1 00:00:13,240 --> 00:00:17,320 สำหรับคนที่ไม่รู้จักผม ผมชื่อแกรห์ม แฮนค็อกครับ 2 00:00:18,680 --> 00:00:22,080 ผมใช้เวลาสำรวจหาความเป็นไปได้ 3 00:00:22,160 --> 00:00:24,960 ที่จะมีอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่หายสาบสูญ 4 00:00:25,040 --> 00:00:26,760 มานานกว่า 30 ปีแล้ว 5 00:00:29,000 --> 00:00:32,280 นักโบราณคดีอ้างว่า ถ้ามีอารยธรรมที่หายสาบสูญจริง 6 00:00:33,720 --> 00:00:36,240 พวกเขาก็คงหามันพบแล้ว 7 00:00:38,600 --> 00:00:40,440 ผมไม่เห็นด้วยสุดๆ กับคำพูดนั้น 8 00:00:42,360 --> 00:00:44,160 ตอนนี้การสำรวจของผมดำเนินต่อไป 9 00:00:48,880 --> 00:00:52,880 ในพื้นที่หนึ่งของโลกที่นักประวัติศาสตร์ ด้านต้นกำเนิดของมนุษยชาติมักมองข้าม… 10 00:00:55,640 --> 00:01:00,800 อายุที่เก่าแก่ที่สุดที่เราเจอ คือราว 13,200 ปีก่อนสมัยปัจจุบัน 11 00:01:01,960 --> 00:01:06,000 สำรวจสิ่งมหัศจรรย์โบราณอันน่าทึ่งที่สุดของโลก 12 00:01:06,880 --> 00:01:10,160 มีทั้งเลขศาสตร์ คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์ 13 00:01:11,120 --> 00:01:14,600 นี่อาจถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยี ที่หายสาบสูญไปเลยก็ได้ 14 00:01:15,200 --> 00:01:16,880 และทำการค้นพบใหม่ๆ 15 00:01:18,200 --> 00:01:19,200 แม่เจ้า 16 00:01:23,400 --> 00:01:26,480 มันเป็นไปไม่ได้เลย เป็นไปไม่ได้ 17 00:01:27,720 --> 00:01:32,680 ตอนเป็นเด็ก ผมมักคิดว่าเส้นเวลามันผิด 18 00:01:33,360 --> 00:01:36,400 พร้อมกับแนวคิดใหม่ในใจที่แสนท้าทาย 19 00:01:38,040 --> 00:01:40,880 เป็นไปได้ไหมว่ากุญแจสู่การค้นพบ อารยธรรมที่หายสาบสูญ 20 00:01:40,960 --> 00:01:42,560 ในยุคน้ำแข็งอาจอยู่ที่นี่ 21 00:01:44,040 --> 00:01:45,160 ในทวีปอเมริกา 22 00:02:03,760 --> 00:02:08,360 (หายนะอารยะธรรมโบราณ อเมริกา) 23 00:02:08,440 --> 00:02:10,600 (ตอนที่หนึ่ง) 24 00:02:20,080 --> 00:02:22,360 การสืบเสาะหาต้นกำเนิดของเรา 25 00:02:23,680 --> 00:02:26,400 และการสืบเสาะหาต้นกำเนิดของอารยธรรม 26 00:02:26,480 --> 00:02:30,600 คือรากฐานสำคัญที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ 27 00:02:32,760 --> 00:02:34,840 แต่ผมคิดว่านี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ 28 00:02:35,880 --> 00:02:38,760 ถ้าเราเชื่อว่าบางสิ่งไม่มีอยู่จริง 29 00:02:39,560 --> 00:02:40,760 เราก็จะไม่พยายามค้นหามัน 30 00:02:48,320 --> 00:02:51,040 การค้นหาต้นกำเนิดเหล่านั้นได้พาผมมาที่นี่ 31 00:02:52,320 --> 00:02:55,080 สู่หนึ่งในสถานที่น่าตะลึงที่สุดในอเมริกาเหนือ 32 00:02:56,960 --> 00:02:58,200 ไวต์แซนส์ 33 00:02:59,360 --> 00:03:04,760 (ไวต์แซนส์ นิวเม็กซิโก) 34 00:03:05,360 --> 00:03:09,120 นี่คือดินแดนที่งดงามและแปลกตา 35 00:03:09,200 --> 00:03:12,040 ที่ซ่อนความลับไว้เป็นพันๆ ปี 36 00:03:14,360 --> 00:03:16,360 ความลับที่เพิ่งถูกเปิดเผย 37 00:03:16,440 --> 00:03:19,680 ที่บีบให้เราต้องเขียนเรื่องราว ของยุคก่อนประวัติศาสตร์ของทวีปอเมริกาใหม่ 38 00:03:21,680 --> 00:03:25,760 ก่อนช่วงปี 1990 เราถูกสอนว่าในช่วงยุคน้ำแข็ง 39 00:03:25,840 --> 00:03:30,440 มนุษย์อพยพจากเอเชียเหนือไปยังอลาสก้า ผ่านทางสะพานแผ่นดินเบริง 40 00:03:30,560 --> 00:03:31,400 (เบอรินเจีย) 41 00:03:31,480 --> 00:03:34,200 จากนั้นราว 13,500 ปีก่อน 42 00:03:35,000 --> 00:03:37,840 พวกเขาเดินทางผ่านเส้นทางที่ไม่มีน้ำแข็งลงใต้ 43 00:03:37,920 --> 00:03:39,760 ก่อนกระจัดกระจายไปทั่วทวีปอเมริกา 44 00:03:39,840 --> 00:03:41,960 (มหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ) 45 00:03:42,040 --> 00:03:45,120 ผู้คนเชื่อถือแนวคิดนี้กันอย่างหนักแน่น มาเป็นเวลานาน 46 00:03:45,720 --> 00:03:47,200 จนทำให้มีนักโบราณคดีเพียงไม่กี่คน 47 00:03:47,280 --> 00:03:50,400 ออกค้นหาร่องรอยการอพยพของมนุษย์ ที่เก่าแก่กว่านั้น 48 00:03:53,960 --> 00:03:56,560 เป็นเวลานานมากที่เราเชื่อว่า 49 00:03:56,640 --> 00:03:59,000 เราคงหาหลักฐานการปรากฏตัวของมนุษย์ 50 00:03:59,080 --> 00:04:01,440 ที่เก่ากว่า 13,500 ปีไม่ได้แล้ว 51 00:04:03,160 --> 00:04:07,480 กลายเป็นว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด ผิดมากๆ ด้วย 52 00:04:10,320 --> 00:04:13,840 เดวิด บุสโตส ผู้จัดการทรัพยากร ของอุทยานแห่งชาติไวต์แซนส์ 53 00:04:13,920 --> 00:04:16,320 เริ่มทำงานที่นี่ในปี 2005 54 00:04:16,400 --> 00:04:18,080 (เดวิด บุสโตส ผู้จัดการโครงการทรัพยากร) 55 00:04:18,160 --> 00:04:22,520 เขาหวังที่จะแบ่งปันความหลงใหลที่มีต่อ ธรรมชาติเก่าแก่และสัตว์ป่าของที่นี่ให้แก่คนอื่นๆ 56 00:04:24,840 --> 00:04:28,160 แต่ในไม่ช้าเขาก็พบว่า กำลังอยู่บนเส้นทางของสิ่งอื่น 57 00:04:29,600 --> 00:04:31,880 บางสิ่งที่ดูบ้ามากในตอนแรก 58 00:04:34,280 --> 00:04:39,400 ตอนปี 2006 ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับรอยเท้าบิ๊กฟุต 59 00:04:40,200 --> 00:04:44,720 มีนักวางกับดักของรัฐคนหนึ่ง พบรอยเท้าที่น่าทึ่งพวกนี้ 60 00:04:44,800 --> 00:04:48,400 เขาบรรยายว่ามันยาว 22 นิ้วและกว้างแปดนิ้ว 61 00:04:48,480 --> 00:04:50,560 - ครับ - มันจะเป็นอะไรไปได้ ต้องเป็นบิ๊กฟุตแน่ 62 00:04:50,640 --> 00:04:53,360 ผมว่าเขาเลยถูกทัวร์ลงจากหลายๆ คน เพราะมันไม่มีหรอกบิ๊กฟุต 63 00:04:54,280 --> 00:04:57,720 - แต่ผมก็คิดว่า "ฉันเคยเห็นรอยพวกนี้นะ" - ครับ 64 00:04:57,800 --> 00:05:01,600 พวกเราก็เลยออกมากัน แล้วพอเราตรวจสอบรอยเท้าเหล่านี้ 65 00:05:01,680 --> 00:05:04,360 อย่างที่เห็นครับ เราเจอรอยกรงเล็บที่น่าทึ่งด้วย 66 00:05:05,160 --> 00:05:07,400 เห็นชัดว่านี่ไม่ใช่บิ๊กฟุต 67 00:05:09,720 --> 00:05:12,440 ที่เขาพบคือรอยเท้าของกราวด์สลอธยักษ์ 68 00:05:12,520 --> 00:05:14,840 - มันคือกราวด์สลอธยักษ์นี่เอง - กราวด์สลอธยักษ์ครับ 69 00:05:16,760 --> 00:05:19,280 พวกเขารู้ได้เลยว่ารอยเท้าพวกนี้ต้องเก่ามาก 70 00:05:20,920 --> 00:05:25,640 กราวด์สลอธยักษ์สูญพันธุ์ เมื่อราว 11,500 ปีที่แล้ว 71 00:05:27,960 --> 00:05:31,800 จากนั้นเดวิดกับเพื่อนร่วมงาน ก็เจอรอยเท้าที่ใหญ่กว่าที่อยู่ใกล้ๆ 72 00:05:31,880 --> 00:05:34,400 มันคือรอยเท้าแมมมอธ ที่สูญพันธุ์ไปนานแล้วเช่นกัน 73 00:05:37,080 --> 00:05:41,520 รูปแบบการก้าวเดินบางรอยยาวถึง 3.9 เมตร มันเหลือเชื่อมากเลยครับ 74 00:05:43,440 --> 00:05:47,400 มองไปอีกหน่อย คุณจะเห็น รอยเท้าของอูฐยักษ์ อูฐอเมริกัน 75 00:05:47,480 --> 00:05:49,280 บางครั้งก็เห็นรอยเท้าหมาป่าไดร์วูล์ฟด้วย 76 00:05:51,080 --> 00:05:53,200 รอยเท้าทั้งหมดนี้มาจากสัตว์ประเภทเมกาโฟนา 77 00:05:53,800 --> 00:05:57,880 หรือพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ที่จู่ๆ ก็หายไปช่วงปลายยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย 78 00:06:00,520 --> 00:06:03,160 หลายๆ รอยเป็นเพียงทรายที่ถูกอัดแน่น 79 00:06:03,240 --> 00:06:07,160 ฝังอยู่ใต้ดินและมีชั้นของตะกอนปกป้องนานนับพันปี 80 00:06:09,480 --> 00:06:12,360 จนกระทั่งการกัดเซาะ ทำให้พวกมันกลับขึ้นมาสู่ผิวดิน 81 00:06:15,160 --> 00:06:17,480 ท่ามกลางรอยเท้าแมมมอธโบราณเหล่านี้ 82 00:06:17,560 --> 00:06:20,840 เดวิดยังเห็นรอยเท้าอีกชุดที่น่าสนใจด้วย 83 00:06:23,960 --> 00:06:27,200 เขากับเพื่อนร่วมงานตัดสินใจ ตรวจสอบให้แน่ใจยิ่งขึ้น 84 00:06:29,880 --> 00:06:31,800 พอเราปัดรอยเท้าอีกชุดที่เจอ 85 00:06:31,880 --> 00:06:35,320 เราได้เห็นรอยนิ้วเท้าและส้นเท้าที่สมบูรณ์มาก 86 00:06:37,600 --> 00:06:39,640 - รอยเท้ามนุษย์เหรอครับ - รอยเท้ามนุษย์ครับ 87 00:06:39,720 --> 00:06:43,360 ดูเหมือนจะอยู่ในยุคเดียวกับ พวกสัตว์เมกาโฟนาด้วย 88 00:06:43,440 --> 00:06:44,720 มันน่าทึ่งจริงๆ 89 00:06:44,800 --> 00:06:46,120 - เหลือเชื่อเลยครับ - ใช่เลย 90 00:06:51,440 --> 00:06:54,160 รอยเท้ามนุษย์ที่กลายเป็นฟอสซิลนี้คงเกิดขึ้น 91 00:06:54,240 --> 00:06:57,080 ในยุคเดียวกับรอยเท้า ของแมมมอธและกราวด์สลอธยักษ์ 92 00:06:58,800 --> 00:07:01,920 นั่นคือ 11,500 ปีก่อนเป็นอย่างต่ำ 93 00:07:03,840 --> 00:07:05,960 แถมยังมีอยู่เป็นพันๆ รอยเลย 94 00:07:12,960 --> 00:07:18,120 ความพิเศษของสิ่งที่พบในไวต์แซนส์ คือมันไม่ใช่พวกเครื่องไม้เครื่องมือ 95 00:07:18,200 --> 00:07:23,160 มันไม่ใช่ซากกระดูกต้นขาที่หัก ของเหยื่อที่ถูกล่า 96 00:07:23,240 --> 00:07:25,640 แต่มันคือรอยเท้ามนุษย์ มันคือเรา 97 00:07:29,000 --> 00:07:31,800 รอยเท้าพวกนั้นทำให้เรา ได้เห็นการปรากฏตัวของมนุษย์ 98 00:07:31,880 --> 00:07:34,040 อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา 99 00:07:38,920 --> 00:07:41,160 แต่รอยพวกนี้ถูกทิ้งไว้ที่นี่เมื่อไรกันแน่ 100 00:07:43,920 --> 00:07:46,360 รอยเท้าพวกนี้มีอายุเท่าไรกัน 101 00:07:49,160 --> 00:07:52,160 ไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถระบุอายุ ของพวกมันได้โดยตรง 102 00:07:53,760 --> 00:07:57,920 กรมอุทยานจึงร่วมกับ สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ 103 00:07:58,000 --> 00:08:00,000 เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม 104 00:08:05,160 --> 00:08:06,720 แล้วพวกเขาก็ไปพบกับสิ่งที่มีค่ามาก 105 00:08:07,320 --> 00:08:12,160 พวกเขาพบรอยเท้าสัตว์และมนุษย์ ที่ฝังอยู่ลึกลงไปเรื่อยๆ 106 00:08:16,320 --> 00:08:19,320 ที่ฝังอยู่ด้วยกันคือเมล็ดของพืชน้ำ 107 00:08:21,240 --> 00:08:23,240 เมล็ดพันธุ์ที่อาจตรวจอายุคาร์บอนได้ 108 00:08:27,040 --> 00:08:29,600 และผลลัพธ์ก็น่าตกตะลึง 109 00:08:33,560 --> 00:08:36,680 เรารู้ว่ารอยเท้าอยู่ที่นี่มาเป็นพันๆ ปีแล้ว 110 00:08:36,760 --> 00:08:41,680 อย่างต่ำก็ 23,000 ปีถึง 21,000 ปี 111 00:08:41,760 --> 00:08:42,600 โอ้โฮ 112 00:08:48,800 --> 00:08:54,440 การค้นพบรอยเท้ามนุษย์ที่ไวต์แซนส์เป็นก้าวสำคัญ 113 00:08:54,520 --> 00:08:57,400 เพื่อให้เราเข้าใจเรื่องการมีมนุษย์ มาตั้งรกรากในทวีปอเมริกา 114 00:08:59,200 --> 00:09:02,720 เรากำลังดูหลักฐานที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ 115 00:09:02,800 --> 00:09:06,560 ว่ามีมนุษย์อยู่ในนิวเม็กซิโกในยุคน้ำแข็ง 116 00:09:06,640 --> 00:09:09,880 อาจตั้งแต่ 23,000 ปีก่อนเลย 117 00:09:11,240 --> 00:09:15,120 มันเป็นหลักฐานว่า นานก่อนที่มนุษย์จะเดินทางลงใต้ 118 00:09:15,200 --> 00:09:17,640 ผ่านเส้นทางที่ไม่มีน้ำแข็งที่ว่า ลงสู่ทวีปอเมริกา 119 00:09:18,320 --> 00:09:20,760 เคยมีมนุษย์อยู่ที่นี่อยู่ก่อนแล้ว 120 00:09:20,840 --> 00:09:22,880 (ราว 22,860 ปีก่อน) 121 00:09:24,440 --> 00:09:28,400 นี่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของทวีปอเมริกา และเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของโลกเลยครับ 122 00:09:32,800 --> 00:09:35,320 คนพวกนี้เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา 123 00:09:35,400 --> 00:09:39,080 แต่พวกเขาถูกซ่อนอยู่หลังม่านแห่งกาลเวลา 124 00:09:39,160 --> 00:09:43,240 และภารกิจของเราตอนนี้คือเปิดม่านนั้นขึ้น 125 00:09:43,320 --> 00:09:49,000 และสร้างความสัมพันธ์กับบรรพบุรุษของเรา และอดีตอันไกลโพ้นอีกครั้ง 126 00:09:54,680 --> 00:09:57,360 รอยเท้าเหล่านี้มีความสำคัญและความหมายพิเศษ 127 00:09:57,440 --> 00:10:00,120 ต่อชุมชนพื้นเมืองที่อยู่ในพื้นที่นี้ 128 00:10:03,120 --> 00:10:07,080 คิม พาสควาล-ชาร์ลี จากชุมชนปวยโบล แห่งอาโคมา ได้ปรึกษากับทีมงาน 129 00:10:07,160 --> 00:10:08,800 เรื่องการค้นพบครั้งสำคัญนี้ 130 00:10:12,520 --> 00:10:16,160 เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของชนเผ่าอาโคมา กับแผ่นดินตรงนี้ให้ฟังหน่อยครับ 131 00:10:16,240 --> 00:10:19,560 ชนเผ่าของคุณอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว 132 00:10:19,640 --> 00:10:22,720 มีตำนานและประเพณีที่เกี่ยวกับ เรื่องราวต้นกำเนิดของชนเผ่าคุณไหม 133 00:10:22,800 --> 00:10:27,520 ค่ะ เรื่องราวต้นกำเนิดของเราเริ่มต้น ที่ไหนสักแห่งในพื้นที่ทางตอนเหนือ 134 00:10:27,600 --> 00:10:32,200 และจากที่ได้ฟังเรื่องราวการอพยพ ที่เล่าต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น 135 00:10:32,280 --> 00:10:34,600 เราตั้งถิ่นฐานตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง แล้วก็ลงมายังพื้นที่นี้ 136 00:10:34,680 --> 00:10:37,200 และนั่นคือที่ที่ชนเผ่าของฉันตั้งถิ่นฐาน 137 00:10:37,280 --> 00:10:39,920 เราอยู่ในตะวันตกเฉียงใต้มานานมาก 138 00:10:40,000 --> 00:10:40,840 ครับ 139 00:10:41,720 --> 00:10:43,240 สำหรับคิมกับผู้คนของเธอ 140 00:10:43,320 --> 00:10:46,440 รอยเท้าพวกนี้เป็นมากกว่าหลักฐานทางโบราณคดี 141 00:10:48,040 --> 00:10:50,800 บรรพบุรุษของคุณทิ้งรอยเท้าไว้ 142 00:10:50,880 --> 00:10:53,320 ผมรู้มาว่าคุณมีส่วนร่วม ในการค้นหารอยเท้าบางส่วนด้วย 143 00:10:53,400 --> 00:10:55,520 ค่ะ มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเลยละ 144 00:10:58,560 --> 00:11:02,920 เรามาที่นี่เพื่อดูสถานที่ ที่บรรพบุรุษของเราเคยเดิน 145 00:11:09,080 --> 00:11:13,680 และเพื่อเอามือทาบบนรอยเล็กๆ ที่เหมือนรอยเท้าเด็ก 146 00:11:17,000 --> 00:11:20,360 มันชวนให้ปลาบปลื้มมากเลยค่ะ 147 00:11:20,440 --> 00:11:21,760 - นึกออกไหมคะ มัน… - ครับ 148 00:11:22,360 --> 00:11:24,200 ขอโทษค่ะ แกรห์ม แต่นี่มันแบบ… 149 00:11:25,160 --> 00:11:26,960 บางครั้งมันก็ทำให้คุณอยากร้องไห้เลย 150 00:11:27,040 --> 00:11:28,360 - แน่นอนครับ - นึกออกนะคะ 151 00:11:29,760 --> 00:11:32,080 แต่เมื่อรอยเท้าพวกนี้เผยตัวขึ้นมา 152 00:11:32,160 --> 00:11:34,400 กระบวนการกัดเซาะที่เคยเปิดเผยพวกมัน 153 00:11:34,480 --> 00:11:36,480 ก็ค่อยๆ เริ่มลบมันไปทีละนิด 154 00:11:38,920 --> 00:11:42,800 รอยเท้าพวกนี้ที่เป็นหลักฐานการปรากฏตัว ของชนเผ่าของคุณ 155 00:11:42,880 --> 00:11:45,440 มันก็เปราะบางด้วย พวกมันอาจหายไปได้ง่ายๆ เลย 156 00:11:46,040 --> 00:11:48,880 รู้ไหมคะ ไม่แน่อีก 50 ปีข้างหน้า 157 00:11:48,960 --> 00:11:52,200 คนรุ่นใหม่อาจจะไม่ได้เห็นรอยเท้าพวกนี้แล้ว 158 00:11:52,280 --> 00:11:55,000 - ครับ - แต่เรื่องราวจะยังคงดำเนินต่อไป 159 00:11:55,080 --> 00:11:56,720 เรื่องราวของเราจะดำเนินต่อไป 160 00:12:03,600 --> 00:12:06,040 แต่ภูมิประเทศรกร้างนี้ก็ทำให้เกิดคำถาม 161 00:12:06,640 --> 00:12:10,080 ทำไมมนุษย์และสัตว์พวกนี้ถึงมาที่นี่ 162 00:12:13,520 --> 00:12:17,000 จำไว้นะว่าอเมริกาเหนือในยุคน้ำแข็งนั้น แตกต่างจากตอนนี้มาก 163 00:12:17,640 --> 00:12:20,880 ครึ่งเหนือของทวีปถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง 164 00:12:22,840 --> 00:12:26,080 และพื้นที่ส่วนนี้ของนิวเม็กซิโก ก็แตกต่างไปจากเดิมมากๆ เช่นกัน 165 00:12:27,000 --> 00:12:27,960 มองแวบแรก 166 00:12:28,040 --> 00:12:32,200 ทะเลทรายโล่งกว้างที่มีพุ่มไม้เป็นหย่อม และเนินทรายที่ถูกลมพัดจนเปลี่ยนรูปไปมานี้ 167 00:12:32,280 --> 00:12:35,360 ดูโหดร้ายและเหมือนอยู่นอกโลก 168 00:12:37,200 --> 00:12:40,720 แต่ถ้าเราย้อนเวลากลับไป ยังช่วงโหดร้ายที่สุดของยุคน้ำแข็ง 169 00:12:40,800 --> 00:12:42,920 สภาพของที่นี่แตกต่างจากตอนนี้มาก 170 00:12:48,320 --> 00:12:53,160 แอ่งทูลาโรซาเคยมีพื้นที่น้ำจืดขนาดใหญ่ ที่รู้จักกันในชื่อทะเลสาบโอเตโร 171 00:12:55,120 --> 00:12:57,120 รายล้อมไปด้วยพืชพรรณต่างๆ 172 00:12:58,440 --> 00:13:02,640 แมมมอธโบราณ กราวด์สลอธยักษ์และอูฐ มาที่ทะเลสาบแห่งนี้ 173 00:13:02,720 --> 00:13:04,720 เพื่อกินหญ้าและต้นไม้ต่างๆ 174 00:13:07,360 --> 00:13:09,880 และอย่างที่เรารู้แล้วตอนนี้ มนุษย์ก็ตามพวกมันมาด้วย 175 00:13:15,360 --> 00:13:19,560 การกำหนดอายุของรอยเท้า เป็นปัญหาทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน 176 00:13:20,680 --> 00:13:25,120 เดวิดและทีมผู้เชี่ยวชาญใช้เวลา นานกว่าทศวรรษในการสร้างหลักฐาน 177 00:13:26,920 --> 00:13:31,520 แต่ในปี 2021 เมื่อพวกเขาตีพิมพ์ ผลการค้นพบในวารสารไซแอนซ์ 178 00:13:32,160 --> 00:13:34,160 ไม่ใช่ทุกคนจะมีปฏิกิริยาในทางดี 179 00:13:34,240 --> 00:13:36,800 (งานวิจัยใหม่ตั้งคำถามเรื่องอายุของรอยเท้า ยุคน้ำแข็งในอเมริกาเหนือ) 180 00:13:36,880 --> 00:13:39,240 ผมคิดว่าเรื่องใดก็ตามที่แปลกและผิดปกติ 181 00:13:39,320 --> 00:13:41,600 มันต้องใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์เยอะมากมาสนับสนุน 182 00:13:43,160 --> 00:13:45,840 มีการตั้งข้อสงสัย เรื่องการหาอายุคาร์บอนของเมล็ดพืช 183 00:13:46,560 --> 00:13:51,000 แต่ทีมยืนยันผลโดยใช้ตัวอย่างอื่นๆ ที่เป็นละอองเกสรและตะกอน 184 00:13:51,080 --> 00:13:53,080 ทำให้ผู้ที่เคยวิจารณ์เงียบไป 185 00:13:53,800 --> 00:13:57,960 ยังมีการโต้แย้งเรื่องที่ว่า มันอายุราว 23,000 ปีไหมครับ 186 00:13:58,600 --> 00:14:01,720 ผมคิดว่าจนกว่าจะมีเครื่องย้อนเวลา มันก็จะมีข้อโต้แย้งตลอดแหละครับ 187 00:14:01,800 --> 00:14:05,680 แต่นอกเหนือจากเรื่องอายุที่ว่าไปแล้ว ถ้าคุณดู… 188 00:14:05,760 --> 00:14:08,960 คุณยังเห็นรอยเท้าแมมมอธ 189 00:14:09,040 --> 00:14:12,280 อยู่เหนือรอยเท้าของมนุษย์หนึ่งเมตร หรือหนึ่งเมตรครึ่ง 190 00:14:12,360 --> 00:14:14,680 และก็มีรอยเท้าแมมมอธอยู่ด้านล่างด้วย 191 00:14:14,760 --> 00:14:17,520 แปลว่าสัตว์เมกาโฟนากับมนุษย์ เคยอยู่ร่วมกันในดินแดนนี้ 192 00:14:17,600 --> 00:14:19,200 เป็นเวลาหลายพันปี 193 00:14:21,200 --> 00:14:23,640 การค้นพบที่ไวต์แซนส์ช่วยไขปริศนา 194 00:14:23,720 --> 00:14:26,000 ที่ซับซ้อนที่สุดเรื่องหนึ่งของยุคก่อนประวัติศาสตร์ 195 00:14:27,440 --> 00:14:30,560 นั่นคือการสูญพันธุ์อย่างฉับพลันของเมกาโฟนา ในทวีปอเมริกาช่วงยุคน้ำแข็ง 196 00:14:32,080 --> 00:14:35,280 ช่วงระหว่าง 13,000 ถึง 11,000 ปีก่อน 197 00:14:37,360 --> 00:14:42,600 ข้อเสนอจากทางโบราณคดีก็คือ มนุษย์ล่าพวกสัตว์เมกาโฟนา 198 00:14:42,680 --> 00:14:44,040 และกินเป็นอาหารจนหมด 199 00:14:44,640 --> 00:14:46,560 ผมว่าไม่มีกลุ่มนักล่าและเก็บของป่าที่ไหน 200 00:14:46,640 --> 00:14:49,480 จะอยากทำลายแหล่งอาหาร ของตนเองจนหมดหรอก 201 00:14:50,000 --> 00:14:54,560 ดังนั้นแนวคิดที่ว่ามนุษย์ คือผู้ทำให้เมกาโฟนาสูญพันธุ์ 202 00:14:54,640 --> 00:14:57,320 ผมว่ามันดูพิลึกพิลั่นมาก 203 00:14:59,400 --> 00:15:03,800 รอยเท้าที่นี่พิสูจน์ว่ามนุษย์และสัตว์เหล่านั้น เคยอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน 204 00:15:03,880 --> 00:15:07,000 อย่างน้อยราว 10,000 ปีก่อนที่พวกมันจะสูญพันธุ์ 205 00:15:10,240 --> 00:15:12,560 ผมคิดว่าคำอธิบายที่ดีกว่ามาก 206 00:15:12,640 --> 00:15:15,040 เรื่องการสูญพันธุ์ของเมกาโฟนาในยุคน้ำแข็ง 207 00:15:15,120 --> 00:15:21,160 คือหายนะระดับโลก ที่เกิดขึ้นราว 12,800 ถึง 12,900 ปีก่อน 208 00:15:21,240 --> 00:15:22,520 ที่รู้จักในชื่อยังเกอร์ ดรายอัส 209 00:15:32,800 --> 00:15:35,160 เกิดการลดลงของอุณหภูมิโลกอย่างฉับพลัน 210 00:15:35,760 --> 00:15:38,200 ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 211 00:15:38,280 --> 00:15:43,240 และโลกกลายเป็นสถานที่ ที่โหดร้ายต่อการอยู่อาศัยอย่างสุดขั้ว 212 00:15:44,320 --> 00:15:47,600 เป็นช่วงเวลาที่เราเรียกว่า มหาวิบัติยุคโบราณ 213 00:15:49,000 --> 00:15:51,280 อเมริกาเหนือได้รับผลกระทบหนักที่สุด 214 00:15:51,360 --> 00:15:54,360 ซึ่งอาจอธิบายทั้งเรื่องการสูญพันธุ์ของเมกาโฟนา 215 00:15:54,440 --> 00:15:57,160 และช่องว่างขนาดใหญ่ในประวัติศาสตร์มนุษย์ที่นี่ 216 00:16:02,000 --> 00:16:05,840 เราจะต้องเขียนเรื่องการตั้งรกราก ในทวีปอเมริกาใหม่ทั้งหมด 217 00:16:05,920 --> 00:16:07,280 โดยพิจารณาหลักฐานใหม่นี้ 218 00:16:09,280 --> 00:16:12,040 นักโบราณคดีเริ่มเปิดตาและเปิดใจรับ 219 00:16:12,120 --> 00:16:14,880 ความเป็นไปได้ที่ว่ามนุษย์อาจอยู่ที่นี่ มานานกว่าที่เราเคยคิดไว้ 220 00:16:16,120 --> 00:16:19,480 เราเพิ่งได้รู้ในสิ่งที่ยังต้องเรียนรู้อีกมากมาย 221 00:16:19,560 --> 00:16:21,400 ผมคิดว่าเมื่อผู้คนสำรวจทั่วตะวันตกเฉียงใต้ 222 00:16:21,480 --> 00:16:25,080 พวกเขาจะได้พบจุดที่เก่าแก่ พอๆ กับไวต์แซนส์เช่นกัน 223 00:16:25,160 --> 00:16:27,480 เหมือนกับคุณได้เปิดประตูสู่อดีต 224 00:16:27,560 --> 00:16:29,480 - ที่ไม่เคยมีใครก้าวผ่านมาก่อน - ครับ 225 00:16:31,760 --> 00:16:34,720 คนเราจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวความคิด ในทันทีหรอกครับ 226 00:16:34,800 --> 00:16:38,560 มันต้องอาศัยการสะสมหลักฐาน ที่ทำให้แนวคิดเก่าหมดความน่าเชื่อถือ 227 00:16:38,640 --> 00:16:41,600 และทำให้คนเปิดรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ 228 00:16:41,680 --> 00:16:43,680 นั่นคือสิ่งที่เรากำลังเห็นในทวีปอเมริกาในตอนนี้ 229 00:16:46,720 --> 00:16:50,960 สิ่งที่พบที่ไวต์แซนส์เป็นส่วนหนึ่ง ของเรื่องราวที่ใหญ่กว่านั้นมาก 230 00:16:51,040 --> 00:16:55,320 เป็นเรื่องราวระดับโลกที่ผมได้ค้นหาความจริง มานานกว่า 30 ปีแล้ว 231 00:16:55,400 --> 00:17:00,000 ถ้าเราอยากขจัดม่านหมอกแห่งความหลงลืม ปกคลุมอดีตอันไกลโพ้นของเรา 232 00:17:00,080 --> 00:17:03,520 เราจำเป็นต้องมองลึกลงไปและย้อนกลับไป 233 00:17:03,600 --> 00:17:06,320 ไกลกว่าที่เราเคยทำ ที่นี่ในทวีปอเมริกา 234 00:17:06,400 --> 00:17:11,000 ที่ที่เส้นเวลาของยุคก่อนประวัติศาสตร์ ถอยไปไกลเรื่อยๆ ในทุกๆ การค้นพบใหม่ 235 00:17:15,600 --> 00:17:16,760 การค้นพบใหม่ 236 00:17:18,920 --> 00:17:21,920 ไม่ได้มีเพียงนักโบราณคดีที่เฝ้าติดตามมัน 237 00:17:32,280 --> 00:17:33,720 คีอานูครับ 238 00:17:33,800 --> 00:17:34,960 แกรห์ม 239 00:17:35,040 --> 00:17:36,240 มาคุยเรื่องอดีตกันดีกว่า 240 00:17:36,320 --> 00:17:40,160 - โอเค - ทำไมอดีตส่วนนี้ถึงได้สำคัญกับคุณครับ 241 00:17:40,920 --> 00:17:42,680 ก็นะ แบบว่า 242 00:17:43,240 --> 00:17:46,200 ผมจำได้ว่าตอนเป็นเด็ก ผมอยากรู้อยากเห็นไปหมด 243 00:17:46,280 --> 00:17:48,200 แล้วพอโตขึ้นมา 244 00:17:48,280 --> 00:17:52,040 มันกลายเป็นคำถามพื้นฐานที่ว่า 245 00:17:53,400 --> 00:17:54,600 "เราเป็นใคร" 246 00:17:54,680 --> 00:17:59,920 ครับ และสิ่งที่ผลักดันให้ผมทำภารกิจ เสาะหาด้วยตัวเองมานานกว่า 30 ปี 247 00:18:00,840 --> 00:18:03,240 คือเพื่อพยายามกลับไปยังแหล่งที่มา 248 00:18:03,320 --> 00:18:04,480 แหล่งที่มาของอะไรครับ 249 00:18:05,080 --> 00:18:06,760 แหล่งที่มาของพวกเรา 250 00:18:07,360 --> 00:18:08,600 และเส้นเวลา 251 00:18:08,680 --> 00:18:09,840 เส้นเวลาก็ผิดหมดเลย 252 00:18:09,920 --> 00:18:15,080 นั่นคือเหตุผลที่รอยเท้าที่ไวต์แซนส์ มีความหมายกับผมมาก 253 00:18:15,680 --> 00:18:18,160 ที่ผมรู้สึกก็คือ 23,000 ปีเป็นเพียงจุดเริ่มต้น 254 00:18:18,240 --> 00:18:19,920 เราจะย้อนกลับไปไกลกว่านั้นอีก 255 00:18:20,000 --> 00:18:22,560 ครับ ผมก็รู้สึกแบบนั้น 256 00:18:22,640 --> 00:18:27,680 และเราก็ใกล้จะค้นพบอดีตที่หายไปของเราแล้ว 257 00:18:28,440 --> 00:18:32,560 และในแง่หนึ่ง อเมริกาเป็นสถานที่ ที่เรื่องราวนั้นกำลังเปิดเผยออกมา 258 00:18:32,640 --> 00:18:34,680 นั่นเป็นความคิดที่น่าตื่นเต้นนะ 259 00:18:36,880 --> 00:18:39,240 ผมคิดว่าคุณกำลังทำภารกิจอยู่นะ แกรห์ม 260 00:18:39,320 --> 00:18:43,400 เพื่อสอนและเพื่อทำให้ผู้คนได้เข้าใจ 261 00:18:43,480 --> 00:18:47,040 ปัญหาของทวีปอเมริกาก็คือ 262 00:18:47,120 --> 00:18:51,320 เรามีอดีตมากมายที่พวกเราลืมเลือนไป 263 00:18:51,400 --> 00:18:56,920 และบทบาทของผม อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ก็คือพยายามค้นหา 264 00:18:57,520 --> 00:18:59,000 ความทรงจำบางส่วนที่หายไปนั้น 265 00:18:59,600 --> 00:19:03,160 พอผมคิดถึงอดีตแบบนั้น มันฟังดูน่าตื่นเต้นมาก 266 00:19:03,240 --> 00:19:07,000 แน่นอนครับ สำหรับผม อดีตเป็นเรื่องลึกลับ 267 00:19:07,080 --> 00:19:09,920 มันไม่ใช่สิ่งที่เรารู้แล้ว มันคือสิ่งที่เราไม่รู้ 268 00:19:10,000 --> 00:19:12,840 เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่ยังไม่ได้ถูกขุดคุ้ยหรือตรวจสอบ 269 00:19:12,920 --> 00:19:15,080 เป็นความเป็นไปได้ที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ 270 00:19:15,160 --> 00:19:16,080 ครับ 271 00:19:21,560 --> 00:19:24,720 เราต้องเริ่มเจาะจงมองหาหลักฐาน 272 00:19:24,800 --> 00:19:27,640 ในสถานที่ที่เราอาจไม่เคยมองหามันมาก่อน 273 00:19:29,400 --> 00:19:30,640 ในช่วงยุคน้ำแข็ง 274 00:19:30,720 --> 00:19:33,360 ตอนเหนือของอเมริกาเหนือ เป็นดินแดนรกร้างหนาวเหน็บ 275 00:19:33,440 --> 00:19:37,440 ดังนั้นสถานที่ที่ควรมองหาคือบริเวณใกล้เขตร้อน 276 00:19:37,520 --> 00:19:38,560 ใกล้เส้นศูนย์สูตร 277 00:19:38,640 --> 00:19:42,200 สถานที่ที่อบอุ่น สบาย เป็นมิตร และเอื้อต่อการอยู่อาศัย 278 00:19:43,560 --> 00:19:45,360 อาจเป็นดินแดนอันกว้างใหญ่ 279 00:19:45,440 --> 00:19:49,160 ที่เคยเชื่อกันมานานว่า เป็นดินแดนรกร้างว่างเปล่าทางโบราณคดี 280 00:19:50,760 --> 00:19:53,320 แต่ตอนนี้มันกลับเป็นที่ที่เริ่มเผยให้เห็น 281 00:19:53,400 --> 00:19:55,400 ความลับอันน่าทึ่งของอดีตมนุษย์ 282 00:19:57,480 --> 00:19:59,240 นี่คือแอมะซอน 283 00:19:59,320 --> 00:20:03,360 (แอมะซอน) 284 00:20:03,440 --> 00:20:07,080 คุณกำลังมองดูดินแดน มากกว่าหกล้านตารางกิโลเมตร 285 00:20:07,160 --> 00:20:10,040 ที่ยังคงถูกปกคลุมด้วยป่าดงดิบ 286 00:20:12,600 --> 00:20:17,520 พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้คือปริศนาขนาดใหญ่ 287 00:20:17,600 --> 00:20:19,880 ที่อยู่ใจกลางเรื่องราวของมนุษย์ 288 00:20:19,960 --> 00:20:22,520 และเราค่อยๆ ตระหนักทีละนิดว่า 289 00:20:22,600 --> 00:20:24,600 แท้จริงแล้วปริศนาที่ว่านั้นใหญ่โตแค่ไหน 290 00:20:26,360 --> 00:20:30,080 เป็นเวลาหลายทศวรรษ ที่นักโบราณคดีส่วนใหญ่เชื่อว่า 291 00:20:30,160 --> 00:20:32,520 ผู้อยู่อาศัยในแอมะซอนในอดีต 292 00:20:32,600 --> 00:20:35,720 มีเพียงชนเผ่ากึ่งเร่ร่อนเล็กๆ ที่ล่าสัตว์และหาอาหาร 293 00:20:36,960 --> 00:20:40,240 เหมือนกับพวกที่ยังคงอยู่รอด ในป่าดงดิบมาจนทุกวันนี้ 294 00:20:42,440 --> 00:20:45,640 แต่ผมเชื่อว่าความเชื่อนั้นมันผิด 295 00:20:53,240 --> 00:20:57,120 ผมกำลังมุ่งหน้าไปยังสุดฝั่งตะวันตก ของบราซิลและรัฐอาเกร 296 00:20:58,120 --> 00:21:00,000 เช่นเดียวกับพื้นที่ลุ่มแม่น้ำแอมะซอนส่วนใหญ่ 297 00:21:00,080 --> 00:21:03,520 มันถูกปกคลุมด้วยป่าดงดิบหนาแน่น 298 00:21:05,920 --> 00:21:09,000 จนกระทั่งมีการเผาป่าขนาดใหญ่เกิดขึ้น 299 00:21:09,520 --> 00:21:11,480 เพื่อเอาพื้นที่มาทำฟาร์มปศุสัตว์ 300 00:21:15,480 --> 00:21:21,640 การมาที่ป่าดงดิบแอมะซอน เป็นประสบการณ์ที่น่าดีใจและน่าเศร้า 301 00:21:23,720 --> 00:21:26,720 ที่ดินจำนวนมากที่ถูกถางต้นไม้ออก 302 00:21:26,800 --> 00:21:30,960 กำลังเป็นหายนะของยุคปัจจุบัน ที่ไม่มีทางออกง่ายๆ 303 00:21:32,440 --> 00:21:35,240 แต่เมื่อผืนดินใหม่ถูกแผ้วถาง 304 00:21:35,320 --> 00:21:37,600 มันทำให้เห็นบางสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด 305 00:21:42,840 --> 00:21:45,080 ผมมาที่นี่เพื่อพบกับดร.อัลเซอู รานซิ 306 00:21:46,520 --> 00:21:51,320 นักบรรพชีวินวิทยาที่เริ่มต้นอาชีพ ด้วยการศึกษาสัตว์ยุคน้ำแข็งในแอมะซอน 307 00:21:56,240 --> 00:22:01,280 เขาอยากให้ผมดูหลักฐานของปริศนา ที่ยังไม่ถูกไขจนถึงทุกวันนี้ 308 00:22:11,240 --> 00:22:12,560 - โว่ว - โว่ว 309 00:22:13,760 --> 00:22:14,720 อย่างกับรถไฟเหาะ 310 00:22:23,040 --> 00:22:26,920 จากบนนี้ มองเห็นการแผ้วถางป่า ที่กำลังดำเนินอยู่ได้ชัดเจน 311 00:22:31,000 --> 00:22:33,400 คุณจะเห็นเลยว่าป่าถูกถางไปมากแค่ไหน 312 00:22:33,480 --> 00:22:34,800 - เยอะมาก - ครับ 313 00:22:36,280 --> 00:22:40,080 ยี่สิบปีนับจากนี้ ป่าทั้งหมดจะหายไปเลย 314 00:22:40,880 --> 00:22:45,360 แต่การถางป่านี้ได้แง้มให้เห็นปริศนาที่ยิ่งใหญ่ 315 00:22:46,760 --> 00:22:50,440 ในปี 1986 ดร.รานซิกำลังบินเหนือภูมิภาคนี้ 316 00:22:50,520 --> 00:22:53,360 ตอนที่เขาเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่คาดไม่ถึง 317 00:22:54,600 --> 00:22:58,040 ผมกำลังนั่งเครื่องบินเจ็ตพาณิชย์มาที่รีโอบรังโก 318 00:22:58,120 --> 00:22:58,960 ครับ 319 00:22:59,040 --> 00:23:00,640 นั่งที่นั่งริมหน้าต่าง 320 00:23:01,440 --> 00:23:04,680 แล้วก็มองดูสภาพแวดล้อมข้างนอกแบบนี้เลย 321 00:23:04,760 --> 00:23:06,760 แล้วผมก็เห็นวงกลมขนาดใหญ่ 322 00:23:15,080 --> 00:23:16,640 พระเจ้า นี่มันอะไร 323 00:23:17,600 --> 00:23:19,960 - เครื่องบินเจ็ตเร็วมาก มันลับตาไปแล้ว - ครับ 324 00:23:20,800 --> 00:23:21,680 มองไม่เห็นแล้ว 325 00:23:24,040 --> 00:23:25,680 ตอนนั้นเขายังไม่รู้ 326 00:23:25,760 --> 00:23:29,080 แต่ในไม่กี่วินาทีนั้น ดร.รานซิได้เห็นบางสิ่ง 327 00:23:29,160 --> 00:23:32,200 ที่หากแนวคิดเก่าของเรา เกี่ยวกับแอมะซอนเป็นจริง 328 00:23:32,280 --> 00:23:33,800 มันก็ไม่ควรจะมีอยู่เลย 329 00:23:36,320 --> 00:23:37,520 - ว้าว - ใช่เลยครับ 330 00:23:38,800 --> 00:23:44,040 รูปเรขาคณิตขนาดยักษ์ กว้างถึง 304 เมตร 331 00:23:44,960 --> 00:23:48,160 เกิดจากร่องและกองดินขนาดมหึมา 332 00:23:49,240 --> 00:23:51,240 ซึ่งตอนนี้รู้จักกันในชื่อจีโอกลิฟ 333 00:23:52,880 --> 00:23:54,960 ออกแบบได้เยี่ยมมาก คุณพระ 334 00:23:55,040 --> 00:23:57,400 ออกแบบได้เยี่ยมมาก และใหญ่มากด้วย 335 00:23:57,480 --> 00:23:58,320 มหึมาเลยละ 336 00:23:58,400 --> 00:24:00,600 มหึมา ใหญ่โตมโหฬาร 337 00:24:00,680 --> 00:24:01,520 ครับ 338 00:24:04,360 --> 00:24:06,720 - สวย สวยมาก - สวยครับ 339 00:24:09,320 --> 00:24:13,680 สิ่งที่ผมเห็นคือสี่เหลี่ยมที่ถูกล้อมด้วยวงรี 340 00:24:14,560 --> 00:24:16,000 ดูนั่น มีอีกอัน 341 00:24:16,720 --> 00:24:19,000 ครับ พวกมันมีอยู่ทุกที่เลย 342 00:24:19,080 --> 00:24:19,920 มีทุกที่เลย 343 00:24:20,960 --> 00:24:22,000 มีอีกอันตรงนี้ 344 00:24:22,880 --> 00:24:23,960 อีกอันตรงนี้ 345 00:24:24,880 --> 00:24:27,040 ว้าว เหลือเชื่อเลย 346 00:24:31,440 --> 00:24:35,960 รูปเรขาคณิตที่สมบูรณ์แบบนี้ มองเห็นได้จากหลายสิบเมตรบนอากาศ 347 00:24:36,880 --> 00:24:40,400 แต่ถึงกระนั้น ทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยคน 348 00:24:40,480 --> 00:24:42,880 ที่ยืนอยู่บนพื้น 349 00:24:45,600 --> 00:24:49,440 สำหรับผม สิ่งนี้ทำให้รู้สึกนับถืออย่างสุดใจ 350 00:24:53,000 --> 00:24:57,240 พวกเขารู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่พวกเขาสร้าง จะดูเป็นยังไงเวลามองจากด้านบน 351 00:24:59,440 --> 00:25:00,800 นี่เป็นประสบการณ์ที่ทรงพลังมาก 352 00:25:00,880 --> 00:25:05,400 ผมเคยเยี่ยมชมวัด พีระมิด และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมายทั่วโลก 353 00:25:05,480 --> 00:25:08,040 และสิ่งนี้ให้ความรู้สึกพิเศษมาก 354 00:25:08,560 --> 00:25:10,560 รู้ไหม มันพิเศษมากๆ 355 00:25:13,680 --> 00:25:16,240 มันจับใจผมเลย 356 00:25:16,320 --> 00:25:21,120 ผมกำลังมองดูบางสิ่งที่น่าเกรงขาม 357 00:25:27,480 --> 00:25:31,680 มันเหมือนกับการดึงม่านขึ้น แล้วเผยให้เห็นรูปโมนาลิซ่า 358 00:25:31,760 --> 00:25:35,000 ทันใดนั้นผมก็เห็นบางสิ่งที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ที่นั่น 359 00:25:35,080 --> 00:25:37,880 และมันมีผลกระทบทางอารมณ์ต่อผมอย่างมาก 360 00:25:42,640 --> 00:25:45,640 เหมือนกับว่าคนโบราณกำลังพูดกับผมโดยตรง 361 00:25:45,720 --> 00:25:50,080 "ดูสิ่งที่เราทำได้สิ อย่าประเมินเราต่ำไป" 362 00:25:50,840 --> 00:25:52,960 "พวกเราเป็นนักวิทยาศาสตร์" 363 00:25:57,640 --> 00:26:01,200 ตอนคุณบอกเหล่านักโบราณคดี เรื่องสิ่งน่าประทับใจนี้ 364 00:26:01,280 --> 00:26:02,360 พวกเขาว่ายังไงบ้างครับ 365 00:26:02,440 --> 00:26:05,200 คนแรกเป็นนักโบราณคดีที่มีชื่อเสียง 366 00:26:05,280 --> 00:26:07,680 ผมเอารูปให้เธอดู 367 00:26:07,760 --> 00:26:13,520 เธอดูแล้วพูดว่า "มันอยู่ที่ไหน ในแอมะซอนเหรอ เป็นไปไม่ได้" 368 00:26:14,320 --> 00:26:17,160 เป็นไปไม่ได้เนี่ยนะ ก็ดูรูปสิ 369 00:26:17,240 --> 00:26:18,080 ช่วยผมหน่อย 370 00:26:18,160 --> 00:26:19,880 - ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร - ครับ 371 00:26:22,800 --> 00:26:25,160 หลักฐานนั้นปฏิเสธไม่ได้ 372 00:26:25,240 --> 00:26:28,080 และมันกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ขนาดเท่ารัฐเวสต์เวอร์จิเนีย 373 00:26:32,920 --> 00:26:37,080 ในตอนแรก มีคนคิดกันว่า เนินดินเหล่านี้อาจเคยเป็นแนวป้องกัน 374 00:26:39,240 --> 00:26:41,680 แต่ไม่มีหลักฐานการทำสงครามที่นี่ 375 00:26:41,760 --> 00:26:45,880 และร่องก็อยู่ด้านในเนินดิน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่คูเมือง 376 00:26:48,440 --> 00:26:51,880 และไม่มีหลักฐานว่ามันถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย 377 00:26:56,800 --> 00:27:00,600 เวลามองจีโอกลิฟในแอมะซอน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่คาดเดาไปต่างๆ นานา 378 00:27:00,680 --> 00:27:04,680 ทำไมน่ะเหรอ เพราะไม่มีลายลักษณ์อักษร ที่ผู้สร้างเดิมเขียนเอาไว้เลย 379 00:27:04,760 --> 00:27:07,360 ที่บอกให้รู้ว่าพวกเขาสร้างมันขึ้นมาทำไม เราไม่รู้เหตุผล 380 00:27:09,880 --> 00:27:13,760 คุณคิดว่ามีอยู่เท่าไรในพื้นที่ทั้งหมดนี้ครับ 381 00:27:15,360 --> 00:27:16,800 - เป็นพันๆ ได้ - เป็นพันๆ นะ 382 00:27:16,880 --> 00:27:20,160 - เป็นพันๆ เลย - โอเค 383 00:27:24,720 --> 00:27:26,920 มันทำให้เกิดคำถามมากมาย 384 00:27:27,000 --> 00:27:29,680 กำแพงดินเรขาคณิตพวกนี้เก่าแก่แค่ไหน 385 00:27:30,800 --> 00:27:32,200 มันเก่าแก่กว่าหรือใหม่กว่า 386 00:27:32,280 --> 00:27:34,600 ป่าดงดิบแอมะซอนที่ปกปิด พวกมันไว้มาอย่างยาวนาน 387 00:27:39,520 --> 00:27:43,720 ใช้แรงงานเท่าไรกัน ในการสร้างมันขึ้นมาตั้งแต่แรก 388 00:27:46,240 --> 00:27:49,880 และต้องใช้ทักษะที่จำเป็นอะไร ในการกำกับงานนี้ให้สำเร็จ 389 00:27:52,040 --> 00:27:53,160 นี่ไม่ใช่งานใหม่ 390 00:27:53,240 --> 00:27:55,680 นี่คือผู้คนที่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร 391 00:27:55,760 --> 00:27:57,760 พวกเขาเคยทำมันมาหลายครั้งแล้ว 392 00:27:58,840 --> 00:28:01,680 ผมอยากรู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ 393 00:28:01,760 --> 00:28:03,000 ตอนที่พวกเขาสร้างสิ่งนี้ 394 00:28:03,080 --> 00:28:04,160 ครับ 395 00:28:04,240 --> 00:28:05,880 มันต้องใช้ความพยายามและพลังงานเยอะมาก 396 00:28:12,520 --> 00:28:15,720 โครงการสร้างจีโอกลิฟเป็นปริศนาที่น่าสนใจ 397 00:28:15,800 --> 00:28:18,280 ที่นักวิจัยจำนวนมาก กำลังพยายามไขความลับของมัน 398 00:28:25,000 --> 00:28:28,880 กลับลงมาบนพื้นดิน เราไปพบกับศาสตราจารย์มาร์ตติ พาร์ซิเนน 399 00:28:28,960 --> 00:28:32,360 นักโบราณคดีและนักมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ 400 00:28:32,440 --> 00:28:34,200 (เตกวินโญ่ เอ็ม. พาร์ซิเนน) 401 00:28:34,280 --> 00:28:38,920 ผู้ร่วมค้นหาคำตอบร่วมกับดร.รานซิ มาสองทศวรรษ 402 00:28:41,400 --> 00:28:44,280 ชัดเจนว่าเรากำลังมองดูปรากฏการณ์ใหญ่ที่นี่ 403 00:28:44,360 --> 00:28:45,960 มันไม่ใช่อะไรเล็กๆ เลย 404 00:28:46,040 --> 00:28:48,640 และเป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็น ถึงความรู้เรื่องเรขาคณิต 405 00:28:49,720 --> 00:28:53,040 และยังต้องมีการจัดการระดับสูงด้วย 406 00:28:53,640 --> 00:28:56,800 ผมก็คิดแบบนั้นครับ เพราะหลายๆ สิ่งในนี้ซับซ้อนมาก 407 00:28:56,880 --> 00:28:57,840 มันซับซ้อนมาก 408 00:28:57,920 --> 00:29:02,080 มันต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ว่าจะทำยังไงและจะจัดการยังไง 409 00:29:07,480 --> 00:29:10,000 หลังจากค้นพบจีโอกลิฟหลายร้อยแห่ง 410 00:29:10,080 --> 00:29:13,640 ศาสตราจารย์พาร์ซิเนนก็ได้ค้นพบหลักฐานสำคัญ 411 00:29:14,560 --> 00:29:17,680 ที่ชี้ไปยังประเภทของสังคม ที่สร้างโครงสร้างพวกนี้ 412 00:29:20,720 --> 00:29:25,720 นั่นคือถนนยกพื้นโบราณ ที่เชื่อมโยงจีโอกลิฟหลายแห่ง 413 00:29:29,160 --> 00:29:31,160 พื้นที่นี้เต็มไปด้วยถนน 414 00:29:31,240 --> 00:29:35,000 นักล่าและคนเก็บของป่าจะไม่สร้างถนน 415 00:29:35,080 --> 00:29:36,720 เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้มัน 416 00:29:36,800 --> 00:29:42,000 มันต้องเป็นสังคมที่มีระดับความคิด ที่สูงมากกว่าอยู่ก่อนแล้ว 417 00:29:42,080 --> 00:29:45,360 และยังต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างกันด้วย 418 00:29:45,440 --> 00:29:48,120 ดังนั้นมันจึงเป็นสังคมที่ซับซ้อนมาก 419 00:29:48,200 --> 00:29:51,080 และถ้าผมคิดถูก ไม่เคยมีใครคิดว่า แอมะซอนจะมีของแบบนี้มาก่อน 420 00:29:51,160 --> 00:29:54,920 ครับ นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับเราทุกคน 421 00:29:57,280 --> 00:30:00,040 เพื่อหาข้อมูลให้มากขึ้นว่าใครเป็นผู้สร้าง 422 00:30:00,120 --> 00:30:04,840 ศาสตราจารย์พาร์ซิเนนและทีมของเขา ได้ขุดค้นพื้นที่รอบๆ จีโอกลิฟ 423 00:30:04,920 --> 00:30:07,160 รวมถึงที่นี่ ที่รู้จักกันในชื่อเตกวินโญ่ 424 00:30:09,000 --> 00:30:13,400 ในทางโบราณคดีแล้ว บอกทีว่าคุณเจออะไรในกำแพงดิน 425 00:30:13,480 --> 00:30:17,680 เราพบชิ้นส่วนเซรามิก 40,000 ชิ้นที่เตกวินโญ่ 426 00:30:20,760 --> 00:30:23,600 ชิ้นส่วนพวกนี้มีอายุประมาณ 2,000 ปี 427 00:30:24,200 --> 00:30:28,880 แต่กำแพงดินมีอายุย้อนไปราว 2,500 ปี 428 00:30:28,960 --> 00:30:32,480 แต่เครื่องปั้นดินเผากลับซับซ้อนอย่างคาดไม่ถึง 429 00:30:33,480 --> 00:30:36,640 - ส่วนใหญ่มีคุณภาพสูง… - ครับ 430 00:30:36,720 --> 00:30:39,360 และเป็นเซรามิกแบบหลายสี 431 00:30:39,440 --> 00:30:42,360 เซรามิกหลายสีแบบนี้ เป็นรูปแบบของเซรามิกขั้นสูง 432 00:30:42,440 --> 00:30:46,760 ครับ ปกติเซรามิกหลายสี ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรม 433 00:30:49,440 --> 00:30:52,640 เซรามิกหลายสีพวกนี้ ได้สร้างความเชื่อมโยงที่ไม่คาดคิด 434 00:30:54,080 --> 00:30:56,240 กับอีกวัฒนธรรมที่อยู่ไกลออกไป 435 00:30:56,320 --> 00:30:58,640 ที่ขึ้นชื่อว่ามีความรู้ในเรขาคณิตอย่างลึกซึ้ง 436 00:31:00,400 --> 00:31:01,880 วัฒนธรรมกรีกโบราณ 437 00:31:03,560 --> 00:31:07,000 โดยทั่วไป นักประวัติศาสตร์ และนักโบราณคดีจะบอกว่า 438 00:31:07,080 --> 00:31:09,840 ชาวกรีกเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกๆ ที่สร้างเรขาคณิต 439 00:31:09,920 --> 00:31:12,600 แต่เห็นได้ชัดว่า เราต้องพิจารณามุมมองนั้นใหม่แล้ว 440 00:31:12,680 --> 00:31:14,040 ผมคิดว่าคุณพูดถูกนะ 441 00:31:14,120 --> 00:31:17,920 เพราะวัฒนธรรมที่สร้างจีโอกลิฟนี้ อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน 442 00:31:18,000 --> 00:31:21,600 กับวัฒนธรรมกรีกที่มียุคทางโบราณคดี 443 00:31:21,680 --> 00:31:24,760 ที่ถูกเรียกว่า ยุคเรขาคณิตกรีก 444 00:31:24,840 --> 00:31:27,720 (กรีกโบราณ แอมะซอนโบราณ) 445 00:31:27,800 --> 00:31:31,760 การที่สองวัฒนธรรมที่อยู่ห่างกันมาก ได้สร้างศิลปะเรขาคณิต 446 00:31:31,840 --> 00:31:35,080 และผลิตเครื่องปั้นดินเผาขั้นสูง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น 447 00:31:35,600 --> 00:31:37,520 ดูเหมือนจะเป็นมากกว่าเรื่องบังเอิญ 448 00:31:40,760 --> 00:31:44,000 น่าทึ่งมากที่เราได้เห็น การพัฒนาความคิดที่คล้ายคลึงกัน 449 00:31:44,080 --> 00:31:46,560 - ระหว่างวัฒนธรรมที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน - ครับ ใช่เลย 450 00:31:48,000 --> 00:31:51,960 ผมไม่ได้บอกว่าวัฒนธรรมกรีก กับแอมะซอนมีการติดต่อกัน 451 00:31:53,880 --> 00:31:56,800 แต่เป็นไปได้ไหม ที่ทั้งสองอาจมีองค์ความรู้เดียวกัน 452 00:31:56,880 --> 00:31:59,760 ที่สืบทอดมาจากอารยธรรมหนึ่งที่เก่าแก่มาก 453 00:32:00,920 --> 00:32:03,720 อารยธรรมที่เคยเดินทางไปทั่วโลก เมื่อนานแสนนานมาแล้ว 454 00:32:04,400 --> 00:32:06,640 และทิ้งร่องรอยแห่งปัญญาของตนไว้ทุกที่ที่ไป 455 00:32:09,080 --> 00:32:12,000 ทีนี้ที่นักโบราณคดีอธิบายเรื่องนี้ไว้ ก็คือบอกว่า 456 00:32:12,080 --> 00:32:14,600 "นี่นะ พวกเราต่างมีความคิด แบบมนุษย์เหมือนๆ กัน 457 00:32:14,680 --> 00:32:17,880 ดังนั้นพวกเราเลยทำอะไรเหมือนกัน" 458 00:32:17,960 --> 00:32:21,360 การที่พวกเขาสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้น ในช่วงเวลาเดียวกัน 459 00:32:21,440 --> 00:32:23,160 ในสถานที่ที่อยู่ห่างกันมาก 460 00:32:23,240 --> 00:32:25,840 ถูกอธิบายเพียงแค่ว่า เพราะพวกเขามีระบบประสาทที่คล้ายกัน 461 00:32:25,920 --> 00:32:28,200 ผมเกรงว่าผมจะเชื่อคำอธิบายนั้นไม่ลง 462 00:32:29,960 --> 00:32:33,560 ถ้าดูจากการออกแบบ เห็นได้ชัดว่าพวกมันต้องมีที่มาแน่นอน 463 00:32:33,640 --> 00:32:36,880 นี่ไม่ใช่สิ่งที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมาในคืนนึง 464 00:32:36,960 --> 00:32:41,040 คุณตามรอยยุคก่อนประวัติศาสตร์ของพื้นที่แถบนี้ ย้อนกลับไปไกลแค่ไหนครับ 465 00:32:41,120 --> 00:32:44,160 และมีหลักฐานอะไรไหม ที่บอกว่าสถานที่เหล่านี้มีความพิเศษ 466 00:32:44,240 --> 00:32:47,640 ก่อนที่จะมีการสร้างจีโอกลิฟที่นั่น 467 00:32:47,720 --> 00:32:52,120 เป็นคำถามที่ดีมากครับ เพราะเราเคยขุดดินลงไปจนถึงหนึ่งเมตร 468 00:32:52,200 --> 00:32:55,200 และเลยจากนั้น ไม่มีเศษชิ้นส่วนเซรามิกแล้ว 469 00:32:55,280 --> 00:32:58,840 แต่ผมสังเกตเห็นว่ายังมีซากถ่านอยู่ 470 00:32:59,640 --> 00:33:02,240 เราก็เลยขุดลึกลงไปเรื่อยๆ 471 00:33:02,320 --> 00:33:06,640 แล้วเราก็เริ่มเก็บตัวอย่างเรดิโอคาร์บอน 472 00:33:06,720 --> 00:33:10,840 และในที่สุดเราก็พบว่าหลายๆ จุดในพื้นที่นี้ 473 00:33:10,920 --> 00:33:14,360 มีมนุษย์มาตั้งถิ่นฐานแล้วเมื่อราว 10,000 ปีก่อน 474 00:33:15,400 --> 00:33:18,400 คุณพระ ว้าว นานขนาดนั้นเลย 475 00:33:18,480 --> 00:33:20,800 - นานขนาดนั้นเลย ใช่ครับ - น่าทึ่งจริงๆ 476 00:33:22,080 --> 00:33:23,520 (ราว 2,500 ปีก่อน) 477 00:33:23,600 --> 00:33:28,200 เมื่อ 10,000 ปีก่อน หลังสิ้นสุดยุคน้ำแข็งได้ไม่นานเท่าไร 478 00:33:28,880 --> 00:33:30,560 ดูเหมือนว่าสถานที่เหล่านี้ 479 00:33:30,640 --> 00:33:34,920 อาจมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อผู้คนที่เคยมาเยือนอยู่ก่อนแล้ว 480 00:33:36,320 --> 00:33:38,240 นั่นยิ่งทำให้ภาพรวมชัดเจนขึ้น 481 00:33:38,320 --> 00:33:42,560 ดังนั้นในแง่หนึ่ง สิ่งที่เรากำลังดูตอนนี้ คือหลักฐานล่าสุด 482 00:33:42,640 --> 00:33:45,600 ที่ทำให้เห็นความสัมพันธ์อันยาวนาน ที่มีกับดินแดนแถบนี้ 483 00:33:45,680 --> 00:33:47,360 ในแง่หนึ่งมันคือโครงการระยะยาว 484 00:33:48,880 --> 00:33:53,560 เรามีหลักฐานของอารยธรรมพื้นเมือง ที่มีการจัดการสูงและซับซ้อน 485 00:33:53,640 --> 00:33:56,960 ที่มีการจัดการทุกอย่าง ที่เราคงคาดหวังจากอารยธรรมขั้นสูง 486 00:33:58,640 --> 00:34:01,160 งานวิจัยนี้เป็นการค้นพบที่สำคัญ 487 00:34:01,240 --> 00:34:03,960 ต่อความเข้าใจในประวัติศาสตร์มนุษย์ของเรา 488 00:34:06,920 --> 00:34:10,640 เราต้องพิจารณาแนวคิดที่เคยมี เกี่ยวกับแอมะซอนโบราณใหม่ทั้งหมด 489 00:34:10,720 --> 00:34:13,640 รวมถึงแนวคิดเรื่องอารยธรรมโบราณด้วย 490 00:34:13,720 --> 00:34:15,840 สำหรับผม นี่เป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุด 491 00:34:15,920 --> 00:34:17,840 ที่เกิดขึ้นในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาเลย 492 00:34:17,920 --> 00:34:19,560 มันเป็นสิ่งที่พิเศษจริงๆ 493 00:34:24,560 --> 00:34:26,560 และภารกิจนี้ก็ยังคงไม่สิ้นสุด 494 00:34:28,480 --> 00:34:33,000 ตอนนี้เราได้รู้ถึงปรากฏการณ์ ที่เมื่อ 20 ปีก่อนเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอยู่ 495 00:34:33,080 --> 00:34:36,760 คำถามต่อไปคือพวกมันยังมีอยู่ที่นั่นอีกเท่าไร 496 00:34:36,840 --> 00:34:39,240 กำแพงดินพวกนี้มีอยู่เท่าไรกันแน่ 497 00:34:42,720 --> 00:34:45,440 จนถึงปัจจุบันนี้ มีการค้นพบ จีโอกลิฟมากกว่า 1,000 แห่ง 498 00:34:45,520 --> 00:34:47,320 ในภูมิภาคอาเกรเพียงที่เดียว 499 00:34:53,080 --> 00:34:55,000 ห่างจากสนามบินไป 13 กิโลเมตร 500 00:34:55,640 --> 00:34:58,480 ศาสตราจารย์พาร์ซิเนนหวังว่า จะได้เจอจีโอกลิฟเพิ่มขึ้น 501 00:34:58,560 --> 00:35:00,680 ในพื้นที่ป่าที่ยังไม่ถูกสำรวจ 502 00:35:00,760 --> 00:35:04,200 ใกล้กับจีโอกลิฟที่ชื่อว่าฟาเซนดาชิโปล 503 00:35:07,160 --> 00:35:11,440 เรารู้ว่ามีจีโอกลิฟจนถึงชายป่า 504 00:35:11,520 --> 00:35:13,720 และตอนนี้เราอยากรู้ว่าในป่ามีอะไร 505 00:35:16,920 --> 00:35:19,200 เพื่อตรวจสอบสิ่งที่อยู่ใต้ต้นไม้ 506 00:35:19,280 --> 00:35:22,840 ทีมงานพึ่งพาเทคโนโลยีที่มองทะลุพวกมันได้ 507 00:35:24,320 --> 00:35:25,320 ไลดาร์ 508 00:35:27,040 --> 00:35:32,080 ด้วยการใช้ระบบนี้ เราสามารถเคลียร์พวกต้นไม้ออก 509 00:35:32,160 --> 00:35:35,280 และเห็นผลลัพธ์ที่อยู่ด้านล่าง 510 00:35:35,360 --> 00:35:39,280 วิธีนี้ทำให้เราเห็นสภาพของท้องที่ได้อย่างชัดเจน 511 00:35:40,960 --> 00:35:43,760 ด้วยไลดาร์ คุณสามารถเห็น สิ่งที่อยู่ด้านล่างต้นไม้ได้ 512 00:35:43,840 --> 00:35:45,840 โดยไม่ต้องถางต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว 513 00:35:46,440 --> 00:35:49,960 คุณไม่ต้องถางป่าดงดิบ ไม่ต้องทำลายอะไรทั้งนั้น 514 00:35:51,680 --> 00:35:54,640 ที่มาร่วมค้นหาอีกแรง คือฟาบิโอ เดอ โนวาเอส ฟิลโฮ 515 00:35:54,720 --> 00:35:58,840 ที่จะสำรวจป่าโดยใช้ระบบไลดาร์ติดบนโดรน 516 00:35:59,560 --> 00:36:02,120 เราจะบินที่ความสูง 80 เมตร 517 00:36:02,200 --> 00:36:03,320 (ฟาบิโอ เดอ โนวาเอส ฟิลโฮ) 518 00:36:03,400 --> 00:36:08,640 เราอาจได้ข้อมูล 100 ถึง 200 จุด ต่อตารางเมตรเลย 519 00:36:08,720 --> 00:36:09,960 เยี่ยมเลยครับ 520 00:36:10,040 --> 00:36:12,600 ภาพของสภาพท้องที่จะมีความแม่นยำมาก 521 00:36:27,600 --> 00:36:30,680 อุปกรณ์นี้ยิงลำแสงเลเซอร์ลงไประหว่างใบไม้ 522 00:36:30,760 --> 00:36:32,880 ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงระดับความสูงของพื้นดิน 523 00:36:36,320 --> 00:36:39,840 จากนั้นข้อมูลจะถูกนำมาใช้ สร้างแผนที่ภูมิประเทศแบบสามมิติ 524 00:36:39,920 --> 00:36:41,720 และเผยให้เห็นความผิดปกติใดๆ ก็ตาม 525 00:36:43,560 --> 00:36:46,600 โดรนพวกนี้จะเปลี่ยนทุกอย่าง ในด้านโบราณคดีเลยละ 526 00:36:53,800 --> 00:36:57,160 ขณะที่ทีมงานกำลังมองหาสิ่งที่อาจซ่อนอยู่ใต้ผืนป่า 527 00:36:57,240 --> 00:36:59,080 ผมก็สำรวจคำถามที่ต่างออกไป 528 00:37:01,920 --> 00:37:05,160 ทำไมจีโอกลิฟถึงถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่แรก 529 00:37:07,440 --> 00:37:11,760 การขุดค้นทางโบราณคดีไม่ได้ให้เบาะแส ว่าทำไมพวกมันถึงถูกสร้างขึ้นมา 530 00:37:12,760 --> 00:37:16,160 แต่คนพื้นเมืองแถวนี้ เก็บงำความรู้และความทรงจำ 531 00:37:16,240 --> 00:37:18,720 ที่ช่วยให้ความกระจ่าง ในเรื่องความสำคัญและความหมาย 532 00:37:18,800 --> 00:37:20,800 ของกำแพงดินที่น่าทึ่งเหล่านี้ 533 00:37:25,800 --> 00:37:30,520 ผมมาที่จีโอกลิฟที่รู้จักกันในชื่อเจโคซา เพื่อพบกับผู้ดูแลคนหนึ่งของมัน 534 00:37:34,720 --> 00:37:39,520 อันโตนิโอ อาปูริน่าเป็นคนชนเผ่าอาปูริน่า และทำงานภายใต้องค์กรฟุไน 535 00:37:39,600 --> 00:37:42,080 องค์กรชนพื้นเมืองแห่งชาติของบราซิล 536 00:37:43,920 --> 00:37:46,000 ชาวอาปูริน่าเป็นชนเผ่า 537 00:37:46,080 --> 00:37:53,040 ที่มีต้นกำเนิดผูกพันใกล้ชิดกับธรรมชาติ กับผืนแผ่นดิน 538 00:37:53,120 --> 00:37:57,960 ชาวอาปูริน่าคิดเห็นยังไง เกี่ยวกับกำแพงดินพวกนี้ครับ 539 00:37:58,040 --> 00:37:59,520 คุณรู้สึกยังไงกับพวกมัน 540 00:37:59,600 --> 00:38:01,960 ผมกำลังยืนอยู่ในสถานที่… 541 00:38:04,200 --> 00:38:07,320 ที่ผมให้ความเคารพสูงสุด 542 00:38:08,520 --> 00:38:11,680 สำหรับเรา มันคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 543 00:38:11,760 --> 00:38:16,080 มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำสงคราม ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้ป้องกัน 544 00:38:16,160 --> 00:38:21,200 มันถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงออก ทางวัฒนธรรมบางอย่าง 545 00:38:24,000 --> 00:38:27,080 ถ้ารูปเรขาคณิตพวกนี้ไม่ได้มีไว้ใช้งานจริงๆ 546 00:38:27,160 --> 00:38:31,240 การพยายามสร้างมันขึ้นมา ก็แสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ที่สูงส่งกว่า 547 00:38:33,320 --> 00:38:37,000 เบาะแสอาจอยู่ในประเพณีทางจิตวิญญาณ ของชาวอาปูริน่า 548 00:38:37,880 --> 00:38:42,080 เราเปรียบเทียบรอยตรงนี้ 549 00:38:42,160 --> 00:38:47,960 เหมือนกับการรวมตัวเป็นวงกลมของชาวอาปูริน่า 550 00:38:48,040 --> 00:38:54,120 เวลาพวกเขามาเต้นรำและแสดงความเคารพ แก่หมอผี ผู้นำที่ล่วงลับ 551 00:38:54,600 --> 00:38:57,680 และคนสำคัญในหมู่บ้านที่เสียชีวิต 552 00:39:01,600 --> 00:39:06,160 เรามองว่าพื้นที่ตรงนี้ เป็นสถานที่ที่ต้อนรับพวกเราทุกคน 553 00:39:06,920 --> 00:39:13,040 หลังจากที่เราจากโลกนี้ไปแล้ว 554 00:39:16,040 --> 00:39:19,440 นี่เป็นแนวคิดที่วัฒนธรรมพื้นเมืองทั่วแอมะซอน 555 00:39:19,520 --> 00:39:21,800 ยึดถือไว้อย่างหนักแน่นจนถึงทุกวันนี้ 556 00:39:21,880 --> 00:39:25,160 ที่ว่าหลังจากตายไปแล้ว วิญญาณของเราจะออกเดินทาง 557 00:39:25,240 --> 00:39:28,520 ไปสู่ชีวิตหลังความตายในท้ายที่สุด 558 00:39:30,120 --> 00:39:32,440 นี่เป็นแนวคิดที่พบได้ทั่วโลก 559 00:39:32,520 --> 00:39:37,920 และก็มีสิ่งก่อสร้างถูกสร้างขึ้น เพื่อช่วยให้วิญญาณเดินทางหลังความตาย 560 00:39:40,240 --> 00:39:43,280 ยกตัวอย่างเช่นพีระมิด 561 00:39:44,080 --> 00:39:50,320 เท่าที่ผมรู้ ไม่มีโครงสร้างพีระมิดไหน ในโลกนี้ที่ไม่เกี่ยวข้อง 562 00:39:50,400 --> 00:39:54,120 กับแนวคิดเรื่องความตาย และวิญญาณเดินทางหลังความตาย 563 00:39:56,280 --> 00:39:59,880 แนวคิดนี้เห็นได้ชัดเจนในพีระมิดอียิปต์โบราณ 564 00:39:59,960 --> 00:40:05,200 แต่ก็เห็นได้ชัดเจนในพีระมิด ของทวีปอเมริกาและของเม็กซิโกด้วย 565 00:40:07,560 --> 00:40:10,000 เป็นเรื่องน่าสนใจที่ได้รู้จากอันโตนิโอ 566 00:40:10,080 --> 00:40:13,040 ว่าจีโอกลิฟในแอมะซอน อาจมีวัตถุประสงค์คล้ายกัน 567 00:40:13,120 --> 00:40:17,480 ต่อผู้ที่สร้างมันขึ้นมาเมื่อหลายพันปีก่อน 568 00:40:24,920 --> 00:40:29,600 กลับมาที่สนามบิน ถึงเวลาค้นหาว่า การสำรวจด้วยไลดาร์ของเรา 569 00:40:29,680 --> 00:40:33,840 ตรวจพบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใต้ผืนป่าเพิ่มหรือไม่ 570 00:40:35,360 --> 00:40:37,680 ฟาบิโอครับ บอกเราทีว่าคุณพบอะไร 571 00:40:38,400 --> 00:40:40,760 เราสำรวจพื้นที่โดยใช้ไลดาร์ 572 00:40:41,360 --> 00:40:43,920 คุณเห็นต้นไม้พวกนี้ไหมครับ 573 00:40:44,000 --> 00:40:44,840 ครับ 574 00:40:48,120 --> 00:40:49,160 ทีนี้ก็… 575 00:40:50,560 --> 00:40:52,240 ว้าว เหลือเชื่อเลย 576 00:40:52,320 --> 00:40:53,240 แม่เจ้า 577 00:41:21,880 --> 00:41:23,960 คำบรรยายโดย มนัสวี ศักดิษฐานนท์