1 00:00:24,693 --> 00:00:27,571 เพียงสามเดือนหลังจากที่จอห์น เลนนอนถูกยิง 2 00:00:27,571 --> 00:00:31,575 ประธานาธิบดีเรแกนก็ถูกยิงที่วอชิงตัน ดีซี 3 00:00:32,659 --> 00:00:33,952 ผู้ที่ถูกคุมตัวในคืนนี้ 4 00:00:33,952 --> 00:00:36,580 และถูกตั้งข้อหายิงประธานาธิบดี 5 00:00:36,580 --> 00:00:40,166 รวมทั้งคนรอบตัวเขา คือชายหนุ่มที่ชื่อจอห์น ฮิงก์ลีย์ จูเนียร์ 6 00:00:41,126 --> 00:00:42,544 เช่นเดียวกับการฆาตกรรมเลนนอน 7 00:00:42,544 --> 00:00:45,005 การยิงครั้งนี้เกิดขึ้นต่อหน้าสาธารณชน 8 00:00:45,005 --> 00:00:48,008 และผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมในที่เกิดเหตุ 9 00:00:49,426 --> 00:00:51,219 มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา... 10 00:00:51,219 --> 00:00:52,304 {\an8}(แพต คลอว์สัน รายงานข่าว - วอชิงตัน ดีซี) 11 00:00:52,304 --> 00:00:53,930 {\an8}ขณะจอห์น ฮิงก์ลีย์ จูเนียร์ มาถึงศาลรัฐบาลกลาง 12 00:00:53,930 --> 00:00:57,559 {\an8}ในขบวนรถกันกระสุน ที่รายล้อมด้วยตํารวจศาลรัฐบาลกลางติดอาวุธ 13 00:00:58,518 --> 00:01:00,896 อีกอย่างที่คล้ายกับคดีของเลนนอนคือ 14 00:01:00,896 --> 00:01:04,773 พบ "จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น" ในห้องโรงแรมของฮิงก์ลีย์ 15 00:01:05,275 --> 00:01:10,363 ทีมฝ่ายจําเลยของเขาวางแผนพิสูจน์ความบริสุทธิ์ โดยใช้เหตุผลด้านความวิกลจริต 16 00:01:11,573 --> 00:01:13,658 {\an8}โรคจิตเภทถือเป็น... 17 00:01:13,658 --> 00:01:15,076 {\an8}(ดร.วิลเลียม คาร์เพนเทอร์ จิตแพทย์ฝ่ายจําเลยของฮิงก์ลีย์) 18 00:01:15,076 --> 00:01:17,162 {\an8}อาการป่วยทางจิตที่รุนแรงที่สุด 19 00:01:17,162 --> 00:01:22,667 ซึ่งรวมถึงคนที่มีอาการได้ยินเสียงต่างๆ 20 00:01:23,209 --> 00:01:28,340 ที่ทําให้เกิดระบบความเชื่อผิดปกติ ที่เข้ามาควบคุมชีวิตของผู้ป่วย 21 00:01:28,340 --> 00:01:31,259 คาร์เพนเทอร์บอกว่า จอห์น ฮิงก์ลีย์เป็นโรคจิตเภท 22 00:01:31,259 --> 00:01:34,721 และไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย หรือรู้ตัวได้ว่าเขาทําอะไร 23 00:01:36,473 --> 00:01:39,226 ไม่มีการสันนิษฐานกันว่าเขาจะไม่มีความผิด 24 00:01:39,226 --> 00:01:40,769 ด้วยเหตุผลด้านความวิกลจริต 25 00:01:41,561 --> 00:01:45,148 แต่มีการคาดเดากันว่าสาธารณชนจะไม่พอใจ 26 00:01:45,649 --> 00:01:47,025 คนจะโกรธเกรี้ยว 27 00:01:47,025 --> 00:01:48,276 {\an8}(คนเดือดกับคําตัดสินโทษฮิงก์ลีย์) 28 00:01:48,276 --> 00:01:50,528 {\an8}คําตัดสินโทษของฮิงก์ลีย์คือ บริสุทธิ์เนื่องจากวิกลจริต 29 00:01:50,528 --> 00:01:51,529 {\an8}(จอห์น มิลเลอร์ ดับเบิลยูนิว-ทีวี นิวยอร์ก) 30 00:01:51,529 --> 00:01:53,406 {\an8}หลังคําตัดสินวันนี้ ชาวนิวยอร์กหลายคน 31 00:01:53,406 --> 00:01:55,742 บอกว่าการแก้ต่างว่าวิกลจริต เป็นการบอกปัดความรับผิดชอบ 32 00:01:55,742 --> 00:01:58,995 คิดว่าเขา... เขาผิดจริง เพราะฉันไม่เชื่อ 33 00:01:58,995 --> 00:02:02,958 เรื่องวิกลจริตอะไรทั้งนั้น 34 00:02:02,958 --> 00:02:06,169 คนเกลียดเวลาที่ประสบความสําเร็จ ด้วยการแก้ต่างว่าวิกลจริต 35 00:02:06,878 --> 00:02:12,133 และดูเหมือนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่ว ว่าถ้าเป็นอาชญากรรมที่เลวร้าย 36 00:02:12,717 --> 00:02:14,678 คนคนนั้นก็จะต้องชดใช้ 37 00:02:47,210 --> 00:02:48,712 {\an8}(จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น) 38 00:03:04,686 --> 00:03:07,272 (ตอนที่สาม) 39 00:03:07,272 --> 00:03:14,029 (การพิจารณาคดี) 40 00:03:20,160 --> 00:03:22,662 มาร์ค เดวิด แชปแมน ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรม 41 00:03:22,662 --> 00:03:25,457 อดีตเต่าทองจอห์น เลนนอน ได้ยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ 42 00:03:25,457 --> 00:03:27,542 ในเหตุยิงกันครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่าวิกลจริต 43 00:03:27,542 --> 00:03:29,085 แต่เมื่อถามแชปแมนว่า 44 00:03:29,085 --> 00:03:31,630 "คุณจะสารภาพยังไงกับข้อหาฆาตกรรมผู้อื่น โดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน" 45 00:03:31,630 --> 00:03:34,216 คําตอบคือ "ไม่ผิด ด้วยเหตุผลด้านความวิกลจริต" 46 00:03:34,216 --> 00:03:35,759 (วันที่ 6 มกราคม 1981) 47 00:03:36,426 --> 00:03:37,594 {\an8}(บรรยายโดย คีเฟอร์ ซูเธอร์แลนด์) 48 00:03:37,594 --> 00:03:39,179 {\an8}แชปแมนไม่เคยปฏิเสธเรื่องยิงเลนนอน 49 00:03:39,179 --> 00:03:43,516 {\an8}และหลังผ่านการประเมินทางจิตมามากมาย รวมทั้งการสะกดจิต 50 00:03:43,516 --> 00:03:47,604 ทีมฝ่ายจําเลยของเขาเชื่อว่า เขาวิกลจริตขณะที่เหนี่ยวไก 51 00:03:48,230 --> 00:03:52,275 นี่จะเป็นการแก้ต่างที่คนถกเถียงกัน และพวกเขาเตรียมลูกความเพื่อขึ้นพิจารณาคดี 52 00:03:52,275 --> 00:03:53,193 {\an8}(อาคารศาลอาญา) 53 00:03:53,193 --> 00:03:54,903 {\an8}กฎหมายระบุว่าถ้าคุณวิกลจริตจริง 54 00:03:54,903 --> 00:03:56,988 {\an8}ในช่วงนาทีที่คุณฆ่าจอห์น เลนนอน 55 00:03:58,448 --> 00:04:01,743 คุณก็จะถูกตัดสินให้พ้นผิด ด้วยเหตุผลด้านความวิกลจริต 56 00:04:01,743 --> 00:04:05,914 ซึ่งคุณจะไม่ต้องติดคุก แต่ต้องไปอยู่ในสถาบันของรัฐแทน 57 00:04:05,914 --> 00:04:08,500 - โรงพยาบาลจิตเวช - โรงพยาบาลจิตเวช ใช่ครับ 58 00:04:09,167 --> 00:04:11,878 สิ่งที่จะถามในการพิจารณาคดีนี้ เป็นเรื่องสภาวะทางจิตของเขา 59 00:04:11,878 --> 00:04:13,088 {\an8}ในคืนที่มีการยิงกันใช่ไหม 60 00:04:13,088 --> 00:04:14,047 {\an8}(โจนาธาน มาร์คส์ ทนายของแชปแมน) 61 00:04:14,047 --> 00:04:16,507 {\an8}ประเด็นเดียวในการพิจารณาคดีครั้งนี้คือ 62 00:04:17,007 --> 00:04:19,886 {\an8}เขามีอาการวิกลจริต ขณะที่เกิดเหตุยิงกันหรือไม่ 63 00:04:19,886 --> 00:04:22,514 {\an8}และผมคิดว่าพยานของเรา จะระบุว่าเขามีอาการจริง 64 00:04:22,514 --> 00:04:27,060 {\an8}แต่เราจะทําให้คณะลูกขุนเชื่อได้หรือไม่ ว่าเขา... 65 00:04:27,060 --> 00:04:29,187 {\an8}ไม่มีความผิดเพราะวิกลจริต นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง 66 00:04:30,063 --> 00:04:33,441 ผมรู้สึกว่าสิ่งที่คุณแชปแมนเจอรอบตัวตอนนี้ มันเลวร้ายมาก 67 00:04:33,441 --> 00:04:35,443 มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่เราก็แปลกใจอยู่ดี 68 00:04:36,570 --> 00:04:40,115 ทุกคนรู้สึกมีอารมณ์อ่อนไหวไปกับเรื่องนี้ 69 00:04:40,115 --> 00:04:43,410 และแน่นอนว่าหลายคนเกลียดชังแชปแมน 70 00:04:44,953 --> 00:04:47,247 ทนายคนล่าสุดของเขารับทําคดีนี้ 71 00:04:47,247 --> 00:04:50,333 แค่ไม่กี่วัน ก่อนจะถอนตัวไปเพราะถูกขู่ฆ่า 72 00:04:50,333 --> 00:04:53,753 ผมรู้ว่าเราได้รับคําขู่ฆ่า ทางจดหมายด้วยเช่นกัน 73 00:04:54,337 --> 00:04:58,091 {\an8}ว่าเลนนอนเป็นเหมือนพระเจ้า และเรากล้าดียังไง... 74 00:04:58,091 --> 00:04:59,384 {\an8}(เดวิด ซักส์ สมาชิกทีมกฎหมายของแชปแมน) 75 00:04:59,384 --> 00:05:02,470 {\an8}ที่ไปแก้ต่างให้ชายที่ฆ่าเขาอย่างเลือดเย็น 76 00:05:02,470 --> 00:05:04,097 และ "พวกคุณจะต้องชดใช้" 77 00:05:04,973 --> 00:05:08,727 อีกหนึ่งองค์ประกอบในตอนนั้น คือการพยายามลอบสังหารเรแกน 78 00:05:09,769 --> 00:05:13,023 มันยิ่งทําให้สาธารณชนมีอารมณ์รุนแรง 79 00:05:13,023 --> 00:05:16,192 ต่อการแก้ต่าง ด้วยเหตุผลด้านความวิกลจริตโดยทั่วไป 80 00:05:16,192 --> 00:05:21,114 เรารู้ว่าเราจะเจอกับศึกที่ยากมากๆ 81 00:05:25,493 --> 00:05:28,496 การดําเนินคดีนี้ ไม่ยอมรับคําแก้ต่างเรื่องวิกลจริต 82 00:05:29,122 --> 00:05:31,833 พวกเขาเชื่อว่า แชปแมนฆ่าเลนนอนเพราะอยากดัง 83 00:05:35,003 --> 00:05:38,798 ในเนื้อหาของการสัมภาษณ์ครั้งนี้ 84 00:05:38,798 --> 00:05:41,384 {\an8}ผมจะไม่พูดชื่อของจําเลย... 85 00:05:41,384 --> 00:05:42,302 {\an8}(คิม โฮเกรฟ อัยการระดับมลรัฐ) 86 00:05:42,302 --> 00:05:45,138 {\an8}เพราะผมไม่อยากมีส่วนกับ... 87 00:05:46,681 --> 00:05:50,518 สถานการณ์ใดก็ตาม ที่จะทําให้คนหันมาสนใจเขาเพราะชื่อ 88 00:05:50,518 --> 00:05:53,563 เพราะงั้นผมจะขอเรียกเขาว่า "จําเลย" 89 00:05:53,563 --> 00:05:55,690 ผมจะไม่พูดชื่อเขา 90 00:05:56,274 --> 00:05:58,568 {\an8}(เอ็นวายซีพีดี) 91 00:05:59,277 --> 00:06:01,738 จําเลยคนนี้อยากถูกจับกุม 92 00:06:01,738 --> 00:06:05,158 เพราะนี่คือสิ่งที่จะทําให้คนหันมาสนใจเขา 93 00:06:05,158 --> 00:06:07,911 เขาไม่ได้หนีไปจากที่เกิดเหตุ 94 00:06:08,578 --> 00:06:11,748 {\an8}เขาวิ่งไปขึ้นรถไฟใต้ดินได้ง่ายๆ 95 00:06:11,748 --> 00:06:15,335 แล้วหนีไปแบบนั้น หรือหนีเข้าไปในสวนสาธารณะก็ได้ แต่เขาไม่ทํา 96 00:06:15,335 --> 00:06:17,504 เขาแค่ยืนรออยู่ตรงนั้น 97 00:06:19,297 --> 00:06:22,592 ทฤษฎีของพวกเขาคือแชปแมนเป็นคนล้มเหลว 98 00:06:22,592 --> 00:06:27,097 เขาไม่ประสบความสําเร็จอะไรเลย เขาหลงผิดคิดว่าตัวเองสําคัญ 99 00:06:27,097 --> 00:06:28,515 และเขาอยากเป็นที่รู้จักไปทั่ว 100 00:06:28,515 --> 00:06:34,563 มันสมเหตุสมผลไหม มันจิตปกติไหมที่ใครคนนึงจะไปฆ่าคนอื่น 101 00:06:34,563 --> 00:06:39,734 ด้วยความเลือดเย็น ทั้งที่รู้ดีว่าผลจะออกมาเป็นยังไง 102 00:06:39,734 --> 00:06:43,905 ว่าพวกเขาจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต 103 00:06:43,905 --> 00:06:45,865 หรืออยู่ในสถานจิตเวชไปตลอดชีวิต 104 00:06:45,865 --> 00:06:46,992 (ชายที่ยิงเลนนอน) 105 00:06:46,992 --> 00:06:48,743 เพื่อให้พวกเขาลงสักข่าวสองข่าว 106 00:06:48,743 --> 00:06:50,495 บนหน้าหนังสือพิมพ์เนี่ยนะ 107 00:06:50,495 --> 00:06:53,373 มันไม่สมเหตุสมผลเลย 108 00:06:53,373 --> 00:06:55,917 (ชื่อ แชปแมน มาร์ค เดวิด ที่อยู่ 55 ถนนเซาท์คูคูอี) 109 00:06:55,917 --> 00:06:56,835 (ปืนลูกโม่ขนาด .38) 110 00:06:56,835 --> 00:06:59,754 การดําเนินคดีจะอธิบายต่อลูกขุน ถึงความเคลื่อนไหวของแชปแมน 111 00:06:59,754 --> 00:07:04,175 ก่อนเกิดเหตุยิง ว่านี่ไม่ใช่การกระทําเพราะบ้าคลั่ง 112 00:07:04,676 --> 00:07:07,596 แต่เป็นการฆาตกรรมที่ไตร่ตรองไว้ก่อน 113 00:07:07,596 --> 00:07:08,680 {\an8}(ลินดา ไทรา รายงานข่าว) 114 00:07:08,680 --> 00:07:10,849 {\an8}เจ้าหน้าที่ตํารวจนิวยอร์กสืบสาวจนพบว่า 115 00:07:10,849 --> 00:07:13,393 {\an8}ปืนที่ใช้ฆาตกรรมจอห์น เลนนอน มาจากร้านเจแอนด์เอส เอนเทอร์ไพรส์ 116 00:07:13,393 --> 00:07:15,979 ใบเสร็จแสดงให้เห็นว่ามาร์ค แชปแมน 117 00:07:15,979 --> 00:07:19,274 ซื้อปืนกระบอกนั้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมปีนี้ 118 00:07:19,858 --> 00:07:22,986 เขาดูเหมือนคนปกติและจริงใจ ตอนที่เขามาซื้อปืน 119 00:07:22,986 --> 00:07:25,655 เขาซื้อปืนแล้วไปก่อเหตุแบบนั้นหกสัปดาห์ให้หลัง 120 00:07:25,655 --> 00:07:27,115 เราจะไปทําอะไรได้ 121 00:07:30,035 --> 00:07:32,954 พฤติกรรมของจําเลยในการก่อคดีอาญา 122 00:07:32,954 --> 00:07:36,917 บ่งชี้ว่าเขาคิดอย่างมีเหตุมีผล 123 00:07:36,917 --> 00:07:40,754 เขามีปืน... เขามานิวยอร์ก... แต่เขาไม่มีกระสุน 124 00:07:40,754 --> 00:07:44,007 พอไม่สามารถหาซื้อกระสุนในนิวยอร์กได้ 125 00:07:44,007 --> 00:07:47,928 เขาจึงไปหาเพื่อน ที่อาศัยอยู่ในแอตแลนตา จอร์เจีย 126 00:07:48,428 --> 00:07:50,555 แล้วได้กระสุนมาจากเขา 127 00:07:51,139 --> 00:07:52,182 ไม่ใช่แค่นั้นนะ 128 00:07:53,016 --> 00:07:57,354 ก่อนการฆาตกรรม เขาไปหาแฟนคลับผู้หญิงสองคน 129 00:07:57,354 --> 00:08:00,690 ที่ยืนอยู่หน้าเดอะดาโกตาตามปกติ เพราะอยากเจอ 130 00:08:00,690 --> 00:08:04,236 จอห์น เลนนอน เวลาที่เขาเข้าหรือออกจากอะพาร์ตเมนต์นี้ 131 00:08:04,236 --> 00:08:07,280 จึงไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเขาป่วย 132 00:08:07,280 --> 00:08:09,741 จากโรคทางจิตใดๆ 133 00:08:09,741 --> 00:08:12,786 ที่จะทําให้เขาไม่สามารถคิดเป็นเหตุเป็นผลได้ 134 00:08:15,705 --> 00:08:18,625 แต่เสียงบันทึก ที่ทีมฝ่ายจําเลยของเขาบันทึกไว้ที่เกาะไรเกอร์ส 135 00:08:18,625 --> 00:08:23,338 ก่อนการพิจารณาคดีเผยให้เห็นว่า กระบวนความคิดของแชปแมนไม่อยู่กับร่องกับรอย 136 00:08:24,548 --> 00:08:28,301 ตอนนี้ผมเข้าใจดีแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น 137 00:08:28,301 --> 00:08:31,513 มันชัดเจนและมีเหตุผลมาก 138 00:08:34,890 --> 00:08:39,270 เป็นความเชื่ออย่างใจจริงของผม ว่าการฆ่าจอห์น เลนนอน 139 00:08:39,270 --> 00:08:43,942 จะทําให้มีคนหันมาอ่านหนังสือ "จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น" มากขึ้น 140 00:08:48,488 --> 00:08:52,117 {\an8}ผมขออุทิศความพยายามทั้งหมด ให้กับเป้าหมายนี้ 141 00:08:55,245 --> 00:08:57,831 {\an8}หลายคนถามผมว่า "เขาฆ่าเลนนอนทําไม" ผม... 142 00:08:58,498 --> 00:09:00,875 และผมตอบว่า "เขาบอกว่าเขาอยากโปรโมต 143 00:09:00,875 --> 00:09:02,961 ให้คนอ่าน 'จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น'" 144 00:09:03,461 --> 00:09:07,132 พวกเขามองหน้าผมงงๆ และผมบอกว่า 145 00:09:07,132 --> 00:09:10,468 "คําถามของคุณสันนิษฐานว่ามีเหตุผลที่ฟังขึ้น 146 00:09:10,468 --> 00:09:15,515 ว่าทําไมคนบ้าถึงฆ่าคนอื่นได้อย่างเลือดเย็น" 147 00:09:15,515 --> 00:09:19,603 ผมบอก "คุณจะไม่มีทางได้ยินคําอธิบายที่มีเหตุผล 148 00:09:20,395 --> 00:09:23,440 ว่าทําไมคนบ้าถึงทําอะไรบ้าๆ" 149 00:09:24,024 --> 00:09:28,695 ตัวละครในหนังสือคือชายหนุ่มวัยรุ่นคนนึง ที่ชื่อว่าโฮลเดน คอลฟิลด์ 150 00:09:28,695 --> 00:09:33,742 เขาไปนิวยอร์กช่วงสุดสัปดาห์ และเขาเห็นภาพหลอน 151 00:09:33,742 --> 00:09:36,578 ซึ่งเป็นภาพที่เขาคิดว่า เป็นความจอมปลอมในโลกนี้ 152 00:09:37,203 --> 00:09:40,665 เวลาเราเป็นเด็ก คนจะบอกเราว่าโลกเป็นแบบนึง 153 00:09:40,665 --> 00:09:42,918 แต่พอเราโตขึ้น เราจะเห็นว่า 154 00:09:42,918 --> 00:09:46,087 มีหลายแง่มุมที่มันหลอกลวงและจอมปลอม 155 00:09:47,797 --> 00:09:51,343 แชปแมนบอกทีมฝ่ายจําเลย ว่าเขาคือโฮลเดน คอลฟิลด์ 156 00:09:51,343 --> 00:09:54,137 แห่งยุคนี้ และกําลังทําภารกิจ 157 00:09:54,137 --> 00:09:57,307 เพื่อกําจัดคนบนโลก ที่เขามองว่าเป็นพวกจอมปลอม 158 00:09:59,184 --> 00:10:01,186 นี่คือความเห็นผมเกี่ยวกับจอห์น เลนนอน 159 00:10:01,186 --> 00:10:02,270 (บันทึก/แบตเตอรี่) 160 00:10:02,896 --> 00:10:05,106 "สิ่งเดียวที่เราต้องการคือความรัก" เคยได้ยินไหม 161 00:10:05,649 --> 00:10:07,817 ผมขอบอกแบบนี้ 162 00:10:08,443 --> 00:10:12,489 สิ่งที่เราต้องการคือความรัก และเงิน 250 ล้านดอลลาร์ 163 00:10:13,740 --> 00:10:16,785 เขาคือไอ้เวรจอมปลอมชื่อดังที่สุด ที่เคยอยู่บนโลกนี้มา 164 00:10:18,161 --> 00:10:21,122 ผมจะไม่ปล่อยให้โลกต้องทน เจอเรื่องห่าเหวหลอกลวง 165 00:10:21,122 --> 00:10:23,792 ของเขาไปอีกสิบปีหรอก 166 00:10:28,463 --> 00:10:31,383 ในความคิดผม เห็นได้ชัดว่าเขาจิตไม่ปกติ 167 00:10:31,383 --> 00:10:33,051 ตอนที่ผมได้เจอเขา 168 00:10:33,593 --> 00:10:35,470 และเราแค่ต้องการคําให้การ 169 00:10:35,470 --> 00:10:37,889 ที่จะแสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่ว่า 170 00:10:37,889 --> 00:10:40,225 เขาไม่ได้อยู่กับโลกความจริง และ... 171 00:10:41,351 --> 00:10:43,436 เขาป่วยทางจิตจริงๆ 172 00:10:46,481 --> 00:10:49,943 การพยายามหาคําตอบว่าทําไมคนคนนึงถึงเป็นบ้า 173 00:10:50,485 --> 00:10:51,987 เป็นเรื่องที่ทําได้ยากมากๆ 174 00:10:51,987 --> 00:10:55,949 แต่แน่นอนว่ามีหลายคนที่มีข้อมูลเชิงลึก 175 00:10:56,575 --> 00:11:01,037 เราจึงไปสัมภาษณ์คนที่เคยรู้จักเขา 176 00:11:01,746 --> 00:11:04,541 ทีมฝ่ายจําเลย เดินทางไปยังบ้านเกิดของแชปแมนที่จอร์เจีย 177 00:11:04,541 --> 00:11:06,751 และพูดคุยกับเพื่อนในวัยเด็กของเขา 178 00:11:07,836 --> 00:11:11,298 ครั้งแรกที่ผมรู้จักมาร์ค ทุกอย่างดูปกติดี 179 00:11:11,298 --> 00:11:13,508 ครอบครัวชาวอเมริกันทั่วไป 180 00:11:14,676 --> 00:11:15,969 แต่พอเวลาผ่านไป 181 00:11:15,969 --> 00:11:19,514 {\an8}ผมสังเกตเห็นว่ามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น 182 00:11:19,514 --> 00:11:20,682 {\an8}(แวนซ์ ฮันเตอร์ เพื่อนในวัยเด็ก) 183 00:11:22,100 --> 00:11:23,852 เขาจะถูกสั่งให้ "กลับห้องไปเลย" 184 00:11:24,352 --> 00:11:28,815 แล้วพ่อของมาร์คจะเข้าไปพร้อมเข็มขัด และเริ่มฟาดเขา 185 00:11:29,482 --> 00:11:31,401 ใช้กระทั่งปลายด้านหัวเข็มขัดด้วย... 186 00:11:32,152 --> 00:11:36,156 แค่โกรธไม่มีเหตุผลแล้วฟาดไม่ยั้ง 187 00:11:38,283 --> 00:11:41,119 แต่แล้วเขาจะหยุดตีแล้วออกไป 188 00:11:41,119 --> 00:11:46,833 จากนั้นจะได้ยินเขาอยู่ชั้นล่าง กําลังทุบตีแม่ของเขาอยู่ 189 00:11:46,833 --> 00:11:50,128 พ่อเขาทําร้ายร่างกายแม่เขาจนสะบักสะบอม 190 00:11:50,754 --> 00:11:53,715 แล้วพ่อของมาร์คก็จะเข้าไปในห้องนอน 191 00:11:53,715 --> 00:11:56,259 หรือห้องไหนก็ตามที่มีทีวีอยู่ แล้วนั่งลงที่นั่น 192 00:11:56,259 --> 00:11:59,930 พอ 30 นาทีต่อมา เขาก็กลายเป็นคนละคน 193 00:12:00,722 --> 00:12:03,099 พฤติกรรมเขาเปลี่ยนได้ในพริบตา 194 00:12:09,022 --> 00:12:10,899 วันนึงผมไปที่บ้านเขา และเขาบอกว่า 195 00:12:10,899 --> 00:12:13,235 "เฮ้ ดูสิ ฉันมีกัญชาด้วยนะ" 196 00:12:15,237 --> 00:12:20,075 แต่แล้วก็มีเมสคาลีนโผล่มา 197 00:12:21,576 --> 00:12:26,122 มีฝิ่นโผล่มา แล้วก็มีแอลเอสดี 198 00:12:26,122 --> 00:12:28,333 จากแคลิฟอร์เนียโผล่มาด้วย 199 00:12:29,459 --> 00:12:34,965 มีอยู่สุดสัปดาห์นึง มาร์คเสพแอลเอสดี-25 ไปแปดหน 200 00:12:34,965 --> 00:12:39,344 ซึ่งมันแรงมากๆ แล้วเขาหายไปทั้งสุดสัปดาห์เลย 201 00:12:39,344 --> 00:12:43,181 เย็นวันอาทิตย์ผมได้คุยกับมาร์คอีกที และผมพูดว่า 202 00:12:43,181 --> 00:12:47,018 "นายหายไปไหนมาทั้งสุดสัปดาห์" เขาบอก "นี่พวก นายต้องไม่เชื่อแน่ๆ 203 00:12:47,644 --> 00:12:52,357 ฉันเห็นพระเยซูคริสต์ และพระองค์งดงามมากๆ 204 00:12:52,357 --> 00:12:54,234 พระองค์คุยกับฉันด้วย" 205 00:12:56,945 --> 00:13:01,575 วัยเด็กที่วุ่นวายของแชปแมน ทําให้เขาเข้าโบสถ์ท้องถิ่นในแอตแลนตา 206 00:13:04,744 --> 00:13:08,748 มาร์คเป็นคนชอบสันโดษ ไม่มีเพื่อนมากนัก 207 00:13:09,249 --> 00:13:13,670 และผมเข้าใจว่าชีวิตที่บ้านเขา ไม่ใช่ชีวิตที่มีความสุข 208 00:13:14,379 --> 00:13:17,257 {\an8}เขาเล่นยา และเป็นคนที่... 209 00:13:17,257 --> 00:13:18,383 {\an8}(ชาร์ลส์ แมคโกแวน บาทหลวง) 210 00:13:18,383 --> 00:13:22,178 {\an8}ชอบดนตรีฮาร์ดร็อก ดนตรีแอซิดร็อกมากๆ 211 00:13:25,098 --> 00:13:27,142 ทางภาคใต้ในสมัยนั้น 212 00:13:27,142 --> 00:13:31,146 คนมักจะเป็นหนึ่งเดียวกับโบสถ์ในท้องถิ่น 213 00:13:31,146 --> 00:13:34,357 และพวกเขาส่วนมากจะมาโบสถ์บ่อยๆ และศรัทธาในโบสถ์ค่อนข้างมาก 214 00:13:36,443 --> 00:13:39,029 เท่าที่ผมรู้ มาร์คไม่เคยข้องเกี่ยวกับโบสถ์มาก่อน 215 00:13:40,280 --> 00:13:43,158 เพราะงั้นตอนที่เขาปฏิญาณ ว่าจะศรัทธาในพระเจ้า 216 00:13:43,158 --> 00:13:46,119 ผมจึงเป็นเกียรติที่ได้ทําพิธีล้างบาปให้เขา ในสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ 217 00:13:46,995 --> 00:13:48,538 และเป็นผู้คอยนําทางให้เขา 218 00:13:48,538 --> 00:13:53,710 มีกลุ่มคนที่รักและยอมรับในตัวเขาทันที 219 00:13:53,710 --> 00:13:57,255 และเขาค่อนข้างสนใจหนึ่งในเด็กสาว ที่อยู่ในกลุ่มเยาวชน 220 00:13:57,255 --> 00:13:58,215 ชื่อเจสสิกา 221 00:14:01,801 --> 00:14:03,637 ปกติฉันจะเริ่มด้วยการพูดว่า 222 00:14:04,429 --> 00:14:07,098 {\an8}"ฉันเคยคบมาร์ค แชปแมน... 223 00:14:07,098 --> 00:14:08,183 {\an8}(เจสสิกา แบลงเคนชิป แฟนเก่า) 224 00:14:08,183 --> 00:14:10,602 {\an8}ที่ภายหลังได้ฆ่าจอห์น เลนนอน" 225 00:14:11,186 --> 00:14:13,772 และทุกคนตกใจจริงๆ 226 00:14:15,857 --> 00:14:18,026 แฟนเก่า เจสสิกา แบลงเคนชิป 227 00:14:18,026 --> 00:14:20,904 อาจเป็นพยานคนสําคัญ ในการพิจารณาคดีของแชปแมน 228 00:14:22,530 --> 00:14:24,157 ตอนนั้นฉันอายุ 16 229 00:14:24,157 --> 00:14:28,328 และฉันไปหาความสงบอยู่ที่โบสถ์ 230 00:14:29,037 --> 00:14:31,623 มีใครสักคนชวนเขาไป 231 00:14:32,666 --> 00:14:36,378 ฉันแค่คิดว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเจ๋ง และมีอารมณ์อ่อนไหว 232 00:14:36,878 --> 00:14:40,799 เวลาเขาพูด อารมณ์ของเขาจะพรั่งพรูออกมา 233 00:14:41,633 --> 00:14:44,219 เขามีอารมณ์ขันเป็นอย่างมาก 234 00:14:45,470 --> 00:14:48,557 ฉันว่าฉันคงหลงเขาเข้าแล้ว 235 00:14:52,018 --> 00:14:56,398 เขาเป็นคนที่เล่นกีตาร์เก่งมาก 236 00:14:57,148 --> 00:14:59,317 และสามารถเล่นได้ทุกเพลง 237 00:15:00,569 --> 00:15:05,031 เขารักวงเดอะบีเทิลส์มาก จนกระทั่งจอห์น เลนนอนพูดว่า 238 00:15:05,532 --> 00:15:09,077 พวกเขาโด่งดังกว่าพระเยซูคริสต์ 239 00:15:13,707 --> 00:15:19,462 เขาอยากเรียนรู้คัมภีร์ไบเบิลให้มากขึ้น และปลูกฝังศรัทธาในตัวเองให้ลึกซึ้ง 240 00:15:19,462 --> 00:15:23,341 แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือเขาซึมเศร้ามากๆ 241 00:15:25,218 --> 00:15:30,181 เขาจะระบายทุกอย่างออกมา ว่าเขาเศร้าขนาดไหน 242 00:15:30,181 --> 00:15:34,561 และเขารู้สึกว่าเขาคงอยู่ต่อไปไม่ได้ 243 00:15:35,353 --> 00:15:38,315 ฉันรู้สึกว่าตอนนั้นเขาสติแตก 244 00:15:41,943 --> 00:15:47,365 จริงๆ ฉันขอร้อง ให้เขาไปขอความช่วยเหลือด้านจิตเวช 245 00:15:47,365 --> 00:15:48,950 และเขาจะตอบกลับมาว่า 246 00:15:48,950 --> 00:15:51,661 "ผมไม่จําเป็นต้องคุยกับใครหรอก" 247 00:15:52,954 --> 00:15:56,917 ตอนนั้นเขาเริ่มขึ้นเสียงใส่ฉัน 248 00:15:57,709 --> 00:16:03,048 และฉันเชื่อว่ามันเริ่มเป็นช่วงเวลา ที่ความสัมพันธ์ของเราแย่ลง 249 00:16:07,344 --> 00:16:08,929 การยุติความสัมพันธ์ 250 00:16:08,929 --> 00:16:11,348 แปลว่าแชปแมนจะได้มองหาการเริ่มต้นใหม่ 251 00:16:12,682 --> 00:16:14,809 เขาตัดสินใจย้ายไปอยู่ฮาวาย 252 00:16:15,685 --> 00:16:18,813 ลองคิดดูสิ ฮาวายเป็นที่ที่น่าอยู่มาก 253 00:16:18,813 --> 00:16:22,359 อากาศก็ดี มันคือสถานที่ในอุดมคติ 254 00:16:22,359 --> 00:16:24,694 มันต้องเป็นเหมือนสวนเอเดนแน่นอน 255 00:16:24,694 --> 00:16:26,821 แต่ผมเริ่มซึมเศร้าอีกครั้ง 256 00:16:27,322 --> 00:16:29,658 ผมเหนื่อยหน่ายกับทุกอย่าง 257 00:16:30,325 --> 00:16:35,413 สิ่งที่ผมคิดว่าจะไปได้สวย กลับออกมาตรงกันข้าม 258 00:16:42,045 --> 00:16:47,259 เขาขับรถไปยังสถานที่สวยๆ แห่งนึงใกล้ๆ ทะเล 259 00:16:47,259 --> 00:16:51,763 และเขาเอาสายยาง 260 00:16:51,763 --> 00:16:58,687 ไปต่อจากท่อไอเสียเข้ามาในตัวรถ 261 00:16:58,687 --> 00:17:01,565 แล้วเขาก็นั่งรอความตายอยู่ในนั้น 262 00:17:05,776 --> 00:17:10,489 ผมรู้สึกโล่งใจเมื่อรู้ว่าผมกําลังจะตาย 263 00:17:11,157 --> 00:17:12,492 ชีวิตมันแย่มาก 264 00:17:16,746 --> 00:17:19,791 ทีมฝ่ายจําเลยเชื่อว่า การพยายามฆ่าตัวตายคือหลักฐาน 265 00:17:19,791 --> 00:17:21,918 บ่งชี้ปัญหาด้านสุขภาพจิตของแชปแมน 266 00:17:22,419 --> 00:17:26,631 แต่มันดีแต่ส่งเสริมความเชื่อในการดําเนินคดี ว่าเขาเรียกร้องความสนใจ 267 00:17:27,757 --> 00:17:32,304 เขาทําสิ่งที่ผมเรียกว่า เป็นการแสร้งฆ่าตัวตาย 268 00:17:32,304 --> 00:17:36,224 มันคือการกระทําที่ออกแบบมา เพื่อเรียกร้องความสนใจให้ตัวเอง 269 00:17:38,143 --> 00:17:43,231 นี่คือคนวัย 25 ปีที่เคยทําเรื่องในอดีต... 270 00:17:43,231 --> 00:17:45,734 ซึ่งไม่มีเรื่องไหนเป็นที่น่าจดจํา 271 00:17:46,234 --> 00:17:48,028 เขาหงุดหงิดที่เป็นแบบนั้น 272 00:17:48,028 --> 00:17:52,949 และมีบุคลิกภาพแปรปรวน ที่รู้สึกว่าเขาควรได้รับความสนใจ 273 00:17:54,159 --> 00:17:59,998 ช่างโชคร้ายจริงๆ ที่เขาเลือก... 274 00:18:00,790 --> 00:18:03,543 หาแสงใส่ตัวเองโดยการขโมย... 275 00:18:04,294 --> 00:18:07,172 ชื่อเสียงของคนอย่างจอห์น เลนนอน 276 00:18:08,256 --> 00:18:12,886 (วันที่ 22 มิถุนายน 1981) 277 00:18:16,806 --> 00:18:20,644 ตอนนี้สื่อทั่วโลกมารวมตัวกัน เพื่อรอฟังการพิจารณาคดีมาร์ค แชปแมน 278 00:18:21,978 --> 00:18:24,731 พวกเขาหวังว่าจะเข้าใจได้ในที่สุด ว่าทําไมคนดังระดับโลก 279 00:18:25,232 --> 00:18:27,150 ถึงถูกยิงเสียชีวิตอย่างเลือดเย็น 280 00:18:29,611 --> 00:18:32,072 ที่นิวยอร์ก ผู้สังเกตการณ์ 24 คนถูกค้นตัว... 281 00:18:32,072 --> 00:18:32,989 (กรมราชทัณฑ์) 282 00:18:32,989 --> 00:18:35,492 ก่อนได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม การเปิดการพิจารณาคดีมาร์ค แชปแมน 283 00:18:36,743 --> 00:18:39,037 นี่เป็นวันแรกของการคัดเลือกคณะลูกขุน 284 00:18:39,037 --> 00:18:40,830 จุดเริ่มต้นของการพิจารณาคดีอันยาวนาน 285 00:18:40,830 --> 00:18:44,960 กลุ่มผู้สื่อข่าวและผู้สังเกตการณ์บางส่วน มารอเพื่อเข้าไปในห้องพิจารณาคดี 286 00:18:44,960 --> 00:18:47,712 {\an8}(ปี 1983 สื่อ อี.อาร์. ชิปป์ - นิวยอร์กไทมส์) 287 00:18:47,712 --> 00:18:49,256 {\an8}ฉันชอบการพิจารณาคดี 288 00:18:50,006 --> 00:18:53,385 {\an8}ฉันว่ามันคือโอกาสดีๆ ที่จะได้เห็นดราม่า 289 00:18:53,385 --> 00:18:56,054 {\an8}มันมีความตื่นเต้นบางอย่างเกิดขึ้น... 290 00:18:56,054 --> 00:18:57,305 {\an8}(อี.อาร์. ชิปป์ นักข่าว) 291 00:18:57,305 --> 00:18:58,765 และอะดรีนาลีนก็หลั่งไม่หยุด 292 00:19:01,268 --> 00:19:06,773 ตอนนั้นฉันเป็นผู้สื่อข่าวมือใหม่ และมันคือหนึ่งในข่าวใหญ่ข่าวแรกๆ ของฉัน 293 00:19:07,357 --> 00:19:09,025 คนทั้งโลกจับตาดูอยู่ 294 00:19:09,693 --> 00:19:12,195 เขามีเจตนาที่จะฆ่าจอห์น เลนนอนจริงๆ 295 00:19:12,195 --> 00:19:15,907 เขารู้ตัวดีว่าเขาทําอะไร ตอนที่เขาลงมือฆ่าจอห์น เลนนอน 296 00:19:16,491 --> 00:19:18,326 อารมณ์เริ่มคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ 297 00:19:18,326 --> 00:19:21,371 และความเห็นที่มีต่อแชปแมน ยังคงแบ่งฝ่ายเหมือนเดิม 298 00:19:22,205 --> 00:19:23,540 เรารักจอห์น 299 00:19:23,540 --> 00:19:26,501 มันฆ่าจอห์น เลนนอนผู้เป็นตํานาน เป็นที่รัก และรักสันติภาพ 300 00:19:26,501 --> 00:19:27,419 (นิวยอร์กซิตี) 301 00:19:27,419 --> 00:19:29,421 - มันควรถูกประหารชีวิต - จอห์นเชื่อในสันติภาพ 302 00:19:29,421 --> 00:19:31,506 ถึงทุกคนที่เป็นแฟนตัวจริงของจอห์น เลนนอน 303 00:19:32,007 --> 00:19:33,300 อย่าไปทําอะไรหมอนั่นเลย 304 00:19:33,300 --> 00:19:36,052 เพราะจอห์น เลนนอนคงไม่ชอบใจ มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ 305 00:19:36,052 --> 00:19:37,345 จอห์น เลนนอนชอบให้อภัย 306 00:19:37,345 --> 00:19:40,390 คนก็เป็นคนอยู่วันยังค่ํา ไม่ว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนแบบไหนก็ตาม 307 00:19:40,390 --> 00:19:42,976 จะจิตผิดปกติ... หมอนั่นป่วยทางจิต ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น 308 00:19:44,477 --> 00:19:48,440 ผมมั่นใจว่าเพื่อนบางคนของเขา คงบอกว่าการกระทํานี้ผิดปกติ 309 00:19:48,940 --> 00:19:52,777 แต่ไม่มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็น 310 00:19:52,777 --> 00:19:56,573 {\an8}ว่าเขาป่วยทางจิตขั้นรุนแรงจนไม่รู้ตัว 311 00:19:56,573 --> 00:19:58,700 {\an8}ว่าเขาทําอะไร หรือสิ่งไหนผิดบ้าง 312 00:19:58,700 --> 00:20:01,411 นั่นคือประเด็นหลักของคดีนี้ 313 00:20:02,662 --> 00:20:05,707 เราสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นอย่างมาก ตอนเราไปรวมตัวกัน 314 00:20:05,707 --> 00:20:07,042 ด้านนอกห้องพิจารณาคดี 315 00:20:07,042 --> 00:20:11,713 รอให้ประตูเปิดและเริ่มต้นการพิจารณาคดี 316 00:20:12,923 --> 00:20:14,716 นี่คือภาพจากชั้นที่ 13 317 00:20:14,716 --> 00:20:16,259 {\an8}นอกห้องพิจารณาคดี ของผู้พิพากษาเดนนิส เอ็ดเวิร์ดส์ 318 00:20:16,259 --> 00:20:17,302 {\an8}(ไอดา อัลวาเรซ) 319 00:20:17,302 --> 00:20:20,263 โถงทางเดินเต็มไปด้วยผู้สื่อข่าว และทีมงานที่บินมา 320 00:20:20,263 --> 00:20:23,141 จากทั่วโลก เพื่อติดตามคดีฆาตกรรมที่สะเทือนใจนี้ 321 00:20:23,808 --> 00:20:26,853 ทุกคนอยู่นอกห้องพิจารณาคดี 322 00:20:27,354 --> 00:20:29,397 รอให้ประตูเปิด 323 00:20:30,649 --> 00:20:34,277 แต่หลังจากเวลาผ่านไปชั่วโมงนึง และนานขึ้นเรื่อยๆ 324 00:20:34,778 --> 00:20:36,988 เราเริ่มกังวลว่าเกิดอะไรขึ้น 325 00:20:36,988 --> 00:20:38,782 และเราไม่มีส่วนได้รู้เห็นกับสิ่งนั้นด้วย 326 00:20:44,871 --> 00:20:48,625 ผู้พิพากษาใช้ดุลยพินิจตัดสินใจปิดห้องพิจารณาคดี 327 00:20:48,625 --> 00:20:51,920 คนที่เข้าไปในนั้นได้เลยมีแค่ตัวผม 328 00:20:53,004 --> 00:20:57,425 อัยการอาวุโส ทนายฝ่ายจําเลย และผู้พิพากษา 329 00:20:58,802 --> 00:21:01,304 หลังประตูห้องพิจารณาคดีที่ปิดอยู่นั้น 330 00:21:01,304 --> 00:21:03,515 เรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นโดยผิดคาด 331 00:21:05,225 --> 00:21:09,854 แชปแมนสารภาพผิด และเราคิดว่า "อะไรนะ" 332 00:21:12,357 --> 00:21:15,402 ที่ยิ่งแปลกกว่านั้นคือเหตุผลที่แชปแมนพูด 333 00:21:15,402 --> 00:21:17,404 ถึงการสารภาพผิดโดยไม่ได้คาดคิด 334 00:21:18,613 --> 00:21:22,409 {\an8}เขาบอกว่าพระเจ้าไปหาเขาในห้องขัง และบอกเขาให้สารภาพผิดซะ 335 00:21:23,743 --> 00:21:26,621 {\an8}และเขารู้สึกโล่งใจอย่างมากหลังจากนั้น 336 00:21:28,623 --> 00:21:30,792 ผมนั่งอยู่หน้าวิทยุ 337 00:21:30,792 --> 00:21:32,502 ฟังเพลงร็อกอยู่ 338 00:21:33,336 --> 00:21:35,714 {\an8}และผมรู้สึกได้ว่าพระจิตพูดคุยกับหัวใจผม 339 00:21:35,714 --> 00:21:41,177 และผมรู้ในเย็นวันนั้นเอง ว่าพระเจ้าอยากให้ผมสารภาพผิด 340 00:21:41,678 --> 00:21:44,556 {\an8}แต่ผมไม่อยากทํา ผมอยากทําตามแผนการเดิม 341 00:21:46,808 --> 00:21:48,810 เราบอกผู้พิพากษาว่ามันคือ 342 00:21:48,810 --> 00:21:50,729 หลักฐานเพิ่มเติมถึงความวิกลจริตของเขา 343 00:21:51,605 --> 00:21:55,609 และนั่นคือตอนที่ผู้พิพากษาบอกว่า "ผมมีญาติหลายคนที่เชื่อว่าตัวเองพูดคุย 344 00:21:55,609 --> 00:21:58,403 กับพระเจ้าทุกวัน และผมไม่คิดว่าพวกเขาวิกลจริต" 345 00:21:58,403 --> 00:22:00,363 นั่นก็น่าจะเป็นข้อสรุปได้แล้ว 346 00:22:00,363 --> 00:22:01,489 {\an8}(คริสตี เฟเรอร์ อินดิเพนเดนต์ เน็ดเวิร์ก นิวส์) 347 00:22:01,489 --> 00:22:03,617 {\an8}พระเจ้าบอกให้เขาทํา นั่นคือสาเหตุที่มาร์ค เดวิด แชปแมน 348 00:22:03,617 --> 00:22:06,411 {\an8}อ้างว่าเขาเปลี่ยนคําสารภาพจากผู้บริสุทธิ์ เป็นผู้มีความผิด 349 00:22:06,411 --> 00:22:08,204 ในการฆาตกรรมอดีตเต่าทองจอห์น เลนนอน 350 00:22:09,789 --> 00:22:12,459 หากผู้พิพากษามีจําเลยในศาลที่เต็มใจ 351 00:22:12,459 --> 00:22:18,048 จะสารภาพผิดและหยุดการพิจารณาคดี ก็ถือว่าไม่เป็นไรในมุมมองของผู้พิพากษา 352 00:22:21,218 --> 00:22:23,053 ส่วนนึงผมก็ไม่แปลกใจนะ 353 00:22:23,053 --> 00:22:26,306 เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยคุย 354 00:22:26,306 --> 00:22:29,768 ว่าเขากลัวหากต้องไปอยู่โรงพยาบาลจิตเวช 355 00:22:30,518 --> 00:22:32,562 เขาจะถูกรายล้อมไปด้วยปีศาจ 356 00:22:33,188 --> 00:22:34,481 และเขายืนกรานหนักแน่น 357 00:22:34,481 --> 00:22:37,692 เขาไม่อยากไปอยู่โรงพยาบาลจิตเวช 358 00:22:38,318 --> 00:22:41,404 ถึงจะเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นบ้าก็เถอะ 359 00:22:42,280 --> 00:22:45,659 คําสารภาพของแชปแมนตัดจบการพิจารณาคดี ที่อาจเปิดเผยเหตุผลของเขา 360 00:22:45,659 --> 00:22:49,120 ในการยิงหนึ่งในศิลปินที่ยอดเยี่ยมที่สุด ในวงการดนตรีสมัยใหม่ถึงสี่นัด 361 00:22:49,120 --> 00:22:50,497 ทนายฝ่ายจําเลย โจนาธาน มาร์คส์ 362 00:22:50,497 --> 00:22:53,541 บอกว่าเขาผิดหวัง กับการตัดสินใจของลูกความเขามาก 363 00:22:53,541 --> 00:22:56,002 {\an8}ผมตั้งตารออย่างมากกับสิ่งที่อาจเรียกได้ว่า... 364 00:22:56,002 --> 00:22:56,962 {\an8}(โจนาธาน มาร์คส์ ทนายฝ่ายจําเลย) 365 00:22:56,962 --> 00:23:01,633 {\an8}ผมคิดว่านะ เป็นการพิจารณาคดี ที่น่าสนใจและมีประโยชน์มาก 366 00:23:01,633 --> 00:23:03,051 เพราะผมคิดว่ามีหลายคน 367 00:23:03,051 --> 00:23:04,511 จะได้รับความรู้เกี่ยวกับ... 368 00:23:05,595 --> 00:23:08,431 เกี่ยวกับมาร์ค แชปแมน และการแก้ต่างด้วยเหตุผลด้านความวิกลจริต 369 00:23:08,431 --> 00:23:10,559 - คุณคิดว่าเขาบ้าไหม - แน่นอนครับ 370 00:23:10,559 --> 00:23:12,394 - ผมไม่สงสัยเลย - วิกลจริตตามกฎหมายไหม 371 00:23:12,394 --> 00:23:13,603 วิกลจริตตามกฎหมาย ใช่ครับ 372 00:23:24,823 --> 00:23:29,619 ครับ แน่นอนว่าคําให้การด้านจิตเวช เป็นสิ่งที่สําคัญมาก 373 00:23:30,328 --> 00:23:35,375 การดําเนินคดี... คําอธิบายที่พวกเขาบอกว่า เขาเรียกร้องความสนใจ 374 00:23:35,875 --> 00:23:38,044 ว่าเขาหลงผิดคิดว่าตัวเองสําคัญ... 375 00:23:38,545 --> 00:23:42,382 ใช่ มันคือคําอธิบายส่วนหนึ่ง เกี่ยวกับแชปแมนและการกระทําของเขา 376 00:23:42,382 --> 00:23:44,968 แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด 377 00:23:45,635 --> 00:23:49,931 ระดับความวิกลจริตของเขา 378 00:23:49,931 --> 00:23:51,433 มันมากกว่าที่พวกเขาอยากรับรู้ 379 00:23:54,728 --> 00:23:57,439 ดร.ลิซา โกลด์เป็นแพทย์นิติจิตเวช 380 00:23:57,439 --> 00:23:59,816 ที่เชี่ยวชาญด้านการใช้ความวิกลจริตมาแก้ต่าง 381 00:24:00,775 --> 00:24:02,944 เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีแชปแมน 382 00:24:03,445 --> 00:24:06,114 แต่วิเคราะห์การตัดสินใจต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น 383 00:24:06,740 --> 00:24:09,743 ทนายบอกว่า "ผมไม่คิดว่าเขามีความสามารถพอ" 384 00:24:09,743 --> 00:24:10,744 (ดร.ลิซา โกลด์ แพทย์นิติจิตเวช) 385 00:24:10,744 --> 00:24:13,204 ฉันไม่แน่ใจว่าทําไมผู้พิพากษาถึงบอกว่า 386 00:24:13,204 --> 00:24:15,665 "ผมคิดว่าเขามีพอ" เขาเป็นผู้พิพากษานะ 387 00:24:15,665 --> 00:24:17,542 เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต 388 00:24:17,542 --> 00:24:20,045 ฉันคงจะโหวตให้เขาพิจารณา เรื่องความสามารถของเขาอีกครั้ง 389 00:24:23,089 --> 00:24:25,634 ฉันอยากถามเขาว่า 390 00:24:25,634 --> 00:24:28,261 "ทําไมคุณถึงเปลี่ยนใจ" 391 00:24:28,261 --> 00:24:33,058 ฉันสงสัยว่าสภาพจิตใจเขาเริ่มแย่ลง เพราะถูกกดดัน 392 00:24:33,058 --> 00:24:36,436 จากการที่สื่อมาทําข่าวสําคัญนี้มากขึ้น 393 00:24:38,021 --> 00:24:40,440 ระหว่างรอคําตัดสินที่เกาะไรเกอร์ส 394 00:24:40,440 --> 00:24:44,236 สภาพจิตใจของแชปแมนก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น 395 00:24:45,695 --> 00:24:48,240 นี่คือบันทึกที่ผมจดไว้ในแฟ้ม 396 00:24:48,949 --> 00:24:54,079 "วันที่ 12 กรกฎาคม 1981 มาร์ค แชปแมนเกิดอาการทางจิตขั้นรุนแรง 397 00:24:54,079 --> 00:24:56,873 ที่โรงพยาบาลเรือนจําเกาะไรเกอร์ส 398 00:24:57,374 --> 00:24:59,584 เขาเหวี่ยงเก้าอี้ไปโดนชุดทีวี 399 00:24:59,584 --> 00:25:03,213 และพูดจายั่วยุด้วยเสียงสูง บอกว่าเขาคือปีศาจ 400 00:25:03,964 --> 00:25:06,675 จากนั้นเขาถูกขังไว้ในห้องขัง และเริ่มกระโดดไปมา 401 00:25:06,675 --> 00:25:10,804 ปีนลูกกรงห้องขัง และกรีดร้องโวยวายอย่างกับลิง" 402 00:25:13,390 --> 00:25:15,517 ตอนที่ผมเจอเขา เขาได้รับยาแล้ว 403 00:25:15,517 --> 00:25:17,811 ซึ่งเป็นยาต่อต้านอาการทางจิตขนานแรง 404 00:25:17,811 --> 00:25:21,898 เขาบอกผมว่าเขาถูกปีศาจสองตัวเข้าสิง 405 00:25:23,900 --> 00:25:25,443 เขาสารภาพผิดไปแล้ว 406 00:25:25,443 --> 00:25:28,280 ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะได้จากเรื่องนี้ 407 00:25:29,364 --> 00:25:31,324 ผมคิดว่านั่นเป็นหลักฐานที่มีน้ําหนัก 408 00:25:31,324 --> 00:25:33,326 สําหรับอาการวิกลจริตของเขา 409 00:25:39,541 --> 00:25:41,585 หลายเดือนหลังเกิดเหตุยิง 410 00:25:41,585 --> 00:25:45,297 โยโกะยังคงพยายามทําความเข้าใจ การสูญเสียจอห์นแบบกะทันหัน 411 00:25:45,922 --> 00:25:48,633 เรามีความสุขด้วยกันในนิวยอร์กมาก 412 00:25:49,384 --> 00:25:50,802 แล้วทุกอย่างก็หายไป 413 00:25:50,802 --> 00:25:54,180 และข้อเท็จจริงที่ว่าเขาจากไปกะทันหันด้วย 414 00:25:54,180 --> 00:25:58,226 ฉันคิดว่ามันกระทบฉัน เพราะถ้ามันค่อยๆ เกิดขึ้นช้าๆ 415 00:25:58,226 --> 00:26:00,145 เราคงได้คุยกันก่อน 416 00:26:00,645 --> 00:26:05,859 แต่จอห์นคนที่ฉันรู้จักเป็นคนชอบเข้าสังคม 417 00:26:06,484 --> 00:26:08,945 เปี่ยมด้วยพลังและจิตวิญญาณ 418 00:26:16,828 --> 00:26:20,081 ตอนนี้มาร์ค แชปแมน ปรากฏตัวต่อสาธารณะเพื่อฟังคําตัดสิน 419 00:26:20,790 --> 00:26:23,001 นี่คือโอกาสสุดท้ายสําหรับทีมกฎหมาย 420 00:26:23,001 --> 00:26:26,213 ที่จะขอผ่อนผันโทษเพราะสุขภาพจิตของเขา 421 00:26:27,005 --> 00:26:29,424 เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเสี่ยงทําอะไรกับแชปแมน 422 00:26:29,424 --> 00:26:32,177 เพราะมีแฟนตัวยงของเลนนอนมามากมาย 423 00:26:32,677 --> 00:26:36,681 เช้านี้แชปแมนมาถึงศาลโดยไม่มีใครพบเห็น ภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนา 424 00:26:36,681 --> 00:26:38,350 เมื่อจําเลยถูกตัดสินโทษ 425 00:26:38,350 --> 00:26:42,729 ห้องพิจารณาคดีเปิดอยู่ สาธารณชนเลยมากันเต็มห้องพิจารณาคดี 426 00:26:43,688 --> 00:26:47,108 {\an8}ช่วงสองแถวแรกในห้องพิจารณาคดี เป็นพวกผู้สื่อข่าว 427 00:26:47,108 --> 00:26:48,610 {\an8}และสมาชิกสื่อต่างๆ 428 00:26:48,610 --> 00:26:49,569 {\an8}(นิวยอร์ก) 429 00:26:49,569 --> 00:26:51,196 {\an8}รปภ.ใช้เครื่องตรวจโลหะค้นตัวทุกคน 430 00:26:51,196 --> 00:26:52,739 ที่เข้าไปในห้องพิจารณาคดี 431 00:26:52,739 --> 00:26:54,115 ข้างในนั้น มาร์ค เดวิด แชปแมน 432 00:26:54,115 --> 00:26:55,742 สวมเสื้อกันกระสุนไว้ภายในเสื้อเชิ้ต 433 00:26:55,742 --> 00:26:59,579 {\an8}นั่งถือ "จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น" ของเจ.ดี. ซาลินเจอร์ไว้แน่นในมือ 434 00:27:00,205 --> 00:27:03,375 {\an8}เราเห็นแชปแมนในการขึ้นศาลเบื้องต้น 435 00:27:03,375 --> 00:27:06,628 และเราเห็นแชปแมนหลังจากที่เขาสารภาพผิด 436 00:27:07,254 --> 00:27:11,216 การตัดสินโทษเป็นโอกาสที่จะได้รับฟังเขา 437 00:27:11,216 --> 00:27:13,426 แชปแมนไม่พูดถึงชายที่เขาฆ่าเลย 438 00:27:13,426 --> 00:27:16,513 ตอนที่เขาได้โอกาสจากผู้พิพากษา ในการให้การต่อศาล 439 00:27:16,513 --> 00:27:19,432 แต่แชปแมนกลับอ่านบทความตอนนึง จากหนังสือที่เขาถือไว้ 440 00:27:19,432 --> 00:27:21,601 ตลอดเวลาพิจารณาคดีส่วนใหญ่ 441 00:27:21,601 --> 00:27:23,853 "จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น" ของเจ.ดี. ซาลินเจอร์ 442 00:27:23,853 --> 00:27:25,772 (จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น) 443 00:27:26,273 --> 00:27:28,275 เขาไม่เคยบอกเหตุผล 444 00:27:28,275 --> 00:27:32,529 ว่าทําไมการเผยแพร่หนังสือถึงเป็นเรื่องดี 445 00:27:34,489 --> 00:27:36,533 เขารู้สึกว่าหนังสือเล่มนั้นสําคัญมาก 446 00:27:37,617 --> 00:27:40,453 มันคือคําพูดที่บอกให้เขาก่อการอะไรแบบนี้ 447 00:27:41,162 --> 00:27:42,622 {\an8}คุณอยากรู้อะไรไหม 448 00:27:42,622 --> 00:27:43,582 {\an8}(รอน ฮอฟฟ์แมน เจ้าหน้าที่สืบสวน เอ็นวายพีดี) 449 00:27:43,582 --> 00:27:46,209 {\an8}ทุกคนในคดีนี้ได้อ่านมัน ยกเว้นผม 450 00:27:47,210 --> 00:27:48,753 {\an8}ผมแค่ไม่เชื่อ 451 00:27:50,714 --> 00:27:54,509 นี่เป็นครั้งแรกที่ผมยอมรับต่อสาธารณะ ว่าผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น 452 00:27:57,095 --> 00:27:59,806 {\an8}เขาพยายามเปลี่ยนชื่อเป็นโฮลเดน คอลฟิลด์ 453 00:27:59,806 --> 00:28:04,185 {\an8}เขาพยายามจะเป็นคนเหล่านั้น 454 00:28:04,185 --> 00:28:06,187 มันไม่มีเหตุผลที่ฟังขึ้นจริงๆ 455 00:28:06,187 --> 00:28:08,732 ที่คิดว่าเราจะกลายร่างเป็นคนอื่นได้ 456 00:28:08,732 --> 00:28:11,443 แต่มันบ่งชี้ชัดเจนว่าเขาไม่อยากเป็นตัวเขาเอง 457 00:28:15,906 --> 00:28:18,033 วันนี้จิตแพทย์สองคนของแชปแมน 458 00:28:18,033 --> 00:28:19,534 อยากให้เขารับการรักษาเพิ่มเติม 459 00:28:19,534 --> 00:28:22,120 พวกเขามีจิตแพทย์ที่บอกว่าเขาเป็นบ้า 460 00:28:23,204 --> 00:28:26,458 เรามีจิตแพทย์ที่บอกว่าเขาไม่ได้บ้า 461 00:28:26,958 --> 00:28:29,794 แล้วพวกเขาก็มีจิตแพทย์อีกคนที่บอกว่าเขาบ้า 462 00:28:29,794 --> 00:28:32,047 แล้วเราก็มีจิตแพทย์อีกคนที่บอกว่าเขาไม่ได้บ้า 463 00:28:32,631 --> 00:28:36,009 ที่ผมรู้คือผมได้คุยกับจิตแพทย์จํานวนมาก ระหว่างทําคดีนี้ 464 00:28:36,885 --> 00:28:39,638 และพวกเขาส่วนใหญ่เองก็บ้าทั้งนั้น 465 00:28:39,638 --> 00:28:41,306 วันนี้มาร์ค เดวิด แชปแมนถูกตัดสิน 466 00:28:41,306 --> 00:28:42,766 จําคุก 20 ปีถึงตลอดชีวิตข้อหาฆาตกรรม 467 00:28:42,766 --> 00:28:44,684 - อดีตเต่าทองจอห์น เลนนอน - แชปแมนถูกตัดสิน 468 00:28:44,684 --> 00:28:47,062 จําคุก 20 ปีถึงตลอดชีวิต ข้อหาฆาตกรรมจอห์น เลนนอน 469 00:28:47,062 --> 00:28:49,105 ไม่มีข้อสงสัยว่าเขามีความผิดทางอาญา 470 00:28:49,105 --> 00:28:50,774 ในการฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 471 00:28:51,942 --> 00:28:55,237 ทนายฝ่ายจําเลยไม่ได้โต้แย้ง พวกเขาแค่พูดสรุป 472 00:28:55,237 --> 00:28:56,738 แน่นอน มันถูกวางแผนอย่างรอบคอบ 473 00:28:56,738 --> 00:28:59,532 ดําเนินการตามแผนอย่างดี เป็นการจงใจทํา และมันบ้ามากๆ ด้วย 474 00:28:59,532 --> 00:29:01,243 คุณคือมาร์คส์ใช่ไหม 475 00:29:01,910 --> 00:29:05,830 ตอนนั้นทั้งโจนาธานและผม รู้ว่าเขาจะต้องติดคุก 476 00:29:05,830 --> 00:29:08,959 ไปตลอดชีวิต และถ้าเขาอยู่ในคุก 477 00:29:08,959 --> 00:29:12,462 เขาจะไม่ได้รับการรักษาด้านจิตเวชใดๆ 478 00:29:12,462 --> 00:29:14,965 ผมคิดว่านั่นไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เหมาะสม 479 00:29:22,305 --> 00:29:26,017 โยโกะยังคงอาศัยอยู่ที่เดอะดาโกตา กับฌอนลูกชายของเธอ 480 00:29:26,518 --> 00:29:28,395 พยายามทําความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น 481 00:29:30,272 --> 00:29:33,984 สิ่งเดียวที่ฉันรู้สึกเสียใจ คือข้อเท็จจริงที่ว่า... 482 00:29:33,984 --> 00:29:35,402 จอห์นต้องตายแบบนั้น 483 00:29:35,902 --> 00:29:39,197 และบางคนบอกว่า ถ้าจอห์นไม่ได้อยู่ที่อเมริกา 484 00:29:39,781 --> 00:29:45,412 อย่างเช่นถ้าเขาอยู่ที่... บริเตน เขาก็คงไม่ถูกยิงตาย 485 00:29:45,412 --> 00:29:47,831 เราน่าจะระวังตัวให้มากกว่านี้ 486 00:29:52,002 --> 00:29:53,253 หลังจอห์นเสียชีวิต 487 00:29:53,253 --> 00:29:56,006 มันเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างมากสําหรับเราทุกคน 488 00:29:56,590 --> 00:29:57,924 เรารู้สึกตัวชาไปหมด 489 00:29:57,924 --> 00:29:58,842 (บ็อบ กรูเอน ช่างภาพของเลนนอน) 490 00:29:58,842 --> 00:30:01,887 โยโกะยังคงเป็นเสาหลัก ด้านความเข้มแข็งในตอนนั้น 491 00:30:01,887 --> 00:30:05,849 และจอห์นไม่ได้จากไปเพราะฆ่าตัวตาย 492 00:30:05,849 --> 00:30:09,936 หรือถูกวางยา หรือ... หรือเขา... เขาหัวใจวาย 493 00:30:09,936 --> 00:30:12,564 ไม่เลย แต่จอห์นถูกฆ่าตาย 494 00:30:13,064 --> 00:30:16,401 และมันสําคัญสําหรับฉันมาก ที่ต้องทําให้คนทั้งโลกรู้ 495 00:30:17,277 --> 00:30:22,073 ทั้งจอห์นและฉันพยายามสร้างโลกที่สันติมาตลอด 496 00:30:22,699 --> 00:30:27,037 มันช่างย้อนแย้งมาก ที่จอห์นซึ่งรักสันติภาพเหลือเกิน 497 00:30:27,037 --> 00:30:28,997 กลับตายด้วยวิธีที่รุนแรงแบบนี้ 498 00:30:30,665 --> 00:30:34,544 ผมจําได้ที่โยโกะพูดว่า เมื่อผู้นําการเคลื่อนไหวจากไป 499 00:30:35,295 --> 00:30:37,923 ต้องมีใครสักคนมารับไม้ต่อ แล้วสานต่อหน้าที่นั้น 500 00:30:40,550 --> 00:30:41,718 ในที่สุดโยโกะก็เจอหนทาง 501 00:30:41,718 --> 00:30:44,888 ที่จะเปลี่ยนการตายของจอห์นเป็นพลังบวก 502 00:30:44,888 --> 00:30:45,889 (SEASON OF GLASS โยโกะ โอโนะ) 503 00:30:45,889 --> 00:30:48,266 เมื่อเธอใช้รูปแว่นเปื้อนเลือดของจอห์น 504 00:30:48,266 --> 00:30:49,392 เป็นปกอัลบั้ม 505 00:30:49,392 --> 00:30:52,729 หลายคนรู้สึกหวาดกลัวว่าเธอจะทําอะไรแบบนั้น 506 00:30:53,521 --> 00:30:57,943 เช้าวันนั้นเธอโทรหาผม ให้ไปช่วยเธอถ่ายรูปแว่น 507 00:30:58,902 --> 00:31:01,154 ผมไปที่เดอะดาโกตาและจัดแสงไฟ 508 00:31:01,154 --> 00:31:04,741 และเธออยากให้วางแว่นไว้ที่ขอบหน้าต่าง ข้างๆ แก้วน้ํา 509 00:31:04,741 --> 00:31:07,369 โดยให้เห็นวิวเซ็นทรัลพาร์กนอกหน้าต่าง 510 00:31:09,037 --> 00:31:12,582 ผมรู้สึกว่านี่ควรเป็นรูปที่เธอถ่าย ผมเลยหยิบกล้องอีกตัว 511 00:31:12,582 --> 00:31:14,960 และถ่ายรูปเธอที่กําลังถ่ายรูปอยู่ 512 00:31:15,877 --> 00:31:18,505 ทีนี้เมื่อคุณมองดูรูปแว่นตานั่น 513 00:31:18,505 --> 00:31:21,091 คุณจะรู้สึกถึงความหวาดกลัว 514 00:31:21,091 --> 00:31:25,595 และนั่นเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้นที่โยโกะรู้สึก 515 00:31:25,595 --> 00:31:26,680 เพราะเธออยู่ในที่เกิดเหตุด้วย 516 00:31:26,680 --> 00:31:28,181 เธอเห็นแว่นตาตอนเปื้อนเลือด 517 00:31:28,765 --> 00:31:31,101 แต่ถ้าคุณรู้สึกแย่ที่ได้เห็นภาพนั้น 518 00:31:31,101 --> 00:31:34,688 คุณลองจินตนาการดู ว่าโยโกะจะรู้สึกมากขนาดไหน 519 00:31:37,148 --> 00:31:41,444 แว่นที่เขาใส่ช่วงสุดท้ายของชีวิต 520 00:31:42,404 --> 00:31:47,450 มันเปรียบเหมือนการบอกกล่าว ว่าการควบคุมอาวุธปืนเป็นสิ่งที่สําคัญแค่ไหน 521 00:31:49,411 --> 00:31:50,996 (ควบคุมอาวุธปืนเดี๋ยวนี้) 522 00:31:50,996 --> 00:31:53,623 {\an8}(จดจําจอห์น) 523 00:31:53,623 --> 00:31:55,458 ต้องทําอะไรสักอย่างเรื่องปืน 524 00:31:55,458 --> 00:31:59,170 ควบคุมอาวุธปืน และความคิดของคนในประเทศนี้ 525 00:31:59,170 --> 00:32:00,881 คนที่ครอบครองอาวุธปืน 526 00:32:00,881 --> 00:32:02,465 มันเลวร้ายมาก 527 00:32:02,465 --> 00:32:06,553 ถ้าแชปแมนมีมีดไม่ใช่ปืน จอห์น เลนนอนอาจจะยังมีชีวิตอยู่ 528 00:32:07,262 --> 00:32:11,725 ปืนมันอันตรายถึงชีวิต ไม่มีทางย้อนเวลากลับไปได้ 529 00:32:13,351 --> 00:32:14,811 {\an8}การตัดสินใจครั้งสุดท้ายก่อนยิง... 530 00:32:14,811 --> 00:32:15,729 {\an8}(การควบคุมปืนไม่ทําให้เราตาย) 531 00:32:15,729 --> 00:32:17,480 {\an8}อาจเป็นอะไรที่หุนหันพลันแล่น 532 00:32:17,480 --> 00:32:19,816 และดูเหมือนนั่นจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับแชปแมน 533 00:32:19,816 --> 00:32:21,109 (วอชิงตัน ดีซี) 534 00:32:21,109 --> 00:32:23,945 (หยุดยั้งอาวุธปืน) 535 00:32:25,196 --> 00:32:28,783 แชปแมนใช้เวลาเกือบสิบปีอยู่ในห้องขังเดี่ยว 536 00:32:28,783 --> 00:32:31,745 ตอนที่เขาตอบรับข้อเสนอ เพื่อให้สัมภาษณ์ในเรือนจํา 537 00:32:31,745 --> 00:32:34,331 โดยแลร์รี คิง พิธีกรทอล์กโชว์ในสหรัฐฯ 538 00:32:34,915 --> 00:32:36,082 {\an8}(แลร์รี คิง สด) 539 00:32:36,082 --> 00:32:37,918 {\an8}คืนนี้เมื่อ 12 ปีก่อน เสียงเพลงได้เงียบลง 540 00:32:37,918 --> 00:32:41,296 {\an8}เมื่อมาร์ค เดวิด แชปแมน ยิงอดีตเต่าทองจอห์น เลนนอนเสียชีวิต... 541 00:32:41,296 --> 00:32:42,214 {\an8}(ฉันรักคุณ จอห์น) 542 00:32:42,214 --> 00:32:45,634 {\an8}เป็นครั้งแรกที่คนอเมริกันได้ฟังฆาตกร 543 00:32:45,634 --> 00:32:47,135 ที่ฆ่าจอห์น เลนนอนโดยตรง 544 00:32:47,844 --> 00:32:52,224 มาร์ค เดวิด แชปแมนมาร่วมรายการกับเรา จากทัณฑสถานแอตติกา 545 00:32:52,224 --> 00:32:55,435 ในวันครบรอบ 12 ปีที่จอห์น เลนนอนจากไป 546 00:32:55,435 --> 00:32:58,521 {\an8}มาร์ค ทําไมต้องตอนนี้ ทําไมถึงออกมาเล่าในตอนนี้ 547 00:32:58,521 --> 00:32:59,689 {\an8}(ซีเอ็นเอ็น) 548 00:32:59,689 --> 00:33:01,566 {\an8}ครับ แลร์รี ผมสบายดีแล้วตอนนี้ 549 00:33:01,566 --> 00:33:04,861 {\an8}ผมมีช่วงเวลาหลายปีที่... สุขภาพแข็งแรงดี 550 00:33:04,861 --> 00:33:06,071 {\an8}(มาร์ค เดวิด แชปแมน ผู้ลอบสังหารจอห์น เลนนอน) 551 00:33:06,071 --> 00:33:07,072 {\an8}ผมรู้สึกดี 552 00:33:07,072 --> 00:33:10,784 {\an8}ผมมีความคิดอยู่เสมอว่าผมอยากออกไปจากที่นี่ 553 00:33:10,784 --> 00:33:13,078 {\an8}เพื่อบอกผู้คนว่าทําไมผมถึงทําสิ่งที่ผมทําไป 554 00:33:14,329 --> 00:33:16,498 ตอนนั้นผมยังหลงทาง 555 00:33:17,123 --> 00:33:20,919 และผมไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว 556 00:33:21,795 --> 00:33:26,758 {\an8}แปลว่าคุณคงรู้สึกสํานึกผิดในทุกๆ วัน 557 00:33:28,552 --> 00:33:31,930 {\an8}ผมสํานึกผิด ผมขอโทษกับสิ่งที่ทําไป 558 00:33:33,056 --> 00:33:36,768 {\an8}ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมจบชีวิตคนคนนึงไปจริงๆ 559 00:33:37,477 --> 00:33:39,854 {\an8}จากนั้นเขาได้กลายเป็นปกอัลบั้มสําหรับผม 560 00:33:39,854 --> 00:33:42,607 {\an8}เหมือนเขาไม่มีตัวตนจริงๆ แม้แต่ตอนที่ผมเจอเขาในวันนั้นด้วย 561 00:33:42,607 --> 00:33:46,236 {\an8}ตอนเขาเซ็นอัลบั้มให้ผม ซึ่งเขาทําด้วยความเต็มใจ 562 00:33:46,987 --> 00:33:50,907 {\an8}และเขาไม่ใช่คนจอมปลอมด้วย เขามีความอดทนสูงมาก 563 00:33:50,907 --> 00:33:52,492 ผมแค่มองเขาเป็น... 564 00:33:53,577 --> 00:33:57,080 - เซเลบริตีสองมิติ... - โอเค 565 00:33:57,080 --> 00:33:58,707 {\an8}- ที่ไม่มีความรู้สึกจริงๆ - อะไรช่วยรักษา 566 00:33:58,707 --> 00:34:00,917 {\an8}สิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็นโรคจิตเภท 567 00:34:01,793 --> 00:34:07,424 {\an8}ไม่ใช่ทั้งยาและหมอ แต่เป็นพระเจ้า 568 00:34:07,424 --> 00:34:10,093 มาร์ค เดวิด แชปแมน คือความล้มเหลวในความคิดของเขาเอง 569 00:34:11,428 --> 00:34:14,681 เขาอยากเป็นคนสําคัญ แลร์รี 570 00:34:15,557 --> 00:34:18,268 เขาไม่รู้จะรับมือยังไงกับการเป็นคนไร้ตัวตน 571 00:34:18,268 --> 00:34:22,771 เขาพยายามมีตัวตนมาตลอดหลายปี 572 00:34:22,771 --> 00:34:25,733 แต่เขาก็แย่ลงเรื่อยๆ... 573 00:34:25,733 --> 00:34:27,693 และผมเชื่อว่าตอนนั้นผมเป็นโรคจิตเภท 574 00:34:27,693 --> 00:34:29,528 ไม่มีใครบอกได้ว่าผมไม่เป็น 575 00:34:29,528 --> 00:34:34,326 ถึงผมจะรับผิดชอบต่อการกระทํา แต่มาร์ค เดวิด แชปแมนลงมือรุนแรง 576 00:34:34,326 --> 00:34:36,661 ต่อสิ่งที่เขามองว่าจอมปลอม 577 00:34:36,661 --> 00:34:39,831 สิ่งที่เขาโกรธ เพื่อกลายเป็นคนแบบที่ไม่ใช่เขา 578 00:34:39,831 --> 00:34:41,041 เพื่อเป็นคนสําคัญ 579 00:34:41,624 --> 00:34:43,919 แชปแมนบอกว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว 580 00:34:43,919 --> 00:34:46,796 กลายมาเป็นชาวคริสต์ และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทํา 581 00:34:49,215 --> 00:34:53,053 นี่เป็นครั้งแรก หลังผ่านไปเกือบ 20 ปีในเรือนจํา... 582 00:34:53,053 --> 00:34:53,970 (วันที่ 3 ตุลาคม 2000) 583 00:34:53,970 --> 00:34:57,390 แชปแมนยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการทัณฑ์บน เพื่อร้องขออิสรภาพ 584 00:34:58,016 --> 00:34:59,976 โยโกะ โอโนะเขียนถึงคณะกรรมการทัณฑ์บน 585 00:34:59,976 --> 00:35:04,731 ว่า "หากแชปแมนถูกปล่อยตัว ฉันกับลูกชายสองคนของจอห์น ฌอนและจูเลียน 586 00:35:04,731 --> 00:35:07,275 จะไม่มีวันรู้สึกปลอดภัยไปตลอดชีวิต" 587 00:35:07,275 --> 00:35:09,486 มาร์ค เดวิด แชปแมนควรได้รับการให้อภัยไหม 588 00:35:16,493 --> 00:35:19,788 ฉันรู้ว่าพระสันตะปาปาไปที่เรือนจํา 589 00:35:19,788 --> 00:35:26,336 และ... ไปเยี่ยมเรือนจําและให้อภัยคนคนนึง 590 00:35:26,336 --> 00:35:29,256 ที่เคยพยายามลอบสังหารท่าน อะไรประมาณนั้น 591 00:35:29,256 --> 00:35:30,715 แต่ฉันไม่ใช่พระสันตะปาปา 592 00:35:31,341 --> 00:35:35,470 และมันยากสําหรับฉันมาก ที่จะให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น 593 00:35:36,429 --> 00:35:39,057 {\an8}นี่คือการพิจารณาทัณฑ์บน ครั้งที่สามของมาร์ค เดวิด แชปแมน 594 00:35:39,057 --> 00:35:40,725 {\an8}ตอนนี้เขาอายุ 49 ปีแล้ว... 595 00:35:40,725 --> 00:35:41,643 {\an8}(วันที่ 5 ตุลาคม 2004) 596 00:35:41,643 --> 00:35:44,312 {\an8}นักโทษในเรือนจํารัฐแอตติกาเกือบ 24 ปี 597 00:35:45,105 --> 00:35:48,066 แชปแมนสามารถยื่นขอทัณฑ์บนได้ตั้งแต่ปี 2000... 598 00:35:48,066 --> 00:35:51,820 และโอกาสทุกครั้งนั้นก็ถูกปฏิเสธ 599 00:35:52,487 --> 00:35:55,949 ฉันคิดว่ามันแย่มากที่ใครสักคน ที่ฆ่าสมาชิกวงเดอะบีเทิลส์ 600 00:35:55,949 --> 00:35:59,369 มีแนวโน้มที่จะถูกปล่อยตัวออกจากคุก 601 00:36:01,788 --> 00:36:03,331 ผมยังไปเยี่ยมเขาอยู่ 602 00:36:04,082 --> 00:36:06,209 เขาชดใช้มากกว่าที่หลายคนรู้ 603 00:36:06,209 --> 00:36:09,004 เพราะเขาต้องอยู่ในห้องขังเดี่ยว 604 00:36:09,713 --> 00:36:12,507 เขาไปร่วมพิธีในโบสถ์ไม่ได้ เพราะกลัวจะเกิดอันตราย 605 00:36:12,507 --> 00:36:14,426 จากนักโทษคนอื่นๆ 606 00:36:17,304 --> 00:36:18,930 ภายใต้สถานการณ์อื่นๆ 607 00:36:18,930 --> 00:36:21,558 {\an8}เขาคงถูกพิจารณาคดีในฐานะคนวิกลจริต 608 00:36:21,558 --> 00:36:25,061 เวลาเขาพูดถึงความทรมาน และแรงกดดันทางจิตใจที่เขาเจอ 609 00:36:25,061 --> 00:36:27,063 เราเรียกมันว่าโรคจิต 610 00:36:28,732 --> 00:36:30,734 ถ้าเขายิงคนที่ไม่มีชื่อเสียง 611 00:36:30,734 --> 00:36:34,237 ผมว่าป่านนี้เขาคงออกจากคุกแล้ว แต่เขายิงผิดคน 612 00:36:35,906 --> 00:36:38,700 ผมเชื่อจริงๆ ว่าเขาไม่ใช่คนอันตรายอีกต่อไป 613 00:36:40,410 --> 00:36:43,038 คนที่พยายามฆ่าประธานาธิบดีเรแกน 614 00:36:43,038 --> 00:36:46,333 เขาเพิ่งถูกปล่อยตัว และถูกตัดสินว่าเป็นบุคคลวิกลจริต 615 00:36:47,292 --> 00:36:51,171 จอห์น ฮิงก์ลีย์ จูเนียร์ ถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดเพราะวิกลจริต 616 00:36:51,171 --> 00:36:53,215 ที่ยิงประธานาธิบดีเรแกน 617 00:36:53,215 --> 00:36:55,383 จอห์น ฮิงก์ลีย์ จูเนียร์จะถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ 618 00:36:55,383 --> 00:37:00,013 หลังผ่านไป 35 ปี และจะได้ไปอยู่กับแม่ของเขา 619 00:37:00,013 --> 00:37:01,056 {\an8}(ตํารวจ ตํารวจศาลสหรัฐฯ) 620 00:37:01,056 --> 00:37:03,600 {\an8}เขาได้รับการรักษา ในโรงพยาบาลจิตเวชจนหายดี 621 00:37:04,100 --> 00:37:06,770 {\an8}และไม่ถือเป็นภัยอันตรายต่อสังคมอีกต่อไป 622 00:37:07,437 --> 00:37:12,067 {\an8}วันนี้ฉันมาเพื่อเรียกร้อง ต่อคณะกรรมการทัณฑ์บนรัฐนิวยอร์ก... 623 00:37:12,067 --> 00:37:12,984 {\an8}(สมัชชารัฐนิวยอร์ก) 624 00:37:12,984 --> 00:37:16,571 {\an8}เพื่อปฏิเสธการปล่อยตัวมาร์ค แชปแมน 625 00:37:16,571 --> 00:37:17,572 {\an8}(อย่าทําให้เราผิดหวัง คณะกรรมการทัณฑ์บน) 626 00:37:17,572 --> 00:37:20,242 {\an8}ขณะเดียวกัน มาร์คยังคงอยู่ในคุก 627 00:37:20,242 --> 00:37:22,953 {\an8}โดยจํากัดการเข้าถึงการรักษาด้านจิตเวช 628 00:37:25,789 --> 00:37:28,667 {\an8}ผมพยายามมีความเห็นอกเห็นใจ ลูกความทุกคนของผม 629 00:37:29,334 --> 00:37:30,835 {\an8}และบางทีมัน... 630 00:37:30,835 --> 00:37:33,505 มันก็ทําได้ยากกว่าครั้งอื่นๆ 631 00:37:33,505 --> 00:37:35,590 และผมเห็นอกเห็นใจเขา 632 00:37:35,590 --> 00:37:37,551 ใครอธิบายได้บ้างว่าทําไมคนคนนึงถึงเป็นบ้า 633 00:37:37,551 --> 00:37:41,429 ผมไม่คิดว่าเขาอยาก... แบบว่า... 634 00:37:41,429 --> 00:37:42,722 ถ้าเขามีโอกาส 635 00:37:42,722 --> 00:37:47,310 ผมไม่คิดว่าเขาอยากเลือกที่จะเป็นบ้าหรอก แต่เขาเป็นไง 636 00:37:47,310 --> 00:37:52,107 เพราะงั้นผมเลยเห็นใจเขา 637 00:37:57,737 --> 00:38:00,323 จอห์น เลนนอนเสียชีวิตไปกว่า 40 ปีแล้ว 638 00:38:01,616 --> 00:38:05,579 แต่คําพูดจากการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย ยังคงดังก้องอยู่ทุกวันนี้ 639 00:38:06,246 --> 00:38:07,956 {\an8}(การสัมภาษณ์จอห์น เลนนอนครั้งสุดท้าย วันที่ 8 ธันวาคม 1980) 640 00:38:07,956 --> 00:38:10,458 {\an8}ดูเหมือนว่าใจความสําคัญของจักรวาล 641 00:38:10,458 --> 00:38:13,753 {\an8}หรือของทุกอย่างที่มีค่า 642 00:38:14,254 --> 00:38:16,882 คือความรัก ความรัก และความรัก 643 00:38:17,591 --> 00:38:19,467 และมันยากเหลือเกิน... 644 00:38:20,218 --> 00:38:23,847 ที่จะรัก เป็นผู้ที่ถูกรัก และแสดงมันออกมา 645 00:38:23,847 --> 00:38:26,892 รู้ไหม ความรักมีอะไรบางอย่างที่แสนวิเศษ 646 00:38:27,809 --> 00:38:30,979 ผมอยากแสดงความรักให้ได้มากที่สุด 647 00:38:34,441 --> 00:38:38,361 ฉันยังคิดถึงเขาอยู่ โดยเฉพาะตอนนี้ เพราะว่า... 648 00:38:38,361 --> 00:38:45,285 โลกนี้มันไม่ค่อยสงบ และดูเหมือนว่าทุกคนกําลังทุกข์ทรมาน 649 00:38:46,661 --> 00:38:49,247 ถ้าเขายังอยู่ มันคงยาก... 650 00:38:49,247 --> 00:38:50,707 มันคงต่างไปจากนี้ ฉันคิดว่านะ 651 00:38:56,379 --> 00:38:59,424 เวลาที่คุณคิดถึงพ่อของคุณตอนนี้ 652 00:38:59,424 --> 00:39:02,802 อะไรคือความทรงจําที่พิเศษที่สุดที่คุณจําได้ 653 00:39:02,802 --> 00:39:04,012 อะไรที่ทําให้คุณคิดว่า 654 00:39:04,012 --> 00:39:06,473 "ใช่ นี่แหละแก่นแท้ของความสัมพันธ์ ระหว่างผมกับพ่อ" 655 00:39:10,185 --> 00:39:15,148 ภาพถ่ายของผมกับพ่อ แบบว่า... ผมจะนั่งอยู่บนตักเขาเสมอ 656 00:39:15,148 --> 00:39:16,566 แค่การได้อยู่ด้วยกัน 657 00:39:16,566 --> 00:39:19,027 เพราะมันเป็นแบบนั้นมาตลอด เราอยู่ด้วยกันเสมอ 658 00:39:22,948 --> 00:39:25,700 ผมรู้ว่าเขาอยู่กับผมเสมอ และผมรู้ว่าเขาเป็นพ่อผม... 659 00:39:28,036 --> 00:39:29,454 และผมรู้ว่าผมรักเขา 660 00:39:33,416 --> 00:39:35,919 คุณคิดว่าอะไรคือผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพ่อคุณ 661 00:39:36,628 --> 00:39:40,006 ดนตรีของเขาส่งผลกระทบต่อทุกคน 662 00:39:41,383 --> 00:39:43,677 แทบทุกคนบนโลกเลย 663 00:39:43,677 --> 00:39:48,848 คือว่า... และมันยอดเยี่ยมมาก ผลกระทบที่ดนตรีมีต่อผู้คน 664 00:39:49,891 --> 00:39:51,476 และสิ่งที่เขาทําต่อคุณล่ะ 665 00:39:52,060 --> 00:39:53,562 สําหรับผมแล้ว เขาคือพ่อผม 666 00:40:48,366 --> 00:40:50,368 คําบรรยายโดย ชลันธร เรืองภักดี