1 00:00:11,203 --> 00:00:14,963 ‎(ซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX) 2 00:00:17,683 --> 00:00:18,963 ‎จักรวาล 3 00:00:20,203 --> 00:00:25,243 ‎ได้มอบส่วนผสมทั้งหมด ‎ที่จำเป็นต่อการบังเกิดขึ้นและเติบโตของชีวิต 4 00:00:26,283 --> 00:00:27,403 ‎ให้แก่โลกเรา 5 00:00:29,563 --> 00:00:31,483 ‎พลังงานที่ไหลผ่านตัวเรา 6 00:00:36,523 --> 00:00:38,563 ‎กิจวัตรประจำวันของเรา 7 00:00:41,443 --> 00:00:43,923 ‎ธาตุที่สร้างเราขึ้นมา 8 00:00:47,323 --> 00:00:50,003 ‎แต่เบื้องหลังสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลายเหล่านี้ 9 00:00:50,963 --> 00:00:53,003 ‎คือพลังลึกลับ… 10 00:00:56,083 --> 00:00:58,563 ‎ที่ทำให้ทั้งหมดเป็นไปได้ 11 00:01:01,083 --> 00:01:02,123 ‎แรงโน้มถ่วง 12 00:01:08,643 --> 00:01:11,083 ‎มันตรึงทุกอย่างเข้าที่ 13 00:01:15,803 --> 00:01:17,603 ‎มันสร้างดาวฤกษ์ทุกดวง… 14 00:01:20,643 --> 00:01:22,403 ‎ปั้นแต่งดาวเคราะห์ทุกดวง 15 00:01:26,523 --> 00:01:28,803 ‎และชี้นำทางทุกชีวิต 16 00:01:31,043 --> 00:01:33,563 ‎มันคือพลังดึงดูดขั้นสูงสุด 17 00:01:35,523 --> 00:01:40,283 ‎ล้ำลึกจนนำพาเอาสองชีวิตน้อยมาพบกัน… 18 00:01:42,723 --> 00:01:46,043 ‎ในการค้นหาคู่ที่เหมาะสมที่สุด 19 00:02:08,963 --> 00:02:13,323 ‎(พลังดึงดูด) 20 00:02:13,763 --> 00:02:18,923 ‎ในมหาสมุทรใต้ ‎ห่างจากแอนตาร์กติกากว่า 2,000 กิโลเมตร… 21 00:02:20,123 --> 00:02:21,643 ‎(เกาะเซาท์จอร์เจีย) 22 00:02:21,723 --> 00:02:25,363 ‎เป็นที่ตั้งของเกาะลมแรง ‎ชื่อว่าเกาะเซาท์จอร์เจีย 23 00:02:29,963 --> 00:02:31,483 ‎บ้านของอาณานิคม 24 00:02:32,883 --> 00:02:35,523 ‎เพนกวินจักรพรรดิครึ่งล้านตัว 25 00:02:44,123 --> 00:02:47,243 ‎และนี่เป็นวันสำคัญสำหรับเพนกวินสองตัว 26 00:02:52,643 --> 00:02:53,723 ‎พ่อแม่มือใหม่ 27 00:02:59,083 --> 00:03:00,923 ‎เป็นเวลากว่า 50 วัน 28 00:03:03,443 --> 00:03:07,643 ‎ที่ทั้งสองผลัดกันดูแลไข่ล้ำค่าให้ปลอดภัย… 29 00:03:10,963 --> 00:03:12,283 ‎และอบอุ่น 30 00:03:14,963 --> 00:03:19,563 ‎และในวันนี้ ถึงเวลาต้อนรับ ‎ลูกชายตัวน้อยของมันสู่โลกใบนี้ 31 00:03:30,843 --> 00:03:31,963 ‎หนูน้อยร็อคกี้ 32 00:03:35,123 --> 00:03:37,003 ‎พบกับโลกกว้าง 33 00:03:44,963 --> 00:03:47,483 ‎และที่อีกฟากหนึ่งของเกาะ 34 00:03:48,363 --> 00:03:50,923 ‎นกน้อยอีกตัวกำลังฟักออกมา 35 00:03:54,763 --> 00:03:55,923 ‎ตัวเมีย 36 00:03:57,243 --> 00:03:58,163 ‎พาโลม่า 37 00:04:04,963 --> 00:04:09,523 ‎ร็อคกี้กับพาโลม่ายังไม่รู้ตัวหรอก ‎แต่ทั้งสองเกิดมาคู่กัน 38 00:04:20,843 --> 00:04:24,163 ‎พลังดึงดูดที่อยู่เหนือการควบคุมของมัน 39 00:04:25,563 --> 00:04:27,243 ‎จะนำพามันมาพบกัน 40 00:04:35,963 --> 00:04:40,643 ‎พลังนี้ไม่เพียงกอดร็อคกี้กับพาโลม่า ‎แนบชิดติดพื้นดินเท่านั้น 41 00:04:45,843 --> 00:04:48,803 ‎แต่ยังกอดชั้นบรรยากาศไว้แนบโลกอีกด้วย 42 00:04:55,043 --> 00:04:57,283 ‎มันทำให้โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ 43 00:05:03,083 --> 00:05:08,243 ‎ทำให้ดวงอาทิตย์หมุนรอบแกนกลางกาแล็กซี 44 00:05:09,963 --> 00:05:14,323 ‎และทำให้กาแล็กซีต่างๆ เต้นรำและหมุนรอบกัน 45 00:05:16,083 --> 00:05:18,323 ‎ในระดับที่ยิ่งใหญ่มาก 46 00:05:21,763 --> 00:05:25,523 ‎แรงโน้มถ่วงยึดโยง ‎ทุกชิ้นส่วนของจักรวาลเข้าด้วยกัน 47 00:05:26,643 --> 00:05:28,683 ‎เชื่อมทุกอย่างเข้าหากัน 48 00:05:31,643 --> 00:05:34,003 ‎ตั้งแต่ดวงดาวอันไกลโพ้น 49 00:05:41,683 --> 00:05:43,483 ‎มาจนถึงเพนกวินตัวกระจ้อย 50 00:05:47,723 --> 00:05:52,443 ‎แต่ตอนนี้ร็อคกี้กับพาโลม่า ‎ไม่ได้คิดถึงจุดยืนของตัวเองในจักรวาล 51 00:05:56,483 --> 00:05:58,083 ‎แค่เรื่องอาหารมื้อต่อไป 52 00:06:04,003 --> 00:06:07,323 ‎ต้องใช้ความพยายามทั้งหมดของพ่อแม่ที่ทุ่มเท… 53 00:06:09,883 --> 00:06:12,523 ‎เพื่อหาอาหารมาสนองลูกที่ไม่รู้จักอิ่ม 54 00:06:21,003 --> 00:06:22,283 ‎งานนี้ไม่มีคำขอบคุณ… 55 00:06:25,563 --> 00:06:27,083 ‎และไม่เคยจบไม่เคยสิ้น 56 00:06:42,683 --> 00:06:47,403 ‎พวกมันทำทุกวิถีทาง ‎เพื่อขุนลูกให้อ้วนทันช่วงฤดูหนาว 57 00:06:50,083 --> 00:06:53,283 ‎เพราะในระหว่างที่ร็อคกี้กับพาโลม่าเติบใหญ่ขึ้น 58 00:06:55,243 --> 00:06:58,963 ‎กลางวันก็หดสั้นลงเรื่อยๆ 59 00:07:04,323 --> 00:07:07,323 ‎อาหารเริ่มหายาก 60 00:07:11,923 --> 00:07:14,203 ‎พ่อแม่มันต้องออกจากเกาะ… 61 00:07:18,363 --> 00:07:21,643 ‎เดินทางออกทะเลไปไกลหลายร้อยกิโลเมตร 62 00:07:23,883 --> 00:07:25,163 ‎เพื่อหาอาหาร 63 00:07:27,203 --> 00:07:32,403 ‎ทิ้งให้ลูกน้อยต้องต่อสู้ดิ้นรนกันเอง ‎เป็นเวลาหลายเดือน 64 00:07:43,483 --> 00:07:46,083 ‎ไม่มีใครตอบรับเสียงร้องของพาโลม่า 65 00:07:48,243 --> 00:07:50,923 ‎ในค่ำคืนแรกอันแสนว้าเหว่ 66 00:07:54,123 --> 00:07:57,043 ‎ช่วงเวลาอันมืดมิดที่สุดในชีวิตของลูกเพนกวิน 67 00:08:05,243 --> 00:08:09,723 ‎แต่นั่นเทียบไม่ได้เลย ‎กับช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดในจักรวาลของเรา 68 00:08:12,843 --> 00:08:15,523 ‎เพราะเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว ก่อนที่จะมีโลก 69 00:08:17,323 --> 00:08:18,443 ‎ดวงอาทิตย์ 70 00:08:19,683 --> 00:08:20,923 ‎หรือดวงดาว 71 00:08:25,563 --> 00:08:27,563 ‎ไม่มีประกายแสงใดๆ ทั้งสิ้น 72 00:08:30,283 --> 00:08:33,523 ‎(13,500 ล้านปีก่อน) 73 00:08:37,243 --> 00:08:41,603 ‎จักรวาลเป็นใยแก๊สที่หนาแน่นและมืดมิด 74 00:08:49,323 --> 00:08:53,323 ‎แต่ที่นี่ แรงโน้มถ่วงเริ่มร่ายมนตร์ 75 00:08:56,643 --> 00:09:01,043 ‎จากแรงโน้มถ่วงนี้บังเกิดขึ้นเป็นทุกสรรพสิ่ง 76 00:09:07,443 --> 00:09:09,683 ‎ใยบางส่วนถูกดึงเข้าหากัน 77 00:09:12,043 --> 00:09:13,683 ‎รวมเป็นก้อนสสาร 78 00:09:17,203 --> 00:09:19,803 ‎ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ 79 00:09:24,963 --> 00:09:29,883 ‎ใหญ่มากจนกระทั่งยุบเข้าหาตัวเอง 80 00:09:32,043 --> 00:09:33,523 ‎ก่อกำเนิดขึ้น… 81 00:09:38,723 --> 00:09:42,203 ‎เป็นดาวฤกษ์กลุ่มแรก 82 00:09:50,843 --> 00:09:52,203 ‎แรงโน้มถ่วงทำงานต่อไป 83 00:09:52,923 --> 00:09:57,483 ‎ปั้นแต่งเส้นใยปฐมยุค ‎ขึ้นเป็นดาวฤกษ์ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ 84 00:09:59,963 --> 00:10:02,083 ‎ดึงมันเข้าหากัน 85 00:10:03,563 --> 00:10:06,483 ‎และถักทอเข้าด้วยกัน ‎เป็นกาแล็กซีกว้างใหญ่ไพศาล 86 00:10:13,843 --> 00:10:14,883 ‎จากความว่างเปล่า 87 00:10:15,723 --> 00:10:19,883 ‎แรงโน้มถ่วงสร้างจักรวาล ‎ที่เปี่ยมด้วยความเป็นไปได้ 88 00:10:22,803 --> 00:10:26,243 ‎ซึ่งยังคงทอแสงประดับ ‎ท้องฟ้ายามกลางคืนของเรา 89 00:10:35,843 --> 00:10:40,723 ‎แต่แสงจากดาวฤกษ์ไกลโพ้น ‎ไม่สามารถให้ความอบอุ่นกับลูกเพนกวินได้ 90 00:10:43,723 --> 00:10:45,323 ‎เมื่อพ่อแม่ต้องออกทะเลไป 91 00:10:46,203 --> 00:10:49,163 ‎ร็อคกี้กับพาโลม่าจึงน้ำหนักลด 92 00:10:50,603 --> 00:10:53,843 ‎นับวันยิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ 93 00:11:10,443 --> 00:11:12,843 ‎เครื่องป้องกันความหนาวเหน็บเดียวที่มี 94 00:11:13,523 --> 00:11:14,883 ‎คือขนหนาปุกปุย 95 00:11:16,563 --> 00:11:17,483 ‎กับกันและกัน 96 00:11:19,643 --> 00:11:25,723 ‎ความอยู่รอดของมันขึ้นอยู่กับการเต้นรำ ‎ที่แม่นยำและสง่างามระหว่างดาวฤกษ์หนึ่งดวง 97 00:11:26,363 --> 00:11:27,603 ‎กับดาวเคราะห์หนึ่งดวง 98 00:11:29,363 --> 00:11:34,283 ‎ซึ่งออกแบบขึ้นมาด้วยแรงโน้มถ่วง ‎เมื่อ 4,500 ล้านกว่าปีที่แล้ว 99 00:11:43,843 --> 00:11:48,203 ‎จากฝุ่นละอองและแก๊ส ‎ที่หลงเหลือจากการก่อตัวของดวงอาทิตย์ 100 00:11:51,283 --> 00:11:54,323 ‎แรงโน้มถ่วงได้ดึงเศษหินเข้าด้วยกัน 101 00:12:01,923 --> 00:12:05,203 ‎ค่อยๆ ใช้เวลาหลอมมัน ‎เข้าด้วยกันเป็นดาวเคราะห์ 102 00:12:15,963 --> 00:12:19,523 ‎หน้าตาของมันไม่เหมือนบ้านที่เรารู้จักทุกวันนี้เลย 103 00:12:21,763 --> 00:12:24,483 ‎แต่มันมีศักยภาพครบถ้วนที่จะสร้างชีวิต 104 00:12:28,083 --> 00:12:31,923 ‎อาบแสงเรืองรอง ‎ของดวงอาทิตย์แรกเกิดของเรา 105 00:12:36,563 --> 00:12:41,683 ‎หลายพันปีต่อมา ดวงอาทิตย์ ‎ดวงเดิมนั้นกำลังขึ้นจากขอบฟ้า 106 00:12:45,683 --> 00:12:49,203 ‎ส่งสัญญาณให้พ่อแม่ของร็อคกี้กับพาโลม่า 107 00:12:50,003 --> 00:12:52,603 ‎ว่าถึงเวลากลับเกาะเซาท์จอร์เจีย 108 00:12:57,003 --> 00:13:01,123 ‎พร้อมกับปลาเต็มท้องแล้ว 109 00:13:08,643 --> 00:13:14,683 ‎เมื่อดวงอาทิตย์แผ่ไออุ่นสู่ชายหาด ‎เกาะก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นที่น่าอยู่อีกครั้ง 110 00:13:19,643 --> 00:13:22,923 ‎แต่การกลับเข้าฝั่งเป็นงานที่ง่าย 111 00:13:25,363 --> 00:13:28,643 ‎ตอนนี้พ่อแม่ของร็อคกี้ต้องหาลูกน้อย 112 00:13:29,283 --> 00:13:31,803 ‎ในหมู่ลูกเพนกวินหลายพันตัว 113 00:13:42,643 --> 00:13:47,723 ‎บนชายฝั่ง พ่อแม่ของพาโลม่า ‎ได้ยินเสียงร้องเฉพาะตัวของมัน 114 00:13:48,643 --> 00:13:51,283 ‎และหามันเจออย่างรวดเร็วท่ามกลางฝูงเพนกวิน 115 00:13:58,283 --> 00:14:01,363 ‎และในที่สุด พ่อแม่ของร็อคกี้ก็ได้ยิน 116 00:14:01,883 --> 00:14:03,683 ‎เสียงร้องที่ชัดเจน 117 00:14:05,643 --> 00:14:07,123 ‎ของลูกน้อย 118 00:14:13,523 --> 00:14:17,683 ‎เสียงของมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ‎ที่พ่อแม่มันเท่านั้นจะจำได้ 119 00:14:21,723 --> 00:14:23,243 ‎พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว 120 00:14:25,283 --> 00:14:27,283 ‎และในที่สุดสองท้องน้อยๆ 121 00:14:28,323 --> 00:14:30,243 ‎ก็อิ่มหนำสำราญ 122 00:14:36,483 --> 00:14:40,203 ‎ตั้งแต่ดาวฤกษ์ดวงแรก ‎ไปจนถึงกำเนิดของกาแล็กซี 123 00:14:40,283 --> 00:14:42,283 ‎ดวงอาทิตย์ และดาวโลกของเรา 124 00:14:43,523 --> 00:14:47,003 ‎แรงโน้มถ่วงได้จัดฉากเพื่อสร้างชีวิตขึ้นมา 125 00:14:53,843 --> 00:14:56,163 ‎แต่กว่าโลกจะกลายเป็นบ้านที่เรารู้จักทุกวันนี้ 126 00:14:57,883 --> 00:15:01,563 ‎แรงโน้มถ่วงก็ต้องส่ง ‎ความโกลาหลมาทางเราสักหน่อย 127 00:15:07,363 --> 00:15:10,723 ‎เพื่อจุดประกายกระบวนการวิวัฒนาการ 128 00:15:20,243 --> 00:15:22,043 ‎ผ่านมาแล้วหลายเดือน 129 00:15:23,723 --> 00:15:25,963 ‎ตอนนี้ร็อคกี้โตขึ้นเป็นสองเท่า 130 00:15:28,043 --> 00:15:29,563 ‎และพร้อมตามหาความรัก 131 00:15:30,963 --> 00:15:33,883 ‎แต่มันจะไม่ใช่หนุ่มโสดที่น่าหมายปอง 132 00:15:35,763 --> 00:15:39,163 ‎จนกว่าจะฟิตหุ่นและเสริมหล่อเสียก่อน 133 00:15:43,363 --> 00:15:45,723 ‎ก่อนอื่น ต้องมีชุดใหม่ 134 00:15:50,723 --> 00:15:53,403 ‎เปลี่ยนจากขนปุกปุยวัยเด็ก 135 00:15:55,923 --> 00:15:58,243 ‎เป็นขนสั้นกันน้ำสีมันวาว 136 00:16:00,963 --> 00:16:03,123 ‎มันพร้อมลงไปว่ายน้ำเป็นครั้งแรกแล้ว 137 00:16:16,203 --> 00:16:18,003 ‎ที่อีกฝั่งชายหาด 138 00:16:19,803 --> 00:16:21,883 ‎พาโลม่าก็พร้อมลงทะเลเช่นกัน 139 00:16:31,603 --> 00:16:34,843 ‎เนื่องจากอยู่แต่บนบกมาทั้งชีวิต 140 00:16:36,123 --> 00:16:38,683 ‎นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่น่าหวั่นใจสำหรับทั้งคู่ 141 00:16:43,043 --> 00:16:44,883 ‎ร็อคกี้มโนว่ามันกำลังว่ายน้ำ 142 00:16:49,043 --> 00:16:52,003 ‎แต่พาโลม่าลงไปว่ายน้ำจริงๆ 143 00:17:03,523 --> 00:17:07,523 ‎ในที่สุดร็อคกี้ก็ตามทันว่าต้องลงน้ำก่อน 144 00:17:12,723 --> 00:17:16,403 ‎นกหนุ่มสาวเหล่านี้จะออกทะเลไปนานสองปี 145 00:17:19,003 --> 00:17:21,643 ‎บนเส้นทางของตัวเอง 146 00:17:26,603 --> 00:17:29,403 ‎มีสมบัติมากมายรออยู่ในท้องทะเล 147 00:17:32,363 --> 00:17:33,443 ‎ต้องขอบคุณแรงโน้มถ่วง 148 00:17:36,403 --> 00:17:38,523 ‎และเพื่อนบ้านที่อยู่ชิดกับเรา 149 00:17:43,963 --> 00:17:48,123 ‎(4,400 ล้านปีก่อน) 150 00:17:49,523 --> 00:17:51,803 ‎หลังโลกก่อตัวขึ้นได้ไม่นาน 151 00:17:55,163 --> 00:17:57,683 ‎มันปะทะเข้ากับโลกใหม่อีกใบ 152 00:18:13,403 --> 00:18:15,243 ‎และจากเศษซากที่โคจรรอบโลก 153 00:18:21,003 --> 00:18:24,523 ‎แรงโน้มถ่วงได้สร้างเพื่อนร่วมทางให้กับเรา 154 00:18:29,043 --> 00:18:29,883 ‎ดวงจันทร์ 155 00:18:36,723 --> 00:18:40,283 ‎แรงกระแทกนั้นได้ทำให้โลกอ่อนวัยเอียงข้าง 156 00:18:42,363 --> 00:18:44,203 ‎และตกอยู่ในความสับสนอลเวง 157 00:18:46,083 --> 00:18:48,843 ‎หมุนแกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่ง 158 00:18:52,323 --> 00:18:54,483 ‎แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายพันล้านปี 159 00:18:54,563 --> 00:18:58,363 ‎แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ทำให้โลกสงบลง 160 00:18:59,683 --> 00:19:01,963 ‎ดวงจันทร์ลอยออกห่าง 161 00:19:02,963 --> 00:19:05,243 ‎โลกหมุนช้าลง 162 00:19:07,443 --> 00:19:10,643 ‎ซึ่งเปลี่ยนแปลงเรื่องราวของโลกไป 163 00:19:15,243 --> 00:19:19,363 ‎เมื่อหมุนช้าลง กลางวันจึงยาวนานขึ้น 164 00:19:22,043 --> 00:19:28,683 ‎ทำให้แสงแดดส่องถึงมหาสมุทร ‎อย่างต่อเนื่องนานหลายชั่วโมงมากขึ้น 165 00:19:40,163 --> 00:19:45,443 ‎และสร้างสภาวะที่ทำให้ชีวิตแรกตั้งหลักได้ 166 00:19:52,043 --> 00:19:56,203 ‎ก้าวแรกในเขาวงกตแห่งชีวิตใต้น้ำ 167 00:19:57,043 --> 00:19:59,363 ‎ที่เจริญเติบโตไม่ยั้ง 168 00:20:05,403 --> 00:20:10,203 ‎และในที่สุดก็เติมเต็มมหาสมุทร ‎ด้วยสิ่งมหัศจรรย์เหนือจินตนาการ 169 00:20:24,603 --> 00:20:28,243 ‎สิ่งมหัศจรรย์ที่ในวันนี้ ‎ได้สร้างระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ 170 00:20:29,043 --> 00:20:31,563 ‎ให้กับเพนกวินสองตัวที่กำลังหิวมาก 171 00:20:35,163 --> 00:20:39,323 ‎ซึ่งอยู่ห่างกันหลายร้อยกิโลเมตร ‎ในท้องทะเลกว้างใหญ่ 172 00:20:44,083 --> 00:20:47,723 ‎พาโลม่ามาถึงแนวปะทะอากาศขั้วโลก 173 00:20:52,283 --> 00:20:56,563 ‎ที่ซึ่งมหาสมุทรใต้มาบรรจบ ‎กับน่านน้ำอุ่นของมหาสมุทรแอตแลนติก 174 00:20:56,643 --> 00:20:59,643 ‎มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย 175 00:21:04,523 --> 00:21:08,363 ‎ที่นี่ สารอาหารถูกกวนขึ้นมาจากด้านล่าง 176 00:21:09,363 --> 00:21:11,763 ‎เลี้ยงปากท้องสัตว์หลายพันสปีชีส์ 177 00:21:17,043 --> 00:21:22,243 ‎รวมไปถึงปลาตะเกียง ‎ของโปรดเพนกวินจักรพรรดิ 178 00:21:27,203 --> 00:21:29,083 ‎พวกมันอาศัยอยู่ใต้น้ำลึก 179 00:21:32,803 --> 00:21:34,923 ‎แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับพาโลม่า 180 00:21:36,603 --> 00:21:40,563 ‎มันสามารถดำน้ำลงไปล่าสัตว์ ‎ได้ลึกถึง 300 เมตร 181 00:22:02,883 --> 00:22:07,083 ‎เพนกวินปรับตัวให้เข้ากับ ‎การดำน้ำและล่าปลาที่ความลึกมากๆ ได้ 182 00:22:10,203 --> 00:22:14,363 ‎แต่หากจะทำความเข้าใจ ‎ว่าเกิดการปรับตัวอันน่าทึ่งนี้ได้อย่างไร 183 00:22:16,323 --> 00:22:21,123 ‎เราก็ต้องรู้ว่าเมื่อ 66 ล้านปีที่แล้ว ‎แรงโน้มถ่วงทำอะไรอยู่ 184 00:22:31,723 --> 00:22:35,403 ‎ในวงนอกอันหนาวเหน็บของระบบสุริยะ 185 00:22:36,083 --> 00:22:39,843 ‎น้ำแข็งและหินนับล้านก้อนโคจรรอบดวงอาทิตย์ 186 00:22:42,923 --> 00:22:45,883 ‎ส่วนใหญ่ดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้ ‎ไม่เป็นปัญหาอะไร 187 00:22:54,323 --> 00:22:56,843 ‎แต่บางครั้งมันก็เป็น 188 00:23:00,763 --> 00:23:04,043 ‎ในบริเวณรอบนอกของแถบดาวเคราะห์น้อย 189 00:23:04,883 --> 00:23:08,643 ‎หินหนึ่งก้อนที่มีขนาดสิบกิโลเมตร 190 00:23:09,403 --> 00:23:12,883 ‎ได้รับไออุ่นจากดวงอาทิตย์นานนับพันปี 191 00:23:16,923 --> 00:23:18,203 ‎และทีละเล็กละน้อย 192 00:23:19,083 --> 00:23:25,243 ‎ไออุ่นเริ่มเคลื่อนดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ ‎ที่มีชื่อว่าชิกซูลุบ ออกจากวงโคจร 193 00:23:28,163 --> 00:23:29,843 ‎จนกระทั่งแรงโน้มถ่วงมีผล 194 00:23:32,043 --> 00:23:33,963 ‎ดึงมันเข้าหาดวงอาทิตย์ 195 00:23:38,083 --> 00:23:41,363 ‎และพามันเข้าสู่เส้นทางพุ่งชนกับโลก 196 00:23:48,203 --> 00:23:51,763 ‎ด้วยความเร็ว 72,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 197 00:24:00,563 --> 00:24:04,963 ‎แรงกระแทกกระตุ้นให้เกิด ‎คลื่นพลาสมาที่ร้อนยิ่งยวด 198 00:24:08,403 --> 00:24:12,403 ‎ทำให้เกิดไฟป่าและหายนะทั่วโลก 199 00:24:15,203 --> 00:24:16,843 ‎จนปิดกั้นแสงอาทิตย์ 200 00:24:19,563 --> 00:24:23,123 ‎สปีชีส์สามในสี่ของโลกถูกทำลายสูญสิ้น 201 00:24:25,723 --> 00:24:28,243 ‎ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับไดโนเสาร์ 202 00:24:30,243 --> 00:24:33,883 ‎แต่เป็นข่าวดีสำหรับเพนกวินจักรพรรดิ 203 00:24:39,883 --> 00:24:41,443 ‎เนื่องจากตัวเล็กและเบากว่า 204 00:24:42,123 --> 00:24:44,763 ‎นกจึงอยู่รอดมาได้ 205 00:24:46,963 --> 00:24:50,323 ‎มันบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและวิวัฒนาการหลากหลายขึ้น 206 00:24:53,683 --> 00:24:55,683 ‎เมื่อไม่มีนักล่าตัวใหญ่แล้ว 207 00:24:58,403 --> 00:25:01,283 ‎จึงมีปลามากมายเต็มท้องมหาสมุทร 208 00:25:05,243 --> 00:25:09,283 ‎บรรพบุรุษของเพนกวิน ‎กลายเป็นนักดำน้ำที่เชี่ยวชาญ 209 00:25:11,003 --> 00:25:12,283 ‎ดำได้ลึกขึ้น 210 00:25:13,403 --> 00:25:15,363 ‎และอยู่ใต้น้ำได้นานขึ้น 211 00:25:16,763 --> 00:25:22,843 ‎จนในที่สุด มันก็ทิ้งทักษะการบินไปเลย 212 00:25:28,923 --> 00:25:31,003 ‎จากที่เคยทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า 213 00:25:34,923 --> 00:25:37,043 ‎ตอนนี้ทะยานลงมาสู่ท้องทะเล 214 00:25:42,723 --> 00:25:49,043 ‎การปรับตัวที่หาค่ามิได้นี้ ‎ร็อคกี้กับพาโลม่าได้นำมาใช้ประโยชน์แล้ว 215 00:25:53,843 --> 00:25:56,363 ‎ตอนนี้มันฟิตและแข็งแรงขึ้น 216 00:25:56,443 --> 00:25:59,803 ‎พร้อมจะกลับไปที่ชายฝั่งแดนเกิด 217 00:25:59,883 --> 00:26:01,123 ‎เพื่อหาคู่แล้ว 218 00:26:05,243 --> 00:26:07,523 ‎แต่เส้นทางกลับบ้านมีผู้มาขวาง 219 00:26:15,843 --> 00:26:16,763 ‎วาฬเพชฌฆาต 220 00:26:18,323 --> 00:26:21,123 ‎วาฬชนิดเดียวที่เรารู้ว่ากินเพนกวิน 221 00:26:25,203 --> 00:26:28,163 ‎พาโลม่าเร่งความเร็วสูงสุด 222 00:26:32,923 --> 00:26:35,643 ‎นี่จะเป็นการแข่งขันสู่เส้นชัย 223 00:26:41,083 --> 00:26:42,643 ‎วาฬเพชฌฆาตว่ายน้ำไว 224 00:26:47,963 --> 00:26:51,123 ‎แต่เพนกวินจักรพรรดิเกิดมาเพื่อความเร็ว 225 00:27:12,843 --> 00:27:16,003 ‎พาโลม่าว่องไวเกินไปสำหรับผู้ไล่ล่า 226 00:27:19,963 --> 00:27:24,443 ‎แต่ร็อคกี้เข้าไปหลบในดงสาหร่ายใกล้ฝั่ง 227 00:27:38,723 --> 00:27:42,683 ‎และวาฬเพชฌฆาตที่กำลังหิวโหยไม่ยอมไปไหน 228 00:28:00,123 --> 00:28:01,523 ‎ร็อคกี้เห็นโอกาส 229 00:28:06,323 --> 00:28:07,763 ‎และพุ่งเข้าฝั่ง 230 00:28:11,803 --> 00:28:14,603 ‎ตอนนี้มันว่ายน้ำเป็นแล้ว 231 00:28:20,043 --> 00:28:23,603 ‎ออกไปท่องทะเลนานถึงสองปีเต็มๆ 232 00:28:24,323 --> 00:28:27,443 ‎เพียงเพื่อจะได้มีโอกาสร่วมชิงโชคครั้งใหญ่ 233 00:28:29,163 --> 00:28:31,443 ‎ค้นหาความรัก 234 00:28:34,363 --> 00:28:38,803 ‎แรงโน้มถ่วงก่อร่างดวงอาทิตย์ ‎โลก และดวงจันทร์ 235 00:28:41,443 --> 00:28:44,443 ‎สร้างเป็นบ้านที่มั่นคง ‎สำหรับสิ่งมีชีวิตบนดาวของเรา 236 00:28:45,243 --> 00:28:48,523 ‎และนำทางการวิวัฒนาการไปในทิศทางใหม่ 237 00:28:56,723 --> 00:29:00,723 ‎แต่เรื่องราวของร็อคกี้กับพาโลม่า ‎ยังขาดอีกหนึ่งชิ้นส่วน 238 00:29:03,243 --> 00:29:04,643 ‎ที่สร้างจากแรงโน้มถ่วง 239 00:29:06,283 --> 00:29:08,603 ‎ในใจกลางอันร้อนระอุของดวงอาทิตย์ 240 00:29:12,083 --> 00:29:12,963 ‎แสง 241 00:29:17,283 --> 00:29:19,603 ‎ดาวฤกษ์ของเราสว่างได้ก็เพราะ 242 00:29:19,683 --> 00:29:23,923 ‎ที่แกนของมันกำลังมีศึกที่ดุเดือด 243 00:29:28,083 --> 00:29:29,763 ‎แรงโน้มถ่วงดึงทุกอย่างเข้ามา 244 00:29:31,763 --> 00:29:35,283 ‎ในขณะที่แรงดันสูงดันมันออกไป 245 00:29:41,843 --> 00:29:43,643 ‎สงครามแรงโน้มถ่วงนี้… 246 00:29:48,523 --> 00:29:51,683 ‎ทำให้อะตอมพุ่งชนกันและหลอมรวมกัน 247 00:29:58,043 --> 00:30:00,443 ‎แล้วปลดปล่อยพลังงานออกมา 248 00:30:02,283 --> 00:30:05,123 ‎ในรูปแบบของโฟตอน 249 00:30:12,363 --> 00:30:15,923 ‎ที่ไม่เพียงให้พลังงาน ‎ที่คอยค้ำจุนชีวิตแก่โลกเท่านั้น 250 00:30:18,283 --> 00:30:22,323 ‎แต่ยังอาบโลกด้วยแสงสว่างอีกด้วย 251 00:30:26,963 --> 00:30:30,123 ‎แสงที่มีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ 252 00:30:33,043 --> 00:30:36,283 ‎เพราะในแสงตะวัน 253 00:30:36,963 --> 00:30:38,083 ‎มีสายรุ้ง 254 00:30:41,443 --> 00:30:44,203 ‎โฟตอนแต่ละตัวมีความยาวคลื่นเฉพาะตัว 255 00:30:45,483 --> 00:30:48,643 ‎และทำปฏิกิริยากับองค์ประกอบโลกเรา 256 00:30:49,163 --> 00:30:50,363 ‎ในแบบที่แตกต่างกันไป 257 00:31:01,923 --> 00:31:04,683 ‎บางความยาวคลื่นถูกดูดซับ 258 00:31:06,203 --> 00:31:08,723 ‎บ้างก็ถูกสะท้อนกลับ 259 00:31:12,803 --> 00:31:18,043 ‎คลื่นแสงที่มากระทบตาเรา ‎จะเป็นตัวกำหนดว่าเราเห็นสีอะไร 260 00:31:22,443 --> 00:31:25,083 ‎และความสามารถในการมองเห็นสีนี้ 261 00:31:25,723 --> 00:31:29,963 ‎มีบทบาทสำคัญในเกมหาคู่ของเพนกวิน 262 00:31:39,243 --> 00:31:43,643 ‎การออกหากินในท้องทะเล ‎นานหลายปีทำให้ร็อคกี้สุขภาพดีแข็งแรง 263 00:31:48,163 --> 00:31:51,883 ‎ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ต้องแสดงออกมาเพื่อดึงดูดคู่ 264 00:31:58,243 --> 00:32:01,243 ‎เม็ดสีที่มันสังเคราะห์ขึ้นเอง 265 00:32:02,403 --> 00:32:04,963 ‎ทำให้ขนของมันมีสีเหลืองสดใส 266 00:32:07,043 --> 00:32:09,723 ‎เหมาะแก่การอวดความเก๋ไก๋ของมัน 267 00:32:11,403 --> 00:32:16,843 ‎และดึงดูดสายตาของนกตัวเดียวในฝูงนี้… 268 00:32:22,563 --> 00:32:25,643 ‎ที่ไม่เคยมองใครนอกจากมัน 269 00:32:29,843 --> 00:32:30,683 ‎พาโลม่า 270 00:32:44,563 --> 00:32:48,883 ‎แสงดาวสะท้อนลงบนจอตา ‎ที่อยู่ด้านหลังตาของพาโลม่า 271 00:32:55,043 --> 00:33:00,523 ‎ในนี้ เซลล์รูปกรวยนับล้าน ‎พร้อมใจกันถอดรหัสคลื่นความถี่ทั้งหมด 272 00:33:07,043 --> 00:33:12,243 ‎ซึ่งทำให้พาโลม่าสามารถแยกแยะสีต่างๆ ได้ 273 00:33:16,523 --> 00:33:17,883 ‎ในชั่วพริบตา 274 00:33:18,403 --> 00:33:22,723 ‎คู่รักคู่นี้ไม่เพียงมองเห็นโลกของตัวเอง 275 00:33:23,683 --> 00:33:26,323 ‎แต่ยังเข้าใจโลก 276 00:33:27,843 --> 00:33:30,323 ‎และหาเนื้อคู่ได้อีกด้วย 277 00:33:36,883 --> 00:33:41,403 ‎การเกี้ยวพาราสีเปลี่ยนไป ‎กลายเป็นการเต้นที่ประสานกัน 278 00:33:43,723 --> 00:33:46,523 ‎แต่ละตัวจะอวดขนสีเหลืองแพรวพราว 279 00:33:50,963 --> 00:33:52,323 ‎ให้อีกตัวได้ชื่นชม 280 00:34:03,643 --> 00:34:07,243 ‎หนุ่มโสดตัวอื่น ‎มาลองเสี่ยงดวงดูบ้าง แต่ไม่สำเร็จ 281 00:34:12,643 --> 00:34:14,403 ‎เพราะว่าขนสีเหลืองของร็อคกี้ 282 00:34:16,603 --> 00:34:18,403 ‎ไม่ใช่จุดขายเดียวของมัน 283 00:34:22,283 --> 00:34:23,563 ‎เมื่อส่ายหัว 284 00:34:26,323 --> 00:34:28,323 ‎มันส่งข้อความลับเข้ารหัส 285 00:34:30,723 --> 00:34:32,723 ‎ด้วยแสงอัลตราไวโอเลต 286 00:34:35,163 --> 00:34:37,283 ‎จะงอยปากของมันรับแสงอาทิตย์ 287 00:34:39,043 --> 00:34:40,803 ‎และสะท้อนรังสีของมัน 288 00:34:47,243 --> 00:34:49,403 ‎และเพราะมีเซลล์รูปกรวยพิเศษ 289 00:34:51,803 --> 00:34:56,683 ‎ร็อคกี้กับพาโลม่าจึงสามารถ ‎มองเห็นสีที่เรามองไม่เห็นได้ 290 00:34:58,283 --> 00:35:02,283 ‎สัญญาณยูวีนี้เอาใจพาโลม่าไปเต็มๆ 291 00:35:04,083 --> 00:35:05,923 ‎สมกันเป็นกิ่งทองใบหยก 292 00:35:12,883 --> 00:35:16,043 ‎การเลี้ยงดูลูกเพนกวินเป็นงานเหนื่อยยาก 293 00:35:17,923 --> 00:35:21,523 ‎ที่ทั้งพ่อและแม่ต้องท็อปฟอร์มถึงจะไหว 294 00:35:26,363 --> 00:35:29,803 ‎ขนสีเหลืองน่าประทับใจกับจะงอยปากสีฉูดฉาด 295 00:35:29,883 --> 00:35:33,043 ‎เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามันแข็งแรงและสามารถ 296 00:35:34,363 --> 00:35:38,083 ‎ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับการสร้างครอบครัว 297 00:35:41,403 --> 00:35:44,163 ‎จากนกอีกมากมายหลายพันตัว 298 00:35:45,043 --> 00:35:46,883 ‎ร็อคกี้กับพาโลม่า… 299 00:35:49,683 --> 00:35:51,323 ‎หากันจนเจอ 300 00:36:00,923 --> 00:36:03,523 ‎จากคลื่นกระเพื่อมแรกในใยจักรวาล… 301 00:36:09,603 --> 00:36:11,723 ‎ไปจนถึงกำเนิดดวงอาทิตย์ 302 00:36:13,723 --> 00:36:14,763 ‎ดาวโลก 303 00:36:15,883 --> 00:36:16,883 ‎และดวงจันทร์ 304 00:36:21,723 --> 00:36:25,123 ‎แรงกระแทกที่ได้จารึกประวัติศาสตร์ของโลก 305 00:36:27,843 --> 00:36:33,603 ‎ไปจนถึงแรงที่ขับเคลื่อนให้ดวงอาทิตย์ ‎ได้อาบโลกของเราด้วยสีสัน 306 00:36:35,323 --> 00:36:40,323 ‎แรงโน้มถ่วงมีส่วนในทุกอย่าง 307 00:36:44,243 --> 00:36:48,243 ‎นำพาเอาเพนกวินสองตัวนี้มายังช่วงเวลาพิเศษ… 308 00:36:51,963 --> 00:36:54,123 ‎บนเกาะพิเศษแห่งนี้ 309 00:36:58,283 --> 00:37:03,843 ‎ซึ่งอีกไม่นานจะมีของขวัญพิเศษสุดส่งมายังโลก 310 00:37:04,843 --> 00:37:09,803 ‎ร็อคกี้กับพาโลม่าจะเป็นพ่อแม่กันแล้ว 311 00:37:13,723 --> 00:37:15,483 ‎นำพาชีวิตใหม่เข้ามา 312 00:37:16,203 --> 00:37:19,123 ‎และอาจมีความรักครั้งใหม่อีกด้วย 313 00:37:21,923 --> 00:37:25,763 ‎และเช่นเคย มีแรงโน้มถ่วงคอยนำทาง 314 00:37:33,923 --> 00:37:35,483 ‎ทั่วทั้งโลก 315 00:37:36,483 --> 00:37:38,963 ‎ชีวิตช่างหลากหลายน่าอัศจรรย์ใจ 316 00:38:04,563 --> 00:38:10,923 ‎ใช้เวลา 13,800 ล้านปี ‎กว่าจะมาถึงช่วงเวลาอันแสนล้ำค่า 317 00:38:11,003 --> 00:38:13,723 ‎ณ ที่นี่ ในเวลานี้ 318 00:38:22,563 --> 00:38:25,763 ‎สัตว์ทุกตัวสร้างขึ้นจากดวงดาว 319 00:38:27,523 --> 00:38:29,843 ‎ประสานกับโลก 320 00:38:31,483 --> 00:38:34,763 ‎และค้ำจุนด้วยของขวัญจากจักรวาล 321 00:38:34,843 --> 00:38:38,443 ‎ที่มาถึงที่นี่ได้เพราะความบังเอิญแท้ๆ 322 00:38:52,363 --> 00:38:55,283 ‎ทุกอย่างถูกตรึงเข้าที่ด้วยสุดยอด 323 00:38:56,083 --> 00:38:59,003 ‎พลังดึงดูดดั้งเดิม 324 00:39:07,363 --> 00:39:09,563 ‎เรื่องราวจักรวาลของเรา 325 00:39:09,643 --> 00:39:14,483 ‎คือเรื่องราวความเป็นมา ‎ของสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์แห่งนี้ 326 00:39:17,923 --> 00:39:19,643 ‎ที่เราเรียกว่าบ้าน 327 00:39:23,123 --> 00:39:27,363 ‎เรื่องราวที่ยังคงดำเนินต่อไป 328 00:39:57,763 --> 00:40:02,763 ‎คำบรรยายโดย นันทวัน ริดเดล