1
00:00:11,594 --> 00:00:12,637
หน้าหนาวมาเยือน

2
00:00:17,225 --> 00:00:19,602
แต่ไม่เหมือนกับที่โลกเคยเจอมาก่อน

3
00:00:24,024 --> 00:00:27,652
นี่คือผู้ชนะของโลกหลังภัยพิบัติ

4
00:00:30,113 --> 00:00:32,574
เมื่อ66ล้านปีก่อน

5
00:00:35,452 --> 00:00:41,416
โลกแทบจะถูกทำลายสิ้นโดย
เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งรุนแรง

6
00:00:57,098 --> 00:01:01,519
นี่คือเรื่องราวการล่ม
สลายของอาณาจักรไดโนเสาร์

7
00:01:08,193 --> 00:01:15,116
และการฟื้นขึ้นมาจากเถ้าถ่านของ
ผู้ที่เหลือรอดซึ่งจะครองโลกต่อไป

8
00:02:52,630 --> 00:02:56,176
เรื่องของเราเริ่ม
ต้นขึ้นในยุคครีเทเชียส

9
00:02:59,888 --> 00:03:03,266
ในวันวันหนึ่งที่จะ
พลิกหน้าประวัติศาสตร์ไป

10
00:03:06,936 --> 00:03:11,566
สำหรับเอ็ดมอนโตซอรัสใน
อเมริกาเหนือตอนนี้คือฤดูทำรัง

11
00:03:13,651 --> 00:03:17,405
และตามเคยตัวเมียตัว
นี้ต้องดูแลลูกๆที่หิวโหย

12
00:03:22,118 --> 00:03:24,662
ให้พวกลูกๆได้เริ่ม
ต้นชีวิตอย่างดีที่สุด

13
00:03:34,505 --> 00:03:39,761
ห่างออกไปพันกิโลเมตรทางใต้
ไทแรนโนซอรัสที่โตเต็มวัยกำลังสอน

14
00:03:39,844 --> 00:03:45,099
ศาสตร์แห่งการล่าให้ลูกๆของมันอยู่

15
00:03:53,858 --> 00:03:55,568
แต่พวกมันใจร้อนไปหน่อย

16
00:04:08,248 --> 00:04:11,042
เด็กๆพวกนี้ยังมี
เรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมาก

17
00:04:12,418 --> 00:04:14,796
ไม่แน่พรุ่งนี้พวก
มันอาจจะโชคดีกว่านี้

18
00:04:22,679 --> 00:04:29,602
ทางตะวันตกมีฝูงของอลาโมซอรัสหนึ่ง
ในไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

19
00:04:30,728 --> 00:04:37,652
เริ่มต้นวันใหม่อย่างที่เคยทำสืบต่อ
กันมาเพลิดเพลินกับการกินหน่อสนนุ่มๆ

20
00:04:45,576 --> 00:04:49,289
ใต้เกลียวคลื่นนอกชายฝั่งแอฟริกา
มหาสมุทรเต็มไปด้วยชีวิตมากมายที่ถือ

21
00:04:49,372 --> 00:04:53,084
กำเนิดขึ้นมา

22
00:04:56,170 --> 00:05:00,258
อาณาจักรที่ถูกปกครองโดย
พวกสัตว์เลื้อยคลานทะเลขนาดมหึมา

23
00:05:04,512 --> 00:05:11,436
เคียงคู่กับไดโนเสาร์พวกมันครอง
โลกอยู่เป็นเวลายาวนานถึง150ล้านปี

24
00:05:22,488 --> 00:05:26,743
แต่วันนี้จะไม่
เหมือนกับวันอื่นๆที่ผ่านมา

25
00:05:36,252 --> 00:05:40,256
ดาวเคราะห์น้อยขนาดเท่ายอดเขา
เอเวอเรสต์กำลังพุ่งมาที่โลกด้วย

26
00:05:40,340 --> 00:05:44,344
ความเร็ว100 000กิโลเมตรต่อชั่วโมง

27
00:05:53,644 --> 00:05:57,648
การพุ่งชนของมันจะ
เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล

28
00:06:02,695 --> 00:06:07,033
ปลดปล่อยพลังที่เทียบ
เท่ากับระเบิดปรมาณูพันล้านลูก

29
00:06:09,410 --> 00:06:13,081
ทำให้เกิดลูกโซ่ของเหตุการณ์
ต่างๆที่ก่อความเสียหายอย่างหนัก

30
00:06:17,794 --> 00:06:21,464
อย่างแรกคือการระเบิดออก
อย่างรุนแรงของรังสีความร้อน

31
00:06:26,969 --> 00:06:30,223
สิ่งมีชีวิตทุกอย่างในรัศมีพัน
กิโลเมตรระเหิดกลายเป็นไอในชั่วพริบ

32
00:06:30,306 --> 00:06:33,601
ตา

33
00:06:49,242 --> 00:06:52,537
แผ่นเปลือกโลกบิดงอจากการถูก
พุ่งชนปล่อยคลื่นกระแทกที่ทำให้เกิด

34
00:06:52,620 --> 00:06:55,915
แผ่นดินไหวไปรอบโลก

35
00:07:04,257 --> 00:07:11,180
ในไม่กี่นาทีแผ่นดินไหวขนาด
ใหญ่เกินจะวัดก็สั่นสะเทือนทั้งโลก

36
00:07:28,781 --> 00:07:34,620
สำหรับอลาโมซอรัสนี่
เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น

37
00:07:44,005 --> 00:07:50,887
แผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นยักษ์
มากมายพัดกระหน่ำผ่านทะเลและทะเลสาบ

38
00:07:59,312 --> 00:08:03,733
คลื่นน้ำลูกยักษ์จึง
ซัดเข้าท่วมอเมริกาเหนือ

39
00:08:12,992 --> 00:08:17,538
กระแสน้ำเชี่ยวที่ซัดเข้ามาอย่าง
นั้นรุนแรงเกินจะต้านทานไหวแม้แต่

40
00:08:17,622 --> 00:08:22,168
สำหรับสัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุด

41
00:08:41,103 --> 00:08:45,399
ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากการพุ่งชนเศษ
เล็กเศษน้อยที่พุ่งขึ้นไปในอวกาศถูก

42
00:08:45,483 --> 00:08:49,820
ดึงกลับมาที่โลกเพราะแรงโน้มถ่วง

43
00:08:50,905 --> 00:08:52,907
ระหว่างที่กลับลงมา
มันกลายเป็นลูกไฟสีแดงฉาน

44
00:09:02,250 --> 00:09:07,672
ชั้นบรรยากาศที่ร้อนอยู่
แล้วทวีความรุนแรงราวกับขุมนรก

45
00:09:13,719 --> 00:09:18,849
บนบกตอนนี้เหมือนกับยืนอยู่
ในเตาย่างเนื้ออุณหภูมิ400องศา

46
00:09:23,479 --> 00:09:26,315
สรรพสัตว์ถูกย่างทั้งเป็นอย่างช้าๆ

47
00:09:40,955 --> 00:09:46,043
และที่แย่ไปกว่านั้นคือ
เศษหินเริ่มร่วงลงมาถึงพื้น

48
00:10:04,937 --> 00:10:08,566
ไม่ถึง2ชั่วโมงหลังจากการพุ่งชน
พายุไฟที่เต็มไปด้วยฝุ่นก็ปกคลุมโลก

49
00:10:08,649 --> 00:10:12,278
ไปกว่าครึ่ง

50
00:10:14,780 --> 00:10:19,577
มันร้อนมากจนต้นไม้ลุกเป็นไฟ

51
00:10:27,752 --> 00:10:31,380
ไม่มีทางหนีจากนรกที่ขยาย
วงกว้างขึ้นเรื่อยๆนี่ได้เลย

52
00:10:59,367 --> 00:11:01,661
ไม่มีอะไรช่วยพวกมันได้อีกแล้ว

53
00:11:26,894 --> 00:11:32,525
อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของ
ไดโนเสาร์สิ้นสุดลงภายในวันเดียว

54
00:11:40,199 --> 00:11:45,538
มหาสมุทรก็ได้รับความเสีย
หายไม่น้อยไปกว่าพื้นดินเลย

55
00:11:48,749 --> 00:11:51,836
ฝุ่นที่เต็มไปด้วย
ซัลเฟอร์ตกลงมาเป็นฝนกรด

56
00:11:53,421 --> 00:11:55,756
แนวประการังถูกทำลายจนไม่เหลือ

57
00:11:59,719 --> 00:12:05,850
ข่ายใยของชีวิตพังทลายลงคร่า
ชีวิตสัตว์เลื้อยคลานทะเลผู้ยิ่งใหญ่

58
00:12:11,105 --> 00:12:14,525
ซากของพวกมันช่วยชีวิตบรรดาสัตว์
กินซากพืชซากสัตว์ที่มองหาซากศพอยู่

59
00:12:14,608 --> 00:12:18,028
ในทะเลลึก

60
00:12:25,578 --> 00:12:26,662
พวกอาร์โธรพอด

61
00:12:29,123 --> 00:12:30,040
พวกฉลาม

62
00:12:33,210 --> 00:12:39,800
ห่างไกลจากการสังหารหมู่ของ
อุกกาบาตสิ่งมีชีวิตหลายชนิดรอดตาย

63
00:12:39,884 --> 00:12:46,474
และกำลัง
เอร็ดอร่อยกับการกินซากสัตว์

64
00:12:50,936 --> 00:12:53,481
เฉลิมฉลองให้กับการสูญพันธุ์

65
00:12:57,276 --> 00:13:01,155
แต่กลับมาบนผิวน้ำ
สถานการณ์แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

66
00:13:09,580 --> 00:13:15,169
หลายปีหลังจากการ
พุ่งชนโลกดูเงียบเหงา

67
00:13:20,466 --> 00:13:21,300
ทั้งป่าไม้

68
00:13:23,177 --> 00:13:24,094
ทั้งทุ่งหญ้า

69
00:13:27,139 --> 00:13:28,015
ทั้งภูเขา

70
00:13:33,062 --> 00:13:33,979
ไร้ชีวิต

71
00:13:35,731 --> 00:13:41,612
แต่เมื่อเมฆฝุ่นจางไปและแสงส่อง
เข้ามาอีกครั้งก็เห็นได้ว่าไม่ใช่ทุก

72
00:13:41,695 --> 00:13:47,618
อย่างที่สูญสิ้นไป

73
00:13:55,125 --> 00:13:58,504
พวกแมลงเป็นพวกแรกๆที่ปรากฏตัว

74
00:14:08,013 --> 00:14:09,181
กินพวกที่ตายแล้วเป็นอาหาร

75
00:14:14,019 --> 00:14:15,980
เจ้าพวกนี้รอดมาได้เพราะโพรงที่ซ่อน

76
00:14:18,274 --> 00:14:19,191
รังไหม

77
00:14:21,318 --> 00:14:22,653
และลำตัวหุ้มเกราะ

78
00:14:27,408 --> 00:14:34,039
เพราะหลบภัยอยู่ใต้ดินสัตว์
เลื้อยคลานบางชนิดจึงรอดมาได้เช่นกัน

79
00:14:49,847 --> 00:14:53,601
ใต้ผิวของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำและ
พื้นที่ชุ่มน้ำสัตว์อื่นก็ปลอดภัยจาก

80
00:14:53,684 --> 00:14:57,479
อันตรายเช่นกัน

81
00:15:01,567 --> 00:15:02,526
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

82
00:15:04,820 --> 00:15:09,325
เพราะอาหารมีน้อยจึงมีเพียง
พวกตัวเล็กๆเท่านั้นที่รอดมาได้

83
00:15:13,704 --> 00:15:18,125
รวมถึงสัตว์จากเผ่าพันธุ์
ของเราสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

84
00:15:21,128 --> 00:15:24,256
พวกมันกลายเป็นเจ้าของ
ป่าที่ปราศจากไดโนเสาร์

85
00:15:27,134 --> 00:15:28,260
น่าจะเป็นแบบนั้น

86
00:15:32,473 --> 00:15:36,810
แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีสัตว์อีก
กลุ่มหนึ่งติดสอยห้อยตามมาด้วย

87
00:15:47,112 --> 00:15:51,659
ได้รับการคุ้มกันโดย
แคปซูลช่วยชีวิตส่วนตัว

88
00:15:53,869 --> 00:15:59,833
น่าแปลกใจที่ข้างในนั้น
คือไดโนเสาร์ประเภทหนึ่ง

89
00:16:19,103 --> 00:16:22,940
และที่สำคัญมันคือไดโนเสาร์ที่บินได้

90
00:16:35,327 --> 00:16:39,540
หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่านก

91
00:16:42,793 --> 00:16:48,340
ก่อนหายนะวันสิ้นโลกมีสายพันธุ์เก่า
แก่นับร้อยที่อาศัยอยู่ตามต้นไม้ซึ่ง

92
00:16:48,424 --> 00:16:53,971
ถูกล้างบางไปหมดตอนที่ป่าถูกเผา

93
00:16:55,806 --> 00:16:59,143
แต่มีนกที่อาศัยอยู่บน
พื้นดินจำนวนหนึ่งรอดมาได้

94
00:17:05,024 --> 00:17:09,486
ผู้รอดชีวิตเหล่านี้
รักษาความอบอุ่นไว้ได้เพราะขน

95
00:17:12,281 --> 00:17:15,993
และพึ่งพาตัวเองได้ตั้งแต่ลมหายใจแรก

96
00:17:19,747 --> 00:17:22,207
กินแมลงและเมล็ดพืชประทังชีวิตได้

97
00:17:23,417 --> 00:17:26,545
และสามารถเดินได้นานเป็นชั่วโมงๆ

98
00:17:31,592 --> 00:17:35,846
เมื่อ66ล้านปีก่อนนกกลายเป็นสาย
พันธุ์สุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ของ

99
00:17:35,929 --> 00:17:40,184
ตระกูลไดโนเสาร์

100
00:17:43,020 --> 00:17:49,568
จากสัตว์ที่ต่ำต้อยนี้เผ่า
พันธุ์ที่ยิ่งใหญ่จะบังเกิด

101
00:17:53,906 --> 00:17:57,159
แต่เรื่องราวที่น่าทึ่งของพวก
มันเริ่มต้นขึ้นมานานแสนนานแล้วก่อน

102
00:17:57,242 --> 00:18:00,537
อุกกาบาตจะพุ่งชน

103
00:18:13,926 --> 00:18:14,885
ยุคจูแรสสิก

104
00:18:18,680 --> 00:18:20,432
ยุคของยักษ์ใหญ่

105
00:18:25,145 --> 00:18:28,857
หน้าผาสูงชันที่ลึกลับซับซ้อนเหล่า
นี้กำลังสร้างสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่

106
00:18:28,941 --> 00:18:32,653
ตัวเล็กกว่า

107
00:18:38,784 --> 00:18:40,828
มันอยู่ในดินแดนอันตราย

108
00:18:44,665 --> 00:18:48,752
เพื่อเอาตัวรอดมันได้พัฒนา
ไปในทิศทางใหม่ที่ไม่ธรรมดา

109
00:18:55,759 --> 00:19:01,515
นีคือแอนคิออร์นิสมัน
เป็นไดโนเสาร์มีขนขนาดเล็ก

110
00:19:04,434 --> 00:19:07,396
มีฟันแหลมๆเหมือนเข็มเพื่อใช้ล่าแมลง

111
00:19:15,737 --> 00:19:18,532
แต่มันเองก็กำลังถูกล่าอยู่

112
00:19:26,623 --> 00:19:28,917
ไซน์แรปเตอร์วัยแรกรุ่น

113
00:19:34,047 --> 00:19:34,882
และมันกำลังหิว

114
00:20:08,582 --> 00:20:11,293
แอนคิออร์นิสนั้น
เชื่องช้าและงุ่มง่าม

115
00:20:26,350 --> 00:20:28,977
เจ้าไซน์แรปเตอร์ต้อนมันจนมุม

116
00:20:38,695 --> 00:20:43,200
แต่แอนคิออร์นิสมี
เหตุผลที่วิ่งมาที่นี่

117
00:21:04,012 --> 00:21:04,930
มันบินได้

118
00:21:08,892 --> 00:21:12,354
เป็นเพียงก้าวเล็กๆสำหรับ
ไดโนเสาร์แต่เป็นการก้าวกระโดดครั้ง

119
00:21:12,437 --> 00:21:15,941
ใหญ่ของชีวิตบนโลก

120
00:21:20,612 --> 00:21:25,450
เพราะนักเหินเวหาเหล่านี้
เผ่าพันธุ์ใหม่จึงถือกำเนิดขึ้น

121
00:21:30,747 --> 00:21:35,043
และการบินนี่แหละที่จะช่วยให้
ลูกหลานของพวกมันมีชีวิตรอดในยุค

122
00:21:35,127 --> 00:21:39,423
หลังการพุ่งชนของอุกกาบาต

123
00:21:46,096 --> 00:21:49,016
ปัจจุบันมีสถานที่หนึ่งที่เราสามารถ
เห็นได้ว่าเรื่องราวน่าจะเป็นอย่างไร

124
00:21:49,099 --> 00:21:52,060
ต่อ

125
00:21:58,608 --> 00:22:01,028
โลกอันว่างเปล่าที่โหดร้าย

126
00:22:02,988 --> 00:22:08,702
สูงขึ้นไป4 000เมตรณ
ทะเลทรายอัลติพลาโนในชิลี

127
00:22:13,790 --> 00:22:16,793
ภูมิประเทศที่แทบจะ
ไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่ได้

128
00:22:19,588 --> 00:22:22,632
แต่สัตว์กลุ่มหนึ่งหา
วิธีเอาตัวรอดที่นี่ได้

129
00:22:27,429 --> 00:22:28,347
พวกนก

130
00:22:31,350 --> 00:22:38,273
เช่นเดียวกับสัตว์อื่นๆที่พัฒนา
ตัวเองหลังการพุ่งชนนกฟลามิงโก้อาศัย

131
00:22:39,066 --> 00:22:45,989
ทักษะเหินเวหาของไดโนเสาร์บินได้
ยุคแรกและคิดค้นวิธีการบินแบบใหม่

132
00:22:50,702 --> 00:22:52,829
การปฏิวัติบนฟากฟ้า

133
00:22:54,915 --> 00:22:59,669
ปีกได้ถูกดัดแปลงให้กระพือได้

134
00:23:04,132 --> 00:23:08,178
จึงเป็นการบินที่มีแรงขับเคลื่อน
และทำให้ฟลามิงโก้สามารถออกบิน

135
00:23:08,261 --> 00:23:12,307
หาอาหารได้

136
00:23:15,352 --> 00:23:17,729
อย่างที่นกทำมา
เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน

137
00:23:24,986 --> 00:23:29,241
ขนแบบนกที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้
ความอบอุ่นแก่ไดโนเสาร์ได้ถูกปรับ

138
00:23:29,324 --> 00:23:33,620
แต่งเพื่อการบินขึ้นฟ้า

139
00:23:42,254 --> 00:23:44,131
และนั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไป

140
00:23:45,674 --> 00:23:48,260
ฟันถูกแทนที่ด้วยจงอยปาก

141
00:23:51,680 --> 00:23:54,057
ทำให้มันกินอาหารชนิดใหม่ๆได้

142
00:23:56,101 --> 00:23:59,604
แต่ความก้าวหน้าด้านอาหารและการบิน
ก็ยังไม่เพียงพอจะรับรองอนาคตของพวก

143
00:23:59,688 --> 00:24:03,233
นกได้

144
00:24:07,779 --> 00:24:09,698
พวกมันจึงต้องอาศัยการ
ปฏิบัติตามธรรมเนียมโบราณที่งดงาม

145
00:24:09,781 --> 00:24:11,741
ด้วย

146
00:24:13,952 --> 00:24:18,081
ธรรมเนียมที่รับรองความ
อยู่รอดของผู้ที่เหมาะสมที่สุด

147
00:24:22,210 --> 00:24:23,128
การเกี้ยว

148
00:24:28,133 --> 00:24:32,262
สำหรับพวกฟลามิงโก้
มันคือการแข่งเต้นรำ

149
00:24:38,018 --> 00:24:41,021
และเป็นการแข่งขันที่จริงจังมาก

150
00:24:43,106 --> 00:24:45,984
คณะกรรมการก็จู้จี้สุดขีด

151
00:24:56,828 --> 00:25:00,248
และพวกมันจะเลือก
คู่ที่ดีที่สุดเท่านั้น

152
00:25:06,004 --> 00:25:09,466
นกเกือบจะสาบสูญไปพร้อมกับ
ไดโนเสาร์ชนิดอื่นๆที่เหลือ

153
00:25:12,802 --> 00:25:18,850
แต่ต้องขอบคุณความอัจริยะใน
การสร้างขนพวกมันจึงมีโอกาสลุกขึ้นมา

154
00:25:28,693 --> 00:25:31,530
แต่เส้นทางก็ไม่ได้ง่ายเลย

155
00:25:36,535 --> 00:25:40,205
ผลพวงจากการพุ่งชนของอุกกาบาต
อุณหภูมิทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็ว

156
00:25:40,288 --> 00:25:44,000
ถึง25องศา

157
00:25:48,046 --> 00:25:52,759
แต่เพราะพวกมันสามารถใช้ชีวิตในความ
หนาวเย็นได้เพียงไม่กี่ล้านปีหลังจาก

158
00:25:52,842 --> 00:25:57,556
การพุ่งชนป่าสนก็กลับคืนมา

159
00:26:02,769 --> 00:26:09,693
เมล็ดทำให้พืชยักษ์ใหญ่
ตระกูลสนจากยุคของไดโนเสาร์รอดมาได้

160
00:26:13,863 --> 00:26:20,161
พวกที่สูงที่สุดที่สูงเหนือ
พื้นดินกว่า100เมตรคือเรดวู้ด

161
00:26:26,501 --> 00:26:30,714
และที่หลบอยู่ในป่าคือสัตว์เลือด
อุ่นกลุ่มหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ใน

162
00:26:30,797 --> 00:26:35,051
เงามืดมาตลอด

163
00:26:44,102 --> 00:26:45,103
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

164
00:26:47,230 --> 00:26:52,110
เริ่มแรกพวกมันเป็น
สัตว์ตัวเล็กๆคล้ายกับหนูนา

165
00:26:53,737 --> 00:26:58,158
เมื่อไม่มีไดโนเสาร์พวก
มันก็สามารถออกมากลางแจ้งได้

166
00:27:01,953 --> 00:27:05,749
แต่เพียง5ล้านปีหลังการพุ่งชนของ
อุกกาบาตป่าสนก็กลายเป็นบ้านเกิดของ

167
00:27:05,832 --> 00:27:09,669
สัตว์สายพันธุ์ใหม่

168
00:27:25,810 --> 00:27:29,147
และพวกมันยังคงอยู่
ในป่าของเราในปัจจุบัน

169
00:27:41,117 --> 00:27:41,951
นกฮูก

170
00:27:47,791 --> 00:27:52,045
นกเปลี่ยนจากผู้รอด
ชีวิตตัวจ้อยเป็นผู้ล่าชีวิต

171
00:27:54,964 --> 00:27:57,300
นี่คือนกฮูกเกรทเกรย์

172
00:28:01,638 --> 00:28:07,185
มันมีกรงเล็บที่
คมกริบและสายตาที่คมยิ่งกว่า

173
00:28:11,147 --> 00:28:13,817
มันจึงเหมือนมัจจุราชที่บินได้

174
00:28:18,947 --> 00:28:23,243
บินเบาๆจนแทบไร้
เสียงและคอยฟังเสียงเหยื่อ

175
00:28:37,716 --> 00:28:41,219
สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วย
นมตัวเล็กๆไม่มีที่ไหนปลอดภัย

176
00:29:27,557 --> 00:29:31,519
ขณะนกฮูกพวกแรกๆเป็นตัวร้ายอยู่ใน
ป่าสนทางเหนืออีกที่ถิ่นที่อยู่อาศัย

177
00:29:31,603 --> 00:29:35,565
ที่สำคัญอีกแห่งกำลังเกิดขึ้น

178
00:29:39,027 --> 00:29:45,158
อุกกาบาตกวาดล้างสามในสี่ของพืช
และสัตว์สายพันธุ์ต่างๆบนโลกทั้งหมด

179
00:29:50,079 --> 00:29:57,003
ในเขตร้อนต้องใช้เวลานานถึง6ล้าน
ปีกว่าชีวิตจะกลับมาอีกครั้งในที่สุด

180
00:30:02,717 --> 00:30:06,304
แต่ทว่าครั้งนี้มัน
แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

181
00:30:16,606 --> 00:30:22,028
การคืนชีพนั้นถูกขับเคลื่อนโดยความ
หลากหลายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของพืช

182
00:30:22,111 --> 00:30:27,534
ดอก

183
00:30:37,794 --> 00:30:40,338
บริบูรณ์ยิ่งกว่าอะไรที่เคยมีมา

184
00:30:45,927 --> 00:30:47,929
ป่าฝนเขตร้อน

185
00:30:57,355 --> 00:31:01,568
แหล่งที่อยู่ที่อุดมสมบูรณ์นี้ถูก
สร้างขึ้นจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น

186
00:31:01,651 --> 00:31:05,905
ระหว่างดอกไม้และแมลงนักผสมเกสร

187
00:31:16,499 --> 00:31:18,960
แต่ก็มีแขกใหม่

188
00:31:21,629 --> 00:31:24,299
ที่เข้ามาก่อกวนในเขตแดนของแมลง

189
00:31:27,635 --> 00:31:30,388
ด้วยการใช้ทักษะการบินที่น่าทึ่ง
พวกมันโบยบินไปทั่วป่าที่ลึกลับซับ

190
00:31:30,471 --> 00:31:33,266
ซ้อนได้

191
00:31:35,226 --> 00:31:38,813
พวกมันตัวเล็กลงทำให้พวกมัน
สามารถเข้าถึงน้ำหวานที่อยู่ใน

192
00:31:38,897 --> 00:31:42,525
ดอกไม้ได้

193
00:31:44,903 --> 00:31:48,197
และลูกหลานของพวก
มันก็ยังคงทำแบบนั้นได้

194
00:31:49,908 --> 00:31:51,034
นกฮัมมิงเบิร์ด

195
00:31:57,165 --> 00:31:59,959
เพื่อที่จะขโมยน้ำหวานพวกมัน
วิวัฒนาการให้บินอยู่กับที่ได้

196
00:32:00,043 --> 00:32:02,879
เหมือนแมลง

197
00:32:13,681 --> 00:32:16,976
กระพือปีก80ครั้งต่อวินาที

198
00:32:21,314 --> 00:32:24,150
จงอยปากที่ยาวออกไปทำให้พวกมัน
สามารถกินน้ำหวานจากดอกไม้ได้หลาก

199
00:32:24,233 --> 00:32:27,111
หลายชนิด

200
00:32:31,324 --> 00:32:36,037
พวกฮัมมิงเบิร์ดมีชัยชนะ
เหนือพวกแมลงคู่แข่งหลายชนิด

201
00:32:41,918 --> 00:32:46,839
แต่งานพวกนี้ทำให้ต้อง
ใช้พลังงานเป็นอย่างมาก

202
00:32:48,925 --> 00:32:52,345
พวกมันจึงต้องต่อสู้
เพื่อให้ได้ดอกที่ดีที่สุด

203
00:32:57,433 --> 00:32:59,018
จงอยปากใช้เป็นอาวุธได้ด้วย

204
00:33:17,495 --> 00:33:21,374
แต่มีฮัมมิงเบิร์ดอยู่ชนิด
หนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องสู้กับใคร

205
00:33:23,418 --> 00:33:29,090
มันมีการปรับตัวอันน่าทึ่งที่ไม่
เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ได้ทำคะแนนแลย

206
00:33:31,759 --> 00:33:34,137
ฮัมมิงเบิร์ดปากดาบถือกำเนิดขึ้น

207
00:33:37,432 --> 00:33:41,644
มันมีจงอยปากที่ยาวอย่างน่าทึ่ง

208
00:33:43,354 --> 00:33:47,900
จงอยปากของมันเป็นเหมือนกุญแจดอก
ที่ใช่จึงมีแค่มันที่สามารถ

209
00:33:47,984 --> 00:33:52,572
เพลิดเพลินกับน้ำหวานที่
เข้าถึงยากของดอกแตรนางฟ้าได้

210
00:34:00,204 --> 00:34:05,001
ในช่วงเวลาหลังจากหายนะครั้งใหญ่
ไดโนเสาร์ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายอาจไม่ได้

211
00:34:05,084 --> 00:34:09,881
เป็นเจ้าแห่งป่าอีกต่อไปแต่ญาติตัว
เล็กๆของพวกมันได้เข้ายึดครอง

212
00:34:09,964 --> 00:34:14,719
อีกครั้งด้วยวิธี
ที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง

213
00:34:18,639 --> 00:34:23,061
แต่การเป็นสัตว์ตัวเล็กก็
ไม่ได้เหมาะกับทุกที่บนโลก

214
00:34:35,156 --> 00:34:38,201
การตายของไดโนเสาร์ทำให้
ที่อยู่อาศัยทำเลดีบนโลกหลายแห่งไร้

215
00:34:38,284 --> 00:34:41,329
เจ้าของจับจอง

216
00:34:44,207 --> 00:34:47,335
ที่ว่างเปล่ายิ่งกว่าคือที่ราบ

217
00:34:49,921 --> 00:34:54,926
และในอเมริกาใต้ในอดีต46ล้านปีหลัง
อุกกาบาตพุ่งชนนกที่อาศัยอยู่บนพื้น

218
00:34:55,009 --> 00:35:00,014
ดินมีพื้นที่พอจะพัฒนาเป็นนักล่า
ที่สะพรึงที่สุดต่อจากไทแรนโนซอรัส

219
00:35:00,098 --> 00:35:05,061
เร็กซ์

220
00:35:09,023 --> 00:35:13,611
ค่อยๆย่องท่ามกลางดงต้นปาล์มมัน
สืบทอดนิสัยโหดร้ายดุดันที่สุดมาจาก

221
00:35:13,694 --> 00:35:18,324
สายเลือดเก่าแก่

222
00:35:28,126 --> 00:35:32,088
ในที่โล่งสัตว์เลี้ยงลูก
ด้วยนมยุคบุกเบิกกำลังเล็มหญ้า

223
00:35:36,634 --> 00:35:40,388
ธีโอโซดอนมีขนาดตัว
ใกล้เคียงกับลามะในปัจจุบัน

224
00:35:43,850 --> 00:35:47,019
ตัวเมียที่โตเต็มวัย
คอยระวังภัยอยู่ตลอดเวลา

225
00:35:48,771 --> 00:35:55,695
แต่มันไม่ทันเห็น
เจ้าเทอร์เรอร์เบิร์ด

226
00:36:04,996 --> 00:36:08,958
ด้วยหัวที่เหมือนอีเต้อขุดดินและ
ความสูงถึง2.5เมตรมันสละความสามารถ

227
00:36:09,041 --> 00:36:13,004
ในการบินเพื่อพลังที่แข็งแกร่ง

228
00:36:20,636 --> 00:36:22,471
มันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

229
00:36:29,020 --> 00:36:31,439
แต่เทอร์เรอร์เบิร์ด
เคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ

230
00:37:03,512 --> 00:37:04,972
การล่าเริ่มขึ้นแล้ว

231
00:37:06,974 --> 00:37:12,897
มันเพิ่มความเร็วถึง50กิโลเมตรต่อ
ชั่วโมงได้อย่างรวดเร็วมันเลือกตัว

232
00:37:12,980 --> 00:37:18,903
ที่ยังเด็กที่วิ่งรั้งท้าย

233
00:37:27,036 --> 00:37:31,999
ด้วยน้ำหนักของหัวที่ใหญ่มันจึง
เป็นผู้เชี่ยวชาญในการเปลี่ยนทิศทาง

234
00:38:17,128 --> 00:38:20,006
ได้เวลาแสดงท่าไม้ตายแล้ว

235
00:38:27,346 --> 00:38:29,557
ตอนนี้เทอร์เรอร์เบิร์ดที่ดุร้าย
เป็นใหญ่ในที่ราบหลายแห่งของ

236
00:38:29,640 --> 00:38:31,851
อเมริกาใต้

237
00:38:40,860 --> 00:38:46,407
แต่ในอีกฟากหนึ่งของโลกแผ่นทวีปที่
เคลื่อนตัวไม่หยุดยังคงขีดเขียนบท

238
00:38:46,490 --> 00:38:52,038
ใหม่ในเรื่องราวของชีวิต

239
00:39:00,212 --> 00:39:04,216
ทวีปออสเตรเลียเคลื่อนตัวไปทาง
เหนือมาตลอดหลายล้านปีและเพราะเหตุ

240
00:39:04,300 --> 00:39:08,346
นี้จึงทำให้เกิด
ทะเลน้ำตื้นขนาดใหญ่ขึ้น

241
00:39:10,514 --> 00:39:12,391
แหล่งกำเนิดชีวิตแหล่งใหม่

242
00:39:31,702 --> 00:39:36,415
ครึ่งพืชครึ่งสัตว์

243
00:39:39,293 --> 00:39:41,587
พวกนี้คือปะการัง

244
00:39:45,383 --> 00:39:48,886
ด้วยการใช้พลังงานจากดวงอาทิตย์พวก
มันสร้างโครงสร้างสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่

245
00:39:48,969 --> 00:39:52,515
ที่สุดที่เคยมีมาบนโลก

246
00:39:55,976 --> 00:39:57,186
แนวปะการังเขตร้อน

247
00:40:05,361 --> 00:40:08,948
เมื่อ15ล้านปีก่อนเมืองใหญ่ใต้
ทะเลเหล่านี้ได้มอบโอกาสแก่สรรพสัตว์

248
00:40:09,031 --> 00:40:12,660
ที่รอดชีวิตจำนวนมาก

249
00:40:18,124 --> 00:40:20,835
ฉลามจากทะเลลึก

250
00:40:29,510 --> 00:40:33,889
แนวปะการังยังดึงดูดหนึ่งในสัตว์
เลื้อยคลานทะเลสายพันธุ์สุดท้ายที่

251
00:40:33,973 --> 00:40:38,352
ยังเหลืออยู่พวกเต่า

252
00:40:42,189 --> 00:40:45,276
ภายในสรวงวสวรรค์ใต้น้ำนี้ปลาสาย
พันธุ์ใหม่ๆนับไม่ถ้วนได้ถือกำเนิด

253
00:40:45,359 --> 00:40:48,487
ขึ้นมา

254
00:40:56,579 --> 00:41:00,708
ปลาจำนวนมากที่เพิ่มขึ้นมาจะออกไป
สู่มหาสมุทรที่กว้างใหญ่ในไม่ช้า

255
00:41:00,791 --> 00:41:04,962
ทำให้ทะเลคึกคัก

256
00:41:07,423 --> 00:41:14,346
และนั่นก็ไม่เล็ดลอดสายตาของ
เผ่าพันธุ์หนึ่งที่ไม่เคยปรานี

257
00:41:24,315 --> 00:41:26,942
พวกนกอีกแล้ว

258
00:41:30,112 --> 00:41:33,324
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนกทะเล

259
00:41:36,076 --> 00:41:38,621
หลายล้านปีก่อนพวกมันค้นพบวิธีที่
น่าทึ่งที่จะขโมยความอุดมสมบูรณ์ของ

260
00:41:38,704 --> 00:41:41,290
มหาสมุทร

261
00:41:46,253 --> 00:41:48,088
ด้วยการโจมตีทางอากาศ

262
00:41:53,302 --> 00:41:55,846
และยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน

263
00:41:57,932 --> 00:42:03,312
ผู้รุกรานที่น่า
กลัวที่สุดคือนกแกนเน็ต

264
00:42:06,398 --> 00:42:10,152
สายตาที่แหลมคมทำให้พวกมันมอง
เห็นฝูงปลาได้แม้อยู่ไกลเป็นไมล์

265
00:42:13,614 --> 00:42:16,242
พุ่งตัวลงมาจากเบื้องบนพวกมันทะลุ
ผิวน้ำลงมาด้วยความเร็ว

266
00:42:16,325 --> 00:42:18,953
เกือบ90กิโลเมตรต่อชั่วโมง

267
00:42:23,374 --> 00:42:27,753
กระโหลกที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ
และปีกที่หุบขึ้นได้พวกมันจึงเหมือน

268
00:42:27,836 --> 00:42:32,216
ขีปนาวุธที่มีชีวิต

269
00:42:44,144 --> 00:42:49,441
นอกจากนี้นกแกนเน็ตยังสามารถ
กลั้นหายใจได้นานกว่า40วินาที

270
00:43:06,166 --> 00:43:09,962
นกทะเลโบราณพวกนี้คือนักล่ามือฉมัง

271
00:43:18,721 --> 00:43:22,558
การจู่โจมทางอากาศช่วยให้พวกมันพอ
จะแข่งกับนักล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ

272
00:43:22,641 --> 00:43:26,520
มหาสมุทรอย่างฉลามได้

273
00:43:34,278 --> 00:43:38,907
การล่าเหยื่ออย่างบ้าคลั่งแบบนี้
ยังคงเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ยิ่ง

274
00:43:38,991 --> 00:43:43,621
ใหญ่ที่สุดในธรรมชาติเช่นเดียว
กับที่เคยเป็นเมื่อ15ล้านปีมาแล้ว

275
00:43:47,041 --> 00:43:50,586
ไดโนเสาร์ยังไม่เคยพิชิตมหาสมุทร
ได้แต่ลูกหลานที่บินได้ของพวกมันค้น

276
00:43:50,669 --> 00:43:54,214
พบหนทางในที่สุด

277
00:44:03,807 --> 00:44:07,645
การพิชิตท้องทะเลของพวกมันประสบ
ความสำเร็จเป็นอย่างมากนกทะเลจึง

278
00:44:07,728 --> 00:44:11,565
สามารถสร้าง
อาณานิคมขนาดใหญ่ได้รอบโลก

279
00:44:16,236 --> 00:44:20,616
นี่เป็นหนึ่งในการรวมตัวกันที่
น่าทึ่งที่สุดของสิ่งมีชีวิตบนโลก

280
00:44:25,621 --> 00:44:30,459
แต่การมีชัยเหนือมหาสมุทรทั้ง
หลายของพวกนกก็ยังไม่สมบูรณ์แบบนัก

281
00:44:32,628 --> 00:44:36,507
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของพวกนกเป็น
ที่ประจักษ์เพียงในโลกที่หายไปตามกาล

282
00:44:36,590 --> 00:44:40,469
เวลา

283
00:44:45,391 --> 00:44:47,059
หมู่เกาะกาลาปากอส

284
00:44:51,021 --> 00:44:54,358
พวกนี้คืออิกัวนาทะเล

285
00:44:55,818 --> 00:44:59,279
ลูกหลานของกิ้งก่า
ที่รอดจากอุกกาบาตยักษ์

286
00:45:01,407 --> 00:45:03,367
เช่นเดียวกับสัตว์เลื้อยคลานส่วน
ใหญ่พวกมันต้องอาบแดดเพื่อเพิ่มความ

287
00:45:03,450 --> 00:45:05,411
อบอุ่น

288
00:45:09,373 --> 00:45:11,792
แต่พวกมันไม่ใช่พวก
เดียวที่ชอบอาบแดดที่นี่

289
00:45:16,463 --> 00:45:19,550
มีนกชนิดพิเศษชนิดหนึ่งมาร่วมวงด้วย

290
00:45:21,468 --> 00:45:22,386
เพนกวิน

291
00:45:25,347 --> 00:45:28,475
และนี่คือเพนกวินกาลาปากอส

292
00:45:32,563 --> 00:45:38,694
ตลอดหลายสิบล้านปีบรรพบุรุษของ
มันใช้ปีกเพื่อวัตถุประสงค์อื่น

293
00:45:39,862 --> 00:45:43,115
ปรับให้พวกมันบินขึ้นฟ้าไม่ได้

294
00:45:44,908 --> 00:45:51,832
แต่ทำบางสิ่งได้อย่าง
น่าทึ่งใต้เกลียวคลื่น

295
00:46:00,674 --> 00:46:02,426
การบินใต้น้ำ

296
00:46:07,222 --> 00:46:12,436
เพนกวินควบคุมทิศทางการลอยตัวได้
อย่างยอดเยี่ยมและเป็นหนึ่งในสัตว์

297
00:46:12,519 --> 00:46:17,733
ที่มีลำตัวเพรียวลมมาก
ที่สุดจากบรรดาสัตว์ทั้งหมด

298
00:46:20,277 --> 00:46:23,405
ทำให้พวกมันเป็นนกว่าย
น้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก

299
00:46:29,369 --> 00:46:34,208
เพื่อมองหาปลามันว่ายอยู่กับที่
เหมือนฮัมมิงเบิร์ดด้วยการทรงตัวที่

300
00:46:34,291 --> 00:46:39,129
ดีเยี่ยม

301
00:46:48,013 --> 00:46:53,268
ตรงกันข้ามสัตว์เลือดเย็นอย่า
งอิกัวนานั้นเชื่องช้าและเฉื่อยชา

302
00:46:56,188 --> 00:47:03,111
จึงทำได้เพียงกินสาหร่าย
พลังงานต่ำตามแต่กระแสน้ำจะพัดพาไป

303
00:47:11,495 --> 00:47:14,790
แตกต่างจากสัตว์เลือด
อุ่นอย่างเพนกวินเป็นอย่างมาก

304
00:47:17,751 --> 00:47:24,675
ด้วยความเร็วและความ
คล่องแคล่วจึงไล่จับปลาได้สบายๆ

305
00:47:48,949 --> 00:47:52,619
การบินใต้น้ำทำให้เพนกวินหาอาหารใน
ทะเลได้อย่างที่นกชนิดอื่นไม่เคย

306
00:47:52,703 --> 00:47:56,415
ทำได้

307
00:48:02,963 --> 00:48:06,550
กลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จมากจนพวก
มันสามารถยึดครองทุกทวีปในซีกโลกใต้

308
00:48:06,633 --> 00:48:10,220
ได้

309
00:48:14,641 --> 00:48:18,353
และพัฒนาเป็น18สาย
พันธุ์แตกต่างกันที่เรารู้จัก

310
00:48:21,273 --> 00:48:25,110
บทสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ของพวกนกเผ่า
พันธุ์ที่เกือบจะถูกกวาดล้างจนสูญ

311
00:48:25,193 --> 00:48:29,031
สิ้น

312
00:48:35,621 --> 00:48:40,375
แต่เป็นเพราะผู้รอดชีวิตจำนวนหนึ่ง
ของตระกูลไดโนเสาร์นกจึงฟื้นขึ้นจาก

313
00:48:40,459 --> 00:48:45,255
เถ้าถ่าน

314
00:48:46,381 --> 00:48:52,763
ตลอดเวลา66ล้านปีพวกมันเนรมิต
ตัวเองในหลายรูปแบบจนนับไม่ถ้วน

315
00:48:57,059 --> 00:49:01,146
ปัจจุบันมีนกอยู่นับหมื่นสาย
พันธุ์และพวกมันค้นพบหนทางที่จะอยู่

316
00:49:01,229 --> 00:49:05,317
ได้ในเกือบทุกมุมโลก

317
00:49:08,695 --> 00:49:12,449
แต่พวกมันไม่ใช่พวก
เดียวที่พิชิตโลกได้

318
00:49:17,371 --> 00:49:23,460
เมื่อไม่นานมานี้ทวีปอเมริกา
อยู่ในกำมือของพวกเทอร์เรอร์เบิร์ด

319
00:49:26,964 --> 00:49:30,467
แต่นักล่าอันดับหนึ่งนี้
กำลังจะกลายเป็นเหยื่อในไม่ช้า

320
00:49:33,637 --> 00:49:38,767
ผู้รอดชีวิตจากอุกกาบาตอื่นๆก็พัฒนา
ตัวเองตลอดมาโดยไม่ต้องอยู่ใต้เงาของ

321
00:49:38,850 --> 00:49:44,022
ไดโนเสาร์อีกต่อไป

322
00:49:47,234 --> 00:49:50,487
พวกมันตัวใหญ่ขึ้นและอันตรายกว่าเดิม

323
00:50:01,623 --> 00:50:06,878
ถึงเวลาที่
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะผงาดแล้ว