1 00:00:06,083 --> 00:00:08,963 ‎(ซีรีส์จาก NETFLIX) 2 00:00:16,603 --> 00:00:19,163 ‎ไฟฟ้าส่งผลอย่างน่าอัศจรรย์สำหรับเรา 3 00:00:21,243 --> 00:00:24,083 ‎มนุษย์กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใช้ชีวิตทั้งวันทั้งคืน 4 00:00:28,603 --> 00:00:31,043 ‎แต่แสงไฟที่ปกคลุมเราทำให้เราตัดขาด 5 00:00:31,123 --> 00:00:35,003 ‎จากหนึ่งในสิ่งที่งดงามที่สุด ‎ของการมีชีวิตบนโลกใบนี้… 6 00:00:37,603 --> 00:00:38,803 ‎นั่นก็คือท้องฟ้ายามค่ำคืน 7 00:00:42,643 --> 00:00:44,003 ‎สำหรับคนโบราณ 8 00:00:44,083 --> 00:00:47,403 ‎การดูดาวเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก 9 00:00:48,523 --> 00:00:52,123 ‎ความบันเทิงที่สุดที่ผ่านเข้ามา ‎ในยามค่ำคืนอันมืดมิดและยาวนาน 10 00:00:53,203 --> 00:00:56,123 ‎พวกเขาน่าจะรู้จัก ‎ทุกการเคลื่อนที่ของทางช้างเผือก 11 00:00:56,203 --> 00:01:01,163 ‎ทุกกลุ่มดาวสว่างไสว ทุกดาวตกที่พุ่งผ่านท้องฟ้า 12 00:01:02,683 --> 00:01:07,043 ‎มันอาจอธิบายได้ว่า ‎ทำไมทุกที่ที่เราเห็นในโลกโบราณ 13 00:01:07,123 --> 00:01:11,043 ‎เราจะเจอโครงสร้างขนาดใหญ่ ‎ที่เบนความสนใจของเราไปยังท้องฟ้า 14 00:01:13,563 --> 00:01:15,723 ‎แต่ถ้ามีอะไรมากกว่านั้นล่ะ 15 00:01:16,723 --> 00:01:20,443 ‎พีระมิดและวิหารโบราณทั่วโลก 16 00:01:20,523 --> 00:01:25,603 ‎เชื่อมโยงท้องฟ้ากับพื้นดินด้วยการหันหน้าเข้าหา ‎พระอาทิตย์ พระจันทร์ และดวงดาว 17 00:01:26,323 --> 00:01:30,403 ‎ทำไมผู้สร้างถึงใส่ใจขนาดนั้น ‎และต้องสร้างให้ใหญ่ขนาดนี้ 18 00:01:31,003 --> 00:01:33,203 ‎พวกเขากำลังพยายามบอกอะไรเราหรือเปล่า 19 00:01:33,763 --> 00:01:39,203 ‎เตือนเราว่าต้องเฝ้าสังเกตท้องฟ้า ‎ไม่ว่าจะต้องทำอะไรก็ตาม 20 00:01:50,163 --> 00:01:55,523 ‎(มรดกจากนักปราชญ์) 21 00:01:58,283 --> 00:02:01,323 ‎ผมอยู่ในตุรกี ‎กำลังมุ่งหน้าไปยังยอดเขาอันห่างไกล 22 00:02:01,403 --> 00:02:04,243 ‎ประมาณ 41 กิโลเมตรจากชายแดนซีเรีย 23 00:02:06,803 --> 00:02:09,643 ‎ปัจจุบัน ที่นี่เป็นภูมิภาคของโลกที่มีปัญหา 24 00:02:11,043 --> 00:02:14,883 ‎แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเรื่องราวของมนุษยชาติ 25 00:02:16,123 --> 00:02:17,403 ‎(ทะเลดำ - ตุรกี - ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ‎ซีเรีย - อิรัก) 26 00:02:17,483 --> 00:02:21,483 ‎ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ‎ใกล้ซานลืออูร์ฟาในปัจจุบัน 27 00:02:22,363 --> 00:02:25,563 ‎สิ่งที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในช่วงสิ้นยุคน้ำแข็งสุดท้าย 28 00:02:25,643 --> 00:02:26,483 ‎(10,000 ปีก่อนค.ศ.) 29 00:02:26,563 --> 00:02:27,403 ‎(ซานลืออูร์ฟา) 30 00:02:27,483 --> 00:02:29,883 ‎บรรพบุรุษหาของป่าล่าสัตว์ในยุคหินของเรา 31 00:02:29,963 --> 00:02:33,843 ‎จู่ๆ ก็รู้จักการทำไร่และเริ่มลงหลักปักฐาน 32 00:02:33,923 --> 00:02:34,803 ‎(อิหร่าน - เมโสโปเตเมีย - อ่าวเปอร์เซีย) 33 00:02:34,883 --> 00:02:38,563 ‎สิ่งที่เรียกกันทีหลังว่า ‎ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ 34 00:02:38,643 --> 00:02:40,803 ‎เกิดขึ้นตั้งแต่ทางใต้ไปจนถึงอ่าวเปอร์เซีย 35 00:02:41,483 --> 00:02:42,603 ‎(4,000 ปีก่อนค.ศ.) 36 00:02:42,683 --> 00:02:46,883 ‎ราว 6,000 ปีก่อน ‎บริเวณนี้ที่เรียกว่าเมโสโปเตเมีย 37 00:02:46,963 --> 00:02:49,283 ‎ให้กำเนิดสิ่งที่ถูกสันนิษฐานมานานแล้วว่า 38 00:02:49,363 --> 00:02:53,403 ‎เป็นอารยธรรมแรกของโลก ชนชาติสุเมเรียน 39 00:02:53,483 --> 00:02:55,283 ‎(ซูเมอร์) 40 00:02:56,963 --> 00:03:00,443 ‎แต่ความเห็นทางประวัติศาสตร์นั้น ‎ถึงเวลาต้องจารึกใหม่ 41 00:03:01,603 --> 00:03:05,723 ‎ในปี 1994 ‎ระหว่างการสำรวจที่ดินของชาวไร่คนหนึ่ง 42 00:03:05,803 --> 00:03:10,523 ‎นักโบราณคดีพบหินแกะสลักหน้าตาแปลก ‎ยื่นออกมาจากพื้นดิน 43 00:03:17,563 --> 00:03:19,803 ‎บางก้อนมีขนาดมหึมา 44 00:03:25,523 --> 00:03:29,763 ‎การขุดครั้งใหญ่นำไปสู่การค้นพบที่น่าตกตะลึง 45 00:03:32,643 --> 00:03:35,563 ‎สถานที่ขุดทางโบราณคดีเมื่อไม่นานมานี้ 46 00:03:35,643 --> 00:03:41,443 ‎ทำให้เราต้องทิ้งสมมติฐานทั้งหมดที่เรามี ‎เกี่ยวกับบรรพบุรุษยุคหินของเรา 47 00:03:42,363 --> 00:03:44,683 ‎ไม่ใกล้เคียงกับ ‎มนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่ใช้เทคนิคโบราณเลย 48 00:03:44,763 --> 00:03:47,083 ‎สิ่งที่พวกเขาสร้างไว้ที่นี่พิสูจน์ว่า 49 00:03:47,683 --> 00:03:50,403 ‎พวกเขามีความสามารถ ‎อย่างไร้ข้อสงสัยจนปัจจุบัน 50 00:03:50,483 --> 00:03:52,403 ‎ที่ใกล้เคียงกับอารยธรรมที่มาทีหลัง 51 00:03:52,483 --> 00:03:55,603 ‎และอารยธรรมที่เหมือนจะล้ำหน้ากว่ามาก 52 00:03:56,963 --> 00:04:00,763 ‎ใต้หลังคาทันสมัยที่ถูกสร้างขึ้น ‎เพื่อปกป้องมันจากสภาพอากาศ 53 00:04:01,923 --> 00:04:03,643 ‎ที่นี่คือโกเบคลี เทเป 54 00:04:03,723 --> 00:04:07,923 ‎(โกเบคลี เทเป) 55 00:04:08,003 --> 00:04:11,603 ‎เมื่ออ้างอิงถึงทุกอย่างที่เรารู้มา ‎เรื่องยุคก่อนประวัติศาสตร์ 56 00:04:11,683 --> 00:04:13,243 ‎ที่นี่ไม่ควรมีอยู่จริง 57 00:04:17,323 --> 00:04:22,363 ‎นักโบราณคดียอมรับว่า ‎มันเก่าแก่ราว 11,600 ปี… 58 00:04:24,483 --> 00:04:25,483 ‎(9,600 ปีก่อนค.ศ.) 59 00:04:25,562 --> 00:04:29,323 ‎ทำให้ที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานที่เก่าแก่ที่สุดในโลก 60 00:04:32,483 --> 00:04:36,323 ‎มันเป็นโครงสร้างหินที่ล้ำหน้ามากและทันสมัยมาก 61 00:04:36,403 --> 00:04:39,043 ‎มันเก่าแก่กว่าสโตนเฮนจ์ถึง 7,000 ปี… 62 00:04:39,123 --> 00:04:39,963 ‎(สโตนเฮนจ์ สหราชอาณาจักร) 63 00:04:40,043 --> 00:04:42,883 ‎และเก่าแก่กว่าพีระมิดกีซา 7,000 ปี 64 00:04:42,963 --> 00:04:45,923 ‎จู่ๆ ความเชื่อที่ว่าไม่มีวัฒนธรรมไหนในโลก 65 00:04:46,003 --> 00:04:48,563 ‎ที่สามารถสร้างอะไรแบบนี้เมื่อ 12,000 ปีก่อน 66 00:04:48,643 --> 00:04:50,123 ‎ก็ถูกตีตกไป 67 00:04:54,363 --> 00:04:57,363 ‎มันเก่าแก่กว่าการประดิษฐ์ล้อ 68 00:04:57,443 --> 00:04:59,243 ‎หรือการเลี้ยงม้า 69 00:05:01,123 --> 00:05:04,843 ‎มันถูกสร้างขึ้นในช่วงที่โลกเพิ่งฟื้นตัว ‎จากยุคน้ำแข็งสุดท้าย 70 00:05:06,843 --> 00:05:08,803 ‎เมื่อคนพื้นเมืองยังเป็น 71 00:05:08,883 --> 00:05:12,683 ‎คนเก็บของป่าล่าสัตว์ไม่รู้เรื่องอะไร ‎ที่อาศัยอยู่ในกระท่อมดิน 72 00:05:14,363 --> 00:05:16,283 ‎แต่ถ้าพวกเขาไม่ล้ำหน้าพอ 73 00:05:16,363 --> 00:05:19,083 ‎ที่จะออกแบบและสร้างสิ่งมหัศจรรย์ทำด้วยหินแห่งนี้ 74 00:05:20,163 --> 00:05:22,643 ‎ใครเป็นคนสร้างและสร้างเพื่ออะไร 75 00:05:23,963 --> 00:05:25,843 ‎ที่นี่คืออะไร 76 00:05:28,283 --> 00:05:32,323 ‎ถ้ามองเผินๆ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราอาจดูน่าฉงน 77 00:05:32,403 --> 00:05:36,283 ‎แต่พอดูใกล้ๆ และปะติดปะต่อเบาะแสเข้าด้วยกัน 78 00:05:36,363 --> 00:05:38,403 ‎เราก็จะเข้าใจว่า 79 00:05:38,483 --> 00:05:42,523 ‎มันน่าจะยิ่งใหญ่และสง่างามขนาดไหน ‎ตอนที่ยังรุ่งเรือง 80 00:05:46,523 --> 00:05:48,003 ‎สิ่งที่ตั้งอยู่ด้านข้างของเนินเขา 81 00:05:48,083 --> 00:05:51,003 ‎พร้อมร่องรอยของการอยู่อาศัยของมนุษย์ ‎ในบริเวณใกล้เคียง 82 00:05:51,843 --> 00:05:56,523 ‎คือกำแพงเป็นวงทั้งสี่ ทั้งหมดมีรูปแบบคล้ายกัน 83 00:05:58,363 --> 00:05:59,483 ‎ตรงกลางของแต่ละวง 84 00:05:59,563 --> 00:06:02,203 ‎มีหินรูปตัวทีขนาดใหญ่ 85 00:06:03,163 --> 00:06:04,923 ‎น้ำหนักถึงสิบตัน 86 00:06:05,883 --> 00:06:08,163 ‎ตั้งอยู่บนพื้นหินขัดเรียบ 87 00:06:08,843 --> 00:06:10,483 ‎ภาพยักษ์แฝด 88 00:06:10,563 --> 00:06:13,323 ‎บ้างก็มีแขนและมือแกะสลักอยู่ในหิน 89 00:06:13,403 --> 00:06:14,483 ‎และหัวที่เอียง 90 00:06:15,923 --> 00:06:18,563 ‎มันถูกล้อมด้วยเสารูปตัวทีอันเล็กกว่า 91 00:06:19,243 --> 00:06:21,483 ‎หลายเสามีลายแกะสลักและตกแต่งอย่างงดงาม 92 00:06:22,923 --> 00:06:27,043 ‎และทั้งหมดเชื่อมต่อกับ ‎กำแพงหินและทางเดินที่ล้อมอยู่ 93 00:06:29,203 --> 00:06:32,523 ‎หินก้อนมหึมาเหล่านี้ถูกยกไปวางไว้ได้ยังไง… 94 00:06:34,643 --> 00:06:35,803 ‎ไม่มีใครรู้ 95 00:06:51,283 --> 00:06:54,443 ‎สิ่งที่ทำให้ทุกคนที่มาที่นี่ฉงน 96 00:06:54,523 --> 00:06:57,483 ‎รวมไปถึงนักโบราณคดีที่ขุดที่นี่ก็คือ 97 00:06:57,563 --> 00:06:59,603 ‎ลายแกะสลักอันน่าอัศจรรย์ 98 00:07:02,803 --> 00:07:06,683 ‎สัญลักษณ์ของสัตว์พบเจออยู่ทุกที่ในโกเบคลี เทเป 99 00:07:08,723 --> 00:07:10,643 ‎มันเหมือนกับเรือโนอาห์ในหิน 100 00:07:13,843 --> 00:07:18,803 ‎สิ่งมีชีวิตที่เห็นที่โกเบคลี เทเป ‎ถูกจัดวางและออกแบบได้น่าสนใจ 101 00:07:20,563 --> 00:07:23,363 ‎ราวกับมันมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ ‎มากกว่าความจริง 102 00:07:28,323 --> 00:07:32,403 ‎และยังมีสิ่งที่แปลก ‎เกี่ยวกับโครงสร้างหินเหล่านี้อีก 103 00:07:32,483 --> 00:07:34,563 ‎(โกเบคลี เทเป) 104 00:07:34,643 --> 00:07:36,643 ‎เมื่อนักโบราณคดีระบุอายุของมันได้แล้ว 105 00:07:36,723 --> 00:07:40,923 ‎มันเริ่มชัดเจนว่ากำแพงเป็นวงทั้งสี่ ‎ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในเวลาเดียวกัน 106 00:07:41,003 --> 00:07:41,923 ‎(เอ - บี - ซี - ดี) 107 00:07:42,003 --> 00:07:45,883 ‎กำแพงวงดีเก่าแก่ราว 11,600 ปี… 108 00:07:45,963 --> 00:07:46,803 ‎(9,600 ปีก่อนค.ศ.) 109 00:07:46,883 --> 00:07:52,003 ‎แต่วงเอที่สร้างสุดท้ายเมื่อราว 10,500 ปีก่อน 110 00:07:52,083 --> 00:07:53,483 ‎(วงเอ - 8,500 ปีก่อนค.ศ.) 111 00:07:53,563 --> 00:07:56,603 ‎แทนที่จะปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่แล้ว 112 00:07:57,403 --> 00:08:00,523 ‎คนที่นี่สร้างกำแพงใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 113 00:08:00,603 --> 00:08:03,483 ‎ในระยะเวลากว่า 1,100 ปี 114 00:08:04,923 --> 00:08:07,683 ‎โดยเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อยในแต่ละครั้ง 115 00:08:12,523 --> 00:08:14,043 ‎สิ่งที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกคือ 116 00:08:14,123 --> 00:08:17,923 ‎กำแพงดั้งเดิมที่เก่าแก่ที่สุด วงดี 117 00:08:18,003 --> 00:08:20,243 ‎ยังใหญ่ที่สุด 118 00:08:21,243 --> 00:08:23,923 ‎และตกแต่งอย่างสลับซับซ้อนที่สุดอีกด้วย 119 00:08:26,323 --> 00:08:28,723 ‎มันไม่ใช่สิ่งที่คนเก็บของป่าล่าสัตว์ 120 00:08:28,803 --> 00:08:31,283 ‎จะตื่นขึ้นมาเช้าวันหนึ่งแล้วคิดว่า "ฉันจะสร้าง 121 00:08:31,363 --> 00:08:34,443 ‎โครงสร้างหินที่ใหญ่ที่สุดที่จะได้เห็นในโลก" 122 00:08:37,722 --> 00:08:41,403 ‎โดยปกติ ยิ่งเราฝึกฝนอะไรบางอย่าง ‎เราก็ยิ่งเก่งขึ้น 123 00:08:43,043 --> 00:08:45,243 ‎เช่นเดียวกับคนงานขุดแร่ในปัจจุบัน 124 00:08:45,323 --> 00:08:48,923 ‎ยังคงตัดหินอยู่บนเขา ‎รอบๆ โกเบคลี เทเปอยู่ในปัจจุบัน 125 00:08:50,363 --> 00:08:53,083 ‎เราสันนิษฐานว่าวัฒนธรรมโบราณ ‎น่าจะเป็นแบบเดียวกัน 126 00:08:54,123 --> 00:08:56,003 ‎ที่ใช้เวลาในการพัฒนาฝีมือ 127 00:08:57,403 --> 00:09:01,163 ‎แต่โกเบคลี เทเป โดยเฉพาะวงดี 128 00:09:01,243 --> 00:09:04,123 ‎ดูเหมือนจะพลิกข้อสันนิษฐานนั้นไปคนละขั้ว 129 00:09:06,123 --> 00:09:09,163 ‎ชุมชนคนเก็บของป่าล่าสัตว์ยุคหิน 130 00:09:09,243 --> 00:09:10,803 ‎จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ 131 00:09:10,883 --> 00:09:14,683 ‎ในการก่อสร้างด้วยหิน ‎ตั้งแต่ลงมือครั้งแรกได้ยังไง 132 00:09:19,003 --> 00:09:23,843 ‎ถึงเวลาแล้วใช่มั้ยที่จะพิจารณาความเป็นไปได้ว่า ‎กำแพงหินยิ่งใหญ่เหล่านี้ 133 00:09:23,923 --> 00:09:27,643 ‎ไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์น่าอัศจรรย์ชั่วข้ามคืน ‎ของคนเก็บของป่าล่าสัตว์ 134 00:09:27,723 --> 00:09:29,483 ‎แต่เป็นมรดกตกทอด 135 00:09:29,563 --> 00:09:33,163 ‎จากอารยธรรมล้ำหน้าเกินตัวที่หายไป ‎ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ 136 00:09:37,723 --> 00:09:39,003 ‎นี่เป็นความเชื่อ 137 00:09:39,083 --> 00:09:43,363 ‎ที่ทำให้นักโบราณคดีทั่วไปเคือง 138 00:09:44,083 --> 00:09:47,403 ‎นักวิชาการยึดติดกับแนวคิดหนึ่งโดยเฉพาะที่ว่า 139 00:09:47,483 --> 00:09:49,083 ‎ในยุคน้ำแข็ง 140 00:09:49,163 --> 00:09:53,283 ‎ประชากรมนุษย์ทั้งหมดของโลก ‎อยู่ในช่วงการเก็บของป่าล่าสัตว์ 141 00:09:55,443 --> 00:09:59,003 ‎แต่กลายเป็นว่าผู้สร้างโกเบคลี เทเป 142 00:09:59,083 --> 00:10:02,363 ‎มีความทะเยอทะยานกว่า ‎คนเก็บของป่าล่าสัตว์ทั่วไป 143 00:10:04,243 --> 00:10:10,483 ‎ในปี 2003 การสำรวจทางธรณีวิทยา ‎โดยใช้เรดาร์เจาะลงไปในดิน 144 00:10:10,563 --> 00:10:14,843 ‎ตรวจพบกำแพงหินในเขาอีก 20 แห่ง 145 00:10:14,923 --> 00:10:17,043 ‎และเสามากกว่า 200 ต้น 146 00:10:18,723 --> 00:10:20,643 ‎ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกขุด 147 00:10:22,323 --> 00:10:27,443 ‎สิ่งก่อสร้างหินเชิงซ้อนขนาดมหึมา ‎กินพื้นที่เกือบหนึ่งตารางกิโลเมตร 148 00:10:27,523 --> 00:10:29,083 ‎มากกว่าสนามฟุตบอล 12 สนาม 149 00:10:32,483 --> 00:10:34,723 ‎มันเป็นพื้นที่ขนาดมโหฬาร 150 00:10:34,803 --> 00:10:37,403 ‎เราตื่นขึ้นมาเช้าวันหนึ่ง ‎โดยไม่มีความชำนาญมาก่อน 151 00:10:37,483 --> 00:10:40,683 ‎ไม่มีความรู้มาก่อน ไม่มีประสบการณ์ในการใช้หิน 152 00:10:40,763 --> 00:10:42,723 ‎แล้วสร้างสิ่งที่เหมือนโกเบคลี เทเปไม่ได้ 153 00:10:42,803 --> 00:10:47,923 ‎มันต้องมีประวัติศาสตร์เบื้องหลังยาวนานมาก่อน ‎และประวัติศาสตร์นั้นหายไปทั้งหมด 154 00:10:48,003 --> 00:10:52,123 ‎สำหรับผม ‎มันบ่งบอกถึงอารยธรรมที่หายไปอย่างชัดเจน 155 00:10:52,203 --> 00:10:53,843 ‎การถ่ายทอดเทคโนโลยีของพวกเขา 156 00:10:53,923 --> 00:10:56,043 ‎ความชำนาญ และความรู้ ‎สู่คนเก็บของป่าล่าสัตว์ 157 00:11:05,563 --> 00:11:09,843 ‎โกเบคลี เทเปไม่ใช่สิ่งก่อสร้างซับซ้อน ‎แห่งเดียวที่เก่าแก่ถึงช่วงสิ้นยุคน้ำแข็งสุดท้าย 158 00:11:09,923 --> 00:11:11,883 ‎ที่ถูกค้นพบที่นี่เมื่อไม่นานมานี้ 159 00:11:13,723 --> 00:11:19,203 ‎ในปี 2019 นักโบราณคดีชาวตุรกี ‎เริ่มการขุดบนอีกสถานที่หนึ่ง 160 00:11:20,163 --> 00:11:24,643 ‎ห่างออกไปหนึ่งชั่วโมงทางตะวันออกด้วยรถ ‎มันเรียกว่าคาราฮาน เทเป… 161 00:11:24,723 --> 00:11:26,323 ‎(คาราฮาน เทเป) 162 00:11:26,403 --> 00:11:28,403 ‎และค้นพบสิ่งที่ไม่คาดคิด 163 00:11:30,643 --> 00:11:34,523 ‎ทางการตุรกีไม่อนุญาต ‎ให้ทีมงานคนนอกเข้าถ่ายทำที่นี่ 164 00:11:35,723 --> 00:11:36,923 ‎จนกระทั่งตอนนี้ 165 00:11:41,443 --> 00:11:44,003 ‎หัวหน้านักโบราณคดี อาจารย์เน็คมี คารูล 166 00:11:44,083 --> 00:11:47,803 ‎เชื่อว่าที่นี่เก่าแก่พอๆ กับโกเบคลี เทเป 167 00:11:49,283 --> 00:11:50,603 ‎และอาจแก่กว่าด้วยซ้ำ 168 00:11:52,043 --> 00:11:53,603 ‎แต่มันค่อนข้างต่างออกไป 169 00:11:55,803 --> 00:11:59,403 ‎ห้องสี่เหลี่ยมหลักมีเสารูปตัวทีและหิน 170 00:12:00,363 --> 00:12:02,923 ‎แต่ขอบด้านหนึ่งแกะออกมาจากหินดาน 171 00:12:03,603 --> 00:12:05,843 ‎และมันใหญ่พอจะจุคนได้หลายสิบคน 172 00:12:07,723 --> 00:12:09,483 ‎คุณคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในสิ่งก่อสร้างนี้ 173 00:12:09,563 --> 00:12:11,083 ‎คุณได้แนวคิดอะไรบ้างมั้ย 174 00:12:11,163 --> 00:12:12,003 ‎(ศาสตราจารย์เน็คมี คารูล ‎มหาวิทยาลัยอิสตันบูล) 175 00:12:12,083 --> 00:12:14,803 ‎เราอาจตีความว่า ‎มันเป็นแท่นสำหรับไว้นั่ง… 176 00:12:14,883 --> 00:12:16,683 ‎- ครับ ‎- และคนมารวมตัวกัน 177 00:12:16,763 --> 00:12:18,523 ‎- เพราะมันเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ‎- ครับ 178 00:12:19,923 --> 00:12:23,843 ‎คาราฮาน เทเปดูจะเป็น ‎สถานที่รวมตัวเพื่อพิธีกรรมบางอย่าง 179 00:12:26,203 --> 00:12:27,643 ‎การแกะสลักบนฝาผนัง 180 00:12:27,723 --> 00:12:30,523 ‎ไม่ได้ละเอียดเท่าที่โกเบคลี เทเป 181 00:12:31,443 --> 00:12:33,963 ‎แต่เราเห็นภาพนักบุญ 182 00:12:36,523 --> 00:12:39,323 ‎พวกมันอาจบ่งบอก ‎สถาปัตยกรรมที่แท้จริงของที่นี่หรือไม่ 183 00:12:42,123 --> 00:12:44,003 ‎- นำทางไปเลย ศาสตราจารย์ ‎- ครับ ได้ 184 00:12:44,643 --> 00:12:48,123 ‎ศาสตราจารย์คารูลนำผมเข้าไป ‎ในห้องด้านข้างที่น่าสนใจ 185 00:12:48,203 --> 00:12:51,843 ‎ขนาดแปดคูณหกเมตรและลึกสองเมตร 186 00:12:53,763 --> 00:12:56,243 ‎เสาทั้งสิบที่เป็นรูปองคชาติ 187 00:12:56,323 --> 00:13:01,443 ‎ถูกแกะออกมาจากหินดาน ‎ด้วยความตั้งใจและเชี่ยวชาญ 188 00:13:04,003 --> 00:13:07,323 ‎พร้อมเสาต้นที่ 11 อันโดดเด่น 189 00:13:11,163 --> 00:13:14,843 ‎ช่องอันคดเคี้ยวที่ถูกเจาะเข้าไปในหิน 190 00:13:14,923 --> 00:13:18,603 ‎เพื่อให้ของเหลวบางอย่างไหลลงไปในห้องนี้ 191 00:13:18,683 --> 00:13:21,643 ‎น้ำหรืออาจเป็นเลือด 192 00:13:25,963 --> 00:13:30,443 ‎มันโดดเด่นด้วยหัวแกะสลักน่าพิศวงและตระหง่าน 193 00:13:33,363 --> 00:13:37,203 ‎ตรงคอของรูปแกะนั้นดูคล้ายงู 194 00:13:37,283 --> 00:13:41,803 ‎เหมือนมันยื่นออกมาจากก้อนหิน ‎เพื่อก้มดูเสาพวกนั้น 195 00:13:41,883 --> 00:13:43,803 ‎ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปิดนั่น 196 00:13:44,403 --> 00:13:50,123 ‎มันเป็นสิ่งที่คล้ายงู และผมขอเสริมว่า ‎มันรู้สึกเป็นลางไม่ดีด้วย 197 00:13:52,963 --> 00:13:55,123 ‎มันเป็นใบหน้าที่ทรงพลังมาก 198 00:13:55,203 --> 00:13:56,403 ‎มันเป็นหัวมนุษย์ 199 00:13:56,483 --> 00:13:58,883 ‎- ที่แกะจากหินดาน… ‎- ที่แกะจากหินดาน 200 00:13:59,443 --> 00:14:01,563 ‎และมันมองไปที่ทางเข้า 201 00:14:02,323 --> 00:14:05,323 ‎ใช่ ตามองไปด้านนั้น 202 00:14:05,403 --> 00:14:06,243 ‎สง่างามทีเดียว 203 00:14:06,323 --> 00:14:08,923 ‎- ดูเหมือนหัวงู ‎- ใช่ 204 00:14:09,003 --> 00:14:11,643 ‎- ผมว่ามันทำท่าเหมือนงูเลย ‎- ใช่ 205 00:14:11,723 --> 00:14:13,683 ‎งูหัวคน 206 00:14:13,763 --> 00:14:14,643 ‎ครับ อาจจะใช่ 207 00:14:15,403 --> 00:14:17,243 ‎มันเป็นการค้นพบที่แปลกทีเดียว 208 00:14:17,323 --> 00:14:19,283 ‎- ครับ ยอดเยี่ยมมาก ‎- ครับ 209 00:14:22,643 --> 00:14:26,683 ‎มีความรู้สึกกลัวหรือความน่าขนลุก ‎ที่มาพร้อมพื้นที่ปิดนั้น 210 00:14:26,763 --> 00:14:28,443 ‎ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ 211 00:14:28,523 --> 00:14:32,123 ‎มันเป็นแค่ปฏิกิริยาทางอารมณ์ของผม ‎ที่มีต่อสิ่งที่เห็น 212 00:14:32,203 --> 00:14:35,283 ‎แต่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ‎ความกลัวและความน่าขนลุก 213 00:14:35,363 --> 00:14:37,363 ‎เกี่ยวข้องกับการสร้างมันด้วยมั้ย 214 00:14:37,443 --> 00:14:42,323 ‎มันบ่งบอกถึงสิ่งที่เราอยากรู้ ‎เกี่ยวกับอดีตของเรามั้ย 215 00:14:42,403 --> 00:14:45,083 ‎บ่งบอกว่ามันน่ากลัวด้วยเหตุผลบางอย่าง 216 00:14:49,083 --> 00:14:52,243 ‎ศาสตราจารย์ยืนยันว่า ‎เช่นเดียวกับโกเบคลี เทเป 217 00:14:52,323 --> 00:14:54,523 ‎พวกเขาไม่พบหลักฐานการทำไร่ 218 00:14:56,243 --> 00:15:00,483 ‎คนที่สร้างสิ่งก่อสร้างซับซ้อนนี้ ‎เป็นคนเก็บของป่าล่าสัตว์อย่างแน่นอน 219 00:15:03,203 --> 00:15:06,923 ‎เคยมีความเชื่อว่าเกษตรกรรมมาก่อน 220 00:15:07,003 --> 00:15:10,803 ‎แล้วมันทำให้มนุษย์ลงหลักปักฐาน ‎และสร้างสถานที่แบบนี้ 221 00:15:10,883 --> 00:15:14,643 ‎แต่ถ้าผมเข้าใจคุณถูก ‎คุณกำลังบอกว่าการลงหลักปักฐานมาก่อน 222 00:15:14,723 --> 00:15:15,843 ‎การลงหลักปักฐานมาก่อน 223 00:15:15,923 --> 00:15:18,163 ‎- พวกเขาคือคนเก็บของป่าล่าสัตว์ ‎- ครับ 224 00:15:18,243 --> 00:15:21,603 ‎แล้วพวกเขาถึงจะสร้างชีวิตที่แตกต่างขึ้นมา 225 00:15:21,683 --> 00:15:23,363 ‎พวกเขาเปลี่ยนสิ่งปลูกสร้าง 226 00:15:23,443 --> 00:15:25,563 ‎- เปลี่ยนเทคโนโลยี และอื่นๆ ‎- ครับ 227 00:15:25,643 --> 00:15:28,603 ‎เป็นการปฏิวัติทางความคิดอย่างหนึ่ง 228 00:15:28,683 --> 00:15:31,203 ‎เราเรียกมันว่าการปฏิวัติได้เลย 229 00:15:31,283 --> 00:15:36,923 ‎ถ้างั้นที่นี่เป็นสิ่งที่สร้างความกระจ่าง ‎ให้ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ 230 00:15:39,483 --> 00:15:43,723 ‎ที่ผ่านมา เพียงสองห้องถูกขุดที่คาราฮาน เทเป 231 00:15:44,883 --> 00:15:49,483 ‎แต่เรดาร์เจาะลงไปในพื้นดิน ‎เผยให้เห็นอีกอย่างน้อย 20 ห้อง 232 00:15:49,563 --> 00:15:51,323 ‎ที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ 233 00:15:52,963 --> 00:15:54,843 ‎เช่นเดียวกับที่โกเบคลี เทเป 234 00:15:55,723 --> 00:15:58,563 ‎ทั้งสองแห่งที่ถูกสร้างขึ้นตอนสิ้นยุคน้ำแข็งสุดท้าย 235 00:15:58,643 --> 00:16:02,163 ‎ก่อนมนุษย์ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ‎เริ่มทำไร่และเลี้ยงสัตว์ 236 00:16:04,843 --> 00:16:08,683 ‎ไม่มีการเกษตรที่โกเบคลี เทเป ‎ตอนมันถูกสร้างขึ้น 237 00:16:08,763 --> 00:16:14,363 ‎แต่แปลกที่ในเวลาเดียวกับที่มันถูกสร้าง ‎เมื่อ 11,600 ปีก่อน 238 00:16:14,443 --> 00:16:16,483 ‎การเกษตรเกิดขึ้นรอบบริเวณแล้ว 239 00:16:17,923 --> 00:16:19,643 ‎(อิรัก - เมโสโปเตเมีย - อิหร่าน) 240 00:16:19,723 --> 00:16:23,883 ‎สำหรับผม หลักฐานบ่งชี้ได้ค่อนข้างชัดเจน 241 00:16:23,963 --> 00:16:25,923 ‎มันคือการถ่ายโอนเทคโนโลยี 242 00:16:26,003 --> 00:16:29,723 ‎คนที่รู้วิธีสร้างโครงสร้างหิน 243 00:16:29,803 --> 00:16:33,443 ‎และสร้างสิ่งก่อสร้างหินขนาดใหญ่ ‎มาที่โกเบคลี เทเป 244 00:16:34,043 --> 00:16:36,443 ‎พวกเขามีความรู้ด้านการเกษตรอยู่แล้ว 245 00:16:36,523 --> 00:16:40,883 ‎และใช้สถานที่นั้นเคลื่อนย้ายชุมชนพื้นเมือง 246 00:16:40,963 --> 00:16:44,603 ‎บริหารจัดการพวกเขา และสอนการเกษตรให้ 247 00:16:49,163 --> 00:16:51,763 ‎ตามนิทานของเมโสโปเตเมียโบราณ 248 00:16:51,843 --> 00:16:53,963 ‎นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น 249 00:16:55,363 --> 00:16:59,123 ‎ท่ามกลางตำนานน้ำท่วมและหายนะในสมัยโบราณ 250 00:16:59,203 --> 00:17:03,163 ‎ประเพณีอุทกภัยของเมโสโปเตเมียเป็นที่สนใจที่นี่ 251 00:17:05,683 --> 00:17:08,443 ‎มันบ่งบอกถึงคนโบราณผู้ชาญฉลาดกลุ่มเล็กๆ 252 00:17:09,003 --> 00:17:13,003 ‎ชาวอัปคาลลูผู้ซึ่งสอนคนที่นี่ ‎ในการสร้างอารยธรรม 253 00:17:15,603 --> 00:17:18,402 ‎ในช่วงแรกก่อนประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้ 254 00:17:19,203 --> 00:17:24,043 ‎มนุษยชาติถูกสร้างขึ้นโดยเทพเจ้า ‎เพื่อดูแลแผ่นดินและสัตว์ 255 00:17:25,043 --> 00:17:29,402 ‎แต่มนุษย์กลุ่มแรก ‎ขี้เกียจและไม่มีระเบียบในการทำงาน 256 00:17:30,443 --> 00:17:32,323 ‎แถมยังเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว 257 00:17:33,723 --> 00:17:35,843 ‎เทพเจ้าจึงส่งอุทกภัยครั้งใหญ่ลงมา 258 00:17:36,643 --> 00:17:40,283 ‎เพื่อล้างบางและเริ่มมนุษยชาติใหม่อีกครั้ง 259 00:17:41,803 --> 00:17:45,323 ‎พวกเขายังส่งนักปราชญ์ชาวอัปคาลลูทั้งเจ็ด 260 00:17:45,403 --> 00:17:49,123 ‎ที่มีลักษณะตามประเพณีว่าเป็นคนห่มผ้ามีเครา 261 00:17:49,203 --> 00:17:50,843 ‎เพื่อสั่งสอนผู้รอดชีวิต 262 00:17:51,763 --> 00:17:55,763 ‎ผู้นำของพวกเขาคืออูอันนัส ‎ว่ากันว่ามาจากท้องทะเล 263 00:17:55,843 --> 00:17:58,843 ‎มีลักษณะเป็นครึ่งคนครึ่งปลา 264 00:18:00,123 --> 00:18:01,843 ‎เขาเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน 265 00:18:01,923 --> 00:18:08,283 ‎เพื่อสอนการเกษตร สถาปัตยกรรม ‎และความรู้เรื่องดวงดาว 266 00:18:14,003 --> 00:18:16,043 ‎นั่นเป็นวิชาที่ผมอดคิดไม่ได้ว่า 267 00:18:16,123 --> 00:18:22,043 ‎รวมอยู่ในความล้ำหน้าที่ถูกสร้างขึ้น ‎ที่โกเบคลี เทเป 268 00:18:23,083 --> 00:18:26,803 ‎อูอันนัสเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ‎ของวีรบุรุษผู้สร้างความเจริญ 269 00:18:27,603 --> 00:18:31,443 ‎ครูที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวมาทางน้ำ 270 00:18:31,523 --> 00:18:33,643 ‎หลังเกิดหายนะครั้งใหญ่ 271 00:18:34,523 --> 00:18:36,803 ‎เช่นเดียวกับเควตซาลโคลาเทิลในเม็กซิโก 272 00:18:37,403 --> 00:18:41,323 ‎หรือโอซิริสที่ตำนานกล่าวไว้ว่าเดินทางโดยเรือ 273 00:18:41,403 --> 00:18:43,923 ‎เพื่อสอนมนุษยชาติในการสร้างอารยธรรม 274 00:18:45,403 --> 00:18:49,083 ‎และมันไม่ใช่แค่เรื่องราวของพวกเขา ‎ที่คล้ายกันในหลายวัฒนธรรมโบราณ 275 00:18:49,163 --> 00:18:50,003 ‎(ชาวแอสซีเรีย) 276 00:18:50,083 --> 00:18:53,803 ‎ลักษณะของพวกเขาในภาพโบราณ ‎คล้ายกันมากด้วย… 277 00:18:53,883 --> 00:18:54,723 ‎(ชาวโทลเทค) 278 00:18:54,803 --> 00:18:56,603 ‎ไปจนถึงผ้าที่พวกเขาห่ม ‎และกระเป๋าที่ไม่เหมือนใคร 279 00:18:56,683 --> 00:18:57,523 ‎(ชาวมายา) 280 00:18:57,603 --> 00:18:59,723 ‎(ชาวโอลเมก) 281 00:18:59,803 --> 00:19:02,363 ‎ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือบันทึกของเหตุการณ์จริง 282 00:19:02,443 --> 00:19:04,483 ‎ในบางกรณี พวกเขาอาจถูกเติม 283 00:19:04,563 --> 00:19:07,403 ‎สัญลักษณ์และเรื่องราวมากไปจนเราเขว 284 00:19:07,483 --> 00:19:10,803 ‎แต่สุดท้ายแล้ว ผมคิดว่าเราต้องเชื่อในตำนาน 285 00:19:14,363 --> 00:19:18,883 ‎กำแพงหินเป็นวงของโกเบคลี เทเปที่เปิดสู่ท้องฟ้า 286 00:19:18,963 --> 00:19:23,283 ‎ทำให้ผมคิดถึงจกันติจาและวิหารอื่นๆ ในมอลตา 287 00:19:25,043 --> 00:19:27,603 ‎เป็นไปได้มั้ยที่พวกมันได้แรงบันดาลใจเดียวกัน 288 00:19:31,043 --> 00:19:33,403 ‎ในมอลตา เลนี รีดจิกแสดงให้ผมเห็น 289 00:19:33,483 --> 00:19:36,843 ‎การหันของวิหารหินโบราณที่เปลี่ยนไป 290 00:19:36,923 --> 00:19:42,123 ‎และติดตามการเปลี่ยนทิศของดาวซิริอุส 291 00:19:43,603 --> 00:19:45,323 ‎ในช่วงหลายพันปี 292 00:19:50,083 --> 00:19:54,843 ‎มันเหลือเชื่อที่เราพบปรากฏการณ์เดียวกัน ‎ที่โกเบคลี เทเป 293 00:19:57,683 --> 00:20:01,083 ‎เสากลางของกำแพงสามวงที่เก่าแก่ที่สุด 294 00:20:01,163 --> 00:20:03,483 ‎ดูเหมือนจะมีเป้าหมายเป็นซิริอุสเช่นกัน 295 00:20:05,043 --> 00:20:08,803 ‎ในช่วงสิ้นยุคน้ำแข็ง ทิศทางของมันแตกต่างกัน 296 00:20:08,883 --> 00:20:11,963 ‎ตามทิศที่เปลี่ยนไปของดาวเมื่อเวลาผ่านไป 297 00:20:15,723 --> 00:20:18,643 ‎สำหรับผม การหันเข้าหาซิริอุสที่เหมือนกันนี้ 298 00:20:19,323 --> 00:20:23,883 ‎เป็นอีกหนึ่งเบาะแสว่าผู้สร้างโบราณ ‎ทั้งในมอลตาและตุรกี 299 00:20:23,963 --> 00:20:26,963 ‎เข้าถึงแหล่งความรู้เดียวกัน 300 00:20:27,723 --> 00:20:30,843 ‎เรื่องดาราศาสตร์และการก่อสร้างด้วยหิน 301 00:20:32,243 --> 00:20:36,163 ‎เป็นไปได้มั้ยว่า ‎โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งสองแห่ง 302 00:20:36,923 --> 00:20:40,243 ‎ถูกสร้างขึ้นโดยผู้รอดชีวิต ‎จากวัฒนธรรมที่ล้ำหน้ากว่า 303 00:20:41,643 --> 00:20:44,443 ‎ที่เดินทางรอบโลกตอนสิ้นยุคน้ำแข็งสุดท้าย 304 00:20:45,323 --> 00:20:49,323 ‎โดยมียักษ์บนเสาหินเหล่านี้เป็นตัวแทน 305 00:20:49,403 --> 00:20:51,603 ‎หรือภาพคนสวมฮู้ดของคาราฮาน เทเป 306 00:20:52,763 --> 00:20:54,123 ‎ผู้ที่ปรากฏตัวที่นี่ 307 00:20:54,203 --> 00:20:56,603 ‎ในดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ ‎หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ 308 00:20:58,963 --> 00:21:01,763 ‎ถ้าเป็นเช่นนั้น พวกเขาพยายามจะบอกอะไร 309 00:21:05,323 --> 00:21:09,483 ‎ภาพสัตว์ทั้งหมดนี้ ‎อาจกำลังบอกอะไรเราบางอย่างใช่มั้ย 310 00:21:13,603 --> 00:21:15,963 ‎ในการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ 311 00:21:16,043 --> 00:21:18,923 ‎ผมได้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับโกเบคลี เทเป 312 00:21:19,003 --> 00:21:22,843 ‎ซึ่งทำให้เรื่องราวน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก 313 00:21:26,603 --> 00:21:30,803 ‎ผมได้พบกับดร.มาร์ติน สเวตแมน ‎ที่พิพิธภัณฑ์ซานลืออูร์ฟาที่อยู่ไม่ไกล 314 00:21:31,683 --> 00:21:36,003 ‎สถานที่เก็บผลงานจำลองของ ‎กำแพงที่ใหญ่ที่สุดของโกเบคลี เทเป 315 00:21:37,683 --> 00:21:41,203 ‎นักวิทยาศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา ‎และสนใจในดาราศาสตร์โบราณ 316 00:21:41,283 --> 00:21:44,083 ‎งานวิจัยของเขาเน้นไปที่เสาเลขที่ 43 317 00:21:45,403 --> 00:21:47,723 ‎ที่เรียกกันว่าหินนกแร้ง 318 00:21:50,803 --> 00:21:53,603 ‎เสานี้มีความสำคัญยังไงกับคุณ มาร์ติน 319 00:21:54,723 --> 00:21:58,803 ‎มันน่าจะเป็นวัตถุโบราณที่สำคัญที่สุดชิ้นนึงในโลก 320 00:21:58,883 --> 00:22:00,003 ‎มันน่าทึ่งมาก 321 00:22:00,843 --> 00:22:03,443 ‎เสาต้นนี้เป็นเหมือนศิลาโรเซตตา 322 00:22:03,523 --> 00:22:04,723 ‎ครับ 323 00:22:04,803 --> 00:22:08,083 ‎ดร.สเวตแมนเชื่อว่าสัญลักษณ์บนหินนั่น 324 00:22:08,163 --> 00:22:10,323 ‎อาจเป็นกลุ่มดาว 325 00:22:11,523 --> 00:22:15,043 ‎ภาพที่ต้องการแสดงถึงกลุ่มดาวสว่างไสว ‎บนท้องฟ้ายามค่ำคืน 326 00:22:15,843 --> 00:22:18,203 ‎เราเห็นได้ว่ามีแมงป่อง 327 00:22:18,283 --> 00:22:20,403 ‎เราเดาได้ว่าน่าจะเป็นกลุ่มดาวแมงป่อง 328 00:22:20,483 --> 00:22:22,843 ‎มันก็น่าจะสรุปว่าเป็นกลุ่มดาวแมงป่องอยู่หรอก 329 00:22:22,923 --> 00:22:24,203 ‎ใช่แล้ว 330 00:22:24,683 --> 00:22:27,923 ‎วัฒนธรรมต่างกันมีชื่อและภาพแตกต่างกัน 331 00:22:28,003 --> 00:22:30,163 ‎ตามกลุ่มดาวของจักรราศี 332 00:22:30,243 --> 00:22:35,123 ‎มันจึงเป็นความพิเศษที่ได้เห็นกลุ่มดาว ‎ที่เรารู้จักบนเสาเลขที่ 43 333 00:22:35,203 --> 00:22:38,403 ‎เหนือขึ้นไป เราจะเห็นเป็นกลุ่มดาวม้า 334 00:22:38,483 --> 00:22:42,203 ‎เรารู้ว่าเป็นกลุ่มดาวม้า ‎เพราะมีคนยิงธนู คันธนู และลูกธนู 335 00:22:43,083 --> 00:22:47,683 ‎แล้วเราก็เห็นนกแร้ง ‎ที่กางปีกออกเป็นองศาที่พอดี 336 00:22:47,763 --> 00:22:49,363 ‎กับคันธนูและลูกธนู 337 00:22:49,443 --> 00:22:51,763 ‎แล้วเราก็เห็นว่ามีสัญลักษณ์สัตว์อื่นๆ 338 00:22:51,843 --> 00:22:54,043 ‎ที่ตรงกับกลุ่มดาว 339 00:22:54,123 --> 00:22:57,803 ‎แทบจะเหมือนแผนที่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน 340 00:23:01,443 --> 00:23:03,843 ‎นี่เป็นแผนที่ของดาวที่เห็นได้ชัดที่สุด 341 00:23:03,923 --> 00:23:07,323 ‎รอบๆ ดาวที่ปัจจุบันเรียกว่ากลุ่มดาวแมงป่อง 342 00:23:09,003 --> 00:23:13,163 ‎พอเราเทียบกลุ่มดาวแมงป่อง ‎กับภาพแมงป่องบนเสาเลขที่ 43 343 00:23:14,403 --> 00:23:17,043 ‎กลุ่มดาวอื่นๆ ใกล้เคียงดูจะตรงกับ 344 00:23:17,123 --> 00:23:19,523 ‎ภาพอื่นๆ ที่แกะไว้บนเสา 345 00:23:23,803 --> 00:23:26,443 ‎- ทุกอย่างก็เลยลงตัวหมด ‎- ถูกต้อง 346 00:23:27,803 --> 00:23:32,203 ‎แต่การค้นพบที่แท้จริงของดร.สเวตแมน ‎เกิดขึ้นเมื่อเขาพิจารณาสมมติฐานที่ว่า 347 00:23:32,283 --> 00:23:35,603 ‎วงตรงกลางอาจเป็นพระอาทิตย์ 348 00:23:37,563 --> 00:23:41,803 ‎มันพยายามจะบอกอะไร ‎ถ้ามันเป็นภาพของพระอาทิตย์ 349 00:23:41,883 --> 00:23:45,203 ‎ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มดาวเหล่านี้ 350 00:23:45,843 --> 00:23:48,843 ‎สิ่งหนึ่งที่เราอาจบ่งชี้ได้คือวันที่ 351 00:23:51,803 --> 00:23:55,963 ‎เบาะแสเรื่องนั้นก็คือ ‎มีสัญลักษณ์สัตว์อื่นๆ อีกสามตัว 352 00:23:56,043 --> 00:23:57,123 ‎ที่ด้านบนของเสา 353 00:23:57,203 --> 00:24:00,843 ‎ซึ่งยืนยันแนวคิดนี้ว่ามันคือวันที่ 354 00:24:00,923 --> 00:24:02,443 ‎รอยประทับวันที่นั่นเอง 355 00:24:04,243 --> 00:24:05,523 ‎ดร.สเวตแมนเชื่อว่า 356 00:24:05,603 --> 00:24:08,923 ‎สัตว์เล็กๆ สามตัว ‎ที่ถูกแกะไว้ด้านบนของเสาเลขที่ 43 357 00:24:09,003 --> 00:24:13,563 ‎ที่อยู่ข้างสัญลักษณ์แทนพระอาทิตย์ตกสามภาพ 358 00:24:15,483 --> 00:24:18,243 ‎เมื่อเทียบกับพระอาทิตย์ตรงกลางหิน 359 00:24:18,323 --> 00:24:22,003 ‎มันอาจเป็นภาพสี่ช่วงเวลาสำคัญในหนึ่งปีสุรยคติ 360 00:24:22,083 --> 00:24:27,523 ‎ครีษมายัน เหมายัน ‎และวิษุวัตในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง 361 00:24:30,163 --> 00:24:34,003 ‎ภาพแกะสลักแสดงให้เห็นกลุ่มดาว ‎ที่ปรากฏบนท้องฟ้ายามค่ำคืน 362 00:24:34,083 --> 00:24:36,523 ‎ด้านหลังหรือรอบพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน 363 00:24:36,603 --> 00:24:39,043 ‎ในวันสำคัญแต่ละวันในปีปฏิทิน 364 00:24:41,243 --> 00:24:45,923 ‎จู่ๆ เราก็ได้สี่ช่วงเวลาสำคัญของปี 365 00:24:46,003 --> 00:24:48,843 ‎ในช่วงเวลาที่พวกเขาอยากให้เรามุ่งไปที่ 366 00:24:48,923 --> 00:24:51,083 ‎- การให้ความสำคัญกับเสา ‎- ใช่เลย 367 00:24:53,603 --> 00:24:56,003 ‎มันเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ 368 00:24:57,563 --> 00:25:02,123 ‎วันที่ที่แกะสลักลงบนหิน ‎ในภาษาดาราศาสตร์ทั่วไป 369 00:25:04,283 --> 00:25:06,803 ‎เสาพูดถึงวันที่อะไรอยู่ 370 00:25:09,003 --> 00:25:10,843 ‎ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ 371 00:25:10,923 --> 00:25:14,563 ‎ที่ออกแบบมาเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลง ‎บนท้องฟ้ายามค่ำคืนในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา 372 00:25:15,403 --> 00:25:21,083 ‎เราจะพบช่วงเวลา 100 ปี ‎ที่ตรงกับทฤษฎีของมาร์ตินพอดี 373 00:25:22,043 --> 00:25:25,043 ‎ในที่สุด ผมก็พบว่าเราคำนวณได้ว่า 374 00:25:25,123 --> 00:25:29,403 ‎เป็นช่วงราว ‎10,900 ถึง 10,800 ปีก่อนคริสตกาล 375 00:25:34,043 --> 00:25:38,803 ‎แต่นั่นมันเก่าแก่กว่า ‎ตอนเริ่มสร้างโกเบคลี เทเปเป็นพันปีทีเดียว 376 00:25:40,803 --> 00:25:42,563 ‎ทำไมวันที่นั้นถึงสำคัญนัก 377 00:25:42,643 --> 00:25:47,483 ‎เรารู้เรื่องช่วงเวลานั้นในประวัติศาสตร์ ‎ค่อนข้างเยอะ 378 00:25:47,563 --> 00:25:52,843 ‎ในช่วงเวลานั้นเกือบพอดี ‎ในช่วง 100 ปีสั้นๆ นั้น 379 00:25:52,923 --> 00:25:58,603 ‎มีเหตุการณ์อากาศเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ‎ที่เรียกกันว่ายังเกอร์ ดรายอัส 380 00:25:58,683 --> 00:26:00,723 ‎มันเปลี่ยนโลกของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง 381 00:26:07,483 --> 00:26:10,403 ‎เราพูดถึงเรื่องนี้ว่าเป็นวันล้างโลกโบราณ 382 00:26:10,483 --> 00:26:13,243 ‎แต่นักวิทยาศาสตร์เรียกมันว่ายังเกอร์ ดรายอัส 383 00:26:14,403 --> 00:26:19,363 ‎มันเริ่มต้นด้วยหายนะเมื่อ 12,800 ปีก่อน 384 00:26:19,443 --> 00:26:23,163 ‎และจบลงเมื่อ 11,600 ปีก่อน 385 00:26:23,243 --> 00:26:25,563 ‎วันที่ก่อสร้างโกเบคลี เทเปพอดี 386 00:26:28,443 --> 00:26:33,483 ‎โลกประสบปัญหา ‎จากการยกตัวของผิวโลกครั้งใหญ่ 387 00:26:34,043 --> 00:26:35,923 ‎รวมไปถึงน้ำท่วมครั้งสำคัญ 388 00:26:36,963 --> 00:26:40,763 ‎ตามด้วยอุณหภูมิอันหนาวเหน็บกว่า 1,000 ปี 389 00:26:41,883 --> 00:26:44,843 ‎ชีวิตบนโลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง 390 00:26:46,123 --> 00:26:49,283 ‎เสือเขี้ยวดาบและแมมมอธสูญพันธุ์ไปหมด 391 00:26:51,763 --> 00:26:53,523 ‎แต่มนุษยชาติรอดชีวิต 392 00:26:56,203 --> 00:26:59,243 ‎ราว 11,600 ปีก่อน 393 00:26:59,323 --> 00:27:02,923 ‎ความหนาวเย็นจบลงด้วย ‎น้ำท่วมครั้งใหญ่ครั้งสุดท้าย 394 00:27:03,003 --> 00:27:05,083 ‎ที่เพิ่มระดับน้ำทะเลทั่วโลก 395 00:27:08,323 --> 00:27:11,963 ‎ตอนนั้นเอง หลังจากโลกกลับมาสงบสุขอีกครั้ง 396 00:27:12,043 --> 00:27:14,563 ‎ที่การสร้างโกเบคลี เทเปเริ่มต้นขึ้น 397 00:27:16,283 --> 00:27:19,043 ‎และผมเชื่อว่าช่วงเวลาไม่ใช่เหตุบังเอิญ 398 00:27:21,203 --> 00:27:23,683 ‎มันเป็นสิ่งที่ผมมาดูโกเบคลี เทเป 399 00:27:24,323 --> 00:27:27,163 ‎ว่าเป็นการตั้งต้นใหม่ของอารยธรรม 400 00:27:27,243 --> 00:27:29,603 ‎จากช่วงเวลาที่มีอารยธรรมก่อนหน้า 401 00:27:29,683 --> 00:27:31,763 ‎ซึ่งถูกทำลายไปในหายนะครั้งยิ่งใหญ่ 402 00:27:38,083 --> 00:27:40,323 ‎ดีจังที่ได้เห็นเสาเลขที่ 43 ที่นี่ 403 00:27:40,403 --> 00:27:43,763 ‎มันถูกเก็บไว้อย่างดีมาก 404 00:27:44,323 --> 00:27:47,243 ‎ถ้าคิดว่ามันอายุได้ 11,600 ปีแล้ว 405 00:27:47,963 --> 00:27:49,203 ‎น่าทึ่งทีเดียว 406 00:27:52,323 --> 00:27:56,923 ‎ถ้าสิ่งก่อสร้างเชิงซ้อนลึกลับนี้ ‎ไม่ใช่แค่สถานที่ประกอบพิธีกรรม 407 00:27:57,003 --> 00:28:01,243 ‎แต่ยังเป็นอนุสรณ์สถานแห่งการระลึกถึง ‎เหตุการณ์ที่เปลี่ยนโลกล่ะ 408 00:28:03,883 --> 00:28:05,323 ‎มันก็สมเหตุสมผลนะ 409 00:28:05,923 --> 00:28:08,963 ‎สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบางแห่งทุกวันนี้ ‎ก็เป็นอนุสรณ์สถานเช่นกัน 410 00:28:10,403 --> 00:28:12,963 ‎อนุสรณ์สถานลินคอล์นในวอชิงตันดีซี 411 00:28:14,443 --> 00:28:16,443 ‎หรือทาจมาฮาลในอินเดีย 412 00:28:17,523 --> 00:28:20,563 ‎แต่โกเบคลี เทเปเป็นมากกว่านั้นหรือเปล่า 413 00:28:22,603 --> 00:28:25,003 ‎ถ้าสถาปนิกผู้สร้างมันจงใจ 414 00:28:25,083 --> 00:28:27,883 ‎ทิ้งข้อความสำคัญที่สุดไว้ 415 00:28:27,963 --> 00:28:31,043 ‎ข้อความเพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ไขล่ะ 416 00:28:32,123 --> 00:28:34,203 ‎เพราะเมื่อนักโบราณคดี 417 00:28:34,283 --> 00:28:37,523 ‎ระบุอายุของเศษซากที่ปกคลุมพื้นที่ได้แล้ว 418 00:28:37,603 --> 00:28:39,403 ‎พวกเขายังเจอเรื่องน่าแปลกใจอีกอย่าง 419 00:28:41,963 --> 00:28:44,523 ‎ในช่วงเวลาหนึ่งราว 10,000 ปีก่อน 420 00:28:45,763 --> 00:28:47,723 ‎สิ่งก่อสร้างทั้งหมดถูกฝัง 421 00:28:48,403 --> 00:28:53,523 ‎อย่างรวดเร็วและรอบคอบในเวลาเดียวกัน 422 00:28:56,083 --> 00:29:00,363 ‎ความพยายามครั้งมโหฬารถูกใช้ ‎ในการฝังโกเบคลี เทเป 423 00:29:00,443 --> 00:29:02,403 ‎ไม่เพียงแค่ฝังมัน 424 00:29:02,483 --> 00:29:06,603 ‎แต่สร้างเนินเขาฝีมือมนุษย์คลุมมันไว้ด้วย 425 00:29:06,683 --> 00:29:10,043 ‎เราต้องนึกภาพคนหลายร้อยคน 426 00:29:10,123 --> 00:29:14,243 ‎แบกเศษหินเศษดินเป็นตะกร้า ‎แล้วเทลงไปปิดมันไว้ 427 00:29:18,283 --> 00:29:21,563 ‎แต่คำถามคือ พวกเขาทำอย่างนั้นทำไม 428 00:29:24,283 --> 00:29:28,123 ‎มันไม่ได้ร้าง มันไม่ได้เสียหายหรือถูกทำลาย 429 00:29:28,203 --> 00:29:32,403 ‎มันถูกฝังไว้อย่างระมัดระวัง ‎ซ่อนและเก็บรักษาไว้ 430 00:29:33,843 --> 00:29:37,763 ‎มันยังคงอยู่อย่างปลอดภัยมาหลายพันปี 431 00:29:38,443 --> 00:29:40,323 ‎จนถูกค้นพบอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ 432 00:29:42,123 --> 00:29:46,883 ‎ผมคิดว่าสิ่งที่เราเห็นที่นี่ ‎เหมาะแล้วที่จะเป็นแคปซูลกาลเวลา 433 00:29:46,963 --> 00:29:49,203 ‎เช่นเดียวกับแคปซูลกาลเวลาทั้งหลาย 434 00:29:49,283 --> 00:29:52,643 ‎เป้าหมายของมันคือการส่งข้อความไปอนาคต 435 00:29:56,163 --> 00:30:01,283 ‎ที่โกเบคลี เทเปและคาราฮาน เทเปก็เช่นกัน ‎มีงูเป็นภาพที่โดดเด่น 436 00:30:02,083 --> 00:30:03,403 ‎มีบางอย่างที่เกี่ยวกับ 437 00:30:03,483 --> 00:30:06,443 ‎การขดตัวของมัน รูปร่างที่เลื้อยลงถูกวาดไว้ 438 00:30:06,523 --> 00:30:09,283 ‎ราวกับผู้สร้างหมกมุ่นกับมัน 439 00:30:10,203 --> 00:30:12,323 ‎ราวกับงูเหล่านี้เป็นข้อความหนึ่ง 440 00:30:12,403 --> 00:30:15,443 ‎ที่พวกเขาอยากให้เรารับไปจากทั้งสองที่ 441 00:30:17,283 --> 00:30:22,083 ‎แต่พวกมันคืองู หรือพวกมันเป็นตัวแทนสิ่งอื่น 442 00:30:26,403 --> 00:30:31,723 ‎ดูเหมือนทุกที่ที่เราเจอร่องรอย ‎ของประวัติศาสตร์มนุษย์ช่วงที่ถูกลืมไป 443 00:30:31,803 --> 00:30:33,323 ‎เราจะเจองูด้วย 444 00:30:34,363 --> 00:30:37,923 ‎ในเม็กซิโก เควตซาลโคลาเทิลเองก็เป็นงู 445 00:30:38,843 --> 00:30:42,483 ‎ในมอลตา เราข้ามเข้าไป ‎ในห้องสักการะด้านในของจกันติจา 446 00:30:42,563 --> 00:30:44,403 ‎ด้วยการเดินบนงู 447 00:30:47,563 --> 00:30:52,923 ‎ผมคิดว่าผมรู้ว่างูเหล่านี้หมายถึงอะไร ‎และตัวอย่างที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ในตุรกี 448 00:30:54,363 --> 00:30:59,363 ‎มันอยู่ห่างออกไปครึ่งโลก ‎กลางประเทศอเมริกา ในโอไฮโอ 449 00:31:00,203 --> 00:31:06,163 ‎ที่ซึ่งนักปราชญ์โบราณ ‎สร้างงูบนขนาดมหึมาไว้บนพื้นโลก 450 00:31:06,923 --> 00:31:10,883 ‎เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานและอาจเป็นคำเตือนด้วย 451 00:31:37,643 --> 00:31:42,643 ‎คำบรรยายโดย พรทินา ตั้งสัจจะวิฑูรย์