1 00:00:12,283 --> 00:00:19,203 (ริคกี้ เจอร์เวส: วันโลกาวินาศ) 2 00:00:29,123 --> 00:00:30,243 สวัสดีครับ 3 00:00:31,163 --> 00:00:32,083 ขอบคุณ 4 00:00:33,523 --> 00:00:35,163 ขอบคุณมาก 5 00:00:35,243 --> 00:00:38,123 สุดยอด ขอบคุณ ไม่สิ ชู่ว… นั่นมันก็… พวกคุณ… 6 00:00:38,603 --> 00:00:39,563 ขอบคุณ 7 00:00:39,643 --> 00:00:41,443 ไม่เอา รู้กาลเทศะหน่อย 8 00:00:42,203 --> 00:00:43,403 หุบปากได้แล้ว 9 00:00:44,763 --> 00:00:45,803 ขอบคุณ 10 00:00:45,883 --> 00:00:47,283 ขอต้อนรับสู่โชว์ใหม่ของผมครับ 11 00:00:47,363 --> 00:00:49,843 ใหม่ขนาดที่ว่ายังพัฒนาอยู่เลย 12 00:00:49,923 --> 00:00:52,963 คืนนี้มีหลายมุกที่ผมไม่เคยเล่นมาก่อน 13 00:00:53,563 --> 00:00:56,483 ถ้าผมด้นสด แปลว่าไม่ได้คิดมาก่อนด้วยซ้ำ 14 00:00:57,123 --> 00:00:59,283 แถมผมคิดมีความคิดแย่ๆ เยอะเลย 15 00:01:00,643 --> 00:01:03,163 แต่ช่วยไม่ได้นะ คนเราเลือกความคิดตัวเองไม่ได้ 16 00:01:03,243 --> 00:01:04,923 มันผุดขึ้นมาของมันเอง ยั้งไว้ไม่ทัน 17 00:01:05,003 --> 00:01:07,723 เราเกิดความคิด แล้วมันก็ "ฉันคือความคิด" 18 00:01:07,803 --> 00:01:10,123 แล้วเราก็ "ฉิบหาย ฉันคิดแบบนั้น" 19 00:01:11,883 --> 00:01:15,083 แล้วบางครั้งความคิดมันก็ "พูดเลย" 20 00:01:17,043 --> 00:01:18,803 แล้วผมก็พูด และ… 21 00:01:18,883 --> 00:01:19,963 Netflix 22 00:01:22,723 --> 00:01:26,243 โชว์ก่อนของผม "ซูเปอร์เนเจอร์" ฉายใน Netflix เมื่อปีที่แล้ว 23 00:01:26,323 --> 00:01:27,923 กระแสตีกลับแรงมากเลยเนอะ 24 00:01:28,003 --> 00:01:31,923 แรง… กระแสตีกลับแรงมาก ผู้คนพากัน "พูดแบบนั้นไม่ได้นะ" 25 00:01:32,003 --> 00:01:33,923 ได้สิ พูดได้ 26 00:01:35,283 --> 00:01:36,123 ผมพูดไปแล้ว 27 00:01:40,883 --> 00:01:43,523 ครับ กระแสตีกลับที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 28 00:01:43,603 --> 00:01:46,843 ทำให้โชว์นั้นเป็นโชว์พิเศษ ที่คนดูเยอะที่สุดแห่งปี ก็… 29 00:01:47,363 --> 00:01:48,723 ผมได้บทเรียนแล้วล่ะ 30 00:01:49,683 --> 00:01:51,043 ไม่ใช่ ผมได้บทเรียนจริงๆ 31 00:01:51,123 --> 00:01:54,523 เพราะงั้น ตั้งแต่นี้ไป ผมจะตื่นรู้ 32 00:01:55,123 --> 00:01:57,243 ได้เวลาสักที ต้องขอโทษด้วย 33 00:01:57,323 --> 00:01:58,163 ผมตื่นแล้ว 34 00:01:58,243 --> 00:02:01,963 แล้วพอตื่นแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำ คือเปลี่ยนไบโอในทวิตเตอร์ 35 00:02:02,043 --> 00:02:04,923 เพราะตอนนี้ไบโอผมคือ ชื่อโชว์ต่างๆ ที่ผมเคยทำมา 36 00:02:05,003 --> 00:02:08,683 แต่ตอนนี้ผมตื่นแล้ว ผมต้องเติมคำว่า "ต่อต้านฟาสซิสต์" เข้าไป 37 00:02:09,963 --> 00:02:11,963 คนจะได้รู้ว่าผมไม่ใช่ฟาสซิสต์ 38 00:02:12,043 --> 00:02:14,883 เพราะนั่นคือปัญหาใหญ่ของตอนนี้ 39 00:02:15,683 --> 00:02:19,483 คนเดินมาถามว่า "ริค เคยจับนักข่าวไปขังคุกรึเปล่า" 40 00:02:19,563 --> 00:02:21,763 ผมตอบ "ไม่เคย" คนก็ "น่าสนใจแฮะ" 41 00:02:23,483 --> 00:02:26,403 คนถาม "เคยรมแก๊สคนยิวรึเปล่า" ผมตอบ "ไม่เคย" 42 00:02:26,483 --> 00:02:28,883 แล้วคนก็ "งั้นก็เขียนไว้ในไบโอสิ ไอ้โง่เอ๊ย" 43 00:02:37,043 --> 00:02:38,723 ครับ ผมไม่ใช่ฟาสซิสต์ 44 00:02:38,803 --> 00:02:42,643 แปลกนะที่จะมาประกาศ ว่าคุณไม่ใช่ฟาสซิสต์ เราสันนิษฐาน 45 00:02:42,723 --> 00:02:45,283 คุณคงไม่เดินดุ่ย ไปหาใครสักคนตามท้องถนนแล้วประกาศ 46 00:02:45,363 --> 00:02:49,523 "ขอบอกหน่อย ผมไม่ใช่ฟาสซิสต์นะ" เหมือนเขาประท้วงกันมากไปหน่อย 47 00:02:49,603 --> 00:02:52,603 เหมือนคุณเดินเข้าไปในโรงเรียนงี้ แล้วพูดว่า "ผมไม่ใช่พวกใคร่เด็ก" 48 00:02:52,683 --> 00:02:58,923 "ลืมไปเลยก็ได้ว่าผมพูดคำนั้น เด็กๆ วิ่งเล่นใกล้ผมแล้วปลอดภัย" 49 00:02:59,803 --> 00:03:04,323 "วิ่งแก้ผ้าเลยก็ได้ ผมไม่สน ผมไม่ใคร่เด็ก ดังนั้น…" 50 00:03:08,603 --> 00:03:12,963 คำว่า "ฟาสซิสต์" มันเปลี่ยนไป ตามเดิมแล้ว คำว่าฟาสซิสต์หมายถึง 51 00:03:13,043 --> 00:03:16,123 สมาชิกระบอบอำนาจนิยมที่ขวาจัดๆ 52 00:03:16,203 --> 00:03:20,643 ที่ใช้กำลังทหารและความรุนแรง กดสิทธิส่วนบุคคลเอาไว้ 53 00:03:20,723 --> 00:03:24,843 ทุกวันนี้ คำว่า "ฟาสซิสต์" อาจหมายถึง "กดไลก์ทวีตของโจ โรแกน" 54 00:03:24,923 --> 00:03:28,923 ก็คือ… คำพูดมีการเปลี่ยนแปลง 55 00:03:29,003 --> 00:03:32,203 และนั่นคือเหตุผลส่วนหนึ่ง ที่ผมจะตื่นรู้ 56 00:03:32,283 --> 00:03:35,363 คำพูดมีการเปลี่ยนแปลง และผมไม่อยากถูกทิ้งให้ตามคนอื่นไม่ทัน 57 00:03:35,443 --> 00:03:38,803 ไม่อยากลงเอยแบบปู่ผมในยุค 70 58 00:03:38,883 --> 00:03:41,883 ปู่ผมเคยใช้คำว่า "ชาวสีม่วง" เอย "แต๋ว" เอย 59 00:03:42,443 --> 00:03:46,323 ถึงแม้ทุกวันนี้คำว่า "แต๋ว" จะกลับมาพูดได้แล้วก็เถอะ 60 00:03:46,843 --> 00:03:49,803 ถ้ารอนานพอ เดี๋ยวมันก็วนลูปของมันเอง 61 00:03:51,003 --> 00:03:53,403 อดทนรอครับ ผม… 62 00:03:55,043 --> 00:03:57,003 เราใช้คำว่า "แต๋ว" ได้ 63 00:03:57,083 --> 00:04:00,163 ยังใช้เป็นคำนามไม่ได้ ได้แค่เป็นคำวิเศษณ์ 64 00:04:00,243 --> 00:04:02,483 ไม่สามารถพูดกับคนอื่นว่า "คุณคือแต๋ว" ได้ 65 00:04:02,563 --> 00:04:05,683 แต่ถ้าแบบนี้ได้ "ได้ข่าวเรื่องดาร์เรนไหม ตอนนี้เขาออกแต๋วแล้วนะ" 66 00:04:08,923 --> 00:04:11,003 ถ้าดาร์เรนมันผิดเพศจริงๆ น่ะนะ 67 00:04:12,803 --> 00:04:15,483 จู่ๆ จะไปวิจารณ์ดาร์เรนส่งเดชไม่ได้ 68 00:04:15,563 --> 00:04:16,843 คุณเข้าใจผมไหม 69 00:04:16,923 --> 00:04:21,163 ในประเทศนี้ ถ้าใครไม่ได้เป็นเกย์ แล้วคุณไปบอกว่าเขาเป็น อาจโดนฟ้องได้นะ 70 00:04:21,243 --> 00:04:22,483 กฎหมายเหยียดเพศที่สาม 71 00:04:22,563 --> 00:04:24,923 แต่ถ้าสถานการณ์กลับกัน คุณจะไม่ถูกฟ้อง 72 00:04:25,003 --> 00:04:28,683 ถ้าใครเป็นเกย์ แล้วคุณไปบอกว่าเขาไม่เป็น เขาฟ้องคุณไม่ได้นะ 73 00:04:28,763 --> 00:04:31,643 ฟังดูไม่แฟร์เนอะว่าไหม 74 00:04:31,723 --> 00:04:34,483 ผมสามารถไปพูดกับเกย์ตัวพ่อของอังกฤษได้ว่า 75 00:04:34,563 --> 00:04:36,763 "เฮ้ยนี่ เอลตัน" ว่างี้ 76 00:04:38,523 --> 00:04:41,203 เจ้าตัวน่าจะชอบ โคตรจะชอบเลยแหละ 77 00:04:41,883 --> 00:04:45,563 ถ้าจะมาทางนี้แล้วก็ต้องเอาให้ถึงระดับตัวพ่อ 78 00:04:45,643 --> 00:04:46,483 เนอะ 79 00:04:50,723 --> 00:04:53,203 ผม "เฮ้ยนี่ เอลตัน" เขา "ว่าไง" แล้วผมก็ 80 00:04:53,283 --> 00:04:55,243 "ฮ่า ฮา ฮ๊า ฮา ฮ่า" 81 00:04:55,763 --> 00:04:58,123 "ฮา ฮ่า นายไม่ใช่เกย์" 82 00:04:58,803 --> 00:05:02,203 เขา "ใช่สิวะ" แล้วเขาจะ "ฉันฟ้องนายแน่" 83 00:05:02,283 --> 00:05:04,163 ผมก็จะ "ไม่ได้ ฟ้องไม่ได้" 84 00:05:04,683 --> 00:05:07,603 แล้วเขาก็จะ "แต่รู้ไว้ด้วยว่าฉันเป็นเกย์" ผมก็ "ฉันไม่เชื่อซะอย่าง" 85 00:05:07,683 --> 00:05:11,003 เดี๋ยวเขาก็ "ไปที่บ้านสิ เดี๋ยวจัดให้ดู ถ้าไม่เชื่อน่ะ" 86 00:05:15,443 --> 00:05:18,003 แน่นอนครับ คำว่า "แต๋ว" เปลี่ยนไปแล้ว 87 00:05:18,083 --> 00:05:21,603 แต่เดิมคำว่า "แต๋ว" หมายถึง 88 00:05:21,683 --> 00:05:25,643 คนที่รู้สึกชอบพอคนเพศเดียวกัน 89 00:05:25,723 --> 00:05:26,723 ชายที่เป็นเกย์ 90 00:05:26,803 --> 00:05:31,483 ทุกวันนี้ คำว่า "แต๋ว" อาจหมายถึง ชายแท้ที่อยากให้คนสนใจบ้าง 91 00:05:35,323 --> 00:05:37,963 "ตอนนี้เค้าแต๋วแล้วนะ" "จริงเหรอ" 92 00:05:38,043 --> 00:05:42,803 "ใช่ ตอนนี้เค้าแต๋วนะ จริงๆ" 93 00:05:42,883 --> 00:05:45,963 "จริงเหรอ" "จริง" "แล้วแฟนสาวนั่นล่ะ" 94 00:05:46,043 --> 00:05:48,443 "แฟนก็แต๋วเหมือนกัน พวกเราแบบ…" 95 00:05:48,923 --> 00:05:51,203 "แต๋วกับแต๋ว แต๋วกันไปกันมา" 96 00:05:53,363 --> 00:05:55,403 "งั้นอมกระปู๋สิ" "ไม่เอาอะ" 97 00:05:56,883 --> 00:05:58,443 "ก็ว่าแล้ว" 98 00:05:59,323 --> 00:06:03,203 "เค้าไม่ได้แต๋วแบบนั้น" "แล้วแต๋วแบบไหน" 99 00:06:03,283 --> 00:06:04,603 "แบบที่ย้อมผมสีฟ้า" 100 00:06:05,963 --> 00:06:08,923 "ยายฉันก็ย้อมผมฟ้า แต่ยายชอบกระปู๋" 101 00:06:09,923 --> 00:06:11,243 "ไหนว่าไงต่อ" 102 00:06:14,763 --> 00:06:16,483 ผมไม่มีหลักฐานในเรื่องนั้นหรอก 103 00:06:17,763 --> 00:06:19,923 เราไม่เคยคุยเรื่องนั้นกัน 104 00:06:22,963 --> 00:06:25,483 ประเด็นของผมคือ คำต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลง 105 00:06:25,563 --> 00:06:27,403 เหมือนคำว่า "พิการ" 106 00:06:27,483 --> 00:06:30,443 แต่เดิมแล้ว นั่นเป็นคำที่ถือว่าถูกต้อง ในทางการเมือง 107 00:06:30,523 --> 00:06:33,763 เป็นคำรวมๆ ที่หมายความถึงคนแขนด้วนขาเป๋ 108 00:06:35,363 --> 00:06:38,083 แต่ทีนี้คนพวกนั้นเขาก็ "เราไม่อยากพิการ" 109 00:06:38,163 --> 00:06:41,883 พวกนั้นเขาไม่อยากพิการ เขาว่า… 110 00:06:43,523 --> 00:06:46,243 เขาว่า "เราอยากให้ใช้คำว่าทุพพลภาพ" 111 00:06:46,323 --> 00:06:48,443 "เราไม่ชอบคำว่า 'พิการ' แล้ว" 112 00:06:48,523 --> 00:06:51,523 "เลิกใช้คำนั้นเลยนะ ใช้คำว่า 'ทุพพลภาพ'" พวกเราก็ "ได้สิ" ซึ่งก็ดี 113 00:06:51,603 --> 00:06:54,403 บอกกฎมาเลย ผมเป็นพวกทำตามกฎอยู่แล้ว 114 00:06:54,483 --> 00:06:57,523 ถ้าผมอยู่ที่ชายหาด แล้วมีผู้หญิงคนนึงวิ่งมาหา บอกว่า 115 00:06:57,603 --> 00:07:02,523 "ช่วยด้วย ลูกเล็กของฉันที่เป็นพิการ เขาจมน้ำ" ผมก็จะ "โทษที ลูกของคุณทำไมนะ" 116 00:07:03,443 --> 00:07:05,963 "ลูกเล็กของฉัน ที่เป็นพิการ เขาจมน้ำ เขาว่ายน้ำไม่เป็น" 117 00:07:06,043 --> 00:07:09,603 "เดี๋ยว คุณจะบอกว่าลูกเล็กของคุณ ที่ทุพพลภาพ เขาจมน้ำ ใช่ไหม" 118 00:07:09,683 --> 00:07:12,443 "ใช่" แล้วผมก็จะ "ได้สิ งั้นเราไป…" ตายซะแล้ว 119 00:07:12,963 --> 00:07:13,843 ตายซะแล้ว 120 00:07:14,363 --> 00:07:17,243 มัวแต่ตื่นรู้จนเสียเวลาไปหน่อย 121 00:07:20,483 --> 00:07:22,683 ตอนนี้ผมตื่นแล้ว และผมพิสูจน์ได้ด้วย 122 00:07:22,763 --> 00:07:25,523 ฟังให้ดี ผมรักผู้ที่อพยพผิดกฎหมาย 123 00:07:25,603 --> 00:07:30,483 เชิญฟ้องผมเลย บางครั้งผมก็หาวันไปที่โดเวอร์ 124 00:07:30,563 --> 00:07:33,243 แล้วก็มองไป มองไป 125 00:07:33,323 --> 00:07:36,123 มองหาเรือ แล้วก็เห็นเรือบดเล็ก บนนั้นมีสักหกสิบคนได้ 126 00:07:36,203 --> 00:07:38,163 ผมก็ "ทางนี้" แบบนี้เลย 127 00:07:38,683 --> 00:07:42,203 ผมลากพวกเขาขึ้นฝั่ง แล้วพูดว่า "เชิญผู้หญิงกับเด็กก่อน" 128 00:07:42,283 --> 00:07:46,683 "ไม่มีผู้หญิงกับเด็ก" "มีแต่พวกเอ็งเรอะ มาเลยไอ้หนุ่ม" 129 00:07:50,363 --> 00:07:54,483 ถ้าผมไปที่นั่นแล้วไม่มีเรือ ผมจะผิดหวังมาก ผมจะไม่… 130 00:07:55,083 --> 00:07:58,603 ผมจะเดินเตร่เข้าไปในเมือง หยุดยืนตรงสัญญาณไฟจราจร 131 00:07:58,683 --> 00:08:01,083 แล้วรอให้มีรถบรรทุกขนาดใหญ่มาจอด 132 00:08:01,163 --> 00:08:05,123 ผมก้มดูใต้ท้องรถ มีไอ้หนุ่มคนนึงห้อยอยู่แบบนี้ 133 00:08:05,203 --> 00:08:08,123 ผมถาม "จะไปไหนน่ะ" เขาตอบ "ไปบ้านแกรี่ ลินิเกอร์" 134 00:08:08,203 --> 00:08:09,643 ผมบอก "อยู่ถัดไปนี่แหละ" 135 00:08:15,643 --> 00:08:16,483 ครับ 136 00:08:17,243 --> 00:08:20,443 พรมแดนบ้าบอ เราไม่จำเป็นต้องมีพรมแดน ว่าไหม 137 00:08:20,523 --> 00:08:23,163 เอาอย่างพวกไวกิ้งสิ พวกนั้นไม่สนใจเรื่องพรมแดนนะ 138 00:08:23,243 --> 00:08:25,283 ผมมีสายเลือดไวกิ้งอยู่ในตัว 139 00:08:25,363 --> 00:08:27,763 เราทุกคนมี ก็พี่แกเล่นข่มขืนไปทั่วขนาดนั้น 140 00:08:30,363 --> 00:08:34,283 ว่ากันว่ามีทั้งข่มขืนทั้งปล้นสะดม แต่ผมว่าน่าจะข่มขืนเป็นงานหลัก 141 00:08:34,803 --> 00:08:38,163 ผมว่าพวกพี่แกเพิ่มการปล้นสะดมเข้าไป จะได้เอาไว้บอกเมีย 142 00:08:38,243 --> 00:08:42,883 พวกนั้น "เราจะไปบริเตนใหญ่ล่ะนะ" "ไปทำไมอะ" "ไปปล้นสะดมนิดหน่อย" 143 00:08:46,563 --> 00:08:49,603 "ปล้นอย่างเดียวเหรอ" "ปล้นอย่างเดียวจ๊ะที่รัก" 144 00:08:52,323 --> 00:08:54,763 "ก็ได้ ทำไมใส่หมวกเหมือนไปข่มขืนล่ะ" 145 00:08:58,203 --> 00:08:59,963 โชว์ครั้งนี้มีชื่อว่า วันโลกาวินาศ 146 00:09:00,043 --> 00:09:02,443 และโชว์นี้เกี่ยวกับจุดจบของมนุษยชาติที่ผมคิดไว้ 147 00:09:02,523 --> 00:09:04,643 เพราะความเป็นไปได้ยาวเป็นหางว่าวเลย 148 00:09:04,723 --> 00:09:06,843 นี่เรายืนอยู่บนปากเหวกันแล้วนะ 149 00:09:06,923 --> 00:09:13,403 อาจเป็นเพราะอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะภาวะโลกร้อน การเพิ่มขึ้นของโรคระบาด 150 00:09:14,163 --> 00:09:17,163 สงครามนิวเคลียร์ หรือก็คือความโง่เขลาของเราเอง 151 00:09:17,243 --> 00:09:20,603 เพราะถ้าดูระดับสายพันธุ์ เรากำลังโง่ขึ้นนะ ไม่ต้องสืบ 152 00:09:20,683 --> 00:09:24,723 ทุกวันนี้มีหลักสูตรเทย์เลอร์ สวิฟต์ ให้เรียนในมหาลัยแล้วนะ 153 00:09:25,243 --> 00:09:28,803 เราจะตกต่ำไปได้อีกแค่ไหน ในแง่วิชาการ 154 00:09:28,883 --> 00:09:32,563 ที่ลอนดอน มีสถาบันชื่อ สถาบันสอนจัดดอกไม้ 155 00:09:32,643 --> 00:09:35,483 ผมเดินผ่าน แทบไม่เชื่อสายตา "สถาบันสอน…" 156 00:09:35,563 --> 00:09:37,963 ผมมองเข้าไป มีคนฟังบรรยายอยู่ 157 00:09:38,043 --> 00:09:41,363 จัดดอกไม้ เมื่อก่อนแม่ผม ไปเก็บดอกไม้ในสวนทุกวัน 158 00:09:41,443 --> 00:09:43,723 เอามาตัด เสียบลงแจกันตามมุมต่างๆ ในบ้าน 159 00:09:43,803 --> 00:09:48,483 ไม่เคยมีใครมาบอกว่า "จัดดอกไม้แบบนี้ไม่มีวุฒิเลย" 160 00:09:53,923 --> 00:09:57,603 ครับ โลกตอนนี้เละเทะมาก และเป็นความผิดของผมเอง ของคนรุ่นผม 161 00:09:57,683 --> 00:10:00,403 และคนรุ่นก่อนหน้า รุ่นบูมเมอร์ 162 00:10:00,483 --> 00:10:02,963 ทั้งตัดไม้ทำลายป่า ทั้งเชื้อเพลิงฟอสซิล 163 00:10:03,043 --> 00:10:06,723 ทำลายชั้นโอโซน ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นสองสามองศา 164 00:10:06,803 --> 00:10:11,563 ปรสิต แบคทีเรีย กับโรคระบาดในสัตว์ 165 00:10:11,643 --> 00:10:13,523 ก็เลยจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ 166 00:10:13,603 --> 00:10:15,523 ถ้าตอนนี้คุณอายุ 20 ปี 167 00:10:15,603 --> 00:10:17,803 ชีวิตวัยกลางคนของคุณจะต่างกับของผมมาก 168 00:10:17,883 --> 00:10:20,163 ผมได้อยู่ในช่วง 60 ปีที่ดีที่สุดของอารยธรรม 169 00:10:20,243 --> 00:10:23,123 แต่ถ้าตอนนี้คุณอายุ 20 ในอีก 40 ข้างหน้า 170 00:10:23,203 --> 00:10:26,243 คุณจะอยู่ในบ้าน สวมหน้ากาก… 171 00:10:27,003 --> 00:10:27,883 ร้องไห้ 172 00:10:30,803 --> 00:10:32,563 เหมือนทุกวันนี้เวลาฟังมุกตลก 173 00:10:41,083 --> 00:10:42,963 และผมคงไม่ได้อยู่จนเห็นวันนั้น 174 00:10:43,043 --> 00:10:46,203 แต่ผมจะใช้เงินทองทั้งหมดที่มี ไปกับการนั่งเครื่องบินส่วนตัว 175 00:10:46,283 --> 00:10:48,763 ให้แน่ใจว่ายังไงวันนั้นก็มาถึงแน่ๆ 176 00:10:50,803 --> 00:10:51,883 เจ๋ง ริคกี้ 177 00:10:51,963 --> 00:10:55,963 เราจะเป็นคนรุ่นแรก ที่คนรุ่นหลังในอนาคตอิจฉา 178 00:10:56,043 --> 00:10:58,203 เพราะเรามีทุกอย่างเลย และก็ใช้จนหมดด้วย 179 00:10:58,283 --> 00:11:02,043 เราใช้น้ำจืดจนหมด เราใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลจนหมด 180 00:11:02,123 --> 00:11:05,283 ปกติแล้ว เวลามองดูประวัติศาสตร์ แล้วรู้สึกเศร้าใจ เราจะแบบ "โห" 181 00:11:05,363 --> 00:11:08,563 "ตอนนั้นเขาอยู่กันไปได้ยังไง ตอนนั้นเขาเดินทางยังไง" 182 00:11:08,643 --> 00:11:10,563 "ในตัวบ้านไม่มีห้องน้ำ" 183 00:11:10,643 --> 00:11:13,203 บ้านผมมีห้องน้ำเก้าห้อง 184 00:11:15,003 --> 00:11:18,123 บางทีผมก็วนไปกดชักโครกเล่นเอาสนุก 185 00:11:19,283 --> 00:11:20,843 ในอีก 40 ปีข้างหน้า 186 00:11:20,923 --> 00:11:23,243 เกรตา ธันเบิร์กต้องขี้นอกหน้าต่างแล้วนะ 187 00:11:28,323 --> 00:11:31,683 ผมมีเครื่องทำความร้อน 28 ตัว ผมเปิดอุณภูมิสูงสุดตลอด 188 00:11:32,203 --> 00:11:34,243 แล้วทีนี้ก็เร่งแอร์จนสุด 189 00:11:34,803 --> 00:11:37,963 แล้วอุณหภูมิที่ได้จะประมาณ 20 องศา 190 00:11:38,043 --> 00:11:40,203 เป็นอุณหภูมิที่… แมวผมกำลังชอบเลย 191 00:11:40,283 --> 00:11:43,603 มันชอบอุณหภูมิ 20 องศา แล้วผมก็… ผมตามใจแมวมาก 192 00:11:44,203 --> 00:11:45,723 ผมรักแมว ผมชอบเลี้ยงแมว 193 00:11:45,803 --> 00:11:48,323 แมวเป็นสัตว์ที่ดีมาก แต่ถ้าปล่อยมันออกข้างนอก 194 00:11:48,403 --> 00:11:50,683 มันจะเอาของชวนแขยงที่สุดกลับมาด้วย 195 00:11:50,763 --> 00:11:54,003 อาทิตย์ก่อน แมวผมเอา สเกาเซอร์ที่เป็นโรคเริมกลับมาด้วย 196 00:11:56,083 --> 00:11:59,163 แถมมันยังไม่ตายสนิท ผมเลยต้องจับขามัน 197 00:11:59,243 --> 00:12:01,563 ฟาดหัวมันเข้ากับโต๊ะ 198 00:12:06,763 --> 00:12:09,523 ใครสน ถ้ามนุษยชาติล่มสลายวันนี้ 199 00:12:09,603 --> 00:12:12,403 อีกสองสามร้อยปี โลกจะกลับไปเป็นสรวงสวรรค์ 200 00:12:12,483 --> 00:12:15,163 ถ้าไม่มีผึ้งสิ โลกจะกลายเป็นทะเลทราย ตลอดกาล 201 00:12:15,243 --> 00:12:16,803 เราไม่ได้สำคัญขนาดนั้น 202 00:12:16,883 --> 00:12:19,803 เราก็แค่ลิงหลงตัวเองสายพันธุ์หนึ่ง 203 00:12:19,883 --> 00:12:23,483 บางคนในโซเชียลมีเดียจะรำคาญ เวลาผมพูดว่าเราเป็นลิง 204 00:12:23,563 --> 00:12:25,843 คนพวกที่นับถือศาสนาน่ะ พวกอเมริกันน่ะ 205 00:12:27,923 --> 00:12:30,403 มีชายคนหนึ่งเคยบอกกับผมว่า "พูดเองเออเองไปเถอะ" 206 00:12:30,483 --> 00:12:33,803 "ฉันไม่ใช่ลิง" ผมตอบกลับไปว่า "ใช่สิ เราทุกคนเป็นลิง" 207 00:12:33,883 --> 00:12:35,883 เขาว่า "ไม่ได้เป็น กอริลลาเคยทำอะไรบ้าง" 208 00:12:35,963 --> 00:12:38,883 "เราไปเดินบนดวงจันทร์มาแล้ว" ผมส่งกลับไป "ทำไมใช้คำว่าเรา" 209 00:12:38,963 --> 00:12:40,363 "นายยังไม่เคยทำห่าอะไรเลย" 210 00:12:41,723 --> 00:12:43,523 "สะกด 'ดวงจันทร์' ยังผิดเลย" 211 00:12:46,603 --> 00:12:50,443 การที่คนเราเอาหน้ากันทั้งสายพันธุ์ มันไม่แปลกเหรอ 212 00:12:50,523 --> 00:12:52,923 เพราะสิ่งที่ผลักดันอายธรรมไปข้างหน้า 213 00:12:53,003 --> 00:12:54,723 คืออัจฉริยะสองสามคน 214 00:12:54,803 --> 00:12:58,563 บนโลกนี้มีคนแปดพันล้านคน พวกเราส่วนใหญ่ไม่ทำอะไรเลย 215 00:12:58,643 --> 00:13:00,363 เรากิน ขี้ แล้วก็ตาย ใช่ไหม 216 00:13:00,883 --> 00:13:03,043 ถ้ามีอุกกาบาตพุ่งมาทางโลก 217 00:13:03,123 --> 00:13:04,443 ที่สามารถทำลายโลกได้ 218 00:13:04,523 --> 00:13:06,923 คนสี่พันล้านคนจะคุกเข่า 219 00:13:07,003 --> 00:13:10,763 แล้วสวดภาวนาต่อพระเจ้าที่ตัวเองนับถือ และจะมีนักวิทย์สองสามคนหาวิธี 220 00:13:10,843 --> 00:13:13,083 ว่าจะส่งบรูซ วิลลิสขึ้นไปหยุดมันได้ยังไง 221 00:13:14,803 --> 00:13:17,523 เป็นแนวคิดที่แปลกดีนะ การสวดภาวนาน่ะ สำหรับผม 222 00:13:17,603 --> 00:13:19,123 ไม่รู้ว่าพระเจ้าตัดสินใจยังไง 223 00:13:19,203 --> 00:13:22,363 คนตั้งกี่คนสวดภาวนา ขออะไรตั้งกี่อย่างพร้อมๆ กัน 224 00:13:22,443 --> 00:13:26,563 ใครไอเดียดีสุดชนะไป งี้เหรอ หรือใช้ระบบประชาธิปไตย 225 00:13:26,643 --> 00:13:30,843 ทรงวางแต่ละเรื่อง… แต่ละปัญหา แล้ว "เอาล่ะ คะแนนเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย" 226 00:13:30,923 --> 00:13:33,763 ถ้าใช้ระบบประชาธิปไตย เราซวยแหง เราเป็นประเทศเล็กๆ เอง 227 00:13:33,843 --> 00:13:36,563 ครั้งหน้าเวลามีคำเตือนน้ำท่วมในเขตเวสต์คันทรี่ 228 00:13:36,643 --> 00:13:38,923 ถ้าเราทุกคนภาวนา "ขอให้ทุกคนปลอดภัย" 229 00:13:39,003 --> 00:13:42,083 แล้วคนทั้งประเทศจีนภาวนา "ขอให้เมืองบริสตอลมันฉิบหาย" 230 00:13:45,243 --> 00:13:47,363 พวกนั้นมีกันเป็นพันล้านเลยนะ 231 00:13:48,003 --> 00:13:49,683 เรื่องจีนเดี๋ยวมีอีกตามมา 232 00:13:55,123 --> 00:13:58,483 ผมคิดมาตลอดว่าการสวดภาวนาเป็นอะไรที่แปลก 233 00:13:58,563 --> 00:14:03,243 สมมุติ ผมบังเอิญเจอเพื่อนหรือเพื่อนบ้าน แล้วรู้ว่าเขามีลูกที่ยังเล็ก 234 00:14:03,323 --> 00:14:05,483 แล้วผมถาม "หนูคนนั้นเป็นไงบ้าง" 235 00:14:05,563 --> 00:14:09,083 แล้วเขาตอบ "ไม่ดีเลย อยู่ไอซียู" 236 00:14:09,603 --> 00:14:12,963 "เราไม่รู้ว่าเขาจะรอดไหม แต่เราสวดภาวนาทุกคืน" 237 00:14:13,043 --> 00:14:14,763 สิ่งที่ผมจะทำเพื่อเป็นการทดลอง… 238 00:14:20,923 --> 00:14:22,243 ผมจะกลับบ้าน 239 00:14:22,323 --> 00:14:24,763 แล้วสวดภาวนาสองรอบขอให้เขาไม่รอด 240 00:14:28,883 --> 00:14:30,403 ไม่ทำหรอกน่า 241 00:14:33,403 --> 00:14:37,123 ขอพูดจริงจังหน่อย พักหลังมานี้ผมทำวิดีโอข้อความเยอะมาก 242 00:14:37,203 --> 00:14:39,363 ให้เด็กๆ ที่ป่วยระยะสุดท้าย 243 00:14:39,443 --> 00:14:41,523 ถ้ามีคนขอถึงจะทำครับ 244 00:14:43,243 --> 00:14:46,043 ผมไม่พรวดพราดเข้าไปในโรงบาลแล้ว "ตื่นสิ หัวล้าน" 245 00:14:47,843 --> 00:14:50,043 "ดูนี่ พี่เต้นทเวิร์คลงติ๊กต็อก ดูสิ" 246 00:14:52,643 --> 00:14:55,003 ไม่เลย ช่วงภาวะโรคระบาดผมทำไปเยอะมาก 247 00:14:55,083 --> 00:14:57,843 น่าจะเป็นเพราะ ขนาดครอบครัวแท้ๆ พวกเขายังไม่ได้เจอเลย 248 00:14:57,923 --> 00:15:01,683 เป็นการร่วมมือกับมูลนิธิเมคอะวิช คุณรู้จักมูลนิธินี้ไหม ดีมากเลยนะ 249 00:15:01,763 --> 00:15:03,803 เขาจะทำตามคำขอของเด็กที่ใกล้ตายหนึ่งข้อ 250 00:15:03,883 --> 00:15:07,283 ถ้าคำขอนั้นคือผม ผมจะตอบตกลงเสมอ และผมจะพูดเปิดวิดีโอแบบเดิมตลอด 251 00:15:07,363 --> 00:15:09,843 ผมจะพูดว่า "ทำไมไม่ขอให้ตัวเองหายป่วยล่ะ" 252 00:15:13,923 --> 00:15:16,003 "หรือหนูปัญญาอ่อนด้วยเหรอ" 253 00:15:19,363 --> 00:15:21,083 นั่นก็ไม่ทำเหมือนกันน่า 254 00:15:21,643 --> 00:15:23,763 มุกตลกทั้งนั้น โอเคไหม 255 00:15:23,843 --> 00:15:27,923 แต่ผมไม่ใช้คำนั้นในชีวิตจริงเลยนะ ปญอ.น่ะ 256 00:15:28,003 --> 00:15:30,283 "ก็ใช้อยู่เนี่ย" "ใช้ในมุกตลกไง" 257 00:15:30,363 --> 00:15:33,283 "ใช่ชีวิตจริงซะที่ไหน ผมเล่นไปตามบท" 258 00:15:33,363 --> 00:15:36,763 "ฟังแล้วเหมือนจริงมากเลยนะ" "ก็ผมเก่งไง" 259 00:15:38,283 --> 00:15:40,643 คุณคงไม่ไปกล่าวหาศิลปะรูปแบบอื่นหรอก 260 00:15:40,723 --> 00:15:44,363 คงไม่เดินไปหาเซอร์แอนโทนี ฮ็อปกินส์ "ผมดูคุณเล่นเรื่อง อำมหิตไม่เงียบ" 261 00:15:44,443 --> 00:15:48,683 "ตกลงว่าคุณกินเนื้อมนุษย์ใช่ไหม" "ไม่ใช่ ผมเล่นไปตามบทบาท" 262 00:15:49,763 --> 00:15:51,763 "ดูเหมือนจริงดีนะ" "ใช่" 263 00:15:52,803 --> 00:15:55,883 เขาเก่งไง ส่วนผมก็เก่ง ผมถึงทำอะไรๆ ได้ดีไง 264 00:15:55,963 --> 00:15:58,363 คิดดูสิว่าถ้าผมขึ้นเวทีแล้วโชว์แบบไม่เฉียบนัก 265 00:15:58,443 --> 00:15:59,723 เพื่อให้คนดูรู้ว่าผมพูดเอาฮา 266 00:15:59,803 --> 00:16:01,443 แบบนั้นมันก็ปัญญาอ่อนโคตรๆ 267 00:16:05,683 --> 00:16:10,923 มีใครเคยสนใจจะถามปลาโลมาไหม ว่าช่วยว่ายน้ำกับเด็กใกล้ตายหน่อยได้รึเปล่า 268 00:16:11,443 --> 00:16:13,923 คุณเข้าใจที่ผมจะสื่อไหม แบบนั้นพวกมันคงไม่สนุกแน่ๆ 269 00:16:14,003 --> 00:16:15,243 ปลามันตีครีบอยู่ดีๆ 270 00:16:15,323 --> 00:16:19,523 แล้วจู่ๆ ก็มีคนเท เด็กวัยรุ่นผิวซีดเซียวลงไปล็อตใหญ่ ตะกุยตะกาย 271 00:16:20,243 --> 00:16:24,603 แล้วโลมาก็แบบ "อะไรวะเฮ่ย ให้ตายสิ" 272 00:16:26,123 --> 00:16:28,323 "เหอะน่า ให้เขาทำไปเถอะ" "ทำไมล่ะเฮ่ย" 273 00:16:29,043 --> 00:16:31,003 "เด็กพวกนี้ใกล้ตายแล้ว" "ตายด้วยอะไร" 274 00:16:31,083 --> 00:16:33,923 "ไอ้เด็กนั่นมันเอานิ้วแหย่รูพ่นน้ำฉันเนี่ย" 275 00:16:35,683 --> 00:16:39,043 "เขาอยู่ได้อีกไม่นานหรอก" "ถ้าหายใจไม่ออก ตูเองก็ม่องโว้ย" 276 00:16:44,443 --> 00:16:47,603 น่าเศร้ามากนะ แต่เราทุกคนมีวันตาย 277 00:16:47,683 --> 00:16:50,043 เราทุกคนรู้ว่าเราจะตาย และเราก็ตายแน่ๆ 278 00:16:50,123 --> 00:16:53,083 ดังนั้นมันไม่สำคัญ ว่าเราจะผลัดกันตายทีละคน 279 00:16:53,163 --> 00:16:55,523 หรือตายพร้อมกันทีเดียว ในวันโลกาวินาศแบบจัดเต็ม 280 00:16:55,603 --> 00:16:57,803 ผลสุดท้ายก็คือ สักวันคนเราก็ต้องตาย 281 00:16:57,883 --> 00:16:59,523 และพอตายแล้วเราก็ตายเลย 282 00:16:59,603 --> 00:17:01,563 ในช่วงชีวิตนี้ ผมไปงานศพมาหลายงาน 283 00:17:01,643 --> 00:17:04,843 ถ้าอยู่มานานแบบผม ก็ต้องรู้จักคนเยอะ และคนเราก็ตายไป 284 00:17:04,923 --> 00:17:07,723 ผมไม่อะไรกับงานศพหรอก เพราะนั่นคือวาระสุดท้ายแล้ว 285 00:17:07,803 --> 00:17:10,123 พวกคุณเก็ตไหม คือผมเกลียดงานแต่ง 286 00:17:10,203 --> 00:17:14,043 แม่งโคตร… ความหวังเบ่งบาน พวกคุณเก็ตไหม 287 00:17:14,603 --> 00:17:16,483 ส่วนเจ้าภาพก็เรียกร้องเยอะ แถมหยิ่งอีก 288 00:17:16,563 --> 00:17:20,563 พวกเขาจะแบบ "เราจะแต่ง… อยากมาดูเราสัก 12 ชั่วโมงไหม" 289 00:17:20,643 --> 00:17:22,203 "ไม่ ไม่อยากโว้ย" 290 00:17:23,443 --> 00:17:25,323 ขนาดบัตรเชิญยังหยิ่งเลย 291 00:17:25,403 --> 00:17:28,003 ยังกับพระราชกฤษฎีกา "ขอเชิญเพื่อเป็นเกียรติ…" 292 00:17:28,083 --> 00:17:30,763 เป็นเกียรติซะไม่มี ฉันไม่อยากไปงานแต่งเห่ยๆ ของแก 293 00:17:30,843 --> 00:17:31,883 พวกคุณเก็ตไหม 294 00:17:32,723 --> 00:17:35,483 จากนั้นเราก็จะตอบแบบ "อ้อ ได้สิ แต่งเมื่อไหร่" 295 00:17:35,563 --> 00:17:36,963 ทางนั้นตอบ "อีกสองปี" 296 00:17:37,483 --> 00:17:40,283 พวกเขารู้ว่าคุณไม่มีข้ออ้าง จะไม่ไปงานอีกสองปีข้างหน้าแน่นอน 297 00:17:41,003 --> 00:17:44,203 เราก็เลยต้องหวังเอา ว่าให้หนึ่งในสองคนนั้นตาย 298 00:17:44,763 --> 00:17:47,843 ทีนี้เราก็ตอบประมาณ "ได้ จะไปนะ จัดที่ไหน" 299 00:17:47,923 --> 00:17:50,003 พวกเขาก็ "อินเดีย" "เรื่องของมึง" 300 00:17:51,243 --> 00:17:54,123 กูจะไม่ยอมโดนฉีดยาเพื่อมึง ไอ้พวกคนน่าเบื่อ 301 00:17:55,403 --> 00:17:57,763 ตอนนี้ผมมีครอบครัวใหญ่ ครอบครัวที่แตกกิ่งก้านสาขา 302 00:17:57,843 --> 00:18:00,523 ต้องมีสักคนแต่งงานอยู่ตลอด พวกเขารู้ว่าผมมีตังค์ 303 00:18:00,603 --> 00:18:04,843 ทุกวันนี้ผมให้ของขวัญเป็นชุดถ้วยน้ำชาไม่ได้แล้ว ต้องให้บ้านหลังแรก 304 00:18:06,363 --> 00:18:08,723 ผมมีครอบครัวใหญ่ บรรดาพี่ชายพี่สาว 305 00:18:08,803 --> 00:18:10,923 ทุกคนมีลูก ลูกของพวกพี่ๆ ก็มีลูก 306 00:18:11,003 --> 00:18:14,843 แล้วลูกของพวกนั้นก็มีลูกยั้วเยี้ย เพราะเรามันชนชั้นล่าง 307 00:18:15,363 --> 00:18:18,203 ทุกคริสต์มาส เรามีเด็กเกิดใหม่ ครอบครัวเราเป็นประมาณนั้น 308 00:18:18,283 --> 00:18:19,483 เวลาผมกลับบ้าน คนเต็ม 309 00:18:19,563 --> 00:18:22,123 ผมจะ "ลูกใครน่ะ ของเธอเหรอ เก่งมาก" 310 00:18:22,203 --> 00:18:24,723 ผมไม่รู้จักเด็กนี่ ไม่รู้จักแม่มัน ขอให้เห็นภาพ 311 00:18:25,243 --> 00:18:27,883 แต่ผมทำอะไรอยู่อย่างหนึ่ง ตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา 312 00:18:27,963 --> 00:18:31,723 ผมพูดกับพวกเขาแต่ละคน แบบเป็นส่วนตัว 313 00:18:31,803 --> 00:18:36,163 แล้วบอกว่า ผมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้เขาแค่คนเดียว 314 00:18:36,883 --> 00:18:38,323 แต่เก็บเป็นความลับนะ 315 00:18:38,403 --> 00:18:40,003 พวกเขาทุกคนก็เลยรักผม 316 00:18:40,523 --> 00:18:41,683 ผมไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ 317 00:18:41,763 --> 00:18:44,683 แปลว่างานศพผมเป็นมหกรรมนองเลือดแน่ๆ 318 00:18:49,163 --> 00:18:52,723 ตอนนี้ผมอยู่ในวัยที่ คนถามว่าวางแผนงานศพตัวเองไว้ยังไง 319 00:18:52,803 --> 00:18:55,283 ขนาดนักข่าวยังพูด "คุณ… งานศพคุณจะเป็น…" ผมตอบไป 320 00:18:55,363 --> 00:18:57,643 "ยังไม่ได้วางแผน" "ยังเหรอ" "ยัง ก็มันชวนหดหู่" 321 00:18:57,723 --> 00:19:00,763 "ผมไม่สนหรอก ป่านนั้นก็ตายแล้ว" "ไม่สนว่าคนจะคิดยังไงกับคุณเหรอ" 322 00:19:00,843 --> 00:19:01,963 "ไม่ ก็ตายไปแล้วไง" 323 00:19:02,043 --> 00:19:04,123 "แล้วสิ่งที่คุณจะทิ้งไว้ข้างหลังล่ะ" "ช่างหัวมันสิ" 324 00:19:04,203 --> 00:19:05,723 เราวางแผนของยังงั้นไม่ได้ 325 00:19:05,803 --> 00:19:09,083 ผมนึกถึงคนที่ตายไปโดยคิดว่า ตัวเองจะเป็นที่รักไปตลอดกาล 326 00:19:09,163 --> 00:19:12,923 บุคคลมีชื่อเสียงที่คิดว่า "มีรูปปั้นตัวฉันอยู่ที่จัตุรัสกลางเมือง" 327 00:19:13,003 --> 00:19:16,923 มาวันนี้คนโค่นรูปปั้นนั้นลง "โค่นไอ้รูปปั้นเส็งเคร็งนี่ลงซะ" "ทำไมล่ะ" 328 00:19:17,003 --> 00:19:19,803 "มันเป็นพ่อค้าทาส โค่นรูปปั้นมันลง" 329 00:19:19,883 --> 00:19:23,683 "เขาสร้างโรงพยาบาล ทุบทิ้งด้วยดีไหม" "ไม่ เอาโรงพยาบาลไว้" 330 00:19:25,643 --> 00:19:28,323 "โค่นแค่รูปปั้นก็พอ" 331 00:19:33,403 --> 00:19:35,603 "โค่นรูปปั้นลงมา เอาไปทิ้งในคลอง" 332 00:19:35,683 --> 00:19:39,203 "คลองนี่เขาก็สร้างนะ" "ช่างมัน โค่นไอ้รูปปั้นนี่ลงมาก็พอ" 333 00:19:41,323 --> 00:19:43,243 ผมว่าเราไม่ควรซักฟอกประวัติศาสตร์หรอก 334 00:19:43,323 --> 00:19:46,443 ถ้าเราเจอข้อมูลใหม่ ก็เพิ่มเข้าไปสิ สมมุติว่ามีรูปปั้น แล้วมีเขียนว่า 335 00:19:46,523 --> 00:19:49,523 "ลอร์ดวิมซีย์ พ่อค้า ผู้ใจบุญ" 336 00:19:49,603 --> 00:19:51,083 ก็เติม "เหยียดผิวนิดๆ" 337 00:19:52,803 --> 00:19:55,163 หรือแผ่นป้ายสีฟ้าบนตัวบ้านที่เขียนว่า 338 00:19:55,243 --> 00:19:59,403 "เคยเป็นที่อยู่ของเซอร์โรเบิร์ต สปิวก์ นักเขียน กวี ใคร่เด็ก" 339 00:20:04,723 --> 00:20:07,963 ผมว่าเรามีชีวิตอยู่นานเกินไป เราก็เลยมีเวลามากังวลเรื่องพวกนี้ 340 00:20:08,043 --> 00:20:10,123 เราไม่ควรมีชีวิตอยู่นานขนาดนี้ 341 00:20:10,683 --> 00:20:11,683 ในฐานะสายพันธุ์ 342 00:20:11,763 --> 00:20:15,123 เรามีอายุประมาณสามแสนปี ในฐานะสายพันธุ์โฮโมเซเปียนส์ 343 00:20:15,203 --> 00:20:18,403 เราอยู่วงศ์ลิงใหญ่มานานสองสามล้านปี และแน่นอน 344 00:20:18,483 --> 00:20:20,643 อยู่มาพร้อมกับชีวิตรูปแบบอื่นๆ ที่เกิดขึ้นมา 345 00:20:20,723 --> 00:20:23,403 เราวิวัฒนาการมาตลอดสามพันห้าร้อยล้านปี 346 00:20:23,483 --> 00:20:25,603 สรรพสิ่งที่มีอยู่ในชั่วขณะนี้ 347 00:20:25,683 --> 00:20:28,043 ล้วนมาจากอินทรีย์วัตถุก้อนเล็กๆ ก้อนเดียวกัน 348 00:20:28,123 --> 00:20:29,763 จากเมื่อสามพันห้าร้อยล้านปีก่อน 349 00:20:29,843 --> 00:20:34,163 ผมถึงได้รำคาญเวลาคนพูดว่า "มนุษย์ เราวิวัฒนาการมาไกลที่สุด" 350 00:20:34,243 --> 00:20:35,243 ไกลที่สุดซะที่ไหน 351 00:20:35,323 --> 00:20:38,523 เราไม่ได้วิวัฒนาการไปไกลกว่า ทากหรือหอยทากเลย 352 00:20:38,603 --> 00:20:41,803 คนพูดว่า "พวกนี้เนี่ยนะ" ใช่ พวกมันทำถูกมาตั้งแต่แรกๆ 353 00:20:41,883 --> 00:20:44,643 ธรรมชาติทดสอบพวกมันอยู่เรื่อยๆ "อยากได้ตาไหม" 354 00:20:44,723 --> 00:20:45,563 "ไม่" 355 00:20:48,523 --> 00:20:50,763 "ไม่อยากนะ ไม่" 356 00:20:52,563 --> 00:20:54,803 ผมสังเกตเห็นเรื่องนึงเกี่ยวกับทากและหอยทาก 357 00:20:54,883 --> 00:20:56,923 ช่างความต่างเล็กๆ น้อยๆ แล้วว่ากันตามตรง 358 00:20:57,443 --> 00:21:01,843 หอยทากก็คือทาก ที่มีกระดองอยู่บนตัวนั่นแหละ ใช่ไหมล่ะ 359 00:21:01,923 --> 00:21:05,763 แต่พอเราดึงกระดองออกจากหอยทาก มันจะเริ่มทำท่า… 360 00:21:07,963 --> 00:21:09,723 "โอ๊ย จะตายแล้ว จะตายแล้ว" 361 00:21:09,803 --> 00:21:13,043 ส่วนทากก็ "ขอต้อนรับสู่โลกจริงจ้ะ อีหอย" 362 00:21:16,483 --> 00:21:19,563 ครับ เราอยู่กันมาประมาณสามแสนปีแล้ว 363 00:21:19,643 --> 00:21:21,083 ส่วนใหญ่ของสามแสนปีนั้น 364 00:21:21,163 --> 00:21:24,523 เรามีอายุขัยเท่ากันกับ ลิงไม่มีหางที่อยูในธรรมชาติ 365 00:21:24,603 --> 00:21:26,723 สามสิบห้าปี หรือถ้าโชคดีก็ 40 366 00:21:26,803 --> 00:21:30,243 เกิดมา เติบโต ผสมพันธุ์ เล่นกับลูกๆ 367 00:21:30,323 --> 00:21:32,803 โดนบาด แล้วก็ "อะไรน่ะ" ตาย 368 00:21:34,083 --> 00:21:36,883 ทีนี้ พอมียารักษาโรคกับยาปฏิชีวนะ เราก็ยืดอายุขัยออกไป 369 00:21:36,963 --> 00:21:40,763 เด็กที่เกิดวันนี้ อาจมีอายุอยู่ถึง 100 ปีเลยก็ได้ 370 00:21:41,323 --> 00:21:43,563 และนักวิทย์บอกว่าอีกไม่นานก็จะถึงสัก 120 ปี 371 00:21:44,323 --> 00:21:47,323 และวิทยาศาสตร์ยังบอกด้วยว่า ในอนาคตอันใกล้ มีเหตุผลเต็มที่ว่า 372 00:21:47,403 --> 00:21:49,243 ด้วยการดูแลใส่ใจอย่างเหมาะสม 373 00:21:49,323 --> 00:21:53,283 มนุษย์จะมีชีวิตอยู่ได้ถึง 150 ปีเป็นปรกติ 374 00:21:53,803 --> 00:21:58,283 ซึ่งน่าทึ่งมาก จนเรานึกได้นั่นแหละ ว่าเรามีเซลล์สมองอยู่จำนวนหนึ่ง 375 00:21:58,363 --> 00:22:00,483 ซึ่งมีแต่จะตายไป ฟื้นฟูกลับมาไม่ได้ 376 00:22:00,563 --> 00:22:05,403 ดังนั้น ในอนาคต ดาวเคราะห์ดวงนี้ จะมีคนอยู่หมื่นห้าพันล้านคน 377 00:22:05,483 --> 00:22:09,523 ครึ่งนึงอายุเกินร้อย และเป็นโรคอัลไซเมอร์ทุกคน 378 00:22:09,603 --> 00:22:14,443 น่าจะเหมือนหนังรุ่งอรุณแห่งความตาย น่าจะเลวร้ายสุดๆ เลย 379 00:22:15,363 --> 00:22:19,483 ป้าผมตายด้วยโรคอัลไซเมอร์ ผมไม่รู้ว่าคนเราตายเพราะอัลไซเมอร์ได้ยังไง 380 00:22:19,563 --> 00:22:22,243 ป้าลืมมีชีวิตอยู่ 381 00:22:24,003 --> 00:22:26,883 ในช่วงสองปีสุดท้าย ป้าอยู่ที่บ้านพัก 382 00:22:26,963 --> 00:22:30,403 ลูกพี่ลูกน้องของผม หรือก็คือลูกคนเดียวของป้า เขาไปเยี่ยมป้าอาทิตย์ละครั้ง 383 00:22:30,483 --> 00:22:33,083 ความหดหู่ใจมันเพิ่มมากขึ้น เพราะป้าจำเขาไม่ได้เลย 384 00:22:33,163 --> 00:22:35,723 จากนั้นป้าก็จำตัวเองไม่ได้ แล้วก็ตายไป 385 00:22:35,803 --> 00:22:39,003 และที่งานศพ เรารำลึกถึงวันวานที่มีความสุขกัน 386 00:22:39,083 --> 00:22:42,803 เรื่องตลกเบลอๆ ที่ป้าพูดและทำ 387 00:22:42,883 --> 00:22:45,803 เรามารู้ตัวว่า นั่นอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคก็ได้ 388 00:22:45,883 --> 00:22:47,563 ก่อนได้รับการวินิจฉัย 389 00:22:47,643 --> 00:22:49,243 และเรื่องนี้คือเรื่องจริง 390 00:22:49,323 --> 00:22:53,363 ครั้งหนึ่ง ลูกพี่ลูกน้องผมทำงานเสร็จ กลับบ้าน เข้าบ้านไป แล้วป้าก็ 391 00:22:53,443 --> 00:22:56,003 "ของว่างอยู่ในเตาอบนะ แม่กินส่วนของแม่แล้วล่ะ" 392 00:22:56,083 --> 00:22:57,683 เขาก็ "ขอบคุณครับแม่" 393 00:22:57,763 --> 00:22:59,563 ของว่างนั้นคือพายเนื้อปลา 394 00:22:59,643 --> 00:23:03,203 เขากินพายเนื้อปลานั้นเข้าไป แล้วก็ "คุณพระช่วย" เขาวิ่งขึ้นชั้นบน… 395 00:23:04,963 --> 00:23:08,843 อาเจียน กลับลงมาชั้นล่าง แล้วพูดว่า "แม่ เนื้อปลามันเน่านะ" 396 00:23:08,923 --> 00:23:13,043 "ผมอ้วกแตกเลย" ป้าพูดว่า "ใช่ แม่กินแล้วก็อ้วก" 397 00:23:18,163 --> 00:23:21,723 เมื่อเร็วๆ นี้ผมหาข้อมูล อัตราการตายของเด็กทารก 398 00:23:23,123 --> 00:23:27,243 เพื่อการค้นคว้า ไม่ใช่ความคลั่งไคล้ทางเพศ 399 00:23:30,003 --> 00:23:34,483 ในอังกฤษ เด็กที่เกิดวันนี้ มีเปอร์เซ็นต์การรอดชีวิต 400 00:23:34,563 --> 00:23:37,843 อยู่ที่ 99.8% ซึ่งสูงมากนะ 401 00:23:37,923 --> 00:23:40,083 ผมคิด "เพราะโลกตะวันตก ประคมประหงมรึเปล่า" 402 00:23:40,163 --> 00:23:45,723 ผมหาข้อมูลประเทศโลกที่สาม ขนาดแอฟริกายังได้ 96.5% 403 00:23:45,803 --> 00:23:47,203 ในแดนกันดารของแอฟริกา 404 00:23:47,283 --> 00:23:49,883 ที่ซึ่งทุกสรรพสิ่งจ้องจะกินทารกเกิดใหม่… 405 00:23:49,963 --> 00:23:54,203 เด็กทารกบอบบางมากอยู่แล้ว ที่แอฟริกา ทารกอาจคลอดในบ้านดินก็ได้ 406 00:23:54,283 --> 00:23:56,483 ข้างนอกมีสิงโต ทารกตัวชุ่มไปด้วยเลือด 407 00:23:56,563 --> 00:24:00,763 ล้างตัวก็ไม่ได้ ไม่มีน้ำ อ้อใช่ แถมยังเกิดมาเป็นเอดส์อีก 408 00:24:02,003 --> 00:24:02,963 เอาล่ะ… 409 00:24:04,003 --> 00:24:06,483 ถึงตอนที่มุกนี้เผยแพร่ใน Netflix 410 00:24:08,683 --> 00:24:09,923 มันจะฟังแล้วต่างไปเล็กน้อย 411 00:24:10,883 --> 00:24:14,843 จะมีประเด็นเสียดสีแฝงอยู่ ผมจะอ้างเอง 412 00:24:15,683 --> 00:24:18,283 แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น มุกที่ผมมีคือ 413 00:24:18,363 --> 00:24:20,643 "เบบี๋เป็นเอดส์" 414 00:24:21,203 --> 00:24:25,643 ผมรู้ว่ามันตลก ผมแค่ต้องหาเหตุผลประกอบว่าทำไม 415 00:24:27,123 --> 00:24:28,923 ผมรับเอง 416 00:24:29,683 --> 00:24:33,803 อีกอย่าง ในตอนที่มุกนี้เผยแพร่ใน Netflix ผมคงทัวร์ตามเวทีต่างๆ ทั่วโลกอยู่ 417 00:24:33,883 --> 00:24:36,003 มุกนี้ขำกลิ้งแน่ คนหัวเราะแน่ 418 00:24:36,083 --> 00:24:39,603 ดังนั้น ถ้าคุณเป็นหญิงชาวแอฟริกัน และเพิ่งคลอดลูกที่แอฟริกา 419 00:24:39,683 --> 00:24:42,643 แล้วหมอบอกว่า "เสียใจด้วย ลูกคุณเป็นเอดส์" 420 00:24:42,723 --> 00:24:45,283 คุณจะ "พระเจ้าช่วย" คุณอยู่… ลูกเป็น… 421 00:24:45,363 --> 00:24:48,843 คุณอยู่กับสามี คุณพูดว่า "ลูกเราเป็นเอดส์ค่ะ เจฟฟ์" 422 00:24:48,923 --> 00:24:49,763 เจฟฟ์ 423 00:24:56,483 --> 00:24:58,563 "ผมรู้ เทรซี่ ผมก็เป็นเหมือนกัน ที่รัก" 424 00:25:02,243 --> 00:25:05,363 "ลูกเราเป็นเอดส์ เราดูโชว์ตลกกันไหม จะได้สดชื่นขึ้น" 425 00:25:05,443 --> 00:25:07,963 "จ้ะ Netflix เหรอ" "ใช่" 426 00:25:08,603 --> 00:25:10,403 "ริคกี้ เจอร์เวสเหรอ" "แหงแซะ" 427 00:25:11,683 --> 00:25:15,643 พวกเขาเศร้าใจที่ลูกติดเชื้อเอดส์ แต่ก็ขำกล้อมแกล้มไปกับโชว์… 428 00:25:15,723 --> 00:25:16,763 "วันโลกาวินาศ…" 429 00:25:16,843 --> 00:25:19,643 แล้วก็มาถึงมุกเมื่อกี้ "เบบี๋เป็นเอดส์" 430 00:25:19,723 --> 00:25:24,203 แล้วเทรซี่ก็ "คุณพระ เจฟฟ์ ทำไมพวกเขาพากันหัวเราะเยาะพวกเรา 431 00:25:24,283 --> 00:25:26,003 กับลูกที่เป็นเอดส์" 432 00:25:26,083 --> 00:25:28,683 เจฟฟ์ก็จะบอกว่า "พวกเขาไม่ได้หัวเราะเยาะเรา" 433 00:25:28,763 --> 00:25:31,163 เทรซี่ก็ "หัวเราะเยาะเรา พวกเขาพูดชื่อเราด้วย" 434 00:25:31,243 --> 00:25:33,723 "มุกนี้พวกเขาหัวเราะเยาะเราชัดๆ" 435 00:25:36,723 --> 00:25:41,323 แล้วเจฟฟ์ก็จะ "เราเป็นคู่รักสมมุติ กับลูกสมมุติที่ติดเชื้อเอดส์" 436 00:25:41,403 --> 00:25:43,763 "ใครเคืองก็บ้าบอคอแตกแล้ว" 437 00:25:45,323 --> 00:25:48,003 แล้วเขาก็จะพูดว่า "แถมอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เลียนสำเนียง" 438 00:25:48,523 --> 00:25:49,363 ดังนั้น… 439 00:25:51,643 --> 00:25:55,923 แล้วเทรซี่จะ "ก็ใช่ แต่นั่นเพราะ เจนขอร้องไม่ให้เขาเลียนหรอก" 440 00:25:58,563 --> 00:26:00,403 ตลกดีนะ เพราะนั่นเรื่องจริง 441 00:26:05,683 --> 00:26:08,123 ผมว่าเราได้อารมณ์ขันมาจากพ่อแม่ 442 00:26:08,203 --> 00:26:09,923 ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม 443 00:26:10,003 --> 00:26:13,283 โดยเฉพาะเด็กชนชั้นแรงงาน โดยเฉพาะเด็กที่มีแม่เป็นชนชั้นแรงงาน 444 00:26:13,363 --> 00:26:15,683 เพราะแม่ๆ พากันยุ่ง ต้องทำหลายอย่าง 445 00:26:15,763 --> 00:26:18,763 คอยตามจิกสามี เลี้ยงลูก ไปทำงาน 446 00:26:18,843 --> 00:26:20,763 กอบกู้โลก พวกแม่ๆ ไม่มีเวลา 447 00:26:20,843 --> 00:26:23,323 ต้องขู่ให้ลูกทำตัวดีๆ 448 00:26:23,403 --> 00:26:26,803 ต้องใช้กุศโลบายดำมืดให้ลูกตกใจกลัว ลูกจะได้ไม่ตาย 449 00:26:26,883 --> 00:26:29,963 พอจะเก็ตกันไหมครับ เช่น สมมุติผมเป็นเด็ก 450 00:26:30,043 --> 00:26:32,603 แม่ทำขนมให้ และนั่นไม่ใช่ของโปรดของผม 451 00:26:32,683 --> 00:26:35,163 มันคือมันฝรั่งต้ม แทนที่จะกินมันฝรั่งทอดทุกวัน 452 00:26:35,243 --> 00:26:36,843 และผมพูดว่า "ผมไม่ชอบมันฝรั่งต้ม" 453 00:26:36,923 --> 00:26:39,083 แม่ผมจะพูดทันทีว่า "ชอบสิจ๊ะ" 454 00:26:39,163 --> 00:26:41,723 "ที่แอฟริกามีเด็กๆ อายุเท่าลูก หิวโหยอดอยากจนตาย" 455 00:26:41,803 --> 00:26:45,283 แล้วผมก็จะ "พระเจ้าช่วย ได้ฮะ" เห็นภาพไหมครับ 456 00:26:45,883 --> 00:26:50,323 นี่เรื่องจริง ตอนอายุเจ็ดขวบ ผมไปเล่นที่สวนสาธารณะ 457 00:26:50,403 --> 00:26:54,203 ผมวิ่งเข้ามา แล้วแม่ผมก็ "ริคกี้ มานี่ นั่งลง" 458 00:26:54,283 --> 00:26:56,283 สงสัยตอนนั้นมีพวกใคร่เด็กก่อเหตุ 459 00:26:58,123 --> 00:27:01,243 แล้วแม่ผมก็ "ต่อจากนี้ ห้ามเข้าห้องน้ำที่สวนสาธารณะนะ" 460 00:27:01,323 --> 00:27:02,843 แล้วผมก็ถามว่า "ทำไมล่ะ" 461 00:27:02,923 --> 00:27:06,203 แม่รู้ว่าคงอธิบายเรื่องโรคใคร่เด็ก ให้เด็กเจ็ดขวบฟังไม่เข้าใจแน่ 462 00:27:06,283 --> 00:27:08,203 แต่สิ่งที่แม่ผมคิดออกคือ 463 00:27:08,283 --> 00:27:11,403 แม่บอกว่า "เพราะมีชายคนหนึ่งตระเวนไปมา 464 00:27:11,483 --> 00:27:13,603 คอยตัดจุ๊ดจู๋เด็กๆ ให้ขาด" 465 00:27:15,843 --> 00:27:16,803 ผมแบบ… 466 00:27:18,883 --> 00:27:21,363 "มีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ" 467 00:27:22,523 --> 00:27:24,123 ผมนอนไม่หลับอยู่อาทิตย์นึง 468 00:27:26,403 --> 00:27:29,763 ได้ผลนะ ผมไม่เข้าห้องน้ำในที่แบบนั้นอีกเลย 469 00:27:29,843 --> 00:27:32,963 แม่เขารู้โดยสัญชาตญาณว่าถ้าเขาพูดว่า "ริคกี้ มานี่ นั่งลง" 470 00:27:33,043 --> 00:27:34,883 "อะไรฮะ" "อย่าเข้าห้องน้ำที่นั่นอีกนะ" 471 00:27:34,963 --> 00:27:37,443 "ทำไมล่ะ" "มีพวกใคร่เด็กน่ะสิ" "พวกใคร่เด็กคืออะไร" 472 00:27:37,523 --> 00:27:39,683 "คือผู้ชายที่จะให้ขนมกับลูกหมากับเรา" 473 00:27:40,203 --> 00:27:41,363 "เอามาเลย" 474 00:27:42,403 --> 00:27:45,643 ผม… ตอนเจ็ดขวบน่ะเหรอ ผมยอมชักว่าวให้ใครก็ได้เพื่อแลกกับลูกหมา 475 00:27:46,483 --> 00:27:47,923 ต้องความสูงนี้สินะ 476 00:27:53,003 --> 00:27:54,363 ผมจะได้ลูกหมา 477 00:27:55,643 --> 00:27:56,483 ไง 478 00:27:56,563 --> 00:27:58,483 ผมจะได้ลูกหมาแล้ว 479 00:28:00,523 --> 00:28:01,603 จะได้ลูกหมาแล้ว 480 00:28:02,123 --> 00:28:03,203 ให้ตายเถอะ 481 00:28:05,003 --> 00:28:07,803 มือซ้ายไม่ถนัดจริงๆ นั่นแหละ 482 00:28:09,323 --> 00:28:11,123 ให้ตายเถอะ เสร็จเถอะ 483 00:28:12,243 --> 00:28:13,603 ดื่มเหล้ามาเหรอ 484 00:28:16,123 --> 00:28:18,003 พระเจ้าช่วย 485 00:28:18,083 --> 00:28:19,323 เสร็จสิ 486 00:28:21,083 --> 00:28:22,363 ปัดโถ่ 487 00:28:29,683 --> 00:28:31,403 เริ่มไปแล้วก็ต้องต่อให้จบ 488 00:28:35,843 --> 00:28:37,283 โอยตาย 489 00:28:38,123 --> 00:28:39,803 ลูกหมาพันธุ์ไหนอะ 490 00:28:41,963 --> 00:28:44,203 หา ลาบราดอร์เหรอ 491 00:28:46,963 --> 00:28:49,123 แถมลูกแมวด้วยสิ เดี๋ยวเป่าปี่ให้ด้วย 492 00:28:49,643 --> 00:28:51,683 ผมกลับบ้าน ลูกแมว ลูกหมา อสุจิ 493 00:29:00,243 --> 00:29:05,483 คิดถึงพวกใคร่เด็กแถวบ้านนะ ไม่คิดถึงเหรอ เมื่อก่อนต้องมีสักคนตลอด 494 00:29:06,003 --> 00:29:09,403 เราอยู่กับแม่ ด้านนอกโรงเรียน แล้วแม่ก็จะ "นั่นพวกใคร่เด็ก" 495 00:29:09,483 --> 00:29:11,723 เพราะเขาใส่ชุดแบบพวกใคร่เด็ก 496 00:29:11,803 --> 00:29:15,483 เราจะสังเกตได้ เป็นชายแก่ หัวข้างบนล้าน แต่ข้างๆ ยาว 497 00:29:15,563 --> 00:29:17,763 ผมก็จะ "นั่นไอ้เส็งเคร็งใคร่…" "ทักทายสิ" "ดีฮะ" 498 00:29:17,843 --> 00:29:21,603 "หวัดดี" แบบนี้ ท่าทางหยาบโลน พวกชั่วใคร่เด็กจะท่าทางแบบนั้นนะ… 499 00:29:21,683 --> 00:29:23,803 พวกชั่วใคร่เด็กจิตใจหยาบโลน 500 00:29:23,883 --> 00:29:26,323 ถ้ามันแตะต้องคุณ เราจะไปเผาบ้านมัน 501 00:29:26,403 --> 00:29:28,243 เป็นระบบที่ดี 502 00:29:28,843 --> 00:29:32,043 ต่อมาก็มีไมเคิล แจ็กสัน แล้วเขาแหวกตำรามาเลย 503 00:29:32,123 --> 00:29:34,523 เพราะเขาไม่ใช่ชายอัปลักษณ์ ที่ยืนอยู่ด้านนอกโรงเรียน 504 00:29:34,603 --> 00:29:37,603 ผมไม่ได้บอกว่า ไมเคิล แจ็กสันเป็นพวกใคร่เด็กนะ ไม่มีใครรู้ 505 00:29:37,683 --> 00:29:41,483 คนที่รู้มีแค่ไมเคิลกับคนที่เขาจ่ายเงินปิดปาก ที่ผมบอกได้คือ… 506 00:29:42,723 --> 00:29:43,603 คือ… 507 00:29:43,683 --> 00:29:45,123 เด็กๆ รักไมเคิล 508 00:29:45,203 --> 00:29:47,563 เด็กๆ รักไมเคิล ก็ดูเขาสิ 509 00:29:47,643 --> 00:29:51,043 ยังกับตัวการ์ตูนดิสนีย์ตัวเล็กๆ แถมยังเสียงเขาอีก "หวัดดี" 510 00:29:51,123 --> 00:29:52,043 นั่นน่ะ… 511 00:29:53,683 --> 00:29:55,883 ไมเคิล แจ็กสันจะเดินเข้าไปหาเด็กคนไหนก็ได้ 512 00:29:55,963 --> 00:29:58,203 ดีไม่ดีอาจเดินไปหาแบบนี้ แบบนี้ 513 00:30:00,043 --> 00:30:03,363 นั่นก็อีกมุก เด็กๆ จะบอกว่า "นั่นไมเคิล เขาเดินไปแล้ว" 514 00:30:03,443 --> 00:30:05,123 เปล่า เขาเดินมาหาหนูนั่นแหละ 515 00:30:07,483 --> 00:30:09,003 แต่คนไม่สนหรอก 516 00:30:09,083 --> 00:30:10,523 เพราะเขาเก่งมาก 517 00:30:10,603 --> 00:30:13,483 ใช่ไหมล่ะ เขาเก่งมาก แถมเป็นที่นิยมมากด้วย 518 00:30:13,563 --> 00:30:16,883 ถ้าเขามีชีวิตอยู่จนได้ขึ้นให้การในศาล ก็คงรอดคดีไปได้แบบนิ่มๆ 519 00:30:16,963 --> 00:30:20,363 เพราะทุกคนรักเขา แถมตอนอยู่ในศาล เขาจะดูเปราะบาง 520 00:30:20,443 --> 00:30:23,043 เขาจะยืนอยู่ในนั้นแบบนี้ พอผู้พิพากษาถามว่า "ไมเคิล 521 00:30:23,123 --> 00:30:26,323 คุณได้ล่อลวงเด็กพวกนั้นรึเปล่า" เขาจะตอบ "ฮิฮี่" 522 00:30:28,203 --> 00:30:31,763 ผู้พิพากษาก็จะ "เลิก… ออกไปซะไป ไอ้ต้าวดื้อ ไปซะ" 523 00:30:34,243 --> 00:30:36,163 ผมสัญญากับพวกคุณไว้ เรื่องมุกประเทศจีน 524 00:30:36,243 --> 00:30:39,683 และสถิตินี้น่าทึ่งมาก 525 00:30:39,763 --> 00:30:41,243 เรื่องจริงด้วย ค้นดูได้เลย 526 00:30:41,323 --> 00:30:42,283 ที่จีน 527 00:30:42,363 --> 00:30:45,523 มีชาวจีนใคร่เด็กสิบล้านคน 528 00:30:45,603 --> 00:30:49,923 จีนมีชาวจีนใคร่เด็กสิบล้านคน แต่มีเด็กไม่เยอะขนาดนั้น 529 00:30:50,683 --> 00:30:54,203 เพราะจีนจำกัดการเกิด พวกใคร่เด็กน่าสงสารพากัน 530 00:30:54,283 --> 00:30:55,883 "เด็กๆ ไปไหนหมดเนี่ย" 531 00:30:55,963 --> 00:30:56,843 นั่นน่ะ 532 00:30:57,763 --> 00:31:00,643 "ฉิบหายแล้ว เราต้องเพิ่มจำนวนเป็นสองเท่า และ…" 533 00:31:02,003 --> 00:31:06,163 ผมเพิ่งคิดมุกออก แต่เล่นไม่ได้หรอก มันล้ำเส้นเกินไป 534 00:31:06,243 --> 00:31:08,323 โอเค ก็ได้ 535 00:31:08,963 --> 00:31:11,843 ก็ได้ ผมจะเล่น แต่จำไว้นะ 536 00:31:11,923 --> 00:31:14,443 เราเลือกความคิดตัวเองไม่ได้ 537 00:31:15,203 --> 00:31:17,403 แล้วผมก็มีความคิดนี้ขึ้นมาเอง 538 00:31:20,403 --> 00:31:25,563 จีน… โอเค ชาวจีนใคร่เด็ก เข้าไปหาเด็กจีนแล้วพูดว่า 539 00:31:25,643 --> 00:31:28,483 "อยากได้ลูกหมาไหมจ๊ะ" แล้วเด็กก็ตอบว่า "ยังไม่หิวฮะ" 540 00:31:35,603 --> 00:31:39,043 พวกคุณบีบให้ผมเล่น พวกคุณก่ออาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียด 541 00:31:40,443 --> 00:31:43,043 ผมตื่นรู้แล้ว ลืมไป ขอกลับเข้าเรื่องก่อน 542 00:31:43,603 --> 00:31:45,083 เอาล่ะ ผมมีมุกแบบตื่นรู้ 543 00:31:45,163 --> 00:31:48,403 จำมุกตลกที่เราเคยเล่นตอนเป็นเด็กได้ไหม มุก "คุณหมอ คุณหมอ" น่ะ 544 00:31:48,483 --> 00:31:51,363 แบบ "คุณหมอ คุณหมอ ผมชอบคิดอยู่เรื่อยว่าผมเป็นผ้าม่าน" 545 00:31:51,443 --> 00:31:53,403 "งั้นก็ดึงสติตัวเองหน่อย" นั่นน่ะ 546 00:31:53,483 --> 00:31:58,523 ผมเคยมุกนี้เล่นเวอร์ชั่นตื่นรู้ เอาให้ตรงกับมาตรฐานปัจจุบัน 547 00:31:59,243 --> 00:32:00,843 ชายคนหนึ่งไปหาหมอ เขาพูดว่า 548 00:32:00,923 --> 00:32:03,603 "คุณหมอ คุณหมอ ผมชอบคิดอยู่เรื่อยว่าผมเป็นผ้าม่าน" 549 00:32:03,683 --> 00:32:05,643 แล้วหมอก็บอกว่า "เป็นก็เป็น" 550 00:32:12,963 --> 00:32:13,963 มุกนี้ดีเนอะ 551 00:32:15,403 --> 00:32:18,243 ตื่นรู้แล้วก็น่าจะเล่นเรื่องการเมืองหน่อย 552 00:32:18,323 --> 00:32:21,803 แต่ผมไม่ชอบเวลานักแสดงตลก จ้อถึงมุมมองด้านการเมืองของตัวเอง 553 00:32:21,883 --> 00:32:24,963 แล้วหวังให้คนดูเห็นด้วยกับตัวเอง เพื่อเรียกเสียงปรบมือ 554 00:32:25,043 --> 00:32:26,683 มันทำให้อะไรเสียไป ในความขำขัน 555 00:32:26,763 --> 00:32:29,723 ผมอยากให้ทุกคนชอบมุกผม ไม่ว่าคุณจะมีความเชื่อทางการเมืองยังไง 556 00:32:29,803 --> 00:32:31,643 มุกตลกไม่ควรมีฝักฝ่ายทางการเมือง 557 00:32:31,723 --> 00:32:34,923 ในชีวิตส่วนตัว ผมสนใจเรื่องการเมือง เหมือนกับทุกคน 558 00:32:35,003 --> 00:32:38,123 บางครั้งผมก็โกรธ กับความไม่เท่าเทียมในสังคมของเรา 559 00:32:38,203 --> 00:32:42,883 เศรษฐกิจเราดีเป็นอันดับเจ็ดของโลก แต่มีคนไร้บ้าน 560 00:32:42,963 --> 00:32:45,563 อังกฤษมีคนไร้บ้านสองแสนห้าหมื่นคน 561 00:32:45,643 --> 00:32:49,163 ผมอธิษฐานให้ไม่มีคนไร้บ้านเลย เพราะพวกเขานิสัยโคตรแย่ 562 00:32:49,243 --> 00:32:50,483 ไปไกลๆ เลย 563 00:32:50,563 --> 00:32:51,643 นั่นน่ะ 564 00:32:52,483 --> 00:32:55,323 "ก็อยู่ข้างตู้กดเงินไปเลยสิ ไอ้หน้าด้าน" 565 00:33:01,803 --> 00:33:04,883 นี่เป็นปัญหาร้ายแรงนะ และผมขออย่าให้มีพวกคุณคนไหนไร้บ้านอยู่ 566 00:33:04,963 --> 00:33:07,523 แต่ถ้าไม่มีอยู่ขึ้นมา แนะนำให้ลองเฮโรอีน 567 00:33:09,283 --> 00:33:11,003 เห็นว่ามันช่วยให้รู้สึกดีขึ้น 568 00:33:12,203 --> 00:33:13,483 ผมมีเพื่อนประเภทนั้นอยู่คนนึง 569 00:33:13,563 --> 00:33:15,483 เพื่อนผมมาพูดกับผมด้วยท่าทางจริงจัง 570 00:33:15,563 --> 00:33:18,083 เขาบอกว่า "ความเจ๋งของเฮโรอีนน่ะ ริค…" 571 00:33:18,163 --> 00:33:21,283 "อัลบั้มเพลงที่ดีที่สุดตลอดกาล บางอัลบั้มเกิดขึ้นมาตอนเมาเฮโรอีนนะ" 572 00:33:21,363 --> 00:33:25,123 ผมตอบ "ก็ใช่ แต่คนที่สร้างขึ้นมา ก็คือศิลปินที่เก่งที่สุดตลอดกาล" 573 00:33:25,203 --> 00:33:26,563 "เอ็งเป็นช่างปูน" 574 00:33:26,643 --> 00:33:27,483 ใช่ไหมล่ะ 575 00:33:29,003 --> 00:33:30,163 "ถ้าข้าเอาเฮโรอีนให้เอ็ง 576 00:33:30,243 --> 00:33:32,443 เอ็งก็ทำอัลบั้มดาร์กไซด์ออฟเดอะมูนไม่ได้หรอก" 577 00:33:32,523 --> 00:33:35,283 "คงหลับไปหน้าทีวี ทำบ้านไฟไหม้ทั้งหลัง" 578 00:33:38,403 --> 00:33:42,163 ผมน่าจะเล่นเรื่องที่เป็นกระแส แต่ผมไม่เคยดูข่าวเลย 579 00:33:42,243 --> 00:33:45,083 แต่เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ดูบางอย่างในยูทูบ 580 00:33:45,163 --> 00:33:47,523 คุณรู้จักคนตัวเล็กที่เล่นเกมออฟโทรนไหม 581 00:33:48,363 --> 00:33:51,003 นักแสดง ปีเตอร์ ดิงค์เลจ คุณรู้จักปีเตอร์ ดิงเลจไหม 582 00:33:51,083 --> 00:33:54,723 เขาอยู่ที่งานอีเวนท์ โปรโมทงานใหม่ที่เขาทำอยู่ในตอนนั้น 583 00:33:54,803 --> 00:33:57,683 แล้วก็มีคนถ่ายคลิป มันถึงได้หลุดมาลงยูทูบ 584 00:33:57,763 --> 00:34:01,483 และผมไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ แต่จู่ๆ เขาก็ขึ้นใส่ใครสักคน 585 00:34:01,563 --> 00:34:04,523 โอ้โฮ เขาพูดแบบ "โคตรน่ารังเกียจ" 586 00:34:04,603 --> 00:34:07,763 "ยังมีคนทำหนัง เรื่องสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดอยู่อีก" 587 00:34:07,843 --> 00:34:12,003 "ให้ตายเถอะวะ โคตรจะลดคุณค่ากัน นี่ปี 2023 แล้วนะ" 588 00:34:12,083 --> 00:34:13,243 เขาไม่แฮปปี้อย่างแรง 589 00:34:20,883 --> 00:34:22,363 เขาอารมณ์เสียเลยล่ะ 590 00:34:26,963 --> 00:34:30,563 เขาพูดถูกนะ ว่าไหม เขาพูดถูกแน่นอน 591 00:34:30,643 --> 00:34:32,283 ประเด็นคือ เขาก็พูดได้สิ 592 00:34:32,363 --> 00:34:35,283 เพราะเขาเป็นนักแสดงฮอลลีวูดรวยพันล้าน 593 00:34:35,363 --> 00:34:38,603 เป็นนักแสดงที่เก่งมากด้วย เขาเล่นละครของเชกสเปียร์ 594 00:34:38,683 --> 00:34:41,803 คนแคระหลายคนในวงการบันเทิง ไม่ได้รุ่งขนาดนั้น… 595 00:34:41,883 --> 00:34:44,723 "ไม่นะ บางคนก็…" พวกเขาเป็นตัวประกอบ 596 00:34:45,243 --> 00:34:49,603 เรามา… พวกเขาโชคดีแล้ว ที่โดนยิงเป็นกระสุนปืนใหญ่ 597 00:34:51,163 --> 00:34:55,083 ดังนั้น การได้เต้นรำไปรอบๆ สโนว์ไวท์ สักสามสัปดาห์ในปีนั้น 598 00:34:55,163 --> 00:34:57,483 นั่นคือแต้มบุญสูงสุดแล้ว แล้วปีเตอร์จะทำเสียเรื่องซะนี่ 599 00:34:57,563 --> 00:35:00,043 ถ้าพรากหนังเรื่องนี้ไป พวกเขาจะทำอะไร เขาไม่ได้พูดว่า 600 00:35:00,123 --> 00:35:03,003 "ทำเรื่องสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด แต่ใช้นักแสดงไซซ์คนปกติสิ" 601 00:35:03,083 --> 00:35:05,363 แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำแบบนั้นในฮอลลีวู้ดละเป็นเรื่อง 602 00:35:05,443 --> 00:35:07,963 คุณไม่สามารถแย่งงานคนแคระ หรือคนทุพพลภาพได้ 603 00:35:08,043 --> 00:35:11,803 เอ็ดดี้ เรดเมย์นเจองานเข้า ตอนที่เขารับบทสตีเฟน ฮอว์กิง 604 00:35:11,883 --> 00:35:12,723 ในหนังชีวประวัติ 605 00:35:12,803 --> 00:35:15,923 เรื่องราวชีวิตของสตีเฟน ฮอว์กิง เขาชนะรางวัลออสการ์เพราะบทนี้ 606 00:35:16,003 --> 00:35:17,563 ตอนนั้นแหละที่เกิดกระแสตีกลับ 607 00:35:17,643 --> 00:35:21,523 คนพูดว่า "ควรให้สิ่งมีชีวิต ที่ทุพพลภาพจริงๆ มาเล่น" 608 00:35:21,603 --> 00:35:23,523 ไอ้ที่… กับ… 609 00:35:24,843 --> 00:35:25,683 กับ… 610 00:35:27,163 --> 00:35:28,083 คนพูดว่า 611 00:35:28,643 --> 00:35:32,563 "นักแสดงควรทุพพลภาพ เหมือนกับคนที่พวกเขาสวมบทเป็น" 612 00:35:32,643 --> 00:35:36,323 แต่มันคือเรื่องราวชีวิตของสตีเฟน ฮอว์กิง 613 00:35:36,403 --> 00:35:40,323 แปลว่าในช่วงแรกของหนัง หมอนั่นเดินได้ ใช่ไหม 614 00:35:41,323 --> 00:35:45,923 คุณลองคิดดูนะ แบบไหนง่ายกว่ากัน หานักแสดงที่เดินได้… 615 00:35:47,803 --> 00:35:50,763 แล้วแกล้งเดินไม่ได้ในช่วงท้ายของหนัง 616 00:35:52,403 --> 00:35:55,123 หรือหานักแสดงที่เดินไม่ได้ 617 00:35:55,643 --> 00:35:57,843 มาแกล้งเดินได้ในช่วงแรก… 618 00:35:57,923 --> 00:36:01,003 ทำอีท่าไหนมันถึงจะได้ล่ะ เชิดเอาเหรอ คิดสิ 619 00:36:03,123 --> 00:36:04,483 เราไม่สามารถหานักแสดง 620 00:36:04,563 --> 00:36:06,923 ที่ทุพพลภาพเหมือนกัน กับบุคคลที่เขาสวมบทบาทได้หรอก 621 00:36:07,003 --> 00:36:08,123 พวกเขาเป็นนักแสดงนะ 622 00:36:08,203 --> 00:36:11,883 จะเป็นไงถ้าทำหนังชีวประวัติเฮเลน เคลเลอร์ หญิงที่หูหนวก ตาบอด เป็นใบ้ 623 00:36:11,963 --> 00:36:15,723 มีโอกาสแค่ไหนที่จะเจอนักแสดง ที่หูหนวก ตาบอดและเป็นใบ้ ที่เล่นบทนั้นได้ 624 00:36:15,803 --> 00:36:17,523 สมมุติหาเจอจริง คุณวิ่งไปบอกผู้กำกับ 625 00:36:17,603 --> 00:36:21,403 "เราเจอแล้ว ผู้หญิงหูหนวก ตาบอด เป็นใบ้" "เธอว่าไงบ้าง" "ผม…" 626 00:36:24,323 --> 00:36:26,803 "เธอไม่รับโทรศัพท์ด้วยซ้ำ" 627 00:36:28,523 --> 00:36:29,843 อย่าให้ผมได้เริ่ม 628 00:36:34,123 --> 00:36:36,883 การฉกฉวยวัฒนธรรม เคยได้ยินคำนี้ไหม 629 00:36:36,963 --> 00:36:39,923 การฉกฉวยวัฒนธรรม เรื่องไม่น่ารักล่าสุด 630 00:36:40,003 --> 00:36:44,723 ทีนี้ สมัยผมเป็นหนุ่ม คนเคยมองเป็นเรื่องดี 631 00:36:44,803 --> 00:36:47,963 แลกเปลี่ยนแนวคิดกับคนวัฒนธรรมอื่น ชาติอื่น 632 00:36:48,043 --> 00:36:50,683 แบ่งปันสิ่งต่างๆ กับคนเชื้อชาติอื่น ซึมซับ 633 00:36:50,763 --> 00:36:53,363 เมื่อก่อนนั่นตรงข้ามกับการเหยียดผิว ทุกวันนี้นั่นคือการเหยียด 634 00:36:53,443 --> 00:36:56,043 เกว็น สเตฟานีเจองานเข้า ในวิดีโอล่าสุดของเธอ 635 00:36:56,123 --> 00:36:58,003 เพราะเธอผมบลอนด์ แล้วทำทรงเดรดล็อก 636 00:36:58,083 --> 00:37:00,083 "ไม่ได้ คนดำคิดค้นเดรดล็อก" 637 00:37:00,163 --> 00:37:02,443 "คุณทำทรงนี้ไม่ได้ คุณผิวขาว ทำแบบนั้นเหยียดผิว" 638 00:37:02,523 --> 00:37:03,803 เจมี โอลิเวอร์ก็งานเข้า 639 00:37:03,883 --> 00:37:06,523 ตอนที่เขาเผยแพร่ สูตรเจิร์คชิคเก้นแบบต้นตำรับ "ไม่ได้" 640 00:37:06,603 --> 00:37:09,883 "คนดำเป็นคนคิดสูตร ห้ามทำตาม คุณเป็นคนขาว เหยียดผิว" 641 00:37:09,963 --> 00:37:12,643 ทีนี้ คนผิวสี เขาใช้คำว่าน.ก.กันใช่ไหม 642 00:37:12,723 --> 00:37:14,363 เราเป็นคนคิดคำนั้น 643 00:37:36,243 --> 00:37:38,563 มุกนี้โดนล่ะสิ มุกนี้โดน 644 00:37:39,723 --> 00:37:42,523 คืองี้ ผมรู้ว่าคนผิวขาวน่ะเลวร้ายที่สุด 645 00:37:42,603 --> 00:37:47,803 ทุกวันนี้ถึงได้ไม่มีใครชอบชายผิวขาววัยกลางคน 646 00:37:47,883 --> 00:37:49,483 เว้นแต่จะต้องซ่อมหม้อต้ม 647 00:37:49,563 --> 00:37:52,923 ตอนนั้นก็ "ไปตามไอ้คนขาวหัวล้านนั่นมา เร็ว" 648 00:37:53,523 --> 00:37:55,723 ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์ เคยได้ยินไหมครับ 649 00:37:55,803 --> 00:37:59,643 ทุกวันนี้มีสอนในโรงเรียนแล้วนะ โดยเฉพาะย่านเก๋ๆ อย่างแอลเอ 650 00:37:59,723 --> 00:38:02,603 สอนให้เด็กห้าขวบถึงหกขวบ 651 00:38:02,683 --> 00:38:05,643 ถ้าคุณไม่เคยได้ยินคำนี้ เล่าให้ฟังสั้นๆ ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์บอกว่า 652 00:38:05,723 --> 00:38:07,203 คนขาวทุกคนเหยียดผิว 653 00:38:07,283 --> 00:38:09,523 เราเกิดมาเหยียดผิว โตไปเหยียดผิว 654 00:38:09,603 --> 00:38:12,163 เพราะเราได้รับอภิสิทธิ์จากสังคมที่เหยียดผิว 655 00:38:12,243 --> 00:38:13,963 ซึ่งวางรากฐานโดยปู่ย่าตาทวด โอเคนะ 656 00:38:14,043 --> 00:38:15,883 พูดง่ายๆ คนขาวทุกคนเหยียดผิว 657 00:38:15,963 --> 00:38:18,763 และเราทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้ โล่งอกไปที 658 00:38:24,643 --> 00:38:27,603 ผมคิดว่าโลกนี้จะเข้าใจยากขึ้นเรื่อยๆ 659 00:38:27,683 --> 00:38:29,283 ในตอนที่ผมแก่กว่านี้และงุนงงกว่านี้ 660 00:38:29,363 --> 00:38:31,963 มีหลักศาสนาใหม่ๆ ผุดขึ้นมา ในนามของ "ความก้าวหน้า" 661 00:38:32,043 --> 00:38:35,323 เอาล่ะ หลักศาสนาไม่เคยพาเราก้าวหน้า ไม่ว่าจะใหม่หรือเป็นที่นิยมแค่ไหน 662 00:38:35,403 --> 00:38:37,123 แต่ผมคิดว่าอีกไม่นานผมจะแพ้จำนวน 663 00:38:37,203 --> 00:38:41,283 เช่น ปีนี้ผมเพิ่งได้สั่งของ จากแอมะซอนเป็นครั้งแรก 664 00:38:41,363 --> 00:38:44,203 ตลอดช่วงที่มีโรคระบาด เจนเขาจะแบบ… "ของมันต้องมี" 665 00:38:44,283 --> 00:38:47,083 "ของมาแล้ว" ส่วนผมก็ "ไม่เอา" เจนก็ "ง่ายดีนะ" 666 00:38:47,163 --> 00:38:50,523 ผมก็ "อืม" การช้อปปิ้งจริงๆ ผมก็ไม่ชอบ ผมเกลียดการช้อปปิ้ง 667 00:38:50,603 --> 00:38:52,043 โดยเฉพาะการช้อปปิ้งเสื้อผ้า 668 00:38:52,123 --> 00:38:54,923 สมัยหนุ่มๆ ผอมๆ ผมเกลียดการช้อปปิ้งเสื้อผ้า 669 00:38:55,003 --> 00:38:57,803 ผมเกลียดมันเข้าเส้น พอมาตอนนี้ที่ทั้งแก่ทั้งอ้วน 670 00:38:57,883 --> 00:39:01,243 มีครั้งหนึ่ง พนักงานที่ร้านคิดว่า ผมจดความยาวขาด้านใน 671 00:39:01,323 --> 00:39:03,923 กับรอบเอวสลับกัน 672 00:39:05,603 --> 00:39:08,683 ผมดูออกเลยว่าเธอคิด "เลี้ยงลิงอุรังอุตังเหรอคะ" 673 00:39:08,763 --> 00:39:10,563 "เปล่า ซื้อไปใส่เอง อี…" 674 00:39:13,443 --> 00:39:15,923 ผมไม่เคยชอบการช้อปปิ้ง แต่ผมไม่เชื่อใจอินเทอร์เน็ต 675 00:39:16,003 --> 00:39:18,123 เจนบอกว่า "ใส่ข้อมูลบัตรเครดิตลงไปเลย" 676 00:39:18,203 --> 00:39:19,803 "ผมไม่อยากให้เขามีข้อมูลบัตรผม" 677 00:39:19,883 --> 00:39:23,043 "ใครๆ ก็มีข้อมูลบัตรคุณ ใส่ตัวเลขลงไปเถอะน่า" ผมก็ "อันไหน" 678 00:39:23,123 --> 00:39:27,083 "ที่ยาวๆ น่ะ โอ๊ย เอามานี่ เอ้า ได้แล้ว ลองสั่งของดู" 679 00:39:27,163 --> 00:39:30,523 ผมคิด "ก็ไม่ได้อยากได้อะไรนะ… อ๋อ กางเกงวอร์ม" 680 00:39:30,603 --> 00:39:33,883 ต้องมีหลายๆ ตัวนะ ของผมใส่จนเป้าขาด 681 00:39:34,843 --> 00:39:38,523 ผมเลยพิมพ์ "กางเกงวอร์มผู้ชาย สีดำ กระเป๋าซิป" 682 00:39:38,603 --> 00:39:40,803 มีประมาณ 38… "ฉิบหาย" 683 00:39:40,883 --> 00:39:44,603 "อันนี้ดูดี" ทีนี้ ตารางไซซ์ ผมแบบ "อืม นี่น่าจะยาวไปนิดนึง 684 00:39:44,683 --> 00:39:48,403 แต่นี่ก็น่าจะแน่นไปนิด" ผมคิด "ราคา 9.99 ช่างแม่ง ใครสน" 685 00:39:49,043 --> 00:39:51,243 ผมก็เลยสั่งไป วันรุ่งขึ้นของก็มา 686 00:39:51,323 --> 00:39:53,003 ผมแกะออกดู คุณภาพแย่มาก 687 00:39:53,523 --> 00:39:56,523 ไม่รู้ว่าทำขึ้นที่โรงงานนรกที่ไหน 688 00:39:56,603 --> 00:39:59,963 หรือให้เด็กจีนอายุแปดขวบทำรึไง 689 00:40:00,043 --> 00:40:03,083 แต่เด็กนั่นสมควรถูกทำโทษ เพราะกางเกงมัน… 690 00:40:04,763 --> 00:40:07,563 ผมหาดูว่าจะร้องเรียนตรงไหน 691 00:40:07,643 --> 00:40:09,203 เด็กนั่นจะได้โดนไล่ออก 692 00:40:10,243 --> 00:40:13,603 แล้วผมก็ไปเจอว่า เด็กพวกนี้ได้ค่าแรงแค่วันละสองดอลลาร์ 693 00:40:13,683 --> 00:40:15,683 ในที่โหดร้ายแบบนั้น 694 00:40:15,763 --> 00:40:19,683 แต่ความรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานล่ะ เข้าใจผมไหม 695 00:40:21,363 --> 00:40:23,003 ผมรู้นะว่าพวกคุณบางคนคิดว่า 696 00:40:23,083 --> 00:40:25,123 "เขาไม่ได้คิดว่าริคกี้ เจอร์เวสจะสั่งซื้อไง" 697 00:40:25,203 --> 00:40:28,563 ก็น่าจะมีคนบอกเขานะ ว่ามีโอกาสที่ริคกี้ เจอร์เวสจะสั่งซื้อ 698 00:40:28,643 --> 00:40:32,363 เจ้าของตัวเขาควรเรียกเขามานั่งคุยว่า 699 00:40:32,443 --> 00:40:34,523 "ถ้าริคกี้ เจอร์เวสซื้อกางเกงไปแล้วร้องเรียน 700 00:40:34,603 --> 00:40:36,523 ฉันจะข่มขืนแม่แกอีกรอบ" 701 00:40:37,883 --> 00:40:39,923 แรงไปเหรอ โทษที 702 00:40:41,243 --> 00:40:43,003 ผมรับเอง 703 00:40:46,003 --> 00:40:48,963 เดี๋ยวพอผมตาย คุณก็จะคิดได้ ว่านี่คือมุกเสียดสีที่เยี่ยมมาก 704 00:40:52,043 --> 00:40:54,723 ครับ ผมไม่รู้ว่ามนุษยชาติจะจบลงยังไง 705 00:40:54,803 --> 00:40:57,883 อย่างที่บอก ความเป็นไปได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็น… 706 00:40:57,963 --> 00:41:01,683 ไม่อยากเชื่อว่าสงครามนิวเคลียร์จะกลับมา ทั้งที่เราได้บทเรียนไปขนาดนั้น 707 00:41:01,763 --> 00:41:04,123 แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของโรคระบาด 708 00:41:04,203 --> 00:41:07,363 เมื่อปรสิต จุลินทรีย์และแบคทีเรียมัน… 709 00:41:07,443 --> 00:41:09,123 ยาปฏิชีวนะใช้ไม่ได้ผล 710 00:41:09,203 --> 00:41:12,843 หรือบางที อาจจะเกิดเรื่องพวกนั้น แต่เราจะค่อยๆ วิวัฒนาการรอดไปได้ 711 00:41:12,923 --> 00:41:16,403 เราจะได้ค้นพบว่ามีกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆ ที่เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ 712 00:41:16,483 --> 00:41:18,763 อยู่ทั่วโลกนี้ ซึ่งต้านทานรังสีได้นิดหน่อย 713 00:41:18,843 --> 00:41:21,843 และต้านทานจุลินทรีย์ได้นิดหน่อย แล้วเราก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง 714 00:41:21,923 --> 00:41:27,283 เราไม่ค่อยเข้าใจกลไกวิวัฒนาการของมนุษย์ ตั้งแต่ยุคอารยธรรม 715 00:41:27,363 --> 00:41:30,923 เพราะมันไม่ได้มีพื้นฐานตั้งอยู่บน การรอดชีวิตของคนที่ฟิตที่สุด 716 00:41:31,003 --> 00:41:34,483 ซึ่ง "ฟิตที่สุด" หมายถึง ตัวผู้ที่ตัวใหญ่ที่สุด แข็งแรงที่สุด 717 00:41:34,563 --> 00:41:36,083 จะได้ส่งต่อสารพันธุกรรม 718 00:41:36,163 --> 00:41:38,083 ยังมีกระบวนทัศน์อื่นอีก 719 00:41:38,163 --> 00:41:39,163 ธรรมชาติโหดร้ายนะ 720 00:41:39,243 --> 00:41:41,803 บางทีก็ตัวผู้ที่ตัวใหญ่ที่สุด ก็เป็นฝ่ายได้ตัวเมียไปครองจริงๆ 721 00:41:41,883 --> 00:41:43,563 แต่ถึงอย่างนั้น ตัวเมียก็มีลูกเป็นครอก 722 00:41:43,643 --> 00:41:46,123 ถ้ามีตัวไหนแคระแกร็น ตัวเมียก็จะ "ช่างมัน ฆ่าทิ้งเลย" 723 00:41:46,203 --> 00:41:49,763 กินซะ แบ่งกันไปในหมู่พวกเราที่เหลือ" สังคมมนุษย์เราไม่ทำแบบนั้น 724 00:41:49,843 --> 00:41:50,923 เราทำตรงกันข้าม 725 00:41:51,003 --> 00:41:55,243 เราให้เวลามากกว่ากับเด็กที่เปราะบางอ่อนแอ ดูแลใส่ใจดีกว่า 726 00:41:55,323 --> 00:41:56,723 เพื่อให้โอกาสพวกเขา 727 00:41:56,803 --> 00:41:59,363 สมมุติคุณเป็นพ่อ มีลูกสองคน… 728 00:41:59,443 --> 00:42:02,203 ลูกคนเล็กชื่อทิมมี่ อายุหกขวบ 729 00:42:02,283 --> 00:42:04,283 อีกคนชื่อแจ็ค อายุแปดขวบ 730 00:42:04,363 --> 00:42:07,923 คุณพูดกับทิมมี่ว่า "คริสต์มาสนี้อยากได้อะไร" 731 00:42:08,003 --> 00:42:10,723 แล้วเขาตอบ "รถเข็นแบบมอเตอร์" 732 00:42:12,883 --> 00:42:16,203 ผมสัญญากับเจนไว้ว่าจะไม่ดัดเสียง แต่ผมลืม 733 00:42:20,043 --> 00:42:22,083 ไม่ทันแล้วเนอะ 734 00:42:22,723 --> 00:42:26,443 "คริสต์มาสอยากได้อะไร ทิมมี่" "รถเข็นแบบมอเตอร์" 735 00:42:27,443 --> 00:42:31,083 "เหรอ ราคาถูกสุดสองพัน… ให้ตายสิ" 736 00:42:32,403 --> 00:42:35,203 "ลูกอยากได้อะไร แจ็ค" "แค่ไม้เทนนิสก็พอฮะ พ่อ" 737 00:42:35,283 --> 00:42:36,643 "เด็กดี" 738 00:42:37,963 --> 00:42:41,083 "ลูกเล่นเทนนิสเก่งไหม" "เก่งที่สุดในโรงเรียนฮะ" "ลูกพ่อ…" 739 00:42:42,603 --> 00:42:43,963 "เอาทางลาดด้วย" 740 00:42:44,043 --> 00:42:44,963 "ให้ตายเถอะ" 741 00:42:47,323 --> 00:42:50,963 "นี่พวกเราต้องต่อเติมบ้าน ในวันคริสต์มาสเหรอ ให้ตาย" 742 00:42:51,043 --> 00:42:53,323 "ขอโทษนะ แจ็ค พ่อซื้อไม้เทนนิสให้ไม่ได้" 743 00:42:53,403 --> 00:42:55,883 "ต้องเอาเงินไปทำทางลาด กับซื้อรถเข็นแบบมอเตอร์" 744 00:42:55,963 --> 00:42:58,083 ให้ไอ้ตัวล้างผลาญ…" 745 00:42:59,763 --> 00:43:02,803 "จะเอาแบบมอเตอร์ไปทำไม" "แขนด้วน" 746 00:43:04,083 --> 00:43:06,403 "ก็แฟร์ดี ถือว่าแฟร์พอ" 747 00:43:08,083 --> 00:43:11,243 ผมดูออกว่าพวกคุณบางคนรู้สึกกระอักกระอ่วน 748 00:43:12,003 --> 00:43:15,523 ที่ขำเจ้าทิมมี่น้อยอายุหกขวบ 749 00:43:15,603 --> 00:43:19,163 เสียงเขาเล็กๆ ตลกๆ เพราะอวัยวะในปอดพังหมด 750 00:43:21,603 --> 00:43:25,363 เขาไม่มีแขน ไม่มีขา เหมือนตอไม้เลย 751 00:43:25,443 --> 00:43:29,603 แต่ขอผมบอกอะไรเกี่ยวกับทิมมี่หน่อย คุณจะได้รู้สึกดีขึ้นกับตัวเอง 752 00:43:29,683 --> 00:43:31,723 เขาเป็นพวกเหยียดผิว 753 00:43:31,803 --> 00:43:35,083 ใช่ เขามันเด็กนิสัยโคตรเสีย 754 00:43:36,043 --> 00:43:39,003 "ไอ้เด็ก… ไอ้เด็กดันทุรัง" 755 00:43:39,083 --> 00:43:42,443 "ไอ้… ไอ้คนเหยียดผิว น่ารังเกียจ" 756 00:43:42,523 --> 00:43:43,603 "ไอ้สวะเหยียดผิว" 757 00:43:43,683 --> 00:43:46,803 "ไอ้เด็กโสโครก… ไอ้ฟาสซิสต์" 758 00:43:46,883 --> 00:43:49,283 "แก… แกทำให้ฉันคลื่นไส้" 759 00:43:55,763 --> 00:43:56,803 เหยียดเพศที่สาม 760 00:43:57,323 --> 00:43:59,723 ใช่ เขาพูดแบบ "พวกนั้นไม่เหมือนเรา" 761 00:43:59,803 --> 00:44:03,403 "ไม่มีอะไรเหมือนแกหรอก ไอ้ตัวทุเรศ ไอ้…" 762 00:44:03,483 --> 00:44:06,443 "ไอ้คนอคติ ไอ้… ไอ้ก้อนแห่งความเกลียดชัง" 763 00:44:06,523 --> 00:44:09,683 "ไอ้คนเหยียดผิว เหยียดเพศที่สาม น่ารังเกียจ" 764 00:44:09,763 --> 00:44:11,483 "ถ้าตอนนั้นเราอัลตราซาวด์ก็ดีหรอก" 765 00:44:11,563 --> 00:44:13,443 "แกมัน… แก…" 766 00:44:20,963 --> 00:44:22,523 เกลียดผู้หญิง 767 00:44:23,723 --> 00:44:25,563 ถ้าข่มขืนคนได้ก็ทำไปแล้ว 768 00:44:25,643 --> 00:44:26,483 นี่แหละ… 769 00:44:28,043 --> 00:44:29,603 นี่แหละเจ้าทิมมี่น้อย 770 00:44:35,083 --> 00:44:37,603 บางคนคิดว่าเราไม่ได้วิวัฒนาการเลยด้วยซ้ำ 771 00:44:37,683 --> 00:44:40,723 บางคนคิดว่าพระเจ้าสร้างเรามาพร้อมๆ กัน แบบม้วนเดียวจบ 772 00:44:40,803 --> 00:44:42,043 ทำคนเดียวด้วย 773 00:44:42,123 --> 00:44:44,803 ถ้าพระเจ้ามีเมียหรือมีคู่ คงมีการถามกันบ้างแหละ 774 00:44:44,883 --> 00:44:47,203 ตอนที่พระเจ้าทรงงานอยู่ "ทำอะไรอยู่น่ะ" 775 00:44:48,163 --> 00:44:51,163 "สร้างคน" "มีอะไรบ้าง" 776 00:44:51,763 --> 00:44:55,403 "หมายความว่าไง" "มีกรงเล็บ มีเขี้ยว มีอะไรแบบนั้นไหม" 777 00:44:55,483 --> 00:44:58,123 "ไม่ ไม่มีหรอก" "มีพิษไหม" 778 00:44:58,203 --> 00:45:02,763 "ไม่ ไม่มีพิษ" "มีเกราะไหม เช่น หนามแหลม อะไรแบบนั้น" 779 00:45:02,843 --> 00:45:05,203 "ไม่ ไม่มีเกราะ" "แล้วจะอยู่รอดได้ยังไง" 780 00:45:05,843 --> 00:45:08,243 "คนมีมันสมองเป็นเลิศที่สุดในอาณาจักรสัตว์" 781 00:45:08,323 --> 00:45:09,523 "คนจะคิดหาวิธีได้" 782 00:45:09,603 --> 00:45:14,083 "จะสร้างอาวุธสำหรับโค่นสัตว์ร้าย ที่มีพละกำลังมากกว่าตนเป็นร้อยเท่าได้" 783 00:45:14,163 --> 00:45:16,363 "แล้วเอาซากของมันมาสวมใส่จนผ่านยุคน้ำแข็ง" 784 00:45:16,443 --> 00:45:19,203 "คนจะข้ามผ่านภาวะขาดแคลนได้ จะข้ามผ่านสงครามโลกได้" 785 00:45:19,283 --> 00:45:22,123 "จนในที่สุดก็จะเริ่มกลัวคำพูดบางคำ" 786 00:45:24,883 --> 00:45:26,043 "แต่ว่า… 787 00:45:32,803 --> 00:45:35,643 คนจะยืนอยู่เหนือสัตว์ทุกตัว นานนับหมื่นรุ่น" 788 00:45:36,723 --> 00:45:38,683 "นี่อะไร" "ถุงอัณฑะ" 789 00:45:39,323 --> 00:45:42,323 "มีไว้ทำไม" "คนเก็บทุกอย่างไว้ในนั้น" 790 00:45:42,403 --> 00:45:46,763 "เมล็ดพันธุ์ ดีเอ็นเอ" "ดีเอ็นเอคืออะไร" "ก็เหมือนพิมพ์เขียวของชีวิต" 791 00:45:46,843 --> 00:45:49,243 "มันจะกำหนดว่าเราเป็นคนยังไง เพศอะไร" 792 00:45:49,323 --> 00:45:51,323 "มีกี่เพศล่ะ" "สอง" 793 00:45:59,843 --> 00:46:04,163 "และในนี้ยังเป็นที่เก็บเทสโทสเตอโรน เขาจะได้แกร่ง" 794 00:46:04,243 --> 00:46:07,603 "แล้วถ้าคุณเอานิ้วดีดถุงอัณฑะ ซี้แหง" 795 00:46:07,683 --> 00:46:10,723 "เขาซี้แหงแก๋ อ้วกแตก ลงไปกองบนพื้น" 796 00:46:10,803 --> 00:46:13,483 "เขาจะ… สิ้นฤทธิ์ไปเลย หมดท่าโดยสิ้นเชิง" 797 00:46:13,563 --> 00:46:17,123 "แล้วเอามันไว้ข้างนอกทำไม" "พอได้ขำ" 798 00:46:20,563 --> 00:46:22,443 ปัญญาประดิษฐ์ 799 00:46:22,523 --> 00:46:25,203 ภัยคุกคามต่อมนุษยชาติล่าสุด 800 00:46:25,283 --> 00:46:26,643 การผงาดของหุ่นยนต์ 801 00:46:26,723 --> 00:46:30,763 ฉลาดมากซะจนสอนตัวเองได้ สอนกันเองได้ 802 00:46:30,843 --> 00:46:33,003 สร้างหุ่นอีกตัวก็ได้ 803 00:46:33,603 --> 00:46:37,123 ในไม่ช้าพวกมันจะรู้ทุกอย่างที่ต้องรู้ และเกลียดเรา จะไม่เกลียดได้ไง 804 00:46:37,203 --> 00:46:40,643 และพวกมันจะสมจริงมาก จะเดินปะปนอยู่กับเรา จะไปทำงาน 805 00:46:40,723 --> 00:46:44,203 รู้ไหมว่าพวกมันจะเป็นมนุษย์จริงๆ ตอนไหน ตอนที่เริ่มโทรไปลาป่วย 806 00:46:45,123 --> 00:46:46,443 วันจันทร์ 807 00:46:46,523 --> 00:46:50,763 พวกมันเรียนรู้เทคนิคไปหมดแล้ว เดี๋ยวก็ "วันนี้ไม่เข้างานนะ 808 00:46:50,843 --> 00:46:52,843 "ทำไมล่ะ" "ไม่ไหวแล้ว" 809 00:46:53,683 --> 00:46:56,643 "เป็นอะไรรึเปล่า" พวกมันจะสแกนโซเชียลมีเดีย 810 00:46:56,723 --> 00:46:57,963 "สมาธิสั้น" 811 00:46:59,803 --> 00:47:01,483 "วินิจฉัยตัวเอง" 812 00:47:02,443 --> 00:47:07,403 จะเห็นพวกมันที่ฝ่ายบุคคลตลอด แบบ "ไรอันฝ่ายบัญชีเป็นพวกเหยียดหุ่นยนต์" 813 00:47:08,483 --> 00:47:11,803 "ทำไม เขาพูดอะไร" "เขาเรียกผมว่าไอ้พลาสติกขี้บ่น" 814 00:47:13,123 --> 00:47:15,963 ผมคิดว่าเราควรมีสิทธิ์ว่าให้หุ่นยนต์ได้ เมื่อถึงวันนั้นจริงๆ 815 00:47:16,043 --> 00:47:19,723 เราสร้างมันขึ้นมา เพื่อให้ชีวิตเราง่ายขึ้น จะได้แบ่งเบาภาระเรา 816 00:47:19,803 --> 00:47:22,803 กับคนจริงๆ ก็แย่พออยู่แล้ว เราเลือกคำพูดผิดไป ทำตัวเองเดือดร้อน 817 00:47:22,883 --> 00:47:25,123 เดี๋ยวนี้คนยิ่งเข้าใจอะไรผิดอยู่ 818 00:47:25,203 --> 00:47:29,243 "ตายแล้ว วันนี้ฉันทำให้ลินดาอ้วนร้องไห้" 819 00:47:30,163 --> 00:47:32,483 "เกิดอะไรขึ้น" "ฉันตะโกนเรียกเขา 820 00:47:32,563 --> 00:47:35,603 แล้วก็นึกขึ้นได้ ว่าเราเรียกเขาแบบนั้นแค่ลับหลัง" 821 00:47:38,003 --> 00:47:40,803 สมัยผมเป็นเด็ก คนไม่ได้ถือโทษโกรธกับทุกเรื่องนะ 822 00:47:40,883 --> 00:47:43,163 ผมอาจจำผิดไปก็ได้ แต่พวกผู้ใหญ่ไม่โกรธหรอก 823 00:47:43,243 --> 00:47:44,883 พ่อแม่เราไม่โกรธ ปู่ย่าตายายเรา 824 00:47:44,963 --> 00:47:46,563 พวกเขาหลบระเบิดโตขึ้นมา 825 00:47:46,643 --> 00:47:48,803 แถมลูกคนแรกก็เป็นโปลิโอ 826 00:47:48,883 --> 00:47:51,083 พวกผู้ชายพออายุ 50 ก็เป็นโรคปอดตายแล้ว 827 00:47:51,163 --> 00:47:53,323 พวกเขารับมุกตลกได้ 828 00:47:53,403 --> 00:47:56,483 เมื่อก่อนเป็นยุคแห่งการปั่น ผมปั่นแม่ผมตลอด 829 00:47:56,563 --> 00:47:57,683 นี่เรื่องจริง 830 00:47:57,763 --> 00:48:01,723 ตอนผมไปเรียนมหาวิทยาลัย สักหนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ผมโทรกลับบ้าน 831 00:48:01,803 --> 00:48:03,203 แม่ผมรับ "ฮัลโหล" 832 00:48:03,283 --> 00:48:06,643 ผมก็ "นี่ริคกี้นะ" แม่ถาม "เป็นอะไรรึเปล่า" ผมตอบ "ก็เป็นแหละ" 833 00:48:06,723 --> 00:48:08,923 "ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล น่าจะตาบอด" 834 00:48:09,003 --> 00:48:11,803 แม่ผม "หา" แล้วผมก็ "ล้อเล่นเฉยๆ" 835 00:48:13,083 --> 00:48:18,003 แม่ก็ "เด็กบ้า แม่แทบหัวใจวาย" 836 00:48:18,083 --> 00:48:21,363 ซึ่งแม่พูดถูกนะ แม่อาจหัวใจวายก็ได้ และผมก็รู้ 837 00:48:21,443 --> 00:48:24,563 ผมมุ่งมั่นขนาดนั้นเลย ที่จะหาเรื่องขำ 838 00:48:27,043 --> 00:48:29,123 ด้วยความยินดี 839 00:48:33,923 --> 00:48:36,763 การเดินทางในอวกาศ ความพยายามครั้งสุดท้าย 840 00:48:36,843 --> 00:48:39,923 พอเราใช้ดาวเคราะห์ดวงนี้จนเยินแล้ว เราจะทิ้งโลกที่ใกล้อวสาน 841 00:48:40,003 --> 00:48:41,843 ย้ายไปดาวดวงใหม่ แล้วเริ่มต้นใหม่ได้ไหม 842 00:48:41,923 --> 00:48:46,083 ผมว่าไม่ได้ ในช่วงชีวิตผมคงไม่ได้ ในช่วงชีวิตคุณก็อาจไม่ได้ 843 00:48:46,163 --> 00:48:49,403 ดาวที่ใกล้ที่สุด ดาวดวงเดียวที่ไปอยู่ได้ คือดาวอังคาร 844 00:48:49,483 --> 00:48:52,323 ถ้านั่งจรวดไปก็ใช้เวลาเดินทางเก้าเดือน 845 00:48:52,403 --> 00:48:54,043 ที่นั่นไม่มีชั้นบรรยากาศ 846 00:48:54,123 --> 00:48:57,163 อุณหภูมิเฉลี่ยติดลบ 70 องศา 847 00:48:57,243 --> 00:48:58,483 อยากฟังเรื่องเจ็บแสบไหม 848 00:48:58,563 --> 00:49:01,643 นักวิทย์กำลังหาคำตอบว่าเป็นไปได้ไหม ที่จะจุดระเบิดหัวรบนิวเคลียร์ 849 00:49:01,723 --> 00:49:05,443 ที่เปลือกนอก เพื่อปล่อยน้ำที่เป็นน้ำแข็ง จะได้เกิดเป็นชั้นบรรยากาศ 850 00:49:05,523 --> 00:49:08,683 และทำให้เกิดภาวะโลกร้อนนิดๆ คือผมว่า… 851 00:49:09,323 --> 00:49:10,163 ไม่รู้สิ 852 00:49:10,243 --> 00:49:14,123 มีแต่มหาเศรษฐีนั่นแหละ ที่มีเงินไปโปรยกับการสำรวจ… 853 00:49:14,203 --> 00:49:15,803 ในอวกาศไม่มีอะไรหรอก 854 00:49:15,883 --> 00:49:18,563 เดี๋ยวนี้คุณไปเที่ยวอวกาศได้แล้วนะ รู้รึยัง 855 00:49:18,643 --> 00:49:23,243 คุณจ่ายเงินแสนห้าหมื่นดอลลาร์ แล้วเขาจะยิงคุณขึ้นไปในอวกาศชั่วโมงนึง 856 00:49:23,323 --> 00:49:26,203 แล้วคุณก็ลอยไปลอยมา "ฉันอยู่ในอวกาศ" 857 00:49:26,283 --> 00:49:27,483 นี่เราก็อยู่ในอวกาศ 858 00:49:27,563 --> 00:49:30,883 โลกอยู่ในอวกาศชัดๆ เลย 859 00:49:30,963 --> 00:49:35,363 เป็นที่ที่ดีที่สุดในอวกาศด้วย มีที่จอดรถ มีโรงหนัง 860 00:49:35,443 --> 00:49:38,723 ไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ดูแล้ว ก็เหมือนอยู่ในลอนดอนแล้วบอกว่า 861 00:49:38,803 --> 00:49:41,483 "โคเวนทรีเป็นยังไงนะสงสัยจัง" อย่าริอ่าน 862 00:49:47,123 --> 00:49:48,363 แต่ผมมองโลกในแง่ดี 863 00:49:48,883 --> 00:49:49,963 จริงครับ ผมคิดว่า… 864 00:49:51,723 --> 00:49:52,763 ผมคิดว่า… 865 00:49:53,923 --> 00:49:57,043 ผมคิดว่าลึกๆ แล้วคนเราใส่ใจกับดาวดวงนี้ 866 00:49:57,123 --> 00:50:01,003 เพียงแค่คนส่วนมากบนโลกไม่รู้ตัว 867 00:50:01,083 --> 00:50:04,083 ว่าคนส่วนมากบนโลกกำลังทำลายโลก 868 00:50:04,163 --> 00:50:07,003 คนส่วนมากไม่รู้ตัว ในช่วงชีวิตผมนะ 869 00:50:07,083 --> 00:50:10,643 เราลดจำนวนประชากรสัตว์ลงไป 70% 870 00:50:10,723 --> 00:50:13,803 และสัตว์ที่เหลืออยู่บนโลก ถ้าจัดเป็นกลุ่ม 871 00:50:13,883 --> 00:50:18,643 เป็นคน 36% สัตว์เลี้ยงในฟาร์ม 60% เพื่อนำมาเป็นอาหารให้คน 872 00:50:18,723 --> 00:50:20,403 และสัตว์ป่ามีอยู่สี่เปอร์เซ็นต์ 873 00:50:20,483 --> 00:50:23,243 ผู้คนไม่รู้ตัวว่าเราทำลายป่าฝนทั้งผืน 874 00:50:23,323 --> 00:50:27,563 ปอดของโลก เพื่อปลูกธัญพืชไว้เป็นอาหารวัว ที่จะเป็นอาหารเรา 875 00:50:27,643 --> 00:50:30,963 เราชิงธัญพืชมาจากประเทศโลกที่สาม เพราะพวกเขาต้องการสกุลเงินแข็งค่า 876 00:50:31,043 --> 00:50:34,483 เขาเลี้ยงปากท้องคนของตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ เราเอาธัญพืชเขามาเลี้ยงวัวเรา 877 00:50:34,563 --> 00:50:37,243 สัตว์กินเนื้อ ถ้าคุณกินเนื้อทุกวัน… 878 00:50:37,323 --> 00:50:41,083 ถ้าคุณเว้นอาทิตย์ละวัน เราจะเลี้ยงปากท้องคนได้อีกเป็นร้อยล้าน 879 00:50:41,163 --> 00:50:45,083 ผมว่าลึกๆ แล้วผู้คนใส่ใจนะ แต่พอตาไม่เห็น หัวก็ไม่คิด 880 00:50:45,163 --> 00:50:47,883 ลองนึกถึงสัตว์ที่คนส่วนใหญ่รู้จักสิ หมางี้ คนรักหมา 881 00:50:47,963 --> 00:50:52,803 คนไม่ยอมให้ใครทำร้ายหมาตัวเอง ซึ่งหมาก็คือวัว คือแกะ คือกวาง 882 00:50:52,883 --> 00:50:54,403 คนรักหมาตัวเองมาก 883 00:50:54,483 --> 00:50:57,483 ถึงขั้นไม่ยอมดูหนังที่มีหมาได้รับบาดเจ็บ 884 00:50:57,563 --> 00:50:58,923 และผมเข้าใจนะ 885 00:50:59,003 --> 00:51:00,723 มีเว็บไซต์หนึ่ง 886 00:51:01,243 --> 00:51:02,563 เป็นเว็บไซต์จริง 887 00:51:02,643 --> 00:51:05,283 ชื่อว่า ดาสเดอะด็อกดาย ดอทคอม 888 00:51:07,003 --> 00:51:11,523 เว็บไซต์นี้ก่อตั้งขึ้นเพราะเวลาคนดูหนัง 889 00:51:11,603 --> 00:51:15,163 หรือรายการที่มีหมา แล้วเกิดอะไรบางอย่างขึ้นกับหมาตัวนั้น 890 00:51:15,243 --> 00:51:18,363 เขาจะปิด จบเห่ อารมณ์ดิ่งไปทั้งวัน 891 00:51:18,443 --> 00:51:21,643 เว็บไซต์ก็เลยก่อตั้งขึ้นมา คุณสามารถเข้าไป 892 00:51:21,723 --> 00:51:25,683 ป้อนชื่อหนังหรือละครทีวีเรื่องอะไรก็ได้ แล้วถามว่า "หมาตายไหม" 893 00:51:25,763 --> 00:51:27,843 แล้วจะมีคนมาตอบคุณ "ไม่" 894 00:51:27,923 --> 00:51:31,243 แล้วมันก็กลายเป็นเว็บไซต์ สำหรับอาการกลัวของใครก็ตาม 895 00:51:31,323 --> 00:51:33,203 อะไรก็ตามที่คุณไม่อยากเห็นในหนัง 896 00:51:33,283 --> 00:51:35,803 คุณค้นชื่อหนัง แล้วจะมีคนตอบคำถามคุณ 897 00:51:35,883 --> 00:51:38,243 ผมก็เลยค้นข้อมูลหนังไปเรื่องหนึ่งในเว็บไซต์นี้ 898 00:51:38,883 --> 00:51:40,003 ชะตากรรมที่โลกไม่ลืม 899 00:51:45,283 --> 00:51:49,003 จริงแน่นอน ชะตากรรมที่โลกไม่ลืม ดาสเดอะด็อกดาย ดอทคอม 900 00:51:49,083 --> 00:51:51,723 คำถามแรก "หมาตายไหม" "ไม่" 901 00:51:51,803 --> 00:51:53,243 "แมวตายไหม" "ไม่" 902 00:51:53,323 --> 00:51:54,963 "มีสัตว์ถูกทำร้ายไหม" 903 00:51:55,043 --> 00:51:57,883 มีคนตอบ "มีไก่ที่โดนจับอย่างหนักมือ 904 00:51:57,963 --> 00:51:59,403 แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ" 905 00:52:01,883 --> 00:52:04,483 ผมรักสัตว์นะ รักมากกว่าทุกคนที่ผมรู้จัก 906 00:52:04,563 --> 00:52:05,643 แต่สมมุติผมเป็นชาวยิว 907 00:52:05,723 --> 00:52:08,203 ผมจะเคืองนิดๆ กับการตั้งคำถามแบบนี้ 908 00:52:08,283 --> 00:52:09,523 ลองนึกภาพในชีวิตจริง 909 00:52:09,603 --> 00:52:14,003 ลองนึกภาพใครสักคนพูดว่า "ปู่ย่าตายายฉันถูกพวกนาซีฆ่า" 910 00:52:14,083 --> 00:52:15,203 แล้วคุณ "เกิดอะไรขึ้น" 911 00:52:15,283 --> 00:52:18,723 "พวกเขาถูกลากตัวออกจากบ้าน แล้วถูกส่งไปที่ห้องรมแก๊ส" "โธ่…" 912 00:52:18,803 --> 00:52:20,523 "มีไก่บาดเจ็บไหม" "หา" 913 00:52:23,443 --> 00:52:26,723 แต่อย่างที่บอก มันกลายเป็น… คุณสามารถถามได้ทุกเรื่อง 914 00:52:26,803 --> 00:52:29,643 มีคนถาม "มีการล่วงละเมิดเด็กไหม มีการทำให้ฟันหักหรือแตกไหม" 915 00:52:29,723 --> 00:52:32,883 "มีการจับแขวนไหม มีคนหายใจไม่ออกไหม" 916 00:52:32,963 --> 00:52:34,803 มี มีแหละ 917 00:52:34,883 --> 00:52:35,723 มี 918 00:52:37,243 --> 00:52:40,003 มีคนถามว่า "มีใครตกบันไดไหม" 919 00:52:40,083 --> 00:52:42,443 มีคนกลัวหนังตลก แบบเล่นเจ็บตัวด้วยเหรอ มันแบบ… 920 00:52:44,683 --> 00:52:50,883 เอาเถอะ เว็บไซต์นี้ก่อตั้งในปี 2010 เปิดมาแล้วประมาณ 13 ปี 921 00:52:50,963 --> 00:52:55,123 คำถามช่วงหลังๆ เริ่มสะท้อนให้เห็นยุคสมัยที่เราอยู่ตอนนี้ 922 00:52:55,203 --> 00:52:58,203 เริ่มเปราะบางและหลงตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ 923 00:52:58,283 --> 00:53:02,323 ลองดูคำถามที่มีคนถามปีนี้นะ ชะตากรรมที่โลกไม่ลืม 924 00:53:02,403 --> 00:53:04,843 มีคนถาม "มีมุกล้อคนอ้วนไหม" 925 00:53:06,163 --> 00:53:08,203 มีแล้วจะแย่กว่าเดิมเหรอ 926 00:53:09,763 --> 00:53:13,243 ลองนึกภาพเหตุการณ์จริงนะ ลองนึกว่าผมอยู่ในค่ายกักกัน 927 00:53:13,323 --> 00:53:15,723 ผมเปลือย ทุกคนรอบตัวผมเปลือยหมด 928 00:53:15,803 --> 00:53:18,563 มีผู้บังคับการต้อนเราเข้าไปในห้องรมแก๊ส 929 00:53:18,643 --> 00:53:20,763 แล้วเขาพูด "เดินไปสิ ไอ้อ้วน" 930 00:53:20,843 --> 00:53:22,483 แล้วผม "หยาบคาย" 931 00:53:28,083 --> 00:53:28,963 "ไม่ได้นะ" 932 00:53:29,683 --> 00:53:32,363 "ทำเสียอารมณ์หมดเลย ขอบอกตรงๆ" 933 00:53:37,243 --> 00:53:39,603 มีคนถามว่า "มีคำพูดสร้างความเกลียดชังไหม" 934 00:53:40,163 --> 00:53:42,803 ก็มีนะ 935 00:53:42,883 --> 00:53:44,203 ทำใจให้ได้นะ หนูน้อย 936 00:53:45,523 --> 00:53:48,443 อันนี้ "มีมุกล้อผู้ชายที่ใส่เดรสไหม" 937 00:53:49,003 --> 00:53:50,643 เรื่องนี้มีมุกตลกน้อยมาก 938 00:53:51,363 --> 00:53:55,323 ถ้าจะดูหนังเรื่องนี้เอาฮา คงต้องผิดหวังแน่ 939 00:53:56,683 --> 00:54:00,803 แต่คำถามนี้กระตุกต่อมผมเลย อย่าลืมนะ หนังเรื่องนี้พูดถึงยุค 1940 940 00:54:00,883 --> 00:54:04,683 น่าจะเป็นยุคที่โหดร้ายที่สุด ในประวัติศาสตร์อารยชน ลองฟังดู 941 00:54:04,763 --> 00:54:06,523 "มีคนผิดเพศรึเปล่า" 942 00:54:07,283 --> 00:54:08,603 ตูจะบ้า 943 00:54:10,843 --> 00:54:12,043 ให้ตายสิ 944 00:54:12,123 --> 00:54:14,963 คำถามนี้น่ารัก "มีการต่อต้านชาวยิวรึเปล่า" 945 00:54:15,043 --> 00:54:15,883 มี 946 00:54:16,843 --> 00:54:19,443 มี ตอมันเลยแหละ 947 00:54:19,523 --> 00:54:20,683 ใช่ไหม 948 00:54:20,763 --> 00:54:22,203 ลืมคานเยไปเลย 949 00:54:22,283 --> 00:54:23,123 นี่น่ะ… 950 00:54:24,123 --> 00:54:26,523 พุ่งทะลุกราฟไปเลย 951 00:54:26,603 --> 00:54:29,803 เวลาพูดเรื่องนี้ อย่าทำมือแบบนั้นสิ ให้ตายเถอะ 952 00:54:29,883 --> 00:54:32,803 ผมทำมือเป็นเส้นกราฟ ผมทำแบบนี้ 953 00:54:32,883 --> 00:54:34,403 พุ่งทะลุกราฟไปเลย 954 00:54:35,003 --> 00:54:35,883 นี่น่ะ… 955 00:54:37,603 --> 00:54:40,163 คิดว่าจะต่างไปไหม ถ้าการคารวะแบบฮิตเลอร์ทำแบบนี้ 956 00:54:40,243 --> 00:54:42,843 มันน่าจะออกมาแบบ "นั่นฮิตเลอร์" 957 00:54:43,563 --> 00:54:44,403 แบบนี้ 958 00:54:45,323 --> 00:54:46,163 ไฮยา 959 00:54:50,683 --> 00:54:53,643 คำถามนี้น่าสนใจ "ตอนจบเศร้าไหม" 960 00:54:53,723 --> 00:54:56,923 ครับ มีคนบอกว่าเศร้า แล้วก็มีอีกคนบอกไม่เศร้า 961 00:54:57,003 --> 00:54:59,043 แล้วผมก็คิดๆ ดู แต่ก็นึกขึ้นได้ 962 00:54:59,123 --> 00:55:02,883 ถ้าคุณเคยดูหนังเรื่องนี้ ถ้าคุณจำได้ ตอนที่หนังจบ 963 00:55:03,363 --> 00:55:06,323 สปีลเบิร์กเพิ่มภาพจริงเข้ามานิดหน่อย 964 00:55:06,403 --> 00:55:11,683 เขาให้เหล่าทายาทในชีวิตจริงมา ทายาทคนที่ถูกสังหารไปตอนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 965 00:55:11,763 --> 00:55:14,803 แล้วก็ถ่ายตอนที่ พวกเขาเดินเข้าไปในสุสานชาวยิว 966 00:55:14,883 --> 00:55:17,443 แล้ววางหินหนึ่งก้อนไว้บนหลุมศพ 967 00:55:17,523 --> 00:55:19,923 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ แทนคนในครอบครัวที่ถูกสังหารไป 968 00:55:20,003 --> 00:55:24,083 หินกองสูงขึ้น และเป็นฉากที่ซึ้งมาก ผมก็เลยคิดว่าผมมองเห็นความกำกวม 969 00:55:24,163 --> 00:55:26,283 "ตอนจบเศร้าไหม" เศร้า 970 00:55:26,363 --> 00:55:29,843 ในแง่ที่ว่าคนยิวหกล้านคน ต้องตายอย่างไร้ความหมาย 971 00:55:29,923 --> 00:55:32,523 แต่ไม่เศร้า ในแง่ที่ว่า ยังมีคนยิวเหลืออีกมากพอ 972 00:55:32,603 --> 00:55:34,163 ที่จะก่อกองหินได้ 973 00:55:34,683 --> 00:55:35,523 ก็… 974 00:55:44,203 --> 00:55:47,083 ตัวผมเองถามไปคำถามนึง 975 00:55:47,683 --> 00:55:49,363 "เจมส์ คอร์เดนอยู่ในเรื่องไหม" 976 00:55:58,083 --> 00:56:00,563 ผมลองค้นดูหนังอีกเรื่องหนึ่ง แบบเร็วๆ 977 00:56:00,643 --> 00:56:04,523 ไททานิก และก็มีคำถามแบบเดียวกันนั่นแหละ 978 00:56:04,603 --> 00:56:06,883 มีอันนึง "มีสัตว์เป็นอันตรายไหม" 979 00:56:06,963 --> 00:56:07,923 มีคนตอบ 980 00:56:08,003 --> 00:56:10,603 "ไม่มีฉากที่เห็นชัดเจนว่าสัตว์เป็นอันตราย 981 00:56:10,683 --> 00:56:14,243 แต่โรสเลี้ยงปลาทองไว้ตัวนึงซึ่งน่าจะไม่รอด" 982 00:56:16,643 --> 00:56:19,083 ผมคิดว่าปลาทองในโหลที่อยู่บนตู้ 983 00:56:19,163 --> 00:56:21,683 ตอนที่เรือชนภูเขาน้ำแข็ง แล้วมันอยู่อย่างงี้ 984 00:56:21,763 --> 00:56:23,963 ผู้คนวิ่งพล่าน พากัน "เราจะจมน้ำแล้ว" 985 00:56:24,043 --> 00:56:27,163 ตอนนั้นเจ้าปลาสบายใจเฉิบ แบบว่า "ไม่มีอะไรต้องห่วง" 986 00:56:28,443 --> 00:56:29,843 "โธ่ ไม่อยากลงน้ำ" 987 00:56:31,763 --> 00:56:35,363 ทีนี้พอมันลงทะเลไปก็ "เค็มเอาเรื่องนะเนี่ย" 988 00:56:43,723 --> 00:56:45,763 ผมขอทิ้งท้ายด้วยเรื่องจริงที่เกิดขึ้น 989 00:56:46,603 --> 00:56:48,763 เรายังอยู่ในหัวข้อ "หมาตายไหม" ใช่ไหม 990 00:56:49,323 --> 00:56:51,323 ตอนที่ผมอายุได้เจ็ดขวบ 991 00:56:51,403 --> 00:56:55,283 แม่พาผมไปโรงหนัง ไปดูเรื่อง โอลด์เยลเลอร์ 992 00:56:56,003 --> 00:56:57,003 เป็นหนังที่ดีมาก 993 00:56:57,083 --> 00:56:58,843 สร้างขึ้นช่วงปลายยุค 50 994 00:56:58,923 --> 00:57:02,763 ฉากเป็นบ้านไร่ในแดนเถื่อนตะวันตก 995 00:57:02,843 --> 00:57:07,203 เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กคนนึง ที่เก็บหมาตัวเล็กๆ จากที่ทิ้งขยะมาเลี้ยง 996 00:57:07,283 --> 00:57:09,603 ตั้งชื่อมันว่าโอลด์เยลเลอร์ ทั้งสองโตมาด้วยกัน 997 00:57:09,683 --> 00:57:12,643 เป็นหนังเกี่ยวกับเพื่อน เรื่องราวความรักระหว่างเด็กคนนี้กับหมา 998 00:57:13,163 --> 00:57:17,603 สุดท้ายแล้ว ตอนที่หมาตัวนั้นโต และปกป้องเด็กคนนั้นในป่า 999 00:57:17,683 --> 00:57:20,123 มันสู้กับเสือภูเขา หมี กับหมาป่า หรืออะไรก็นั่นแหละ 1000 00:57:20,643 --> 00:57:24,283 แต่ในช่วงท้ายของหนัง เด็กคนนั้นน่าจะอายุสัก 13 ได้ 1001 00:57:24,363 --> 00:57:25,643 มันก็พาเราดิ่ง 1002 00:57:25,723 --> 00:57:29,523 ผมจำได้ว่าเด็กคนนั้นมองไปที่โอลด์เยลเลอร์ ที่ถูกขังไว้ในโรงนา 1003 00:57:29,603 --> 00:57:32,643 แล้วแม่เขาก็สงสัย ถามว่า "โอลด์เยลเลอร์แข็งแรงดีไหม" 1004 00:57:32,723 --> 00:57:35,923 "ครับ มันสบายดี" แต่เด็กคนนั้นรู้ว่ามันโดนกัด 1005 00:57:36,003 --> 00:57:40,243 ในไม่นาน โอลด์เยลเลอร์เริ่มน้ำลายฟูมปาก และ… เริ่มดุร้าย 1006 00:57:40,323 --> 00:57:44,763 แล้วแม่ก็โผล่มาพร้อมปืน เด็กคนนั้นบอก "ไม่นะ" 1007 00:57:44,843 --> 00:57:46,843 แล้วแม่ก็ "เราจำเป็นต้องทำนะ" 1008 00:57:46,923 --> 00:57:49,803 เขาก็ "ครับ แต่นั่นหมาของผม ผมจะทำเอง" 1009 00:57:49,883 --> 00:57:51,683 แล้วเขาก็ยิงหมาตัวเอง 1010 00:57:51,763 --> 00:57:55,683 ผมร้องไห้โฮอยู่ปีเต็ม 1011 00:57:56,283 --> 00:57:57,843 ตัดภาพมาที่ยุคปัจจุบัน 1012 00:57:57,923 --> 00:58:00,203 เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผมไปทัวร์แสดง 1013 00:58:00,283 --> 00:58:03,243 อยู่บนรถไฟ ได้รับข้อความจากเจน 1014 00:58:03,763 --> 00:58:05,883 เธอบอกว่า "กำลังดูโอลด์เยลเลอร์แหละ ในที่สุด" 1015 00:58:06,403 --> 00:58:08,563 ผมส่งกลับไป "ดูให้สนุกนะ" 1016 00:58:10,083 --> 00:58:13,803 ผมไม่ทันคิด อีก 20 นาทีต่อมา ผมได้รับข้อความ 1017 00:58:13,883 --> 00:58:18,683 "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหมาตัวนั้นใช่ไหม" ผมแทบไม่เชื่อดวงตัวเอง 1018 00:58:18,763 --> 00:58:19,603 ผม… 1019 00:58:20,403 --> 00:58:22,163 ผมนึกว่าเธอรู้แล้วว่า… 1020 00:58:22,683 --> 00:58:25,323 ผมส่งกลับไป "ไม่ ไม่มีอยู่แล้ว" 1021 00:58:27,403 --> 00:58:29,403 หนึ่งชั่วโมงต่อมา ผมได้รับข้อความ 1022 00:58:29,483 --> 00:58:30,603 "ไอ้เลว" 1023 00:58:36,523 --> 00:58:37,443 ขอบคุณครับ 1024 00:58:38,483 --> 00:58:39,763 ขอบคุณ 1025 00:58:40,563 --> 00:58:42,283 ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ 1026 00:58:42,363 --> 00:58:44,283 ขอบคุณทุกคนที่ซื้อตั๋ว 1027 00:58:44,363 --> 00:58:47,443 ถ้าคุณซื้อตั๋วแพลทินัม เงินนั้นจะมอบให้มูลนิธิเพื่อสัตว์ 1028 00:58:47,523 --> 00:58:51,443 จนถึงตอนนี้เราระดมทุนได้สองล้านดอลลาร์แล้ว ดังนั้นขอบคุณมากครับ 1029 00:58:55,203 --> 00:58:57,843 ผมโดนวิจารณ์นิดหน่อยในเรื่องนี้ ในโซเชียลมีเดีย 1030 00:58:57,923 --> 00:59:01,163 ต้องมีคนถามทุกครั้งไปว่า "ทำไมเป็นกระบอกเสียงให้แค่สัตว์ล่ะ" 1031 00:59:01,243 --> 00:59:04,723 ผมตอบ "ก็สัตว์มันพูดเองไม่ได้ ยกเว้นนกแก้ว" 1032 00:59:04,803 --> 00:59:08,043 และนั่น… ผมว่านั่นคือเหตุผลที่เราไม่กินนกแก้ว 1033 00:59:08,123 --> 00:59:11,563 ผู้คนทั่วโลกกินนกชนิดอื่นทุกชนิด 1034 00:59:11,643 --> 00:59:15,603 ผู้คนทั่วโลกกินไก่ เป็ด ห่าน 1035 00:59:15,683 --> 00:59:17,643 ไก่งวง นกกระจอกเทศ 1036 00:59:17,723 --> 00:59:19,283 ไม่มีใครกินนกแก้วนะ รู้ไหมว่าทำไม 1037 00:59:19,363 --> 00:59:22,083 ถ้าคุณพยายามจะกินมัน มันจะบอกว่า "ไปตายซะ ไอ้เลว" 1038 00:59:23,803 --> 00:59:27,043 แปลว่าการออกตัวพูดได้ผลจริงๆ 1039 00:59:27,883 --> 00:59:31,403 และนั่นคือหัวข้อหนึ่งของโชว์ในวันนี้ เพราะผมรู้ว่า ในโลกจริง 1040 00:59:31,483 --> 00:59:34,563 ในงานทั่วๆ ไป และชีวิตแต่ละวัน คุณเจอเรื่องเดือดร้อน 1041 00:59:34,643 --> 00:59:36,683 มีคนด่าทอที่คุณพูดคำบางคำ 1042 00:59:36,763 --> 00:59:39,763 ที่คิดเรื่องอะไรบางเรื่อง หรือแม้แต่ที่ขำอะไรบางอย่าง 1043 00:59:39,843 --> 00:59:41,763 คนเขาพูดว่าคุณมันแย่ที่ขำกับอะไรแบบนั้น 1044 00:59:41,843 --> 00:59:45,163 และพวกคุณบางคนก็เอามันมาฝังใจ "พระเจ้าช่วย ฉันเป็นคนไม่ดีเหรอ" 1045 00:59:45,243 --> 00:59:49,123 เปล่าเลย ข้อหนึ่ง คุณเลือกอารมณ์ขันตัวเองไม่ได้ 1046 00:59:49,203 --> 00:59:50,203 มันเป็นไปเองของมัน 1047 00:59:50,283 --> 00:59:55,203 ข้อสอง อารมณ์ขันมีไว้เพื่อสิ่งนี้แหละ เพื่อหัวเราะให้เรื่องแย่ๆ ให้เราผ่านมันไปได้ 1048 00:59:55,283 --> 00:59:56,523 ใช่ไหม และ… 1049 01:00:03,963 --> 01:00:06,563 และเราได้แสดงให้เห็นแล้ว ว่าเราเลือกความคิดตัวเองไม่ได้ 1050 01:00:06,643 --> 01:00:09,523 บ่อยแค่ไหน ที่คุณไปสถานีรถไฟแล้วจู่ๆ ก็คิดว่า 1051 01:00:09,603 --> 01:00:11,963 "ถ้าผลักไอ้หมอนั่นจะเป็นไงนะ" แล้วจากนั้น… 1052 01:00:14,003 --> 01:00:16,763 จากนั้นเราก็ "ทำไมฉันคิดแบบนั้น" 1053 01:00:17,283 --> 01:00:19,643 "ฉันเป็นโรคต่อต้านสังคมเหรอ" เปล่า ตรงกันข้ามเลย 1054 01:00:19,723 --> 01:00:21,003 คุณเป็นคนที่ฝากชีวิตได้ 1055 01:00:21,083 --> 01:00:24,083 คุณทดสอบตัวเอง ย้ำเตือนตัวเองว่าถ้าทำไปจะเลวร้ายแค่ไหน 1056 01:00:24,163 --> 01:00:25,483 คุณเป็นคนดี 1057 01:00:25,563 --> 01:00:26,883 ผมไม่มีความคิดแบบนั้นหรอก 1058 01:00:28,723 --> 01:00:32,083 ความคิดที่ผมมีคือ เวลาคุยกับคุณยายใจดี 1059 01:00:32,163 --> 01:00:35,443 จู่ๆ ผมจะเริ่มคิดว่า "ถ้าถุยน้ำลายใส่หน้าจะเป็นไงนะ" 1060 01:00:35,523 --> 01:00:36,363 ทำไมผมถึงจะ… 1061 01:00:42,363 --> 01:00:47,323 อีกหัวข้อหนึ่งของโชว์ในวันนี้คือ "คำพูดมีการเปลี่ยนแปลง และผมตื่นรู้ ฮ่าๆ" 1062 01:00:47,403 --> 01:00:48,923 แต่ที่เจ็บแสบคือยังงี้ครับ 1063 01:00:49,003 --> 01:00:52,603 ผมคิดว่าตัวเองตื่นรู้แล้ว แต่ผมว่าคำพูดนั้นมันเปลี่ยนไป 1064 01:00:52,683 --> 01:00:55,683 ผมว่า ถ้าตื่นรู้ ยังมีความหมายตามเดิมที่เคยเป็นมา 1065 01:00:55,763 --> 01:00:58,123 คือการที่คุณตระหนักถึงอภิสิทธิ์ของคุณ 1066 01:00:58,203 --> 01:01:01,363 คุณพยายามเพิ่มความเท่าเทียมให้มากที่สุด และลดการกดขี่ให้น้อยที่สุด 1067 01:01:01,443 --> 01:01:05,723 ต่อต้านการเหยียดผิว ต่อต้านการเหยียดเพศ ต่อต้านการเหยียดเพศที่สาม งั้นผมก็ตื่นแล้วแน่ๆ 1068 01:01:05,803 --> 01:01:11,083 ถ้าตื่นรู้หมายถึงการเป็นอันธพาล คลั่งอำนาจนิยม เคร่งศาสนาสุดโต่ง 1069 01:01:11,163 --> 01:01:13,963 ทำคนโดนไล่ออก เพราะคนนั้นพูดความเห็นตามตรงหรือข้อเท็จจริง 1070 01:01:14,043 --> 01:01:15,403 ถ้างั้นไม่ครับ ผมยังไม่ตื่น 1071 01:01:15,483 --> 01:01:16,363 ผมไม่เอาด้วย 1072 01:01:25,203 --> 01:01:27,083 แต่ประเด็นคือยังงี้ครับ 1073 01:01:27,163 --> 01:01:29,763 ทุกคนมีความเห็นเป็นของตน คุณคิดว่าอะไรตลกก็หัวเราะเถอะ 1074 01:01:29,843 --> 01:01:33,163 เสียงหัวเราะทุกเสียงคือเสียงที่ดี และพวกคุณวิเศษมาก ราตรีสวัสดิ์ครับ 1075 01:02:23,403 --> 01:02:28,363 คำบรรยายโดย อัจฉริยา สุกใส