1 00:00:06,083 --> 00:00:08,963 ‎(ซีรีส์จาก NETFLIX) 2 00:00:14,923 --> 00:00:17,683 ‎เราเป็นเผ่าพันธุ์ที่ขี้ลืมหรือเปล่า 3 00:00:19,003 --> 00:00:22,523 ‎เราลืมช่วงที่สำคัญ ‎ในเรื่องราวของเราเองหรือเปล่า 4 00:00:24,563 --> 00:00:25,643 ‎ผมแกรห์ม แฮนค็อก 5 00:00:25,723 --> 00:00:29,403 ‎และนักโบราณคดีมากมาย ‎เกลียดผมที่พยายามหาคำตอบ 6 00:00:31,323 --> 00:00:34,683 ‎ความเชื่อเรื่องอารยธรรมล้ำหน้า ‎ที่หายไปในยุคน้ำแข็ง 7 00:00:34,763 --> 00:00:38,683 ‎เป็นภัยคุกคามต่อโบราณคดีทั่วไป 8 00:00:38,763 --> 00:00:42,883 ‎เพราะมันทำให้หลักการพวกนั้นอ่อนลง 9 00:00:43,563 --> 00:00:45,603 ‎มันลบล้างรากฐานทั้งหมด 10 00:00:45,683 --> 00:00:47,163 ‎ผมไม่สนเรื่องนั้นหรอก 11 00:00:49,043 --> 00:00:52,443 ‎มีคนที่เข้ามาเกี่ยว ‎และเพราะอิทธิพลของพวกเขา… 12 00:00:52,523 --> 00:00:53,363 ‎(โจ โรแกน ‎ผู้จัดทำพอดแคสต์) 13 00:00:53,443 --> 00:00:55,803 ‎มันเปลี่ยนวิธีที่คนมองสิ่งต่างๆ 14 00:00:55,883 --> 00:00:58,603 ‎แกรห์ม แฮนค็อกเป็นคนที่ 15 00:00:58,683 --> 00:01:01,523 ‎แม้ว่าจะถูกต่อว่า… 16 00:01:01,603 --> 00:01:02,483 ‎(ทฤษฎีน่าขัน) 17 00:01:02,563 --> 00:01:04,603 ‎และทุกคนดูถูกงานของเขา… 18 00:01:04,683 --> 00:01:05,923 ‎(ขยะ) 19 00:01:06,003 --> 00:01:07,683 ‎เขาก็ยังทำต่อไปเรื่อยๆ 20 00:01:08,643 --> 00:01:11,323 ‎สิ่งที่ผมสนใจคือการเรียนรู้บทเรียนจากอดีต 21 00:01:12,003 --> 00:01:16,323 ‎เพื่อปัดเป่าความไม่ชัดเจน ‎ที่ปกคลุมยุคก่อนประวัติศาสตร์ออกไป 22 00:01:16,403 --> 00:01:18,643 ‎และมันไม่ชัดเจนเพราะไม่มีเอกสารยืนยัน 23 00:01:18,723 --> 00:01:22,363 ‎เราต้องสร้างภาพในอดีตจากหลักฐานทีละส่วน 24 00:01:26,803 --> 00:01:30,843 ‎เรื่องเล่าขาน ตำนาน นิทานปรัมปรา 25 00:01:32,283 --> 00:01:35,123 ‎สำหรับผม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหลักฐานสำคัญ 26 00:01:37,003 --> 00:01:41,483 ‎และหนึ่งในตำนานที่ลึกลับและไขปมได้ที่สุด ‎ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ 27 00:01:41,563 --> 00:01:45,363 ‎ตกถึงมือเราผ่านวัฒนธรรมโบราณของเม็กซิโก 28 00:01:56,883 --> 00:02:02,083 ‎(ผู้รอดชีวิตท่ามกลางภัยพิบัติ) 29 00:02:06,323 --> 00:02:08,523 ‎ในการค้นหาอารยธรรมที่หายไป 30 00:02:09,683 --> 00:02:14,403 ‎ผมได้มาที่ดินแดนแห่งหุบเขาอุดมสมบูรณ์ ‎และภูเขาไฟอันร้อนระอุ 31 00:02:16,003 --> 00:02:17,523 ‎(มหาสมุทรแปซิฟิก เม็กซิโก อ่าวเม็กซิโก) 32 00:02:17,603 --> 00:02:19,563 ‎นี่คือแคว้นปวยบลา ‎ทางตะวันออกของเม็กซิโกซิตี 33 00:02:19,643 --> 00:02:20,563 ‎(ปวยบลา) 34 00:02:20,643 --> 00:02:21,483 ‎(เม็กซิโกซิตี) 35 00:02:21,563 --> 00:02:26,363 ‎ที่ตั้งของโชลูลา เมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศ ‎และยังเป็นที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง 36 00:02:26,443 --> 00:02:28,243 ‎(โชลูลา) 37 00:02:30,643 --> 00:02:34,603 ‎ปัจจุบันเมืองทันสมัยมีประชากรกว่าแสนคน 38 00:02:35,883 --> 00:02:38,923 ‎มันมีความลับโบราณอยู่ใจกลางเมือง 39 00:02:42,963 --> 00:02:45,323 ‎ประวัติศาสตร์ถูกเขียนโดยผู้ชนะ 40 00:02:46,363 --> 00:02:48,683 ‎มันเป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะในเม็กซิโก 41 00:02:49,723 --> 00:02:53,883 ‎เมื่อเหล่านักสำรวจชาวสเปน ‎มาถึงโชลูลาในปี 1519 42 00:02:53,963 --> 00:02:56,283 ‎พวกเขาฆ่าคนพื้นถิ่นที่นี่ 43 00:02:58,083 --> 00:03:00,603 ‎แล้วทำลายไม่เพียงวัฒนธรรมของพวกเขา 44 00:03:00,683 --> 00:03:02,763 ‎แต่ร่องรอยเกือบทั้งหมด 45 00:03:02,843 --> 00:03:05,923 ‎ของวัฒนธรรมโบราณกว่าที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นด้วย 46 00:03:07,803 --> 00:03:09,763 ‎แต่ผู้บุกรุกไม่สามารถลบทุกอย่างไปได้ 47 00:03:11,203 --> 00:03:15,563 ‎ตอนแรกเหล่านักสำรวจคิดว่า ‎เนินเขานี้เป็นแค่เนินเขาแห่งหนึ่ง 48 00:03:15,643 --> 00:03:17,683 ‎ก็เลยสร้างโบสถ์ไว้บนนั้น 49 00:03:18,603 --> 00:03:22,843 ‎แต่เนินเขาแห่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดตามธรรมชาติ ‎อย่างที่มักเข้าใจผิดกัน 50 00:03:23,643 --> 00:03:29,203 ‎ที่จริงมันเป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุด ‎ที่เคยสร้างมาในโลก 51 00:03:31,443 --> 00:03:34,083 ‎แต่คุณคงไม่เคยได้ยินเรื่องมัน 52 00:03:35,643 --> 00:03:37,923 ‎ที่นี่คือมหาพีระมิดแห่งโชลูลา 53 00:03:38,003 --> 00:03:40,763 ‎(มหาพีระมิดแห่งโชลูลา) 54 00:03:41,563 --> 00:03:44,123 ‎หลังหลายศตวรรษที่ถูกละเลยและปล้นสะดม 55 00:03:44,203 --> 00:03:45,803 ‎เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจ 56 00:03:45,883 --> 00:03:49,123 ‎ความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่มันเคยเป็น 57 00:03:49,843 --> 00:03:53,403 ‎แต่เราพอรู้ว่ามันน่าจะมีหน้าตายังไงตอนรุ่งเรือง 58 00:03:57,683 --> 00:04:00,683 ‎มีการประเมินว่ามหาพีระมิดแห่งโชลูลา 59 00:04:00,763 --> 00:04:05,643 ‎สูงอย่างน้อย 65 เมตร 60 00:04:06,763 --> 00:04:09,483 ‎หลักฐานบ่งชี้ว่ามันถูกสร้างขึ้น 61 00:04:09,563 --> 00:04:13,003 ‎เพื่อถวายแด่เทพเม็กซิโกโบราณแห่งฝนและน้ำท่วม 62 00:04:13,083 --> 00:04:15,603 ‎ผู้ซึ่งชาวแอซเท็กรู้จักกันในนามทลาล็อก 63 00:04:17,283 --> 00:04:20,283 ‎มันถูกสร้างขึ้นด้วยโคลนและก้อนอิฐดินดิบเป็นหลัก 64 00:04:20,363 --> 00:04:23,603 ‎มันไม่สูงเท่ามหาพีระมิดแห่งกีซาของอียิปต์ 65 00:04:23,683 --> 00:04:27,683 ‎แต่มันกว้างกว่า ครอบคลุมพื้นที่เกือบสามเท่า 66 00:04:27,763 --> 00:04:31,123 ‎วัดที่ฐานได้ 400 คูณ 400 เมตร 67 00:04:31,843 --> 00:04:34,123 ‎เกือบเท่าสนามฟุตบอล 30 สนาม 68 00:04:35,323 --> 00:04:37,363 ‎ทำให้ที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุด 69 00:04:37,443 --> 00:04:41,923 ‎ที่เคยสร้างโดยแหล่งอารยธรรมใดๆ ก็ตาม 70 00:04:48,083 --> 00:04:50,523 ‎นักโบราณคดีตั้งสมมุติฐานทันทีว่า 71 00:04:50,603 --> 00:04:54,723 ‎การสร้างพีระมิดเสร็จสิ้น ‎ประมาณ 800 ปีก่อน 72 00:04:54,803 --> 00:04:56,723 ‎ค.ศ. 1200 หรือประมาณนั้น 73 00:04:58,043 --> 00:05:01,883 ‎แต่พอพวกเขาเริ่มเจาะอุโมงค์ ‎ผ่านกลางโครงสร้างนี้ 74 00:05:01,963 --> 00:05:05,443 ‎พวกเขาตกใจกับสิ่งที่พบเจอข้างใน 75 00:05:10,563 --> 00:05:12,443 ‎มันเป็นความรู้สึกเหมือนฝัน 76 00:05:12,523 --> 00:05:14,923 ‎ที่ได้เดินลงไปในพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก 77 00:05:16,723 --> 00:05:18,923 ‎ภายในมีภาพวาดสวยงาม 78 00:05:19,763 --> 00:05:23,483 ‎แสดงให้เห็นฉากและสัตว์ในนิทาน 79 00:05:25,723 --> 00:05:29,323 ‎และการก่อสร้างหลายชั้นที่น่าสนใจ 80 00:05:32,523 --> 00:05:36,003 ‎พวกมันเป็นเบาะแสของความลึกลับ ‎ของสถานที่นี้หรือเปล่า 81 00:05:39,763 --> 00:05:42,043 ‎มันจะเป็นส่วนหนึ่งของตำนานของโลก 82 00:05:42,123 --> 00:05:46,363 ‎ที่หลงเหลืออยู่จากอารยธรรมล้ำหน้าโบราณ ‎ของยุคก่อนประวัติศาสตร์หรือเปล่า 83 00:05:51,723 --> 00:05:55,763 ‎ผมได้พบกับหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลก ‎ในเรื่องมหาพีระมิดของโชลูลา 84 00:05:56,683 --> 00:06:01,043 ‎เจฟฟ์ แม็คคาฟเฟอร์ตี นักมานุษยวิทยา ‎และนักโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัยคาลการี 85 00:06:03,043 --> 00:06:06,603 ‎เราอยู่ในใจกลางอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุด 86 00:06:06,683 --> 00:06:08,443 ‎ที่เคยสร้างมาในโลกโบราณ 87 00:06:08,523 --> 00:06:09,643 ‎(ดร.เจฟฟรีย์ แม็คคาฟเฟอร์ตี ‎มหาวิทยาลัยคาลการี) 88 00:06:09,723 --> 00:06:12,803 ‎เรารู้สึกเหมือนกับเวลาเราเข้าไปในโบสถ์ 89 00:06:12,883 --> 00:06:17,323 ‎ความรู้สึกของรังสีจากพลังที่แทบจะสัมผัสได้ 90 00:06:19,043 --> 00:06:22,523 ‎อุโมงค์เหล่านี้ถูกขุดโดยนักโบราณคดีชาวเม็กซิโก 91 00:06:23,163 --> 00:06:25,123 ‎มีอุโมงค์ยาวรวมแปดกิโลเมตร 92 00:06:25,203 --> 00:06:27,763 ‎- เหลือเชื่อเลย แปดกิโลเมตรเหรอ ‎- ใช่ 93 00:06:31,323 --> 00:06:32,843 ‎ด้วยอุโมงค์เหล่านี้ 94 00:06:32,923 --> 00:06:35,603 ‎นักโบราณคดีทำการค้นพบครั้งสำคัญ 95 00:06:39,523 --> 00:06:42,163 ‎พีระมิดแห่งโชชูลาสร้างขึ้นท้ายสุด 96 00:06:42,243 --> 00:06:46,803 ‎ในจำนวนพีระมิดโบราณทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ใต้ดิน 97 00:06:51,963 --> 00:06:54,763 ‎ด้านในมีพีระมิดที่เก่าแก่ขึ้นไปอีก 98 00:06:54,843 --> 00:06:57,363 ‎ย้อนกลับไปถึงค.ศ. 800 99 00:06:59,843 --> 00:07:02,763 ‎และใต้นั้นก็มีอีกพีระมิด 100 00:07:03,643 --> 00:07:07,083 ‎ย้อนกลับไปอย่างน้อย 200 ถึง 500 ปีก่อนหน้า 101 00:07:09,803 --> 00:07:13,203 ‎เหมือนกับตุ๊กตาแม่ลูกดกของรัสเซีย 102 00:07:13,283 --> 00:07:17,243 ‎เราเข้าถึงสิ่งที่เชื่อว่า ‎เป็นพีระมิดแรกและเก่าแก่ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นที่นี่ 103 00:07:18,163 --> 00:07:24,883 ‎มีขนาดน่าทึ่งที่ 120 ตารางเมตร ‎และสูง 17 เมตร 104 00:07:31,363 --> 00:07:34,163 ‎การก่อสร้างเริ่มต้นที่นี่ครั้งแรกเมื่อไหร่ 105 00:07:34,803 --> 00:07:38,523 ‎หลักฐานของการก่อสร้างแรกในโซนพิธีการ 106 00:07:38,603 --> 00:07:40,483 ‎ย้อนกลับไปราวๆ 500 ปีก่อนคริสตกาล 107 00:07:43,443 --> 00:07:45,083 ‎มันเป็นพีระมิดขนาดพอเหมาะ 108 00:07:45,603 --> 00:07:49,083 ‎เมื่อเวลาผ่านไปก็ขยายใหญ่ขึ้น 109 00:07:49,163 --> 00:07:51,443 ‎เป็นโครงสร้างใหญ่กว่า ‎และครอบบนอีกพีระมิดหนึ่ง 110 00:07:53,123 --> 00:07:58,563 ‎ดังนั้นโครงการก่อสร้างพีระมิดนี้ ‎น่าจะใช้เวลาหลายชั่วอายุคน 111 00:07:58,643 --> 00:08:03,523 ‎กว่า 1,700 ปีหรือนานกว่านั้น 112 00:08:05,163 --> 00:08:07,683 ‎นี่เป็นความจริงที่นักโบราณคดียอมรับแล้ว 113 00:08:10,243 --> 00:08:11,523 ‎แต่นักวิชาการสมัยใหม่ 114 00:08:11,603 --> 00:08:15,683 ‎แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมต้นแบบ 115 00:08:16,363 --> 00:08:18,803 ‎หรือเหตุผลที่พวกเขาเลือกสร้างพีระมิดที่นี่ 116 00:08:21,483 --> 00:08:23,883 ‎ความลี้ลับที่ผมสนใจที่สุดนั่นเอง 117 00:08:25,283 --> 00:08:27,523 ‎คุณรู้สึกว่ามีอะไรหายไป 118 00:08:27,603 --> 00:08:31,963 ‎จากประวัติศาสตร์ ‎และโบราณคดีของเม็กซิโกโบราณไหม 119 00:08:32,043 --> 00:08:34,323 ‎ไม่ได้อยากทำเป็นเรื่องใหญ่ 120 00:08:34,403 --> 00:08:36,523 ‎แต่ผมคิดว่าการเข้าใจโชลูลาให้ดีขึ้น 121 00:08:36,603 --> 00:08:40,283 ‎จะเปลี่ยนความเข้าใจ ‎ในประวัติศาสตร์เมโสอเมริกา 122 00:08:41,923 --> 00:08:43,123 ‎มันเป็นช่วงที่ขาดข้อมูล 123 00:08:43,202 --> 00:08:45,243 ‎มันเป็นช่วงที่ขาดข้อมูลในประวัติศาสตร์เม็กซิโก 124 00:08:47,683 --> 00:08:51,643 ‎คุณคิดว่ามีบางอย่างที่นี่ ‎ก่อนพีระมิดแรกนั่นถูกสร้างขึ้นเหรอ 125 00:08:51,723 --> 00:08:54,643 ‎พีระมิดถูกสร้างครอบน้ำพุสำคัญ 126 00:08:54,723 --> 00:08:55,563 ‎ครับ 127 00:08:55,643 --> 00:08:58,683 ‎น้ำพุนั้นเป็นตัวแทนทางผ่านไปยังอีกโลกนึง 128 00:08:58,763 --> 00:09:01,923 ‎ชัดเจนว่ามันเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ 129 00:09:02,003 --> 00:09:04,203 ‎รวมทั้งเพื่อพิธีกรรมด้วย 130 00:09:05,203 --> 00:09:06,963 ‎ความจริงที่ว่าพีระมิดเป็นโครงสร้าง 131 00:09:07,043 --> 00:09:09,843 ‎ที่ถูกเลือกสร้างบนพื้นที่นั้นไม่ใช่เหตุบังเอิญ 132 00:09:11,283 --> 00:09:14,163 ‎ในทางกลับกัน ผมเชื่อว่ามันเป็นเบาะแสสำคัญ 133 00:09:14,243 --> 00:09:18,283 ‎ในการเข้าใจเหตุผลของผู้สร้างดั้งเดิม 134 00:09:18,363 --> 00:09:21,243 ‎เพราะนั่นจะตอกย้ำสิ่งที่เราพบทั่วโลก 135 00:09:21,323 --> 00:09:22,723 ‎(กูนุงปาดัง อินโดนีเซีย) 136 00:09:22,803 --> 00:09:24,403 ‎เราได้ค้นพบหลักฐาน 137 00:09:24,483 --> 00:09:29,003 ‎ของพีระมิดเป็นชั้นคล้ายกัน ‎ในอินโดนีเซียที่กูนุงปาดัง 138 00:09:29,083 --> 00:09:31,523 ‎ที่มีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงกลางเช่นกัน 139 00:09:33,723 --> 00:09:38,323 ‎มันเป็นรูปแบบที่พบได้ ‎ไม่เพียงในเม็กซิโกหรืออินโดนีเซีย 140 00:09:39,123 --> 00:09:41,643 ‎นั่นเป็นกรณีเดียวกันกับห้องใต้ดิน 141 00:09:41,723 --> 00:09:43,283 ‎ใต้มหาพีระมิดแห่งกีซา 142 00:09:43,363 --> 00:09:44,203 ‎(มหาพีระมิดแห่งกีซา ‎อียิปต์) 143 00:09:44,283 --> 00:09:48,443 ‎ในความเห็นของผม ที่นั่นเป็น ‎สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งแรกในที่ราบสูงกีซา 144 00:09:48,523 --> 00:09:51,563 ‎และจากนั้นพีระมิดก็ถูกสร้างครอบมัน ‎เพื่อเป็นการให้เกียรติ 145 00:09:52,403 --> 00:09:56,123 ‎พีระมิดแห่งดวงอาทิตย์ในเตโอติฮัวกัน ‎ตั้งอยู่บนถ้ำธรรมชาติ 146 00:09:56,203 --> 00:09:57,203 ‎(เตโอติฮัวกัน เม็กซิโก) 147 00:09:57,283 --> 00:09:58,443 ‎พวกเขาปรับมันนิดหน่อย 148 00:09:58,523 --> 00:10:00,723 ‎แล้วก็สร้างพีระมิดครอบมันไว้ 149 00:10:00,803 --> 00:10:03,043 ‎แต่สิ่งแรกคือสถานที่นั่นเอง 150 00:10:03,123 --> 00:10:05,643 ‎สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วมีพีระมิดเป็นสัญลักษณ์ 151 00:10:07,163 --> 00:10:09,003 ‎เราเริ่มด้วยสถานที่หนึ่ง 152 00:10:09,083 --> 00:10:12,443 ‎ซึ่งด้วยเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ‎ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 153 00:10:12,523 --> 00:10:15,483 ‎ซึ่งมีพลังดึงดูดพิเศษซึ่งผู้คนรู้สึกได้ 154 00:10:15,563 --> 00:10:18,323 ‎ทำให้ที่นี่สำคัญและมีความหมาย 155 00:10:24,403 --> 00:10:27,883 ‎มหาพีระมิดแห่งโชลูลา ‎มีลักษณะสำคัญที่คล้ายกันอีกอย่าง 156 00:10:27,963 --> 00:10:30,043 ‎กับพีระมิดโบราณทั่วโลก 157 00:10:32,803 --> 00:10:34,603 ‎เบาะแสของห้องลับ 158 00:10:38,363 --> 00:10:41,123 ‎ไม่นานหลังสเปนยึดครองเม็กซิโก 159 00:10:41,203 --> 00:10:45,363 ‎ผู้เห็นเหตุการณ์ที่เชื่อถือได้ ‎บาทหลวงเบอร์นาร์ดิโน เดอ ซาฮากุน 160 00:10:45,443 --> 00:10:51,163 ‎รายงานว่าด้านในมหาพีระมิดแห่งโชลูลา ‎เต็มไปด้วยเหมืองและถ้ำ 161 00:10:54,123 --> 00:10:58,323 ‎ปัจจุบันนักสำรวจสมัยใหม่ยืนยันเรื่องนั้นแล้ว 162 00:10:59,603 --> 00:11:03,603 ‎หนึ่งในอดีตนักโบราณคดีพบห้องเปิดโล่ง 163 00:11:04,563 --> 00:11:05,643 ‎ที่ไหนสักแห่งในพีระมิด 164 00:11:06,243 --> 00:11:08,043 ‎และมีอุโมงค์นำทางเข้าไป 165 00:11:08,123 --> 00:11:09,243 ‎มันไม่เคยถูกเผยแพร่มาก่อน 166 00:11:09,323 --> 00:11:11,923 ‎ผมไม่รู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นยังไง 167 00:11:12,003 --> 00:11:15,043 ‎- นั่นเป็นเบาะแสที่น่าสนใจมาก ‎- คุณคิดอย่างนั้นเหรอ 168 00:11:15,123 --> 00:11:19,123 ‎ห้องนั้นเคยถูกขุดหรือยัง ‎เคยมีใครเข้าไปอีกไหม 169 00:11:19,923 --> 00:11:20,923 ‎เท่าที่รู้ ยัง 170 00:11:23,203 --> 00:11:25,963 ‎ทำไมห้องด้านในนี้ยังไม่มีใครเคยเข้าไปอีก 171 00:11:27,563 --> 00:11:28,883 ‎มีความลับอะไรเกี่ยวกับ 172 00:11:28,963 --> 00:11:31,923 ‎ความตั้งใจของคนสร้างดั้งเดิม ‎ซ่อนอยู่หรือเปล่า 173 00:11:33,763 --> 00:11:37,203 ‎ยังไงก็ตาม ความจริงที่ว่ามหาพีระมิดแห่งโชลูลา 174 00:11:37,283 --> 00:11:40,163 ‎มีห้องด้านในซ่อนอยู่ 175 00:11:40,243 --> 00:11:42,003 ‎เหมือนญาติของมันในกูนุงปาดังและกีซา… 176 00:11:42,083 --> 00:11:43,003 ‎(กูนุงปาดัง อินโดนีเซีย) 177 00:11:43,083 --> 00:11:44,843 ‎(มหาพีระมิดแห่งกีซา ‎อียิปต์) 178 00:11:44,923 --> 00:11:48,203 ‎เป็นลักษณะเด่นอีกอย่าง ‎ที่โครงสร้างเหล่านี้มีเหมือนกัน 179 00:11:49,763 --> 00:11:50,883 ‎ยังมีอีก 180 00:11:52,243 --> 00:11:54,643 ‎มันค่อนข้างชัดเจนว่าโครงสร้างนี้ 181 00:11:54,723 --> 00:11:57,043 ‎จงใจหันเข้าหาพระอาทิตย์ 182 00:11:57,123 --> 00:11:59,803 ‎- ในจุดสูงสุดของฤดูร้อน ‎- ถูกต้อง 183 00:12:00,403 --> 00:12:05,203 ‎พระอาทิตย์จะตั้งอยู่ ‎ระหว่างภูเขาไฟสองลูกทางตะวันตก 184 00:12:05,803 --> 00:12:08,843 ‎มันมีแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น 185 00:12:10,683 --> 00:12:17,403 ‎เรารู้ว่าชาวเมโสอเมริกาพื้นเมือง ‎เชื่อในการเคลื่อนที่ของดวงดาวมาก 186 00:12:18,523 --> 00:12:23,123 ‎เช่นเดียวกับชาวอียิปต์โบราณ ‎ผู้สร้างมหาพีระมิดแห่งกีซา 187 00:12:23,203 --> 00:12:26,723 ‎ให้ตรงกับทิศเหนือทางดาราศาสตร์ 188 00:12:29,123 --> 00:12:31,043 ‎ความจริงที่ว่าพีระมิดโบราณเหล่านี้ 189 00:12:31,123 --> 00:12:34,043 ‎ผู้สร้างของมันไม่มีการติดต่อกัน 190 00:12:34,123 --> 00:12:37,483 ‎แต่มีความคล้ายคลึงกันมากยังเป็นเรื่องลึกลับอยู่ 191 00:12:40,003 --> 00:12:42,003 ‎มันเป็นเหตุบังเอิญเหรอ 192 00:12:43,043 --> 00:12:44,563 ‎ผมว่าไม่ใช่ 193 00:12:45,163 --> 00:12:47,163 ‎ความเห็นทั่วไปที่โบราณคดีนำเสนอ… 194 00:12:47,243 --> 00:12:48,083 ‎(คาฮัวชิ เปรู) 195 00:12:48,163 --> 00:12:50,483 ‎คือพีระมิดถูกสร้างขึ้นในรูปแบบที่เป็น 196 00:12:50,563 --> 00:12:52,803 ‎เพราะมันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะสร้างตึกสูง 197 00:12:52,883 --> 00:12:53,723 ‎(ซิกกุรัตแห่งเมืองอูร์ อิรัก) 198 00:12:53,803 --> 00:12:54,803 ‎(เอลทาจิน เม็กซิโก) 199 00:12:54,883 --> 00:12:58,163 ‎ปัญหาคือโครงสร้างเหล่านี้โดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับ 200 00:12:58,243 --> 00:13:00,683 ‎ความเชื่อทางจิตวิญญาณที่เฉพาะเจาะจงมาก 201 00:13:02,043 --> 00:13:04,243 ‎เกิดอะไรขึ้นกับเราหลังความตาย 202 00:13:04,323 --> 00:13:07,123 ‎เรื่องนี้มักเกี่ยวข้องกับโครงสร้างพีระมิด 203 00:13:07,203 --> 00:13:09,643 ‎และมันเป็นเช่นนั้นไม่ว่าจะเจอมันในเม็กซิโก 204 00:13:09,723 --> 00:13:11,443 ‎หรือเจอมันในอียิปต์โบราณ 205 00:13:11,523 --> 00:13:14,883 ‎หรือเจอมันในกัมพูชา หรือเจอมันในอินเดีย 206 00:13:16,963 --> 00:13:20,683 ‎มันคือรายละเอียดที่แย้งกับ ‎ความเห็นทั่วไปที่ยอมรับได้ 207 00:13:21,323 --> 00:13:23,563 ‎ว่าอารยธรรมของมนุษย์หลายแห่งทั่วโลก… 208 00:13:23,643 --> 00:13:24,723 ‎(พีระมิดแห่งมีโร ซูดาน) 209 00:13:24,803 --> 00:13:26,203 ‎ต่างคนต่างสร้างพีระมิดกันเอง 210 00:13:26,283 --> 00:13:27,123 ‎(ชิเชน อิตซา เม็กซิโก) 211 00:13:27,203 --> 00:13:28,563 ‎(เอลทาจิน เม็กซิโก) 212 00:13:28,643 --> 00:13:30,683 ‎สำหรับผม สิ่งที่มันบ่งชี้คือ 213 00:13:30,763 --> 00:13:33,763 ‎มีอย่างอื่นเกิดขึ้นอย่างลับๆ 214 00:13:36,483 --> 00:13:40,363 ‎เราอาจจะได้เห็นการเปิดเผย ‎แผนการใหญ่บางอย่างใช่ไหม 215 00:13:42,443 --> 00:13:45,643 ‎ตำนานที่เหมือนกันจากอารยธรรมของโลกที่หายไป 216 00:13:45,723 --> 00:13:48,763 ‎ซึ่งเป็นรากเหง้าและจุดประกายแรงบันดาลใจ 217 00:13:48,843 --> 00:13:51,003 ‎ที่สร้างอารยธรรมมากมายในภายหลัง 218 00:13:55,843 --> 00:13:58,563 ‎มันคือความเป็นไปได้ที่ทำให้ผมตั้งคำถามว่า 219 00:13:58,643 --> 00:14:01,363 ‎โครงการสร้างพีระมิดในโชลูลา 220 00:14:01,963 --> 00:14:06,643 ‎อาจมีต้นกำเนิดที่เก่าแก่กว่า ‎ที่นักโบราณคดีส่วนใหญ่อยากเชื่อไหม 221 00:14:08,923 --> 00:14:10,683 ‎แล้วอายุของโครงสร้างล่ะ 222 00:14:10,763 --> 00:14:12,843 ‎มีการคำนวณจากคาร์บอน ‎จากช่วงที่สร้างแรกสุดไหม 223 00:14:12,923 --> 00:14:18,883 ‎ไม่มี เรามีเซรามิก ‎ที่คล้ายกับเซรามิกจากอ่าวเม็กซิโก 224 00:14:18,963 --> 00:14:21,323 ‎ย้อนกลับไปช่วง 1,000 ปีก่อนคริสตกาล 225 00:14:21,403 --> 00:14:24,003 ‎มันเพียงพอจะทำให้เรามั่นใจกับเรื่องทั้งหมดไหม 226 00:14:24,083 --> 00:14:26,403 ‎ไม่ ผมว่าไม่เลย 227 00:14:27,123 --> 00:14:29,563 ‎ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ 228 00:14:29,643 --> 00:14:31,683 ‎- ตลอดยุคก่อนประวัติศาสตร์ของเม็กซิโก ‎- ใช่ 229 00:14:35,563 --> 00:14:38,003 ‎ผมไม่โต้แย้งกับหลักฐานทางโบราณคดี 230 00:14:38,083 --> 00:14:40,043 ‎ที่ย้อนกลับไปยังการก่อสร้างอนุสรณ์สถานแรก 231 00:14:40,123 --> 00:14:42,523 ‎บนที่ตั้งของมหาพีระมิดแห่งโชลูลา 232 00:14:42,603 --> 00:14:46,923 ‎ประมาณ 2,300 ปีก่อน ‎แต่มีพีระมิดที่เก่าแก่กว่าในเม็กซิโก 233 00:14:47,003 --> 00:14:49,283 ‎(พีระมิดแห่งลาเวนตา) 234 00:14:49,363 --> 00:14:50,403 ‎(พีระมิดแห่งคุยคุลโค) 235 00:14:50,483 --> 00:14:54,363 ‎สิ่งที่ผมสนใจจริงๆ คือแนวคิดที่สนับสนุนมันทั้งหมด 236 00:14:56,363 --> 00:15:00,683 ‎ในปี 1519 เมื่อเหล่านักสำรวจชาวสเปนมาถึง 237 00:15:00,763 --> 00:15:04,163 ‎มหาพีระมิดของโชลูลาชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก 238 00:15:05,963 --> 00:15:09,363 ‎แต่พอพวกเขารู้ว่ามันเป็นมากกว่าแค่เนินเขา 239 00:15:09,443 --> 00:15:11,563 ‎แล้วถามว่าใครเป็นคนสร้างมัน 240 00:15:11,643 --> 00:15:14,963 ‎คนท้องถิ่นเล่าตำนานน่าสนใจให้พวกเขาฟัง 241 00:15:16,363 --> 00:15:17,803 ‎ตามเรื่องเล่า 242 00:15:17,883 --> 00:15:21,003 ‎มหาพีระมิดแห่งโชลูลา ‎เป็นผลงานของยักษ์ประเภทหนึ่ง 243 00:15:24,763 --> 00:15:28,363 ‎นานมาแล้ว มียักษ์ในเม็กซิโกโบราณ 244 00:15:29,203 --> 00:15:35,563 ‎จนกระทั่งทลาล็อก เทพแห่งฝนโกรธ ‎และส่งน้ำท่วมใหญ่มาทำลายพวกมัน 245 00:15:36,683 --> 00:15:39,043 ‎มีเพียงเจ็ดตนที่รอดจากหายนะนั้น 246 00:15:40,483 --> 00:15:46,363 ‎ด้วยเกรงว่าจะเกิดเหตุครั้งที่สอง ‎ยักษ์เชลฮัว รู้จักกันในฐานะสถาปนิก 247 00:15:46,443 --> 00:15:47,643 ‎เดินทางไปโชลูลา 248 00:15:47,723 --> 00:15:49,483 ‎และด้วยความช่วยเหลือจากยักษ์ตนอื่น 249 00:15:49,563 --> 00:15:52,563 ‎พวกเขาสร้างภูเขาปลอมขนาดใหญ่ด้วยก้อนอิฐ 250 00:15:54,123 --> 00:15:55,083 ‎พีระมิดนั่นเอง 251 00:15:56,003 --> 00:15:59,323 ‎แล้วอุทิศมันให้แก่ทลาล็อก เทพแห่งฝน 252 00:16:02,603 --> 00:16:05,523 ‎นักโบราณคดีอ้างถึงเรื่องนี้ว่า ‎เป็นแค่นิทานปรัมปรา 253 00:16:06,443 --> 00:16:09,323 ‎แต่ผมคิดว่าการเพิกเฉยกับมันโดยสิ้นเชิง 254 00:16:09,403 --> 00:16:11,723 ‎ทำให้เราอาจพลาดเบาะแสสำคัญ 255 00:16:11,803 --> 00:16:14,083 ‎สู่ต้นกำเนิดของสถานที่อันน่าทึ่งนี้ได้ 256 00:16:16,443 --> 00:16:18,203 ‎บางทีสถาปนิกคนนั้น 257 00:16:18,283 --> 00:16:20,803 ‎ที่ปรากฏตัวในโชลูลาหลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ 258 00:16:20,883 --> 00:16:22,603 ‎ไม่ใช่ยักษ์ตัวเป็นๆ 259 00:16:23,763 --> 00:16:25,803 ‎แต่เป็นหนึ่งในยักษ์ผู้รอบรู้ 260 00:16:25,883 --> 00:16:29,523 ‎ของอารยธรรมล้ำหน้าที่หายไปในประวัติศาสตร์ 261 00:16:34,163 --> 00:16:36,723 ‎เราไม่ควรคาดหวังว่าจะหาหลักฐานเจอได้ง่ายๆ 262 00:16:37,963 --> 00:16:42,483 ‎เพราะเช่นเดียวกับที่โชลูลา ‎อนุสรณ์สถานโบราณมักตั้งอยู่ 263 00:16:42,563 --> 00:16:45,883 ‎บนโครงสร้างที่เก่าแก่กว่า 264 00:16:45,963 --> 00:16:47,643 ‎แล้วบดบังต้นกำเนิดมันไว้ 265 00:16:50,483 --> 00:16:52,563 ‎ขับรถไปสองชั่วโมง ‎ทางตะวันตกเฉียงเหนือ 266 00:16:54,403 --> 00:16:57,443 ‎สถานที่ตระการตาอีกแห่งทำให้ผมได้เบาะแสต่อไป 267 00:17:04,603 --> 00:17:07,603 ‎บนยอดเขารูปร่างแปลกนี้คือ 268 00:17:07,683 --> 00:17:11,203 ‎พื้นที่แอซเท็กโบราณ ‎ที่รู้จักกันในนามเท็กซ์คอตซิงโก 269 00:17:11,283 --> 00:17:15,323 ‎(เท็กซ์คอตซิงโก) 270 00:17:19,963 --> 00:17:23,122 ‎ที่เท็กซ์คอตซิงโกนี้ เราพบกับพีระมิดอีกแล้ว 271 00:17:23,723 --> 00:17:26,603 ‎คราวนี้เป็นผลงานของโลกเอง 272 00:17:28,003 --> 00:17:29,923 ‎มันเข้าใจได้ง่ายว่าทำไมสถานที่นี้ 273 00:17:30,003 --> 00:17:33,203 ‎ถึงน่าดึงดูดสำหรับคนในสมัยโบราณ 274 00:17:35,203 --> 00:17:38,043 ‎ชัดเจนว่าพีระมิดเป็นสิ่งสำคัญในเม็กซิโกโบราณ 275 00:17:39,403 --> 00:17:41,563 ‎ที่นี่ในศตวรรษที่ 15 276 00:17:41,643 --> 00:17:46,123 ‎ชาวแอซเท็กสร้าง ‎ระเบียงสวนและสระน้ำอันน่าทึ่ง 277 00:17:47,483 --> 00:17:50,203 ‎หล่อเลี้ยงด้วยทางน้ำที่สร้างขึ้นอย่างชาญฉลาด 278 00:17:50,283 --> 00:17:54,523 ‎ที่ส่งน้ำลงไปจากอ่างเก็บบนยอดภูเขา 279 00:17:56,243 --> 00:18:00,683 ‎เหมือนสวนลอยในบาบิโลนในสไตล์เมโสอเมริกา 280 00:18:02,963 --> 00:18:06,003 ‎แต่ที่น่าสนใจจากการค้นคว้าของผม 281 00:18:06,083 --> 00:18:09,603 ‎ทั้งหมดถูกอุทิศให้เทพโบราณองค์เดียวกัน 282 00:18:09,683 --> 00:18:12,763 ‎ที่เกี่ยวข้องกับพีระมิดแรกสุดในโชลูลา… 283 00:18:14,523 --> 00:18:21,123 ‎ทลาล็อก เทพแห่งฝนและน้ำท่วม ‎ลัทธิของท่านเกิดขึ้นก่อนพวกแอซเท็กนานมาก 284 00:18:24,003 --> 00:18:25,963 ‎นักโบราณคดีเชื่อว่าพวกแอซเท็ก 285 00:18:26,043 --> 00:18:28,923 ‎เป็นพวกแรกที่สนใจเท็กซ์คอตซิงโก 286 00:18:29,803 --> 00:18:32,483 ‎แต่สถานที่น่าทึ่งนี้อาจเก่าแก่กว่านั้นหรือไม่ 287 00:18:36,803 --> 00:18:39,163 ‎เหล่านักสำรวจชาวสเปนละเลยสิ่งที่ว่า 288 00:18:39,243 --> 00:18:42,563 ‎เท็กซ์คอตซิงโกเป็นผลงานของพวกแอซเท็ก 289 00:18:44,283 --> 00:18:47,603 ‎และนั่นคือสิ่งที่นักโบราณคดีส่วนใหญ่ ‎จะบอกคุณเช่นกัน 290 00:18:48,963 --> 00:18:53,523 ‎แต่ถ้าพวกแอซเท็กแค่ซ่อมแซมและขยายพื้นที่ 291 00:18:53,603 --> 00:18:56,803 ‎ที่ถูกสร้างไว้แต่เดิม ‎โดยอารยธรรมที่เก่าแก่กว่ามากล่ะ 292 00:18:59,843 --> 00:19:05,403 ‎นักเขียนมาร์โก วิกาโตเชื่อว่า ‎หลักฐานบ่งชี้ว่านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น 293 00:19:06,803 --> 00:19:07,643 ‎(มาร์โก วิกาโต ‎นักเขียน "เดอะ เอ็มไพร์ส ออฟ แอตแลนทิส") 294 00:19:07,723 --> 00:19:10,323 ‎สถานที่นี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ ‎โดยใช้เวลายาวนานมาก 295 00:19:10,403 --> 00:19:13,363 ‎หินนี่เป็นหินอัคนีชนิดที่แข็งมาก 296 00:19:13,443 --> 00:19:15,483 ‎ถ้าคุณมองไปรอบๆ สถานที่นี้ 297 00:19:15,563 --> 00:19:18,963 ‎คุณจะเห็นว่า ‎พื้นผิวหินกร่อนจากสภาพอากาศไปมาก 298 00:19:19,603 --> 00:19:22,683 ‎บางส่วนของสถานที่นี้ถูกกัดเซาะอย่างชัดเจน 299 00:19:22,763 --> 00:19:24,683 ‎น่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายพันปี 300 00:19:24,763 --> 00:19:28,163 ‎เมื่อคิดว่านี่คือหินชนิดที่แข็งสุดๆ 301 00:19:30,403 --> 00:19:33,923 ‎ใช่ งั้นในความคิดคุณ พวกแอซเท็ก ‎เรารู้ว่าพวกเขามาทีหลัง 302 00:19:34,563 --> 00:19:39,403 ‎แต่พวกเขาเจอสถานที่นี้ ‎ตอนที่ถูกสร้างไปส่วนนึงแล้ว 303 00:19:39,483 --> 00:19:41,003 ‎ก็เลยเข้าครอบครอง 304 00:19:41,083 --> 00:19:42,843 ‎- แล้วพัฒนามันต่อไปอีก ‎- ใช่ 305 00:19:43,723 --> 00:19:45,443 ‎มันเป็นความคิดสุดโต่ง 306 00:19:47,003 --> 00:19:49,723 ‎วัฒนธรรมที่เก่าแก่มากสามารถตัด 307 00:19:49,803 --> 00:19:53,283 ‎ลักษณะเฉพาะบางอย่างด้านข้าง ‎ของเนินเขาออกได้เหรอ 308 00:19:55,603 --> 00:19:58,683 ‎อย่างกองหินขนาดใหญ่ ‎ที่กระจัดกระจายบนพื้นดินเหล่านี้ 309 00:20:01,883 --> 00:20:04,923 ‎และห้องนี้ที่ถูกตัดเข้าไปในหิน 310 00:20:07,643 --> 00:20:10,483 ‎นี่เป็นจุดที่เกิดก่อนแอซเท็กเกือบแน่นอน 311 00:20:10,563 --> 00:20:12,843 ‎มันถูกเข้าครอบครองและใช้ต่อ 312 00:20:14,723 --> 00:20:17,883 ‎มันเป็นข้อสรุปที่นักโบราณคดีจะต้องแย้ง 313 00:20:17,963 --> 00:20:20,283 ‎แต่ยังมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณา 314 00:20:22,363 --> 00:20:26,443 ‎ไม่ไกลจากที่นั่นในร่องน้ำที่แห้งเหือด ‎ที่ตีนภูเขาแห่งหนึ่ง 315 00:20:26,523 --> 00:20:29,963 ‎รูปปั้นขนาดใหญ่ของทลาล็อก เทพแห่งฝนถูกค้นพบ 316 00:20:31,763 --> 00:20:35,923 ‎หินก้อนเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาทั้งหมด 317 00:20:40,243 --> 00:20:44,083 ‎นักโบราณคดีระบุว่ามันถูกสร้างขึ้น ‎ประมาณปีค.ศ. 700 318 00:20:45,523 --> 00:20:48,603 ‎นานก่อนพวกแอซเท็ก ‎จะเข้ามาครอบครองพื้นที่เหล่านี้ 319 00:20:51,123 --> 00:20:53,963 ‎มันเป็นหลักฐานว่าทลาล็อก เทพแห่งฝน 320 00:20:54,043 --> 00:20:57,683 ‎ได้รับการบูชาในบริเวณนี้ ‎โดยวัฒนธรรมก่อนหน้ามาแล้ว 321 00:20:57,763 --> 00:21:00,603 ‎อาจใช้ชื่อต่างกันไปหลายชื่อ 322 00:21:00,683 --> 00:21:04,163 ‎เป็นเวลาเกือบพันปีหรืออาจนานกว่านั้น 323 00:21:08,963 --> 00:21:12,363 ‎ที่จริงทลาล็อกที่เป็นตัวละครในเรื่องเล่า 324 00:21:12,443 --> 00:21:13,803 ‎ย้อนกลับไปไกล 325 00:21:13,883 --> 00:21:16,803 ‎ถึงวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกัน ‎ในยุคก่อนประวัติศาสตร์เม็กซิโก 326 00:21:20,243 --> 00:21:21,523 ‎และไม่ใช่เพียงทลาล็อก 327 00:21:21,603 --> 00:21:23,243 ‎(ข้าจะหาหนทางหรือสร้างขึ้นเอง) 328 00:21:23,323 --> 00:21:26,883 ‎น้ำท่วมโลกที่เทพแห่งฝนส่งมาเป็นจุดเริ่มต้น 329 00:21:26,963 --> 00:21:31,043 ‎สำหรับการปรากฏตัวของตัวละครที่น่าสนใจที่สุด ‎ในเรื่องเล่าของเม็กซิโก… 330 00:21:33,003 --> 00:21:34,403 ‎เควตซาลโคลาเทิล 331 00:21:38,163 --> 00:21:39,883 ‎หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ 332 00:21:39,963 --> 00:21:43,443 ‎คนแปลกหน้าจากตะวันออก ‎ขึ้นท่าที่ชายฝั่งของเม็กซิโก 333 00:21:44,163 --> 00:21:49,163 ‎นั่งเรือมาโดยไม่มีไม้พาย ‎ว่ากันว่ามีงูลากมา 334 00:21:50,803 --> 00:21:53,123 ‎ท่านมีชื่อว่าเควตซาลโคลาเทิล 335 00:21:53,683 --> 00:21:55,603 ‎หมายความว่า "งูขนนก" 336 00:21:56,403 --> 00:22:01,003 ‎เขาและผู้ติดตามสอนคนท้องถิ่น ‎ให้ปลูกพืชผลและเลี้ยงสัตว์ 337 00:22:02,963 --> 00:22:04,403 ‎เขาออกกฎหมายให้พวกเขา 338 00:22:04,483 --> 00:22:08,123 ‎และสอนพวกเขาเรื่องสถาปัตยกรรม ‎ดาราศาสตร์และศิลปะ 339 00:22:08,763 --> 00:22:10,523 ‎คนท้องถิ่นบูชาเขาดั่งเทพเจ้า 340 00:22:13,083 --> 00:22:17,203 ‎แต่หลังจากถูกขับไล่ ‎โดยผู้นับถือเทพเม็กซิโกแห่งสงคราม 341 00:22:17,843 --> 00:22:23,443 ‎เควตซาลโคลาเทิลล่องเรือจากไปทางตะวันออก ‎สัญญาว่าวันหนึ่งจะกลับมา 342 00:22:29,923 --> 00:22:35,203 ‎ตำนานของเควตซาลโคลาเทิล ‎ถูกส่งต่อรุ่นต่อรุ่น จนถึงปัจจุบัน 343 00:22:38,083 --> 00:22:41,443 ‎เขาถูกบรรยายไว้ว่าเป็นคนที่หนวดครึ้มคนหนึ่ง 344 00:22:42,003 --> 00:22:46,043 ‎ฟังดูเหมือนเป็นชาวต่างชาติ ‎จากอีกฝั่งของมหาสมุทร 345 00:22:46,123 --> 00:22:49,363 ‎และเขานำของขวัญแห่งอารยธรรมมาด้วย 346 00:22:53,403 --> 00:22:57,643 ‎สิ่งที่ผมพบว่าน่าแปลกใจมากคือ ‎เราได้ยินเรื่องแบบนี้บ่อยขนาดไหน 347 00:22:58,483 --> 00:23:02,523 ‎จากวัฒนธรรมที่ไม่น่าจะมีความเชื่อมโยง ‎กับเม็กซิโกโบราณ 348 00:23:08,163 --> 00:23:10,883 ‎เนื้อเรื่องมักคล้ายกัน ต้องมีหายนะครั้งใหญ่ 349 00:23:12,403 --> 00:23:17,643 ‎โลกตกอยู่ในความมืด น้ำท่วม วุ่นวายทุกหนแห่ง 350 00:23:17,723 --> 00:23:19,163 ‎สังคมล่มสลาย 351 00:23:23,283 --> 00:23:27,723 ‎แต่แล้วในความมืดนั้น ‎ก็ปรากฏคนผู้หนึ่งที่มีความรู้ 352 00:23:27,803 --> 00:23:31,043 ‎ว่าอะไรจำเป็นในการสร้างอารยธรรม 353 00:23:31,923 --> 00:23:35,643 ‎และคนผู้นั้นสอนผู้รอดชีวิตจากหายนะ 354 00:23:35,723 --> 00:23:37,603 ‎ให้สร้างอารยธรรมขึ้นอีกครั้ง 355 00:23:39,963 --> 00:23:43,883 ‎ในตำนานกรีกโบราณ ‎เขาคือไททันโพรมีธีอุส 356 00:23:44,443 --> 00:23:48,763 ‎ผู้ซึ่งหลังน้ำท่วมใหญ่ ‎สอนมนุษย์เรื่องความลับของไฟ 357 00:23:51,283 --> 00:23:53,123 ‎บนเทือกเขาแอนดีสในอเมริกาใต้ 358 00:23:53,203 --> 00:23:58,163 ‎อารยธรรมก่อนพวกอินคา ‎บรรยายคนที่มีหนวดห่มผ้านามว่าวิราโคชา 359 00:23:59,163 --> 00:24:01,163 ‎ผู้ซึ่งปรากฏตัวขึ้นมาจากทะเลสาบอันยิ่งใหญ่… 360 00:24:01,243 --> 00:24:02,083 ‎(ซัคเซย์ฮัวมัว เปรู) 361 00:24:02,163 --> 00:24:05,403 ‎แล้วสอนคนท้องถิ่นว่า ‎จะสร้างสิ่งก่อสร้างน่าอัศจรรย์ได้ยังไง 362 00:24:05,483 --> 00:24:07,163 ‎ซึ่งยังอยู่จนถึงปัจจุบัน 363 00:24:08,563 --> 00:24:12,963 ‎แม้แต่ในแปซิฟิก ตำนานโพลีนีเซียพูดถึงเมาอิ 364 00:24:13,043 --> 00:24:16,763 ‎ผู้สร้างเกาะของพวกเขา ‎โดยการดึงมันขึ้นมาจากพื้นมหาสมุทร 365 00:24:17,763 --> 00:24:21,243 ‎แล้วสอนชาวเกาะให้ใช้เครื่องมือหิน 366 00:24:21,803 --> 00:24:23,323 ‎และทำอาหาร 367 00:24:27,003 --> 00:24:29,723 ‎นักโบราณคดีพูดว่าวีรบุรุษผู้เจริญเหล่านี้ 368 00:24:29,803 --> 00:24:33,923 ‎เป็นเพียงเรื่องเล่าโบราณที่ถูกสร้างขึ้น 369 00:24:34,643 --> 00:24:37,483 ‎แต่ผมมองว่าไม่ควรมองข้ามความคล้ายคลึงกัน 370 00:24:38,163 --> 00:24:42,683 ‎แล้วถ้าเรื่องเหล่านี้พูดถึง ‎ผู้รอดชีวิตของอารยธรรมล้ำหน้า 371 00:24:42,763 --> 00:24:45,563 ‎ที่หายไปในหายนะน้ำท่วมและไฟไหม้ครั้งใหญ่ 372 00:24:45,643 --> 00:24:48,043 ‎ที่เรารู้ว่าเกิดขึ้นใกล้หมดยุคน้ำแข็งสุดท้ายล่ะ 373 00:24:55,643 --> 00:24:57,323 ‎ตำนานของเม็กซิโก 374 00:24:57,403 --> 00:24:59,963 ‎และโดยเฉพาะเรื่องเล่าของเควตซาลโคลาเทิล 375 00:25:00,523 --> 00:25:03,723 ‎เกี่ยวข้องกับช่วงวันสิ้นโลก 376 00:25:05,363 --> 00:25:08,243 ‎และมาร์โกเชื่อว่าต้องมีบันทึกของมัน 377 00:25:08,323 --> 00:25:10,843 ‎ห่างออกไปทางใต้ของเม็กซิโกซิตี ‎ไม่กี่ชั่วโมงด้วยรถยนต์ 378 00:25:12,643 --> 00:25:14,923 ‎ท่ามกลางวิหารโบราณแห่งโซชีกัลโก 379 00:25:15,003 --> 00:25:18,723 ‎(โซชีกัลโก) 380 00:25:18,803 --> 00:25:22,763 ‎เช่นเดียวกับโชลูลา ‎เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นโดยวัฒนธรรมพื้นเมือง 381 00:25:22,843 --> 00:25:26,483 ‎ที่เราแทบไม่รู้จักในศตวรรษที่เจ็ด 382 00:25:28,203 --> 00:25:30,923 ‎ที่นี่เราจะพบร่องรอง ‎ของพีระมิดขนาดใหญ่สองแห่ง 383 00:25:32,283 --> 00:25:34,483 ‎แห่งหนึ่งเพื่ออุทิศให้เทพแห่งฝน 384 00:25:35,163 --> 00:25:41,363 ‎และอีกแห่งอุทิศให้เควตซาลโคลาเทิล ‎วีรบุรุษแห่งอารยธรรมของเม็กซิโก 385 00:25:44,443 --> 00:25:49,043 ‎ผมได้มาที่นี่เพื่อเรียนรู้ ‎เรื่องตัวละครในตำนานที่ว่านี้ 386 00:25:51,043 --> 00:25:55,243 ‎สำหรับนักโบราณคดี ‎ตำนานเป็นเรื่องเพ้อฝันและไม่ครบถ้วน 387 00:25:56,043 --> 00:25:59,523 ‎พวกเขาเพิกเฉย ‎ไม่พยายามปะติดปะต่อภาพในอดีต 388 00:26:00,883 --> 00:26:03,963 ‎แต่ที่โซชีกัลโกนี่ ‎นักวิจัยบางคนเห็นความพยายาม 389 00:26:04,043 --> 00:26:05,683 ‎ในการสร้างบันทึกถาวรบทหนึ่ง 390 00:26:05,763 --> 00:26:08,723 ‎ของหนึ่งในตำนานที่สำคัญที่สุดในเม็กซิโกโบราณ 391 00:26:09,683 --> 00:26:13,843 ‎บันทึกที่พวกเขาเชื่อว่า ‎มันเก็บรักษาช่วงก่อนยุคประวัติศาสตร์ที่ถูกลืมไว้ 392 00:26:16,883 --> 00:26:20,083 ‎สิ่งที่ล้อมทั้งสี่ด้านของวัดเควตซาลโคลาเทิลไว้ 393 00:26:20,163 --> 00:26:22,483 ‎คือภาพแกะสลักของเทพองค์นี้ 394 00:26:22,563 --> 00:26:25,323 ‎ในรูปแบบของงูขนนก 395 00:26:28,123 --> 00:26:32,403 ‎ชัดเจนว่าท่านเป็นคนสำคัญย้อนไปในค.ศ. 700 396 00:26:34,763 --> 00:26:39,043 ‎แต่มาร์โกเชื่อว่ารูปหินแกะสลักเหล่านี้ 397 00:26:39,123 --> 00:26:42,523 ‎อาจมีรายละเอียดที่หายไป ‎ของเรื่องราวดั้งเดิมของท่านก็ได้ 398 00:26:44,123 --> 00:26:45,443 ‎วิหารนี้พิเศษยังไง 399 00:26:45,523 --> 00:26:48,883 ‎สิ่งที่อยู่ที่ชั้นล่างสุดของพีระมิดคือ 400 00:26:48,963 --> 00:26:52,923 ‎ภาพแสดงถึงการปรากฏตัว ‎ของเควตซาลโคลาเทิล 401 00:26:53,003 --> 00:26:55,443 ‎ที่มีทั้งสามด้าน… 402 00:26:55,523 --> 00:26:57,083 ‎- ใช่ ‎- ของพีระมิด 403 00:26:57,163 --> 00:27:01,403 ‎จนกระทั่งถึงตรงนี้ที่เป็นภาพแกะสลักสำคัญภาพแรก 404 00:27:01,483 --> 00:27:04,723 ‎และสิ่งที่เราเห็นตรงนั้นคือวิหารที่ไฟลุก 405 00:27:04,803 --> 00:27:07,123 ‎เราจะเห็นม้วนควันและไฟพวกนี้ 406 00:27:07,203 --> 00:27:09,643 ‎- ราวกับว่ามันไฟไหม้อยู่ ‎- ใช่เลย 407 00:27:09,723 --> 00:27:12,083 ‎แล้วงูที่ขดอยู่รอบมันล่ะ 408 00:27:12,163 --> 00:27:14,363 ‎คุณตีความมันว่ายังไง 409 00:27:14,443 --> 00:27:16,683 ‎ตรงนี้คือหางของงู 410 00:27:16,763 --> 00:27:19,603 ‎- ใช่ ‎- มันล้อมวิหารที่ไฟไหม้นี้ไว้ 411 00:27:19,683 --> 00:27:22,203 ‎มันเหมือนคลื่นที่ตีเข้ามา… 412 00:27:22,283 --> 00:27:24,603 ‎- โอเค ‎- ตรงด้านข้างวิหาร 413 00:27:24,683 --> 00:27:28,563 ‎เราอาจมองว่าเป็นภาพของเกาะก็ได้ 414 00:27:29,203 --> 00:27:31,843 ‎เรามีวิหารซึ่งไฟไหม้ 415 00:27:31,923 --> 00:27:34,043 ‎และคลื่นที่ซัดเข้าหามัน ‎ในการตีความของคุณใช่ไหม 416 00:27:34,123 --> 00:27:35,443 ‎- ใช่เลย ‎- ใช่ 417 00:27:38,243 --> 00:27:40,683 ‎ตีความภาพนี้ให้หน่อย มาร์โก 418 00:27:40,763 --> 00:27:43,723 ‎เราเห็นคนทรงพลังที่นั่งอยู่อย่างชัดเจน 419 00:27:43,803 --> 00:27:46,523 ‎บนสิ่งที่ดูเหมือนแพงู 420 00:27:46,603 --> 00:27:51,123 ‎เหมือนกำลังมุ่งหน้าออกจากวิหารไฟไหม้นี้ 421 00:27:51,843 --> 00:27:54,963 ‎สิ่งที่เราเห็นตรงนี้คือภาพของหายนะ 422 00:27:55,043 --> 00:28:00,403 ‎ซึ่งเกิดขึ้น ณ ที่หนึ่ง ‎ซึ่งเควตซาลโคลาเทิลเป็นผู้รอดชีวิตในตอนนั้น 423 00:28:00,483 --> 00:28:05,483 ‎มีแนวคิดเรื่องเทพ ‎ที่มาจากดินแดนที่ถูกทำลาย 424 00:28:05,563 --> 00:28:09,763 ‎และสิ่งที่เราเห็นคือการปรากฏตัว ‎ของเทพเควตซาลโคลาเทิลในเม็กซิโก 425 00:28:09,843 --> 00:28:12,363 ‎ในฐานะผู้สร้างอารยธรรมในเมโสอเมริกา 426 00:28:13,363 --> 00:28:16,443 ‎มันเป็นการบันทึกเหตุการณ์ ‎ที่ย้อนกลับไปไกลมากในอดีต 427 00:28:22,403 --> 00:28:27,683 ‎มาร์โกตีความภาพแกะสลักที่วิหาร ‎ว่าเป็นภาพของวันสิ้นโลกโบราณ 428 00:28:27,763 --> 00:28:30,283 ‎ซึ่งขัดแย้งกับความเห็นทางโบราณคดีทั้งหมด 429 00:28:31,563 --> 00:28:34,643 ‎แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาคิดผิด 430 00:28:36,523 --> 00:28:40,243 ‎วิหารงูขนนกมีอายุราวๆ 1,300 ปี 431 00:28:40,323 --> 00:28:42,643 ‎และนักโบราณคดีคิดถูกที่บอกว่า 432 00:28:42,723 --> 00:28:45,723 ‎ไม่มีหายนะระดับโลกในช่วงเวลานั้น 433 00:28:45,803 --> 00:28:48,403 ‎ซึ่งอาจทำให้เกิดตำนานเควตซาลโคลาเทิล 434 00:28:48,963 --> 00:28:50,763 ‎มันผิดประเด็น 435 00:28:50,843 --> 00:28:54,003 ‎ประเพณีเก่าแก่กว่าวิหารมาก 436 00:28:54,083 --> 00:28:56,043 ‎เก่าแก่กว่ามากแค่ไหน ไม่มีใครรู้ 437 00:28:56,123 --> 00:29:00,243 ‎แต่มีช่วงหนึ่งในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ‎ที่ตรงกับเรื่องนี้เป๊ะ 438 00:29:02,163 --> 00:29:06,683 ‎นักธรณีวิทยายืนยันแล้วว่า ‎มีวันสิ้นโลกโบราณบางอย่าง 439 00:29:07,523 --> 00:29:10,123 ‎ช่วงเวลาแห่งหายนะและน้ำท่วมครั้งใหญ่ 440 00:29:10,203 --> 00:29:14,683 ‎ที่มีผลกระทบใหญ่หลวงที่นี่ ‎เช่นเดียวกับเกือบทุกที่ในโลก… 441 00:29:16,883 --> 00:29:22,803 ‎ในช่วงสิ้นสุดยุคน้ำแข็งสุดท้าย ‎ราวๆ 12,800 ปีก่อน 442 00:29:23,643 --> 00:29:28,523 ‎เรื่องราวการปรากฏตัวของเควตซาลโคลาเทิล ‎อาจย้อนกลับไปไกลขนาดนั้นได้ไหม 443 00:29:34,603 --> 00:29:38,483 ‎ผมไม่สงสัยในความเก่าแก่ของโครงสร้างเอง 444 00:29:38,563 --> 00:29:42,963 ‎ที่จริงสิ่งที่เราเห็นที่นี่คือ ‎การเล่าเรื่องราวที่เก่าแก่กว่ามากๆ 445 00:29:43,763 --> 00:29:46,083 ‎น่าเสียดายที่สิ่งที่ขาดไปในโบราณคดี 446 00:29:46,163 --> 00:29:47,603 ‎คือแนวคิดทางโบราณคดี 447 00:29:47,683 --> 00:29:51,323 ‎พวกเขาอาจมุ่งมั่น ‎กับการบอกอายุของสิ่งปลูกสร้างมากเกินไป 448 00:29:51,403 --> 00:29:53,403 ‎แล้วไม่สนใจสิ่งที่มันพยายามบอก 449 00:29:53,483 --> 00:29:54,323 ‎ใช่ 450 00:29:56,763 --> 00:29:58,203 ‎ถ้าเรายินดีมองย้อนกลับไป 451 00:29:58,283 --> 00:30:01,683 ‎ไกลกว่าขอบเขตที่โบราณคดีตั้งไว้ 452 00:30:01,763 --> 00:30:04,523 ‎ตำนานจะเริ่มสมเหตุสมผลทันที 453 00:30:04,603 --> 00:30:07,283 ‎ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันของเหตุการณ์ที่จินตนาการขึ้น 454 00:30:07,363 --> 00:30:10,283 ‎แต่เป็นบันทึกที่แท้จริงของอดีตที่หายไปและถูกลืม 455 00:30:14,443 --> 00:30:17,923 ‎นักโบราณคดีปฏิเสธการนำเสนอแบบนั้น 456 00:30:19,763 --> 00:30:21,923 ‎แต่ผมมองว่ามันละเลยไม่ได้ว่า 457 00:30:22,003 --> 00:30:25,883 ‎เรื่องเล่าของวีรบุรุษที่สร้างอารยธรรมเหล่านี้ ‎แพร่หลายขนาดไหน 458 00:30:27,443 --> 00:30:29,843 ‎บางครั้งพูดถึงเทพ บางครั้งมนุษย์ 459 00:30:31,043 --> 00:30:33,883 ‎ผู้ซึ่งปรากฏตัวในยามคับขัน ‎หลังหายนะครั้งใหญ่ 460 00:30:35,603 --> 00:30:37,283 ‎มาสอนความรู้ทางการเกษตร 461 00:30:37,363 --> 00:30:40,843 ‎สถาปัตยกรรม วิศวกรรม ‎และดาราศาสตร์ให้ผู้รอดชีวิต 462 00:30:42,603 --> 00:30:43,523 ‎ในประเพณีเหล่านี้ 463 00:30:43,603 --> 00:30:47,403 ‎ผมเชื่อว่าเป็นการค้นพบร่องรอย ‎ของอารยธรรมที่หายไป 464 00:30:49,043 --> 00:30:54,483 ‎แล้วอารยธรรมที่หายไปนี้อยู่ที่ไหน ‎ก่อนหายนะมาทำลายมัน 465 00:30:55,523 --> 00:30:59,403 ‎มีความเป็นไปได้มากมาย ‎ที่ไม่เคยถูกพิจารณาอย่างละเอียด 466 00:30:59,483 --> 00:31:02,803 ‎เพราะอย่างที่เราเห็น ‎ในช่วงรุ่งเรืองของยุคน้ำแข็งสุดท้าย… 467 00:31:02,883 --> 00:31:03,723 ‎(เกาะชวา) 468 00:31:03,803 --> 00:31:05,563 ‎โลกต่างออกไปมาก 469 00:31:05,643 --> 00:31:06,483 ‎(ซุนดาแลนด์ อ่าวเบงกอล มหาสมุทรอินเดีย) 470 00:31:07,123 --> 00:31:10,643 ‎เบาะแสต่อไปรอเราอยู่ห่างออกไปครึ่งโลก 471 00:31:11,683 --> 00:31:14,003 ‎ที่นั่น เช่นเดียวกับในโชลูลา 472 00:31:14,083 --> 00:31:17,163 ‎วิหารหลายสิบแห่งที่เชื่อว่าถูกสร้างขึ้น 473 00:31:17,243 --> 00:31:19,003 ‎โดยยักษ์โบราณ 474 00:31:20,243 --> 00:31:26,163 ‎บนเกาะที่ครั้งหนึ่งไม่ใช่เกาะ ‎กลางทะเลเมดิเตอเรเนียน 475 00:31:26,243 --> 00:31:28,923 ‎และการเดินทางจะพาผมไปที่นั่นเป็นที่ต่อไป 476 00:31:29,003 --> 00:31:31,483 ‎สู่ปริศนาชิ้นมหึมาในก้อนหิน 477 00:31:32,323 --> 00:31:35,283 ‎กองหินลึกลับแห่งมอลตา 478 00:32:01,643 --> 00:32:06,643 ‎คำบรรยายโดย พรทินา ตั้งสัจจะวิฑูรย์