1 00:00:16,558 --> 00:00:19,769 เป็นเวลานานหลายพันล้านปีที่ 2 00:00:19,853 --> 00:00:23,106 พื้นที่โลกส่วนใหญ่ไม่ เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 3 00:00:25,608 --> 00:00:29,571 ถูกถล่มโดยปัจจัยต่างๆ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ 4 00:00:34,743 --> 00:00:40,081 แต่นี่คือเรื่องราวของ สิ่งที่เกิดขึ้นใต้เกลียวคลื่น 5 00:00:44,210 --> 00:00:49,841 ณที่ที่ปลอดภัยจากพายุ แห่งนี้ชีวิตได้เริ่มต้นขึ้น 6 00:00:52,552 --> 00:00:56,890 และกำลังจะเปลี่ยนโลกของเราไปตลอดกาล 7 00:02:37,907 --> 00:02:41,244 ย้อนกลับไปในอดีตแสนยาวนานโลกไม่ 8 00:02:41,327 --> 00:02:44,664 เหมือนโลกปัจจุบันที่ เรารู้จักแม้แต่นิดเดียว 9 00:02:49,836 --> 00:02:53,131 เกือบ90%ของพื้นผิวโลกเคยเป็น 10 00:02:53,214 --> 00:02:56,551 น้ำแต่มันกลับไม่ได้ เป็นดาวเคราะห์สีน้ำเงิน 11 00:02:59,846 --> 00:03:05,602 ตรงกันข้ามหมอกควันของก๊าซมีเทน ทำให้บรรยากาศของโลกเป็นสีเหลือง 12 00:03:12,025 --> 00:03:14,986 บนพื้นดินสภาพยิ่งเลวร้ายกว่า 13 00:03:25,121 --> 00:03:30,084 ภูเขาไฟมากมายปะทุต่อ เนื่องอยู่เป็นเวลานานหลายล้านปี 14 00:03:34,714 --> 00:03:37,675 การระเบิดของพวกมันคือหนึ่งใน 15 00:03:37,759 --> 00:03:40,762 เสียงไม่กี่เสียงที่เกิด ขึ้นบนดินแดนที่เงียบงันนี้ 16 00:03:51,105 --> 00:03:56,402 เพราะโลกไม่มีอะไรนอกจากอากาศ ที่เป็นพิษและธารหินหนืดเป็นสาย 17 00:03:58,780 --> 00:04:02,742 ชีวิตที่เรารู้จัก ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ 18 00:04:12,961 --> 00:04:18,675 แต่ในทะเลดึกดำบรรพ์เหล่า นั้นกำลังมีบางอย่างเกิดขึ้น 19 00:04:25,265 --> 00:04:30,186 ใต้ผิวน้ำเต็มไปด้วย กลุ่มก้อนมหาศาลของแพลงก์ตอน 20 00:04:36,734 --> 00:04:42,073 เซลล์จิ๋วๆพวกนี้เพิ่งจะ วิวัฒนาการบางสิ่งขึ้นมาใหม่ 21 00:04:43,616 --> 00:04:44,826 การสังเคราะห์ด้วยแสง 22 00:04:50,039 --> 00:04:53,418 พวกมันใช้พลังงานจากแสง อาทิตย์เพื่อการเจริญเติบโตได้ 23 00:04:54,711 --> 00:05:01,634 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้แพลงก์ตอน กลายเป็นต้นกำเนิดของพืชทุกชนิดบนโลก 24 00:05:08,141 --> 00:05:09,642 แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ 25 00:05:11,060 --> 00:05:15,481 ผลพลอยได้ของการ สังเคราะห์ด้วยแสงคือก๊าซชนิดหนึ่ง 26 00:05:17,066 --> 00:05:21,446 ส่วนประกอบที่ขาดหาย สำหรับการดำรงอยู่ของสัตว์ 27 00:05:24,198 --> 00:05:25,158 ออกซิเจน 28 00:05:30,038 --> 00:05:33,916 เป็นเวลาเกือบสองพันล้านปี 29 00:05:34,000 --> 00:05:37,920 แพลงก์ตอนผลิตออกซิเจนได้ ปริมาณมากจนเปลี่ยนโลกของเราไป 30 00:05:44,469 --> 00:05:48,890 ยุติการเป็นปรปักษ์ โลกได้กลายเป็นโลกใหม่ 31 00:05:51,059 --> 00:05:54,312 ที่ชีวิตสามารถโลดแล่นได้ในที่สุด 32 00:06:03,029 --> 00:06:07,408 ปัจจุบันแม้ผ่านมาหลายล้านปีเราก็ 33 00:06:07,492 --> 00:06:11,913 ยังคงสามารถเห็นได้ว่าคลื่นลูก ต่อไปของชีวิตนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร 34 00:06:18,503 --> 00:06:21,172 เพราะบางส่วนของ ทะเลน้ำตื้นของเรานั้น 35 00:06:24,008 --> 00:06:27,387 ชีวิตยังคงคล้ายคลึงกับ ยุคดึกดำบรรพ์เป็นอย่างมาก 36 00:06:36,687 --> 00:06:38,106 ถึงแม้ว่าจะดูไม่เหมือน 37 00:06:40,400 --> 00:06:42,318 แต่เจ้าพวกนี้คือสัตว์ 38 00:06:46,614 --> 00:06:49,992 ที่คล้ายคลึงกับชีวิต แรกๆที่เริ่มมีความซับซ้อน 39 00:06:54,956 --> 00:06:58,751 ส่วนใหญ่มีลำตัวอ่อน นุ่มและฝังตัวอยู่ที่ก้นทะเล 40 00:07:03,214 --> 00:07:04,632 ทั้งหมดมีต่อมรับรู้ 41 00:07:05,675 --> 00:07:09,429 และบางชนิดสามารถมอง เห็นสิ่งที่อยู่รอบตัว 42 00:07:14,475 --> 00:07:17,770 หลายชนิดกินอาหารโดยใช้วิธีกรอง 43 00:07:19,313 --> 00:07:24,861 บางทีก็จับแพลงก์ตอนด้วย วิธีที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก 44 00:07:33,327 --> 00:07:36,789 แต่ไม่ใช่สัตว์ทุก ชนิดที่ติดอยู่กับที่ 45 00:07:42,003 --> 00:07:43,171 บางตัวเคลื่อนที่ได้ 46 00:07:44,589 --> 00:07:47,341 ออกสำรวจก้นทะเลเหมือนที่ญาติยุค 47 00:07:47,425 --> 00:07:50,219 บุกเบิกของพวกมันเคย ทำเมื่อหลายล้านปีก่อน 48 00:07:58,019 --> 00:08:02,398 อาจดูเหมือนว่าทะเลน้ำตื้น เหล่านี้เป็นราวกับสรวงสวรรค์ 49 00:08:03,900 --> 00:08:05,568 ที่พำนักสำหรับชีวิต 50 00:08:07,236 --> 00:08:09,989 แต่มันไม่ใช่วิมานแต่อย่างใด 51 00:08:17,246 --> 00:08:19,582 ปัจจุบันยังคงมีอยู่ในแคลิฟอร์เนีย 52 00:08:23,628 --> 00:08:26,339 นี่คือทากทะเลสีรุ้ง 53 00:08:30,510 --> 00:08:33,971 และท่าทางเอื่อยเฉื่อย ของมันซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ 54 00:08:38,768 --> 00:08:43,940 เพราะเช่นเดียวกับ บรรพบุรุษของมันมันมาที่นี่เพื่อล่า 55 00:08:50,071 --> 00:08:52,740 มันปรับตัวเข้ากับ ชีวิตของการเป็นผู้ล่า 56 00:08:54,033 --> 00:08:55,618 และเหยื่อที่มันเลือกก็คือ 57 00:08:57,453 --> 00:08:58,538 อะนีโมนี 58 00:09:04,669 --> 00:09:10,967 แต่ก็เช่นเดียวกับนักล่ายุคแรกๆ ทากทะเลยังมีจุดอ่อนที่ต้องพัฒนา 59 00:09:17,515 --> 00:09:20,393 เพราะที่นี่จังหวะ 60 00:09:24,438 --> 00:09:25,565 เป็นเรื่องสำคัญ 61 00:09:30,319 --> 00:09:33,614 เป็นโชคดีของเจ้านักล่าที่เหยื่อ 62 00:09:33,698 --> 00:09:36,993 ของมันติดอยู่กับ ก้นทะเลและหลบซ่อนตลอดไปไม่ได้ 63 00:09:52,341 --> 00:09:57,138 ชะตาของอะนีโมนีน่ะ หรอก็คือถูกกินจากด้านใน 64 00:10:12,403 --> 00:10:14,864 การมาเยือนของเหล่านักล่านั้น 65 00:10:14,947 --> 00:10:17,408 สั่นสะเทือนท้อง ทะเลโบราณเป็นอย่างมาก 66 00:10:21,078 --> 00:10:25,041 ถ้าพวกเจ้าถิ่นไม่ปรับ ตัวก็อาจจะต้องสูญพันธุ์ 67 00:10:29,503 --> 00:10:33,424 และมีกลุ่มหนึ่งที่ปรับตัว ในแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน 68 00:10:38,137 --> 00:10:44,101 แทนที่จะเป็นสัตว์แค่ตัวเดียวพวก 69 00:10:44,185 --> 00:10:50,191 มันสามารถแบ่งออกเป็นชั้นๆ ที่แยกกันจนแยกตัวออกมาเป็นอิสระ 70 00:10:52,985 --> 00:10:53,986 แมงกะพรุน 71 00:10:54,945 --> 00:11:01,869 530ล้านปีก่อนพวกมันเป็นสัตว์ชนิด แรกที่ออกจากก้นทะเลขึ้นมาแหวกว่าย 72 00:11:11,796 --> 00:11:16,258 แต่นักล่าก็มีอยู่ในทุกที่อยู่แล้ว 73 00:11:33,192 --> 00:11:36,112 ด้วยหนวดที่เหมือนฉมวกอันร้ายกาจ 74 00:11:36,195 --> 00:11:39,115 อะนีโมนีพวกนี้จัดการลูก แมงกะพรุนได้อย่างรวดเร็ว 75 00:11:55,256 --> 00:11:56,674 และพวกมันมีอยู่เพียบ 76 00:11:58,050 --> 00:12:00,636 การหลบหนีดูจะเป็นไปไม่ได้เลย 77 00:12:20,239 --> 00:12:21,157 ถูกจับ 78 00:12:24,118 --> 00:12:25,202 แต่ไม่นาน 79 00:12:40,217 --> 00:12:42,344 เป็นอิสระในที่สุด 80 00:12:50,936 --> 00:12:55,733 ต้องขอบคุณความสามารถในการว่ายน้ำ 81 00:12:55,816 --> 00:13:00,654 แมงกะพรุนเป็นพวกแรกที่ออก มาจากเงามืดสู่ท้องทะเลสีคราม 82 00:13:22,426 --> 00:13:26,722 ตอนนี้ขณะที่ปลายังไม่มีวิวัฒนาการ 83 00:13:26,806 --> 00:13:31,143 แมงกะพรุนอยู่รอด ปลอดภัยโดยปราศจากการถูกล่า 84 00:13:35,189 --> 00:13:38,108 ไม่นานก็มีสัตว์อื่นๆตามมา 85 00:13:38,859 --> 00:13:44,990 แต่เมื่อกว่า500ล้านปีก่อน มหาสมุทรที่กว้างใหญ่เป็นของพวกมัน 86 00:14:00,881 --> 00:14:04,260 สำหรับพวกที่ยังติดอยู่ที่ก้นทะเล 87 00:14:04,343 --> 00:14:07,763 พวกมันต้องหาวิธี ใหม่เพื่อหลบหนีจากนักล่า 88 00:14:20,234 --> 00:14:24,488 เจ้าสัตว์หายากตัวนี้คือไทรโลไบต์ 89 00:14:26,907 --> 00:14:30,619 และการปรับตัวที่ยิ่ง ใหญ่ของมันคือเปลือกแข็ง 90 00:14:33,080 --> 00:14:37,585 ไทรโลไบต์คือหนึ่งใน ผู้บุกเบิกของเผ่าพันธุ์ใหม่ของเรา 91 00:14:39,128 --> 00:14:40,796 พวกอาร์โธรพอด 92 00:14:46,719 --> 00:14:50,806 พวกมันวิวัฒนาการกระดูกภายนอก 93 00:14:50,890 --> 00:14:54,977 เปลือกที่เหมือน เกราะป้องกันอวัยวะที่อ่อนนุ่มภายใน 94 00:14:59,857 --> 00:15:03,235 และในท้องทะเลนี้มันคือสิ่งจำเป็น 95 00:15:09,992 --> 00:15:12,411 นี่คืออโนมาโลคาริส 96 00:15:14,121 --> 00:15:20,169 สัตว์หน้าตาแปลกๆที่ชื่อของ มันมีความหมายว่ากุ้งประหลาด 97 00:15:24,214 --> 00:15:28,594 และในทะเลน้ำตื้นเขตร้อน เมื่อ508ล้านปีที่แล้วนั้น 98 00:15:30,638 --> 00:15:33,807 มันคือนักล่าอับ ดันหนึ่งชนิดแรกของโลก 99 00:15:46,320 --> 00:15:51,033 ถึงจะมีเกราะป้องกันการ ซ่อนตัวไว้ก็ยังเป็นสิ่งที่ควรทำ 100 00:15:59,124 --> 00:16:02,920 แต่เมื่อออกมาจากซอกหิน ก็ไม่มีที่ไหนให้ซ่อนตัว 101 00:16:05,339 --> 00:16:07,883 เพราะสิ่งที่ทำให้ เจ้านักล่าตัวนี้พิเศษ 102 00:16:10,511 --> 00:16:12,471 ก็คือความว่องไว 103 00:16:18,477 --> 00:16:24,692 ต่างจากแมงกะพรุนอโนมาโลคาริสสา มารถว่ายได้หลายทิศทางและรวดเร็ว 104 00:16:27,152 --> 00:16:28,988 แต่นั่นก็ไม่เพียงพอเสมอไป 105 00:16:34,284 --> 00:16:40,124 เพราะเมื่อถูกต้อนจนมุมเกราะของไทร โลไบต์ก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม 106 00:16:45,879 --> 00:16:51,218 เมื่อม้วนตัวให้กลมมันจะกลาย เป็นเกราะป้องกันที่ยากจะฝ่าเข้าไป 107 00:16:54,430 --> 00:16:57,266 แม้แต่สำหรับเจ้ากุ้งประหลาดเอง 108 00:17:05,774 --> 00:17:11,447 เมื่อทางสะดวกเจ้าไทรโล ไบต์ก็ออกไปเริงร่าได้อีกครั้ง 109 00:17:15,993 --> 00:17:20,581 มันกำลังตามหาที่ที่สำคัญ ที่สุดแห่งหนึ่งในมหาสมุทรเก่าแก่นี้ 110 00:17:28,547 --> 00:17:34,762 จุดนัดพบของพวกไทรโลไบต์ที่ที่พวก มันหลายพันตัวมารวมกันเพื่อผสมพันธุ์ 111 00:17:37,473 --> 00:17:41,185 ในเรื่องราวของชีวิตเกราะนั้น 112 00:17:41,268 --> 00:17:44,980 ถือว่าเป็นความสำเร็จที่เกือบ80 ของสัตว์ทั้งหมดในปัจจุบันรวมถึงแมลง 113 00:17:45,064 --> 00:17:48,776 แมงมุม 114 00:17:48,859 --> 00:17:52,488 และปูสืบเชื้อสายมาจา กอาร์โธรพอดเก่าแก่นี้ 115 00:17:56,200 --> 00:17:59,912 แต่เกราะนั้นก็ ไม่สามารถปกป้องมันได้จากทุกอย่าง 116 00:18:16,929 --> 00:18:21,725 40ล้านปีผ่านไปยุคสมัย ใหม่ของชีวิตก็ได้เริ่มต้นขึ้น 117 00:18:23,352 --> 00:18:26,355 พร้อมกับความหลาก หลายที่มากกว่าแต่ก่อน 118 00:18:30,984 --> 00:18:34,154 ตอนนี้พวกไทรโลไบต์ยังคง 119 00:18:34,238 --> 00:18:37,449 แข็งแกร่งแต่เกราะของ พวกมันแข็งแรงยิ่งกว่า 120 00:18:41,745 --> 00:18:47,042 เพราะบนแนวประการังนี้ภัย อันตรายมาจากนักล่าชนิดใหม่ 121 00:18:59,513 --> 00:19:02,808 บรรพบุรุษของหมึกยักษ์ และหมึกกล้วยในปัจจุบัน 122 00:19:04,393 --> 00:19:07,146 ยักษ์ใหญ่หนวดยาวพวกนี้เป็นสมาชิก 123 00:19:07,229 --> 00:19:10,023 เผ่าพันธุ์ที่ รู้จักกันในชื่อเซฟาโลพอด 124 00:19:19,741 --> 00:19:26,665 ตัวที่ใหญ่ที่สุดมี กระดองยาว8เมตรคือคาเมโรเซอรัส 125 00:19:34,673 --> 00:19:38,218 ไทรโลไบต์ตัวเล็กไปเลยเมื่อ เทียบกับนักล่าที่สูงชะลูดนี่ 126 00:19:40,971 --> 00:19:43,765 แต่ไม่ใช่แค่ขนาด เท่านั้นที่ทำให้พวกมันน่าเกรงขาม 127 00:19:49,479 --> 00:19:53,901 คาเมโรเซอรัสยังได้พัฒนา วิธีใหม่ที่จะใช้จับเหยื่อ 128 00:19:56,320 --> 00:19:58,155 แม้แต่ตอนที่มองไม่เห็น 129 00:20:07,456 --> 00:20:12,377 เพราะในท้องทะเลเหล่านี้พวก มันไม่ได้ล่าโดยใช้เพียงสายตา 130 00:20:13,962 --> 00:20:15,047 แต่ด้วยสัมผัส 131 00:20:26,558 --> 00:20:31,230 สิ่งเดียวที่ไทรโลไบต์ทำได้คือ พยายามอยู่ในที่ที่มันเอื้อมไม่ถึง 132 00:20:50,916 --> 00:20:56,004 ด้วยจงอยปากราวกรรไกรที่สามารถ ตัดผ่านเกราะที่แข็งแรงที่สุดได้ 133 00:20:57,798 --> 00:21:00,926 คาเมโรเซอรัสจึงเป็นเจ้าแห่งท้องทะเล 134 00:21:03,553 --> 00:21:06,682 แม้ว่าจะมีอีกหนึ่งเผ่า พันธุ์ที่สำคัญเกิดขึ้นมาเหมือนกัน 135 00:21:12,562 --> 00:21:15,274 สีหน้าที่เหมือน ประหลาดใจอยู่ตลอดเวลา 136 00:21:17,067 --> 00:21:19,444 นี่คืออะแรนดาสปิส 137 00:21:22,239 --> 00:21:24,157 ปลาในยุคแรกเริ่ม 138 00:21:29,121 --> 00:21:34,376 มันยังไม่มีขากรรไกรจึง ทำได้แค่ดูดเศษอาหารเท่านั้น 139 00:21:39,047 --> 00:21:44,177 แต่วิวัฒนาการของมันจะ เปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ 140 00:21:50,976 --> 00:21:56,606 มันมีกระดูกใหม่ซึ่งอยู่ภายใน ที่ช่วยให้มันคล่องแคล่วและว่องไว 141 00:21:58,650 --> 00:21:59,818 กระดูกสันหลัง 142 00:22:01,611 --> 00:22:04,072 และถึงแม้จะดูไม่คล้ายกันมากนัก 143 00:22:04,156 --> 00:22:06,616 แต่ปลาอย่างอะแรนดาสปิสจะส่งผลให้ เกิดสัตว์มีกระดูก 144 00:22:06,700 --> 00:22:09,161 ันหลังอื่นๆทั้งหมด 145 00:22:10,203 --> 00:22:14,708 สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำสัตว์ เลื้อยคลานสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนก 146 00:22:19,046 --> 00:22:23,383 แต่สำหรับตอนนี้สัตว์มีกระดูกสัน 147 00:22:23,467 --> 00:22:27,804 หลังยังคงอยู่ที่ จุดเริ่มต้นของเส้นทางที่แสนยาวไกล 148 00:22:45,947 --> 00:22:48,367 20ล้านปีต่อมาชีวิตก็ต้องพบเจอกับ 149 00:22:48,450 --> 00:22:50,911 ความท้าทายที่ใหญ่ หลวงที่สุดครั้งหนึ่ง 150 00:22:57,542 --> 00:23:01,129 เพราะจู่ๆสภาพอากาศก็ หนาวเย็นลงอย่างฉับพลัน 151 00:23:06,843 --> 00:23:10,555 ความเปลี่ยนแปลงที่ ทำให้เกิดผลร้ายตามมามากมาย 152 00:23:30,283 --> 00:23:34,538 ท้องทะเลค่อยๆกลาย เป็นน้ำแข็งอย่างช้าๆ 153 00:23:51,304 --> 00:23:58,228 สำหรับสัตว์ที่เคยอาศัยอยู่ใน ทะเลเขตร้อนเหตุการณ์นี้คือหายนะ 154 00:24:17,456 --> 00:24:20,917 ทะเลน้ำตื้นกลายเป็นสุสานแช่แข็ง 155 00:24:24,880 --> 00:24:28,008 การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ครั้งแรกของโลก 156 00:24:39,352 --> 00:24:44,900 ความหนาวเย็นที่โหดร้ายเกิดจาก การลดลงถึง60%ของคาร์บอนไดออกไซด์ 157 00:24:48,111 --> 00:24:53,617 เมื่อไม่มีก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้ อุ่นโลกของเราจึงเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง 158 00:25:00,081 --> 00:25:03,877 ยุคสมัยที่กินเวลานานถึง200 000ปี 159 00:25:13,970 --> 00:25:17,516 และช่วงที่สาหัสที่สุดเกือบครึ่ง 160 00:25:17,599 --> 00:25:21,144 โลกถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ทำให้85%ของชีวิตท 161 00:25:21,228 --> 00:25:24,773 ้งหมดบนโลกต้องตายลง 162 00:25:25,774 --> 00:25:29,569 หายไปจากแผนผังครอบครัวเราตลอดกาล 163 00:25:36,785 --> 00:25:39,621 เมื่อไม่มีทะเลน้ำตื้นสัตว์ 164 00:25:39,704 --> 00:25:42,541 ที่รอดชีวิตมีเพียงพวกที่ สามารถลงไปส่วนที่ลึกกว่าได้ 165 00:25:50,215 --> 00:25:52,884 สัตว์อย่างหอยงวงช้างญาติที่ตัว 166 00:25:52,968 --> 00:25:55,637 เล็กกว่าของ ยักษ์ใหญ่อย่างคาเมโรเซอรัส 167 00:26:02,769 --> 00:26:08,858 มันวิวัฒนาการขึ้นเมื่อหลายร้อย ล้านปีก่อนและยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน 168 00:26:12,362 --> 00:26:17,450 ความสำเร็จของมันเป็นผลมาจาก ธรรมชาติที่ไม่เปลี่ยนแปลงของทะเลลึก 169 00:26:19,411 --> 00:26:23,248 ที่ความลึกเกิน600เมตรอุณหภูมิของ 170 00:26:23,331 --> 00:26:27,210 น้ำไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงทำให้ ส่วนนี้เป็นที่หลบภัยที่มั่นคง 171 00:26:30,046 --> 00:26:36,219 เมื่อยุคน้ำแข็งมาเยือนสัตว์ ทุกชนิดจึงมุ่งหน้าสู่ทะเลลึก 172 00:26:38,847 --> 00:26:42,475 แต่เซฟาโลพอดคือผู้ที่ก้าวหน้าที่สุด 173 00:26:50,233 --> 00:26:53,528 ทุกวันนี้หลายชนิด ยังคงอาศัยอยู่ในทะเลลึก 174 00:26:56,823 --> 00:26:59,826 รวมถึงหมึกยักษ์และหมึกกล้วย 175 00:27:06,291 --> 00:27:11,129 ร่างกายที่เหมือนวุ้นของพวกมันไม่ สะทกสะท้านกับแรงดันมหาศาลของทะเลลึก 176 00:27:15,300 --> 00:27:20,597 และประสาทรับรู้ที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้พวกมันใช้ชีวิตในความมืดได้ 177 00:27:25,101 --> 00:27:32,025 เมื่อไม่ต้องมีกระดองอีกต่อไปพวกมัน ก็วิวัฒนาการขึ้นในทุกขนาดและรูปร่าง 178 00:27:40,533 --> 00:27:43,995 แต่โลกที่มืดมิดนี้ไม่ได้มีแค่พวกมัน 179 00:27:49,167 --> 00:27:52,921 อาร์โธรพอดอย่างปู แมงมุมตัวนี้ก็อยู่ที่นี่ 180 00:27:56,049 --> 00:27:58,635 ใช้ชีวิตอยู่ตามพื้นมหาสมุทร 181 00:28:02,430 --> 00:28:04,808 และก็ยังมีสัตว์มีกระดูกสันหลัง 182 00:28:07,811 --> 00:28:12,148 และเพราะอาหารมีไม่มากข้าง ล่างนี่จึงมีพวกมันไม่มากนัก 183 00:28:16,069 --> 00:28:20,615 มีเพียงประมาณ10%ของปลา ทั้งหมดในปัจจุบันอาศัยอยู่ในทะเลลึก 184 00:28:24,703 --> 00:28:26,996 ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ เหมาะกับมันเท่าไหร่ 185 00:28:29,499 --> 00:28:35,422 ต่างจากเซฟาโลพอดที่กลายเป็น นักล่าในทะเลลึกที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ 186 00:28:43,430 --> 00:28:46,641 บางสิ่งที่กุ้งตัว นี้กำลังจะได้ประจักษ์ 187 00:28:59,612 --> 00:29:04,617 รอบตัวมันน้ำเป็นประกาย ระยิบระยับด้วยแพลงก์ตอนเรืองแสง 188 00:29:07,412 --> 00:29:12,250 เมื่อมีสิ่งรบกวนพวกมันจะ เรืองแสงขึ้นเป็นช่วงสั้นๆ 189 00:29:18,673 --> 00:29:20,049 แต่เจ้ากุ้งไม่ได้อยู่ลำพัง 190 00:29:25,388 --> 00:29:29,893 หมึกที่ซ่อนตัวเกือบ มิดกำลังดูโชว์นี้อยู่ 191 00:29:33,188 --> 00:29:37,275 ดวงตาที่ใหญ่ของมันช่วยให้มัน มองเห็นในความมืดได้เป็นอย่างดี 192 00:29:47,744 --> 00:29:53,208 เมื่อมองตามจุดของแสงมันก็สามารถ ติดตามทุกการเคลื่อนไหวของกุ้งได้ 193 00:29:55,835 --> 00:29:59,130 สิ่งเดียวที่มัน ต้องการคือจังหวะที่เหมาะสม 194 00:30:20,109 --> 00:30:22,362 เจ้ากุ้งไม่รู้เลยว่ามันอยู่ตรงนี้ 195 00:30:32,247 --> 00:30:36,584 ด้วยประสาทรับรู้ที่ยอดเยี่ยมก็อาจ 196 00:30:36,668 --> 00:30:41,005 จะไม่แปลกเลยที่หมึกเป็นเจ้า แห่งโลกที่หนาวเย็นและมืดมิดนี้ 197 00:30:43,716 --> 00:30:49,597 แต่สำหรับพวกที่อยู่ในยุคน้ำ แข็งทุกอย่างกำลังเริ่มจะร้อนขึ้น 198 00:31:03,152 --> 00:31:06,030 200 000ปีหลังโลก ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง 199 00:31:08,157 --> 00:31:11,494 แนวเส้นสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นในน้ำแข็ง 200 00:31:16,749 --> 00:31:17,584 น้ำ 201 00:31:20,253 --> 00:31:23,631 ระดับ คาร์บอนไดออกไซด์กลับคืนสู่สภาพเดิม 202 00:31:25,425 --> 00:31:28,303 ส่งผลให้อุณหภูมิทั่วโลกสูงขึ้น 203 00:31:29,429 --> 00:31:31,890 การละลายครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้น 204 00:31:34,267 --> 00:31:38,104 เริ่มต้นอย่างช้าๆ และค่อยๆเร็วขึ้นเรื่อยๆ 205 00:31:48,531 --> 00:31:55,455 ไม่นานธารน้ำแข็งสูงหลายร้อย เมตรก็ร่วงลงสู่ทะเลที่อุ่นขึ้น 206 00:32:05,506 --> 00:32:11,888 ภายในไม่กี่พันปีน้ำแข็งบน โลกเกือบครึ่งหนึ่งก็ละลายหมด 207 00:32:13,222 --> 00:32:17,393 และไม่กี่พันปีต่อ มามันก็หายไปทั้งหมด 208 00:32:23,775 --> 00:32:29,238 สำหรับพวกที่หนีไปอยู่ในทะเล ลึกบัดนี้เป็นโอกาสที่จะกลับขึ้นมา 209 00:32:37,205 --> 00:32:40,833 นอกชายฝั่งออสเตรเลียในปัจจุบันนี่ 210 00:32:40,917 --> 00:32:44,545 คือหมึกกระดอง ยักษ์ที่ยังไม่โตเต็มวัย 211 00:32:46,422 --> 00:32:52,095 เช่นเดียวกับบรรพบุรุษยุคน้ำแข็ง ของมันมันมาที่ทะเลน้ำตื้นเพื่อหาคู่ 212 00:32:58,017 --> 00:32:59,852 แต่มีตัวอื่นมาถึงก่อนแล้ว 213 00:33:04,983 --> 00:33:07,527 รวมถึงตัวผู้จ่าฝูง 214 00:33:10,780 --> 00:33:13,408 ที่กำลังปกป้องคู่ ที่มันเลือกอย่างหวงแหน 215 00:33:17,870 --> 00:33:21,165 และมันก็ไม่อยากจะแบ่งสาวให้ใคร 216 00:33:28,006 --> 00:33:31,342 แต่ตัวผู้ที่ตัวเล็กกว่าก็ไม่ถอย 217 00:33:33,386 --> 00:33:38,975 กลับกันมันรอจังหวะและเฝ้ามอง 218 00:33:41,436 --> 00:33:44,063 ขณะที่มีตัวผู้อีก ตัวเข้ามาในสังเวียน 219 00:33:46,315 --> 00:33:48,317 และแสดงท่าที 220 00:33:50,737 --> 00:33:52,405 เพื่อท้าทายจ่าฝูง 221 00:33:59,746 --> 00:34:04,167 เมื่อไม่มีฝ่ายใดยอมถอย การต่อสู้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ 222 00:34:12,091 --> 00:34:15,887 เป็นโอกาสให้หนุ่มน้อยเข้าไปทำแต้ม 223 00:34:23,895 --> 00:34:30,109 ระหว่างที่ว่ายเข้าไปมัน เก็บหนวดของมันและเปลี่ยนสี 224 00:34:32,361 --> 00:34:36,741 เพื่อทำให้มันดูเหมือนตัวเมีย 225 00:34:40,078 --> 00:34:45,083 มันว่ายตรงเข้าไปเงียบๆ โดยใช้สมองไม่ใช่พละกำลัง 226 00:34:54,258 --> 00:34:58,721 ตอนนี้จ่าฝูงคิดว่ามันกำลัง ดูแลตัวเมียไม่ใช่เพียงตัวเดียว 227 00:35:01,808 --> 00:35:02,642 แต่เป็นสอง 228 00:35:07,688 --> 00:35:11,484 หารู้ไม่ว่าผู้บุกรุกที่แสนเจ้า 229 00:35:11,567 --> 00:35:15,363 เล่ห์นี้กำลังผสมพันธุ์ กับคู่ที่มันเลือกไว้อยู่ 230 00:35:30,044 --> 00:35:34,298 ความเฉลียวฉลาดที่น่าทึ่งและประสาท 231 00:35:34,382 --> 00:35:38,678 รับรู้ที่ยอดเยี่ยมช่วยให้เซฟาโล พอดยึดครองมหาสมุทรทุกที่บนโลกได้ 232 00:35:48,479 --> 00:35:51,482 แต่ในความมืดพวกมันไม่ได้เป็น 233 00:35:51,566 --> 00:35:54,569 นักล่าอันดับหนึ่ง เหมือนบรรพบุรุษสูงชะลูดของมัน 234 00:35:58,489 --> 00:36:05,413 เพราะในทะเลดึกดำบรรพ์นี้ขา ใหญ่ที่คุมพื้นที่ได้เปลี่ยนไปแล้ว 235 00:36:19,886 --> 00:36:24,140 70ล้านปีหลังการละลายครั้งใหญ่ใน 236 00:36:24,223 --> 00:36:28,477 ยุคที่รู้จักกันในชื่อดีโวเนียน สัตว์มีกระดูกสันหลังก้าวหน้าขึ้นมาก 237 00:36:35,067 --> 00:36:37,778 นี่คือดังเคิลออสเตียส 238 00:36:40,823 --> 00:36:44,035 ทายาทของอะแรนดาสปิสตัวจิ๋ว 239 00:36:46,871 --> 00:36:51,709 แต่ด้วยความยาวถึง9เมตร เจ้าปลานี่ไม่เป็นรองใคร 240 00:36:56,881 --> 00:37:01,969 แม้แต่ลูกที่ตัวเล็กกว่าเกือบ ครึ่งก็ยังเป็นนักล่าที่น่ากลัว 241 00:37:07,058 --> 00:37:11,062 และหนุ่มน้อยตัวนี้มอง เห็นบางอย่างในน่านน้ำแล้ว 242 00:37:14,649 --> 00:37:15,775 แอมโมนอยด์ 243 00:37:17,276 --> 00:37:21,113 สายพันธุ์ใกล้กับหอยงวง ช้างที่อยู่ในทะเลลึกในปัจจุบัน 244 00:37:30,539 --> 00:37:35,795 เพราะมีกระดูกสันหลังดังเคิลออสเตี ยสจึงรวดเร็วพอที่จะไล่ตามพวกมันทัน 245 00:37:43,052 --> 00:37:46,555 แต่แอมโมนอยด์ก็มีไม้เด็ดของพวกมัน 246 00:37:49,267 --> 00:37:50,851 การหลบหลีกที่ฉับไว 247 00:37:52,228 --> 00:37:55,398 ทักษะจำเป็นที่จะ เอาตัวรอดจากเจ้าลูกปลา 248 00:38:03,406 --> 00:38:05,116 ขณะที่มันเริ่มว่ายวน 249 00:38:07,535 --> 00:38:09,328 แอมโมนอยด์ก็ทำเช่นเดิม 250 00:38:13,165 --> 00:38:15,209 ซ่อนตัวอยู่ในเปลือกของมัน 251 00:38:22,883 --> 00:38:26,304 ครั้งหนึ่งวิธีนี้เคยได้ผล 252 00:38:27,054 --> 00:38:31,142 แต่ดังเคิลออสเตียสมีอาวุธ ที่บรรพบุรุษตัวจิ๋วของมันไม่มี 253 00:38:35,271 --> 00:38:36,230 ขากรรไกร 254 00:38:37,815 --> 00:38:40,985 มันสามารถงับและ บดขยี้เหยื่อของมันได้ 255 00:38:47,158 --> 00:38:49,577 ตราบใดที่มันหามุมเหมาะๆเจอ 256 00:39:07,303 --> 00:39:10,056 โชคดีของแอมโมนอยด์ขากรรไกรของ 257 00:39:10,139 --> 00:39:12,933 ลูกปลายังไม่แข็งแรง พอจะทำให้เปลือกมันแตก 258 00:39:16,604 --> 00:39:19,398 แต่ตัวที่โตแล้วทำได้ 259 00:39:34,580 --> 00:39:39,377 การรวมกันของกระดูกสันหลังและขา 260 00:39:39,460 --> 00:39:44,256 กรรไกรทำให้เห็นถึงการผสมผสานที่ ลงตัวและสมบูรณ์แบ 261 00:39:44,340 --> 00:39:49,178 จนนับจากจุดนี้สัตว์ มีกระดูกสันหลังไม่เคยหันหลังกลับ 262 00:39:59,563 --> 00:40:02,775 ปัจจุบันมีปลาอยู่ มากกว่า30 000สปีชีส์ 263 00:40:08,030 --> 00:40:11,534 มากกว่ากลุ่มเซฟาโลพอดถึง40เท่า 264 00:40:19,583 --> 00:40:21,710 แม้จะมีความแตกต่างกันมากมาย 265 00:40:24,255 --> 00:40:26,882 แต่ทุกชนิดมีอวัยวะคู่สำคัญเหมือนกัน 266 00:40:30,052 --> 00:40:32,388 กระดูกสันหลังช่วย เพิ่มความว่องไวและพละกำลัง 267 00:40:35,182 --> 00:40:36,600 ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ 268 00:40:40,354 --> 00:40:44,024 ขณะที่ขากรรไกรช่วยเรื่องกิน 269 00:40:47,695 --> 00:40:49,864 แต่ขากรรไกรไม่ได้ ช่วยเพียงเรื่องนั้น 270 00:40:52,324 --> 00:40:54,910 ปลาบางชนิดใช้มันเพื่อปกป้องไข่ 271 00:40:59,707 --> 00:41:01,750 บางชนิดใช้เพื่อดึงดูดคู่ 272 00:41:09,675 --> 00:41:12,553 และสำหรับปลาซาร์แคสติกฟรินจ์เฮด 273 00:41:18,434 --> 00:41:21,020 มันไม่เพียงใช้ขา กรรไกรเพื่อจับปูเท่านั้น 274 00:41:30,070 --> 00:41:35,117 แต่มันยังใช้ขากรรไกรในการข่ม ขวัญคู่ต่อสู้ที่เป็นพวกเดียวกัน 275 00:41:38,829 --> 00:41:41,665 เพื่อไล่คู่ต่อสู้ให้ออกไปให้พ้น 276 00:41:50,090 --> 00:41:53,928 สำหรับปลาพวกนี้ใครใหญ่กว่าชนะ 277 00:42:18,452 --> 00:42:22,289 ขากรรไกรใหญ่ช่วยให้เจ้าฟรินจ์เฮด ตัวนี้รักษาพื้นที่ก้นทะเลเอาไว้ได้ 278 00:42:23,832 --> 00:42:30,005 และมันก็ยังช่วยให้กลุ่มของ ปลาอีกชนิดที่ร้ายกว่าครองน่านน้ำ 279 00:42:37,471 --> 00:42:41,267 พวกมันปรากฎกายขึ้น เมื่อกว่า400ล้านปีที่แล้ว 280 00:42:42,560 --> 00:42:45,396 และเป็นที่น่าเกรงขามมานับแต่นั้น 281 00:42:51,819 --> 00:42:52,736 พวกมันคือ 282 00:42:54,196 --> 00:42:55,364 ฉลาม 283 00:42:59,868 --> 00:43:02,955 นอกจากพวกมันจะมี กระดูกสันหลังและขากรรไกรแล้ว 284 00:43:04,331 --> 00:43:07,251 พวกมันยังมีประสาทการรับรู้ที่ดี 285 00:43:07,334 --> 00:43:10,254 ขึ้นจนสัมผัสได้ถึงเหยื่อ ที่อยู่ไกลออกไปหลายร้อยเมตร 286 00:43:13,632 --> 00:43:16,719 ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่และเปี่ยมพละกำลัง 287 00:43:18,220 --> 00:43:20,139 พวกมันใกล้เคียงกับ ความสมบูรณ์แบบมากที่สุด 288 00:43:21,348 --> 00:43:24,184 ที่นักล่าในมหาสมุทรจะเป็นได้ 289 00:43:37,990 --> 00:43:43,954 ในทะเลนอกชายฝั่งของออสเตรเลียตะวัน ตกปลาพวกนี้รวมฝูงกันเพื่อให้ปลอดภัย 290 00:43:47,082 --> 00:43:49,084 แต่พวกฉลามสกัดไว้ 291 00:43:51,503 --> 00:43:55,049 เพราะพวกมันมีวิธี โจมตีที่ไม่เหมือนใคร 292 00:44:02,473 --> 00:44:06,060 พวกมันทำงานกันเป็นทีมฉลามสองสาม 293 00:44:06,143 --> 00:44:09,772 ตัวว่ายขึ้นมาจากด้านล่าง เพื่อต้อนปลาให้ขึ้นมาที่ผิวน้ำ 294 00:44:13,567 --> 00:44:15,277 ตัวอื่นๆเข้ามาทางด้านข้าง 295 00:44:17,112 --> 00:44:22,076 กันฝูงปลาให้ออกจากทะเล กว้างและไปยังทะเลน้ำตื้น 296 00:44:30,334 --> 00:44:34,713 ตอนนี้พวกมันมากันเป็น ร้อยและช่วยกันประวิงเวลาไว้ 297 00:44:38,801 --> 00:44:41,679 ขณะที่เหยื่อของพวก มันหมดแรงลงไปเรื่อยๆ 298 00:44:54,900 --> 00:44:58,570 นี่เป็นเทคนิคการล่าที่ ถูกใช้มามากกว่าหลายล้านปี 299 00:45:01,657 --> 00:45:05,202 และการสังหารหมู่ก็ เริ่มขึ้นในชั่วพริบตา 300 00:45:47,703 --> 00:45:50,414 ฉลามคือหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ประสบ 301 00:45:50,497 --> 00:45:53,208 ความสำเร็จที่สุดใน ประวัติศาสตร์ที่แ 302 00:45:53,292 --> 00:45:56,003 บไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยนับ ตังแต่การละลายครั้งใหญ่ 303 00:46:00,466 --> 00:46:05,220 แต่ความรุ่งเรืองนี้เป็นผลมา จากการล่มสลายของศัตรูหมายเลขหนึ่ง 304 00:46:23,280 --> 00:46:29,912 ในทะเลอดีตกาลดังเคิลออสเตี ยสครองท้องทะเลนานถึง20ล้านปี 305 00:46:34,166 --> 00:46:38,170 มันจึงเป็นนักล่าที่แม้แต่ ฉลามยุคแรกเริ่มก็ไม่อาจต่อกรได้ 306 00:46:44,092 --> 00:46:47,971 แต่ดังเคิลออสเตียสก็ต้องประสบ กับชะตากรรมที่พลิกผันอย่างน่าเศร้า 307 00:46:54,144 --> 00:46:56,063 ที่เกิดจากแพลงก์ตอน 308 00:46:59,358 --> 00:47:04,029 หลายพันล้านปีก่อนหน้านี้ แพลงก์ตอนคือผู้บันดาลให้เกิดชีวิต 309 00:47:07,533 --> 00:47:11,245 แต่ตอนนี้มันเกือบ ทำลายชีวิตจนหมดสิ้น 310 00:47:16,500 --> 00:47:19,920 การเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันของสาร 311 00:47:20,003 --> 00:47:23,465 อาหารในมหาสมุทรทำให้จำนวน ประชากรของแพลงก์ตอนเพิ่มขึ้น 312 00:47:26,927 --> 00:47:28,887 อย่างเป็นประวัติการณ์ 313 00:47:37,187 --> 00:47:43,110 เมื่อมันกระจายทั่วทะเลน้ำ ตื้นที่โดนแดดซุปข้นๆนี้ก็เริ่มบูด 314 00:47:46,071 --> 00:47:48,907 ทำให้ออกซิเจนในมหาสมุทรลดฮวบ 315 00:47:58,876 --> 00:48:01,628 เมื่อขาดส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับ 316 00:48:01,712 --> 00:48:04,506 ชีวิตสัตว์ทั้งหลาย ก็เริ่มจะหายใจลำบาก 317 00:48:14,683 --> 00:48:17,352 สำหรับพวกที่หนีกากตะกอนพวกนี้ 318 00:48:17,436 --> 00:48:20,147 ไม่ทันผลลัพธ์ก็มี เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น 319 00:48:23,108 --> 00:48:23,984 คือสูญพันธุ์ 320 00:48:27,446 --> 00:48:31,700 ดังเคิลออสเตียสคือหนึ่งใน สัตว์หลายชนิดที่หายไปจากโลก 321 00:48:43,670 --> 00:48:47,299 ทั่วทั้งโลกชายฝั่งเต็ม ไปด้วยซากสัตว์ทะเลที่ตาย 322 00:49:00,187 --> 00:49:05,943 มีสัตว์โชคดีไม่กี่ชนิด รวมถึงฉลามยุคแรกที่รอดมาได้ 323 00:49:18,288 --> 00:49:22,376 โดยรวมแล้ว80%ของชีวิตในทะเลถูก 324 00:49:22,459 --> 00:49:26,588 ทำลายไปในการสูญพันธุ์ ครั้งใหญ่ครั้งที่สองของโลกนี้ 325 00:49:31,343 --> 00:49:35,222 และนี่เป็นเพียงส่วน หนึ่งของเรื่องราวเท่านั้น 326 00:49:39,768 --> 00:49:42,729 สารอาหารที่ทำให้แพลงก์ตอน เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วนั้น 327 00:49:44,356 --> 00:49:46,608 ไม่ได้เกิดขึ้นในทะเล 328 00:49:50,404 --> 00:49:53,031 แต่ถูกส่งต่อมาจากแผ่นดิน 329 00:49:57,911 --> 00:50:00,956 พวกมันถูกปล่อยออกมาจากพืชใน 330 00:50:01,039 --> 00:50:04,084 ระหว่างเหตุการณ์ที่สำคัญ ที่สุดตลอดกาลเหตุการณ์หนึ่ง 331 00:50:11,842 --> 00:50:14,761 คือเมื่อโลกเริ่มเขียวขจี 332 00:50:20,726 --> 00:50:27,649 สิ่งที่เคยเป็นพื้นที่ภูเขาไฟ ว่างเปล่าบัดนี้กลับเต็มไปด้วยชีวิต 333 00:50:32,696 --> 00:50:36,324 และโลกใหม่นี้ก็เปิดโอกาส 334 00:50:38,827 --> 00:50:44,249 ให้พวกพืชเหล้านี้ปูเส้น ทางที่เหล่าสรรพสัตว์จะตามรอย 335 00:50:48,170 --> 00:50:54,217 และไม่นานการชิงชัยเพื่อ ครองดินแดนก็เริ่มต้นขึ้น