1 00:00:07,674 --> 00:00:09,884 (กรมตํารวจเขตลอสแอนเจลิส) 2 00:00:09,884 --> 00:00:12,554 (คือกรมตํารวจระดับเขตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ) 3 00:00:12,554 --> 00:00:15,098 (ซึ่งดูแลเขตที่ประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศ) 4 00:00:15,098 --> 00:00:18,059 (พวกเขาสืบสวนคดีฆาตกรรม ที่โหดร้ายและซับซ้อนที่สุด) 5 00:00:18,059 --> 00:00:21,813 (นี่คือเรื่องราวของพวกเขา) 6 00:00:33,366 --> 00:00:37,370 (ปี 1988) 7 00:00:38,997 --> 00:00:40,623 (วันที่ 16 มีนาคม ปี 1988) 8 00:00:40,623 --> 00:00:43,960 ผมได้รับสายจากคนที่ออฟฟิศพ่อ 9 00:00:43,960 --> 00:00:47,547 บอกว่า "มีเรื่องเกิดขึ้นที่แบรดเบอรี 10 00:00:47,547 --> 00:00:48,923 {\an8}แต่เราไม่รู้ว่าเรื่องอะไร 11 00:00:48,923 --> 00:00:52,343 {\an8}ผมก็เลยขึ้นรถ แล้วก็ไปที่แบรดเบอรี 12 00:00:52,343 --> 00:00:54,471 ตํารวจเรียกผมจอด 13 00:00:54,971 --> 00:00:58,016 ถามว่า "คุณเป็นใคร ทางนี้ไม่ให้ใครผ่านนะครับ" 14 00:00:58,016 --> 00:01:00,685 ผมบอกว่า "ผมแดนนี่ ทอมป์สัน ลูกชายมิกกี้ ทอมป์สัน" 15 00:01:00,685 --> 00:01:06,232 ตํารวจคนนั้น ผมเห็นสายตาเขาเลย เพราะตํารวจรู้ 16 00:01:06,232 --> 00:01:08,485 ผมคิดเลย "เวรแล้ว" 17 00:01:08,485 --> 00:01:10,153 เราไม่อยากเชื่อ 18 00:01:10,153 --> 00:01:13,656 นั่นพ่อผมนะ ไม่มีใครฆ่าเขาได้หรอก ไม่มีใครแตะต้องเขาได้ 19 00:01:13,656 --> 00:01:17,285 {\an8}นักขับรถแข่ง มิกกี้ ทอมป์สัน กับภรรยาถูกฆาตกรรม 20 00:01:17,285 --> 00:01:19,370 ที่หน้าบ้านย่านชานเมืองหรูในแอลเอ 21 00:01:19,370 --> 00:01:22,999 นางทอมป์สันกับนายทอมป์สัน ถูกยิงหลายนัดที่ลําตัวช่วงบน 22 00:01:22,999 --> 00:01:25,543 คดีบุกฆาตกรรมทอมป์สันกับภรรยา ทรูดี้ 23 00:01:25,543 --> 00:01:28,254 เกิดขึ้นบนถนนหน้าบ้านในแบรดเบอรีของพวกเขา 24 00:01:28,254 --> 00:01:31,674 ตํารวจเรียกคดีนี้ว่า หนึ่งในคดีฆาตกรรมคนดังที่ลึกลับที่สุด 25 00:01:31,674 --> 00:01:34,636 นี่คือความชั่วร้ายระดับที่เราหวังว่าจะไม่ได้เห็น 26 00:01:34,636 --> 00:01:39,933 มิกกี้ ทอมป์สันเป็นที่รักของทุกคน เขาไม่มีศัตรูเลย ยกเว้นคนเดียว 27 00:01:44,020 --> 00:01:48,608 กรมตํารวจเขตลอสแอนเจลิสคือที่สุดของยอดฝีมือ 28 00:01:52,654 --> 00:01:55,240 คดีใหญ่ที่สุดบางส่วนไต่สวนในลอสแอนเจลิส 29 00:01:55,240 --> 00:01:56,616 (ฮอลลีวูด) 30 00:01:58,701 --> 00:02:01,871 เราต้องทุ่มเท 110 เปอร์เซ็นต์ 31 00:02:04,707 --> 00:02:07,627 นี่คือฆาตกรรม ไม่มีอาชญากรรมไหนร้ายแรงไปกว่านี้ 32 00:02:09,712 --> 00:02:14,634 มันอยู่ที่ความมุ่งมั่นกับความสํานึกในหน้าที่ 33 00:02:16,970 --> 00:02:19,264 ความยุติธรรมเกิดขึ้นจากการตามหาความจริง 34 00:02:20,056 --> 00:02:23,977 (Homicide: เจาะลึกคดีฆาตกรรม ลอสแอนเจลิส) 35 00:02:30,650 --> 00:02:34,279 ปัญหาหนึ่งของลอสแอนเจลิสคือมันใหญ่มาก 36 00:02:35,113 --> 00:02:37,115 แล้วการเดินทางล่ะ มีขนส่งสาธารณะไหม 37 00:02:37,115 --> 00:02:38,741 ไม่ เราต้องขับรถ 38 00:02:40,368 --> 00:02:42,120 คนในลอสแอนเจลิสรักรถ 39 00:02:42,120 --> 00:02:46,791 นี่คือพื้นที่ขนาดใหญ่ที่คนรักรถจะเอาของมาอวด 40 00:02:47,500 --> 00:02:52,213 สมัยยุค 80 ในลอสแอนเจลิส การแข่งรถเถื่อนเป็นวัฒนธรรมเฉพาะ 41 00:02:52,213 --> 00:02:55,466 ทั้งการแข่งแดร็ก มอเตอร์ไซค์วิบาก ออฟโรด 42 00:02:55,967 --> 00:02:58,553 ด้วยความชอบรถสมัยนั้น 43 00:02:58,553 --> 00:03:01,389 ผมรู้ว่ามิกกี้ ทอมป์สันเป็นตํานาน 44 00:03:03,391 --> 00:03:04,642 (มิกกี้ ทอมป์สัน) 45 00:03:05,935 --> 00:03:08,396 ทอมป์สันได้ชื่อว่านักคิดค้นมาตลอด 46 00:03:08,980 --> 00:03:12,984 เป็นนักประกอบรถแหวกแนว และนักซิ่งที่ต้องชนะ 47 00:03:12,984 --> 00:03:17,780 ชายที่ซิ่งเร็วที่สุด มิกกี้ ทอมป์สัน 48 00:03:18,406 --> 00:03:21,743 ชมฝีมือจ้าวความเร็วนานาชาติ มิกกี้ ทอมป์สัน 49 00:03:21,743 --> 00:03:24,621 เขาลงแข่งขันรถแข่งมาแล้วทุกประเภท 50 00:03:25,455 --> 00:03:29,834 ผมว่าช่วงหนึ่ง พ่อผมเป็นเจ้าของสถิติ 370 อย่าง 51 00:03:30,752 --> 00:03:33,796 แต่สถิติที่ทําให้เขาดังก็คือ 52 00:03:33,796 --> 00:03:36,799 ตอนที่เขาเป็นอเมริกันคนแรก ที่ขับเร็วเกิน 111 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 53 00:03:40,011 --> 00:03:44,891 ความเร็วสูงสุดของเขา 113 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 54 00:03:44,891 --> 00:03:46,601 สถิติสําหรับการซิ่งทางเดียว 55 00:03:49,270 --> 00:03:52,065 มิกกี้ ทอมป์สันไม่ใช่แค่ผู้ชนะ 56 00:03:52,065 --> 00:03:54,108 ไม่ใช่แค่คนที่สนใจรถ 57 00:03:54,108 --> 00:03:55,652 เขาเป็นโปรโมเตอร์ 58 00:03:56,152 --> 00:03:59,530 เขาเป็นคนที่คิดค้นการแข่งรถในสนามกีฬาในร่ม 59 00:04:00,114 --> 00:04:03,117 ตอนนี้เราจัดแข่งสิ่งที่เรียกว่า "การแข่งสนามสั้น" 60 00:04:03,117 --> 00:04:06,746 เราจัดแข่งในสนามฟุตบอล สนามเบสบอล 61 00:04:06,746 --> 00:04:08,206 ภายในโดม ที่ไหนก็ได้ 62 00:04:08,206 --> 00:04:09,999 ทอมป์สันคว้าชัยชนะ 63 00:04:11,960 --> 00:04:14,128 แดนนี่ ลูกชายของมิกกี้ก็ตัดสินใจ 64 00:04:14,128 --> 00:04:17,006 จะฝากอนาคตไว้กับการแข่งรถ 65 00:04:17,006 --> 00:04:19,592 ผมเป็นนักแข่งอาชีพในรายการของพ่อ 66 00:04:19,592 --> 00:04:23,680 คนมาดูเต็มสนาม มันสุดยอดไปเลย 67 00:04:29,894 --> 00:04:31,646 ลูกชายของทอมป์สันเข้าร่วมแข่ง 68 00:04:31,646 --> 00:04:34,774 ทรูดี้ ภรรยาเขาก็มีส่วนในการโปรโมตงาน 69 00:04:34,774 --> 00:04:37,777 ฉันชอบอยู่ใกล้ชิดเขา ฉันชอบทําสิ่งที่เขาทํา 70 00:04:37,777 --> 00:04:38,736 แล้วฉันก็ชอบซิ่งด้วย 71 00:04:39,320 --> 00:04:42,699 ผมจะอยู่ขับรถแข่งไปอีกนาน 72 00:04:42,699 --> 00:04:45,326 ผมจะชนะอีกหลายสนาม 73 00:04:47,870 --> 00:04:50,456 (วันที่ 16 มีนาคม ปี 1988 7.00 น.) 74 00:04:55,378 --> 00:04:58,006 ผมได้รับสายตอนเช้า 75 00:04:58,006 --> 00:05:01,509 ถามว่า "รู้จักมิกกี้ ทอมป์สันไหม" ผมบอกว่า "รู้จักสิ" 76 00:05:01,509 --> 00:05:05,888 เขาบอกว่า "มิกกี้กับภรรยา ดูเหมือนจะถูกยิงหน้าบ้านตัวเอง" 77 00:05:05,888 --> 00:05:07,348 คุณต้องออกไปช่วยสืบ 78 00:05:09,100 --> 00:05:13,563 เรามีราชินีห้องแล็บ ลิซ ดีไวน์ 79 00:05:13,563 --> 00:05:17,650 เธอเก่งมากๆ ทุกคนอยากให้เธอไปตรวจที่เกิดเหตุเสมอ 80 00:05:17,650 --> 00:05:23,406 {\an8}ฉันชอบออกไปข้างนอก ฉันใส่จัมป์สูท หยิบอุปกรณ์ แล้วก็ออกไป 81 00:05:24,198 --> 00:05:26,659 ตอนเกิดคดีนี้ ฉันเป็นนักอาชญาวิทยาอาวุโส 82 00:05:26,659 --> 00:05:28,745 ของกรมตํารวจเขตลอสแอนเจลิส 83 00:05:29,454 --> 00:05:33,458 เราเจอกัน แล้วก็ขับรถ ไปที่แบรดเบอรี เอสเตทส์ 84 00:05:33,458 --> 00:05:34,542 (ลอสแอนเจลิส) 85 00:05:35,793 --> 00:05:39,505 แบรดเบอรี เอสเตทส์เป็นย่านที่อยู่อาศัยหรู 86 00:05:39,505 --> 00:05:42,508 เป็นชุมชนที่มีรั้วรอบ 87 00:05:43,593 --> 00:05:45,011 จูเลียน่า ลูกสาวผม 88 00:05:45,011 --> 00:05:49,807 เธอไปเรียนขี่ม้าที่แบรดเบอรี เอสเตทส์ 89 00:05:50,308 --> 00:05:53,102 ทุกครั้งที่ไปที่นั่น ผมต้องแสดงบัตร 90 00:05:53,102 --> 00:05:57,857 ผมต้องแสดงใบอนุญาต จากเจ้าของฟาร์มม้าเพื่อเข้าไป 91 00:05:57,857 --> 00:05:59,734 แล้วผมก็ไม่เข้าใจว่า 92 00:05:59,734 --> 00:06:04,155 "มีคนเข้าไปฆ่ามิกกี้ ทอมป์สันกับภรรยาได้ยังไง" 93 00:06:05,365 --> 00:06:10,578 ตอนขับรถไป มันก็ชัดเจนว่านี่คือคดีใหญ่ 94 00:06:11,871 --> 00:06:15,166 ฉันไม่เคยเห็นกล้องหลายตัว อยู่ในที่เดียวเยอะขนาดนี้ในชีวิต 95 00:06:18,378 --> 00:06:21,130 เห็นชัดเลยว่าบ้านหลังนี้หรูมาก 96 00:06:21,130 --> 00:06:23,424 มีถนนเข้าบ้านที่กว้างมาก 97 00:06:24,884 --> 00:06:30,264 ทรูดี้ ภรรยาของมิกกี้ นอนอยู่ที่ตีนเนินถนนเข้าบ้าน 98 00:06:30,264 --> 00:06:31,641 เธอถูกยิง 99 00:06:31,641 --> 00:06:33,976 แล้วก็มีเลือดไหลลงรางระบายน้ํา 100 00:06:33,976 --> 00:06:35,061 {\an8}(ศพทรูดี้) 101 00:06:35,853 --> 00:06:39,941 ส่วนมิกกี้ ทอมป์สัน นอนอยู่ตรงโรงรถซึ่งอยู่บนเนิน 102 00:06:41,067 --> 00:06:42,944 เขาถูกยิงที่ลําตัว 103 00:06:43,528 --> 00:06:45,154 แล้วก็ถูกยิงที่ศีรษะ 104 00:06:45,738 --> 00:06:47,031 ทรูดี้ก็ถูกยิงศีรษะเช่นกัน 105 00:06:48,366 --> 00:06:50,868 เราไปสอบถามคนแถวนั้น 106 00:06:50,868 --> 00:06:53,162 เราได้สอบปากคําพยานบางส่วน 107 00:06:54,122 --> 00:06:55,998 เราได้ยินเสียงปืนหลายนัด 108 00:06:55,998 --> 00:07:01,295 แล้วอยู่ดีๆ ก็เงียบไป ประมาณสิบถึง 15 วินาที 109 00:07:01,295 --> 00:07:06,134 แล้วผมก็ได้ยินมิกกี้ ทอมป์สัน ตะโกนว่า "อย่าทําร้ายเมียผมเลย" 110 00:07:06,134 --> 00:07:10,263 ต่อมาก็ได้ยินเสียงปืนอีกหลายนัด แล้วก็เงียบไป 111 00:07:13,141 --> 00:07:17,311 บ้านดร.จอห์นสันอยู่หลังมิกกี้กับทรูดี้ 112 00:07:17,311 --> 00:07:22,400 เขาได้ยินเสียงปืน แล้วเขาก็มองออกมา 113 00:07:22,400 --> 00:07:27,738 เขาเห็นจักรยานขี่ไปตามวูดลินเลน 114 00:07:28,573 --> 00:07:33,286 ดร.จอห์นสันเห็นชายหนุ่มผิวดํา สองคนขี่จักรยานสิบเกียร์ 115 00:07:33,286 --> 00:07:36,122 ชัดเจนว่านั่นคือเส้นทางหลบหนี 116 00:07:36,914 --> 00:07:42,295 ดร.จอห์นสันบอกด้วยว่า มิกกี้ ทอมป์สันมีกิจวัตรประจําวัน 117 00:07:42,795 --> 00:07:48,759 ทุกหกโมงเช้า พวกเขาจะออกจากบ้านในแบรดเบอรี 118 00:07:48,759 --> 00:07:52,555 ขับรถไปแอนาไฮม์สเตเดียม ออฟฟิศพวกเขาอยู่ที่นั่น 119 00:07:52,555 --> 00:07:56,601 พวกเขาใช้รถตู้ ปกติทรูดี้จะเป็นคนขับ 120 00:07:56,601 --> 00:07:58,019 เธอจะถอยรถออกมา 121 00:07:58,019 --> 00:08:01,230 แล้วเขาก็จะปิดประตูโรงรถ ขึ้นรถ แล้วขับไปทํางาน 122 00:08:02,106 --> 00:08:04,525 เรารู้ว่ามีชายสองคนขี่จักรยาน 123 00:08:04,525 --> 00:08:08,029 ที่เราสันนิษฐานว่าเป็นมือปืน แต่พวกเขามีเจตนาอะไร 124 00:08:08,029 --> 00:08:09,572 มันอาจจะเป็นการปล้น 125 00:08:09,572 --> 00:08:14,410 แต่พอสายสืบเริ่มตรวจสอบรถตู้ที่ทรูดี้ขับ 126 00:08:14,410 --> 00:08:18,080 ในนั้นก็มีเครื่องเพชรราคาแพงเพียบ 127 00:08:18,581 --> 00:08:22,877 มิกกี้ก็มีเงินหลายพันดอลลาร์ในกระเป๋าสตางค์ 128 00:08:22,877 --> 00:08:24,962 ไม่ได้ถูกชิงทรัพย์ ไม่ได้ถูกแตะต้อง 129 00:08:24,962 --> 00:08:28,424 ของมันเห็นชัดอยู่บนเบาะ แต่คนร้ายก็ไม่ได้เอาไป 130 00:08:28,424 --> 00:08:29,800 มันไม่น่าเป็นไปได้เลย 131 00:08:32,845 --> 00:08:38,684 แล้วเพื่อนบ้านก็ได้ยินมิกกี้เรียกทรูดี้ 132 00:08:38,684 --> 00:08:41,938 ได้ยินว่าคนร้ายไปหาเธอก่อน 133 00:08:42,813 --> 00:08:45,691 ถ้านี่เป็นการปล้น คนร้ายไม่เคยฆ่าผู้หญิงก่อน 134 00:08:45,691 --> 00:08:48,069 คนร้ายฆ่าผู้ชายก่อนเสมอ 135 00:08:48,069 --> 00:08:52,031 เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ มันผิดตรรกะโดยสิ้นเชิงเลย 136 00:08:54,283 --> 00:08:56,327 ทรูดี้ล้มลงไปกองกับพื้น 137 00:08:56,327 --> 00:08:59,080 มีเล็บมือฉีกหัก 138 00:09:00,248 --> 00:09:02,750 ฉันรู้สึกว่าเธอกําลังขับรถ 139 00:09:02,750 --> 00:09:05,044 คนร้ายยิงเธอทะลุกระจกรถ 140 00:09:05,044 --> 00:09:07,797 ฉันคิดว่าเธอจะหนี ไม่ได้ต่อสู้ 141 00:09:09,757 --> 00:09:13,970 ส่วนมิกกี้ เขาหันมาหาเธอ 142 00:09:15,012 --> 00:09:16,055 แล้วมันก็... 143 00:09:20,142 --> 00:09:21,227 สะเทือนใจฉันจริงๆ 144 00:09:22,853 --> 00:09:24,438 นี่คือสิ่งที่โหดร้ายที่สุด 145 00:09:27,191 --> 00:09:30,486 ทุกคนบอกเราว่ามิกกี้รักทรูดี้ 146 00:09:30,486 --> 00:09:32,613 เขาทุ่มเทให้เธอทุกอย่าง 147 00:09:32,613 --> 00:09:35,116 แล้วเขาก็หลงรักเธอแบบคลั่งรัก 148 00:09:35,700 --> 00:09:38,786 พ่อผมกับทรูดี้ ตอนแต่งงานกันก็เป็นงานใหญ่มาก 149 00:09:39,453 --> 00:09:41,872 เธอเป็นคนนิสัยดี ร่าเริงมากๆ 150 00:09:41,872 --> 00:09:44,041 พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ 151 00:09:44,542 --> 00:09:46,711 คู่นี้เป็นทีมที่ดีมากๆ ตอนทํางานด้วยกัน 152 00:09:47,503 --> 00:09:51,716 พวกเขาเป็นคู่ที่เข้ากันอย่างบอกไม่ถูก 153 00:09:51,716 --> 00:09:53,843 พวกเขาแตกต่างกันมาก 154 00:09:54,594 --> 00:09:58,347 แต่มันก็ไปได้สวยอย่างน่าทึ่ง 155 00:09:59,473 --> 00:10:03,102 น้าทรูดี้ของผมเป็นส่วนสําคัญของชีวิตผม 156 00:10:04,437 --> 00:10:07,481 ทรูดี้มีความสง่างาม น้ําใจ และความรัก 157 00:10:07,481 --> 00:10:10,860 เธอเป็นคนที่ทําให้ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า 158 00:10:19,076 --> 00:10:21,370 ที่เกิดเหตุทั้งหมดอยู่นอกบ้าน 159 00:10:21,370 --> 00:10:25,124 แต่ฉันก็พยายามสังเกต ดูสิ่งที่อยู่ผิดที่ผิดทางด้วย 160 00:10:29,754 --> 00:10:33,382 เราเข้าไปในออฟฟิศ มันอยู่ข้างโรงรถ 161 00:10:36,385 --> 00:10:41,223 ฉันเห็นคนอยู่ในหางตา 162 00:10:41,849 --> 00:10:43,309 แล้วฉันก็กรี๊ด 163 00:10:46,312 --> 00:10:49,190 แน่นอน เจ้าหน้าที่รีบวิ่งเข้ามา เรย์ก็อยู่ด้วย 164 00:10:50,191 --> 00:10:56,697 แต่นั่นคือหุ่นขนาดเท่าตัวจริง ของมิกกี้ ทอมป์สันในชุดแข่งรถ 165 00:10:58,282 --> 00:11:00,242 ฉันรู้สึกอายมาก 166 00:11:00,242 --> 00:11:03,329 ทุกคนขํากัน แต่ฉัน... 167 00:11:03,329 --> 00:11:07,041 มันเป็นโมเมนต์เบาสมอง โมเมนต์เบาสมองที่จําเป็นครั้งหนึ่ง 168 00:11:07,041 --> 00:11:09,752 เราต้องผ่อนคลายบรรยากาศ ไม่งั้น... ไม่รู้สิ 169 00:11:09,752 --> 00:11:13,047 เราต้องหัวเราะ จะได้ไม่ร้องไห้ มันต้องทํา 170 00:11:13,047 --> 00:11:17,760 แล้วเราก็คุยกันว่า "โอเค ตรงนี้งานฉัน คุณต้องกลับออกไป" 171 00:11:21,222 --> 00:11:22,890 ฉันมองทั่วจริงๆ 172 00:11:22,890 --> 00:11:26,560 พยายามประเมินว่าฉันจะช่วยอะไรได้บ้าง 173 00:11:26,560 --> 00:11:31,357 ฉันถ่ายรูปถนนหน้าบ้านที่มีรอยรองเท้าจากดิน 174 00:11:31,357 --> 00:11:34,360 ที่พื้นข้างศพมิกกี้มีปืนช็อตไฟฟ้า 175 00:11:34,860 --> 00:11:36,696 มีปลอกกระสุนตกอยู่ 176 00:11:37,530 --> 00:11:42,535 ข้างประตูโรงรถก็มีต้นส้มเล็กๆ 177 00:11:42,535 --> 00:11:47,248 ฉันมองไปเจอเปลือกส้มอยู่ที่พื้น 178 00:11:48,165 --> 00:11:49,166 มันถูกหั่น 179 00:11:50,751 --> 00:11:51,752 มันยังสดอยู่เลย 180 00:11:51,752 --> 00:11:55,589 ฉันจําความคิดตอนนั้นได้ "คนร้ายนั่งรอตรงนั้น 181 00:11:55,589 --> 00:11:58,968 แล้วก็กินส้มระหว่างรอฆ่าคน" 182 00:11:58,968 --> 00:12:01,804 มันทําให้ฉันรู้ได้เลย 183 00:12:01,804 --> 00:12:05,808 ว่าคนร้ายรู้ดีว่าต้องนั่งรอตรงไหน 184 00:12:05,808 --> 00:12:08,269 เราเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว 185 00:12:08,269 --> 00:12:11,272 คนร้ายดักรออยู่ที่หน้าโรงรถ 186 00:12:11,272 --> 00:12:13,774 มีปืนช็อตไฟฟ้า 187 00:12:13,774 --> 00:12:17,862 มิกกี้ถูกช็อตหรือเปล่า หรือทรูดี้ถูกช็อต เราก็ไม่แน่ใจ 188 00:12:17,862 --> 00:12:21,365 แต่ก็เห็นชัดว่ามันอยู่ตรงนั้น เพื่อใช้ในการควบคุมสถานการณ์ 189 00:12:21,365 --> 00:12:24,493 จักรยานสิบเกียร์ ปืน 190 00:12:26,328 --> 00:12:30,875 เป็นลําดับการฆ่า แบบที่ทําร้ายมิกกี้ได้เจ็บปวดมากที่สุด 191 00:12:30,875 --> 00:12:33,711 มันดูเหมือนการสั่งเก็บ 192 00:12:33,711 --> 00:12:34,795 นี่คือการสั่งเก็บ 193 00:12:41,719 --> 00:12:46,307 {\an8}ผู้ต้องสงสัยหลักเป็นชายผิวดําสองคน 194 00:12:47,016 --> 00:12:50,060 พยานบรรยายว่าอายุ 20-30 ปี 195 00:12:51,187 --> 00:12:55,608 มีผู้หญิงขับรถมาตามถนน ใกล้แบรดเบอรี เอสเตทส์ 196 00:12:56,650 --> 00:13:00,654 ตอนเธอขับรถมา ทันใดนั้น จากอีกฟากของถนนเข้าบ้าน 197 00:13:00,654 --> 00:13:03,574 ก็มีชายผิวดําขี่จักรยานสองคน 198 00:13:03,574 --> 00:13:06,285 ดูเหมือนพวกเขาคุมรถไม่อยู่ พวกเขาขี่มาเร็วเกินไป 199 00:13:06,285 --> 00:13:08,621 แต่เธอเห็นพวกเขา เพราะเธอเกือบจะชน 200 00:13:08,621 --> 00:13:11,081 ในฐานะพลเมืองดี เธอก็โทรแจ้ง 201 00:13:11,665 --> 00:13:14,877 {\an8}เธอแจ้งกับกรมตํารวจ 202 00:13:14,877 --> 00:13:19,632 แล้วกรมตํารวจก็พาเธอไปหาช่างสเก็ตช์ภาพ 203 00:13:20,341 --> 00:13:23,302 เจ้าหน้าที่ทุกคนเฝ้าระวังทุกพื้นที่โดยรอบ 204 00:13:23,302 --> 00:13:27,181 เราตั้งด่านตรวจตามแยกใหญ่ๆ 205 00:13:27,181 --> 00:13:30,851 เราแจกภาพสเก็ตช์ของผู้ต้องสงสัย 206 00:13:32,478 --> 00:13:36,106 ตํารวจสืบสวนฆาตกรรมในแอลเอ หวังว่าใครสักคน ที่ไหนสักแห่ง 207 00:13:36,106 --> 00:13:39,819 จะได้ดูรายงานข่าวคดีฆาตกรรม ตํานานนักแข่งรถ มิกกี้ ทอมป์สัน 208 00:13:39,819 --> 00:13:41,111 กับภรรยา ทรูดี้ 209 00:13:41,612 --> 00:13:44,698 แล้วอาสาออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับชายสองคนนี้ 210 00:13:44,698 --> 00:13:45,783 (ประกาศจับ) 211 00:13:45,783 --> 00:13:47,701 สื่อทําข่าว มันก็... 212 00:13:48,410 --> 00:13:51,455 มันน่าเศร้าอยู่แล้ว แถมข่าวก็ยัดเยียดให้ทุกสองวินาที 213 00:13:51,455 --> 00:13:54,333 ตํารวจกล่าวว่าเขากับภรรยาถูกยิงหลายนัด 214 00:13:54,333 --> 00:13:57,294 จากนั้น ชายทั้งสองคน ก็หลบหนีไปด้วยจักรยานสิบเกียร์ 215 00:13:57,294 --> 00:14:00,756 คําถามสําคัญที่สุดที่ยังไม่มีคําตอบคือ "ทําไม" 216 00:14:00,756 --> 00:14:02,508 ข่าวออกทุกช่อง 217 00:14:02,508 --> 00:14:06,846 ข่าวออกทุกเครือข่ายใหญ่ แม้แต่เครือข่ายเล็กก็ลงข่าว 218 00:14:06,846 --> 00:14:08,639 สื่อตีข่าวแบบคุมไม่อยู่ 219 00:14:11,392 --> 00:14:17,064 มันกดดันแล้วก็ทําใจยากมากที่ได้เห็นในข่าว 220 00:14:18,816 --> 00:14:22,611 ทั้งภาพจากเฮลิคอปเตอร์ 221 00:14:23,904 --> 00:14:26,365 ที่ฉายภาพว่าศพอยู่ตรงไหน 222 00:14:30,661 --> 00:14:34,290 ไม่มีพื้นที่ส่วนตัวให้ไว้อาลัยเลย 223 00:14:38,669 --> 00:14:41,255 (แบรดเบอรี) 224 00:14:41,255 --> 00:14:44,925 สิ่งหนึ่งที่เราต้องทําก็คือศึกษาผู้ตาย 225 00:14:44,925 --> 00:14:48,137 {\an8}พวกเขาไปตกอยู่ในสถานการณ์ ที่กําลังจะตกเป็นเหยื่อตั้งแต่ตอนไหน 226 00:14:48,137 --> 00:14:49,138 มันสําคัญมากๆ 227 00:14:49,930 --> 00:14:55,311 เราได้เบาะแสไปที่บ้านหลังหนึ่ง ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ 228 00:14:55,311 --> 00:14:57,396 เป็นจุดรวมตัวของครอบครัว 229 00:14:58,480 --> 00:15:01,358 ทุกคนเจ็บปวดมาก เสียใจมาก 230 00:15:01,859 --> 00:15:04,028 เราจะไปสอบปากคําพวกเขา 231 00:15:04,028 --> 00:15:06,155 นั่นคือหนึ่งในเรื่องที่แย่ที่สุดของงานนี้ 232 00:15:06,155 --> 00:15:08,324 ผมว่าทุกคนอยู่ในสภาพมึนงง 233 00:15:08,324 --> 00:15:10,868 แบบ "นี่มันเกิดขึ้นจริงเหรอ" 234 00:15:10,868 --> 00:15:12,620 {\an8}(คอลลีน แคมป์เบลล์ น้องสาวของมิกกี้) 235 00:15:12,620 --> 00:15:16,415 {\an8}ฉันจะบอกให้เรื่องหนึ่ง พวกมันฆ่าสองคนที่ดีที่สุดในโลก 236 00:15:17,333 --> 00:15:21,045 หนึ่งในญาติที่ไปรวมตัวกันมีน้องสาวชื่อคอลลีน 237 00:15:21,045 --> 00:15:24,131 เธอรักมิกกี้กับทรูดี้มากๆ 238 00:15:24,131 --> 00:15:28,761 มีแดนนี่ ที่พยายามให้ข้อมูลเท่าที่ทําได้ 239 00:15:28,761 --> 00:15:30,471 แต่เขาก็ใจสลาย 240 00:15:30,471 --> 00:15:31,639 เขากําลังเจ็บปวด 241 00:15:32,306 --> 00:15:36,936 ผมบอกสายสืบแต่แรกว่า "นี่ไม่ใช่ย่านที่อยู่ที่เข้าไปได้ง่ายๆ 242 00:15:37,937 --> 00:15:39,480 คุณต้องมีแผน 243 00:15:41,607 --> 00:15:44,109 มันต้องไตร่ตรองไว้ก่อน" 244 00:15:50,282 --> 00:15:54,870 ตอนสอบปากคํา ทุกคนในครอบครัว พวกเขารู้สึกว่า 245 00:15:54,870 --> 00:15:58,749 {\an8}"ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้น ไมค์ กู๊ดวินก็เป็นต้นเหตุ" 246 00:15:58,749 --> 00:16:00,626 {\an8}(ไมค์ กู๊ดวิน) 247 00:16:00,626 --> 00:16:05,631 {\an8}มิกกี้ ทอมป์สันกับไมค์ กู๊ดวินทําธุรกิจคล้ายๆ กัน 248 00:16:06,131 --> 00:16:10,803 มิกกี้ ทอมป์สันเอาการแข่งรถ สไตล์บาฮามาแข่งในร่ม 249 00:16:10,803 --> 00:16:13,639 ไมค์ กู๊ดวินก็พยายามเลียนแบบส่วนหนึ่ง 250 00:16:13,639 --> 00:16:16,058 ในวงการมอเตอร์ไซค์วิบาก 251 00:16:16,058 --> 00:16:19,561 ทั้งสองคนตัดสินใจว่า การเป็นหุ้นส่วนจะสร้างผลประโยชน์ให้พวกเขา 252 00:16:20,729 --> 00:16:25,442 ไมค์ กู๊ดวินเป็นคนฉลาดมากๆ บุคลิกก็โดดเด่นเหลือเชื่อ 253 00:16:25,442 --> 00:16:28,320 เป็นคนที่ดูเด่นสุดๆ แล้วเขาก็เคยชินกับชัยชนะ 254 00:16:28,320 --> 00:16:29,738 เขาชนะทุกอย่างที่เขาทํา 255 00:16:30,239 --> 00:16:33,867 มิกกี้กับทรูดี้โฟกัสที่รถสี่ล้อ 256 00:16:33,867 --> 00:16:37,079 ขณะเดียวกัน กู๊ดวินก็เริ่มโปรโมต 257 00:16:37,079 --> 00:16:40,499 การแข่งมอเตอร์ไซค์ในสภาวะคล้ายๆ กัน 258 00:16:41,333 --> 00:16:43,252 เอามอเตอร์ไซค์เข้ามา 259 00:16:43,252 --> 00:16:46,422 จัดแข่งมอเตอร์ไซค์พร้อมกับรถสี่ล้อ 260 00:16:46,422 --> 00:16:47,923 มันก็เหมาะสมแล้ว 261 00:16:49,008 --> 00:16:50,426 มิกกี้ ทอมป์สันมีชื่อ 262 00:16:50,426 --> 00:16:54,555 เขาใช้ชื่อและกิตติศัพท์ของเขา โฆษณางานนี้เพื่อเรียกคนดู 263 00:16:55,806 --> 00:16:58,642 พ่อผมได้เซ็นสัญญาที่แอนาไฮม์สเตเดียม 264 00:16:58,642 --> 00:17:00,769 ทั้งงานออฟโรดและซูเปอร์ครอส 265 00:17:00,769 --> 00:17:03,856 ดูเหมือนกู๊ดวินจะเป็นหุ้นส่วนที่ดี 266 00:17:03,856 --> 00:17:07,818 แต่หลังจากจัดแข่งไปสองสามงาน กู๊ดวินก็มียอดค้าง ไม่ได้จ่าย 267 00:17:07,818 --> 00:17:10,738 ทําให้ความสัมพันธ์กับทางสนามกีฬาพังทลาย 268 00:17:10,738 --> 00:17:12,948 ด้วยการไม่ยอมจ่าย ทํานิสัยกู๊ดวิน 269 00:17:12,948 --> 00:17:15,701 พอเราสืบประวัติของไมค์ กู๊ดวิน 270 00:17:15,701 --> 00:17:17,578 สิ่งหนึ่งที่เราได้รู้เกี่ยวกับเขาก็คือ 271 00:17:17,578 --> 00:17:20,289 ทุกครั้งที่มีโอกาส เขาจะโกงคุณ 272 00:17:20,289 --> 00:17:22,624 เขาเป็นพวกขี้โกง 273 00:17:22,624 --> 00:17:24,084 สําหรับมิกกี้ 274 00:17:24,084 --> 00:17:28,047 ความโปร่งใสและการดูแลทุกคนให้ทั่วถึง 275 00:17:28,047 --> 00:17:30,049 เป็นสิ่งสําคัญสุดๆ 276 00:17:30,049 --> 00:17:33,635 ทางมิกกี้รู้สึกตัวได้ว่า 277 00:17:34,386 --> 00:17:37,139 "ไม่ ผมจะไม่ใช้ชื่อตัวเองโฆษณางานแบบนั้น" 278 00:17:37,139 --> 00:17:40,142 มิกกี้ก็เลยยุติการเป็นหุ้นส่วน 279 00:17:40,142 --> 00:17:45,314 นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการฟ้องร้องอันยาวนาน 280 00:17:47,191 --> 00:17:48,567 ทุกการฟ้องร้องในศาล 281 00:17:48,567 --> 00:17:52,112 พ่อผมชนะตลอด ผู้พิพากษาเข้าข้างเขา 282 00:17:52,112 --> 00:17:56,700 กู๊ดวินเริ่มโยกย้ายเงิน แล้วยื่นล้มละลาย 283 00:17:56,700 --> 00:17:59,161 โยกเงินไปไว้กับคนนี้ที คนนั้นที 284 00:17:59,745 --> 00:18:04,249 ครั้งสุดท้ายที่ผมเจอมิกกี้กับทรูดี้ มีคนโทรหา 285 00:18:06,210 --> 00:18:08,587 มิกกี้เปิดลําโพง 286 00:18:08,587 --> 00:18:11,882 ผมจําเสียงกู๊ดวินได้ 287 00:18:12,382 --> 00:18:14,468 สิ่งที่เขาพูดก็คือ 288 00:18:15,260 --> 00:18:17,179 "ฉันจะทําให้นายต้องชดใช้ 289 00:18:17,179 --> 00:18:20,099 ที่ขาดทุนไป นายไม่มีวันได้คืนครบแน่" 290 00:18:20,766 --> 00:18:22,976 โทนเสียงของกู๊ดวินจริงจังมากๆ 291 00:18:24,603 --> 00:18:26,772 ครั้งท้ายๆ ที่ผมคุยกับพ่อ 292 00:18:26,772 --> 00:18:31,693 เขาเตือนผมว่ากู๊ดวินกู่ไม่กลับแล้ว 293 00:18:33,779 --> 00:18:36,949 แน่นอน ทีนี้เราก็ต้องสอบปากคําไมค์ กู๊ดวิน 294 00:18:38,575 --> 00:18:40,953 เราขับรถไปที่สํานักกฎหมายของเขา 295 00:18:41,453 --> 00:18:44,998 ตอนเราเข้าไป ไมค์ กู๊ดวิน ยืนหลบหลังทนายของเขา 296 00:18:44,998 --> 00:18:48,085 ทนายของเขาบอกว่า "เราไม่อนุญาตให้เขาคุยกับคุณ" 297 00:18:48,085 --> 00:18:49,461 เขายืนเฉยๆ 298 00:18:49,461 --> 00:18:51,797 ให้ตายสิ เขาทําพิธีกรรมแบบ... 299 00:18:53,048 --> 00:18:54,049 ยกมือ 300 00:18:57,261 --> 00:19:01,640 เขาชี้ไปที่ทนาย ผมก็คิด "ให้ตายสิ เห็นแล้วอยากอาเจียน" 301 00:19:03,308 --> 00:19:05,018 ไมเคิล กู๊ดวินบอกทนายของเขา 302 00:19:05,018 --> 00:19:09,439 ว่าเขาไปฟิตเนสตอนหกโมงเช้าวันนั้น 303 00:19:09,439 --> 00:19:14,361 เขาไปสอบปากคําหลายคน มีหลายคนที่ยืนยันได้ว่าเขาไปที่นั่น 304 00:19:14,361 --> 00:19:17,698 ไมค์ กู๊ดวินไปใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ออเรนจ์เคาน์ตี 305 00:19:17,698 --> 00:19:21,326 เวลาที่ทั้งสองคนถูกฆ่าในหุบเขาซานเกเบรียล 306 00:19:21,326 --> 00:19:22,244 (ลอสแอนเจลิส) 307 00:19:22,244 --> 00:19:26,081 ก็เลยไม่มีอะไรโยงไมค์ กู๊ดวินกับที่เกิดเหตุ 308 00:19:27,791 --> 00:19:30,794 ไม่มีหลักฐานโดยตรง ไม่เจอปืนที่ใช้ 309 00:19:30,794 --> 00:19:33,505 เพราะไม่มีใครสรุปได้ว่ามือปืนคือใคร 310 00:19:35,048 --> 00:19:38,927 แล้วไม่นานต่อมา ไมเคิล กู๊ดวินกับภรรยา 311 00:19:38,927 --> 00:19:40,637 ก็หายตัวไปเฉยๆ 312 00:19:40,637 --> 00:19:46,226 พอติดต่อไป ทนายของไมเคิล กู๊ดวินก็บอกว่า 313 00:19:46,226 --> 00:19:51,356 "เรารู้แค่ว่าพวกเขาซื้อเรือ แล้วออกไปต่างประเทศ" 314 00:19:51,356 --> 00:19:54,443 ก็เลยสอบปากคําเขาไม่ได้ สืบสวนเขาไม่ได้ 315 00:19:55,068 --> 00:19:58,906 สายสืบฆาตกรรมทุกคนในประวัติศาสตร์มนุษย์ 316 00:19:58,906 --> 00:20:01,074 จะมีสักหนึ่งหรือสองคดี 317 00:20:01,074 --> 00:20:04,077 ที่พวกเขาหาหลักฐานชิ้นสุดท้ายไม่เจอ 318 00:20:04,077 --> 00:20:06,496 มีหลายคดีที่ทําให้เราคิดว่า 319 00:20:06,496 --> 00:20:09,458 "ให้ตายสิ คดีนี้คาใจจริงๆ" 320 00:20:09,458 --> 00:20:12,336 มิกกี้ไม่ควรโดนแบบนี้ ทรูดี้ก็ไม่ควรโดนแบบนี้ 321 00:20:12,336 --> 00:20:15,797 แล้วไอ้กระจอกไมค์ กู๊ดวินนี่ก็หนีไป 322 00:20:15,797 --> 00:20:19,051 {\an8}ใช่ค่ะ ฉันว่ามันส่งผลเสียต่อสายสืบมากๆ 323 00:20:19,718 --> 00:20:23,472 ทุกคนหัวเสียมากๆ ที่ไขคดีไม่ได้ 324 00:20:24,348 --> 00:20:26,683 ทุกคนอยากไขคดีให้ได้ 325 00:20:27,351 --> 00:20:28,852 แต่คดีก็ไม่ได้ไขได้เสมอไป 326 00:20:29,603 --> 00:20:30,604 (ปี 1988) 327 00:20:33,941 --> 00:20:36,193 (ปี 1994) 328 00:20:43,700 --> 00:20:46,578 หน่วยสืบคดีเก่าของกรมตํารวจเขตแอลเอ 329 00:20:46,578 --> 00:20:48,038 ณ ตอนนั้นมี... 330 00:20:48,038 --> 00:20:52,918 สายสืบผู้ใหญ่ อาวุโส ที่ใกล้จะเกษียณหกคน 331 00:20:53,502 --> 00:20:55,879 สายสืบชั้นยอด ชื่อจอห์น ยาร์โบรห์ 332 00:20:55,879 --> 00:21:00,217 เขาบอกว่า "นี่ ฉันมีคดีเก่าที่ไขไม่ได้ คดีใหญ่มากๆ 333 00:21:00,217 --> 00:21:02,594 ฆาตกรรมมิกกี้กับทรูดี้ ทอมป์สัน 334 00:21:03,387 --> 00:21:06,932 ฉันอยากให้นายศึกษาจุดเด่นของคดีนี้ 335 00:21:06,932 --> 00:21:11,687 เพราะมันมีอะไรเยอะมาก ฉันแก่แล้ว ฉันใกล้จะเกษียณ 336 00:21:11,687 --> 00:21:16,650 นายยังหนุ่ม คดีนี้จะง่ายสําหรับนาย มันแทบไม่เหนื่อยอะไรเลย เจ้าหนู" 337 00:21:18,402 --> 00:21:21,446 เขาเกษียณไปราวๆ ปี 1994 338 00:21:21,446 --> 00:21:23,615 ส่วนผมกับคู่หูคนใหม่ 339 00:21:23,615 --> 00:21:27,369 ก็เข้าไปคุมการสืบคดีตั้งแต่นั้น 340 00:21:29,871 --> 00:21:32,291 ผมไม่เคยได้ยินชื่อมิกกี้ ทอมป์สันมาก่อนในชีวิต 341 00:21:32,291 --> 00:21:34,459 จนกระทั่งได้มาศึกษาคดีนี้ 342 00:21:35,252 --> 00:21:37,129 นี่เป็นคดีใหญ่ 343 00:21:37,129 --> 00:21:39,631 แล้วผมก็เพิ่งจะเริ่มงานสืบสวนฆาตกรรม 344 00:21:39,631 --> 00:21:41,633 ผมเพิ่งเป็นตํารวจสืบฆาตกรรมได้สองปี 345 00:21:42,426 --> 00:21:44,970 ผมไปขอคําแนะนําจากเรย์ ผมเคารพเขามากๆ เลยนะ 346 00:21:44,970 --> 00:21:46,305 เขาให้คําแนะนําที่ดีมากๆ 347 00:21:46,972 --> 00:21:50,350 "วิธีกินช้างตัวใหญ่มีวิธีเดียว ให้กัดทีละคํา" 348 00:21:50,851 --> 00:21:53,520 มาร์ก ลิเลียนเฟลด์ ผมประทับใจในตัวเขาเสมอ 349 00:21:53,520 --> 00:21:56,898 ถ้าผมถูกฆ่าตาย ผมก็อยากให้เขาสืบคดีของผม 350 00:21:56,898 --> 00:22:01,445 เขามีทักษะ มีความมุ่งมั่น มีความฉลาด มีอารมณ์ขัน 351 00:22:01,445 --> 00:22:07,451 แล้วเขาก็ไม่ยําเกรง ไม่ยอมให้เบื้องบนรังแก 352 00:22:09,161 --> 00:22:11,663 บางครั้ง การสงสัยผู้มีอํานาจก็เป็นเรื่องดี 353 00:22:11,663 --> 00:22:16,209 เราต้องคิดให้รอบด้าน เปิดรับความคิดอื่นๆ 354 00:22:16,209 --> 00:22:20,589 แต่อย่าไปปฏิเสธทฤษฎีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นมา 355 00:22:20,589 --> 00:22:23,550 มีใครโกรธใครหรือเปล่า ด้วยเหตุผลอื่น 356 00:22:23,550 --> 00:22:28,513 {\an8}นอกจากความขัดแย้งทางธุรกิจ ระหว่างไมเคิล กู๊ดวินกับมิกกี้ ทอมป์สัน 357 00:22:29,181 --> 00:22:30,474 {\an8}เราต้องเปิดรับความคิดนั้น 358 00:22:30,474 --> 00:22:33,894 {\an8}สิ่งหนึ่งที่เราทําก็คือผมไปหาคอลลีน แคมป์เบลล์ 359 00:22:33,894 --> 00:22:36,688 น้องสาวของมิกกี้ ทอมป์สัน 360 00:22:36,688 --> 00:22:40,525 คอลลีน แคมป์เบลล์แข็งแกร่งมากๆ 361 00:22:41,193 --> 00:22:42,778 เธอเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่ง 362 00:22:42,778 --> 00:22:45,655 ทุกคนที่เคยมีญาติถูกฆาตกรรมน่าจะเข้าใจ 363 00:22:46,323 --> 00:22:50,369 เรามีความโกรธในตัวเยอะมาก แล้วเราก็ก้าวข้ามมันไปไม่ได้ 364 00:22:50,369 --> 00:22:53,372 เราต้องเผชิญกับมันทุกคืนในฝันร้าย 365 00:22:58,377 --> 00:23:00,545 ครั้งแรกที่ผมได้เจอคอลลีนคือที่บ้านเธอ 366 00:23:00,545 --> 00:23:03,006 ผมเข้ากับเธอได้ทันที ผมชอบเธอทันทีเลย 367 00:23:03,006 --> 00:23:04,508 เราสานสัมพันธ์กันได้ 368 00:23:04,508 --> 00:23:07,928 แน่นอน หลังจากเข้าบ้านได้สี่นาที 369 00:23:07,928 --> 00:23:09,554 ผมก็ต้องเข้าห้องน้ํา 370 00:23:09,554 --> 00:23:11,264 ตอนผมเดินไปตามทางเดิน 371 00:23:11,264 --> 00:23:14,017 ผมเห็นรูปถ่ายชายหนุ่มบนผนัง 372 00:23:14,017 --> 00:23:15,894 นั่นคือสกอตต์ ลูกชายเธอ 373 00:23:19,523 --> 00:23:21,733 เมื่อปี 1982 คอลลีนประสบ... 374 00:23:21,733 --> 00:23:25,946 โศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุด ที่พ่อแม่จะเจอได้คือการเสียลูก 375 00:23:26,696 --> 00:23:29,032 สกอตต์ไปสนิทกับคนไม่ดี 376 00:23:31,076 --> 00:23:34,204 เขาถูกฆ่า แล้วศพเขาก็ถูกโยนทิ้งจากเครื่องบิน 377 00:23:36,081 --> 00:23:38,208 เธอแทบจะสืบสวนด้วยตัวเอง 378 00:23:38,208 --> 00:23:41,420 เธอเก็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่าง 379 00:23:41,420 --> 00:23:44,631 เธอสืบข้อมูลลับจนมันเปิดเผยออกมา 380 00:23:44,631 --> 00:23:50,929 เธอสําคัญมากๆ กับการผลักดันอัยการ 381 00:23:51,930 --> 00:23:54,599 เธอมุ่งมั่นมาก ไม่เคยถอดใจ 382 00:23:54,599 --> 00:23:56,768 เธอคอยสืบตลอดเวลา 383 00:23:56,768 --> 00:24:01,231 คอยสืบในแบบที่คุณไม่มีทางจินตนาการออก 384 00:24:01,231 --> 00:24:06,445 สุดท้าย แลร์รี่ คาเวลล์ก็รับโทษ ข้อหาฆาตกรรมลูกชายคอลลีน 385 00:24:06,445 --> 00:24:09,823 คอลลีนคอยบอกอยู่ซ้ําๆ 386 00:24:09,823 --> 00:24:12,909 "คุณต้องดูข้อมูลนี้ แล้วตัดแลร์รี่ คาเวลล์ออกไปให้ได้" 387 00:24:12,909 --> 00:24:16,121 เพราะความจริงคือ ระหว่างการไต่สวนแลร์รี่ คาเวลล์ 388 00:24:16,121 --> 00:24:18,665 กับคู่หูอาชญากร ในข้อหาฆาตกรรมสกอตต์ แคมป์เบลล์ 389 00:24:18,665 --> 00:24:20,709 มิกกี้ ทอมป์สันก็ขึ้นให้การด้วย 390 00:24:22,252 --> 00:24:27,883 แลร์รี่ คาเวลล์เข้าไปพัวพัน กับวงการยาเสพติดอย่างลึกซึ้ง 391 00:24:27,883 --> 00:24:31,470 เพราะเขาเป็นพ่อค้ายา แต่เขาก็เป็นคนสําคัญในวงการแข่งรถด้วย 392 00:24:32,304 --> 00:24:35,056 มิกกี้ขึ้นให้การในฐานะผู้เชี่ยวชาญ 393 00:24:35,056 --> 00:24:38,059 เกี่ยวกับอะไหล่รถที่พบในอู่ของแลร์รี่ คาเวลล์ 394 00:24:40,228 --> 00:24:44,274 การไต่สวนจบลงเมื่อแปดถึงสิบเดือน 395 00:24:44,274 --> 00:24:46,693 ก่อนการตายของมิกกี้กับทรูดี้ ทอมป์สัน 396 00:24:47,444 --> 00:24:50,322 มันแปลกนะที่ฆาตกรรมเกิดขึ้นกับครอบครัวแบบนั้น 397 00:24:50,322 --> 00:24:52,115 เราก็เลยหาจุดเชื่อมโยง 398 00:24:53,033 --> 00:24:55,952 เราทบทวนรายงานทุกฉบับ เรื่องฆาตกรรมสกอตต์ แคมป์เบลล์ 399 00:24:55,952 --> 00:24:57,662 เราคุยกับสายสืบชุดเดิม 400 00:24:58,538 --> 00:25:00,248 เราจริงจังกับคดีนี้ 401 00:25:00,916 --> 00:25:05,128 ไม่มีหลักฐานสักชิ้นเลยที่จะบ่งชี้ความสัมพันธ์ 402 00:25:05,128 --> 00:25:07,672 ระหว่างคดีฆาตกรรมมิกกี้กับทรูดี้ ทอมป์สัน 403 00:25:07,672 --> 00:25:10,258 กับคดีฆาตกรรมสกอตต์ แคมป์เบลล์ หลานชายของมิกกี้ 404 00:25:10,258 --> 00:25:16,848 นอกจากการที่สองคดีนี้ ทําลายครอบครัวใหญ่ที่แสนดี อบอุ่น รักใคร่กัน 405 00:25:20,435 --> 00:25:23,438 ผมกับคู่หูกลับไปนับหนึ่งใหม่ 406 00:25:24,523 --> 00:25:26,983 เราคิดทฤษฎี แนวคิดต่างๆ 407 00:25:26,983 --> 00:25:30,779 เราตัดทิ้งทุกแนวคิดแล้ว เหลือแค่อย่างเดียวที่ไม่ได้ตัดออก 408 00:25:30,779 --> 00:25:33,240 คือแนวคิดที่ว่ามีคนถูกจ้างมาฆ่า 409 00:25:33,240 --> 00:25:35,534 คนจ้างคือไมเคิล แฟรงก์ กู๊ดวิน 410 00:25:41,081 --> 00:25:44,209 หลังมิกกี้ ทอมป์สันกับทรูดี้ ทอมป์สันถูกฆาตกรรม 411 00:25:44,209 --> 00:25:46,169 ถ้าไมค์ กู๊ดวินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง 412 00:25:46,169 --> 00:25:48,797 เราคงคิดว่าเขาจะใช้ชีวิตตามปกติ 413 00:25:48,797 --> 00:25:52,384 ทําธุรกิจของเขาไป ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร 414 00:25:52,384 --> 00:25:55,637 แต่จริงๆ ไมค์ กู๊ดวินทําอะไรหลังจากที่มิกกี้ถูกฆ่า 415 00:25:56,763 --> 00:26:00,058 ไมเคิล กู๊ดวินกับภรรยาตัดสินใจขายบ้าน 416 00:26:00,058 --> 00:26:04,229 {\an8}พวกเขาเอาทรัพย์สินทั้งหมดที่มี 417 00:26:04,229 --> 00:26:08,984 โอนไปไว้กับธนาคารในแคริบเบียน 418 00:26:08,984 --> 00:26:12,904 แปดสิบแปดวันหลังฆาตกรรม เขานั่งเรือออกนอกประเทศ 419 00:26:12,904 --> 00:26:14,573 ที่ซื้อมาจากเงินฉ้อโกง 420 00:26:17,367 --> 00:26:22,205 เมื่อปี 1993 ไมค์ กู๊ดวินถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง 421 00:26:22,205 --> 00:26:24,583 หลังจากที่เขากลับมาสหรัฐฯ 422 00:26:24,583 --> 00:26:28,253 เขาก็ถูกตัดสินว่ามีความผิด แล้วติดคุกในเรือนจํากลาง 423 00:26:29,504 --> 00:26:33,466 เขาได้รับโทษจําคุกสองปีครึ่ง 424 00:26:36,136 --> 00:26:37,971 ไมค์ กู๊ดวินไม่ยอมพูด 425 00:26:37,971 --> 00:26:41,224 เขาไม่มีทางให้ปากคํากับตํารวจ แต่เราก็เฝ้าโทรศัพท์เขาไว้ 426 00:26:42,100 --> 00:26:42,934 ขณะเดียวกัน 427 00:26:42,934 --> 00:26:46,229 ทุกคนที่เคยถูกสอบปากคําโดยทีมสืบสวนชุดเดิม 428 00:26:46,229 --> 00:26:48,940 ผมกับคู่หูก็กลับไปสอบปากคําคนเหล่านั้น 429 00:26:49,691 --> 00:26:54,446 ตอนคุยกับดร.แลนซ์ จอห์นสัน ที่เป็นพยานได้ยินเสียงการก่อเหตุ 430 00:26:54,446 --> 00:26:57,490 เขาบอกว่า "ลูกสาวผมมีเพื่อนสนิท แอลลิสัน ทริอาร์ซี 431 00:26:57,490 --> 00:26:59,159 อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามมิกกี้ ทอมป์สัน 432 00:26:59,159 --> 00:27:00,577 เธอเห็นทุกอย่าง" 433 00:27:00,577 --> 00:27:05,957 เขาไม่แน่ใจว่าตํารวจ ได้ติดต่อแอลลิสัน ทริอาร์ซีไหม 434 00:27:05,957 --> 00:27:10,086 พอมาย้อนดูบันทึก กลายเป็นว่าตํารวจไม่เคยติดต่อเธอ 435 00:27:10,670 --> 00:27:11,838 ตํารวจไม่ได้มองข้ามเธอนะ 436 00:27:11,838 --> 00:27:15,634 ตอนเกิดเหตุฆาตกรรม แอลลิสัน ทริอาร์ซีเป็นเด็กสาวอายุ 15 437 00:27:15,634 --> 00:27:18,345 พ่อแม่ซ่อนเธอไว้ 438 00:27:18,345 --> 00:27:21,056 เพราะความกระทบกระเทือนทางจิตที่เธอได้รับ 439 00:27:21,056 --> 00:27:23,350 ผมเข้าใจ ถ้าผมมีลูก 440 00:27:23,350 --> 00:27:26,478 ถ้าหมาผมเป็นพยาน ผมก็ซ่อนหมาผมเหมือนกัน 441 00:27:26,478 --> 00:27:28,897 ผมก็ไม่ให้หมาให้ปากคําตํารวจ ผมเข้าใจ 442 00:27:30,398 --> 00:27:32,859 แอลลิสัน ทริอาร์ซีโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว 443 00:27:32,859 --> 00:27:34,944 เราตามหาเธอเจอ 444 00:27:36,196 --> 00:27:37,614 แอลลิสันบอกผมกับคู่หู 445 00:27:37,614 --> 00:27:39,282 ว่าเธอกําลังเตรียมตัวไปโรงเรียน 446 00:27:40,033 --> 00:27:43,203 แล้วเธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแหลม 447 00:27:43,203 --> 00:27:47,957 เธอวิ่งไปที่หน้าต่างห้องนั่งเล่นหน้าบ้าน ที่มองไปเห็นบ้านทอมป์สัน 448 00:27:50,293 --> 00:27:53,254 แอลลิสันเห็นกับตา 449 00:27:53,755 --> 00:27:57,008 ว่าทรูดี้ ทอมป์สันคลานเข่าอยู่หน้าบ้าน 450 00:27:57,592 --> 00:28:00,637 มิกกี้ ทอมป์สันคุกเข่าลงแล้วยกมือ 451 00:28:00,637 --> 00:28:04,182 ขอร้องว่า "อย่าฆ่าเมียผมเลย" 452 00:28:04,182 --> 00:28:06,559 ไม่ได้ร้องขอชีวิตตัวเอง แต่ร้องขอชีวิตภรรยา 453 00:28:07,811 --> 00:28:09,562 พอทรูดี้คลานมาสุดถนนหน้าบ้าน 454 00:28:09,562 --> 00:28:12,899 ผู้ต้องสงสัยก็เหนี่ยวไกยิงทรูดี้ที่ศีรษะ 455 00:28:14,359 --> 00:28:19,114 แอลลิสันมองผู้ต้องสงสัยคนเดียวกัน เดินขึ้นเนินไปยิงมิกกี้ตาย 456 00:28:20,407 --> 00:28:22,742 แอลลิสันบรรยายได้ทันที 457 00:28:22,742 --> 00:28:27,080 ว่าเป็นชายแอฟริกันอเมริกันสองคน หนีไปด้วยจักรยานสิบเกียร์ 458 00:28:29,040 --> 00:28:31,876 คนร้ายอยากให้มิกกี้เห็นภรรยาทรมาน 459 00:28:32,836 --> 00:28:34,754 ทําให้เขาได้เข้าใจ 460 00:28:34,754 --> 00:28:38,133 ว่าสิ่งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นบนโลก 461 00:28:39,050 --> 00:28:41,886 คือรักแท้ของเขาถูกฆ่าตายต่อหน้า 462 00:28:43,638 --> 00:28:45,181 เขาหวงแหนเธอมากๆ 463 00:28:45,682 --> 00:28:47,767 เขาเป็นคนแบบนั้น 464 00:28:48,268 --> 00:28:52,105 การที่เขายอมเสี่ยงตัวเองปกป้องเธอ 465 00:28:52,939 --> 00:28:54,566 มันไม่น่าแปลกใจเลย 466 00:28:55,650 --> 00:28:58,194 คนร้ายวางแผนทรมานพ่อผม 467 00:29:01,281 --> 00:29:02,115 ชัดเจนเลย 468 00:29:02,699 --> 00:29:03,867 แล้วแผนก็สําเร็จ 469 00:29:11,416 --> 00:29:14,127 พอได้ฟังเรื่องเล่าจากแอลลิสันว่าเกิดอะไรขึ้น 470 00:29:14,127 --> 00:29:18,173 มันยิ่งตอกฝาโลงเข้าไปอีก 471 00:29:18,173 --> 00:29:20,759 ในการยืนยันสิ่งที่เราเชื่ออยู่ก่อนแล้ว 472 00:29:21,259 --> 00:29:24,137 เธอเป็นประจักษ์พยานคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ 473 00:29:24,137 --> 00:29:28,558 ที่สามารถบรรยาย การยิงผู้ตายทั้งสองคนจริงๆ ได้ 474 00:29:28,558 --> 00:29:30,101 เธอก็เลยสําคัญมากๆ 475 00:29:30,101 --> 00:29:34,063 การได้ฟังเรื่องเล่า กับการได้เห็นเหตุการณ์จริงมันคนละเรื่องกันเลย 476 00:29:34,063 --> 00:29:38,109 มีเหตุผลเดียวเท่านั้น ที่จะฆ่าทั้งสองคนในลักษณะนี้ได้ 477 00:29:38,109 --> 00:29:40,820 นั่นคือความแค้นล้วนๆ ไม่มีอะไรเจือปน 478 00:29:41,446 --> 00:29:43,323 แต่เราต้องการหลักฐานมากกว่านี้ 479 00:29:43,323 --> 00:29:47,994 เพื่อที่จะโยงไมค์ กู๊ดวินกับฆาตกรรมจริงๆ 480 00:29:48,495 --> 00:29:50,830 (ฤดูใบไม้ร่วง ปี 1996 ไมค์ กู๊ดวินได้รับการปล่อยตัว) 481 00:29:51,623 --> 00:29:54,167 ไมค์ กู๊ดวินได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจํากลาง 482 00:29:54,167 --> 00:29:57,337 {\an8}เขาบินไปที่ออเรนจ์เคาน์ตี สนามบินซานตาอานา 483 00:29:57,337 --> 00:30:02,801 {\an8}ผมก็เลยสั่งให้สัมภาระเขา "หาไม่เจอ" ตอนลงเครื่อง 484 00:30:02,801 --> 00:30:07,055 ผมสวมรอยเป็นผู้โดยสารบนเครื่องบิน 485 00:30:07,055 --> 00:30:09,432 เราสองคนโมโหเพราะรอสัมภาระ 486 00:30:09,432 --> 00:30:10,642 เขาไม่รู้เลย 487 00:30:11,476 --> 00:30:14,729 ผมเปิดเครื่องอัดเทปไว้ เพราะผมอยากอัดเสียงเขา 488 00:30:14,729 --> 00:30:17,482 เพราะผมรู้ตั้งแต่ตอนนั้น 489 00:30:17,482 --> 00:30:21,194 ว่าผมจะพยายามดักฟังโทรศัพท์เขา 490 00:30:21,194 --> 00:30:23,238 ผมอยากรู้ว่าเสียงเขาเป็นยังไง 491 00:30:23,238 --> 00:30:26,032 นั่นคือเป้าหมายหลักของผม 492 00:30:26,741 --> 00:30:29,244 เป้าหมายรองคือการได้ไปเจอตัวเขา 493 00:30:30,036 --> 00:30:32,497 เช่นเดียวกับการรู้จักเหยื่อฆาตกรรม 494 00:30:32,497 --> 00:30:36,209 ยิ่งเรารู้เรื่องผู้ต้องสงสัย เราก็ยิ่งหาจุดอ่อนได้มากขึ้น 495 00:30:36,209 --> 00:30:38,837 แล้วก็เอามาใช้ชิงความได้เปรียบ 496 00:30:38,837 --> 00:30:41,464 ตอนเจอกัน 40 นาทีที่สนามบิน 497 00:30:41,464 --> 00:30:45,176 ไมค์ กู๊ดวินพูดตลอดเวลา มีแต่เรื่องเหลวไหล 498 00:30:45,176 --> 00:30:49,389 ไมค์ กู๊ดวินอ้างตัวว่าเป็นลูกเสืออินทรี ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เหลวไหล 499 00:30:49,389 --> 00:30:52,934 ไมค์ กู๊ดวินอ้างว่าเคยนอน กับเพลย์บอยบันนี่ทุกคน เหลวไหล 500 00:30:52,934 --> 00:30:57,981 ไมค์ กู๊ดวินอ้างว่าเขาได้แชมป์นวมทอง ที่เพนซาโคลา ฟลอริดา เหลวไหล 501 00:30:57,981 --> 00:31:00,650 มีแต่เรื่องโกหกเหลวไหล ไม่สําคัญอะไร 502 00:31:00,650 --> 00:31:04,153 ไม่ได้มีค่าอะไรเลย นอกจากแสดงแบบแผนพฤติกรรม 503 00:31:04,153 --> 00:31:07,824 เขาพูดความจริงไม่ได้ ทั้งชีวิตเขาคือเรื่องโกหก 504 00:31:11,619 --> 00:31:14,455 (เมืองแบรดเบอรี) 505 00:31:14,455 --> 00:31:18,209 ตอนแรกมันก็เงียบๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยจริงๆ 506 00:31:18,209 --> 00:31:21,713 ถึงผมจะชอบลิเลียนเฟลด์ แต่เขาไม่บอกอะไรผมเลย 507 00:31:21,713 --> 00:31:23,631 แต่เขาบอกไม่ได้ มันไม่ใช่... 508 00:31:23,631 --> 00:31:28,386 งานของเขาไม่ใช่การคุยกับคน งานของเขาคือการสืบสวน หาคําตอบ 509 00:31:28,386 --> 00:31:30,013 (ไขไม่ออก: มือฆ่าสองผัวเมียยังระบุตัวไม่ได้) 510 00:31:30,013 --> 00:31:36,269 หลังจากหลายปีกับคดีฆ่ามิกกี้กับทรูดี้ ทอมป์สัน 511 00:31:36,269 --> 00:31:38,730 เราก็ต้องเปลี่ยนวิธีสืบสวน 512 00:31:38,730 --> 00:31:42,817 แผนกสืบสวนฆาตกรรมของกรมตํารวจ ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยสื่อ 513 00:31:42,817 --> 00:31:47,697 แต่ผมก็เคยใช้รายการทีวี "อเมริกาส์โมสต์วอนทิด" มาก่อน 514 00:31:47,697 --> 00:31:52,535 กับอีกคดีฆาตกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกัน แล้วมันก็สร้างเบาะแสได้ดีมากๆ 515 00:31:53,453 --> 00:31:57,332 ผมพยายามระบุตัวมือปืนสองคน พวกเขายังเป็นบุคคลเฝ้าระวัง 516 00:32:01,586 --> 00:32:03,713 เราได้รับสายประมาณสองร้อยสาย 517 00:32:03,713 --> 00:32:06,549 บางส่วนก็เป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ 518 00:32:06,549 --> 00:32:09,802 โทรมาแจ้งเรื่องมนุษย์ต่างดาว หรือจอห์น เวย์นเป็นคนทํา อะไรก็แล้วแต่ 519 00:32:09,802 --> 00:32:11,471 แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่มีประโยชน์ 520 00:32:13,139 --> 00:32:15,058 สิ่งที่ทําให้มาร์กเก่ง 521 00:32:16,267 --> 00:32:19,395 คือเขาจะหาสิ่งเล็กๆ จนเจอ 522 00:32:19,395 --> 00:32:23,816 แล้วก็หาวิธีเก็บข้อมูลจนได้ 523 00:32:23,816 --> 00:32:28,279 {\an8}ในคดีนี้ เขาเจอผู้หญิงที่ไมค์เคยทําไม่ดีไว้ 524 00:32:29,280 --> 00:32:31,366 เราได้รับสายแจ้งเบาะแส 525 00:32:31,366 --> 00:32:34,869 ผู้หญิงคนนี้เคยมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับกู๊ดวิน 526 00:32:34,869 --> 00:32:37,830 เธอบอกเราในโทรศัพท์ว่าเธอกับกู๊ดวิน 527 00:32:37,830 --> 00:32:40,875 ดูรายการอาชญากรรม เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมมิกกี้ ทอมป์สัน 528 00:32:40,875 --> 00:32:43,211 แล้วไมค์ก็สารภาพกับเธอ 529 00:32:43,211 --> 00:32:47,256 ว่าเขามีส่วนจัดฉากคดีฆาตกรรมนี้ 530 00:32:47,256 --> 00:32:50,218 เขาโม้ว่าเขาไม่มีวันถูกจับได้ 531 00:32:50,218 --> 00:32:51,427 เพราะเขาฉลาดเกินไป 532 00:32:52,929 --> 00:32:54,555 เธอก็เลยเป็นพยานที่ดี 533 00:32:55,056 --> 00:32:57,809 แต่นี่คือชิ้นเดียวในตัวต่อใหญ่ 534 00:32:57,809 --> 00:33:01,437 ผู้หญิงคนนั้นในชีวิตไมค์ กู๊ดวิน ได้คําสารภาพจากเขา 535 00:33:01,437 --> 00:33:05,233 ไม่มีใครรู้ว่ามีผู้หญิงอีกกี่คนที่รู้ความลับนี้ 536 00:33:06,943 --> 00:33:11,823 มาร์กถามผมว่า "นี่ผมอยากให้คุณมานําสืบ 537 00:33:11,823 --> 00:33:16,536 ผมอยากให้คุณไปเวอร์จิเนีย คอยสังเกตความเคลื่อนไหวของเมียเก่ากู๊ดวิน" 538 00:33:16,536 --> 00:33:20,832 ไมค์ กู๊ดวินมีภรรยา ตอนที่เกิดเหตุฆาตกรรมมิกกี้กับทรูดี้ ทอมป์สัน 539 00:33:20,832 --> 00:33:24,794 แต่สุดท้ายเขากับภรรยาคนนั้นก็หย่ากัน 540 00:33:26,004 --> 00:33:28,548 ไมค์ กู๊ดวินได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจํากลาง 541 00:33:28,548 --> 00:33:32,427 ใกล้ๆ กับช่วงเวลาที่ ภรรยาเก่าเขา ไดอาน่า กู๊ดวิน 542 00:33:32,427 --> 00:33:35,722 ย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ที่เวอร์จิเนียบีช เวอร์จิเนีย 543 00:33:35,722 --> 00:33:39,517 เรายื่นขอดักฟังโทรศัพท์ แล้วก็ได้รับอนุญาต 544 00:33:39,517 --> 00:33:42,395 ในรัฐเวอร์จิเนีย ให้ติดตามโทรศัพท์บ้านของไดแอน กู๊ดวิน 545 00:33:42,395 --> 00:33:43,730 กับโทรศัพท์ที่ทํางาน 546 00:33:45,940 --> 00:33:47,650 ระหว่างการแฝงตัวสืบสวน 547 00:33:47,650 --> 00:33:51,195 บางครั้งเราก็กระตุ้นให้คนพูดถึงคดีอาชญากรรม 548 00:33:53,281 --> 00:33:58,244 หนึ่งในวิธีที่แพร่หลายมากๆ คือการโทรหาคนนั้นเลย 549 00:33:58,244 --> 00:34:01,956 "ผมสายสืบมาร์ก ลิเลียนเฟลด์ จากแผนกสืบสวนฆาตกรรมลอสแอนเจลิส 550 00:34:01,956 --> 00:34:04,709 ผมอยากคุยเรื่องอดีตสามีคุณ" 551 00:34:05,543 --> 00:34:09,130 ผมไม่สนว่าเธอจะยอมคุย หรือจะไล่ให้ผมไปตายซะ 552 00:34:09,130 --> 00:34:12,800 ซึ่งเธอก็ทําแบบนั้นแหละ ผมแค่ต้องการกระตุ้นสมองเธอ 553 00:34:14,010 --> 00:34:17,930 พอเธอเริ่มได้รับสายจากมาร์ก ลิเลียนเฟลด์ 554 00:34:17,930 --> 00:34:24,187 เราก็คอยเฝ้าสังเกตเธอ ด้วยยุทธวิธีเฝ้าระวังหลายๆ แบบ 555 00:34:24,187 --> 00:34:28,066 ดูว่าเธอทําอะไรบ้าง เพราะมันจะนําไปสู่หลักฐานเพิ่มเติม 556 00:34:29,025 --> 00:34:31,986 สายโทรศัพท์ครั้งหนึ่งที่เราได้ฟัง 557 00:34:31,986 --> 00:34:36,324 เธอยอมรับเลยว่าไมค์ยอมรับกับเธอ 558 00:34:36,324 --> 00:34:38,618 ว่าเขามีส่วนกับคดีฆาตกรรมทอมป์สัน 559 00:34:38,618 --> 00:34:41,245 แปลว่าเราเจอสองคนในสองรัฐ 560 00:34:41,245 --> 00:34:43,706 ในสองช่วงเวลาที่ให้การเหมือนกัน 561 00:34:43,706 --> 00:34:47,043 ว่าไมเคิล กู๊ดวินยอมรับ ว่าตัวเองมีส่วนกับคดีฆาตกรรม 562 00:34:47,043 --> 00:34:48,169 มิกกี้กับทรูดี้ ทอมป์สัน 563 00:34:48,169 --> 00:34:50,755 ของโคตรดีเลย ซึ่งเป็นศัพท์กฎหมายในวงการของผม 564 00:34:54,675 --> 00:34:58,596 ทุกอย่างในคดีนี้เป็นหลักฐานแวดล้อม 565 00:34:58,596 --> 00:35:02,350 ในเรื่องของการโยงไมค์ กู๊ดวินกับเหตุฆาตกรรม 566 00:35:02,350 --> 00:35:07,980 {\an8}แต่มันเปลี่ยนไปแล้ว ด้วยการเปิดเผยของประจักษ์พยาน 567 00:35:07,980 --> 00:35:11,818 รายการ "อเมริกาส์โมสต์วอนทิด" ทําให้เราได้รับสายจากชายคนหนึ่ง 568 00:35:11,818 --> 00:35:14,028 ที่เคยเป็นนักบัญชี เขาบอกว่า 569 00:35:14,028 --> 00:35:17,657 "ผมมีลูกค้า แล้วเขาก็เห็นเรื่องน่าสงสัย 570 00:35:17,657 --> 00:35:19,408 ช่วงสองสามวันก่อนเกิดเหตุ 571 00:35:19,408 --> 00:35:21,536 เขาพยายามโทรแจ้งตํารวจสองสามครั้ง 572 00:35:21,536 --> 00:35:23,037 แต่ตํารวจก็ปฏิเสธเขาเสมอ" 573 00:35:23,037 --> 00:35:24,914 ผู้ชายคนนี้ชื่อรอน สตีเวนส์ 574 00:35:24,914 --> 00:35:27,792 หลักๆ คือเขาบอกว่า "ผมไม่รู้จักมิกกี้ ทอมป์สัน 575 00:35:27,792 --> 00:35:28,709 ผมไม่เคยเจอเขา 576 00:35:28,709 --> 00:35:31,879 แต่บ้านผมอยู่ห่างประมาณสามบล็อก จากจุดที่เขาถูกฆ่า" 577 00:35:31,879 --> 00:35:34,465 แล้วรอนก็บอกผมว่า "วันนั้นผมกลับบ้านเร็ว 578 00:35:34,465 --> 00:35:37,468 ภรรยาผมเดินออกมานอกบ้าน มาหาผมที่หน้าบ้าน 579 00:35:37,468 --> 00:35:39,387 เธอบอกว่า 'ไง คุณกลับมาก็ดีแล้ว 580 00:35:39,387 --> 00:35:41,848 มีรถน่าสงสัยจอดอยู่ตรงถนน 581 00:35:41,848 --> 00:35:44,183 มีผู้ชายนั่งมาสองคน ถือกล้องส่องทางไกล 582 00:35:44,183 --> 00:35:45,643 ฉันว่าน่าจะมีเรื่อง 583 00:35:45,643 --> 00:35:49,981 ตรงถนนมีโรงเรียนประถม อาจเป็นพวกข่มขืนเด็กหรือแก๊งลักเด็ก'" 584 00:35:49,981 --> 00:35:54,610 แล้วรอน สตีเวนส์ก็เดินไปตรงถนน 585 00:35:54,610 --> 00:35:58,364 ตรงที่รถคันนั้นจอด เขาเห็นด้านข้างของคนขับ 586 00:35:58,364 --> 00:36:00,283 คนขับผิวขาว คนนั่งผิวดํา 587 00:36:00,283 --> 00:36:04,328 พอรอน สตีเวนส์เข้าใกล้คนขับ เขาก็ออกไป 588 00:36:04,328 --> 00:36:06,956 เขาซิ่งรถออกจากที่เกิดเหตุไป 589 00:36:06,956 --> 00:36:08,833 รอนคิดว่า "ให้ตายสิ มันแปลกๆ นะ" 590 00:36:08,833 --> 00:36:10,835 แล้วเขาก็โทรแจ้งกรมตํารวจเขตแอลเอ 591 00:36:10,835 --> 00:36:13,629 น่าเศร้าที่เราไม่ได้ส่งรถสายตรวจไปที่นั่น 592 00:36:13,629 --> 00:36:15,756 ความผิดเราเอง เราพลาดเอง 593 00:36:18,176 --> 00:36:21,971 เรื่องนี้เกิดประมาณสี่วัน ก่อนที่มิกกี้กับทรูดี้จะถูกฆ่า 594 00:36:21,971 --> 00:36:24,348 ตอนเขาบรรยายลักษณะคนขับ 595 00:36:24,348 --> 00:36:26,601 เขาบรรยายไมเคิล กู๊ดวินแทบจะเป๊ะเลย 596 00:36:29,103 --> 00:36:30,563 คนนี้จะใช่ไมค์ กู๊ดวินหรือเปล่า 597 00:36:30,563 --> 00:36:33,858 เขาไปที่นั่น ไปดูลาดเลา 598 00:36:33,858 --> 00:36:37,320 เพื่อวางแผนฆาตกรรมพวกเขาหรือเปล่า 599 00:36:37,320 --> 00:36:42,325 ทีนี้ สิ่งที่เราต้องทําก็คือการชี้ตัว 600 00:36:42,325 --> 00:36:46,662 เพื่อดูว่าพยานจะระบุตัวกู๊ดวินได้จริงหรือไม่ 601 00:36:47,163 --> 00:36:49,457 นั่นแหละปัญหา เราจะทํายังไง 602 00:36:49,457 --> 00:36:52,627 ถ้าคนนั้นถูกคุมตัวไว้ เราทําได้ 603 00:36:53,252 --> 00:36:58,007 แนวคิดก็คือ "ขอหมายจับเรมีย์ไปจับเขาก่อน" 604 00:36:58,007 --> 00:37:02,345 เรมีย์เป็นคําที่เราใช้ในแคลิฟอร์เนีย หมายถึงหมายจับด้วยเหตุอันควร 605 00:37:02,345 --> 00:37:05,264 เราเอาหมายจับไปให้ผู้พิพากษา 606 00:37:05,264 --> 00:37:07,391 ท่านเซ็นให้ อัยการไม่เกี่ยวด้วย 607 00:37:08,184 --> 00:37:12,021 แล้วผมก็เขียนหมายจับไมค์ กู๊ดวิน ช่างหัวไมค์ กู๊ดวินเถอะ 608 00:37:16,317 --> 00:37:20,529 คุณกู๊ดวิน คุณต้องมาที่นี่วันนี้ เพราะคุณไม่รับอาสาไปยืนให้ชี้ตัว 609 00:37:20,529 --> 00:37:22,490 พอมาคิดย้อนดูแล้ว มันจะง่ายกว่าไหมครับ 610 00:37:22,490 --> 00:37:25,159 ถ้าคุณอาสาไปยืนให้ชี้ตัว แทนที่จะเจอมาตรการนี้ 611 00:37:25,159 --> 00:37:29,121 ไม่ครับ ผมคิดว่าเราต้องท้าทาย การประพฤติมิชอบของทางการเมื่อทําได้ 612 00:37:29,121 --> 00:37:32,833 แต่ผมขอถามนะ ถ้าผมก่อคดีไร้หลักฐานได้จริง 613 00:37:32,833 --> 00:37:35,711 ผมจะโง่โผล่ไปที่เกิดเหตุเหรอ 614 00:37:36,629 --> 00:37:39,298 นี่มันเหลือเชื่อเลย 615 00:37:39,298 --> 00:37:42,760 ผมเตรียมแถวชี้ตัว ในเรือนจํากลางชายให้รอน สตีเวนส์ 616 00:37:43,344 --> 00:37:44,428 ให้เขากับภรรยา 617 00:37:45,596 --> 00:37:47,223 เราให้ทั้งสองคนทําการชี้ตัว 618 00:37:49,725 --> 00:37:51,727 ทั้งสองคนชี้ตัวไมเคิล แฟรงก์ กู๊ดวินถูก 619 00:37:51,727 --> 00:37:54,772 ว่าเป็นผู้ชายที่นั่งในรถกับชาวแอฟริกันอเมริกัน 620 00:37:54,772 --> 00:37:57,984 ห่างจากบ้านทอมป์สันสามบล็อก สี่วันก่อนเกิดเหตุฆาตกรรม 621 00:37:57,984 --> 00:38:00,945 การระบุได้ว่าเขาอยู่ในหรือใกล้ที่เกิดเหตุ 622 00:38:00,945 --> 00:38:03,030 เป็นข้อค้นพบใหม่ เป็นเรื่องใหญ่มากๆ 623 00:38:03,614 --> 00:38:06,909 เราจับเขาได้แล้ว เราตั้งข้อหาฆาตกรรมกับเขา 624 00:38:06,909 --> 00:38:09,453 ทั้งหมดนี้คือเรื่องหลอกลวง เป็นการจัดฉาก 625 00:38:09,453 --> 00:38:12,415 การปฏิบัติที่ผมได้รับในเรือนจํา ก็เป็นตัวอย่างของเรื่องนี้ 626 00:38:13,833 --> 00:38:15,501 - พอแล้ว ขอบคุณครับ - นี่ไบเบิล 627 00:38:15,501 --> 00:38:16,585 ขอบคุณครับ 628 00:38:20,381 --> 00:38:23,551 (วันที่ 12 ธันวาคม ปี 2001 13 ปีหลังเกิดเหตุฆาตกรรมทอมป์สัน) 629 00:38:23,551 --> 00:38:25,928 ฉันมองไปบนท้องฟ้า แล้วบอกมิกกี้ว่า... 630 00:38:25,928 --> 00:38:29,807 {\an8}"นายคิดว่านายเคยแข่งทรหดในชีวิตใช่ไหม 631 00:38:29,807 --> 00:38:30,933 ฉันขอบอกเลยนะ 632 00:38:31,726 --> 00:38:36,022 เราเพิ่งแข่งทรหดกันมา 13 ปีกับอีกเก้าเดือน 633 00:38:36,022 --> 00:38:39,734 นี่เป็นสนามที่ยาก แต่ฉันก็ทําตามที่นายสอนไว้เสมอ 634 00:38:40,318 --> 00:38:41,485 นั่นคือไม่เคยยอมแพ้" 635 00:38:42,445 --> 00:38:44,739 ผมจําตอนที่เขาถูกจับกุมได้ 636 00:38:44,739 --> 00:38:46,115 มันมีความหวัง 637 00:38:46,115 --> 00:38:48,534 แต่มันก็ยังไม่จบ 638 00:38:48,534 --> 00:38:51,620 กู๊ดวินเรียกรูปคดีที่ส่งฟ้องเขาว่า "การสังหารบุคลิก" 639 00:38:51,620 --> 00:38:54,457 เพราะรู้ว่ากู๊ดวินเป็นไอ้ชั่วจอมเจ้าเล่ห์ 640 00:38:54,457 --> 00:38:56,792 เขาจะดิ้นจนหลุดคดีนี้ได้ไหม 641 00:38:58,753 --> 00:39:03,299 ไมค์ กู๊ดวินเกลียดผมอย่างแรง หลังจากที่ผมจับกุมเขา 642 00:39:03,299 --> 00:39:05,843 การข่มขู่กับทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้นช่วงนั้น 643 00:39:05,843 --> 00:39:07,803 เขามีคนทํางานให้ 644 00:39:07,803 --> 00:39:12,266 มันเป็นเรื่องต่อเนื่องไม่มีวันจบ 645 00:39:12,266 --> 00:39:16,395 มาร์ก ลิเลียนเฟลด์ เริ่มได้รับคําขู่ที่ค่อนข้างรุนแรง 646 00:39:17,146 --> 00:39:20,691 ขู่เอาชีวิต ขู่ฆ่า แต่มาร์กก็คิดว่า 647 00:39:20,691 --> 00:39:23,194 "ผมมีงานต้องทํา ผมไม่สะทกสะท้านหรอก" 648 00:39:23,778 --> 00:39:27,698 มาร์กเป็นคนหนึ่งที่เรียนรู้ การหลบเลี่ยงให้หมัดถากตัวไป 649 00:39:27,698 --> 00:39:29,867 ส่วนผมเป็นนักมวยไอริชโง่ๆ 650 00:39:29,867 --> 00:39:33,037 ที่ยืนรับทุกหมัดเต็มๆ 651 00:39:33,037 --> 00:39:34,663 เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าผมอึดแค่ไหน 652 00:39:35,623 --> 00:39:38,459 ถ้าจะทํางานนี้ได้นานเท่ามาร์ก คุณต้องเป็นเหมือนมาร์ก 653 00:39:38,459 --> 00:39:41,629 ที่คุณปล่อยทุกอย่างผ่านไปได้จริงๆ 654 00:39:45,383 --> 00:39:49,470 หลังจากได้เห็นสิ่งที่พวกเขายอมทํา ผมกังวลทุกเรื่องนั่นแหละ 655 00:39:49,470 --> 00:39:50,721 พวกเขาจะสร้างหลักฐาน 656 00:39:50,721 --> 00:39:51,972 (ศาลสูงสุดลอสแอนเจลิส) 657 00:39:51,972 --> 00:39:56,018 สํานักงานอัยการไม่อยากยุ่งถ้าส่อแววแพ้ 658 00:39:56,727 --> 00:40:00,189 ถ้าเราไม่ทําทุกอย่างให้แน่นหนา เราก็ไม่อยากเสี่ยง 659 00:40:00,189 --> 00:40:02,483 โดยเฉพาะคดีที่เป็นกระแสแบบนี้ 660 00:40:03,859 --> 00:40:07,279 ผมได้เจอรอน บาวเวอร์ส เขาเป็นรองอัยการเขต 661 00:40:07,279 --> 00:40:09,198 ตอนนั้นเขาเกษียณไปแล้ว 662 00:40:09,198 --> 00:40:11,951 แล้วเขาก็ถูกจ้างกลับมา อยู่แผนกสนับสนุนการไต่สวน 663 00:40:11,951 --> 00:40:16,414 อัยการสองคน อลัน แจ็คสันกับแพต ดิกสัน 664 00:40:16,414 --> 00:40:21,502 ขอให้รอนมาช่วยเตรียมหลักฐานในชั้นศาล 665 00:40:21,502 --> 00:40:24,255 ช่วยเตรียมรูปคดี นี่คือคดีใหญ่มากๆ 666 00:40:24,255 --> 00:40:27,174 ผมบอกว่า "ผมยิ่งกว่ายินดีจะช่วยดูให้ 667 00:40:27,174 --> 00:40:30,594 แต่ผมต้องขอแฟ้มคดีด้วย" 668 00:40:30,594 --> 00:40:34,306 มาร์กบอกว่า "โอเค เราจะจัดการให้" 669 00:40:35,516 --> 00:40:39,728 วันต่อมา ผมมาทํางาน ผมแทบจะเข้าห้องออฟฟิศไม่ได้เลย 670 00:40:39,728 --> 00:40:43,065 มันเต็มไปด้วยกล่องและกล่อง 671 00:40:43,566 --> 00:40:48,070 มีโน้ตอยู่บนกระดาษสีเหลือง มาร์กเขียนไว้ 672 00:40:48,070 --> 00:40:50,823 "รอน นี่คือกล่องแฟ้มที่คุณขอ 673 00:40:50,823 --> 00:40:54,285 ทีนี้ก็ทํารูปคดีซะ ทําให้เร็วด้วย" 674 00:40:56,620 --> 00:40:59,123 รอน บาวเวอร์สเป็นส่วนสําคัญในการสร้าง... 675 00:40:59,123 --> 00:41:02,209 การนําเสนอรูปคดีต้นแบบก่อนขึ้นไต่สวน 676 00:41:04,336 --> 00:41:06,464 รอนเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ 677 00:41:07,173 --> 00:41:11,010 ผมเตรียมการนําเสนอ แล้วเอาไปให้อัยการเขตดู 678 00:41:11,010 --> 00:41:14,972 อัยการเขตบอกว่า "โอเค เราจะส่งฟ้องเลย" 679 00:41:15,556 --> 00:41:22,021 นั่นคือจุดเริ่มต้น ของการเตรียมตัวไต่สวนไมเคิล กู๊ดวิน 680 00:41:23,564 --> 00:41:26,567 (วันที่ 6 พฤศจิกายน ปี 2006 18 ปีหลังเกิดเหตุฆาตกรรมทอมป์สัน) 681 00:41:26,567 --> 00:41:31,530 ตั้งแต่วันแรก วันแรกจริงๆ เลยนะ 682 00:41:31,530 --> 00:41:32,948 (อลัน แจ็คสัน กล่าวเปิดการไต่สวน) 683 00:41:32,948 --> 00:41:35,534 ไมเคิล กู๊ดวินมีเจตนาร้าย 684 00:41:35,534 --> 00:41:38,871 ผมไม่รู้ว่ามีคดีอื่นอีกไหม ในประวัติศาสตร์แคลิฟอร์เนีย 685 00:41:38,871 --> 00:41:42,833 ที่มือปืนตัวจริงไม่เคยถูกระบุตัว 686 00:41:43,959 --> 00:41:46,504 ไม่มีข้อสรุปอื่นที่มีเหตุผล 687 00:41:46,504 --> 00:41:49,465 นอกจากไมค์ กู๊ดวินจ้างสองคนนั้น 688 00:41:49,465 --> 00:41:52,176 เราได้แต่กลับมาที่แนวคิดเดิม 689 00:41:52,176 --> 00:41:57,139 ว่าผมไม่ต้องพิสูจน์ว่าไมค์ กู๊ดวินทํา 690 00:41:57,139 --> 00:41:58,807 เพราะผมพิสูจน์ได้ 691 00:41:58,807 --> 00:42:01,644 ว่าคนบนโลกอีกเจ็ดพันล้านคนไม่ได้ทํา 692 00:42:01,644 --> 00:42:03,562 ไม่มีใครอื่นอยากให้มิกกี้ ทอมป์สันตาย 693 00:42:03,562 --> 00:42:07,691 ในคดีนี้ แรงจูงใจมีความสําคัญมาก 694 00:42:08,692 --> 00:42:13,572 ไมค์ กู๊ดวินอยากฆ่าคน โกรธ อ้างกับทุกคนที่ยอมฟังว่า 695 00:42:13,572 --> 00:42:17,159 "ผมให้มิกกี้ ทอมป์สันตาย ดีกว่ายอมจ่ายเงินผมให้เขาสักแดง" 696 00:42:17,159 --> 00:42:20,829 {\an8}มือปืนฆ่ามิกกี้กับทรูดี้ ทอมป์สันไม่เคยถูกระบุตัว 697 00:42:20,829 --> 00:42:24,166 {\an8}ไม่เคยถูกระบุชื่อ ไม่เคยถูกจับ 698 00:42:24,750 --> 00:42:29,463 รูปคดีของจําเลยสรุปได้ง่ายที่สุดว่า 699 00:42:29,964 --> 00:42:34,051 ไมค์ กู๊ดวินไปฟิตเนสตอนที่สองคนนั้นถูกฆ่า 700 00:42:34,051 --> 00:42:37,471 เขาไม่เกี่ยวข้องด้วย มีคําถามที่ตอบไม่ได้มากเกินไป 701 00:42:38,973 --> 00:42:44,061 มีพยานหลายคน ที่เราเรียกมาให้การเรื่องการข่มขู่ 702 00:42:44,061 --> 00:42:48,148 เกี่ยวกับเรื่องก่อนเกิดเหตุระหว่างมิกกี้กับกู๊ดวิน 703 00:42:49,024 --> 00:42:54,405 ผมขึ้นให้การว่าได้ฟังคําขู่ แล้วผมก็จําเสียงกู๊ดวินได้ 704 00:42:54,405 --> 00:42:58,409 เขาดูทะนงตัวเหมือนมั่นใจว่าจะเอาผิดเขาไม่ได้ 705 00:42:58,409 --> 00:43:01,996 แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ไม่สบตาผมเลย 706 00:43:02,997 --> 00:43:07,751 นั่นคือการยอมรับชัดๆ สําหรับผม ว่าเขารู้ถึงความเจ็บปวดที่ตัวเองก่อไว้ 707 00:43:09,670 --> 00:43:12,798 (ศาลสูงสุดลอสแอนเจลิส) 708 00:43:15,509 --> 00:43:22,182 ตอนกล่าวปิดคดี เรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าหดหู่มากๆ 709 00:43:22,182 --> 00:43:25,060 น่าเศร้า แต่ก็ยังสําคัญ 710 00:43:25,060 --> 00:43:30,107 คือช่วงลมหายใจสุดท้ายของมิกกี้ 711 00:43:30,107 --> 00:43:33,569 ภาพสุดท้ายที่มิกกี้ ทอมป์สันได้เห็นบนโลกนี้ 712 00:43:33,569 --> 00:43:36,447 คือภาพภรรยาถูกฆ่าตาย 713 00:43:37,072 --> 00:43:38,907 ทําไมมันถึงสําคัญนัก 714 00:43:38,907 --> 00:43:43,704 เพราะมันไม่มีคนอื่นในโลกอีกแล้ว 715 00:43:43,704 --> 00:43:46,790 ที่อยากให้มิกกี้ ทอมป์สันทรมานแบบนั้น 716 00:43:46,790 --> 00:43:48,417 มีผู้ชายคนเดียว 717 00:43:49,793 --> 00:43:51,128 นั่นคือไมค์ กู๊ดวิน 718 00:43:52,463 --> 00:43:56,258 ตอนอลัน แจ็คสันขึ้นกล่าวปิด ผมคล้อยตามไปเลย 719 00:43:56,884 --> 00:43:58,927 ผมแบบ "นั่นแหละ" 720 00:43:58,927 --> 00:44:00,804 นี่แหละ เขาโน้มน้าวผมได้แล้ว 721 00:44:00,804 --> 00:44:03,390 เขาโน้มน้าวอีก 12 คนได้หรือเปล่า 722 00:44:03,390 --> 00:44:09,146 (วันที่ 4 มกราคม ปี 2007 สองเดือนหลังเริ่มการไต่สวน) 723 00:44:11,649 --> 00:44:17,780 คณะลูกขุนพิจารณาอยู่ ประมาณหกวัน เป็นการรอที่โหดร้ายมาก 724 00:44:17,780 --> 00:44:20,282 เราอยู่ในห้วงกึ่งกลาง 725 00:44:20,282 --> 00:44:23,827 ที่ไม่รู้ว่าลูกขุนจะคิดยังไงกับสิ่งที่เรานําเสนอไป 726 00:44:25,120 --> 00:44:28,040 ตอนลูกขุนส่งสัญญาณว่าบรรลุคําตัดสินแล้ว 727 00:44:28,040 --> 00:44:33,420 มันเป็นวินาทีที่สะเทือนใจมากๆ ผมคิดว่า "โอเค เอาล่ะ" 728 00:44:34,421 --> 00:44:36,882 เราคณะลูกขุนที่ทําหน้าที่ในคดีนี้ 729 00:44:36,882 --> 00:44:39,343 พบว่าจําเลยไมเคิล กู๊ดวินมีความผิด 730 00:44:42,721 --> 00:44:45,349 ตอนลูกขุนกลับมาพร้อมคําตัดสิน คอลลีนก็บีบมือผม 731 00:44:45,349 --> 00:44:46,558 มันแบบว่า... 732 00:44:47,976 --> 00:44:50,479 "ความยุติธรรมมีจริง" 733 00:44:52,815 --> 00:44:55,818 ไมค์ กู๊ดวินถูกตัดสินว่าผิดทุกข้อหา 734 00:44:56,610 --> 00:44:58,862 ฆาตกรรมสองกระทง พฤติการณ์พิเศษ 735 00:44:58,862 --> 00:45:03,659 เขาถูกตัดสินโทษจําคุกตลอดชีวิต สองกระทงโดยไม่มีสิทธิ์ปล่อยตัว 736 00:45:04,702 --> 00:45:10,541 ผมยืนขึ้น หันหลังไป คอลลีนกําลังสะอื้น 737 00:45:11,041 --> 00:45:14,128 ด้วยความสุขและโล่งใจ 738 00:45:14,128 --> 00:45:17,089 ฉันเอามาให้มิกกี้ 739 00:45:17,089 --> 00:45:18,674 เขาชนะการแข่งครั้งนี้ 740 00:45:21,009 --> 00:45:22,010 เป็นความรู้สึกที่ดีมาก 741 00:45:22,010 --> 00:45:24,972 มันไม่ทําให้พ่อผมกลับมา แต่ความยุติธรรมก็มีจริง 742 00:45:26,014 --> 00:45:32,020 ตอนได้ฟังคําตัดสิน ผมจําได้ว่าพูดออกมาว่า "ในที่สุด" 743 00:45:33,772 --> 00:45:36,775 ผมมอบส่วนหนึ่งของตัวตนให้กับคดีนี้ 744 00:45:37,568 --> 00:45:40,571 ผมรู้สึกดีใจมากๆ เป็นการส่วนตัว 745 00:45:40,571 --> 00:45:45,325 ที่รู้ว่าครอบครัวของมิกกี้กับทรูดี้ ทอมป์สัน 746 00:45:45,325 --> 00:45:49,163 คดีที่พวกเขาต่อสู้ อุทิศชีวิตให้ 747 00:45:49,163 --> 00:45:51,832 จากทุกส่วนที่ผมทุ่มให้กับคดีนี้ 748 00:45:51,832 --> 00:45:54,501 ผมได้อะไรจากพวกเขากลับมามากกว่านั้นเยอะ 749 00:45:54,501 --> 00:45:59,339 สัญญาของผมกับคอลลีนและแกรี่ แคมป์เบลล์ กับครอบครัวทอมป์สันก็คือ 750 00:45:59,339 --> 00:46:03,218 ผมจะทุ่มเทไม่ให้แพ้ใคร และทําเต็มที่ 751 00:46:03,886 --> 00:46:08,640 ผมจงใจไม่ใช้คํานี้ ผมคิดว่ามันเป็นคําที่แย่มาก 752 00:46:08,640 --> 00:46:10,851 นั่นคือคําที่ขึ้นต้นด้วย "ท." หมายถึงทําใจ 753 00:46:12,227 --> 00:46:15,439 ถ้าเราเสียคนที่เรารักสองคน ไปกับเหตุรุนแรงโหดร้าย 754 00:46:15,439 --> 00:46:16,732 เราไม่มีทางทําใจได้ 755 00:46:18,150 --> 00:46:21,236 ผมจําตอนบรรลุคําตัดสินได้ มันมีจุดสิ้นสุดอยู่ในนั้น 756 00:46:21,236 --> 00:46:23,030 ทั้งสําหรับผมและครอบครัว 757 00:46:23,614 --> 00:46:26,950 แต่ก็ยังมีเรื่องเล็กๆ ที่ค้างคาอยู่ในความคิดลึกๆ 758 00:46:26,950 --> 00:46:29,661 "แต่มันยังไม่คลี่คลาย ฆาตกรสองคนยังลอยนวล" 759 00:46:30,579 --> 00:46:34,291 เราเอาผิดได้หนึ่งในสามแล้ว แต่เราก็ยังอยากจับสองคนนี้ 760 00:46:35,292 --> 00:46:39,755 ตลอดการสืบสวนทั้งหมด เราไม่เคยได้เบาะแสชัดเจน 761 00:46:39,755 --> 00:46:41,799 ว่ามือปืนจริงๆ เป็นใคร 762 00:46:41,799 --> 00:46:43,675 นี่เป็นคดีที่ยังสืบสวนอยู่ 763 00:46:45,969 --> 00:46:50,891 มันวิเศษมากที่ได้รู้ว่าเอาผิดได้ 764 00:46:52,518 --> 00:46:53,852 แต่คดีฆาตกรรมนี้ 765 00:46:55,687 --> 00:46:56,939 ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม 766 00:46:57,815 --> 00:47:02,236 น้าทรูดี้ของผมยังอยู่ในความคิดลึกๆ 767 00:47:02,236 --> 00:47:05,280 มิกกี้ตัดสินใจว่าถึงเวลา ทําสิ่งที่เขาฝันมาตลอดชีวิต 768 00:47:05,280 --> 00:47:07,157 นั่นคือการสร้างความเร็วบนบกเป็นสถิติโลก 769 00:47:08,200 --> 00:47:11,411 สิ่งเดียวที่พ่อผมไม่ได้ทําจนสําเร็จ 770 00:47:11,411 --> 00:47:12,996 คือการทําความเร็วบนบกเป็นสถิติโลก 771 00:47:14,915 --> 00:47:18,210 เขาทําในแง่หนึ่ง แต่เขาไม่ได้สถิติอย่างเป็นทางการ 772 00:47:18,210 --> 00:47:23,632 ตอนที่เขาโทรหาผมเมื่อปี 1987 บอกว่า "พ่ออยากให้แกขับ" 773 00:47:23,632 --> 00:47:27,970 มันมีความหมายกับผมน่าจะยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด 774 00:47:27,970 --> 00:47:31,306 แล้วเราก็เริ่มคุยกันว่าจะทํายังไง อะไรต่างๆ 775 00:47:31,306 --> 00:47:35,018 แล้วพ่อผมก็ถูกฆ่า 776 00:47:35,727 --> 00:47:38,897 แล้วผมก็ปล่อยวางไป ผมทิ้งมันไว้ 22 ปี 777 00:47:38,897 --> 00:47:40,816 แล้วผมก็คิดว่า "รู้อะไรไหม 778 00:47:41,316 --> 00:47:43,277 ผมไม่อยากนั่งโซฟาตอนอายุ 80 779 00:47:44,528 --> 00:47:48,156 แล้วยังสงสัยว่ารถคันนั้น ขับ 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ไหม" 780 00:47:50,784 --> 00:47:52,786 เรายอมทิ้งทุกอย่างเพื่อทําสิ่งนั้น 781 00:47:52,786 --> 00:47:56,331 เราทิ้งทุกอย่างในชีวิตเพื่อทําสิ่งนั้น 782 00:47:56,331 --> 00:47:58,083 (วันที่ 12 สิงหาคม ปี 2018) 783 00:48:10,345 --> 00:48:12,097 แล้วมันก็เกิดขึ้น 784 00:48:12,848 --> 00:48:13,682 เก่งมาก 785 00:48:13,682 --> 00:48:15,434 รถขับได้ 127.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 786 00:48:17,311 --> 00:48:19,229 ผมถอดหมวกกันน็อกออก 787 00:48:19,229 --> 00:48:21,773 ผมยังยืนอยู่ในรถ ยังมองฟ้าอยู่เลย 788 00:48:25,027 --> 00:48:27,821 ผมทําภารกิจของพ่อเสร็จสิ้น 789 00:48:29,656 --> 00:48:31,074 และภารกิจผมเองด้วย 790 00:48:31,658 --> 00:48:32,618 (มิกกี้ ทอมป์สัน) 791 00:48:32,618 --> 00:48:34,953 {\an8}อาจจะเป็นวินาทีหนึ่งที่มีความหมายที่สุด 792 00:48:37,998 --> 00:48:38,999 ตลอดกาล 793 00:48:51,261 --> 00:48:52,763 (2013) 794 00:48:54,014 --> 00:48:55,515 {\an8}(ตอนต่อไป) 795 00:48:55,515 --> 00:48:59,978 {\an8}ถ้าตํารวจสืบสวนฆาตกรรม จะมีศัตรูสักอย่าง นั่นคือเวลา 796 00:48:59,978 --> 00:49:01,063 เวลาคือศัตรูของคุณ 797 00:49:03,815 --> 00:49:08,278 เทรีซา บรูโดรซ์ถูกพบศพเปลือยอยู่บนชายหาด 798 00:49:10,989 --> 00:49:14,117 ผ่านมา 33 ปีที่ไม่มีคําตอบ 799 00:49:14,117 --> 00:49:15,786 ภรรยาคุณชื่ออะไรนะคะ 800 00:49:15,786 --> 00:49:18,163 เทอร์รี่ ที อี อาร์ อาร์ ไอ 801 00:49:18,163 --> 00:49:19,957 คุณแต่งงานกันตามกฎหมายใช่ไหมคะ 802 00:49:19,957 --> 00:49:21,041 - ใช่ - โอเค 803 00:49:24,044 --> 00:49:25,337 ทุกคนคิดว่าผมทํา 804 00:49:26,755 --> 00:49:28,423 คิดว่าผมลอยนวล 805 00:49:29,007 --> 00:49:32,678 คดีฆาตกรรมไม่เคยปิดจนกว่าจะมีคนรับโทษ 806 00:49:32,678 --> 00:49:34,262 มีใครบางคนรู้อะไรบางอย่าง 807 00:50:15,971 --> 00:50:20,976 คําบรรยายโดย วรากรณ์ จันทา