1 00:00:11,137 --> 00:00:13,931 ‎ตอนนั้นฉันเป็นทนายวัยสาว 2 00:00:15,641 --> 00:00:16,809 ‎อายุ 20 กว่า 3 00:00:17,435 --> 00:00:19,604 ‎ฉันเพิ่งย้ายไปอยู่มิลวอกี 4 00:00:19,687 --> 00:00:23,524 ‎ฉันเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ไม่รู้จักใครมากนัก 5 00:00:25,985 --> 00:00:28,362 ‎ฉันได้รับโทรศัพท์จากเจอร์รี่ บอยล์ เจ้านายฉัน 6 00:00:29,322 --> 00:00:32,658 ‎เขาบอกว่า "เรามีคดีใหม่ คดีใหญ่มาก" 7 00:00:32,742 --> 00:00:36,287 ‎"คุณต้องไปที่ตึกสำนักงานตำรวจ" 8 00:00:36,370 --> 00:00:37,955 ‎(ถนนมิลวอกี ดาวน์ทาวน์) 9 00:00:40,958 --> 00:00:42,877 ‎เจอร์รี่ บอยล์บอกว่า 10 00:00:42,960 --> 00:00:45,963 ‎"ผมเคยเป็นทนายความให้คนนี้มาแล้ว" 11 00:00:46,047 --> 00:00:48,883 ‎"เขานิสัยดี ไม่ต้องห่วง ‎เขาไม่ทำอะไรคุณหรอก" 12 00:00:50,009 --> 00:00:53,054 ‎ฉันไปที่นั่นทันทีตามที่เขาขอ 13 00:00:54,013 --> 00:00:55,473 ‎เพื่อไปพบกับเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ 14 00:00:56,015 --> 00:00:57,391 ‎นั่นเป็นงานแรกของฉัน 15 00:01:01,604 --> 00:01:04,690 ‎ตอนแรกที่ฉันเข้าไปพบเขา 16 00:01:05,441 --> 00:01:08,361 ‎มันเป็นห้องสัมภาษณ์ที่เล็กมาก 17 00:01:15,409 --> 00:01:18,704 ‎เจฟฟ์นั่งอยู่ที่มุมโต๊ะ 18 00:01:20,706 --> 00:01:22,625 ‎ฉันประหม่ามาก 19 00:01:22,708 --> 00:01:25,670 ‎เพราะฉันรู้สึกว่าคดีนี้หนักเกินตัวฉัน 20 00:01:25,753 --> 00:01:28,297 ‎แม้แต่ตำรวจรุ่นเก่ายังกล่าวว่า 21 00:01:28,381 --> 00:01:31,300 ‎นี่เป็นสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรม ‎ที่ประหลาดที่สุดที่พวกเขาเคยเห็น 22 00:01:32,385 --> 00:01:36,139 ‎ทั้งประเทศตกตะลึง ‎กับคดีอันสยดสยองของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ 23 00:01:36,722 --> 00:01:38,850 ‎ฆาตกรรม ชำแหละศพ แม้กระทั่งกินเนื้อคน 24 00:01:39,684 --> 00:01:42,895 ‎เกิดความตกใจและสะเทือนขวัญ ‎เมื่อตำรวจขนหม้อขนาดใหญ่ออกมา 25 00:01:42,979 --> 00:01:47,233 ‎ในคดีฆาตกรรมหมู่ที่โหดเหี้ยม ‎และสยดสยองที่สุดในประวัติศาสตร์มิลวอกี 26 00:01:47,316 --> 00:01:50,403 ‎ฉันรู้สึกเหมือนเป็นคลาริซ สตาร์ลิง ‎ในเรื่องอำมหิตไม่เงียบ 27 00:01:51,571 --> 00:01:53,990 ‎เขาสุภาพมาก 28 00:01:55,116 --> 00:01:57,577 ‎จนฉันค่อนข้างแปลกใจ 29 00:01:57,660 --> 00:02:00,580 ‎ที่เจฟฟ์เป็นกันเองมาก 30 00:02:02,039 --> 00:02:04,542 ‎การจะเป็นทนายจำเลยที่ดีได้ 31 00:02:04,625 --> 00:02:07,128 ‎คุณต้องไม่ด่วนตัดสินใคร 32 00:02:07,753 --> 00:02:09,672 ‎และสร้างความไว้ใจให้ได้ 33 00:02:09,755 --> 00:02:12,341 ‎เขาเรียกฉันว่าเว็นดี้ ฉันเรียกเขาว่าเจฟฟ์ 34 00:02:13,467 --> 00:02:17,013 ‎ไม่เป็นไรนะเจฟฟ์ อย่ารู้สึกอายเลย 35 00:02:17,763 --> 00:02:20,016 ‎ฉันทำให้คุณอึดอัดรึเปล่า 36 00:02:20,099 --> 00:02:22,768 ‎เปล่า ยังไงก็ต้องพูดออกมา งั้น… 37 00:02:24,103 --> 00:02:25,938 ‎มันพิลึกว่ามั้ยล่ะ 38 00:02:26,856 --> 00:02:28,691 ‎มันพูดไม่ง่ายเลย 39 00:02:28,774 --> 00:02:30,526 ‎มันเป็นสิ่งที่ผมเก็บเอาไว้ 40 00:02:30,610 --> 00:02:33,821 ‎ฝังเอาไว้ในตัวผมมาหลายปี 41 00:02:33,905 --> 00:02:35,156 ‎และมัน… 42 00:02:35,948 --> 00:02:36,866 ‎เฮ้อ 43 00:02:37,658 --> 00:02:41,704 ‎เหมือนพยายามลหินหนักสองตัน ‎ขึ้นมาจากบ่อน้ำ 44 00:02:42,663 --> 00:02:45,791 ‎ฉันคิดว่าไม่มีทางที่จะเตรียมใจใครให้พร้อม 45 00:02:45,875 --> 00:02:47,418 ‎กับความโหดเหี้ยมขนาดนั้นได้เลย 46 00:02:49,420 --> 00:02:52,048 ‎(ซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX) 47 00:03:40,888 --> 00:03:42,306 ‎(วันที่ 22 กรกฎาคม 1991) 48 00:03:42,390 --> 00:03:45,142 ‎(มิลวอกี รัฐวิสคอนซิน) 49 00:03:51,440 --> 00:03:53,693 ‎มันเป็นคืนที่เงียบสงบ 50 00:03:53,776 --> 00:03:54,986 ‎(อะพาร์ตเมนต์อ็อกซ์ฟอร์ด) 51 00:03:55,027 --> 00:03:57,738 ‎เป็นคืนหนึ่งในฤดูร้อนที่ร้อนอบอ้าว 52 00:03:58,572 --> 00:04:02,493 ‎ผมเป็นผู้สื่อข่าวทีวี ‎และเป็นคนแรกๆ ที่ไปถึงที่เกิดเหตุ 53 00:04:02,576 --> 00:04:04,745 ‎ที่อะพาร์ตเมนต์ของดาห์เมอร์ ‎ในคืนที่เขาถูกจับกุม 54 00:04:06,789 --> 00:04:10,626 ‎พอผมไปถึง ‎แค่ได้เห็นหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 55 00:04:10,710 --> 00:04:14,171 ‎ผมก็รู้เลยว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่นั่น 56 00:04:20,845 --> 00:04:23,389 ‎ผมบังเอิญเจอตำรวจที่ผมรู้จัก 57 00:04:23,472 --> 00:04:25,016 ‎เขาชื่อบ็อบบี้ ราว 58 00:04:25,599 --> 00:04:28,269 ‎ผมพูดว่า "บอกหน่อยน่าบ็อบบี้ นี่เรื่องจริงเหรอ" 59 00:04:28,352 --> 00:04:31,856 ‎เขามองหน้าผม ส่ายหน้าแล้วตอบว่า ‎"แหงสิ นี่เรื่องจริงแน่นอน" 60 00:04:33,941 --> 00:04:35,484 ‎ผู้หมวดโรสเวลต์ แฮร์เรลล์ครับ 61 00:04:35,568 --> 00:04:37,194 ‎เรากำลังสืบสวนคดีฆาตกรรม 62 00:04:37,278 --> 00:04:41,407 ‎ที่เกิดขึ้นในอะพาร์ตเมนต์ ‎เลขที่ 900 ถนนนอร์ธ 25 63 00:04:41,490 --> 00:04:45,119 ‎เราควบคุมตัวบุคคลคนหนึ่งไว้ 64 00:04:45,202 --> 00:04:49,373 ‎มีความเป็นไปได้สูงว่า ‎อาจมีฆาตกรรมรายอื่นๆ อีก 65 00:04:49,457 --> 00:04:52,877 ‎ที่บุคคลนี้มีส่วนเกี่ยวข้อง ‎และเรากำลังตรวจสอบอยู่ 66 00:04:53,544 --> 00:04:57,340 ‎ตำรวจที่ได้รับมอบหมายให้เฝ้าประตู ‎ที่อะพาร์ตเมนต์อ็อกซ์ฟอร์ด 67 00:04:58,174 --> 00:04:59,550 ‎เป็นคนที่ผมรู้จัก 68 00:05:00,051 --> 00:05:01,677 ‎เราเลยขอร้อง อ้อนวอนเขา 69 00:05:01,761 --> 00:05:04,805 ‎"ขอเราถ่ายรูปด้านใน ‎อะพาร์ตเมนต์ของดาห์เมอร์ได้มั้ย" 70 00:05:04,889 --> 00:05:07,767 ‎เขาส่ายหน้าเลย ‎"ถ้าคุณถ่ายรูปไป ผมตกงานแน่" 71 00:05:08,434 --> 00:05:12,605 ‎แต่เขาบอกว่า "คุณชะโงกหน้าเข้าไปดูได้ ‎แค่อย่าเข้าประตูไปก็พอ" 72 00:05:13,105 --> 00:05:14,648 ‎เราเลยไปที่ประตู 73 00:05:14,732 --> 00:05:18,611 ‎เกาะกรอบประตูไว้แล้วชะโงกหน้า ‎มองเข้าไปในอะพาร์ตเมนต์ 74 00:05:19,737 --> 00:05:22,948 ‎ผมจำได้ว่าไม่มีอะไรสะดุดตาน่าจดจำเลย 75 00:05:23,032 --> 00:05:24,742 ‎มีพรมที่ม้วนไว้ 76 00:05:26,202 --> 00:05:28,079 ‎ทางซ้ายมือเป็นครัว 77 00:05:29,372 --> 00:05:32,750 ‎ทางขวามือมีห้องนอนกับห้องน้ำ 78 00:05:36,879 --> 00:05:39,924 ‎แต่สิ่งเดียวที่สะดุดตามากกว่าอย่างอื่น 79 00:05:40,007 --> 00:05:43,761 ‎คือโคมไฟลาวาน่าขนลุกที่เปิดอยู่ 80 00:05:43,844 --> 00:05:46,555 ‎มีหยดสีลอยไปมา 81 00:05:46,639 --> 00:05:49,600 ‎อะพาร์ตเมนต์นั้นมีบรรยากาศที่น่าขนลุกมาก 82 00:05:58,109 --> 00:06:00,194 ‎คืนที่มีข่าวดาห์เมอร์ออกมา 83 00:06:00,277 --> 00:06:03,406 ‎ตอนนั้นผมเป็นนักข่าวที่นสพ.มิลวอกีเซนติเนล 84 00:06:03,989 --> 00:06:07,076 ‎ผมเป็นนักข่าวคนเดียวที่นั่นเพราะมันดึกแล้ว 85 00:06:08,661 --> 00:06:10,413 ‎ทีน่า เบิร์นไซด์ 86 00:06:10,496 --> 00:06:13,624 ‎ที่เป็นนักข่าวสายตำรวจโทรหาผม 87 00:06:15,459 --> 00:06:19,004 ‎เธอบอกว่า "เจมส์ ตั้งใจจดให้ดีนะ" 88 00:06:20,881 --> 00:06:24,844 ‎มันกดดันมากที่มีบรรณาธิการ ‎หายใจรดต้นคอคุณอยู่ บอกว่า 89 00:06:24,927 --> 00:06:26,345 ‎"ฉันต้องการข่าวนี้เดี๋ยวนี้" 90 00:06:26,429 --> 00:06:29,265 ‎ผมกด "ส่ง" ไปให้บรรณาธิการข่าวภาคค่ำ 91 00:06:29,348 --> 00:06:31,851 ‎เขาเอาไปเรียบเรียง ส่งออกไป 92 00:06:33,477 --> 00:06:35,312 ‎ผมจำได้ว่าเขาพูดว่า 93 00:06:38,107 --> 00:06:41,944 ‎"นี่จะเป็นข่าวใหญ่ที่สุด ‎ในหน้าประวัติศาสตร์มิลวอกี" 94 00:06:45,448 --> 00:06:49,368 ‎ผมเป็นหัวหน้าอัยการประจำมิลวอกี ‎เมื่อหลายปีก่อน 95 00:06:49,452 --> 00:06:51,287 ‎ก่อนจะผันตัวไปเป็นทนายความฝ่ายจำเลย 96 00:06:51,370 --> 00:06:53,414 ‎ผมจึงเคยทำงานกับทั้งสองฝ่าย 97 00:06:54,248 --> 00:06:58,127 ‎ผมได้รับโทรศัพท์จากคนหนึ่ง ‎ที่สถานีโทรทัศน์หลักของเรา 98 00:06:58,210 --> 00:07:00,838 ‎"อยากคุยเรื่องลูกความคุณหน่อย" 99 00:07:00,921 --> 00:07:03,174 ‎ผมถามว่า "ใครล่ะ" ‎เขาตอบว่า "เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์" 100 00:07:03,257 --> 00:07:05,801 ‎"เราคิดว่าเขาเป็นฆาตกรโรคจิต" 101 00:07:05,885 --> 00:07:09,305 ‎ผมเคยว่าความให้เขาในปี 1988 102 00:07:09,388 --> 00:07:10,848 ‎ข้อหาอาชญากรรมทางเพศ 103 00:07:11,765 --> 00:07:15,394 ‎ผมตอบว่า "รอเดี๋ยวนะ ‎ผมต้องโทรหาพ่อของเขา" 104 00:07:15,978 --> 00:07:17,521 ‎ผมโทรหาไลโอเนล ดาห์เมอร์ 105 00:07:18,063 --> 00:07:21,150 ‎บอกเขาว่านักข่าวบอกอะไรกับผม 106 00:07:21,859 --> 00:07:25,613 ‎ผมบอกเขาว่า ผมจะให้คนไปสืบว่าเกิดอะไรขึ้น 107 00:07:26,363 --> 00:07:28,449 ‎ผมโทรหาเว็นดี้ แพทริคัส 108 00:07:29,283 --> 00:07:30,701 ‎และเว็นดี้ก็ว่างอยู่ 109 00:07:34,955 --> 00:07:38,959 ‎คนแรกที่พวกเขาพาฉันไปพบคือนักสืบเมอร์ฟี่ 110 00:07:39,919 --> 00:07:44,548 ‎ในตอนนั้น ตำรวจสืบสวน ‎เป็นคนจัดการสอบปากคำทั้งหมด 111 00:07:46,467 --> 00:07:48,594 ‎(ส่งตัวเข้าเรือนจำ ‎เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น) 112 00:07:48,677 --> 00:07:50,429 ‎ตอนแรกที่ผมได้พบดาห์เมอร์ 113 00:07:50,971 --> 00:07:52,848 ‎เขาพูดกับผมแค่ว่า 114 00:07:52,932 --> 00:07:54,934 ‎"ทำไมไม่ยิงผมทิ้งเดี๋ยวนี้เลยล่ 115 00:07:55,017 --> 00:07:56,519 ‎เพราะสิ่งที่ผมทำลงไป" 116 00:07:57,728 --> 00:07:59,522 ‎ผมนั่งลงคุยกับเขา 117 00:07:59,605 --> 00:08:02,566 ‎รับรองกับเขาว่าไม่ว่าเขาบอกอะไรผม 118 00:08:02,650 --> 00:08:07,613 ‎ก็จะไม่มีผลต่อความคิดเห็นที่ผมมีต่อเขา 119 00:08:08,781 --> 00:08:11,158 ‎แล้วจากนั้น 120 00:08:11,242 --> 00:08:13,202 ‎เขาก็เขียนคำรับสารภาพลงบนกระดาษ 121 00:08:14,370 --> 00:08:18,749 ‎ผมเป็นผู้หมวด ‎ได้รับมอบหมายให้ทำแผนกฆาตกรรม 122 00:08:19,500 --> 00:08:21,835 ‎เดนนิส เมอร์ฟี่และแพต เคนเนดี้ 123 00:08:21,919 --> 00:08:24,171 ‎เป็นคนสัมภาษณ์ดาห์เมอร์เป็นหลัก 124 00:08:24,255 --> 00:08:26,674 ‎ที่จริงนั่นเป็นงานของพวกเขาแทบทุกวัน 125 00:08:27,800 --> 00:08:30,135 ‎เขาจดจำเล่าทุกรายละเอียด 126 00:08:30,219 --> 00:08:33,389 ‎ของเหตุฆาตกรรมเหล่านั้นได้ 127 00:08:33,472 --> 00:08:35,266 ‎(เขารับคนโบกรถ) 128 00:08:35,849 --> 00:08:37,434 ‎มันเหลือเชื่อมาก 129 00:08:39,353 --> 00:08:40,688 ‎เท่าที่ฉันจำได้ 130 00:08:40,771 --> 00:08:43,566 ‎ตอนนั้นเจฟฟ์กำลังเมากรึ่มๆ 131 00:08:47,695 --> 00:08:51,115 ‎ฉันถามว่า ‎ทำไมเขาถึงเล่าให้ตำรวจฟังหมดเปลือก 132 00:08:51,198 --> 00:08:53,284 ‎ทำไมเขาถึงยอมรับสารภาพ 133 00:08:53,367 --> 00:08:57,538 ‎เขาตอบว่า "พวกเขาเจอหลักฐานมากมาย ‎ในอะพาร์ตเมนต์ผม 134 00:08:58,080 --> 00:09:02,209 ‎ความแตกแล้ว ผมเลยอยากคุยกับพวกเขาต่อไป" 135 00:09:02,835 --> 00:09:05,004 ‎เขาตัดสินใจไปแล้ว 136 00:09:05,087 --> 00:09:08,632 ‎ฉันเลยต้องบอกว่า ‎"เจฟฟ์ ฉันจะเคารพการตัดสินใจของคุณ" 137 00:09:09,592 --> 00:09:11,468 ‎เขาสารภาพไปแล้ว 138 00:09:12,219 --> 00:09:14,763 ‎ผมรู้ว่าดาห์เมอร์ไม่มีข้อแก้ตัว 139 00:09:14,847 --> 00:09:17,766 ‎ผมเลยถามเขาว่า ‎"คุณอยากให้ผมทำอะไร" 140 00:09:18,434 --> 00:09:21,979 ‎เขาตอบว่า "ผมอยากรู้ว่า ‎ทำไมผมถึงเป็นอย่างนี้" 141 00:09:22,563 --> 00:09:23,731 ‎ผมเลยบอกเขาว่า 142 00:09:23,814 --> 00:09:26,650 ‎"ผมหาจิตแพทย์ดีๆ ให้ได้ 143 00:09:27,151 --> 00:09:28,819 ‎ให้มาคุยกับคุณ 144 00:09:28,902 --> 00:09:32,990 ‎และให้การว่าคุณไม่ผิด ‎เพราะมีอาการป่วยทางจิต" 145 00:09:33,699 --> 00:09:34,658 ‎"วิกลจริต" 146 00:09:34,742 --> 00:09:37,202 ‎"แต่ผมต้องการหมอ 147 00:09:37,286 --> 00:09:39,496 ‎ที่จะสนับสนุนข้ออ้างนี้ได้" 148 00:09:40,372 --> 00:09:44,251 ‎งานที่แท้จริงคือการหาข้อมูลให้เพียงพอ ‎ที่จะส่งมอบให้หมอ 149 00:09:44,877 --> 00:09:46,754 ‎เพื่อตอบคำถามของพวกเขาได้ 150 00:09:46,837 --> 00:09:49,506 ‎คำถามคือเขามีสติดีหรือวิกลจริตกันแน่ 151 00:09:51,133 --> 00:09:54,887 ‎ช่วงหลายเดือนต่อมา ‎ฉันใช้เวลาอยู่กับเขาค่อนข้างมาก 152 00:09:55,679 --> 00:09:57,348 ‎พูดคุยถึงเหยื่อแต่ละคน 153 00:09:57,431 --> 00:10:00,893 ‎และรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด 154 00:10:02,227 --> 00:10:05,939 ‎(ทนายจำเลย เว็นดี้ แพทริคัส ‎บันทึกบทสนทนากว่า 32 ชั่วโมง) 155 00:10:06,023 --> 00:10:07,941 ‎(เพื่อเตรียมว่าความแก้ต่างให้ดาห์เมอร์) 156 00:10:08,025 --> 00:10:11,445 ‎(การสนทนาเกิดขึ้น ‎ระหว่างกรกฎาคมถึงตุลาคม ปี 1991) 157 00:10:12,738 --> 00:10:17,201 ‎(เทปบันทึกเหล่านี้ไม่เคยเปิดเผย ‎ต่อสาธารณะมาก่อน… จนถึงวันนี้) 158 00:10:17,701 --> 00:10:20,162 ‎โอเคเจฟฟ์ เล่ามาว่าคุณคิดอะไรอยู่ 159 00:10:21,038 --> 00:10:23,874 ‎ผมอยากรู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกมีแรงกดดัน 160 00:10:23,957 --> 00:10:26,335 ‎ให้ก่อเหตุฆาตกรรมทั้งหลาย 161 00:10:27,252 --> 00:10:29,046 ‎ผมค้นหาอะไรอยู่ 162 00:10:29,129 --> 00:10:32,007 ‎ถึงจะเติมเต็มความรู้สึกว่างเปล่านี้ได้ 163 00:10:32,883 --> 00:10:36,095 ‎การฆ่าใครสักคนและกำจัดศพในทันที 164 00:10:36,178 --> 00:10:38,847 ‎ไม่ทำให้เกิดความสุขที่ยั่งยืน 165 00:10:38,931 --> 00:10:41,642 ‎หรือความสุขสมหวังเลย 166 00:10:42,726 --> 00:10:45,437 ‎แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามีแรงกดดันในใจ 167 00:10:46,647 --> 00:10:48,982 ‎ให้ทำต่อไปมานานหลายปี 168 00:10:52,361 --> 00:10:55,614 ‎เจฟฟ์อยากระบุตัวตนเหยื่อทั้งหมด 169 00:10:56,490 --> 00:10:58,742 ‎นี่เป็นสิ่งที่หายากมาก 170 00:10:58,826 --> 00:11:03,414 ‎ที่ใครสักคนที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องตัวจริง 171 00:11:03,497 --> 00:11:05,040 ‎จะไม่ปฏิเสธ 172 00:11:05,124 --> 00:11:08,210 ‎และบอกว่า "ใช่ ฉันฆ่าคนครั้งแล้วครั้งเล่า" 173 00:11:08,293 --> 00:11:11,004 ‎"ฉันฆ่าแบบนี้ และนี่คือเหตุผล" 174 00:11:12,256 --> 00:11:14,341 ‎ดูเหมือนผมไม่มี 175 00:11:15,008 --> 00:11:18,595 ‎ความเข้าใจความรู้สึกคนอื่นเหมือนคนปกติเลย 176 00:11:19,972 --> 00:11:21,849 ‎คุณเคยคิดถามตัวเองมั้ยว่า 177 00:11:21,932 --> 00:11:24,476 ‎"ทำไมฉันไม่มีความรู้สึกแบบที่คนปกติมี" 178 00:11:25,269 --> 00:11:26,937 ‎ผมเคยคิดสงสัยนะ 179 00:11:28,939 --> 00:11:31,275 ‎มันเริ่มจากจินตนาการ ความเพ้อฝัน 180 00:11:31,358 --> 00:11:34,403 ‎มันเริ่มจากการจินตนาการเสมอ จากนั้น 181 00:11:34,486 --> 00:11:38,449 ‎สุดท้ายสิ่งที่จินตนาการไว้ก็กลายเป็นจริง 182 00:11:40,993 --> 00:11:43,036 ‎เขานำโลกในจินตนาการของเขา… 183 00:11:43,120 --> 00:11:48,459 ‎ไปถึงจุดที่คนส่วนใหญ่ไม่มีทางคิดถึงได้เลย 184 00:11:51,211 --> 00:11:52,880 ‎ผมสัมภาษณ์เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ 185 00:11:52,963 --> 00:11:55,132 ‎ตามคำขอของทนายจำเลย เจอร์รี่ บอยล์ 186 00:11:55,215 --> 00:12:00,053 ‎ผมถูกถามว่าในความคิดของผม ‎ข้อแก้ต่างว่าวิกลจริตฟังขึ้นมั้ยในคดีนี้ 187 00:12:01,305 --> 00:12:04,767 ‎ผมทำงานเป็นนักจิตวิทยานิติเวช ‎มา 30 ปีในมิลวอกี 188 00:12:04,850 --> 00:12:07,853 ‎และได้ทำคดีของดาห์เมอร์ ‎ในช่วงกลางชีวิตการทำงาน 189 00:12:08,479 --> 00:12:11,732 ‎มีคดีอื่นๆ หลังจากนั้น ‎แต่ไม่มีอะไรเหมือนคดีนี้เลย 190 00:12:14,109 --> 00:12:16,195 ‎อะไรเป็นตัวกระตุ้นทั้งหมดนี้เหรอ 191 00:12:16,945 --> 00:12:19,948 ‎ผมก็อยากมีคำตอบดีๆ ตรงๆ ให้คุณนะ 192 00:12:22,117 --> 00:12:26,121 ‎ถ้ามีส่วนไหนที่จะโยนความผิดให้ได้ 193 00:12:26,205 --> 00:12:28,290 ‎ก็ต้องเป็นความคิดวิปริตของผมเอง 194 00:12:28,373 --> 00:12:30,751 ‎ผมไม่ได้คิดเหมือนคนปกติมาหลายปีแล้ว 195 00:12:34,546 --> 00:12:36,965 ‎(กรกฎาคม 1991) 196 00:12:39,092 --> 00:12:41,637 ‎(ปี 1965) 197 00:12:45,724 --> 00:12:49,228 ‎เจฟฟรีย์ค่อนข้างสงวนท่าที ‎เมื่อพูดถึงชีวิตวัยเด็กของเขา 198 00:12:51,230 --> 00:12:54,900 ‎ฉันเห็นรูปเขาตอนเป็นเด็ก ‎กับไลโอเนล พ่อของเขา 199 00:12:54,983 --> 00:12:57,986 ‎มันดูปกติมาก 200 00:12:58,070 --> 00:13:00,531 ‎พวกเขาเล่นโยนรับลูกบอลกัน 201 00:13:00,614 --> 00:13:02,449 ‎แต่พ่อของเขาไม่อยู่บ้านบ่อยมาก 202 00:13:03,200 --> 00:13:06,870 ‎เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์และกำลังศึกษาต่อ 203 00:13:07,496 --> 00:13:10,707 ‎แต่เจฟฟ์ยืนกรานว่า ‎ไม่มีบาดแผลทางใจสาหัส 204 00:13:10,791 --> 00:13:13,460 ‎ที่จะส่งผลให้เขาทำเรื่องแบบนี้ 205 00:13:14,044 --> 00:13:16,713 ‎เขาไม่ได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือถูกทุบตี 206 00:13:16,797 --> 00:13:20,342 ‎สิ่งหนึ่งที่เจฟฟรีย์บอกฉันกับเจอร์รี่ บอยล์ 207 00:13:20,425 --> 00:13:23,720 ‎เกี่ยวกับชีวิตวัยเด็กของเขา ‎ที่ส่งผลกระทบต่อเขามาก 208 00:13:23,804 --> 00:13:27,307 ‎คือพ่อแม่ของเขามีปากเสียงกันเป็นประจ 209 00:13:28,642 --> 00:13:32,521 ‎พ่อแม่คุณมีปัญหาอะไรกันตอนคุณเป็นเด็ก 210 00:13:34,439 --> 00:13:37,693 ‎พ่อแม่ปรับตัวเข้ากันไม่ได้เลย 211 00:13:37,776 --> 00:13:39,528 ‎โดยเฉพาะแม่ผม 212 00:13:39,611 --> 00:13:40,737 ‎มีใชความรุนแรงมั้ย 213 00:13:41,238 --> 00:13:43,198 ‎มีแค่ตบไม่ก็ตี 214 00:13:43,824 --> 00:13:47,160 ‎- ใครตีใคร ‎- แม่ตีพ่อ 215 00:13:48,745 --> 00:13:50,289 ‎คุณอยู่ข้างใคร 216 00:13:51,248 --> 00:13:54,626 ‎ผมพยายามไม่อยู่ข้างใครทั้งนั้น 217 00:13:56,378 --> 00:14:00,132 ‎ผมสอบถามประวัติครอบครัว 218 00:14:00,215 --> 00:14:01,216 ‎ของทั้งสองฝั่ง 219 00:14:01,800 --> 00:14:05,637 ‎ดูว่ามีประวัติความวิกลจริตมั้ย มีอะไรแปลกๆ 220 00:14:05,721 --> 00:14:08,098 ‎เกี่ยวกับคนในครอบครัว 221 00:14:08,181 --> 00:14:09,933 ‎ที่อาจจะทำให้เราเข้าใจได้ 222 00:14:10,017 --> 00:14:13,437 ‎ว่าดาห์เมอร์กลายมาเป็นอย่างนี้ได้ยังไง 223 00:14:14,354 --> 00:14:17,858 ‎แต่ผมไม่พบอะไร ‎ทางฝั่งไลโอเนล ดาห์เมอร์เลย 224 00:14:18,734 --> 00:14:20,861 ‎ส่วนฝั่งจอยซ์ 225 00:14:20,944 --> 00:14:23,697 ‎ผมคิดว่าครอบครัวของเธอมีคนติดเหล้าบ้าง 226 00:14:24,197 --> 00:14:26,825 ‎แต่ครอบครัวมากมายก็มีคนติดเหล้า 227 00:14:27,367 --> 00:14:29,161 ‎มันเลยไม่มีความสำคัญอะไรสำหรับผม 228 00:14:31,204 --> 00:14:34,666 ‎เจฟฟรีย์มีน้องชาย ‎เขาเกิดตอนเจฟฟรีย์อายุหกขวบ 229 00:14:35,834 --> 00:14:36,793 ‎เดวิด 230 00:14:38,086 --> 00:14:41,465 ‎จากนั้นทุกความสนใจ ‎ก็หันไปทุ่มให้กับน้องชายของเขา 231 00:14:42,132 --> 00:14:45,010 ‎เจฟฟ์อยู่ตามลำพังมานานแล้ว 232 00:14:47,721 --> 00:14:49,681 ‎ตอนที่เจฟฟ์กับผมเป็นเด็ก 233 00:14:49,765 --> 00:14:52,434 ‎ผมคิดว่าเขาไม่เคยมีเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ เลย… 234 00:14:54,102 --> 00:14:56,313 ‎ผมไม่เคยเห็นคนอื่นมาหาที่บ้าน 235 00:14:56,396 --> 00:14:59,024 ‎มีแค่เจฟฟ์กับผมสองคน 236 00:15:00,484 --> 00:15:03,570 ‎ทางเข้าบ้านของเราอยู่ตรงข้ามกั 237 00:15:04,154 --> 00:15:07,741 ‎เราเลยขี่จักรยานข้ามไปหากันได้ 238 00:15:07,824 --> 00:15:09,952 ‎ไม่ก็เล่นบอล เล่นเลื่อนหิมะ 239 00:15:10,702 --> 00:15:12,537 ‎พ่อของเขาค่อนข้างเป็นกังวล 240 00:15:12,621 --> 00:15:15,582 ‎ที่เจฟฟรีย์เรียนไม่ค่อยดี 241 00:15:15,666 --> 00:15:17,501 ‎ไม่มีเพื่อนมากนัก 242 00:15:17,584 --> 00:15:19,878 ‎ไม่เคยคุยกับผู้หญิงเลย 243 00:15:21,380 --> 00:15:24,007 ‎คุณรู้ตัวนานเท่าไหร่แล้วว่า ‎คุณเป็นรักร่วมเพศ 244 00:15:24,091 --> 00:15:26,969 ‎ผมว่าตั้งแต่ 13 ขวบมั้ง 245 00:15:28,011 --> 00:15:31,682 ‎เจฟฟรีย์รับรู้รสนิยมทางเพศของตัวเอง 246 00:15:31,765 --> 00:15:33,767 ‎ตอนเขาเริ่มแตกหนุ่ม 247 00:15:33,850 --> 00:15:35,811 ‎ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา 248 00:15:37,020 --> 00:15:39,815 ‎เขารู้ว่ามันผิดไป 249 00:15:39,898 --> 00:15:42,734 ‎จากความต้องการของพ่อแม่เขา 250 00:15:43,402 --> 00:15:45,696 ‎และตอนนั้นเขาก็เริ่ม 251 00:15:45,779 --> 00:15:48,740 ‎ทดลองมีกิจกรรมทางเพศ ‎กับเด็กผู้ชายคนหนึ่งแถวบ้าน 252 00:15:50,826 --> 00:15:52,035 ‎คุณทำอะไรกัน 253 00:15:52,119 --> 00:15:53,578 ‎แค่จูบกัน 254 00:15:54,162 --> 00:15:55,706 ‎นอนด้วยกัน 255 00:15:55,789 --> 00:15:57,124 ‎บนบ้านต้นไม้ 256 00:15:57,874 --> 00:15:59,918 ‎ตอนนั้นผมอายุประมาณ 14 15 ขวบ 257 00:16:00,836 --> 00:16:02,546 ‎และเรายินยอมกันทั้งคู่ 258 00:16:04,423 --> 00:16:09,136 ‎พอเขาโตขึ้น เจฟฟรีย์ก็สร้างกำแพง ‎เก็บกดอารมณ์เอาไว้ 259 00:16:09,219 --> 00:16:11,221 ‎จากเพื่อนๆ ครูอาจารย์ 260 00:16:11,304 --> 00:16:13,724 ‎เพื่อนสมัยเด็ก และแม้แต่พ่อแม่ 261 00:16:17,436 --> 00:16:20,564 ‎ผมได้รับเลือกตั้งเป็นอัยการเขต ‎ประจำเมืองมิลวอกี 262 00:16:20,647 --> 00:16:23,066 ‎ในช่วงที่เกิดเหตุฆาตกรรมของดาห์เมอร์ 263 00:16:23,150 --> 00:16:25,777 ‎ผมเป็นอัยการดำเนินคดีเองด้วย 264 00:16:25,861 --> 00:16:28,155 ‎ผมเป็นอัยการในศาลที่ดำเนินคดีกับเขา 265 00:16:32,117 --> 00:16:34,036 ‎พอเขาเรียนม.ปลายปีสุดท้าย 266 00:16:34,119 --> 00:16:37,122 ‎เขาก็เริ่มมีจินตนาการเรื่องเพศ 267 00:16:37,205 --> 00:16:39,624 ‎หนึ่งในนั้นคือการมีเพศสัมพันธ์กับคน 268 00:16:39,708 --> 00:16:42,127 ‎ที่ยอมจำนนต่อเขาโดยสิ้นเชิง 269 00:16:42,210 --> 00:16:45,088 ‎และใช้ความรุนแรง ‎บังคับให้ใครสักคนยอมจำนนต่อเขา 270 00:16:45,714 --> 00:16:49,885 ‎ครั้งแรกที่คุณคิดอยากทำแบบนี้กับใคร ‎คือเมื่อไหร่ 271 00:16:51,762 --> 00:16:53,680 ‎- แค่จินตนาการน่ะค่ะ ‎- ครับ 272 00:16:54,347 --> 00:16:57,142 ‎น่าจะราวๆ ตอนผมอายุ 18 273 00:16:59,561 --> 00:17:02,689 ‎เขาจินตนาการถึงนักวิ่งคนหนึ่ง ‎ที่มักจะวิ่งผ่านมา 274 00:17:03,774 --> 00:17:07,486 ‎เขาอยากรู้ว่าคนนั้นดูเป็นยังไงถ้าไม่ใส่เสื้อ 275 00:17:08,320 --> 00:17:11,698 ‎เขาอยากมีเซ็กซ์กับชายหนุ่มคนนั้น ‎รู้สึกหลงใหลอยากมีเซ็กซ์ด้วย 276 00:17:12,449 --> 00:17:14,659 ‎แต่ไม่รู้จะเข้าหาเขายังไง 277 00:17:14,743 --> 00:17:18,205 ‎เจฟฟรีย์จึงตัดสินใจจะทุบให้เขาหมดสติในป่า 278 00:17:18,288 --> 00:17:20,499 ‎และมีเซ็กซ์กับเขาระหว่างที่เขาหมดสติ 279 00:17:21,333 --> 00:17:22,959 ‎จุดประสงค์ของเขาไม่ใช่เพื่อฆ่า 280 00:17:23,460 --> 00:17:27,339 ‎เขาตั้งใจจะลูบไล้ โอบกอด ‎และสำรวจร่างกายของคนนั้น 281 00:17:27,422 --> 00:17:29,257 ‎มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ 282 00:17:29,341 --> 00:17:31,218 ‎มันไม่ได้อยู่ที่ตัวคน 283 00:17:31,301 --> 00:17:33,136 ‎แต่อยู่ที่รูปร่างผู้ชายสมส่วน 284 00:17:33,220 --> 00:17:35,889 ‎ล่ำสันเหมือนนักกีฬา นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ 285 00:17:36,598 --> 00:17:40,102 ‎เขาเลื่อยไม้เบสบอลเพื่อใช้เป็นอาวุธ ‎ทำให้ผู้ชายคนนั้นสลบ 286 00:17:40,852 --> 00:17:42,479 ‎เขาซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ 287 00:17:45,524 --> 00:17:48,235 ‎แต่นักวิ่งคนนั้นกลับไม่ผ่านมา 288 00:17:48,318 --> 00:17:49,861 ‎เขาจึงล้มเลิกความคิด 289 00:17:51,613 --> 00:17:54,783 ‎นั่นเป็นจินตนาการถึงความรุนแรงครั้งแรก ‎ของดาห์เมอร์ก็ว่าได้ 290 00:17:55,492 --> 00:17:58,829 ‎ที่จะทำแบบนี้กับผู้ชายคนนี้ ‎ที่วิ่งผ่านแถวบ้านของเขา 291 00:18:04,668 --> 00:18:07,337 ‎(ปี 1978) 292 00:18:09,506 --> 00:18:11,842 ‎(กรกฎาคม 1991) 293 00:18:14,636 --> 00:18:17,055 ‎จากสถานีดับเบิลยูทีเอ็มเจทีวี 294 00:18:17,139 --> 00:18:19,391 ‎ช่องข่าว 24 ชั่วโมงของมิลวอกี 295 00:18:20,100 --> 00:18:23,270 ‎กับรายการเดย์เบรกจากข่าวช่องสี่ค่ะ 296 00:18:24,187 --> 00:18:27,399 ‎ครั้งแรกที่ผมมีโอกาส ‎ได้เผยแพร่ข่าวนี้กับทั่วโลก 297 00:18:27,482 --> 00:18:31,278 ‎คือช่วงรายงานสดในรายการข่าวตอนเช้า 298 00:18:31,361 --> 00:18:35,031 ‎อรุณสวัสดิ์ค่ะ มีการค้นพบเหตุอันน่าสยดสยอง ‎ในมิลวอกีเมื่อคืนนี้ 299 00:18:35,115 --> 00:18:39,035 ‎ตำรวจมิลวอกีพบเหตุสะเทือนขวัญ ‎ในอาคารอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง 300 00:18:39,578 --> 00:18:43,999 ‎สิ่งที่ผมรายงาน ‎ทำให้ผู้ประกาศข่าวที่สถานีช็อกไปเลย 301 00:18:44,082 --> 00:18:47,127 ‎ไมค์และจูเลียตครับ ‎ตำรวจมาถึงที่นี่ตอนกลางดึก 302 00:18:47,210 --> 00:18:51,339 ‎และพบอะพาร์ตเมนต์ที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนมนุษย์ 303 00:18:51,423 --> 00:18:55,093 ‎ผู้ชายหลายคนที่ถูกฆ่าโดยชายคนหนึ่ง ‎ที่อาศัยอยู่ที่นี่ 304 00:18:55,177 --> 00:18:58,388 ‎ดูเหมือนเป็นการฆาตกรรมหมู่ ‎ที่มีแรงจูงใจทางเพศ 305 00:18:59,598 --> 00:19:02,392 ‎ตอนท้ายของการรายงาน ผมนึกว่าจะมีคำถาม 306 00:19:02,475 --> 00:19:04,936 ‎ผู้ประกาศข่าวมักจะมีคำถามป้อนให้เสมอ 307 00:19:05,520 --> 00:19:07,105 ‎ศพถูกชำแหละแยกชิ้นส่วน 308 00:19:07,189 --> 00:19:09,649 ‎ดังนั้นการปะติดปะต่อข้อมูล 309 00:19:09,733 --> 00:19:12,485 ‎เพื่อตรวจสอบว่าเหยื่อเป็นใครบ้าง ‎จะยากมาก 310 00:19:13,236 --> 00:19:14,404 ‎พวกเขาเงียบกริบ 311 00:19:17,199 --> 00:19:21,203 ‎ผมถามพวกเขาทีหลังว่า ‎"เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ถามอะไรผมเลย" 312 00:19:21,286 --> 00:19:24,789 ‎พวกเขาตอบว่า "เรากำลังอึ้ง ‎คิดคำถามไม่ออกเลย" 313 00:19:28,043 --> 00:19:29,544 ‎ผมจำได้ว่าไปถึงที่เกิดเหตุ 314 00:19:29,628 --> 00:19:32,172 ‎เพราะนักข่าวย่อมอยากเห็นด้วยตาตัวเอง 315 00:19:32,255 --> 00:19:34,549 ‎มันวุ่นวายยังกับสวนสัตว์ 316 00:19:35,759 --> 00:19:38,136 ‎เป็นอย่างนั้นวันแล้ววันเล่า 317 00:19:38,929 --> 00:19:43,016 ‎ผู้คนตกตะลึง สะเทือนขวัญ ‎และหนีไปจากข่าวนี้ไม่ได้ 318 00:19:49,814 --> 00:19:53,193 ‎มันเป็นเรื่องใหญ่เกินจะคาดคิดได้เลย 319 00:19:53,276 --> 00:19:55,195 ‎มีทั้งความกระสับกระส่าย 320 00:19:55,278 --> 00:19:58,698 ‎มีความตื่นเต้นด้วยบ้าง 321 00:19:59,407 --> 00:20:01,910 ‎แต่ก็กังวลว่าฉันทำหน้าที่ได้ถูกต้องมั้ย 322 00:20:02,452 --> 00:20:04,871 ‎พ่อแม่คุณแยกทางกันเมื่อไหร่ 323 00:20:04,955 --> 00:20:06,331 ‎ตอนผมอายุ 18 324 00:20:07,040 --> 00:20:08,667 ‎ในปี 1978 325 00:20:09,709 --> 00:20:13,421 ‎คอยตอกย้ำให้เขาเข้าใจว่า ‎ฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้เพื่อตัดสินเขา 326 00:20:14,130 --> 00:20:16,091 ‎เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด 327 00:20:16,174 --> 00:20:17,842 ‎เพื่อให้ได้ข้อมูลโดยเร็ว 328 00:20:17,926 --> 00:20:19,844 ‎เพราะมีข้อมูลมากมายเหลือเกิน 329 00:20:21,012 --> 00:20:24,516 ‎การได้รับความไว้วางใจนั้นส่งผลสำคัญเลย 330 00:20:26,101 --> 00:20:29,562 ‎พ่อกับแม่ก็มีปัญหากันตามประสา 331 00:20:30,355 --> 00:20:33,358 ‎ผมทำอะไร ‎เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ไม่ได้ ดังนั้น 332 00:20:33,858 --> 00:20:35,402 ‎ผมจึงพยายาม 333 00:20:35,902 --> 00:20:39,364 ‎หาความสุขในแบบของผมเอง 334 00:20:40,031 --> 00:20:42,200 ‎ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นแบบที่ผิด 335 00:20:44,869 --> 00:20:47,330 ‎(กรกฎาคม 1991) 336 00:20:49,416 --> 00:20:51,835 ‎(ปี 1978) 337 00:20:51,918 --> 00:20:53,461 ‎(โรงเรียนมัธยมปลายรีเวียร์) 338 00:20:53,545 --> 00:20:56,047 ‎ดาห์เมอร์เพิ่งเรียนจบมัธยมปลาย 339 00:20:58,341 --> 00:21:00,427 ‎พ่อแม่ของเขากำลังจะหย่ากัน 340 00:21:00,510 --> 00:21:03,596 ‎ดาห์เมอร์อยู่ตัวคนเดียว ‎ที่บ้านในเมืองบาธ รัฐโอไฮโอ 341 00:21:05,265 --> 00:21:07,642 ‎แม่เขาไล่พ่อเขาออกจากบ้าน 342 00:21:07,726 --> 00:21:09,894 ‎พ่อเขาย้ายไปอยู่ที่โมเต็ล 343 00:21:10,812 --> 00:21:12,564 ‎พ่อของเขาไม่รู้เลยว่า 344 00:21:12,647 --> 00:21:14,899 ‎แม่เขาตัดสินใจว่า "พอกันที" 345 00:21:14,983 --> 00:21:17,694 ‎แล้วปุบปับทิ้งเขาไป ‎และพาน้องชายเขาไปด้วย 346 00:21:18,611 --> 00:21:20,322 ‎ฉันคิดว่าตอนนั้นพ่อเขาไม่รู้ 347 00:21:20,405 --> 00:21:24,117 ‎ว่าแม่เขาจากไปยังรัฐวิสคอนซิน 348 00:21:25,118 --> 00:21:28,330 ‎เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ไม่เคยใช้คำว่า ‎"ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง" 349 00:21:28,413 --> 00:21:32,459 ‎แต่ผมคิดว่าเขาน่าจะคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ดี 350 00:21:33,543 --> 00:21:36,880 ‎วันที่เธอจากไปยังเมืองชิปเปวาฟอลส์ ‎คุณไม่เคยคุยกับเธออีกเลยเหรอ 351 00:21:36,963 --> 00:21:38,048 ‎ครับ 352 00:21:38,131 --> 00:21:40,133 ‎ตอนนั้นคุณรู้สึกยังไง 353 00:21:40,216 --> 00:21:41,760 ‎หดหู่ 354 00:21:41,843 --> 00:21:43,303 ‎เหงาและเบื่อ 355 00:21:44,971 --> 00:21:46,598 ‎สับสนละมั้ง 356 00:21:48,016 --> 00:21:49,893 ‎ไม่มีใครอยู่บ้าน 357 00:21:50,602 --> 00:21:52,479 ‎ผมเห็นผู้ชายคนนึงโบกรถอยู่ 358 00:21:52,562 --> 00:21:56,316 ‎ผมคิดว่าถ้ามีคนเอาไว้คุยด้วยก็คงดี 359 00:21:57,150 --> 00:22:01,321 ‎และเป็นคนที่ผมอยากมีเซ็กซ์ด้วย 360 00:22:05,742 --> 00:22:07,118 ‎(วันที่ 18 มิถุนายน 1978) 361 00:22:07,202 --> 00:22:09,996 ‎(สามสัปดาห์หลังจบมัธยมปลาย) 362 00:22:10,080 --> 00:22:14,834 ‎ในปี 1978 สตีเว่น ฮิกส์โบกรถ ‎เพื่อไปคอนเสิร์ตเพลงร็อก 363 00:22:14,918 --> 00:22:17,087 ‎(แอนน์ อี ชวาทซ์ ‎นักข่าว มิลวอกีจัวร์แนล) 364 00:22:19,089 --> 00:22:24,010 ‎สิ่งหนึ่งที่เจฟฟรีย์สนใจมาตลอด 365 00:22:24,886 --> 00:22:27,597 ‎คือช่วงลำตัว ร่างกาย 366 00:22:27,680 --> 00:22:31,684 ‎ว่าคนนั้นรูปร่างดี มีเสน่ห์ยังไงบ้าง 367 00:22:32,727 --> 00:22:34,979 ‎นั่นคือแรงผลักดันความสนใจของเขา 368 00:22:36,314 --> 00:22:37,857 ‎นั่นคือสิ่งที่ดึงดูดผม 369 00:22:38,358 --> 00:22:39,984 ‎รูปร่างดี 370 00:22:40,068 --> 00:22:41,903 ‎รูปร่างกำยำ 371 00:22:42,487 --> 00:22:44,739 ‎นั่นคือแรงจูงใจ 372 00:22:45,657 --> 00:22:48,827 ‎พอเจอสตีเว่น ฮิกส์โบกรถโดยที่ไม่ใส่เสื้อ 373 00:22:49,411 --> 00:22:52,914 ‎เขาบอกกับฉันว่า "มันเหลือเชื่อเลย ‎นี่คือจินตนาการของผม" 374 00:22:53,581 --> 00:22:55,583 ‎"ทีนี้ก็ทำตามจินตนาการได้แล้ว" 375 00:22:56,209 --> 00:22:57,210 ‎เจฟฟรีย์คิดว่า 376 00:22:57,293 --> 00:23:00,880 ‎"เป็นโอกาสที่ดีมาก ‎ฉันมีรถ มีบ้าน ไม่มีใครอยู่" 377 00:23:00,964 --> 00:23:04,509 ‎"ลองชวนผู้ชายคนนี้กลับบ้านด้วยละกัน" 378 00:23:05,218 --> 00:23:07,512 ‎เขาหยุดรถ คุยกับสตีเว่น บอกว่า 379 00:23:07,595 --> 00:23:09,931 ‎"ฉันมีเบียร์กับกัญชาอยู่ที่บ้าน" 380 00:23:10,014 --> 00:23:12,725 ‎"อยากกลับไปแบ่งกันหน่อยมั้ย" 381 00:23:13,560 --> 00:23:14,978 ‎สตีเว่น ฮิกส์ตอบตกลง 382 00:23:15,562 --> 00:23:17,730 ‎คุณฮิกส์ไม่ใช่เกย์ 383 00:23:18,440 --> 00:23:20,358 ‎พวกเขาไม่มีปฏิสัมพันธ์ทางเพศกันเลย 384 00:23:22,610 --> 00:23:24,821 ‎คุณไม่ได้ทำอะไรกับเขาเลยเหรอ 385 00:23:24,904 --> 00:23:25,822 ‎ไม่เลย 386 00:23:27,031 --> 00:23:29,701 ‎ผมพอรู้สึกได้ว่า ‎เขาไม่สนใจอะไรอย่างนั้นเลย 387 00:23:29,784 --> 00:23:31,786 ‎หลังจากคุยกับเขาสักพัก 388 00:23:31,870 --> 00:23:34,038 ‎ผมเชื่อว่าผมไม่ได้ถามเขานะ เปล่าเลย 389 00:23:34,831 --> 00:23:35,832 ‎โอเค 390 00:23:36,833 --> 00:23:40,086 ‎ถึงจุดหนึ่ง สตีเว่น ฮิกส์บอกเจฟฟรีย์ว่า 391 00:23:40,170 --> 00:23:42,964 ‎"ฉันต้องไป อยู่ต่อไม่ได้แล้ว" 392 00:23:43,047 --> 00:23:45,383 ‎"เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยว่าฉันอยู่ไหน" 393 00:23:46,593 --> 00:23:48,303 ‎เจฟฟรีย์ไม่อยากปล่อยให้เขาไป 394 00:23:50,513 --> 00:23:51,973 ‎นั่นเป็นครั้งแรก 395 00:23:53,516 --> 00:23:56,352 ‎ผมมีความต้องการอยากควบคุมเขา 396 00:23:57,520 --> 00:23:59,063 ‎ผมไม่รู้สึกอะไรแล้ว 397 00:23:59,772 --> 00:24:02,650 ‎ผมเลยตัดสินใจว่า 398 00:24:03,568 --> 00:24:06,529 ‎จะลงมือทำเลย ไม่ว่าเขาจะเป็นเกย์รึเปล่า 399 00:24:06,613 --> 00:24:08,281 ‎มันไม่สำคัญหรอก 400 00:24:10,742 --> 00:24:13,661 ‎ดาห์เมอร์คว้าคานยกน้ำหนักมาจากชุดออกกำลัง 401 00:24:13,745 --> 00:24:16,331 ‎แล้วฟาดไปที่หัวของสตีเว่น ฮิกส์ 402 00:24:30,303 --> 00:24:34,849 ‎ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงทำร้ายเขา ‎รู้แค่ว่าผมอยากอยู่กับเขานานอีกหน่อย 403 00:24:36,643 --> 00:24:39,437 ‎ตอนนั้นสตีเว่นหมดสติไป 404 00:24:39,521 --> 00:24:43,900 ‎และเจฟฟรีย์ใช้คานยกน้ำหนักรัดคอสตีเว่น 405 00:24:44,609 --> 00:24:47,195 ‎ผมคิดว่ามันสุดยอดมาก 406 00:24:47,278 --> 00:24:50,782 ‎ที่ผมได้ลงมือทำจริงๆ ซะที 407 00:24:50,865 --> 00:24:52,408 ‎กับมนุษย์อีกคนหนึ่ง 408 00:24:52,492 --> 00:24:53,868 ‎มันทำให้ผมตกใจมาก 409 00:24:53,952 --> 00:24:56,037 ‎ที่ผมมาถึงจุดนี้ได้ 410 00:24:57,330 --> 00:24:59,582 ‎มีทั้งความรู้สึกตื่นเต้น 411 00:24:59,666 --> 00:25:00,625 ‎การควบคุม 412 00:25:01,209 --> 00:25:03,503 ‎แต่ก็ระคนไปด้วยความกลัว 413 00:25:04,754 --> 00:25:06,881 ‎- คุณทำอะไรกับศพของเขา ‎- ไม่ได้ทำอะไรเลย 414 00:25:06,965 --> 00:25:08,550 ‎มันอยู่ข้างใต้… 415 00:25:09,342 --> 00:25:12,387 ‎มันอยู่ในช่องคลานใต้พื้นบ้าน 416 00:25:12,470 --> 00:25:14,889 ‎- คุณลงไปดูเขารึเปล่า ‎- ครั้งเดียว 417 00:25:14,973 --> 00:25:16,516 ‎แต่แค่มองดูเขา 418 00:25:17,559 --> 00:25:20,645 ‎คุณคิดอะไรอยู่ขณะที่มองดูเขา 419 00:25:23,565 --> 00:25:26,776 ‎เป็นความสงสัยแปลกๆ น่ะว่า… 420 00:25:28,653 --> 00:25:30,822 ‎ว่าคนตายสภาพเป็นยังไง 421 00:25:34,784 --> 00:25:37,912 ‎ความอยากรู้อยากเห็น ‎ผสมกับความกลัว 422 00:25:41,040 --> 00:25:42,542 ‎หลังจากนั้น 423 00:25:42,625 --> 00:25:46,296 ‎เขาก็รู้สึกกระวนกระวาย เสียขวัญ 424 00:25:46,838 --> 00:25:50,383 ‎"ฉันจะทำยังไงกับศพดี จะกำจัดยังไงดี" 425 00:25:57,515 --> 00:26:00,143 ‎ผมเริ่มหั่นเขาออกเป็นชิ้นๆ 426 00:26:00,226 --> 00:26:02,770 ‎มีบางอย่างในตัวเขาที่ผมจำได้ 427 00:26:02,854 --> 00:26:06,107 ‎ผมตัดขาออก ตามด้วยแขนแล้วก็หัว 428 00:26:07,817 --> 00:26:09,319 ‎คุณสัมผัสตัวเขาอีกรึเปล่า 429 00:26:09,402 --> 00:26:11,321 ‎คงจะทำมั้ง 430 00:26:11,404 --> 00:26:12,864 ‎ตับและหัวใจ 431 00:26:15,700 --> 00:26:17,910 ‎เขาเก็บส่วนหัวแยกไว้สักพัก 432 00:26:17,994 --> 00:26:21,164 ‎เขาสำเร็จความใคร่กับชิ้นส่วนศพ 433 00:26:22,081 --> 00:26:26,502 ‎คุณเป็นกังวลบ้างมั้ยว่า ‎ทำไมคุณถึงรู้สึกพึงพอใจในตอนนั้น 434 00:26:26,586 --> 00:26:30,089 ‎ตอนที่คุณอายุ 18 ปี และใช้เขาสำเร็จความใคร่ 435 00:26:30,840 --> 00:26:33,593 ‎ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตอนนี้ผมรู้เหตุผล 436 00:26:33,676 --> 00:26:37,013 ‎ผมรู้สึกตื่นเต้นจากการทำอย่างนั้น 437 00:26:38,806 --> 00:26:39,932 ‎แต่ผมก็ทำไปแล้ว 438 00:26:40,892 --> 00:26:43,144 ‎คุณเก็บเขาไว้ในบ้านนานเท่าไหร่ 439 00:26:44,604 --> 00:26:46,773 ‎ไม่รู้สิ หกชั่วโมงมั้ง 440 00:26:51,819 --> 00:26:53,696 ‎เขารู้สึกสมหวังที่สุด 441 00:26:53,780 --> 00:26:56,157 ‎จากสิ่งที่เขาทำกับศพหลังจากนั้น 442 00:26:57,200 --> 00:26:59,786 ‎จริงอยู่ที่เขามีความผิดปกติทางเพศ 443 00:27:00,912 --> 00:27:05,458 ‎เพื่อพยายามทำให้เขาใช้ข้ออ้างว่าวิกลจริตได้ 444 00:27:05,541 --> 00:27:09,754 ‎ฉันรู้ว่าผู้เชี่ยวชาญของเราคนหนึ่ง ‎วิเคราะห์ละเอียดมาก 445 00:27:11,089 --> 00:27:13,091 ‎ผมเป็นนักจิตวิทยานิติเวช 446 00:27:13,633 --> 00:27:16,636 ‎เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญในคดีเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ 447 00:27:19,013 --> 00:27:22,266 ‎ผมมีความเชี่ยวชาญด้านภาวะกามวิปริต ‎หรือภาษาชาวบ้านคือ 448 00:27:22,350 --> 00:27:24,018 ‎ความผิดปกติทางเพศ 449 00:27:24,102 --> 00:27:27,480 ‎ผู้คนที่มีรสนิยมทางเพศแตกต่าง ‎หรือผิดไปจากปกติ 450 00:27:28,773 --> 00:27:31,609 ‎ผมวินิจฉัยว่า ‎คุณดาห์เมอร์ชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพ 451 00:27:32,235 --> 00:27:34,737 ‎การชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพเป็นอาการ 452 00:27:34,821 --> 00:27:36,698 ‎ที่เมื่อคนคนหนึ่ง 453 00:27:36,781 --> 00:27:38,157 ‎มีอารมณ์กระตุ้นทางเพศ 454 00:27:38,241 --> 00:27:41,577 ‎จากการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ตายไปแล้ว 455 00:27:43,246 --> 00:27:44,956 ‎มีศพอยู่ที่นั่น 456 00:27:45,540 --> 00:27:46,874 ‎มีเจฟฟรีย์ 457 00:27:47,458 --> 00:27:51,254 ‎ประมาณตีสาม เขาตัดสินใจกำจัดศพ 458 00:27:51,337 --> 00:27:53,464 ‎ด้วยการนำศพไปที่หุบเขา 459 00:27:53,548 --> 00:27:56,050 ‎ที่เขารู้ว่าอยู่ห่างไปไม่กี่กิโลเมตร 460 00:28:00,930 --> 00:28:03,766 ‎เขานำศพออกไป ใส่ไว้ในถุงขยะ 461 00:28:03,850 --> 00:28:08,146 ‎และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้หยุด ‎เพราะเขาขับข้ามเส้นจราจร 462 00:28:12,066 --> 00:28:15,111 ‎ตำรวจตรวจว่า ‎เขาขับรถระหว่างเมามั้ย เขาผ่าน 463 00:28:15,194 --> 00:28:18,197 ‎ตำรวจส่องไฟฉายไปที่ด้านหลังรถ 464 00:28:18,281 --> 00:28:21,701 ‎และมีถุงขยะที่ใส่ศพของสตีเว่น ฮิกส์อยู่ 465 00:28:21,784 --> 00:28:25,580 ‎ตำรวจถามว่าถุงอะไร ‎"ขยะครับ พ่อแม่ผมกำลังแยกทากัน" 466 00:28:25,663 --> 00:28:28,624 ‎"ผมอยู่คนเดียว นอนไม่หลับ ‎เลยออกมาทิ้งขยะ" 467 00:28:28,708 --> 00:28:32,545 ‎เขามีถุงศพอยู่ที่เบาะหลัง ‎ศพที่เขาเพิ่งฆ่ามา 468 00:28:32,628 --> 00:28:36,632 ‎และกำลังคุยกับตำรวจ ‎เขาเป็นเด็กหนุ่มวัย 18 ปั 469 00:28:36,716 --> 00:28:39,552 ‎ดาห์เมอร์รู้ว่าอาจมีปัญหาได้ ‎แต่ใจเย็นตอบไปว่า 470 00:28:39,635 --> 00:28:43,931 ‎"แค่กำลังไปทิ้งขยะครับ" ‎ตำรวจก็เชื่อเขา 471 00:28:44,015 --> 00:28:47,560 ‎ตำรวจเห็นถุงขยะ แต่ไม่ได้เปิดดูว่ามีอะไร 472 00:28:48,394 --> 00:28:51,147 ‎เขาพูดให้ตำรวจเชื่อได้ 473 00:28:51,731 --> 00:28:54,525 ‎หลังจากนั้นเขารู้ว่าเขาตบตาคนได้ 474 00:28:54,609 --> 00:28:58,613 ‎เขารู้ว่าเขาอ้างกับคนอื่นแล้วรอดตัวไปได้ 475 00:28:59,489 --> 00:29:02,033 ‎เขาเลี้ยวรถวนกลับไปที่บ้าน 476 00:29:03,826 --> 00:29:08,539 ‎เขาเจอท่อเหล็กเคลือบสังกะสี ‎เขาบอกว่ายาวประมาณสองฟุต 477 00:29:08,623 --> 00:29:10,458 ‎เขาเอาถุงยัดใส่ลงไปในนั้น 478 00:29:11,250 --> 00:29:14,003 ‎เขาออกไปที่สะพานข้ามแม่น้ำ 479 00:29:14,086 --> 00:29:17,465 ‎แล้วโยนของใช้ส่วนตัวอื่นๆ 480 00:29:17,548 --> 00:29:19,217 ‎ของคุณฮิกส์ทิ้ง 481 00:29:19,967 --> 00:29:22,595 ‎รวมทั้งมีดที่เขาใช้ 482 00:29:22,678 --> 00:29:25,181 ‎เพื่อหั่นศพออกเป็นชิ้นๆ ให้กำจัดง่าย 483 00:29:26,182 --> 00:29:28,184 ‎ตอนนั้นพ่อพักอยู่ที่โรงแรม 484 00:29:28,267 --> 00:29:31,646 ‎ผมเลยอยู่ตัวคนเดียวสองสามเดือน 485 00:29:32,480 --> 00:29:34,649 ‎ช่วงที่พ่อคุณพักอยู่ที่โรงแรม 486 00:29:34,732 --> 00:29:36,651 ‎คุณคุยกับพ่อกี่ครั้ง 487 00:29:37,693 --> 00:29:39,529 ‎น่าจะสัปดาห์ละครั้งสองครั้ง 488 00:29:40,655 --> 00:29:43,783 ‎พ่อของเขากับชารี ว่าที่แม่เลี้ยงของเขา 489 00:29:43,866 --> 00:29:45,243 ‎กลับมาที่บ้าน 490 00:29:45,326 --> 00:29:47,370 ‎ในตู้เย็นไม่ค่อยมีอาหารมากน 491 00:29:47,453 --> 00:29:49,413 ‎มีขวดเหล้าเกลื่อน 492 00:29:49,497 --> 00:29:53,125 ‎ดูเป็นชีวิตที่มีปัญหาของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง 493 00:29:54,210 --> 00:29:56,462 ‎พ่อของเขาค่อนข้างเป็นห่วง 494 00:29:56,546 --> 00:29:58,464 ‎พวกเขาเลยย้ายกลับมาอยู่ด้วย 495 00:30:02,802 --> 00:30:05,805 ‎หลังจากนั้น คุณบอกว่า ‎คุณไปเรียนที่ม.โอไฮโอสเตทเหรอ 496 00:30:05,888 --> 00:30:07,515 ‎ประมาณสามเดือน 497 00:30:09,642 --> 00:30:13,604 ‎ดื่มเหล้าหนักมาก เกรดเลยไม่ค่อยดี 498 00:30:15,231 --> 00:30:18,985 ‎ผมคิดว่าพ่อของเขาส่งเขาไป… ‎เรียนม.โอไฮโฮสเตท 499 00:30:19,068 --> 00:30:21,821 ‎เขาดื่มเหล้าหนักมาก จนสุดท้ายก็โดนไล่ออก 500 00:30:22,864 --> 00:30:24,532 ‎พ่อกับแม่เลี้ยงของเขา 501 00:30:24,615 --> 00:30:27,869 ‎ตัดสินใจส่งเขาไปเป็นทหาร 502 00:30:29,829 --> 00:30:32,415 ‎พ่อแม่ส่งผมไปฝึกขั้นพื้นฐาน 503 00:30:33,332 --> 00:30:35,001 ‎แล้วก็ฝึกเป็นแพทย์สนาม 504 00:30:36,878 --> 00:30:38,588 ‎เขาบอกฉันว่า 505 00:30:38,671 --> 00:30:41,549 ‎เขาได้ไปเรียนรู้ที่นั่น 506 00:30:41,632 --> 00:30:44,176 ‎ความสามารถในการระบุอวัยวะได้ 507 00:30:44,260 --> 00:30:47,054 ‎จากการฝึกในกองทัพ 508 00:30:47,555 --> 00:30:51,183 ‎เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ถูกปลดประจำการ ‎เพราะดื่มเหล้า 509 00:30:51,851 --> 00:30:53,853 ‎ผมดื่มหนักอีกครั้ง 510 00:30:53,936 --> 00:30:56,439 ‎เลยต้องย้ายกลับไปอยู่โอไฮโอ 511 00:30:57,189 --> 00:30:58,524 ‎กับพ่อแม่ 512 00:30:59,859 --> 00:31:03,362 ‎พอเขากลับมาอยู่ที่บ้านสามปีต่อมา 513 00:31:03,988 --> 00:31:06,657 ‎ถุงที่ใส่ศพของสตีเว่น ฮิกส์ 514 00:31:07,658 --> 00:31:09,368 ‎ถุงพวกนั้นก็ยังอยู่ที่บ้าน 515 00:31:14,165 --> 00:31:17,877 ‎เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ทิ้งซากศพของสตีฟ ฮิกส์ 516 00:31:17,960 --> 00:31:20,713 ‎กระจัดกระจายทั่วพื้นที่ป่าขนาดเอเคอร์กว่า 517 00:31:20,796 --> 00:31:22,590 ‎ที่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ 518 00:31:22,673 --> 00:31:26,052 ‎ชายหนุ่มคนนี้หายตัวไปอย่างลึกลับ 519 00:31:28,971 --> 00:31:32,808 ‎คิดดูสิ ไม่มีใครรู้จนถึงเดือนกรกฎาคม 1991 520 00:31:32,892 --> 00:31:36,729 ‎ลูกชายของพวกเขาหายตัวไป ‎ในเดือนมิถุนายน 1978 521 00:31:36,812 --> 00:31:38,481 ‎นานถึง 13 ปี 522 00:31:38,564 --> 00:31:42,109 ‎ครอบครัวไม่รู้เลยว่า ‎เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายพวกเขา 523 00:31:42,193 --> 00:31:43,235 ‎สตีเว่น ฮิกส์ 524 00:31:44,070 --> 00:31:45,947 ‎(หัวข้อ: คนหาย/ฆาตกรรม) 525 00:31:46,030 --> 00:31:48,950 ‎(เหยื่อ: สตีเว่น มาร์ค ฮิกส์) 526 00:31:49,033 --> 00:31:50,618 ‎(จับกุม: เจฟฟรีย์ เอล ดาห์เมอร์) 527 00:31:50,701 --> 00:31:51,953 ‎(ฆาตกรรม: สตีเว่น ฮิกส์) 528 00:31:52,036 --> 00:31:54,205 ‎ผมไม่สบายใจมาก 529 00:31:57,124 --> 00:32:00,169 ‎ความรู้สึกเป็นยังไงคะ ‎ที่บอกว่าไม่สบายใจ 530 00:32:00,252 --> 00:32:01,963 ‎คุณรู้สึกยังไง 531 00:32:02,046 --> 00:32:03,339 ‎รู้สึกผิดมาก 532 00:32:04,465 --> 00:32:06,592 ‎ตัดสินใจไม่ได้ว่าผมควร 533 00:32:07,802 --> 00:32:08,886 ‎สารภาพออกไปมั้ย 534 00:32:13,057 --> 00:32:15,476 ‎ผมไม่เคยมีความกล้าสารภาพเลย 535 00:32:15,559 --> 00:32:17,144 ‎ตอนนั้นคุณคิดอะไรอยู่ 536 00:32:17,853 --> 00:32:21,065 ‎ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ 537 00:32:22,525 --> 00:32:26,612 ‎และผมไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรแบบนั้นอีก 538 00:32:29,699 --> 00:32:32,368 ‎(ปี 1978) 539 00:32:34,495 --> 00:32:36,789 ‎(สิงหาคม 1991) 540 00:32:38,833 --> 00:32:40,960 ‎ระหว่างการสัมภาษณ์เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ 541 00:32:41,043 --> 00:32:44,088 ‎เราคุยกับเขาเรื่องคนในครอบครัว 542 00:32:44,171 --> 00:32:46,674 ‎เจฟฟ์พูดว่า ‎"อย่าเอาครอบครัวผมมาเกี่ยวข้อง" 543 00:32:47,550 --> 00:32:51,762 ‎เขาพูดว่า "พ่อแม่ผมไม่รู้อะไร ‎เกี่ยวกับการกระทำของผมเลย" 544 00:32:52,763 --> 00:32:54,348 ‎ผมบอกไลโอเนล 545 00:32:54,432 --> 00:32:55,766 ‎พ่อของเจฟฟ์ 546 00:32:56,434 --> 00:32:59,603 ‎เรื่องคดีฆาตกรรม และเขาช็อกไปเลย 547 00:33:00,187 --> 00:33:03,733 ‎เขาไม่เข้าใจว่า ‎ลูกของเขาทำอย่างนี้กับใครได้ยังไง 548 00:33:04,650 --> 00:33:07,486 ‎ครอบครัวของเขามีปฏิกิริยายังไงกับเรื่องนี้ครับ 549 00:33:08,154 --> 00:33:11,032 ‎ผมพูดได้แค่ว่า คงเดาได้ 550 00:33:11,115 --> 00:33:13,784 ‎ว่าครอบครัวใครก็ตามจะมีปฏิกิริยายังไง 551 00:33:13,868 --> 00:33:17,872 ‎พวกเขารู้สึกสลดใจเช่นกัน 552 00:33:18,497 --> 00:33:21,751 ‎พวกเขารู้สึกเลวร้ายมาก ‎ที่เกิดเหตุอันน่าเศร้านี้ขึ้น 553 00:33:22,334 --> 00:33:25,463 ‎รู้สึกเสียใจกับเหยื่อ ‎และครอบครัวของเหยื่อด้วย 554 00:33:25,546 --> 00:33:28,507 ‎และแน่นอนว่ารู้สึกเสียใจกับลูกชายตัวเอง 555 00:33:28,591 --> 00:33:31,260 ‎พวกเขาเป็นครอบครัวที่ดีและวิเศษมาก 556 00:33:31,802 --> 00:33:34,472 ‎ไลโอเนล พ่อของเขาเป็นคนดีมาก 557 00:33:34,555 --> 00:33:37,141 ‎และเขาก็เจ็บปวดไม่แพ้ใคร 558 00:33:37,725 --> 00:33:39,060 ‎(เสียงของไลโอเนล ดาห์เมอร์) 559 00:33:39,143 --> 00:33:43,272 ‎ผมรักลูก ผมไม่รู้เลยว่าเขาป่วยขนาดไหน 560 00:33:43,981 --> 00:33:47,026 ‎และต่อไปนี้ เหมือนที่ทำมาตลอด 561 00:33:47,109 --> 00:33:49,487 ‎ผมจะภาวนาและระลึกถึงเขาตลอดไป 562 00:33:56,285 --> 00:33:58,037 ‎นักสืบอนุญาตให้เขาสูบบุหรี่ 563 00:33:58,120 --> 00:34:00,831 ‎และดื่มกาแฟได้มากเท่าที่ต้องการ 564 00:34:01,832 --> 00:34:04,043 ‎มันทำให้เขาใจเย็นและยอมคุยด้วย 565 00:34:04,126 --> 00:34:07,922 ‎ฉันคิดว่าถ้าไม่ได้สิ่งเหล่านั้น ‎เราคงไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด 566 00:34:08,506 --> 00:34:11,801 ‎เพราะเขาเต็มใจคุยต่อไปเรื่อยๆ 567 00:34:11,884 --> 00:34:14,720 ‎ขอแค่เขายังมีบุหรี่กับกาแฟ 568 00:34:15,429 --> 00:34:19,558 ‎มันยากนะที่ต้องขุดคุ้ยความรู้สึก ‎และแรงจูงใจอะไรพวกนี้ 569 00:34:19,642 --> 00:34:22,978 ‎ฉันรู้ว่ามันยากมาก ถ้ายากเกินไป บอกได้นะ 570 00:34:23,521 --> 00:34:25,231 ‎- คุณรู้ว่า‎… ‎- ใช่ ยากมาก 571 00:34:25,815 --> 00:34:28,109 ‎การพูดออกมาและวิเคราะห์ 572 00:34:29,151 --> 00:34:30,778 ‎ทำให้ผมเห็นว่า 573 00:34:31,529 --> 00:34:33,656 ‎ความคิดผมวิปริตขนาดไหน 574 00:34:35,908 --> 00:34:38,494 ‎เมื่อความสัมพันธ์ของฉันกับเขาคืบหน้าไป 575 00:34:38,577 --> 00:34:41,455 ‎เขาก็ยิ่งเต็มใจ 576 00:34:41,539 --> 00:34:45,292 ‎อธิบายรายละเอียดของแต่ละคดีมากขึ 577 00:34:45,376 --> 00:34:46,836 ‎ของการฆาตกรรมแต่ละครั้ง 578 00:34:48,212 --> 00:34:51,340 ‎จนบางครั้งฉันรู้สึกเหมือนเป็นแม่ของเขา 579 00:34:51,423 --> 00:34:54,426 ‎บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนเขาเป็นน้องชายฉัน 580 00:34:54,510 --> 00:34:57,596 ‎บางครั้งก็เหมือนฉันเป็นนักบำบัดของเขา 581 00:34:59,473 --> 00:35:01,976 ‎คุณเคยพยายามพัฒนาเป็นความสัมพันธ์มั้ย 582 00:35:02,059 --> 00:35:05,104 ‎ไม่ ผมว่าไม่เคยนะ 583 00:35:05,187 --> 00:35:06,605 ‎ทำไมล่ะคะ 584 00:35:06,689 --> 00:35:09,942 ‎เป็นเพราะสถานการณ์ที่บ้านน่ะ 585 00:35:10,025 --> 00:35:11,944 ‎ผมไม่สามารถสานต่อ 586 00:35:12,027 --> 00:35:15,156 ‎ความสัมพันธ์ระยะยาวได้ในที่ที่ผมอยู่ 587 00:35:16,073 --> 00:35:21,120 ‎พ่อของเจฟฟ์เสนอให้เขาย้ายไปอยู่กับย่า ‎เขาก็ทำตาม 588 00:35:21,704 --> 00:35:25,082 ‎พอผมบอกแคทเธอรีน ย่าของเขา 589 00:35:25,166 --> 00:35:28,085 ‎เรื่องการกระทำของเขา ว่าเขาทำอะไรลงไป 590 00:35:28,169 --> 00:35:30,129 ‎เธอใจสลาย ร้องไห้โฮเลย 591 00:35:30,754 --> 00:35:32,339 ‎เธอไม่เชื่อ 592 00:35:32,423 --> 00:35:36,802 ‎เธอบอกว่าไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาทำ 593 00:35:39,263 --> 00:35:43,225 ‎และไม่อยากรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องใต้ดิน 594 00:35:46,061 --> 00:35:48,522 ‎(สิงหาคม 1991) 595 00:35:50,691 --> 00:35:53,235 ‎(ปี 1981) 596 00:35:56,280 --> 00:35:58,741 ‎(ถนนซิลเวอร์สปริง) 597 00:35:58,824 --> 00:36:00,242 ‎ตอนนั้นผมย้ายออกไป 598 00:36:00,910 --> 00:36:03,204 ‎มาอยู่ที่วิสคอนซิน 599 00:36:03,287 --> 00:36:04,914 ‎เพื่อคอยช่วยย่าผม 600 00:36:05,915 --> 00:36:08,876 ‎"ย้ายไปอยู่กับย่าสิ" 601 00:36:08,959 --> 00:36:13,297 ‎"ที่นั่นดีสำหรับลูก ‎ย่าแก่ตัวขึ้นทุกวัน ต้องมีคนช่วย" 602 00:36:13,964 --> 00:36:16,800 ‎"และเริ่มต้นที่เมืองใหม่" 603 00:36:17,885 --> 00:36:20,429 ‎เจฟฟรีย์บอกฉันว่าเขารักย่าของเขามาก 604 00:36:23,057 --> 00:36:24,475 ‎ย่าของเจฟฟรีย์ 605 00:36:24,558 --> 00:36:27,937 ‎เจฟฟรีย์เล่าว่าเธอเป็นคุณย่าที่แสนดี 606 00:36:28,520 --> 00:36:29,772 ‎เซาท์ไซด์ มิลวอกี 607 00:36:30,648 --> 00:36:32,650 ‎เคร่งศาสนา เอาใจใส่ 608 00:36:33,317 --> 00:36:34,818 ‎เป็นคนดีมาก 609 00:36:34,902 --> 00:36:38,948 ‎โลไอเนลโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ 610 00:36:39,031 --> 00:36:41,825 ‎เธอคอยให้กำลังใจและรักเจฟฟ์มาก 611 00:36:41,909 --> 00:36:45,246 ‎เห็นชัดว่าเขาไม่สนิทกับพ่อแม่ของเขา 612 00:36:45,329 --> 00:36:46,622 ‎(มิลวอกี เวสต์อัลลิส) 613 00:36:46,705 --> 00:36:49,500 ‎บ้านของย่าเขาอยู่ที่เวสต์อัลลิส ‎ชานเมืองมิลวอกี 614 00:36:49,541 --> 00:36:50,834 ‎(บ้านคุณย่า) 615 00:36:50,918 --> 00:36:54,255 ‎ผมช่วยย่าทำงานในสวน และทำงานบ้านต่างๆ 616 00:36:55,923 --> 00:36:59,260 ‎พอเจฟฟรีย์ย้ายไปอย ‎ผมว่าเธอไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขามากนัก 617 00:36:59,927 --> 00:37:03,097 ‎ผมไม่แน่ใจว่าเธอรู้รสนิยมทางเพศของเขามั้ย 618 00:37:03,889 --> 00:37:06,850 ‎แต่เจฟฟรีย์รู้ดีว่าถ้าเธอรู้ 619 00:37:06,934 --> 00:37:08,435 ‎เธอคงตัดสินเขามากทีเดียว 620 00:37:09,436 --> 00:37:11,021 ‎ในสมัยนั้น 621 00:37:11,105 --> 00:37:13,649 ‎การเป็นเกย์เปิดเผย ‎เป็นสิ่งที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง 622 00:37:13,732 --> 00:37:17,695 ‎มันเป็นเรื่องที่ลำบากใจสำหรับเขา ‎เขาบอกฉันว่า "ผมไม่ชอบเป็นเกย์" 623 00:37:21,573 --> 00:37:23,909 ‎ผมพยายามแล้วจริงๆ 624 00:37:24,868 --> 00:37:27,746 ‎ที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเอง 625 00:37:27,830 --> 00:37:29,331 ‎เปลี่ยนแปลงความปรารถนาของผม 626 00:37:29,915 --> 00:37:33,002 ‎เพื่อกำจัด 627 00:37:33,085 --> 00:37:36,588 ‎ความรู้สึกรักร่วมเพศของตัวเอง 628 00:37:37,131 --> 00:37:39,800 ‎ความคิดชั่วร้ายทั้งหลาย 629 00:37:41,176 --> 00:37:43,554 ‎ผมเริ่มไปโบสถ์กับย่า 630 00:37:43,637 --> 00:37:45,264 ‎เป็นประจำเลย 631 00:37:46,432 --> 00:37:48,600 ‎และพยายามยับยั้ง 632 00:37:48,684 --> 00:37:51,770 ‎ความต้องการทางเพศทั้งสิ้น 633 00:37:53,856 --> 00:37:57,526 ‎ฉันคิดว่าการทำอย่างนั้น ‎เริ่มเปลี่ยนแปลงเขาได้จริงๆ 634 00:37:57,609 --> 00:37:59,570 ‎เขามักอ่านคัมภีร์ไบเบิล 635 00:37:59,653 --> 00:38:03,407 ‎พวกเขาใช้เวลาด้วยกันมากเวลากินมื้อค่ำ 636 00:38:04,325 --> 00:38:07,453 ‎ย่าของผมไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ 637 00:38:08,162 --> 00:38:09,747 ‎ย่าคุณนับถือนิกายอะไรคะ 638 00:38:09,830 --> 00:38:11,040 ‎โปรเตสแตนท์ 639 00:38:14,084 --> 00:38:17,046 ‎เขาไปโบสถ์ ภาวนาขอให้ค้นพบวิธี 640 00:38:17,129 --> 00:38:21,425 ‎ต่อสู้กับแรงกระตุ้นทั้งหลาย ‎ความใคร่ทางเพศที่อยู่ในใจ 641 00:38:21,508 --> 00:38:22,968 ‎ในช่วงเวลานั้น 642 00:38:23,052 --> 00:38:26,347 ‎เขาก็พยายามสร้างสิ่งทดแทน ‎เพื่อห้ามใจไม่ให้คร่าชีวิตคน 643 00:38:29,683 --> 00:38:32,811 ‎ผมกำลังเดินอยู่แถวเซาท์ริดจ์ 644 00:38:33,604 --> 00:38:35,606 ‎เห็นหุ่นโชว์ตัวหนึ่ง 645 00:38:35,689 --> 00:38:38,067 ‎ที่สะดุดตาผมเข้า 646 00:38:38,150 --> 00:38:40,861 ‎ผมอยากได้หุ่นโชว์ตัวนั้น ผมก็เลย… 647 00:38:42,446 --> 00:38:43,947 ‎เข้าไปในร้าน 648 00:38:44,031 --> 00:38:45,449 ‎ไม่มีใครอยู่ในร้าน 649 00:38:45,532 --> 00:38:47,993 ‎ผมอยู่ในนั้นจนร้านปิด 650 00:38:48,077 --> 00:38:50,371 ‎- ไม่มีสัญญาณกันขโมยดังเลยเหรอ ‎- ไม่มีเลย 651 00:38:50,454 --> 00:38:52,247 ‎ผมถอดเสื้อผ้าให้หุ่น 652 00:38:52,331 --> 00:38:56,251 ‎นั่งแท็กซี่กลับบ้านแล้วเก็บหุ่นไว้ในโรงรถ 653 00:38:56,335 --> 00:38:58,295 ‎ที่บ้านของย่า 654 00:38:58,921 --> 00:39:01,382 ‎ผมเคยเอาหุ่นมาเล่นด้วย… 655 00:39:02,966 --> 00:39:05,052 ‎จับแต่งตัวและถอดเสื้อผ้า 656 00:39:06,970 --> 00:39:08,597 ‎สมมติว่าหุ่นนั้นมีชีวิตจริง 657 00:39:11,183 --> 00:39:14,686 ‎เขาใช้หุ่นนั้นมานอนด้วยและสำเร็จความใคร่ 658 00:39:14,770 --> 00:39:17,856 ‎ซึ่งไม่ดีเท่าคนจริงๆ หรอก 659 00:39:17,940 --> 00:39:19,483 ‎เขาคิดว่ามันน่าผิดหวัง 660 00:39:20,442 --> 00:39:23,987 ‎หุ่นไร้หน้าจากห้างไม่ทำให้เขาสมใจได้ 661 00:39:25,489 --> 00:39:28,867 ‎ทุกๆ หนึ่งหรือสองสัปดาห์ ‎ย่าจะบังเอิญไปเจอมันเข้า 662 00:39:28,951 --> 00:39:32,413 ‎ย่ากำลังตากเสื้อผ้าที่ซักให้ผม 663 00:39:32,496 --> 00:39:34,998 ‎- จริงเหรอ ‎- ใช่ ย่าถามผมว่ามันคืออะไร 664 00:39:35,082 --> 00:39:36,375 ‎ผมไปเอามาจากไหน 665 00:39:36,458 --> 00:39:40,045 ‎ผมก็กุเรื่องอ้างว่าผมไปเอามาจาก… 666 00:39:40,129 --> 00:39:42,714 ‎พวกเขากำลังขายหุ่น แล้วมีเหลือพอดี 667 00:39:42,798 --> 00:39:46,427 ‎ผมคิดว่าย่าโทรหาพ่อ ‎ผมเลยคิดว่าเอาไปทิ้งดีกว่า 668 00:39:46,510 --> 00:39:49,096 ‎เอาลงไปที่ห้องใต้ดินและ 669 00:39:49,179 --> 00:39:52,474 ‎ทุบทิ้งจนแหลก โยนทิ้งในถังขยะ 670 00:40:01,442 --> 00:40:03,902 ‎ผมเคยเห็นฆาตกรต่อเนื่องมาประมาณ 20 ราย 671 00:40:04,611 --> 00:40:07,030 ‎ไม่ใช่ทุกคนที่ทำเพราะเรื่องเพศ ‎แต่ก็เป็นส่วนใหญ่ 672 00:40:07,698 --> 00:40:10,451 ‎ผมเห็นฆาตกรหมู่มามากมาย 673 00:40:10,534 --> 00:40:13,954 ‎และผมได้รับการติดต่อจากสำนักงานอัยการเขต 674 00:40:14,037 --> 00:40:15,664 ‎ให้ประเมินคุณดาห์เมอร์ 675 00:40:16,582 --> 00:40:20,919 ‎ผมพบเขานานสามวัน ‎และขึ้นให้การในการพิจารณาคดีเขา 676 00:40:21,003 --> 00:40:24,339 ‎สิ่งที่ผิดธรรมดา ‎เมื่อเปรียบเทียบเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ 677 00:40:24,423 --> 00:40:27,134 ‎กับฆาตกรต่อเนื่องคนอื่นๆ ‎ที่ผมเคยสัมภาษณ์ 678 00:40:27,217 --> 00:40:29,303 ‎คือเขาไม่แก้ต่างให้ตัวเองเลย 679 00:40:29,887 --> 00:40:33,807 ‎เท่าที่ผมมองออก ‎เขาไม่ได้พยายามปิดบังอะไรจากผม 680 00:40:33,891 --> 00:40:38,103 ‎ผมคิดว่าเขาเคยมองหาทางออกแบบอื่นอยู่สักพัก 681 00:40:38,687 --> 00:40:43,233 ‎แต่เมื่อดาห์เมอร์พยายามไม่ดื่มเหล้า 682 00:40:43,734 --> 00:40:47,196 ‎พยายามเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์แบบเกย์ 683 00:40:47,279 --> 00:40:50,491 ‎เขาห้ามใจเพราะความเชื่อในศาสนา 684 00:40:51,992 --> 00:40:55,662 ‎เขากลับเจอประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน 685 00:40:55,746 --> 00:40:59,333 ‎มีผู้ชายทิ้งกระดาษโน้ตให้เขาที่ห้องสมุด 686 00:40:59,416 --> 00:41:02,002 ‎เสนอตัวจะใช้ปากให้เขาในห้องน้ำ 687 00:41:03,587 --> 00:41:06,423 ‎ผมอยู่ที่ห้องสมุดเวสต์อัลลิส 688 00:41:07,674 --> 00:41:10,135 ‎แค่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในเก้าอี้ 689 00:41:11,178 --> 00:41:13,805 ‎ผมไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนั้นเลย 690 00:41:14,515 --> 00:41:18,227 ‎ผมได้แต่หัวเราะแก้เขิน ผมคิดว่า 691 00:41:18,310 --> 00:41:21,730 ‎"นี่คือความชั่วร้ายที่น่ารังเกียจ 692 00:41:21,813 --> 00:41:24,858 ‎ที่พยายามทำให้ผมออกนอกลู่นอกทาง" 693 00:41:25,484 --> 00:41:26,485 ‎นั่นแหละ 694 00:41:27,027 --> 00:41:29,238 ‎ผมไม่ได้เห็นหน้าเขาหรอกนะ 695 00:41:31,365 --> 00:41:34,409 ‎คุณไม่มีแรงกระตุ้นแล้ว ‎เมื่อเริ่มไปโบสถ์กับคุณย่า 696 00:41:34,493 --> 00:41:36,828 ‎แต่ความรู้สึกนั้นก็ยิ่งกลับมารุนแรงกว่าเดิมใช่มั้ย 697 00:41:37,955 --> 00:41:39,957 ‎เหตุการณ์นั้นเป็นตัวกระตุ้น ผมว่านะ 698 00:41:42,042 --> 00:41:46,421 ‎นั่นทำให้เขาเริ่มคิดถึง ‎การมีเพศสัมพันธ์แบบเกย์มากขึ้น 699 00:41:46,964 --> 00:41:49,216 ‎และรู้ตัวว่าเขาไปหาที่ตอบสนองได้ 700 00:41:50,592 --> 00:41:54,137 ‎ดังนั้นจะว่าไปแล้ว นั่นเป็นการเปิดโลกให้เขา 701 00:41:54,930 --> 00:41:58,559 ‎แล้วเขาก็เลิกระวังตัวไปเลย 702 00:42:02,354 --> 00:42:04,481 ‎(บริษัทแอมโบรเซียช็อกโกแล็ต) 703 00:42:04,565 --> 00:42:06,650 ‎เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ได้งานทำ 704 00:42:07,859 --> 00:42:09,945 ‎เขาเป็นคนผสม 705 00:42:10,028 --> 00:42:12,447 ‎ที่โรงงานช็อกโกแล็ตแอมโบรเชีย 706 00:42:13,282 --> 00:42:15,075 ‎เขาทำงานกะกลางคืน 707 00:42:15,659 --> 00:42:19,246 ‎มันเป็นงานที่ทำให้เขา 708 00:42:19,329 --> 00:42:21,498 ‎ออกไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ได้ 709 00:42:22,499 --> 00:42:25,294 ‎อย่างน้อยผมก็มีงาน ‎ที่ให้ค่าจ้างพอเลี้ยงตัวเองได้ 710 00:42:26,003 --> 00:42:28,088 ‎ผมจะได้มีเวลาว่าง 711 00:42:28,171 --> 00:42:29,381 ‎มีความเป็นส่วนตัว 712 00:42:31,216 --> 00:42:32,968 ‎เริ่มดื่มเหล้าอีกแล้ว 713 00:42:33,927 --> 00:42:35,679 ‎ไปร้านหนังสือ 714 00:42:38,140 --> 00:42:41,935 ‎พอรู้ว่ามีบาร์เกย์ที่ไหน ผมก็เริ่มไปเที่ยว 715 00:42:42,728 --> 00:42:45,814 ‎สิ่งที่ผมต้องการคือมีเพื่อนคู่ใจคอยอยู่ด้วย 716 00:42:46,315 --> 00:42:48,191 ‎มีคนให้นอนค้างด้วย 717 00:42:48,275 --> 00:42:51,987 ‎ผู้ชายที่ผมจะควบคุมได้ทุกอย่าง 718 00:42:52,571 --> 00:42:55,073 ‎และทำอะไรก็ได้ตามที่ผมต้องการ 719 00:42:55,657 --> 00:42:57,409 ‎สิ่งที่มีตัวตนจริง 720 00:42:58,368 --> 00:43:00,495 ‎ไม่ใช่ของปลอมอย่างหุ่นโชว์ 721 00:43:00,579 --> 00:43:02,164 ‎นั่นคือจินตนาการของผม 722 00:43:04,124 --> 00:43:07,252 ‎ไม่นานเท่าไหร่ ‎ก่อนที่ผมเริ่มหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ 723 00:43:12,174 --> 00:43:15,135 ‎ผมก็เลิกพยายามจะฝืนใจ 724 00:43:18,305 --> 00:43:20,015 ‎ผมรู้จักเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ 725 00:43:20,098 --> 00:43:22,184 ‎และเหยื่อของเขาหลายคน 726 00:43:23,435 --> 00:43:24,895 ‎พอเรื่องทุกอย่างเปิดเผย… 727 00:43:24,978 --> 00:43:26,688 ‎(ไมเคิล รอสส์ ‎เพื่อนของเหยื่อ) 728 00:43:26,730 --> 00:43:29,691 ‎หลายคนในบาร์พูดว่า "ฉันจำเขาได้ๆ" 729 00:43:29,775 --> 00:43:32,694 ‎แน่สิ ใครก็จำได้ มิลวอกีเล็กนิดเดียวเอง 730 00:43:36,615 --> 00:43:38,283 ‎ช่วงยุค 80 731 00:43:39,242 --> 00:43:42,788 ‎ชีวิตเกย์กำลังมาแรง 732 00:43:42,871 --> 00:43:44,373 ‎ในมิลวอกี 733 00:43:45,374 --> 00:43:47,292 ‎มันไม่ได้พิเศษ 734 00:43:47,376 --> 00:43:49,961 ‎เท่าชิคาโกหรือนิวยอร์กกับแอลเอ 735 00:43:50,587 --> 00:43:52,964 ‎แต่สำหรับเมืองอย่างมิลวอกี 736 00:43:53,799 --> 00:43:54,966 ‎เราสนุกกันมาก 737 00:43:55,050 --> 00:43:56,426 ‎เราสนุกกันสุดเหวี่ยง 738 00:43:59,054 --> 00:44:00,639 ‎คุณจะออกไปเที่ยวคืนไหนก็ได้ 739 00:44:00,722 --> 00:44:02,265 ‎(เจฟฟ์ คอนเนอร์ ‎เพื่อนของโทนี่ เซียส์) 740 00:44:02,349 --> 00:44:04,226 ‎จะต้องมีงานสักงานที่ไหนสักแห่ง 741 00:44:05,477 --> 00:44:07,187 ‎คุณเป็นตัวของตัวเองได้ 742 00:44:07,270 --> 00:44:09,106 ‎มีอิสรภาพ 743 00:44:10,273 --> 00:44:12,567 ‎เราก็เลยสบายใจ 744 00:44:12,651 --> 00:44:16,113 ‎เราแต่งตัวดี ออกไปเที่ยวบาร์ 745 00:44:17,197 --> 00:44:19,950 ‎บาร์เปิดเพลงเพราะๆ 746 00:44:20,534 --> 00:44:22,536 ‎ผู้คนอยากเต้นกันตลอดเวลา 747 00:44:24,496 --> 00:44:28,041 ‎ทำเลของบาร์เกย์มักอยู่ใจกลางเมือง 748 00:44:28,667 --> 00:44:33,380 ‎ห่างกันไม่เกินรัศมีแปดหรือเก้าช่วงตึก 749 00:44:34,965 --> 00:44:37,092 ‎เดินเที่ยวจากบาร์หนึ่งไปอีกบาร์ได้เลย 750 00:44:38,593 --> 00:44:43,056 ‎เราทุกคนเพิ่งค้นพบตัวเอง 751 00:44:43,890 --> 00:44:45,892 ‎ยอมรับตัวเอง 752 00:44:47,185 --> 00:44:50,939 ‎หลายคนมีจิตใจที่งดงาม 753 00:44:59,406 --> 00:45:01,825 ‎ผมอาศัยอยู่ในมิลวอกีมาเกือบทั้งชีวิต 754 00:45:01,908 --> 00:45:06,079 ‎และมีส่วนร่วมในชุมชนมาตั้งแต่เด็ก 755 00:45:06,163 --> 00:45:09,374 ‎ในช่วงนั้น ผมเป็นนักเขียนคอลัมน์ ‎และเป็นนักข่าว 756 00:45:09,458 --> 00:45:10,959 ‎ในย่านมิลวอกี 757 00:45:12,210 --> 00:45:14,212 ‎ดาห์เมอร์ลงมือในย่านนี้ 758 00:45:14,880 --> 00:45:16,965 ‎เขาตั้งใจเลือกสถานที่เหล่านี้ 759 00:45:17,048 --> 00:45:19,384 ‎ทั้งกลุ่มคน ฐานลูกค้า 760 00:45:19,468 --> 00:45:20,969 ‎ทำเล 761 00:45:21,052 --> 00:45:22,763 ‎ถนนแถวนั้นไม่มีไฟสว่าง 762 00:45:22,846 --> 00:45:26,391 ‎ไม่ใช่ที่ที่คนจะจอดรถไว้และรู้สึกปลอดภัย 763 00:45:26,933 --> 00:45:30,228 ‎การขาดความโปร่งใสทำให้ง่ายมาก 764 00:45:30,312 --> 00:45:34,232 ‎ที่คนอย่างดาห์เมอร์จะทำตัวเป็นนักล่า ‎ในที่แบบนั้นได้ 765 00:45:34,316 --> 00:45:38,028 ‎เพราะไม่มีใครรู้ชื่อจริง ‎ของคนพวกนั้นตั้งแต่แรกแล้ว 766 00:45:38,111 --> 00:45:41,782 ‎กลุ่มชายรักชายมักปิดบังชีวิตลับไว้ในความมืด 767 00:45:41,865 --> 00:45:44,493 ‎จากหน้าที่การงานดีๆ ภรรยาและลูกๆ 768 00:45:44,576 --> 00:45:48,580 ‎ประธานสหภาพชาวเกย์กล่าวว่า ‎ความสัมพันธ์ระหว่างชายรักร่วมเพศ 769 00:45:48,663 --> 00:45:50,499 ‎มักถูกปิดบังเป็นความลับ 770 00:45:52,834 --> 00:45:55,712 ‎ธรรมเนียมในชุมชนชาวเกย์ที่ปฏิบัติกันมานาน 771 00:45:55,796 --> 00:45:57,047 ‎คือโรงอาบน้ำ 772 00:45:58,048 --> 00:45:59,466 ‎(โรงอาบน้ำโรมัน) 773 00:45:59,549 --> 00:46:01,009 ‎ในยุค 1970 และ 1980 774 00:46:01,092 --> 00:46:04,179 ‎โรงอาบน้ำใช้เป็นพื้นที่เฉพาะทางสังคม 775 00:46:04,262 --> 00:46:06,515 ‎ให้ชายรักร่วมเพศมาพบปะกันเพื่อมีเซ็กซ์ 776 00:46:08,141 --> 00:46:11,186 ‎พอคุณเข้าโรงอาบน้ำไป 777 00:46:11,978 --> 00:46:15,941 ‎แล้วเดินเปลือยเปล่าในชุดวันเกิด ‎เป็นอิสระได้ตามสบาย 778 00:46:16,024 --> 00:46:18,318 ‎พอเห็นคนที่ถูกชะตา ‎ก็ทำตามใจต้องการได้เลย 779 00:46:18,401 --> 00:46:20,612 ‎เพราะไม่มีใครรู้ชื่อใคร 780 00:46:20,695 --> 00:46:24,699 ‎ไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน คนไปแค่เพื่อมีเซ็กซ์ 781 00:46:24,783 --> 00:46:26,284 ‎(ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ ‎ทุกวันจันทร์) 782 00:46:26,368 --> 00:46:30,539 ‎ในมิลวอกี โรงอาบน้ำที่นิยมกันมากที่สุด ‎ชื่อว่าคลับบาธส์ 783 00:46:30,622 --> 00:46:32,123 ‎(โรงอาบน้ำคลับมิลวอกี) 784 00:46:32,207 --> 00:46:35,460 ‎อยู่บนชั้นสอง เข้าได้จากทางซอยเท่านั้น 785 00:46:35,544 --> 00:46:39,005 ‎โชคไม่ดีที่เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ก็ชอบไปที่นั่น 786 00:46:41,091 --> 00:46:44,261 ‎เขาไปพบผู้ชายที่โรงอาบน้ำ ‎แล้วมีเพศสัมพันธ์กับพวกเขา 787 00:46:44,344 --> 00:46:47,389 ‎แต่ว่าดาห์เมอร์ไม่อยากเป็นฝ่ายรองรับใคร 788 00:46:47,472 --> 00:46:50,183 ‎เขาอยากเป็นคนควบคุมเองทั้งหมด 789 00:46:50,267 --> 00:46:53,436 ‎ดาห์เมอร์จึงเริ่มพกยาเสพติด ‎ไปโรงอาบน้ำด้วย 790 00:46:54,729 --> 00:46:56,731 ‎คุณรู้มั้ยว่าเป็นเบนโซไดอะซีปีนประเภทไหน 791 00:46:56,815 --> 00:46:58,108 ‎ฮัลเซียน 792 00:46:58,191 --> 00:47:00,193 ‎ทำไมคุณถึงได้ยานั้นมา 793 00:47:01,987 --> 00:47:03,697 ‎สำหรับนอนไม่หลับ 794 00:47:03,780 --> 00:47:05,115 ‎ผมทำงานกะที่สาม 795 00:47:06,324 --> 00:47:08,410 ‎มันทำให้คุณรู้สึกควบคุมได้เหรอ 796 00:47:10,453 --> 00:47:12,706 ‎ผมจะได้อยู่กับพวกเขานานขึ้น 797 00:47:13,248 --> 00:47:15,917 ‎ผมจะได้นอนกับพวกเขา 798 00:47:16,001 --> 00:47:19,838 ‎โดยไม่รู้สึกกดดันให้ทำอะไรที่พวกเขาอยากทำ 799 00:47:22,799 --> 00:47:24,551 ‎จะได้ไม่มี… 800 00:47:24,634 --> 00:47:26,845 ‎พวกเขาจะได้ไม่เรียกร้องอะไรจากผม 801 00:47:27,637 --> 00:47:30,682 ‎ผมจะได้สนุกกับพวกเขาตามใจตัวเอง 802 00:47:32,142 --> 00:47:35,312 ‎คุณคิดบ้างมั้ยว่าพวกเขาจะรู้สึกยังไง 803 00:47:35,395 --> 00:47:38,815 ‎อือ ผมว่าคิดนะ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่สนใจแล้ว 804 00:47:38,899 --> 00:47:41,484 ‎ผมแค่อยากทำแต่สิ่งที่ผมต้องการ 805 00:47:41,568 --> 00:47:43,486 ‎ผมเลยไม่สน 806 00:47:45,155 --> 00:47:48,533 ‎นั่นช่วยแก้ปัญหา ‎ที่เขาไม่อยากให้ใครจากไปได้ 807 00:47:48,617 --> 00:47:52,579 ‎และจะได้นอนอยู่ด้วยกันนานขึ้นด้วย 808 00:47:52,662 --> 00:47:55,832 ‎ซึ่งเป็นเรื่องหลักที่เขาต้องการ 809 00:47:55,916 --> 00:47:59,878 ‎คนพวกนี้หมดสติ ‎พวกเขาขยับเขยื้อน ปกป้องตัวเองไม่ได้ 810 00:47:59,961 --> 00:48:04,132 ‎และพวกเขามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเพศ ‎ทั้งที่ไม่ยินยอมด้วย 811 00:48:06,009 --> 00:48:08,303 ‎ครั้งหนึ่งเขามอมยาคนนึงหนักเกินไป 812 00:48:08,386 --> 00:48:10,889 ‎และพอปลุกเขาไม่ได้ 813 00:48:10,972 --> 00:48:13,183 ‎เจ้าของโรงอาบน้ำก็ต้องโทรเรียกหมอ 814 00:48:13,266 --> 00:48:14,935 ‎(โรงอาบน้ำ ห้องล็อกเกอร์) 815 00:48:18,605 --> 00:48:21,733 ‎จึงมีข่าวแพร่ออกไป ‎"อย่าปล่อยให้ดาห์เมอร์เข้าโรงอาบน้ำของคุณ" 816 00:48:23,652 --> 00:48:27,739 ‎ตำรวจไม่ได้สืบสวนคดีเหล่านี้ ‎ว่าเป็นการข่มขืน 817 00:48:27,822 --> 00:48:29,532 ‎ว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ 818 00:48:29,616 --> 00:48:31,618 ‎หรือแม้แต่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมด้วยซ้ำ 819 00:48:31,701 --> 00:48:34,704 ‎พวกเขาทำได้แค่บอกโรงอาบน้ำ 820 00:48:34,788 --> 00:48:38,833 ‎ให้แจ้งตำรวจถ้าเขากลับไป ‎และอย่าให้เขาเข้าไปในพื้นที่ 821 00:48:39,376 --> 00:48:43,213 ‎ผมคิดว่าพวกเขาไม่ยอมรับว่า ‎ผู้ชายก็ถูกข่มขืนได้ 822 00:48:43,296 --> 00:48:45,465 ‎(ห้ามใส่ชุดนอกเครื่องแบบ) 823 00:48:45,548 --> 00:48:49,386 ‎เขาถูกหมายหัว เขาไปที่นั่นไม่ได้อีกแล้ว 824 00:48:51,763 --> 00:48:53,473 ‎แต่การทำอย่างนั้นทำให้คุณสมใมั้ย 825 00:48:53,556 --> 00:48:56,559 ‎หมายถึงรู้สึกสมหวังจริงๆ น่ะ 826 00:48:56,643 --> 00:48:57,519 ‎ไม่เลย 827 00:48:58,395 --> 00:49:01,189 ‎ผมไม่มีอำนาจควบคุมพวกเขา ผม… 828 00:49:02,774 --> 00:49:05,777 ‎ผมอยากได้พวกเขาทุกคน 829 00:49:05,860 --> 00:49:08,363 ‎และใช้วิธีนั้นไม่ได้ผล 830 00:49:11,992 --> 00:49:13,451 ‎(วันที่ 21 พฤศจิกายน 1987) 831 00:49:13,535 --> 00:49:16,246 ‎(เก้าปีหลังการฆาตกรรมสตีเว่น ฮิกส์) 832 00:49:19,249 --> 00:49:21,418 ‎คืนหนึ่งเจฟฟรีย์ออกไปเที่ยว 833 00:49:22,627 --> 00:49:25,046 ‎เขาพบกับสตีเว่น ทูโอมิ 834 00:49:25,588 --> 00:49:28,008 ‎และอยากอยู่กับเขาทั้งคืน 835 00:49:28,591 --> 00:49:31,761 ‎มันยากที่จะทำอย่างนั้นที่บ้านย่าได้ 836 00:49:32,804 --> 00:49:36,182 ‎พวกเขาเลยไปเปิดห้อง ‎ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ 837 00:49:45,900 --> 00:49:48,361 ‎และดื่มกันหนักมาก 838 00:49:50,530 --> 00:49:52,490 ‎พวกเขาค้างคืนด้วยกัน 839 00:50:01,166 --> 00:50:02,917 ‎เช้าวันรุ่งขึ้น 840 00:50:03,001 --> 00:50:05,336 ‎เมื่อเจฟฟรีย์ตื่นขึ้นมา 841 00:50:06,004 --> 00:50:07,547 ‎หลังจากสลบไปทั้งคืน 842 00:50:08,423 --> 00:50:09,883 ‎คุณสลบไปเลยเหรอ 843 00:50:10,383 --> 00:50:12,802 ‎- ใช่ ‎- ไม่รู้เลยว่าทำอะไรไปรึเปล่า 844 00:50:12,886 --> 00:50:15,305 ‎ไม่รู้เลย จนกระทั่งผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า 845 00:50:15,388 --> 00:50:16,848 ‎ผมไม่อยากเชื่อเลย 846 00:50:17,474 --> 00:50:19,684 ‎มือของเขาเปื้อนเลือด ผ้าปูที่นอนก็เปื้อนเลือด 847 00:50:19,768 --> 00:50:21,770 ‎หน้าของผู้ชายคนนั้นก็เปื้อนเลือด 848 00:50:23,188 --> 00:50:24,314 ‎ผมทั้งช็อก 849 00:50:26,483 --> 00:50:27,525 ‎สติแตก 850 00:50:28,401 --> 00:50:29,694 ‎และ… 851 00:50:30,862 --> 00:50:32,322 ‎เสียใจมากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น 852 00:50:32,405 --> 00:50:35,992 ‎เพราะผมไม่มีเจตนา ‎อยากให้อะไรแบบนั้นเกิดขึ้นเลย 853 00:50:36,076 --> 00:50:37,994 ‎คุณตรวจชีพจรของเขามั้ย 854 00:50:38,078 --> 00:50:39,496 ‎ผมกลัว ไม่ 855 00:50:40,330 --> 00:50:42,874 ‎และมีเลือดไหลออกมาจากปากเขา 856 00:50:43,458 --> 00:50:47,921 ‎ดูเหมือนว่าผมใช้กำปั้นชกหน้าอกเขา 857 00:50:49,005 --> 00:50:50,715 ‎(ฆาตกรรม: สตีเว่น ทูโอมิ) 858 00:50:50,799 --> 00:50:54,302 ‎มีเลือดเต็มไปหมด ‎เขาบอกว่าเขาเมาจนหน้ามืดไป 859 00:50:56,096 --> 00:50:57,639 ‎เขาก็ประหลาดใจมาก 860 00:50:58,765 --> 00:51:01,768 ‎มันไม่มีเจตนาที่จะทำ มันไม่ใช่จินตนาการ 861 00:51:02,936 --> 00:51:05,480 ‎แต่ความปรารถนาลึกๆ ในใจเขาก็ยังออกมาอยู่ดี 862 00:51:08,233 --> 00:51:12,028 ‎เห็นชัดว่าเขาไม่ได้วางแผนไว้ ‎เพราะเขาลงชื่อจองโรงแรมไว้แค่วันเดียว 863 00:51:12,112 --> 00:51:16,074 ‎และต้องจองต่ออีกวัน ‎เพื่อซื้อเวลาในการกำจัดศพ 864 00:51:16,157 --> 00:51:17,659 ‎(โรงแรมแอมบาสเดอร์) 865 00:51:17,742 --> 00:51:20,578 ‎เขาออกไปร้านขายกระเป๋าเดินทาง 866 00:51:20,662 --> 00:51:23,873 ‎ได้กระเป๋าใบใหญ่มา เอาเข้าไปที่โรงแรม 867 00:51:24,707 --> 00:51:28,128 ‎เขาถือกระเป๋าขึ้นไปที่ห้อง 868 00:51:28,211 --> 00:51:31,381 ‎จับคุณทูโอมิยัดใส่กระเป๋า 869 00:51:31,464 --> 00:51:34,509 ‎แล้วเรียกคนขับแท็กซี่มารับเขา 870 00:51:40,515 --> 00:51:42,475 ‎ดาห์เมอร์บอกว่า คนขับทักด้วยว่า 871 00:51:42,559 --> 00:51:45,353 ‎"ใส่ศพไว้ละสิเนี่ย" กระเป๋ามันหนักมาก 872 00:51:46,688 --> 00:51:50,483 ‎แล้วเขาก็นำศพของสตีฟ ทูโอมิ ‎กลับไปที่บ้านของย่า 873 00:51:51,109 --> 00:51:53,236 ‎และแอบกำจัดศพซะ 874 00:51:54,571 --> 00:51:56,072 ‎เขาหั่นศพออกเป็นชิ้นๆ 875 00:51:56,156 --> 00:51:58,867 ‎จับใส่ถุงขยะใบใหญ่ๆ แล้วโยนทิ้งในกองขยะ 876 00:52:02,662 --> 00:52:05,165 ‎(พฤศจิกายน 1987) 877 00:52:07,292 --> 00:52:09,627 ‎(ปี 1991) 878 00:52:11,087 --> 00:52:13,214 ‎ทูโอมิโตมาในย่านอัปเปอร์เพนนินซูล่า ‎ของมิชิแกน 879 00:52:13,298 --> 00:52:16,634 ‎ในเมืองเล็กๆ ชื่อออนโทนากอน ‎คนส่วนใหญ่รู้จักเขา 880 00:52:16,718 --> 00:52:20,180 ‎เขาเป็นเด็กเงียบๆ ฉันถึงรู้จักเขา 881 00:52:20,263 --> 00:52:22,682 ‎เขาเป็นคนเงียบมาก ไม่เคยรบกวนใครเลย 882 00:52:22,765 --> 00:52:27,020 ‎สตีเว่น ทูโอมิย้ายไปอยู่มิลวอกี ‎ในช่วงกลางปี 1980 883 00:52:27,103 --> 00:52:29,689 ‎และทำงานเป็นพ่อครัวร้านอาหารจานด่วน 884 00:52:29,772 --> 00:52:33,860 ‎ครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นเขาคือ ‎ฤดูใบไม้ผลิ ปี 1987 885 00:52:34,736 --> 00:52:38,364 ‎หลังจากดาห์เมอร์สารภาพ ผมเชื่อสิ่งที่เขาพูด 886 00:52:38,448 --> 00:52:42,076 ‎เพราะเขาไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหกเรา 887 00:52:42,160 --> 00:52:45,288 ‎เขาไม่จำเป็นต้องบอกเราด้วยซ้ำ ‎ว่านั่นเป็นเหยื่อของเขา 888 00:52:45,371 --> 00:52:49,375 ‎เพราะนั่นเป็นเหยื่อคนหนึ่ง ‎ที่เรามีหลักฐานน้อยมาก 889 00:52:49,459 --> 00:52:53,463 ‎ดาห์เมอร์เป็นคนให้การ ‎และระบุรายละเอียดมากมาย 890 00:52:54,255 --> 00:52:58,509 ‎ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อข้อเท็จจริง ‎ที่ดาห์เมอร์บอกเรา 891 00:52:59,302 --> 00:53:01,137 ‎หลังจากเขาสารภาพ 892 00:53:01,221 --> 00:53:03,389 ‎ผมไปพบกับครอบครัวของทูโอมิ ‎ที่อัปเปอร์มิชิแกน 893 00:53:04,933 --> 00:53:09,812 ‎ลูกชายของพวกเขาไปมิลวอกี ‎เพื่อหางานทำในเมือง 894 00:53:09,896 --> 00:53:13,483 ‎เพื่อพยายามหาคำตอบว่า ‎เขาอยากทำอะไรกับชีวิต 895 00:53:13,566 --> 00:53:15,068 ‎ครอบครัวไม่ได้เจอเขาอีกเลย 896 00:53:15,151 --> 00:53:17,528 ‎(สตีเว่น ทูโอมิ ‎ด้วยรักตลอดไป) 897 00:53:17,612 --> 00:53:20,907 ‎และผมคิดว่าพวกเขาทำใจยอมรับได้ยากมาก 898 00:53:23,243 --> 00:53:26,704 ‎คุณรู้สึกยังไงในตอนนั้น ‎ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ 899 00:53:27,580 --> 00:53:28,623 ‎ตกใจมาก 900 00:53:29,666 --> 00:53:32,085 ‎ที่มีความรู้สึกนี้อีกแล้ว 901 00:53:32,168 --> 00:53:36,381 ‎ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกเด็ดขาด 902 00:53:37,048 --> 00:53:41,052 ‎คุณรู้สึกยังไงที่มันออกมา ‎ทั้งที่คุณหมดสติอยู่ 903 00:53:43,054 --> 00:53:44,264 ‎สับสน 904 00:53:45,515 --> 00:53:47,809 ‎คุณรู้สึกว่าเริ่มเสียการควบคุมมั้ย 905 00:53:47,892 --> 00:53:49,477 ‎รู้สึก ผมรู้ว่าผมเสียไปแล้ว 906 00:53:51,437 --> 00:53:53,356 ‎นั่นเป็นการฆาตกรรมครั้งแรกที่นี่ 907 00:53:53,439 --> 00:53:55,900 ‎ตั้งแต่ปี 1978 การฆาตกรรมสตีเว่น ฮิกส์ 908 00:53:55,984 --> 00:53:59,445 ‎จนถึงพฤศจิกายน ปี 1987 ‎การฆาตกรรมสตีเว่น ทูโอมิ 909 00:53:59,529 --> 00:54:02,782 ‎การฆ่าครั้งแรกคือตอนที่เขาอายุ 18 ปี 910 00:54:03,825 --> 00:54:06,077 ‎เขาหยุดไปได้เก้าปีโดยไม่ฆ่าใคร 911 00:54:06,661 --> 00:54:10,540 ‎เหตุการณ์ที่แอมบาสซาเดอร์ทำอะไรสักอย่าง ‎มันกระตุ้นบางอย่าง 912 00:54:12,583 --> 00:54:14,335 ‎ผมต้องการมากกว่านั้น 913 00:54:14,419 --> 00:54:17,547 ‎ผมไม่รู้ว่ามันกระตุ้นอะไร ‎แต่มันกระตุ้นอะไรสักอย่าง 914 00:54:17,630 --> 00:54:20,717 ‎การฆาตกรรมทูโอมิเป็นจุดเปลี่ยนของเขา 915 00:54:21,467 --> 00:54:25,346 ‎ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจว่า ‎"ฉันกำลังพ่ายแพ้การต่อสู้กับตัวเอง" 916 00:54:25,430 --> 00:54:27,307 ‎"ฉันควบคุมไว้ไม่ไหวแล้ว" 917 00:54:27,890 --> 00:54:30,393 ‎มันทำให้ผมมีความสุขเป็นพิเศษ 918 00:54:30,476 --> 00:54:33,646 ‎มันครอบงำความคิดของผม ‎การทำสิ่งเหล่านี้ 919 00:54:35,356 --> 00:54:38,985 ‎ภัยอันตรายอาจเป็นใครสักคน ‎ที่หน้าตาเหมือนเพื่อนบ้านของคุณ 920 00:54:39,068 --> 00:54:43,364 ‎เขาเดินไปตามถนนเหมือนคนปกติทั่วไป 921 00:54:43,448 --> 00:54:45,325 ‎เขาไม่ได้หน้าตาน่ากลัว 922 00:54:45,408 --> 00:54:47,952 ‎มีฆาตกรต่อเนื่องในมิลวอกี 923 00:54:48,036 --> 00:54:50,163 ‎ไม่มีใครนอกจากดาห์เมอร์ 924 00:54:50,246 --> 00:54:53,958 ‎รู้ว่ามีฆาตกรต่อเนื่อง ‎ลอยนวลอยู่ในเมืองของเรา 925 00:54:54,042 --> 00:54:57,587 ‎ตำรวจไม่รู้ ไม่มีใครในชุมชนรู้เลย 926 00:54:58,338 --> 00:55:01,924 ‎หลังจากพยายามหักห้ามใจมาหลายปี ‎เขาก็ยอมแพ้ 927 00:55:02,008 --> 00:55:05,470 ‎กลายเป็นเครื่องจักรสังหาร ‎ที่ไร้การควบคุมโดยสิ้นเชิง 928 00:55:06,179 --> 00:55:09,057 ‎แรงกดดันนั้นรุนแรงยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด 929 00:55:12,185 --> 00:55:15,480 ‎มันเป็นแรงผลักดันที่เด็ดเดี่ยว 930 00:55:17,023 --> 00:55:17,982 ‎ความ 931 00:55:18,566 --> 00:55:20,526 ‎ปรารถนาของผม 932 00:55:21,569 --> 00:55:23,196 ‎มันโหดร้ายป่าเถื่อน 933 00:56:38,729 --> 00:56:41,691 ‎คำบรรยายโดย คุณาพร ศันสนียกุลวิไล