1 00:00:06,041 --> 00:00:08,875 ‎(ซีรีส์จาก NETFLIX) 2 00:00:15,916 --> 00:00:18,250 ‎- ตอบคำถาม ‎- ตอบคำถาม 3 00:00:18,333 --> 00:00:20,791 ‎- นี่คือสตอรี่บอตส์: เวลาตอบคำถาม ‎- ตอบคำถาม 4 00:00:20,875 --> 00:00:23,375 ‎พวกเขาอยู่ในคอมและพวกเขามีงานต้องทำ 5 00:00:23,458 --> 00:00:25,750 ‎พวกเขาทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก 6 00:00:25,833 --> 00:00:27,916 ‎หากคุณมีคำถาม พวกเขามีคำตอบ 7 00:00:28,000 --> 00:00:30,291 ‎นี่คือสตอรี่บอตส์: เวลาตอบคำถาม 8 00:00:31,250 --> 00:00:32,250 ‎ตอบคำถาม 9 00:00:32,333 --> 00:00:34,166 ‎(สตอรี่บอตส์ ตอบคำถาม) 10 00:00:38,416 --> 00:00:40,333 ‎- ว่าไง ‎- เป็นไงบ้าง 11 00:00:40,833 --> 00:00:44,583 ‎ไง บิง สัตว์ที่แข็งแรงที่สุดในโลกคือตัวอะไร 12 00:00:45,125 --> 00:00:46,833 ‎เป็นคำถามที่ดีมากเลย มาดูกัน 13 00:00:48,291 --> 00:00:51,333 ‎ด้วงมูลสัตว์สามารถรับน้ำหนัก ‎กว่า 1,100 เท่าของน้ำหนักตัว 14 00:00:51,416 --> 00:00:54,083 ‎เหมือนมนุษย์ที่รับน้ำหนักได้เกือบเจ็ดหมื่นกิโล 15 00:00:55,791 --> 00:00:57,833 ‎นั้นเขากำลังดันลูกบอลยักษ์มูล... 16 00:00:57,916 --> 00:01:01,583 ‎ว้าว ขอบคุณที่ติดต่อมานะ ‎นั่นเป็นคำถามที่ดีมากเลยล่ะ 17 00:01:05,833 --> 00:01:09,291 ‎ไง สตอรี่บอตส์ รถที่เร็วที่สุดในโลกคืออะไร 18 00:01:09,375 --> 00:01:10,625 ‎ขอหาดูก่อนนะ 19 00:01:11,625 --> 00:01:17,875 ‎ว้าว รถที่เร็วที่สุดในโลก ‎วิ่งได้ถึง 508 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 20 00:01:17,958 --> 00:01:20,333 ‎ว้าว นั่นเร็วมากเลย 21 00:01:20,416 --> 00:01:22,041 ‎ฉันไปเร็วกว่านั้นได้แน่ๆ 22 00:01:23,166 --> 00:01:24,416 ‎ดูนี่นะ 23 00:01:25,375 --> 00:01:26,500 ‎ใช่เลย 24 00:01:34,166 --> 00:01:36,250 ‎ฉันไม่เป็นไร 25 00:01:36,958 --> 00:01:37,791 ‎บู๊ป 26 00:01:41,875 --> 00:01:44,416 ‎นี่ทุกคน มีคำถามระดับสามเข้ามา 27 00:01:47,958 --> 00:01:49,791 ‎แบบว่า สวัสดีครับ 28 00:01:49,875 --> 00:01:52,416 ‎- นั่นเห็ดเหรอ ‎- น่าจะใช่นะ 29 00:01:53,250 --> 00:01:57,250 ‎สตอรี่บอตส์ ฉันดีใจมากที่ติดต่อพวกเธอสำเร็จ 30 00:01:57,333 --> 00:02:01,083 ‎สวัสดี คุณเห็ด วันนี้มีอะไรให้เราช่วยเหรอ 31 00:02:01,916 --> 00:02:06,041 ‎ฉันก็ไม่รู้นะ โบ แต่ช่วงนี้ฉันรู้สึกเศร้ามากจริงๆ 32 00:02:06,125 --> 00:02:09,541 ‎อาจเป็นเพราะคุณ ‎ใช้เวลาเติบโตแต่ในความมืดหรือเปล่า 33 00:02:10,583 --> 00:02:14,041 ‎นั่นก็อาจจะจริงนะ แต่ก็ยังไม่ใช่ 34 00:02:14,125 --> 00:02:16,708 ‎อาจเป็นเพราะดินที่ใช้ปลูกเห็ดเหม็นหรือเปล่า 35 00:02:17,375 --> 00:02:19,583 ‎ไม่ นั่นก็ไม่ใช่อีกเหมือนกัน 36 00:02:19,666 --> 00:02:23,041 ‎ดินเพาะเห็ดอาจเหม็นก็จริง ‎แต่มันเต็มไปด้วยสารอาหาร 37 00:02:23,125 --> 00:02:25,958 ‎แล้วปัญหาคืออะไรเหรอ คุณเห็ด 38 00:02:26,791 --> 00:02:30,333 ‎สตอรี่บอตส์ วันนี้ฉันติดต่อพวกคุณเพราะ... 39 00:02:31,333 --> 00:02:32,791 ‎เพราะ... 40 00:02:32,875 --> 00:02:35,666 ‎เพราะเด็กๆ ไม่ชอบฉัน 41 00:02:35,750 --> 00:02:39,208 ‎เด็กๆ ไม่ชอบฉัน พวกเขาคิดว่าฉันแหวะ 42 00:02:39,291 --> 00:02:44,750 ‎พวกเขาคิดว่าฉันเหม็น ‎พวกเขาคิดว่าฉันน่าขยะแขยง สตอรี่บอตส์ 43 00:02:48,125 --> 00:02:53,208 ‎คุณเห็ด ฉันมั่นใจว่าเด็กๆ ‎ต้องชอบคุณแน่ ถ้าได้รู้จักคุณ 44 00:02:54,958 --> 00:03:00,208 ‎ไม่ พวกเขาคิดว่าฉันเป็นเห็ดเหม็น ‎แล้วพวกเขาจะคิดแบบนั้นตลอดไปด้วย 45 00:03:02,916 --> 00:03:06,666 ‎คือถ้ามองในแง่ดีนะ คุณเห็ด ‎มันไม่ใช่แค่คุณที่คิดแบบนั้น 46 00:03:06,750 --> 00:03:09,416 ‎เด็กหลายคนไม่ชอบกินผักอะไรเลย 47 00:03:10,208 --> 00:03:14,500 ‎นี่ ฉันไม่ใช่ผักนะ แบง ฉันเป็นเชื้อรา 48 00:03:14,583 --> 00:03:16,500 ‎เชื้อราเหรอ มันคืออะไร 49 00:03:16,583 --> 00:03:21,291 ‎นั่นเป็นการจัดจำแนกสิ่งมีชีวิต ‎ซึ่งประกอบไปด้วย ยีสต์ ราน้ำค้างและเชื้อรา 50 00:03:22,166 --> 00:03:25,583 ‎ฉันว่านั่นไม่น่าใช่จุดขายเลยนะ 51 00:03:25,666 --> 00:03:26,500 ‎บู๊ป 52 00:03:27,583 --> 00:03:30,666 ‎ยังไงก็ตาม ฉันแค่อยากให้เด็กๆ ชอบฉันบ้าง 53 00:03:30,750 --> 00:03:34,208 ‎ขอแค่พวกเขาชอบฉัน ‎เหมือนที่ชอบพิซซ่า ไอศกรีม 54 00:03:34,291 --> 00:03:35,958 ‎หรือของดีๆ อย่างอื่นแบบนั้น 55 00:03:36,041 --> 00:03:40,375 ‎ให้ตายสิ คุณจะต้องอร่อยมาก ‎ถ้าอยากจะได้ความชอบแบบนั้น 56 00:03:40,458 --> 00:03:42,125 ‎ฉันถึงติดต่อพวกคุณไปไง 57 00:03:42,208 --> 00:03:46,208 ‎ฉันต้องรู้ก่อนว่ารสชาติคืออะไร ‎ฉันจะได้ทำให้รสชาติของตัวเองอร่อยขึ้น 58 00:03:46,291 --> 00:03:49,375 ‎คราวนี้ ฉันจะได้เป็นที่รักของเด็กๆ ทุกคน 59 00:03:49,875 --> 00:03:53,375 ‎โอเค พวก มีใครรู้จัก ‎ผู้เชี่ยวชาญด้านรสชาติบ้างไหม 60 00:03:54,083 --> 00:03:57,000 ‎เชฟปิแอร์เป็นเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุด 61 00:03:57,083 --> 00:04:00,166 ‎เขาต้องรู้เรื่องรสชาติเป็นอย่างดีแน่ๆ เลย 62 00:04:00,250 --> 00:04:02,916 ‎- เชฟปิแอร์ เป็นความคิดที่ดีมาก ‎- เยี่ยมเลย 63 00:04:03,000 --> 00:04:04,708 ‎ช่วยรีบหน่อยนะ สตอรี่บอตส์ 64 00:04:04,791 --> 00:04:09,708 ‎ฉันเบื่อที่ต้องทาเนยกับเกลือเพื่อให้คนมาชอบฉัน 65 00:04:10,291 --> 00:04:13,333 ‎ไม่ต้องห่วงนะ คุณเห็ด เราพร้อมลุยงานแล้ว 66 00:04:15,583 --> 00:04:16,666 ‎ตอบคำถาม 67 00:04:17,958 --> 00:04:20,541 ‎หวัดดี สตอรี่บอตส์ อาการสะอึกคืออะไร 68 00:04:21,958 --> 00:04:26,250 ‎อาการสะอึกคืออะไร ‎ที่จริงแล้ว มันเป็นเรื่องง่ายมากเลยล่ะ 69 00:04:26,333 --> 00:04:30,625 ‎ในร่างกายทุกคนมีกล้ามเนื้อที่เรียกว่ากะบังลม 70 00:04:30,708 --> 00:04:34,166 ‎มันอยู่ระหว่างท้องกับหน้าอก 71 00:04:34,250 --> 00:04:36,791 ‎เราก็ยังระบุสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้แต่บางครั้ง 72 00:04:36,875 --> 00:04:40,500 ‎มันจะกระตุกซึ่งส่งผลให้เกิดเสียง... 73 00:04:41,666 --> 00:04:44,291 ‎ที่จริงแล้วก็แบบนั้นแหละ 74 00:04:45,083 --> 00:04:47,125 ‎และแบบนั้นด้วย 75 00:04:48,458 --> 00:04:49,625 ‎ตายจริง 76 00:04:56,916 --> 00:04:59,625 ‎สวัสดี สตอรี่บอตส์ ‎บอกเกร็ดน่าสนใจให้ฟังได้ไหม 77 00:05:01,083 --> 00:05:06,833 ‎เกร็ดน่ารู้เลขที่ 314,159, 265 78 00:05:08,000 --> 00:05:11,666 ‎รู้ไหมว่าชาวอียิปต์โบราณนอนบนหมอนที่ทำจากหิน 79 00:05:14,750 --> 00:05:15,916 ‎นี่ เธอหลับหรือยัง 80 00:05:16,000 --> 00:05:17,875 ‎ยังเลย ฉันนอนไม่หลับน่ะ 81 00:05:17,958 --> 00:05:20,500 ‎ฉันก็เหมือนกัน มาเล่นตีหมอนกันไหม 82 00:05:20,583 --> 00:05:22,166 ‎ได้เลย 83 00:05:30,000 --> 00:05:31,166 ‎เป็นความคิดที่แย่มาก 84 00:05:35,791 --> 00:05:39,000 ‎สถานีต่อไป ร้านอาหารหรูของเชฟปิแอร์ 85 00:05:40,083 --> 00:05:42,375 ‎ไม่ใช่ ผิดแล้ว 86 00:05:42,458 --> 00:05:45,041 ‎เอาส่วนผสมใส่ลงในชามก่อนแล้วค่อยคน 87 00:05:45,125 --> 00:05:47,125 ‎ใช้แป้งนะ ไม่ใช่ดอกไม้ 88 00:05:47,208 --> 00:05:50,375 ‎วงคนตรีที่ดังที่สุดในโลก ‎ได้ตัดสินใจมากินอาหารของปิแอร์ 89 00:05:50,458 --> 00:05:52,041 ‎ฉะนั้น มันต้องสมบูรณ์แบบนะ 90 00:05:58,458 --> 00:06:00,000 ‎นี่มันอะไรกัน 91 00:06:01,250 --> 00:06:02,375 ‎ล้อเล่นหรือเปล่า 92 00:06:03,250 --> 00:06:04,916 ‎ฉันยอมรับไม่ได้ 93 00:06:09,708 --> 00:06:11,708 ‎เชฟปิแอร์ เขาเป็นลมไปแล้ว 94 00:06:13,250 --> 00:06:16,000 ‎ตกลงเค้กต้องเข้าตู้เย็นหรือเครื่องปิ้งขนมปังล่ะ 95 00:06:17,208 --> 00:06:19,375 ‎เพิ่มเกลือเล็กน้อยหรือเป็นถ้วยกันแน่ 96 00:06:20,791 --> 00:06:23,458 ‎แล้วต่อไปใครจะเป็นเชฟใหญ่ล่ะ 97 00:06:25,166 --> 00:06:27,541 ‎ขอโทษนะคะ มีใครพอจะ... 98 00:06:31,583 --> 00:06:33,458 ‎มันขาดอะไรไปสักอย่างเนอะ 99 00:06:33,541 --> 00:06:35,791 ‎ฉันรู้ว่ามันขาดอะไร ขนมเยลลี่ไง 100 00:06:39,583 --> 00:06:41,958 ‎- ได้แล้ว ‎- ฉันลืมเรื่องเตาไปเลย 101 00:06:46,416 --> 00:06:47,250 ‎โล่งอก 102 00:06:49,416 --> 00:06:51,041 ‎ฉันรู้วิธีแก้ปัญหานะ 103 00:06:52,000 --> 00:06:52,875 ‎สมบูรณ์แบบที่สุด 104 00:06:56,791 --> 00:06:58,750 ‎นั่นสตูเนื้อวัวตุ๋นในไวน์แดงเหรอ 105 00:06:58,833 --> 00:07:02,291 ‎ไม่ใช่ นี่สูตรพิเศษของฉัน ‎สปาเก็ตตี้น้ำเชื่อมเมเปิ้ลกับฮอตดอก 106 00:07:29,625 --> 00:07:30,500 ‎รับได้แล้ว 107 00:07:32,416 --> 00:07:33,458 ‎ตาของฉัน 108 00:07:50,625 --> 00:07:52,625 ‎นี่มันเรื่องอะไรกัน 109 00:07:52,708 --> 00:07:54,083 ‎คุณเป็นใคร 110 00:07:57,541 --> 00:08:01,250 ‎- ขอโทษนะ ฉันชื่อโบและ... ‎- เธอมาทำอะไรในร้านของฉัน 111 00:08:01,333 --> 00:08:03,708 ‎ฉันแค่พยายามจะช่วยน่ะ 112 00:08:03,791 --> 00:08:07,166 ‎จริงๆ ฉันมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เรื่องรสชาติแค่นั้นเอง 113 00:08:07,250 --> 00:08:08,708 ‎คือว่านะ คุณโบ 114 00:08:09,375 --> 00:08:14,125 ‎ผมไม่รู้ว่าคนลิ้มรสอาหารกันยังไง ‎ผมแค่รู้วิธีการปรุงอาหารให้อร่อย 115 00:08:14,208 --> 00:08:16,750 ‎ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคุณไม่รู้เรื่องเลย 116 00:08:18,500 --> 00:08:21,541 ‎เอาล่ะ ใครเป็นคนทำอาหารประหลาดนั่น 117 00:08:21,625 --> 00:08:25,166 ‎เธอเป็นคนทำ โบ เธอทำทุกจานอาหารที่คุณกิน 118 00:08:25,250 --> 00:08:26,750 ‎เชฟโบเหรอ 119 00:08:26,833 --> 00:08:30,250 ‎ใช่ แต่ฉันอธิบายได้นะ ‎คือว่าฉันรีบไปหน่อยแล้วก็... 120 00:08:30,333 --> 00:08:32,041 ‎อาหารรสเลิศจริงๆ 121 00:08:33,375 --> 00:08:36,458 ‎ฉันเป็นผู้จัดการวงดนตรี ‎ร็อกสุดฮิต "เดอะเทสต์บัดส์" 122 00:08:36,541 --> 00:08:39,000 ‎คืนนี้ลูกค้าของฉันต้องเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ต 123 00:08:39,083 --> 00:08:44,166 ‎แต่พวกเขาอยากชมอาหารเชฟก่อนว่าอร่อยมาก 124 00:08:44,250 --> 00:08:47,500 ‎เพื่อเป็นการขอบคุณ ‎ฉันให้บัตรผ่านหลังเวทีคอนเสิร์ตคืนนี้ 125 00:08:47,583 --> 00:08:49,916 ‎ว้าว ขอบคุณนะ 126 00:08:50,000 --> 00:08:53,458 ‎ไปให้สุดในโลกของอาหาร ไว้เจอกันใหม่นะ 127 00:08:54,833 --> 00:08:56,458 ‎เดอะเทสต์บัดส์เหรอ 128 00:08:56,958 --> 00:09:01,458 ‎พวกเขามีคำว่ารสชาติในชื่อด้วย ‎บางทีพวกเขาอาจรู้เรื่องรสชาตินะ 129 00:09:01,541 --> 00:09:05,541 ‎ฉันขอโทษเรื่องครัวนะคะ เชฟปิแอร์ ‎แต่ตอนนี้ฉันต้องไปดูคอนเสิร์ตแล้วล่ะ 130 00:09:05,625 --> 00:09:07,875 ‎บ๊ายบาย ฉันไปแล้วนะ 131 00:09:09,750 --> 00:09:11,250 ‎เราต้องการขนมเยลลี่เพิ่ม 132 00:09:11,333 --> 00:09:14,125 ‎แล้วหน้ายิ้มบนจานหายไปไหน 133 00:09:15,708 --> 00:09:17,166 ‎สวัสดี สตอรี่บอตส์ 134 00:09:18,291 --> 00:09:20,666 ‎อะไรคือสารพิษ และอะไรคือพิษ 135 00:09:22,083 --> 00:09:25,708 ‎กลับมาพบกันอีกครั้งกับหมอบิล 136 00:09:26,208 --> 00:09:29,750 ‎ขอต้อนรับแขกคนต่อไปของผม คุณนายหางกระดิ่ง 137 00:09:31,041 --> 00:09:33,916 ‎ขอบคุณที่เชิญมาค่ะ คุณหมอบิล 138 00:09:34,000 --> 00:09:39,916 ‎เอาล่ะ เรามาเข้าประเด็น ‎กันเลยดีกว่านะ คุณมีสารพิษหรือเปล่า 139 00:09:40,541 --> 00:09:42,708 ‎ฉันไม่มีสารพิษ 140 00:09:43,750 --> 00:09:46,500 ‎ผมว่านั่นฟังดูไม่น่าเชื่อเลยนะ 141 00:09:46,583 --> 00:09:50,291 ‎เราไม่มีสารพิษ แต่เรามีพิษ 142 00:09:50,375 --> 00:09:53,500 ‎แล้วมันต่างจากสารพิษยังไง 143 00:09:53,583 --> 00:09:56,791 ‎เพราะจะว่าไป มันก็ฟังดูไม่ต่างกันเลย 144 00:09:58,791 --> 00:09:59,833 ‎คือว่า ฉันจะ... 145 00:09:59,916 --> 00:10:03,291 ‎เธอกำลังบอกฉันว่า ‎สองอย่างนี้ไม่เหมือนกันงั้นเหรอ 146 00:10:03,375 --> 00:10:04,208 ‎คือ ฉันก็... 147 00:10:04,291 --> 00:10:07,125 ‎นั่นฟังดูไม่ต่างกันเลยนะ 148 00:10:07,208 --> 00:10:10,291 ‎- มันต่างกันสิ เพราะ... ‎- งั้นก็อธิบายให้เราฟังสิ 149 00:10:10,958 --> 00:10:12,583 ‎โอเค สารพิษคือ... 150 00:10:12,666 --> 00:10:17,125 ‎- เรากำลังรอฟังความแตกต่างนี่อยู่ ‎- ฉันก็พยายาม... 151 00:10:17,208 --> 00:10:20,833 ‎ถ้าตัวกินมดทาลิปสติก ‎ยังไงก็ยังเป็นตัวกินมดอยู่ดี จริงไหม 152 00:10:22,791 --> 00:10:25,041 ‎เงียบเดี๋ยวนี้ 153 00:10:25,916 --> 00:10:28,166 ‎ฉันก็พยายามบอกคุณอยู่นี่ไง 154 00:10:28,250 --> 00:10:32,833 ‎สารพิษคือพิษที่สิ่งมีชีวิตปล่อยออกมาเวลาถูกกิน 155 00:10:32,916 --> 00:10:34,916 ‎เหมือนเบอร์รี่ที่มีพิษ 156 00:10:35,000 --> 00:10:39,000 ‎ส่วนพิษคือสิ่งที่เอาไว้โจมตีสิ่งมีชีวิตอื่น 157 00:10:39,083 --> 00:10:42,291 ‎เวลามันกัดหรือต่อย เหมือนกับสิ่งที่ฉันทำ 158 00:10:42,375 --> 00:10:45,125 ‎รวมถึงผึ้งด้วย 159 00:10:47,625 --> 00:10:51,125 ‎ที่จริงแล้ว นั่นก็ฟังดูมีเหตุผลมากๆ เลยล่ะ 160 00:10:51,875 --> 00:10:56,375 ‎เดี๋ยวกลับมาพบกับแขกคนต่อไป ‎เขาคือลิงเอปที่เชื่อว่าตัวเองไม่ใช่ลิง 161 00:10:56,458 --> 00:10:58,583 ‎โลกนี้เป็นอะไรกันไปหมดแล้ว 162 00:11:02,208 --> 00:11:05,125 ‎ฉันเป็นงูที่ลื่นและมีเกล็ด 163 00:11:05,208 --> 00:11:08,125 ‎ฉันฉกได้อย่างรุนแรง พูดจริงนะ 164 00:11:08,208 --> 00:11:11,375 ‎บ้างก็ว่ามันเต็มไปด้วยสารพิษ แต่จริงๆ แล้วไม่มี 165 00:11:11,458 --> 00:11:14,125 ‎เพราะพิษต่างหากคือสิ่งที่ฉันมี 166 00:11:14,208 --> 00:11:17,125 ‎ทั้งสองอย่างมีวิธีเข้าร่างที่ต่างกัน 167 00:11:17,208 --> 00:11:20,125 ‎เห็นไหมว่าพิษจะถูก ‎กลืนหรือซึมเข้าทางผิวหนัง 168 00:11:20,208 --> 00:11:23,125 ‎มีทั้งพิษของเบอร์รี่และเห็ดด้วย 169 00:11:23,208 --> 00:11:26,458 ‎ไม่ว่ายังไงก็ตาม อย่าเล่นกับพิษของหมามุ่ย 170 00:11:26,541 --> 00:11:28,875 ‎แต่พิษของฉันไม่เหมือนกันเลย 171 00:11:28,958 --> 00:11:32,375 ‎มันถูกฉีดเข้าไปจากการฉกหรือต่อย 172 00:11:32,458 --> 00:11:35,250 ‎มีพิษอยู่ในเหล็กในของตัวต่อหรือผึ้ง 173 00:11:35,333 --> 00:11:40,291 ‎รวมถึงเขี้ยวอันตรายของงูอย่างฉัน 174 00:11:41,125 --> 00:11:42,291 ‎นั่นคือพิษ 175 00:11:43,458 --> 00:11:45,375 ‎ไม่ใช่สารพิษ แต่เป็นพิษ 176 00:11:52,625 --> 00:11:55,500 ‎สถานีต่อไป อัฒจันทร์สตอรี่บอตส์ 177 00:11:59,750 --> 00:12:03,625 ‎ฉันผู้จัดการวงเทสต์บัดส์พูดอยู่ ใช่เหรอ 178 00:12:04,708 --> 00:12:07,333 ‎ดูเหมือนคืนนี้เราจะมันส์สุดๆ กันไปเลยนะ บัดส์ 179 00:12:11,041 --> 00:12:13,083 ‎เชฟโบ ดีใจที่คุณมาได้ 180 00:12:13,791 --> 00:12:16,625 ‎คุณพูดว่า "เชฟโบ" เหรอ 181 00:12:16,708 --> 00:12:19,583 ‎เธอทำยังไงให้รสชาติ ‎อาหารประหลาดได้ขนาดนั้น 182 00:12:19,666 --> 00:12:22,041 ‎ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องรสชาติเลย 183 00:12:22,125 --> 00:12:25,458 ‎ฉันมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เรื่องรสชาติน่ะ 184 00:12:25,541 --> 00:12:28,000 ‎เธอมาถูกที่แล้ว 185 00:12:28,083 --> 00:12:32,416 ‎บัดส์ ช่วยบอกเชฟเกี่ยวกับห้ารสชาติพื้นฐาน 186 00:12:32,500 --> 00:12:34,791 ‎แบบวิธีร็อคสุดเหวี่ยงหน่อยได้ไหม 187 00:12:35,458 --> 00:12:36,625 ‎ด้วยความยินดีเลย 188 00:12:38,125 --> 00:12:42,083 ‎ฉันเค็ม ดั่งเฟรนช์ฟรายส์ 189 00:12:42,166 --> 00:12:44,375 ‎เปรี้ยว ดั่งมะนาว 190 00:12:44,458 --> 00:12:49,250 ‎ฉันขม ดั่งเกรปฟรุตกับกะหล่ำดาว 191 00:12:49,333 --> 00:12:53,125 ‎หวาน ดั่งผลไม้กับไอศกรีม 192 00:12:53,208 --> 00:12:57,000 ‎ส่วนฉันคืออูมามิ สมาชิกใหม่ล่าสุดของวง 193 00:12:57,083 --> 00:13:00,750 ‎มันคือรสกลมกล่อมของเนื้อหรือมะเขือเทศ 194 00:13:00,833 --> 00:13:02,000 ‎และเราคือวง... 195 00:13:02,666 --> 00:13:04,208 ‎เดอะเทสต์บัดส์ 196 00:13:07,583 --> 00:13:10,166 ‎เจ๋งสุดๆ ไปเลย 197 00:13:10,250 --> 00:13:14,875 ‎แต่เดี๋ยว ห้ารสชาติพื้นฐานพวกนี้ ‎เกี่ยวข้องกับการชิมของคนยังไง 198 00:13:16,583 --> 00:13:19,500 ‎อยู่ที่นี่และฟังเราต่อ เดี๋ยวเธอจะได้คำตอบเอง 199 00:13:21,750 --> 00:13:24,958 ‎สตอรี่บอตส์ พร้อมร็อคกับเราหรือยัง 200 00:13:27,375 --> 00:13:28,458 ‎หนึ่ง สอง สาม สี่ 201 00:13:33,541 --> 00:13:36,750 ‎เมื่อเรากัดเข้าไปในแซนด์วิชหรือพายพิซซ่า 202 00:13:36,833 --> 00:13:39,416 ‎และเรารับรสบางอย่างแสนอร่อย มันมีเหตุผล 203 00:13:39,500 --> 00:13:40,791 ‎- เรามี... ‎- ตุ่มรับรส 204 00:13:40,875 --> 00:13:43,583 ‎พวกนั้นคือกลุ่มเซลล์บนลิ้นและในคอของเรา 205 00:13:43,666 --> 00:13:44,833 ‎รวมถึงที่อื่นๆ อีกด้วย 206 00:13:44,916 --> 00:13:47,458 ‎เวลาเราเคี้ยวอาหาร น้ำลายจะถูกปนเข้าไป 207 00:13:47,541 --> 00:13:50,041 ‎เพื่อล้างตุ่มรับรสของเรา แล้วมันจะเริ่ม 208 00:13:50,125 --> 00:13:53,041 ‎วิเคราะห์ว่าในอาหาร ‎ประกอบด้วยสารเคมีใดบ้าง 209 00:13:53,125 --> 00:13:55,958 ‎จากนั้นพวกเขาจะส่งข้อมูลไปยังสมองเรา 210 00:13:56,041 --> 00:13:59,208 ‎มีบางรสชาติที่ตุ่มรับรสจะคุ้นเคย 211 00:13:59,291 --> 00:14:00,708 ‎เรารู้อย่างน้อยห้ารส 212 00:14:00,791 --> 00:14:03,916 ‎มีรสเค็ม เปรี้ยว ขม หวาน 213 00:14:04,000 --> 00:14:06,875 ‎- และรสอูมามิ ‎- มันคือรสกลมกล่อมเหมือนเนื้อ 214 00:14:06,958 --> 00:14:12,291 ‎รสชาติจะรวมกันในรูปแบบต่างๆ ‎เช่นรสเปรี้ยวและหวานในน้ำมะนาว 215 00:14:12,375 --> 00:14:15,083 ‎หรือรสเค็มและอูมามิในสตูแสนอร่อย 216 00:14:15,166 --> 00:14:17,833 ‎นั่นเป็นวิธีหนึ่งที่เราลิ้มรสชาติของอาหาร 217 00:14:17,916 --> 00:14:21,666 ‎- ลิ้มรสชาติของอาหาร ‎- ลิ้มรสชาติของอาหาร 218 00:14:25,750 --> 00:14:28,541 ‎นั่นแค่บางส่วนของเรื่อง ‎ แต่มันยังมีเรื่องให้เล่าอีก 219 00:14:28,625 --> 00:14:31,750 ‎อีกส่วนหนึ่งของการชิม คือการรับกลิ่น 220 00:14:31,833 --> 00:14:34,041 ‎เมื่อเราเคี้ยวอาหารจะปล่อยสารเคมี 221 00:14:34,125 --> 00:14:37,041 ‎มันระเหยเข้าสู่จมูกและเมื่อเป็นเช่นนั้น 222 00:14:37,125 --> 00:14:39,833 ‎พวกเขาจะเจอกับเซลล์พิเศษในช่องจมูกเรา 223 00:14:39,916 --> 00:14:42,500 ‎หน่วยรับกลิ่นคือชื่อของพวกมัน 224 00:14:42,583 --> 00:14:45,166 ‎เช่นเดียวกับตุ่มรับรส ‎ที่ส่งสัญญาณไปยังสมอง 225 00:14:45,250 --> 00:14:48,000 ‎หน่วยรับกลิ่นของเราก็เหมือนกัน 226 00:14:48,083 --> 00:14:51,291 ‎สมองของเราจะรวบรวม ‎สัญญาณทั้งหมดที่ผ่านเข้ามา 227 00:14:51,375 --> 00:14:53,500 ‎จากจมูกรวมถึงตุ่มรับรสด้วย 228 00:14:53,583 --> 00:14:56,166 ‎จากนั้นสมองเราจะแปลรสชาติที่คุ้นเคยออกมา 229 00:14:56,250 --> 00:14:59,833 ‎แล้วรู้ว่าเรากำลังกินอะไรอยู่ ‎และถ้าเราต้องการกินมันเพิ่ม 230 00:15:01,291 --> 00:15:04,500 ‎เช่นทาโก้ สปาเก็ตตี้หรือบาร์บีคิว 231 00:15:04,583 --> 00:15:07,333 ‎นั่นเป็นวิธีที่เยี่ยมมากที่เราใช้ลิ้มรสอาหาร 232 00:15:07,416 --> 00:15:09,500 ‎ลิ้มรส… 233 00:15:09,583 --> 00:15:13,083 ‎ฉันบอกว่านั่นเป็นวิธี ‎ที่เยี่ยมมากที่เราใช้ลิ้มรสอาหาร ใช่เลย 234 00:15:13,166 --> 00:15:14,916 ‎ลิ้มรส… 235 00:15:15,000 --> 00:15:18,125 ‎ฉันบอกว่านั่นเป็นวิธี ‎ที่เยี่ยมมากที่เราใช้ลิ้มรสอาหาร 236 00:15:18,208 --> 00:15:20,541 ‎- ลิ้มรส... ‎- เฮ้ เฮ้ เฮ้ 237 00:15:20,625 --> 00:15:23,791 ‎ฉันบอกว่านั่นเป็นวิธี ‎ที่เยี่ยมมากที่เราใช้ลิ้มรสอาหาร 238 00:15:26,541 --> 00:15:28,833 ‎นั่นร็อคสุดๆ ไปเลย 239 00:15:28,916 --> 00:15:32,208 ‎ขอบคุณที่สอนฉันเรื่องรสชาตินะ 240 00:15:32,291 --> 00:15:34,916 ‎ยินดีเสมอ แล้วเจอกันนะ โบ 241 00:15:35,000 --> 00:15:37,875 ‎- บ๊ายบาย ‎- ขอบคุณที่มาดูการแสดงของเรานะ 242 00:15:37,958 --> 00:15:40,083 ‎บาย เจอกันนะ เดี๋ยวก่อนสิ 243 00:15:40,166 --> 00:15:43,583 ‎ที่จริงฉันจะไปทางนั้นนะ รบกวนช่วยพาฉันไป... 244 00:15:43,666 --> 00:15:48,083 ‎ใช่ ขอบคุณ ลาก่อนนะ บ๊ายบาย 245 00:15:52,375 --> 00:15:53,583 ‎ยินดีต้อนรับนะ ทุกคน 246 00:15:53,666 --> 00:15:58,791 ‎วันนี้เราจะมาสาธิตวิธี ‎ลิ้มรสชาติด้วยเทสต์ทรอนห้าพัน 247 00:16:01,416 --> 00:16:02,750 ‎อย่างที่เราเห็นตรงนี้ 248 00:16:02,833 --> 00:16:06,666 ‎มนุษย์มีเซลล์พิเศษในช่องปากและจมูก 249 00:16:06,750 --> 00:16:08,958 ‎ที่ช่วยให้พวกเขารับรสอาหารได้ 250 00:16:09,041 --> 00:16:15,333 ‎ดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้ช่วย ‎ของฉันป้อนอาหารให้เทสต์ทรอนห้าพัน 251 00:16:17,041 --> 00:16:20,375 ‎เวลาคนเราเคี้ยว ฟันจะทำหน้าที่บดอาหาร 252 00:16:20,458 --> 00:16:24,041 ‎และน้ำลายจะทำการล้างตุ่มรับรสของเรา 253 00:16:24,125 --> 00:16:28,291 ‎ตุ่มรับรสเหล่านี้จะวิเคราะห์สารเคมีในอาหาร 254 00:16:28,375 --> 00:16:31,208 ‎และส่งสัญญาณไปยังสมอง 255 00:16:31,291 --> 00:16:35,083 ‎สัญญาณเหล่านี้จะแบ่งออกเป็นห้ารส 256 00:16:35,166 --> 00:16:39,541 ‎รสเค็ม เปรี้ยว ขม หวานและอูมามิ 257 00:16:41,666 --> 00:16:44,541 ‎ตุ่มรับรสในปากไม่ได้ทำงานเพียงตัวเดียว 258 00:16:44,625 --> 00:16:49,166 ‎หน่วยรับกลิ่นในจมูกจะส่ง ‎สัญญาณไปยังสมองด้วยเช่นกัน 259 00:16:49,791 --> 00:16:54,333 ‎สมองต้องอาศัยสัญญาณ ‎เหล่านี้เพื่อตัดสินใจว่าจะเคี้ยวต่อ 260 00:16:54,416 --> 00:16:56,375 ‎หรือคายอาหารออกมา 261 00:16:57,166 --> 00:16:59,208 ‎และหาอาหารอย่างอื่นมาแทน 262 00:16:59,291 --> 00:17:02,250 ‎ไม่ โกเฟอร์หยุดนะ โอ๊ย 263 00:17:02,333 --> 00:17:04,333 ‎และนั่นคือเรื่องของรสชาติ 264 00:17:05,083 --> 00:17:06,333 ‎หยุดเถอะ หยุดนะ 265 00:17:11,416 --> 00:17:14,583 ‎สวัสดี คุณเห็ด ได้ยินฉันไหม 266 00:17:15,125 --> 00:17:19,083 ‎โบ ฉันดีใจที่เธอกลับมา ‎เธอรู้หรือยังว่าคนเราลิ้มรสอาหารยังไง 267 00:17:19,583 --> 00:17:24,208 ‎รู้แล้วแต่ฉันแค่ไม่แน่ใจว่ามันจะช่วยคุณได้ไหม 268 00:17:24,916 --> 00:17:28,750 ‎ไม่ต้องห่วง ฉันแกร่งกว่าที่คิด ‎ฉันสัญญาว่าฉันรับมือกับมันได้ 269 00:17:28,833 --> 00:17:30,291 ‎เธอได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง 270 00:17:30,375 --> 00:17:34,041 ‎คนเรามีเซลล์พิเศษในช่องปากและจมูก 271 00:17:34,125 --> 00:17:37,250 ‎เพื่อวิเคราะห์สารเคมีที่ถูกปล่อยจากอาหาร 272 00:17:37,333 --> 00:17:41,958 ‎เซลล์เหล่านั้นจะส่งสัญญาณ ‎ไปยังสมองเพื่อแปลรสชาติอาหาร 273 00:17:42,041 --> 00:17:43,833 ‎ดังนั้น เพื่อให้รสชาติดีขึ้น 274 00:17:43,916 --> 00:17:48,041 ‎ฉันจะต้องปรับเปลี่ยนสารเคมี ‎ที่ถูกปล่อยออกมาตอนฉันถูกเคี้ยว ใช่ไหม 275 00:17:48,541 --> 00:17:50,125 ‎แล้วฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไง 276 00:17:50,625 --> 00:17:53,125 ‎ฉันก็ไม่รู้ว่าคุณจะทำได้หรือเปล่า 277 00:17:53,208 --> 00:17:56,333 ‎ว่าแต่ ทำไมคุณต้องเปลี่ยนตัวเองด้วยล่ะ 278 00:17:56,416 --> 00:17:59,750 ‎ใช่ คุณควรรักตัวเองในแบบที่คุณเป็นนะ 279 00:17:59,833 --> 00:18:00,958 ‎รวมถึงรสชาติด้วย 280 00:18:01,041 --> 00:18:05,083 ‎และอย่าลืมว่ารสชาติของคน ‎เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเลย 281 00:18:05,166 --> 00:18:09,791 ‎เด็กที่ไม่ชอบเห็ดในวันนี้ ‎อาจชอบเธอในเดือนหน้าหรือปีหน้าก็ได้ 282 00:18:09,875 --> 00:18:10,875 ‎บู๊ป 283 00:18:10,958 --> 00:18:14,541 ‎มีผู้ใหญ่ตั้งมากมายที่ชอบเห็ด 284 00:18:14,625 --> 00:18:17,291 ‎ส่วนเด็กๆ ก็ต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ 285 00:18:17,375 --> 00:18:20,458 ‎- ใช่ จริงด้วย ‎- จริงสุดๆ ใช่เลย 286 00:18:21,000 --> 00:18:23,041 ‎พวกเธอพูดถูก สตอรี่บอตส์ 287 00:18:23,125 --> 00:18:25,500 ‎ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลย 288 00:18:26,000 --> 00:18:29,333 ‎ฉันเป็นเห็ดตัวเหม็นและฉันภูมิใจ 289 00:18:29,416 --> 00:18:31,416 ‎มันต้องอย่างนั้นสิ 290 00:18:31,500 --> 00:18:34,583 ‎ขอบคุณนะ สตอรี่บอตส์ ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วล่ะ 291 00:18:34,666 --> 00:18:37,791 ‎ฉันพร้อมจะแสดงให้โลกเห็นแล้วว่าฉันเป็นใคร 292 00:18:37,875 --> 00:18:43,208 ‎ฉันเป็นเห็ดเหม็น 293 00:18:43,291 --> 00:18:45,375 ‎ฉันเป็นเห็ดเหม็น 294 00:19:06,750 --> 00:19:11,708 ‎(คำบรรยายโดยดานิเยลา สุวรรณดี)