1
00:00:06,083 --> 00:00:08,963
‎(ซีรีส์จาก NETFLIX)

2
00:00:12,163 --> 00:00:13,123
‎- ดีไหมครับ
‎- ครับ

3
00:00:13,203 --> 00:00:15,283
‎- เอาละ จะเริ่มแล้ว
‎- เทกที่หนึ่ง

4
00:00:15,363 --> 00:00:17,243
‎คุณจะนิยามตัวเองยังไง

5
00:00:19,003 --> 00:00:20,683
‎ผมจะนิยามตัวเองยังไงเหรอ

6
00:00:20,763 --> 00:00:23,683
‎คุณได้รับการนิยามว่า
‎เป็นนักโบราณคดีทางเลือก

7
00:00:23,763 --> 00:00:26,003
‎- ใช่แล้ว
‎- เป็นคนเลือกที่รักมักที่ชัง

8
00:00:26,083 --> 00:00:29,283
‎มีคนอ่านหนังสือของคุณเป็นล้าน
‎แต่นักวิชาการกลับไม่ให้ค่า

9
00:00:29,363 --> 00:00:30,443
‎(แกรห์ม แฮนค็อกสติดีหรือเปล่า)

10
00:00:30,523 --> 00:00:33,363
‎คุณรู้ไหมว่าคุณหาเรื่องทะเลาะกับนักวิชาการ

11
00:00:33,443 --> 00:00:35,923
‎เพราะหลายคนไม่อยากได้ยินเรื่องนี้

12
00:00:36,003 --> 00:00:39,803
‎คุณอยู่แนวหน้ามาหลายทศวรรษ…

13
00:00:39,883 --> 00:00:40,963
‎(เส้นขอบฟ้าที่หายไป)

14
00:00:41,043 --> 00:00:43,923
‎และคุณทำให้ผมเห็นไอเดีย
‎ที่เป็นที่ถกเถียงหลายอย่าง…

15
00:00:44,003 --> 00:00:45,083
‎(เก่าแก่กว่าที่เห็น)

16
00:00:45,163 --> 00:00:46,923
‎ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว

17
00:00:48,323 --> 00:00:50,083
‎ผมคือแกรห์ม แฮนค็อก

18
00:00:51,563 --> 00:00:54,963
‎ผมไม่ได้อ้างว่า
‎เป็นนักโบราณคดีหรือนักวิทยาศาสตร์

19
00:00:55,043 --> 00:00:56,763
‎ผมเป็นนักข่าว

20
00:00:56,843 --> 00:01:01,003
‎และหัวข้อที่ผมกำลังสืบสาว
‎คือยุคก่อนประวัติศาสตร์มนุษย์

21
00:01:15,083 --> 00:01:20,123
‎ผมสงสัยว่ามนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความจำสั้น

22
00:01:20,923 --> 00:01:25,763
‎เราลืมสิ่งที่สำคัญมากในอดีตของเราเอง

23
00:01:26,443 --> 00:01:30,443
‎และผมคิดว่าสิ่งสำคัญมากที่ถูกลืมไป

24
00:01:30,523 --> 00:01:34,523
‎คือความเจริญล้ำหน้าของยุคน้ำแข็งที่หายไป

25
00:01:36,723 --> 00:01:40,883
‎ผมใช้เวลาหลายทศวรรษ
‎ค้นหาหลักฐานของความเจริญที่หายไปนี้

26
00:01:40,963 --> 00:01:42,643
‎ในหลายบริเวณรอบโลก

27
00:01:43,123 --> 00:01:44,043
‎ว้าว

28
00:01:44,563 --> 00:01:48,483
‎เป้าหมายของผมตอนนี้คือ
‎การปะติดปะต่อเบาะแสเหล่านี้…

29
00:01:48,563 --> 00:01:51,843
‎และมันดูแปลกประหลาดมาก

30
00:01:52,843 --> 00:01:56,603
‎เพื่อแสดงหลักฐาน
‎ที่ท้าทายความเข้าใจประวัติศาสตร์มนุษย์เดิมๆ

31
00:01:57,603 --> 00:02:00,483
‎ทุกวันนี้มันถอยกลับไป ย้อนกลับไปนานมาก

32
00:02:01,043 --> 00:02:05,523
‎โครงสร้างโบราณถูกสร้าง
‎ด้วยความซับซ้อนอย่างน่าประหลาด…

33
00:02:06,043 --> 00:02:09,523
‎มันเป็นสถานที่ดาราศาสตร์โบราณ
‎อันน่าทึ่งที่สุดในอเมริกาเหนือ

34
00:02:10,203 --> 00:02:14,843
‎แสดงให้เห็นลักษณะของ
‎ความเจริญล้ำหน้ายุคก่อนประวัติศาสตร์

35
00:02:14,923 --> 00:02:16,843
‎เสานี้เหมือนศิลาโรเซตตา

36
00:02:17,963 --> 00:02:21,483
‎ความเป็นไปได้ของความเจริญที่เกิดขึ้น
‎เร็วกว่าที่เราคิด

37
00:02:21,563 --> 00:02:22,403
‎เริ่มชัดเจนมากขึ้น

38
00:02:23,603 --> 00:02:27,363
‎มันจะทำให้ประวัติศาสตร์ที่เรารู้มาถูกจารึกใหม่

39
00:02:27,443 --> 00:02:28,283
‎ใช่

40
00:02:30,963 --> 00:02:35,163
‎แน่นอน ความคิดนี้ทำให้
‎คนที่เรียกว่าผู้เชี่ยวชาญไม่พอใจ

41
00:02:35,243 --> 00:02:39,483
‎กลุ่มคนที่ยืนยันว่ามนุษย์ที่อยู่ในยุคน้ำแข็ง

42
00:02:39,563 --> 00:02:41,123
‎มีแค่คนเก็บของป่าล่าสัตว์

43
00:02:42,323 --> 00:02:47,123
‎มันทำให้ผมเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง
‎ของนักโบราณคดีไปโดยปริยาย

44
00:02:47,203 --> 00:02:49,883
‎ทำไมไม่พูดว่า
‎"เราไม่รู้ นี่เป็นความลึกลับอันน่าทึ่ง"

45
00:02:49,963 --> 00:02:50,883
‎แล้วก็ปล่อยมันไว้แค่นั้น

46
00:02:50,963 --> 00:02:53,963
‎มันเป็นงานของผมที่จะนำเสนอมุมมองใหม่ๆ

47
00:02:54,043 --> 00:02:57,443
‎อาจมีบทหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษย์ที่ถูกลืมไป

48
00:02:57,523 --> 00:02:59,483
‎หรืออาจเป็นทัศนคติที่ต้องการปกป้องตัวเอง

49
00:02:59,563 --> 00:03:02,323
‎เย่อหยิ่งและเกื้อกูลกันของนักวิชาการทั่วไปก็ได้

50
00:03:02,403 --> 00:03:04,643
‎ที่หยุดเราไม่ให้คิดถึงความเป็นไปได้นั้น

51
00:03:05,843 --> 00:03:09,043
‎ผมกำลังพยายามล้มล้าง…
‎ภาพจำลองของประวัติศาสตร์

52
00:03:23,163 --> 00:03:28,603
‎(ครั้งหนึ่งเคยเกิดน้ำท่วม)

53
00:03:31,563 --> 00:03:34,923
‎เป็นเวลา 30 ปีแล้วที่ผมค้นหาบางอย่าง

54
00:03:35,003 --> 00:03:37,603
‎ที่มีคนบอกผมว่าไม่มีทางมีอยู่จริง

55
00:03:39,443 --> 00:03:45,243
‎ความเจริญล้ำหน้าของมนุษย์ที่เก่าแก่กว่า
‎ของเราเองหายไปในประวัติศาสตร์

56
00:03:47,123 --> 00:03:51,243
‎ประวัติศาสตร์ในเวอร์ชันทั่วไปบอกไว้ว่า
‎หลังหมดยุคน้ำแข็ง…

57
00:03:51,723 --> 00:03:53,003
‎(9,600 ก่อนค.ศ.)

58
00:03:53,083 --> 00:03:56,243
‎ในความคิดริเริ่มของพวกเขาเอง
‎บรรพบุรุษคนเก็บของป่าล่าสัตว์ของเรา

59
00:03:56,323 --> 00:04:00,123
‎จู่ๆ ก็เริ่มทำฟาร์มและเลี้ยงสัตว์

60
00:04:00,203 --> 00:04:03,403
‎ลงหลักปักฐานและกลายเป็นเมืองในที่สุด

61
00:04:04,043 --> 00:04:07,763
‎จนความเจริญครั้งแรกเกิดขึ้น
‎ประมาณหกพันปีที่แล้ว

62
00:04:07,843 --> 00:04:08,763
‎(4,000 ก่อนค.ศ.)

63
00:04:10,123 --> 00:04:14,083
‎แต่การค้นพบใหม่แย้งกับความเข้าใจนั้น

64
00:04:15,403 --> 00:04:19,203
‎การค้นพบหนึ่งในเรื่องนั้นเกิดขึ้นในอินโดนีเซีย

65
00:04:19,283 --> 00:04:20,123
‎(อินโดนีเซีย)

66
00:04:20,203 --> 00:04:22,203
‎(มหาสมุทรอินเดีย ทะเลชวา
‎มาเลเซีย สิงคโปร์ มาเลเซียตะวันออก)

67
00:04:22,283 --> 00:04:24,603
‎บนเกาะที่ผู้คนหนาแน่นที่สุด เกาะชวา…

68
00:04:24,683 --> 00:04:25,523
‎(เกาะชวา)

69
00:04:25,603 --> 00:04:26,442
‎(จาการ์ตา)

70
00:04:26,523 --> 00:04:30,043
‎ประมาณสี่ชั่วโมงทางใต้ของจาการ์ตา
‎ใกล้หมู่บ้านคาร์ยามัคติ

71
00:04:30,123 --> 00:04:31,243
‎(คาร์ยามัคติ)

72
00:04:37,043 --> 00:04:40,483
‎ผมมาที่นี่เพื่อสืบหาหนึ่งในการค้นพบ

73
00:04:40,563 --> 00:04:43,843
‎ทางโบราณคดีที่น่าทึ่ง
‎และเป็นที่ถกเถียงมากที่สุดในยุคของเรา

74
00:04:45,083 --> 00:04:45,923
‎หลักฐานเบื้องต้น

75
00:04:46,003 --> 00:04:49,083
‎ทำให้นักโบราณคดีทั่วไปสับสน

76
00:04:49,163 --> 00:04:52,563
‎เพราะมันทำให้เกิดคำถามกับทุกอย่าง
‎ที่พวกเขาเคยสอนเรา

77
00:04:52,643 --> 00:04:54,323
‎เกี่ยวกับยุคก่อนประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

78
00:04:56,323 --> 00:04:58,883
‎มันเป็นสถานที่ที่ทำให้เกิดคำถามกวนใจ

79
00:04:59,883 --> 00:05:01,963
‎แล้วถ้าความเจริญล้ำหน้า

80
00:05:02,043 --> 00:05:04,683
‎เกิดขึ้นที่นี่ในอินโดนีเซียในยุคน้ำแข็งล่ะ

81
00:05:05,803 --> 00:05:07,923
‎ความเจริญที่หายไปในประวัติศาสตร์

82
00:05:08,003 --> 00:05:09,003
‎จนกระทั่งตอนนี้

83
00:05:12,483 --> 00:05:14,403
‎ที่นี่คือกูนุงปาดัง

84
00:05:14,483 --> 00:05:17,283
‎(กูนุงปาดัง)

85
00:05:19,083 --> 00:05:23,083
‎ชื่อมีความหมายว่า "ภูเขาแห่งแสง"
‎หรือ "ภูเขาแห่งการตรัสรู้"

86
00:05:23,163 --> 00:05:24,883
‎ในภาษาชาวซูดานท้องถิ่น

87
00:05:27,483 --> 00:05:31,043
‎คนท้องถิ่นพูดด้วยความทึ่ง
‎ในบรรยากาศลึกลับของมัน…

88
00:05:34,483 --> 00:05:38,443
‎และผู้แสวงบุญเดินทางมาจากทุกที่
‎เพื่อบูชาเจ้าป่าเจ้าเขา

89
00:05:40,203 --> 00:05:43,363
‎พวกเขาล้างตัวให้บริสุทธิ์ที่น้ำพุโบราณที่ตีนเขา…

90
00:05:45,963 --> 00:05:47,443
‎ก่อนเดินทางขึ้นเขา…

91
00:05:49,483 --> 00:05:51,163
‎หนึ่งร้อยสิบเมตร

92
00:05:52,603 --> 00:05:55,443
‎การเดินขึ้นไปทั้งชันและลำบาก

93
00:05:57,443 --> 00:05:59,963
‎แต่คุ้มค่าเมื่อขึ้นไปถึงข้างบน

94
00:06:05,243 --> 00:06:09,203
‎เพราะกูนุงปาดังไม่เหมือนที่ไหนในโลก

95
00:06:17,323 --> 00:06:21,643
‎นานมาแล้ว นักโบราณคดีคิดว่า
‎มันเป็นแค่เขาอีกแห่งในป่า

96
00:06:23,283 --> 00:06:25,363
‎แต่การคิดแบบนั้นเป็นปัญหา

97
00:06:26,763 --> 00:06:30,043
‎พอขึ้นไปถึงยอดเขา
‎แล้วเห็นก้อนหินพวกนี้กระจายไปทั่วบริเวณ

98
00:06:37,963 --> 00:06:41,923
‎ก้อนหินหกเหลี่ยมแปลกๆ มีอยู่ทั่วไปหมด

99
00:06:46,523 --> 00:06:47,763
‎หลายพันก้อน

100
00:06:48,723 --> 00:06:49,883
‎มันตระการตาทีเดียว

101
00:06:51,643 --> 00:06:55,323
‎แต่ไม่แปลกสำหรับพื้นที่ภูเขาไฟของอินโดนีเซีย

102
00:06:55,403 --> 00:06:58,163
‎ซึ่งมีก้อนหินแบบนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

103
00:07:00,163 --> 00:07:02,203
‎มันเรียกว่าแนวแตกเสาเหลี่ยม

104
00:07:02,283 --> 00:07:05,923
‎และเกิดขึ้นเมื่อหินภูเขาไฟ
‎ในกรณีนี้คือหินบะซอลต์

105
00:07:06,003 --> 00:07:08,363
‎เย็นลงและแตกเป็นรูปต่างๆ

106
00:07:11,203 --> 00:07:14,083
‎เมื่อเห็นครั้งแรก แนวเขาเปิดนี้อาจถูกเข้าใจผิด

107
00:07:14,163 --> 00:07:16,723
‎ว่าเป็นรูปแบบธรรมชาติของหินภูเขาไฟ

108
00:07:16,803 --> 00:07:20,083
‎ซึ่งเป็นเหตุผลที่นักโบราณคดีไม่ใส่ใจดูมันมากนัก

109
00:07:21,043 --> 00:07:24,483
‎แต่พอดูดีๆ มันชัดเจนว่า

110
00:07:24,563 --> 00:07:28,643
‎หินเหล่านี้ถูกตัดเพื่อเป็นวัสดุก่อสร้าง

111
00:07:28,723 --> 00:07:30,483
‎แล้ววางไว้ด้วยมือมนุษย์

112
00:07:33,443 --> 00:07:35,963
‎ท่ามกลางก้อนหินแตกหักจำนวนมาก

113
00:07:36,043 --> 00:07:39,563
‎ร่องรอยของโครงสร้างเกิดขึ้นทั่วทั้งภูเขานี้

114
00:07:40,363 --> 00:07:47,163
‎เนินดิน ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า และกำแพงยาว

115
00:07:48,243 --> 00:07:50,483
‎บนเนินที่จัดวางอย่างตั้งใจ

116
00:07:52,563 --> 00:07:54,323
‎ทั้งหมดเป็นฝีมือมนุษย์อย่างชัดเจน

117
00:07:58,403 --> 00:08:02,963
‎เมื่อนักโบราณคดี อาลี อัคบาร์และทีมของเขา
‎เริ่มทำงานที่นี่ในปี 2012

118
00:08:04,003 --> 00:08:06,243
‎พวกเขาตั้งสมมุติฐานว่าโครงสร้างบนภูเขาแห่งนี้

119
00:08:06,323 --> 00:08:09,563
‎มีอายุไม่เกิน 2,500 ปี

120
00:08:10,843 --> 00:08:12,843
‎เราไม่รู้อายุที่แท้จริงของสถานที่นี้

121
00:08:12,923 --> 00:08:13,923
‎(ดร.อาลี อัคบาร์
‎มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย)

122
00:08:14,003 --> 00:08:18,643
‎สถานที่นี้ถูกทิ้งร้างมานานมาก
‎และอาจถูกลืมไปแล้ว

123
00:08:19,883 --> 00:08:24,163
‎ทีมยังตั้งสมมุติฐานด้วยว่า
‎อาคารโบราณของกูนุงปาดัง

124
00:08:24,243 --> 00:08:27,683
‎มีฐานเป็นก้อนหินแนวแตกเสาเหลี่ยม
‎ที่เห็นอยู่ตามธรรมชาติในพื้นที่

125
00:08:28,843 --> 00:08:31,283
‎แต่พวกเขายังพบบางอย่างที่แปลกด้วย

126
00:08:33,523 --> 00:08:38,003
‎แนวแตกเสาเหลี่ยมนำเข้าจากภูมิภาคอื่น

127
00:08:38,082 --> 00:08:39,403
‎จากสถานที่อื่น

128
00:08:40,363 --> 00:08:45,962
‎นั่นหมายความว่าก้อนหินทุกก้อนเกือบห้าหมื่นก้อน

129
00:08:46,043 --> 00:08:50,043
‎และแต่ละก้อนหนัก 300 กิโลกรัม
‎ถูกขนขึ้นมาบนภูเขานี้

130
00:08:52,763 --> 00:08:55,243
‎เมื่อทีมของดร.อัคบาร์สำรวจพื้นที่เป็นครั้งแรก

131
00:08:55,883 --> 00:08:59,083
‎พวกเขาพบหลักฐานว่ามนุษย์เคยอยู่ที่นี่

132
00:08:59,643 --> 00:09:03,683
‎ในสิ่งที่เรียกว่าชั้นดินวัฒนธรรม
‎แต่ไม่ใช่ในที่ที่พวกเขาคาดคิด

133
00:09:05,243 --> 00:09:09,723
‎เราประหลาดใจมากที่สถานที่นี้
‎ประกอบไปด้วยชั้นดินวัฒนธรรมสองชั้น

134
00:09:11,523 --> 00:09:15,643
‎ชั้นแรกอยู่บนพื้นผิวจาก 500 ปีก่อนคริสต์ศักราช

135
00:09:16,163 --> 00:09:17,363
‎(500 ปีก่อนค.ศ.)

136
00:09:17,443 --> 00:09:19,123
‎แต่ลึกลงไปสี่เมตร

137
00:09:19,203 --> 00:09:21,523
‎เราพบชั้นดินวัฒนธรรมอีกชั้น

138
00:09:22,363 --> 00:09:25,403
‎จาก 5,200 ปีก่อนคริสต์ศักราช

139
00:09:25,483 --> 00:09:28,723
‎(5,200 ปีก่อนค.ศ.)

140
00:09:29,323 --> 00:09:31,843
‎น่าแปลกใจมาก เราตกใจมาก

141
00:09:32,963 --> 00:09:34,043
‎มันเก่าแก่มาก

142
00:09:37,883 --> 00:09:39,763
‎เจ็ดพันปีก่อน

143
00:09:39,843 --> 00:09:42,563
‎ก่อนจะสร้างอะไรในระดับนี้ได้

144
00:09:43,243 --> 00:09:45,883
‎ไม่มีหลักฐานว่าผู้คนในภูมิภาคนี้

145
00:09:45,963 --> 00:09:48,683
‎ทำอะไรได้มากกว่าเก็บของป่าล่าสัตว์

146
00:09:51,123 --> 00:09:54,443
‎อะไรน่าจะดลใจให้พวกเขาลงแรงขนาดนี้

147
00:09:54,523 --> 00:09:56,243
‎เพื่อนำหินทั้งหมดนี้ขึ้นมาที่นี่

148
00:10:00,723 --> 00:10:03,843
‎ผมไม่แน่ใจเรื่องประโยชน์ใช้สอยของสถานที่นี้

149
00:10:03,923 --> 00:10:09,683
‎อย่างไรก็ดี เรายังไม่พบ
‎โครงกระดูกหรือกระดูกมนุษย์

150
00:10:09,763 --> 00:10:11,803
‎ดังนั้นที่นี่ไม่ใช่พื้นที่ฝังศพ

151
00:10:12,723 --> 00:10:15,883
‎มันน่าจะใช้สำหรับงานพิธีหรือพิธีกรรม

152
00:10:18,883 --> 00:10:22,603
‎เรากำลังเจอกับความลึกลับอย่างแท้จริง
‎ความลึกลับที่ต้องอธิบายให้ได้

153
00:10:26,803 --> 00:10:31,323
‎มันไม่เกิดขึ้นจนมีการสำรวจอีกครั้ง
‎เพื่อลงลึกไปในสถานที่นี้

154
00:10:31,403 --> 00:10:36,283
‎ว่าความเป็นไปได้ใหม่อันน่าทึ่ง
‎เริ่มสร้างความเชื่อให้นักวิจัย

155
00:10:38,043 --> 00:10:40,083
‎ว่าพวกเขาอาจเจอกับ

156
00:10:40,163 --> 00:10:43,403
‎ผลงานของความเจริญที่หายไปในประวัติศาสตร์

157
00:10:47,003 --> 00:10:50,963
‎ดร.แดนนี่ ฮิลแมน นาตาวิดจาจา
‎เรียนที่คาลเทค

158
00:10:51,043 --> 00:10:54,683
‎ปัจจุบันทำงานให้
‎ศูนย์การวิจัยธรณีเทคนิคของอินโดนีเซีย

159
00:10:56,963 --> 00:11:01,003
‎ในฐานะนักธรณีวิทยา
‎ดร.ฮิลแมนรู้ว่ามีอะไรที่แปลกมาก

160
00:11:01,083 --> 00:11:02,283
‎เกี่ยวกับกูนุงปาดัง

161
00:11:05,723 --> 00:11:09,483
‎เมื่อสำรวจสถานที่
‎เขาพบว่าหินบะซอลต์เสาเหลี่ยม

162
00:11:09,563 --> 00:11:11,803
‎ไม่ได้อยู่แค่บนยอดเขา

163
00:11:13,683 --> 00:11:16,123
‎มันยังล้อมอยู่รอบเนินเขา

164
00:11:17,843 --> 00:11:20,923
‎ครอบคลุมพื้นที่อย่างน้อย
‎150,000 ตารางเมตร

165
00:11:24,083 --> 00:11:27,123
‎พื้นที่เปิดระหว่างสองเนินเขานี้

166
00:11:27,203 --> 00:11:29,563
‎เป็นเหมือนกำแพงบางอย่าง

167
00:11:30,443 --> 00:11:34,283
‎มีนักโบราณคดีบางคนที่เชื่อว่า
‎ทั้งหมดนี่เกิดจากธรรมชาติ

168
00:11:34,363 --> 00:11:35,763
‎ผมรู้ว่านี่เป็นหินธรรมชาติ

169
00:11:35,843 --> 00:11:38,843
‎แต่พวกเขาคิดว่ารูปแบบทั้งหมดนี่
‎เกิดจากธรรมชาติด้วย

170
00:11:38,923 --> 00:11:41,923
‎พวกมันเป็นของธรรมชาติ
‎แต่การวางตำแหน่งไม่ใช่ธรรมชาติ

171
00:11:42,003 --> 00:11:43,323
‎(ดร.แดนนี่ ฮิลแมน นาตาวิดจาจา
‎นักธรณีวิทยา)

172
00:11:43,403 --> 00:11:45,683
‎- และโดยทั่วไปเป็นแนวตั้ง
‎- แนวตั้ง ใช่

173
00:11:45,763 --> 00:11:47,563
‎- ใช่แล้ว
‎- และตรงนี้วางลงด้านข้าง

174
00:11:47,643 --> 00:11:49,763
‎- อีกอย่างมันไม่ได้ถูกตัดแบบนี้
‎- ใช่

175
00:11:49,843 --> 00:11:51,963
‎ทั้งหมดตรงนี้ถูกตัดเป็นขนาดเมตรถึงเมตรครึ่ง

176
00:11:52,043 --> 00:11:52,883
‎ใช่

177
00:11:54,443 --> 00:11:57,603
‎ยังมีอย่างอื่นไม่ปกติอีกที่ดร.ฮิลแมนสังเกตเห็น

178
00:11:58,923 --> 00:12:00,403
‎ระหว่างก้อนหิน

179
00:12:01,323 --> 00:12:04,763
‎ตำแหน่งตามธรรมชาติจะไม่มีพื้นที่ตรงกลาง

180
00:12:05,323 --> 00:12:06,723
‎มันจะติดกันแน่น

181
00:12:08,683 --> 00:12:12,203
‎แต่ตรงนี้ระหว่างหินเสาเหลี่ยม มีการฉาบ

182
00:12:12,283 --> 00:12:16,003
‎- ที่ยึดพวกมันไว้ด้วยกันเหมือนซีเมนต์
‎- ใช่

183
00:12:16,083 --> 00:12:19,283
‎ความหนาประมาณห้าเซนต์และเท่าๆ กันหมด

184
00:12:19,363 --> 00:12:22,363
‎ใช่ พวกมันจึงเหมือนเป็นหินก่อสร้าง

185
00:12:22,443 --> 00:12:26,163
‎ที่มีการฉาบระหว่างก้อน ทำขึ้นโดยมนุษย์

186
00:12:26,243 --> 00:12:28,163
‎- เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการก่อสร้าง
‎- ใช่แล้ว

187
00:12:32,003 --> 00:12:33,523
‎ดังนั้นแดนนี่จึงเริ่มสืบสาวเรื่องนี้

188
00:12:33,603 --> 00:12:36,003
‎และนี่คือจุดที่เรื่องน่าแปลกใจเริ่มเกิดขึ้น

189
00:12:37,923 --> 00:12:42,403
‎สิ่งที่ดร.ฮิลแมนเริ่มเข้าใจ
‎เมื่อเขารวบรวมข้อมูลได้

190
00:12:43,043 --> 00:12:46,243
‎คือกูนุงปาดังเป็นมากกว่าแค่ภูเขาแห่งหนึ่ง

191
00:12:50,803 --> 00:12:53,923
‎ที่นี่เป็นโบราณสถานแห่งกูนุงปาดัง

192
00:12:55,323 --> 00:12:57,923
‎ทางเหนือมีบันได

193
00:12:58,003 --> 00:12:59,763
‎เดินขึ้นไปสูงกว่า 110 เมตร

194
00:12:59,843 --> 00:13:02,363
‎จนไปถึงเนินเขาห้าชั้นแรก

195
00:13:03,843 --> 00:13:09,323
‎บนพื้นที่ยาวประมาณ 150 เมตร
‎กว้าง 40 เมตร

196
00:13:10,963 --> 00:13:15,883
‎ทั้งเขาล้อมไปด้วยกำแพงหินบะซอลต์เสาเหลี่ยม

197
00:13:17,323 --> 00:13:20,163
‎ใช้ประมาณห้าหมื่นก้อน

198
00:13:20,243 --> 00:13:22,883
‎เป็นโครงการปรับพื้นที่ขนาดมโหฬาร

199
00:13:22,963 --> 00:13:24,923
‎ที่เปลี่ยนภูเขาไฟ

200
00:13:25,003 --> 00:13:28,643
‎ให้เป็นสิ่งที่นิยามได้ดีที่สุดว่าเป็นพีระมิดขั้นบันได

201
00:13:34,323 --> 00:13:36,603
‎ที่นี่คือเนินเขาที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งหมด

202
00:13:36,683 --> 00:13:37,523
‎ใช่

203
00:13:38,043 --> 00:13:40,963
‎มันไม่ได้เป็นรูปร่างเดียวกับพีระมิด

204
00:13:41,043 --> 00:13:43,803
‎เหมือนพีระมิดของเผ่ามายาหรือกิซ่า

205
00:13:43,883 --> 00:13:48,603
‎ไม่ มันเป็นแนวคิดคล้ายกัน
‎ในเรื่องขั้นบันไดตามแบบพีระมิด

206
00:13:48,683 --> 00:13:50,723
‎- ใช่ แต่มันมีลักษณะเป็นวง
‎- ใช่เลย

207
00:13:52,203 --> 00:13:55,083
‎มีคำถามเรื่องคำนิยามอยู่
‎เรานิยามพีระมิดยังไง

208
00:13:55,163 --> 00:13:59,323
‎แต่ถ้าเรานิยามว่ามันเป็นโครงสร้าง
‎ซึ่งสูงเป็นขั้นๆ ขึ้นไปถึงยอด

209
00:13:59,403 --> 00:14:01,923
‎นั่นคือสิ่งที่เราเห็นว่ากูนุงปาดังเป็น

210
00:14:03,803 --> 00:14:08,003
‎และความจริงที่ว่าพีระมิดโบราณเกิดขึ้นที่นี่

211
00:14:08,083 --> 00:14:12,323
‎น่าจะเปลี่ยนสิ่งที่เรารู้มาเกี่ยวกับ
‎ความสามารถของบรรพบุรุษของเรา

212
00:14:14,123 --> 00:14:18,483
‎นักโบราณคดีเชื่อว่าพีระมิดที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

213
00:14:18,563 --> 00:14:21,563
‎เกิดขึ้นราวๆ 4,700 ปีที่แล้ว

214
00:14:22,723 --> 00:14:25,203
‎ไม่ใช่ในอียิปต์ แต่ในเปรู

215
00:14:25,283 --> 00:14:26,843
‎(เมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งการัล- ซูเป
‎เปรู)

216
00:14:26,923 --> 00:14:30,843
‎แต่ดร.ฮิลแมนพบหลักฐานว่า
‎กูนุงปาดังอาจเก่าแก่กว่าด้วยซ้ำ

217
00:14:33,243 --> 00:14:35,003
‎มันเก่าแก่ขนาดไหนกันแน่

218
00:14:35,963 --> 00:14:38,963
‎ใครเป็นคนสร้างมันและสร้างทำไม

219
00:14:44,283 --> 00:14:46,123
‎ดร.ฮิลแมนและทีมของเขา

220
00:14:46,203 --> 00:14:49,883
‎ใช้เทคโนโลยีที่ปกติใช้กับการสำรวจทางธรณีวิทยา

221
00:14:49,963 --> 00:14:52,883
‎เพื่อหาคำตอบที่อยู่ลึกลงไปในโครงสร้าง

222
00:14:54,003 --> 00:14:56,443
‎เราใช้สามวิธีด้วยกัน

223
00:14:56,523 --> 00:14:59,843
‎- จีพีอาร์
‎- ใช่ เรดาร์หยั่งลึก

224
00:14:59,923 --> 00:15:02,203
‎- เรดาร์หยั่งลึก ใช่
‎- ใช่

225
00:15:02,283 --> 00:15:05,043
‎- การวัดความต้านไฟฟ้า
‎- ใช่

226
00:15:05,123 --> 00:15:07,203
‎และการวัดคลื่นกระทบ

227
00:15:09,523 --> 00:15:13,883
‎ก่อนหน้านี้นักโบราณคดีเคยขุดพื้นที่ลงไป
‎เพียงไม่กี่เมตร

228
00:15:13,963 --> 00:15:16,483
‎และไม่กี่ร่องห่างกัน

229
00:15:17,923 --> 00:15:20,803
‎เทคโนโลยีใหม่นี้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่ามาก…

230
00:15:21,323 --> 00:15:22,883
‎- สามสิบเมตร ใช่
‎- สามสิบเมตร

231
00:15:23,443 --> 00:15:24,843
‎และลงไปลึกกว่ามาก

232
00:15:25,683 --> 00:15:29,043
‎เราจะใช้เรดาร์หยั่งลึก

233
00:15:29,123 --> 00:15:30,443
‎การสำรวจด้วยจีพีอาร์

234
00:15:31,403 --> 00:15:33,243
‎เรดาร์หยั่งลึก

235
00:15:33,323 --> 00:15:36,043
‎ส่งคลื่นวิทยุเป็นระลอกลงไปในพื้นดิน

236
00:15:36,723 --> 00:15:41,923
‎พอมันกระทบบางอย่าง มันจะสะท้อนกลับมา
‎และข้อมูลนั้นจะถูกบันทึกและวิเคราะห์

237
00:15:43,483 --> 00:15:49,203
‎เราเลือกความถี่ที่ 40 เมกาเฮิร์ตซ์
‎เพื่อเจาะลงไป 30 เมตร

238
00:15:51,883 --> 00:15:54,163
‎โอเค ลงมือเลย

239
00:16:06,483 --> 00:16:10,643
‎ยิ่งดร.ฮิลแมนและทีมของเขา
‎เรียนรู้จากการสแกนลึกลงไปเท่าไหร่

240
00:16:10,723 --> 00:16:12,723
‎ก็ยิ่งลึกลับมากขึ้นเท่านั้น

241
00:16:14,323 --> 00:16:17,323
‎ธรรมชาติของโครงสร้างใต้ดิน
‎ยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

242
00:16:17,403 --> 00:16:19,523
‎แม้ว่าหินบะซอลต์เสาเหลี่ยมอยู่ที่นั่นมาตลอด

243
00:16:19,603 --> 00:16:21,243
‎มันถูกใช้เป็นวัสดุก่อสร้างมาตลอด

244
00:16:22,923 --> 00:16:27,923
‎การวัดคลื่นกระทบค้นพบจุดที่น่าสนใจ

245
00:16:28,003 --> 00:16:29,443
‎ลึกลงไปในภูเขา

246
00:16:30,883 --> 00:16:34,683
‎มันมีความเร็วของคลื่นสั่นสะเทือน
‎ที่สองร้อยเมตรต่อวินาที

247
00:16:34,763 --> 00:16:37,723
‎ใช่ ซึ่งในภาษาชาวบ้านหมายความว่าอะไร

248
00:16:38,723 --> 00:16:39,763
‎ความว่างเปล่า

249
00:16:39,843 --> 00:16:41,443
‎(อุโมงค์หรือห้อง)

250
00:16:41,523 --> 00:16:43,763
‎- ความว่างเปล่า พื้นที่ว่าง
‎- ว่างเปล่า

251
00:16:43,843 --> 00:16:46,243
‎และเราเห็นรูปร่างของพื้นที่ว่างนั่นไหม

252
00:16:46,323 --> 00:16:48,483
‎เห็น อย่างที่คุณเห็นตรงนี้ มันเป็นสี่เหลี่ยม

253
00:16:48,563 --> 00:16:50,043
‎- มันเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช่
‎- ใช่

254
00:16:50,123 --> 00:16:51,963
‎- และตำแหน่งถูกต้อง…
‎- ใช่

255
00:16:52,043 --> 00:16:54,203
‎- เพราะมันอยู่ตรงกลางของบริเวณนี้…
‎- ใช่

256
00:16:55,363 --> 00:16:58,003
‎ใต้เนินที่หนึ่ง ยังมีอีกห้อง…

257
00:16:58,083 --> 00:17:00,163
‎(ห้อง
‎กำแพงจำลอง)

258
00:17:00,243 --> 00:17:02,323
‎- ใช่
‎- เชื่อมต่อกับห้องนี้

259
00:17:02,403 --> 00:17:04,203
‎ใต้เนินเขาที่สอง

260
00:17:07,403 --> 00:17:09,963
‎สิ่งที่ดร.ฮิลแมนกับทีมของเขาค้นพบ

261
00:17:10,763 --> 00:17:14,083
‎คือห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่อย่างน้อยสามห้อง

262
00:17:14,763 --> 00:17:17,243
‎ห้องหนึ่งลึกลงไปประมาณสิบเมตร

263
00:17:17,323 --> 00:17:19,763
‎อาจเป็นโถงทางเข้าบางอย่าง

264
00:17:19,843 --> 00:17:23,723
‎ดูเหมือนจะมีอุโมงค์ทางเข้า
‎นำไปสู่ห้องหลักที่ใหญ่กว่า

265
00:17:25,003 --> 00:17:28,483
‎และทางเดินอีกทางเชื่อมต่อไปยังห้องที่สาม

266
00:17:28,563 --> 00:17:30,563
‎ลึกลงไปประมาณ 20 ถึง 30 เมตร

267
00:17:31,362 --> 00:17:35,083
‎ทั้งสามห้องตั้งอยู่ตรงกลางของพื้นที่

268
00:17:37,443 --> 00:17:40,483
‎ผมสนใจในห้องเหล่านี้มาก

269
00:17:40,563 --> 00:17:43,243
‎ผมหวังว่า
‎คุณจะสามารถพานักโบราณคดี

270
00:17:43,323 --> 00:17:44,883
‎ให้มาขุดที่นี่ได้

271
00:17:44,963 --> 00:17:47,683
‎พอเราเห็นห้องเหล่านี้…

272
00:17:47,763 --> 00:17:48,923
‎- ใช่
‎- ทั้งสามห้อง

273
00:17:49,643 --> 00:17:51,643
‎มันทำให้เราทึ่งมาก

274
00:17:55,043 --> 00:17:57,523
‎คุณได้ค้นพบสิ่งที่สำคัญมากนะ

275
00:17:57,603 --> 00:17:59,683
‎- แน่นอน
‎- ใช่ ไม่พลาดแน่

276
00:17:59,763 --> 00:18:00,643
‎ใช่

277
00:18:04,883 --> 00:18:09,283
‎แต่สำหรับนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดี
‎ที่เคยขุดที่นี่มาก่อน

278
00:18:09,363 --> 00:18:12,603
‎การค้นพบของดร.ฮิลแมนไม่สมเหตุสมผล

279
00:18:15,803 --> 00:18:18,603
‎ช่วงเวลาของประวัติศาสตร์มนุษย์ที่ยอมรับได้

280
00:18:18,683 --> 00:18:20,803
‎บอกเราว่าชนเผ่าของคนเก็บของป่าล่าสัตว์

281
00:18:20,883 --> 00:18:23,643
‎อาศัยอยู่บนเขานี้ราวๆ 7,000 ปีที่แล้ว…

282
00:18:23,723 --> 00:18:25,203
‎(5,200 ปีก่อนค.ศ.)

283
00:18:25,283 --> 00:18:28,123
‎ไม่มีทางที่จะก่อโครงสร้าง

284
00:18:28,203 --> 00:18:30,483
‎ที่มีขนาดมหึมาและความซับซ้อนขนาดนี้ได้

285
00:18:31,723 --> 00:18:33,643
‎แต่นี่ไง

286
00:18:36,443 --> 00:18:38,843
‎ความลึกลับเรียกร้องให้ค้นหา

287
00:18:42,883 --> 00:18:46,043
‎การระบุอายุของภูเขาแห่งนี้ที่ไม่ใช่ภูเขาจริงๆ

288
00:18:46,723 --> 00:18:50,123
‎ดร.ฮิลแมนและทีมของเขา
‎หันไปใช้เครื่องมือทางธรณีวิทยาอีกชนิด

289
00:18:51,523 --> 00:18:52,443
‎เครื่องขุดเจาะ

290
00:18:56,443 --> 00:19:01,683
‎อย่างที่คิด ตัวอย่างชั้นดินสองชั้นแรก
‎เก่าแก่ถึงสามพันปี…

291
00:19:01,763 --> 00:19:03,923
‎(1,000 ปีก่อนค.ศ.)

292
00:19:04,003 --> 00:19:06,163
‎จนถึงประมาณ 8,000 ปี

293
00:19:06,243 --> 00:19:07,283
‎(6,000 ปีก่อนค.ศ.)

294
00:19:07,803 --> 00:19:12,083
‎แต่เมื่อพวกเขาขุดลึก 15 เมตร

295
00:19:12,163 --> 00:19:14,563
‎พวกเขาพบสิ่งที่ไม่คาดคิดเลยสักนิด

296
00:19:15,523 --> 00:19:17,043
‎(6,000 ปีก่อนค.ศ.)

297
00:19:17,123 --> 00:19:22,123
‎บริเวณเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นราวๆ 11,600 ปีก่อน…

298
00:19:22,203 --> 00:19:24,083
‎(9,600 ปีก่อนคริสต์ศักราช)

299
00:19:24,163 --> 00:19:28,363
‎ทำให้ต้นกำเนิดพื้นที่นี้ย้อนกลับไป
‎ถึงจุดสิ้นสุดของยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย

300
00:19:31,723 --> 00:19:34,923
‎การค้นพบของดร.ฮิลแมนยังไม่หมดแค่นั้น

301
00:19:35,763 --> 00:19:41,603
‎เมื่อขุดลึกลงไปราวๆ 30 เมตร
‎เขาเจอชั้นดินแรกสุดของการก่อสร้าง

302
00:19:41,683 --> 00:19:44,043
‎มาลองดูอายุว่ามันถูกสร้างขึ้นเมื่อไหร่

303
00:19:44,123 --> 00:19:47,083
‎โอเค ชั้นดินที่สี่น่าจะเกิดสองหมื่นปีก่อน

304
00:19:47,163 --> 00:19:49,163
‎- น่าจะสองหมื่นปีก่อน
‎- เก่าแก่มาก

305
00:19:49,763 --> 00:19:52,843
‎เครื่องขุดเจาะดึงวัสดุที่บ่งบอกอายุได้ขึ้นมา

306
00:19:52,923 --> 00:19:56,043
‎ซึ่งย้อนกลับไปไกลถึง 24,000 ปีก่อน

307
00:19:56,123 --> 00:19:59,403
‎(22,000 ปีก่อนค.ศ.)

308
00:19:59,483 --> 00:20:03,883
‎วัสดุธรรมชาติเกี่ยวข้องกับ
‎ส่วนประกอบของโครงสร้างที่ตอนนี้ถูกฝังไว้ลึก

309
00:20:05,523 --> 00:20:08,563
‎และนี่ทำให้แดนนี่เชื่อ
‎และผมพูดได้เลยว่าผมก็เชื่อว่า

310
00:20:08,643 --> 00:20:12,003
‎กูนุงปาดังย้อนกลับไปถึงยุคต้นกำเนิดโบราณ

311
00:20:16,243 --> 00:20:20,043
‎การค้นพบของแดนนี่พิเศษและน่าพิศวง

312
00:20:21,243 --> 00:20:24,923
‎นักโบราณคดีชื่อฮิตเฮอร์โต้เคยอ้างอิงถึงมัน
‎ว่าเป็นความจริงที่รู้กันมานาน

313
00:20:25,003 --> 00:20:28,763
‎ว่าไม่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ไหนเลย
‎ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

314
00:20:28,843 --> 00:20:30,883
‎จนกระทั่งสี่พันปีก่อน

315
00:20:36,203 --> 00:20:39,363
‎การบ่งชี้อายุของโครงสร้างนี้
‎ย้อนกลับไปถึงยุคน้ำแข็ง

316
00:20:39,443 --> 00:20:42,123
‎สำหรับผม มันสร้างความตื่นเต้นให้อย่างมาก

317
00:20:42,203 --> 00:20:43,643
‎- ใช่
‎- ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า

318
00:20:43,723 --> 00:20:47,083
‎ห้องเหล่านี้มีหลักฐานหรือข้อมูล

319
00:20:47,163 --> 00:20:49,043
‎ที่อาจยืนยัน…

320
00:20:49,123 --> 00:20:51,523
‎- ใช่
‎- การค้นหาความเจริญที่หายไปของผมอยู่หรือไม่

321
00:20:51,603 --> 00:20:55,483
‎- ผมคิดว่าเรารู้ประวัติศาสตร์ของเราน้อยนิด
‎- ใช่

322
00:20:55,563 --> 00:20:57,763
‎ผมว่าเราพลาดเรื่องใหญ่ที่นี่ไป

323
00:21:00,883 --> 00:21:04,403
‎นี่เป็นแนวคิดที่นักโบราณคดีทั่วไปยอมรับได้ยาก

324
00:21:04,963 --> 00:21:07,803
‎ความเชื่อที่ว่ามันเป็นโครงสร้างที่คนสร้างขึ้น

325
00:21:07,883 --> 00:21:10,283
‎ไม่มีใครโต้แย้งได้อีกแล้ว

326
00:21:10,883 --> 00:21:14,403
‎แต่สิ่งที่นักโบราณคดียังยอมรับได้ยาก

327
00:21:14,483 --> 00:21:18,163
‎คือต้นกำเนิดของโครงสร้างนี้
‎ที่อาจเก่าแก่ถึง 24,000 ปี

328
00:21:20,403 --> 00:21:22,163
‎ย้อนกลับไปถึงยุคน้ำแข็งสุดท้าย

329
00:21:32,963 --> 00:21:35,883
‎สิ่งที่นักวิชาการไม่อยากยอมรับ

330
00:21:35,963 --> 00:21:38,803
‎คือยุคน้ำแข็งเป็นยุคที่พิเศษมาก

331
00:21:40,043 --> 00:21:42,363
‎เมื่อโลกไม่เหมือนตอนนี้เลย

332
00:21:45,803 --> 00:21:50,803
‎ย้อนกลับไปสองหมื่นปีก่อน
‎โลกดูไม่เหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้

333
00:21:50,883 --> 00:21:53,523
‎เกาะชวาไม่ใช่เกาะ

334
00:21:54,923 --> 00:21:59,643
‎มันเป็นส่วนใต้สุด
‎ของทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อันกว้างใหญ่

335
00:21:59,723 --> 00:22:02,843
‎ทวีปที่นักธรณีวิทยาเรียกว่าซุนดาแลนด์

336
00:22:05,883 --> 00:22:07,843
‎ในยุคน้ำแข็งสุดท้าย

337
00:22:07,923 --> 00:22:13,523
‎ระดับน้ำทะเลเคยอยู่ที่ 120 เมตร
‎ต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

338
00:22:14,883 --> 00:22:15,723
‎(เกาะชวา)

339
00:22:15,803 --> 00:22:19,683
‎สิ่งที่เป็นทะเลชวาในปัจจุบัน
‎เคยเป็นพื้นดินขนาดมหึมา

340
00:22:19,763 --> 00:22:22,123
‎ลากยาวไปถึงผืนดินของเอเชีย

341
00:22:22,963 --> 00:22:27,203
‎ซุนดาแลนด์ครอบคลุมพื้นที่
‎กว่า 1.12 ล้านตารางเมตร

342
00:22:27,283 --> 00:22:28,123
‎(ซุนดาแลนด์)

343
00:22:28,203 --> 00:22:29,043
‎(22,000 ก่อนค.ศ.)

344
00:22:29,123 --> 00:22:32,323
‎ขนาดเทียบเท่าสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก

345
00:22:32,403 --> 00:22:34,843
‎มันเป็นทั้งอนุทวีป

346
00:22:34,923 --> 00:22:36,283
‎(มหาสมุทรอินเดีย อ่าวเบงกอล)

347
00:22:38,603 --> 00:22:43,643
‎เรารู้ว่าชาวเผ่าเก็บของป่าล่าสัตว์ใช้ชีวิตอยู่กับ
‎ทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ในซุนดาแลนด์

348
00:22:43,723 --> 00:22:48,803
‎ย้อนกลับไปถึง 45,000 ปีก่อน
‎และน่าจะย้อนไปไกลกว่านั้นมาก

349
00:22:50,643 --> 00:22:54,403
‎ทำไมวัฒนธรรมล้ำสมัยทางเทคโนโลยี

350
00:22:54,483 --> 00:22:56,083
‎ถึงไม่ปรากฏอยู่ที่นี่เช่นกัน

351
00:22:57,923 --> 00:23:02,483
‎ในโลกหนาวเย็นและอันตราย
‎ผืนดินอันกว้างใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้

352
00:23:02,563 --> 00:23:05,683
‎น่าจะเป็นหนึ่งในสถานที่อันอบอุ่นและน่าค้นหา

353
00:23:05,763 --> 00:23:08,363
‎ซึ่งมนุษย์ในยุคแรกน่าจะได้พยายาม

354
00:23:08,443 --> 00:23:11,323
‎พัฒนาความเจริญอันล้ำสมัยและทรงคุณค่า

355
00:23:13,203 --> 00:23:15,683
‎ผมคิดว่าใครก็ตามที่สร้างกูนุงปาดัง

356
00:23:15,763 --> 00:23:17,923
‎อยู่บนโลกของเราร่วมกันพวกเก็บของป่าล่าสัตว์

357
00:23:18,003 --> 00:23:20,563
‎ซึ่งเรารู้ว่าอาศัยอยู่ทั่วไปในช่วงเวลานั้น

358
00:23:25,643 --> 00:23:27,603
‎มันไม่ใช่ความคิดพิสดารนัก

359
00:23:28,843 --> 00:23:32,403
‎แม้แต่ทุกวันนี้
‎ประเทศที่ล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีของโลก

360
00:23:32,483 --> 00:23:36,403
‎ยังอยู่ร่วมกับสังคมคนเก็บของป่าล่าสัตว์
‎อย่างชนเผ่าแซนในนามิเบีย

361
00:23:37,123 --> 00:23:38,883
‎หรือชนเผ่าลาคันดอนในเม็กซิโก

362
00:23:40,163 --> 00:23:42,523
‎หรือชนเผ่าคาซัคในมองโกเลียตะวันตก

363
00:23:43,923 --> 00:23:47,083
‎วัฒนธรรมที่แตกต่างในระดับการพัฒนาที่แตกต่าง

364
00:23:47,643 --> 00:23:49,763
‎มักอยู่ร่วมกันเสมอ

365
00:23:51,043 --> 00:23:52,723
‎กูนุงปาดังทำให้เห็นว่า

366
00:23:52,803 --> 00:23:57,603
‎วัฒนธรรมบางอย่าง
‎เคยอยู่รอบๆ พื้นที่ไหล่ทวีปซุนดา

367
00:23:57,683 --> 00:24:01,803
‎ซึ่งสามารถสร้างโครงสร้างใหญ่โตมหึมาได้

368
00:24:05,363 --> 00:24:09,123
‎วัฒนธรรมที่เชี่ยวชาญ
‎ในการก่อสร้างด้วยหินบะซอลต์เสาเหลี่ยม

369
00:24:11,283 --> 00:24:14,843
‎มันเป็นการก่อสร้าง
‎ที่ผมเคยเห็นมาก่อนในภูมิภาคนี้ของโลก

370
00:24:16,523 --> 00:24:21,843
‎บนเกาะแปซิฟิกเล็กๆ ของโปนเป
‎บนสถานที่ที่เรียกว่านานมาดอล

371
00:24:21,923 --> 00:24:23,563
‎(นานมาดอล
‎โปนเป)

372
00:24:23,643 --> 00:24:27,203
‎มันเองก็ถูกสร้างด้วยหินภูเขาไฟบะซอลต์

373
00:24:27,283 --> 00:24:30,683
‎วางซ้อนกันเหมือนที่กูนุงปาดัง

374
00:24:32,443 --> 00:24:34,923
‎นักโบราณคดีเชื่อว่าการก่อสร้างส่วนใหญ่

375
00:24:35,003 --> 00:24:39,283
‎ที่เห็นที่นานมาดอลในปัจจุบัน
‎เก่าแก่ราวเก้าร้อยปี

376
00:24:39,363 --> 00:24:42,083
‎เมื่อก้อนหินถูกขุดมาจากเกาะใกล้เคียง

377
00:24:43,163 --> 00:24:44,043
‎(ปี 1998)

378
00:24:44,123 --> 00:24:46,923
‎แต่ระหว่างการค้นคว้าของผม
‎ตอนไปเยือนครั้งก่อนๆ

379
00:24:47,003 --> 00:24:52,363
‎ผมพบเสามหึมาหลายต้นของมัน
‎ยื่นออกไปใต้น้ำ

380
00:24:53,963 --> 00:24:56,843
‎แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างก่อนหน้า
‎อาจถูกสร้างขึ้น

381
00:24:56,923 --> 00:25:00,443
‎เมื่อระดับน้ำทะเลต่ำกว่านี้
‎ในช่วงยุคน้ำแข็งสุดท้าย

382
00:25:03,963 --> 00:25:05,603
‎สถาปัตยกรรมของกูนุงปาดัง

383
00:25:05,683 --> 00:25:08,923
‎อาจเดินทางข้ามแปซิฟิกตอนใต้
‎ไปถึงไมโครนีเซียเชียวหรือ

384
00:25:10,883 --> 00:25:13,283
‎ถ้าเป็นเช่นนั้น เกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน

385
00:25:17,403 --> 00:25:20,403
‎ผมเชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น

386
00:25:20,963 --> 00:25:23,123
‎ราวๆ 12,800 ปีที่แล้ว

387
00:25:23,683 --> 00:25:28,483
‎เมื่อจู่ๆ ยุคน้ำแข็ง
‎เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

388
00:25:30,443 --> 00:25:34,523
‎ทุกอย่างอุ่นขึ้นอย่างช้าๆ เป็นระยะเวลานาน

389
00:25:35,483 --> 00:25:38,203
‎แล้วจู่ๆ สองสิ่งก็เกิดขึ้นพร้อมกัน

390
00:25:38,283 --> 00:25:40,683
‎สิ่งแรก อุณหภูมิของโลกต่ำลง

391
00:25:40,763 --> 00:25:43,483
‎จนถึงระดับที่หนาวที่สุดของยุคน้ำแข็ง

392
00:25:43,563 --> 00:25:46,363
‎และมันแทบจะเกิดขึ้นชั่วข้ามคืน

393
00:25:47,363 --> 00:25:51,603
‎และสิ่งที่สองคือระดับน้ำทะเล
‎ที่สูงขึ้นอย่างมากและกะทันหัน

394
00:25:53,003 --> 00:25:58,603
‎ปกติแล้วในยุคน้ำแข็ง
‎เมื่อเราเข้าสู่ช่วงที่น้ำแข็งตัว

395
00:25:58,683 --> 00:26:02,123
‎เราไม่คิดว่าจะเห็นน้ำจำนวนมาก
‎ไหลลงไปในมหาสมุทร

396
00:26:02,203 --> 00:26:04,363
‎เพราะน้ำนั่นกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว

397
00:26:04,443 --> 00:26:06,203
‎(ซุนดาแลนด์)

398
00:26:06,283 --> 00:26:09,283
‎สิ่งที่เกิดขึ้นคือน้ำท่วมครั้งใหญ่

399
00:26:10,003 --> 00:26:16,763
‎ประมาณ 12,800 ถึง 11,600 ปีก่อน
‎มหาสมุทรของโลกขยายตัวอย่างรวดเร็ว…

400
00:26:16,843 --> 00:26:17,683
‎(9,600 ปีก่อนค.ศ.)

401
00:26:17,763 --> 00:26:21,603
‎จนเกิดอุทกภัยครั้งแล้วครั้งเล่าต่อเนื่องกัน

402
00:26:21,683 --> 00:26:24,803
‎ในที่สุด ทวีปซุนดาแลนด์อันยิ่งใหญ่

403
00:26:24,883 --> 00:26:27,963
‎ก็ถูกกลืนเข้าไปในทะเล
‎กลายเป็นดินแดนที่หายไป

404
00:26:30,443 --> 00:26:32,283
‎มันทำให้เกิดคำถามขึ้นมา

405
00:26:32,883 --> 00:26:37,483
‎อาจมีวัดหรือโครงสร้างอื่นในทะเลชวา

406
00:26:37,563 --> 00:26:39,123
‎ที่ยังรอให้ค้นหาอีกไหม

407
00:26:42,163 --> 00:26:45,763
‎ใครจะไปรู้ว่าอะไรหายไป
‎ในระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นบ้าง

408
00:26:58,283 --> 00:27:02,683
‎เหตุการณ์น้ำท่วมเฉียบพลันนี้
‎น่าจะทำให้มนุษยชาติทั้งหมดช็อก

409
00:27:04,643 --> 00:27:06,803
‎และแน่นอนมีหลักฐานว่ามันเกิดขึ้น

410
00:27:09,163 --> 00:27:12,643
‎เกือบทุกวัฒนธรรมโบราณมีความเชื่อว่าน้ำท่วมใหญ่

411
00:27:12,723 --> 00:27:14,163
‎กลืนกินโลก

412
00:27:14,883 --> 00:27:16,123
‎ที่นี่ในอินโดนีเซีย

413
00:27:16,203 --> 00:27:19,803
‎ชาวบาตักมีตำนานเรื่องน้ำท่วมโลกของตัวเอง

414
00:27:21,723 --> 00:27:23,323
‎(พระเจ้าผู้สร้าง)

415
00:27:23,403 --> 00:27:24,883
‎(ซุนดาแลนด์)

416
00:27:24,963 --> 00:27:28,723
‎ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว โลกเก่าแก่และสกปรก

417
00:27:29,683 --> 00:27:32,963
‎เดบาตา พระเจ้าผู้สร้าง ส่งน้ำท่วมครั้งใหญ่มา

418
00:27:33,043 --> 00:27:35,283
‎เพื่อทำความสะอาดโลกและสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

419
00:27:36,843 --> 00:27:40,203
‎มนุษย์คู่สุดท้ายหนีสู่ภูเขาสูงสุด

420
00:27:40,963 --> 00:27:43,603
‎แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะจมน้ำ

421
00:27:43,683 --> 00:27:46,043
‎พระเจ้าเสียดายที่จะจบมนุษยชาติ

422
00:27:47,283 --> 00:27:49,243
‎ท่านร่ายมนตร์ให้เกิดพื้นดิน

423
00:27:49,843 --> 00:27:53,163
‎บนน้ำที่ท่วมอยู่แล้วเกิดเป็นหมู่เกาะของอินโดนีเซีย

424
00:27:54,043 --> 00:27:55,803
‎คนทั้งคู่จึงรอดมาได้

425
00:27:57,283 --> 00:28:01,283
‎ทั้งคู่มีลูกด้วยกันเพื่อเพิ่มประชากรโลก

426
00:28:01,363 --> 00:28:03,803
‎กลายเป็นบรรพบุรุษของชาวบาตัก

427
00:28:06,683 --> 00:28:11,123
‎มันเป็นเรื่องราวของหายนะโบราณ
‎ที่พบเจอได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก

428
00:28:11,203 --> 00:28:16,403
‎ในประเพณีจากทั่วโลก
‎ส่งทอดกันมาหลายพันปี

429
00:28:17,043 --> 00:28:19,683
‎แน่นอนว่ายังมีเรื่องของโนอาห์ในไบเบิลอีกด้วย

430
00:28:20,483 --> 00:28:24,203
‎แต่ตำนานอินเดียยังกล่าวถึง
‎มานู ชาวประมงคนหนึ่ง

431
00:28:24,283 --> 00:28:27,603
‎ผู้รอดชีวิตจากน้ำท่วมครั้งใหญ่
‎หลังได้รับคำเตือนจากพระเจ้า

432
00:28:28,403 --> 00:28:34,803
‎ตั้งแต่ชนเผ่าสุเมเรียนถึงชาวเบบีโลเนีย
‎ชาวกรีกโบราณถึงชาวจีน

433
00:28:35,483 --> 00:28:38,123
‎ทุกคนล้วนมีตำนานเล่าขานคล้ายๆ กัน

434
00:28:38,723 --> 00:28:41,203
‎เรื่องที่ว่าทั้งหมดนี่เป็นเพียงเหตุบังเอิญ

435
00:28:41,283 --> 00:28:44,923
‎ที่ถูกสร้างขึ้นโดยแต่ละวัฒนธรรมกันเอง
‎ไม่สมเหตุสมผลเลย

436
00:28:47,643 --> 00:28:51,363
‎เรื่องทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงตำนานเล่าขาน

437
00:28:51,443 --> 00:28:53,763
‎ที่ผู้คนส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

438
00:28:53,843 --> 00:28:55,403
‎แล้วคงอยู่จนถึงตอนนี้

439
00:28:55,483 --> 00:28:57,323
‎ใช่ เหตุการณ์หายนะรุนแรงของโลกอย่างแท้จริง

440
00:28:57,403 --> 00:28:59,963
‎- เกี่ยวข้องกับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว…
‎- ใช่

441
00:29:00,043 --> 00:29:04,003
‎เกิดขึ้นจริง แล้วจู่ๆ ประเพณีน้ำท่วมโลกทั่วโลก

442
00:29:04,083 --> 00:29:07,083
‎ก็ไม่ใช่แค่ตำนาน แต่เริ่มกลายเป็นความทรงจำ

443
00:29:07,163 --> 00:29:08,683
‎- ใช่
‎- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

444
00:29:11,683 --> 00:29:14,683
‎ผมหลงใหล
‎ในประวัติศาสตร์โบราณของอินโดนีเซีย

445
00:29:15,603 --> 00:29:19,003
‎และความลับที่เริ่มจะเผยให้เราเห็นที่กูนุงปาดัง

446
00:29:19,923 --> 00:29:21,923
‎แต่วิธีการทำงานของโบราณคดี

447
00:29:22,003 --> 00:29:25,643
‎ยังคงมีการต่อต้านหลักฐานใหม่ต่อไป

448
00:29:25,723 --> 00:29:27,123
‎และนั่นคือปัญหา

449
00:29:27,203 --> 00:29:29,403
‎เพราะวิทยาศาสตร์ควรเปิดใจรับหลักฐานใหม่

450
00:29:29,483 --> 00:29:31,523
‎และมันควรพร้อมเปลี่ยนใจ

451
00:29:31,603 --> 00:29:34,643
‎เมื่อหลักฐานใหม่แสดงให้เห็นว่าต้องเปลี่ยนใจ

452
00:29:35,603 --> 00:29:38,763
‎คุณเห็นปฏิกิริยาแบบไหนจากนักโบราณคดี

453
00:29:38,843 --> 00:29:41,483
‎- พวกเขายังคงไม่ยอมรับมัน
‎- ใช่

454
00:29:41,563 --> 00:29:43,803
‎ผมเสียใจเพราะนักโบราณคดี

455
00:29:43,883 --> 00:29:47,083
‎หรือนักวิจัยคนอื่นหยุดการวิจัยไปซะเฉยๆ

456
00:29:47,643 --> 00:29:51,283
‎มันน่าเศร้ามาก
‎เพราะอย่างน้อยก็มีความลึกลับน่าพิศวงที่นี่

457
00:29:51,363 --> 00:29:53,643
‎ซึ่งโบราณคดีควรให้ความสนใจ

458
00:29:53,723 --> 00:29:56,843
‎ถ้าเราพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน

459
00:29:56,923 --> 00:30:01,923
‎และยอมรับว่ามีวัฒนธรรมล้ำหน้าของมนุษย์
‎11,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช

460
00:30:02,003 --> 00:30:03,243
‎มันจะเป็นก้าวสำคัญทีเดียว

461
00:30:06,283 --> 00:30:07,403
‎ผมแย้งมาตลอดว่า

462
00:30:07,483 --> 00:30:11,243
‎มีหายนะของโลกครั้งยิ่งใหญ่เมื่อ 12,500 ปีก่อน

463
00:30:12,843 --> 00:30:14,763
‎ที่ลบร่องรอยทุกอย่างเกือบหมด

464
00:30:15,723 --> 00:30:19,203
‎เราเหลือเพียงความทรงจำหลอกหลอนเหล่านี้

465
00:30:23,243 --> 00:30:25,723
‎ซึ่งเราพยายามมองข้ามแล้วพูดว่า
‎"ไม่ พวกมันไม่ใช่ความทรงจำ

466
00:30:26,483 --> 00:30:29,123
‎มันก็แค่ตำนานปรัมปรา เรื่องเล่าหรือประเพณี"

467
00:30:30,003 --> 00:30:31,243
‎ผมว่ามันคือความทรงจำ

468
00:30:31,323 --> 00:30:33,763
‎ผมว่ามันคือความทรงจำที่แท้จริงของสิ่งเลวร้าย

469
00:30:33,843 --> 00:30:36,643
‎ที่เกิดขึ้นกับบรรพบุรุษของเราตอนสิ้นยุคน้ำแข็ง

470
00:30:37,243 --> 00:30:41,563
‎ถูกเก็บไว้ในตำนาน ในศิลปะและในก้อนหิน

471
00:30:42,403 --> 00:30:44,643
‎พวกมันไม่ใช่แค่เรื่องเล่าของน้ำท่วมครั้งใหญ่

472
00:30:45,523 --> 00:30:48,843
‎มันยังอ้างอิงถึงผู้รอดชีวิตจากหายนะนั้น

473
00:30:48,923 --> 00:30:53,043
‎นักเดินทางผู้ชาญฉลาด
‎ที่สานต่อเมล็ดพันธุ์ของการเกิดใหม่ของมนุษย์

474
00:30:54,723 --> 00:30:57,083
‎มันเป็นประเพณีที่แข็งแกร่ง

475
00:30:57,163 --> 00:30:58,723
‎ในวัฒนธรรมโบราณเดียวกัน

476
00:30:59,483 --> 00:31:02,923
‎ที่ก่อให้เกิดพีระมิดน้ำมือมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

477
00:31:04,243 --> 00:31:05,643
‎ที่ซึ่งผมจะมุ่งหน้าต่อไป

478
00:31:07,003 --> 00:31:08,603
‎และมันไม่ใช่อียิปต์

479
00:31:33,643 --> 00:31:38,643
‎คำบรรยายโดย พรทินา ตั้งสัจจะวิฑูรย์