1 00:00:06,049 --> 00:00:10,970 ‎(ซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX) 2 00:00:12,388 --> 00:00:16,225 ‎(ซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย ปี 2013) 3 00:00:16,893 --> 00:00:20,897 ‎(ความจนไม่มีดี ฟีนิกซ์ แอริโซนา) 4 00:00:23,691 --> 00:00:24,776 ‎เขามาแล้ว 5 00:00:26,027 --> 00:00:27,070 ‎นิ่งไว้ก่อน ทุกคน 6 00:00:29,822 --> 00:00:31,991 ‎เป้าหมายเข้ามาในระยะแล้ว 7 00:00:32,658 --> 00:00:35,286 ‎- รับทราบ ‎- มันอาจผิดแผนได้เร็วมาก 8 00:00:36,704 --> 00:00:37,997 ‎เขากำลังลงจากรถ 9 00:00:38,831 --> 00:00:41,542 ‎หมวกบอลสีน้ำเงิน เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีแทน 10 00:00:41,626 --> 00:00:43,419 ‎กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีขาว 11 00:00:47,090 --> 00:00:51,219 ‎บ๊อบ ทำไมคุณไม่ประกาศ ‎ออกมาเลยล่ะว่าคุณไม่ใช่ดีบี คูเปอร์ 12 00:00:57,767 --> 00:01:01,771 ‎ในวันก่อนวันขอบคุณพระเจ้า ปี 1971 ‎สายการบินนอร์ธเวสต์ถูกยึด... 13 00:01:01,854 --> 00:01:03,564 ‎เอฟบีไอไม่สามารถไขคดีนี้... 14 00:01:03,648 --> 00:01:06,109 ‎คูเปอร์กลายเป็นตำนานหลังจากจี้เครื่องบิน 15 00:01:06,192 --> 00:01:09,821 ‎และกระโดดร่มออกมา ‎พร้อมเงินสด 200,000 ดอลลาร์ 16 00:01:09,904 --> 00:01:11,864 ‎เรียกโจรใจกล้าบ้าบิ่นรายนี้ว่าดีบี คูเปอร์ 17 00:01:11,948 --> 00:01:12,907 ‎ดีบี คูเปอร์... 18 00:01:12,990 --> 00:01:14,575 ‎- ดีบี คูเปอร์... ‎- ดีบี คูเปอร์... 19 00:01:14,659 --> 00:01:15,910 ‎- ดีบี คูเปอร์... ‎- ดีบี... 20 00:01:15,993 --> 00:01:20,414 ‎ผู้ร้ายจี้เครื่องบินที่ฉลาดที่สุด ‎และแน่นอนว่าบ้าระห่ำที่สุด 21 00:01:20,498 --> 00:01:21,541 ‎ตลอดกาล 22 00:01:22,208 --> 00:01:25,169 ‎เหลือเชื่อเมื่อคิดว่า ‎เราเพิ่งผ่านวันครบรอบ 50 ปี 23 00:01:25,253 --> 00:01:26,671 ‎คดีดีบี คูเปอร์ 24 00:01:26,754 --> 00:01:30,049 ‎ซึ่งยังเป็นคดีปล้นระฟ้าที่ยังปิดไม่ได้คดีเดียว 25 00:01:30,133 --> 00:01:31,801 ‎ในประวัติศาสตร์ของเรา 26 00:01:31,884 --> 00:01:34,262 ‎สิ่งที่เขาทำสำเร็จมันน่าทึ่งจริงๆ 27 00:01:35,096 --> 00:01:36,597 ‎เขาหนีรอดไปได้ 28 00:01:36,681 --> 00:01:40,476 ‎เขาฝ่าด่านเจ้าหน้าที่สำเร็จ ‎ไม่ได้ทำร้ายพลเรือนสักคน 29 00:01:41,811 --> 00:01:46,149 ‎เขาถึงได้เป็นตำนานอย่างที่เป็นทุกวันนี้ 30 00:01:46,858 --> 00:01:49,068 ‎เรามีพยานเห็นคุณอยู่ในโอเรกอน 31 00:01:49,152 --> 00:01:51,404 ‎ตอนเกิดเหตุจี้เครื่องบิน คุณอยู่ที่นั่นหรือเปล่า 32 00:01:51,487 --> 00:01:54,407 ‎ทีมผมมั่นใจว่าเราเจอดีบีคูเปอร์แล้ว 33 00:01:54,490 --> 00:01:56,409 ‎เรามีหลักฐานมากกว่า 100 ชิ้น 34 00:01:57,618 --> 00:02:01,330 ‎เรากำลังรับมือกับชายผู้มี ‎หลายตัวตน และเป็นนักต้มตุ๋น 35 00:02:03,040 --> 00:02:05,459 ‎ผมมาที่นี่เพราะผมอยากให้ความจริงปรากฏ 36 00:02:06,210 --> 00:02:08,254 ‎ถ้ามันจะเจ็บ ก็เจ็บไป 37 00:02:11,090 --> 00:02:12,633 ‎คดีนี้ยาวนานมาราธอน 38 00:02:12,717 --> 00:02:17,221 ‎มันคือการเสียสละ ความยากลำบาก ‎บังคับคุณให้ตั้งคำถามตัวเองว่าสติดีอยู่หรือเปล่า 39 00:02:18,264 --> 00:02:21,601 ‎มันบังคับให้คุณเชื่อจริงๆ ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ 40 00:02:22,935 --> 00:02:27,440 ‎สรุปคือผมไม่เชื่อทฤษฎี ‎ ไม่เชื่อนิทานพื้นบ้าน ไม่เชื่อตำนาน 41 00:02:27,523 --> 00:02:28,566 ‎ผมเชื่อข้อเท็จจริง 42 00:02:30,943 --> 00:02:32,195 ‎สวัสดี 43 00:02:32,278 --> 00:02:34,447 ‎ทีมสืบสวนคดีปริศนา 44 00:02:34,530 --> 00:02:38,326 ‎เชื่อว่าคุณคือดีบี คูเปอร์ผู้อื้อฉาว 45 00:02:38,409 --> 00:02:41,621 ‎อื้อฉาวหรือโด่งดัง ผมว่าเขาดังนะ 46 00:02:41,704 --> 00:02:42,663 ‎ก็ได้ 47 00:03:15,696 --> 00:03:20,451 ‎(ตอนที่ 1: คว้าเงินแล้วกระโดด) 48 00:03:22,161 --> 00:03:26,332 ‎(ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย) 49 00:03:33,756 --> 00:03:36,676 ‎ระยะเวลาสิบปีคือเวลาไขคดี ‎ที่ผมเคยทำยาวนานที่สุด 50 00:03:37,593 --> 00:03:40,513 ‎ผมอยากตั้งคำถามทุกคน ‎คำถามที่ติดอยู่ในใจผมเสมอ 51 00:03:40,596 --> 00:03:42,098 ‎ซึ่งก็คือ "ทำไม" 52 00:03:43,474 --> 00:03:46,644 ‎ทำไมผมถึงมุ่งมั่น ภรรยาผมด้วยนะ 53 00:03:46,727 --> 00:03:49,772 ‎ทำไมเราถึงมุ่งมั่นจะไขคดีอายุ 50 ปี 54 00:03:54,151 --> 00:03:56,529 ‎มันส่งผลกระทบครอบครัวผม 55 00:03:56,612 --> 00:03:57,780 ‎(สายการบินนอร์ธเวสต์) 56 00:03:57,863 --> 00:04:00,533 ‎ผมมองภรรยาผมแล้วผมก็คับข้องใจ 57 00:04:02,493 --> 00:04:04,287 ‎ผมมองลูกๆ ของผมเติบโต 58 00:04:04,996 --> 00:04:08,582 ‎และเราใช้เงินส่วนตัวจำนวนมาก ‎ในขั้นตอนทั้งหมด 59 00:04:10,167 --> 00:04:12,503 ‎แต่ทุกคนในครอบครัวเราเห็นด้วยให้กัดไม่ปล่อย 60 00:04:12,586 --> 00:04:15,339 ‎เพราะพวกเขาเชื่อว่าเรามีข้อมูลจริง 61 00:04:17,508 --> 00:04:19,427 ‎(วันที่ 24 พฤศจิกายน) 62 00:04:19,510 --> 00:04:22,096 ‎(ปี 1971) 63 00:04:26,434 --> 00:04:29,812 ‎สิ่งที่คูเปอร์ทำได้นั้นมันยากมาก 64 00:04:29,895 --> 00:04:32,398 ‎และเขาแสดงฝีมือสมบูรณ์แบบ 65 00:04:32,481 --> 00:04:36,152 ‎โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาเรื่องที่ว่า ‎วันนั้นเป็นวันพุธก่อนวันขอบคุณพระเจ้า 66 00:04:36,986 --> 00:04:39,238 ‎หนึ่งในวันที่มีผู้คนเดินทางมากที่สุดของปี 67 00:04:46,078 --> 00:04:50,374 ‎ห้าสิบปีก่อน ผมเรียนปีสอง ‎ที่มหาวิทยาลัยโอเรกอน 68 00:04:51,917 --> 00:04:53,336 ‎ผมโทรบอกพ่อแม่ 69 00:04:53,419 --> 00:04:57,631 ‎ว่า "ผมได้เที่ยวบินนี้ ใช้เวลา 37 นาที ‎จากพอร์ตแลนด์ไปซีแอตเทิล" 70 00:04:59,717 --> 00:05:02,261 ‎ฟ้าเปิดก็จริง แต่มีเมฆเยอะ 71 00:05:03,679 --> 00:05:07,350 ‎ผมเดินขึ้นบันไดด้านหลัง ‎และนั่งอยู่ฝั่งซ้ายท้ายเครื่องบิน 72 00:05:07,850 --> 00:05:11,187 ‎ผมไม่ได้สังเกตคนรอบตัว 73 00:05:11,937 --> 00:05:13,689 ‎จนกระทั่งเครื่องบินออก 74 00:05:18,986 --> 00:05:21,822 ‎ผมเห็นชายคนนี้ที่นั่งถัดจากผม 75 00:05:22,573 --> 00:05:24,283 ‎ใส่แว่นกันแดด 76 00:05:24,367 --> 00:05:26,911 ‎ผมก็คิดว่า "แปลกดี" 77 00:05:28,204 --> 00:05:29,538 ‎"เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร" 78 00:05:32,666 --> 00:05:35,544 ‎เที่ยวบินจากพอร์ตแลนด์ ‎ไปซีแอตเทิลเป็นเที่ยวบินระยะสั้นมาก 79 00:05:35,628 --> 00:05:37,922 ‎แทบไม่มีเวลาจะเสิร์ฟเครื่องดื่ม 80 00:05:44,553 --> 00:05:46,097 ‎หลังจากเครื่องบินออก 81 00:05:46,931 --> 00:05:50,351 ‎ชายที่ดูท่าทางแปลกๆ คนนี้ ‎ก็ส่งโน้ตให้พนักงานต้อนรับ 82 00:05:50,976 --> 00:05:52,478 ‎ฉันไม่ได้สนใจเขาเลย 83 00:05:53,062 --> 00:05:54,355 ‎จากนั้นเขาก็พูดว่า... 84 00:05:54,438 --> 00:05:55,898 ‎(ฟลอเรนซ์ ชาฟฟ์เนอร์ แอร์ฯ) 85 00:05:55,981 --> 00:05:57,858 ‎"ผมอยากให้คุณอ่านโน้ตนี้" 86 00:05:59,944 --> 00:06:01,070 ‎มันเป็นตัวพิมพ์เขียนว่า 87 00:06:01,153 --> 00:06:04,281 ‎"คุณครับ ผมมีระเบิดอยู่ในกระเป๋าเอกสาร" 88 00:06:04,365 --> 00:06:06,158 ‎"ผมอยากให้คุณนั่งข้างผม" 89 00:06:06,659 --> 00:06:09,954 ‎นั่นคือจุดเริ่มต้นเรื่องราว ‎พิศดารพันลึกของดีบี คูเปอร์ 90 00:06:15,584 --> 00:06:17,628 ‎ผมจำได้ว่าเธอคุยกับเขา 91 00:06:17,711 --> 00:06:20,339 ‎จากนั้นเธอลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โทรศัพท์ 92 00:06:20,840 --> 00:06:24,427 ‎แต่ผมไม่รู้หรอกว่ามีเรื่องอะไรกัน 93 00:06:25,594 --> 00:06:30,724 ‎เขาขอเงินสด 200,000 ดอลลาร์ ‎และร่มชูชีพสี่ตัว 94 00:06:32,393 --> 00:06:34,478 ‎การขอเงินก็พอเข้าใจได้ 95 00:06:34,562 --> 00:06:35,563 ‎แต่ร่มชูชีพเนี่ยนะ 96 00:06:35,646 --> 00:06:37,606 ‎ชายคนนี้อยากได้ร่มชูชีพไปทำไม 97 00:06:38,858 --> 00:06:41,610 ‎เขาฉลาดมาก เขาไม่สั่งหนึ่งหรือสองตัว 98 00:06:41,694 --> 00:06:42,778 ‎เขาสั่งสี่ตัว 99 00:06:42,862 --> 00:06:46,031 ‎เขาคิดว่าอาจได้ร่มชูชีพปลอมก็ได้ 100 00:06:46,115 --> 00:06:48,701 ‎เขาก็จะตาย แต่ถ้าเขาสั่งสี่ตัว 101 00:06:48,784 --> 00:06:51,287 ‎"เขาจะจับตัวประกันแน่ๆ เราหลอกเขาไม่ได้" 102 00:06:51,370 --> 00:06:52,872 ‎ฉลาดมากๆ 103 00:06:54,665 --> 00:06:56,250 ‎(โปรดรัดเข็มขัด) 104 00:06:57,209 --> 00:07:00,713 ‎นักบินเดินมาแจ้งว่า "เครื่องยนต์มีปัญหา 105 00:07:00,796 --> 00:07:02,756 ‎เชื้อเพลิงใกล้จะหมด" 106 00:07:04,717 --> 00:07:07,511 ‎"ขอให้ทุกคนย้ายไปนั่งส่วนหัวของเครื่องบิน" 107 00:07:08,929 --> 00:07:11,932 ‎ระหว่างเหตุการณ์นี้ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 108 00:07:12,725 --> 00:07:15,686 ‎เรายังบินอยู่ ก็เลยไม่มีเรื่องให้กังวล 109 00:07:16,937 --> 00:07:20,399 ‎คูเปอร์ไม่อยากให้เครื่องบิน ‎ลงจอดจนกว่าของทั้งหมด 110 00:07:20,483 --> 00:07:24,195 ‎จะถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย ‎ที่สนามบินแล้ว ดังนั้นเครื่องบินจึงต้องบินวน 111 00:07:32,203 --> 00:07:33,537 ‎ตอนนั้นฟ้าเริ่มมืด 112 00:07:34,205 --> 00:07:36,832 ‎ฟ้ากำลังเปลี่ยนเป็นคืนที่มืดมิดและมีพายุ 113 00:07:38,751 --> 00:07:42,046 ‎เมื่อคนร้ายรู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการ ‎ถูกเตรียมเรียบร้อย 114 00:07:42,129 --> 00:07:43,964 ‎เงินสด 200,000 ดอลลาร์ 115 00:07:44,048 --> 00:07:46,383 ‎มูลค่าปัจจุบันก็ประมาณหนึ่งล้านดอลลาร์ 116 00:07:46,467 --> 00:07:49,094 ‎และร่มชูชีพที่เขาต้องการกำลังรอเขาอยู่ 117 00:07:50,179 --> 00:07:53,098 ‎เครื่องบินลงจอดที่ซีแอตเทิล 118 00:07:53,849 --> 00:07:55,976 ‎สไนเปอร์กำลังจับจ้องเครื่องบินลำนี้ 119 00:07:56,060 --> 00:07:58,896 ‎คูเปอร์ขอให้พนักงานต้อนรับปิดหน้าต่าง 120 00:07:58,979 --> 00:08:00,356 ‎ในเครื่องบินมืด 121 00:08:02,399 --> 00:08:06,195 ‎พนักงานต้อนรับคนหนึ่งออกมา ‎นักสืบส่งถุงใส่เงินใบใหญ่ให้เธอ 122 00:08:06,695 --> 00:08:11,075 ‎จากนั้นเธอก็รับร่มชูชีพไป ‎และผู้โดยสารทั้งหมดก็เดินลงมา 123 00:08:12,368 --> 00:08:16,747 ‎เราอยู่ห่างจากเทอร์มินัล ‎หลายกิโลเมตร รถบัสคันหนึ่งเข้ามารับเรา 124 00:08:17,331 --> 00:08:19,250 ‎แล้วขับกลับไปที่สนามบิน 125 00:08:20,584 --> 00:08:23,671 ‎เมื่อคืนมีผู้โดยสาร 36 คน ‎ลงจากเครื่องบินที่่ซีแอตเทิล 126 00:08:23,754 --> 00:08:26,757 ‎เหลือแต่ลูกเรือสี่คนและคนร้าย 127 00:08:26,840 --> 00:08:31,220 ‎และน่าจะมีนักข่าวจากสื่อต่างๆ ‎นับร้อยเฝ้าอยู่ด้านนอก 128 00:08:31,804 --> 00:08:34,557 ‎เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่กำลังสัมภาษณ์ทุกคน 129 00:08:34,640 --> 00:08:38,727 ‎บอกว่า "เครื่องบินถูกจี้" ‎ นั่นแหละที่ผมได้รู้เรื่องนี้ครั้งแรก 130 00:08:39,562 --> 00:08:42,189 ‎ลูกเรือไม่บอกให้เรารู้สิ่งที่เกิดขึ้น 131 00:08:42,273 --> 00:08:43,983 ‎เดาว่าไม่อยากให้ตื่นตระหนกกัน 132 00:08:44,775 --> 00:08:46,735 ‎เราไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น 133 00:08:46,819 --> 00:08:49,071 ‎เราบินวนอยู่อย่างนั้นสองชั่วโมงครึ่ง 134 00:08:49,154 --> 00:08:51,323 ‎ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 135 00:08:51,407 --> 00:08:54,743 ‎- คุณทราบเรื่องเมื่อไหร่ ‎- เครื่องจอด เมื่อพวกเขานำเงินขึ้นเครื่อง 136 00:08:55,828 --> 00:08:59,665 ‎คนร้ายสวมสูทเรียกร้องเงิน 200,000 ดอลลาร์ 137 00:08:59,748 --> 00:09:03,961 ‎และถือกระเป๋าเอกสารเรียบๆ ‎ซึ่งเขาบอกลูกเรือว่ามีระเบิด 138 00:09:04,461 --> 00:09:07,881 ‎ฉันเห็นแบตเตอร์ขนาดใหญ่กับแท่งระเบิดหกอัน 139 00:09:07,965 --> 00:09:09,883 ‎มัดไว้รอบแบตเตอรี่ 140 00:09:09,967 --> 00:09:12,970 ‎เขาพูดกับฉันว่า "ผมแค่ต้อง 141 00:09:13,512 --> 00:09:16,807 ‎แตะลวดนี้กับอุปกรณ์ชิ้นนี้ 142 00:09:17,474 --> 00:09:18,851 ‎แล้วเราทุกคนก็จะตาย" 143 00:09:21,604 --> 00:09:24,607 ‎ผมกลับถึงบ้านถึงเพิ่งจะเริ่มตามเรื่องทัน 144 00:09:25,316 --> 00:09:29,153 ‎ที่ว่าผมนั่งอยู่ติดกับ 145 00:09:30,237 --> 00:09:31,071 ‎ระเบิด 146 00:09:31,572 --> 00:09:34,700 ‎(สนามบินซีแอตเทิล-ทาโคมา) 147 00:09:40,956 --> 00:09:45,294 ‎ฤดูใบไม้ร่วง ปี 1971 ‎ขณะเกิดเหตุจี้เครื่องบินครั้งนั้น 148 00:09:46,629 --> 00:09:51,300 ‎ระบบการเดินทางด้วยเครื่องบิน ‎แตกต่างจากสมัยนี้อย่างใหญ่หลวง 149 00:09:51,383 --> 00:09:54,970 ‎การเดินเข้าสนามบินในสมัยนั้น ‎เหมือนเดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต 150 00:10:01,185 --> 00:10:02,353 ‎- หวัดดี ‎- ไง 151 00:10:02,436 --> 00:10:05,856 ‎- ปลายทางที่ไหนคะ ‎- เอาเป็นว่า "ปฏิบัติการที่ไหน" เถอะ 152 00:10:09,443 --> 00:10:13,405 ‎ผมชอบใจมากเวลามีคนถามเรื่อง ‎ระบบความปลอดภัยของสนามบินในยุค 1970 153 00:10:13,489 --> 00:10:15,991 ‎เพราะอย่างน้อยจากที่ผมจำได้นั้น คำตอบคือ 154 00:10:16,909 --> 00:10:19,411 ‎"ระบบความปลอดภัย ‎ของสนามบินคืออะไร" ไม่มีเลย 155 00:10:26,627 --> 00:10:30,422 ‎สมัยนั้นไม่ต้องเดินผ่าน ‎เครื่องตรวจจับโลหะ หรือถอดรองเท้าตรวจ 156 00:10:30,506 --> 00:10:31,757 ‎ไม่มีสุนัขดมกลิ่น 157 00:10:31,840 --> 00:10:35,678 ‎แน่นอนว่าไม่มีใครค้นตัวคุณ ‎หรือสแกนตัวคุณหรืออะไรทำนองนี้เลย 158 00:10:39,932 --> 00:10:42,184 ‎คุณเดินเข้าไปเฉยๆ จ่ายเงิน 20 ดอลลาร์ 159 00:10:42,267 --> 00:10:45,354 ‎และขึ้นเครื่องบินไปดัลลัส มีแค่นั้นแหละ 160 00:10:46,563 --> 00:10:47,981 ‎คูเปอร์ทำอย่างนี้ 161 00:10:48,065 --> 00:10:51,735 ‎เขาซื้อตั๋วในวันนั้นเลย ซึ่งง่ายมาก 162 00:10:58,283 --> 00:11:02,121 ‎อย่าลืมว่านี่คือยุคเริ่มแรก ‎ของขนส่งสาธารณะทางอากาศ 163 00:11:04,665 --> 00:11:07,292 ‎พวกเขาอยากทำให้เป็น ‎ประสบการณ์ที่สนุกเพลิดเพลิน 164 00:11:07,376 --> 00:11:09,211 ‎ท่าบินอะไรอย่างนั้นเล่า 165 00:11:09,712 --> 00:11:11,088 ‎เที่ยวบินแชมเปญน่ะ 166 00:11:11,797 --> 00:11:16,301 ‎แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้น พนักงานต้อนรับ ‎บนเครื่องบินกลายเป็นวัตถุทางเพศ 167 00:11:19,972 --> 00:11:20,973 ‎(แบรนิฟ ขอเสนอ) 168 00:11:21,056 --> 00:11:24,727 ‎เมื่อพนักงานต้อนรับของ ‎แบรนิฟฟ์ อินเตอร์เนชันแนลพบคุณบนเครื่องบิน 169 00:11:26,145 --> 00:11:27,688 ‎เธอจะแต่งตัวอย่างนี้ 170 00:11:28,188 --> 00:11:33,152 ‎ช่วงต้นยุค 70 พนักงาน ‎ต้อนรับบนเครื่องบินลำบากมาก 171 00:11:33,235 --> 00:11:35,446 ‎พวกเธอถูกคุกคามทางเพศอยู่เป็นประจำ 172 00:11:35,529 --> 00:11:39,158 ‎ค่าแรงไม่ได้มากเท่าผู้ชายที่ทำงานด้วยกัน 173 00:11:39,241 --> 00:11:40,743 ‎พวกเธอมีตารางงานแน่นเหลือเชื่อ 174 00:11:40,826 --> 00:11:45,372 ‎ถูกตั้งมาตรฐานไม่เป็นธรรม ‎และเข้มงวดมากเรื่องรูปลักษณ์ 175 00:11:45,456 --> 00:11:48,333 ‎เธอไม่ใช่แค่สวย เธอฉลาดมาก 176 00:11:50,252 --> 00:11:53,172 ‎เมื่อดีบี คูเปอร์ส่งโน้ตให้พนักงานต้อนรับ 177 00:11:53,756 --> 00:11:57,301 ‎เขาคงเป็นคนที่สิบของวันนั้นที่ส่งโน้ตถึงเธอ 178 00:11:58,051 --> 00:12:00,763 ‎ในตอนนั้น การเป็นพนักงาน ‎ต้อนรับบนเครื่องบินลำบากมาก 179 00:12:00,846 --> 00:12:04,224 ‎และเปลี่ยนเป็นอาชีพที่ ‎พัวพันอันตรายได้อย่างรวดเร็ว 180 00:12:06,185 --> 00:12:10,022 ‎กองโจรจี้เครื่องบินจู่โจม ‎สายการบินสี่แห่งแทบจะพร้อมกัน 181 00:12:10,105 --> 00:12:14,234 ‎นายหน้าขายตั๋วให้เราใน ‎ฮุสตัน เทกซัสเสียชีวิต อีกคนได้รับบาดเจ็บ 182 00:12:14,318 --> 00:12:17,196 ‎โจรสลัดอากาศไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่อะไรเลย 183 00:12:18,781 --> 00:12:21,200 ‎(วันที่ 12 กันยายน ปี 1970) 184 00:12:21,283 --> 00:12:22,868 ‎ตอนนั้นฉันทำงานอยู่ที่สนง.ซีไอเอ 185 00:12:23,786 --> 00:12:26,038 ‎เราจะได้รับรายงานเหตุจี้เครื่องบินเหล่านั้น 186 00:12:26,622 --> 00:12:29,750 ‎ซึ่งบางทีจะมีทุกเดือน 187 00:12:29,833 --> 00:12:32,836 ‎ต่อมาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 188 00:12:33,629 --> 00:12:37,341 ‎นักศึกษาหัวรุนแรง ‎ชาวญี่ปุ่น 15 คนพร้อมดาบซามูไร 189 00:12:37,424 --> 00:12:41,136 ‎ปืนพก และระเบิดทำมือ ‎จี้เครื่องบินของเจแปนแอร์ไลน์ 190 00:12:42,179 --> 00:12:45,474 ‎แน่นอนว่าการจี้เครื่องบินเหล่านี้ ‎มีเป้าหมายทางการเมืองทั้งนั้น 191 00:12:45,557 --> 00:12:48,268 ‎พวกเขาทำไปเพื่อลงโทษประเทศ กลุ่มคน 192 00:12:48,352 --> 00:12:53,357 ‎พวกเขาทำให้ตัวเอง ‎ยิ่งใหญ่และร้ายกาจกว่าที่เป็นจริง 193 00:12:53,857 --> 00:12:55,776 ‎อะไรทำให้คุณคิดว่าเขามีปืน 194 00:12:55,859 --> 00:12:58,403 ‎เขาประชิดตัวฉันโดยมี ‎วัตถุแข็งๆ บางอย่างจ่อที่หลังฉัน 195 00:12:58,487 --> 00:13:02,241 ‎เขาบอกว่า "เราจะไปฮาวาน่า ‎คิวบา พาผมไปที่ห้องนักบิน" 196 00:13:03,617 --> 00:13:06,495 ‎มีแค่สองเหตุผลที่คุณจี้เครื่องบิน 197 00:13:06,578 --> 00:13:09,581 ‎คุณทำเพื่อข่มขู่จะฆ่าคนและได้เงินไป 198 00:13:09,665 --> 00:13:11,792 ‎หรือเพื่อจะไปสถานที่บางแห่ง โดยทั่วไปคือคิวบา 199 00:13:11,875 --> 00:13:14,586 ‎ชาวคิวบาเกือบทั้งหมดเป็นคนหนุ่มสาวหัวรุนแรง 200 00:13:14,670 --> 00:13:16,463 ‎ที่อยากไปให้พ้นจากบ้านเกิดตัวเอง 201 00:13:17,047 --> 00:13:18,465 ‎มันกลายเป็นอะไรครับ 202 00:13:18,549 --> 00:13:23,053 ‎มันกลายเป็นหวีโลหะกับปากกา ‎มัดต่อกันและมีสเวตเตอร์พันไว้ 203 00:13:23,136 --> 00:13:26,974 ‎(เราทำอะไรได้บ้างเพื่อหยุดยั้งการปล้นระฟ้า) 204 00:13:30,435 --> 00:13:33,522 ‎อาชญากรรมก็เหมือนรูปแบบ ‎ศิลปะทุกแขนง มันมีวิวัฒนาการ 205 00:13:34,231 --> 00:13:37,317 ‎เช่นเดียวกับการจี้เครื่องบิน รูปแบบก็เปลี่ยนไป 206 00:13:37,401 --> 00:13:40,946 ‎และศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแขนงนี้คือดีบี คูเปอร์ 207 00:13:43,323 --> 00:13:45,659 ‎เมื่อได้เงินค่าไถ่เต็มจำนวน ‎จากธนาคารในซีแอตเทิล 208 00:13:45,742 --> 00:13:48,579 ‎และร่มชูชีพสี่ตัวอยู่บนเครื่องแล้ว ‎เครื่องบินก็มุ่งหน้าไปรีโน 209 00:13:51,164 --> 00:13:55,085 ‎คูเปอร์ตรวจสอบกระเป๋าใส่เงิน ‎เขาพอใจ แล้วเขาก็ออกคำสั่ง 210 00:13:57,629 --> 00:14:02,217 ‎เขาขอให้บินด้วยความเร็ว 402 กม.ต่อชั่วโมง ‎ซึ่งช้ามากสำหรับเครื่องบินเจ็ท 211 00:14:02,301 --> 00:14:06,179 ‎โดยหุบแฟลป และบินต่ำสุดเท่าที่ทำได้ 212 00:14:07,264 --> 00:14:08,640 ‎แม้แต่นักบินก็เพิ่งรู้ว่า 213 00:14:08,724 --> 00:14:12,269 ‎เครื่องบินลำนั้นสามารถบินช้าและต่ำขนาดนั้น 214 00:14:12,352 --> 00:14:15,063 ‎แล้วเขาก็บอก "ทำได้ ทำเลย" 215 00:14:17,649 --> 00:14:21,069 ‎พวกเขามุ่งทิศใต้มาอยู่ ‎เหนือบริเวณนี้ที่เรียกว่า "เดอะ ดาร์ค ดีไวด์" 216 00:14:21,153 --> 00:14:22,112 ‎(เดอะ ดาร์ค ดีไวด์) 217 00:14:22,237 --> 00:14:25,824 ‎ทีน่า มัคลาวคนเดียวที่นั่งอยู่แถวสุดท้ายกับเขา 218 00:14:26,533 --> 00:14:29,411 ‎เขานิ่ง เขาดูสุภาพมาก 219 00:14:29,494 --> 00:14:30,412 ‎(ทีน่า มัคลาว) 220 00:14:30,495 --> 00:14:33,540 ‎เว้นแต่ว่าเขาออกคำสั่ง 221 00:14:35,250 --> 00:14:38,337 ‎ตอนนั้น คูเปอร์ส่งทีน่า มัคลาวไปที่ห้องนักบิน 222 00:14:38,420 --> 00:14:40,130 ‎และบอกเธอว่าอย่าออกมา 223 00:14:40,213 --> 00:14:42,674 ‎เขาอยู่ด้านหลังตามลำพัง 224 00:14:45,052 --> 00:14:50,682 ‎ประมาณสองทุ่มสิบสองนาที นักบินได้ยินเสียงปุ้ง 225 00:14:50,766 --> 00:14:52,851 ‎แรงดันในห้องเครื่องเปลี่ยนไป 226 00:14:53,352 --> 00:14:55,938 ‎บันไดทางท้ายเครื่องเปิดออก 227 00:14:56,521 --> 00:15:00,233 ‎ผมบอกจนท.ควบคุมจราจรทางอากาศ ‎ว่าคนร้ายโดดร่มหนีไปแล้ว 228 00:15:03,779 --> 00:15:06,239 ‎เพื่อให้เห็นภาพสิ่งที่คูเปอร์ทำ 229 00:15:07,491 --> 00:15:12,079 ‎ให้คุณหลับตาและก้าวออกไป จินตนาการว่า ‎กำลังเดินลงบันไดท้ายเครื่องบินนั้น 230 00:15:13,914 --> 00:15:16,625 ‎ตอนนั้นกลางดึก ฝนตกหนัก 231 00:15:16,708 --> 00:15:19,670 ‎คุณได้ยินเสียงเครื่องยนต์เต็มสองหู 232 00:15:20,420 --> 00:15:23,882 ‎นึกภาพคุณกำลังมองออกไปกลางความมืด 233 00:15:24,967 --> 00:15:28,720 ‎จากนั้นก็เดินลงบันไดอีกขั้นและอีกขั้น 234 00:15:30,263 --> 00:15:33,016 ‎แค่มองออกไป ถามตัวเองว่า 235 00:15:33,684 --> 00:15:35,227 ‎"กระโดดเมื่อไหร่ดี" 236 00:15:54,579 --> 00:15:58,083 ‎เขาหลบหนีไปได้ ‎หรือขุดหลุมขนาดใหญ่เป้นที่ซ่อนตัว 237 00:15:59,584 --> 00:16:02,129 ‎ถ้าเขาขุดหลุม ก็ยากจะเจอตัวเช่นกัน 238 00:16:03,422 --> 00:16:06,216 ‎ที่คุณบอกว่า "ขุดหลุม" ‎หมายถึงเขาเก็บตัวอยู่ในป่าเหรอ 239 00:16:06,299 --> 00:16:08,969 ‎ใช่ เป็นไปได้ ถ้าร่มของเขาไม่กาง 240 00:16:09,052 --> 00:16:10,637 ‎เขาเสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน 241 00:16:10,721 --> 00:16:12,681 ‎ถ้าร่มของเขาไม่กาง 242 00:16:12,764 --> 00:16:15,934 ‎ก็น่าจะตามหาตัวยากมาก 243 00:16:16,018 --> 00:16:19,271 ‎สมมติว่าร่มของเขากาง ‎คุณคิดว่าเขาร่อนลงอย่างปลอดภัย 244 00:16:19,354 --> 00:16:21,148 ‎และรอดไปได้ไร้ร่องรอยหรือเปล่า 245 00:16:22,315 --> 00:16:25,777 ‎ในตอนนี้ ไม่เห็นตัวเขาแขวนอยู่ตามต้นไม้ 246 00:16:25,861 --> 00:16:28,030 ‎เรากำลังบินตามหาสิ่งนี้ 247 00:16:29,823 --> 00:16:33,660 ‎ดังนั้นถ้าเขากระโดดลงตรงนั้น ‎และลงสู่พื้นดินสำเร็จ 248 00:16:33,744 --> 00:16:36,997 ‎เป็นไปได้ที่เขาซ่อนร่มชูชีพได้มิดชิด 249 00:16:37,080 --> 00:16:38,081 ‎และหนีไปได้ 250 00:16:39,124 --> 00:16:42,919 ‎กองทหารสำรวจทุกซอกมุมในป่า ‎ใกล้วู้ดแลนด์และตะวันออกของเมืองแอเรียล 251 00:16:43,003 --> 00:16:47,716 ‎แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาโดดร่มจุดไหน ‎ลงจุดไหน หรือรอดชีวิตหรือเปล่า 252 00:16:49,342 --> 00:16:52,471 ‎ปัญหาสำคัญที่เอฟบีไอเผชิญตั้งแต่แรกคือ 253 00:16:52,554 --> 00:16:55,474 ‎พวกเขาไม่รู้ว่าเครื่องบินอยู่จุดไหนกันแน่ 254 00:16:55,557 --> 00:16:57,225 ‎ตอนที่เขาโดดออกจากเครื่อง 255 00:16:58,560 --> 00:17:01,688 ‎มีตัวแปรหลายอย่างประกอบกัน ทิศทางลมล่ะ 256 00:17:01,772 --> 00:17:03,899 ‎"ลมอาจพาคุณออกนอกเส้นทางก็ได้" 257 00:17:04,483 --> 00:17:08,570 ‎พื้นที่ที่พวกเขาต้องค้นหาจึงกว้างใหญ่มาก 258 00:17:08,653 --> 00:17:10,030 ‎ณ จุดนี้ 259 00:17:10,113 --> 00:17:14,076 ‎น่าจะมีโอกาสริบหรี่ที่จะพบเขาในบริเวณนี้ 260 00:17:14,159 --> 00:17:18,080 ‎แต่เราอาจมีข้อมูลมากขึ้น ‎ที่จะเป็นเบาะแสให้เราค้นหาพื้นที่ต่อไป 261 00:17:18,580 --> 00:17:22,125 ‎บันไดตรงนี้เอง ด้านหลังเครื่อง 727 262 00:17:22,209 --> 00:17:25,504 ‎ที่เอฟบีไอเชื่อว่าเป็นจุดที่คนร้ายใช้ร่มชูชีพ 263 00:17:25,587 --> 00:17:28,799 ‎กระโดดร่มบริเวณไหนสักแห่ง ‎ระหว่างซีแอตเทิลและพอร์ตแลนด์ 264 00:17:28,882 --> 00:17:33,512 ‎ก่อนหน้านี้ เชื่อกันว่าเขาคงกระโดดร่ม ‎บริเวณไหนสักแห่งใกล้รีโน 265 00:17:33,595 --> 00:17:36,431 ‎แต่ตอนนี้พวกเขาระงับ ‎การค้นหาทั้งหมดในแถบนั้นแล้ว 266 00:17:37,265 --> 00:17:38,600 ‎ในวันขอบคุณพระเจ้า 267 00:17:38,683 --> 00:17:41,603 ‎ผู้คนทั่วโลกรับรู้ข่าวนี้ 268 00:17:42,562 --> 00:17:44,147 ‎ชายคนนี้หายตัวไปแล้ว 269 00:17:46,900 --> 00:17:51,238 ‎คดีนี้เริ่มจากการปล้น ‎กลางอากาศระดับปรากฏการณ์จริงๆ 270 00:17:51,738 --> 00:17:53,573 ‎มาเป็นตำนานพื้นบ้านอเมริกัน 271 00:17:54,491 --> 00:17:56,868 ‎(วันขอบคุณพระเจ้า ปี 1971) 272 00:18:00,122 --> 00:18:03,125 ‎ขณะที่เขาขึ้นเครื่องเมื่อคืน ‎เขาเป็นแค่ผู้โดยสารอีกคนหนึ่ง 273 00:18:03,208 --> 00:18:06,419 ‎แต่วันนี้ หลังการจี้เครื่องบิน ‎ของนอร์ธเวสต์แอร์ไลน์ 274 00:18:06,503 --> 00:18:08,755 ‎จับผู้โดยสารเรียกค่าไถ่ในซีแอตเทิล 275 00:18:08,839 --> 00:18:12,968 ‎จากนั้นก็หลบหนีโดยการโดดร่ม ‎ลงที่ไหนสักแห่งระหว่างที่นั่นกับรีโน 276 00:18:13,051 --> 00:18:16,429 ‎สำนักข่าวแห่งหนึ่งเรียก ‎บุคคลลักษณะนั้นว่า มหาโจร 277 00:18:16,513 --> 00:18:19,516 ‎รู้ไหมแบบนี้คืออะไร ‎แปลว่าเจสซี่ เจมส์กลับมาแล้ว 278 00:18:19,599 --> 00:18:21,393 ‎ร้อยปีก่อน คิดดูสิ 279 00:18:21,476 --> 00:18:25,814 ‎เขาฆ่าลินคอล์นเมื่อ 100 ปีก่อน ‎และเคนเนดี้ กลับมาเหมือนเดิม 280 00:18:25,897 --> 00:18:27,732 ‎- คิดว่าเขาคือฮีโร่เหรอ ‎- แน่นอนสิ 281 00:18:27,816 --> 00:18:28,900 ‎ทำไมล่ะ 282 00:18:28,984 --> 00:18:33,738 ‎เพราะเห็นชัดๆ ว่าชายคนนี้ ‎วางแผนนานมาก ทุกขั้นตอน 283 00:18:34,322 --> 00:18:39,619 ‎ซึ่งผมนับถือคนที่ประณีตบรรจงกับงานแบบนี้แหละ 284 00:18:40,203 --> 00:18:43,832 ‎เขาเป็นแมวขโมยที่ฉลาดที่สุด ‎คนหนึ่งที่โลกเคยมีเชียวละ 285 00:18:43,915 --> 00:18:45,041 ‎(ค้นหาคนร้ายตามชายฝั่ง) 286 00:18:45,125 --> 00:18:48,753 ‎รายละเอียดปลีกย่อยของคดีนี้ ‎ที่เราแต่งขึ้นเองไม่ได้ 287 00:18:48,837 --> 00:18:51,047 ‎เริ่มตั้งแต่ชื่อปลอมของคนร้าย 288 00:18:51,131 --> 00:18:53,967 ‎ดีบี คูเปอร์ไม่ใช่โจรจี้เครื่องบิน 289 00:18:55,343 --> 00:18:59,681 ‎ในพอร์ตแลนด์ เขาใช้ชื่อ ‎แดน คูเปอร์ซื้อตั๋วเครื่องบิน 290 00:18:59,764 --> 00:19:01,892 ‎ดังนั้น ดีบี คูเปอร์ที่จริงคือ แดน คูเปอร์ 291 00:19:01,975 --> 00:19:03,310 ‎แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ 292 00:19:03,393 --> 00:19:06,730 ‎มีสื่อจำนวนมหาศาลให้ความสนใจไปที่ 293 00:19:06,813 --> 00:19:09,941 ‎สิ่งนี้และบังเอิญใครสักคนทำผิดพลาด 294 00:19:10,025 --> 00:19:11,276 ‎(เอฟบีไอค้นหาคนร้าย) 295 00:19:11,359 --> 00:19:14,362 ‎เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลบางอย่าง 296 00:19:14,446 --> 00:19:17,073 ‎แล้วนักข่าวคนหนึ่งก็ฟังเป็น "ดีบี คูเปอร์" 297 00:19:17,157 --> 00:19:19,492 ‎แดน คูเปอร์กลายเป็นดีบี คูเปอร์ 298 00:19:19,576 --> 00:19:22,495 ‎เพราะนักข่าวสะเพร่าบางคน 299 00:19:22,579 --> 00:19:24,915 ‎ทุกคนรู้ภายในวันนั้นเลยมั้ง 300 00:19:24,998 --> 00:19:27,542 ‎"ไม่ ไม่ใช่ดีบี คูเปอร์ แดน คูเปอร์ต่างหาก" 301 00:19:27,626 --> 00:19:31,338 ‎แต่บอกตรงๆ ดีบี คูเปอร์ ‎เป็นชื่อที่เจ๋งกว่าแดน คูเปอร์ 302 00:19:31,421 --> 00:19:32,964 ‎ดีบี คูเปอร์ก็เลยติดปากคน 303 00:19:33,048 --> 00:19:35,258 ‎นั่นเองจุดเริ่มการสร้างแบรนด์ดีบี คูเปอร์ 304 00:19:35,342 --> 00:19:38,595 ‎เพราะฮีโร่ของชาวบ้านทุกคน ‎เกิดจากการสร้างแบรนด์ที่ดี 305 00:19:38,678 --> 00:19:39,804 ‎ดีบี คูเปอร์... 306 00:19:40,555 --> 00:19:42,182 ‎"ดีบี ใครล่ะ" 307 00:19:42,265 --> 00:19:45,894 ‎และนั่นเอง ดีบี คูเปอร์ ‎โจรระฟ้าที่ทิ้งตัวกลางอากาศ 308 00:19:45,977 --> 00:19:48,355 ‎และร่อนลงพื้นโลกเป็นฮีโร่ 309 00:19:48,438 --> 00:19:51,233 ‎แถวตะวันตกเฉียงเหนือ ‎ตามชายฝั่งแปซิฟิก คุณพูดได้ด้วยซ้ำว่า 310 00:19:52,484 --> 00:19:54,027 ‎เขาเป็นเหมือนพระเจ้า 311 00:19:54,110 --> 00:19:55,987 ‎ชายคนนี้พิชิตระบบได้ 312 00:19:56,071 --> 00:19:59,658 ‎เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครสักคนมีขวัญกล้า ‎ขนาดนี้ ประสบความสำเร็จขนาดนี้ 313 00:19:59,741 --> 00:20:01,076 ‎ทุกคนก็จะส่งแรงใจให้ 314 00:20:01,159 --> 00:20:04,955 ‎(โจรใจกล้าบ้าบิ่นจนโดนใจประชาชน) 315 00:20:05,038 --> 00:20:07,499 ‎หลายคนแต่งเพลงให้เขา ขายเสื้อยืดได้เงิน 316 00:20:07,582 --> 00:20:12,545 ‎และอื่นๆ เพื่อเป็นเกียรติแด่ชายคนแรก ‎และคนเดียวที่จี้เครื่องบินสหรัฐแล้วหนีไปได้ 317 00:20:12,629 --> 00:20:17,092 ‎ผมคิดว่าดีบี คูเปอร์จะไม่มีวันตาย ‎เพราะพวกเขาไม่มีวันหาเขาเจอ 318 00:20:17,759 --> 00:20:19,427 ‎คดีนี้มีความเป็นอเมริกันมากๆ 319 00:20:19,511 --> 00:20:22,847 ‎มีทั้งฮีโร่จนตรอกให้คนส่งกำลังใจเชียร์ 320 00:20:22,931 --> 00:20:25,558 ‎คูเปอร์ฟื้นชีพการสดุดีวัฒนธรรมนี้ 321 00:20:26,393 --> 00:20:29,354 ‎ซึ่งแทบจะย้อนกลับไปถึง ‎ฮีโร่ในตำนานอย่างบิลลี่เดอะคิด 322 00:20:31,147 --> 00:20:33,984 ‎และโจรชื่อดังทั้งหลาย โจรปล้นธนาคาร 323 00:20:34,067 --> 00:20:35,860 ‎จอร์จ แมชชีน กัน เคลลี่ 324 00:20:36,444 --> 00:20:37,904 ‎เบบี้ เฟซ เนลสัน 325 00:20:38,571 --> 00:20:39,739 ‎และจอห์น ดิลลิงเจอร์ 326 00:20:40,448 --> 00:20:41,950 ‎อเมริกันเชิดชูคนนอกกฎหมาย 327 00:20:42,033 --> 00:20:44,828 ‎เราหลงใหลผู้ที่แหกกฎ 328 00:20:44,911 --> 00:20:47,205 ‎เพราะ 95% เราไม่ทำ 329 00:20:48,290 --> 00:20:52,961 ‎(เดอะ เพอร์ซูท ออฟ ดีบี คูเปอร์ ‎ภาพยนตร์ปี 1981 ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส) 330 00:20:54,087 --> 00:20:56,589 ‎ทุกคนอยากรู้ว่าดีบี คูเปอร์เป็นใคร 331 00:20:56,673 --> 00:20:59,175 ‎และเมื่อเวลาผ่านไป 332 00:20:59,259 --> 00:21:01,636 ‎มันก็กลายเป็นปริศนาที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ 333 00:21:03,471 --> 00:21:06,725 ‎หลักฐานบ่งชี้ว่าคูเปอร์ ‎ต้องมีประสบการณ์ทางทหาร 334 00:21:06,808 --> 00:21:09,769 ‎ถึงวางแผนอาชญากรรมระดับนี้และทำสำเร็จได้ 335 00:21:09,853 --> 00:21:12,939 ‎ในช่วงหน้า เราจะเปิดเผยเบาะแสใหม่ที่สำคัญ 336 00:21:13,023 --> 00:21:15,442 ‎ที่จะระบุตัวตนของดีบี คูเปอร์ 337 00:21:15,525 --> 00:21:19,404 ‎มาถึงตอนนี้ มีหลายคนมาก ‎ที่ได้เล่นบทดีบี คูเปอร์ 338 00:21:19,487 --> 00:21:24,743 ‎มีหลายเหตุผลมากที่ทำไม ‎ชื่อดีบี คูเปอร์ถึงยังคงแพร่หลาย 339 00:21:24,826 --> 00:21:26,995 ‎ในวัฒนธรรมป๊อปหลากหลายประเภท 340 00:21:27,537 --> 00:21:32,208 ‎เช่นเรื่องของเอมิเลีย เอียร์ฮาร์ต ‎ที่เรารู้น้อยมากว่าเกิดอะไรขึ้น 341 00:21:33,376 --> 00:21:34,878 ‎(นอร์แจ็ค แดน คูเปอร์) 342 00:21:34,961 --> 00:21:38,340 ‎โลกตะวันตกต้องมีคำตอบสำหรับทุกคำถาม 343 00:21:39,507 --> 00:21:43,219 ‎พวกเขาหงุดหงิดเมื่อเรื่องเล่าไม่มีตอนจบ 344 00:21:43,303 --> 00:21:45,096 ‎ไม่จำเป็นต้องจบแฮปปี้ 345 00:21:45,180 --> 00:21:47,515 ‎แต่มันต้องมีจุดท้ายประโยคให้ชัดว่าสิ้นสุด 346 00:21:47,599 --> 00:21:50,018 ‎คดีดีบี คูเปอร์เป็นตัวอย่างสำคัญ 347 00:21:50,101 --> 00:21:53,146 ‎ของประโยคที่ทิ้งปลายเปิดไว้ 348 00:21:55,565 --> 00:21:58,568 ‎มาถึงตรงนี้ มีผู้ต้องสงสัยมากกว่า 1,000 คน 349 00:21:58,651 --> 00:22:00,362 ‎ที่เอฟบีไอเพ่งเล็ง 350 00:22:01,196 --> 00:22:04,908 ‎และผู้ต้องสงสัยบางคนก็น่าจับตามองจริงๆ 351 00:22:06,117 --> 00:22:09,204 ‎ริชาร์ด ฟลอยด์ แม็คคอยเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ 352 00:22:09,913 --> 00:22:11,081 ‎(ประกาศจับ ดีบี คูเปอร์) 353 00:22:11,164 --> 00:22:13,917 ‎เขาเคยรบในเวียดนาม ‎เป็นนักโดดร่มผู้เชี่ยวชาญ 354 00:22:14,501 --> 00:22:17,921 ‎แมคคอยจี้เครื่องบิน 727 อีกลำและกระโดดร่ม 355 00:22:18,922 --> 00:22:21,508 ‎หลังจากเหตุการณ์ดีบี คูเปอร์ห้าหรือหกเดือน 356 00:22:24,719 --> 00:22:26,971 ‎แต่มีปัญหาใหญ่มากอย่างหนึ่ง 357 00:22:27,055 --> 00:22:30,475 ‎พยานทุกคนที่เห็นดีบี คูเปอร์ ‎แล้วมาเห็นริชาร์ด ฟลอยด์ แมคคอย 358 00:22:30,558 --> 00:22:31,935 ‎ต่างบอกว่า "ไม่ใช่เขา" 359 00:22:34,896 --> 00:22:39,275 ‎ดเวน เวเบอร์สารภาพก่อนตาย ‎และเขาดูเหมือนภาพร่างที่สองมาก 360 00:22:39,359 --> 00:22:43,863 ‎นอกจากนี้เขายังใช้ชีวิตสองหน้า ‎หนึ่งเป็นเซลส์ขายประกันที่มีเสน่ห์ 361 00:22:43,947 --> 00:22:46,574 ‎อีกหนึ่งเป็นอาชญากรมืออาชีพ 362 00:22:47,867 --> 00:22:50,954 ‎เขาถูกจับสัก 16 ครั้งได้ 363 00:22:51,037 --> 00:22:53,873 ‎แต่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า ‎เขาเคยผ่านการฝึกโดดร่ม 364 00:22:53,957 --> 00:22:57,377 ‎เขาเป็นอาชญากรที่เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น 365 00:22:57,460 --> 00:22:59,796 ‎จากนั้นก็มีบาร์บ เดย์ตัน 366 00:23:01,172 --> 00:23:03,842 ‎เธอสารภาพว่าเป็นดีบี คูเปอร์ 367 00:23:04,592 --> 00:23:07,470 ‎เธอเคยผ่าตัดแปลงเพศครั้งแรกในรัฐวอชิงตัน 368 00:23:08,763 --> 00:23:10,265 ‎เธอเคยเป็นบ๊อบบี้ 369 00:23:10,348 --> 00:23:12,684 ‎และบ๊อบบี้เป็นชายแกร่งที่ชอบทะเลาะวิวาท 370 00:23:12,767 --> 00:23:15,603 ‎ส่วนบาร์บเป็นบรรณารักษ์ผู้อ่อนหวาน 371 00:23:17,730 --> 00:23:19,607 ‎เป็นการแปลงโฉมที่สุดยอด 372 00:23:19,691 --> 00:23:23,236 ‎ในฐานะผู้ชาย ‎บ๊อบ เดย์ตันเป็นชายผู้กราดเกรี้ยว 373 00:23:23,319 --> 00:23:26,239 ‎พาณิชย์นาวีอย่างเขาโดดลงจากเครื่องบินได้อยู่ 374 00:23:26,948 --> 00:23:28,074 ‎แต่ปัญหาคือ 375 00:23:28,158 --> 00:23:32,704 ‎ไม่มีหลักฐานหนักแน่นพอเชื่อมโยงบาร์บ เดย์ตัน 376 00:23:32,787 --> 00:23:35,248 ‎กับคดีดีบี คูเปอร์เลยไม่ว่าด้านไหน 377 00:23:36,666 --> 00:23:38,877 ‎บางคนคิดว่าเป็นเคน คริสเตียนเซ่น 378 00:23:38,960 --> 00:23:40,962 ‎เขาเคยทำงานให้สายการบินนอร์ธเวสต์ 379 00:23:42,297 --> 00:23:44,716 ‎บางคนคิดว่าเป็นเชอริแดน ปีเตอร์สัน 380 00:23:44,799 --> 00:23:46,593 ‎ปีเตอร์สันเคยทำงานที่บริษัทโบอิ้ง 381 00:23:46,676 --> 00:23:50,847 ‎แต่เหตุผลหลายอย่างประกอบกันทำให้ทั้งคู่ตกไป 382 00:23:52,432 --> 00:23:56,394 ‎แม้ว่าเรายังไม่รู้ว่าคูเปอร์ ‎เป็นใคร แต่ผมว่าที่น่าสนใจคือ 383 00:23:56,478 --> 00:23:59,606 ‎ผู้คนยังเชื่อมโยงคูเปอร์ ‎เข้ากับหลายสิ่งมากใน 50 ปีต่อมา 384 00:24:00,315 --> 00:24:02,984 ‎เราอยู่ในแวนคูเวอร์ วอชิงตัน ‎ที่วิคเตอร์ 23 ค่ะ 385 00:24:03,067 --> 00:24:05,278 ‎นี่คือบาร์ที่มีธีมดีบี คูเปอร์ 386 00:24:05,361 --> 00:24:08,364 ‎เรามีพิลสเนอร์ยี่ห้อแชฟฟ์เนอร์ 387 00:24:08,448 --> 00:24:10,700 ‎เรามีเบียร์สีอำพันยี่ห้อไฟลท์ 305 388 00:24:10,783 --> 00:24:14,496 ‎มีไอพีเอยี่ห้อสกายแจ็คเกอร์ ‎มีเฮดเลสไฮแจ็คเกอร์ 389 00:24:14,579 --> 00:24:16,206 ‎และไอพีเอยี่ห้อเจ็ทฟูเอล 390 00:24:16,748 --> 00:24:22,378 ‎และน่าสนใจมากว่าทำไมหลายคน ‎ยังติดภาพเขาในภาพยนตร์และวัฒนธรรม 391 00:24:22,837 --> 00:24:26,090 ‎(โลกิ มาร์เวล สตูดิโอ ปี 2021) 392 00:24:28,551 --> 00:24:29,719 ‎เตรียมตัวให้พร้อมจะดีกว่า 393 00:24:32,305 --> 00:24:34,182 ‎เรื่องที่น่าสนใจยิ่งกว่า 394 00:24:34,265 --> 00:24:37,936 ‎ใครสักคนกระโดดลงจากเครื่องบินและหายตัวไป 395 00:24:38,019 --> 00:24:39,562 ‎คือความหลงใหลเรื่องที่ว่านี้ 396 00:24:40,146 --> 00:24:42,815 ‎ดูแผนที่นี้สิ เขาปักหมุดจุดที่ดีบีร่อนลง 397 00:24:43,608 --> 00:24:44,859 ‎สุดยอด 398 00:24:44,943 --> 00:24:47,862 ‎ถึงเรานับถือดีบี คูเปอร์มาตลอด 50 ปีนี้ 399 00:24:47,946 --> 00:24:52,534 ‎แต่เราไม่น่าจะได้รู้จริงๆ ว่าใครคือดีบี คูเปอร์ 400 00:24:53,159 --> 00:24:54,244 ‎ดูคุณสิ 401 00:24:54,827 --> 00:24:58,081 ‎ผมควรโทรแจ้งเอฟบีไอไหมว่า ‎ผมเจอดีบี คูเปอร์แล้ว 402 00:24:58,581 --> 00:24:59,582 ‎ล้อเล่น 403 00:24:59,666 --> 00:25:04,045 ‎ทุกคนอยากไขปริศนาที่แม้แต่ 404 00:25:04,128 --> 00:25:08,258 ‎หน่วยงานที่ยอดเยี่ยม ‎และฉลาดที่สุดในประเทศยังไขไม่ได้ 405 00:25:09,509 --> 00:25:11,010 ‎หลังจาก 50 ปีผ่านไป 406 00:25:11,094 --> 00:25:16,015 ‎คดีคูเปอร์แทบจะกลายเป็น ‎จอกศักดิ์สิทธิ์ของคดีปริศนา 407 00:25:17,267 --> 00:25:18,977 ‎(ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย 2016) 408 00:25:19,060 --> 00:25:21,688 ‎อรุณสวัสดิ์ ทุกคน ผมทอม โคลแบร์ 409 00:25:23,565 --> 00:25:27,443 ‎ผมกับภรรยา ดอว์น่า เคย์ที่อยู่ตรงมุมนั้น 410 00:25:27,527 --> 00:25:29,404 ‎เรามีความคืบหน้าในคดีนี้ 411 00:25:29,487 --> 00:25:30,697 ‎เราได้รับเบาะแส 412 00:25:33,741 --> 00:25:36,995 ‎สำหรับผม เรื่องทั้งหมดเริ่มเมื่อเพื่อนผมคนหนึ่ง 413 00:25:37,078 --> 00:25:39,038 ‎ชื่อริช คาแชนสกี้โทรมา 414 00:25:39,122 --> 00:25:43,376 ‎ผมรู้จักริชมา 25 ปีแล้ว ผมรับสายริชทันที 415 00:25:44,836 --> 00:25:48,131 ‎ผมกำลังทำงานหนึ่งอยู่ในตอนนั้น ‎ผมถามเขา "ริช มีอะไร" 416 00:25:49,173 --> 00:25:51,134 ‎(ลาสเวกัส เนวาดา) 417 00:25:51,217 --> 00:25:55,054 ‎ตอนนั้นผมอยู่ในเวกัส กำลังถ่ายหนังสั้นโฆษณา 418 00:25:55,138 --> 00:25:56,639 ‎เพื่อนของเพื่อนคนหนึ่ง 419 00:25:56,723 --> 00:26:00,435 ‎บอกผมว่ารู้จักนักพนันที่รู้ว่าดีบี คูเปอร์เป็นใคร 420 00:26:01,936 --> 00:26:04,772 ‎ผมกลอกตา เขาพูดต่อ ‎"ไม่นะ ทอม นายต้องฟัง" 421 00:26:04,856 --> 00:26:06,316 ‎"เขาอยู่หน้ากล้องแล้ว" 422 00:26:06,399 --> 00:26:08,901 ‎ผมบอกเขาว่า "หมอนี่ดูน่าเชื่อถือ 423 00:26:09,485 --> 00:26:12,447 ‎และเขาเต็มใจจะเข้าเครื่องจับเท็จ" 424 00:26:12,530 --> 00:26:16,701 ‎"มันเป็นทางเดียวที่คุณจะเชื่อผม ‎ผมยินดีทำอย่างยิ่ง" 425 00:26:17,201 --> 00:26:19,579 ‎ผมรู้ว่าถ้าเบาะแสนี้มีมูล 426 00:26:19,662 --> 00:26:22,457 ‎เราจะไขคดีที่โด่งดังที่สุดคดีหนึ่ง 427 00:26:22,540 --> 00:26:23,791 ‎ในประวัติศาสตร์ได้เลย 428 00:26:24,500 --> 00:26:28,212 ‎สิ่งที่ผมพบในเทปบันทึกภาพ ‎รอน คาร์ลสันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ 429 00:26:29,088 --> 00:26:31,049 ‎(ปี 1978) 430 00:26:40,600 --> 00:26:44,771 ‎เรื่องเริ่มที่รอน คาร์ลสัน ‎ขี้ยาที่เตร็ดเตร่ตามเมืองชายฝั่ง 431 00:26:44,854 --> 00:26:45,897 ‎ขับรถซิ่ง 432 00:26:52,528 --> 00:26:57,867 ‎ผมมาเล่าเรื่องที่ผมเชื่อจริงๆ ว่าเป็นความจริง 433 00:26:58,701 --> 00:27:02,205 ‎ซึ่งมันเกี่ยวกับดีบี คูเปอร์ 434 00:27:02,288 --> 00:27:04,916 ‎ผมเพิ่งมาเจอดีบี คูเปอร์ 435 00:27:04,999 --> 00:27:06,709 ‎เมื่อปี 1978 436 00:27:07,335 --> 00:27:09,962 ‎และผมรู้จักเขา 437 00:27:10,880 --> 00:27:12,298 ‎บอกตรงๆ 438 00:27:12,382 --> 00:27:14,884 ‎เขาเป็นคนขายโคเคนให้ผม 439 00:27:17,553 --> 00:27:19,180 ‎ชายคนนี้ชื่อดิ๊ค บริกส์ 440 00:27:19,263 --> 00:27:21,974 ‎(ดิ๊ค บริกส์) 441 00:27:22,058 --> 00:27:23,976 ‎แทบจะตั้งแต่แรกที่เรารู้จักกัน 442 00:27:24,686 --> 00:27:27,855 ‎เขาก็บอกเราแล้วว่าที่จริงเขาคือดีบี คูเปอร์ 443 00:27:27,939 --> 00:27:30,233 ‎เขาเอาแต่พูดว่า "ไม่เชื่อฉันสินะ" 444 00:27:30,316 --> 00:27:32,902 ‎แล้วเราก็ไปปาร์ตี้แห่งนึงในปี 1980 445 00:27:33,653 --> 00:27:39,242 ‎เขาก็บอกว่า "ฉันจะบอกบางอย่าง ‎ที่พิสูจน์ได้แน่นอนว่าฉันคือใคร" 446 00:27:39,325 --> 00:27:42,286 ‎เขาบอกว่า "สองคนตรงนั้นน่ะ" ‎เราก็ถาม "แล้วไง" 447 00:27:42,370 --> 00:27:47,083 ‎เขาบอก "พวกนั้นกับลูกชาย" ‎คู่นั้นดูเหมือนคู่รักฮิปปี้ 448 00:27:47,166 --> 00:27:49,961 ‎"คือคนที่จะเจอเงินของฉัน" 449 00:27:52,046 --> 00:27:55,216 ‎ดิ๊ค บริกส์บอกว่า ‎"ชายฝั่งทางเหนือ ในเวลาสามวัน 450 00:27:55,717 --> 00:27:58,886 ‎พวกเขาจะเจอเงินของฉัน" ‎หมายถึงเงินของคูเปอร์ 451 00:27:59,512 --> 00:28:01,431 ‎ตอนนั้นแหละที่ผมคิด "ว้าว" 452 00:28:02,014 --> 00:28:03,349 ‎(10 กุมภาพันธ์ ปี 1980) 453 00:28:03,433 --> 00:28:04,976 ‎พบเงินบริเวณนี้ 454 00:28:05,059 --> 00:28:07,770 ‎ห่างจากแนวชายฝั่งแม่น้ำโคลัมเบียไม่กี่เมตร 455 00:28:07,854 --> 00:28:11,357 ‎ผมว่าจะก่อกองไฟ ผมหอบฟืนมาด้วยแล้ว 456 00:28:11,441 --> 00:28:15,027 ‎ผมเตรียมจะจุดไฟ ‎ลูกชายผมก็พูดขึ้นมา "พ่อ รอเดี๋ยว" 457 00:28:15,111 --> 00:28:18,281 ‎เขาเขี่ยทรายที่หนึ่งตรงนั้น แล้วก็เจอ 458 00:28:18,364 --> 00:28:19,991 ‎มันทลายลงมา 459 00:28:20,074 --> 00:28:23,202 ‎เด็กคนหนึ่งนำเอฟบีไอเริ่มการแกะรอย 460 00:28:23,286 --> 00:28:26,622 ‎โดยหวังว่าจะช่วยไขคดีปริศนาแปดปีครึ่งนี้ได้ 461 00:28:26,706 --> 00:28:28,791 ‎คดีโจรจี้เครื่องบิน ดีบี คูเปอร์ 462 00:28:29,792 --> 00:28:33,421 ‎ไม่กี่วันหลังปาร์ตี้นั้น ข่าวนี้ก็โผล่มา 463 00:28:34,422 --> 00:28:39,135 ‎บอกว่าพวกเขาเจอเงิน ‎ที่ผมคิดว่าน่าจะ 6,000 ดอลลาร์ 464 00:28:39,218 --> 00:28:40,970 ‎เงินของดีบี คูเปอร์ 465 00:28:41,053 --> 00:28:44,348 ‎และเมื่อพวกเขาถ่ายภาพคนที่พบเงิน 466 00:28:44,432 --> 00:28:46,684 ‎ก็เป็นคู่นั้นเลยที่ปาร์ตี้ 467 00:28:48,186 --> 00:28:51,105 ‎จากการที่ผมรู้จักไบรอัน อินแกรม ‎และครอบครัวเขามาหลายปี 468 00:28:51,189 --> 00:28:55,401 ‎ผมไม่เห็นวี่แววเลยว่า ‎พวกเขาจะเกี่ยวข้องในทางเลวร้าย 469 00:28:55,485 --> 00:28:56,319 ‎กับเงินจำนวนนั้น 470 00:28:56,402 --> 00:28:59,322 ‎ผมจึงเชื่อว่าไบรอัน อินแกรม ‎คือผู้บริสุทธิ์ที่บังเอิญผ่านมา 471 00:28:59,405 --> 00:29:01,824 ‎รวมทั้งครอบครัวเขาด้วย เกี่ยวข้องกับคดีคูเปอร์ 472 00:29:01,908 --> 00:29:04,827 ‎แม้ว่านี่คือชิ้นส่วนแรกของปริศนาซับซ้อนเรื่องนี้ 473 00:29:04,911 --> 00:29:09,165 ‎ที่ปรากฏขึ้นในรอบหลายปี ‎แต่ก็ยังไม่เห็นภาพรวมง่ายๆ 474 00:29:09,248 --> 00:29:11,626 ‎จู่ๆ 40 ปีให้หลัง ก็มีชายคนหนึ่ง 475 00:29:11,709 --> 00:29:15,087 ‎อ้างว่าดิ๊ค บริกส์เป็นคนฝังเงินนั้นไว้ที่ชายหาด 476 00:29:15,171 --> 00:29:18,466 ‎แสดงให้เห็นว่ามันถูกจัดฉาก ‎และคูเปอร์อาจยังมีชีวิตอยู่ 477 00:29:18,549 --> 00:29:22,762 ‎ตอนนั้นเองที่ผมหันไปพูดกับภรรยา ‎ "ผมว่าเราได้เบาะแสจริง" 478 00:29:28,559 --> 00:29:30,853 ‎ดิ๊ค บริกส์มีศักยภาพเหมาะเจาะที่สุด 479 00:29:30,937 --> 00:29:33,773 ‎ที่จะลงมือจี้เครื่องบินลำนี้ได้ 480 00:29:33,856 --> 00:29:34,982 ‎ตามที่เขาพูดนั้น 481 00:29:35,066 --> 00:29:38,486 ‎เขาเคยเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ ‎ช่วงสงครามเวียดนาม 482 00:29:39,070 --> 00:29:41,447 ‎เขาเคยเป็นนักโดดร่มที่มีฝีมือ 483 00:29:41,531 --> 00:29:44,408 ‎เขาคุ้นเคยกับพื้นที่แถวนั้น ‎ผมมั่นใจว่าเขาวางแผนไว้แล้ว 484 00:29:45,576 --> 00:29:48,162 ‎เขามีร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์พร้อม 485 00:29:48,246 --> 00:29:49,664 ‎เป็นคนฉลาดมากๆ 486 00:29:50,206 --> 00:29:52,583 ‎แต่เขาออกจะทำตัวหลุดโลก 487 00:29:53,918 --> 00:29:58,130 ‎เพื่อนคนหนึ่งของเขาสมัยเรียน ‎บอกผมว่าดิ๊คฉุนเฉียวบ่อยๆ 488 00:29:58,214 --> 00:29:59,674 ‎เขารู้สึกว่าดิ๊คเป็นไบโพลาร์ 489 00:29:59,757 --> 00:30:01,425 ‎เขาจะโมโหหลังจากดื่มเบียร์ไม่กี่แก้ว 490 00:30:01,509 --> 00:30:03,719 ‎และขว้างถังขยะทะลุกระจกร้านเหล้า 491 00:30:03,803 --> 00:30:05,388 ‎หลายคนกลัวเขา 492 00:30:05,471 --> 00:30:08,808 ‎เขาเป็นนักยกน้ำหนัก ‎เขายกท่าเบนช์เพรสได้มากถึง 192 กก. 493 00:30:09,892 --> 00:30:13,229 ‎ทุกคนเรียกเขาว่าบั๊กซี่ ‎เพราะเขาเป็นคนที่คาดเดาได้ยาก 494 00:30:14,146 --> 00:30:16,440 ‎ครั้งแรกที่ฉันได้พบดิ๊ค บริกส์ 495 00:30:16,524 --> 00:30:19,193 ‎สามีของฉันยื่นค็อกเทลให้เขา 496 00:30:19,277 --> 00:30:22,196 ‎ดิ๊คกระดกเบอร์เบิ้นหมดแก้วทีเดียว 497 00:30:22,280 --> 00:30:25,074 ‎แล้วก็กินแก้วต่อทันที 498 00:30:25,658 --> 00:30:28,411 ‎เลือดหยดจากใบหน้าเขา เขากำลังเคี้ยวแก้ว 499 00:30:30,037 --> 00:30:33,708 ‎ครอบครัวของเขาเล่าว่า ‎ดิ๊ค บริกส์เล่นมายากลได้หลายอย่าง 500 00:30:33,791 --> 00:30:37,420 ‎เขาสามารถหยิบปิ่นปักผมของผู้หญิง ‎แทงทะลุท่อนแขนตัวเอง 501 00:30:37,503 --> 00:30:38,921 ‎ดึงออกมาโดยไม่มีเลือดสักหยด 502 00:30:40,715 --> 00:30:43,175 ‎ครั้งหนึ่ง เราไปที่เมืองเล็กๆ แห่งนึง 503 00:30:43,259 --> 00:30:46,888 ‎ซึ่งจัดเทศกาลดีบี คูเปอร์เป็นประจำทุกปี 504 00:30:47,388 --> 00:30:48,472 ‎(ปาร์ตี้ดีบี คูเปอร์) 505 00:30:49,056 --> 00:30:52,518 ‎เขาเอาแต่พูดว่า "ฉันอยากบอก ‎คนพวกนี้จริงๆ ว่าฉันคือใคร" 506 00:30:52,602 --> 00:30:54,312 ‎และพูดว่า "ทุกคนมาฉลองให้ฉัน" 507 00:30:54,395 --> 00:30:55,938 ‎เขาเป็นคนหลงตัวเองขนาดนั้น 508 00:30:56,022 --> 00:30:58,524 ‎ซึ่งเป็นคุณสมบัติหนึ่งของดีบี คูเปอร์แน่นอน 509 00:30:58,608 --> 00:31:01,736 ‎ผมคิดว่าดีบีเป็นคนที่เจ๋งสุดในอเมริกา 510 00:31:02,403 --> 00:31:03,821 ‎(มุมคูเปอร์) 511 00:31:04,363 --> 00:31:08,034 ‎(ดิ๊ค บริกส์) 512 00:31:08,659 --> 00:31:12,204 ‎(เบเวอร์ลีฮิลส์ แคลิฟอร์เนีย) 513 00:31:16,125 --> 00:31:17,376 ‎- เปิดอยู่ใช่ไหม ‎- ใช่ 514 00:31:17,460 --> 00:31:19,462 ‎- ขอปรับโฟกัสหน่อย ‎- แจ๋ว 515 00:31:20,379 --> 00:31:23,049 ‎เมื่อผมรู้ว่าดิ๊ค บริกส์อาจเป็นคูเปอร์ 516 00:31:23,132 --> 00:31:25,384 ‎ผมก็เริ่มทำเอกสารการสืบสวน 517 00:31:25,468 --> 00:31:28,346 ‎เพื่อในตอนท้ายผมจะได้ขายทำสารคดี 518 00:31:30,097 --> 00:31:33,434 ‎เมื่อริชพาพ่อค้ายาคนนี้ รอน คาร์ลสันมาหาผม 519 00:31:33,517 --> 00:31:37,521 ‎ผมทำทุกขั้นตอนจนแน่ใจว่า ‎เขาจะพูดความจริงเกี่ยวกับดิ๊ค บริกส์ 520 00:31:37,605 --> 00:31:41,400 ‎เราสัมภาษณ์รอน คาร์ลสันสามครั้ง ‎ครั้งหนึ่งมีเครื่องจับเท็จ 521 00:31:42,109 --> 00:31:43,986 ‎โอเค ผมจะหมุนเก้าอี้ 522 00:31:44,070 --> 00:31:47,365 ‎เราขอให้เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ‎แจ็ค ทรีมาร์โก้ทำการทดสอบ 523 00:31:47,448 --> 00:31:49,533 ‎ผมเคยเรียนศาสตร์การจับเท็จ 524 00:31:49,617 --> 00:31:52,328 ‎ที่สถาบันการจับเท็จของกระทรวงกลาโหม 525 00:31:52,411 --> 00:31:54,914 ‎ที่ฟอร์ต แมคเคลแลน แอละบามา 526 00:31:54,997 --> 00:31:59,043 ‎แจ็ค ทรีมาร์โก้เป็นยอดฝีมือ ‎ของยอดฝีมือด้านการจับเท็จ 527 00:31:59,126 --> 00:32:02,672 ‎เขาเคยคุมการจับเท็จมากกว่า 3,500 ครั้ง 528 00:32:02,755 --> 00:32:04,590 ‎โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย 529 00:32:04,674 --> 00:32:07,760 ‎เอาแขนไว้ข้างหน้า ‎เหมือนคุณกำลังจะโดดลงสระน้ำ 530 00:32:07,843 --> 00:32:09,512 ‎ผมจะติดสิ่งนี้ไว้กลางลำตัวคุณ 531 00:32:10,012 --> 00:32:12,807 ‎ไม่ว่าทางกายภาพมีความเคลื่อนไหว 532 00:32:12,890 --> 00:32:16,060 ‎ผิดปกติอะไรก็ตามจะทำให้ผมได้ยินชัดเจน 533 00:32:16,143 --> 00:32:19,814 ‎มันแปลได้ว่าร่างกาย ‎จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่กี่วินาที 534 00:32:20,356 --> 00:32:23,484 ‎เมื่อบุคคลนั้นรู้ตัวว่ากำลังโกหก 535 00:32:24,151 --> 00:32:25,778 ‎การทดสอบกำลังจะเริ่มขึ้นครับ 536 00:32:29,115 --> 00:32:32,493 ‎ดิ๊ค บริกส์เคยบอกคุณไหมว่าเขาคือดีบี คูเปอร์ 537 00:32:32,576 --> 00:32:33,411 ‎เคยครับ 538 00:32:35,454 --> 00:32:36,622 ‎สำหรับคำถามที่ว่า 539 00:32:36,706 --> 00:32:39,875 ‎"ดิ๊ค บริกส์เคยบอกไหมว่าเขาคือดีบี คูเปอร์" 540 00:32:40,501 --> 00:32:42,169 ‎ปฏิกิริยาของเขาปกติดีมากกับคำถามนี้ 541 00:32:44,046 --> 00:32:46,549 ‎คุณเคยโกหกเจ้าหน้าที่หรือไม่ 542 00:32:47,133 --> 00:32:47,967 ‎ไม่ครับ 543 00:32:48,926 --> 00:32:54,223 ‎หลังจากทดสอบด้วยเครื่องจับเท็จ ‎ ผมบอกริชว่า "ผมว่าเขาบอกความจริง" 544 00:32:54,724 --> 00:33:00,271 ‎จากนั้นเราจึงเริ่มทำการวิจัยว่า ‎ดิ๊ค บริกส์เป็นดีบี คูเปอร์ได้หรือไม่ 545 00:33:00,354 --> 00:33:03,983 ‎ดีบี คูเปอร์เป็นคนธรรมดา ‎ที่ฝันถึงชีวิตโลดโผนผจญภัย 546 00:33:04,066 --> 00:33:07,903 ‎ตั้งแต่วัยเด็ก เขาก็สั่งสมความมั่นใจในตัวเอง 547 00:33:07,987 --> 00:33:13,909 ‎ด้วยจินตนาการโลดโผนเร้าใจ ‎แน่นอนว่าโดยมีเขาเป็นฮีโร่ 548 00:33:13,993 --> 00:33:18,581 ‎(จอน ริชาร์ด บริกส์เสียชีวิตแล้ว ‎เมื่อวันศุกร์ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์) 549 00:33:18,664 --> 00:33:23,044 ‎วันหนึ่ง เราก็พบว่า ‎ดิ๊ค บริกส์เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ 550 00:33:23,127 --> 00:33:25,129 ‎เพื่อนเขาคิดว่าเขาถูกฆ่า 551 00:33:25,212 --> 00:33:28,257 ‎มันเป็นอุบัติเหตุทางรถที่ไม่มีคู่กรณี ‎กลางที่เปลี่ยวในพอร์ตแลนด์ 552 00:33:28,340 --> 00:33:31,135 ‎(จอน ริชาร์ด บริกส์ ปี 1939-1980) 553 00:33:31,218 --> 00:33:33,929 ‎ก่อนหน้านี้ เขาเคยพูดถึงเวียดนาม 554 00:33:35,347 --> 00:33:38,225 ‎แต่ตรงนั้นเองที่เรื่องเล่าของเขามีปัญหาสำคัญ 555 00:33:39,143 --> 00:33:41,437 ‎ผมปะติดปะต่อเรื่องนี้นานแปดเดือน 556 00:33:42,730 --> 00:33:44,857 ‎ผมเคยเชื่อจริงๆ ว่าเขาคือคูเปอร์ 557 00:33:45,566 --> 00:33:49,695 ‎แต่แล้วผมก็พบว่า ‎เขาไม่เคยไปเวียดนาม ไม่เคยโดดร่ม 558 00:33:49,779 --> 00:33:53,365 ‎เขาแค่ร่วมฝึกฝนร่างกาย ‎ในวันหยุดกับกองทัพอากาศ 559 00:33:53,449 --> 00:33:56,869 ‎เขาจะได้ไม่ต้องไปรบที่เวียดนาม ตอนนั้นเองที่ 560 00:33:56,952 --> 00:34:00,289 ‎ผมจ้องชายคนนี้และคิดว่า "ผิดคนซะแล้ว" 561 00:34:00,372 --> 00:34:02,625 ‎นี่คือข้อเท็จจริงที่เรารู้จักเขา 562 00:34:02,708 --> 00:34:05,127 ‎คูเปอร์เป็นชายผิวเข้ม ตัวสูง 563 00:34:05,628 --> 00:34:12,301 ‎ดิ๊ค บริกส์เป็นชายร่างกำยำ เตี้ยล่ำกล้ามใหญ่ 564 00:34:13,636 --> 00:34:15,096 ‎ไม่ใช่บริกส์ 565 00:34:15,930 --> 00:34:20,101 ‎เขาเป็นแค่คนขี้โม้อวดอ้างว่า ‎ "ฉันคือดีบี คูเปอร์" 566 00:34:20,768 --> 00:34:23,395 ‎เราก็คิดว่า "เฮ้ย จบกัน" 567 00:34:25,064 --> 00:34:28,067 ‎รอน คาร์ลสันรู้สึกแย่มาก เพราะ 40 ปีแล้ว 568 00:34:28,150 --> 00:34:31,362 ‎ที่มีคนบอกเขาว่าชายคนนี้ ‎คือคูเปอร์ ถึงจะดูไม่เหมือน 569 00:34:31,445 --> 00:34:33,447 ‎แต่ก็เชื่อเขาเพราะเขารู้ว่าจะมีคนเจอเงิน 570 00:34:34,406 --> 00:34:37,535 ‎จุดพลิกผันของเรื่องทั้งหมดนี้ 571 00:34:37,618 --> 00:34:40,162 ‎เปลี่ยนทัศนคติของผมแทบจะทุกอย่าง 572 00:34:40,746 --> 00:34:43,124 ‎ผมเดาว่าไม่มีอะไรทำให้ผมประหลาดใจแล้ว 573 00:34:47,920 --> 00:34:52,091 ‎ทุกคนที่ตามหาคูเปอร์เคยสัมผัส ‎สิ่งที่เรียกว่าคำสาปของคูเปอร์ 574 00:34:52,591 --> 00:34:56,303 ‎เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครหรือเคยเป็นใคร ‎มาจากไหนหรือไปที่ไหนแล้ว 575 00:34:58,222 --> 00:35:00,015 ‎คดีนี้คือกับดักสังหาร 576 00:35:00,099 --> 00:35:03,519 ‎เมื่อคุณคิดว่าใกล้จะได้รู้ว่าคนร้ายคือใคร 577 00:35:03,602 --> 00:35:06,897 ‎บางอย่างก็จะโผล่มาแสดงให้คุณเห็นว่าเข้าใจผิด 578 00:35:06,981 --> 00:35:11,193 ‎คดีนี้ยังปิดไม่ได้ เรายังไล่ล่าดีบี คูเปอร์ต่อไป 579 00:35:11,902 --> 00:35:15,573 ‎เราอาจไม่มีวันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ‎กับดีบี คูเปอร์หรือเขาคือใคร 580 00:35:15,656 --> 00:35:18,617 ‎แต่ปริศนาที่ยังไม่คลี่คลายน่าสนใจเสมอ 581 00:35:18,701 --> 00:35:22,997 ‎เมื่อผมเริ่มทำคดีนี้ ‎ผมคิดว่าจะไขคดีนี้ได้เหมือนกัน 582 00:35:24,081 --> 00:35:27,168 ‎(นิวยอร์ก นิวยอร์ก) 583 00:35:29,003 --> 00:35:33,299 ‎ตอนนั้น ผมเป็นนักข่าว ‎และนักเขียนอยู่ทางใต้ของแมนฮัตตัน 584 00:35:33,841 --> 00:35:35,134 ‎ผมเขียนข่าวอาชญากรรม 585 00:35:36,886 --> 00:35:39,763 ‎สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากกับการเป็นนักข่าวสืบสวนคือ 586 00:35:39,847 --> 00:35:44,226 ‎การได้สืบคดียากๆ ‎คดีที่ไม่มีทางจะคลี่คลายได้เลย 587 00:35:44,768 --> 00:35:49,273 ‎เมื่อผมได้เบาะแสเกี่ยวกับ ‎ดีบี คูเปอร์ครั้งแรก ผมรู้ว่าผมจะทำข่าวนี้ 588 00:35:51,275 --> 00:35:52,610 ‎ผมต้องไล่ล่าเขา 589 00:35:53,527 --> 00:35:56,238 ‎ผมเขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ‎เกี่ยวกับคดีนี้ หนังสือเล่มแรกของผม 590 00:35:56,322 --> 00:35:58,324 ‎ผมคิดว่า "ถ้าผมไขคดีนี้ได้ 591 00:35:58,407 --> 00:36:02,077 ‎รางวัลพูลิตเซอร์และอื่นๆ ก็จะหลั่งไหลเข้ามา" 592 00:36:06,040 --> 00:36:10,878 ‎หนังสือเสียงของแรนดอมเฮาส์ขอเสนอ ‎ปล้นระฟ้า: ไล่ล่าดีบี คูเปอร์ 593 00:36:11,503 --> 00:36:12,546 ‎โดย เจฟฟรีย์ เกรย์ 594 00:36:13,422 --> 00:36:14,840 ‎เจฟฟรีย์ เกรย์พูดครับ 595 00:36:15,424 --> 00:36:16,967 ‎ผมใช้เวลากว่าสี่ปี 596 00:36:17,051 --> 00:36:19,303 ‎ผมมาเพื่อบอกคุณว่าคำสาปที่ว่านั้นมีจริง 597 00:36:21,180 --> 00:36:22,848 ‎หลายสิบปีที่ผ่านมา 598 00:36:22,932 --> 00:36:26,894 ‎ผู้ต้องสงสัยบางคนหายสาบสูญ ‎บางคนกุข่าวว่าตนตายแล้ว 599 00:36:26,977 --> 00:36:29,480 ‎ชายคนหนึ่งเกือบตายในเรือดำน้ำที่ประกอบเอง 600 00:36:29,563 --> 00:36:32,358 ‎ขณะกำลังสำรวจก้นทะเลสาบ ‎เพื่อหาเงินค่าไถ่ของคนร้าย 601 00:36:33,567 --> 00:36:36,695 ‎นักข่าวรายหนึ่งพยายามฆ่าตัวตาย ‎หลังจากบุคคลที่เขาสงสัย 602 00:36:36,779 --> 00:36:38,364 ‎ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นนักต้มตุ๋น 603 00:36:38,447 --> 00:36:40,157 ‎(เล่าเรื่องโกหกของดีบี คูเปอร์ในศาล) 604 00:36:42,701 --> 00:36:45,371 ‎มีเพียงเข้ารับการบำบัดด้วยไฟฟ้า ‎อย่างต่อเนื่องเท่านั้น 605 00:36:45,454 --> 00:36:47,373 ‎ถึงจะกระตุ้นให้เขากลับมามีเหตุผลอีกครั้ง 606 00:36:48,207 --> 00:36:49,375 ‎ผมเริ่มจะเข้าใจว่า 607 00:36:49,458 --> 00:36:53,045 ‎คดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับตัวคูเปอร์เอง ‎แต่เกี่ยวกับคนที่ไล่ล่าคูเปอร์ต่างหาก 608 00:36:53,128 --> 00:36:54,797 ‎(ขอต้อนรับชาวสลูธส์) 609 00:36:54,880 --> 00:36:59,051 ‎คนอย่างทอม โคลแบร์และคนอื่นๆ เช่นผม 610 00:36:59,635 --> 00:37:00,970 ‎อดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขา 611 00:37:02,388 --> 00:37:06,058 ‎ในทางจิตใจแล้ว คดีนี้พาคุณเข้าสู่พื้นที่ดาร์คดีไวด์ 612 00:37:07,184 --> 00:37:10,604 ‎คดีนี้ตั้งคำถามว่าคุณคือใครและเชื่ออะไร 613 00:37:10,688 --> 00:37:13,565 ‎อยากเชื่ออะไร และอะไรที่เกิดขึ้นจริงๆ 614 00:37:15,276 --> 00:37:17,987 ‎คนเดียวที่โด่งดังกว่าดีบี คูเปอร์ 615 00:37:18,070 --> 00:37:19,405 ‎คือคนที่เจอตัวเขา 616 00:37:22,157 --> 00:37:24,827 ‎ผมสืบจนถึงจุดที่ผมมีผู้ต้องสงสัยสี่ราย 617 00:37:24,910 --> 00:37:27,705 ‎ผมคิดจริงๆ ว่าทุกคนเป็นดีบี คูเปอร์ 618 00:37:27,788 --> 00:37:30,499 ‎ผมเรียกสติตัวเอง ถามว่า ‎"ทำไมฉันมาถึงจุดนี้ 619 00:37:30,582 --> 00:37:33,043 ‎ที่ฉันเชื่อว่าสี่คนนี้เป็นชายคนเดียวกัน" 620 00:37:33,544 --> 00:37:36,547 ‎นั่นแหละประเด็น ‎มันเป็นการตื่นทองในลักษณะหนึ่ง 621 00:37:36,630 --> 00:37:39,758 ‎เราอยากพิสูจน์ใจจะขาดว่าผู้ต้องสงสัยคนนี้ใช่แน่ 622 00:37:39,842 --> 00:37:42,928 ‎จนระบบความเชื่อของเรา ‎ยึดครองอยู่เหนือเหตุผล 623 00:37:43,012 --> 00:37:46,557 ‎บุคคลสี่คนเป็นเขาไปไม่ได้ ‎และบางอย่างไม่สามารถเป็นจริง 624 00:37:48,684 --> 00:37:52,021 ‎(พอร์ตแลนด์ โอเรกอน ปี 2011) 625 00:37:53,897 --> 00:37:55,357 ‎โอเค เรากลับมาที่นี่ 626 00:37:56,275 --> 00:37:59,361 ‎เดี๋ยวนะ มีเสียงรถไฟ ‎เข้ามาอีกแล้ว รอเดี๋ยว โทษที 627 00:38:01,030 --> 00:38:04,408 ‎ในที่สุดเมื่อเรารู้ว่าดิ๊ค บริกส์ไม่ใช่ดีบี คูเปอร์ 628 00:38:04,491 --> 00:38:06,827 ‎ผมก็บอก "เขาอาจมีคู่หูได้ไหม" 629 00:38:06,910 --> 00:38:10,331 ‎ทอมดื้อรั้นสุดๆ เขาไม่ยอมแพ้เลย 630 00:38:10,414 --> 00:38:13,292 ‎เมื่อเขาเห็นทางตัน ผมบอก "โอเค แค่นี้แหละ" 631 00:38:13,375 --> 00:38:14,793 ‎ส่วนเขาเดินหน้าต่อ 632 00:38:16,545 --> 00:38:19,965 ‎ผมตัดสินใจ ผมจะโทรหาตำรวจในพอร์ตแลนด์ 633 00:38:20,049 --> 00:38:22,551 ‎ผมจะติดต่อตำรวจคดียาเสพติด 634 00:38:22,634 --> 00:38:26,972 ‎ผมโทรไปบอกว่า "พอจะมีตำรวจคดี ‎ยาเสพติดที่จำดิ๊ค บริกส์ได้หรือเปล่า" 635 00:38:27,556 --> 00:38:28,807 ‎แน่นอนว่าหนึ่งสัปดาห์ต่อมา 636 00:38:28,891 --> 00:38:31,393 ‎ผมเจอชายคนนี้อายุ 80 กว่าปี 637 00:38:31,977 --> 00:38:36,106 ‎ตำรวจมอบรายชื่อเพื่อนบ้าน ‎นับสิบคนของดิ๊ค บริกส์ให้ผม 638 00:38:36,690 --> 00:38:39,485 ‎ผมเริ่มเจาะประวัติพวกเขาทีละคน 639 00:38:39,568 --> 00:38:41,111 ‎ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับเขา 640 00:38:41,195 --> 00:38:44,448 ‎คนสุดท้ายที่ผมตัดสินใจโทรหา ‎คือคนที่มีสิ่งหนึ่งซึ่งผมกลัว 641 00:38:45,199 --> 00:38:46,992 ‎เขามีฉายา พัดจี้ ฮันท์ 642 00:38:47,076 --> 00:38:48,744 ‎ผมเคยดูหนังคาวบอยมาเยอะมาก 643 00:38:48,827 --> 00:38:51,288 ‎ที่จะมีชายชื่อพัดจี้ควงปืนลูกซอง 644 00:38:54,416 --> 00:38:55,918 ‎ทำไมพวกเขาเรียกคุณว่าพัดจี้ 645 00:38:56,418 --> 00:39:01,006 ‎ตอนที่ผมอายุเก้าเดือน ผมหนักตั้ง 16 กก. 646 00:39:02,800 --> 00:39:04,510 ‎เล่าเรื่องเพื่อนของบริกส์ให้ฟังหน่อย 647 00:39:05,094 --> 00:39:08,305 ‎ครั้งหนึ่ง ดิ๊ค บริกส์แนะนำให้รู้จักเพื่อนเขา 648 00:39:08,389 --> 00:39:13,519 ‎และชายคนนี้หยิบภาพข่าว ‎หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ตัดแล้วออกมา 649 00:39:15,062 --> 00:39:19,817 ‎เป็นข่าวที่พูดถึงตัวเขา หน่วยรบพิเศษ ‎ที่ได้รับเหรียญกล้าหาญ 650 00:39:21,318 --> 00:39:23,362 ‎ตอนนั้นเองผมได้รู้ว่าเพื่อนของดิ๊ค บริกส์ 651 00:39:23,445 --> 00:39:25,322 ‎มีชื่อว่าโรเบิร์ต แร็คสตรอว์ 652 00:39:26,365 --> 00:39:28,075 ‎ซึ่งมันเปลี่ยนทุกอย่างเลย 653 00:39:30,285 --> 00:39:33,539 ‎(แร็คสตรอว์ โรเบิร์ต ดับเบิลยู) 654 00:39:33,622 --> 00:39:36,291 ‎เราเทียบรูปของแร็คสตรอว์ในวัยนั้น 655 00:39:36,375 --> 00:39:38,836 ‎กับรูปที่ตำรวจวาดดีบี คูเปอร์ 656 00:39:41,171 --> 00:39:44,550 ‎ซึ่งรูปของแร็คสตรอว์แทบจะตรงกัน 657 00:39:47,845 --> 00:39:50,389 ‎คุณเคยฝึกโดดร่ม ตามที่คุณอ้าง 658 00:39:50,472 --> 00:39:54,810 ‎ประวัติของคุณชี้ว่าคุณอาจเป็นดีบี คูเปอร์ก็ได้ 659 00:39:55,310 --> 00:39:57,771 ‎อาจเป็นก็ได้ แค่อาจจะเป็น 660 00:39:57,855 --> 00:39:59,064 ‎(แร็คสตรอว์ ปี 1979) 661 00:39:59,773 --> 00:40:02,109 ‎ชายคนนี้มีทักษะครบเครื่อง 662 00:40:02,192 --> 00:40:05,112 ‎ในตอนนั้น ผมรู้ว่าเราเจอดีบี คูเปอร์แล้ว 663 00:40:06,405 --> 00:40:08,157 ‎ผมพูดว่า "ขอบคุณพระเจ้า" 664 00:40:09,074 --> 00:40:13,704 ‎ผมคิดว่าการได้ตัวแร็คสตรอว์ ‎เราไขคดีที่ปิดไม่ได้มา 50 ปีได้แล้ว 665 00:40:13,787 --> 00:40:16,832 ‎มีปาฏิหาริย์ของสิ่งเล็กๆ มากมายในเรื่องนี้ 666 00:40:16,915 --> 00:40:19,710 ‎ซึ่งผมคิดหัวแทบแตกว่า "ฉันรู้ยังไงนะ" 667 00:40:19,793 --> 00:40:23,797 ‎คุณยินดีจะระบุไหมว่าคุณคือดีบี คูเปอร์หรือเปล่า 668 00:40:24,339 --> 00:40:27,468 ‎เรื่องเล่าแบบนี้ ‎ควรเป็นนิยายหรือข้อเท็จจริงดีล่ะ 669 00:40:28,469 --> 00:40:32,097 ‎ขึ้นอยู่กับคนอเมริกันแล้วว่าสักวันมันจะเป็นอะไร 670 00:40:33,307 --> 00:40:36,101 ‎เมื่อทีมงานผมเริ่มทำวิจัยเกี่ยวกับแร็คสตรอว์ 671 00:40:36,185 --> 00:40:40,230 ‎พวกเขาเริ่มสืบว่าเขาทำอะไรอยู่ ‎หากตอนนั้นไม่ได้กำลังกระโดดร่ม 672 00:40:44,985 --> 00:40:48,447 ‎เขาปลอมแปลงตัวตนไว้เยอะมาก ‎ มีชื่อปลอมหลายชื่อในการทำผิด 673 00:40:49,114 --> 00:40:53,535 ‎ชายคนนี้อยู่คนละระดับกับรายอื่น ‎ คุณไม่เชื่อแน่ว่ามันต่างกันแค่ไหน 674 00:40:53,619 --> 00:40:55,287 ‎คุณคือดีบี คูเปอร์หรือเปล่า 675 00:40:55,370 --> 00:40:57,498 ‎ผมพูดเรื่องแบบนี้ไม่ได้ 676 00:40:58,081 --> 00:41:00,375 ‎ผมพูดเรื่องทำนองนี้ไม่ได้เลย 677 00:41:59,017 --> 00:42:00,727 ‎คำบรรยายโดย เพียรพิไล ธรรมลิขิตชัย