1 00:00:14,474 --> 00:00:18,352 {\an8}มนุษย์ค้นพบสิ่งใหม่ๆ มากมายบนโลกใบนี้ 2 00:00:20,480 --> 00:00:22,190 เราเคยไปดวงจันทร์มาแล้ว 3 00:00:24,567 --> 00:00:28,654 แต่แทบไม่มีใครผจญภัยเข้าไปในท้องของตัวเอง 4 00:00:30,907 --> 00:00:33,326 เรื่องท้องไส้ทําให้เรารู้สึกละอายใจ 5 00:00:34,869 --> 00:00:37,997 แต่มันส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างมาก 6 00:00:37,997 --> 00:00:41,459 เราจะรู้สึกยังไง น้ําหนักเกินมาตรฐานหรือไม่ 7 00:00:41,459 --> 00:00:43,086 {\an8}มีโอกาสเป็นโรคอะไรบ้าง 8 00:00:43,086 --> 00:00:45,379 {\an8}ระบบภูมิคุ้มกันได้รับการฝึกฝนยังไงบ้าง 9 00:00:45,379 --> 00:00:48,216 {\an8}และนั่นส่งผลต่อชีวิตของเราทั้งชีวิต 10 00:00:54,514 --> 00:00:58,476 วันนี้เราได้รับรายงานเกี่ยวกับโรคอ้วน และประเทศของเราสอบตก 11 00:00:58,476 --> 00:01:01,354 - อัตราการเกิดมะเร็งลําไส้ใหญ่ - โรคหัวใจ 12 00:01:01,354 --> 00:01:03,481 - โรคลําไส้แปรปรวน - ท้องร่วง 13 00:01:03,481 --> 00:01:06,818 {\an8}- มีคนเป็นออทิสติกมากขึ้น - โรคซึมเศร้าและวิตกกังวลพุ่งสูงขึ้น 14 00:01:07,568 --> 00:01:08,986 {\an8}อะไรคือสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ 15 00:01:08,986 --> 00:01:10,154 ทําไมการกินถึงเจ็บปวด 16 00:01:10,154 --> 00:01:12,365 ผมต้องเปลี่ยนอะไรบ้างถ้าอยากสุขภาพดี 17 00:01:12,365 --> 00:01:14,367 ทําไมการลดน้ําหนักถึงยากขนาดนี้ 18 00:01:14,367 --> 00:01:16,994 ทําไมฉันถึงไม่รู้ว่าอะไรดีต่อร่างกายตัวเอง 19 00:01:16,994 --> 00:01:18,496 ผมจะรักษากระเพาะได้ยังไง 20 00:01:18,496 --> 00:01:21,916 {\an8}ฉันต้องซื้ออาหารเสริม ราคาร้อยดอลลาร์ต่อเดือนเหรอ 21 00:01:23,626 --> 00:01:25,878 มีข้อมูลมากมายถาโถมเข้าใส่เรา 22 00:01:26,712 --> 00:01:29,632 เป็นเพราะอะไร ไดเอต คาร์โบไฮเดรต หรือเพราะไม่ไดเอต 23 00:01:29,632 --> 00:01:34,387 ถ้าเราสังเกตระบบทางเดินอาหารของเรา ทุกอย่างก็จะเข้าใจง่ายขึ้น 24 00:01:34,387 --> 00:01:37,890 {\an8}เราคิดว่าระบบทางเดินอาหาร เป็นแค่เครื่องผลิตอึ 25 00:01:37,890 --> 00:01:41,144 {\an8}แต่ความจริงแล้ว มันเป็นศูนย์กลาง ของการปฏิวัติวงการชีวการแพทย์ 26 00:01:44,772 --> 00:01:47,316 โรคต่างๆ เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า มะเร็ง 27 00:01:47,316 --> 00:01:51,279 ออทิสติก พาร์กินสัน ต่างก็เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร 28 00:01:52,113 --> 00:01:54,699 นี่เป็นศาสตร์แขนงใหม่ นี่เป็นแค่ส่วนเล็กๆ 29 00:01:54,699 --> 00:01:57,493 {\an8}ส่วนที่เรายังไม่ค้นพบมีมากถึง 97 เปอร์เซ็นต์ 30 00:01:57,493 --> 00:01:58,828 (ไอศกรีม) 31 00:01:58,828 --> 00:02:00,413 เรามาถึงจุดที่ 32 00:02:00,413 --> 00:02:03,207 เราสามารถบอกได้ชัดเจนขึ้นว่าเราควรกินอะไร 33 00:02:07,295 --> 00:02:11,966 ระบบทางเดินอาหารมีความยืดหยุ่น มันเปลี่ยนไปตามรูปแบบการกินของเรา 34 00:02:13,843 --> 00:02:17,513 เมื่อเราตระหนักถึงเรื่องนี้ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป 35 00:02:19,932 --> 00:02:25,438 {\an8}(แฮ็กสุขภาพ: ความลับของการกิน) 36 00:02:27,523 --> 00:02:30,902 {\an8}(มันไฮม์ เยอรมนี) 37 00:02:32,945 --> 00:02:38,910 ก่อนที่ฉันจะอายุ 16 หรือ 17 ฉันก็ไม่เข้าใจ ระบบทางเดินอาหารเหมือนคนอื่นๆ 38 00:02:40,536 --> 00:02:42,371 ฉันแพ้แลคโตส 39 00:02:42,371 --> 00:02:43,789 และเป็นโรคผิวหนัง 40 00:02:43,789 --> 00:02:46,250 สมัยเด็ก อยู่ๆ ฉันก็อ้วนขึ้นมา 41 00:02:46,250 --> 00:02:48,961 โดยไม่มีเหตุผลแน่ชัด 42 00:02:50,296 --> 00:02:53,007 ฉันเลยอ่านเรื่องเกี่ยวกับ ระบบทางเดินอาหารค่อนข้างเยอะ 43 00:02:53,007 --> 00:02:56,802 และฉันได้รู้ว่าถ้าเราดูที่ตัวอวัยวะ 44 00:02:56,802 --> 00:02:58,930 เราจะพบคําตอบหลายอย่าง 45 00:03:00,765 --> 00:03:04,268 เช้าวันหนึ่ง รูมเมตของฉัน เข้ามาในครัวและถามฉันว่า 46 00:03:04,268 --> 00:03:07,313 "จูเลีย เธอชอบเรื่องระบบทางเดินอาหาร เธอพูดถึงมันตลอดเวลา 47 00:03:07,313 --> 00:03:08,814 การอึมีกลไกยังไง" 48 00:03:08,814 --> 00:03:10,107 แต่ฉันกลับไม่รู้เลย 49 00:03:10,107 --> 00:03:13,569 ฉันเลยขึ้นไปบนห้อง อ่านหนังสือสามเล่ม 50 00:03:13,569 --> 00:03:16,197 พอได้คําตอบ ฉันก็คิดว่า "อะไรเนี่ย" 51 00:03:16,197 --> 00:03:19,033 "แม้แต่เรื่องนี้ก็เจ๋งสุดๆ" 52 00:03:20,952 --> 00:03:24,789 มันไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ ทุกอย่างเจ๋งมาก 53 00:03:34,674 --> 00:03:39,136 {\an8}เรามักจะรู้สึกผิดและละอายใจ เรื่องทางเดินอาหารของเรา 54 00:03:39,887 --> 00:03:43,933 ซึ่งเป็นอะไรที่บ้ามาก ถ้าลองคิดดูให้ดีๆ 55 00:03:43,933 --> 00:03:46,477 เพราะนี่คืออวัยวะที่ทําให้เรามีชีวิตอยู่ได้ 56 00:03:46,477 --> 00:03:52,066 ทันทีที่เราได้รู้ความจริงสองสามข้อ เราจะรู้สึกนับถือมันมาก 57 00:03:55,945 --> 00:03:59,740 วิทยาศาสตร์ช่วยตอบคําถาม เกี่ยวกับสุขภาพของเรา 58 00:04:01,951 --> 00:04:05,663 ฉันจําได้ว่าตอนส่องกล้องกับ ศาสตราจารย์แครมเมอร์ครั้งแรก เขาบอกว่า 59 00:04:05,663 --> 00:04:07,915 "เห็นไหม ข้างในทุกคนก็เหมือนกันหมด" 60 00:04:14,380 --> 00:04:16,674 เราจะเริ่มต้นจากหลอดอาหาร 61 00:04:16,674 --> 00:04:18,592 มันลําเลียงอาหารไปที่กระเพาะ 62 00:04:19,760 --> 00:04:22,430 {\an8}ซึ่งส่งอาหารต่อไปยังลําไส้เล็ก 63 00:04:23,764 --> 00:04:26,851 {\an8}สิ่งที่เหลือจะถูกส่งไปยังลําไส้ใหญ่ หรือโคล่อน 64 00:04:27,810 --> 00:04:31,147 {\an8}และอะไรก็ตามที่เราไม่ต้องการ ก็จะออกมาทางทวารหนัก 65 00:04:32,148 --> 00:04:33,441 แค่นี้ก็เสร็จแล้ว 66 00:04:37,611 --> 00:04:42,033 {\an8}ระบบทางเดินอาหารเป็นหัวข้อที่กําลังมาแรง ในแวดวงชีวการแพทย์ 67 00:04:42,033 --> 00:04:43,492 {\an8}ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาหรือนานกว่านั้น 68 00:04:44,869 --> 00:04:47,538 มันคือชิ้นส่วนที่ขาดหายไป 69 00:04:47,538 --> 00:04:49,957 ระบบทางเดินอาหารส่งผลต่อทั้งร่างกาย 70 00:04:49,957 --> 00:04:53,169 มันอาจส่งผลต่อสภาวะบางอย่างในสมองด้วยซ้ํา 71 00:04:53,836 --> 00:04:55,004 ว้าว 72 00:04:55,004 --> 00:04:58,466 เรารู้มานานหลายร้อยปีแล้วว่ามันมีความสําคัญ 73 00:04:59,216 --> 00:05:01,635 ดูจากสํานวนต่างๆ ก็รู้แล้ว 74 00:05:01,635 --> 00:05:05,723 เวลาหิวมากๆ เราจะเรียกว่าไส้กิ่ว ถ้ารู้ความลับ จะเรียกว่ารู้ไส้รู้พุง 75 00:05:05,723 --> 00:05:08,559 ถ้าเกลียดอะไรมากๆ ก็เรียกว่าเกลียดเข้าไส้ 76 00:05:10,186 --> 00:05:13,856 ระบบทางเดินอาหารเป็นเหมือนสมองอันที่สอง 77 00:05:13,856 --> 00:05:14,857 ว้าว 78 00:05:14,857 --> 00:05:16,859 และจากมุมมองด้านวิวัฒนาการ 79 00:05:16,859 --> 00:05:22,740 สมองของเราไร้ความหมาย ถ้าไม่มีสัญญาณจากระบบทางเดินอาหาร 80 00:05:23,741 --> 00:05:25,826 ผมถูกระบบทางเดินอาหารกลืนกิน 81 00:05:25,826 --> 00:05:28,204 มันกําลังสู้กลับ 82 00:05:30,373 --> 00:05:33,584 ศาสตร์แขนงนี้กําลังปฏิวัติการแพทย์แผนปัจจุบัน 83 00:05:34,668 --> 00:05:37,004 {\an8}(เฮลซิงกิ ฟินแลนด์) 84 00:05:45,721 --> 00:05:50,184 นี่คือนิทรรศการที่สร้างจากหนังสือ เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารที่ฉันกับน้องเขียน 85 00:05:50,976 --> 00:05:54,563 จุดประสงค์ของมันคือ การเอาสิ่งที่อยู่ในร่างกายออกมา 86 00:06:01,112 --> 00:06:02,655 อันนี้น่าจะดีกว่า 87 00:06:04,615 --> 00:06:08,285 อันนี้ตรงกับของจริงมากกว่า ถ้ามองจากมุมนี้ 88 00:06:08,285 --> 00:06:10,913 ทางเดินอาหารของเราไม่ได้เป็นเส้นตรง 89 00:06:10,913 --> 00:06:13,290 มันโค้งตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย 90 00:06:13,290 --> 00:06:15,543 อย่างเช่นกระเพาะ มันมีรูปร่างแบบนี้ 91 00:06:15,543 --> 00:06:17,837 ทําให้ด้านบนมีฟองอากาศ 92 00:06:17,837 --> 00:06:20,339 ดังนั้น เวลาที่เราท้องอืด 93 00:06:20,339 --> 00:06:23,050 และอยากให้ลมในท้องออกมา ให้นอนตะแคงซ้าย 94 00:06:23,050 --> 00:06:26,804 ฟองอากาศจะได้ออกมาง่ายๆ 95 00:06:33,144 --> 00:06:37,857 หลังจากนั้น ถ้าฉันเป็นเศษอาหาร ฉันก็จะไปถึงลําไส้เล็ก 96 00:06:37,857 --> 00:06:42,153 แล้วรอยย่นและวิลไลพวกนี้ ก็จะยื่นออกมา แล้วฉันก็จะ... 97 00:06:42,153 --> 00:06:45,489 ฉันก็จะถูกย่อยและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด 98 00:06:47,908 --> 00:06:51,745 ที่น่าสนใจคือเราย่อยอาหารเองไม่ได้ 99 00:06:51,745 --> 00:06:54,748 เราต้องมีจุลินทรีย์ถึงจะย่อยอาหารได้ตามที่ควร 100 00:06:56,375 --> 00:06:59,128 ไวรัสตัวจิ๋วร่วมมือกับแบคทีเรียตัวเล็ก 101 00:06:59,128 --> 00:07:03,924 ร่วมมือกับยีสต์ที่ตัวใหญ่กว่ามันมาก และร่วมมือกับมนุษย์ตัวยักษ์ 102 00:07:03,924 --> 00:07:06,552 นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าชุมชนจุลินทรีย์ 103 00:07:11,932 --> 00:07:14,768 {\an8}คนส่วนใหญ่คิดว่าแบคทีเรียเป็นอันตราย 104 00:07:14,768 --> 00:07:19,231 แต่ที่จริงแล้ว แบคทีเรีย 99 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีผลกระทบต่อเรา 105 00:07:19,231 --> 00:07:21,150 บางชนิดอาจมีประโยชน์ด้วยซ้ํา 106 00:07:22,943 --> 00:07:26,447 แบคทีเรียบางชนิดมีบทบาทสําคัญกว่าที่เราคิด 107 00:07:27,323 --> 00:07:31,285 ถ้าเรายอมให้มันอยู่ในร่างกายเรา มันจะให้เรายืมทักษะของมัน 108 00:07:32,203 --> 00:07:34,663 มันช่วยเราย่อยอาหาร 109 00:07:34,663 --> 00:07:35,873 อร่อยจัง 110 00:07:35,873 --> 00:07:39,543 {\an8}มันช่วยบรรเทาอาการอักเสบ และทําให้ระบบภูมิคุ้มกัน 111 00:07:39,543 --> 00:07:42,129 {\an8}ก่อโรคแพ้ภูมิตัวเองน้อยลง 112 00:07:44,548 --> 00:07:48,761 ระบบภูมิคุ้มกันของเราอาศัยอยู่ใน ทางเดินอาหารถึง 70 เปอร์เซ็นต์ 113 00:07:50,095 --> 00:07:52,640 แบคทีเรียฝึกระบบภูมิคุ้มกัน 114 00:07:52,640 --> 00:07:56,352 ให้ตอบสนองต่อจุลินทรีย์ให้โทษ ที่อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพ 115 00:07:58,270 --> 00:08:01,315 {\an8}มันช่วยผลิตสารเคมีที่เราผลิตเองไม่ได้ 116 00:08:02,149 --> 00:08:06,570 จุลินทรีย์ส่งผลต่อฮอร์โมนของเรา และสามารถทําให้เรารู้สึกหิวหรืออิ่มได้ 117 00:08:07,154 --> 00:08:10,574 {\an8}มันสามารถสื่อสารกับสมองและอวัยวะอื่นๆ ได้ 118 00:08:11,659 --> 00:08:15,371 มันส่งผลต่อสมองของเราในวัยเด็ก และในขณะที่เราแก่ตัวลง 119 00:08:16,705 --> 00:08:20,209 ถ้าดูจากยีนที่อยู่ในร่างกาย และบนร่างกายของเรา 120 00:08:20,209 --> 00:08:25,172 เราจะเห็นว่าตัวเรา มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์เป็นจุลินทรีย์ 121 00:08:27,883 --> 00:08:32,221 เรามักจะเชื่อว่ายีนมนุษย์ เป็นสิ่งที่กําหนดสุขภาพของเรา 122 00:08:32,221 --> 00:08:36,600 แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าจุลินทรีย์ เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งของโรคอ้วน 123 00:08:36,600 --> 00:08:41,355 โรคซึมเศร้า โรคภูมิแพ้ และความรู้สึกเครียดหรือผ่อนคลาย 124 00:08:41,355 --> 00:08:45,693 เราไม่รู้ว่ามันส่งผลต่ออาการเหล่านี้มากแค่ไหน 125 00:08:45,693 --> 00:08:48,320 สําหรับบางคน มันอาจมีบทบาทอย่างมาก 126 00:08:48,320 --> 00:08:50,447 และสําหรับบางคน มันอาจมีบทบาทน้อยกว่า 127 00:08:52,032 --> 00:08:52,950 เทคแรก 128 00:08:57,580 --> 00:08:58,414 ขอบคุณค่ะ 129 00:09:00,165 --> 00:09:01,792 ถึงเราจะไม่อยากยอมรับ 130 00:09:01,792 --> 00:09:05,212 แต่ทุกคนมีปัญหา ด้านระบบทางเดินอาหารเป็นครั้งคราว 131 00:09:06,589 --> 00:09:10,259 คนเราแตกต่างกัน ทั้งมุมมองที่มีต่ออาหาร โรคภัยไข้เจ็บ 132 00:09:10,259 --> 00:09:14,513 การตอบสนองต่อยา และประวัติโดยรวม 133 00:09:16,223 --> 00:09:18,851 {\an8}ถ้าฉันกินอะไรที่ไม่ใช่ผัก 134 00:09:18,851 --> 00:09:23,439 ฉันจะเริ่มปวดท้อง ซึ่งทําให้งานของฉันยากมาก 135 00:09:25,482 --> 00:09:28,485 {\an8}เราได้รู้ว่ามีหลายอย่างที่เราไม่เห็นคุณค่า 136 00:09:28,485 --> 00:09:30,821 อย่างเช่นเรื่องธรรมดาๆ อย่างการอึ 137 00:09:30,821 --> 00:09:34,325 ฉันต้องเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ 138 00:09:35,868 --> 00:09:38,495 {\an8}ฉันทําทุกวิถีทางเพื่อควบคุมน้ําหนัก 139 00:09:38,495 --> 00:09:43,250 {\an8}แต่ฉันจะน้ําหนักลดฮวบฮาบ ก่อนจะกลับมาหนักยิ่งกว่าเดิม 140 00:09:44,168 --> 00:09:47,755 {\an8}(โคบี้ - นักแข่งกินจุที่ไม่รู้สึกหิว) 141 00:09:47,755 --> 00:09:50,966 ผมเคยได้ยินคนอื่นบอกว่าหิว 142 00:09:50,966 --> 00:09:55,220 และพวกเขาดูมีความสุขมาก หลังจากได้กินอาหาร 143 00:09:55,220 --> 00:09:59,350 ผมอิจฉาคนพวกนั้น เพราะผมไม่รู้สึกหิวอีกต่อไปแล้ว 144 00:10:00,559 --> 00:10:05,230 เราพยายามทําความเข้าใจ ความหลากหลายเหล่านี้ 145 00:10:05,230 --> 00:10:06,774 ที่ทําให้ทุกคนแตกต่างกัน 146 00:10:07,358 --> 00:10:09,234 เราคิดว่าจุลินทรีย์เป็นกุญแจสู่คําตอบ 147 00:10:12,613 --> 00:10:15,366 ถ้าเราอยากเข้าใจความแตกต่างของมนุษย์ 148 00:10:15,366 --> 00:10:19,203 อย่างแรกที่ต้องทําคือหาว่าจุลินทรีย์มาจากไหน 149 00:10:21,747 --> 00:10:25,167 มนุษย์ส่วนใหญ่เกิดมาโดยไม่มีจุลินทรีย์ 150 00:10:25,167 --> 00:10:28,879 {\an8}จุลินทรีย์เข้ามาอาศัยอยู่ในร่างกายเรา หลังจากเราเกิดมาแล้ว 151 00:10:30,798 --> 00:10:35,010 ตอนที่เราเกิด นั่นคือจุดที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น 152 00:10:35,969 --> 00:10:38,055 เวลาเราคลอดลูกทางช่องคลอด 153 00:10:38,055 --> 00:10:41,517 ทารกจะสัมผัสกับแบคทีเรียในช่องคลอดของแม่ 154 00:10:43,977 --> 00:10:48,190 แล้วพอเราออกมา เราจะหันหน้าไปทางก้น 155 00:10:49,274 --> 00:10:53,278 เราได้รับแบคทีเรียในลําไส้ด้วย เพราะเราอยู่ใกล้กับก้นมาก 156 00:10:53,278 --> 00:10:56,699 นั่นทําให้เรามีชุมชนจุลินทรีย์ชุมชนแรก 157 00:10:57,616 --> 00:11:02,413 มันทําให้ร่างกายเป็นที่ที่เหมาะแก่ การอยู่อาศัยของจุลินทรีย์อื่น 158 00:11:11,755 --> 00:11:15,467 เราสร้างชุมชนจุลินทรีย์ด้วย การตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ และการผจญภัย 159 00:11:15,467 --> 00:11:17,094 ในชีวิตของเรา 160 00:11:17,886 --> 00:11:21,014 คนที่เราจูบ สิ่งที่เราเอาเข้าปาก สถานที่ที่เราไป 161 00:11:21,598 --> 00:11:24,935 อาหารที่เรากิน ความสัมพันธ์กับพี่น้อง 162 00:11:24,935 --> 00:11:26,687 สัตว์เลี้ยง 163 00:11:27,396 --> 00:11:31,525 {\an8}การออกกําลังกาย ความเครียด ประสบการณ์ในวัยเด็ก 164 00:11:31,525 --> 00:11:33,610 {\an8}ความยากลําบากที่ต้องเจอ 165 00:11:34,194 --> 00:11:37,448 เพราะเหตุนี้ ทุกคนจึงมี ชุมชนจุลินทรีย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว 166 00:11:37,448 --> 00:11:40,659 มันคือกลุ่มก้อนความทรงจําของจุลินทรีย์ 167 00:11:42,244 --> 00:11:47,040 การได้รู้ว่าชุมชนจุลินทรีย์อาจเป็น กุญแจสู่สุขภาพเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก 168 00:11:47,040 --> 00:11:49,752 เพราะเราเปลี่ยนยีนของเราไม่ได้ 169 00:11:49,752 --> 00:11:53,714 {\an8}แต่ทุกคนสามารถเปลี่ยนจุลินทรีย์ของตัวเองได้ 170 00:11:53,714 --> 00:11:57,468 {\an8}ด้วยการเปลี่ยนอาหารการกินและการใช้ชีวิต 171 00:11:58,844 --> 00:12:00,929 มันเยิ้มกําลังดี ให้ตายสิ 172 00:12:00,929 --> 00:12:05,601 {\an8}ชุมชนจุลินทรีย์ในสังคมอุตสาหกรรม อาจไม่ดีต่อสุขภาพนัก 173 00:12:05,601 --> 00:12:09,730 {\an8}และอาจทําให้เราเป็นโรค ที่พบได้แพร่หลายและร้ายแรงที่สุด 174 00:12:10,939 --> 00:12:16,028 {\an8}นั่นอาจเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรัง ที่พบได้ทั่วไปหลายๆ โรค 175 00:12:16,028 --> 00:12:18,989 เช่น โรคอ้วน เบาหวาน 176 00:12:18,989 --> 00:12:22,159 ความดันโลหิตสูง แพ้อาหาร 177 00:12:23,410 --> 00:12:28,332 ผมคิดว่าเราต้องเปลี่ยนวิธีที่เรามองโรคต่างๆ 178 00:12:31,794 --> 00:12:34,254 สภาพแวดล้อมของเราเปลี่ยนไปมาก 179 00:12:34,254 --> 00:12:36,548 อาหารตะวันตก วิธีคลอดลูก 180 00:12:36,548 --> 00:12:39,176 การผ่าคลอด นมผงสําหรับเด็ก 181 00:12:39,176 --> 00:12:42,012 การสุขาภิบาล ยาปฏิชีวนะ 182 00:12:42,012 --> 00:12:45,307 ทั้งหมดนี้ทําให้ชุมชนจุลินทรีย์ มีความหลากหลายน้อยลง 183 00:12:45,307 --> 00:12:48,227 นั่นคือสิ่งที่เราเห็นใน ชุมชนจุลินทรีย์ในสังคมอุตสาหกรรม 184 00:12:49,645 --> 00:12:55,400 ฉันเป็นเด็กผ่าคลอดที่กินนมแม่ ไม่แน่ใจว่ากินอยู่นานแค่ไหน 185 00:12:55,400 --> 00:13:00,197 ฉันต้องวิ่งวุ่นเรื่องลูก ไม่ก็เรื่องงาน ฉันเลยเครียดอยู่ตลอดเวลา 186 00:13:01,073 --> 00:13:05,285 แชมป์เนธานส์เฟมัสห้าสมัย ทาเครุ โคบายาชิ 187 00:13:06,829 --> 00:13:10,958 ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทํา 188 00:13:10,958 --> 00:13:14,545 ไม่ดีต่อสุขภาพเลยสักนิด 189 00:13:15,462 --> 00:13:21,134 ผมอยากรู้ว่าร่างกายผม ได้รับความเสียหายยังไงบ้าง 190 00:13:24,638 --> 00:13:28,183 มันทําให้ฉันสงสัยว่าเรื่องนี้ส่งผลต่อสุขภาพ 191 00:13:28,183 --> 00:13:30,769 และชุมชนจุลินทรีย์ของเรายังไงบ้าง 192 00:13:31,603 --> 00:13:34,189 เราสูญเสียจุลินทรีย์ ในทางเดินอาหารไปหลายร้อยชนิด 193 00:13:34,189 --> 00:13:35,941 พวกมันสูญพันธุ์ไปแล้ว 194 00:13:35,941 --> 00:13:40,362 ตอนนี้เรารู้แล้วว่าปัจจัยที่สําคัญที่สุด 195 00:13:40,362 --> 00:13:44,366 ที่ส่งผลต่อสุขภาพของชุมชนจุลินทรีย์ก็คืออาหาร 196 00:13:45,742 --> 00:13:50,455 อาหารอเมริกันโดยทั่วไป มีสารอาหารน้อยกว่าที่ควรมาก 197 00:13:50,455 --> 00:13:53,208 แม้แต่อาหารอเมริกันที่ดีต่อสุขภาพ 198 00:14:01,008 --> 00:14:05,095 ในสหรัฐอเมริกาทุกวันนี้ เกือบร้อยละ 60 ของแคลอรีที่เรากิน 199 00:14:05,095 --> 00:14:07,639 มาจากอาหารแปรรูปสูง 200 00:14:09,516 --> 00:14:11,101 อาหารถูกทําให้บริสุทธิ์ 201 00:14:11,101 --> 00:14:15,522 จนไม่เหลือสารอาหาร จากวัตถุดิบดั้งเดิมตามธรรมชาติ 202 00:14:15,522 --> 00:14:19,234 แล้วพวกเขาก็ใส่สารเคมีต่างๆ เข้าไป 203 00:14:19,234 --> 00:14:21,194 พร้อมน้ําตาลปริมาณมาก 204 00:14:21,904 --> 00:14:26,241 แต่คนไม่รู้ว่าควรกินอะไร เพราะผู้ผลิต ทําให้อาหารพวกนี้ดูเหมือนดีต่อสุขภาพ 205 00:14:26,241 --> 00:14:30,203 ด้วยการติดฉลากที่เขียนว่าแคลอรีต่ําบนซอง 206 00:14:30,203 --> 00:14:32,706 ซึ่งแปลว่ามันดีต่อสุขภาพ หรือไม่ก็บอกว่าเสริมวิตามิน 207 00:14:32,706 --> 00:14:35,542 (ไม่มีน้ําตาล ไม่มีแคลอรี มีแต่วิตามิน) 208 00:14:35,542 --> 00:14:37,794 เวลาเราอ่านฉลากพวกนี้อย่างละเอียด 209 00:14:37,794 --> 00:14:41,506 เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าข้างในมีอะไรบ้าง 210 00:14:42,341 --> 00:14:44,134 อันนี้ไม่แย่เท่าไร 211 00:14:44,134 --> 00:14:46,595 ไม่แย่เหรอ ฉันดูแล้ว มีน้ําตาลเยอะมากนะ 212 00:14:46,595 --> 00:14:48,805 จริงเหรอ ผมไม่เห็น 213 00:14:49,556 --> 00:14:51,516 น้ําตาล 30 เปอร์เซ็นต์ ใช่ 214 00:14:51,516 --> 00:14:54,061 ถ้ามองแค่นี้ มันมีเส้นใยสูง 215 00:14:54,061 --> 00:14:57,230 มีผลไม้และถั่ว มีดาร์กช็อกโกแลต มีเกลือทะเล 216 00:14:57,230 --> 00:14:59,942 สําหรับผม ถ้ามองผ่านๆ มันดูดีมาก 217 00:14:59,942 --> 00:15:04,071 แต่ถ้าดูส่วนประกอบ จะเห็นว่ามันมีน้ําตาลมากเกินไป 218 00:15:05,739 --> 00:15:07,407 เห็นไหม ผมโดนหลอกสนิทเลย 219 00:15:09,117 --> 00:15:12,120 เราเลือกไม่ถูกว่าควรกินอะไร 220 00:15:12,621 --> 00:15:14,498 เพราะเวลาเราไปซูเปอร์มาร์เก็ต 221 00:15:14,498 --> 00:15:21,004 จะมีอาหารเสริมแบบผง แบบน้ํา และสิ่งที่เราต้องกินมากขึ้นเรื่อยๆ 222 00:15:21,004 --> 00:15:22,965 อาหารเสริมคลอโรฟิลล์ป้องกันมะเร็งได้หรือไม่ 223 00:15:22,965 --> 00:15:24,591 {\an8}เห็ดสมุนไพร 224 00:15:24,591 --> 00:15:27,427 - ไวน์แดงดีต่อสุขภาพ - โปรไบโอติกสําหรับช่องคลอด 225 00:15:27,427 --> 00:15:30,889 สไปรูลิน่า อะแด็ปโทเจน ช็อกโกแลต สารสกัดบูลเบอร์รี่ กาแฟ 226 00:15:31,473 --> 00:15:37,270 ใช่ โลกของอาหาร และวัฒนธรรมสุขภาพทําให้ฉันสับสนมาก 227 00:15:41,483 --> 00:15:44,903 วันนี้เราจะทําไก่เทริยากิกัน 228 00:15:44,903 --> 00:15:48,073 เรามีกระเทียมม่วง ขิง 229 00:15:48,073 --> 00:15:52,619 {\an8}น้ําตาล ซีอิ๊ว น้ํามันงา และหอมใหญ่ 230 00:15:54,079 --> 00:15:56,540 {\an8}แม่ว่าลูกมีความมั่นใจมากนะ 231 00:15:56,540 --> 00:15:59,042 {\an8}หนูเป็นแม่ครัวที่มีความมั่นใจตอนอายุสี่ขวบ 232 00:15:59,710 --> 00:16:05,465 ใส่ซีอิ๊วนิดหนึ่ง ใส่ขิงเยอะๆ เพราะขิงน่ะกินเท่าไรก็ไม่พอ 233 00:16:05,465 --> 00:16:10,470 ใส่กระเทียมให้หมด เพราะกระเทียมก็กินเท่าไรก็ไม่พอ 234 00:16:10,470 --> 00:16:12,889 อาหารและการทําอาหารอยู่ในสายเลือดของฉัน 235 00:16:12,889 --> 00:16:15,434 และเป็นสิ่งที่ฉันทํามาตั้งแต่เด็ก 236 00:16:16,768 --> 00:16:19,438 ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่ฉันรัก มันเป็นทักษะและอาชีพของฉัน 237 00:16:23,108 --> 00:16:26,987 ฉันได้ดาวมิชลินครั้งแรกตอนอายุ 23 238 00:16:28,030 --> 00:16:32,993 ฉันเคยได้รางวัลเชฟที่ฮอตที่สุด ของอีตเตอร์ เป็นรางวัลที่บ้าบอมาก 239 00:16:33,702 --> 00:16:36,413 แต่ฉันก็รู้สึกว่าต้องรักษาภาพลักษณ์ 240 00:16:36,413 --> 00:16:40,167 ว่าฉันเป็นเชฟขนมอบแสนน่ารัก ที่แต่งตัวแบบกอธและมีรอยสัก 241 00:16:40,167 --> 00:16:43,420 ฉันรู้สึกกดดันอย่างมาก 242 00:16:43,420 --> 00:16:48,133 และฉันปล่อยให้มันบานปลาย 243 00:16:51,595 --> 00:16:56,433 ฉันเคยเป็นโรคเบื่ออาหารอยู่พักใหญ่ 244 00:16:57,976 --> 00:17:02,814 แต่ตอนนี้ฉันมีพฤติกรรมการกินผิดปกติ อีกแบบ คือออร์โธเร็กเซีย 245 00:17:02,814 --> 00:17:08,862 ฉันหมกมุ่นกับสุขภาพ และการกินสารอาหารให้มากที่สุด 246 00:17:09,446 --> 00:17:13,158 นี่คือกวารานา ซูมา เห็ดหลินจือ เห็ดหัวลิง 247 00:17:13,158 --> 00:17:16,578 ถั่งเช่า สไปรูลิน่า คลอเรลล่า มะรุม 248 00:17:18,330 --> 00:17:21,208 พูดง่ายๆ คือฉันกินผักเยอะมาก แล้วเสริมด้วย 249 00:17:21,208 --> 00:17:22,918 อาหารเสริมแบบน้ํา แบบผง 250 00:17:22,918 --> 00:17:25,212 อะไรก็ตามที่อินเทอร์เน็ตบอกว่าฉันต้องการ 251 00:17:28,882 --> 00:17:32,427 ฉันเลิกกินอาหารเสริมหลายอย่าง และพยายามกลับมากิน 252 00:17:32,427 --> 00:17:34,679 "อาหารสนุกๆ" อีกครั้ง 253 00:17:36,264 --> 00:17:39,559 แต่เวลาฉันกินน้ําตาล เนื้อหมู เนย อะไรพวกนั้น 254 00:17:39,559 --> 00:17:42,437 ฉันจะรู้สึกท้องอืดและคลื่นไส้ 255 00:17:42,437 --> 00:17:44,564 ไปอีกสามสี่วัน 256 00:17:46,733 --> 00:17:50,445 มันยากมากเพราะฉันพยายามปรับ มุมมองที่ฉันมีต่ออาหาร 257 00:17:51,488 --> 00:17:55,117 พอเรารู้สึกว่าร่างกายหักหลังเรา 258 00:17:56,034 --> 00:18:01,206 มันยากที่จะก้าวข้ามความรู้สึกนั้น 259 00:18:06,378 --> 00:18:11,341 ฉันคิดว่าท้ายที่สุดแล้ว ฉันอยากรู้ว่าฉันควรกินอะไร 260 00:18:11,341 --> 00:18:12,884 หรือไม่ควรกินอะไร 261 00:18:13,760 --> 00:18:16,930 และสุขภาพมีความหมายยังไงสําหรับฉัน 262 00:18:23,353 --> 00:18:27,107 เวลาผู้ป่วยถามว่า "อะไรทําให้ชุมชนจุลินทรีย์แข็งแรง" 263 00:18:27,107 --> 00:18:29,025 ฉันชอบเปรียบเทียบมันกับป่า 264 00:18:31,486 --> 00:18:35,740 เราจะปลูกต้นไม้ที่แข็งแรงสองสามต้น แล้วคาดหวังให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่ได้ 265 00:18:36,616 --> 00:18:40,871 ป่าต้องการสมดุลที่เหมาะสม ซึ่งจะทําให้พืชและสิ่งมีชีวิต 266 00:18:41,621 --> 00:18:43,999 อยู่รอดในสถานการณ์ต่างๆ 267 00:18:43,999 --> 00:18:47,043 ไม่ว่าจะเป็นแสงสว่าง น้ํา สารอาหารในดิน 268 00:18:47,043 --> 00:18:48,962 และทํางานร่วมกัน 269 00:18:51,840 --> 00:18:56,011 แบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร ต้องการเส้นใยจากผักและผลไม้ 270 00:18:56,011 --> 00:18:58,138 แค่วันละไม่กี่กรัม 271 00:18:58,138 --> 00:19:02,475 และมันแปลกมากที่นี่เป็นเรื่องยากสําหรับเรา 272 00:19:03,435 --> 00:19:06,188 ปัจจุบัน คําแนะนําในสหรัฐฯ คือ 273 00:19:06,188 --> 00:19:10,567 {\an8}เราควรทานเส้นใยอาหาร วันละ 28 ถึง 40 กรัม 274 00:19:10,567 --> 00:19:14,696 {\an8}และอาหารอเมริกันโดยทั่วไปที่เรากิน มีเส้นใยแค่ 15 กรัม 275 00:19:14,696 --> 00:19:17,532 {\an8}นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาชุมชนจุลินทรีย์ตระหนักว่า 276 00:19:17,532 --> 00:19:22,245 {\an8}เราอาจควรทานเส้นใยมากกว่า 50 กรัมต่อวัน 277 00:19:28,043 --> 00:19:30,879 {\an8}(อาหารแต่ละชนิดมีเส้นใยมากแค่ไหน) 278 00:19:30,879 --> 00:19:34,216 {\an8}(เส้นใยในข้าวขาวหนึ่งถ้วย 0.6 กรัม) 279 00:19:34,216 --> 00:19:36,426 {\an8}(เส้นใยในสเต๊กหนึ่งชิ้น 0 กรัม) 280 00:19:36,426 --> 00:19:38,595 {\an8}(เส้นใยในแครอตหนึ่งถ้วย 3.1 กรัม) 281 00:19:38,595 --> 00:19:40,764 {\an8}(เส้นใยในโอ๊ตมีลปรุงสุกหนึ่งถ้วย 4.0 กรัม) 282 00:19:40,764 --> 00:19:42,933 {\an8}(เส้นใยในผักปวยเล้งปรุงสุกหนึ่งถ้วย 4.3 กรัม) 283 00:19:42,933 --> 00:19:45,310 {\an8}(เส้นใยในบรอกโคลีสับหนึ่งถ้วย 5.0 กรัม) 284 00:19:45,310 --> 00:19:47,687 {\an8}(เส้นใยในถั่วลันเตาหนึ่งถ้วย 7.0 กรัม) 285 00:19:47,687 --> 00:19:49,814 {\an8}(เส้นใยในอะโวคาโดหนึ่งถ้วย 10.0 กรัม) 286 00:19:49,814 --> 00:19:52,108 {\an8}(เส้นใยในอัลมอนด์หนึ่งถ้วย 16.0 กรัม) 287 00:19:52,108 --> 00:19:54,361 {\an8}(เส้นใยในถั่วหรือเลนทิลหนึ่งถ้วย 16.0 กรัม) 288 00:19:54,361 --> 00:19:56,238 {\an8}(เส้นใยในเมล็ดเจียแห้งหนึ่งถ้วย 40.0 กรัม) 289 00:19:56,238 --> 00:19:58,949 ฮอตดอกหนึ่งอันมีเส้นใยเท่าไร 290 00:20:01,201 --> 00:20:02,661 อะไร ศูนย์กรัมเหรอ 291 00:20:05,872 --> 00:20:08,291 ไม่ว่าคุณจะทานเนื้อสัตว์หรือไม่ 292 00:20:08,291 --> 00:20:11,253 ไม่ว่าคุณจะเป็นวีแกนหรือไม่ เรื่องนั้นไม่สําคัญเลย 293 00:20:11,253 --> 00:20:16,007 สิ่งสําคัญคือคุณต้องทาน พืชหลายๆ ชนิด หลายๆ รูปแบบ 294 00:20:16,007 --> 00:20:19,678 ให้มากที่สุดเท่าที่ทําได้เพื่อเป็นอาหารให้จุลินทรีย์ 295 00:20:21,471 --> 00:20:23,598 ทําไมฉันต้องกินผักด้วย 296 00:20:23,598 --> 00:20:26,977 นั่นเป็นเรื่องที่ฉันอยากเข้าใจ แน่นอนว่ามันมีสารอาหารหลายอย่าง 297 00:20:26,977 --> 00:20:29,771 และมีสารที่เป็นอันตรายน้อยกว่าอาหารแปรรูป 298 00:20:32,607 --> 00:20:35,277 แต่ถ้าหน้าท้องของเราโปร่งใส 299 00:20:35,277 --> 00:20:39,572 เราจะเห็นการย่อยอาหาร และเราจะเห็น 300 00:20:39,572 --> 00:20:42,242 ความแตกต่างระหว่าง อาหารแปรรูปกับผักอย่างชัดเจน 301 00:20:43,493 --> 00:20:45,203 สําหรับอาหารแปรรูป เราจะเห็นว่า 302 00:20:45,203 --> 00:20:47,872 ภายในระยะไม่กี่เซนติเมตรแรกของลําไส้เล็ก 303 00:20:47,872 --> 00:20:50,166 มันก็ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดแล้ว 304 00:20:51,584 --> 00:20:54,170 ระดับน้ําตาลในกระแสเลือดจะพุ่งสูง 305 00:20:54,170 --> 00:20:56,423 และเซลล์ต่างๆ ต้องดูดซึมมันอย่างรวดเร็ว 306 00:20:56,423 --> 00:20:59,759 มันเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดสําหรับร่างกาย 307 00:20:59,759 --> 00:21:02,887 เพราะเราไม่รู้ว่าจะเอาน้ําตาลพวกนี้ไปไว้ที่ไหน 308 00:21:02,887 --> 00:21:04,639 ร่างกายต้องส่งมันไปทุกที่ 309 00:21:05,807 --> 00:21:09,978 แต่ผักมีเส้นใยที่ทําให้มันมีความทนทานสูงกว่า 310 00:21:10,937 --> 00:21:14,024 มันจะถูกดูดซึมนิดหนึ่ง แล้วเคลื่อนไปอีกหน่อย 311 00:21:14,024 --> 00:21:15,900 ถูกดูดซึมนิดหนึ่ง แล้วเคลื่อนไปอีกหน่อย 312 00:21:15,900 --> 00:21:20,196 มันจะไปถึงลําไส้ใหญ่ และกลายเป็นแหล่งอาหารที่ดี 313 00:21:20,196 --> 00:21:21,323 ของจุลินทรีย์ที่นั่น 314 00:21:21,323 --> 00:21:22,240 อร่อยจัง 315 00:21:22,240 --> 00:21:24,868 มันเป็นวิธีย่อยอาหารที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง 316 00:21:24,868 --> 00:21:27,871 เหมือนเดินนานๆ แทนที่จะวิ่งสุดฝีเท้า 317 00:21:32,334 --> 00:21:37,005 ถ้าชุมชนจุลินทรีย์ในลําไส้ มีความหลากหลาย มีแบคทีเรียหลายชนิด 318 00:21:37,005 --> 00:21:39,382 มันก็จะสามารถรับมือกับ 319 00:21:39,382 --> 00:21:41,926 สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตได้หลายแบบ 320 00:22:00,153 --> 00:22:03,323 โคบายาชิยังยัดไม่หยุดครับ 321 00:22:05,408 --> 00:22:06,659 ฟอร์มดีสุดๆ 322 00:22:06,659 --> 00:22:09,454 ดูเขาสิ เขาขยับแขน... 323 00:22:10,038 --> 00:22:14,751 จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราได้รับเส้นใย ไม่เพียงพอสําหรับจุลินทรีย์ 324 00:22:14,751 --> 00:22:17,212 ทาเครุ โคบายาชิ 325 00:22:17,212 --> 00:22:20,340 ถ้าเราไม่หาเส้นใยอาหารให้จุลินทรีย์ในลําไส้ 326 00:22:20,340 --> 00:22:22,759 จุลินทรีย์ในลําไส้ก็จะเริ่มกินเรา 327 00:22:25,053 --> 00:22:26,638 จุลินทรีย์พวกนี้มีประโยชน์มาก 328 00:22:26,638 --> 00:22:28,264 มันช่วยเหลือร่างกายของเรา 329 00:22:29,599 --> 00:22:31,017 แต่มันก็ยังเป็นจุลินทรีย์ 330 00:22:31,017 --> 00:22:34,938 เราจึงต้องสร้างขอบเขตที่เปรียบเสมือน การให้เกียรติกัน นั่นคือเมือก 331 00:22:36,022 --> 00:22:39,317 เมือกเป็นขอบเขตที่ดีเพราะ มันปล่อยให้สารอื่นซึมผ่านได้เล็กน้อย 332 00:22:39,317 --> 00:22:41,945 {\an8}สารอาหารเลยซึมผ่านมันได้ 333 00:22:41,945 --> 00:22:45,115 {\an8}แต่จุลินทรีย์ถูกกันให้อยู่ห่างๆ 334 00:22:46,199 --> 00:22:49,994 ปรากฏว่าถ้าเราหยุดกินเส้นใย 335 00:22:49,994 --> 00:22:52,372 จุลินทรีย์ในลําไส้ก็ยังต้องกินอะไรบางอย่าง 336 00:22:52,956 --> 00:22:57,127 พวกมันจะเริ่มกินเยื่อบุเมือกเป็นอาหารสํารอง 337 00:22:58,378 --> 00:23:01,798 เมื่อเวลาผ่านไป พวกมันจะค่อยๆ กินเยื่อบุเมือกจนหมด 338 00:23:02,424 --> 00:23:07,303 แบคทีเรียจะเข้าไปใน บริเวณที่มันไม่ควรเข้าไปในร่างกาย 339 00:23:08,471 --> 00:23:11,808 เมื่อเซลล์ภูมิคุ้มกันที่อยู่ในบริเวณนั้นมาเห็นเข้า 340 00:23:11,808 --> 00:23:13,309 พวกมันก็จะปกป้องร่างกาย 341 00:23:15,103 --> 00:23:17,897 นี่อาจทําให้เกิดการอักเสบ 342 00:23:17,897 --> 00:23:22,026 และเปลี่ยนองค์ประกอบของจุลินทรีย์ในลําไส้ 343 00:23:22,735 --> 00:23:26,114 นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่นําไปสู่โรคต่างๆ 344 00:23:26,114 --> 00:23:28,074 เช่น โรคลําไส้อักเสบเรื้อรัง 345 00:23:28,074 --> 00:23:30,869 หรือโรคลําไส้แปรปรวนบางประเภท 346 00:23:36,082 --> 00:23:39,627 ตอนที่เราเริ่มศึกษาการอักเสบเรื้อรังต่างๆ 347 00:23:39,627 --> 00:23:42,046 นักวิทยาศาสตร์คิดว่า 348 00:23:42,046 --> 00:23:45,216 เราจะหาจุลินทรีย์หรือชุมชนจุลินทรีย์ 349 00:23:45,216 --> 00:23:49,220 ที่เป็นสาเหตุของโรค หรือความรู้สึกไม่สบายตัวได้ไหม 350 00:23:49,888 --> 00:23:53,641 แต่ตอนนี้ พอเราคิดว่าระบบนิเวศนี้ มีปฏิสัมพันธ์กันยังไง 351 00:23:53,641 --> 00:23:57,479 เราก็ค้นพบแนวทางใหม่ เราถามตัวเองว่า 352 00:23:57,479 --> 00:24:01,524 เราขาดแบคทีเรียบางชนิด ที่ปกติเคยปกป้องเราหรือเปล่า 353 00:24:06,112 --> 00:24:09,449 {\an8}(ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย) 354 00:24:14,454 --> 00:24:16,414 {\an8}ฉันชื่อแดเนียลล์ เคปกี 355 00:24:16,414 --> 00:24:20,793 {\an8}ฉันเป็นนักศึกษาปริญญาเอก สาขาจิตวิทยาคลินิก 356 00:24:21,794 --> 00:24:25,089 ฉันจําแทบไม่ได้แล้วว่าการกินอาหารรู้สึกยังไง 357 00:24:25,089 --> 00:24:31,054 ก่อนที่มันจะถูกเชื่อมโยงกับ ความกังวล เจ็บปวด และไม่สบายตัว 358 00:24:32,180 --> 00:24:36,976 สมัยเรียนปริญญาตรี ฉันกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ 359 00:24:36,976 --> 00:24:40,271 อาหารที่มีน้ําตาลสูง 360 00:24:40,271 --> 00:24:43,733 และไม่ค่อยกินผักผลไม้ 361 00:24:43,733 --> 00:24:45,693 ซึ่งทําให้ฉันมีอาการคล้ายโรคลําไส้แปรปรวน 362 00:24:46,277 --> 00:24:48,780 ฉันอาหารไม่ย่อย 363 00:24:48,780 --> 00:24:51,157 เสียดท้องเพราะแก๊สในร่างกาย 364 00:24:51,157 --> 00:24:54,285 ท้องผูก ขับถ่ายไม่ได้เลย 365 00:24:55,995 --> 00:25:00,667 เวลาเรามีอาการเกี่ยวกับ ทางเดินอาหารหลายอย่างที่วินิจฉัยได้ยาก 366 00:25:00,667 --> 00:25:03,294 หมอหลายคนก็ไม่รู้ว่าต้องทํายังไง 367 00:25:04,420 --> 00:25:07,173 พวกเขาแจกยาปฏิชีวนะเหมือนลูกกวาด 368 00:25:07,173 --> 00:25:10,843 แบบ "ถ้าคุณรู้สึกไม่ดี หรือมีอาการแบบนี้ ให้กินยาปฏิชีวนะ" 369 00:25:12,387 --> 00:25:17,100 ห้าปีที่ผ่านมา ฉันกินยาปฏิชีวนะปีละหกรอบ 370 00:25:18,935 --> 00:25:21,396 ฉันน้ําหนักลดลงไปมากตอนที่เริ่มป่วย 371 00:25:21,396 --> 00:25:24,524 และต้องงดอาหารหลายๆ อย่าง 372 00:25:26,317 --> 00:25:28,236 ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันกินอะไรได้บ้าง 373 00:25:28,236 --> 00:25:32,282 แต่น่าจะมีแค่ 10 ถึง 15 อย่าง 374 00:25:33,408 --> 00:25:39,539 มันเหมือนกับถูกตีกรอบ ฉันมักจะรู้สึกเหมือนขาดสารอาหาร 375 00:25:41,666 --> 00:25:48,006 ฉันเลยต้องกินอาหารเสริมพวกนี้ ถึงจะใช้ชีวิตตามปกติได้ 376 00:25:48,006 --> 00:25:49,382 (แม็กนีเซียมคีเลต) 377 00:25:49,382 --> 00:25:53,344 พวกนี้คืออาหารเสริมที่ฉันเคยกิน 378 00:25:53,344 --> 00:25:54,929 ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ผลแล้ว 379 00:25:56,472 --> 00:25:58,558 ฉันรู้ว่ายาไม่ใช่คําตอบ 380 00:25:58,558 --> 00:26:04,856 {\an8}แต่ฉันก็จนปัญญา เพราะฉันไม่รู้ว่า จะหาแบคทีเรียใหม่ๆ ที่จําเป็นได้ยังไง 381 00:26:04,856 --> 00:26:08,234 {\an8}ในเมื่อฉันกินอาหารหลายๆ อย่างที่จําเป็นต่อ 382 00:26:08,234 --> 00:26:10,903 การสร้างชุมชนจุลินทรีย์ที่แข็งแรงไม่ได้ 383 00:26:13,281 --> 00:26:18,328 ถ้าเราเลิกกินอาหารบางประเภท จุลินทรีย์ของเราจะเปลี่ยนไปอย่างมาก 384 00:26:19,162 --> 00:26:21,789 เพราะมันมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าเราไม่ให้อาหารมัน 385 00:26:24,334 --> 00:26:29,172 ถ้าเราอยากกินเส้นใยอีกครั้ง มันจะยากกว่าตอนที่เลิกกินมาก 386 00:26:30,256 --> 00:26:34,344 ดังนั้น คนที่กลับมากินอาหารสุขภาพ อย่างกะทันหันจะมีอาการท้องอืด 387 00:26:34,344 --> 00:26:36,387 และปวดท้อง 388 00:26:37,180 --> 00:26:40,516 พวกเขาต้องเปลี่ยนอาหารที่ทาน แต่ต้องทําอย่างค่อยเป็นค่อยไป 389 00:26:40,516 --> 00:26:44,562 เพื่อให้จุลินทรีย์ในลําไส้ปรับตัวได้ 390 00:26:46,773 --> 00:26:49,651 เพราะฉันกินอาหารน้อยมาก 391 00:26:50,610 --> 00:26:56,115 ฉันสงสัยว่าฉันทําให้จุลินทรีย์ในร่างกาย ขาดอาหารไปด้วยไหม 392 00:26:58,534 --> 00:27:01,371 การย่อยและดูดซึมอาหารของฉันเปลี่ยนไปไหม 393 00:27:01,371 --> 00:27:03,915 และในอนาคต 394 00:27:03,915 --> 00:27:06,542 ฉันจะมีปัญหาเวลากินอาหารทุกครั้ง 395 00:27:07,794 --> 00:27:10,254 หรือว่าบางส่วนเป็นปัญหาด้านจิตใจ 396 00:27:10,254 --> 00:27:13,966 ฉันไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น 397 00:27:15,385 --> 00:27:18,346 นี่เป็นเรื่องที่ฉันอยากเรียนรู้ให้มากกว่านี้ 398 00:27:21,557 --> 00:27:26,479 (ค้นหา - มีวิธีทดสอบไหมว่า ระบบทางเดินอาหารของฉันเสียหายไหม) 399 00:27:27,105 --> 00:27:29,107 เยี่ยมเลย 400 00:27:37,573 --> 00:27:40,493 {\an8}(มาเริ่มทดสอบกันเลย) 401 00:27:46,708 --> 00:27:47,917 {\an8}อย่างกับวันคริสต์มาสแน่ะ 402 00:27:48,626 --> 00:27:50,294 {\an8}อะไรเนี่ย 403 00:27:51,003 --> 00:27:52,255 ไม่นะ 404 00:27:56,384 --> 00:27:59,595 แปลกจัง อยู่ๆ ฉันก็ไม่สนใจเรื่องสุขภาพแล้ว 405 00:28:01,180 --> 00:28:04,016 "ตักอุจจาระแข็งหนึ่งช้อน 406 00:28:05,184 --> 00:28:07,145 หรืออุจจาระเหลวสี่ช้อน 407 00:28:07,145 --> 00:28:08,563 แล้วใส่ในหลอด" 408 00:28:09,272 --> 00:28:10,523 "เขย่าให้เข้ากัน" 409 00:28:10,523 --> 00:28:13,109 เหมือนสูตรอาหารที่น่าขยะแขยงที่สุดในโลก 410 00:28:14,777 --> 00:28:17,363 เหมือนช้อนเลย 411 00:28:18,030 --> 00:28:19,615 ต้องทําแบบนี้สินะ 412 00:28:21,117 --> 00:28:25,037 ฉันคิดมาตลอดว่าการตรวจ ระบบทางเดินอาหารเป็นอะไรที่น่าทึ่ง 413 00:28:25,621 --> 00:28:28,124 คงยอดไปเลยถ้าฉันเข้าใจว่า 414 00:28:28,124 --> 00:28:29,959 เกิดอะไรขึ้นในร่างกายของฉัน 415 00:28:31,294 --> 00:28:34,172 ฉันลองลดน้ําหนักมาหลายวิธีแล้ว 416 00:28:34,881 --> 00:28:37,133 หวังว่านี่จะเป็นวิธีที่ได้ผลสําหรับฉัน 417 00:28:37,759 --> 00:28:40,261 ผมอยากให้การทดสอบบอกว่าทําไมผมถึงไม่หิว 418 00:28:41,179 --> 00:28:44,807 และบอกความสัมพันธ์ ระหว่างอวัยวะของผมกับการกิน 419 00:28:45,600 --> 00:28:48,853 ฉันไม่เคยตรวจชุมชนจุลินทรีย์ในลําไส้มาก่อน 420 00:28:48,853 --> 00:28:52,982 ตอนนี้ฉันยังไม่เข้าใจเท่าไร 421 00:28:53,858 --> 00:28:55,860 สิ่งที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร 422 00:28:55,860 --> 00:28:58,946 เช่น การเปลี่ยนอาหาร และดูแลทางเดินอาหารให้ดีขึ้น 423 00:28:58,946 --> 00:29:02,617 เป็นสิ่งที่เราทําได้ โดยไม่ต้องเข้ารับการทดสอบก่อน 424 00:29:04,118 --> 00:29:06,621 แต่ถ้าคุณแค่อยากทํา การทดลองสนุกๆ ก็สามารถทําได้ 425 00:29:06,621 --> 00:29:09,207 มันเป็นเครื่องมือที่ดีต่อการวิจัย 426 00:29:15,755 --> 00:29:20,384 ตอนที่เราเริ่มศึกษาชุมชนจุลินทรีย์ พวกเราใช้ตัวเองเป็นหนูทดลอง 427 00:29:21,302 --> 00:29:24,555 ผมกับเพื่อนร่วมงานเก็บอุจจาระของตัวเอง 428 00:29:24,555 --> 00:29:26,307 แล้วใส่ในตู้แช่แข็ง 429 00:29:28,100 --> 00:29:31,771 {\an8}เราเก็บกระดาษชําระที่ใช้แล้วไว้ แล้วเอาไม้สวอบป้าย 430 00:29:31,771 --> 00:29:34,023 {\an8}จนมีเศษอุจจาระติดมา ทําให้มันเป็นสีน้ําตาล 431 00:29:34,023 --> 00:29:35,775 แล้วเราก็สกัดดีเอ็นเอจากมัน 432 00:29:35,775 --> 00:29:39,862 แต่ตอนนี้เรามีตัวอย่างหลายล้านตัวอย่าง 433 00:29:39,862 --> 00:29:43,407 จากคนหลายพันคนในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก 434 00:29:47,620 --> 00:29:49,872 ถ้าคุณเอาตัวอย่างจุลินทรีย์ของคุณให้ผม 435 00:29:49,872 --> 00:29:52,041 ผมคงบอกไม่ได้ว่า 436 00:29:52,041 --> 00:29:54,335 คุณป่วยหรือแข็งแรงแค่ไหน 437 00:29:55,002 --> 00:29:59,507 ผมต้องเปรียบเทียบคุณกับคนจํานวนมาก 438 00:29:59,507 --> 00:30:00,800 ถึงจะรู้ว่าคุณเป็นยังไง 439 00:30:02,385 --> 00:30:05,513 ชุมชนจุลินทรีย์ของคุณ คล้ายกับคนที่เป็นหอบหืดหรือเปล่า 440 00:30:05,513 --> 00:30:06,597 คุณเป็นหอบหืดหรือเปล่า 441 00:30:06,597 --> 00:30:09,016 ชุมชนจุลินทรีย์ของคุณ คล้ายกับคนที่เป็นโรคอ้วนหรือเปล่า 442 00:30:09,016 --> 00:30:10,518 คุณเป็นโรคอ้วนหรือเปล่า 443 00:30:10,518 --> 00:30:14,522 ถ้าคุณเป็นโรคเหล่านั้น ผมก็จะหาจุดร่วม ที่ช่วยให้ผมตอบคําถามนั้นได้ 444 00:30:15,857 --> 00:30:20,236 อุจจาระแต่ละช้อนมีข้อมูลหลายเทระไบต์ 445 00:30:20,236 --> 00:30:22,822 ที่เข้ารหัสอยู่ในดีเอ็นเอของจุลินทรีย์ 446 00:30:22,822 --> 00:30:27,493 {\an8}จุดบนหน้าจอแต่ละจุด แสดงถึงความซับซ้อนของชุมชนจุลินทรีย์ 447 00:30:27,493 --> 00:30:30,705 {\an8}ของคนหนึ่งคน ที่ถูกบีบอัดจนเหลือแค่จุดจุดเดียว 448 00:30:31,998 --> 00:30:34,417 ภาพนี้แสดงให้เห็นว่า 449 00:30:34,417 --> 00:30:37,253 ตัวอย่างเหล่านี้มีจุลินทรีย์คล้ายกันแค่ไหน 450 00:30:37,253 --> 00:30:39,338 ตัวอย่างสองอันที่อยู่ใกล้กัน 451 00:30:39,338 --> 00:30:42,633 คือตัวอย่างที่มีชุมชนจุลินทรีย์คล้ายคลึงกัน 452 00:30:42,633 --> 00:30:44,302 ส่วนตัวอย่างที่อยู่ห่างกัน 453 00:30:44,302 --> 00:30:46,679 ก็จะมีชุมชนจุลินทรีย์ที่แตกต่างกัน 454 00:30:50,224 --> 00:30:52,685 ตอนที่เราเริ่มศึกษาชุมชนจุลินทรีย์ในลําไส้ 455 00:30:52,685 --> 00:30:57,899 เราสันนิษฐานว่าถ้าเราสังเกต ชุมชนจุลินทรีย์ของคนอเมริกันที่สุขภาพดี 456 00:30:57,899 --> 00:31:01,903 เราจะรู้ว่าชุมชนจุลินทรีย์ที่สุขภาพดีมีลักษณะยังไง 457 00:31:04,989 --> 00:31:08,409 กราฟเฉพาะทางนี้แสดงให้เห็น ความแตกต่างระหว่างจุลินทรีย์ 458 00:31:08,409 --> 00:31:11,120 {\an8}ของคนที่อาศัยในสังคมอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ด้านล่าง 459 00:31:11,120 --> 00:31:14,707 {\an8}และสังคมที่มีอุตสาหกรรมน้อยกว่าซึ่งอยู่ด้านบน 460 00:31:15,666 --> 00:31:19,712 {\an8}จะเห็นได้ชัดว่าชุมชนจุลินทรีย์ ในสังคมที่ไม่เป็นอุตสาหกรรม 461 00:31:19,712 --> 00:31:21,464 {\an8}มีความหลากหลายมากกว่า 462 00:31:22,924 --> 00:31:26,093 {\an8}ดังนั้น ถ้าเราสนใจแต่โลกตะวันตก 463 00:31:26,093 --> 00:31:31,432 {\an8}เราจะได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน เกี่ยวกับชุมชนจุลินทรีย์ที่สุขภาพดี 464 00:31:31,432 --> 00:31:33,893 {\an8}ในปัจจุบัน หรือในอดีต 465 00:31:39,523 --> 00:31:43,778 {\an8}(บาคุนเดเบซี เนปาล) 466 00:31:46,405 --> 00:31:49,116 ตรงนี้เดินลําบากนะ 467 00:31:52,620 --> 00:31:59,251 เราจะไปตามชุมชนแบบดั้งเดิม แล้วขอให้คนบริจาคอึให้เรา 468 00:31:59,251 --> 00:32:01,212 - นมัสเต - นมัสเต 469 00:32:03,881 --> 00:32:07,426 เวลาเราไปตามชุมชนแล้วถามว่า "นี่ เราขออึของคุณได้ไหม" 470 00:32:07,426 --> 00:32:11,055 คนส่วนใหญ่จะตอบว่า "ไม่ อึเหรอ ไม่ อึ ไม่" 471 00:32:12,098 --> 00:32:17,645 แต่พอผมอธิบายว่าผมทําอะไร พวกเขาก็บอกว่า "ได้ เอาสิ" 472 00:32:23,192 --> 00:32:27,446 ปรากฏว่าชุมชนจุลินทรีย์ในลําไส้ของคนในชนบท 473 00:32:27,446 --> 00:32:30,449 มีจุลินทรีย์หลายร้อยสายพันธุ์ที่ไม่พบใน 474 00:32:30,449 --> 00:32:32,868 ชุมชนจุลินทรีย์ในสังคมอุตสาหกรรม 475 00:32:34,954 --> 00:32:40,418 การศึกษาประชากรที่ยังใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม 476 00:32:40,418 --> 00:32:43,546 จะทําให้เราเข้าใจว่าจุลินทรีย์ชนิดไหน 477 00:32:43,546 --> 00:32:46,465 ขาดหายไปจากสังคมอุตสาหกรรม 478 00:32:47,466 --> 00:32:50,177 และมันส่งผลต่อสุขภาพ ของประชากรโดยรวมอย่างไร 479 00:32:58,644 --> 00:33:00,187 {\an8}พร้อมไหมคะ 480 00:33:00,187 --> 00:33:02,023 {\an8}สวัสดีครับ มายา ยินดีที่ได้รู้จัก 481 00:33:02,023 --> 00:33:05,359 {\an8}คุณอยากคุยเรื่องผลการทดสอบตอนนี้เลยไหม 482 00:33:05,359 --> 00:33:06,694 อยากค่ะ 483 00:33:06,694 --> 00:33:10,906 {\an8}การวิจัยของเราพบว่าโดยรวมแล้ว คุณสุขภาพแข็งแรงดี 484 00:33:10,906 --> 00:33:12,783 ดีกว่าค่าเฉลี่ย 485 00:33:12,783 --> 00:33:15,703 {\an8}ผักที่คุณกินทุกสัปดาห์ไม่ได้สูญเปล่า 486 00:33:15,703 --> 00:33:16,620 {\an8}เยี่ยมเลยค่ะ 487 00:33:16,620 --> 00:33:20,833 {\an8}พอดีฉันมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมการกินที่ไม่ปกติ 488 00:33:20,833 --> 00:33:23,753 ฉันจํากัดอาหารที่ตัวเองกิน 489 00:33:23,753 --> 00:33:26,338 {\an8}ครับ มายา มีหลายคนที่คิดเหมือนคุณ 490 00:33:26,338 --> 00:33:30,468 {\an8}พวกเขาคิดว่าการกินสลัดเคลที่ดีต่อสุขภาพทุกวัน 491 00:33:30,468 --> 00:33:32,595 {\an8}จะทําให้พวกเขาสุขภาพแข็งแรง 492 00:33:32,595 --> 00:33:35,222 แต่มันไม่ได้ดีต่อสุขภาพเท่าที่เราคิด 493 00:33:35,222 --> 00:33:37,266 ยิ่งเราทานอาหารที่หลากหลาย 494 00:33:37,266 --> 00:33:40,061 ชุมชนจุลินทรีย์ของเราก็ยิ่งอุดมสมบูรณ์ 495 00:33:40,061 --> 00:33:43,105 เราจะมีแบคทีเรียในลําไส้หลายชนิดขึ้น 496 00:33:43,105 --> 00:33:48,319 และนั่นทําให้เรารับมือกับโรคภูมิแพ้ และภูมิแพ้อาหารแฝงได้ดีขึ้น 497 00:33:48,319 --> 00:33:50,988 {\an8}- ค่ะ - ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การจํากัด 498 00:33:50,988 --> 00:33:54,700 {\an8}แต่อยู่ที่การเพิ่มชนิดของอาหาร 499 00:33:54,700 --> 00:33:56,786 {\an8}ที่เราสามารถกินได้ 500 00:33:56,786 --> 00:34:01,582 ฉันคิดว่าปัญหาอย่างหนึ่งคือ ฉันมีปัญหาด้านจิตใจที่ทําให้ 501 00:34:01,582 --> 00:34:03,417 กินอาหารบางอย่าง เช่น เนื้อหมูไม่ได้ 502 00:34:03,417 --> 00:34:07,046 และเวลากินอาหารพวกนั้น บางครั้งฉันก็จะท้องเสีย 503 00:34:07,046 --> 00:34:09,173 {\an8}นี่เป็นเรื่องที่ฉันสามารถแก้ไขได้ 504 00:34:09,173 --> 00:34:12,384 {\an8}หรือว่าฉันจะอดกินเบค่อนไปตลอดชีวิตคะ 505 00:34:12,968 --> 00:34:14,512 {\an8}อย่าพูดแบบนั้นสิ ฟังดูแย่มากเลย 506 00:34:16,388 --> 00:34:18,599 - ครับ มันยากใช่ไหม - ค่ะ 507 00:34:18,599 --> 00:34:21,727 เราคิดว่าวิธีที่ช่วยได้คือ 508 00:34:21,727 --> 00:34:24,021 ให้เริ่มทานอาหารเหล่านี้ทีละน้อย 509 00:34:24,021 --> 00:34:26,816 {\an8}ทานแค่นิดเดียว พอเวลาผ่านไป 510 00:34:26,816 --> 00:34:29,193 {\an8}ก็ค่อยๆ เพิ่มปริมาณ 511 00:34:29,193 --> 00:34:32,822 ลองทานแค่นิดเดียวก่อน เริ่มทานอาหารเหล่านั้น 512 00:34:32,822 --> 00:34:35,407 ถ้าค่อยๆ ทําเป็นเวลาหลายเดือน 513 00:34:35,407 --> 00:34:40,704 คุณอาจจะเริ่มทานอาหารได้หลากหลายขึ้น 514 00:34:40,704 --> 00:34:44,583 ฉันคิดว่าการกินมันฝรั่งทอดทีละนิดฟังดูเข้าท่าดี 515 00:34:44,583 --> 00:34:46,043 {\an8}ให้ตายสิ ผมอยากกินบ้างแล้ว 516 00:34:46,043 --> 00:34:50,923 {\an8}ค่ะ เย่ น่าตื่นเต้นจัง แค่คิดฉันก็รู้สึกตื้นตันใจแล้ว 517 00:34:50,923 --> 00:34:57,054 ขอโทษนะคะ แต่ใช่ค่ะ มันเป็นอะไรที่ยากมาก 518 00:35:03,060 --> 00:35:06,689 ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้กินมันฝรั่งทอดทีละนิด 519 00:35:08,566 --> 00:35:12,361 ค่อยๆ เปลี่ยนอาหารที่กินทีละนิด 520 00:35:13,154 --> 00:35:17,283 มันก็สนุกดี บางวันฉันก็กินมันฝรั่งทอดสามแผ่น 521 00:35:17,283 --> 00:35:19,201 โดยไม่รู้สึกแย่ 522 00:35:20,286 --> 00:35:23,455 มันทําให้ฉันสงสัยว่าฉันกินสิ่งที่ควรกิน 523 00:35:23,455 --> 00:35:28,127 หรือว่าสารเคมีในสมองฉันเปลี่ยนไป 524 00:35:37,720 --> 00:35:41,599 {\an8}(นิวออร์ลีนส์ ลุยเซียนา) 525 00:35:45,519 --> 00:35:48,856 {\an8}ในความเห็นของคนทั้งโลก และข้อมูลจากกราฟและแผนภูมิต่างๆ 526 00:35:48,856 --> 00:35:53,611 ฉันถือว่าเป็นโรคอ้วนขั้นรุนแรง เพราะส่วนสูงและน้ําหนักของฉัน 527 00:35:55,237 --> 00:35:56,906 ฉันเคยพยายามควบคุมน้ําหนัก 528 00:35:56,906 --> 00:35:59,283 ฉันสมัครเป็นสมาชิกโรงยิมราคาแพง 529 00:36:00,534 --> 00:36:01,869 ฉันลองไดเอต 530 00:36:01,869 --> 00:36:05,623 ลองกินยาลดความอ้วน แต่มันไม่ได้ผล 531 00:36:06,540 --> 00:36:12,129 ช่วงแรกๆ ฉันจะลดน้ําหนักได้เยอะ แต่มันก็เด้งกลับขึ้นมาอีก 532 00:36:14,048 --> 00:36:15,883 ครอบครัวฉันมีประวัติเป็นเบาหวาน 533 00:36:15,883 --> 00:36:19,094 ดังนั้น ถึงตอนนี้ฉันจะแข็งแรงอยู่ แต่ฉันก็อยากลดน้ําหนัก 534 00:36:19,094 --> 00:36:22,473 ก่อนที่จะเริ่มเป็นโรค 535 00:36:22,473 --> 00:36:24,683 ฉันอยากอยู่กับลูกๆ ให้นานที่สุด 536 00:36:26,936 --> 00:36:31,565 สังคมทําให้ผู้หญิงร่างใหญ่ รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นๆ 537 00:36:32,358 --> 00:36:38,906 และฉันไม่ได้อยากผอมหรือหนัก 55 กิโล ฉันแค่อยากสุขภาพดีขึ้น 538 00:36:39,949 --> 00:36:43,035 ฉันจะเป็นสาวอวบสุดแซ่บไปจนวันตาย 539 00:36:56,382 --> 00:36:58,676 เราสามารถพอใจกับร่างกายตัวเอง 540 00:36:58,676 --> 00:37:02,513 และคํานึงถึงสุขภาพไปด้วยได้ เพราะมันเป็นสิ่งจําเป็น 541 00:37:02,513 --> 00:37:05,683 (คาร์มา) 542 00:37:05,683 --> 00:37:08,477 เรื่องที่ฉันสงสัยเกี่ยวกับอาหารคือ 543 00:37:08,477 --> 00:37:10,729 คนอื่นๆ กินอะไรที่ฉันไม่กิน 544 00:37:10,729 --> 00:37:13,524 พวกเขาถึงลดน้ําหนักได้ ในขณะที่ฉันลดไม่ได้ 545 00:37:20,656 --> 00:37:25,369 {\an8}ในฐานะแพทย์ เวลาเราอธิบายให้ผู้ป่วยฟัง 546 00:37:25,369 --> 00:37:28,831 ว่าทําไมพวกเขาถึงลดน้ําหนักไม่ได้ 547 00:37:28,831 --> 00:37:32,876 {\an8}เรามักจะโทษตัวบุคคล โทษผู้ป่วย 548 00:37:35,212 --> 00:37:38,716 ประชาชนทําตามคําแนะนําของเรา 549 00:37:38,716 --> 00:37:40,134 มานานหลายสิบปีแล้ว 550 00:37:40,134 --> 00:37:45,514 แต่วิกฤตโรคอ้วนกลับไม่ชะลอหรือดีขึ้นเลย 551 00:37:49,018 --> 00:37:50,894 คําว่า "ไดเอต" ทําให้คนสับสน 552 00:37:50,894 --> 00:37:52,479 ไขมันต่ําเทียบกับคาร์โบไฮเดรตต่ํา 553 00:37:53,230 --> 00:37:56,734 {\an8}คนส่วนใหญ่เข้าใจว่ามันเหมือนกับการวิ่งสุดฝีเท้า 554 00:37:56,734 --> 00:37:59,361 {\an8}เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อลดน้ําหนัก 555 00:37:59,361 --> 00:38:02,197 พอเสร็จแล้วก็กลับไปกินอาหารแบบเดิมได้ 556 00:38:02,197 --> 00:38:04,450 นั่นคือกินทุกอย่างที่อยากกิน 557 00:38:05,617 --> 00:38:09,621 แต่ความจริงแล้ว ไดเอตคือ การเปลี่ยนการใช้ชีวิตไปตลอดชีวิต 558 00:38:12,916 --> 00:38:17,379 อีกเหตุผลหนึ่งที่การไดเอตไม่ได้ผล คือมันโฟกัสผิดจุด 559 00:38:17,379 --> 00:38:21,675 และนั่นอาจทําให้คนเข้าใจผิดได้ 560 00:38:23,886 --> 00:38:27,139 เวลาเราติดฉลากบอกแคลอรีบนกล่อง เราคิดว่า 561 00:38:27,139 --> 00:38:28,807 "โอเค นี่คือปริมาณพลังงาน 562 00:38:28,807 --> 00:38:31,894 ที่เราทุกคนจะได้รับ ถ้าเรากินอาหารอย่างเดียวกันนี้" 563 00:38:31,894 --> 00:38:33,687 แต่นั่นไม่เป็นความจริงเลย 564 00:38:38,150 --> 00:38:42,654 ถ้าเราเอาแอปเปิลที่เหมือนกันเป๊ะให้คนสามคน 565 00:38:42,654 --> 00:38:47,618 แต่ละคนจะตอบสนองต่อแอปเปิลไม่เหมือนกัน 566 00:38:52,956 --> 00:38:54,833 รู้ใช่ไหมว่าฉันกินไม่ได้ 567 00:38:55,667 --> 00:38:58,587 พวกเขาจะย่อยและดูดซึมไม่เหมือนกัน 568 00:38:58,587 --> 00:39:02,257 พวกเขาจะดึงสารอาหารไปใช้ได้ไม่เหมือนกัน 569 00:39:04,218 --> 00:39:06,845 พวกเขาจะดึงพลังงานไปใช้ได้ไม่เท่ากัน 570 00:39:07,679 --> 00:39:10,682 เราคิดมาตลอดว่า "โอเค มันขึ้นอยู่กับแคลอรี" 571 00:39:10,682 --> 00:39:12,643 "ถ้าฉันกับคุณกินอาหารแบบเดียวกัน 572 00:39:12,643 --> 00:39:15,187 สุดท้ายก็ควรจะได้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน" 573 00:39:15,187 --> 00:39:17,439 แต่มันไม่จริงเลย 574 00:39:18,899 --> 00:39:21,652 ดังนั้น แทนที่จะตรวจวัดแอปเปิล 575 00:39:21,652 --> 00:39:24,571 เราต้องเริ่มตรวจวัดคนที่กินแอปเปิล 576 00:39:25,864 --> 00:39:29,910 ตอนนี้เราจะสังเกตระดับกลูโคสในเลือด หลังกินอาหารสองชั่วโมง 577 00:39:29,910 --> 00:39:33,747 เพราะเราเข้าใจว่า ระดับน้ําตาลในเลือดหลังกินอาหาร 578 00:39:33,747 --> 00:39:37,501 เกี่ยวข้องโดยตรงกับการลดและเพิ่มน้ําหนัก 579 00:39:38,335 --> 00:39:41,296 และการเกิดโรคหลายชนิด 580 00:39:43,757 --> 00:39:44,967 เยี่ยม 581 00:39:44,967 --> 00:39:47,177 ทาครีมชีสนิดหนึ่ง 582 00:39:49,388 --> 00:39:51,723 {\an8}เช้านี้ผมต้องเช็กระดับน้ําตาลในเลือด 583 00:39:51,723 --> 00:39:53,016 โดยเฉพาะหลังมื้อนี้ 584 00:39:53,016 --> 00:39:54,476 มาดูกันว่าใครจะชนะ 585 00:39:55,436 --> 00:39:57,229 ตายแล้ว ของคุณขึ้นเร็วมาก 586 00:39:57,229 --> 00:39:59,565 {\an8}- ครั้งนี้ผมชนะขาดลอยเลย - ใช่ 587 00:39:59,565 --> 00:40:01,275 {\an8}เบเกิลทําให้ผมเป็นแบบนี้ 588 00:40:01,275 --> 00:40:02,776 {\an8}ของฉันปกติดี 589 00:40:07,865 --> 00:40:11,034 หนึ่งในงานวิจัยสําคัญเกี่ยวกับชุมชนจุลินทรีย์ 590 00:40:11,034 --> 00:40:15,122 คืองานวิจัยที่นําโดยเจฟฟ์ กอร์ดอน เขาศึกษาแฝดเหมือน 591 00:40:15,122 --> 00:40:18,417 โดยที่แฝดคนหนึ่งเป็นโรคอ้วน ขณะที่อีกคนผอม 592 00:40:18,417 --> 00:40:23,422 เขานําแบคทีเรียในลําไส้ของแฝดอ้วน 593 00:40:23,422 --> 00:40:25,757 และแฝดผอมไปปลูกถ่ายในหนู 594 00:40:26,550 --> 00:40:30,929 หนูที่ได้รับแบคทีเรียจากแฝดอ้วน 595 00:40:30,929 --> 00:40:35,267 มีน้ําหนักเพิ่มขึ้นมากกว่า หนูที่ได้รับแบคทีเรียจากแฝดผอม 596 00:40:35,267 --> 00:40:38,437 แม้ว่าจะกินอาหารเหมือนกัน 597 00:40:41,315 --> 00:40:44,485 และนั่นช่วยให้เราเข้าใจว่าทําไมคนบางคน 598 00:40:44,485 --> 00:40:47,196 ถึงลดน้ําหนักยากกว่าคนอื่นๆ 599 00:40:48,405 --> 00:40:50,741 มีบางคนที่น้ําหนักลงแล้วขึ้น 600 00:40:50,741 --> 00:40:53,619 ลงแล้วขึ้นจนหนักกว่าเดิม ลงแล้วขึ้นจนหนักกว่าเดิม 601 00:40:53,619 --> 00:40:54,661 เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ 602 00:40:55,913 --> 00:40:57,956 เราคิดว่าชุมชนจุลินทรีย์อาจเป็นคําตอบ 603 00:40:59,958 --> 00:41:06,340 เราอาจต้องไดเอตนาน 9 ถึง 12 เดือน เพื่อปรับระบบนิเวศ 604 00:41:06,340 --> 00:41:09,676 เพื่อป้องกันไม่ให้น้ําหนักถาโถมกลับมา 605 00:41:09,676 --> 00:41:11,595 ตอนที่เราเริ่มกินแฮมเบอร์เกอร์อีกครั้ง 606 00:41:18,435 --> 00:41:22,648 ด้วยข้อมูลจุลินทรีย์ที่เรารวบรวมจากหลายๆ คน 607 00:41:23,524 --> 00:41:28,445 เราสามารถคาดเดาได้ว่า อาหารแบบไหนเหมาะสําหรับใคร 608 00:41:28,445 --> 00:41:31,782 โดยใช้ระดับน้ําตาลในเลือดเป็นเกณฑ์ 609 00:41:33,033 --> 00:41:34,701 หอยนางรม เยี่ยม 610 00:41:35,369 --> 00:41:37,955 กินแซนด์วิชมะเขือม่วงไม่ได้ แย่จัง 611 00:41:38,789 --> 00:41:43,085 สําหรับคนอย่างฉันที่มักจะหมกมุ่นจนเกินควร 612 00:41:43,627 --> 00:41:47,839 การให้คะแนนอาหารเป็นวิธีที่ไม่ดีเท่าไร 613 00:41:47,839 --> 00:41:50,384 ลองใส่ฮอตดอกดู 614 00:41:50,384 --> 00:41:53,887 ฮอตดอกกับขนมปังอยู่ในหมวดสีเหลือง 615 00:41:53,887 --> 00:41:56,682 - ก็ไม่แย่ใช่ไหม - ไม่แย่ แต่ก็ไม่ดี 616 00:41:56,682 --> 00:41:59,226 แต่ถ้าใส่ชีสกับอะโวคาโด คะแนนจะดีขึ้น 617 00:41:59,226 --> 00:42:00,852 ผมชอบอะโวคาโดนะ 618 00:42:00,852 --> 00:42:01,937 ยอดไปเลย 619 00:42:01,937 --> 00:42:04,398 ยิ่งใส่ท็อปปิ้งหลายอย่างก็ยิ่งดี 620 00:42:06,316 --> 00:42:11,738 ตายแล้ว สันในหมู แปลว่าเนื้อหมูเป็นของดีเหรอ 621 00:42:11,738 --> 00:42:13,615 อย่าได้ตอบว่าไม่เชียว 622 00:42:13,615 --> 00:42:16,034 (รายการโปรด ไส้กรอกไก่และไข่) 623 00:42:19,830 --> 00:42:21,039 ไง คิมมี่ 624 00:42:21,039 --> 00:42:22,624 ไง แอนนี่ 625 00:42:22,624 --> 00:42:24,042 - ไง คิมมี่ - ไง เอราน 626 00:42:24,835 --> 00:42:26,962 {\an8}ก่อนหน้านี้ คุณถามว่า 627 00:42:26,962 --> 00:42:30,048 {\an8}ทําไมเวลาคุณพยายามลดน้ําหนัก คุณถึงทําไม่ได้ 628 00:42:30,674 --> 00:42:33,468 เราดูชุมชนจุลินทรีย์ของคุณ 629 00:42:33,468 --> 00:42:37,389 และเห็นว่าชุมชนจุลินทรีย์ของคุณ ไม่ค่อยมีความหลากหลาย 630 00:42:37,389 --> 00:42:40,934 โดยเฉพาะแบคทีเรียสกุลหนึ่ง 631 00:42:40,934 --> 00:42:43,145 ที่เรียกว่าพรีโวเทลลา คุณไม่มีเลย 632 00:42:43,145 --> 00:42:44,104 ตายแล้ว 633 00:42:44,104 --> 00:42:48,025 คนที่ไม่มีพรีโวเทลลา 634 00:42:48,025 --> 00:42:50,277 จะลดน้ําหนักได้ยาก 635 00:42:50,277 --> 00:42:52,237 อีกอย่างที่เราพบคือ 636 00:42:52,237 --> 00:42:56,325 {\an8}ลําไส้ของคุณมีแบคทีเรียอีกสามชนิด 637 00:42:56,325 --> 00:42:58,201 {\an8}ที่มีปริมาณต่ํา 638 00:42:58,201 --> 00:43:02,664 {\an8}พวกมันเกี่ยวข้องกับการสร้าง ฮอร์โมนในระบบทางเดินอาหาร 639 00:43:02,664 --> 00:43:04,082 {\an8}ที่ทําให้เรารู้สึกอิ่ม 640 00:43:04,082 --> 00:43:06,001 {\an8}นี่อาจเป็นสาเหตุที่คุณหิวอยู่ตลอดเวลา 641 00:43:06,501 --> 00:43:11,923 แต่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแบคทีเรียตัวเดียว เพราะแบคทีเรียไม่ได้ทํางานตามลําพัง 642 00:43:11,923 --> 00:43:16,094 เราต้องเข้าใจว่ามันทํางานยังไง เวลาอยู่ในระบบนิเวศ 643 00:43:16,094 --> 00:43:19,056 เราถึงต้องวิเคราะห์ชุมชนจุลินทรีย์โดยรวม 644 00:43:19,056 --> 00:43:20,724 เข้าใจไหมคะ 645 00:43:20,724 --> 00:43:24,436 แน่นอนค่ะ ที่จริงฉันรู้สึกทึ่งมาก 646 00:43:24,436 --> 00:43:26,146 การที่เราสามารถ 647 00:43:27,147 --> 00:43:29,608 รู้อะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับตัวฉัน 648 00:43:30,275 --> 00:43:31,818 จากการตรวจอึ 649 00:43:33,153 --> 00:43:36,990 {\an8}แต่ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกว่ามันยากมาก 650 00:43:36,990 --> 00:43:40,410 {\an8}ทําไมฉันถึงรู้สึกเหมือนติดแหง็ก 651 00:43:41,119 --> 00:43:42,454 ฉันติดแหง็กหรือเปล่า 652 00:43:42,454 --> 00:43:44,039 ไม่ค่ะ คุณไม่ได้ติดแหง็ก 653 00:43:44,039 --> 00:43:48,627 มองในแง่ดีคือ คุณมาถึงจุดนี้ได้ คุณก็ออกจากจุดนี้ได้ 654 00:43:49,336 --> 00:43:53,131 ผมคิดว่าคุณควรปรับรูปแบบการใช้ชีวิต 655 00:43:53,131 --> 00:43:55,592 ด้วยการเปลี่ยนอาหาร 656 00:43:55,592 --> 00:43:58,387 ให้เข้ากับแบคทีเรียดีที่คุณมี 657 00:43:58,387 --> 00:43:59,346 ใช่ค่ะ 658 00:43:59,346 --> 00:44:02,391 เราจะหาสิ่งที่คุณสามารถทําได้อย่างเพลิดเพลิน 659 00:44:02,391 --> 00:44:05,644 และทําได้เป็นเวลานาน 660 00:44:05,644 --> 00:44:07,354 และดีต่อสุขภาพของคุณด้วย 661 00:44:07,354 --> 00:44:11,942 {\an8}เราคุยเรื่องกฎเอบีซี ที่แปลว่า นับอยู่เสมอ กันไปแล้ว 662 00:44:11,942 --> 00:44:14,444 {\an8}ไม่ใช่นับแคลอรี แต่ขอให้คุณนับ 663 00:44:14,444 --> 00:44:20,283 {\an8}ผักผลไม้ที่กินในแต่ละสัปดาห์ 664 00:44:20,283 --> 00:44:23,453 สัก 20 ถึง 30 ชนิด ถือว่ากําลังดี 665 00:44:23,453 --> 00:44:24,371 ได้ค่ะ 666 00:44:25,664 --> 00:44:27,791 มันทําให้อะไรๆ ชัดเจนขึ้น 667 00:44:27,791 --> 00:44:32,087 แบคทีเรียที่ต่างกัน การใช้ชีวิตที่ต่างกัน 668 00:44:32,087 --> 00:44:34,715 สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้คน 669 00:44:34,715 --> 00:44:39,803 ในเวลาที่ต่างกัน นําไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกัน 670 00:44:43,724 --> 00:44:45,225 ชีวิตฉันวุ่นวายมาก 671 00:44:46,101 --> 00:44:48,520 ฉันมีคนที่ต้องดูแลหลายคน 672 00:44:49,104 --> 00:44:52,023 แม่ฉันป่วย ฉันดูแลท่านอยู่ตลอดเวลา 673 00:44:53,275 --> 00:44:56,528 ฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกที่น่ารักสามคน 674 00:44:57,529 --> 00:45:02,617 ลูกชายฉันเป็นออทิสติก ฉันเลยต้องคอยสอนเขา 675 00:45:05,662 --> 00:45:09,624 การกินอาหารในบ้านที่มีคนหลายช่วงวัย 676 00:45:10,208 --> 00:45:13,545 ที่ต้องการอะไรไม่เหมือนกัน เราต้องทําอาหารให้ตัวเอง 677 00:45:13,545 --> 00:45:15,338 และทําอาหารให้พวกเขา 678 00:45:16,298 --> 00:45:18,925 บางทีมันก็ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง 679 00:45:21,011 --> 00:45:26,516 ดังนั้น ฉันจะให้ลูกๆ ช่วยกันเลือก อาหารอย่างหนึ่งที่ทุกคนชอบ 680 00:45:26,516 --> 00:45:27,726 นั่นคือสิ่งที่ฉันจะทํา 681 00:45:37,444 --> 00:45:41,031 ผมมั่นใจว่าผมกินฮอตดอกไป เป็นหมื่นอันตั้งแต่เริ่มทําอาชีพนี้ 682 00:45:41,031 --> 00:45:43,116 {\an8}(ทาเครุ "โคบี้" โคบายาชิ แชมป์โลกแข่งกินจุ) 683 00:46:00,217 --> 00:46:05,347 ผมเป็นคนญี่ปุ่น แต่ผมกินเหมือนคนอเมริกัน 684 00:46:05,347 --> 00:46:11,186 ผมคิดว่านั่นส่งผลร้ายต่อร่างกายผม 685 00:46:12,270 --> 00:46:15,398 {\an8}(เกียวโต ญี่ปุ่น) 686 00:46:17,275 --> 00:46:18,777 ว้าว กลิ่นนี่ 687 00:46:19,486 --> 00:46:22,489 นี่อาหารญี่ปุ่นของแท้เลยใช่ไหม 688 00:46:22,489 --> 00:46:26,076 สวยจัง 689 00:46:30,163 --> 00:46:33,291 การแข่งกินจุมีผลเสียต่อกระเพาะหรือเปล่า 690 00:46:33,291 --> 00:46:35,460 เวลาออกไปข้างนอกด้วยกัน 691 00:46:35,460 --> 00:46:38,505 คนอื่นๆ กินเยอะกว่าคุณอีก 692 00:46:38,505 --> 00:46:39,714 ก็นั่นน่ะสิ 693 00:46:39,714 --> 00:46:42,133 โคบี้คิดว่าเขาอาจจะกระเพาะพัง 694 00:46:42,133 --> 00:46:44,553 เขาไม่รู้สึกหิวหรืออิ่ม 695 00:46:44,553 --> 00:46:47,639 - เขาไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลย - จริงเหรอ 696 00:46:47,639 --> 00:46:51,309 บางครั้งเขาก็นึกขึ้นได้ว่า ไม่ได้กินอะไรมาสามวันแล้ว 697 00:46:51,309 --> 00:46:53,687 ขนาดนั้นเลยเหรอ 698 00:46:53,687 --> 00:46:57,858 ผมรู้สึกว่ายิ่งกินเยอะเท่าไร โดยเฉพาะอาหารขยะ 699 00:46:57,858 --> 00:47:00,485 ร่างกายก็ยิ่งแย่ 700 00:47:03,697 --> 00:47:05,740 ตั้งแต่ผมเริ่มทําอาชีพนี้มา 701 00:47:05,740 --> 00:47:09,077 ผมอยากรู้ว่าร่างกายผม 702 00:47:09,578 --> 00:47:12,998 ได้รับความเสียหายยังไงบ้าง 703 00:47:16,877 --> 00:47:22,924 ผมอยากรู้ว่าสมองและระบบประสาท ของผมเสียหายยังไงบ้าง 704 00:47:29,222 --> 00:47:31,933 แต่ก่อน เวลาฉันนึกถึงตัวเอง 705 00:47:31,933 --> 00:47:34,352 ฉันคิดว่าตัวเองคือหัวกับสมอง กับส่วนที่เหลือ 706 00:47:34,352 --> 00:47:37,439 ฉันคิดแบบนี้มาตลอด ความรู้สึกต่างๆ 707 00:47:37,439 --> 00:47:39,774 ความคิดต่างๆ มีต้นกําเนิดมาจากตรงนี้ 708 00:47:39,774 --> 00:47:43,486 และนี่อาจจะฟังดูงี่เง่านิดหน่อย แต่มันทําให้ฉันนึกถึง 709 00:47:43,486 --> 00:47:45,530 เวลาหลานฉันวาดรูปคน 710 00:47:45,530 --> 00:47:47,991 มีแค่หัวกับขาเล็กๆ สองข้าง 711 00:47:47,991 --> 00:47:51,536 ตอนนี้เรารู้แล้วว่าระบบทางเดินอาหาร เป็นที่ปรึกษาคนสําคัญของสมอง 712 00:47:51,536 --> 00:47:54,164 มันรวบรวมข้อมูลแล้วส่งไปให้สมอง 713 00:47:54,164 --> 00:47:56,708 ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของความรู้สึกของเรา 714 00:47:59,044 --> 00:48:01,755 {\an8}ทุกคนรู้จักสมองอันแรกที่อยู่ตรงนี้ 715 00:48:01,755 --> 00:48:05,884 {\an8}แต่เรามีสมองอันที่สองอยู่ในท้องด้วย 716 00:48:05,884 --> 00:48:09,095 และสมองอันที่สองนี้มีเส้นประสาท 717 00:48:09,095 --> 00:48:10,722 มากกว่าในไขสันหลังซะอีก 718 00:48:12,432 --> 00:48:17,520 แกนระหว่างทางเดินอาหารและสมอง เป็นระบบสื่อสารสองทาง 719 00:48:17,520 --> 00:48:21,608 ระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในท้อง กับสิ่งที่เกิดขึ้นในสมองของเรา 720 00:48:22,400 --> 00:48:25,612 คิดซะว่าสมองกับทางเดินอาหารเป็นเพื่อนซี้กัน 721 00:48:26,112 --> 00:48:28,073 ถ้าอันหนึ่งเกิดรวนขึ้นมา 722 00:48:28,073 --> 00:48:30,533 อีกอันก็จะรวนไปด้วย 723 00:48:31,117 --> 00:48:34,621 นี่อาจเป็นสิ่งที่ทําให้เรามีความสุขกับอาหารที่กิน 724 00:48:34,621 --> 00:48:37,582 และบอกว่าเราควรกินอะไร กินเมื่อไหร่ 725 00:48:37,582 --> 00:48:41,002 และไม่ใช่แค่จุลินทรีย์ที่ส่งผลต่อสมองของเรา 726 00:48:41,002 --> 00:48:45,840 แต่อาหารที่เรากินส่งผลต่อจุลินทรีย์ ซึ่งส่งผลต่อสมอง 727 00:48:47,926 --> 00:48:51,388 {\an8}(คอร์ก ไอร์แลนด์) 728 00:48:51,388 --> 00:48:53,765 (อิงลิชมาร์เก็ต คอร์ก) 729 00:48:59,896 --> 00:49:04,109 วันนี้เราอยู่ที่อิงลิชมาร์เก็ตในไอร์แลนด์ 730 00:49:04,109 --> 00:49:06,611 นี่คือที่ที่ผมไปซื้อของในวันเสาร์ 731 00:49:08,029 --> 00:49:11,825 ผมเอารายการของที่ต้องซื้อมาด้วย แต่ไม่เคยได้ใช้สักครั้ง 732 00:49:12,659 --> 00:49:15,370 กลิ่น สีสัน ทุกอย่างที่นี่ดึงดูดเรา 733 00:49:15,370 --> 00:49:18,873 แต่ระบบทางเดินอาหาร ก็อาจพาเราไปหาของที่ไม่ควรกินด้วย 734 00:49:20,917 --> 00:49:25,213 เราคิดว่าอาหารที่เราเลือกกิน ขึ้นอยู่กับสมองของเราล้วนๆ 735 00:49:25,213 --> 00:49:28,550 แต่ถ้ามันเป็นสัญญาณจากระบบทางเดินอาหาร 736 00:49:28,550 --> 00:49:31,219 ที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังล่ะ 737 00:49:32,512 --> 00:49:35,223 นี่เป็นของที่จุลินทรีย์ของผมชอบมาก 738 00:49:35,223 --> 00:49:37,726 แต่ผมก็ต้องรู้สึกขัดแย้งในใจ 739 00:49:37,726 --> 00:49:41,312 เพราะมันจะทําให้ผมน้ําหนักขึ้น 740 00:49:44,232 --> 00:49:47,444 ระดับความหิวและความถี่ที่เราอยากกินอาหาร 741 00:49:47,444 --> 00:49:52,032 อาจเกิดจากแบคทีเรียกลุ่มเล็กๆ ในลําไส้ที่บอกว่า 742 00:49:52,032 --> 00:49:55,368 "ฉันอยากกินเฟรนช์ฟรายจะแย่แล้ว" หรืออะไรทํานองนั้น 743 00:49:56,536 --> 00:49:58,955 {\an8}ถ้าเรากินน้ําตาลเยอะ เราก็จะมีจุลินทรีย์ที่ชอบน้ําตาล 744 00:49:58,955 --> 00:50:01,166 {\an8}ถ้าเรากินไขมันเยอะ เราก็จะมีจุลินทรีย์ที่ชอบไขมัน 745 00:50:01,958 --> 00:50:05,670 เวลาผมไปประเทศจีน ผมไม่ค่อยได้กินอาหารที่มีน้ําตาล 746 00:50:05,670 --> 00:50:07,964 เพราะอาหารจีนมีน้ําตาลต่ํา 747 00:50:07,964 --> 00:50:11,217 ระหว่างนั้นผมจะไม่อยากกินช็อกโกแลตเลย 748 00:50:11,217 --> 00:50:14,679 ปกติเวลาอยู่ในอเมริกาเหนือ ผมอยากกินช็อกโกแลตทุกวัน 749 00:50:15,680 --> 00:50:17,140 - อรุณสวัสดิ์ครับ - อรุณสวัสดิ์ค่ะ 750 00:50:17,140 --> 00:50:18,808 - เป็นยังไงบ้าง - สบายดีค่ะ คุณล่ะ 751 00:50:18,808 --> 00:50:20,101 สบายดีครับ 752 00:50:20,101 --> 00:50:21,227 อรุณสวัสดิ์ครับ 753 00:50:23,605 --> 00:50:26,232 วันนี้จุลินทรีย์ของผมชนะ 754 00:50:26,232 --> 00:50:29,319 ดังนั้น เราจะกินช็อกโกแลต 755 00:50:31,654 --> 00:50:33,698 ฉันมักจะอยากอาหารบางอย่างเป็นพิเศษ 756 00:50:33,698 --> 00:50:39,370 บางครั้งฉันก็อยากกินแต่สเต๊กดิบๆ 757 00:50:40,288 --> 00:50:43,917 ฉันพยายามไม่สนใจความอยากพวกนั้น แล้วทําเป็นลืมๆ มันไป 758 00:50:43,917 --> 00:50:46,461 แต่ฉันจะพยายามฟังเสียงร่างกายให้มากขึ้น 759 00:50:46,461 --> 00:50:49,631 ร่างกายฉันต้องการไอศกรีม ขนมหวาน หรือแฮมเบอร์เกอร์ 760 00:50:51,299 --> 00:50:53,176 ถ้าฉันกินได้ก็ดีสิ 761 00:50:53,927 --> 00:50:57,639 ฉันชอบอาหารทะเล ฉันพยายาม กินอาหารทะเลให้มากที่สุดเท่าที่ทําได้ 762 00:50:57,639 --> 00:51:00,308 ผมเคยอยากกิน 763 00:51:01,351 --> 00:51:05,021 เค้กกับแกงกะหรี่ สมัยผมยังเด็กๆ 764 00:51:05,021 --> 00:51:09,692 เดี๋ยวนี้ผมไม่รู้สึกถึง ความสุขของการกินแบบนั้นแล้ว 765 00:51:13,113 --> 00:51:18,952 มีความเป็นไปได้สูงว่าการย่อยอาหาร เป็นการคิดรูปแบบแรกที่เกิดขึ้นในสัตว์ 766 00:51:18,952 --> 00:51:22,580 มันมีไว้เพื่อให้เส้นประสาทรู้ถึงคุณภาพของอาหาร 767 00:51:22,580 --> 00:51:26,543 รู้ว่าเนื้อเยื่อรอบข้างเป็นยังไง มีเซลล์ภูมิคุ้มกันแบบไหนผ่านมาบ้าง 768 00:51:26,543 --> 00:51:28,962 พอระบบตรงนี้ทํางานได้ดี 769 00:51:28,962 --> 00:51:32,006 ร่างกายถึงสร้างส่วนต่อขยาย ซึ่งก็คือสมองที่อยู่ตรงนี้ 770 00:51:32,006 --> 00:51:33,383 เพื่อประสานระหว่างสัมผัสต่างๆ 771 00:51:39,264 --> 00:51:41,975 สวัสดีค่ะ คิมมี่ ถึงคิวคุณแล้ว ช่วยเข้ามาด้านหลังด้วยค่ะ 772 00:51:44,686 --> 00:51:47,897 วันนี้ผมจะทําเอ็มอาร์ไอ 773 00:51:49,899 --> 00:51:52,402 ผมกังวลนิดหน่อย 774 00:51:54,571 --> 00:51:59,993 แต่ผมตั้งตารอที่จะเข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นในร่างกายของผม 775 00:52:03,955 --> 00:52:05,790 ฉันยังสับสนนิดหน่อย 776 00:52:05,790 --> 00:52:08,585 ฉันพยายามหาว่าร่างกายฉันทํางานยังไง 777 00:52:08,585 --> 00:52:10,712 ต่อไปฉันจะได้เป็นตัวเองในแบบที่ดีขึ้น 778 00:52:15,133 --> 00:52:17,051 เอาล่ะ คิมมี่ อยู่ในนั้นเป็นยังไงบ้างคะ 779 00:52:17,051 --> 00:52:18,261 ดีค่ะ 780 00:52:18,261 --> 00:52:22,891 เดี๋ยวเราจะให้คุณดูรูปภาพจํานวนหนึ่ง 781 00:52:22,891 --> 00:52:24,976 เราจะขอให้คุณดูมัน 782 00:52:24,976 --> 00:52:27,979 - เหมือนดูทีวีหรือดูหนัง โอเคนะคะ - โอเคค่ะ 783 00:52:30,148 --> 00:52:33,526 เรากําลังสังเกตกิจกรรมภายในสมอง 784 00:52:34,736 --> 00:52:39,949 ดูว่าคิมมี่กับโคบี้ตอบสนองต่อสิ่งเร้า ในกรณีนี้คืออาหาร ยังไง 785 00:52:41,534 --> 00:52:44,120 เรามีของหวานแคลอรีสูง 786 00:52:44,120 --> 00:52:46,497 และของคาวที่มีไขมันและแคลอรีสูง 787 00:52:47,415 --> 00:52:51,878 สิ่งที่เราเห็นในสมองของคิมมี่คือ เวลาคิมมี่เห็นอาหาร 788 00:52:51,878 --> 00:52:55,632 สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์จะถูกกระตุ้น 789 00:52:55,632 --> 00:52:57,508 แต่ที่สําคัญกว่านั้น 790 00:52:57,508 --> 00:53:02,347 ความสามารถในการควบคุม การตอบสนองทางอารมณ์จะลดลง 791 00:53:04,015 --> 00:53:07,852 สําหรับโคบี้ มันซับซ้อนกว่านั้น 792 00:53:08,603 --> 00:53:11,064 ความหิวเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน 793 00:53:11,064 --> 00:53:13,358 มีหลายระบบที่เกี่ยวข้อง 794 00:53:13,358 --> 00:53:15,777 สมอง ชุมชนจุลินทรีย์ในลําไส้ 795 00:53:15,777 --> 00:53:22,033 การอักเสบ แต่ก็รวมถึงอารมณ์ ความทรงจํา และสภาพแวดล้อมด้วย 796 00:53:23,243 --> 00:53:25,954 มีหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับความหิว 797 00:53:25,954 --> 00:53:27,997 และเราต้องคํานึงถึงทั้งร่างกาย 798 00:53:29,624 --> 00:53:34,212 หมอถูกแบ่งเป็นหมอเฉพาะทาง ที่สนใจแค่อวัยวะอย่างเดียวเป็นหลัก 799 00:53:34,212 --> 00:53:37,674 โดยแทบไม่สนใจส่วนที่เหลือในร่างกาย 800 00:53:37,674 --> 00:53:41,594 มันทําให้เราไม่เข้าใจว่า ทุกอย่างเกี่ยวข้องกันยังไง 801 00:53:41,594 --> 00:53:44,389 ความงามของชุมชนจุลินทรีย์คือมันอยู่ทั่วร่างกาย 802 00:53:44,389 --> 00:53:46,557 และมันส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกาย 803 00:53:49,018 --> 00:53:50,937 เราต้องคิดแบบองค์รวมให้มากกว่านี้ 804 00:53:50,937 --> 00:53:55,108 เรื่องหนึ่งที่ผมสนใจมากคือ 805 00:53:55,108 --> 00:54:00,405 เวลาที่เรามีปัญหาระบบทางเดินอาหาร ร่วมกับปัญหาสมอง 806 00:54:00,405 --> 00:54:04,534 และมันเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไป มันพบได้ทั่วไปในผู้ป่วยออทิสติก 807 00:54:04,534 --> 00:54:09,372 พาร์กินสัน รวมถึงโรคจิตเวช ที่เกี่ยวข้องกับความเครียด 808 00:54:09,372 --> 00:54:11,332 อย่างโรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้า 809 00:54:11,332 --> 00:54:15,753 คําถามคืออะไรเกิดก่อนกัน 810 00:54:19,632 --> 00:54:21,551 ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา 811 00:54:21,551 --> 00:54:24,345 เราพบว่าคนที่มีอาการคล้ายซึมเศร้า 812 00:54:24,345 --> 00:54:27,140 ขาดแบคทีเรียในลําไส้ที่ผลิตสารเคมี 813 00:54:27,140 --> 00:54:28,933 ที่ส่งผลต่อสารเคมีในสมอง 814 00:54:28,933 --> 00:54:30,893 นั่นทําให้ความรู้สึกของเราเปลี่ยนไป 815 00:54:30,893 --> 00:54:35,606 และเราเชื่อว่ามันอาจก่อให้เกิด อาการคล้ายซึมเศร้าได้ 816 00:54:37,859 --> 00:54:41,946 เมื่อเรานําจุลินทรีย์จากคนที่สุขภาพดี ไปปลูกถ่ายในหนูปกติ 817 00:54:41,946 --> 00:54:44,866 แล้วให้โอกาสพวกมันได้สํารวจ 818 00:54:46,284 --> 00:54:51,080 พวกมันจะอยากเห็นที่ที่มีแสงสว่าง และมักจะอยากรู้อยากเห็น 819 00:54:51,080 --> 00:54:55,001 แต่ถ้าเราปลูกถ่ายจุลินทรีย์ จากคนที่เป็นโรคซึมเศร้า 820 00:54:55,585 --> 00:54:57,712 พวกมันจะซุกตัวอยู่ในที่มืด 821 00:54:57,712 --> 00:55:02,133 และเกิดความเครียด วิตกกังวล และซึมเศร้า 822 00:55:06,137 --> 00:55:09,432 เราพบการเปลี่ยนแปลง ในสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับเซโรโทนิน 823 00:55:09,432 --> 00:55:12,560 ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ควบคุมอารมณ์ ในลําไส้และสมองของหนู 824 00:55:14,062 --> 00:55:16,439 พอเราปลูกถ่ายแบคทีเรีย 825 00:55:16,439 --> 00:55:19,484 ที่มักจะขาดหายไป ในผู้ป่วยโรคซึมเศร้าให้กับสัตว์ 826 00:55:19,484 --> 00:55:22,904 มันทําให้อาการซึมเศร้าทุเลาลง 827 00:55:22,904 --> 00:55:27,200 พวกมันอาจยังเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ แต่มันมีความรุนแรงน้อยลง 828 00:55:31,120 --> 00:55:34,957 ครับ มันสมเหตุสมผลนะ 829 00:55:34,957 --> 00:55:38,669 เวลาที่ผมฝึกเพื่อเตรียมแข่ง 830 00:55:38,669 --> 00:55:42,006 ผมรู้สึกก้าวร้าว 831 00:55:42,590 --> 00:55:47,178 และไม่อยากคุยกับคนอื่น 832 00:55:49,514 --> 00:55:55,561 มันน่ากลัวนะที่สมอง กับทางเดินอาหารเกี่ยวพันกันขนาดนี้ 833 00:55:56,771 --> 00:56:00,149 มันทําให้ผมอยากระวัง เรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น 834 00:56:01,109 --> 00:56:05,154 {\an8}(แซนดีเอโก แคลิฟอร์เนีย) 835 00:56:07,031 --> 00:56:08,199 สุดยอดเลย 836 00:56:09,700 --> 00:56:11,702 ให้ตายสิ ลูกเล่นเก่งมากนะ 837 00:56:12,995 --> 00:56:17,542 ในฐานะพ่อที่มีลูกชายคนหนึ่งเป็นออทิสติก และอีกคนเป็นโรคสมาธิสั้น 838 00:56:17,542 --> 00:56:20,086 และครอบครัวมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า 839 00:56:20,086 --> 00:56:23,423 ผมอยากรู้จริงๆ ว่ามันมีความสัมพันธ์กับ 840 00:56:23,423 --> 00:56:25,716 ความผิดปกติในชุมชนจุลินทรีย์ไหม 841 00:56:25,716 --> 00:56:27,969 มันหล่อหลอมอาชีพนักวิจัยของผม 842 00:56:27,969 --> 00:56:32,056 ผมหาว่าแบคทีเรียตัวไหนบ้างที่อาจมีบทบาท 843 00:56:35,685 --> 00:56:38,062 เราพบว่าในผู้ป่วยออทิสติกที่เป็นเด็ก 844 00:56:38,062 --> 00:56:42,442 มีหลายคนที่ท้องร่วงหรือท้องผูกขั้นรุนแรง 845 00:56:43,025 --> 00:56:46,070 สําหรับโรคทางสมองอื่นๆ เช่น พาร์กินสัน 846 00:56:46,070 --> 00:56:48,865 เรามักจะพบอาการท้องผูก 847 00:56:48,865 --> 00:56:53,369 ซึ่งบางครั้งก็เกิดขึ้นก่อน โรคทางสมองนานหลายสิบปี 848 00:56:56,706 --> 00:56:58,124 เพื่อที่จะเข้าใจความเชื่อมโยงนี้ 849 00:56:58,124 --> 00:57:01,919 เรานําแบคทีเรียจากมนุษย์ ที่เป็นโรคบางอย่าง เช่น พาร์กินสัน 850 00:57:02,712 --> 00:57:04,046 ไปปลูกถ่ายในหนู 851 00:57:08,384 --> 00:57:12,430 เมื่อเราให้แบคทีเรียที่ขาดหายไปกับหนู อาการของพวกมันก็ดีขึ้น 852 00:57:15,016 --> 00:57:16,934 มันเป็นเรื่องธรรมชาติ 853 00:57:16,934 --> 00:57:21,397 แค่ปรับความสมดุลของระบบนิเวศ และสารเคมีในร่างกาย 854 00:57:26,235 --> 00:57:32,742 เราเริ่มเห็นว่าความเชื่อมโยงนั้น และการศึกษาร่างกายแบบองค์รวม 855 00:57:32,742 --> 00:57:37,288 เป็นสิ่งจําเป็น ถ้าเราอยาก หาทางรับมือกับโรคเรื้อรังเหล่านี้ 856 00:57:41,292 --> 00:57:43,127 {\an8}ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ โคบี้ 857 00:57:43,127 --> 00:57:44,253 สวัสดีครับ คุณหมอ 858 00:57:44,253 --> 00:57:45,505 สวัสดีค่ะ โคบี้ แม็กกี้ 859 00:57:45,505 --> 00:57:46,631 ยินดีที่ได้รู้จักครับ 860 00:57:47,215 --> 00:57:49,050 ฉันมีผลการตรวจ 861 00:57:49,050 --> 00:57:52,011 {\an8}เราตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าความจริงแล้ว 862 00:57:52,011 --> 00:57:54,597 {\an8}แบคทีเรียของคุณดูดีทีเดียว 863 00:57:54,597 --> 00:57:58,267 ว้าว ผิดคาดเลย 864 00:57:58,267 --> 00:58:03,606 {\an8}ดังนั้น แม้ว่าการแข่งกินจุอาจมีผลกระทบ 865 00:58:03,606 --> 00:58:08,236 {\an8}แต่การที่คุณทานอาหารปกติ ที่ดีต่อสุขภาพ อาหารญี่ปุ่น 866 00:58:08,236 --> 00:58:10,571 ก็ส่งผลต่อชุมชนจุลินทรีย์ของคุณ 867 00:58:10,571 --> 00:58:13,574 เพราะแบคทีเรียในชุมชนจุลินทรีย์ 868 00:58:13,574 --> 00:58:17,745 จะตอบสนองภายใน 24 ชั่วโมงหลังทานอาหาร 869 00:58:18,621 --> 00:58:21,332 แต่ถ้าเป็นเรื่องความเบื่ออาหาร 870 00:58:21,332 --> 00:58:24,210 อาจมีเหตุผลหลายอย่างรวมกัน 871 00:58:24,210 --> 00:58:26,921 {\an8}เช่น ภาวะกระเพาะคราก ฮอร์โมน 872 00:58:26,921 --> 00:58:31,217 การอักเสบเล็กๆ น้อยๆ และความเร็วในการย่อยอาหาร 873 00:58:31,217 --> 00:58:33,719 - นี่เป็นแค่ตัวอย่างบางส่วน - ค่ะ 874 00:58:33,719 --> 00:58:36,931 แต่อีกอย่างที่เป็นไปได้คือสมอง 875 00:58:36,931 --> 00:58:42,895 ปกติฉันไม่ชอบเวลาหมอ บอกผู้ป่วยว่ามันเกิดจากสมอง 876 00:58:42,895 --> 00:58:47,567 แต่พอฉันดูผลสแกนสมองของคุณ ทุกส่วนถูกกระตุ้น 877 00:58:47,567 --> 00:58:50,027 พูดง่ายๆ คือทุกส่วนในสมองของคุณ 878 00:58:50,027 --> 00:58:52,613 {\an8}ที่เกี่ยวข้องกับการกิน อาหาร 879 00:58:52,613 --> 00:58:55,866 {\an8}ความรู้สึกคลื่นไส้หรืออิ่ม ทุกส่วนทํางานหมด 880 00:58:55,866 --> 00:58:57,618 เหมือนกับมันสับสน 881 00:58:57,618 --> 00:59:00,371 โอเค ผมไม่ชอบแบบนี้เลย 882 00:59:00,371 --> 00:59:02,373 ฉันคิดว่าคําอธิบายเดียวที่มีเหตุผล 883 00:59:02,373 --> 00:59:06,127 {\an8}คือทุกส่วนต้องทํางานร่วมกันเพื่อยับยั้ง 884 00:59:06,127 --> 00:59:11,007 เพื่อป้องกันไม่ให้คุณรู้สึกอิ่ม หรือขยะแขยงเวลากินอาหารเยอะๆ 885 00:59:11,007 --> 00:59:14,510 เราเห็นว่าร่างกายของคุณ ทําได้หลายอย่างเพื่อสิ่งที่คุณต้องการ 886 00:59:14,510 --> 00:59:16,304 แม้ว่ามันจะไม่ดีต่อตัวคุณเอง 887 00:59:17,930 --> 00:59:20,141 เขาบอกว่า "ผมรู้" เขาบอกว่า "ผมกลัวแล้ว" 888 00:59:20,141 --> 00:59:22,393 "ผมไม่รู้ว่าสมองผมปกติดีไหม" 889 00:59:22,393 --> 00:59:27,857 ค่ะ แต่ไม่ได้มีส่วนไหนที่ไม่ทํางาน ขาดหายไป หรือเสียหาย 890 00:59:28,441 --> 00:59:31,110 ทุกอย่างอยู่ครบ ทุกอย่างทํางาน 891 00:59:31,110 --> 00:59:33,946 มันแค่ทํางานต่างจากปกติ 892 00:59:33,946 --> 00:59:37,325 {\an8}สมองของคุณยังคิดว่าคุณแข่งขัน 893 00:59:37,325 --> 00:59:39,201 {\an8}หรือกินอาหารแปรรูปสูงอยู่ 894 00:59:39,201 --> 00:59:42,413 ฉันคิดว่าสถานการณ์ของคุณซับซ้อนมาก 895 00:59:42,413 --> 00:59:46,042 อย่างหนึ่งที่น่าลองคือ 896 00:59:46,042 --> 00:59:49,879 ให้คุณเรียนรู้ที่จะฟังเสียงร่างกายตัวเอง 897 00:59:49,879 --> 00:59:54,925 {\an8}ต่อให้เป็นแค่กลิ่น หรือสัมผัสที่เกิดจากของทั่วๆ ไป 898 00:59:54,925 --> 00:59:57,845 เรียนรู้ที่จะรู้สึกเป็นครั้งคราว 899 00:59:58,888 --> 01:00:00,890 ยังต้องไปอีกไกล ไกลมาก 900 01:00:00,890 --> 01:00:04,185 เขาบอกว่า "ยังต้องไปอีกไกลสินะ" 901 01:00:05,353 --> 01:00:09,690 ผมกินมากเกินไปเพราะผมเป็นนักแข่งกินจุ 902 01:00:10,524 --> 01:00:14,195 แต่คนทั่วไปก็กินมากเกินไปเป็นบางครั้ง 903 01:00:16,864 --> 01:00:23,537 เวลาเรากินมากเกินไป เราไม่ได้ดื่มด่ํากับรสชาติ 904 01:00:23,537 --> 01:00:27,208 หรือกลิ่นของอาหารอย่างเต็มที่ 905 01:00:28,542 --> 01:00:34,840 เรามองข้ามสัญญาณจากร่างกาย เช่น ความอิ่ม 906 01:00:37,176 --> 01:00:39,261 มันเริ่มตั้งแต่เรายังเด็ก 907 01:00:39,261 --> 01:00:41,722 เด็กหลายคนถูกสอนให้ 908 01:00:41,722 --> 01:00:45,434 กินอาหารให้หมดจาน กินให้หมดเพราะนั่นคือสิ่งที่เด็กดีทํา 909 01:00:47,561 --> 01:00:50,272 เราเลยเรียนรู้ที่จะไม่สนใจความหิว 910 01:00:50,272 --> 01:00:53,109 และฝึกตัวเองให้ชินกับการกินอาหารตามเวลา 911 01:00:54,276 --> 01:00:57,863 เราใช้มือถือตลอดเวลา เราใช้คอมพิวเตอร์ สมองเจอแต่หน้าจอ 912 01:00:59,073 --> 01:01:03,285 การเชื่อมต่ออีกครั้ง ที่จริงมันก็เป็นแค่ การฟังเสียงร่างกายตัวเอง 913 01:01:05,746 --> 01:01:11,252 ผมอยากมีชีวิตที่ยืนยาวและแข็งแรง 914 01:01:11,794 --> 01:01:13,087 อรุณสวัสดิ์ครับ 915 01:01:14,255 --> 01:01:18,968 ผมตัดสินใจเลิกแข่งกินจุ 916 01:01:21,178 --> 01:01:25,141 ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยทํางานอย่างอื่น 917 01:01:26,100 --> 01:01:28,978 ผมกังวลว่าชีวิตต่อไปจะเป็นยังไง 918 01:01:28,978 --> 01:01:31,272 แต่ผมก็ตื่นเต้นกับอนาคต 919 01:01:31,272 --> 01:01:33,399 ผมมีความรู้สึกหลายอย่างผสมปนเปกัน 920 01:01:36,277 --> 01:01:38,070 แต่ก่อนอื่น 921 01:01:38,070 --> 01:01:44,869 ผมอยากรักษาสมอง และระบบทางเดินอาหารของผม 922 01:01:47,580 --> 01:01:49,498 เรากําลังทํางานอย่างหนัก 923 01:01:49,498 --> 01:01:53,586 เพื่อให้มีการบําบัดด้วยจุลินทรีย์ รูปแบบต่างๆ มากขึ้น 924 01:01:57,173 --> 01:02:01,427 ถ้าชุมชนจุลินทรีย์ของเราเสียหาย เราจะรักษามันด้วยอึได้ไหม 925 01:02:03,637 --> 01:02:08,017 มันมีค่ามาก มีค่ายิ่งกว่าทองอีก 926 01:02:09,018 --> 01:02:13,856 {\an8}คุณจะว่ายังไงถ้าหมอบอกว่า อุจจาระของคนอื่นอาจช่วยชีวิตคุณได้ 927 01:02:13,856 --> 01:02:17,610 การปลูกถ่ายจุลินทรีย์ในอุจจาระ เรียกสั้นๆ ว่าเอฟเอ็มที 928 01:02:17,610 --> 01:02:22,323 คือการนําอุจจาระของบุคคลอื่น ไปใส่ในร่างกายของผู้ติดเชื้อ 929 01:02:22,323 --> 01:02:26,452 เขารักษาด้วยการส่องกล้องตรวจลําไส้ใหญ่ ยาสวนทวารหนัก และยาเม็ด 930 01:02:26,452 --> 01:02:30,498 การปลูกถ่ายจุลินทรีย์ในอุจจาระ เป็นการบําบัดด้วยจุลินทรีย์อย่างแรก 931 01:02:30,498 --> 01:02:34,001 ที่ได้รับการอนุมัติจากอย. ที่หมอสามารถใช้ได้ 932 01:02:34,001 --> 01:02:38,172 แต่พวกเขาได้รับอนุญาตให้ใช้วิธีนี้ รักษาโรคชนิดเดียวเท่านั้น 933 01:02:38,172 --> 01:02:43,219 {\an8}ซี. ดิฟฟิไซล์ เวลาที่แบคทีเรียทําให้ผู้ป่วย ลําไส้ใหญ่อักเสบและท้องร่วงอย่างรุนแรง 934 01:02:43,219 --> 01:02:46,347 เรานําชุมชนแบคทีเรียจากคนที่สุขภาพแข็งแรง 935 01:02:46,347 --> 01:02:49,099 ไปพ่นในลําไส้ของผู้ป่วย 936 01:02:49,099 --> 01:02:54,021 เพื่อนําแบคทีเรียใหม่เข้าสู่ลําไส้ 937 01:02:54,021 --> 01:02:57,358 วิธีการนี้มีอัตราการรักษาหาย 90 เปอร์เซ็นต์ 938 01:02:57,358 --> 01:02:59,485 นักวิทยาศาสตร์กําลังหาว่า 939 01:02:59,485 --> 01:03:03,739 มันสามารถรักษาโรคทางกายและจิตใจ อีกหลายร้อยชนิดได้หรือไหม 940 01:03:05,032 --> 01:03:09,245 แม้ว่าการปลูกถ่ายจุลินทรีย์ในอุจจาระ จะมีหลักฐานเป็นที่น่าพอใจ 941 01:03:09,245 --> 01:03:11,330 แต่มันยังอยู่ในขั้นพัฒนา 942 01:03:11,330 --> 01:03:15,459 เรายังศึกษาว่ามันมีประโยชน์ ต่อประชากรในวงกว้างหรือไม่ 943 01:03:15,459 --> 01:03:17,336 และมันมีประโยชน์ในระยะยาวหรือไม่ 944 01:03:24,260 --> 01:03:27,930 {\an8}เจอแล้ว อยู่ข้างอาหารที่เราจะกินหลังจากนี้ 945 01:03:29,890 --> 01:03:32,643 - อยู่ในเกณฑ์ดีหรือเปล่า - ก็ดีอยู่นะ 946 01:03:35,479 --> 01:03:36,897 ฉันคิดว่าสําหรับคนส่วนใหญ่ 947 01:03:36,897 --> 01:03:40,609 การปลูกถ่ายอุจจาระเป็นเรื่องน่ากลัว 948 01:03:40,609 --> 01:03:42,570 โดยเฉพาะการปลูกถ่ายด้วยตัวเอง 949 01:03:43,237 --> 01:03:46,699 แต่ฉันก็คิดว่าคนที่สุขภาพดีส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่า 950 01:03:46,699 --> 01:03:50,119 การมีคุณภาพชีวิตต่ํามากมันเป็นยังไง 951 01:03:50,744 --> 01:03:53,205 ฉันรู้สึกเหมือนไม่มีทางเลือก 952 01:03:58,377 --> 01:03:59,336 นี่คือความรักใช่ไหม 953 01:04:00,170 --> 01:04:01,630 ใช่ รักแท้ 954 01:04:07,511 --> 01:04:13,309 ครั้งแรกที่ฉันปลูกถ่ายอุจจาระ ฉันใช้อุจจาระจากพี่ชาย 955 01:04:15,060 --> 01:04:20,816 น้ําหนักฉันค่อยๆ เพิ่มขึ้น แม้ว่าฉันจะกินอาหารเหมือนเดิม 956 01:04:22,318 --> 01:04:25,529 และฉันสามารถขับถ่ายได้ด้วยตัวเอง 957 01:04:25,529 --> 01:04:27,865 เป็นครั้งแรกในรอบสามปี 958 01:04:29,909 --> 01:04:32,036 แต่ฉันเริ่มเป็นสิวมากขึ้น 959 01:04:32,661 --> 01:04:35,998 และพี่ชายฉันเคยเป็นสิวฮอร์โมน 960 01:04:37,416 --> 01:04:41,921 ฉันเลยตัดสินใจใช้อุจจาระของแฟนแทน 961 01:04:41,921 --> 01:04:44,423 เขาไม่มีโรคทางกาย 962 01:04:44,423 --> 01:04:46,967 แต่เขามีปัญหาสุขภาพจิตนิดหน่อย 963 01:04:48,427 --> 01:04:50,930 ฉันกินยาจากแฟนอยู่หลายเดือน 964 01:04:50,930 --> 01:04:52,556 หายเป็นสิว 965 01:04:53,390 --> 01:04:57,978 แต่พอเวลาผ่านไป ฉันสังเกตว่า ฉันรู้สึกซึมเศร้าหนักกว่าที่เคยเป็น 966 01:04:59,396 --> 01:05:02,274 ฉันได้รับแบคทีเรียที่เขามีตามปกติ 967 01:05:02,274 --> 01:05:05,611 และมันทําให้ฉันที่เป็น โรคซึมเศร้าอยู่แล้วอาการกําเริบ 968 01:05:08,113 --> 01:05:10,616 ฉันกลับไปใช้อุจจาระของพี่ชาย 969 01:05:10,616 --> 01:05:14,078 ภายในหนึ่งสัปดาห์ ฉันหายซึมเศร้าเป็นปลิดทิ้ง 970 01:05:16,205 --> 01:05:17,665 เก็บไว้ในนี้ 971 01:05:18,916 --> 01:05:20,209 กับไอศกรีม 972 01:05:23,462 --> 01:05:25,631 การทําเอฟเอ็มทีมีความเสี่ยง 973 01:05:27,299 --> 01:05:30,678 เวลาเราทําเอฟเอ็มที เราได้รับแบคทีเรียดี 974 01:05:30,678 --> 01:05:34,431 แต่ก็อาจมีแบคทีเรียไม่ดีติดมาด้วย 975 01:05:35,474 --> 01:05:38,435 ฉันก็อยากให้นี่เป็นทางออกที่สมบูรณ์แบบ 976 01:05:40,646 --> 01:05:44,358 แต่นักวิทยาทางเดินอาหารทุกคน ที่ฉันรู้จักระมัดระวังมาก 977 01:05:44,358 --> 01:05:48,612 เราอาจถ่ายทอดแนวโน้มที่จะเป็นโรคต่างๆ ได้ 978 01:05:49,989 --> 01:05:53,701 ผมเลยแนะนําไม่ให้คนลองใช้ 979 01:05:53,701 --> 01:05:56,578 การบําบัดที่มีผลรุนแรงแบบนี้กับตัวเอง 980 01:05:58,998 --> 01:06:03,919 ถ้าการปลูกถ่ายอุจจาระสามารถทําให้ 981 01:06:03,919 --> 01:06:07,965 คุณกลับมารู้สึกหิวและอิ่มอีกครั้ง คุณจะทําไหม 982 01:06:07,965 --> 01:06:13,095 ทําครับ ถ้ามันแก้ปัญหาของผมได้ 983 01:06:13,095 --> 01:06:15,305 ผมก็จะลองดู 984 01:06:15,305 --> 01:06:18,142 ผมจะเป็นหนูทดลองให้ 985 01:06:18,642 --> 01:06:21,311 อุจจาระของคนอื่นอาจช่วยชีวิตคุณได้ 986 01:06:21,311 --> 01:06:22,855 จุลินทรีย์ในอุจจาระ... 987 01:06:22,855 --> 01:06:25,149 ฉันคิดว่ามันแปลกมาก 988 01:06:25,691 --> 01:06:29,069 แต่การพูดคุยเรื่องอึช่วยให้ฉันเข้าใจว่า 989 01:06:29,069 --> 01:06:31,030 การอึเป็นเรื่องปกติ 990 01:06:31,030 --> 01:06:33,907 มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจําวัน มันเป็นสิ่งที่ทุกคนทํา 991 01:06:33,907 --> 01:06:35,159 ทําไมเราถึงไม่พูดถึงมันล่ะ 992 01:06:35,159 --> 01:06:38,662 ฉันพูดถึงมัน แบบอยู่ๆ ก็คุยเรื่องอึ 993 01:06:40,789 --> 01:06:43,625 แล้วพอวางสาย ฉันก็คิดว่า "นี่มันแปลกหรือเปล่า" 994 01:06:43,625 --> 01:06:47,212 แต่ก่อนมันแปลกนะ แต่เดี๋ยวฉันรู้สึกว่า "ไม่ ก็ปกตินี่" 995 01:06:51,008 --> 01:06:53,802 การปลูกถ่ายจุลินทรีย์ในอุจจาระ เป็นการรักษาแบบหว่านแห 996 01:06:54,553 --> 01:06:56,764 เราชอบการรักษาแบบตรงจุด 997 01:06:56,764 --> 01:07:02,186 อย่างโปรไบโอติกที่เป็น การดูแลสุขภาพอย่างเจาะจงมากกว่า 998 01:07:03,937 --> 01:07:07,858 โปรไบโอติกส่วนใหญ่ที่หาซื้อได้ตามร้าน ไม่ใช่จุลินทรีย์ในลําไส้ 999 01:07:07,858 --> 01:07:10,611 มันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อยู่ในลําไส้ของเรา 1000 01:07:10,611 --> 01:07:15,032 มันเป็นจุลินทรีย์ปกติที่พบได้ในนมเปรี้ยวหรือชีส 1001 01:07:15,032 --> 01:07:17,034 นั่นคือเชื้อแลคโตบาซิลลัส 1002 01:07:17,034 --> 01:07:19,995 มันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อยู่ในร่างกาย 1003 01:07:19,995 --> 01:07:23,665 ก็เหมือนกับเอาต้นไม้กระถาง ไปทิ้งในป่าแอมะซอน 1004 01:07:23,665 --> 01:07:26,168 แล้วคาดหวังว่ามันจะโตทันที 1005 01:07:27,628 --> 01:07:31,048 การแพทย์แผนปัจจุบันนั้น เน้นที่การรักษาอาการของโรค 1006 01:07:31,048 --> 01:07:33,842 มากกว่าต้นตอของโรค 1007 01:07:34,802 --> 01:07:37,721 ในอนาคต เราอยากมีวิธีที่ฉลาดกว่านี้ 1008 01:07:37,721 --> 01:07:42,643 ในการเปลี่ยนจุลินทรีย์ในลําไส้ของเรา อย่างเจาะจง เพื่อให้เกิดผลดีอย่างแท้จริง 1009 01:07:42,643 --> 01:07:45,813 และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นตั้งแต่แรก 1010 01:07:47,940 --> 01:07:50,901 ชุมชนจุลินทรีย์จะพลิกโฉมวงการแพทย์ 1011 01:07:50,901 --> 01:07:53,821 เพราะทุกคนสามารถเป็นเภสัชกรของตัวเองได้ 1012 01:07:53,821 --> 01:07:56,323 ด้วยการเลือกกินอาหารที่เหมาะสม 1013 01:08:00,077 --> 01:08:02,496 เพื่อนร่วมงานของผม ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบของเรา 1014 01:08:02,496 --> 01:08:06,458 {\an8}และเริ่มดื่มน้ําปั่นที่ทําจากผักผลไม้ 60 ชนิดทุกวัน 1015 01:08:06,458 --> 01:08:10,671 {\an8}คุณจะเห็นว่าเขาอยู่ตรงแถบสีแดง ตอนที่กินอาหารตามปกติ 1016 01:08:10,671 --> 01:08:14,091 แต่เขาย้ายไปอยู่ตรงแถบสีส้มหลังจากดื่มน้ําปั่น 1017 01:08:14,091 --> 01:08:18,303 ใช้เวลาสองสามสัปดาห์ แต่เขาย้าย ไปอยู่คนละส่วนของกราฟเลย 1018 01:08:18,303 --> 01:08:21,223 สองสามเดือนหลังจากนั้น เมื่อการทดลองสิ้นสุดลง 1019 01:08:21,223 --> 01:08:24,643 เขาก็มีชุมชนจุลินทรีย์ที่มีความหลากหลายสูงกว่า 1020 01:08:24,643 --> 01:08:26,228 ตอนเริ่มการทดลองมาก 1021 01:08:26,228 --> 01:08:28,105 แล้วคุณไม่เริ่มดื่มน้ําปั่นบ้างเหรอคะ 1022 01:08:28,105 --> 01:08:29,481 ไม่ครับ ผมชิมมันแล้ว 1023 01:08:30,482 --> 01:08:33,110 ผมว่านี่เป็นเรื่องหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ 1024 01:08:33,110 --> 01:08:35,028 กับเชฟต้องร่วมมือกัน 1025 01:08:35,028 --> 01:08:37,531 เพื่อสร้างอาหารที่ไม่เพียงแค่ มีสารอาหารครบถ้วน 1026 01:08:37,531 --> 01:08:39,241 แต่ยังรสชาติดีด้วย 1027 01:08:42,911 --> 01:08:45,706 ฉันไม่เข้าใจหรอกว่า มันหมายความว่ายังไง แต่ก็เจ๋งดีนะ 1028 01:08:46,582 --> 01:08:49,251 เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย 1029 01:08:49,251 --> 01:08:50,878 (ภารกิจทําน้ําผักผลไม้ปั่น 60 ชนิด) 1030 01:08:57,050 --> 01:08:59,595 ผักกาดม่วงและผักกาดหอม มีแล้ว 1031 01:08:59,595 --> 01:09:02,764 ผักปวยเล้ง มีแล้ว เคลม่วง มีแล้ว 1032 01:09:02,764 --> 01:09:04,933 ใบแครอต มีแล้ว 1033 01:09:04,933 --> 01:09:11,231 มะเขือเทศ แครอต ซูกินี อะโวคาโด 1034 01:09:11,231 --> 01:09:16,153 ฉันไม่เคยทําอาหารที่มีทั้งหัวไชเท้า และอินทผลัมมาก่อน 1035 01:09:16,153 --> 01:09:19,281 แต่นั่นอาจเป็นมาการองรสใหม่ของฉันก็ได้ 1036 01:09:21,366 --> 01:09:24,077 เขาดื่มน้ําปั่นเยอะแค่ไหน 1037 01:09:24,077 --> 01:09:28,999 นี่มันเยอะพอๆ กับผักผลไม้ที่ฉันกินทั้งสัปดาห์เลย 1038 01:09:28,999 --> 01:09:31,293 ใส่น้ําหนึ่งถ้วย 1039 01:09:33,420 --> 01:09:36,924 รู้สึกเหมือนทําการทดลอง ในนิทรรศการวิทยาศาสตร์เลย 1040 01:09:36,924 --> 01:09:39,009 ฉันจะใส่ขิงทั้งแง่งลงไป 1041 01:09:39,009 --> 01:09:41,553 เพราะขิงน่ะกินเท่าไรก็ไม่พอ 1042 01:09:43,055 --> 01:09:46,808 ความรู้สึกแรกของฉันคือ ใครจะมีเวลามาทําเรื่องแบบนี้ 1043 01:09:49,186 --> 01:09:51,480 เราจะใส่มะเดื่อทั้งลูก ฉันชอบมะเดื่อ 1044 01:09:51,480 --> 01:09:55,984 ฉันรู้สึกว่าผักผลไม้สีชมพู น่าจะดีต่อสุขภาพเป็นพิเศษ 1045 01:09:55,984 --> 01:09:57,277 มีสารต้านอนุมูลอิสระ 1046 01:09:58,070 --> 01:10:00,530 มันฝรั่ง ฉันก็... 1047 01:10:01,615 --> 01:10:03,575 มันจะแบบ... 1048 01:10:04,159 --> 01:10:05,327 ทุกอย่างต้องมีครั้งแรก 1049 01:10:06,995 --> 01:10:08,038 หนึ่งช้อนชา 1050 01:10:08,038 --> 01:10:09,873 น่าจะครบแล้วนะ 1051 01:10:11,375 --> 01:10:12,334 โอเค 1052 01:10:13,001 --> 01:10:16,588 ฉันคิดว่าสีต้องออกมาน่าสนใจมากแน่ๆ 1053 01:10:25,973 --> 01:10:28,225 หน้าตาไม่แย่นะ คือมันก็ไม่ดีเท่าไร 1054 01:10:28,225 --> 01:10:30,936 แต่ฉันเคยดื่มน้ําปั่นที่แย่กว่านี้ 1055 01:10:32,271 --> 01:10:33,522 กลิ่นผักชัดเลย 1056 01:10:35,482 --> 01:10:36,942 ข้นมาก 1057 01:10:40,654 --> 01:10:42,072 มันมีเนื้อสัมผัส 1058 01:10:48,787 --> 01:10:50,122 ก็ไม่แย่นะ 1059 01:10:51,957 --> 01:10:54,543 ใช้ได้เลย รสชาติดีต่อสุขภาพ 1060 01:10:56,086 --> 01:10:57,504 คุณจะปรับปรุงมันยังไงคะ 1061 01:10:57,504 --> 01:11:01,049 ฉันคงไม่ใส่ผักอย่างกะหล่ําดาว 1062 01:11:01,049 --> 01:11:03,760 ที่กลิ่นแรงเกินไป 1063 01:11:03,760 --> 01:11:07,014 หรือไม่ก็ทําให้เป็นกัซปาโชไปเลย 1064 01:11:07,014 --> 01:11:10,183 ฉันคิดว่าน้ําผักปั่นหลายสูตรที่ฉันเคยดื่มคงดีขึ้นมาก 1065 01:11:10,183 --> 01:11:12,436 ถ้าเราแค่ยอมรับในสิ่งที่มันเป็นแล้วเติมเกลือ 1066 01:11:12,436 --> 01:11:15,731 กับน้ําส้มสายชูนิดหน่อย แล้วเราก็แค่ดื่มกัซปาโช 1067 01:11:15,731 --> 01:11:20,027 มันฟังดูน่ากินนะ แต่เราก็แค่ต้องปรุงน้ําปั่น 1068 01:11:27,326 --> 01:11:30,704 มันน่าทึ่งนะ การที่อาหารส่งผลต่อเรา 1069 01:11:30,704 --> 01:11:34,166 และสิ่งที่เรากินสามารถ เปลี่ยนแปลงร่างกายของเราได้ 1070 01:11:35,125 --> 01:11:39,504 สิ่งที่เรากินวันนี้จะส่งผลต่อจุลินทรีย์ของเรา ภายในวันพรุ่งนี้ ภายใน 24 ชั่วโมง 1071 01:11:40,088 --> 01:11:43,425 {\an8}กฎของฉันคือเอบีซี นับอยู่เสมอ 1072 01:11:43,425 --> 01:11:46,720 {\an8}นับผักและผลไม้ที่เรากินเสมอ 1073 01:11:47,846 --> 01:11:51,892 ถ้าเรากินผักผลไม้สัปดาห์ละ 20 ถึง 30 ชนิด 1074 01:11:51,892 --> 01:11:53,435 ฉันคิดว่าจะดีมาก 1075 01:11:57,064 --> 01:11:59,983 ถ้าคุณอยากได้กฎที่ทําตามง่ายๆ 1076 01:11:59,983 --> 01:12:02,986 ให้นึกถึงสิ่งที่คนรุ่นก่อนๆ กิน 1077 01:12:03,612 --> 01:12:08,033 ผัก ผลไม้ ถั่วเปลือกแข็ง ถั่ว 1078 01:12:08,033 --> 01:12:12,120 แม้แต่อาหารหมักดองที่มีจุลินทรีย์หลายชนิด 1079 01:12:12,746 --> 01:12:15,874 อาหารหมักดองคือโปรไบโอติกแบบดั้งเดิม 1080 01:12:17,918 --> 01:12:21,922 เราแค่โรยเกลือบนผักแล้วทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 1081 01:12:21,922 --> 01:12:25,175 แล้วเราก็จะได้อาหารหมัก แสนอร่อยภายในสองวัน 1082 01:12:29,429 --> 01:12:32,265 - ไปได้สวย - ไปได้สวยเหรอ เก่งมาก ลูกรัก 1083 01:12:32,891 --> 01:12:36,103 ข้าวโพดหน้าตาแบบนี้เหรอ ตอนที่มันยังไม่เป็นข้าวโพด 1084 01:12:36,853 --> 01:12:39,898 หมายถึงข้าวโพดสดๆ ที่ไม่ใช่ของสําเร็จรูปใช่ไหม ใช่ 1085 01:12:39,898 --> 01:12:41,817 มีข้าวโพดอยู่ในนี้ 1086 01:12:41,817 --> 01:12:42,901 ใช่ 1087 01:12:44,194 --> 01:12:46,822 แต่ก่อนฉันสับสนมาก 1088 01:12:47,697 --> 01:12:50,534 การเรียนรู้หลักวิทยาศาสตร์ทําให้ฉันรู้ว่า 1089 01:12:50,534 --> 01:12:53,620 "โอเค ฉันจะแค่พูดว่าฉันไดเอตไม่ได้" 1090 01:12:53,620 --> 01:12:56,415 เราต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิต 1091 01:12:57,582 --> 01:13:00,544 และทําเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน 1092 01:13:00,544 --> 01:13:02,796 - หั่นและล้างมันฝรั่งแล้ว - หั่นและล้าง 1093 01:13:02,796 --> 01:13:04,798 ลูกๆ ของฉันชอบการแข่งขัน 1094 01:13:05,757 --> 01:13:09,094 ฉันให้พวกเขาช่วยฉัน ฉันทําเหมือนเป็นการแข่งทําอาหาร 1095 01:13:10,262 --> 01:13:12,431 ฉันพาลูกไปร้านขายของชําด้วยกัน 1096 01:13:12,431 --> 01:13:13,932 แล้วก็ทําอาหาร 1097 01:13:15,434 --> 01:13:18,186 ระหว่างนี้เราก็ได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น 1098 01:13:18,186 --> 01:13:19,354 ทําอะไรอยู่ 1099 01:13:19,354 --> 01:13:21,898 ผมช่วยแม่อยู่ ผมอยากเป็นเชฟตลอดไป 1100 01:13:21,898 --> 01:13:22,899 ลูกอยากเป็นเชฟเหรอ 1101 01:13:22,899 --> 01:13:26,069 ครับ ผมอยากทําอาหารทุกวัน ผมอยากเป็นเชฟ 1102 01:13:28,530 --> 01:13:33,118 ฉันเคยได้ยินคนพูดถึงร่างกายตัวเอง 1103 01:13:33,118 --> 01:13:35,745 และความสัมพันธ์ที่พวกเขามีกับมัน 1104 01:13:36,371 --> 01:13:38,665 ไข่สอง ไข่แดงสอง 1105 01:13:38,665 --> 01:13:41,751 โลกนี้ไม่มีอาหารสุขภาพ แค่อย่างเดียวที่เราควรกิน 1106 01:13:41,751 --> 01:13:45,505 หรือคําแนะนําแค่อย่างเดียว ที่เราควรทําตามเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น 1107 01:13:45,505 --> 01:13:49,176 มันขึ้นอยู่กับการสร้างความสัมพันธ์ กับระบบทางเดินอาหาร 1108 01:13:49,926 --> 01:13:52,179 พวกลูกทําได้ดีมาก แปะมือกัน 1109 01:13:52,679 --> 01:13:56,308 การเชื่อมต่ออีกครั้งสามารถทําได้ ด้วยวิทยาศาสตร์และความรู้ 1110 01:13:56,308 --> 01:13:59,603 แต่ก็สามารถทําได้ด้วยสัญชาตญาณ 1111 01:13:59,603 --> 01:14:00,937 สัญชาตญาณที่ดี 1112 01:14:02,230 --> 01:14:07,444 คาร์โบนาราเป็นการรวมตัวกัน ของอาหารที่ฉันกลัวที่สุด 1113 01:14:09,946 --> 01:14:11,990 ตั้งแต่ฉันเริ่มศึกษาเรื่องระบบทางเดินอาหาร 1114 01:14:11,990 --> 01:14:14,784 ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก 1115 01:14:15,577 --> 01:14:19,664 ฉันรู้ว่ามันเป็นระบบอวัยวะที่ทนทาน แข็งแรง และมั่นคง 1116 01:14:19,664 --> 01:14:21,625 ถ้าส่วนใหญ่แล้ว ฉันดูแลมันดีๆ 1117 01:14:22,709 --> 01:14:25,462 มันคือการฟังเสียงร่างกายตัวเอง 1118 01:14:25,462 --> 01:14:27,547 เพื่อให้เรามีสัญชาตญาณที่ดีขึ้น 1119 01:14:27,547 --> 01:14:32,802 ตั้งแต่เริ่มทําอาชีพนี้มา สิ่งที่มีอิทธิพลต่อผม 1120 01:14:32,802 --> 01:14:36,848 มากกว่าการแข่งกินจุก็คือฮอตดอก 1121 01:14:36,848 --> 01:14:42,103 โอเค เราจะใส่อะโวคาโด ชิโซะ เห็ดหอม กับกระเทียม 1122 01:14:42,103 --> 01:14:44,439 เยี่ยม น่ากินจัง 1123 01:14:44,439 --> 01:14:49,653 ผมอยากทําฮอตดอกที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น 1124 01:14:49,653 --> 01:14:52,322 ด้วยการใส่วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพของญี่ปุ่น 1125 01:14:53,657 --> 01:14:54,741 อร่อยนะ 1126 01:14:54,741 --> 01:14:56,076 อร่อยจัง 1127 01:14:56,076 --> 01:14:59,079 มีความแปลกใหม่ หยุดกินไม่ได้แล้ว 1128 01:15:00,705 --> 01:15:03,625 เราสามารถกินอาหาร แล้วสังเกตว่าตัวเองรู้สึกยังไง 1129 01:15:03,625 --> 01:15:06,044 หนึ่งชั่วโมงครึ่ง สองชั่วโมง หรือสองชั่วโมงครึ่งหลังจากนั้น 1130 01:15:06,044 --> 01:15:07,963 ตอนที่มันถูกดูดซึมสู่กระแสเลือด 1131 01:15:09,506 --> 01:15:13,301 เค้ก เฟรนช์ฟราย มันฝรั่งทอด เป็นของที่กินแล้วรู้สึกอร่อย 1132 01:15:13,301 --> 01:15:15,053 เราอาจจะคิดว่า "เอาอีก" 1133 01:15:15,053 --> 01:15:19,224 แต่หลังจากนั้น เราจะรู้สึกง่วง หรือสมองเบลอ อะไรทํานองนั้น 1134 01:15:20,725 --> 01:15:25,272 อาหารที่มีข้าวและผัก อาจไม่ใช่ของที่กินแล้วหยุดไม่ได้ 1135 01:15:25,272 --> 01:15:27,274 แต่มันจะให้พลังงานสม่ําเสมอกว่า 1136 01:15:27,274 --> 01:15:29,693 แต่มันอาจไม่เป็นแบบนั้นสําหรับคุณ คุณลองเช็กดูได้ 1137 01:15:31,486 --> 01:15:36,866 ฉันรู้สึกเป็นตัวเองมากขึ้น เมื่อฉันปล่อยให้ตัวเองมีความสุขกับการกิน 1138 01:15:39,786 --> 01:15:44,040 แค่คิดว่าฉันจะกินอาหารร่วมจานกับสามี 1139 01:15:44,040 --> 01:15:48,336 แล้วไม่ลงโทษตัวเองด้วยการอดอาหาร 1140 01:15:49,546 --> 01:15:50,630 ในวันรุ่งขึ้น 1141 01:15:51,590 --> 01:15:53,133 ฉันก็รู้สึกดีแล้ว 1142 01:15:55,343 --> 01:15:57,470 แม่ครับ แม่ทําข้าวโพดอร่อยมาก 1143 01:15:58,138 --> 01:16:01,433 เราอยากดื่มฉลองให้อาหารอร่อยๆ ฝีมือแม่ 1144 01:16:01,433 --> 01:16:02,892 - เอาสิ - ใช่ 1145 01:16:13,862 --> 01:16:16,740 สรุปแล้ว อย่างเดียวที่สําคัญ ก็คือความรู้สึกของเรา 1146 01:16:16,740 --> 01:16:18,700 ความคิดของเรา และสิ่งที่เราทํา 1147 01:16:18,700 --> 01:16:20,285 คนอื่นๆ ไม่สําคัญเลย 1148 01:16:20,910 --> 01:16:24,539 และการเปลี่ยนร่างกายของฉัน อาจเป็นสิ่งที่ดีต่อฉันที่สุด 1149 01:16:27,459 --> 01:16:31,588 ร่างกายของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญ และเราควรฟังมัน 1150 01:16:32,380 --> 01:16:35,884 ยิ่งฉันรู้จักระบบทางเดินอาหาร ฉันก็ยิ่งภูมิใจในตัวมัน 1151 01:16:35,884 --> 01:16:40,430 จะพูดว่าฉันมีความสัมพันธ์ อันแน่นแฟ้นกับทางเดินอาหารก็ได้ 1152 01:16:40,430 --> 01:16:42,265 รวมถึงทวารหนักด้วย 1153 01:16:53,526 --> 01:16:55,945 ใช่ว่าทุกคนควรพูดเรื่องอึตลอดเวลา 1154 01:16:55,945 --> 01:16:57,781 โดยเฉพาะถ้าพวกเขาไม่อยากพูด 1155 01:16:59,407 --> 01:17:02,077 แต่ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เราควรรู้ไว้ 1156 01:17:02,994 --> 01:17:06,998 ยกตัวอย่างเช่น อุจจาระมีความแข็งเจ็ดระดับ 1157 01:17:06,998 --> 01:17:10,377 ตามที่ได้รับการอธิบายอย่างดี ในมาตรวัดอุจจาระบริสตอล 1158 01:17:11,127 --> 01:17:13,880 ระดับเจ็ดกับหกเป็นอุจจาระที่ค่อนข้างเหลว 1159 01:17:13,880 --> 01:17:18,009 มันอาจเกิดขึ้นได้ถ้าการย่อยอาหาร ถูกรบกวน หรือมีการติดเชื้อ 1160 01:17:19,010 --> 01:17:23,014 ระดับสี่กับสามคือแบบที่เราอยากเห็นในห้องน้ํา 1161 01:17:23,014 --> 01:17:28,061 มันมีรูปร่างเหมือนไส้กรอกหรืองู ผิวเรียบและนุ่ม 1162 01:17:31,064 --> 01:17:33,817 ต่อไปคือพวกที่มีลักษณะเหมือนมูลแพะ 1163 01:17:34,609 --> 01:17:36,778 พวกนี้จะเกิดขึ้นตอนที่เราท้องผูก 1164 01:17:37,987 --> 01:17:42,867 ความแข็งและรูปร่าง เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง 1165 01:17:42,867 --> 01:17:45,161 เป็นเหมือนข้อความจากระบบทางเดินอาหาร 1166 01:17:45,161 --> 01:17:50,625 บางครั้งเราก็ต้องหันกลับไปมอง แล้วฟังมันบ้าง 1167 01:18:09,394 --> 01:18:12,313 คําบรรยายโดย ณิชา อ้นเอี่ยม