี่คือเรื่องที่ไร้สาระที่สุด 1037 01:07:20,244 --> 01:07:21,412 ‎ถ้าเป็นที่บอสตัน 1038 01:07:21,495 --> 01:07:24,290 ‎พวกเราไว้ใจบิล รัสเซลล์เต็มที่ 1039 01:07:24,373 --> 01:07:26,959 ‎โห เกมนี้ถือเป็นเกมบาสที่สุดยอดเชียวครับ! 1040 01:07:27,043 --> 01:07:29,879 ‎เมื่อเหลือเวลาเพียง 13 วินาที ‎และคะแนนเสมอกัน 1041 01:07:29,962 --> 01:07:32,256 ‎เซลติกส์มีโอกาสจะปิดเกม 1042 01:07:32,339 --> 01:07:35,926 ‎คูซีย์เลี้ยงไปทางขวา กลับมาที่กลางสนาม 1043 01:07:36,594 --> 01:07:39,680 ‎ไฮน์ซอห์น เข้าไปหาแป้น ยิงไม่ได้มุม 1044 01:07:39,764 --> 01:07:42,892 ‎ลูกไม่ยอมลง ฟิลาเดลเฟียได้บอล 1045 01:07:43,476 --> 01:07:45,478 ‎ตอนนี้เป็นโอกาสของวอร์ริเออร์ส 1046 01:07:45,978 --> 01:07:49,982 ‎แล้วพวกเขาก็มีแผนเดียวคือส่งลูกให้ถึงมือวิลท์ 1047 01:07:51,025 --> 01:07:52,735 ‎รัสเซลล์เล่นได้สวยมาก! 1048 01:07:52,818 --> 01:07:55,821 ‎นั่นทำให้เห็นเลยว่าเขาอยากชนะมากแค่ไหน 1049 01:07:55,905 --> 01:07:57,239 ‎บอสตันจะได้ลูก 1050 01:07:59,533 --> 01:08:01,577 ‎เมื่อมีชัยชนะของซีรีส์เป็นเดิมพัน 1051 01:08:01,660 --> 01:08:04,205 ‎บิลรู้ว่าจะไว้ใจใครให้ยิงลูกสุดท้าย 1052 01:08:05,915 --> 01:08:07,875 ‎แซม โจนส์ยิงยาว 1053 01:08:09,710 --> 01:08:10,544 ‎ว้าว! 1054 01:08:10,628 --> 01:08:14,131 ‎เวลาหมดแล้ว บอสตันเซลติกส์ทำได้อีกครั้ง 1055 01:08:17,009 --> 01:08:19,011 ‎บิล รัสเซลล์เคยพูดไว้ว่า 1056 01:08:19,095 --> 01:08:21,972 ‎ถ้าอยากเป็นแชมป์คนเดียว 1057 01:08:22,056 --> 01:08:23,849 ‎ไอ้หนูเอ๊ย ไปเล่นเทนนิสไป" 1058 01:08:23,933 --> 01:08:28,104 ‎แต่ถ้าอยากชนะแบบครอบครัว ‎นายต้องมีความสัมพันธ์ 1059 01:08:28,187 --> 01:08:29,480 ‎กับเพื่อนๆ ในทีม" 1060 01:08:29,563 --> 01:08:34,819 ‎(เซลติกส์ขยี้วอร์ริเออร์ส ‎เตรียมเจอกับลอสแองเจลิสเลเกอร์ส) 1061 01:08:34,902 --> 01:08:36,529 ‎หากอยากได้ธงแชมป์อีกครั้ง 1062 01:08:36,612 --> 01:08:39,907 ‎เซลติกส์ต้องเอาชนะคู่แข่งที่คุ้นเคย ‎แต่พัฒนาขึ้นแล้ว 1063 01:08:40,407 --> 01:08:42,368 ‎(เลเกอร์สบาสเกตบอล ‎รอบเพลย์ออฟ) 1064 01:08:42,451 --> 01:08:45,663 ‎ทีมเลเกอร์สย้ายจากมินนีอาโพลิส ‎มาที่ลอสแองเจลิส 1065 01:08:45,746 --> 01:08:48,791 ‎และมีดาวรุ่งพุ่งแรงใหม่อีกสองคน 1066 01:08:52,461 --> 01:08:54,088 ‎เอ่อ ผมชื่อเจอร์รี่ เวสต์ 1067 01:08:54,171 --> 01:08:56,841 ‎งานที่ผมเคยทำคือ… 1068 01:08:57,800 --> 01:09:00,386 ‎กีฬาบ้าอะไรนะที่เขาให้เลี้ยงลูกบอลน่ะ 1069 01:09:00,469 --> 01:09:01,595 ‎บาสเกตบอล ใช่ๆ 1070 01:09:02,721 --> 01:09:06,267 ‎ฮ็อตร็อดฮันด์ลีย์ส่งลูกผ่านหลัง ‎ให้เจอร์รี่ เวสต์ที่ตามมา 1071 01:09:06,350 --> 01:09:08,894 ‎เวสต์ขึ้นยิง ได้อีกลูกแล้ว 1072 01:09:10,479 --> 01:09:14,817 ‎เจอร์รี่เป็นนักบาสที่เก่งมาก ‎เป็นหนึ่งในคนที่สามารถเล่นเกมรุกได้ดี 1073 01:09:14,900 --> 01:09:17,695 ‎พอๆ กับเวลาที่เล่นเกมรับ 1074 01:09:17,778 --> 01:09:19,613 ‎เจอร์รี่ เวสต์ ‎เป็นตัวเลือกแรกของการเรียกเข้าทีม 1075 01:09:19,697 --> 01:09:23,701 ‎หนึ่งในตัวยิงฝีมือดีที่สุด ‎และเป็นคนที่เล่นแรงที่สุดตลอดกาล 1076 01:09:24,785 --> 01:09:27,454 ‎แถวลอสแองเจลิสเรียกเขาว่า "มิสเตอร์คลัตช์" 1077 01:09:27,538 --> 01:09:31,625 ‎สุดท้ายแล้วถ้าส่งลูกถึงมือเจอร์รี่ ‎ก็ชนะใสๆ ครับ 1078 01:09:37,339 --> 01:09:40,509 ‎ตอนต้องเจอกับเซลติกส์ ผมไม่ได้กังวลเลย 1079 01:09:41,635 --> 01:09:44,096 ‎พวกนั้นต่างหากต้องกลัวที่จะเจอกับผม 1080 01:09:44,180 --> 01:09:47,433 ‎ตอนนั้นทีมเรามีเอลจิน เบย์เลอร์ ‎ซึ่งดูเขาเล่นก็บันเทิงมาก 1081 01:09:47,933 --> 01:09:50,895 ‎ไม่มีปีกหน้าคนไหนเหมือนเอลจิน เบย์เลอร์แล้ว 1082 01:09:50,978 --> 01:09:54,231 ‎คนจำไม่ได้แล้วว่าเอลจินเก่งแค่ไหน ‎ไม่มีใครหยุดเขาได้ 1083 01:09:54,315 --> 01:09:58,736 ‎เอลจินเป็นดร.เจ ก่อนดร.เจจะมา ‎เขาเป็นไมเคิลก่อนไมเคิลจะเกิด 1084 01:10:01,280 --> 01:10:06,327 ‎ในนัดที่ห้าของรอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอปี 1962 ‎เบย์เลอร์ต้องแบกทั้งทีม 1085 01:10:06,410 --> 01:10:09,747 ‎ทำแต้มทั้งหมด 61 แต้ม ‎ซึ่งยังเป็นสถิติของรอบชิงชนะเลิศ 1086 01:10:10,456 --> 01:10:13,542 ‎เรามั่นใจในตัวเองว่าเราทำได้ จัดให้จบได้ 1087 01:10:13,626 --> 01:10:16,545 ‎นักกีฬาเก่งๆ มีความมั่นใจแบบนั้นกันหมด 1088 01:10:17,880 --> 01:10:21,258 ‎นัดเจ็ดที่จะตัดสิน ‎ทำให้ผู้ชมเข้ามาชมเต็มสนามการ์เด้น 1089 01:10:24,261 --> 01:10:29,433 ‎นัดที่เจ็ดปี 1962 ที่แข่งกับทีมเลเกอร์ส ‎คนมักเรียกกันว่า "เซลวี่เกม" 1090 01:10:29,516 --> 01:10:32,937 ‎เพราะเหลือเวลาแค่ห้าวินาที ‎คะแนนเสมอกันอยู่ที่ทีมละ 100 แต้ม 1091 01:10:33,020 --> 01:10:34,647 ‎เลเกอร์สได้ครองบอล 1092 01:10:35,648 --> 01:10:38,067 ‎เซลวี่เป็นการ์ดที่อยู่คู่กับเจอร์รี่ เวสต์ 1093 01:10:38,150 --> 01:10:40,110 ‎ผมกันเซลวี่อยู่ที่ครึ่งสนาม 1094 01:10:40,194 --> 01:10:43,739 ‎เซลวี่หนีผมเข้ามุมไปได้ 1095 01:10:45,324 --> 01:10:47,826 ‎เก้าในสิบลูก เขาจะยิงลูกนั้นเข้า 1096 01:10:47,910 --> 01:10:50,204 ‎สามวินาที สอง เซลวี่ยิง! 1097 01:10:50,913 --> 01:10:53,374 ‎ไม่ลงครับ รีบาวด์ได้ ต่อเวลา! 1098 01:10:55,167 --> 01:10:59,588 ‎บิล รัสเซลล์ถึงกับต้องคุกเข่ากับพื้นด้วยอารมณ์ 1099 01:10:59,672 --> 01:11:03,467 ‎แค่ในช่วงต่อเวลานั้น รัสเซลล์ที่เหนื่อยใจจะขาด ‎ยังสามารถทำได้อีกหกแต้ม 1100 01:11:03,550 --> 01:11:05,469 ‎ทำให้เซลติกส์นำฉิวเฉียด 1101 01:11:08,347 --> 01:11:11,850 ‎เบย์เลอร์เล่น โดนฟาวล์ ‎คิดว่าเป็นแฟรงค์ แรมซีย์ 1102 01:11:12,643 --> 01:11:16,397 ‎เขาออกจากเกมโดยทำได้ 23 แต้ม ‎จีน กอริเลียเข้ามาแทน 1103 01:11:17,606 --> 01:11:20,859 ‎เรามีคนชื่อจีน กอริเลียที่ไม่เคยได้ลงสนาม 1104 01:11:20,943 --> 01:11:22,236 ‎ไม่เคยได้เล่นเลย 1105 01:11:22,861 --> 01:11:26,156 ‎เร้ดไม่มีทางเลือก ‎เขาต้องส่งกอริเลียมาประกบเอลจิน 1106 01:11:26,240 --> 01:11:28,033 ‎เบย์เลอร์ได้ กอริเลียกัน 1107 01:11:28,117 --> 01:11:30,828 ‎เบย์เลอร์หมุน ยิง พลาดครับ ‎รัสเซลล์รีบาวด์ได้! 1108 01:11:31,912 --> 01:11:35,040 ‎เบย์เลอร์ยังโดนกอริเลียกันอยู่ ‎เซลวี่พยายามปัดที่ขอบห่วงให้ลง 1109 01:11:35,124 --> 01:11:36,583 ‎รีบาวด์ แซม โจนส์! 1110 01:11:39,378 --> 01:11:42,840 ‎ความจริงก็คือ หมอนั่นกลัวจนขยับไม่ได้ 1111 01:11:42,923 --> 01:11:46,385 ‎พอเอลจินส่งหลอก เขาไม่ขยับตามเลย ‎ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น 1112 01:11:46,885 --> 01:11:48,804 ‎ทำให้เอลจินเล่นไม่ได้เลยครับ 1113 01:11:48,887 --> 01:11:51,473 ‎ออก ไม่ลง รีบาวด์กัน เป่าฟาวล์แล้ว 1114 01:11:52,933 --> 01:11:55,686 ‎เบย์เลอร์ฟาวล์ เบย์เลอร์ต้องออกแล้วครับ 1115 01:11:56,186 --> 01:11:59,523 ‎คนยืนปรบมือทั้งสนามบอสตันการ์เด้น ‎ให้กับเอลจิน เบย์เลอร์ 1116 01:12:01,025 --> 01:12:05,154 ‎บิล รัสเซลล์เดินไปจับมือ ‎มือของนักกีฬาบาสเกตบอลชั้นเยี่ยม 1117 01:12:05,237 --> 01:12:06,238 ‎เอลจิน เบย์เลอร์ 1118 01:12:06,947 --> 01:12:10,242 ‎เมื่อคุมเกมได้ คูซีย์ก็ฆ่าเวลา 1119 01:12:10,326 --> 01:12:12,536 ‎ด้วยการเลี้ยงลูกมือขวาอันเป็นเอกลักษณ์ 1120 01:12:13,996 --> 01:12:16,540 ‎เขากำลังฆ่าเวลา เวลาไหลไปแล้ว 1121 01:12:16,623 --> 01:12:19,001 ‎และจบเกมแล้วครับ! 1122 01:12:24,757 --> 01:12:27,343 ‎สำหรับบิล รัสเซลล์ ได้ 30 แต้ม 1123 01:12:27,426 --> 01:12:30,971 ‎และรีบาวด์ได้ 40 ย้ำครับ 40 ลูก 1124 01:12:31,597 --> 01:12:33,932 ‎เป็นเกมบาสเกตบอลที่สนุกสุดยอด 1125 01:12:35,309 --> 01:12:39,521 ‎ในห้องล็อกเกอร์มีประเพณีเทเบียร์ฉลองกัน 1126 01:12:39,605 --> 01:12:41,857 ‎นี่เป็นแชมป์ครั้งที่ห้าของรัสเซลล์ 1127 01:12:41,940 --> 01:12:44,943 ‎และทีมเซลติกส์กลายเป็นราชวงศ์บาสแล้ว 1128 01:12:45,569 --> 01:12:49,281 ‎(แชมป์ครั้งที่ห้าในรอบหกปี) 1129 01:12:54,828 --> 01:12:59,875 ‎ในขั้นหนึ่งของรัสเซลล์ ช่วงปี 1960 ‎เขาถือว่าได้ใช้ชีวิตแบบฝันชาวอเมริกัน 1130 01:12:59,958 --> 01:13:01,335 ‎มีบ้านอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย 1131 01:13:01,418 --> 01:13:04,254 ‎มีลูกเล็กๆ สามคน มีภรรยาแสนรัก 1132 01:13:04,338 --> 01:13:06,840 ‎มีงานที่ดี มีรถหรู 1133 01:13:06,924 --> 01:13:11,053 ‎มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ‎ของชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง 1134 01:13:13,972 --> 01:13:18,268 ‎บิลกับโรสรู้สึกเข้ากับ ‎ย่านคนขาวที่เร้ดดิ้งได้มากขึ้น 1135 01:13:18,352 --> 01:13:21,688 ‎และเร้ดดิ้งก็ภาคภูมิใจกับ ‎ประชากรที่โด่งดังที่สุดของเมือง 1136 01:13:22,189 --> 01:13:25,734 ‎ในฤดูใบไม้ผลิปี 1963 ‎เมืองนั้นจัดงานให้บ้านรัสเซลล์ 1137 01:13:25,818 --> 01:13:28,695 ‎เป็นงานเลี้ยงฉลองรับขวัญเพื่อแสดงความชื่นชม 1138 01:13:29,446 --> 01:13:33,450 ‎ตัดสินใจในการประชุมเมืองเดือนมีนาคม 1963 1139 01:13:33,534 --> 01:13:37,454 ‎กำหนดให้วันนั้นถือเป็นวันบิล รัสเซลล์ 1140 01:13:37,538 --> 01:13:40,916 ‎บิล คืนนี้เราจัดงานเพื่อเป็นเกียรติ ‎ให้คุณกับโรสและครอบครัว 1141 01:13:40,999 --> 01:13:45,295 ‎ที่เร้ดดิ้งแห่งนี่ ‎ที่ซึ่งคุณไม่ได้เป็นเพียงนักบาสเกตบอล 1142 01:13:45,796 --> 01:13:51,301 ‎แต่เป็นนักกีฬา เป็นพ่อ เป็นคนรักครอบครัว 1143 01:13:51,844 --> 01:13:54,805 ‎และในฐานะผู้ที่อาศัยในเมืองนี้มาตลอดชีวิต 1144 01:13:54,888 --> 01:13:58,642 ‎ผมอยากคิดว่าหนึ่งในคุณสมบัติโดดเด่นของเมือง 1145 01:13:58,725 --> 01:13:59,852 ‎ความเป็นมิตรฉันเพื่อนบ้าน 1146 01:13:59,935 --> 01:14:03,689 ‎คุณนายรัสเซลล์ ผมยินดีเป็นอย่างยิ่ง 1147 01:14:03,772 --> 01:14:05,149 ‎และถือเป็นเกียรติอย่างที่สุด… 1148 01:14:05,232 --> 01:14:07,568 ‎เป็นศรีแก่เชื้อชาติเขา เผ่าพันธุ์มนุษย์ 1149 01:14:08,152 --> 01:14:11,238 ‎และร่วมมื้ออาหารกับทั้งคุณและคุณนายรัสเซลล์ 1150 01:14:11,321 --> 01:14:13,699 ‎ได้เวลาที่คุณจะพูดบ้างแล้ว 1151 01:14:14,950 --> 01:14:16,160 ‎ขอบคุณมากครับ 1152 01:14:17,494 --> 01:14:20,747 ‎ครับ คืนนี้ผมก็ตื่นเต้นอีกแล้ว ตื่นเต้นจริงๆ 1153 01:14:20,831 --> 01:14:24,501 ‎ให้ไปแข่งกับแชมเบอร์เลนสิบรอบ ‎ยังดีกว่าต้องเจอเรื่องนี้ครั้งเดียว 1154 01:14:25,002 --> 01:14:27,045 ‎ผมไม่รู้จะเริ่มตรงไหน 1155 01:14:27,129 --> 01:14:29,840 ‎แต่ขอพูดด้วยความจริงใจอย่างที่สุด 1156 01:14:29,923 --> 01:14:31,925 ‎งานนี้ว่ามันยิ่งใหญ่กว่าที่ผมคิด 1157 01:14:32,509 --> 01:14:35,846 ‎เมื่อได้เห็นคนดีๆ มากมายมารวมกันที่นี่ 1158 01:14:35,929 --> 01:14:39,808 ‎ทำให้ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยชีวิตนี้ก็ไม่ได้สูญเปล่า 1159 01:14:39,892 --> 01:14:44,688 ‎ผมคิดจริงๆ ว่า ‎ไม่มีใครสังเกตด้วยซ้ำว่าผมอยู่ที่นี่ 1160 01:14:45,772 --> 01:14:49,651 ‎และงานนี้จะเป็นสิ่งที่ผมจดจำไว้ตลอดไป 1161 01:14:50,444 --> 01:14:53,113 ‎ผมหวังแต่ว่าจะได้ใช้ชีวิต 1162 01:14:53,655 --> 01:14:56,742 ‎ที่ทำให้พวกคุณรู้สึกแบบนี้กับผมตลอดไป 1163 01:14:56,825 --> 01:14:59,495 ‎ผมซาบซึ้งกับงานนี้จริงๆ ขอบคุณมาก 1164 01:15:01,955 --> 01:15:03,165 ‎รัสเซลล์ประทับใจ 1165 01:15:03,248 --> 01:15:06,752 ‎เขารู้สึกว่าในที่สุดก็ได้รับการต้อนรับในเมืองที่อยู่ 1166 01:15:06,835 --> 01:15:09,630 ‎เขาตัดสินใจว่า "เราจะทุ่มเทให้เร้ดดิ้ง" 1167 01:15:09,713 --> 01:15:13,509 ‎"เราโตเกินบ้านของเราแล้ว ‎ถึงเวลาหาบ้านใหม่ในเร้ดดิ้ง" 1168 01:15:13,592 --> 01:15:16,386 ‎เขาไปมองหาบ้านที่โอ่อ่าขึ้นทางตะวันตก 1169 01:15:16,887 --> 01:15:18,305 ‎ไม่ถึงหนึ่งเดือนต่อมา 1170 01:15:18,388 --> 01:15:22,518 ‎มีข่าวลือหลุดไปว่า ‎ผมอยากซื้อบ้านที่อีกย่านหนึ่งของเมือง 1171 01:15:22,601 --> 01:15:24,853 ‎แล้วย่านนั้นก็ลุกขึ้นมาประท้วงกันใหญ่โต 1172 01:15:24,937 --> 01:15:27,064 ‎ในฐานะนักกีฬาหรือเรียกว่าคนดังก็ยังได้ 1173 01:15:27,147 --> 01:15:31,818 ‎เขายินดีจะให้คุณอยู่ในเมืองนั้น ‎ตราบใดที่ไม่ไปอยู่ใกล้ๆ เขา 1174 01:15:32,486 --> 01:15:34,571 ‎โรส ภรรยาของผมกลับมาบ้านทั้งน้ำตา 1175 01:15:34,655 --> 01:15:37,783 ‎เมื่อเธอต้องยืนดูชาวบ้านแถวนั้น ‎เข้าชื่อต่อต้านการขายบ้านให้เรา 1176 01:15:37,866 --> 01:15:40,953 ‎"ลืมบ้านหลังนั้นไปดีกว่า" โรสบอกผม 1177 01:15:41,036 --> 01:15:42,621 ‎"เขาไม่อยากให้เราอยู่ที่นี่" 1178 01:15:42,704 --> 01:15:45,832 ‎"ผมซื้อบ้านหลังนั้นแล้ว ผมคือคนที่จ่ายค่างวด" 1179 01:15:45,916 --> 01:15:48,835 ‎"ผมไม่สนว่าใครจะคิดยังไง" ผมบอก 1180 01:15:48,919 --> 01:15:53,090 ‎"แต่ใครจะเล่นกับลูกๆ เรา ‎เพื่อนบ้านคนขาวจะพูดอะไรใส่ลูกบ้าง" 1181 01:15:53,173 --> 01:15:54,007 ‎โรสถาม 1182 01:15:56,552 --> 01:15:58,595 ‎"นี่แหละคือการคิดเผื่อลูก" 1183 01:15:58,679 --> 01:16:02,182 ‎"ผมคงมองหน้าลูกไม่ได้ ‎ถ้าผมทนกับพฤติกรรมเหล่านั้น" 1184 01:16:02,266 --> 01:16:05,102 ‎ผมไม่ยอมให้ใครมาสั่งว่าผมจะใช้ชีวิตยังไง 1185 01:16:06,061 --> 01:16:10,065 ‎ยิ่งรัสเซลล์ได้แชมป์หลายครั้งเข้า ‎ยิ่งเขามีความสำคัญมากขึ้น 1186 01:16:10,148 --> 01:16:14,403 ‎เขารู้ว่าต่อให้ชนะกี่ครั้ง ‎นั่นก็ไม่ใช่เกราะปกป้องจากการถูกเหยียดสีผิว 1187 01:16:20,117 --> 01:16:24,037 ‎ผมได้แต่ทำปฏิกิริยาต่ออคติทางวัฒนธรรม ‎จากคนขาวมาตลอดชีวิต 1188 01:16:24,121 --> 01:16:25,664 ‎พบเห็นอยู่ทุกแห่ง 1189 01:16:25,747 --> 01:16:27,874 ‎นี่วิถีชีวิตแบบใหม่ 1190 01:16:27,958 --> 01:16:31,253 ‎ไม่ว่าจะเป็นในห้องสมุด ‎ในรายการโทรทัศน์ ในสีหน้าของผู้คน 1191 01:16:32,504 --> 01:16:34,881 ‎เรามีโอกาสอันดีที่จะประสบความสำเร็จ 1192 01:16:36,133 --> 01:16:38,302 ‎รู้สึกดีข้างในพอกับที่เห็นภายนอก 1193 01:16:39,928 --> 01:16:42,472 ‎จะไม่มีใครชอบหน้า ถ้าเราแต่งตัวไม่เป็น 1194 01:16:44,766 --> 01:16:47,102 ‎และนี่คือความงามที่แท้จริง 1195 01:16:50,689 --> 01:16:52,733 ‎แทบไม่มีอะไรที่คนขาวทำได้ 1196 01:16:52,816 --> 01:16:55,485 ‎โดยไม่เผยให้เห็นอคติที่ระคายเคืองใจผม 1197 01:16:57,279 --> 01:17:01,116 ‎ผมใช้เวลาไม่น้อย ‎พยายามต่อสู้กับอคติในทุกรูปแบบ 1198 01:17:02,200 --> 01:17:05,287 ‎ผมเล่นเกมรับมาตลอด ‎เหมือนกับในสนามบาสเกตบอล 1199 01:17:06,580 --> 01:17:08,206 ‎ตอนนี้ผมโหยหาการเล่นเกมรุก 1200 01:17:10,584 --> 01:17:15,339 ‎วิวัฒนาการของรัสเซลล์ ‎ก็เหมือนกับคนดำที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก 1201 01:17:15,422 --> 01:17:18,091 ‎ที่พยายามอย่างหนัก ก่อนจะคิดได้ว่า 1202 01:17:18,175 --> 01:17:22,721 ‎"ฉันควรใช้เวทีที่มีในการประท้วง ‎สิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนพี่น้องและกับฉันเอง" 1203 01:17:24,139 --> 01:17:27,851 ‎"มีอะไรให้ฉันพูด ‎มากกว่าแค่การทำให้สำเร็จไหม" 1204 01:17:31,021 --> 01:17:37,110 ‎นี่คือจุดเริ่มต้นของการโจมตีเต็มรูปแบบ 1205 01:17:37,778 --> 01:17:41,657 ‎ในระบบการแบ่งแยกและกีดกันสีผิว 1206 01:17:42,366 --> 01:17:46,453 ‎เมื่อถึงปี 1963 ‎การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนเริ่มรุกคืบ 1207 01:17:46,536 --> 01:17:49,331 ‎รัสเซลล์ก็ร่วมต่อสู้อย่างลึกล้ำยิ่งขึ้น 1208 01:17:51,375 --> 01:17:54,461 ‎มีการนัดเดินขบวนครั้งใหญ่ ‎รัสเซลล์เป็นคนนำขบวน 1209 01:17:54,544 --> 01:17:57,798 ‎จากร็อกซ์บิวรี ย่านของคนดำ ‎ไปยังย่านบอสตันคอมมอน 1210 01:18:19,111 --> 01:18:21,613 ‎ไม่กี่เดือนต่อมาที่เดอะมอลล์ วอชิงตันดีซี 1211 01:18:21,697 --> 01:18:24,783 ‎จะกลายเป็นที่เดินขบวนครั้งใหญ่ที่สุด ‎ในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา 1212 01:18:24,866 --> 01:18:27,119 ‎(สำนักงานใหญ่ดีซี - เดินต่อไปวอชิงตัน) 1213 01:18:27,202 --> 01:18:30,789 ‎พวกเขามากับผู้ร่วมใจผิวขาวจากทุกสารทิศ 1214 01:18:30,872 --> 01:18:34,543 ‎จุดหมายสำคัญคือ ‎เรียกร้องสิทธิมนุษยชนเต็มรูปแบบ 1215 01:18:35,877 --> 01:18:39,923 ‎จะไม่มีการยอมพักหรืออยู่อย่างสงบในอเมริกา 1216 01:18:40,882 --> 01:18:43,885 ‎จนกว่าเหล่านิโกรจะได้รับ ‎สิทธิในการเป็นพลเมือง 1217 01:18:45,178 --> 01:18:48,849 ‎การเดินขบวนไปวอชิงตัน ผมอยู่โรงแรมเดียวกับ 1218 01:18:48,932 --> 01:18:51,059 ‎สาธุคุณมาร์ติน ลูเธอร์ คิง 1219 01:18:51,143 --> 01:18:53,895 ‎เราเจอกันที่ล็อบบี้โรงแรมและได้คุยกันนิดหน่อย 1220 01:18:53,979 --> 01:18:57,357 ‎เขาเชิญให้ผมขึ้นเวทีตอนปราศรัยใหญ่ 1221 01:18:57,441 --> 01:18:59,484 ‎ผมปฏิเสธไปด้วยความเคารพ 1222 01:19:01,319 --> 01:19:05,949 ‎สาเหตุที่ปฏิเสธก็เพราะ ‎พวกเขาเตรียมการมาหลายปี 1223 01:19:06,032 --> 01:19:09,870 ‎เพื่อจะจัดเดินขบวนครั้งนี้ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย 1224 01:19:09,953 --> 01:19:12,956 ‎คงไม่ถูกนักถ้าผมจะไปขึ้นเวที 1225 01:19:13,039 --> 01:19:15,834 ‎แล้วบอกว่า "ฟังนะ นี่คือสิ่งที่เราทำกันมา" 1226 01:19:16,334 --> 01:19:17,878 ‎ผมจึงนั่งอยู่แถวหน้า 1227 01:19:19,004 --> 01:19:22,174 ‎เรามองว่าสบายเหมือนไปปิกนิก ‎แต่สมัยนั้นคนกลัวกันมาก 1228 01:19:22,924 --> 01:19:25,552 ‎มีทหารรวมเหล่าทัพมาล้อมเมืองกันเลย 1229 01:19:25,635 --> 01:19:29,222 ‎พวกนั้นตุนปืนพลาสมากันไว้เยอะมาก ‎นึกว่าจะต้องเป็นเหตุนองเลือด 1230 01:19:29,306 --> 01:19:32,017 ‎การที่จะไปเดินขบวนสู่วอชิงตันได้ต้องกล้ามาก 1231 01:19:33,894 --> 01:19:37,439 ‎ผมว่าในยุคที่รัสเซลล์ยังเล่นบาสเกตบอล 1232 01:19:38,148 --> 01:19:40,275 ‎โลกเราปั่นป่วนต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง 1233 01:19:40,358 --> 01:19:44,821 ‎ไม่ใช่แค่ "จะเสียงาน" หรือ "เสียอาชีพ" 1234 01:19:44,905 --> 01:19:46,406 ‎แต่เป็น "เสียชีวิต" 1235 01:19:46,907 --> 01:19:49,284 ‎เคยมีคนโทรมาขู่ คนโทรมา 1236 01:19:49,367 --> 01:19:53,288 ‎บอกว่าเขาจะฆ่าผม จะระเบิดบ้านผมทิ้ง 1237 01:19:54,498 --> 01:19:57,375 ‎ผมตอบว่า "ถึงเวลาตายเมื่อใด ผมก็พร้อม" 1238 01:19:57,459 --> 01:20:00,086 ‎(ข่าวซีบีเอส ‎คำประกาศจากชายที่ถูกฆ่า) 1239 01:20:01,004 --> 01:20:05,675 ‎เมดการ์ เอเวอร์สทุ่มเวลาเก้าปีในชีวิต ‎กับสงครามต่อต้านการเหยียดชาติพันธุ์ 1240 01:20:05,759 --> 01:20:07,761 ‎ตอนนี้เขาสละชีวิตในการต่อสู้แล้ว 1241 01:20:07,844 --> 01:20:11,181 ‎ชายวัย 37 ปี ‎อดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สอง 1242 01:20:11,264 --> 01:20:14,601 ‎ตอนนี้เป็นมรณสักขี ‎ในการต่อสู้ของนิโกรเพื่อยุติการแบ่งแยกสีผิว 1243 01:20:18,522 --> 01:20:20,941 ‎เมื่อเมดการ์ เอเวอร์สโดนยิง 1244 01:20:21,525 --> 01:20:26,571 ‎เราจัดพิธีศพให้เขาที่บอสตัน ที่บอสตันคอมมอน 1245 01:20:27,364 --> 01:20:30,033 ‎ผมนั่งข้างๆ ชาร์ลี เอเวอร์ส น้องชายเขา 1246 01:20:30,116 --> 01:20:33,537 ‎ผมบอกว่า "ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ นี่เบอร์ผม" 1247 01:20:34,246 --> 01:20:39,793 ‎หน้าร้อนถัดมาเขาโทรมาบอกผมว่า ‎"พวกเราเสียขวัญกำลังใจ 1248 01:20:39,876 --> 01:20:43,630 ‎คุณช่วยมาจัดคลินิกบาสเกตบอล ‎ที่แจ็คสัน มิสซิสซิปปีได้ไหม 1249 01:20:43,713 --> 01:20:46,675 ‎เพื่อให้เห็นว่ายังมีคนนอกขบวนการ ‎ที่สนใจใยดีเราอยู่" 1250 01:20:50,053 --> 01:20:53,849 ‎(แจ็คสัน มิสซิสซิปปี) 1251 01:20:53,932 --> 01:20:57,894 ‎มิสซิสซิปปีในปี 1964 ยังเป็นเมืองที่นองเลือด 1252 01:20:57,978 --> 01:21:01,731 ‎ยังเป็นเมืองที่… มันเลวร้ายมาก 1253 01:21:01,815 --> 01:21:05,527 ‎ถ้ากรรมการพลเมืองผิวขาว หรือคลูคลักซ์แคลน 1254 01:21:05,610 --> 01:21:10,115 ‎และกลุ่มอะไรที่จะมาอนุรักษ์เชื้อชาติคนขาว 1255 01:21:10,198 --> 01:21:14,327 ‎ผมลืมชื่อไปแล้ว ‎พวกเขาไม่อยากมีส่วนร่วมด้วย 1256 01:21:14,411 --> 01:21:16,079 ‎และถ้าเอาตามใจพวกเขา 1257 01:21:16,580 --> 01:21:19,374 ‎พวกเขาบอกว่าไม่ถือถ้าจะต้องฆ่าใครบ้าง 1258 01:21:19,457 --> 01:21:25,088 ‎ชาร์ลีบอกผมว่า ‎"รู้ใช่ไหมว่าเราไม่ปล่อยให้เกิดอะไรกับคุณแน่" 1259 01:21:26,965 --> 01:21:28,091 ‎ผมก็แบบ "โอเค" 1260 01:21:29,342 --> 01:21:33,471 ‎เขาประกาศกับเพื่อนๆ ในทีม 1261 01:21:33,555 --> 01:21:36,308 ‎ว่าเขาจะไปมิสซิสซิปปี 1262 01:21:36,391 --> 01:21:39,561 ‎มีคนบอกว่า "ที่นั่นอันตรายนะ" 1263 01:21:40,145 --> 01:21:43,148 ‎คูซีย์หรือชาร์แมนหรือใครสักคนพูดขึ้นมา 1264 01:21:43,231 --> 01:21:46,109 ‎"บิล นายไปได้แหละ แค่อย่ากระโตกกระตาก" 1265 01:21:46,192 --> 01:21:52,532 ‎นี่คือคนที่เพิ่งได้แชมป์เอ็นบีเอ 1266 01:21:53,033 --> 01:21:56,369 ‎เป็นเอ็มวีพีอะไรงั้น สูง 206 ซม. ‎ผิวดำ ไว้หนวดเคราแพะ 1267 01:21:56,453 --> 01:22:00,165 ‎ไปมิสซิสซิปปีช่วงฟรีด้อมซัมเมอร์ ‎ให้เขาไม่กระโตกกระตากยังไงได้ 1268 01:22:00,248 --> 01:22:03,043 ‎เขาบอกว่า "นั่นแหละถึงรู้ว่าเดือดร้อนละ" 1269 01:22:06,755 --> 01:22:09,507 ‎คุณรัสเซลล์ ทำไมถึงมาที่มิสซิสซิปปี 1270 01:22:09,591 --> 01:22:13,136 ‎เมื่อสองสามวันก่อนคุณเอเวอร์สขอให้ผมมา 1271 01:22:13,219 --> 01:22:17,807 ‎ผมรู้จักเขามาพักใหญ่แล้วและดีใจมากที่ได้มา 1272 01:22:17,891 --> 01:22:21,227 ‎ผมติดตามเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่อยู่ 1273 01:22:21,311 --> 01:22:24,314 ‎และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมเช่นกัน 1274 01:22:26,441 --> 01:22:30,362 ‎จุดประสงค์หนึ่งในการมา ‎คือการมาจัดคลินิกบาสเกตบอล 1275 01:22:30,862 --> 01:22:34,407 ‎คุณคิดว่าการมาถึงที่นี่ ‎จะช่วยบรรเทาปัญหาได้หรือไม่ 1276 01:22:34,491 --> 01:22:37,285 ‎ได้แค่หวัง ผมไม่ได้หวังว่าจะทำให้ปัญหาหนักขึ้น 1277 01:22:37,911 --> 01:22:41,998 ‎คิดว่าคุณจะโน้มน้าวให้เด็กผิวขาว ‎มาเล่นบาสเกตบอลกับเด็กผิวดำได้หรือไม่ 1278 01:22:42,540 --> 01:22:44,459 ‎คิดว่านะ ไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมจะไม่ได้ 1279 01:22:45,126 --> 01:22:46,962 ‎ลูกๆ ผมก็เล่นบาสกับคนขาว 1280 01:22:47,045 --> 01:22:48,838 ‎- ยังไม่มีใครเจ็บตัว ‎- ยังไม่มี 1281 01:22:50,048 --> 01:22:51,758 ‎- ยินดีที่ได้พบ ‎- ขอบคุณ 1282 01:22:52,550 --> 01:22:55,053 ‎รัสเซลล์จัดคลินิกที่แจ็คสัน 1283 01:22:55,136 --> 01:22:56,930 ‎แม้จะมีคนขู่ฆ่า 1284 01:22:57,013 --> 01:23:00,058 ‎และเพราะอันตรายเกินไปที่จะออกนอกเมือง 1285 01:23:00,141 --> 01:23:03,228 ‎รัสเซลล์จึงจำใจต้องลดเวลาที่ไปมิสซิสซิปปี 1286 01:23:03,311 --> 01:23:06,147 ‎ถึงอย่างนั้น เขาก็ได้เดินเข้าไปสู่ใจกลางนรก 1287 01:23:06,231 --> 01:23:09,526 ‎และยืนหยัดต่อต้านการข่มขู่ทางชาติพันธุ์ ‎อย่างเปิดเผยที่สุด 1288 01:23:14,656 --> 01:23:18,201 ‎การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนทุกวันนี้เริ่มนิ่ง 1289 01:23:18,284 --> 01:23:21,538 ‎เราทุกคนมองข้ามความจริงที่ว่าพวกเรามีหน้าที่ 1290 01:23:21,621 --> 01:23:26,710 ‎มีเวลาภายในสองหรือสามปี ‎ที่จะแก้ปมซึ่งสร้างกันมาตลอดสามร้อยปี 1291 01:23:26,793 --> 01:23:29,754 ‎เราต้องแก้ระบบความคิดทั้งหมด 1292 01:23:29,838 --> 01:23:33,383 ‎และมีเวลาเพียงสองสามปีเท่านั้น ‎ที่จะทำตามเป้าหมายนั้นให้ได้ 1293 01:23:33,466 --> 01:23:37,345 ‎เราต้องทำความเข้าใจคนที่อยู่ในสนามรบ 1294 01:23:37,429 --> 01:23:38,430 ‎ว่านั่นคือประชาชน 1295 01:23:38,513 --> 01:23:41,808 ‎ทั้งคนขาวและคนดำที่อยู่ในสนามรบกัน 1296 01:23:41,891 --> 01:23:45,979 ‎วันแลัววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า ‎พวกเขาคือนักรบที่แท้จริง 1297 01:23:46,062 --> 01:23:49,566 ‎สิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสลับซับซ้อน ‎เช่นเดียวกับปัญหาทางการเมืองทุกรูปแบบ 1298 01:23:49,649 --> 01:23:51,985 ‎สิ่งเดียวที่เราทุกคนเห็นตรงกัน 1299 01:23:52,068 --> 01:23:54,279 ‎คือเราจะต้องแก้ปัญหานี้ 1300 01:24:02,996 --> 01:24:07,959 ‎ท่ามกลางความปั่นป่วนทางวัฒนธรรมอเมริกา ‎ทีมเซลติกส์ก็กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลง 1301 01:24:09,210 --> 01:24:12,130 ‎บ๊อบ คูซีย์ ฮูดินีแห่งพื้นปาร์เก้ 1302 01:24:12,213 --> 01:24:14,966 ‎กัปตันของทีมและผู้เล่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด 1303 01:24:15,050 --> 01:24:17,260 ‎กำลังจะเล่นเป็นฤดูกาลสุดท้ายแล้ว 1304 01:24:19,054 --> 01:24:21,181 ‎(อำลาบ๊อบ คูซีย์) 1305 01:24:21,264 --> 01:24:25,643 ‎ปีที่คูซีย์จะเกษียณ เขาบอกว่า "นี่ปีสุดท้ายนะ" 1306 01:24:25,727 --> 01:24:28,730 ‎เราก็อยากเอาให้แน่ว่าปีนั้นเป็นปีที่ได้แชมป์ 1307 01:24:29,606 --> 01:24:34,861 ‎ฤดูกาลปี 1962-1963 ‎เป็นการฉลองให้กับบ๊อบ คูซีย์ 1308 01:24:34,944 --> 01:24:37,697 ‎มีการจัดรำลึกในทุกที่ซึ่งทีมเซลติกส์ไปเล่น 1309 01:24:38,364 --> 01:24:40,241 ‎มีป้ายติดไปทั่วสนามการ์เด้น 1310 01:24:40,325 --> 01:24:43,453 ‎"เรารักคุณ คูซีย์" "เราจะคิดถึงคุณ คูส" 1311 01:24:44,245 --> 01:24:47,165 ‎เราหวังว่าคูซีย์จะจบอาชีพในฐานะของผู้ชนะ 1312 01:24:47,248 --> 01:24:51,252 ‎ผมก็อยากได้แชมป์ ‎มากพอๆ กับที่อยากได้แชมป์ครั้งแรก 1313 01:24:52,504 --> 01:24:56,841 ‎ทีมพยายามทุกทางที่จะคว้าแชมป์อีกรอบให้คูซีย์ 1314 01:24:57,342 --> 01:24:58,968 ‎พวกเขาได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ 1315 01:24:59,052 --> 01:25:01,721 ‎ซึ่งมีคู่ปรับที่คุ้นเคยและโกรธเคืองรออยู่ 1316 01:25:03,014 --> 01:25:04,516 ‎บอสตันเซลติกส์ตั้งใจ 1317 01:25:04,599 --> 01:25:08,269 ‎อยากได้แชมป์ติดกันห้าสมัย ‎อย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้ 1318 01:25:08,353 --> 01:25:11,648 ‎เซลติกส์ไม่สามารถปิดซีรีส์ได้ที่บอสตัน 1319 01:25:11,731 --> 01:25:16,027 ‎ตอนนี้เขาพกคะแนนนำสามต่อสอง ‎มาเล่นนัดหกที่ลอสแองเจลิส 1320 01:25:17,153 --> 01:25:19,823 ‎มันดราม่าเพราะสถานการณ์ 1321 01:25:19,906 --> 01:25:24,327 ‎นั่นเป็นปีสุดท้าย ปีจบอาชีพของผม ‎และมีแชมป์โลกเป็นเดิมพัน 1322 01:25:25,620 --> 01:25:28,873 ‎ถ้าคูซีย์ตื่นเต้นในเกมสุดท้ายในอาชีพนักกีฬา 1323 01:25:28,957 --> 01:25:30,333 ‎เขาก็เล่นเหมือนไม่ตื่นเต้น 1324 01:25:31,501 --> 01:25:33,253 ‎คูซีย์ส่งกระดอนให้รัสเซลล์ 1325 01:25:34,712 --> 01:25:37,715 ‎ส่งยาวให้แซนเดอร์ส ดูสิครับ! 1326 01:25:38,716 --> 01:25:40,468 ‎คูซีย์เล่นครึ่งแรกได้แกร่งมาก 1327 01:25:40,552 --> 01:25:43,304 ‎ส่งให้เซลติกส์นำไปไม่น้อย 1328 01:25:44,514 --> 01:25:47,851 ‎หมดครึ่งแรกแล้วครับ คะแนนอยู่ที่… 1329 01:25:47,934 --> 01:25:50,937 ‎เครื่องจักรเซลติกส์ ‎ที่คูซีย์และรัสเซลล์ปรับจนสมบูรณ์แบบ 1330 01:25:51,020 --> 01:25:54,274 ‎ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมายังทำงานได้โดยไร้ปัญหาใดๆ 1331 01:25:55,191 --> 01:25:57,318 ‎เครบส์กันรัสเซลล์ และเบย์เลอร์… 1332 01:25:57,819 --> 01:26:01,990 ‎แต่แล้ว ต้นควอเตอร์ที่สี่ ‎ขณะที่บอสตันยังนำอยู่ 92-83 1333 01:26:02,073 --> 01:26:03,158 ‎คูซีย์ก็บาดเจ็บ 1334 01:26:04,784 --> 01:26:06,035 ‎คูซีย์เจ็บ! 1335 01:26:06,119 --> 01:26:09,622 ‎ตอนวิ่งตัดสนามมาอีกฝั่ง ‎เหมือนเขาเจ็บข้อเท้าซ้าย 1336 01:26:09,706 --> 01:26:12,709 ‎นี่อาจทำให้บอสตันเซลติกส์เสียเปรียบอย่างหนัก 1337 01:26:13,251 --> 01:26:15,920 ‎ครั้งแรกที่ผมเจ็บรุนแรงตั้งแต่เล่นมา 13 ปี 1338 01:26:16,004 --> 01:26:19,090 ‎ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจบอาชีพตอนอยู่ในสนาม 1339 01:26:19,174 --> 01:26:22,010 ‎ดูเหมือนจะเป็นการบาดเจ็บที่ร้ายแรง 1340 01:26:22,093 --> 01:26:23,469 ‎เห็นเขาเดินกะเผลกออกไป… 1341 01:26:23,553 --> 01:26:27,557 ‎เราทุกคนรู้ดีว่าถ้าไม่มีคูซีย์ เราก็เดือดร้อน 1342 01:26:29,184 --> 01:26:31,686 ‎เวสต์วิ่งเข้าไปตรงกลางแล้วได้แต้ม 1343 01:26:33,688 --> 01:26:36,232 ‎รัสเซลล์กันเบย์เลอร์ แต่เบย์เลอร์ก็ยิงได้! 1344 01:26:38,109 --> 01:26:41,779 ‎เมื่อไม่มีบ๊อบ คูซีย์ พวกเราก็เริ่มเสียจังหวะ 1345 01:26:41,863 --> 01:26:43,531 ‎แล้วก็โดนเล่น 1346 01:26:44,949 --> 01:26:47,493 ‎เรารู้ว่ากำลังต่อกรกับทีมที่เก่งที่สุด 1347 01:26:47,577 --> 01:26:50,663 ‎แต่เราคิดว่าวันนั้นเราจะชนะ เรามีโอกาสแล้ว 1348 01:26:53,833 --> 01:26:56,419 ‎เร้ด อาวร์แบคเดินกลับไปกลับมาแล้วครับ 1349 01:26:57,962 --> 01:27:02,258 ‎เมื่อเหลือเวลาเพียงสี่นาที ‎เซลติกส์เหลือแต้มนำเพียงแต้มเดียว 1350 01:27:02,342 --> 01:27:04,219 ‎เมื่อเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น 1351 01:27:06,429 --> 01:27:08,306 ‎บ๊อบ คูซีย์กลับลงสนาม! 1352 01:27:08,932 --> 01:27:10,934 ‎บัดดี้ เลอรูซ์ เทรนเนอร์คนดังของเรา 1353 01:27:11,017 --> 01:27:14,479 ‎ประคบน้ำแข็งให้จนผมคิดว่ากลับลงสนามได้ 1354 01:27:14,562 --> 01:27:16,522 ‎กลับเข้าไปเล่นให้จบ 1355 01:27:19,108 --> 01:27:21,736 ‎ทีมเซลติกส์ที่กลับมามีชีวิตชีวา นำห่างอีกครั้ง 1356 01:27:24,572 --> 01:27:27,867 ‎และในวินาทีสุดท้าย ลูกก็อยู่ในมือของคูซีย์ 1357 01:27:28,368 --> 01:27:29,577 ‎อีกวินาทีเดียว 1358 01:27:29,661 --> 01:27:31,579 ‎คูซีย์ปาบอลขึ้นฟ้าเลยครับ 1359 01:27:31,663 --> 01:27:34,415 ‎และบอสตันเซลติกส์ก็เป็นแชมป์อีกครั้ง 1360 01:27:34,499 --> 01:27:36,125 ‎ปิดฉากการแข่งปีนี้ 1361 01:27:37,085 --> 01:27:39,212 ‎(เลเกอร์ส 109 - เซลติกส์ 112) 1362 01:27:41,798 --> 01:27:44,509 ‎เป็นแชมป์ครั้งที่หก ในเจ็ดฤดูกาล 1363 01:27:45,009 --> 01:27:47,845 ‎ผมโชคดีมากตลอด 13 ปีที่เป็นนักกีฬา 1364 01:27:47,929 --> 01:27:50,265 ‎และพระเจ้าก็มอบความปรารถนาสุดท้ายให้ 1365 01:27:50,765 --> 01:27:53,810 ‎- ผมว่า… ‎- จบได้สุดยอด ให้ตาย! 1366 01:27:53,893 --> 01:27:55,228 ‎ผมชอบมาก เยี่ยมที่สุด 1367 01:27:55,895 --> 01:28:00,483 ‎ผมมองว่าคูซีย์เป็นเพื่อนร่วมทีมที่เกือบสมบูรณ์แบบ 1368 01:28:01,442 --> 01:28:02,986 ‎ทั้งคว้ารัสมากอด 1369 01:28:03,069 --> 01:28:05,780 ‎เราอยากแบ่งปันความสุขกับคนใกล้ตัว 1370 01:28:09,742 --> 01:28:13,246 ‎ในทางนี้ ผมพูดได้แค่ว่าหากต้องทำอีกครั้ง 1371 01:28:13,997 --> 01:28:16,916 ‎ผมไม่อาจจินตนาการว่า ‎จะไปเล่นที่ไหนได้ถ้าไม่ใช่บอสตัน 1372 01:28:25,383 --> 01:28:27,343 ‎ปีนี้มีคนถามผมหลายครั้ง 1373 01:28:27,427 --> 01:28:30,138 ‎ผมจะคิดถึงอะไรมากที่สุด ‎เมื่อไม่ได้เล่นบาสเกตบอลแล้ว 1374 01:28:30,847 --> 01:28:34,475 ‎ตอนที่คูสเกษียณ เขากล่าวอำลาเสียงแตกพร่า 1375 01:28:34,559 --> 01:28:36,519 ‎แล้วทุกคนก็เริ่มร้องไห้… 1376 01:28:37,520 --> 01:28:38,771 ‎เรารักคุณ คูส! 1377 01:28:44,152 --> 01:28:46,988 ‎มีคนตะโกนว่า "เรารักคุณ คูส" 1378 01:28:47,071 --> 01:28:48,573 ‎นั่นเป็นจังหวะยอดเยี่ยม 1379 01:28:48,656 --> 01:28:51,409 ‎ผมบอกเร้ด เขายืนอยู่ข้างผม 1380 01:28:51,492 --> 01:28:53,536 ‎"ผมไม่มีทางแถลงอะไรแบบนี้ได้แน่" 1381 01:28:58,624 --> 01:29:03,629 ‎เราเป็นเพื่อนคนพิเศษต่อกัน ‎แต่ก็มีขอบเขต ผมนับถือเขามากเกินไป 1382 01:29:03,713 --> 01:29:07,759 ‎เกินกว่าจะถูกดูดเข้าไปสู่ความอิจฉาริษยา ‎ที่หลายคนพยายามปั่นระหว่างเรา 1383 01:29:08,259 --> 01:29:11,429 ‎ถึงอย่างนั้น ผมก็พูดไม่ได้ว่า ‎ผมสนิทชิดเชื้ออะไรกับคูซีย์ 1384 01:29:11,512 --> 01:29:13,681 ‎ระหว่างเรามีความกดดันในการแข่งขัน 1385 01:29:13,765 --> 01:29:16,934 ‎ในกีฬาระดับอาชีพ ‎เกินกว่าจะแบ่งปันความหวังและความกลัว 1386 01:29:17,018 --> 01:29:19,187 ‎กับคนที่อยู่ในวงการเดียวกัน 1387 01:29:20,980 --> 01:29:24,901 ‎สำหรับรัสเซลล์เอง ความกลัวนั้น ‎เริ่มจะมากมายหนักหนากว่าความหวัง 1388 01:29:24,984 --> 01:29:28,071 ‎เขาคับข้องใจกับ ‎การต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่ไปไม่ถึงไหน 1389 01:29:28,154 --> 01:29:30,782 ‎และเริ่มสงสัยว่ากีฬานี้มีคุณค่าอะไรจริงจังหรือไม่ 1390 01:29:31,824 --> 01:29:34,952 ‎ตลอดชีวิต ผมต้องเผชิญกับการค้นหาที่ไม่มีวันจบ 1391 01:29:35,036 --> 01:29:38,915 ‎ที่ชายผิวดำทุกคนต้องผ่านก่อนจะเติบโต 1392 01:29:42,210 --> 01:29:43,961 ‎แต่ผมเป็นแชมป์ระดับโลก 1393 01:29:46,130 --> 01:29:47,632 ‎ความกดดันยังคงดำเนินต่อไป 1394 01:29:47,715 --> 01:29:49,467 ‎ยังต้องลงสนามเล่นต่อไป 1395 01:29:49,550 --> 01:29:51,427 ‎ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งต่อไป 1396 01:29:53,012 --> 01:29:55,348 ‎มีคนเดินเข้ามาหาผมที่บอสตันแล้วพูดว่า 1397 01:29:55,431 --> 01:29:58,643 ‎"พวกแกจะทำไงล่ะทีนี้ ‎ไม่มีคูซีย์คอยแบกทีมแล้ว" 1398 01:30:00,478 --> 01:30:01,687 ‎ผมก็พูดแค่ว่า "เอ่อ… 1399 01:30:03,231 --> 01:30:06,025 ‎ก็คงยากหน่อย เราต้องปรับตัว" 1400 01:30:06,109 --> 01:30:07,944 ‎"แต่ช่วยสงเคราะห์ตัวเองหน่อยนะ 1401 01:30:08,027 --> 01:30:11,155 ‎โทรไปที่บอสตันโกลบหรือดับเบิลยูบีซีก็ได้ 1402 01:30:11,656 --> 01:30:15,576 ‎ลองถามพวกเขาดูว่าสามปีที่ผ่านมา ‎ใครเป็นเอ็มวีพีของลีกกันแน่" 1403 01:32:01,057 --> 01:32:06,062 ‎คำบรรยายโดย ศันสนีย์ โอบอ้อม