1 00:00:06,549 --> 00:00:10,970 ‎(ซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX) 2 00:00:15,099 --> 00:00:17,560 ‎เราทุกคนมีความปรารถนาที่จะเป็นอิสระ 3 00:00:17,643 --> 00:00:21,022 ‎แต่มีพลังอย่างหนึ่งที่กักขังเราทุกชีวิต 4 00:00:21,105 --> 00:00:22,231 ‎นั่นก็คือแรงโน้มถ่วง 5 00:00:24,067 --> 00:00:27,153 ‎ดีบี คูเปอร์ทำสิ่งที่เราทุกคนโหยหาอยากทำ 6 00:00:27,236 --> 00:00:31,616 ‎แม้เราจะไม่รู้ตัว ‎และนั่นคือการมีตัวตนเป็นเอกเทศ 7 00:00:33,618 --> 00:00:35,578 ‎เพื่อจะทายท้าแรงโน้มถ่วง 8 00:00:36,454 --> 00:00:38,247 ‎ทายท้าระบบ 9 00:00:40,541 --> 00:00:43,419 ‎นี่คือเรื่องราวลึกลับสุดคลาสสิคฉบับอเมริกันชน 10 00:00:43,503 --> 00:00:46,005 ‎ซึ่งเรายังสนใจดูในอีก 50 ปีหลังจากนั้น 11 00:00:46,089 --> 00:00:49,926 ‎แต่ยังมีองค์ประกอบของเรื่องนี้ ‎ที่ใครก็ตามที่มีแล็ปท็อป 12 00:00:50,009 --> 00:00:53,387 ‎สามารถสืบเสาะ ‎และรู้สึกเหมือนได้เป็นนักสืบเสียเอง 13 00:00:55,264 --> 00:00:59,102 ‎ในแง่นี้ นี่คือปริศนายิ่งใหญ่สำหรับยุคอินเทอร์เน็ต 14 00:00:59,185 --> 00:01:00,686 ‎(ค้นหา) 15 00:01:01,437 --> 00:01:03,481 ‎มันงดงามในแง่ไม่มีการแต่งเติม 16 00:01:06,567 --> 00:01:08,736 ‎ผมเรียกมันว่าส่วนประกอบของเจมส์ บอนด์ 17 00:01:08,820 --> 00:01:12,156 ‎สุภาพบุรุษสุดเนี้ยบที่สวมสูทผูกเนกไท 18 00:01:12,240 --> 00:01:15,243 ‎สั่งเบอร์เบินเซเว่น ‎แล้วกระโดดออกจากเครื่องบิน 19 00:01:15,326 --> 00:01:18,830 ‎กลางดึก นี่มันบทหนังชัดๆ 20 00:01:19,956 --> 00:01:22,875 ‎เขาไม่เคยทำร้ายใคร ‎เขาปล่อยทุกคนลงจากเครื่องบิน 21 00:01:22,959 --> 00:01:26,546 ‎ได้เงินไปสองแสนเหรียญแล้ว กระโดด 22 00:01:26,629 --> 00:01:27,755 ‎กลางพายุ 23 00:01:29,173 --> 00:01:31,968 ‎แถมหนีไปได้ คล่องมากเลยนะ 24 00:01:33,177 --> 00:01:36,305 ‎คูเปอร์ตอบสนองความใฝ่ฝันของใครหลายคน 25 00:01:36,848 --> 00:01:39,767 ‎การปล้นเงินสองแสนแล้วหายตัวไปได้ 26 00:01:40,852 --> 00:01:43,146 ‎ผมคิดว่าคดีนี้จะไม่มีวันปิดได้ตลอดไป 27 00:02:18,639 --> 00:02:23,853 ‎(ตอนที่ 3 พระเยซูอยู่ในแซนด์วิช) 28 00:02:25,479 --> 00:02:27,481 ‎(ฮอลลีวูด) 29 00:02:28,566 --> 00:02:31,277 ‎(ลอสแอนเจลิส ปี 2016) 30 00:02:31,360 --> 00:02:34,030 ‎เราสืบสวนเรื่องนี้อย่างยากลำบาก 31 00:02:34,113 --> 00:02:35,990 ‎เราใช้เงินส่วนตัวจำนวนมาก 32 00:02:36,073 --> 00:02:40,494 ‎และผมใช้เวลาห้าปีขัดเกลาบท ‎และขายให้ช่องฮิสทอรี 33 00:02:40,578 --> 00:02:42,538 ‎กว่าจะถึงตรงนั้นไม่ง่ายเลย 34 00:02:44,457 --> 00:02:48,336 ‎เป็นช่วงที่น่าตื่นเต้นเมื่อทอม ‎ขายเรื่องนี้ให้ฮิสทอรีได้ในที่สุด 35 00:02:48,419 --> 00:02:52,089 ‎เพราะเป็นโปรเจกต์ที่อาจใช้เงินทุ่มสร้าง 36 00:02:52,173 --> 00:02:54,175 ‎โดยไม่ได้อะไรตอบแทนเลย 37 00:02:55,593 --> 00:02:59,889 ‎ช่องฮิสทอรีอยากให้ทอมกับผมมีส่วนร่วมเขียนบท 38 00:03:01,474 --> 00:03:03,100 ‎โอเค ทำให้เราเชื่อนะ 39 00:03:03,184 --> 00:03:04,769 ‎- ลุยเลย ‎- ได้ 40 00:03:08,064 --> 00:03:12,777 ‎เรานำเสนอคดีนี้ต่อทอม ฟูเอสทิส ‎และพยายามทำให้เขาเชื่อ 41 00:03:12,860 --> 00:03:15,154 ‎ทอมเคยเป็นผู้บริหารเอฟบีไอ 42 00:03:15,238 --> 00:03:16,113 ‎ซึ่งเกษียณแล้ว 43 00:03:16,864 --> 00:03:18,449 ‎และเป็นนักเขียนนิยายอาชญากรรม 44 00:03:18,532 --> 00:03:20,660 ‎(บิลลี่ เจนเซน) 45 00:03:22,078 --> 00:03:25,998 ‎ทอม ฟูเอนทิสพูดถึงคดีของเราไว้อย่างน่าทึ่งว่า 46 00:03:26,082 --> 00:03:30,002 ‎"มันยอดเยี่ยมมาก ‎น่าจะเป็นเขา เก้าส่วนสิบเลย" 47 00:03:33,214 --> 00:03:36,217 ‎(โรเบิร์ต แร็คสตรอว์ ‎นักสืบไซเบอร์: การสวมรอย) 48 00:03:39,095 --> 00:03:40,554 ‎แต่ภายในหกเดือน 49 00:03:41,305 --> 00:03:42,556 ‎ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป 50 00:03:44,016 --> 00:03:47,144 ‎นึกว่าหลักฐานทุกอย่างที่พวกเขานำมาเปิดเผย 51 00:03:47,228 --> 00:03:49,563 ‎ในช่องฮิสทอรีน่าเชื่อถือมากแล้ว 52 00:03:49,647 --> 00:03:51,274 ‎แต่เมื่อคุยกับทอม 53 00:03:51,357 --> 00:03:55,361 ‎ผมคิดว่ามีคนบอกเขาอย่างหนึ่ง ‎ว่าพวกเขาจะทำอะไร 54 00:03:55,444 --> 00:03:57,530 ‎แล้วมันก็เปลี่ยนไปคนละทาง 55 00:03:57,613 --> 00:03:59,657 ‎เรามาบอกเล่าความคืบหน้า 56 00:03:59,740 --> 00:04:03,369 ‎ล่าสุดเกี่ยวกับคดีนี้ที่เราทำไปแล้ว 57 00:04:05,454 --> 00:04:06,747 ‎เราไม่ทันตั้งตัว 58 00:04:09,083 --> 00:04:12,712 ‎ในตอนที่สอง เอฟบีไอจัดการ 59 00:04:12,795 --> 00:04:14,880 ‎นำพนักงานต้อนรับคนสำคัญของเรื่อง 60 00:04:15,673 --> 00:04:18,884 ‎มาปรากฏตัวหน้ากล้อง 61 00:04:18,968 --> 00:04:23,597 ‎จัดหารูปภาพผู้ต้องสงสัยทุกคน ‎ว่าจะเป็นดีบี คูเปอร์ 62 00:04:24,181 --> 00:04:26,434 ‎ผมก็นึกว่า "นี่มันพิลึก" 63 00:04:26,517 --> 00:04:31,439 ‎ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยให้สัมภาษณ์เลย 64 00:04:32,273 --> 00:04:34,483 ‎(ทีน่า มัคลาว พนักงานต้อนรับเที่ยวบิน 305) 65 00:04:34,567 --> 00:04:37,611 ‎เขาดูเหมือนคนนี้ไหม ชายที่นั่งข้างคุณ 66 00:04:37,695 --> 00:04:38,988 ‎ไม่ ฉันว่าไม่เหมือน 67 00:04:39,822 --> 00:04:40,823 ‎ฉันไม่คิดอย่างนั้น 68 00:04:40,906 --> 00:04:42,700 ‎ในตอนท้าย 69 00:04:42,783 --> 00:04:46,954 ‎เธอพิจารณาภาพผู้ต้องสงสัย ‎ร่วมกับเอฟบีไอและฟูเอนทิส 70 00:04:47,038 --> 00:04:48,664 ‎และเธอทำลายทุกอย่าง 71 00:04:48,748 --> 00:04:51,542 ‎ทำลายทฤษฎีทั้งหมดของคดีนี้ 72 00:04:52,668 --> 00:04:57,548 ‎ในตอนนั้น ผมรู้สึกได้ว่าทอม ‎ที่อยู่ทางขวาของผมรู้สึกแย่ 73 00:04:58,632 --> 00:05:01,886 ‎อย่างที่เรารู้กันว่า พยานบุคคลนั้นเชื่อถือไม่ได้ 74 00:05:01,969 --> 00:05:03,637 ‎แถมยังมาพูดหลัง 40 กว่าปีผ่านไป 75 00:05:03,721 --> 00:05:07,683 ‎และไม่เห็นตัวเขาจริงๆ ‎ตอนที่เธอพบเขาบนเครื่องบิน 76 00:05:07,767 --> 00:05:09,769 ‎ผมไม่คิดว่าเธอจะเห็นด้วย 77 00:05:09,852 --> 00:05:12,563 ‎ถ้าเธอเห็นด้วย ผมคงตะลึง บอกตรงๆ 78 00:05:13,105 --> 00:05:15,274 ‎ทนายผู้ซักพยานจะบอกคุณว่า 79 00:05:15,358 --> 00:05:17,151 ‎เมื่อพบพยานเห็นเหตุการณ์จริง 80 00:05:17,735 --> 00:05:20,154 ‎อย่างดีที่สุดพวกเขาจะพูดถูกต้อง 50% 81 00:05:20,237 --> 00:05:22,573 ‎อย่างที่รู้ว่ามีสี่คนเห็นเหตุการณ์หนึ่ง 82 00:05:22,656 --> 00:05:25,701 ‎และทุกคนจะเล่าเหตุการณ์นั้นต่างกัน 83 00:05:25,785 --> 00:05:27,745 ‎ไม่ใช่แค่รายงานตาม 84 00:05:27,828 --> 00:05:28,996 ‎การรับรู้ของตนเอง 85 00:05:29,080 --> 00:05:30,581 ‎แต่ยังเล่าตามอคติส่วนตัว 86 00:05:30,664 --> 00:05:33,250 ‎ผมมั่นใจว่าแร็คสตรอว์ไม่ใช่คูเปอร์ 87 00:05:34,794 --> 00:05:39,090 ‎เรามีหลักฐาน 93 ชิ้น ‎สำหรับทำสารคดีช่องฮิสทอรี 88 00:05:39,173 --> 00:05:41,133 ‎เราถอดรหัสได้หลายอย่าง 89 00:05:41,217 --> 00:05:44,845 ‎เรามีพยาน เราถึงกับ ‎รวบรวมทักษะต่างๆ ได้ครบ 90 00:05:44,929 --> 00:05:47,306 ‎เราคิดว่าเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาก 91 00:05:47,390 --> 00:05:52,228 ‎หนึ่งในหลักฐาน 93 ชิ้นนั้น ‎เป็นเงินของกลางหรือร่มชูชีพหรือเปล่า 92 00:05:52,812 --> 00:05:56,148 ‎ไม่ บิลลี่ เรารู้ว่าไม่มีหลักฐานพวกนี้ ‎เรามีหลักฐานแวดล้อม 93 00:05:56,732 --> 00:05:58,818 ‎จากข้อมูลทั้งหมด 93 อย่าง 94 00:05:58,901 --> 00:06:01,862 ‎ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าเขาอยู่บนเครื่องบินลำนั้น 95 00:06:01,946 --> 00:06:05,032 ‎ไม่มีอะไรยืนยันด้วยซ้ำว่า ‎เขาอยู่ที่พอร์ตแลนด์ในวันนั้น 96 00:06:05,116 --> 00:06:09,745 ‎ไม่ว่าคุณอยากจะล้มประเด็น ‎"แร็คสตรอว์เป็นดีบี คูเปอร์หรือไม่" แค่ไหน 97 00:06:10,246 --> 00:06:14,500 ‎มันก็เป็นการไม่ยุติธรรมและไม่ซื่อตรง 98 00:06:15,084 --> 00:06:17,086 ‎ที่จะนำเสนอหลักฐานแบบนี้ 99 00:06:17,169 --> 00:06:20,464 ‎ซึ่งในตอนนั้นทำให้ผมโมโหมาก 100 00:06:20,548 --> 00:06:21,715 ‎และตอนนี้ก็ยังโมโห 101 00:06:24,218 --> 00:06:27,138 ‎ผมจะไม่มีวันลืมที่ผู้กำกับบอกผมว่า 102 00:06:27,221 --> 00:06:29,807 ‎"คุณควรขอโทษแร็คสตรอว์แล้วไหม" 103 00:06:31,767 --> 00:06:35,813 ‎ผมบอกว่า "ผมไม่มีอะไรให้ต้องขอโทษ ‎ผมกับทีมงานมั่นใจ" 104 00:06:36,981 --> 00:06:38,190 ‎ทอมถูกจัดให้เป็น 105 00:06:38,274 --> 00:06:41,944 ‎หนึ่งในพวกบ้าทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดทั่วไป 106 00:06:42,027 --> 00:06:46,323 ‎แทนที่จะเป็นนักสืบเชิงระเบียบวิธี ‎แบบที่เขาเป็นมาทั้งชีวิต 107 00:06:46,991 --> 00:06:50,494 ‎ผมรู้สึกเห็นใจทอม ‎เพราะเขาทุ่มเทสืบเรื่องนี้หลายปี 108 00:06:50,578 --> 00:06:51,745 ‎อย่างถูกระเบียบวิธี 109 00:06:51,829 --> 00:06:55,624 ‎การที่เขาถูกลดทอนความน่าเชื่อถือแบบนั้น ‎ทำให้ชื่อเสียงเขาเสียหาย 110 00:06:55,708 --> 00:06:57,960 ‎ไม่ใช่แค่นั้น แบบนี้ไม่ถูกต้อง 111 00:07:00,588 --> 00:07:02,173 ‎- สบายดีไหม ‎- สบายดี 112 00:07:02,256 --> 00:07:05,634 ‎ข้อสรุปของผม ผมคิดว่าทอมเคยถามผมหน้ากล้อง 113 00:07:06,385 --> 00:07:11,098 ‎เขาถามว่า "คุณไม่คิดว่า ‎เป็นเขาสินะ" ผมตอบ "ไม่คิด" 114 00:07:11,182 --> 00:07:14,602 ‎เพราะพวกเขาเข้าถึงข้อมูลในเอฟบีไอ 115 00:07:14,685 --> 00:07:15,561 ‎ซึ่งเราทำไม่ได้ 116 00:07:16,270 --> 00:07:17,271 ‎มันง่ายแค่นั้นเลย 117 00:07:19,565 --> 00:07:20,691 ‎ผมกับทอม 118 00:07:21,859 --> 00:07:24,403 ‎เราไม่ได้คุยกันมากนักหลังจากนั้น 119 00:07:27,364 --> 00:07:31,327 ‎ในตอนท้ายของสารคดี ‎พวกนั้นปิดประตูใส่หน้าเขา 120 00:07:32,328 --> 00:07:33,579 ‎พวกเขาปิดคดีนี้ 121 00:07:33,662 --> 00:07:37,791 ‎(เจ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ สำนักงานเอฟบีไอ) 122 00:07:38,876 --> 00:07:41,962 ‎หลังจากติดตามการสืบสวนที่ ‎ยาวนานและยากลำบากที่สุด 123 00:07:42,046 --> 00:07:45,382 ‎ในประวัติศาสตร์ของเรา เอฟบีไอจะถอนกำลัง 124 00:07:45,466 --> 00:07:48,385 ‎ที่เคยทำคดี 45 ปี ดีบี คูเปอร์นี้ 125 00:07:48,469 --> 00:07:51,388 ‎ในสัปดาห์เดียวกับที่สารคดีเรื่องนี้ออกอากาศ 126 00:07:51,472 --> 00:07:53,265 ‎เอฟบีไอก็ปิดคดีนี้ 127 00:07:53,349 --> 00:07:54,850 ‎งั้นคดีนี้ก็โดนปิดแล้วเหรอ 128 00:07:56,310 --> 00:07:57,811 ‎ในด้านบริหารจัดการ ครับ 129 00:07:58,395 --> 00:08:01,232 ‎ผมมองว่า เอฟบีไอแอบตกลงกับรายการ 130 00:08:01,815 --> 00:08:05,945 ‎หลังวันที่ออกฉาย เอฟบีไอก็จัดแถลงข่าวว่า... 131 00:08:06,028 --> 00:08:08,739 ‎เราพิจารณาทุกอย่างที่มีอยู่อย่างละเอียด 132 00:08:08,822 --> 00:08:12,618 ‎"เราพิจารณาข้อมูลของโคลแบร์แล้ว ‎และไม่พบอะไรใหม่" 133 00:08:13,202 --> 00:08:14,870 ‎ไม่มีอะไรใหม่เลย 134 00:08:16,747 --> 00:08:19,792 ‎(ทัศนะและความคิดเห็นของ ‎ทอม โคลแบร์และทีมคดีปริศนา) 135 00:08:19,875 --> 00:08:22,711 ‎(ในรายการดีบี คูเปอร์: คดีปริศนา ‎ของช่องฮิสทอรี) 136 00:08:22,795 --> 00:08:24,296 ‎(ความเห็นของพวกเขาเท่านั้น) 137 00:08:24,380 --> 00:08:27,299 ‎(การคาดเดาว่ามีการสมรู้ร่วมคิด ‎ระหว่างช่องฮิสทอรี) 138 00:08:27,383 --> 00:08:29,301 ‎(กับเอฟบีไอยังไม่ได้รับการพิสูจน์) 139 00:08:29,385 --> 00:08:30,970 ‎(เอฟบีไอสั่งปิดคดีปริศนาตลอดกาล) 140 00:08:31,053 --> 00:08:33,847 ‎เขาหนีรอดไปได้ ‎หรือเขาตายระหว่างพยายามหนี 141 00:08:33,931 --> 00:08:37,101 ‎ตอนนี้พอจะพูดได้ว่าเราคงจะไม่มีวันรู้ 142 00:08:39,395 --> 00:08:42,815 ‎ผ่านไป 45 ปีแล้ว ทำไมพวกเขาเพิ่งปิดคดีนี้ 143 00:08:44,358 --> 00:08:45,734 ‎เป็นคำถามที่ดี 144 00:08:47,319 --> 00:08:49,113 ‎ผมให้คำตอบไม่ได้หรอกนะ 145 00:08:49,613 --> 00:08:53,492 ‎มีบางอย่างทะแม่งๆ แน่นอน 146 00:08:54,827 --> 00:08:57,288 ‎ใช่ แต่ผมก็ไม่มีวิธีจับให้ได้ไล่ให้ทัน 147 00:08:59,248 --> 00:09:02,209 ‎เมื่อมีคนบอกว่า "คุณทำอะไรไม่ได้หรอก" 148 00:09:02,293 --> 00:09:03,294 ‎มันก็... 149 00:09:03,919 --> 00:09:06,839 ‎นั่นแหละคือสิ่งที่ผลักดันทุกคนในทีมนี้ 150 00:09:06,922 --> 00:09:09,216 ‎ผมอยากจะพูดถึงการเลี่ยงคำถาม 151 00:09:09,758 --> 00:09:13,262 ‎การบิดเบือนข้อมูล คำโกหกต่างๆ 152 00:09:13,762 --> 00:09:16,682 ‎ที่จะขัดขวางการสืบสวนครั้งนี้ ‎หลังจากผมสืบมาเจ็ดปี 153 00:09:18,434 --> 00:09:22,354 ‎กลุ่มของโคลแบร์ควรเริ่ม ‎ยอมรับได้แล้วว่าหลักฐานชี้ชัด 154 00:09:22,438 --> 00:09:25,774 ‎ซึ่งทั้งหมดนั้นบอกว่าแร็คสตรอว์ไม่ใช่ดีบี คูเปอร์ 155 00:09:26,984 --> 00:09:30,863 ‎มีประเด็นหนึ่งที่ว่า ‎พยานทุกคนที่เคยเห็นดีบี คูเปอร์ 156 00:09:30,946 --> 00:09:33,282 ‎บอกว่าเขาดูอายุ 40 กลางๆ 157 00:09:33,365 --> 00:09:36,327 ‎แต่โรเบิร์ต แร็คสตรอว์อายุแค่ 28 ปี 158 00:09:36,410 --> 00:09:39,163 ‎ในขณะเกิดเหตุจี้เครื่องบิน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ 159 00:09:39,788 --> 00:09:42,833 ‎เมื่อกลุ่มของโคลแบร์ ‎แทนที่จะยอมรับความเป็นจริง 160 00:09:42,916 --> 00:09:45,794 ‎ก็เลยเลือกเชื่อทางที่ง่ายกว่านั้น 161 00:09:45,878 --> 00:09:49,632 ‎ซึ่งก็คือบอกเป็นนัยว่าเอฟบีไอ ‎และอีกหลายคนสมรู้ร่วมคิดครั้งใหญ่ 162 00:09:49,715 --> 00:09:52,092 ‎เพราะต้องมีคำอธิบายสิว่า 163 00:09:52,176 --> 00:09:55,179 ‎ทำไมพวกเขาตั้งข้อหาแร็คสตรอว์ไม่ได้ 164 00:09:56,305 --> 00:09:59,892 ‎และคำอธิบายนั้นต้องเข้าข่ายทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด 165 00:10:00,976 --> 00:10:04,355 ‎เราไม่ได้มาตั้งคำถาม ‎กับคนที่ทำตัวเป็นเงาเพื่อให้เราปลอดภัย 166 00:10:04,438 --> 00:10:08,484 ‎แต่เราตั้งคำถามกับคนที่มีหลายตัวตน 167 00:10:09,026 --> 00:10:10,653 ‎มีประวัติอาชญากรรมหลายครั้ง 168 00:10:11,278 --> 00:10:14,490 ‎และเมื่อโดนจับ เขากลับมีบัตรผ่านรอดคุก 169 00:10:14,573 --> 00:10:16,200 ‎เพราะเขาคือนักบินของซีไอเอ 170 00:10:20,663 --> 00:10:24,166 ‎เรื่องมีอยู่ว่าแร็คสตรอว์ทำงานให้ซีไอเอ 171 00:10:24,249 --> 00:10:28,879 ‎และเพราะหลายอย่างที่เขาเคยทำให้ซีไอเอ 172 00:10:28,962 --> 00:10:32,091 ‎พวกเขาไม่อยากให้ข้อมูลนั้นรั่วไหล 173 00:10:32,174 --> 00:10:36,136 ‎จึงตกลงกับเอฟบีไอเพื่อขอให้เขาพ้นโทษไปได้ 174 00:10:36,220 --> 00:10:37,930 ‎ผมได้ยินข่าวลืออย่างนั้น 175 00:10:38,013 --> 00:10:40,891 ‎แต่ไม่มีข้อเท็จจริงยืนยัน 176 00:10:40,974 --> 00:10:44,353 ‎เอฟบีไอจะโจมตีทุกคนกับเรื่องทำนองนี้ 177 00:10:44,436 --> 00:10:48,357 ‎เมื่อฉันเห็นที่แร็คสตรอว์ให้สัมภาษณ์ ‎เขาพูดเหมือนเป็นนาวิกโยธินนายหนึ่ง 178 00:10:49,191 --> 00:10:52,820 ‎ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดใต้น้ำ ‎การทำลายอาคาร ปฏิบัติการใต้น้ำ 179 00:10:52,903 --> 00:10:54,071 ‎อากาศ ทะเล พื้นดิน 180 00:10:54,863 --> 00:10:57,116 ‎เขาพูดเหมือนอดีตทหารผ่านศึก 181 00:10:57,199 --> 00:10:59,451 ‎เขาไม่ได้พูดเหมือนซีไอเอ 182 00:10:59,535 --> 00:11:01,787 ‎คนของซีไอเอที่มีประสบการณ์เหล่านั้น 183 00:11:01,870 --> 00:11:04,373 ‎คงไม่บอกให้คุณรู้ง่ายๆ อยู่ดี 184 00:11:04,456 --> 00:11:06,792 ‎คือเราไม่พูดเรื่องพวกนี้กับใคร 185 00:11:08,627 --> 00:11:11,714 ‎ผมบอกว่า "ถ้าเอฟบีไอปฏิเสธเรา ‎ผมจะโทรหาทีม" 186 00:11:11,797 --> 00:11:15,801 ‎เรากำลังคิดว่า "ทำไมคุณปกปิดเรื่องนี้" ‎ เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับซีไอเอ 187 00:11:15,884 --> 00:11:17,553 ‎(สำนักข่าวกรองกลาง) 188 00:11:17,636 --> 00:11:19,430 ‎หยุดๆ 189 00:11:20,764 --> 00:11:23,350 ‎เอฟบีไอกับซีไอเอปกปิดเรื่องทั้งหมดนี้รึเปล่า 190 00:11:23,434 --> 00:11:25,310 ‎ช่วยเลิกคิดแบบนี้ทีเถอะ 191 00:11:25,394 --> 00:11:28,814 ‎ถ้าเอฟบีไอกับซีไอเอและมนุษย์ต่างดาว 192 00:11:28,897 --> 00:11:31,692 ‎ร่วมมือกันปกปิดบางอย่าง 193 00:11:31,775 --> 00:11:36,321 ‎คุณคิดว่าพวกเขาจะปกปิด ‎เรื่องธรรมดาเล็กๆ น้อยๆ 194 00:11:36,989 --> 00:11:39,908 ‎เช่นการจี้เครื่องบินในเขต ‎ตะวันตกเฉียงเหนือของแปซิฟิก 195 00:11:39,992 --> 00:11:41,618 ‎ปี 1971 196 00:11:42,119 --> 00:11:46,498 ‎ซึ่งไม่แม้แต่จะระดมเงินมากพอ ‎ให้ซื้อแฟรนไชส์อาร์บี้สักร้านด้วยซ้ำเหรอ 197 00:11:46,582 --> 00:11:51,879 ‎เบคอน เชดดาร์ ‎และมันฝรั่งทอดม้วน แค่ 2.99 ดอลลาร์ 198 00:11:51,962 --> 00:11:52,838 ‎จริงเหรอนั่น 199 00:11:52,921 --> 00:11:56,800 ‎ผมไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดนะ ‎มันก็เป็นไปได้สำหรับคนไม่รู้จักคิด 200 00:11:56,884 --> 00:12:02,639 ‎แต่การคิดว่านี่คือคนที่ปฏิเสธความจริงที่พิสูจน์ได้ 201 00:12:02,723 --> 00:12:06,351 ‎ซึ่งอยู่ต่อหน้าต่อตาเรา มันทำให้ผมจะบ้าตาย 202 00:12:08,228 --> 00:12:09,980 ‎เอ็นบีซี สปอร์ตส์ขอเสนอ... 203 00:12:12,232 --> 00:12:14,443 ‎การแข่งโรสโบว์ลปี 1970 204 00:12:16,111 --> 00:12:18,655 ‎ผมรู้ว่าหลายคนคิดว่าผมคงเป็นบ้า 205 00:12:19,281 --> 00:12:22,201 ‎แต่เพื่อให้คุณเข้าใจวิธีคิดของผม 206 00:12:22,284 --> 00:12:25,329 ‎คุณต้องย้อนกลับไปเดือนมกราคม ปี 70 207 00:12:25,412 --> 00:12:26,955 ‎ผมกำลังดูการแข่งโรสโบว์ลอยู่ 208 00:12:27,790 --> 00:12:31,043 ‎แล้วจู่ๆ ผมก็เป็นอะไรไม่รู้ 209 00:12:31,710 --> 00:12:33,587 ‎ตาของผมเดี๋ยวมองเห็นเดี๋ยวมองไม่เห็น 210 00:12:33,670 --> 00:12:35,422 ‎วิ่งเข้าไปได้แล้ว ไมค์ โอลด์แฮม 211 00:12:35,506 --> 00:12:36,507 ‎ดาวน์ที่สาม แปดหลา 212 00:12:40,886 --> 00:12:43,013 ‎มีเสียงดังก้องในหัวผม 213 00:12:43,096 --> 00:12:46,767 ‎พ่อผมซึ่งเป็นจิตแพทย์ กับแม่ผมบอกว่า 214 00:12:46,850 --> 00:12:49,102 ‎"เราจะพาลูกไปที่ ‎รพ.เซนต์จอห์นในซานตาโมนิกา" 215 00:12:49,186 --> 00:12:50,395 ‎(แผนกรับตัว แผนกฉุกเฉิน) 216 00:12:50,479 --> 00:12:53,190 ‎ตอนอยู่ในลิฟต์ ผมก็มีอาการโคม่า 217 00:12:55,943 --> 00:12:59,988 ‎หมอบอกว่าผมไม่รอด "เราทำอะไรไม่ได้" 218 00:13:00,072 --> 00:13:01,532 ‎แม่ผมเตรียมชุดดำแล้ว 219 00:13:04,409 --> 00:13:06,495 ‎แล้วจู่ๆ ผมก็ลืมตา 220 00:13:09,289 --> 00:13:11,416 ‎พวกเขาบอกว่า "ไม่รู้ว่าลูกรอดมาได้ยังไง" 221 00:13:11,500 --> 00:13:13,710 ‎และหลังจากนั้น 222 00:13:13,794 --> 00:13:17,923 ‎พ่อก็กลับมาบอกว่า ‎ "ลูกต้องค้นหานะว่าทำไมยังมีชีวิตอยู่" 223 00:13:18,423 --> 00:13:22,386 ‎เราเป็นครอบครัวที่เชื่อ ‎เรื่องจิตวิญญาณมาก ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้น 224 00:13:23,554 --> 00:13:24,888 ‎ตอนนั้นผมอายุ 11 ปี 225 00:13:25,597 --> 00:13:29,142 ‎และผมต้องหัดเดิน พูด และอ่านใหม่อีกครั้ง 226 00:13:30,269 --> 00:13:32,855 ‎สิ่งที่ช่วยผมไว้คือหนังสือพิมพ์ 227 00:13:32,938 --> 00:13:34,606 ‎พ่อจะนั่งประจำที่โต๊ะ 228 00:13:34,690 --> 00:13:36,859 ‎อ่านข่าวพาดหัวต่างๆ เราทุกคนจำภาพนี้ได้ 229 00:13:37,943 --> 00:13:40,779 ‎เป็นเพราะหนังสือพิมพ์รายวันเหล่านี้ 230 00:13:40,863 --> 00:13:44,157 ‎ผมจึงเข้ามาทำงานข่าว ที่ซีบีเอส ที่พาราเมาท์ 231 00:13:44,241 --> 00:13:47,286 ‎นับจากวันนั้นที่ครอบครัวผมพูดกับผมว่า 232 00:13:47,369 --> 00:13:50,080 ‎"ลูกต้องค้นหาว่าทำไม" ผมจึงมาทำงานตรงนี้ 233 00:13:50,664 --> 00:13:51,915 ‎และที่ฮิสทอรี 234 00:13:51,999 --> 00:13:53,667 ‎เมื่อพวกเขากลับมาบอกเราว่า... 235 00:13:53,750 --> 00:13:56,044 ‎เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาผิดเขา 236 00:13:56,128 --> 00:13:58,422 ‎เมื่อพยานที่ใกล้ชิดที่สุดบอกว่า "ไม่ใช่เขา" 237 00:13:59,006 --> 00:14:01,425 ‎"ไม่ใช่เขา เราจะไม่ทำคดีนี้ต่อ" 238 00:14:01,508 --> 00:14:05,512 ‎"เราจะส่งแฟ้มคดีนี้เข้ากรุสมบัติ ‎ในเรื่องขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 239 00:14:07,180 --> 00:14:08,307 ‎แล้วมันก็จบ" 240 00:14:09,016 --> 00:14:12,185 ‎มันทำให้เราแน่ใจว่า "เรารู้ว่าศัตรูคือใครแล้ว" 241 00:14:12,686 --> 00:14:15,022 ‎หลังจากสารคดีเรื่องแรกผ่านไป 242 00:14:15,105 --> 00:14:17,399 ‎เราก็มีทนายในดีซีทำการฟ้องร้อง 243 00:14:19,359 --> 00:14:21,653 ‎(ปี 2016) 244 00:14:21,737 --> 00:14:24,990 ‎คดีที่กำลังมีการยื่นฟ้องในดีซีตอนี้ 245 00:14:25,073 --> 00:14:28,744 ‎ระบุว่าคดีของดีบี คูเปอร์คลี่คลายแล้ว 246 00:14:29,453 --> 00:14:32,998 ‎(ทีมนักสืบที่คิดว่า ‎ค้นพบดีบี คูเปอร์แล้ว ยื่นฟ้องเอฟบีไอ) 247 00:14:33,081 --> 00:14:35,709 ‎ทอม โคลแบร์ เขากับทนาย 248 00:14:35,792 --> 00:14:38,545 ‎เป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญ 249 00:14:38,629 --> 00:14:40,672 ‎ในการฟ้องร้องเอฟบีไอ 250 00:14:40,756 --> 00:14:44,217 ‎คำฟ้องเรียกร้องให้เอฟบีไอมอบ 251 00:14:44,301 --> 00:14:46,470 ‎เอกสารการสืบสวนทั้งหมด 252 00:14:47,763 --> 00:14:49,389 ‎การฟ้องร้องใช้เวลาครึ่งปี 253 00:14:49,473 --> 00:14:52,184 ‎ผู้พิพากษาเห็นด้วยกับเรา ‎เราจึงได้เอกสารทั้งหมด 254 00:14:53,268 --> 00:14:56,605 ‎เราได้รับข้อมูลประจำเดือนจากเอฟบีไอ 255 00:14:56,688 --> 00:15:00,359 ‎ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่อย่างน้อย 500 หน้า 256 00:15:00,442 --> 00:15:03,487 ‎ที่คนนอกเอฟบีไอไม่เคยเห็นมาก่อน 257 00:15:03,570 --> 00:15:05,697 ‎(เว็บของทอม โคลแบร์) 258 00:15:05,781 --> 00:15:09,618 ‎เมื่อทอม โคลแบร์เปิดเผย ‎ข้อมูลทั้งหมดของเอฟบีไอ 259 00:15:09,701 --> 00:15:12,788 ‎ผมจึงได้อ่านข้อมูลเทียบเท่า ‎เอกสารประมาณ 25,000 หน้า 260 00:15:12,871 --> 00:15:15,666 ‎ของรูปเอกสารเดิมของเอฟบีไอที่เกี่ยวกับคดีนี้ 261 00:15:15,749 --> 00:15:17,834 ‎ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเนกไท 262 00:15:17,918 --> 00:15:19,795 ‎เรื่องก้นบุหรี่ 263 00:15:19,878 --> 00:15:21,630 ‎และสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลักฐานพวกนี้ 264 00:15:22,297 --> 00:15:24,424 ‎เหมือนเป็นพายุเอกสาร 265 00:15:24,508 --> 00:15:26,510 ‎ข้อมูลบางอย่างเป็นการตัดเก็บจากหนังสือพิมพ์ 266 00:15:27,094 --> 00:15:29,096 ‎บางอย่างเป็นบันทึกภายในหน่วยงาน 267 00:15:29,179 --> 00:15:32,808 ‎บางอย่างเป็นจดหมายที่เอฟบีไอรับและส่ง 268 00:15:33,809 --> 00:15:37,813 ‎บางอย่างเป็นหลักฐานสำคัญ ‎ซึ่งวนเวียนเป็นหลักอยู่กับ 269 00:15:37,896 --> 00:15:41,775 ‎ปากคำของพยาน ‎ทั้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและอื่นๆ 270 00:15:41,858 --> 00:15:45,070 ‎และบ้างก็จากการวิเคราะห์ของเอฟบีไอเอง 271 00:15:45,153 --> 00:15:47,614 ‎ในแง่ของผู้ต้องสงสัย ‎และสิ่งของต้องสงสัยบางอย่าง 272 00:15:47,698 --> 00:15:51,743 ‎ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีค่ามากมาย 273 00:15:51,827 --> 00:15:53,662 ‎รวมถึงข้อมูลเชิงลึก เป็นต้น 274 00:15:54,496 --> 00:15:59,126 ‎นี่แหละทำให้ผมจมกับเรื่องนี้ ‎เพราะมันมีความคืบหน้าไปอีกขั้น 275 00:15:59,209 --> 00:16:00,752 ‎น่าสนใจด้วย 276 00:16:01,878 --> 00:16:03,797 ‎(วันที่ 17 มกราคม 2017) 277 00:16:03,880 --> 00:16:07,009 ‎เอฟบีไอไขคดีไม่ได้ ‎แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์คิดว่า 278 00:16:07,092 --> 00:16:09,219 ‎พวกเขาตีวงค้นหาผู้ต้องสงสัยแคบลงแล้ว 279 00:16:09,302 --> 00:16:12,055 ‎โดยอิงจากหลักฐานที่พบในเนกไทของเขา 280 00:16:12,723 --> 00:16:16,435 ‎นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง ‎ซึ่งเรียกตัวเองว่านักสืบสมัครเล่น 281 00:16:16,518 --> 00:16:19,187 ‎พบอนุภาคกว่าหนึ่งแสนชิ้น 282 00:16:19,271 --> 00:16:21,273 ‎ของแร่ธาตุหายากบนโลก 283 00:16:21,356 --> 00:16:24,609 ‎มีหลายชื่อเช่น สตรอนเทียม ‎อีเทรียม และซีเรียม 284 00:16:24,693 --> 00:16:26,987 ‎เคลือบอยู่บนไทของดีบี คูเปอร์ 285 00:16:27,487 --> 00:16:29,948 ‎ทุกวันนี้ เมื่อเป็นเรื่องของดีบี คูเปอร์ 286 00:16:30,032 --> 00:16:33,160 ‎งานวิจัยดีๆ มากมาย ‎เป็นผลงานของพลเรือนรายบุคคล 287 00:16:33,785 --> 00:16:38,123 ‎มีคนหยิบมือหนึ่งที่วนเวียนทุ่มเทเป็นประจำให้คดีนี้ 288 00:16:38,707 --> 00:16:42,627 ‎โดยใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ ‎ไล่ดูเอกสารของเอฟบีไออย่างละเอียด 289 00:16:43,128 --> 00:16:46,131 ‎ลงแรงสืบเสาะข้อมูลภาคสนามจริงก็มี 290 00:16:47,215 --> 00:16:48,091 ‎ก็มีทั้งผม 291 00:16:48,592 --> 00:16:52,304 ‎มีทั้งทอม เคย์ ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ 292 00:16:52,387 --> 00:16:57,976 ‎มีสุภาพบุรุษคนหนึ่งใช้ชื่อว่า "นิรนาม" 293 00:16:58,060 --> 00:17:01,605 ‎เสนอผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งชื่อ วิลเลียม เจ สมิธ 294 00:17:01,688 --> 00:17:04,232 ‎มีสุภาพบุรุษอีกคนชื่อ มาร์ตี้ อันดราเด 295 00:17:04,316 --> 00:17:08,195 ‎ซึ่งเคยทำวิจัยอย่างจริงจัง ‎เรื่องความสามารถในการเอาตัวรอด 296 00:17:08,278 --> 00:17:10,447 ‎จากการกระโดดร่มชูชีพ 297 00:17:11,323 --> 00:17:15,494 ‎แหล่งให้ความเพลิดเพลินเรื่อง ‎ดีบี คูเปอร์แก่คนทั่วไปมากที่สุด 298 00:17:15,577 --> 00:17:19,331 ‎คงเป็นพ็อดแคสต์คูเปอร์ วอร์เท็กซ์ 299 00:17:20,082 --> 00:17:24,252 ‎ผมคิดตลอดเวลาเลย "มันเป็นยังไงนะ ‎ตอนที่รองเท้าของเขาแตะพื้นดิน" 300 00:17:24,336 --> 00:17:27,422 ‎"เขาเห็นอะไร เขาคิดถึงอะไรเป็นสิ่งแรก" 301 00:17:27,506 --> 00:17:30,801 ‎และเมื่อนึกว่าผมคงไม่มีวันรู้คำตอบเหล่านี้ 302 00:17:31,301 --> 00:17:32,427 ‎ทำให้ผมจะบ้าตาย 303 00:17:33,220 --> 00:17:36,306 ‎หนึ่งในคำอุทธรณ์ที่สำคัญที่สุด ‎ในคดีคูเปอร์สำหรับผม 304 00:17:36,389 --> 00:17:38,683 ‎คือวิธีปล้นที่เป็นปริศนา 305 00:17:38,767 --> 00:17:41,228 ‎ลองนึกว่าผมเป็นเขา 306 00:17:41,311 --> 00:17:46,399 ‎"ฉันวางแผนอย่างนี้ ‎และทำตามนั้น แล้วรอดไปได้" 307 00:17:46,983 --> 00:17:49,319 ‎อรุณสวัสดิ์ทุกคน ผมทอม โคลแบร์ 308 00:17:49,402 --> 00:17:51,530 ‎ต่อมาคุณยังมีคนอย่างโทมัส โคลแบร์ 309 00:17:51,613 --> 00:17:54,199 ‎ซึ่งเขาอ้างว่าเขาเป็นคนแปลก 310 00:17:55,075 --> 00:17:57,160 ‎ทอม โคลแบร์เป็นหนึ่งในฮีโร่ 311 00:17:57,244 --> 00:18:00,413 ‎เรื่องที่เขาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของเอฟบีไอ 312 00:18:00,497 --> 00:18:04,084 ‎ซึ่งน่าตื่นเต้นมาก แต่แล้วก็มีอีกส่วน 313 00:18:04,167 --> 00:18:06,336 ‎ซึ่งเฉไฉออกนอกทางเล็กน้อย 314 00:18:09,047 --> 00:18:12,134 ‎ทอมเชื่อเต็มที่และยังคงเชื่อเต็มที่ว่า 315 00:18:12,217 --> 00:18:14,261 ‎ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมนับถือ 316 00:18:15,512 --> 00:18:17,639 ‎ปัญหาของการเชื่อมั่นขนาดนั้น 317 00:18:17,722 --> 00:18:20,350 ‎คือมันเป็นไปได้ว่า 318 00:18:20,433 --> 00:18:23,728 ‎คุณใช้หลักฐานทุกชิ้นเข้าข้างตัวเอง 319 00:18:23,812 --> 00:18:25,981 ‎หลักฐานที่มีหลากหลายมาก 320 00:18:26,565 --> 00:18:27,983 ‎เรื่องของโคลแบร์น่ะ 321 00:18:28,066 --> 00:18:31,027 ‎ผมติดตามอย่างใกล้ชิด ‎เหมือนที่ติดตามเรื่องดีบี คูเปอร์ 322 00:18:31,111 --> 00:18:34,322 ‎ครั้งแรกที่ได้ยิน ผมคิดว่าน่าสนใจมาก 323 00:18:34,406 --> 00:18:40,912 ‎แต่ทอมเปลี่ยนผ่านจาก ‎การพิสูจน์ทฤษฎีมาขายให้เราเชื่อแทน 324 00:18:40,996 --> 00:18:42,622 ‎คนส่วนใหญ่ที่ผมรู้จัก 325 00:18:42,706 --> 00:18:45,667 ‎คิดว่าการที่โคลแบร์พยายาม 326 00:18:45,750 --> 00:18:49,796 ‎ทำให้คนทั้งโลกคิดว่า ‎โรเบิร์ต แร็คสตรอว์คือดีบี คูเปอร์ 327 00:18:49,880 --> 00:18:53,091 ‎เป็นแค่อุบายเล่นใหญ่ระดับฮอลลีวูด ‎เพื่อหาชื่อเสียงและเงินทอง 328 00:18:53,592 --> 00:18:56,970 ‎แต่โคลแบร์กลายเป็นช่องทางลำเลียงใต้ดิน 329 00:18:57,053 --> 00:18:59,306 ‎เป็นคนที่ได้รับข้อมูลมากมาย 330 00:18:59,806 --> 00:19:02,017 ‎กลับกัน เขาก็มอบรายชื่อผู้ต้องสงสัยเป็นคูเปอร์ 331 00:19:03,059 --> 00:19:04,936 ‎ผมไม่เคยเป็นแฟนคลับคูเปอร์ 332 00:19:06,188 --> 00:19:09,733 ‎ผมไม่เคยร่วมวงถกเถียงตามบล็อกต่างๆ 333 00:19:09,816 --> 00:19:13,069 ‎"คนนี้สิใช่ คนนั้นสิใช่" ‎พวกเขาหมกมุ่นเถียงกันอย่างนั้น 334 00:19:14,196 --> 00:19:17,908 ‎ในกรณีของคูเปอร์ พายุลูกใหญ่คืออินเทอร์เน็ต 335 00:19:20,035 --> 00:19:23,330 ‎กลุ่มคนหลากหลายมีเครื่องมือ 336 00:19:23,413 --> 00:19:25,457 ‎ที่จะสื่อสารกันแล้ว 337 00:19:26,625 --> 00:19:31,796 ‎และเช่นเดียวกับที่อื่น ในนั้น ‎เต็มไปด้วยข้อเท็จจริงที่ถูกนำเสนอผิดๆ 338 00:19:32,297 --> 00:19:33,381 ‎ทฤษฎีบ้าบอต่างๆ 339 00:19:33,965 --> 00:19:36,927 ‎อาชญากรรมฝีมือคนวงใน ปฏิบัติการลับ 340 00:19:37,469 --> 00:19:40,847 ‎ดีบี คูเปอร์มาจากดาวอังคาร ‎ และถูกยูเอฟโอรับตัวไป 341 00:19:40,931 --> 00:19:43,058 ‎ทิศทางของคดีนี้ไปอย่างนั้นแหละ 342 00:19:43,141 --> 00:19:48,855 ‎ตอนนี้เราอยู่ในวิถีทางค้นหาความจริง ‎ที่ขับเคลื่อนด้วยทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด 343 00:19:49,731 --> 00:19:52,150 ‎การพยายามรับรู้ความจริง 344 00:19:52,234 --> 00:19:57,155 ‎กลายเป็นอาชีพหลักของประชาชนอเมริกันไปแล้ว 345 00:19:58,907 --> 00:20:04,621 ‎และคดีคูเปอร์เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ‎ของพลังขับเคลื่อนนี้ 346 00:20:06,706 --> 00:20:10,502 ‎บนกระดานข่าวเกี่ยวกับคูเปอร์มากมายนั้น ‎นักล่ารายหนึ่งเขียนถึงอีกคนว่า 347 00:20:10,585 --> 00:20:12,420 ‎"พระเยซูอยู่ในแซนด์วิช" 348 00:20:12,504 --> 00:20:15,590 ‎ลินดา โลว์บอกว่าเธอกำลังมองภาพพระเยซู 349 00:20:15,674 --> 00:20:16,841 ‎ในชีสที่ละลาย 350 00:20:16,925 --> 00:20:21,763 ‎ภาพที่เห็นนี้มันช่างสวยงามค่ะ 351 00:20:21,846 --> 00:20:25,558 ‎ทำให้ฉันอยากยิ้มไปด้วย 352 00:20:26,142 --> 00:20:28,645 ‎ทุกคนในเรื่องนี้เห็นพระเยซูในแซนด์วิช 353 00:20:28,728 --> 00:20:31,731 ‎เพราะเราทุกคนเห็นสิ่งที่เราอยากเห็น ‎เราฉายภาพตัวเราเอง 354 00:20:31,815 --> 00:20:35,610 ‎มนุษย์ก็ทำอย่างนี้ เรามองหา ‎ความเชื่อมโยงระหว่างสรรพสิ่ง 355 00:20:35,694 --> 00:20:39,823 ‎บางครั้งเมื่อบางอย่างสอดคล้องกัน ‎เราก็ประกาศว่านั่นคือความจริง 356 00:20:40,490 --> 00:20:42,367 ‎ไม่ว่าจะเป็นพระเยซูในแซนด์วิช 357 00:20:42,450 --> 00:20:44,494 ‎หรือพี่น้องคุณเองในภาพใบหน้าของบิง ครอสบี้ 358 00:20:44,577 --> 00:20:45,829 ‎นี่แหละสิ่งที่เกิดกับคดีคูเปอร์ 359 00:20:45,912 --> 00:20:50,375 ‎ในช่องว่างระหว่างข้อมูล ‎จิตใจเราก็กำหนดความเชื่อขึ้นมา 360 00:20:50,458 --> 00:20:53,211 ‎กับข้อมูลนั้น และกับผู้ต้องสงสัยที่เราต้องการ 361 00:20:53,295 --> 00:20:54,963 ‎(คิดว่าเป็นดเวน เวเบอร์เพราะ) 362 00:20:55,046 --> 00:20:56,673 ‎(ชอบสุดคือวิลเลียม เจ สมิธ) 363 00:20:57,465 --> 00:20:59,843 ‎ในชุมชนค้นคว้าออนไลน์เกี่ยวกับคูเปอร์ 364 00:20:59,926 --> 00:21:02,512 ‎คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ตนเองยึดมั่นแรงกล้า 365 00:21:04,723 --> 00:21:07,892 ‎สังคมออนไลน์อาจเป็นพิษได้เล็กน้อย 366 00:21:07,976 --> 00:21:11,062 ‎และไม่ค่อยน่าเข้าใกล้สำหรับผู้มาใหม่ 367 00:21:12,272 --> 00:21:15,567 ‎แต่ละวันมีความคิดเห็นหลายร้อย 368 00:21:15,650 --> 00:21:18,278 ‎และสถานการณ์จะดุเดือดร้ายกาจได้เร็วมาก 369 00:21:19,362 --> 00:21:23,241 ‎ผมเคยตกเป็นเป้าโจมตี ‎ทางไซเบอร์ เคยถูกขโมยข้อมูล 370 00:21:23,325 --> 00:21:26,828 ‎ทำให้คอมพิวเตอร์ของผมเสียหาย ‎ ต้องล้างเครื่องใหม่ 371 00:21:26,911 --> 00:21:28,204 ‎สังคมออนไลน์ร้ายกาจมาก 372 00:21:28,288 --> 00:21:32,792 ‎เห็นได้ชัดว่าบางความเห็นเป็นของ ‎นักสืบรายอื่นๆ ที่สืบคดี ดีบี คูเปอร์ 373 00:21:32,876 --> 00:21:35,253 ‎(สถานการณ์เลวร้ายเกินคุม) 374 00:21:35,337 --> 00:21:38,548 ‎เคยมีคนโพสต์รูปของครอบครัวผม 375 00:21:38,631 --> 00:21:40,425 ‎บอกว่าภรรยาและลูกๆ ของผมน่าเกลียด 376 00:21:40,508 --> 00:21:42,302 ‎ผมว่ามันไปกันใหญ่ 377 00:21:42,385 --> 00:21:46,181 ‎ทุกคนพยายามปกป้องข้อมูลที่ตัวเองมี 378 00:21:50,810 --> 00:21:52,312 ‎ผมชื่อทิม เอวานส์ 379 00:21:52,395 --> 00:21:54,773 ‎นักข่าวสืบสวนของอินเดียนาโพลิส สตาร์ 380 00:21:54,856 --> 00:21:55,815 ‎(อินดี้สตาร์) 381 00:21:56,066 --> 00:22:00,236 ‎ในปี 2018 หนังสือพิมพ์ได้รับ ‎โทรศัพท์เสนอข่าวจากทอม โคลแบร์ 382 00:22:00,320 --> 00:22:02,947 ‎มีคนบอกว่า "คงเหมาะให้ทิมเขียนเรื่อง" 383 00:22:03,031 --> 00:22:04,491 ‎ผมได้คุยโทรศัพท์ 384 00:22:04,574 --> 00:22:07,327 ‎และทอมกระตือรือร้นมากที่จะเล่าเรื่องนี้ 385 00:22:07,410 --> 00:22:09,871 ‎เขามั่นใจว่าเรื่องนี้ยอดเยี่ยม 386 00:22:09,954 --> 00:22:12,957 ‎เขามีท่าทีเป็นกันเอง ชื่นชมผลงานของผม 387 00:22:13,041 --> 00:22:15,752 ‎เขาทำการบ้านมาก่อน รู้เรื่องที่ผมเคยเขียน 388 00:22:15,835 --> 00:22:18,880 ‎ออกจากเอาใจผมนิดหน่อย ดึงดูดให้ผมสนใจ 389 00:22:19,839 --> 00:22:22,926 ‎ทอมบอกว่า "คุณคือคนที่ ‎ผมอยากเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง" 390 00:22:23,426 --> 00:22:26,346 ‎เขาเคยไปหาฉบับอื่นแล้ว ‎ ผมเลยไม่แน่ใจว่าเขาคิดแบบนั้นจริง 391 00:22:26,429 --> 00:22:28,306 ‎แต่เขาติดตามผลอย่างจริงจัง 392 00:22:28,390 --> 00:22:30,600 ‎"คืบหน้าหรือเปล่า คุยกับคนนั้นคนนี้หรือยัง" 393 00:22:30,683 --> 00:22:34,729 ‎เขามีท่าทีรุกและดื้อรั้น ‎มากกว่าแหล่งข่าวทั่วไปมาก 394 00:22:34,813 --> 00:22:37,482 ‎คนส่วนใหญ่นั้น ผมต้อง ‎ล่อหลอกเอาเรื่องจากพวกเขา 395 00:22:37,565 --> 00:22:39,818 ‎ส่วนเขาเหมือนสาดข้อมูลใส่ผมเลย 396 00:22:41,903 --> 00:22:44,489 ‎ทอมมีพลังเหลือเฟือมากกับคดีนี้ 397 00:22:44,572 --> 00:22:46,950 ‎เขาทุ่มเทไปมากมายด้วย 398 00:22:47,575 --> 00:22:50,036 ‎เขาจึงอยากให้เรื่องนี้มีผลน่าพอใจ 399 00:22:52,080 --> 00:22:55,583 ‎ทอมอยากผลักดันให้เต็มที่ ‎ที่ทำได้ ทั้งวิธีการเล่าเรื่อง 400 00:22:55,667 --> 00:22:58,670 ‎ใครที่ผมควรไปคุยด้วย ‎แต่นั่นไม่ใช่วิธีทำงานของผม 401 00:22:58,753 --> 00:23:01,256 ‎ผมซาบซึ้งที่เขาช่วยและชี้แหล่งข้อมูลให้ 402 00:23:01,339 --> 00:23:03,633 ‎แต่ผมต้องค้นคว้าและหาข้อเท็จจริงของผมเอง 403 00:23:03,716 --> 00:23:06,344 ‎และค้นหาว่าแร็คสตรอว์เป็นคูเปอร์จริงหรือเปล่า 404 00:23:06,428 --> 00:23:08,805 ‎(ปี 2018) 405 00:23:10,932 --> 00:23:12,225 ‎บ๊อบพูด 406 00:23:12,308 --> 00:23:14,352 ‎คุณแร็คสตรอว์ ผมชื่อทิม เอวานส์ 407 00:23:14,436 --> 00:23:17,147 ‎ผมเป็นนักข่าวจากหนังสือพิมพ์อินดี้สตาร์ 408 00:23:17,230 --> 00:23:19,566 ‎ขอโทษที่ผมโทรหาคุณกะทันหันอย่างนี้แต่ว่า 409 00:23:19,649 --> 00:23:21,985 ‎มีชายคนหนึ่งชื่อโคลแบร์ได้ติดต่อผม 410 00:23:22,068 --> 00:23:24,404 ‎เขากล่าวหาว่าคุณคือ 411 00:23:24,487 --> 00:23:27,073 ‎ชายที่ทำการจี้เครื่องบิน ‎ซึ่งรู้จักกันในชื่อดีบี คูเปอร์และ... 412 00:23:27,157 --> 00:23:29,993 ‎ผมไม่รู้นะ แต่โคลแบร์โจมตีผมมาตลอด 413 00:23:30,076 --> 00:23:31,536 ‎หลายปีแล้ว 414 00:23:31,619 --> 00:23:34,581 ‎จนมีเรื่องฟ้องร้องใหญ่โต 415 00:23:34,664 --> 00:23:36,249 ‎แล้วสิ่งที่เขาทำในตอนนี้คือ 416 00:23:36,332 --> 00:23:38,793 ‎ส่งข้อมูลหนาหกหน้า 417 00:23:38,877 --> 00:23:41,463 ‎ไปยังหนังสือพิมพ์ในเมืองเล็กๆ 418 00:23:41,546 --> 00:23:43,965 ‎แล้วทีนี้ก็รวมหัวกันโจมตีผม ‎แบบบลิทซ์ครีคของพวกนาซี 419 00:23:44,048 --> 00:23:46,176 ‎และตอกตะปูปิดฝาโลงแร็คสตรอว์อีกครั้ง 420 00:23:46,259 --> 00:23:47,927 ‎ตอนนี้มันเป็นอย่างนี้ 421 00:23:48,011 --> 00:23:50,305 ‎คุณเคยฟ้องร้องเขาเหรอครับ 422 00:23:51,431 --> 00:23:53,641 ‎- กำลังทำ ‎- กำลังทำเหรอ โอเค 423 00:23:53,725 --> 00:23:56,144 ‎ห้ามตีพิมพ์เรื่องเกี่ยวกับผม 424 00:23:56,227 --> 00:23:58,104 ‎ผมจะฟ้องให้พวกคุณหมดตัวแน่ 425 00:23:58,188 --> 00:24:00,148 ‎แล้วคุณใช่หรือไม่ใช่... 426 00:24:00,231 --> 00:24:03,485 ‎คุณจะปฏิเสธสิ่งที่เขาพูดว่าเป็นจริงเหรอครับ 427 00:24:03,985 --> 00:24:07,405 ‎อย่าเจาะลึกขนาดนั้นเลย ‎คำถามนี้มูลค่า 40 ล้านดอลลาร์เชียวนะ 428 00:24:07,489 --> 00:24:09,449 ‎ให้เขาตอบสิ เขาพูดว่าไง 429 00:24:09,532 --> 00:24:12,911 ‎เขาบอกว่าเป็นคุณ ผมจะให้โอกาสคุณปฏิเสธ 430 00:24:13,411 --> 00:24:16,915 ‎โอกาสที่จะขุดคุ้ยว่าเขาพูดความจริงหรือเปล่า 431 00:24:17,499 --> 00:24:19,209 ‎ระหว่างที่ผมสัมภาษณ์แร็คสตรอว์ 432 00:24:19,292 --> 00:24:22,629 ‎ผมให้โอกาสเขาอย่างน้อยสี่ครั้ง ‎ที่จะพูดว่า "ผมไม่ใช่ดีบี คูเปอร์" 433 00:24:22,712 --> 00:24:24,631 ‎"ผมไม่ใช่คนทำเรื่องนั้น" 434 00:24:24,714 --> 00:24:27,509 ‎เขาเอาแต่พูดเล่นว่า 435 00:24:27,592 --> 00:24:30,553 ‎เขาอาจจะใช่ "ผมอาจจะรู้มากกว่าที่ผมบอก" 436 00:24:30,637 --> 00:24:33,264 ‎ผมรู้สึกว่าเขาอยากให้คนเข้าใจว่าเขาคือคูเปอร์ 437 00:24:33,348 --> 00:24:35,558 ‎อยากให้ปริศนานี้คงอยู่ต่อไป อยากมีส่วนร่วม 438 00:24:35,642 --> 00:24:37,685 ‎เขารู้ดีว่าโคลแบร์กำลังทำอะไร 439 00:24:37,769 --> 00:24:40,438 ‎เขารู้ตารางงานของโคลแบร์ 440 00:24:40,939 --> 00:24:42,607 ‎ตรงนี้ก็น่าสนใจมาก 441 00:24:42,690 --> 00:24:44,526 ‎เขารู้มากขนาดนั้นได้ไง 442 00:24:44,609 --> 00:24:47,779 ‎พวกเขาเป็นทีมเดียวกันหรือเปล่า ‎ เป็นศัตรูกันจริงหรือเปล่า 443 00:24:47,862 --> 00:24:48,947 ‎นี่มันยังไงกันแน่ 444 00:24:50,657 --> 00:24:53,535 ‎พวกเขาร่วมกันขายเรื่องนี้หรือเปล่า 445 00:24:54,035 --> 00:24:57,789 ‎ถ้าพวกเขาร่วมมือกันได้ 446 00:24:57,872 --> 00:25:01,000 ‎ผมว่าแร็คสตรอว์คงจะสนใจแน่นอน 447 00:25:01,084 --> 00:25:06,464 ‎ผมว่าสิ่งเดียวที่ยับยั้งเขาไว้คือ ‎การสารภาพว่าเป็นคนทำ 448 00:25:07,048 --> 00:25:10,385 ‎แต่ผมได้ยินข่าวลือว่าโคลแบร์เสนอเงินให้เขา 449 00:25:10,468 --> 00:25:11,553 ‎เพื่อสารภาพนะ 450 00:25:12,845 --> 00:25:15,098 ‎เรามาบอกคุณว่ามีข่าวดี 451 00:25:15,181 --> 00:25:18,935 ‎และเริ่มที่เช็คเงินสด 20,000 ดอลลาร์ 452 00:25:19,018 --> 00:25:21,020 ‎เพื่อให้คุณเล่าเรื่องจริง 453 00:25:21,104 --> 00:25:25,024 ‎เป็นความสัมพันธ์ที่น่าสนใจนะ ผมบอกได้เลย 454 00:25:26,192 --> 00:25:28,820 ‎แร็คสตรอว์เป็นพวกต่อต้านสังคมที่หลงตัวเอง 455 00:25:28,903 --> 00:25:30,321 ‎เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ 456 00:25:30,405 --> 00:25:31,823 ‎เขาพยายามเรียกร้องความสนใจ 457 00:25:31,906 --> 00:25:34,534 ‎แต่เราไม่เคยตอบรับหลังจากดักซุ่มถามเขา 458 00:25:35,118 --> 00:25:37,245 ‎ผมไม่เคยคุยกับแร็คสตรอว์อีกเลย 459 00:25:37,328 --> 00:25:40,915 ‎ผมจดจ่อกับการรวบรวมหลักฐาน ‎ทำการสืบสวนต่อไป 460 00:25:41,791 --> 00:25:45,628 ‎รู้อะไรบ้างไหมเกี่ยวกับ ‎คนในอินเดียนาที่เขาน่าจะ 461 00:25:45,712 --> 00:25:48,131 ‎ถอดรหัสข้อความหรือ... 462 00:25:48,214 --> 00:25:50,800 ‎เขาชื่อเชอร์วูด ใช่ไหม 463 00:25:50,883 --> 00:25:52,260 ‎ใช่ คิดว่านะ 464 00:25:52,343 --> 00:25:56,055 ‎เป็นช่วงไชโยโห่ร้องก็ว่าได้สำหรับโคลแบร์ 465 00:25:56,139 --> 00:25:57,807 ‎คว้าฟางเส้นสุดท้าย 466 00:26:01,811 --> 00:26:04,439 ‎(วีทฟิลด์ อินเดียนา) 467 00:26:04,522 --> 00:26:09,444 ‎ตอนนั้นเดือนธันวาคม ปี 2017 ‎ผมท่องอินเทอร์เน็ตอยู่ 468 00:26:09,527 --> 00:26:13,823 ‎และเห็นจดหมายที่ดีบี คูเปอร์เขียน 469 00:26:13,906 --> 00:26:14,824 ‎ถึงหนังสือพิมพ์ 470 00:26:16,451 --> 00:26:18,578 ‎ภายหลังเหตุจี้เครื่องบิน 471 00:26:19,245 --> 00:26:22,165 ‎บุคคลหนึ่งอ้างว่าเป็นดีบี คูเปอร์ 472 00:26:22,665 --> 00:26:28,087 ‎ส่งจดหมายซึ่งเน้นเหน็บแนมเอฟบีไอ 473 00:26:29,589 --> 00:26:31,132 ‎"คุณจับผมไม่ได้หรอก" 474 00:26:31,883 --> 00:26:35,053 ‎และไม่ว่าบุคคลนั้นคือใคร เขาก็เผยข้อมูล 475 00:26:35,136 --> 00:26:37,555 ‎ที่มีแต่คนร้ายเท่านั้น 476 00:26:37,639 --> 00:26:39,515 ‎ที่น่าจะรู้ได้ 477 00:26:40,808 --> 00:26:45,647 ‎จดหมายบางฉบับนี้เป็นที่เปิดเผยในตอนนั้นเลย 478 00:26:45,730 --> 00:26:49,859 ‎แต่เราพบว่ามีจดหมายฉบับอื่นที่ได้รับไว้ 479 00:26:49,942 --> 00:26:52,278 ‎และจงใจไม่เปิดเผยออกมา 480 00:26:53,321 --> 00:26:56,824 ‎เราจึงเข้าถึงจดหมายเหล่านี้ที่ไม่เคยมีใครตีพิมพ์ 481 00:26:56,908 --> 00:27:00,787 ‎ผ่านคำฟ้องฟอยอา ‎หรือกฎหมายให้ประชาชนมีสิทธิเข้าถึงข้อมูล 482 00:27:00,870 --> 00:27:02,413 ‎ผมเลยโทรหาทอม 483 00:27:02,497 --> 00:27:05,875 ‎บอกว่า "นี่มันอะไรกัน ‎ตัวเลขที่ไม่เคยมีใครคิดออก" 484 00:27:05,958 --> 00:27:08,252 ‎เขาบอกว่า "เอฟบีไอทำลายเธอไม่ได้" 485 00:27:08,753 --> 00:27:11,798 ‎ผมเคยทำงานถอดรหัส ‎ผมเลยบอกว่า "ส่งจดหมายมาให้ผม" 486 00:27:12,298 --> 00:27:13,549 ‎บอกว่า "ทำให้ผมขำที" 487 00:27:15,134 --> 00:27:19,514 ‎เขาส่งจดหมายถึงผม และผม ‎ใช้เวลาวันละแปดหรือสิบชั่วโมง 488 00:27:19,597 --> 00:27:22,100 ‎ตลอดเจ็ดวันในสัปดาห์ นานสองอาทิตย์ 489 00:27:23,142 --> 00:27:28,064 ‎ใช้ทุกอย่างที่ผมคิดออก ‎ ใช้รหัสทุกอย่างที่ผมเคยเรียนมา 490 00:27:28,815 --> 00:27:30,650 ‎ผมมาถึงจุดที่ผมบอกว่า... 491 00:27:32,652 --> 00:27:34,195 ‎"ถ้านี่คือแร็คสตรอว์ 492 00:27:34,278 --> 00:27:37,407 ‎ผมต้องรู้ว่า "ระบบคิดของเขาเป็นยังไง" 493 00:27:37,490 --> 00:27:38,866 ‎"อะไรทำให้เขาหวั่นไหว" 494 00:27:41,244 --> 00:27:43,788 ‎ผมเอาแต่พิจารณาตัวเลขชุดนั้นที่เรามี 495 00:27:44,539 --> 00:27:47,291 ‎"ทำไมเขาใส่ 71 สามครั้งในนี้" 496 00:27:47,375 --> 00:27:48,376 ‎เดี๋ยวนะ 497 00:27:48,459 --> 00:27:51,713 ‎สามเจ็ดหนึ่งเหรอ "เฮ้ย ‎นี่มันหน่วยของฉันในเวียดนาม" 498 00:27:52,922 --> 00:27:56,259 ‎และแร็คสตรอว์อยากอยู่กับหน่วยนี้ในตอนนั้น 499 00:27:58,469 --> 00:28:02,306 ‎ผมเลยเขียนทุกอย่างที่เราเคยทำในเวียดนาม 500 00:28:02,890 --> 00:28:05,518 ‎และเริ่มใส่ตัวเลขกับทุกอย่าง 501 00:28:06,352 --> 00:28:09,313 ‎และบนหัวจดหมายฉบับนั้นมีตัวซีเจ็ดตัว 502 00:28:11,065 --> 00:28:12,775 ‎เจ็ดซีก็คือยี่สิบเอ็ด 503 00:28:14,068 --> 00:28:15,319 ‎หน่วยความมั่นคงของกองทัพ 504 00:28:15,987 --> 00:28:18,281 ‎ซึ่งทุกหน่วยของเราเป็นหนึ่งในนั้น 505 00:28:18,865 --> 00:28:20,742 ‎เอเอสเอ 21 506 00:28:21,576 --> 00:28:23,786 ‎ผมก็คิด "เหวอ นี่ไง" 507 00:28:24,662 --> 00:28:25,538 ‎บิงโก 508 00:28:28,958 --> 00:28:31,544 ‎ริค เชอร์วูดใช้เทคนิค 509 00:28:31,627 --> 00:28:34,630 ‎ที่เรียกได้ว่าเป็นการถอดตัวเลข ‎จากภาษาอังกฤษอย่างง่าย 510 00:28:35,214 --> 00:28:38,634 ‎ใช้ตัวอักษรเปลี่ยนเป็นตัวเลข 511 00:28:38,718 --> 00:28:41,888 ‎เอเท่ากับหนึ่ง บีเท่ากับสอง ไปเรื่อยๆ 512 00:28:42,388 --> 00:28:45,057 ‎การถอดตัวเลขก็คือนำมารวมกัน 513 00:28:45,141 --> 00:28:48,936 ‎ถ้าสองข้อความรวมเท่ากับค่าเดียวกัน 514 00:28:49,020 --> 00:28:51,564 ‎งั้นมันก็น่าจะสัมพันธ์กัน 515 00:28:52,148 --> 00:28:55,985 ‎เช่น จอร์จ ดับเบิลยู บุช และจอห์น เอฟ เคร์รี่ 516 00:28:56,068 --> 00:29:00,156 ‎แน่นอนว่าทั้งคู่เป็นผู้สมัคร ‎ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2004 517 00:29:00,656 --> 00:29:03,159 ‎พวกเขามีบางอย่างเชื่อมโยงกันลับๆ หรือเปล่า 518 00:29:03,910 --> 00:29:05,995 ‎ผมว่ามันแค่เรื่องบังเอิญ 519 00:29:06,746 --> 00:29:08,623 ‎เพราะเดนนิส ร็อดแมน 520 00:29:09,499 --> 00:29:11,918 ‎ถ้าคุณเอาตัวอักษรมารวมกันก็ได้ 130 เช่นกัน 521 00:29:13,377 --> 00:29:16,172 ‎ผมไม่ใช่นักทฤษฎีสมคบคิดหรืออะไรทำนองนี้ 522 00:29:16,672 --> 00:29:19,425 ‎สำหรับผมที่ถอดรหัสสิ่งนี้ได้... 523 00:29:21,719 --> 00:29:23,679 ‎เป็นเพราะผมเคยอยู่ในหน่วยนั้นเท่านั้น 524 00:29:26,599 --> 00:29:30,436 ‎สามเจ็ดหนึ่งเคยเป็นหน่วยวิจัยทางวิทยุ 525 00:29:31,187 --> 00:29:34,065 ‎หน่วยความมั่นคงของกองทัพซึ่งเราเป็นสมาชิก 526 00:29:34,982 --> 00:29:38,361 ‎และเฮลิคอปเตอร์ลับสุดยอดของเรา ‎บินออกจากกองหนุนที่ 11 527 00:29:39,529 --> 00:29:42,949 ‎ดังนั้นเราทั้งหมดนี้ 528 00:29:43,991 --> 00:29:45,827 ‎คือความลับสุดยอด 529 00:29:48,496 --> 00:29:52,959 ‎ทั้งสี่อย่างนี้จะรวมกันแล้วเท่ากับหน่วยของผม 530 00:29:54,377 --> 00:29:58,297 ‎ซึ่งเขาอยากเข้าร่วม ‎ซึ่งเขาไปอยู่ด้วยชั่วคราวนานหกอาทิตย์ 531 00:30:00,633 --> 00:30:02,051 ‎มันจะเป็นไปได้สักแค่ไหน 532 00:30:03,678 --> 00:30:05,763 ‎มีความเกี่ยวข้องกันระหว่าง 533 00:30:05,847 --> 00:30:08,266 ‎สิ่งที่เขาใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 534 00:30:08,349 --> 00:30:09,809 ‎และสิ่งที่เราพบในเวลาต่อมา 535 00:30:09,892 --> 00:30:11,811 ‎และถูกถอดรหัส 536 00:30:11,894 --> 00:30:14,480 ‎จากจดหมายของดีบี คูเปอร์ 537 00:30:14,564 --> 00:30:16,607 ‎มันเป็นความเกี่ยวข้องกันชัดเจน 538 00:30:19,694 --> 00:30:23,948 ‎ดีบี คูเปอร์คือคดีที่ผู้คนอยากได้ไอเดีย 539 00:30:24,782 --> 00:30:27,326 ‎ลงตัวกับสิ่งที่คิดไว้แล้ว 540 00:30:27,410 --> 00:30:31,038 ‎และพวกเขาจะสลัดทิ้งส่วนที่ไม่ลงตัว 541 00:30:31,122 --> 00:30:34,292 ‎พวกเขาจะพบแต่ชิ้นส่วนที่ลงกล่องนั้นได้ 542 00:30:34,375 --> 00:30:35,543 ‎จากนั้น... 543 00:30:36,127 --> 00:30:39,338 ‎มันก็ยากจะโต้แย้งด้วย ‎เพราะชิ้นส่วนเหล่านี้พอดีกับกล่องจริงๆ 544 00:30:39,422 --> 00:30:41,632 ‎แต่สิ่งที่หลงเหลือบนพื้น 545 00:30:42,466 --> 00:30:45,261 ‎ไม่เคยมีใครพูดถึงอีก 546 00:30:47,305 --> 00:30:50,308 ‎รหัสถูกสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้ใครถอดได้ ‎ เขาถึงได้ใส่รหัสไว้ 547 00:30:50,808 --> 00:30:54,145 ‎โอกาสที่คุณจะถอดรหัสนั้นได้คือ 548 00:30:54,645 --> 00:30:57,607 ‎คุณต้องรู้จักคนเขียนรหัสนั้น 549 00:30:58,816 --> 00:31:01,444 ‎ผมเข้าใจแร็คสตรอว์ดี 550 00:31:01,527 --> 00:31:04,447 ‎เขาแค่จะแสดงให้เห็นว่าเขาฉลาดกว่าทุกคน 551 00:31:05,031 --> 00:31:08,117 ‎ทุกอย่างที่เขาเขียนตีความได้อย่างนั้น 552 00:31:09,160 --> 00:31:10,620 ‎แต่จดหมายฉบับสุดท้าย 553 00:31:11,203 --> 00:31:12,204 ‎เป็นกุญแจสำคัญ 554 00:31:12,288 --> 00:31:14,790 ‎นั่นแหละที่มีชื่อของแร็คสตรอว์อยู่ 555 00:31:16,959 --> 00:31:20,046 ‎ทอมบอกว่า "ผมไม่คิดว่าเป็นเขา เขาพูดถึงลุง" 556 00:31:20,880 --> 00:31:23,090 ‎ผมบอกว่า "เขาไม่ได้พูดถึงลุงของเขา" 557 00:31:23,174 --> 00:31:24,800 ‎"เขาพูดถึงลุงแซม" 558 00:31:25,843 --> 00:31:29,931 ‎ผมอ่านสิ่งนี้สองรอบ ผมบอกว่า ‎"นี่แหละเป้าหมายของแร็คสตรอว์" 559 00:31:30,014 --> 00:31:31,807 ‎ผมบอก "นี่แหละดีบี คูเปอร์" 560 00:31:32,808 --> 00:31:34,268 ‎ประโยคสุดท้ายนั้น 561 00:31:34,352 --> 00:31:37,980 ‎"โปรดบอกตำรวจขี้ข้าด้วยว่า ‎ดีบี คูเปอร์ไม่ใช่ชื่อจริงของผม" 562 00:31:38,689 --> 00:31:42,360 ‎ผมบอก "อยากรู้ว่าเขาใส่ ‎ชื่อเต็มของตัวเองไว้หรือเปล่า" 563 00:31:43,069 --> 00:31:46,948 ‎ผมเลยถอดรหัสส่วนนั้นและได้เลข 269 564 00:31:48,491 --> 00:31:51,035 ‎โรเบิร์ต ดับเบิลยู แร็คสตรอว์เขียนไว้หมดแล้ว 565 00:31:51,118 --> 00:31:54,372 ‎ผมบอก "เขาเป็นร้อยโทใช่ไหม" ‎เขาบอกว่า "ใช่" มีคำนี้ด้วย 566 00:31:54,455 --> 00:31:55,373 ‎และ "ฉันเป็น" 567 00:31:56,207 --> 00:31:58,334 ‎จากตัวอักษรเป็นตัวเลข 568 00:32:00,086 --> 00:32:00,962 ‎เท่ากับ 569 00:32:02,046 --> 00:32:04,256 ‎สองหกเก้า 570 00:32:10,596 --> 00:32:12,723 ‎เขาใส่ชื่อตัวเองไว้จริงๆ 571 00:32:13,683 --> 00:32:14,600 ‎ในนี้ 572 00:32:15,101 --> 00:32:17,895 ‎ตอนนั้นเป็นช่วงที่แปลกใจและน่ายินดี 573 00:32:20,690 --> 00:32:22,358 ‎เมื่อเรามองบางอย่างและคิดว่า 574 00:32:22,441 --> 00:32:24,610 ‎"จะต้องมีข้อความเข้ารหัสตรงนี้แน่" 575 00:32:24,694 --> 00:32:27,154 ‎เรามีตัวเลขนับอนันต์เป็นไปได้ 576 00:32:27,238 --> 00:32:30,533 ‎คุณทำให้เอกสารพวกนี้ ‎พูดอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ 577 00:32:30,616 --> 00:32:33,202 ‎มันคือรูปแบบหนึ่งของอคติหาคำยืนยัน 578 00:32:34,286 --> 00:32:39,375 ‎ดังนั้นในความเห็นของผม จดหมายนั้นไม่ใช่ 579 00:32:40,334 --> 00:32:43,504 ‎วัตถุหลักฐานที่แสดง ‎ให้เห็นว่าแร็คสตรอว์คือคูเปอร์ 580 00:32:44,296 --> 00:32:48,259 ‎ผมลองเขียนว่า "ฉันคือ ‎สปอนจ์บ๊อบ สแควร์แพนท์" 581 00:32:48,342 --> 00:32:50,261 ‎มันก็ได้ตัวเลขนี้เหมือนกัน 582 00:32:50,344 --> 00:32:54,473 ‎ผมว่ามันไม่ได้แปลว่าดีบี คูเปอร์ ‎คือสปอนจ์บ๊อบ สแควร์แพนท์ 583 00:32:54,974 --> 00:32:58,227 ‎(สปอนจ์บ๊อบ สแควร์แพนท์ ‎ นิคเกิลโลเดียน 2003) 584 00:33:01,272 --> 00:33:05,192 ‎คุณใส่คำว่าสแควร์แพนท์ สปอนจ์บ๊อบก็ได้ ใช่ 585 00:33:05,276 --> 00:33:06,902 ‎แต่มันเกี่ยวกันไหมล่ะ 586 00:33:08,070 --> 00:33:11,532 ‎ไม่สามารถผิดได้เหรอ ‎ ไม่ ผมคงไม่ยืนยันอย่างนั้น 587 00:33:12,033 --> 00:33:15,119 ‎คุณคิดตีความได้หลากหลาย 588 00:33:15,619 --> 00:33:19,498 ‎แต่นี่คือวิธีที่แร็คสตรอว์ใช้สื่อสารและทำสิ่งต่างๆ 589 00:33:20,499 --> 00:33:22,668 ‎มันคือการเข้ารหัสตีความ 590 00:33:23,461 --> 00:33:27,256 ‎เป็นวิธีที่เขาใช้เล่าในจดหมาย 591 00:33:27,798 --> 00:33:29,175 ‎และทำให้รู้จักเขา 592 00:33:29,258 --> 00:33:32,636 ‎ผมถึงได้ค้นพบวิธีไขปริศนา 593 00:33:32,720 --> 00:33:33,846 ‎การตีความ 594 00:33:35,639 --> 00:33:38,225 ‎การเชื่อมโยงอุดมคติที่ผิดพลาด ‎เพื่อเชื่อมโยงความจริง 595 00:33:38,309 --> 00:33:41,228 ‎นั่นคืออันตรายแท้จริงเมื่อคุณพยายามจะ 596 00:33:41,312 --> 00:33:43,564 ‎ทำการสืบสวนที่เป็นวิทยาศาสตร์ 597 00:33:43,647 --> 00:33:45,775 ‎คุณจะไม่ได้ข่าวสารจากข้อมูล 598 00:33:45,858 --> 00:33:47,902 ‎คุณจะได้ข่าวสารจากสิ่งที่คุณคิดเอง 599 00:33:47,985 --> 00:33:50,071 ‎โดยอิงจากความคิดที่คุณมีอยู่แล้ว 600 00:33:51,697 --> 00:33:54,700 ‎เราเชื่อว่ากระบวนการถอดรหัสถูกต้องแล้ว 601 00:33:54,784 --> 00:33:56,786 ‎และบรรยายได้ถูกต้อง 602 00:33:57,703 --> 00:34:01,165 ‎สิ่งที่แร็คสตรอว์พูดเองว่าเขาทำ 603 00:34:01,916 --> 00:34:04,877 ‎ชื่อของแร็คสตรอว์อยู่ในจดหมายใส่รหัส 604 00:34:04,960 --> 00:34:08,464 ‎และรหัสเหล่านี้ย้อนกลับไป ‎ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 605 00:34:08,547 --> 00:34:14,428 ‎การแปลรหัสนี้ผ่านมือทั้ง ‎นักถอดรหัสจากเอ็นเอสเอสามสมัย 606 00:34:15,012 --> 00:34:17,598 ‎และพันโทของโรเบิร์ต แร็คสตรอว์ 607 00:34:17,681 --> 00:34:20,726 ‎เขาดูรหัสและบอกว่า "นี่คือของจริง" 608 00:34:21,227 --> 00:34:24,688 ‎ผมจึงไม่คิดเถียงกับตำราถอดรหัสอายุร้อยปี 609 00:34:24,772 --> 00:34:28,734 ‎หรือพันโทคนหนึ่ง ‎หรือนักถอดรหัสเอ็นเอสเอสามสมัย 610 00:34:28,818 --> 00:34:31,570 ‎เมื่อพวกเขาบอกว่ารหัสตรงกัน มันก็ตรงกัน 611 00:34:32,238 --> 00:34:34,865 ‎แร็คสตรอว์หรือเปล่าเหรอ ใช่ เขานั่นแหละ 612 00:34:35,991 --> 00:34:36,909 ‎ยืนยันแล้ว 613 00:34:36,992 --> 00:34:41,288 ‎แต่อย่าไปไกลกว่านั้น ‎รู้แค่ว่าเขาคือโจรจี้เครื่องบินก็พอ 614 00:34:41,956 --> 00:34:44,291 ‎แสดงว่านี่คือซีไอเอ คดีอื่นก็ด้วยสิ 615 00:34:45,167 --> 00:34:47,378 ‎เขาเกี่ยวข้องกับคดีอื่นไหมเหรอ ใช่ 616 00:34:50,047 --> 00:34:51,882 ‎แต่ผมไม่มีสิทธิ์จะพูด 617 00:35:05,396 --> 00:35:07,231 ‎คุณจะผิดหวังสักแค่ไหน 618 00:35:07,815 --> 00:35:10,192 ‎ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ว่าคดีของคุณคืออะไร 619 00:35:10,276 --> 00:35:13,195 ‎หรือไม่ได้รับการยอมรับหรือรับรู้เลย 620 00:35:15,281 --> 00:35:18,242 ‎ต้องเป็นคนบางประเภทเท่านั้นถึงจะทำต่อไป 621 00:35:22,621 --> 00:35:25,082 ‎(โอเรกอน ปี 2017) 622 00:35:26,167 --> 00:35:29,503 ‎(สถานที่ลึกลับ) 623 00:35:36,218 --> 00:35:40,931 ‎เรามาที่นี่ในวันนี้เพราะรัสกับคริสตี้ 624 00:35:41,515 --> 00:35:45,477 ‎พวกเขามีข่าวใหม่เกี่ยวกับเงินและร่มชูชีพ 625 00:35:46,520 --> 00:35:50,357 ‎คริสตี้กับรัสมาหาเราทันที ‎หลังจากสารคดีชิ้นแรกฉายออกไป 626 00:35:50,441 --> 00:35:52,985 ‎นามสกุลคูเปอร์ก็จริง แต่ไม่เกี่ยวข้องกัน 627 00:35:53,694 --> 00:35:57,948 ‎คริสตี้บอกเราว่า "ฉันกับสามี ‎ทำแผนที่เส้นทางหลบหนี" 628 00:35:58,490 --> 00:36:01,911 ‎"เรารู้ด้วยว่าร่มชูชีพ ‎น่าจะถูกฝังอยู่ตรงไหน" จริงเหรอ 629 00:36:02,536 --> 00:36:05,581 ‎เมื่อเขาเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง ‎และทุกอย่างเชื่อมโยงกัน 630 00:36:05,664 --> 00:36:07,374 ‎ฉันบอก "เราต้องเล่าเรื่องนี้" 631 00:36:07,458 --> 00:36:11,503 ‎ทั้งหมดนี้เล่าสู่กันฟังที่โต๊ะในสนามบินเล็กๆ 632 00:36:12,296 --> 00:36:14,423 ‎และตามที่แหล่งข่าวของเรา รัส คูเปอร์ 633 00:36:14,506 --> 00:36:16,675 ‎ซึ่งอยู่ที่โต๊ะด้วยและได้ยินเรื่องนี้ 634 00:36:16,759 --> 00:36:19,178 ‎วอลลี่คือคนที่เล่าเรื่อง 635 00:36:19,261 --> 00:36:21,472 ‎และเขาเป็นหนึ่งในสี่คนที่เกี่ยวข้อง 636 00:36:21,555 --> 00:36:23,432 ‎ในการหลบหนีของคูเปอร์ 637 00:36:24,016 --> 00:36:25,559 ‎(ปี 1971) 638 00:36:26,143 --> 00:36:29,396 ‎ตามที่วอลลี่เล่า ในคืนที่มีการปล้น 639 00:36:29,480 --> 00:36:33,609 ‎คูเปอร์ร่อนลงพื้นดินอย่างยากลำบาก ‎ที่ความสูง 396 เมตรจากโกฮีน มันเป็นลานบิน 640 00:36:34,235 --> 00:36:36,862 ‎มีชายสามคนรอเขาอยู่ 641 00:36:37,488 --> 00:36:40,032 ‎แล้วพวกเขาก็ขึ้นเครื่องบินลำเล็ก 642 00:36:40,115 --> 00:36:44,328 ‎พร้อมกับเงิน 50,000 ดอลลาร์และระเบิด 643 00:36:45,412 --> 00:36:50,209 ‎พวกเขาบินข้ามทะเลสาบแวนคูเวอร์ ‎ ซึ่งเป็นจุดทิ้งเงินและระเบิด 644 00:36:50,793 --> 00:36:54,588 ‎เพื่อจะสร้างร่องรอยปลอม ‎ว่าเขาร่วงลงทะเลสาบ 645 00:36:54,672 --> 00:36:55,589 ‎และจมน้ำตาย 646 00:36:56,590 --> 00:37:01,679 ‎จากนั้นคูเปอร์ก็เปลี่ยนชุด ‎เปลี่ยนเครื่องบินที่สนามบินสแคปพูส 647 00:37:01,762 --> 00:37:04,932 ‎และบินกลับเข้าสนามบินพอร์ตแลนด์ 648 00:37:05,015 --> 00:37:07,393 ‎ซึ่งเขาได้ขึ้นเครื่องบินไปลาสเวกัส 649 00:37:09,311 --> 00:37:12,606 ‎ส่วนเงินอีก 150,000 ดอลลาร์และร่มชูชีพ 650 00:37:12,690 --> 00:37:16,902 ‎ถูกขนขึ้นรถกระบะไปสถานที่หนึ่ง 651 00:37:16,986 --> 00:37:20,864 ‎และเมื่อวอลลี่บรรยายสถานที่นั้น ผมก็รู้เลย 652 00:37:22,491 --> 00:37:25,995 ‎เราเดินทางไปที่นั่นสองสามครั้ง ‎พร้อมสมาชิกในทีม 13 คน 653 00:37:28,163 --> 00:37:31,625 ‎เรามาที่นี่เพื่อตอบคำถามซึ่งคนมากมาย 654 00:37:31,709 --> 00:37:34,712 ‎พยายามขุดคุ้ยและหาความจริงมาตลอด 655 00:37:36,130 --> 00:37:39,049 ‎- ถึงตรงนี้คิดว่าไง ‎- ผมว่าเราจะพบนะ 656 00:37:41,176 --> 00:37:43,429 ‎ถ้ามันเป็นหัวเข็มขัดหรือคลิปหรืออะไรสักอย่าง 657 00:37:43,512 --> 00:37:46,724 ‎แม้จะมีขนาดห้าหรือหกนิ้ว ‎เครื่องก็จะส่งเสียงร้อง 658 00:37:52,521 --> 00:37:55,691 ‎- ดูสิว่าเธอเจออะไร ‎- เหวอ อะไรน่ะ 659 00:37:55,774 --> 00:37:57,276 ‎- เราไม่รู้ ‎- ผ้า 660 00:37:58,027 --> 00:38:00,696 ‎- ให้ตายสิ ดูเหมือนผ้าไนล่อน ‎- กระสอบ 661 00:38:01,572 --> 00:38:02,948 ‎หรือกระสอบมันฝรั่ง 662 00:38:03,949 --> 00:38:07,619 ‎อาจเป็นอะไรได้ร้อยแปด รวมถึงร่มชูชีพ 663 00:38:08,704 --> 00:38:10,039 ‎มันกองอยู่ตรงนี้ 664 00:38:11,206 --> 00:38:13,000 ‎- บนผิวดินเหรอ ‎- ใช่ 665 00:38:13,083 --> 00:38:14,710 ‎ต้องหาต่อไป 666 00:38:14,793 --> 00:38:16,587 ‎ใช่ ดูว่าเราจะได้อะไรอีกจากตรงนี้ 667 00:38:18,088 --> 00:38:21,258 ‎- นี่ไง ‎- เจอแล้ว 668 00:38:21,759 --> 00:38:23,177 ‎ท่ออะไรสักอย่าง 669 00:38:23,886 --> 00:38:25,387 ‎ไม่ใช่ชิ้นส่วนร่มชูชีพ 670 00:38:28,432 --> 00:38:31,018 ‎- ท่อ ‎- จะเก็บนี่ไว้ไหม 671 00:38:31,101 --> 00:38:33,520 ‎- เก็บสิ แน่นอน ‎- ดูว่ามันคืออะไร 672 00:38:33,604 --> 00:38:37,191 ‎มันอาจเป็นชิ้นส่วนของถุงใส่ก็ได้ 673 00:38:38,317 --> 00:38:40,069 ‎บอกยาก 674 00:38:40,152 --> 00:38:41,278 ‎อาจเป็นสายรัดก็ได้ 675 00:38:47,576 --> 00:38:51,705 ‎ผมยังคิดว่าเรามาถูกที่แล้ว ยากจะเจอไนล่อน 676 00:38:51,789 --> 00:38:55,084 ‎โดยใช้เครื่องตรวจจับโลหะ ผมต้องบอกก่อน 677 00:38:55,167 --> 00:38:56,335 ‎และเราอาจเจอ 678 00:38:56,418 --> 00:38:57,544 ‎และเราอาจเจอ 679 00:38:57,628 --> 00:39:01,131 ‎เราพบว่าสิ่งที่เราคิดว่าเป็นชิ้นส่วนร่มชูชีพ 680 00:39:01,673 --> 00:39:02,633 ‎มันคือสายรัด 681 00:39:02,716 --> 00:39:04,885 ‎เรานำไปที่เอฟบีไอ 682 00:39:05,844 --> 00:39:08,472 ‎เราได้เบาะแสตำแหน่งที่ฝังร่มชูชีพ 683 00:39:09,056 --> 00:39:12,518 ‎เราค้นพบร่มชูชีพ เรานำวัตถุห้าชิ้นไปให้พวกเขา 684 00:39:12,601 --> 00:39:14,686 ‎จากนั้นเราก็ไม่ได้ข่าวจากเอฟบีไอเลย 685 00:39:14,770 --> 00:39:18,482 ‎บางครั้งทอมก็ติดกับดัก 686 00:39:18,565 --> 00:39:22,277 ‎ของความคิดที่ว่า ‎ "ฉันคงไม่ได้เห็นมันถ้าฉันไม่เชื่อมั่น" 687 00:39:22,861 --> 00:39:25,322 ‎พวกเขาเจอชิ้นส่วนของสายรัดไนล่อน 688 00:39:25,406 --> 00:39:28,992 ‎และประกาศออกมาว่า "เราเจอสายรัด 689 00:39:29,076 --> 00:39:31,995 ‎แสดงว่าตรงนี้คือพื้นที่ที่ร่มชูชีพถูกฝัง" 690 00:39:32,079 --> 00:39:33,539 ‎อะไรนะ ตรรกะก้าวกระโดดเลย 691 00:39:34,373 --> 00:39:36,500 ‎และเรื่องทำนองนี้รบกวนใจผม 692 00:39:37,668 --> 00:39:40,796 ‎พื้นที่นั้นเป็นเขตทำไม้ 693 00:39:41,338 --> 00:39:44,341 ‎ซึ่งมีกิจกรรมมากมายเกิดขึ้นมาตลอดหลายปีนี้ 694 00:39:45,676 --> 00:39:49,012 ‎ผมไม่รู้ว่าการวิเคราะห์สิ่งของเหล่านี้ 695 00:39:49,680 --> 00:39:52,141 ‎สรุปออกมาว่าเป็นร่มชูชีพหรือเปล่า 696 00:39:52,641 --> 00:39:53,892 ‎ผมไม่คิดว่าใช่ 697 00:39:54,393 --> 00:39:58,313 ‎มันอาจกลายเป็นของธรรมดา ‎ไร้ค่า อาจกลายเป็น... 698 00:39:58,397 --> 00:40:00,232 ‎ใครจะไปรู้ว่ามันกลายเป็นอะไร 699 00:40:01,275 --> 00:40:06,572 ‎แต่ผมกล้าพูดเลย กล้าพนันและยินดีจะพนันว่า 700 00:40:06,655 --> 00:40:11,326 ‎เอฟบีไอไม่เคยทำอะไรทั้งนั้นกับร่มชูชีพที่ว่า 701 00:40:11,410 --> 00:40:15,789 ‎พวกเขาไม่สนใจจะไขคดี ‎จี้เครื่องบินของดีบี คูเปอร์ 702 00:40:16,373 --> 00:40:17,499 ‎ไม่สนอะไรเลย 703 00:40:21,462 --> 00:40:24,965 ‎คดีนี้เป็นหนึ่งในคดีน่าสนใจที่สุด 704 00:40:25,048 --> 00:40:27,134 ‎ที่ผมเคยร่วมทำด้วยสมัยอยู่เอฟบีไอ 705 00:40:27,217 --> 00:40:29,261 ‎เพราะมันยังเป็นปริศนา 706 00:40:30,471 --> 00:40:31,972 ‎ผ่านมา 50 ปีแล้ว 707 00:40:32,473 --> 00:40:35,142 ‎เราไม่เข้าใกล้ตัวตนของคูเปอร์เลย 708 00:40:35,225 --> 00:40:37,269 ‎เรามีแต่ผู้ต้องสงสัย 709 00:40:37,352 --> 00:40:40,647 ‎มีผู้ต้องสงสัยรายใหม่ตลอดเวลา ‎แล้วก็ถูกหลงหลืมไป 710 00:40:41,148 --> 00:40:44,109 ‎แต่จริงๆ นะ ไม่มีอะไร ‎เชื่อมโยงพวกเขาโดยตรงสักคน 711 00:40:45,360 --> 00:40:48,947 ‎ทีนี้ เราอยู่ตรงไหนแล้วในปีที่ 50 ของคดีนี้ 712 00:40:49,031 --> 00:40:53,619 ‎ผมพูดไม่ได้อย่างมั่นใจว่า ‎ใครคือหรือเคยเป็นแดน คูเปอร์ 713 00:40:53,702 --> 00:40:57,247 ‎ผมไม่คิดว่าคนที่ทำอะไรแบบนั้นได้ ‎จะเป็นคนไร้ความรับผิดชอบ 714 00:40:57,873 --> 00:40:58,874 ‎ผมพูดได้ว่า 715 00:40:58,957 --> 00:41:02,461 ‎ผมรู้สึกเหมือนรู้จักคนที่เขาเป็น ‎หรือเคยเป็นมากขึ้นเยอะ 716 00:41:02,544 --> 00:41:04,338 ‎มากกว่าปีก่อนหรือปีก่อนหน้า 717 00:41:05,672 --> 00:41:09,009 ‎ทุกปีเราได้รู้ข้อมูลใหม่ๆ ‎เพิ่มขึ้นทีละอย่างสองอย่าง 718 00:41:09,092 --> 00:41:11,553 ‎มีการวิเคราะห์เบาะแสใหม่ในหลายรูปแบบ 719 00:41:11,637 --> 00:41:14,806 ‎และตอนนี้ผมไม่มีผู้ต้องสงสัยคนไหนเป็นพิเศษ 720 00:41:15,849 --> 00:41:18,644 ‎แต่ผมมีตำแหน่งแห่งที่ในใจแล้ว 721 00:41:19,770 --> 00:41:23,023 ‎และตำแหน่งที่ว่านั้นนำขึ้นเหนือไปที่แคนาดา 722 00:41:23,106 --> 00:41:24,525 ‎(บริติชโคลัมเบีย) 723 00:41:24,608 --> 00:41:27,402 ‎ผมรู้สึกว่ามีเบาะแสมากมายในแคนาดา 724 00:41:27,486 --> 00:41:30,155 ‎ที่ไม่เคยมีใครตรวจสอบจริงจัง 725 00:41:30,906 --> 00:41:35,244 ‎เอฟบีไอไม่เคยสืบสวนจริงจัง ‎เรื่องความหมายของชื่อแดน คูเปอร์ 726 00:41:36,245 --> 00:41:38,997 ‎แดน คูเปอร์เป็นชื่อของฮีโร่ในการ์ตูนฝรั่งเศส 727 00:41:39,665 --> 00:41:43,043 ‎ซึ่งขับเครื่องบินและกระโดดร่มเสียเอง 728 00:41:43,877 --> 00:41:47,047 ‎ถ้าเอฟบีไอพูดบางอย่าง ประชาชนเชื่อจริงจัง 729 00:41:47,798 --> 00:41:50,801 ‎แต่ความจริงแล้วเอฟบีไอเป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่่มนุษย์ 730 00:41:50,884 --> 00:41:54,888 ‎และผลงานโดดเด่นสุดในคดีนี้ ‎เป็นฝีมือของนักสืบเอกชน 731 00:41:57,474 --> 00:42:00,811 ‎คนที่มีความหลงใหล คนที่ไล่ตามเบาะแสเหล่านั้น 732 00:42:00,894 --> 00:42:05,649 ‎คนที่ค้นพบการ์ตูนฝรั่งเศส คนที่กูเกิลหาความจริง 733 00:42:06,942 --> 00:42:09,528 ‎(อาร์ซีเอเอฟ) 734 00:42:09,611 --> 00:42:10,612 ‎ผมจะขึ้นเหนือ 735 00:42:11,613 --> 00:42:16,201 ‎ผมจะไม่เสียเวลาสืบในสหรัฐฯ แล้ว ‎ผมจะตรงไปที่แคนาดา 736 00:43:20,390 --> 00:43:23,310 ‎คำบรรยายโดย เพียรพิไล ธรรมลิขิตชัย