1 00:00:08,426 --> 00:00:09,761 (ยินดีต้อนรับสู่ดีทรอยต์) 2 00:00:20,521 --> 00:00:21,522 (เทรเวอร์ โนอาห์) 3 00:00:21,606 --> 00:00:23,524 ดีทรอยต์ ขอเสียงปรบมือ... 4 00:00:24,567 --> 00:00:26,694 ให้กับเทรเวอร์ โนอาห์ 5 00:00:28,362 --> 00:00:32,533 {\an8}(ไปอยู่ที่ไหนมา) 6 00:00:49,842 --> 00:00:54,055 เป็นไงกันบ้างครับ ดีทรอยต์ 7 00:00:56,557 --> 00:00:58,935 คืนนี้เป็นไงบ้างครับ ทุกคน เป็นไงบ้าง 8 00:00:59,018 --> 00:01:00,853 ขอต้อนรับสู่โชว์ของผม 9 00:01:00,937 --> 00:01:02,605 ขอบคุณมากที่มากันนะครับ 10 00:01:02,688 --> 00:01:04,941 ดูนี่สิ เป็นคืนที่เยี่ยม รู้สึกดีสุดๆ เลย 11 00:01:05,024 --> 00:01:06,776 เราอยู่ที่นี่แล้ว ดีทรอยต์ มิชิแกน 12 00:01:07,360 --> 00:01:08,444 เรามาถึงจนได้ 13 00:01:12,615 --> 00:01:15,409 ผมชอบมากเลย เอาจริงๆ ผมชอบทุกที่ที่ไป 14 00:01:15,493 --> 00:01:19,330 ตอนนี้ผมสนุกกับชีวิตมากกว่าที่ผ่านมานะ ผมว่า 15 00:01:19,413 --> 00:01:24,418 ตอนนี้ผมชอบอเมริกามากขึ้นกว่าที่เคยด้วย 16 00:01:26,295 --> 00:01:27,296 ทุกวันเลย 17 00:01:28,631 --> 00:01:30,550 ผมไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเพราะอะไร 18 00:01:30,633 --> 00:01:31,884 ผมว่ามันเป็นเพราะ... 19 00:01:31,968 --> 00:01:35,137 คุณชอบที่ที่คุณอยู่ต่างจากเดิม เวลาที่มันอาจใกล้ถึงจุดจบน่ะ 20 00:01:35,221 --> 00:01:36,222 มันแค่มี... 21 00:01:37,682 --> 00:01:40,309 ความรู้สึกที่ต่างออกไปน่ะ คุณแค่แบบว่า... 22 00:01:40,393 --> 00:01:42,353 "นั่นมันรสชาติอะไรนะ ฤดูกาลสุดท้ายเหรอ" 23 00:01:46,816 --> 00:01:49,902 เพราะอเมริกาเอาแน่เอานอนไม่ได้ คุณไม่มีทางรู้เลย 24 00:01:50,486 --> 00:01:52,029 ทุกวันคือวันที่ดีที่สุด 25 00:01:52,113 --> 00:01:53,573 และอาจเป็นวันสุดท้ายด้วย 26 00:01:55,908 --> 00:01:58,619 ผมกําลังมีช่วงเวลาที่วิเศษมาก จริงๆ นะ 27 00:01:58,703 --> 00:02:00,997 ปีนี้ดีงามมากเพราะ... 28 00:02:01,080 --> 00:02:02,832 ผมได้เดินทางไปทั่วโลก 29 00:02:02,915 --> 00:02:05,042 แสดงโชว์ในสถานที่ต่างๆ ที่ผมไม่เคยแสดงมาก่อน 30 00:02:05,126 --> 00:02:08,963 ที่ที่ผมอยากไปแสดงตลกมาตลอด ที่ผมอยากไปลองเสมอ 31 00:02:09,046 --> 00:02:13,426 ผมได้แสดงในเบอร์ลิน เยอรมนีเป็นครั้งแรก 32 00:02:13,509 --> 00:02:14,969 มันวิเศษมาก 33 00:02:15,052 --> 00:02:18,139 พูดจริงนะ ผู้คนทําผมสติแตกก่อนผมไปถึงเสียอีก 34 00:02:18,222 --> 00:02:22,351 เหมือนกับดีทรอยต์แหละ คนชอบพูดว่า "ระวังดีทรอยต์ไว้นะ" 35 00:02:22,435 --> 00:02:24,604 กับเยอรมนีก็เป็นแบบนั้นเลย 36 00:02:24,687 --> 00:02:27,732 ตอนผมกําลังจะไปเบอร์ลิน คนก็พูดว่า "เพื่อน เยอรมนีเหรอ 37 00:02:27,815 --> 00:02:28,983 คนที่นั่นหัวเราะเป็นเหรอ" 38 00:02:30,651 --> 00:02:32,778 ผมก็ตอบว่า "หมายความว่าไง พวกเขาเป็นคนนะ" 39 00:02:32,862 --> 00:02:34,655 "ไม่รู้สิ เพื่อน พวกเขาหัวเราะมั้ย" 40 00:02:35,740 --> 00:02:36,741 ทําเอาผมเครียดเลย 41 00:02:36,824 --> 00:02:38,659 พอถึงจุดที่ผมกําลังมุ่งหน้าไปเยอรมนี 42 00:02:38,743 --> 00:02:41,579 ผมถึงขนาดคิดว่าคนดูเยอรมันคงเป็นแบบ 43 00:02:41,662 --> 00:02:44,123 "เออๆ อ๋อๆ 44 00:02:44,207 --> 00:02:46,000 นี่คือโชว์ตลก" 45 00:02:48,127 --> 00:02:49,670 แต่เปล่าเลย พวกเขาหัวเราะ 46 00:02:50,213 --> 00:02:52,006 ที่จริงพวกเขาเป็นคนดูที่เยี่ยมมาก 47 00:02:53,049 --> 00:02:54,759 ผมสนุกมากในเบอร์ลิน 48 00:02:54,842 --> 00:02:57,720 มันเป็นเมืองที่ค่อยๆ ทําให้คุณหลงรัก เพราะมัน... 49 00:02:57,803 --> 00:03:00,473 มันมีความหลากลายทางวัฒนธรรมมาก 50 00:03:01,432 --> 00:03:03,684 มีวงการศิลปะที่กําลังเติบโต 51 00:03:04,226 --> 00:03:06,103 ดนตรีก็สุดยอด 52 00:03:06,187 --> 00:03:07,355 ประวัติศาสตร์... 53 00:03:08,022 --> 00:03:11,609 ประวัติศาสตร์ในเบอร์ลินลึกซึ้งและเข้มข้นจริงๆ 54 00:03:12,360 --> 00:03:17,406 ผมรักการเดินทางและดูสถานที่ต่างๆ ทุกครั้งที่ผมอยู่ในเมืองเหล่านี้ 55 00:03:17,490 --> 00:03:20,743 และในเบอร์ลิน ผมไปเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ 56 00:03:21,285 --> 00:03:22,453 และผมสนุกมาก 57 00:03:22,536 --> 00:03:27,291 แต่ผมอยากให้มีคนเตือนผมก่อนว่า ประวัติศาสตร์ของเบอร์ลินเจ็บปวดมาก 58 00:03:27,375 --> 00:03:31,212 เพราะนั่นเป็นศูนย์บัญชาการของพรรคนาซีนะ 59 00:03:31,295 --> 00:03:34,382 เพราะงั้นทุกอย่างเกี่ยวโยงกับฮิตเลอร์ ผมไม่รู้เรื่องนี้เลย 60 00:03:34,465 --> 00:03:36,634 ผมนึกว่าเราจะไปทัวร์น่ารักๆ 61 00:03:37,176 --> 00:03:39,387 ผมถามคําถามเยอะเลย ก็ผมอยากรู้ 62 00:03:39,929 --> 00:03:41,514 ทําเอาทุกคนอารมณ์ดิ่งเลยครับ 63 00:03:44,725 --> 00:03:45,977 เราไปตามสถานที่ต่างๆ 64 00:03:46,060 --> 00:03:47,687 ไกด์กําลังเล่าอย่างเพลิน 65 00:03:47,770 --> 00:03:51,023 เขามีความสุขด้วยนะ เขาพูดว่า "ที่คุณเห็นข้างหลังผมนี่ 66 00:03:51,107 --> 00:03:55,069 เป็นหนึ่งในสนามบินที่ใหญ่ที่สุด ที่เคยถูกสร้างในโลก" 67 00:03:55,152 --> 00:03:58,823 "ใช่ มันคือสนามบินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ของเบอร์ลิน 68 00:03:58,906 --> 00:04:02,243 และมันใหญ่มากถึงขนาดที่เราสามารถถ่าย 69 00:04:02,326 --> 00:04:06,664 หนังฮอลลีวูดเรื่องเกมล่าเกม ในสนามบินนี้ได้เลย" 70 00:04:06,747 --> 00:04:08,541 "ครับ มีคําถามอะไรมั้ย" 71 00:04:08,624 --> 00:04:11,127 ผมก็เลยพูดว่า "ครับ ว้าว ที่นี่อายุเท่าไหร่" 72 00:04:11,210 --> 00:04:13,796 เขาตอบว่า "เกือบร้อยปีแล้ว" 73 00:04:13,879 --> 00:04:16,132 ผมก็ "โหย ใครเป็นคนสร้าง" 74 00:04:22,138 --> 00:04:24,724 "อ๋อ นั่นเป็นส่วนที่ไม่น่าพิสมัย... 75 00:04:26,142 --> 00:04:27,643 ของเรื่องราวที่นี่" 76 00:04:28,269 --> 00:04:31,314 "สนามบินนี้สร้างโดยฮิตเลอร์" 77 00:04:33,065 --> 00:04:34,734 ผมรู้เลยว่าผมทําทุกอย่างป่วนละ 78 00:04:35,318 --> 00:04:36,610 ผมพยายามทําให้ทุกคนอารมณ์ดีขึ้น 79 00:04:36,694 --> 00:04:38,404 ผมเลยพูดว่า "ฮิตเลอร์คนไหน" 80 00:04:40,323 --> 00:04:41,824 เขาก็แบบ "ฮิตเลอร์คนไหนเหรอ" 81 00:04:42,408 --> 00:04:43,909 "จะมีฮิตเลอร์คนไหนอีกล่ะ" 82 00:04:43,993 --> 00:04:46,370 ผมก็ "อาจเป็นเฮนรี่ ฮิตเลอร์ก็ได้" "เฮนรี่ ฮิตเลอร์" 83 00:04:46,454 --> 00:04:48,205 "ใครวะเฮนรี่ ฮิตเลอร์" 84 00:04:48,289 --> 00:04:50,416 ผมก็ "คุณไม่รู้จักเฮนรี่ ฮิตเลอร์เหรอ" 85 00:04:51,417 --> 00:04:52,418 มันไม่ได้ผล 86 00:04:55,212 --> 00:04:56,297 ผมแบบ "แหม พวก" 87 00:04:57,631 --> 00:04:59,300 มันเครียด แต่มันดีนะ 88 00:04:59,383 --> 00:05:00,885 ที่ผมบอกว่าดีก็คือ... 89 00:05:01,469 --> 00:05:02,970 มันดีที่ได้อยู่ในสถานที่ 90 00:05:03,679 --> 00:05:07,183 ที่ผู้คนไม่ปกปิดประวัติศาสตร์ของพวกเขา 91 00:05:08,100 --> 00:05:10,227 ผมหมายถึงว่า... 92 00:05:13,647 --> 00:05:18,069 ที่ผมหมายถึงคือเวลาคุณเดินทางในเยอรมนี 93 00:05:18,652 --> 00:05:23,866 ถึงคุณจะไม่ไปพิพิธภัณฑ์ คุณก็ไม่สามารถหนีอดีต 94 00:05:23,949 --> 00:05:26,869 ของสิ่งที่ทั้งเบอร์ลินและเยอรมนีทําไว้ 95 00:05:27,661 --> 00:05:30,164 ในเมืองมีอนุสรณ์กระจายทั่วไปหมด 96 00:05:30,247 --> 00:05:31,832 อนุสรณ์โดดเด่นทั้งนั้น 97 00:05:32,416 --> 00:05:35,920 พวกมันถูกสร้างเพื่อรําลึกถึง สิ่งที่เยอรมนีทํากับคนยิวหลายล้านคน 98 00:05:36,003 --> 00:05:38,005 และคนอื่นๆ ทั่วโลก 99 00:05:38,089 --> 00:05:40,674 พอเห็น คุณก็เข้าใจ ผู้คนพูดถึงมัน 100 00:05:40,758 --> 00:05:43,928 พวกเขาสอนลูกหลานเรื่องนี้ สอนเด็กๆ ในโรงเรียน 101 00:05:44,011 --> 00:05:46,680 พวกเขาจะพูดว่า "ฟังนะ นี่คือสิ่งที่เยอรมนีทําไว้" 102 00:05:46,764 --> 00:05:48,015 พวกเขาทําให้แน่ใจว่าเด็กๆ รู้ 103 00:05:48,099 --> 00:05:50,726 แต่พวกเขาจะไม่ทําให้เด็กๆ รู้สึกผิดนะ 104 00:05:51,310 --> 00:05:53,813 ซึ่งเป็นการสร้างสมดุลที่ดีมาก 105 00:05:53,896 --> 00:05:57,525 พวกเขาจะพูดกับเด็กๆ ว่า "นี่เด็กๆ ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจนะ 106 00:05:58,067 --> 00:05:59,318 เยอรมนีทําแบบนี้ 107 00:05:59,401 --> 00:06:02,571 แต่เธอไม่ได้ผิดนะเพราะเธอไม่ได้อยู่ที่นั่น 108 00:06:03,155 --> 00:06:06,534 แต่เพราะเธอคืออนาคตของเยอรมนี 109 00:06:06,617 --> 00:06:09,954 มันเป็นความรับผิดชอบของเธอ ที่ต้องไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก" 110 00:06:16,710 --> 00:06:18,963 สิ่งที่ผมชอบมากตอนอยู่เยอรมนี 111 00:06:19,046 --> 00:06:22,967 แล้วพวกเขาพูดเรื่องประวัติศาสตร์ตัวเอง คือพวกเขาตรงไปตรงมามาก 112 00:06:23,050 --> 00:06:24,301 พวกเขารู้ว่ามันเจ็บปวด 113 00:06:24,385 --> 00:06:26,720 พวกเขารู้ว่ามันส่งผลเลวร้าย 114 00:06:27,263 --> 00:06:30,057 ต่อตัวตนของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ปกปิดเลย 115 00:06:30,891 --> 00:06:33,102 เวลาผมเห็นพวกเขาทําแบบนั้น ผมก็คิดว่า 116 00:06:33,185 --> 00:06:35,896 "โหย ผมละอยากให้อเมริกา ทําแบบนี้กับประวัติศาสตร์จัง" 117 00:06:37,857 --> 00:06:38,858 เพราะคุณ... 118 00:06:41,193 --> 00:06:43,904 คุณเคยเห็นมั้ยว่ามันกระอักกระอ่วนแค่ไหน 119 00:06:44,530 --> 00:06:46,699 การพูดเรื่องประวัติศาสตร์ในอเมริกาน่ะ 120 00:06:46,782 --> 00:06:47,783 มันตึงเครียดเลย 121 00:06:48,325 --> 00:06:51,162 ไม่สําคัญว่าพูดเรื่องประวัติศาสตร์อะไร มันตึงเครียด 122 00:06:51,954 --> 00:06:54,456 วันโคลัมบัสเป็นหนึ่งในวันแบบนั้น 123 00:06:54,540 --> 00:06:58,377 ทุกปีในนิวยอร์กจะมีการทะเลาะกัน ในดีทรอยต์นี่ก็มีการทะเลาะ 124 00:06:58,460 --> 00:07:01,797 มีรูปปั้นคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสอายุราว 110 ปี 125 00:07:01,881 --> 00:07:04,633 ถึงจุดหนึ่ง คนครึ่งดีทรอยต์ก็บอกว่า "เราต้องกําจัดมัน" 126 00:07:04,717 --> 00:07:07,428 คนอีกครึ่งก็บอกว่า "อย่านะ" ทะเลาะกันใหญ่โต 127 00:07:07,511 --> 00:07:10,764 นิวยอร์กก็เหมือนกันทุกปี วันโคลัมบัส วันชนพื้นเมือง 128 00:07:10,848 --> 00:07:13,434 วันโคลัมบัส วันชนพื้นเมือง 129 00:07:14,018 --> 00:07:16,145 ผมเคยเห็นการสัมภาษณ์ในช่องข่าวครั้งนึง 130 00:07:16,228 --> 00:07:18,856 มันไม่ควรจะตลก แต่ผมคิดว่ามันตลก 131 00:07:20,107 --> 00:07:21,984 นักข่าวไปถามชายคนหนึ่งว่า 132 00:07:22,067 --> 00:07:24,278 "คุณจะทําอะไรในวันชนพื้นเมือง" 133 00:07:24,361 --> 00:07:26,780 เขาก็ตอบว่า "ขอบอกเลยนะ มันคือวันโคลัมบัส 134 00:07:26,864 --> 00:07:29,992 ผมเบื่อและเซ็งมากที่คนมาเปลี่ยนชื่อมัน 135 00:07:30,075 --> 00:07:31,410 เราภูมิใจกับวันนั้นนะ 136 00:07:31,494 --> 00:07:34,872 มันคือวันคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส วันโคลัมบัส จะไม่มีทางเปลี่ยนแน่ 137 00:07:34,955 --> 00:07:37,541 ที่จริง คุณจะรู้สึกยังไงถ้ามีคนมา 138 00:07:37,625 --> 00:07:40,252 พรากสิ่งที่มีมายาวนานไป 139 00:07:40,336 --> 00:07:43,506 และตัดสินใจเปลี่ยนชื่อมันเป็นอย่างอื่น 140 00:07:44,215 --> 00:07:45,674 คุณจะรู้สึกยังไง" 141 00:07:49,762 --> 00:07:51,347 ผมก็คิด "แต่คุณครับ 142 00:07:52,223 --> 00:07:54,475 นั่นเจตนาของวันโคลัมบัสไม่ใช่เหรอ" 143 00:07:58,729 --> 00:08:01,774 ผมจะพูดตรงๆ นะ ผมไม่ได้ชอบวันชนพื้นเมืองนัก 144 00:08:01,857 --> 00:08:04,568 เรื่องชื่อน่ะ ผมไม่ชอบ... ผมว่ามันดูตั้งส่งๆ ไป 145 00:08:04,652 --> 00:08:06,904 ผมว่ามันไม่เฉพาะเจาะจงพอ มันดูขี้เกียจคิด 146 00:08:06,987 --> 00:08:09,698 "วันชนพื้นเมือง" ชนพื้นเมืองไหน ที่ไหน ยังไง 147 00:08:09,782 --> 00:08:11,033 ขอรายละเอียดหน่อย 148 00:08:11,116 --> 00:08:13,327 รู้มั้ยว่าผมชอบอะไรเกี่ยวกับวันโคลัมบัส 149 00:08:13,410 --> 00:08:14,787 มันเจาะจงไง 150 00:08:15,579 --> 00:08:20,334 ใช่ มันเป็นเรื่องราวให้แรงบันดาลใจที่เจาะจง 151 00:08:20,918 --> 00:08:24,296 ของชายที่ชื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส 152 00:08:24,880 --> 00:08:26,840 ทั้งที่ไม่มีความเป็นไปได้เลย แต่เขาเชื่อว่า 153 00:08:27,591 --> 00:08:30,636 เขาสามารถล่องเรือไปรอบโลกผิดทาง 154 00:08:32,972 --> 00:08:35,182 แล้วจะไปเจออินเดียในอีกฝั่งได้ 155 00:08:37,101 --> 00:08:38,394 ไม่มีใครเชื่อในตัวเขา 156 00:08:38,852 --> 00:08:40,020 ใช่ 157 00:08:40,104 --> 00:08:43,357 เขาพูดว่า "ผมจะทําแบบนี้" คนก็บอก "ทําไม่ได้หรอก คริส" 158 00:08:43,440 --> 00:08:46,151 เขาก็ "ผมจะทํา" คนพูดว่า "ทําไม่ได้หรอก" 159 00:08:46,235 --> 00:08:48,779 เขาพูด "ผมจะทํา" คนก็บอก "ทําไม่ได้" 160 00:08:48,862 --> 00:08:52,533 เขาเรี่ยไรเงิน ดิ้นรนอยู่หลายปี ในที่สุดเขาก็มีเรือ 161 00:08:52,616 --> 00:08:54,493 แล้วเขาก็ล่องเรือไปรอบโลกผิดทาง 162 00:08:54,577 --> 00:08:56,537 และเขาทําไม่สําเร็จ 163 00:09:02,418 --> 00:09:05,337 นอกจากเขาจะไปไม่ถึงอินเดียอีกฝั่งแล้ว 164 00:09:05,421 --> 00:09:08,215 เขาพบว่าตัวเองอยู่ที่ที่เรียกว่าแคริบเบียน 165 00:09:08,299 --> 00:09:11,176 แล้วเขาก็พูดว่า "นี่แหละอินเดีย" 166 00:09:13,053 --> 00:09:14,138 ผู้คนที่นั่นก็บอก 167 00:09:14,221 --> 00:09:17,433 "ฉันไม่รู้ว่านายกินสมุนไพรที่เราวางทิ้งไว้รึเปล่า 168 00:09:17,516 --> 00:09:19,810 แต่ที่นี่ไม่ใช่อินเดียแน่นอน" 169 00:09:19,893 --> 00:09:22,605 เขากลับพูดว่า "นี่แหละอินเดีย คุณคือคนอินเดีย" 170 00:09:22,688 --> 00:09:24,857 ผู้คนก็แบบว่า "ไอ้น้อง เราไม่ใช่คนอินเดีย" 171 00:09:24,940 --> 00:09:27,443 เขาพูด "ผมรู้จักคนอินเดีย ถึงผมจะไม่เคยเจอพวกเขา 172 00:09:27,526 --> 00:09:30,070 คุณคือคนอินเดีย ที่อยู่ไกลมากๆ 173 00:09:30,154 --> 00:09:31,530 เพราะงั้นคุณคือคนอินเดียตะวันตก" 174 00:09:35,326 --> 00:09:36,452 และเขาก็ยึดติดกับมัน 175 00:09:37,036 --> 00:09:40,539 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสคิดแบบนั้นตลอดชีวิต 176 00:09:40,623 --> 00:09:43,208 นักสํารวจคนอื่นมาหาเขาแล้วบอกว่า "โย่ คริส 177 00:09:43,292 --> 00:09:46,253 ฉันว่านายไปไม่ถึงอินเดียนะ" 178 00:09:46,337 --> 00:09:47,921 เขาตอบ "มันคืออินเดีย" 179 00:09:48,005 --> 00:09:51,258 พวกเขาก็ "ฉันว่าไม่ใช่อินเดียนะ" เขาก็ "มันคืออินเดีย" 180 00:09:51,342 --> 00:09:54,011 เขาตายไปพร้อมปฏิเสธการรับรู้ว่า มีความเป็นไปได้ 181 00:09:54,094 --> 00:09:56,597 ที่เขาไม่เคยไปถึงอินเดีย 182 00:09:56,680 --> 00:10:01,352 ไม่ใช่แค่นั้นนะ เพื่อน เขาไม่เคยไปถึงอเมริกา 183 00:10:02,061 --> 00:10:03,062 ไม่เคยเลย 184 00:10:03,854 --> 00:10:04,855 สักนิด 185 00:10:04,938 --> 00:10:05,939 แต่ว่า... 186 00:10:06,815 --> 00:10:08,734 เขากลับมีวันหยุดราชการ 187 00:10:09,985 --> 00:10:11,820 ที่ตั้งชื่อตามเขา 188 00:10:13,072 --> 00:10:14,073 ในอเมริกา 189 00:10:15,908 --> 00:10:18,869 เพื่อนเอ๋ย นั่นละเรื่องราวให้แรงบันดาลใจ 190 00:10:21,080 --> 00:10:23,165 ที่ถึงตุ้บแต่ก็ปังได้ของชายผิวขาว 191 00:10:34,134 --> 00:10:37,388 รู้มั้ยว่าคุณต้องมั่นแค่ไหนถึงจะทําได้แบบนั้น 192 00:10:37,930 --> 00:10:40,057 ไม่มีใครทําได้ นั่นมันความมั่นของชายผิวขาว 193 00:10:40,140 --> 00:10:42,476 คนอื่นไม่มีระดับความมั่นแบบนั้น 194 00:10:43,185 --> 00:10:45,354 ไปผิดทางจนไปเจอผิดที่ 195 00:10:45,437 --> 00:10:48,107 เรียกชื่อผู้คนผิดๆ แล้วก็บอกว่า "ผมถูก 196 00:10:48,190 --> 00:10:49,566 ขอวันหยุดให้ผมหน่อย" 197 00:10:51,485 --> 00:10:52,736 ไม่มีใครทําแบบนั้นได้ 198 00:10:52,820 --> 00:10:56,198 นั่นละระดับความมั่นที่เราทุกคนควรต้องมี 199 00:10:56,281 --> 00:10:58,242 ความมั่นระดับชายผิวขาว 200 00:10:58,325 --> 00:10:59,535 ผู้หญิงทําไม่ได้นะ 201 00:10:59,618 --> 00:11:02,246 ถ้าผู้หญิงพูดว่า "ฉันจะล่องเรือไปรอบโลกผิดทาง" 202 00:11:02,329 --> 00:11:04,707 คนคงแบบ "เผาเธอซะ เธอเป็นแม่มด" 203 00:11:07,751 --> 00:11:10,087 คิดว่าคนผิวสีจะทําแบบนั้นได้มั้ย 204 00:11:10,170 --> 00:11:12,297 คิดว่าคนดําจะทําได้มั้ย ว้าว ถามจริง 205 00:11:12,381 --> 00:11:15,384 คนดําจะล่องเรือรอบโลกผิดทาง 206 00:11:15,467 --> 00:11:17,636 ไปยังที่ที่ไม่ควรจะไป 207 00:11:17,719 --> 00:11:19,680 เผลอๆ โดนจับข้อหาบุกรุก 208 00:11:20,931 --> 00:11:22,808 "นายมาทําอะไรที่นี่" 209 00:11:22,891 --> 00:11:25,477 "โทษที ฉันนึกว่าฉันมาถึงอินเดีย 210 00:11:25,561 --> 00:11:26,937 ฉันผิดเอง ฉันขอโทษ 211 00:11:27,020 --> 00:11:29,148 ฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ 212 00:11:29,231 --> 00:11:32,401 เราไม่น่ายุ่งกับเรือเลย ไม่เคยมีเรื่องดีๆ ตามมา 213 00:11:32,484 --> 00:11:35,404 ฉันขอโทษนะ โทษที เพื่อน 214 00:11:35,487 --> 00:11:36,864 จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่" 215 00:11:43,036 --> 00:11:44,997 คุณอยากปกปิดประวัติศาสตร์ตัวเองไปทําไม 216 00:11:46,039 --> 00:11:48,500 สนุกจะตายและมีอะไรให้เรียนรู้เยอะ 217 00:11:49,084 --> 00:11:50,002 รู้มั้ย 218 00:11:50,085 --> 00:11:52,838 ดูเหมือนอเมริกาจะมุ่งไปทางนั้น 219 00:11:52,921 --> 00:11:55,924 ต้องการประวัติศาสตร์น้อยลงเรื่อยๆ เนื้อหาน้อยลงเรื่อยๆ 220 00:11:56,008 --> 00:11:58,302 ดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับตําราเรียนสิ 221 00:11:58,385 --> 00:12:01,346 อย่างที่ฟลอริดา พวกเขาอยากแบนตําราเรียน 222 00:12:01,430 --> 00:12:05,309 ไม่ก็ตัดบางส่วนที่มีเรื่องทาสในตําราเรียน 223 00:12:05,392 --> 00:12:07,811 แล้วตอนนี้ผู้ปกครองก็ทะเลาะกัน พวกเขาพูดว่า 224 00:12:07,895 --> 00:12:12,024 "ไม่ๆ ตัดเรื่องทาสออกไป มันทําให้เด็กๆ รู้สึกแย่" 225 00:12:12,107 --> 00:12:14,151 ผู้ปกครองคนอื่นก็บอก "เก็บเรื่องทาสไว้ 226 00:12:14,234 --> 00:12:15,444 มันช่วยสอนเด็กๆ" 227 00:12:15,527 --> 00:12:18,655 แล้วพวกเขาก็ทะเลาะกันไปมา ผมนี่คิด "ทําไม" 228 00:12:18,739 --> 00:12:20,782 ไม่เห็นต้องทะเลาะกันเรื่อง... 229 00:12:20,866 --> 00:12:22,743 ไม่ควรมีใครทะเลาะกันเรื่องนี้ 230 00:12:23,702 --> 00:12:25,329 เด็กๆ ไม่อ่านตําราเรียนอยู่แล้ว 231 00:12:33,212 --> 00:12:34,505 พวกเขาดูติ๊กต็อก 232 00:12:35,464 --> 00:12:37,841 ถ้าอยากเข้าถึงเด็กๆ ก็ต้องเล่นแอปนั้น 233 00:12:37,925 --> 00:12:39,218 มีการค้าทาส 234 00:12:39,301 --> 00:12:40,385 เรือแล่นมา 235 00:12:40,469 --> 00:12:41,428 เย่... 236 00:12:50,395 --> 00:12:54,399 พูดตรงๆ นะ ผมคิดว่า ตําราเรียนไม่ใช่ปัญหาจริงๆ 237 00:12:54,483 --> 00:12:57,069 ผมคิดว่ามันเป็นหนึ่งในปัญหาที่สร้างขึ้น 238 00:12:57,152 --> 00:13:00,322 ซึ่งมีบ่อยๆ ในอเมริกาเพื่อปลุกปั่นผู้คน 239 00:13:00,906 --> 00:13:03,033 ทําให้พวกเขาโกรธ 240 00:13:03,116 --> 00:13:06,245 และทะเลาะกันเรื่องที่ไม่ได้เป็นปัญหาตั้งแต่ต้น 241 00:13:06,828 --> 00:13:09,289 ผมพูดแบบนี้เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมเชื่อจริงๆ 242 00:13:09,373 --> 00:13:12,793 ผมรู้สึกว่าในอเมริกา นักการเมืองทํางานได้ดีมาก 243 00:13:12,876 --> 00:13:16,338 ในแง่ของการหลอกคนอเมริกัน ให้ทะเลาะกันเรื่องปัญหา 244 00:13:16,421 --> 00:13:18,632 ที่ไม่เคยเป็นปัญหาตั้งแต่ต้น 245 00:13:18,715 --> 00:13:21,927 เพื่อที่พวกคุณจะได้ไม่สนใจปัญหาจริงๆ 246 00:13:23,428 --> 00:13:24,429 นึกออกมั้ย 247 00:13:28,308 --> 00:13:30,686 ถ้าคุณทะเลาะกันเรื่องเนื้อหาในตําราเรียน 248 00:13:30,769 --> 00:13:34,189 คุณก็ไม่สนใจความจริง ที่ว่าเงินเฟ้อมันคุมไม่อยู่แล้ว 249 00:13:34,273 --> 00:13:37,276 ไม่สนใจเรื่องค่าเช่าที่คุมไม่ได้ 250 00:13:37,359 --> 00:13:38,986 คนไม่มีเงินจ่ายค่าที่อยู่ 251 00:13:39,069 --> 00:13:41,196 เงินเดือนก็ไม่ขึ้นเพราะเงินเฟ้อ 252 00:13:41,280 --> 00:13:43,824 บริษัทขโมยเงินเป็นพันๆ ล้านดอลลาร์ 253 00:13:43,907 --> 00:13:46,159 จากพนักงานของพวกเขา แต่ไม่โดนผลพวงอะไรเลย 254 00:13:46,243 --> 00:13:48,203 คุณจะไม่สนใจเรื่องพวกนั้นเลย 255 00:13:48,745 --> 00:13:51,957 คุณสนใจแต่เรื่องน่าดึงดูด เรื่องง่ายๆ ที่เข้าใจได้ 256 00:13:52,040 --> 00:13:53,917 มันทําให้คุณตื่นเต้น 257 00:13:54,543 --> 00:13:57,087 คนข้ามเพศใช้ห้องน้ําสาธารณะได้มั้ย 258 00:13:59,965 --> 00:14:01,133 มันถูกสร้างขึ้น 259 00:14:01,717 --> 00:14:04,094 ใครเป็นคนรับมือกับปัญหานี้ล่ะ ถามจริงๆ นะ 260 00:14:04,177 --> 00:14:06,388 ใครกันที่เป็นคนรับมือกับปัญหานี้ 261 00:14:06,471 --> 00:14:09,266 รู้มั้ยว่าพวกเขาทําอะไร นักการเมืองบางคนคิดออกแล้วบอกว่า 262 00:14:09,349 --> 00:14:12,227 "นี่คือเรื่องราวเล็กๆ ที่มีผลต่อคนไม่กี่คนที่ไหนก็ไม่รู้ 263 00:14:12,311 --> 00:14:14,688 ฉันจะทําให้มันดูเป็นปัญหาแห่งชาติ 264 00:14:14,771 --> 00:14:17,441 แล้วทุกคนก็เริ่มทะเลาะกัน" แต่ใครเป็นคนรับมือล่ะ 265 00:14:17,524 --> 00:14:20,986 ใครเคยอยู่ในสถานการณ์ที่คุณอยู่ในห้องน้ํา 266 00:14:21,069 --> 00:14:23,864 แล้วจู่ๆ ก็มีการปะทะกันแล้วคนก็พูดว่า 267 00:14:23,947 --> 00:14:26,658 "โทษทีนะ คุณเกิดมาพร้อมเพศนี้รึเปล่า 268 00:14:26,742 --> 00:14:29,453 มันบังเอิญตรงกับป้ายตรงประตูมั้ย 269 00:14:29,536 --> 00:14:31,788 อวัยวะเพศคุณตรงกับป้ายนี่รึเปล่า 270 00:14:31,872 --> 00:14:32,998 ขอดูได้มั้ย" 271 00:14:33,081 --> 00:14:34,499 ใครเคยเจอเรื่องนั้นบ้าง 272 00:14:35,208 --> 00:14:36,126 ไม่มีเลย 273 00:14:37,628 --> 00:14:39,004 ไม่มีสักคน 274 00:14:41,465 --> 00:14:44,259 แต่พวกเขาทําให้เราทะเลาะกันเรื่องนั้น เพราะมันน่าดึงดูด 275 00:14:44,843 --> 00:14:46,929 "ใครใช้ห้องน้ําไหนได้" ใครสนกัน 276 00:14:47,596 --> 00:14:49,848 ใครสนกัน ผมพูดจริงนะ ใครสน 277 00:14:49,932 --> 00:14:51,808 ผมรู้ว่าบางคนก็แบบว่า "คนข้ามเพศสนไง" 278 00:14:51,892 --> 00:14:54,019 พวกเขาอยากรู้ว่า พวกเขาใช้ห้องน้ําสาธารณะได้มั้ย 279 00:14:54,102 --> 00:14:57,147 ใช่ อยากใช้ห้องน้ําไหนก็ใช้ไป ใครจะหยุดคุณล่ะ 280 00:14:58,065 --> 00:15:01,151 ไม่ จริงๆ นะ นี่มันห้องน้ําสาธารณะ 281 00:15:01,234 --> 00:15:02,986 ใครจะหยุดคุณ 282 00:15:03,070 --> 00:15:05,822 บอกมาสิ ใครจะบังคับใช้กฎหมาย 283 00:15:06,698 --> 00:15:08,283 เราบังคับความคิดที่ว่า 284 00:15:08,367 --> 00:15:10,452 คนควรอึในชักโครกยังไม่ได้เลย 285 00:15:13,538 --> 00:15:17,793 แต่คุณคิดว่าจู่ๆ พวกเขาจะรู้เหรอว่า คุณเกิดมาแบบนี้ 286 00:15:19,211 --> 00:15:22,756 อยากใช้ห้องไหนก็ใช้ไป ทําไมเราต้องมาเสียเวลาด้วย 287 00:15:24,007 --> 00:15:25,133 คนอื่นคงแบบว่า 288 00:15:25,217 --> 00:15:27,552 "เราจะต่อสู้เพราะคุณต้องรู้ว่าใคร..." 289 00:15:27,636 --> 00:15:30,681 ขอบอกเลยนะ ถ้าคุณใช้เวลามากพอ 290 00:15:30,764 --> 00:15:33,767 จนรู้อวัยวะเพศคนอื่นในห้องน้ําสาธารณะ 291 00:15:33,850 --> 00:15:35,060 คุณมันโรคจิต 292 00:15:37,813 --> 00:15:38,939 ผมกังวลเรื่องคุณ 293 00:15:42,526 --> 00:15:45,654 มีกฎง่ายๆ ของห้องน้ําสาธารณะทั่วโลก 294 00:15:45,737 --> 00:15:48,824 และกฎนั้นคือเข้าไป ไม่ต้องสนใจคนอื่น 295 00:15:48,907 --> 00:15:50,575 กลั้นหายใจ แล้วออกมา 296 00:15:52,327 --> 00:15:54,663 เลิกยืนแกร่วและจ้องคนอื่นได้แล้ว 297 00:15:54,746 --> 00:15:56,957 ผู้ชายทุกคนในห้องนี้รู้ดี เวลาเราใช้ห้องน้ํา 298 00:15:57,040 --> 00:16:00,168 เราเข้าห้องน้ําสาธารณะ มองตรงอย่างเดียว ฉี่ 299 00:16:00,252 --> 00:16:02,379 ทํานู่นนี่ของตัวเองไป อย่ามองข้างๆ 300 00:16:02,462 --> 00:16:04,381 ถ้าคุณอยู่ไม่สุข ให้มองขึ้นมองลง 301 00:16:04,464 --> 00:16:06,049 อย่ามองคนอื่น 302 00:16:06,133 --> 00:16:08,927 คนข้างๆ คุณอาจเริ่มสําลัก ห้ามหันไปเลย 303 00:16:09,011 --> 00:16:10,679 ห้ามเขย่า ห้ามขยับ 304 00:16:11,221 --> 00:16:12,431 คุณได้ยินเขาแบบว่า... 305 00:16:14,307 --> 00:16:16,560 คุณก็แค่ "เฮ้ย เพื่อน เฮ้ยๆ 306 00:16:16,643 --> 00:16:19,021 นี่ นายโอเคมั้ย โย่ๆ 307 00:16:19,104 --> 00:16:20,522 นี่พวก โอเคเปล่า 308 00:16:20,605 --> 00:16:23,191 โย่ๆ อยากให้ฉันโทร... นี่พวก เป็นอะไรมั้ย" 309 00:16:23,775 --> 00:16:26,111 "อยากให้ฉันโทร..." "อย่ามองฉันสิ" 310 00:16:30,615 --> 00:16:31,616 เราทําอะไรกันอยู่ 311 00:16:33,035 --> 00:16:34,411 เราทะเลาะกันเรื่องอะไร 312 00:16:35,537 --> 00:16:36,955 ห้องน้ําสาธารณะ 313 00:16:37,039 --> 00:16:41,001 ถ้าคุณรู้ประวัติศาสตร์ของคุณ คุณจะรู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตลอดเวลาในอเมริกา 314 00:16:41,084 --> 00:16:44,296 มันเกิดขึ้นซ้ําแล้วซ้ําเล่า 315 00:16:44,379 --> 00:16:48,258 มีช่วงนึงที่ผู้หญิงต้องต่อสู้ เพื่อใช้ห้องน้ําสาธารณะในอเมริกา 316 00:16:48,341 --> 00:16:49,342 นึกภาพดูสิ 317 00:16:49,426 --> 00:16:52,637 มีช่วงที่ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาต ให้ใช้ห้องน้ําสาธารณะ 318 00:16:52,721 --> 00:16:54,806 ทั่วทั้งอเมริกา และพวกเธอต้องสู้ 319 00:16:54,890 --> 00:16:57,726 แล้วพวกผู้ชายก็โมโหและบอกว่า "นี่บ้าไปแล้ว 320 00:16:57,809 --> 00:17:02,147 จะให้ผู้หญิงใช้ห้องน้ําสาธารณะเหรอ ประสาท 321 00:17:02,230 --> 00:17:04,107 จะให้ใช้ยังไง 322 00:17:04,775 --> 00:17:08,111 อะไร พวกเธอจะเข้ามาตอนเราฉี่เนี่ยนะ 323 00:17:08,195 --> 00:17:10,697 แล้วไง พวกเธอจะมองหนอนของเราเหรอ 324 00:17:11,281 --> 00:17:12,699 แล้วพวกเธอจะขํามั้ย" 325 00:17:16,536 --> 00:17:17,913 ลองคิดดูสิ สาวๆ 326 00:17:17,996 --> 00:17:23,835 มีช่วงที่ผู้หญิงได้รับอนุญาต ให้เข้าสถานที่ทํางานเป็นครั้งแรก 327 00:17:23,919 --> 00:17:26,546 แต่พวกเธอไม่มีห้องน้ําให้ใช้เลย 328 00:17:26,630 --> 00:17:29,883 สาวๆ ถ้าสมัยนั้นคุณออกไปข้างนอกแล้วต้องฉี่ 329 00:17:29,966 --> 00:17:31,635 หรือต้องอึ คุณต้องกลับบ้าน 330 00:17:31,718 --> 00:17:33,595 ใช่ ผมพูดอึตามหลักทฤษฎีนะ 331 00:17:33,678 --> 00:17:35,388 ผมไม่รู้ว่าพวกคุณอึจริงๆ มั้ย 332 00:17:36,181 --> 00:17:39,434 ไม่ ผมคิดว่าพวกผู้ชายก็ไม่รู้ เอาจริงๆ เลย เราไม่รู้ 333 00:17:39,518 --> 00:17:44,231 เราเดาเรื่องนี้ตามระดับชีววิทยา แต่เราไม่รู้แน่ชัด 334 00:17:44,314 --> 00:17:46,191 ว่าจริงๆ แล้วผู้หญิง... 335 00:17:46,274 --> 00:17:49,152 ที่จริง ผู้ชายทุกคนในนี้ ลองคิดถึงผู้หญิงคนไหนก็ได้ในชีวิตคุณ 336 00:17:49,236 --> 00:17:52,197 คุณรู้มั้ยว่าเธออึครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ผมไม่คิดว่าคุณรู้นะ 337 00:17:52,280 --> 00:17:53,740 ผมว่าคุณไม่รู้ 338 00:17:53,824 --> 00:17:56,535 ไม่มีหลักฐานทางนิติเวชมายืนยันคําอ้างนั้น 339 00:17:57,077 --> 00:17:58,203 มันไม่มีกลิ่น 340 00:17:59,037 --> 00:18:01,081 ไม่มีรอยเปื้อน ไม่มีอะไรเลย 341 00:18:01,915 --> 00:18:04,251 สาวๆ ผมไม่รู้ว่า ใครเป็นคนทําพีอาร์เรื่องห้องน้ําของคุณ 342 00:18:04,334 --> 00:18:06,086 แต่พวกเขาทําได้ยอดเยี่ยม 343 00:18:06,169 --> 00:18:07,838 ยอดเยี่ยมจริงๆ 344 00:18:08,463 --> 00:18:11,675 ผู้หญิงเข้าห้องน้ํา พอออกมากลิ่นหอมกว่าเดิมอีก 345 00:18:11,758 --> 00:18:12,676 ทําได้ไง 346 00:18:13,218 --> 00:18:16,638 เราไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่ผู้หญิงกําลังอึอยู่ ไม่มีทางเลย 347 00:18:17,180 --> 00:18:19,641 เพราะผู้หญิงใช้เวลาเท่าๆ กันหมด 348 00:18:19,724 --> 00:18:22,269 นั่นน่าประทับใจที่สุด ไม่พลาดเลย 349 00:18:22,352 --> 00:18:24,938 ใช่ ผู้หญิงฉี่ ใช้เวลาสิบนาที 350 00:18:25,021 --> 00:18:26,857 เธอเข้าไปในห้องน้ํา โอเค 351 00:18:26,940 --> 00:18:30,527 เข้าไป ปิ๊ดๆ ออกมา ล้างมือ 352 00:18:30,610 --> 00:18:33,488 เติมหน้าหน่อย ส่งข้อความ กลับมาที่โต๊ะ 353 00:18:33,572 --> 00:18:34,990 เราไม่รู้เรื่องเลย ใช่ 354 00:18:35,073 --> 00:18:37,284 เธอจะไปอึ เหมือนกัน สิบนาที 355 00:18:37,367 --> 00:18:38,952 เข้าห้องน้ํา อึไป 356 00:18:39,035 --> 00:18:40,912 ต๋อมๆ ต๋อม ออกมา 357 00:18:40,996 --> 00:18:44,749 ล้างมือ เติมจมูก ส่งข้อความหาเพื่อน ออกมา 358 00:18:45,625 --> 00:18:46,626 เราไม่รู้เลย 359 00:18:47,544 --> 00:18:49,796 กับผู้ชาย คุณรู้เลยว่าเราทําอะไร 360 00:18:51,756 --> 00:18:53,341 ดุลยพินิจไม่ใช่จุดแข็งของเรา 361 00:18:55,010 --> 00:18:57,596 คุณรู้เวลาผู้ชายจะไปฉี่ ทําไมน่ะเหรอ 362 00:18:57,679 --> 00:18:58,972 สองนาที 363 00:18:59,556 --> 00:19:02,434 เดินไปห้องน้ํา เข้าไป เร็วที่สุด 364 00:19:02,517 --> 00:19:03,935 เหมือนรถแข่งออกตัว 365 00:19:04,769 --> 00:19:07,105 ใช่ เราเข้าไป ฉี่ ออกมา 366 00:19:07,189 --> 00:19:09,691 ทําเป็นว่าล้างมือ แล้วก็กลับโต๊ะ 367 00:19:13,612 --> 00:19:15,655 จะรู้ได้ยังไงว่าเราไปอึ 368 00:19:15,739 --> 00:19:18,658 เพราะมันเห็นชัดมาก เราเข้าห้องน้ํา ไม่เคยออกมาเลย 369 00:19:20,076 --> 00:19:22,495 นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะได้เจอเรา 370 00:19:22,579 --> 00:19:25,457 ครอบครัวคุณแปะโปสเตอร์ตามหาในร้านอาหาร 371 00:19:25,540 --> 00:19:27,334 "เคยเห็นผู้ชายคนนี้มั้ย" 372 00:19:30,962 --> 00:19:34,382 นึกภาพทุกครั้งที่มีคนทะเลาะกัน เรื่องห้องน้ําในอเมริกาสิ 373 00:19:34,466 --> 00:19:37,636 ทุกครั้ง มีช่วงนึงที่คนดําต้องต่อสู้ 374 00:19:37,719 --> 00:19:38,970 เพื่อใช้ห้องน้ําสาธารณะ 375 00:19:39,763 --> 00:19:43,934 เหมือนกันเลย คนดําพูดว่า "ทําไมเราถึงใช้ห้องน้ําสาธารณะไม่ได้" 376 00:19:44,476 --> 00:19:45,936 และอีกครั้ง ผู้คนโกรธ 377 00:19:46,019 --> 00:19:47,270 "นี่บ้าไปแล้ว 378 00:19:47,354 --> 00:19:51,191 คุณจะให้คนดําใช้ห้องน้ําสาธารณะเหรอ 379 00:19:51,274 --> 00:19:52,609 จะทําได้ยังไง 380 00:19:53,318 --> 00:19:56,279 แล้วไง พวกเขาจะเข้ามายืนตอนผมฉี่เหรอ 381 00:19:57,197 --> 00:19:59,491 พวกเขาจะมองหนอนผมมั้ย 382 00:19:59,574 --> 00:20:01,701 แล้วพวกเขาจะขํารึเปล่า" 383 00:20:08,250 --> 00:20:09,876 ผมแก่พอที่จะจําได้ถึง 384 00:20:10,669 --> 00:20:12,587 ตอนที่มีการถกกันในอเมริกา 385 00:20:12,671 --> 00:20:15,257 เรื่องที่ว่าชาวเกย์ใช้ห้องน้ําสาธารณะได้มั้ย 386 00:20:15,840 --> 00:20:17,842 นี่เคยเป็นหัวข้อถกเถียงกัน 387 00:20:18,760 --> 00:20:21,137 ผมจําคนที่ถูกสัมภาษณ์ทางช่องข่าวได้ 388 00:20:21,221 --> 00:20:25,141 "คิดว่าชายเกย์ควรได้รับอนุญาต ให้ใช้ห้องน้ําเดียวกับชายแท้มั้ย" 389 00:20:25,225 --> 00:20:27,519 พวกเขาก็บอก "ผมไม่สนว่าพวกเขาจะทําอะไร 390 00:20:27,602 --> 00:20:29,688 ถ้าพวกเขาไม่ประเจิดประเจ้อก็ไม่เป็นไร 391 00:20:29,771 --> 00:20:32,065 แต่ช่วยตอบเรื่องนี้หน่อย ช่วยตอบที 392 00:20:32,148 --> 00:20:33,858 มันจะทํายังไง 393 00:20:34,484 --> 00:20:37,445 ยังไง คุณเข้าห้องน้ําไปกับพวกเขาแล้วไงต่อ 394 00:20:37,529 --> 00:20:39,656 เขาเป็นเกย์ แล้วให้ผมยืนอยู่ตรงนั้น 395 00:20:39,739 --> 00:20:43,410 ฉี่ไป และเขาก็มองหนอนผมเหรอ 396 00:20:44,202 --> 00:20:45,829 แล้วเขาก็จับมัน 397 00:20:47,247 --> 00:20:48,832 และเขาก็เริ่มเขย่ามัน 398 00:20:49,499 --> 00:20:50,959 เขาเริ่มเย่อมันไปเรื่อยๆ 399 00:20:51,042 --> 00:20:53,253 ของผมแข็ง และผมก็ชอบเหรอ 400 00:20:53,920 --> 00:20:57,090 สรุปนี่คือหนึ่งในประสบการณ์ ที่ดีที่สุดที่ผมเคยมีใช่มั้ย 401 00:20:58,300 --> 00:21:00,135 จากนั้นผมก็กลับมาทุกสัปดาห์ 402 00:21:00,218 --> 00:21:02,846 หวังว่าจะเจอเขาอีกและผมก็เจอเหรอ 403 00:21:02,929 --> 00:21:06,558 พอถึงจุดนึงเราก็ตกลงจะเจอกันข้างนอก ในร้านอาหารดีๆ 404 00:21:06,641 --> 00:21:08,643 นั่งสบายๆ เพื่อทําความรู้จักกันเหรอ 405 00:21:08,727 --> 00:21:10,979 แล้วสองสามปีต่อมา เราก็แต่งงานกัน 406 00:21:11,062 --> 00:21:13,565 ครอบครัวเรามาร่วมงาน และเราก็อยู่อย่างมีความสุขตลอดไป 407 00:21:13,648 --> 00:21:15,025 นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการเหรอ" 408 00:21:19,988 --> 00:21:20,989 ว้าว 409 00:21:24,367 --> 00:21:25,493 ห้องน้ําสาธารณะ 410 00:21:28,913 --> 00:21:30,707 คุณถึงได้ไม่ควรปกปิดประวัติศาสตร์ไง 411 00:21:33,293 --> 00:21:36,212 ถ้าคุณรู้ว่าเคยเกิดอะไรขึ้น คุณจะคาดการณ์ได้ 412 00:21:36,296 --> 00:21:38,965 คุณเข้าใจเหตุผลที่มันเกิดขึ้นตั้งแต่แรก 413 00:21:39,049 --> 00:21:41,551 เยอรมนีทําแบบนั้นด้วยวิธีที่น่าประหลาดใจจริงๆ 414 00:21:41,634 --> 00:21:43,303 มันไม่มีทางสมบูรณ์แบบ 415 00:21:43,386 --> 00:21:46,056 แต่เยอรมนีเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก 416 00:21:46,139 --> 00:21:49,142 ที่ชดเชยสิ่งที่พวกเขาทําตลอดเวลา 417 00:21:50,060 --> 00:21:54,147 หนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่คอยขอโทษ 418 00:21:55,482 --> 00:21:59,069 และหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่ตั้งใจเปลี่ยน 419 00:21:59,152 --> 00:22:02,280 สิ่งที่พวกเขามองตัวเอง และสิ่งที่โลกมองพวกเขา 420 00:22:03,073 --> 00:22:06,368 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีเปลี่ยนกฎหมายมากมาย 421 00:22:06,451 --> 00:22:08,870 พวกเขาเปลี่ยนประติมานวิทยาของประเทศ 422 00:22:08,953 --> 00:22:10,830 สิ่งที่แขวนได้ จะแขวนไว้ที่ไหน 423 00:22:10,914 --> 00:22:12,999 พวกเขาเปลี่ยนเพลงชาติ 424 00:22:13,083 --> 00:22:15,835 ใช่ นึกดูสิ พวกเขาเปลี่ยนเพลงชาติ 425 00:22:16,669 --> 00:22:19,714 พวกเขารู้สึกว่าเพลงชาติเดิมเป็นเพลงชาตินิยม 426 00:22:19,798 --> 00:22:22,509 ที่พวกนาซีใช้เพื่อจูงใจผู้คนให้คิดเรื่องผิดๆ 427 00:22:22,592 --> 00:22:24,886 พวกเขาเลยเปลี่ยน เพลงเดิมชื่อว่า 428 00:22:24,969 --> 00:22:27,013 "ดอยช์ลันด์ ดอยช์ลันด์ อูเบอร์ อัลเลส" 429 00:22:27,097 --> 00:22:29,641 คุณคงเคยได้ยินในหนังเก่าหรืออะไรก็เหอะ 430 00:22:29,724 --> 00:22:30,725 เพลงร้องแบบนี้ 431 00:22:38,483 --> 00:22:40,777 แปลเป็นอังกฤษได้ว่า... 432 00:22:40,860 --> 00:22:44,656 เยอรมนี เยอรมนีอยู่เหนือทุกสิ่ง 433 00:22:44,739 --> 00:22:47,992 เหนือทุกอย่างบนโลก 434 00:22:49,494 --> 00:22:50,829 และพวกเขาหมายความตามนั้น 435 00:22:52,539 --> 00:22:55,208 ใช่ ขณะที่เพลงชาติส่วนใหญ่เป็นเชิงหลักการ 436 00:22:55,291 --> 00:22:56,876 ของเยอรมันตรงเป๊ะๆ 437 00:22:59,921 --> 00:23:03,800 แต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง พวกเขาก็ "เรามีทัศนคติแบบเดิมไม่ได้" 438 00:23:04,342 --> 00:23:05,927 พวกเขาเลยเปลี่ยนเพลงชาติ 439 00:23:06,553 --> 00:23:07,595 พร้อมเนื้อเพลงใหม่ 440 00:23:07,679 --> 00:23:08,930 เนื้อเพลงใหม่คือ... 441 00:23:17,272 --> 00:23:19,274 แปลเป็นอังกฤษคือ... 442 00:23:19,816 --> 00:23:23,987 เอกภาพ สิทธิ และอิสรภาพ 443 00:23:24,070 --> 00:23:27,490 เพื่อทุกคนที่อาศัยอยู่ในเยอรมนี 444 00:23:30,410 --> 00:23:33,288 ซึ่งน่ารักมาก 445 00:23:35,081 --> 00:23:37,333 น่ารักจริงๆ พวกเขาน่าจะแต่งเพลง... 446 00:23:37,417 --> 00:23:40,461 โทษทีนะ โทษที เราขอโทษจริงๆ 447 00:23:40,545 --> 00:23:43,506 ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษกับสิ่งที่เราทําไป 448 00:23:46,759 --> 00:23:49,971 ผมขอบคุณที่พวกเขาทําแบบนั้นนะ แต่เป็นผมคงไม่ทําขนาดนั้น 449 00:23:50,054 --> 00:23:52,182 จริงๆ นะ ผมจะไม่ทําขนาดนั้น 450 00:23:52,265 --> 00:23:55,393 ผมคิดว่า "เหนือทุกสิ่ง" เลวร้ายนะ วิธีคิดแบบนั้นไม่ดีเลย 451 00:23:55,476 --> 00:23:57,729 แต่คุณต้องมีส่วนปลุกใจในเพลงชาติสิ 452 00:23:57,812 --> 00:24:00,815 ยังต้องมี... เป็นผมจะหาจุดตรงกลาง 453 00:24:00,899 --> 00:24:01,941 เพลงผมคงเป็นแบบ... 454 00:24:02,025 --> 00:24:03,568 เยอรมนี เยอรมนี 455 00:24:03,651 --> 00:24:06,029 อยู่สักอันดับในท็อปห้า 456 00:24:07,030 --> 00:24:09,908 ไม่ใช่เหนือทุกสิ่งในโลก 457 00:24:11,034 --> 00:24:15,747 เพราะเราคือท็อปห้าถ้าคุณคิดดีๆ 458 00:24:15,830 --> 00:24:17,332 อเมริกาคืออันดับหนึ่ง 459 00:24:17,415 --> 00:24:21,920 จากนั้นก็สหราชอาณาจักร แล้วก็ฝรั่งเศสกับสเปน 460 00:24:22,003 --> 00:24:23,671 ส่วนเราก็อยู่อันดับห้า... 461 00:24:23,755 --> 00:24:25,673 ที่จริงสเปนไม่ได้ดีไปกว่าเรา 462 00:24:25,757 --> 00:24:27,217 งั้นเราอยู่อันดับสี่ 463 00:24:27,300 --> 00:24:28,801 อันดับสี่ใน... 464 00:24:28,885 --> 00:24:32,263 ใช่ แต่เศรษฐกิจฝรั่งเศสไม่ค่อยแข็งนะ 465 00:24:32,347 --> 00:24:34,557 บางทีเราคืออันดับสามของโลก 466 00:24:34,641 --> 00:24:39,103 แล้วก็มีอังกฤษอยู่เหนือเรา... เบร็กซิตไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดนัก 467 00:24:39,187 --> 00:24:42,357 บางทีเราอยู่อันดับสอง ส่วนอเมริกาคืออันดับ... 468 00:24:42,440 --> 00:24:44,859 การเลือกตั้งไม่เสถียรขนาดนั้น เพราะงั้น... 469 00:24:44,943 --> 00:24:47,570 เราน่าจะอยู่เหนือทุกอย่างบนโลกนี้ 470 00:24:55,286 --> 00:24:59,249 มันเป็นเรื่องสําคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่พวกเขาทํา แต่ไม่มีใครรู้ 471 00:25:00,875 --> 00:25:03,127 ผมได้คุยกับผู้ชายเยอรมันคนนึง 472 00:25:03,795 --> 00:25:06,464 เขางงกับเรื่องนี้มาก งงสุดๆ เลย 473 00:25:06,547 --> 00:25:09,634 เขาพูดว่า "ใช่ ในเยอรมนี เราได้ทําหลายอย่าง 474 00:25:09,717 --> 00:25:12,303 เพลงชาติเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเรา 475 00:25:12,387 --> 00:25:14,555 ผมมั่นใจว่าทั้งโลกคงพูดเรื่องนี้กัน" 476 00:25:16,557 --> 00:25:17,558 ผมตอบว่า "ไม่เลย" 477 00:25:19,269 --> 00:25:20,895 เขาก็พูด "หมายความว่าไง 478 00:25:20,979 --> 00:25:23,314 หมายความว่าไง ใครกันที่ไม่พูดถึงมัน" 479 00:25:23,398 --> 00:25:25,566 ผมตอบ "ไม่มีใครเลย ไม่มีใครพูดถึงมัน" 480 00:25:25,650 --> 00:25:28,486 "ไม่มีใครนี่ใคร" ผมก็บอก "ไม่สักคนเดียว ไม่เลย 481 00:25:28,569 --> 00:25:30,738 คนนอกเยอรมนีไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย" 482 00:25:30,822 --> 00:25:33,783 "ไม่รู้ได้ยังไง" ผมก็ถาม "หมายความว่าไง 483 00:25:33,866 --> 00:25:36,452 มันเป็นภาษาเยอรมัน คนประเทศอื่นไม่ได้พูดเยอรมัน 484 00:25:36,536 --> 00:25:37,745 คนอื่นจะรู้ได้ยังไง 485 00:25:37,829 --> 00:25:39,747 อีกอย่างนะ พวกคุณทําได้แปลกมาก 486 00:25:39,831 --> 00:25:42,208 คุณเปลี่ยนเนื้อเพลง 487 00:25:42,292 --> 00:25:44,002 แต่ใช้ทํานองเดิม" 488 00:25:46,963 --> 00:25:48,131 เป็นการกระทําที่พิลึก 489 00:25:48,673 --> 00:25:52,593 คุณแบบ "เพลงนี้มันเลวร้าย และเราจะต้องเปลี่ยนมัน" 490 00:25:52,677 --> 00:25:54,012 "ใช่ แล้วทํานองล่ะ" 491 00:25:54,095 --> 00:25:57,348 "ไม่ เราจะเก็บไว้เพราะฉันจําท่าเต้นได้แล้ว" 492 00:26:01,269 --> 00:26:04,355 มิน่าคนส่วนใหญ่ ถึงได้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนเนื้อเพลงจริงมั้ย 493 00:26:04,439 --> 00:26:08,359 ดันเก็บทํานองไว้ คนส่วนใหญ่ไม่รู้เนื้อเพลง 494 00:26:08,443 --> 00:26:09,861 รู้แต่ทํานอง 495 00:26:09,944 --> 00:26:12,572 ไม่มีใครรู้ว่าไมเคิล แจ็คสันพูดว่า "คุณเป็นผัก" 496 00:26:12,655 --> 00:26:13,948 พวกเราไม่มีใครรู้เลย 497 00:26:14,032 --> 00:26:16,617 พวกคุณบางคนอาจคิด "เขาพูดว่า 'ผัก' ตอนไหน" 498 00:26:16,701 --> 00:26:18,369 เขาร้องแบบนั้นมาตลอดเลย 499 00:26:18,453 --> 00:26:19,704 คุณเป็นผัก 500 00:26:21,873 --> 00:26:24,042 ไม่มีใครรู้เนื้อเพลง เรารู้แค่ทํานอง 501 00:26:26,002 --> 00:26:28,004 เยอรมนีทําแบบนั้น มันแปลก 502 00:26:28,755 --> 00:26:33,343 มันแปลกที่ไม่เปลี่ยนดนตรี เพราะดนตรีมาพร้อมอารมณ์ 503 00:26:34,260 --> 00:26:37,013 ผมพยายามอธิบายเรื่องนี้ให้เขาฟัง เขาไม่เข้าใจ 504 00:26:37,972 --> 00:26:40,058 แล้วผมก็เข้าใจ คุณรู้ว่ามันเป็นยังไง 505 00:26:40,141 --> 00:26:41,142 สิ่งที่เยอรมนีทํา 506 00:26:41,768 --> 00:26:44,312 ลองนึกภาพว่าเรื่องเกิดในสตาร์ วอร์ส 507 00:26:44,395 --> 00:26:48,191 คุณรู้จักสตาร์ วอร์สนะ เอาละ สมมุติว่าเป็นดาร์ธ เวเดอร์ 508 00:26:48,274 --> 00:26:50,276 ทุกครั้งที่ดาร์ธ เวเดอร์เข้าฉาก 509 00:26:50,360 --> 00:26:52,612 ทุกครั้งที่เขาลงจอดบนดาวเคราะห์สักดวง 510 00:26:52,695 --> 00:26:55,156 คุณรู้เสมอว่าดาวนั้นจะพังพินาศแน่ 511 00:26:55,239 --> 00:26:56,491 มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น 512 00:26:56,574 --> 00:26:57,992 เพราะเขามีเพลงของตัวเอง 513 00:26:58,659 --> 00:27:01,245 นึกออกมั้ย เพลงบอกคุณว่าอะไรกําลังจะเกิดขึ้น 514 00:27:01,329 --> 00:27:02,497 ยานลงจอด... 515 00:27:04,624 --> 00:27:05,625 ประตูเปิด... 516 00:27:07,251 --> 00:27:08,628 และเขาก็ยืนอยู่ตรงนั้น 517 00:27:13,424 --> 00:27:14,509 แต่เขาจะไม่มีทาง... 518 00:27:14,592 --> 00:27:17,887 เขาจะไม่มีวันลงมือหากเพลงของเขาไม่เล่น 519 00:27:17,970 --> 00:27:20,890 ไม่มีวันเลย เขาจะอยู่ตรงนั้น ดีเจอยู่ข้างๆ 520 00:27:20,973 --> 00:27:22,850 "ดีเจ เปิดเพลงข้าซิ" 521 00:27:31,526 --> 00:27:32,527 "ใช่เลย" 522 00:27:41,661 --> 00:27:43,788 คุณจะรู้เลยว่างานนี้วายป่วงแน่ 523 00:27:44,664 --> 00:27:45,540 เขาเดินลงไป... 524 00:27:45,623 --> 00:27:47,708 "คุกเข่าต่อหน้าข้า เจได" 525 00:27:47,792 --> 00:27:50,044 "เราจะไม่มีวันคุกเข่าให้เจ้า ดาร์ธ เราจะสู้" 526 00:27:54,674 --> 00:27:56,300 "แกเอาชนะข้าไม่ได้หรอก" 527 00:27:57,552 --> 00:27:59,804 "เขาแข็งแกร่งมาก ข้าไม่รู้ว่าเราจะเอาชนะได้มั้ย" 528 00:27:59,887 --> 00:28:01,389 "เราจะเอาชนะเขาได้" 529 00:28:04,267 --> 00:28:05,518 "เราจะใช้พลัง" 530 00:28:09,272 --> 00:28:12,191 "แกเอาชนะข้าได้" 531 00:28:12,275 --> 00:28:14,527 "เราทําสําเร็จ อาจารย์โยดา เราทําได้ 532 00:28:14,610 --> 00:28:15,987 เราเอาชนะดาร์ธ เวเดอร์ได้" 533 00:28:16,070 --> 00:28:17,613 "ใช่แล้วละ" 534 00:28:17,697 --> 00:28:18,865 "ทีนี้เอาไงต่อดี" 535 00:28:18,948 --> 00:28:20,908 "เราจะปลดปล่อยจักรวรรดิให้เป็นอิสระ 536 00:28:20,992 --> 00:28:23,327 แล้วเดินทางนําข่าวดีไปป่าวประกาศ" 537 00:28:23,411 --> 00:28:24,287 "ไปกันเลย" 538 00:28:24,370 --> 00:28:26,664 "ใช่ เราจะเล่นเพลงใหม่ด้วย" 539 00:28:31,043 --> 00:28:32,044 "เจ้าเป็นอิสระแล้ว" 540 00:28:35,715 --> 00:28:37,425 ผมจะบอกเฉยๆ ว่ามันแปลกน่ะ 541 00:28:48,269 --> 00:28:50,646 แต่ก็ยังน่าประทับใจนะ น่าประทับใจดี 542 00:28:50,730 --> 00:28:54,859 การเปลี่ยนเพลงชาติไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย 543 00:28:54,942 --> 00:28:55,943 ไม่เลยนะ 544 00:28:56,736 --> 00:28:58,029 มันเปลี่ยนทุกอย่าง 545 00:28:58,112 --> 00:28:59,864 เราได้คุยเรื่องนี้กัน 546 00:29:00,448 --> 00:29:03,117 หลังจากนั้นเขาก็พูดสิ่งที่น่าสนใจ เขาพูดว่า 547 00:29:03,201 --> 00:29:06,496 "นี่นะ เพราะเราได้เห็นว่า เยอรมนีต้องเปลี่ยนแปลงยังไง 548 00:29:06,579 --> 00:29:09,749 เยอรมนีมองเห็นตัวเอง เพื่อที่จะเปลี่ยนสิ่งที่ทํา 549 00:29:09,832 --> 00:29:11,626 เราถึงได้เปลี่ยนเพลงชาติไง" 550 00:29:11,709 --> 00:29:13,294 ผมตอบ "นั่นน่าทึ่งมาก" 551 00:29:13,377 --> 00:29:15,671 เขาก็บอก "คิดว่าอเมริกาจะเปลี่ยน..." 552 00:29:15,755 --> 00:29:18,257 ผมบอก "อย่าพูดจบประโยคเชียวนะ 553 00:29:18,341 --> 00:29:22,053 อย่าพูดจนจบประโยคเด็ดขาด" 554 00:29:23,471 --> 00:29:25,306 มีสิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ 555 00:29:25,389 --> 00:29:27,809 อเมริกาเกลียดการเปลี่ยนแปลง 556 00:29:29,519 --> 00:29:33,022 อเมริกาไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง 557 00:29:34,315 --> 00:29:36,192 อยากเปลี่ยนสิ่งที่เยอรมนีเปลี่ยนเหรอ 558 00:29:36,275 --> 00:29:38,694 ธนบัตร ธงชาติ เพลงชาติ ล้อเล่นรึเปล่า 559 00:29:38,778 --> 00:29:41,280 จําตอนที่พวกเขาพยายาม เปลี่ยนธนบัตร 20 ดอลลาร์ได้มั้ย 560 00:29:41,864 --> 00:29:43,115 จําได้รึเปล่า 561 00:29:43,199 --> 00:29:45,535 พวกเขาบอกว่า จะใส่รูปแฮร์เรียต ทับแมนลงในธนบัตร 562 00:29:45,618 --> 00:29:48,788 คนโกรธกันมาก พวกเขาเลยเลื่อนไปแบบไม่มีกําหนด 563 00:29:49,872 --> 00:29:52,333 คนโกรธเกรี้ยว "จะทําอะไรเนี่ย" 564 00:29:52,416 --> 00:29:54,544 "เราจะใส่แฮร์เรียต..." "กล้าดียังไง 565 00:29:54,627 --> 00:29:58,381 กล้าดียังไงจะเอาประธานาธิบดีอเมริกา ออกจากแบงก์ 20 566 00:29:58,464 --> 00:29:59,799 กล้าดียังไง..." 567 00:29:59,882 --> 00:30:00,925 "แบงก์ 20 มีรูปใครนะ" 568 00:30:02,051 --> 00:30:06,973 "กล้าดียังไงจะเอาแอนดรูว์ แจ็คสัน ออกจากแบงก์ 20" 569 00:30:07,056 --> 00:30:09,892 "พวกเขาแค่จะใส่ รูปแฮร์เรียต ทับแมนไว้ข้างหน้า 570 00:30:09,976 --> 00:30:11,686 แล้วแอนดรูว์ แจ็คสันจะอยู่ข้างหลัง" 571 00:30:11,769 --> 00:30:15,398 "จะเอาประธานาธิบดีอเมริกาไว้ข้างหลังเหรอ ข้างหลังเนี่ยนะ 572 00:30:15,481 --> 00:30:17,066 นั่นมันหยามกันชัดๆ" 573 00:30:17,149 --> 00:30:18,401 ไม่ได้หยามสักหน่อย 574 00:30:18,484 --> 00:30:20,486 ถ้าคุณรู้ประวัติศาสตร์ คุณจะรู้ว่า 575 00:30:20,570 --> 00:30:23,364 แอนดรูว์ แจ็คสันคงอยากอยู่หลังผู้หญิงผิวดํา 576 00:30:23,447 --> 00:30:25,449 ผมไม่รู้ว่าคุณจะเครียดทําไม 577 00:30:27,285 --> 00:30:28,786 ผมว่ามีแต่ได้กับได้ 578 00:30:35,126 --> 00:30:36,961 แต่คนโมโหกันมาก 579 00:30:37,670 --> 00:30:40,506 แล้วตอนนี้คุณแนะนําให้เปลี่ยนธงชาติ 580 00:30:40,590 --> 00:30:42,049 เปลี่ยนเพลงชาติเนี่ยนะ 581 00:30:43,593 --> 00:30:45,761 มีสองเรื่องที่ผมได้เรียนรู้จากการอยู่ในอเมริกา 582 00:30:45,845 --> 00:30:47,680 คือคุณเคารพธงชาติ 583 00:30:47,763 --> 00:30:50,600 และคุณเคารพเพลงชาติ 584 00:30:50,683 --> 00:30:52,310 ผมไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร 585 00:30:53,728 --> 00:30:55,021 แต่ผมทําตามกฎ 586 00:30:56,939 --> 00:30:59,442 ที่ผมบอกว่าผมไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร เพราะมันสับสน 587 00:30:59,525 --> 00:31:02,862 คุณจะพบคนที่แบบว่า "คุณต้องเคารพธงชาติ" และผมเข้าใจนะ 588 00:31:02,945 --> 00:31:05,323 แต่ผมจะเห็นคนพวกเดิมในวันชาติ 589 00:31:05,406 --> 00:31:07,617 และพวกเขาเอาธงชาติมาใส่เป็นกางเกงใน 590 00:31:11,954 --> 00:31:12,955 นั่นเรียกเคารพมั้ย 591 00:31:14,290 --> 00:31:16,042 พอเงยหน้ามอง คุณก็แบบว่า 592 00:31:16,125 --> 00:31:17,752 "นั่นธง นี่ไข่" 593 00:31:25,676 --> 00:31:27,803 ผมจะไม่มีทางแนะนําให้เปลี่ยนอะไรเลย 594 00:31:27,887 --> 00:31:29,805 เพลงชาติเหรอ ไม่ ไม่มีทางแน่ 595 00:31:30,348 --> 00:31:32,975 ถึงมันจะเปลี่ยนได้ก็เหอะ อาจจะเปลี่ยนนิดหน่อยได้น่ะ 596 00:31:33,059 --> 00:31:35,353 มันเป็นเพลงชาติที่รุนแรงมากนะ 597 00:31:35,978 --> 00:31:38,314 อเมริกามีปัญหาเรื่องความรุนแรงอยู่ 598 00:31:38,397 --> 00:31:39,732 บางทีอาจทําให้มันซอฟต์ลง... 599 00:31:39,815 --> 00:31:41,233 มันเป็นเพลงชาติที่รุนแรง 600 00:31:41,317 --> 00:31:42,860 เป็นเพลงชาติเดียวที่ผมเคยได้ยิน 601 00:31:42,944 --> 00:31:45,404 ที่มีเสียงระเบิดตูมตาม 602 00:31:46,030 --> 00:31:48,699 ใช่ มีเสียงระเบิดกับขีปนาวุธ 603 00:31:48,783 --> 00:31:50,660 ในเพลงชาติของคุณ 604 00:31:50,743 --> 00:31:52,787 มันเหมือนหนังไมเคิล เบย์ทําเป็นเพลง 605 00:31:53,704 --> 00:31:55,706 ทุกอย่างระเบิดแบบสโลว์โมชัน 606 00:31:57,875 --> 00:32:00,836 มันเหมือนคุณกําลังขู่ประเทศอื่นด้วย 607 00:32:00,920 --> 00:32:04,173 "เออ ระเบิดตูมตาม ขีปนาวุธพุ่งไปทั่ว 608 00:32:04,256 --> 00:32:05,174 ลองดีกับเราสิ" 609 00:32:07,426 --> 00:32:09,387 เอาจริงๆ มันเหมือนแร็ปพวกแก๊ง 610 00:32:10,554 --> 00:32:11,389 จริงๆ นะ 611 00:32:11,472 --> 00:32:13,766 เพลงชาติอเมริกาเหมือนเพลงแร็ปพวกแก๊ง 612 00:32:13,849 --> 00:32:15,810 มันมีองค์ประกอบเดียวกัน 613 00:32:15,893 --> 00:32:17,770 มีความรุนแรง มีคําขู่ 614 00:32:17,853 --> 00:32:19,897 รู้มั้ยว่ามันคล้ายกับแร็ปพวกแก๊งแค่ไหน 615 00:32:19,981 --> 00:32:21,899 เพลงชาติอเมริกาเป็นเพลงชาติเดียว 616 00:32:21,983 --> 00:32:23,859 ที่ใส่คําว่า "นังบ้า" ลงไปได้ 617 00:32:23,943 --> 00:32:25,820 ในทุกท้ายประโยค 618 00:32:27,989 --> 00:32:29,991 และเพลงก็ยังฟังเข้าท่า 619 00:32:32,868 --> 00:32:36,664 พิสูจน์ให้เห็นว่าผ่านค่ําคืนนี้ไปได้ 620 00:32:36,747 --> 00:32:39,959 ธงชาติเราก็ยังอยู่ 621 00:32:40,042 --> 00:32:41,252 นังบ้า 622 00:32:53,973 --> 00:32:56,475 ผมชอบเพลงชาติอเมริกามากนะ พูดจริง 623 00:32:57,184 --> 00:33:00,855 มันน่าตื่นเต้น ผมรู้ทุกคําเลย ไม่ได้พยายามจําด้วย แต่รู้หมด 624 00:33:00,938 --> 00:33:03,649 มันเป็นหนึ่งในเพลงที่พอฟังไปบ่อยๆ ก็จะจําได้ 625 00:33:03,733 --> 00:33:04,567 แบบว่า 626 00:33:04,650 --> 00:33:06,402 เนชันไวด์อยู่ข้างคุณ 627 00:33:06,485 --> 00:33:07,445 เหมือน... 628 00:33:07,528 --> 00:33:10,656 เหมือนกันเลย ผมไม่ได้อยากรู้ ผมไม่จําเป็นต้องรู้ 629 00:33:10,740 --> 00:33:13,659 ผมอยากล้างสมองส่วนนั้นนะ แต่มันติดหัวไปแล้ว 630 00:33:15,077 --> 00:33:19,373 เพลงชาติอเมริกาเป็นแบบนั้น เพราะคุณได้ยินมันบ่อยๆ ในอเมริกา 631 00:33:20,249 --> 00:33:23,127 นี่เป็นประเทศเดียวที่ผมเคยอาศัยอยู่ 632 00:33:23,210 --> 00:33:25,379 ที่เปิดเพลงชาติ 633 00:33:25,463 --> 00:33:28,174 เวลาที่ไม่มีชาติอื่นเข้าร่วมด้วย 634 00:33:31,093 --> 00:33:33,929 อย่างการแข่งบาสเกตบอล การแข่งฟุตบอล 635 00:33:34,013 --> 00:33:36,474 แข่งเบียร์ปอง เปิดเพลงชาติหมด 636 00:33:38,100 --> 00:33:41,562 ผมรู้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคุณอยู่อเมริกามาตลอดชีวิต 637 00:33:41,645 --> 00:33:43,189 "จะทํายังไงได้อีกเหรอ เทรเวอร์" 638 00:33:43,272 --> 00:33:44,440 ผมจะบอกคุณให้นะ 639 00:33:44,523 --> 00:33:48,027 ผมจะบอกคุณ ในฐานะคนที่มาจากส่วนที่เหลือของโลก 640 00:33:49,862 --> 00:33:51,322 มันไม่ใช่เรื่องปกติ 641 00:33:52,740 --> 00:33:54,492 ไม่ใช่ ประเทศส่วนใหญ่ในโลก 642 00:33:54,575 --> 00:33:57,620 จะเล่นเพลงชาติแค่ปีละครั้งได้มั้ง อย่างในงานประจําชาติ 643 00:33:57,703 --> 00:34:00,206 หรือเวลาคุณแข่งขันกับประเทศอื่น 644 00:34:00,289 --> 00:34:01,248 แบบนั้นถึงเปิดเพลงชาติ 645 00:34:01,332 --> 00:34:03,125 เพราะมีอีกประเทศอยู่ด้วย 646 00:34:03,209 --> 00:34:05,628 และคุณต้องพิสูจน์ให้ประเทศคุณเห็นว่า 647 00:34:06,253 --> 00:34:08,672 คุณจงรักภักดี คุณถึงได้ร้องเพลงชาติ 648 00:34:09,465 --> 00:34:11,425 เพราะประเทศมักรู้สึกไม่มั่นใจ 649 00:34:13,219 --> 00:34:14,553 คุณต้องทําให้พวกเขาสบายใจ 650 00:34:15,262 --> 00:34:16,388 ต้องทําเรื่อยๆ ด้วย 651 00:34:16,472 --> 00:34:18,099 พวกเขาควรไปบําบัด 652 00:34:18,182 --> 00:34:20,643 จัดการเรื่องปัญหาความผูกพัน แต่กลับไม่ไป 653 00:34:21,310 --> 00:34:24,063 คุณจะได้รู้ว่าประเทศขาดความมั่นใจแค่ไหน 654 00:34:24,146 --> 00:34:25,981 ก็ตอนที่คุณออกจากประเทศ 655 00:34:26,065 --> 00:34:27,441 เวลาคุณออกจากประเทศแล้วกลับมา 656 00:34:27,525 --> 00:34:29,318 คุณเคยเจอคําถามที่ประเทศถามคุณมั้ย 657 00:34:29,401 --> 00:34:31,612 ทั้งไม่มั่นใจและหึงหวงมาก 658 00:34:31,695 --> 00:34:33,364 แบบว่า "คุณหายไปไหนมา" 659 00:34:35,241 --> 00:34:37,368 "ไปไหนมา ไปประเทศไหน 660 00:34:37,451 --> 00:34:39,578 แล้วไง เดี๋ยวนี้มีประเทศอื่นแล้วเหรอ 661 00:34:39,662 --> 00:34:41,205 นั่นเป็นสิ่งที่คุณทําเหรอ" 662 00:34:42,039 --> 00:34:45,668 "นี่สแตมป์อะไร ไหนดูซิว่า ใครประทับตราใส่พาสปอร์ตคุณบ้าง" 663 00:34:45,751 --> 00:34:48,754 คุณก็แบบ "โหย ประเทศ ขอความเป็นส่วนตัวหน่อย" 664 00:34:52,466 --> 00:34:54,635 ส่วนใหญ่ถึงได้ร้องเพลงชาติ 665 00:34:54,718 --> 00:34:56,679 เฉพาะเวลาที่มีประเทศอื่นอยู่ด้วย 666 00:34:56,762 --> 00:34:58,389 เป็นเวลาเดียวที่คุณจะร้อง 667 00:34:58,472 --> 00:35:01,767 เพราะนั่นเพื่อทําให้ประเทศคุณรู้สึกดี 668 00:35:01,851 --> 00:35:02,768 นึกออกมั้ย 669 00:35:02,852 --> 00:35:04,603 รู้มั้ยว่าเพลงชาติคืออะไร 670 00:35:04,687 --> 00:35:09,358 เพลงชาติคือ ภูมิศาสตร์การเมืองที่เทียบเท่ากับ 671 00:35:09,441 --> 00:35:11,277 สิ่งที่ผู้หญิงทํา 672 00:35:11,360 --> 00:35:12,403 กับผู้ชายอย่างเรา 673 00:35:13,445 --> 00:35:17,241 สาวๆ คุณรู้กลเม็ดที่คุณใช้กับแฟนคุณมั้ย 674 00:35:17,324 --> 00:35:20,161 อย่างทุกครั้งที่อีโก้เขาถูกทําลาย 675 00:35:20,703 --> 00:35:23,581 คุณต้องพยายามรักษามันน่ะ 676 00:35:24,623 --> 00:35:27,334 ผู้หญิงทุกคนในห้องนี้มีกลเม็ด 677 00:35:27,418 --> 00:35:29,128 ที่ใช้ได้กับผู้ชายทุกคน 678 00:35:29,211 --> 00:35:33,048 ตอนนี้ผมรู้ว่าผู้หญิงหลายคนคงแบบ "หุบปาก เทรเวอร์ 679 00:35:33,132 --> 00:35:35,801 หุบปากๆ" 680 00:35:36,802 --> 00:35:38,929 มันเป็นเทคนิคที่ฉลาดและดีงามนะ 681 00:35:39,013 --> 00:35:41,849 ใช่ พวกคุณออกไปกินข้าวเที่ยงกัน 682 00:35:41,932 --> 00:35:44,226 แล้วมีผู้ชายเดินมาที่โต๊ะ 683 00:35:44,310 --> 00:35:46,937 เขาตัวบึก ดูนักกีฬา หล่อเลยละ 684 00:35:47,021 --> 00:35:49,732 เขาพูดว่า "พระเจ้า มิเชลล์ มิเชลล์ใช่มั้ย" 685 00:35:49,815 --> 00:35:52,902 "จัสติน ตายแล้ว 686 00:35:52,985 --> 00:35:54,403 เป็นไงบ้าง" 687 00:35:54,486 --> 00:35:57,406 ส่วนคุณก็แบบ "ใครวะจัสติน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย" 688 00:35:57,489 --> 00:36:00,492 เขาพูดว่า "นี่บ้าไปแล้ว สองครั้งในสองอาทิตย์เนี่ยนะ" 689 00:36:01,535 --> 00:36:03,871 แล้วคุณก็คิด "สองครั้งเหรอ ครั้งแรกเมื่อไหร่ 690 00:36:03,954 --> 00:36:05,039 นี่ใครเนี่ย" 691 00:36:05,122 --> 00:36:07,458 "ฉันรู้ ตายแล้ว สบายดีมั้ย" 692 00:36:07,541 --> 00:36:10,878 "ผมสบายดี เราต้องคุยกันนะ เราต้องคุยกันเรื่องสมัยเรียน 693 00:36:10,961 --> 00:36:13,756 ผมเพิ่งคิดเรื่องนั้นเลย เราบ้ากันมากสมัยเรียน 694 00:36:13,839 --> 00:36:15,716 จําคืนนั้นได้มั้ย" 695 00:36:15,799 --> 00:36:18,135 "คุณเรียนมหาลัยเหรอ นี่มันอะไรกัน" 696 00:36:19,345 --> 00:36:21,096 เธอสัมผัสได้ว่าอีโก้ของคุณ 697 00:36:21,180 --> 00:36:23,641 ค่อยๆ หดตัวเหมือนลูกเกดโดนแดด 698 00:36:25,559 --> 00:36:27,228 และเธอจะไม่มองคุณนะ 699 00:36:27,311 --> 00:36:28,896 เธอจะไม่ทําให้เป็นเรื่องใหญ่ 700 00:36:28,979 --> 00:36:30,648 เธอจะคุยกับเขาต่อ 701 00:36:30,731 --> 00:36:33,359 แต่เธอจะค่อยๆ วางมือลงตรงตักคุณ 702 00:36:34,610 --> 00:36:36,570 จากนั้นก็เริ่มถู 703 00:36:37,655 --> 00:36:39,740 เธอจะคุยต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 704 00:36:39,823 --> 00:36:42,326 "ฉันรู้ ตอนนั้นบ้ามาก ฉันเป็นเชียร์ลีดเดอร์ 705 00:36:42,409 --> 00:36:44,787 จะทํายังไงได้ล่ะ มันก็เป็นแบบนั้นแหละ" 706 00:36:44,870 --> 00:36:46,872 แล้วมือก็ยัง... 707 00:36:49,959 --> 00:36:51,627 "ไม่เป็นไร 708 00:36:52,253 --> 00:36:55,089 ไม่เป็นไร คุณโตแล้ว โตมากแล้ว 709 00:36:56,090 --> 00:36:58,509 คุณเข้มแข็ง ใช่แล้ว 710 00:36:58,592 --> 00:37:02,846 ไม่มีชายอื่นในโลกนี้ มีแต่คุณ ดูคุณสิ ว้าว 711 00:37:02,930 --> 00:37:04,640 ตัวใหญ่ดีจริงๆ ใช่ 712 00:37:04,723 --> 00:37:07,059 ใคร หมอนี่เหรอ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเขาเป็นใคร 713 00:37:07,810 --> 00:37:09,436 ไม่ กล้ามเขาเหรอ 714 00:37:09,520 --> 00:37:11,146 ฉันไม่ชอบกล้ามๆ ไม่เลย 715 00:37:11,814 --> 00:37:13,691 ฉันเกลียดคนมีกล้าม น่าเกลียดออก 716 00:37:13,774 --> 00:37:18,028 ดูเขาสิ ออกกําลังกาย จนทุกอย่างเข้ารูปเป็นปล้องๆ 717 00:37:18,112 --> 00:37:19,238 ไม่ อี๋ออก 718 00:37:19,321 --> 00:37:22,074 อะไรนะ ซิกซ์แพ็กเหรอ ไม่ ฉันไม่อยากได้ซิกซ์แพ็ก 719 00:37:22,157 --> 00:37:24,535 ฉันไม่ชอบซิกซ์แพ็ก เพราะแบบนี้ฉันถึงได้ชอบคุณไง" 720 00:37:30,958 --> 00:37:32,626 เพลงชาติก็เป็นแบบนั้นเลย 721 00:37:40,426 --> 00:37:42,344 คุณทําให้ประเทศของคุณสบายใจ 722 00:37:45,389 --> 00:37:48,267 เพลงชาติอเมริกาน่าสนใจมากนะ 723 00:37:48,350 --> 00:37:51,145 สิ่งที่บ่งบอกถึงอเมริกาคือเพลงชาติ 724 00:37:51,228 --> 00:37:54,273 อเมริกามีกฎเพลงชาติที่สนุกที่สุดในโลก 725 00:37:54,356 --> 00:37:58,193 เป็นประเทศเดียวในโลก ที่อนุญาตให้ร้องเพลงชาติ 726 00:37:58,277 --> 00:37:59,695 ได้ตามแบบที่ต้องการเลย 727 00:38:00,821 --> 00:38:03,324 แล้วแต่คุณเลย 728 00:38:03,407 --> 00:38:05,117 ของประเทศอื่นทําไม่ได้นะ 729 00:38:05,200 --> 00:38:07,870 ของประเทศอื่นในโลก เพลงชาติเป็นตามแบบที่เขียนไว้ 730 00:38:07,953 --> 00:38:09,496 มันน่าเบื่อ และนั่นละประเด็น 731 00:38:09,580 --> 00:38:10,831 คุณจะเปลี่ยนมันไม่ได้ 732 00:38:10,914 --> 00:38:12,875 ในอเมริกา คุณทําได้ตามใจชอบ 733 00:38:13,917 --> 00:38:15,377 ผมสังเกตเห็นครั้งแรก 734 00:38:15,461 --> 00:38:18,130 ครั้งแรกที่ผมสังเกตเห็นคือที่การแข่งบาสเกตบอล 735 00:38:18,213 --> 00:38:22,343 เป็นนัดนิวยอร์กนิคส์ปะทะโทรอนโตแร็ปเตอร์ส 736 00:38:22,426 --> 00:38:25,012 และเพราะทีมแร็ปเตอร์สมาจากแคนาดา 737 00:38:25,763 --> 00:38:30,726 พวกเขาต้องเปิดสองเพลงชาติก่อนแข่ง ซึ่งแทบไม่ค่อยเกิดขึ้น 738 00:38:31,727 --> 00:38:35,230 เราอยู่ในสนามแข่ง จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้น 739 00:38:35,314 --> 00:38:36,940 "ทุกท่านครับ 740 00:38:37,024 --> 00:38:39,860 ช่วยยืนขึ้นสําหรับเพลงชาติแคนาดา" 741 00:38:39,943 --> 00:38:41,362 แล้วทุกคนก็ยืนขึ้น 742 00:38:42,279 --> 00:38:44,406 จากนั้นพวกเขาก็เปิดเทปจากตรงไหนสักที่ 743 00:38:47,409 --> 00:38:49,078 คุณดูออกเลยว่าพวกเขาไม่สน 744 00:38:50,371 --> 00:38:53,207 แล้วเพลงชาติแคนาดาก็ดังขึ้น มันเหมือนเดิมตลอด 745 00:38:53,290 --> 00:38:55,876 โอ แคนาดา... 746 00:39:01,298 --> 00:39:03,926 และอะไรสักอย่างพาเรากลับมายัง... 747 00:39:07,763 --> 00:39:11,642 คุณรู้จักเพลงนี้เนอะ ผมไม่มีเวลามาร้องจนจบ นั่นแหละ 748 00:39:12,184 --> 00:39:13,852 พวกเขาร้องเพลงชาติแคนาดา 749 00:39:14,436 --> 00:39:15,354 เพลงจบปุ๊บ 750 00:39:16,480 --> 00:39:17,689 ผู้ประกาศก็กลับมา 751 00:39:17,773 --> 00:39:19,400 "ทุกท่านครับ 752 00:39:19,483 --> 00:39:22,319 ช่วยยืนต่อสําหรับเพลงชาติอเมริกาด้วย" 753 00:39:23,070 --> 00:39:24,488 นั่นละตอนโปรดของผมเลย 754 00:39:25,739 --> 00:39:27,408 ใช่ ไฟจะดับลง 755 00:39:29,201 --> 00:39:31,412 มีคนเดินมาตรงกลางสนาม 756 00:39:32,121 --> 00:39:34,623 ทุกอย่างเงียบกริบเลย 757 00:39:47,678 --> 00:39:52,558 โอ ดูสิ 758 00:39:54,685 --> 00:40:01,650 คุณเห็น 759 00:40:11,368 --> 00:40:14,496 ไหม 760 00:40:20,043 --> 00:40:25,841 ยามแสงสว่างยามรุ่ง 761 00:40:48,864 --> 00:40:55,746 เราร้องทักทายอย่างภูมิใจ... 762 00:40:55,829 --> 00:40:58,957 ทําไมต้องพยายามทําให้เพลงชาติเซ็กซี่ด้วย ทําอะไรเนี่ย 763 00:40:59,625 --> 00:41:00,876 ผมไม่เคยเข้าใจเลย 764 00:41:00,959 --> 00:41:03,879 ทําไมต้องทําให้เป็นเพลงเซ็กซี่ด้วย 765 00:41:08,509 --> 00:41:12,262 ในอังกฤษนี่ไม่มีทางที่จะเห็นคนพูดว่า "รีมิกซ์" 766 00:41:12,346 --> 00:41:13,597 พระเจ้า พระเจ้าโปรดช่วยราชินี 767 00:41:13,680 --> 00:41:16,266 พระเจ้าโปรดช่วยราชินี ข้าช่วยราชินีด้วยเซ็กซ์สุดสยิว 768 00:41:16,350 --> 00:41:18,018 ช่วยราชินี มาช่วยราชินีกัน 769 00:41:18,101 --> 00:41:20,062 ด้วยเซ็กซ์สุดสยิว มาเลย มาช่วยราชินีกัน 770 00:41:27,194 --> 00:41:28,153 ให้ตายสิ 771 00:41:37,496 --> 00:41:38,497 เยอรมนีสนุกดีครับ 772 00:41:42,084 --> 00:41:47,089 จากนั้นเรามุ่งหน้าไปปารีส ฝรั่งเศส เพื่อแสดงโชว์ 773 00:41:47,714 --> 00:41:49,258 เป็นครั้งแรกในชีวิตผมเลย 774 00:41:49,341 --> 00:41:50,467 ผมตื่นเต้นมาก 775 00:41:50,551 --> 00:41:52,386 ผมอยากแสดงในปารีสมาตลอด 776 00:41:52,469 --> 00:41:54,888 ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง แต่ขอผมบอกคุณได้มั้ย 777 00:41:54,972 --> 00:41:57,891 ปารีสเป็นทุกอย่างที่พวกเขาบอกเลย 778 00:41:57,975 --> 00:42:04,231 มันเป็นหนึ่งในเมืองที่โรแมนติกที่สุด ที่ผมเคยไปมาเลย 779 00:42:04,314 --> 00:42:07,568 ผมตกหลุมรักเป็นพันครั้งได้ 780 00:42:08,318 --> 00:42:10,153 ผมอยู่คนเดียว มันไม่สําคัญเลย 781 00:42:11,029 --> 00:42:11,947 ใช่ 782 00:42:12,030 --> 00:42:14,616 ทุกคืนมีแค่ผมกับตัวเรือด ที่รัก 783 00:42:21,123 --> 00:42:23,292 ผมชอบปารีสมาก 784 00:42:23,375 --> 00:42:26,795 เพราะผมได้พบกับคนปารีเซียง 785 00:42:27,421 --> 00:42:28,422 แบบตัวเป็นๆ 786 00:42:28,505 --> 00:42:30,882 ไม่ใช่ฟังจากคําพูดเหมารวม จากสิ่งที่คนเล่าให้ฟัง 787 00:42:30,966 --> 00:42:34,928 ไม่ใช่ ได้พบคนฝรั่งเศสจริงๆ ได้เรียนรู้เรื่องพวกเขาจากพวกเขา 788 00:42:35,012 --> 00:42:37,431 และผมได้รู้เรื่องที่สุดยอดมากๆ 789 00:42:37,514 --> 00:42:42,519 อย่างเช่น คนฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์กับงาน 790 00:42:43,228 --> 00:42:44,354 ต่างจากพวกเรามาก 791 00:42:45,147 --> 00:42:46,106 เข้าใจมั้ย ก็คือ 792 00:42:46,189 --> 00:42:47,941 พวกเขาไม่สนห่าอะไรเรื่องงาน 793 00:42:52,195 --> 00:42:54,489 เอาจริงๆ ผมว่ามันได้แรงบันดาลใจดี 794 00:42:54,573 --> 00:42:56,033 ใช่ ผมรู้สึกว่าพวกเราหลายคน 795 00:42:56,116 --> 00:42:58,910 ยึดติดกับงานของเรามากเกินไปน่ะ 796 00:42:58,994 --> 00:43:00,454 เราระบุตัวเองด้วยงาน 797 00:43:00,537 --> 00:43:03,206 คุณเคยถามใครสักคนว่า "เล่าเรื่องตัวเองให้ฟังหน่อย" มั้ย 798 00:43:03,290 --> 00:43:04,833 "ผมเป็นสถาปนิก..." 799 00:43:04,916 --> 00:43:07,461 "เล่าเรื่องตัวเองให้ฟังที" "ฉันเป็นเจ้าของร้านทําผมและ..." 800 00:43:07,544 --> 00:43:09,671 "เล่าเรื่องตัวเองซิ" "ฉันเป็นครู..." 801 00:43:09,755 --> 00:43:11,048 "เล่าเรื่องตัวเองหน่อยสิ" 802 00:43:11,131 --> 00:43:13,342 คนจะบอกคุณถึงสิ่งที่พวกเขาทํา 803 00:43:13,425 --> 00:43:17,095 มันกลายเป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจ 804 00:43:17,179 --> 00:43:19,348 คนฝรั่งเศสไม่ทําแบบนั้นนะ ไม่เลย 805 00:43:19,431 --> 00:43:21,892 คุณจะไม่มีทางเจอคนฝรั่งเศสที่ทําแบบนั้น 806 00:43:21,975 --> 00:43:25,103 คุณเจอคนฝรั่งเศสแล้วถามว่า "ขอโทษนะ คุณทําอะไร" 807 00:43:25,187 --> 00:43:26,355 เขาจะตอบว่า "ผมเหรอ 808 00:43:26,438 --> 00:43:29,274 ผมไปเดินเล่นกับเพื่อนๆ และ... 809 00:43:29,358 --> 00:43:32,527 ผมชอบกินอาหารดีๆ และ..." 810 00:43:32,611 --> 00:43:35,447 คุณก็ "ไม่ใช่ๆ คุณทําอะไรกับชีวิตน่ะ" 811 00:43:35,530 --> 00:43:37,240 เขาก็ตอบว่า "ชีวิตเหรอ โทษทีๆ 812 00:43:37,324 --> 00:43:38,450 โอเค ชีวิตเหรอ 813 00:43:38,533 --> 00:43:41,203 โอเค ผมหายใจและ..." 814 00:43:42,120 --> 00:43:44,456 "ผมดื่มน้ําแล้วก็... 815 00:43:44,539 --> 00:43:47,084 แน่นอน ผมต้องร่วมรักด้วย" 816 00:43:51,129 --> 00:43:53,131 มันคนละวิถีกันน่ะ 817 00:43:53,715 --> 00:43:56,718 การไม่ผูกติดกับงานมันดีมากนะ 818 00:43:56,802 --> 00:44:00,555 ผมได้รู้เรื่องนี้เพราะตอนผมบินไปปารีส 819 00:44:00,639 --> 00:44:02,641 กระเป๋าเดินทางผมหาย 820 00:44:02,724 --> 00:44:04,017 โอเคนะ ใช่ 821 00:44:04,101 --> 00:44:08,522 ลงที่สนามบิน กระเป๋าหาย ไม่มาด้วย 822 00:44:08,605 --> 00:44:10,816 ผมมารู้เอาตอนอยู่ตรงรางสัมภาระ 823 00:44:10,899 --> 00:44:13,443 มันเป็นเรื่องห่วยแตกที่สายการบินทํากับคุณ 824 00:44:14,361 --> 00:44:16,113 พวกเขารู้ว่ากระเป๋าคุณไม่มาด้วย 825 00:44:18,365 --> 00:44:21,034 ใช่ พวกเขารู้ว่า กระเป๋าของคุณอยู่ไหนตลอดเวลา 826 00:44:21,827 --> 00:44:23,036 แต่พวกเขาไม่บอกคุณ 827 00:44:23,120 --> 00:44:25,205 พวกเขาจะปล่อยให้คุณยืนบื้อเป็นคนโง่ 828 00:44:25,914 --> 00:44:27,124 ที่เต็มไปด้วยความหวัง 829 00:44:29,042 --> 00:44:32,170 พวกเขามาตรงที่นั่งคุณก่อนเครื่องออกแล้วบอกว่า 830 00:44:32,254 --> 00:44:33,338 "กระเป๋าไม่มานะ" ก็ได้ 831 00:44:35,590 --> 00:44:37,134 "สปอยล์ไว้ก่อน" 832 00:44:38,677 --> 00:44:39,594 แต่พวกเขาไม่ทํา 833 00:44:40,429 --> 00:44:43,473 พวกเขาปล่อยคุณบินไป อย่างสุขใจเหมือนคนหน้าโง่ 834 00:44:45,600 --> 00:44:47,018 ผมมาถึงปารีส 835 00:44:47,102 --> 00:44:49,312 ผมคิดว่าทริปดีงามนี้จะเริ่มต้นแล้ว 836 00:44:49,396 --> 00:44:52,107 ผมกระโดดดึ๋งๆ ไปมา เดินเท่ไปรับกระเป๋า 837 00:44:52,190 --> 00:44:53,817 "ฉันจะไปเอากระเป๋า 838 00:44:53,900 --> 00:44:55,944 เข้าปารีส และเริ่มออกสํารวจ" 839 00:44:56,027 --> 00:44:57,279 ไปถึงรางสัมภาระ 840 00:44:57,362 --> 00:44:59,239 ผมยังแบบ "ทําเท่รับกระเป๋า 841 00:44:59,322 --> 00:45:01,825 ใช่แล้ว ขอหยิบกระเป๋าหน่อยนะทุกคน" 842 00:45:01,908 --> 00:45:03,702 ผมแบบ "ขอโทษครับ 843 00:45:03,785 --> 00:45:04,870 ขอทางหน่อยครับ 844 00:45:04,953 --> 00:45:06,872 ผมอยากจะโน้มตัวไปที่รางสัมภาระ 845 00:45:06,955 --> 00:45:08,373 กระเป๋าจะได้มาไวๆ 846 00:45:08,457 --> 00:45:09,916 มาเร็ว กระเป๋านําโชค" 847 00:45:14,838 --> 00:45:16,882 ผมแอ็กท่าเท่จัดเต็ม 848 00:45:16,965 --> 00:45:20,051 กระเป๋าเริ่มทยอยมา ผมยืนอยู่ตรงนั้นวิจารณ์คนอื่น 849 00:45:20,844 --> 00:45:22,262 "ใครยังใช้แซมโซไนต์อยู่เนี่ย" 850 00:45:24,723 --> 00:45:25,849 "กระเป๋าฉันอยู่ไหน" 851 00:45:25,932 --> 00:45:28,018 กระเป๋าวนไปรอบๆ 852 00:45:28,101 --> 00:45:30,103 จากนั้นก็ไม่มีกระเป๋าใหม่ออกมาอีก 853 00:45:30,187 --> 00:45:31,438 ผมเริ่มกังวลละ 854 00:45:32,564 --> 00:45:34,649 กระเป๋าเริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆ 855 00:45:35,192 --> 00:45:36,443 ผมก็คิดว่า "กระเป๋าฉัน... 856 00:45:37,402 --> 00:45:38,528 กระเป๋าฉันไม่มา" 857 00:45:39,905 --> 00:45:41,323 แล้วผมก็ได้รู้ว่า 858 00:45:41,948 --> 00:45:43,533 กระเป๋าผมมาไม่ถึง 859 00:45:44,659 --> 00:45:47,037 มันแย่มากนะ ผมมีความรู้สึกแบบเดียวกัน 860 00:45:47,120 --> 00:45:48,872 แบบเดียวกันกับตอนผมเป็นเด็ก 861 00:45:49,539 --> 00:45:51,541 ตอนที่แม่ลืมมารับผมที่โรงเรียน 862 00:45:52,918 --> 00:45:53,960 รู้สึกแบบเดียวกันเลย 863 00:45:54,044 --> 00:45:57,422 ตอนยืนอยู่ตรงรางสัมภาระ ผมรู้สึกสิบขวบอีกครั้ง 864 00:46:02,010 --> 00:46:05,764 "ไม่ครับ ครูวิลคินสัน ไม่เป็นไร ครูกลับไปเถอะ 865 00:46:05,847 --> 00:46:08,558 แม่ผมกําลังมา ไม่ต้องห่วง คุณกลับบ้านเถอะ 866 00:46:08,642 --> 00:46:11,561 แม่กําลังมาฮะ แม่ไม่ลืมผมหรอก 867 00:46:11,645 --> 00:46:13,188 ไม่... แม่... 868 00:46:13,271 --> 00:46:15,815 ตอนนี้แม่คงตายอยู่ที่ไหนสักแห่ง 869 00:46:15,899 --> 00:46:19,194 แม่คงกําลังนอนตายในคู" 870 00:46:22,280 --> 00:46:23,490 แม่ลืมผม 871 00:46:25,075 --> 00:46:26,868 บางครั้งแม่ก็ลืมผม 872 00:46:26,952 --> 00:46:28,662 แล้วผมก็ต้องเดินกลับบ้าน 873 00:46:28,745 --> 00:46:30,038 เดินเป็นชั่วโมงเลย 874 00:46:31,456 --> 00:46:32,499 แล้วพอผมถึงบ้าน 875 00:46:32,582 --> 00:46:35,001 แม่จะมีปฏิกิริยาเดิมเสมอตอนผมเดินเข้าไป 876 00:46:35,085 --> 00:46:36,503 เพราะแม่ผมทํางานที่บ้าน 877 00:46:36,586 --> 00:46:39,214 เธอมีคอมพิวเตอร์เครื่องเล็กๆ ที่เอาไว้พิมพ์นู่นนี่ 878 00:46:39,297 --> 00:46:41,883 แล้วผมจะเดินเข้าบ้าน ปิดประตูแบบ... 879 00:46:41,967 --> 00:46:43,885 เธอจะมีปฏิกิริยาเดิมเสมอ แบบว่า... 880 00:46:45,554 --> 00:46:47,889 "ไม่นะ ลูกรัก ไม่ 881 00:46:49,099 --> 00:46:50,141 นี่กี่โมงแล้ว" 882 00:46:50,225 --> 00:46:52,519 ผมจะบอกว่า "สายเกินไปแล้ว" 883 00:46:58,316 --> 00:47:01,570 พูดจริงๆ นะ ผมเกลียดเวลาถูกลืมไว้ที่โรงเรียน 884 00:47:01,653 --> 00:47:03,363 แต่ผมรักษาช่วงเวลานั้นไว้ 885 00:47:04,114 --> 00:47:07,909 เพราะมันไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย จริงๆ นะ ผมชอบเดิน 886 00:47:07,993 --> 00:47:10,412 มันไม่ใช่ว่าผมเครียดตอนเดินเลย 887 00:47:11,079 --> 00:47:13,456 ผมจะเดินเตะก้อนหินและร้องเพลง 888 00:47:13,540 --> 00:47:16,626 พอถึงบ้าน ผมก็จะแบบว่า "ไม่ เดี๋ยวนะ" 889 00:47:18,587 --> 00:47:20,297 ผมชอบมากเพราะนั่นเป็นช่วงเวลาเดียว 890 00:47:20,380 --> 00:47:23,800 ที่ผมสามารถงี่เง่าใส่แม่ได้โดยไม่ถูกทําโทษ 891 00:47:23,883 --> 00:47:25,010 ไม่โดนเลย 892 00:47:25,093 --> 00:47:26,344 เพราะตอนผมเป็นเด็ก 893 00:47:26,428 --> 00:47:28,722 ผมงี่เง่าใส่พ่อแม่ไม่ได้ 894 00:47:28,805 --> 00:47:31,850 ผมไม่ใช่เด็กผิวขาวนะ นึกออกมั้ย ผมไม่... 895 00:47:31,933 --> 00:47:33,143 ผมต้องทําตัวดีๆ 896 00:47:34,394 --> 00:47:36,354 แต่เวลาแม่ทําผิด ผมชอบมาก 897 00:47:36,438 --> 00:47:38,148 แม่จะพูดว่า "ให้อภัยแม่ได้มั้ย ลูกรัก" 898 00:47:38,231 --> 00:47:40,066 ผมจะตอบว่า "ผมจะไปคิดดูนะ" 899 00:47:44,821 --> 00:47:47,198 ทีนี้ผมต้องหาคนช่วย 900 00:47:47,782 --> 00:47:48,992 ผมมองไปรอบๆ 901 00:47:49,075 --> 00:47:51,870 มีผู้ชายฝรั่งเศสที่แก่กว่ายืนอยู่ข้างๆ 902 00:47:51,953 --> 00:47:53,788 ผมสีดอกเลา แก้มแดงๆ 903 00:47:53,872 --> 00:47:55,498 ผู้ชายตัวเตี้ยๆ ใส่แว่น 904 00:47:55,582 --> 00:47:57,083 ผมเลยเดินไปหาเขา 905 00:47:57,167 --> 00:47:58,710 เขาใส่เสื้อกั๊กสีแดง 906 00:47:59,252 --> 00:48:02,547 และมีป้ายภาษาฝรั่งเศสเขียนว่า "อินฟอร์มาซิโอน" 907 00:48:02,631 --> 00:48:04,090 ข้างใต้มีภาษาอังกฤษเขียนว่า 908 00:48:04,174 --> 00:48:05,133 "บริการข้อมูล" 909 00:48:06,801 --> 00:48:08,094 ผมนี่แบบ... 910 00:48:11,348 --> 00:48:13,183 "บงชูร์ สวัสดี ไง" 911 00:48:13,266 --> 00:48:15,477 เขาตอบ "สวัสดี บงชูร์" 912 00:48:15,560 --> 00:48:17,520 ผมก็ "อังกฤษ ฝรั่งเศส" 913 00:48:17,604 --> 00:48:19,105 เขาตอบ "อังกฤษ ได้ วี" 914 00:48:19,189 --> 00:48:21,274 ผมเลยพูดว่า "ช่วยผมหน่อยได้มั้ย 915 00:48:21,358 --> 00:48:23,985 กระเป๋าของผมไม่มา 916 00:48:24,069 --> 00:48:26,821 ผมอยากรู้ว่าผมต้องทํายังไง" 917 00:48:26,905 --> 00:48:29,741 เขาก็ตอบว่า "มีกระเป๋าของคุณ... มันไม่มา..." 918 00:48:53,723 --> 00:48:55,475 ผมก็ "โอเค 919 00:48:56,267 --> 00:48:57,185 เอาละ 920 00:48:58,144 --> 00:48:59,396 ลองพูดเป็นภาษาฝรั่งเศสนะ 921 00:49:01,731 --> 00:49:04,025 ดูว่าจะเป็นยังไง" 922 00:49:06,194 --> 00:49:08,154 ในที่สุดเราก็หาทางได้ 923 00:49:08,947 --> 00:49:12,534 เขาพาผมไปตรงพื้นที่พิเศษ ที่คุณไปเขียนรายงาน 924 00:49:13,118 --> 00:49:16,413 มีผู้ชายฝรั่งเศสอีกคนหลังเคาน์เตอร์ หนุ่มกว่า 925 00:49:16,496 --> 00:49:18,915 เขาน่าจะมีเชื้ออัลจีเรียไม่ก็โมร็อกโก 926 00:49:18,998 --> 00:49:20,834 มีความฝรั่งเศสมากๆ เท่ดี 927 00:49:20,917 --> 00:49:22,043 เขากําลังช่วยใครสักคนอยู่ 928 00:49:22,127 --> 00:49:24,087 "โอเค ขอบคุณมาก คนต่อไปครับ" 929 00:49:24,170 --> 00:49:25,296 ผมเดินไป "ไง เพื่อน" 930 00:49:25,380 --> 00:49:27,382 เขาก็ตอบ "มีอะไร พี่ชาย 931 00:49:27,465 --> 00:49:29,300 เป็นไงบ้าง มีเรื่องอะไรเหรอ" 932 00:49:29,384 --> 00:49:31,344 ผมก็ตอบว่า "ช่วยผมหน่อยสิ 933 00:49:31,428 --> 00:49:35,306 กระเป๋าผมมันไม่มา มันหายไป" 934 00:49:35,390 --> 00:49:38,393 เขาก็ตอบว่า "ไม่นะ เพื่อน กระเป๋าคุณไม่มา 935 00:49:38,476 --> 00:49:39,811 ให้ตายสิ 936 00:49:39,894 --> 00:49:41,020 ได้หารึเปล่า" 937 00:49:44,566 --> 00:49:47,110 ผมก็ "ไงนะ หาสิ นั่นเป็นสิ่งแรกที่ผมทํา 938 00:49:47,193 --> 00:49:48,903 คิดว่าผมมาตรงนี้เพื่อหาเพื่อนเหรอ 939 00:49:48,987 --> 00:49:50,155 แน่นอนสิ นั่น..." 940 00:49:50,238 --> 00:49:51,823 เขาก็ "เปล่าๆ แค่เช็กดู 941 00:49:51,906 --> 00:49:53,867 กระเป๋าหายเหรอ ไม่เจอเลย..." 942 00:49:53,950 --> 00:49:54,826 ผมตอบ "ใช่" 943 00:49:54,909 --> 00:49:58,371 เขาก็ "ให้ตายสิ แย่เลยนะ ผมเสียใจด้วยนะ เพื่อน 944 00:49:58,455 --> 00:49:59,581 นั่นแย่มากเลย 945 00:50:00,165 --> 00:50:02,125 ใช่ แล้วตอนนี้คุณอยากทํายังไง" 946 00:50:04,794 --> 00:50:06,045 "ผมอยากทํายังไงเหรอ" 947 00:50:06,671 --> 00:50:10,842 ผมบอก "ผมอยากให้คุณทําอะไรสักอย่าง 948 00:50:10,925 --> 00:50:13,011 เราเขียนรายงานหรืออะไรได้มั้ย" 949 00:50:13,094 --> 00:50:15,680 "คุณอยากเขียนเอกสารหรืออะไรเหรอ 950 00:50:15,764 --> 00:50:18,975 เพื่อให้บริษัทประกันจ่ายเงินคุณใช่มั้ย" 951 00:50:19,058 --> 00:50:22,353 ผมบอก "ไม่ใช่ มันเพื่อให้คุณหากระเป๋า แล้วนํามันมาให้ผม" 952 00:50:22,437 --> 00:50:24,564 เขาก็ว่า "ไม่ต้องห่วง เพื่อน 953 00:50:24,647 --> 00:50:25,899 เราจะหามันไม่เจอหรอก 954 00:50:25,982 --> 00:50:26,983 ไม่ เพื่อน 955 00:50:27,776 --> 00:50:29,110 ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย 956 00:50:29,194 --> 00:50:30,904 ไม่ คืองี้ ที่นี่ปารีสนะ 957 00:50:30,987 --> 00:50:33,573 เวลากระเป๋าหายก็คือลาลับ 958 00:50:33,656 --> 00:50:36,409 มันไม่โผล่มาแน่ บางครั้งก็โผล่ ถ้าคุณโชคดี 959 00:50:36,493 --> 00:50:38,995 แต่ถ้าป่านนี้มันยังไม่มา ก็คงหายไปแล้วละ 960 00:50:39,078 --> 00:50:41,331 นี่ก็วันศุกร์ด้วย มีประท้วง คือ... 961 00:50:41,414 --> 00:50:44,334 คุณไปได้เลย ไม่ต้องเครียดนะ ไปได้เลย" 962 00:50:45,293 --> 00:50:46,920 ผมแบบ "ไม่ต้องเครียด... 963 00:50:47,003 --> 00:50:48,296 เฮ้ย นี่มันกระเป๋าผมนะ 964 00:50:48,922 --> 00:50:50,173 เสื้อผ้าผมอยู่ในนั้น" 965 00:50:50,256 --> 00:50:52,133 เขาตอบ "แต่คุณอยู่ในปารีสนะ 966 00:50:52,217 --> 00:50:54,511 ต้องใช้เสื้อผ้าเหรอ นี่มันปารีสนะ เพื่อน 967 00:50:54,594 --> 00:50:56,721 ไม่เอาน่า นี่ปารีส ไปซื้อเสื้อผ้าสิ 968 00:50:56,805 --> 00:50:58,807 เป็นอะไรเนี่ย เพื่อน อย่าเครียดสิ" 969 00:50:59,390 --> 00:51:00,725 เขามั่นใจมาก 970 00:51:01,601 --> 00:51:03,520 เขาทําให้ผมรู้สึกว่าตัวเองผิด 971 00:51:04,854 --> 00:51:06,022 ผมถึงกับสงสัยตัวเอง 972 00:51:06,105 --> 00:51:08,775 ผมเดินออกมาแล้วคิดว่า "นี่ฉันผิดเหรอ 973 00:51:09,692 --> 00:51:11,486 ฉันยึดติดกับกระเป๋ามากไปเหรอ" 974 00:51:15,031 --> 00:51:17,867 เขาไม่ได้โกหกเลย ปารีสมีเสื้อผ้าให้เลือกเยอะมาก 975 00:51:17,951 --> 00:51:19,494 ผมต้องไปซื้อเสื้อผ้า 976 00:51:19,577 --> 00:51:21,746 เพราะผมไม่มีอะไรใส่แสดงโชว์ หรือใส่ไปไหนเลย 977 00:51:21,830 --> 00:51:24,666 ถ้าคุณได้ไปปารีส พกเงินไปเพิ่มด้วยนะ 978 00:51:24,749 --> 00:51:26,960 เพื่อซื้อเสื้อผ้า มันดีงามมาก 979 00:51:27,043 --> 00:51:29,087 แล้วก็พยายามพก 980 00:51:29,170 --> 00:51:30,964 การเห็นคุณค่าในตัวเองไปเพิ่มด้วย 981 00:51:32,757 --> 00:51:35,301 ใช่ คุณต้องใช้มัน เวลาซื้อของกับคนฝรั่งเศส 982 00:51:36,010 --> 00:51:38,137 เพราะพวกเขาไม่เป็นมิตรเลย 983 00:51:38,221 --> 00:51:39,764 ใช่ ผมไม่เคยไปประเทศ 984 00:51:39,848 --> 00:51:42,475 ที่คุณหัวเดียวกระเทียมลีบเวลาไปซื้อของเลย 985 00:51:42,559 --> 00:51:45,770 คุณเดินเข้าร้าน ไม่มีใครช่วยคุณ ไม่มีเลย 986 00:51:45,854 --> 00:51:48,481 คุณไม่รู้ว่าใครทํางานที่นั่น ใครทําอะไรบ้าง 987 00:51:48,565 --> 00:51:50,733 จริงนะ เหมือนในซีรีส์ อันเดอร์คัฟเวอร์เอ็มพลอยยี 988 00:51:51,526 --> 00:51:52,944 แค่เดินไปมา 989 00:51:53,486 --> 00:51:55,363 ผ่านไป 20 นาที ไม่มีใครช่วยผมเลย 990 00:51:55,446 --> 00:51:59,242 ในที่สุดผมก็หยิบเสื้อผ้าเอง แล้วผมก็ได้ยินเสียงรําคาญๆ ข้างหลัง 991 00:51:59,325 --> 00:52:00,493 "มีอะไรให้ช่วยมั้ย" 992 00:52:01,077 --> 00:52:03,788 ผมตอบ "หวัดดี ใช่ ผมต้องการซื้อเสื้อผ้าครับ 993 00:52:03,872 --> 00:52:05,206 กระเป๋าเดินทางผมหายน่ะ" 994 00:52:05,290 --> 00:52:07,166 ดีทรอยต์ครับ ผมโดนด่า 995 00:52:08,585 --> 00:52:11,462 มากกว่าที่ผมเคยโดนมาทั้งชีวิต จริงๆ นะ 996 00:52:12,046 --> 00:52:14,799 จริงๆ ทุกอย่างที่ผมเลือก 997 00:52:15,508 --> 00:52:16,968 มาพร้อมคําวิจารณ์เจ็บแสบ 998 00:52:18,636 --> 00:52:21,764 ผมพูดว่า "ผมขอตัวนี้ไซซ์เอ็มได้มั้ย" 999 00:52:21,848 --> 00:52:22,807 เขาก็ "ไซซ์เอ็มเหรอ 1000 00:52:22,891 --> 00:52:25,143 ไม่นะ แอลหรือใหญ่พิเศษรึเปล่า 1001 00:52:26,728 --> 00:52:28,980 ไม่น่าใช่ ไซซ์เอ็มเนี่ยนะสําหรับหุ่นคุณ 1002 00:52:29,063 --> 00:52:30,356 ผมไม่คิดงั้นนะ" 1003 00:52:31,441 --> 00:52:32,817 ผมก็ "โทษที ว่าไงนะ" 1004 00:52:32,901 --> 00:52:36,029 เขาก็บอกว่า "ผมว่าคุณไซซ์แอลนะ ผมไปหยิบมาให้คุณได้ 1005 00:52:36,112 --> 00:52:38,239 ไซซ์เอ็มเล็กไปสําหรับเสื้อเชิ้ต โอเคนะ" 1006 00:52:39,574 --> 00:52:40,617 ผมนี่แบบ "อะไรนะ" 1007 00:52:41,159 --> 00:52:42,702 ทุกอย่างเลย ทุกอย่าง 1008 00:52:43,286 --> 00:52:45,079 มีแจ็กเก็ตตัวนึงที่ผมอยากซื้อ 1009 00:52:45,163 --> 00:52:46,331 "ผมเอาตัวนี้นะ" 1010 00:52:46,414 --> 00:52:49,250 เขาบอก "ไม่ ตัวนี้ไม่เข้ากับสีผิวคุณเลย 1011 00:52:49,334 --> 00:52:52,921 ไม่ คุณต้องคิดว่าสีอะไรช่วยเสริม 1012 00:52:53,004 --> 00:52:54,213 ทั้งเนื้อผ้า 1013 00:52:54,297 --> 00:52:56,132 และหนังหน้าคุณด้วยนะ 1014 00:52:56,716 --> 00:52:58,593 ตัวนี้ไม่ใช่เลย" 1015 00:52:58,676 --> 00:53:01,679 ผมก็แบบ "เฮ้ย ผมมีแบบนี้ตัวนึงแล้ว" 1016 00:53:01,763 --> 00:53:03,514 เขาก็ "แล้วคุณใส่มั้ย" 1017 00:53:06,809 --> 00:53:07,894 "ก็ไม่แล้ว" 1018 00:53:09,354 --> 00:53:11,147 "ไม่ คุณจะใส่ก็ได้ตามใจเลย" 1019 00:53:11,230 --> 00:53:12,732 "เอาเลย ตามใจ" 1020 00:53:12,815 --> 00:53:14,609 "ไม่ คุณทําผมกลัวแล้ว" 1021 00:53:17,654 --> 00:53:20,073 คืองี้นะ มันแค่ต่างกันน่ะ 1022 00:53:20,782 --> 00:53:22,367 มีเพื่อนคนนึงบอกผมว่า 1023 00:53:22,450 --> 00:53:24,035 "พวก คนฝรั่งเศสงี่เง่านะ" 1024 00:53:24,118 --> 00:53:26,287 ผมบอก "ฉันไม่คิดว่าพวกเขางี่เง่านะ 1025 00:53:26,371 --> 00:53:28,206 ฉันว่าพวกเขาแค่จริงใจมาก" 1026 00:53:29,040 --> 00:53:29,874 เข้าใจมั้ย 1027 00:53:29,958 --> 00:53:32,377 หลายครั้งมันก็แยกไม่ออกนะ 1028 00:53:34,045 --> 00:53:38,675 เพราะมีวันนึงผมคุยกับผู้หญิงฝรั่งเศส 1029 00:53:38,758 --> 00:53:41,761 ผมรวบรวมความกล้าถามเธอ 1030 00:53:42,553 --> 00:53:43,763 ผมถามว่า "นี่... 1031 00:53:45,098 --> 00:53:47,058 ทําไมคนฝรั่งเศส... 1032 00:53:48,017 --> 00:53:49,143 เป็นแบบนี้ล่ะ" 1033 00:53:51,854 --> 00:53:53,189 เธอถามว่า "หมายความว่าไง" 1034 00:53:53,272 --> 00:53:54,607 ผมบอก "เวลาไปร้านค้า 1035 00:53:54,691 --> 00:53:55,817 พวกเขาดูใจร้ายมาก" 1036 00:53:55,900 --> 00:53:59,320 "ไม่นะ พวกเขาไม่ได้ใจร้าย พวกเขาแค่เป็นตัวของตัวเอง 1037 00:53:59,404 --> 00:54:03,282 คุณอาจเคยชินกับการไปประเทศ 1038 00:54:03,366 --> 00:54:06,035 ที่พวกเขากลัวว่าคุณจะไม่ให้ทิปพวกเขา 1039 00:54:06,119 --> 00:54:07,870 พวกเขาก็เลยเอาใจคุณเต็มที่ 1040 00:54:07,954 --> 00:54:09,455 'ให้ช่วยอะไรมั้ย ให้ช่วยอะไรมั้ย' 1041 00:54:09,539 --> 00:54:12,792 แต่ในฝรั่งเศส เราทําให้แน่ใจว่า ทุกคนได้เงินเดือนที่ดี 1042 00:54:12,875 --> 00:54:13,751 ได้ค่าจ้างดี 1043 00:54:13,835 --> 00:54:16,337 เราก็เลยไม่เครียดมากเรื่องนั้น 1044 00:54:16,421 --> 00:54:18,840 ในอเมริกา 'ลูกค้าคือพระราชา' 1045 00:54:18,923 --> 00:54:21,175 แต่ในฝรั่งเศส รู้มั้ยว่าเราทําอะไรกับพระราชา 1046 00:54:21,259 --> 00:54:22,093 ก็นั่นล่ะ 1047 00:54:23,344 --> 00:54:24,595 ที่นี่ไม่เป็นแบบนั้น" 1048 00:54:30,935 --> 00:54:32,603 คนฝรั่งเศสไม่ทําแบบนั้น 1049 00:54:34,230 --> 00:54:36,190 คืนนี้พวกคุณสนุกมากเลย ดีทรอยต์ 1050 00:54:36,274 --> 00:54:37,525 ขอบคุณครับ 1051 00:54:41,487 --> 00:54:42,530 ขอบคุณมากๆ 1052 00:54:44,198 --> 00:54:45,533 ผมคิดถูกแล้ว 1053 00:54:45,616 --> 00:54:47,827 นี่ละเหตุผลที่เรามาดีทรอยต์ 1054 00:54:47,910 --> 00:54:49,954 จริงๆ นะ พวกคุณคนดูเยี่ยมมาก 1055 00:54:52,123 --> 00:54:53,708 งดงาม หลากหลาย 1056 00:54:56,627 --> 00:54:58,129 เมืองก็เจ๋งด้วย 1057 00:54:58,212 --> 00:55:00,465 เราได้เห็นสองสามอย่าง 1058 00:55:00,548 --> 00:55:02,842 ผมทะเลาะกับเดฟ เพื่อนผม 1059 00:55:02,925 --> 00:55:04,927 เขากํากับโชว์พิเศษพวกนี้ 1060 00:55:05,595 --> 00:55:07,388 วันนึงเขาพูดกับผมว่า 1061 00:55:07,472 --> 00:55:09,640 "โย่ ระหว่างวันนายจะทําอะไร" 1062 00:55:09,724 --> 00:55:11,768 ผมก็ตอบว่า "ไปหาอะไรกิน หาอะไรทํามั้ง" 1063 00:55:11,851 --> 00:55:15,271 เขาบอก "พวก ทําไมเรา ไม่ไปดูพิพิธภัณฑ์ทุกที่ในดีทรอยต์ล่ะ" 1064 00:55:15,354 --> 00:55:17,023 ผมก็ "อาจจะสักที่นะ" 1065 00:55:18,608 --> 00:55:19,984 เขาบอก "หมายความว่าไง สักที่" 1066 00:55:20,068 --> 00:55:22,236 ผมก็ "ใช่ ไม่ใช่ทุกที่ หมายความว่าไง ทุกที่" 1067 00:55:22,320 --> 00:55:24,781 เขาตอบ "เพื่อน นายเคยมาที่นี่มั้ย 1068 00:55:24,864 --> 00:55:27,033 รู้มั้ยว่าพวกเขามีพิพิธภัณฑ์เยี่ยมๆ กี่แห่ง" 1069 00:55:27,116 --> 00:55:29,160 "เคย แต่มันก็แค่พิพิธภัณฑ์ 1070 00:55:29,243 --> 00:55:31,037 ฉันจะไปแค่ที่เดียว แค่นั้น 1071 00:55:32,747 --> 00:55:35,792 ฉันมีพลังไม่มากพอ ฉันไปหลายที่เท่านายไม่ได้" 1072 00:55:35,875 --> 00:55:38,711 "หมายความว่าไง ไปหลายที่เท่าฉันไม่ได้" 1073 00:55:38,795 --> 00:55:41,672 "เพื่อน เพราะนายเป็นคนขาว นายชอบทําอะไรแบบนั้น" 1074 00:55:43,049 --> 00:55:45,301 ผมแค่ล้อเล่นนะ ผมหยอกเขา 1075 00:55:45,384 --> 00:55:46,385 หยอกเล่นๆ น่ะ 1076 00:55:46,469 --> 00:55:48,930 เขาฉุนกึกเลย 1077 00:55:49,472 --> 00:55:51,349 เขาบอก "นายว่าไงนะ" 1078 00:55:52,934 --> 00:55:53,935 "เพราะนาย..." 1079 00:55:54,018 --> 00:55:56,604 เขาก็ "พวก คนขาวไม่ชอบพิพิธภัณฑ์ 1080 00:55:56,687 --> 00:55:58,773 นายพูดเรื่องอะไรเนี่ย 1081 00:55:58,856 --> 00:56:03,653 พิพิธภัณฑ์ไม่ใช่ท็อปห้า ของสิ่งที่คนขาวรักด้วยซ้ํานะ" 1082 00:56:04,987 --> 00:56:07,532 เขาพูดอย่างมั่นใจเลย 1083 00:56:08,449 --> 00:56:10,326 และด้วยความเชื่อมั่น 1084 00:56:10,409 --> 00:56:12,245 ผมถามไปว่า "ท็อปห้ามีอะไรบ้าง" 1085 00:56:13,412 --> 00:56:16,249 เพราะมันแปลก... "นั่นไม่ใช่ท็อปห้าด้วยซ้ํา" 1086 00:56:16,332 --> 00:56:19,168 ในห้องนอนเขา เขามีลิสต์ท็อปสิบ 1087 00:56:19,252 --> 00:56:20,753 ติดตรงกําแพง 1088 00:56:20,837 --> 00:56:22,088 มันสุดยอดมาก 1089 00:56:23,464 --> 00:56:25,633 ผมคิดถึงเรื่องนั้น ผมก็ "ไม่ใช่สิ 1090 00:56:25,716 --> 00:56:27,135 ฉันจะยึดตามความคิดฉัน" 1091 00:56:27,218 --> 00:56:28,094 ต้องมีพิพิธภัณฑ์แน่ 1092 00:56:28,177 --> 00:56:29,846 เพราะมันไม่ใช่เรื่องไม่ดีด้วยซ้ํา 1093 00:56:29,929 --> 00:56:31,264 คนขาวรักพิพิธภัณฑ์ 1094 00:56:32,056 --> 00:56:33,724 หลายคนชอบไปพิพิธภัณฑ์ 1095 00:56:33,808 --> 00:56:37,603 แต่คนขาวรักพิพิธภัณฑ์ 1096 00:56:37,687 --> 00:56:38,896 รักมากๆ 1097 00:56:38,980 --> 00:56:40,731 ไม่มีที่ไหนบนโลก 1098 00:56:40,815 --> 00:56:43,151 ที่คนขาวไปตั้งรกรากและจะไม่สร้างพิพิธภัณฑ์ 1099 00:56:43,234 --> 00:56:45,778 มันไม่สําคัญเลย คนขาวรักพิพิธภัณฑ์ 1100 00:56:45,862 --> 00:56:47,780 เคยเห็นคนขาวในพิพิธภัณฑ์มั้ย 1101 00:56:47,864 --> 00:56:50,741 เดินยิ้มไปมา เอามือไขว้หลัง 1102 00:56:57,415 --> 00:56:58,958 "ใช่ นั่นฝีมือเรา 1103 00:57:00,418 --> 00:57:01,752 นั่นก็ฝีมือเรา 1104 00:57:03,004 --> 00:57:04,505 เป็นช่วงเวลาที่ดีนะ" 1105 00:57:06,090 --> 00:57:08,134 คนขาวรักพิพิธภัณฑ์ 1106 00:57:08,718 --> 00:57:11,637 มันคงไม่ใช่อันดับหนึ่ง แต่อยู่ท็อปห้าแน่ 1107 00:57:12,180 --> 00:57:13,139 ผมคิดเรื่องนั้น 1108 00:57:13,222 --> 00:57:15,308 ถ้ามีท็อปห้าของสิ่งที่คนขาวรัก 1109 00:57:15,391 --> 00:57:17,226 ผมจะเอาพิพิธภัณฑ์ไว้อันดับห้า 1110 00:57:17,310 --> 00:57:19,562 อันดับสี่ ผมจะให้ว่ายน้ํา 1111 00:57:19,645 --> 00:57:22,190 โอเคนะ เพราะคนขาวรักการว่ายน้ํา 1112 00:57:22,273 --> 00:57:24,734 ไม่มีอะไรผิดเลย คุณเคยเห็นคนขาวว่ายน้ํามั้ย 1113 00:57:24,817 --> 00:57:26,235 ดูน่าทึ่งมาก 1114 00:57:26,319 --> 00:57:27,612 น่าทึ่งจริงๆ 1115 00:57:27,695 --> 00:57:30,114 เวลาคนขาวว่ายน้ํา พวกคุณทําแบบนั้นกับผม 1116 00:57:30,198 --> 00:57:31,532 คุณขึ้นมาจากน้ํา แบบว่า... 1117 00:57:33,451 --> 00:57:35,369 แหงนไปด้านหลังได้สวยเหมือนเป็ด 1118 00:57:37,914 --> 00:57:39,290 ผมเองก็อยากว่ายน้ํานะ 1119 00:57:39,999 --> 00:57:41,584 คนขาวรักการว่ายน้ํา 1120 00:57:41,667 --> 00:57:44,045 คนขาวรักการว่ายน้ํามาก 1121 00:57:44,128 --> 00:57:46,380 จนถึงขนาดที่คุณสามารถชนะได้เหรียญ 1122 00:57:46,464 --> 00:57:48,341 ในการแข่งว่ายน้ําโอลิมปิก 1123 00:57:48,424 --> 00:57:49,759 มากกว่ากีฬาอื่น 1124 00:57:51,260 --> 00:57:53,804 ใช่ คนขาวรักการว่ายน้ําขนาดนั้นน่ะ 1125 00:57:54,347 --> 00:57:55,515 มีวันนึงผมได้รู้เรื่องนี้ 1126 00:57:55,598 --> 00:57:59,227 มีการถกเถียงเรื่องใครเป็นแชมป์โอลิมปิก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล 1127 00:57:59,310 --> 00:58:02,146 และสองคนสุดท้ายที่เหลือคือไมเคิล เฟลป์ส 1128 00:58:02,813 --> 00:58:03,981 กับยูเซน โบลต์ 1129 00:58:04,565 --> 00:58:06,192 แล้วมีคนนึงเถียงว่า 1130 00:58:06,275 --> 00:58:09,237 "ไมเคิล เฟลป์สเก่งกว่า เพราะเขาได้เหรียญเยอะกว่า" 1131 00:58:09,320 --> 00:58:11,531 แล้วผมก็คิดว่า "ใช่ เพราะเขาโกงไง 1132 00:58:12,198 --> 00:58:13,908 เขาชนะกีฬาว่ายน้ํา" 1133 00:58:14,951 --> 00:58:16,744 ผมไม่ได้จะบอกว่าไมเคิล เฟลป์สไม่เยี่ยมนะ 1134 00:58:16,827 --> 00:58:19,247 ผมแค่จะบอกว่าจะใช้เหรียญมาอ้างไม่ได้ 1135 00:58:19,330 --> 00:58:21,457 เพราะว่ายน้ําเป็นแค่กีฬาเดียว 1136 00:58:21,541 --> 00:58:23,751 ที่คุณชนะได้เหรียญมากกว่า โดยแค่ทําแบบเดิมๆ 1137 00:58:23,834 --> 00:58:26,170 ด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า 1138 00:58:27,421 --> 00:58:28,506 มันไม่สมเหตุสมผล 1139 00:58:29,840 --> 00:58:32,760 ลองคิดดูสิ อย่าง "ฟรีสไตล์ 100 เมตร" 1140 00:58:37,390 --> 00:58:38,432 จบ ได้เหรียญทอง 1141 00:58:38,516 --> 00:58:40,017 ใช่ แล้วก็นี่อีก 1142 00:58:46,107 --> 00:58:47,233 ได้อีกเหรียญ เย่ 1143 00:58:47,316 --> 00:58:48,234 แล้วอันนี้ล่ะ 1144 00:58:54,365 --> 00:58:56,534 ได้อีกเหรียญ แล้วท่านี้ล่ะ 1145 00:59:01,455 --> 00:59:02,290 อีกเหรียญ 1146 00:59:02,373 --> 00:59:04,959 นั่นบ้าไปแล้ว ผมไม่สนว่าใครจะพูดอะไร 1147 00:59:05,918 --> 00:59:07,962 คุณชนะเพราะได้เหรียญเยอะกว่าไม่ได้ 1148 00:59:10,881 --> 00:59:13,050 ยูเซน โบลต์ไม่ได้มีสิทธิพิเศษแบบนั้น 1149 00:59:13,884 --> 00:59:16,721 เวลายูเซน โบลต์วิ่ง ร้อยเมตรแล้วก็จบ 1150 00:59:16,804 --> 00:59:18,306 "เตรียมตัว ระวัง..." 1151 00:59:18,389 --> 00:59:19,849 วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง 1152 00:59:19,932 --> 00:59:22,059 ไปถึงเส้นชัย ชนะ เหรียญทอง 1153 00:59:22,143 --> 00:59:23,102 แค่นั้น 1154 00:59:23,185 --> 00:59:24,478 เขาไม่สามารถหันมาแล้วพูดว่า 1155 00:59:24,562 --> 00:59:27,231 "สุดยอดเลย ทีนี้ผมจะวิ่งท่าผีเสื้อ" 1156 00:59:35,489 --> 00:59:36,616 มันไม่ได้ 1157 00:59:38,451 --> 00:59:40,661 มันควรจะได้ แต่มันไม่ได้ 1158 00:59:44,957 --> 00:59:48,085 คนขาวรักการว่ายน้ํา พวกเขาเลยคิดกฎ ผมเข้าใจนะ 1159 00:59:49,211 --> 00:59:51,047 มันต้องใช่แน่ 1160 00:59:51,130 --> 00:59:54,050 ท็อปห้าของผม ผมจะให้พิพิธภัณฑ์อยู่อันดับห้า 1161 00:59:54,133 --> 00:59:55,843 ว่ายน้ําอันดับสี่ 1162 00:59:55,926 --> 00:59:57,136 อันดับสาม 1163 00:59:57,219 --> 00:59:58,429 ออกอาการอึ้ง 1164 01:00:00,431 --> 01:00:03,059 คนขาวชอบอึ้ง ไม่เอาน่า 1165 01:00:03,142 --> 01:00:05,227 คุณรู้ว่าผมพูดถึงอะไร 1166 01:00:05,811 --> 01:00:08,689 เคยเห็นเวลาคนขาวมีวันแย่ๆ 1167 01:00:08,773 --> 01:00:09,982 มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น 1168 01:00:10,066 --> 01:00:13,027 พวกเขาชอบทําหน้าแบบนั้น ทําหน้าอึ้งแบบ... 1169 01:00:23,621 --> 01:00:25,539 คนขาวชอบอึ้ง 1170 01:00:26,457 --> 01:00:28,584 คุณจะเห็นในซูเปอร์มาร์เก็ตตลอด 1171 01:00:28,668 --> 01:00:30,795 มีคนต่อแถวยาว นึกภาพนะ 1172 01:00:31,337 --> 01:00:33,464 แต่มีแคชเชียร์เดียวที่เปิด 1173 01:00:34,340 --> 01:00:35,549 ทุกคนยืนรออย่างใจเย็น 1174 01:00:35,633 --> 01:00:38,386 จะมีคนขาวคนนึงโผล่มาแล้วก็... 1175 01:00:42,807 --> 01:00:45,142 "ทําไมไม่เปิดอีก..." 1176 01:00:45,226 --> 01:00:46,477 "ถามจริง 1177 01:00:46,560 --> 01:00:48,646 พวกเขาทํา... นี่คุณ..." 1178 01:00:49,939 --> 01:00:51,816 เรื่องเดียวที่คนขาวรักมากกว่า 1179 01:00:51,899 --> 01:00:54,193 คือหาคนขาวอีกคนมาอึ้งด้วย 1180 01:00:54,276 --> 01:00:55,236 เคยเห็นมั้ย 1181 01:00:57,321 --> 01:00:59,448 โย่ ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น อัศจรรย์มาก 1182 01:00:59,532 --> 01:01:01,200 อัศจรรย์สุดๆ 1183 01:01:01,283 --> 01:01:03,577 มีคนขาวคนนึงอึ้งอยู่ 1184 01:01:03,661 --> 01:01:05,746 เขาจะสบตากับคนขาวอีกคน 1185 01:01:05,830 --> 01:01:07,790 แล้วพวกเขาจะอึ้งไปด้วยกัน 1186 01:01:07,873 --> 01:01:11,252 มันเหมือนพวกเขารวมความอึ้ง จนเป็นพลังอึ้งพิฆาต 1187 01:01:11,335 --> 01:01:13,796 พวกเขาจะมองกัน "เห็นนี่มั้ย" 1188 01:01:13,879 --> 01:01:14,714 "ฉันรู้" 1189 01:01:22,680 --> 01:01:24,598 นั่นหัวใจสําคัญหนึ่งของการอึ้งนะ 1190 01:01:24,682 --> 01:01:26,726 คุณต้องหายใจออก ปล่อยมันออกมาให้หมด 1191 01:01:26,809 --> 01:01:28,978 ชีวิตยากมาก จนอากาศต้องออกจากร่างคุณไป 1192 01:01:29,061 --> 01:01:30,771 คุณหายใจไม่ได้ด้วยซ้ํา 1193 01:01:34,358 --> 01:01:36,485 เพราะแบบนี้มิดเวสต์ถึงได้มีทอร์นาโดเยอะ 1194 01:01:36,569 --> 01:01:38,487 เพราะคนขาวอึ้งกันประจํา... 1195 01:01:47,204 --> 01:01:49,582 คนขาวรักที่จะอึ้ง 1196 01:01:50,708 --> 01:01:52,710 ต้องอยู่ในท็อปห้าแน่นอน 1197 01:01:52,793 --> 01:01:55,254 ลิสต์ของผมเป็นแบบนั้น ท็อปห้าของสิ่งที่คนขาวรัก 1198 01:01:55,337 --> 01:01:56,839 อันดับห้าคือพิพิธภัณฑ์ 1199 01:01:56,922 --> 01:01:59,216 ส่วนว่ายน้ําอยู่อันดับสี่ 1200 01:01:59,300 --> 01:02:01,385 ชอบอึ้งอยู่อันดับสาม 1201 01:02:01,469 --> 01:02:02,970 อันดับสองคือการเป็นคนขาว 1202 01:02:04,597 --> 01:02:06,557 เป็นเรื่องดีงาม ผมไม่โทษคุณนะ 1203 01:02:07,808 --> 01:02:09,310 แล้วก็อันดับหนึ่ง 1204 01:02:09,393 --> 01:02:11,479 ฟังนะ นี่เป็นลิสต์ส่วนตัวของผม 1205 01:02:11,562 --> 01:02:12,855 ผมไม่ได้จะบงการอะไร 1206 01:02:12,938 --> 01:02:15,316 ถ้าคุณไม่เห็นด้วยก็ตั้งลิสต์เองนะ 1207 01:02:15,399 --> 01:02:17,109 มันเป็นความชอบส่วนตัว 1208 01:02:17,193 --> 01:02:18,652 แต่มีเรื่องหนึ่ง 1209 01:02:19,320 --> 01:02:20,488 และเรื่องนี้เรื่องเดียว 1210 01:02:21,363 --> 01:02:25,993 ที่คนขาวรักมากกว่าอะไรบนโลกนี้ 1211 01:02:28,204 --> 01:02:29,622 เพลง "สวีต แครอไลน์" 1212 01:02:37,713 --> 01:02:39,465 ขอบอกเลยนะ ดีทรอยต์ 1213 01:02:39,548 --> 01:02:43,010 ไม่มีอะไรทําให้จิตวิญญาณคนขาว 1214 01:02:44,178 --> 01:02:45,888 สุขใจได้มากไปกว่า 1215 01:02:46,889 --> 01:02:49,016 เสียงเพลงนั้นของนีล ไดมอนด์แล้ว 1216 01:02:51,727 --> 01:02:53,562 ผมไม่สนว่าจะเป็นที่ไหน 1217 01:02:53,646 --> 01:02:55,815 ผมเคยไปทุกทวีป 1218 01:02:55,898 --> 01:02:57,066 ไปมาหลายประเทศ 1219 01:02:57,149 --> 01:02:59,193 เมื่อไหร่ที่เพลงนั้นเปิด 1220 01:02:59,276 --> 01:03:02,238 คุณจะเห็นตาคนขาวเบิกโพลง 1221 01:03:04,990 --> 01:03:07,493 เหมือนสายลับแฝงตัวที่เพิ่งถูกเปิดใช้งาน 1222 01:03:11,372 --> 01:03:13,249 มันเกิดขึ้นทุกครั้ง ไม่เคยพลาดเลย 1223 01:03:13,332 --> 01:03:15,376 ทุกครั้งเลย 1224 01:03:16,252 --> 01:03:18,921 มันไม่เกี่ยวกับเพลงหรอก เพราะจะมีเพลงอื่นเปิดอยู่ 1225 01:03:19,004 --> 01:03:21,799 อาจเป็นปาร์ตี้หลังบ้าน การแข่งเบสบอล 1226 01:03:21,882 --> 01:03:23,509 หรืองานบริษัท 1227 01:03:23,592 --> 01:03:26,595 เพลงอื่นเปิดอยู่ พวกเขาไม่สนใจ 1228 01:03:26,679 --> 01:03:28,931 แต่พอเพลงนั้นดังขึ้น 1229 01:03:29,014 --> 01:03:31,475 มันกระตุ้นทุกดีเอ็นเอของคนขาว 1230 01:03:31,559 --> 01:03:33,018 ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร 1231 01:03:34,061 --> 01:03:35,980 แต่มันหยุดทุกอย่าง 1232 01:03:36,063 --> 01:03:38,107 แบบว่าคนขาวกําลังคุยกันสนุกสนาน 1233 01:03:38,190 --> 01:03:39,441 พวกเขาจะ "ใช่ คือว่า 1234 01:03:39,525 --> 01:03:41,360 ธุรกิจ การรวมบริษัท และการครอบครอง 1235 01:03:41,443 --> 01:03:42,778 สักอันนั่นแหละ" 1236 01:03:42,862 --> 01:03:44,488 "ฉันรู้ เราควรคุยกันอีกนะ 1237 01:03:44,572 --> 01:03:45,739 ไว้คุยเรื่องนี้กันทีหลัง" 1238 01:03:48,868 --> 01:03:50,703 แล้วเพลงนั้นก็ดังขึ้น 1239 01:03:50,786 --> 01:03:52,329 และทุกครั้งเลย... 1240 01:03:52,413 --> 01:03:54,915 คุณคิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้น แต่มันคืบคลานเข้ามาเสมอ 1241 01:03:54,999 --> 01:03:57,418 ดูเหมือนมันจะไม่เกิดขึ้นตลอด 1242 01:03:57,501 --> 01:03:59,378 แต่มันเหมือนเดิมเสมอ แบบว่า... 1243 01:03:59,461 --> 01:04:04,884 มือสัมผัสกัน 1244 01:04:05,634 --> 01:04:10,180 ยื่นมา สัมผัสฉัน 1245 01:04:10,264 --> 01:04:12,933 สัมผัสเธอ 1246 01:04:14,018 --> 01:04:16,645 แครอไลน์ที่รัก 1247 01:04:18,606 --> 01:04:20,482 เห็นมั้ย ผมไม่ได้บอกให้ร้องตามด้วยซ้ํา 1248 01:04:25,779 --> 01:04:27,656 ผมไม่ได้พูดว่า "ร้องด้วยกันนะ" 1249 01:04:28,532 --> 01:04:30,034 หรือ "นับสามนะ" 1250 01:04:30,117 --> 01:04:32,119 ความคนขาวของคุณมันออกมาเอง 1251 01:04:32,202 --> 01:04:33,287 รู้สึกถึงมันมั้ย 1252 01:04:35,164 --> 01:04:37,750 เกิดจากตัวคุณเลย คุณรู้สึกว่า "นี่แหละ 1253 01:04:37,833 --> 01:04:39,668 นี่แหละโอกาสของเรา" 1254 01:04:41,086 --> 01:04:44,089 ฉันเป็นคนขาว ขาว ขาว ขาว 1255 01:04:44,173 --> 01:04:45,507 ขาว ขาว 1256 01:04:48,552 --> 01:04:51,680 ดูคุณตอนนี้สิ คุณยิ้มกว้างเลย ดูหน้าคุณสิ 1257 01:04:51,764 --> 01:04:53,641 ดูคุณสิ มีความสุขมาก 1258 01:04:53,724 --> 01:04:56,060 สิบนาทีก่อน คุณแบบ "ฉันว่าหมอนี่ก็เฉยๆ นะ" 1259 01:04:56,143 --> 01:04:58,312 ตอนนี้คุณแบบ "ตลกที่เยี่ยมที่สุดเลย" 1260 01:05:00,481 --> 01:05:01,982 อย่าเสียความสุขนั่นเด็ดขาด 1261 01:05:02,733 --> 01:05:04,026 คนขาวทุกคนเลย 1262 01:05:04,109 --> 01:05:06,362 เก็บมันไว้ มันคือสมบัติล้ําค่า 1263 01:05:06,445 --> 01:05:08,864 มันคือสิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดในโลก 1264 01:05:09,907 --> 01:05:12,910 เพลงนั้นทําให้คนขาวมีความสุขที่สุด อย่างอื่นทําไม่ได้ 1265 01:05:12,993 --> 01:05:15,746 เพลงนั้นคือความสุขคนคอเคเชียน แบบไม่มีอะไรเจือปน 1266 01:05:15,829 --> 01:05:17,456 เพลงนั้นเป็นแบบนั้นเลย 1267 01:05:19,208 --> 01:05:20,918 คนขาวอดใจไม่อยู่ 1268 01:05:22,002 --> 01:05:23,754 ใช่ ช่างหัวการตรวจดีเอ็นเอ 1269 01:05:23,837 --> 01:05:26,423 ถ้าคุณอยากรู้ว่า คุณมีความคนขาวมากแค่ไหน 1270 01:05:26,507 --> 01:05:27,675 เปิดเพลงนั้น 1271 01:05:27,758 --> 01:05:29,927 ยิ่งคุณตอบสนองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงถึงความคนขาว 1272 01:05:30,469 --> 01:05:31,887 ผมเพิ่งช่วยคุณประหยัดเงินนะ 1273 01:05:33,389 --> 01:05:35,516 ผมไม่เคยเจอคนขาวคนไหน... 1274 01:05:35,599 --> 01:05:38,310 มันเหมือนเกมปิดตาเรียกชื่อ เพลงนั้นเป็นแบบนั้นเลย 1275 01:05:39,186 --> 01:05:40,104 ผมจะบอกอะไรให้นะ 1276 01:05:40,187 --> 01:05:43,190 ถ้าเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แค่สมมุตินะ 1277 01:05:43,273 --> 01:05:45,442 แล้วคนก็ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง 1278 01:05:47,194 --> 01:05:49,363 ผมขออาสาตามหาคนขาวทุกคน 1279 01:05:50,948 --> 01:05:52,783 ผมจะพูดว่า "พวกคุณไปหาคนอื่นนะ 1280 01:05:52,866 --> 01:05:54,326 ผมทําอันนี้เอง ผมทําเอง" 1281 01:05:56,161 --> 01:05:59,039 "แครอไลน์ที่รัก" 1282 01:05:59,123 --> 01:06:00,541 "ผมเจออีกคนแล้ว" 1283 01:06:02,376 --> 01:06:03,377 "โอเคมั้ย เพื่อน" 1284 01:06:08,090 --> 01:06:09,842 ผมรู้ตอนนี้พวกคุณบางคนคง 1285 01:06:09,925 --> 01:06:13,262 "เทรเวอร์ เราชอบเพลงนั้น แต่มันไม่ได้สําคัญที่สุดกับเรา" 1286 01:06:13,345 --> 01:06:16,056 อ๋อเหรอ งั้นทําไมคุณ ไม่เห็นช่วยผมร้องเพลงชาติเลย 1287 01:06:17,891 --> 01:06:19,476 ดีทรอยต์ พวกคุณเยี่ยมมาก 1288 01:06:19,560 --> 01:06:20,728 ขอบคุณมากครับ 1289 01:06:23,647 --> 01:06:25,899 ผมสนุกกับพวกคุณทุกคนเลย 1290 01:06:26,483 --> 01:06:27,776 ผมรู้สึกขอบคุณคุณมาก 1291 01:06:28,610 --> 01:06:29,903 ราตรีสวัสดิ์ 1292 01:07:09,526 --> 01:07:10,944 เป็นไงบ้าง 1293 01:07:11,028 --> 01:07:12,488 ได้ผลทุกครั้งเลย นีล ไดมอนด์ 1294 01:07:12,571 --> 01:07:13,864 เยี่ยมเลย 1295 01:07:13,947 --> 01:07:15,115 มันได้ผลทุกครั้ง 1296 01:08:04,081 --> 01:08:05,290 ขอบคุณมากครับ 1297 01:08:05,374 --> 01:08:07,334 วิเศษเลย ขอบคุณมาก 1298 01:08:13,423 --> 01:08:15,425 คําบรรยายโดย วิภาพร หมู่ศิริเลิศ