1 00:00:14,203 --> 00:00:15,163 ‎ยามราตรี… 2 00:00:15,243 --> 00:00:17,763 ‎(ซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX) 3 00:00:19,283 --> 00:00:23,323 ‎เผยให้เห็นสายสัมพันธ์ ‎ระหว่างโลกของเรากับจักรวาล 4 00:00:28,203 --> 00:00:29,603 ‎ดาวตก 5 00:00:31,243 --> 00:00:34,523 ‎หินโบราณจากห้วงอวกาศ… 6 00:00:38,723 --> 00:00:39,923 ‎ที่ร่วงลงสู่พื้นโลก 7 00:00:50,363 --> 00:00:55,363 ‎ข้างในบรรจุธาตุเคมี ‎ที่สร้างจักรวาลของเราขึ้นมา 8 00:01:10,523 --> 00:01:12,403 ‎เป็นเวลานานหลายชั่วรุ่นนับไม่ถ้วน 9 00:01:13,043 --> 00:01:16,203 ‎ที่เต่าทะเลท่องไปในมหาสมุทร 10 00:01:16,803 --> 00:01:20,523 ‎รวบรวมองค์ประกอบจักรวาลในอาหารที่มันกิน 11 00:01:24,203 --> 00:01:28,083 ‎และอย่างที่มันได้ทำมานานหลายร้อยล้านปี 12 00:01:33,923 --> 00:01:35,603 ‎เต่ารุ่นใหม่ทุกรุ่น 13 00:01:37,563 --> 00:01:40,683 ‎นำละอองดาวเดียวกันนี้มาใช้ใหม่… 14 00:01:43,363 --> 00:01:45,243 ‎สร้างขึ้นเป็นรุ่นต่อไป 15 00:01:53,843 --> 00:01:55,443 ‎ถือกำเนิดในบิ๊กแบง 16 00:01:56,883 --> 00:01:59,443 ‎และหลอมในใจกลางดาวฤกษ์ 17 00:02:01,683 --> 00:02:05,643 ‎คือธาตุ 90 ชนิดที่สร้างทุกสิ่งขึ้นมา 18 00:02:08,163 --> 00:02:10,723 ‎ถูกนำกลับไปแปรรูปใช้ใหม่ไม่มีที่สิ้นสุด 19 00:02:11,723 --> 00:02:15,643 ‎ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของจักรวาล 20 00:02:18,283 --> 00:02:19,323 ‎และตอนนี้ 21 00:02:21,683 --> 00:02:23,763 ‎ด้วยธาตุเดียวกันนี้เอง 22 00:02:24,803 --> 00:02:27,443 ‎เต่าตัวใหม่ทุกตัวจะเริ่มต้นวงจรชีวิต… 23 00:02:34,003 --> 00:02:37,643 ‎ที่สะท้อนชีวิตของดวงดาว 24 00:03:05,883 --> 00:03:12,843 ‎(ธาตุ) 25 00:03:18,443 --> 00:03:21,323 ‎บนแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ ‎ของออสเตรเลีย 26 00:03:28,723 --> 00:03:31,323 ‎ได้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น 27 00:03:37,923 --> 00:03:40,603 ‎หลังจากอยู่ใต้ผืนทรายนาน 50 วัน 28 00:03:41,523 --> 00:03:47,003 ‎ธาตุเคมีจากทั่วทั้งจักรวาลได้สร้างชีวิตขึ้นมา 29 00:03:49,323 --> 00:03:55,203 ‎ผสมรวมกันเพื่อก่อตัวเป็นเต่าตนุรุ่นต่อไป 30 00:04:18,443 --> 00:04:22,683 ‎บัดนี้ไข่ไม่เหลือธาตุสารอาหาร ‎ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตแล้ว 31 00:04:39,803 --> 00:04:45,203 ‎และวันนี้ ลูกเต่าจะได้ ‎สูดอากาศเข้าไปเป็นครั้งแรก 32 00:04:59,123 --> 00:05:03,043 ‎และในขณะที่พี่ๆ น้องๆ ต่างกุลีกุจอกันคลานลงน้ำ 33 00:05:08,643 --> 00:05:10,043 ‎ตัวเมียตัวน้อย… 34 00:05:12,603 --> 00:05:14,763 ‎ได้ฟักไข่ออกมาเป็นตัวสุดท้าย 35 00:05:20,163 --> 00:05:22,203 ‎มันจะเติบโตเต็มวัยได้ 36 00:05:23,923 --> 00:05:27,923 ‎ก็ต้องเก็บเกี่ยวธาตุเคมีจากทั่วทั้งมหาสมุทร 37 00:05:36,843 --> 00:05:38,443 ‎นี่เป็นเส้นทางที่อันตราย 38 00:05:41,163 --> 00:05:43,603 ‎มีภัยร้ายซุ่มรออยู่ทุกโค้ง 39 00:05:50,443 --> 00:05:52,043 ‎แต่สำหรับลูกเต่า 40 00:05:53,243 --> 00:05:56,563 ‎เสียงเพรียกของมหาสมุทรนั้นเกินต้าน 41 00:06:09,883 --> 00:06:11,443 ‎จากรังที่มีทั้งหมด 100 ตัว 42 00:06:12,363 --> 00:06:14,923 ‎บางครั้งอาจเหลือรอดไปแค่ตัวเดียว 43 00:06:18,723 --> 00:06:20,883 ‎บางครั้งก็ไม่เหลือ 44 00:07:13,603 --> 00:07:15,123 ‎แต่ถึงจะเสี่ยง 45 00:07:17,283 --> 00:07:22,123 ‎หนูน้อยตัวนี้ก็รู้ว่าต้องลงไปในน้ำให้ได้ 46 00:07:59,923 --> 00:08:01,363 ‎มันเห็นโอกาสเปิดให้ 47 00:08:04,723 --> 00:08:05,963 ‎จึงเสี่ยงดวงปรี่ไป 48 00:08:20,923 --> 00:08:21,763 ‎วันนี้ 49 00:08:24,443 --> 00:08:25,803 ‎มันเป็นตัวที่โชคดี 50 00:08:29,123 --> 00:08:34,443 ‎เต่าที่เพิ่งฟักจะว่ายไม่หยุด ‎จนกว่าแนวปะการังจะลับตาไปแล้ว 51 00:08:47,163 --> 00:08:51,763 ‎เมื่อผ่านด่านนักล่า ‎ที่ซุ่มรออยู่ในน่านน้ำตื้นริมชายฝั่งมาได้แล้ว 52 00:08:52,763 --> 00:08:55,963 ‎มันจะว่ายหายไป ‎ในท้องทะเลอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ 53 00:09:03,243 --> 00:09:07,843 ‎เพื่อใช้ช่วงเวลาวัยเด็กไปกับการกินอะตอม 54 00:09:14,283 --> 00:09:20,963 ‎อะตอมที่มีต้นกำเนิด ‎ย้อนกลับไปตลอดช่วงการมีอยู่ของจักรวาล 55 00:09:26,803 --> 00:09:32,603 ‎ถึงยุคที่จักรวาลของเรา ‎เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาได้ไม่นาน 56 00:09:34,323 --> 00:09:38,923 ‎(ปรากฏการณ์บิ๊กแบง) 57 00:09:48,043 --> 00:09:53,243 ‎แผ่ขยายจากความว่างเปล่า ‎กลายเป็นทุกสรรพสิ่งในชั่วพริบตา 58 00:09:56,323 --> 00:09:59,963 ‎จักรวาลของเราอุบัติขึ้นในปรากฏการณ์บิ๊กแบง 59 00:10:07,443 --> 00:10:08,443 ‎ในตอนแรก 60 00:10:09,083 --> 00:10:11,723 ‎มีเพียงแค่หมอกหนาร้อนเท่านั้น 61 00:10:19,123 --> 00:10:21,763 ‎แต่เมื่อมันขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 62 00:10:24,403 --> 00:10:26,043 ‎หมอกก็เริ่มเย็นลง 63 00:10:29,443 --> 00:10:32,403 ‎และในหน่วยเล็กที่สุดที่จินตนาการได้ 64 00:10:33,643 --> 00:10:36,243 ‎สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งก็ได้เกิดขึ้น 65 00:10:42,043 --> 00:10:45,763 ‎หมอกควบแน่นรวมตัวกันกลายเป็นอะตอมกลุ่มแรก 66 00:10:50,163 --> 00:10:52,643 ‎อะตอมไฮโดรเจน 67 00:10:56,083 --> 00:10:59,803 ‎ธาตุชนิดแรกในจักรวาล 68 00:11:06,683 --> 00:11:07,963 ‎และในมหาสมุทร 69 00:11:08,723 --> 00:11:11,963 ‎เต่าวัยละอ่อนกำลังไล่ล่าหามัน 70 00:11:15,203 --> 00:11:17,523 ‎เมื่อมันขึ้นมาจากทะเลลึก 71 00:11:17,603 --> 00:11:20,163 ‎เพื่อหาอาหารในแนวปะการังน้ำตื้น 72 00:11:24,963 --> 00:11:26,603 ‎นี่คือสเตลล่า 73 00:11:27,803 --> 00:11:32,723 ‎หนึ่งในผู้โชคดี ‎ที่รอดชีวิตจากชายหาดและลงทะเลสำเร็จ 74 00:11:41,523 --> 00:11:44,923 ‎น้ำหนักตัวมันมากกว่า ‎ตอนเพิ่งออกจากไข่กว่า 2,000 เท่าแล้ว 75 00:11:45,883 --> 00:11:47,203 ‎และยังโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 76 00:11:51,883 --> 00:11:55,683 ‎ขณะกินสิ่งมีชีวิต ‎ที่มันพบเจอล่องลอยอยู่ในทะเลกว้าง 77 00:11:56,883 --> 00:12:00,043 ‎มันได้เก็บเกี่ยวธาตุชนิดหนึ่งมากเป็นพิเศษ 78 00:12:08,683 --> 00:12:09,523 ‎ไฮโดรเจน 79 00:12:12,603 --> 00:12:16,963 ‎คิดเป็นจำนวนกว่าครึ่ง ‎ของอะตอมทั้งหมดในอาหารที่มันกิน 80 00:12:20,843 --> 00:12:24,923 ‎อีกทั้งยังเป็นธาตุที่ดาษดื่นที่สุดในสิ่งมีชีวิตทั้งมวล 81 00:12:28,643 --> 00:12:29,723 ‎ตั้งแต่ปลา 82 00:12:31,003 --> 00:12:32,723 ‎ไปจนถึงสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 83 00:12:39,003 --> 00:12:41,683 ‎ดอกไม้ทะเลและปะการัง 84 00:12:54,483 --> 00:12:58,843 ‎อะตอมไฮโดรเจนที่เกิดขึ้น ‎ในช่วงเริ่มต้นของจักรวาล 85 00:12:59,563 --> 00:13:03,523 ‎ถูกส่งต่อจากดาวฤกษ์สู่ดาวเคราะห์ 86 00:13:04,363 --> 00:13:06,203 ‎จากดาวเคราะห์สู่สัตว์ 87 00:13:08,363 --> 00:13:11,523 ‎และจากเหยื่อสู่นักล่า 88 00:13:22,123 --> 00:13:23,603 ‎ซึ่งแปลว่าสำหรับสเตลล่า 89 00:13:24,323 --> 00:13:27,323 ‎น่านน้ำที่โอบล้อมแนวปะการัง ‎เต็มไปด้วยภัยอันตราย 90 00:13:30,923 --> 00:13:33,963 ‎ฉลามเสือที่หิวอะตอมเดียวกัน 91 00:13:34,043 --> 00:13:37,283 ‎ล่าเต่าทะเลเป็นอาหาร ‎ตลอดช่วงอายุโตเต็มวัยของมัน 92 00:13:45,323 --> 00:13:49,043 ‎กลยุทธ์ป้องกันหลักของสเตลล่าคือเกราะคู่ใจ 93 00:13:52,323 --> 00:13:55,563 ‎มันคือกระดูกที่แข็งแกร่ง ‎ด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส 94 00:14:02,363 --> 00:14:05,443 ‎ธาตุที่มีจุดกำเนิดในอีกช่วงเวลาสำคัญ… 95 00:14:09,443 --> 00:14:11,323 ‎ในชีวิตของจักรวาลเรา 96 00:14:13,083 --> 00:14:17,483 ‎(13,500 ล้านปีก่อน) 97 00:14:21,963 --> 00:14:25,923 ‎ในช่วง 300 ล้านปีแรกหลังเกิดบิ๊กแบง 98 00:14:28,123 --> 00:14:31,123 ‎ไม่มีดาวเคราะห์หรือดาวฤกษ์สักดวง 99 00:14:34,123 --> 00:14:36,643 ‎ยุคมืดของจักรวาล 100 00:14:42,403 --> 00:14:44,163 ‎ซ่อนเร้นอยู่ในความมืด 101 00:14:44,683 --> 00:14:48,643 ‎กิ่งก้านใหญ่ยาวที่ทำจากแก๊สไฮโดรเจน ‎ไขว้กันทั่วจักรวาล 102 00:14:53,323 --> 00:14:56,163 ‎แต่แล้ว ช่างน่าทึ่ง 103 00:14:56,243 --> 00:14:58,803 ‎ขณะที่แรงโน้มถ่วงดูดมันเข้าหากัน 104 00:15:02,443 --> 00:15:05,003 ‎ดาวฤกษ์กลุ่มแรกถือกำเนิดขึ้น 105 00:15:11,163 --> 00:15:13,203 ‎นี่คือยามรุ่งสางของจักรวาล 106 00:15:16,763 --> 00:15:21,003 ‎ช่วงเวลาที่มีแสงสว่าง 107 00:15:28,043 --> 00:15:30,963 ‎และลึกลงไปในดาวฤกษ์กลุ่มแรกนี้ 108 00:15:34,923 --> 00:15:37,203 ‎ก็ได้เกิดกระบวนการอันน่าทึ่ง 109 00:15:42,843 --> 00:15:46,203 ‎อุณหภูมิและแรงดันสูงมาก 110 00:15:48,123 --> 00:15:50,403 ‎จนก่อให้เกิดธาตุชนิดใหม่ขึ้นมา 111 00:15:52,563 --> 00:15:56,563 ‎อะตอมไฮโดรเจน ‎ถูกอัดเข้าด้วยกันกลายเป็นฮีเลียม 112 00:15:58,843 --> 00:16:01,923 ‎เมื่อหลอมรวมกัน มันปล่อยพลังงานออกมา 113 00:16:04,563 --> 00:16:09,243 ‎เกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ ‎ที่สร้างธาตุที่หนักขึ้นเรื่อยๆ 114 00:16:12,363 --> 00:16:15,883 ‎รวมไปถึงธาตุที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต 115 00:16:17,683 --> 00:16:21,563 ‎ฮีเลียมสามอะตอมรวมกันเป็นคาร์บอน 116 00:16:26,843 --> 00:16:29,603 ‎ธาตุที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล 117 00:16:31,803 --> 00:16:34,763 ‎คาร์บอนบวกฮีเลียมได้ออกซิเจน 118 00:16:36,163 --> 00:16:37,443 ‎อากาศที่เราหายใจ 119 00:16:39,723 --> 00:16:42,923 ‎อะตอมออกซิเจนรวมกันเป็นฟอสฟอรัส 120 00:16:44,963 --> 00:16:47,203 ‎แล้วก็ซิลิคอน ต่อด้วยแคลเซียม 121 00:16:50,243 --> 00:16:53,083 ‎ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด 122 00:16:54,363 --> 00:16:58,843 ‎ถูกสร้างขึ้นในใจกลางดาวฤกษ์ดวงแรกๆ 123 00:17:31,043 --> 00:17:32,043 ‎สำหรับสเตลล่า 124 00:17:33,203 --> 00:17:35,083 ‎ธาตุบางชนิดสำคัญมาก 125 00:17:38,643 --> 00:17:41,243 ‎จนมันยอมเดินทางไกลเพื่อตามหา 126 00:17:47,283 --> 00:17:49,043 ‎(ช่องแคบทอร์เรส) 127 00:17:49,123 --> 00:17:51,563 ‎(ไกลจากบ้าน 300 กิโลเมตร) 128 00:17:51,643 --> 00:17:56,203 ‎เขตน้ำตื้นที่อบอุ่น ‎ระหว่างประเทศออสเตรเลียกับปาปัวนิวกินี 129 00:17:57,403 --> 00:18:00,043 ‎เป็นสรวงสวรรค์หญ้าทะเลเขียวขจี 130 00:18:04,243 --> 00:18:06,723 ‎ทุ่งหญ้าแห่งท้องมหาสมุทร 131 00:18:16,163 --> 00:18:22,003 ‎สเตลล่าเดินทางไกลมาถึงที่นี่ ‎เพื่อจะได้เข้าถึงส่วนผสมวิเศษของมัน 132 00:18:32,603 --> 00:18:34,043 ‎ขณะที่มันเติบโต 133 00:18:34,123 --> 00:18:37,363 ‎หญ้าทะเลจะดูดซึมธาตุต่างๆ จากอวกาศ 134 00:18:37,963 --> 00:18:41,003 ‎ที่เดินทางลงมาถึงก้นทะเล 135 00:18:43,923 --> 00:18:48,243 ‎ใบหญ้าที่กำลังงอกงาม ‎อุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส 136 00:18:49,803 --> 00:18:53,483 ‎ทำให้สเตลล่าได้รับแร่ธาตุที่จำเป็น 137 00:18:55,123 --> 00:18:58,363 ‎ต่อการสร้างและรักษากระดองป้องกันตัว 138 00:19:01,923 --> 00:19:06,203 ‎เสริมกำลังเกราะ ‎เพื่อเตรียมพร้อมรับอุปสรรคเบื้องหน้า 139 00:19:14,443 --> 00:19:17,163 ‎สเตลล่าจะใช้เวลาช่วงวัยรุ่น 140 00:19:17,723 --> 00:19:19,243 ‎ท่องไปในมหาสมุทร 141 00:19:20,963 --> 00:19:24,283 ‎เพื่อค้นหาอะตอมที่ถือกำเนิดขึ้นในดวงดาว 142 00:19:33,283 --> 00:19:35,163 ‎เส้นทางการเติบโตของมัน 143 00:19:37,363 --> 00:19:41,163 ‎ขนานกับเรื่องราวของจักรวาล 144 00:19:45,683 --> 00:19:48,963 ‎เพราะว่าสามหมื่นล้านปีหลังบิ๊กแบง 145 00:19:53,923 --> 00:19:56,883 ‎จักรวาลก็ก้าวพ้นวัยเช่นกัน 146 00:20:02,683 --> 00:20:08,483 ‎มันกำลังเข้าสู่ระยะ ‎ที่มีดาวฤกษ์ก่อตัวขึ้นเป็นจำนวนมาก 147 00:20:08,563 --> 00:20:09,883 ‎(เมื่อ 10,800 ล้านปีที่แล้ว) 148 00:20:12,243 --> 00:20:13,363 ‎ขณะที่ดาวเติบโต 149 00:20:14,003 --> 00:20:17,523 ‎มันถูกดูดเข้าหากันเกิดเป็นกาแล็กซีขนาดใหญ่ 150 00:20:20,123 --> 00:20:22,083 ‎อย่างทางช้างเผือกของเรา 151 00:20:25,043 --> 00:20:27,083 ‎และในกาแล็กซีเหล่านั้น 152 00:20:28,203 --> 00:20:31,243 ‎ธาตุเคมีที่ดาวฤกษ์แต่ละดวงผลิตขึ้นมา 153 00:20:34,563 --> 00:20:41,283 ‎เปลี่ยนสภาพกลายเป็นดาวเคราะห์และดวงจันทร์ 154 00:20:49,963 --> 00:20:51,763 ‎ผ่านไปหลายหมื่นล้านปี 155 00:20:53,363 --> 00:20:59,083 ‎ธาตุเคมีต่างๆ ได้เติบโต ‎กลายเป็นโลกที่เรารู้จักทุกวันนี้ 156 00:21:07,563 --> 00:21:09,323 ‎(วานูอาตู) 157 00:21:09,403 --> 00:21:13,363 ‎(ไกลจากบ้าน 2,000 กิโลเมตร) 158 00:21:23,123 --> 00:21:25,843 ‎ตอนนี้สเตลล่าโตเต็มวัยแล้ว 159 00:21:29,923 --> 00:21:31,483 ‎ลำตัวยาวเกินหนึ่งเมตร 160 00:21:32,323 --> 00:21:35,843 ‎กระดองหนาปกคลุมด้วยสาหร่ายสีเขียว 161 00:21:39,283 --> 00:21:42,843 ‎เป็นเครื่องอำพรางตัว ‎ที่เหมาะสมแก่การว่ายวนตามแนวปะการัง 162 00:21:46,643 --> 00:21:49,603 ‎บัดนี้มันเป็นหนึ่งเดียวกับท้องทะเล 163 00:21:55,843 --> 00:21:57,483 ‎อะตอมจากดวงดาว 164 00:21:59,363 --> 00:22:03,043 ‎ปรับตัวเข้ากับชีวิตในทะเลได้อย่างดี 165 00:22:11,043 --> 00:22:13,363 ‎เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งของชีวิตบนโลก 166 00:22:15,323 --> 00:22:18,603 ‎ที่ถูกจักรวาลปั้นแต่งอย่างวิจิตรงดงาม 167 00:22:35,603 --> 00:22:39,283 ‎ตอนนี้สเตลล่าพร้อมสำหรับขั้นต่อไปในชีวิตแล้ว 168 00:22:43,723 --> 00:22:47,123 ‎เพราะว่ามันกำลังจะได้เป็นแม่เต่า 169 00:22:50,243 --> 00:22:51,363 ‎ในตัวมัน 170 00:22:54,003 --> 00:22:56,603 ‎มีไข่ 100 ใบ 171 00:22:58,323 --> 00:23:01,123 ‎ท้องแรกในอีกหลายท้องในช่วงชีวิตของมัน 172 00:23:03,723 --> 00:23:07,843 ‎กลุ่มละอองดาวอันแสนล้ำค่าของมันเอง 173 00:23:15,803 --> 00:23:17,163 ‎ทั่วทั้งแนวปะการัง 174 00:23:18,403 --> 00:23:21,043 ‎อะตอมต่างประกอบเข้าด้วยกันเป็นชีวิตใหม่ 175 00:23:25,523 --> 00:23:30,323 ‎ทำให้ที่นี่เป็นระบบนิเวศ ‎ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก 176 00:23:35,963 --> 00:23:37,843 ‎แต่โลกของเรา… 177 00:23:41,363 --> 00:23:42,603 ‎เป็นค่าผิดปกติ 178 00:23:45,003 --> 00:23:47,163 ‎ในส่วนที่เหลือของระบบสุริยะ 179 00:23:47,243 --> 00:23:49,203 ‎ธาตุเดียวกันนี้ 180 00:23:49,283 --> 00:23:54,043 ‎ได้สร้างโลกที่ไม่ค่อยจะเหมาะ ‎กับสิ่งมีชีวิตเอาเสียเลย 181 00:23:58,523 --> 00:23:59,883 ‎(ดาวพุธ) 182 00:23:59,963 --> 00:24:01,443 ‎ดาวที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด 183 00:24:02,123 --> 00:24:05,123 ‎ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่อุดมไปด้วยคาร์บอน 184 00:24:07,923 --> 00:24:10,163 ‎แต่แทนที่จะสร้างชีวิต… 185 00:24:10,243 --> 00:24:11,523 ‎(430 องศาเซลเซียส) 186 00:24:11,603 --> 00:24:14,003 ‎คาร์บอนนี้ถูกหลอมเข้าไปในเปลือกดาว 187 00:24:16,203 --> 00:24:19,963 ‎บนโลกที่ถูกแสงดาวแผดเผา 188 00:24:22,563 --> 00:24:26,483 ‎ในขณะเดียวกัน ห่างออกไปจากดวงอาทิตย์ที่สุด ‎ในระบบสุริยะ 189 00:24:26,563 --> 00:24:28,603 ‎อุณหภูมิหนาวยะเยือกของเนปจูน 190 00:24:29,523 --> 00:24:33,803 ‎ทำให้คาร์บอนกับไฮโดรเจน ‎ผนึกกันเป็นกลุ่มก๊าซมีเทน 191 00:24:36,723 --> 00:24:41,123 ‎แก๊สที่ทำให้หายใจไม่ออกนี้ ‎เป็นที่มาของสีฟ้าสดใสของมัน 192 00:24:46,683 --> 00:24:48,003 ‎และแม้แต่บนดาวอังคาร 193 00:24:49,203 --> 00:24:52,243 ‎ดาวเคราะห์ที่มี ‎องค์ประกอบเหมือนโลกทุกประการ 194 00:24:54,363 --> 00:24:57,483 ‎แต่เนื่องจากขาดชั้นบรรยากาศ ‎ที่อุดมไปด้วยออกซิเจน 195 00:24:57,563 --> 00:25:01,243 ‎สิ่งมีชีวิตซับซ้อนจึงไม่สามารถอยู่รอดที่นี่ได้ 196 00:25:07,843 --> 00:25:12,243 ‎มีเพียงบนโลกเท่านั้น ‎ที่สภาพแวดล้อมเหมาะสมพอดี 197 00:25:18,363 --> 00:25:19,523 ‎แต่แม้กระทั่งที่นี่ 198 00:25:20,163 --> 00:25:22,523 ‎การแย่งชิงธาตุก็ดุเดือด 199 00:25:24,243 --> 00:25:25,083 ‎และภัยร้าย… 200 00:25:27,603 --> 00:25:29,363 ‎ไม่เคยอยู่ไกล 201 00:25:44,923 --> 00:25:48,443 ‎โชคดีที่สเตลล่าชำนาญด้านเล่นซ่อนแอบ 202 00:26:29,963 --> 00:26:31,563 ‎ตอนนี้ยังปลอดภัย 203 00:26:34,363 --> 00:26:37,563 ‎สเตลล่าต้องเผชิญกับเรื่องท้าทายที่สุดในชีวิต 204 00:26:39,563 --> 00:26:42,483 ‎การกลับไปยังแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ 205 00:26:43,963 --> 00:26:45,843 ‎และเกาะบ้านเกิด 206 00:26:49,523 --> 00:26:52,123 ‎เพื่อวางไข่ในหลุมทราย 207 00:26:58,923 --> 00:27:01,683 ‎แต่การใช้ทั้งชีวิตท่องไปในมหาสมุทร 208 00:27:02,243 --> 00:27:05,803 ‎แปลว่าตอนนี้มันอยู่ไกลบ้าน 2,000 กิโลเมตร 209 00:27:09,883 --> 00:27:12,123 ‎วิธีการหาทางกลับบ้านของสเตลล่า 210 00:27:12,203 --> 00:27:14,803 ‎ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกธรรมชาติ 211 00:27:21,443 --> 00:27:22,883 ‎ลึกลงไปในโลก 212 00:27:23,643 --> 00:27:26,803 ‎แกนโลกของเราสร้างสนามแม่เหล็ก 213 00:27:28,883 --> 00:27:34,043 ‎ซึ่งทำให้แต่ละที่บนพื้นผิว ‎มีสัญญาณแม่เหล็กที่เป็นเอกลักษณ์ 214 00:27:37,603 --> 00:27:39,163 ‎เมื่อมันฟักไข่ออกมา 215 00:27:39,243 --> 00:27:43,843 ‎สัญญาณที่เกาะของมันถูกฝังเข้าไปในสมอง 216 00:27:46,243 --> 00:27:48,243 ‎และเพื่อหาทางกลับไป 217 00:27:48,323 --> 00:27:51,643 ‎มันก็ต้องพึ่งพาธาตุเคมีอีกชนิดหนึ่ง 218 00:27:53,803 --> 00:27:57,163 ‎ธาตุที่เชื่อมต่อตัวมันเข้ากับแกนโลก 219 00:28:00,443 --> 00:28:05,243 ‎ธาตุที่จะถูกสร้างขึ้นมายามดาวฤกษ์ดับเท่านั้น 220 00:28:10,723 --> 00:28:12,963 ‎ในบริเวณใกล้เคียงของกาแล็กซี 221 00:28:13,763 --> 00:28:15,883 ‎เมื่อสองล้านห้าแสนปีที่แล้ว 222 00:28:16,763 --> 00:28:20,723 ‎เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแกนดาวยักษ์ 223 00:28:25,323 --> 00:28:29,403 ‎ทั้งชีวิตของมัน ‎ขับเคลื่อนด้วยปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น 224 00:28:35,923 --> 00:28:37,243 ‎พลังงานที่ถูกปล่อยออกมานั้น 225 00:28:39,083 --> 00:28:41,883 ‎สร้างธาตุที่หนักขึ้นเรื่อยๆ 226 00:28:45,243 --> 00:28:48,003 ‎จนกระทั่งแกนดาวร้อนมาก 227 00:28:48,683 --> 00:28:49,923 ‎จนมันเริ่มสร้าง 228 00:28:51,683 --> 00:28:52,963 ‎เหล็ก 229 00:28:55,403 --> 00:28:58,243 ‎ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน 230 00:29:03,123 --> 00:29:06,683 ‎เพราะการสร้างเหล็กไม่ปล่อยพลังงานออกมา 231 00:29:07,963 --> 00:29:09,203 ‎แต่ใช้อย่างเดียว 232 00:29:15,923 --> 00:29:18,443 ‎เมื่อมีการผลิตโลหะนี้มากขึ้น 233 00:29:19,283 --> 00:29:23,363 ‎มันก็แพร่กระจายไปทั่วแกน เหมือนโรคร้าย 234 00:29:27,203 --> 00:29:29,203 ‎กลืนกินความร้อนของดาว 235 00:29:33,923 --> 00:29:35,043 ‎บีบอัดมัน 236 00:29:46,323 --> 00:29:48,803 ‎เมื่อไม่มีแหล่งความร้อนคอยค้ำจุน 237 00:29:52,883 --> 00:29:54,603 ‎ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป 238 00:29:57,523 --> 00:29:59,923 ‎ดาวดวงนี้จึงหมดอนาคต 239 00:30:11,643 --> 00:30:16,443 ‎การระเบิดที่ตามมา ‎เจิดจ้าเทียบเท่าดวงอาทิตย์หมื่นล้านดวง 240 00:30:22,043 --> 00:30:27,323 ‎ปรากฏการณ์ซูเปอร์โนวา ‎ที่ขับเคลื่อนฝุ่นที่อุดมไปด้วยเหล็กข้ามกาแล็กซี 241 00:30:35,163 --> 00:30:38,283 ‎มาจนถึงดาวโลกของเรา 242 00:30:43,203 --> 00:30:44,483 ‎และแม้แต่ตอนนี้ 243 00:30:45,323 --> 00:30:50,523 ‎ก็ยังมีละอองดาวร่วงลงมา ‎สู่ชั้นบรรยากาศโลกวันละ 100 ตัน 244 00:30:53,123 --> 00:30:57,003 ‎บางส่วนหลงเหลือมาจากตอนที่ระบบสุริยะก่อตัว 245 00:31:00,643 --> 00:31:04,523 ‎บางส่วนถูกพัดพามาจากซูเปอร์โนวาไกลโพ้น 246 00:31:08,443 --> 00:31:13,723 ‎สายเชื่อมโดยตรง ‎ระหว่างโลกของเรากับดวงดาว 247 00:31:19,723 --> 00:31:22,483 ‎และธาตุเหล็กในละอองนี้เอง 248 00:31:22,563 --> 00:31:25,643 ‎ที่ช่วยให้สเตลล่ารู้ทางกลับบ้าน 249 00:31:33,563 --> 00:31:35,243 ‎เพราะลึกลงไปในสมองมัน 250 00:31:38,323 --> 00:31:43,843 ‎คาดว่ามีเซลล์พิเศษที่ด้านในมีผลึกแมกนีไทต์ 251 00:31:44,563 --> 00:31:48,803 ‎แร่ที่อุดมไปด้วยเหล็ก ‎ซึ่งเรียงตัวกันตามสนามแม่เหล็กของโลก 252 00:31:52,803 --> 00:31:53,723 ‎เข็มทิศ 253 00:31:55,603 --> 00:31:57,723 ‎ที่ชี้มันไปในทางที่ถูกต้อง 254 00:32:05,483 --> 00:32:11,883 ‎ทำให้สเตลล่าหาลายนิ้วมือ ‎ของสนามแม่เหล็กที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านได้ 255 00:32:19,523 --> 00:32:23,243 ‎ดังนั้นธาตุที่หลอมขึ้นในใจกลางซูเปอร์โนวา… 256 00:32:30,403 --> 00:32:34,483 ‎ตอนนี้จะนำทางมันข้าม ‎มหาสมุทรไร้รูปร่างไกลหลายกิโลเมตร 257 00:32:48,643 --> 00:32:50,163 ‎กลับไปยังเกาะ… 258 00:32:53,843 --> 00:32:55,523 ‎บ้านเกิดของมัน 259 00:33:08,163 --> 00:33:12,523 ‎แต่สัตว์ตัวอื่นก็มีทักษะ ‎ใช้แม่เหล็กนำทางกลับบ้านเช่นกัน 260 00:33:14,723 --> 00:33:16,683 ‎ฉลามเสือก็มี 261 00:33:19,643 --> 00:33:22,483 ‎และมันกำลังพาทั้งคู่กลับไปที่เกาะเดียวกัน 262 00:33:26,603 --> 00:33:28,963 ‎เพราะในช่วงสองสามเดือนของทุกปี 263 00:33:29,043 --> 00:33:32,843 ‎เต่าตัวเมียหลายพันตัวจะมาวางไข่ที่นี่ 264 00:33:34,643 --> 00:33:37,923 ‎มันเป็นแหล่งรวมเต่าตนุจำนวนมากที่สุด 265 00:33:38,003 --> 00:33:40,003 ‎บนโลกใบนี้ 266 00:33:45,643 --> 00:33:47,523 ‎และเมื่อมันเข้าใกล้ฝั่ง 267 00:33:49,123 --> 00:33:50,483 ‎ฉลามก็เริ่มหากิน 268 00:34:03,843 --> 00:34:06,203 ‎สเตลล่าต้องรอจังหวะที่เหมาะสม 269 00:34:08,883 --> 00:34:10,083 ‎ต้องรอโอกาส 270 00:34:12,203 --> 00:34:14,123 ‎เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี 271 00:34:32,123 --> 00:34:33,843 ‎เมื่อพ้นอันตรายแล้ว 272 00:34:37,483 --> 00:34:39,123 ‎มันจึงได้ว่ายขึ้นฝั่งในที่สุด 273 00:34:52,323 --> 00:34:54,203 ‎หลังจากการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ 274 00:34:57,123 --> 00:34:59,483 ‎สเตลล่าคลานขึ้นมาบนหาดทราย 275 00:35:00,883 --> 00:35:03,603 ‎ที่ได้สัมผัสเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อแรกเกิด 276 00:35:28,083 --> 00:35:30,963 ‎ธาตุที่มันเก็บสะสมมาทั้งชีวิต… 277 00:35:36,643 --> 00:35:39,203 ‎ถูกส่งต่อสู่ผืนทรายอย่างปลอดภัยแล้ว 278 00:35:45,283 --> 00:35:47,003 ‎ภารกิจของสเตลล่าเสร็จสิ้น 279 00:35:47,563 --> 00:35:49,283 ‎และมันกลับสู่ท้องทะเล… 280 00:35:52,923 --> 00:35:56,643 ‎เพื่อเริ่มเก็บเกี่ยวละอองดาวอีกครั้ง 281 00:36:00,523 --> 00:36:01,843 ‎วงจรชีวิตมัน… 282 00:36:03,683 --> 00:36:06,563 ‎สะท้อนวัฏจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 283 00:36:08,483 --> 00:36:12,123 ‎ชีวิตและความตายของดวงดาว 284 00:36:22,523 --> 00:36:25,843 ‎เพราะไกลออกไปในกาแล็กซี 285 00:36:27,043 --> 00:36:29,723 ‎ฝุ่นผงจากซูเปอร์โนวานับจำนวนไม่ถ้วน 286 00:36:29,803 --> 00:36:34,523 ‎มารวมตัวกันกลายเป็นเนบิวลายักษ์ 287 00:36:41,323 --> 00:36:44,523 ‎กลุ่มเมฆหมอกละอองดาวที่แผ่ไกลหลายสิบปีแสง 288 00:36:48,163 --> 00:36:52,843 ‎และลึกลงไปข้างในคือที่ที่ดาวรุ่นต่อไป 289 00:36:53,883 --> 00:36:55,323 ‎กำลังเริ่มก่อตัว 290 00:37:06,843 --> 00:37:08,523 ‎เรียกว่าจานดาวเคราะห์ก่อนเกิด 291 00:37:10,443 --> 00:37:12,963 ‎มันเหมือนไข่คอสมิกขนาดมหึมา 292 00:37:15,043 --> 00:37:17,723 ‎แต่ละใบใหญ่กว่าระบบสุริยะของเรา 293 00:37:23,763 --> 00:37:26,843 ‎ภายในเปลือกที่ทำจากแก๊สมีประจุ 294 00:37:28,603 --> 00:37:31,683 ‎แรงโน้มถ่วงกำลังดึงละอองดาวเข้าหากัน 295 00:37:38,923 --> 00:37:42,563 ‎และละอองดาวในไข่ของสเตลล่า… 296 00:37:45,483 --> 00:37:47,803 ‎ก็เริ่มจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเช่นกัน 297 00:37:56,243 --> 00:38:01,963 ‎ขณะที่ธาตุที่มันเก็บรวบรวมมาถูกแปรสภาพ… 298 00:38:08,323 --> 00:38:12,283 ‎กลายเป็นตัวที่ชักจะคล้าย ‎กับสิ่งมีชีวิตจิ๋วเข้าไปทุกที 299 00:38:24,323 --> 00:38:26,003 ‎และภายในจานดาวเคราะห์ก่อนเกิด 300 00:38:27,883 --> 00:38:30,403 ‎แก๊สอย่างเช่นไฮโดรเจนกับฮีเลียม… 301 00:38:33,163 --> 00:38:35,963 ‎เป็นอาหารให้กับดาวฤกษ์ในระยะฟักตัว 302 00:38:44,923 --> 00:38:46,843 ‎และสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตัวอ่อน… 303 00:38:49,123 --> 00:38:51,283 ‎บัดนี้เป็นเต่าน้อย 304 00:38:55,243 --> 00:38:58,923 ‎มีกระดอง ขาทรงพาย และจะงอยปาก 305 00:39:02,923 --> 00:39:04,723 ‎องค์ประกอบที่ถูกนำมาดัดแปลงใหม่… 306 00:39:08,123 --> 00:39:10,443 ‎เพื่อวิถีชีวิตในทะเล 307 00:39:15,203 --> 00:39:16,483 ‎ในจานดาวเคราะห์ก่อนเกิด 308 00:39:17,043 --> 00:39:20,243 ‎พัฒนาการของดาวฤกษ์ดวงใหม่นี้ ‎ก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์เช่นกัน 309 00:39:21,523 --> 00:39:24,963 ‎ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ ‎จากเถ้าธุลีของดาวรุ่นก่อนๆ 310 00:39:26,163 --> 00:39:30,323 ‎ตอนนี้แสงของมันเผยให้เห็น ‎ครอบครัวดาวเคราะห์ที่กำลังก่อตัวขึ้นในวงโคจร 311 00:39:34,243 --> 00:39:35,363 ‎โลกใบใหม่ 312 00:39:36,283 --> 00:39:40,563 ‎ที่อาจมีสภาพเอื้อต่อสิ่งมีชีวิตด้วยก็ได้ 313 00:39:48,323 --> 00:39:50,083 ‎และใต้ผืนทราย 314 00:39:51,283 --> 00:39:52,803 ‎ละอองดาวเดียวกัน 315 00:39:54,123 --> 00:39:58,963 ‎ที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของดวงดาวและเต่า 316 00:40:00,923 --> 00:40:03,243 ‎จะเริ่มต้นการเดินทางอีกครั้ง 317 00:40:08,203 --> 00:40:09,603 ‎ทุกชีวิตใหม่ 318 00:40:11,123 --> 00:40:15,443 ‎เชื่อมต่อโดยตรงกับจุดเริ่มต้นของจักรวาล 319 00:40:20,883 --> 00:40:26,523 ‎ทุกเรื่องราวใหม่ๆ ‎เริ่มต้นที่จุดจบของเรื่องราวก่อนหน้า 320 00:40:34,923 --> 00:40:39,123 ‎และเรื่องราวปริศนาจักรวาลของเรา ‎จะดำเนินต่อไป 321 00:40:40,803 --> 00:40:43,043 ‎ด้วยทรัพยากรอันมีค่าที่สุดของโลก 322 00:40:46,323 --> 00:40:47,163 ‎น้ำ 323 00:40:48,963 --> 00:40:52,843 ‎และครอบครัวช้างที่ทำภารกิจเสี่ยงเพื่อตามหาน้ำ 324 00:40:57,043 --> 00:40:59,403 ‎การเดินทางของมันนั้นน่าทึ่ง 325 00:41:01,723 --> 00:41:04,843 ‎ไม่แพ้การเดินทางของน้ำข้ามห้วงอวกาศ 326 00:41:04,923 --> 00:41:06,483 ‎มาสู่โลกของเรา 327 00:41:10,683 --> 00:41:14,123 ‎แต่ทำไมโลกถึงเป็นดาวดวงเดียวในระบบสุริยะ 328 00:41:14,883 --> 00:41:17,283 ‎ที่มีน้ำเหลวปกคลุมพื้นผิวล่ะ 329 00:41:18,643 --> 00:41:22,003 ‎แล้วทำไมมันถึงจำเป็นต่อชีวิตนัก 330 00:42:06,843 --> 00:42:11,203 ‎คำบรรยายโดย นันทวัน ริดเดล