1 00:00:07,632 --> 00:00:09,759 (กรมตํารวจเขตลอสแอนเจลิส) 2 00:00:09,759 --> 00:00:12,470 (คือกรมตํารวจระดับเขตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ) 3 00:00:12,470 --> 00:00:15,015 (ซึ่งดูแลเขตที่ประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศ) 4 00:00:15,015 --> 00:00:18,184 (พวกเขาสืบสวนคดีฆาตกรรม ที่โหดร้ายและซับซ้อนที่สุด) 5 00:00:18,184 --> 00:00:21,604 (นี่คือเรื่องราวของพวกเขา) 6 00:00:32,615 --> 00:00:35,243 (ปี 2012) 7 00:00:38,580 --> 00:00:42,625 (วันที่ 2 พฤษภาคม ปี 2012) 8 00:00:42,625 --> 00:00:43,543 (ฮิดเดนฮิลส์) 9 00:00:43,543 --> 00:00:48,840 ครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่า กาวินอาจจะหายตัวไปคือเมื่อวันพุธ 10 00:00:49,758 --> 00:00:52,302 ลิซ่า ภรรยาเขาโทรหาฉัน 11 00:00:52,927 --> 00:00:56,556 ถามว่ากาวิน พี่ชายฉันติดต่อมาบ้างไหม 12 00:00:56,556 --> 00:00:57,932 ฉันบอกว่า "ไม่เลย" 13 00:00:57,932 --> 00:00:59,434 แล้วก็ถามว่า "ทําไมเหรอ" 14 00:00:59,434 --> 00:01:04,147 เธออธิบายว่าเขาไม่ได้ไปรับลูกที่โรงเรียน 15 00:01:04,856 --> 00:01:07,400 สมิธเป็นที่รู้จักไปทั่วชุมชนคาลาบาซาส 16 00:01:07,400 --> 00:01:10,862 เขาชอบกอล์ฟและชายหาด บุคลิกของเขาเป็นคนโดดเด่น 17 00:01:10,862 --> 00:01:13,156 มีคนพบเห็นเขาออกจากบ้านเพื่อน เมื่อคืนวันอังคาร 18 00:01:13,156 --> 00:01:15,950 ในย่านโอ๊กพาร์กใกล้อาโกราฮิลส์ 19 00:01:15,950 --> 00:01:17,410 (ฟ็อกซ์สตูดิโอส์) 20 00:01:17,410 --> 00:01:22,290 กาวิน สมิธเป็นผู้บริหารฟ็อกซ์ เขาเป็นจุดสนใจอย่างมาก 21 00:01:23,333 --> 00:01:27,629 สิ่งที่เราต้องทําคือหาคําตอบว่า "มีสาเหตุอะไรที่เขาหายตัวไปหรือไม่" 22 00:01:27,629 --> 00:01:29,923 มันเป็นปริศนา 23 00:01:31,299 --> 00:01:34,177 ฉันพยายามติดต่อเขา 24 00:01:34,177 --> 00:01:37,097 ฉันฝากข้อความขอเขา 25 00:01:37,097 --> 00:01:40,183 ให้โทรกลับ ส่งข้อความมาบอกว่าปลอดภัยดี 26 00:01:40,183 --> 00:01:44,938 ผู้บริหารทเวนตีท์เซนจูรีฟ็อกซ์ หายตัวไปหลังจากขับรถเบนซ์สีดําออกไป 27 00:01:46,981 --> 00:01:48,483 ไม่มีใครได้ข่าวเขาเลย 28 00:01:49,943 --> 00:01:51,945 เขาไม่ได้โทรหาใคร หรือส่งข้อความอะไรเลย 29 00:01:52,529 --> 00:01:56,032 สถานการณ์มันน่าสงสัย ผู้ใหญ่หายตัวไป 30 00:01:56,032 --> 00:01:58,409 เราต้องมองความเป็นไปได้ทุกอย่าง 31 00:01:59,244 --> 00:02:02,413 ฉันไม่มีทางคิดฝันเลยว่า 32 00:02:02,413 --> 00:02:05,375 เรื่องอะไรแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ 33 00:02:09,921 --> 00:02:14,509 กรมตํารวจเขตลอสแอนเจลิสคือที่สุดของยอดฝีมือ 34 00:02:18,555 --> 00:02:21,724 คดีใหญ่ที่สุดบางส่วนไต่สวนในลอสแอนเจลิส 35 00:02:24,602 --> 00:02:27,772 เราต้องทุ่มเท 110 เปอร์เซ็นต์ 36 00:02:30,608 --> 00:02:33,528 นี่คือฆาตกรรม ไม่มีอาชญากรรมไหนร้ายแรงไปกว่านี้ 37 00:02:35,613 --> 00:02:40,535 มันอยู่ที่ความมุ่งมั่นกับความสํานึกในหน้าที่ 38 00:02:42,871 --> 00:02:45,165 ความยุติธรรมเกิดขึ้นจากการตามหาความจริง 39 00:02:45,957 --> 00:02:49,878 (Homicide: เจาะลึกคดีฆาตกรรม ลอสแอนเจลิส) 40 00:02:57,844 --> 00:03:02,015 เดือนพฤษภาคม ปี 2012 ผมเพิ่งจบงานมอบหมายพิเศษ 41 00:03:02,015 --> 00:03:04,184 จากหน่วยเฉพาะกิจที่ผมอยู่ 42 00:03:04,184 --> 00:03:07,520 แล้วผมก็ถูกย้ายกลับมาที่แผนก 43 00:03:08,104 --> 00:03:09,230 {\an8}(แผนก - ห้องโล่งกว้าง) 44 00:03:09,230 --> 00:03:12,609 {\an8}ในคดีของกาวิน สมิธ 45 00:03:12,609 --> 00:03:14,861 {\an8}เขาหายตัวไปประมาณสัปดาห์แล้ว 46 00:03:14,861 --> 00:03:18,823 คดีนี้เริ่มมาจากหน่วยคนหาย 47 00:03:20,033 --> 00:03:22,327 พอสืบเจาะลึกลงไปอีกนิด 48 00:03:22,327 --> 00:03:25,997 ตํารวจสืบสวนก็ส่งมาให้หัวหน้าเรา 49 00:03:25,997 --> 00:03:27,665 แล้วผมก็ถูกเรียก 50 00:03:27,665 --> 00:03:31,336 ให้ไปสืบคดีในฐานะ คดีคนหาย "ด้วยเหตุน่าสงสัย" 51 00:03:36,216 --> 00:03:39,510 คดีคนหายทุกคดีต้องผ่านหน่วยสืบคดีคนหาย 52 00:03:40,929 --> 00:03:42,764 เวลาเจอคดีแบบนี้ 53 00:03:42,764 --> 00:03:45,808 เราต้องหวังผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ว่าเราจะเจอคนหายเป็นๆ 54 00:03:46,601 --> 00:03:49,312 คุณเป็นผู้ใหญ่ จะไปที่ไหนก็ได้ 55 00:03:49,312 --> 00:03:52,232 คุณไม่จําเป็นต้องรายงานให้ใครรู้ 56 00:03:52,232 --> 00:03:54,651 เว้นแต่ว่าคุณจะโดนคุมประพฤติ ใช่ไหมล่ะ 57 00:03:54,651 --> 00:03:59,322 ถ้าคุณหายตัวไป คําถามสําคัญก็คือ "ทําไมคนคนนี้ถึงหายตัวไป" 58 00:03:59,948 --> 00:04:03,910 และสิ่งที่ผลักคดีมาหาทีมสืบสวนฆาตกรรม 59 00:04:03,910 --> 00:04:05,787 คือมีการสงสัยว่าเกิดคดีร้ายแรง 60 00:04:07,288 --> 00:04:09,040 (วันที่ 2 พฤษภาคม ปี 2012) 61 00:04:09,040 --> 00:04:10,833 (วันที่ 9 พฤษภาคม ปี 2012) 62 00:04:10,833 --> 00:04:13,962 {\an8}เราต้องการความช่วยเหลือจากสาธารณชน 63 00:04:13,962 --> 00:04:17,715 {\an8}ให้ส่งข้อมูลที่ยืนยันได้ที่จะช่วยให้พบที่อยู่ 64 00:04:17,715 --> 00:04:20,426 ของพ่อของเด็กๆ และสามีฉัน กาวิน สมิธ 65 00:04:21,511 --> 00:04:25,014 พบกับคู่หู จอห์น โอไบรอันได้รับมอบหมายคดี 66 00:04:25,014 --> 00:04:28,810 เราคุยรายละเอียดกับสายสืบคดีคนหายที่ทําคดีนี้ 67 00:04:28,810 --> 00:04:32,105 แล้วเราก็ขับรถออกไปหาภรรยากาวิน สมิธ 68 00:04:33,398 --> 00:04:39,153 เราได้เจอเธอในชุมชนส่วนตัว มีรั้วกั้น ที่หุบเขาซานเฟอร์นานโด 69 00:04:39,821 --> 00:04:42,657 หุบเขาซานเฟอร์นานโด กว้างอย่างน้อย 518 ตารางกิโลเมตร 70 00:04:42,657 --> 00:04:45,994 ซึ่งอยู่ทางเหนือของเมืองลอสแอนเจลิส 71 00:04:45,994 --> 00:04:49,664 {\an8}ทางตะวันตกของซานเฟอร์นานโด ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย 72 00:04:49,664 --> 00:04:54,502 เป็นชุมชนบ้านพักเล็กๆ ของชนชั้นกลางระดับบนที่อเมริกาได้รู้จัก 73 00:04:54,502 --> 00:04:57,463 แค่เพราะยัยพวกคาร์ดาเชียนอยู่ที่คาลาบาซาส 74 00:04:59,424 --> 00:05:03,136 ตอนเราคุยกับลิซ่าครั้งแรก เห็นชัดเลยว่าเธอแตกตื่น 75 00:05:03,136 --> 00:05:04,804 เหมือนที่ทุกคนคงแตกตื่น 76 00:05:04,804 --> 00:05:06,597 เราพยายามทําให้เธอใจเย็น 77 00:05:06,597 --> 00:05:10,560 บอกเธอว่าเราไปเพื่อช่วยเธอ เพื่อตามหาสามีเธอ 78 00:05:10,560 --> 00:05:13,146 นี่คือครอบครัวที่กําลังเจอวิกฤต ลูกชายเธอก็อยู่ด้วย 79 00:05:13,146 --> 00:05:16,357 ทาร่า น้องสาวของกาวินก็อยู่ด้วย 80 00:05:16,357 --> 00:05:19,902 แต่ทุกคนก็ให้ความร่วมมือดีมาก ให้ข้อมูลเรามาเยอะมาก 81 00:05:21,654 --> 00:05:24,449 เราได้รู้ว่าเขาเป็นนักกีฬาชั้นยอด 82 00:05:25,033 --> 00:05:27,035 บาสเกตบอลคือชีวิตของเขา 83 00:05:27,035 --> 00:05:30,455 เขาเคยเป็นออลอเมริกัน เคยเล่นให้ทีมยูซีแอลเอ 84 00:05:30,455 --> 00:05:31,622 (ชิงแชมป์เอ็นซีเอเอ 1975) 85 00:05:31,622 --> 00:05:34,625 เขาเป็นคนที่โดดเด่นมากๆ 86 00:05:35,251 --> 00:05:37,337 แต่ไม่ใช่แค่เพราะส่วนสูง 87 00:05:37,337 --> 00:05:40,882 เขาเป็นผู้ชายที่หล่อมากๆ 88 00:05:41,507 --> 00:05:45,261 เขามีรอยยิ้มที่น่าหลงใหลมากๆ 89 00:05:46,512 --> 00:05:48,389 เราอยู่ที่ซานเปโดร 90 00:05:48,389 --> 00:05:51,976 บ้านอยู่ห่างจากร้านพอร์ตส์อะคอล ประมาณห้าถึงสิบนาที 91 00:05:51,976 --> 00:05:56,356 ตอนนั้นกาวินทํางานที่ร้านนั้น แล้วลิซ่าก็เข้ามา 92 00:05:56,356 --> 00:05:58,066 เธอมานั่งที่บาร์ 93 00:05:58,066 --> 00:06:03,780 กาวินเป็นบาร์เทนเดอร์ พวกเขาคุยกันถูกคอ แล้วมันก็ไปได้สวยมากๆ 94 00:06:03,780 --> 00:06:07,408 ทั้งคู่มีลูกคนแรกด้วยกันภายในสองสามปีแรก 95 00:06:07,408 --> 00:06:08,910 พวกเขารักกันมากๆ 96 00:06:10,078 --> 00:06:12,163 เขาได้แสดงหนังสองสามเรื่อง 97 00:06:12,163 --> 00:06:14,457 เขาได้แสดงเรื่อง "กลิตซ์" 98 00:06:16,209 --> 00:06:17,710 บอกเหตุผลมาสักข้อ 99 00:06:17,710 --> 00:06:22,382 แล้วเขาก็เป็นตัวแสดงแทนด้วย แล้วเขาก็หลังหัก 100 00:06:23,508 --> 00:06:25,218 มันน่าสะเทือนใจจริงๆ 101 00:06:25,218 --> 00:06:29,597 แต่นั่นคือจุดเปลี่ยนของเขา เพราะเขาทํางานไม่ได้อยู่นานมาก 102 00:06:31,599 --> 00:06:35,103 ฉันว่าเขาคงคิดได้ว่างานนี้คงไม่เหมาะกับเขา 103 00:06:35,103 --> 00:06:39,649 แล้วสุดท้ายเขาก็ได้งาน ที่ทเวนตีท์เซนจูรีฟ็อกซ์ 104 00:06:40,650 --> 00:06:45,947 เขารับผิดชอบการจัดฉายหนังในแถบเวสต์โคสต์ 105 00:06:45,947 --> 00:06:49,367 เขาชอบที่ได้อยู่ในวงการหนัง 106 00:06:52,078 --> 00:06:55,289 {\an8}ลิซ่าบอกเราว่ากาวินไม่ได้ไปทํางาน 107 00:06:55,289 --> 00:06:57,250 แล้วก็ไม่ได้คุยกับใครเลย 108 00:06:57,250 --> 00:06:59,794 มันก็เลยผิดปกติมากๆ 109 00:06:59,794 --> 00:07:04,215 แล้วเขาก็ไม่ได้ไปรับลูกชายที่โรงเรียน 110 00:07:04,215 --> 00:07:05,633 นั่นคือสัญญาณอันตรายร้ายแรง 111 00:07:05,633 --> 00:07:09,053 เพราะตลอดหลายปีที่เธอรู้จักเขา เขาไม่เคยหายตัวไปเลย 112 00:07:10,471 --> 00:07:11,973 มันผิดปกติมากๆ 113 00:07:11,973 --> 00:07:15,726 ที่คนอย่างเขาจะไม่ไปทํางาน 114 00:07:15,726 --> 00:07:20,148 หรือไม่ไปรับลูก หรือหายตัวไปเฉยๆ 115 00:07:21,732 --> 00:07:25,820 ลิซ่าเล่าเรื่องความสัมพันธ์นอกสมรสให้เราฟัง 116 00:07:26,529 --> 00:07:28,531 แล้วเขาก็ห่างเหินไป 117 00:07:28,531 --> 00:07:31,284 ตอนนี้เขาย้ายไปอยู่นอกบ้าน 118 00:07:31,284 --> 00:07:33,411 เขาเคยนอกใจเธอแล้ว เธอจับได้ 119 00:07:33,411 --> 00:07:35,455 เขาสัญญาว่าจะหยุด 120 00:07:36,247 --> 00:07:40,751 ลิซ่าจับได้ว่าเขานอกใจอีก หนึ่งปีต่อมา กับผู้หญิงชื่อเมลานี่ 121 00:07:41,419 --> 00:07:44,630 พอเธอรู้เข้า เธอก็ไล่เขาออกจากบ้าน 122 00:07:44,630 --> 00:07:45,798 (ปี 2012) 123 00:07:45,798 --> 00:07:49,802 เขาไปอาศัยเพื่อนร่วมงาน ไปนอนห้องนอนแขกบ้านเธอ 124 00:07:49,802 --> 00:07:53,389 เธอบอกว่าเธอได้เจอเขาตอนมีชีวิต 125 00:07:53,389 --> 00:07:55,725 ประมาณสี่ทุ่มวันที่ 1 พฤษภาคม 126 00:07:55,725 --> 00:07:57,226 (วันที่ 1 พฤษภาคม) 127 00:07:57,226 --> 00:08:00,563 เขากําลังตากผ้า แล้วเขาก็... 128 00:08:00,563 --> 00:08:02,106 เขาออกจากบ้านไป 129 00:08:03,858 --> 00:08:08,404 คืนก่อนที่กาวินจะหายตัวไป ฉันได้คุยกับเขา 130 00:08:08,988 --> 00:08:13,826 ฉันสัมผัสได้ว่าตอนนั้นเขาใจเสียมากๆ 131 00:08:13,826 --> 00:08:18,706 ชีวิตเขากําลังวุ่นวายเพราะการตัดสินใจของเขา 132 00:08:18,706 --> 00:08:21,876 เขาคุยกับฉันเรื่องความสัมพันธ์กับเมลานี่ 133 00:08:22,543 --> 00:08:25,463 จากที่ฉันเข้าใจ เขาเลิกกับเธอก่อนหน้านั้น 134 00:08:25,463 --> 00:08:32,220 เขารู้ว่ายังไงเขาก็ต้องกลับไปหาครอบครัว 135 00:08:32,220 --> 00:08:37,016 กลับไปหาความสัมพันธ์เดิม กลับไปเป็นพ่อ 136 00:08:37,016 --> 00:08:38,976 ที่เขาอยากทําจริงๆ ก็มีแค่นั้น 137 00:08:41,979 --> 00:08:42,980 ขอโทษค่ะ 138 00:08:47,944 --> 00:08:49,737 ฉันจําได้ว่าเขา... 139 00:08:50,863 --> 00:08:53,282 เขารักลูกๆ เขามาก 140 00:08:54,909 --> 00:08:57,203 แล้วก็รักลูกสาวเรามากๆ ด้วย 141 00:08:57,203 --> 00:08:59,038 เหมือนเป็นลูกตัวเอง 142 00:09:00,623 --> 00:09:04,043 นี่คือหนึ่งในเรื่องที่ฉันรู้ 143 00:09:04,835 --> 00:09:07,255 ในฐานะพ่อ เขาทําหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว 144 00:09:11,676 --> 00:09:13,678 มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นในคดีนี้ 145 00:09:13,678 --> 00:09:17,598 เขาหนีตามผู้หญิงหรือใครสักคนไปหรือเปล่า 146 00:09:17,598 --> 00:09:19,934 เขาหนีไปสงบสติอารมณ์หรือเปล่า 147 00:09:19,934 --> 00:09:22,562 เขาฆ่าตัวตายหรือเปล่า 148 00:09:22,562 --> 00:09:25,940 ลิซ่าโกรธ เขานอกใจเธอสองครั้ง 149 00:09:26,566 --> 00:09:28,109 เธอจัดฉากหรือเปล่า 150 00:09:28,109 --> 00:09:32,029 "ช่างหัวไอ้หมอนี่ ฉันจะจ้างคนลักพาตัวเขา" 151 00:09:32,029 --> 00:09:35,199 หรือแบบว่า "ฉันวางยาเขาเอง" ไม่รู้สิ มันเป็นไปได้ทุกอย่าง 152 00:09:35,199 --> 00:09:39,036 มันมีหลายอย่างมาก มีเบาะแสที่ต้องตามที่เราต้องขยายความ 153 00:09:39,036 --> 00:09:40,871 เพื่อตัดคนที่ไม่ใช่ออกไป 154 00:09:40,871 --> 00:09:43,040 (ตํารวจ ที่จอดรถสาธารณะ) 155 00:09:43,040 --> 00:09:45,376 เราสืบตามเบาะแส 156 00:09:45,960 --> 00:09:48,754 กับข้อมูลทุกอย่างที่รวบรวมมาได้ 157 00:09:48,754 --> 00:09:52,800 เกี่ยวกับคนที่เขาได้เจอ ที่เขาเคยรู้จักในอดีต 158 00:09:55,261 --> 00:09:58,222 ตอนเราคุยกับลิซ่าครั้งแรก เธอบอกว่า 159 00:09:58,222 --> 00:10:01,309 "สามีฉันกิ๊กกับผู้หญิงชื่อเมลานี่ 160 00:10:01,309 --> 00:10:03,769 คุณอาจจะควรไปคุยกับเธอนะ" 161 00:10:05,104 --> 00:10:06,105 เราก็เลยไปคุย 162 00:10:09,233 --> 00:10:13,988 เธอลงมาหาในชุดนอนสีขาวประดับเลื่อม 163 00:10:13,988 --> 00:10:16,449 ที่บางจนแทบจะเห็นหมด 164 00:10:16,449 --> 00:10:23,122 เรานั่งตรงข้ามผู้หญิงคนนี้ ที่เซ็กซี่และเย้ายวนมากๆ 165 00:10:23,122 --> 00:10:26,709 เราพยายามเป็นมืออาชีพ ถามเรื่องคดี 166 00:10:26,709 --> 00:10:31,088 เราต้องคิดไว้ว่า "นี่ก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตตํารวจ" 167 00:10:31,088 --> 00:10:35,384 เรามองคู่หูแล้วบอกว่า "ให้ตายสิ อย่ามาโดนตัวฉันตอนนี้ 168 00:10:35,384 --> 00:10:39,513 ฉันต้องกลับบ้านไปหาเมีย นี่มันบ้าชัดๆ เลย" 169 00:10:45,519 --> 00:10:47,855 เมลานี่เปิดเผยกับตํารวจมากๆ 170 00:10:47,855 --> 00:10:50,900 เธอบอกว่า "ใช่ เราคบหากัน" 171 00:10:50,900 --> 00:10:54,654 กาวินอยู่ในสภาพที่อ่อนไหว 172 00:10:55,655 --> 00:11:01,160 แต่เธอก็ไม่อยากสร้างปัญหา ให้ชีวิตแต่งงานของเขามากไปกว่านั้น 173 00:11:01,827 --> 00:11:04,914 เธอบอกเขาว่า "ฉันพอแล้ว ฉันไม่อยากเจอดราม่าเรื่องนี้" 174 00:11:06,457 --> 00:11:11,337 หลังจากคุยกับเมลานี่ครั้งแรก ผมไม่รู้สึกว่าเธอปิดบังอะไรเลย 175 00:11:11,837 --> 00:11:14,757 แต่เราก็ตัดเธอออกไม่ได้ ในแง่อาจจะมีส่วนรู้เห็น 176 00:11:14,757 --> 00:11:17,093 ยังมีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่องที่ต้องทํา 177 00:11:19,303 --> 00:11:22,056 ภาพของกาวิน สมิธและรถของเขา ถูกนําไปติดประกาศ 178 00:11:23,766 --> 00:11:27,561 ลิซ่า ภรรยา และออสติน ลูกชาย เป็นผู้นําอาสาติดประกาศในพื้นที่ซิลมาร์ 179 00:11:27,561 --> 00:11:29,563 {\an8}เขามีครอบครัวรออยู่ 180 00:11:29,563 --> 00:11:32,733 {\an8}เรารักเขาทั้งหัวใจ มันก็ลําบาก แต่... 181 00:11:33,734 --> 00:11:36,320 ผมอยากคิดถึงช่วงเวลาดีๆ ที่เรามีกัน 182 00:11:36,320 --> 00:11:39,448 ถ้าเราเจอเขา ผมอาจจะได้มีช่วงเวลาแบบนั้นอีกเยอะๆ 183 00:11:40,741 --> 00:11:44,412 ลิซ่าพยายามเต็มที่เพื่อหาข้อมูล 184 00:11:45,371 --> 00:11:48,999 ฉันรู้ว่าพวกเขาต้องการคนช่วย 185 00:11:48,999 --> 00:11:52,837 ฉันก็ไปที่นั่น แล้วฉันก็ไปตลอด 186 00:11:52,837 --> 00:11:56,674 ไปค้นหา ไปสอบถามคน 187 00:11:56,674 --> 00:12:00,302 ฉันทําทุกอย่างที่ทําได้ เพื่อพยายามสืบว่าเขาอยู่ที่ไหน 188 00:12:00,302 --> 00:12:01,637 {\an8}เขาหายตัวไป 189 00:12:01,637 --> 00:12:04,724 ลองบอร์ดอันนี้ไม่ใช่ของเขานะคะ 190 00:12:04,724 --> 00:12:07,768 {\an8}ลิซ่า สมิธมั่นใจว่า ใครบางคนต้องรู้อะไรบางอย่าง 191 00:12:08,561 --> 00:12:13,899 (วันที่ 10 พฤษภาคม ปี 2012 กาวินหายตัวไปแปดวันแล้ว) 192 00:12:13,899 --> 00:12:16,902 {\an8}โทรศัพท์ของกาวิน สมิธเป็นตัวต่อชิ้นสําคัญ 193 00:12:16,902 --> 00:12:19,613 {\an8}เพราะเราจะได้เริ่มเห็นภาพ 194 00:12:19,613 --> 00:12:21,490 โทรศัพท์ของเขาดับไปเมื่อไหร่ 195 00:12:21,490 --> 00:12:24,785 ช่วงเวลาไหนที่เขาถูกพบเห็นครั้งสุดท้าย 196 00:12:24,785 --> 00:12:27,163 ก่อนที่เขาจะหายตัวไป 197 00:12:28,873 --> 00:12:32,960 งานโทรศัพท์บางส่วน หน่วยสืบคดีคนหายทํามาให้แล้ว 198 00:12:32,960 --> 00:12:37,548 เราแค่ย้อนกลับไปดู แล้วก็ขอหมายค้นที่ละเอียดกว่าเดิม 199 00:12:37,548 --> 00:12:40,885 เราดูข้อมูลโทรศัพท์ของกาวินแล้วก็พบว่า 200 00:12:40,885 --> 00:12:45,139 "โอเค คืนที่โทรศัพท์เขาดับไป 201 00:12:45,139 --> 00:12:48,809 เขาโทรหาลิซ่า ลูกชายสามคน ทาร่า 202 00:12:48,809 --> 00:12:51,687 กับผู้หญิงชื่อแชนดริกา ครีช" 203 00:12:53,147 --> 00:12:58,360 จากประวัติโทรศัพท์ เรารู้ว่าเธอเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับเขา 204 00:12:58,360 --> 00:13:01,989 ที่เราต้องหาคําตอบตอนนี้ก็คือ "ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร" 205 00:13:08,162 --> 00:13:13,793 ลิซ่า สมิธบอกเราว่ากาวินได้พบแชนดริกา 206 00:13:13,793 --> 00:13:18,422 ที่สถานบําบัดยาชื่อเดอะเมทริกซ์ 207 00:13:18,964 --> 00:13:22,051 (วันที่ 2 พฤษภาคม ปี 2012 แจ้งความกาวิน สมิธหายตัวไป) 208 00:13:22,051 --> 00:13:24,845 (ปี 2008 กาวินได้พบแชนดริกา) 209 00:13:24,845 --> 00:13:29,433 เพราะอาการปวดรุนแรงของกาวินจากหลังหัก 210 00:13:29,433 --> 00:13:34,563 มันน่าเศร้าที่ยาตัวเดียว ที่ทําให้เขาสบายขึ้นได้คือยาจากฝิ่น 211 00:13:35,231 --> 00:13:39,276 นั่นคือยาที่ทําให้เขาเกิดการเสพติด 212 00:13:40,069 --> 00:13:44,824 จนกระทั่งเขาบอกฉันว่าเขาไปบําบัด 213 00:13:47,243 --> 00:13:48,327 ตอนเขาไปบําบัด 214 00:13:48,327 --> 00:13:53,290 แชนดริกาก็เข้าไปจัดระเบียบชีวิตและเลิกยา 215 00:13:54,834 --> 00:14:00,381 ตอนแรก แชนดริกาอยู่ในกลุ่มบําบัดเดียวกับกาวิน 216 00:14:00,381 --> 00:14:03,843 แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปไกลกว่านั้น 217 00:14:03,843 --> 00:14:08,722 กาวินมีความสัมพันธ์ที่ร้อนแรงกับแชนดริกา 218 00:14:09,849 --> 00:14:13,727 ลิซ่าไปเผชิญหน้ากับกาวิน แล้วเขาก็สารภาพ 219 00:14:14,687 --> 00:14:18,774 เขาคบหากับแชนดริกาอยู่ประมาณหนึ่งปี 220 00:14:18,774 --> 00:14:21,443 สามีเธอ จอห์น ครีชก็รู้เรื่อง 221 00:14:21,443 --> 00:14:25,322 เพราะการที่ลิซ่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว 222 00:14:25,322 --> 00:14:29,410 ลิซ่าเลยรู้สึกว่าความสัมพันธ์ครั้งนั้นจบไปแล้ว 223 00:14:29,410 --> 00:14:34,373 (ปี 2008 กาวินได้พบแชนดริกา ปี 2010 กาวินจบความสัมพันธ์กับแชนดริกา) 224 00:14:34,373 --> 00:14:36,375 (วันที่ 2 พฤษภาคม ปี 2012) 225 00:14:36,375 --> 00:14:40,254 เราเจอคนหาย เขาเป็นชู้กับแชนดริกา 226 00:14:40,254 --> 00:14:42,381 มันเลยทําให้เธอเข้าข่ายผู้ต้องสงสัย 227 00:14:44,008 --> 00:14:48,387 เราไปสอบปากคําเธอ เราเจอเธอที่บ้าน 228 00:14:51,307 --> 00:14:56,896 ตอนสอบปากคําแชนดริกา เธอกําลังสติแตก 229 00:14:56,896 --> 00:15:02,568 เธอกลัว วิตกกังวล เลี่ยงคําถาม 230 00:15:03,444 --> 00:15:04,945 เธอไม่มีสติเลย 231 00:15:05,821 --> 00:15:07,239 เธอบอกว่าเธอได้คุยกับเขา 232 00:15:08,032 --> 00:15:12,286 เธอไม่รู้ว่าเขาไปไหน แต่ดูออกเลยว่าเธอเป็นห่วงกาวิน 233 00:15:13,537 --> 00:15:16,415 เธอยืนกรานว่าเธอไม่รู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกาวิน สมิธ 234 00:15:16,415 --> 00:15:20,002 หลังจากติดต่อกันเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ปี 2012 235 00:15:22,463 --> 00:15:26,300 ระหว่างสอบปากคํา ก็มีรถสปอร์ตสีดํามาจอดริมถนน 236 00:15:27,051 --> 00:15:29,595 จอดอยู่แป๊บเดียว แล้วก็ถอยออกไป 237 00:15:30,220 --> 00:15:32,932 ตอนคุยกับแชนดริกาครั้งนั้น 238 00:15:32,932 --> 00:15:36,143 เธอยอมรับว่านั่นคือจอห์น สามีเธอเอง 239 00:15:37,603 --> 00:15:41,273 แน่นอนว่าเขาเป็นคนที่สายสืบอยากสอบปากคํา 240 00:15:41,273 --> 00:15:45,361 แต่ทําไม่ได้ เพราะเขาขับออกไป มันทําให้คู่นี้น่าสงสัยขึ้นมาทันที 241 00:15:46,654 --> 00:15:49,281 ต่อมา เราได้รู้ว่าเขาเป็นอดีตนักโทษ 242 00:15:49,281 --> 00:15:54,244 ตอนนี้เขาออกมานอกคุก เขาอยู่ในระบบปล่อยตัวกับกรมตํารวจเกลนเดล 243 00:15:54,244 --> 00:15:57,748 เขาไปยุ่งเกี่ยวกับการซื้อขายยาเสพติด 244 00:15:58,582 --> 00:16:02,169 ครับ เรารู้ได้ทันทีว่าเราควรสืบว่าเขาอยู่ไหน 245 00:16:02,169 --> 00:16:04,463 ในฐานะตํารวจ ผมมองอดีตนักโทษ 246 00:16:04,463 --> 00:16:07,716 ผมมองคนที่มีประวัติยาเสพติด 247 00:16:07,716 --> 00:16:11,261 เขาไม่พอใจที่ภรรยาเป็นชู้กับชายคนนี้ 248 00:16:11,261 --> 00:16:14,515 คุณจะพูดยังไงก็แล้วแต่ เป็ดก็คือเป็ด 249 00:16:14,515 --> 00:16:17,518 ผมเห็นเป็ด มันดูเหมือนเป็ด ท่าทาง การพูดก็เหมือนเป็ด 250 00:16:17,518 --> 00:16:19,478 มันก็อาจจะเป็นเป็ดจริงๆ 251 00:16:19,478 --> 00:16:22,022 ครับ เราสืบเขาโดยละเอียดทันทีเลย 252 00:16:22,606 --> 00:16:25,192 {\an8}(จอห์น ครีช) 253 00:16:30,489 --> 00:16:33,742 เราดูรายละเอียดประวัติโทรศัพท์ของจอห์น ครีช 254 00:16:34,576 --> 00:16:36,370 สิ่งที่เราต้องสืบก็คือ 255 00:16:36,370 --> 00:16:41,625 โทรศัพท์ของจอห์น ครีช คาบเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกาวิน สมิธยังไง 256 00:16:41,625 --> 00:16:44,586 และความถี่ในการโทรในคืนที่เขาหายตัวไป 257 00:16:45,838 --> 00:16:50,968 ผมมีประสบการณ์สูง ด้านการวิเคราะห์โทรศัพท์และทําแผนที่ 258 00:16:51,927 --> 00:16:54,555 แล้วเราก็เห็นแบบแผนแปลกๆ 259 00:16:58,058 --> 00:17:02,521 ตํารวจสรุปได้ว่าคืนวันที่ 1 พฤษภาคม ปี 2012 260 00:17:03,105 --> 00:17:06,692 กาวินกับแชนดริกาได้พบกันใกล้ชิด 261 00:17:06,692 --> 00:17:11,864 จริงๆ แล้ว โทรศัพท์ ของกาวิน สมิธกับแชนดริกาพบสัญญาณ 262 00:17:11,864 --> 00:17:17,536 อยู่ในพื้นที่ฮิดเดนฮิลส์ ไม่ไกลจากบ้านครีช 263 00:17:17,536 --> 00:17:21,248 ในจุดที่ถูกมองว่าเป็น "ถนนคู่รัก" 264 00:17:22,124 --> 00:17:25,377 แล้วโทรศัพท์ของจอห์น ครีชไปไหน มันไปที่... 265 00:17:25,377 --> 00:17:29,673 "แม่เจ้า สัญญาณสะท้อน มาจากพื้นที่เดียวกับแชนดริกา" 266 00:17:30,174 --> 00:17:35,137 จากแผนที่เสาสัญญาณโทรศัพท์ เราพบทั้งสามเครื่องอยู่ที่นั่น 267 00:17:35,137 --> 00:17:39,683 ณ เวลานั้น เรารู้ได้เลยว่าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น 268 00:17:40,267 --> 00:17:44,313 แม้คดีนี้จะเริ่มจากคดีคนหาย 269 00:17:44,313 --> 00:17:46,273 เราก็รู้แล้วว่าตอนนั้นเราเจออะไร 270 00:17:47,316 --> 00:17:48,692 นี่คือฆาตกรรม 271 00:17:48,692 --> 00:17:51,653 (วันที่ 8 มิถุนายน ปี 2012 กาวินหายตัวไปห้าสัปดาห์แล้ว) 272 00:17:56,658 --> 00:18:00,079 เราไม่รู้เลยว่าตอนนั้นจอห์น ครีชอยู่ที่ไหน 273 00:18:00,079 --> 00:18:02,915 แต่คู่หูกับผมมีหลักฐานเพียงพอในตอนนั้น 274 00:18:02,915 --> 00:18:07,753 ที่จะขอหมายศาลเข้าค้น บ้านของจอห์นกับแชนดริกา 275 00:18:08,420 --> 00:18:12,674 แชนดริกาอยู่บ้าน ยายเธอที่แก่แล้วก็อยู่ 276 00:18:12,674 --> 00:18:17,846 ผู้ดูแลยายของแชนดี้ก็อยู่ เรน่า ลิม 277 00:18:17,846 --> 00:18:20,265 เพื่อนบ้านบอกว่า ครอบครัวที่น่ารักอาศัยอยู่ในบ้านนี้ 278 00:18:20,265 --> 00:18:23,811 แต่พุ่มไม้สูง กล้องวงจรปิดหลายตัว 279 00:18:23,811 --> 00:18:26,230 และป้ายเตือนห้ามเข้าพื้นที่ 280 00:18:26,230 --> 00:18:29,149 ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณหลายอย่างที่ชวนให้สงสัย 281 00:18:29,149 --> 00:18:30,234 "พฤติกรรมผิดปกติ" เหรอคะ 282 00:18:30,234 --> 00:18:34,655 ฉันว่ามีรถบางคัน ที่เข้ามาจอดนอกบ้านอยู่นานพอสมควร 283 00:18:35,239 --> 00:18:39,368 เราไม่ค่อยเจอหลักฐานกายภาพ ที่จะช่วยเราได้ในคดีนี้ 284 00:18:39,868 --> 00:18:42,746 แต่เราก็จดบันทึกได้หลายอย่าง 285 00:18:42,746 --> 00:18:46,125 ที่สําหรับชุดความคิดของนักสืบแล้ว มันมีความหมาย 286 00:18:46,125 --> 00:18:49,753 ตัวอย่างเช่น ตรงนั้นเป็นถนนทางตัน มีบ้านอยู่ห้าหลังในละแวกนั้น 287 00:18:49,753 --> 00:18:53,048 และไม่ว่าจะมองในแง่ไหน บ้านหลังนี้ก็อลังการที่สุด 288 00:18:53,549 --> 00:18:55,801 ที่นั่นมีระบบกล้องวงจรปิดซับซ้อน 289 00:18:55,801 --> 00:19:00,681 มีพระพุทธรูปสําริด 8,000 ดอลลาร์ อยู่ในบ่อปลาคาร์ปหน้าบ้าน 290 00:19:00,681 --> 00:19:01,765 มีคูด้วย 291 00:19:01,765 --> 00:19:05,227 แล้วก็สระว่ายน้ําทําเอง ที่สมัยนั้นน่าจะราคาสัก 200,000 ดอลลาร์ 292 00:19:05,227 --> 00:19:06,436 (กรมตํารวจเขตลอสแอนเจลิส) 293 00:19:06,436 --> 00:19:07,604 บ้านหลังอื่นๆ ล่ะ 294 00:19:07,604 --> 00:19:11,400 ครับ ที่นั่นเวสต์ฮิลส์ เป็นย่านหรู แต่ไม่หรูเท่าหลังนั้น 295 00:19:11,984 --> 00:19:13,152 สิ่งที่เราได้รู้ 296 00:19:13,152 --> 00:19:16,321 คือแชนดริกาไม่รู้เลย ว่าสามีเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าของพวกนั้น 297 00:19:16,321 --> 00:19:19,408 เธอตอบไม่ได้ว่าเขาทําอาชีพอะไร 298 00:19:19,408 --> 00:19:22,452 เขาหารายได้ยังไง จ่ายภาษีหรือเปล่า 299 00:19:22,452 --> 00:19:26,081 ไม่เอาน่า คิดว่าเราโง่เหรอ เราโง่ขนาดไม่น่าให้อภัยเลยหรือไง 300 00:19:28,167 --> 00:19:30,210 เห็นชัดเลยว่าเธอไม่ได้พูดความจริง 301 00:19:31,086 --> 00:19:34,214 ระหว่างการค้น เธอกลัวจนนิ่งไปเลย 302 00:19:34,214 --> 00:19:36,300 เธอไม่รู้ว่าต้องทํายังไง 303 00:19:36,300 --> 00:19:38,385 ผมไม่รู้ว่าเธอมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ 304 00:19:38,385 --> 00:19:41,180 ผมรู้ว่าเธอรู้ แล้วเธอก็ไม่ยอมบอก 305 00:19:41,180 --> 00:19:44,308 อีกอย่าง เธอบอกเราว่าจอห์นอยู่ชิคาโก 306 00:19:44,308 --> 00:19:48,020 เธออธิบายไม่ได้ว่า ทําไมเขาย้ายบ้านไปอยู่ชิคาโก 307 00:19:48,520 --> 00:19:50,272 มันยังไงกัน 308 00:19:50,272 --> 00:19:52,441 เราไม่ได้หลักฐานคาหนังคาเขา 309 00:19:52,441 --> 00:19:55,694 เราไม่เห็นว่ามือเขามีแผลถลอกหรือรอยช้ํา 310 00:19:55,694 --> 00:19:59,364 แต่เราก็ได้ข้อมูลหลายอย่าง เรารู้ว่าเรามาถูกทางแล้ว 311 00:20:01,909 --> 00:20:05,370 เรายังต้องการความช่วยเหลือจากสาธารณชน 312 00:20:06,121 --> 00:20:10,584 ทุกข้อมูลที่หาได้จากสาธารณชน เรายินดีรับไว้ 313 00:20:13,378 --> 00:20:19,718 เราได้เบาะแสว่ากาวิน สมิธถูกพบเห็น ที่ร้านบิสโตรหรือร้านกาแฟในมอร์โรเบย์ 314 00:20:20,844 --> 00:20:21,845 (ลอสแอนเจลิส) 315 00:20:24,389 --> 00:20:26,725 มีคนเห็นเขาที่มอร์โรเบย์ 316 00:20:26,725 --> 00:20:31,271 เขาเคยเรียนที่ยูซีแอลเอ เขารู้จักกาวิน 317 00:20:31,271 --> 00:20:34,900 บริกรหญิงก็ยืนยันว่านั่นคือกาวิน 318 00:20:34,900 --> 00:20:39,404 ฉันก็แบบ "พระเจ้าช่วย เขาแค่หนีหายไป" 319 00:20:40,072 --> 00:20:41,698 แล้วฉันก็ขับรถไปที่นั่น 320 00:20:42,866 --> 00:20:45,410 ฉันว่ามันทําให้เราเครื่องติด 321 00:20:45,410 --> 00:20:47,621 แล้วฉันก็ซิ่งแบบลุยแหลกเลย 322 00:20:47,621 --> 00:20:50,832 เราต้องสั่งการและควบคุม การสืบสวนของเราให้ได้ 323 00:20:50,832 --> 00:20:54,670 ขณะเดียวกันก็ต้องรู้ว่า มันเลยเถิดจนคุมไม่อยู่ได้ทุกเมื่อ 324 00:20:54,670 --> 00:20:58,799 อาจจะเป็นเรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ แต่มันจะเลยเถิดจนคุมไม่อยู่ 325 00:20:58,799 --> 00:21:00,342 สําคัญที่เราจะจัดการยังไง 326 00:21:00,342 --> 00:21:02,552 เราเป็นหัวหน้าทีมสืบสวน 327 00:21:02,552 --> 00:21:06,807 เราเจอทาร่ากับใครไม่รู้ ออกไปแบบฉุกเฉิน 328 00:21:06,807 --> 00:21:09,393 ไปที่มอร์โรเบย์ ไปเคาะประตูตามหา 329 00:21:10,644 --> 00:21:13,730 มีคนพบเห็นเขา 60-100 คนได้ 330 00:21:14,481 --> 00:21:18,902 เรารู้ว่านี่คือคดีฆาตกรรม แต่ผมยังพิสูจน์ไม่ได้ 331 00:21:18,902 --> 00:21:20,696 ผมเลยต้องตามเบาะแสนั้นไป 332 00:21:21,196 --> 00:21:22,781 แล้วผมต้องทํายังไง 333 00:21:22,781 --> 00:21:26,576 ผมต้องส่งสายสืบสองคน ไปมอร์โรเบย์เพื่อตามเบาะแสนี้ 334 00:21:26,576 --> 00:21:31,248 ว่าเขาอยู่ที่นั่นในโรงแรม ไม่รู้สิ กําลังกินซุปหัวหอมฝรั่งเศสมั้ง 335 00:21:32,249 --> 00:21:36,795 {\an8}ถึงไทจะปากร้ายและขวานผ่าซาก 336 00:21:36,795 --> 00:21:39,214 {\an8}บางคนอาจจะบอกว่าหยาบกระด้าง 337 00:21:39,214 --> 00:21:41,425 แต่เขาแสดงออกได้ว่า 338 00:21:41,425 --> 00:21:46,346 "นี่ ผมอาจจะพูดแบบนี้ แต่ผมอยู่ตรงนี้ และผมใส่ใจ" 339 00:21:46,346 --> 00:21:49,933 ฉันเรียกเขาว่า "เคจุนพิโรธ" เพราะเขามีบุคลิกแบบนั้น 340 00:21:49,933 --> 00:21:51,685 เขาเสียงดังมาก โวยวายเก่งมาก 341 00:21:52,436 --> 00:21:55,605 แต่ในฐานะนักสืบ ฉันรู้ว่าเขามีความทุ่มเท 342 00:21:55,605 --> 00:21:59,526 แล้วเขาก็ใส่ใจคดี เขาเป็นห่วงเราทุกคนด้วย 343 00:22:00,068 --> 00:22:02,904 ผมถูกเลี้ยงมาแบบว่า "ถ้าไม่ชอบอะไร ก็พูดไปซะ" 344 00:22:02,904 --> 00:22:04,948 ผมไม่สนว่าใครจะไม่พอใจ 345 00:22:04,948 --> 00:22:07,951 (กรมตํารวจเขตลอสแอนเจลิส แผนกสืบสวนฆาตกรรม) 346 00:22:13,332 --> 00:22:17,169 เบาะแสจากมอร์โรเบย์ดูเหลือเชื่อมากๆ 347 00:22:18,045 --> 00:22:21,631 บริกรหญิงออกมาบอกว่า "อาจจะไม่ใช่เขาก็ได้ค่ะ 348 00:22:22,424 --> 00:22:27,679 ดูในข่าวอาจจะดูคล้ายเขามากกว่าตัวจริง" 349 00:22:28,555 --> 00:22:31,058 ฉันไม่รู้เลยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง 350 00:22:31,058 --> 00:22:34,061 แต่มันก็น่าผิดหวังมากๆ 351 00:22:34,061 --> 00:22:39,316 เธอเชื่อแล้วว่าเกิดเรื่องร้ายแรงมากๆ กับกาวิน 352 00:22:39,316 --> 00:22:43,612 แต่เรายังไม่มีหลักฐานแน่ชัด เราก็เลยหวังว่าเขาจะยังมีชีวิต 353 00:22:43,612 --> 00:22:48,367 แต่เราก็รู้ว่าไม่ช้าก็เร็ว เราน่าจะได้คําตอบเป็นข่าวร้ายที่สุด 354 00:22:48,367 --> 00:22:54,748 (วันที่ 22 มิถุนายน ปี 2012 กาวินหายตัวไปเจ็ดสัปดาห์แล้ว) 355 00:22:56,792 --> 00:23:01,046 สายสืบคอยติดตาม ความเคลื่อนไหวของจอห์น ครีช 356 00:23:01,046 --> 00:23:07,010 แล้วก็พบว่าจอห์น ครีชมีประวัติกับตํารวจ 357 00:23:07,010 --> 00:23:11,932 ที่จริง เขาเคยต้องข้อหาขนส่งยาผิดกฎหมาย 358 00:23:12,766 --> 00:23:16,269 เขาเคยยอมรับผิด ข้อหาจําหน่ายแจกจ่ายยาเสพติด 359 00:23:16,269 --> 00:23:19,981 {\an8}แทนที่จะติดคุก เขาตกลงไปเป็นสาย 360 00:23:19,981 --> 00:23:22,442 {\an8}ทํางานให้กรมตํารวจเกลนเดล 361 00:23:22,442 --> 00:23:24,694 แต่เขาก็ไร้ประโยชน์สิ้นดี 362 00:23:24,694 --> 00:23:27,280 เขาไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร แค่ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย 363 00:23:27,280 --> 00:23:30,117 จอห์น ครีชยังอยู่ในพื้นที่ชิคาโก 364 00:23:30,117 --> 00:23:34,079 เราต้องพาตัวเขาเข้ามาสอบปากคํา 365 00:23:34,079 --> 00:23:38,375 เราติดต่อสายสืบเกลนเดล เดฟ เคลล็อก 366 00:23:38,375 --> 00:23:40,794 เขาตกลงมาช่วยทุกอย่างที่ช่วยได้ 367 00:23:43,713 --> 00:23:46,925 เดฟเรียกตัวเขามา สิ่งหนึ่งที่เราให้เดฟช่วย 368 00:23:46,925 --> 00:23:48,718 คือให้เขาไปนั่งในห้อง 369 00:23:48,718 --> 00:23:50,762 เราติดเครื่องบันทึกเสียงไว้ 370 00:23:52,013 --> 00:23:53,014 แล้วเราก็เข้าไป 371 00:23:55,892 --> 00:23:57,352 เราแนะนําตัวเอง 372 00:23:58,228 --> 00:24:00,856 เราถามคําถามเกี่ยวกับกาวิน สมิธ 373 00:24:01,440 --> 00:24:04,484 จอห์น ครีชใจเย็น พยายามพูดดี 374 00:24:04,484 --> 00:24:06,153 พยายามใช้ไหวพริบ 375 00:24:06,153 --> 00:24:07,320 ตามสูตรนักต้มตุ๋น 376 00:24:08,447 --> 00:24:11,867 "ครับ ผมรู้จักผู้ชายคนนี้" "คุณได้ข่มขู่อะไรเขาหรือเปล่า" 377 00:24:11,867 --> 00:24:12,784 "เปล่า ไม่เคย" 378 00:24:12,784 --> 00:24:17,956 เขาปฏิเสธทุกอย่าง ผมเลยตัดสินใจลองอีกวิธี 379 00:24:18,915 --> 00:24:21,543 ผมพยายามทําให้กาวินดูเป็นคนเลว 380 00:24:21,543 --> 00:24:23,086 ผมบอกว่า... 381 00:24:23,086 --> 00:24:26,756 "กาวิน ผู้ชายคนนี้เป็นโรคจิตแอบตาม 382 00:24:26,756 --> 00:24:28,800 เขาเลี้ยงต้อยผู้หญิง" 383 00:24:29,634 --> 00:24:32,721 ผมทําทุกอย่างที่ทําได้เพื่อใส่ไฟกับเขา 384 00:24:32,721 --> 00:24:35,390 ผมบอกว่า "ผมไม่โทษคุณหรอก ถ้าคุณทําอะไรเขา 385 00:24:35,390 --> 00:24:37,476 อย่าอ้อมค้อมเลย จบเรื่องบ้าๆ นี่เถอะ" 386 00:24:38,059 --> 00:24:39,436 แต่เขาก็ไม่ยอมพูด 387 00:24:49,529 --> 00:24:54,493 เราอธิบายกับผู้พิพากษา ถึงข้อสงสัยว่าครีชจะมีส่วน 388 00:24:54,493 --> 00:24:56,745 ในการหายตัวไปของกาวิน สมิธ 389 00:24:56,745 --> 00:25:03,793 รวมถึงเรื่องที่เขาไม่ทําตามข้อผูกมัด เรื่องให้ข้อมูลกับตํารวจด้วย 390 00:25:05,170 --> 00:25:10,425 ผู้พิพากษาก็เลยสั่ง คุมตัวนายครีชคืนในข้อหายาเสพติด 391 00:25:11,551 --> 00:25:12,802 {\an8}(ศูนย์รับนักโทษ) 392 00:25:12,802 --> 00:25:16,973 {\an8}ทุกครั้งที่เราขังคนที่เราเชื่อว่าเคยฆ่าคนได้ 393 00:25:16,973 --> 00:25:18,141 นั่นเป็นเรื่องดี 394 00:25:18,975 --> 00:25:23,021 มันทําให้เรามีเวลาขยายความและสืบสวน 395 00:25:24,314 --> 00:25:25,815 (กรมตํารวจเขตลอสแอนเจลิส) 396 00:25:25,815 --> 00:25:29,611 เราดูข้อมูลโทรศัพท์ของจอห์น ครีช 397 00:25:30,529 --> 00:25:32,155 เขาโทรหาใคร ใครโทรหาเขา 398 00:25:32,656 --> 00:25:37,994 แล้วเราก็เห็นว่า หลังจากกาวิน สมิธคุยกับแชนดริกา 399 00:25:37,994 --> 00:25:42,165 ในคืนที่กาวินหายตัวไป ก็มีอีกหลายสาย 400 00:25:42,165 --> 00:25:45,335 ที่จอห์น ครีชโทรหาซ้ําๆ 401 00:25:45,335 --> 00:25:49,297 เขาโทรหาเบอร์เดิม เบอร์นั้นคือฮอร์เก บาเญส์ 402 00:25:51,258 --> 00:25:55,262 พอเราสืบเขา เราก็ได้รู้ ว่าเขาเป็นพรรคพวกกับครีช 403 00:25:56,054 --> 00:26:01,893 นายบาเญส์ทํางานรับเหมาให้บ้านครีชหลายอย่าง 404 00:26:02,477 --> 00:26:07,899 ผลก็คือฮอร์เก บาเญส์กับจอห์น ครีก ได้สานมิตรภาพต่อกัน 405 00:26:09,985 --> 00:26:12,070 คืนที่กาวินหายตัวไป 406 00:26:12,070 --> 00:26:16,241 โทรศัพท์ของผู้สูญหาย โทรศัพท์ของจอห์น ครีชและฮอร์เก บาเญส์ 407 00:26:16,241 --> 00:26:21,079 ส่งสัญญาณจากเสาสัญญาณ ในลานหลังบ้านของฮอร์เก 408 00:26:21,079 --> 00:26:25,375 (0.30 น. โทรศัพท์ของกาวิน แชนดริกา และจอห์น ครีชพบสัญญาณที่เดียวกัน) 409 00:26:26,001 --> 00:26:28,962 เราก็เลยติดต่อฮอร์เก บาเญส์ 410 00:26:30,213 --> 00:26:33,216 ครั้งแรกที่เราคุยกับฮอร์เก บาเญส์ เราบอกได้เลยว่าเขา... 411 00:26:33,842 --> 00:26:35,427 รู้สึกแตกตื่นสุดๆ 412 00:26:36,553 --> 00:26:41,683 บาเญส์บอกว่าจอห์น ครีชโทรมาด้วยความตื่นเต้น 413 00:26:41,683 --> 00:26:45,604 ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 2 พฤษภาคม ปี 2012 414 00:26:45,604 --> 00:26:50,400 บอกว่าต้องการให้ช่วยและจะไปหาเขาที่บ้าน 415 00:26:51,443 --> 00:26:53,820 บาเญส์ก็ตกใจเล็กน้อย 416 00:26:53,820 --> 00:26:58,033 แต่ครีชก็มาหา แล้วบอกให้ช่วยย้ายรถคันหนึ่ง 417 00:26:58,033 --> 00:27:00,035 มันเป็นรถเบนซ์ 418 00:27:01,911 --> 00:27:04,873 ฮอร์เก บาเญส์เห็นศพที่เหมือนมัมมี่ 419 00:27:04,873 --> 00:27:07,626 ห่อด้วยผ้าปูที่นอนอยู่ในเบาะข้างคนขับ 420 00:27:07,626 --> 00:27:11,296 จอห์น ครีชบอกฮอร์เก บาเญส์ ว่า "ผมฆ่าเขาตาย 421 00:27:11,296 --> 00:27:13,006 ผมอยากให้คุณช่วยซ่อนศพ" 422 00:27:13,590 --> 00:27:17,177 ฮอร์เกก็แบบ "คุณบ้าไปแล้ว มาซ่อนที่นี่ไม่ได้นะ" 423 00:27:20,555 --> 00:27:23,183 ฮอร์เก บาเญส์ลังเลมากๆ 424 00:27:23,183 --> 00:27:26,227 กับการเล่าให้สายสืบฟัง ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น 425 00:27:26,227 --> 00:27:29,981 แต่เขาตามจอห์น ครีชไปในรถเบนซ์สีดํา 426 00:27:29,981 --> 00:27:33,985 ไปที่บ้านในย่านพอร์เตอร์แรนช์ ซึ่งเป็นชุมชนที่มีรั้วรอบ 427 00:27:33,985 --> 00:27:36,321 พวกเขาขับไปที่บ้านหลังหนึ่ง 428 00:27:37,739 --> 00:27:39,949 พอครีชไปถึงบ้าน 429 00:27:39,949 --> 00:27:43,453 เขาก็ขับรถเบนซ์สีดําเข้าไปในโรงรถ 430 00:27:44,120 --> 00:27:46,081 ทิ้งรถเบนซ์สีดําไว้ที่นั่น 431 00:27:46,081 --> 00:27:48,124 แล้วก็ออกจากที่นั่นมา 432 00:27:50,210 --> 00:27:54,005 แล้วจอห์น ครีชก็บอกว่า "ผมอยากให้คุณกําจัดโทรศัพท์ซะ" 433 00:27:54,005 --> 00:27:56,716 ฮอร์เกผู้น่าสงสารก็โง่เอาโทรศัพท์ไป 434 00:27:56,716 --> 00:27:58,259 จากปากคําของฮอร์เก 435 00:27:58,259 --> 00:28:01,888 เขาบอกว่าวันต่อมา เขาเอาไปทิ้งถังขยะหลังแมคโดนัลด์ 436 00:28:04,599 --> 00:28:06,935 ฮอร์เกเห็นแผลที่มือครีช 437 00:28:06,935 --> 00:28:09,145 เขาเห็นสิ่งที่คิดว่าเป็นศพ 438 00:28:09,145 --> 00:28:11,231 แต่เขาบอกป้ายทะเบียนไม่ได้ 439 00:28:11,231 --> 00:28:13,191 เขาระบุตัวศพไม่ได้ 440 00:28:13,191 --> 00:28:17,070 เราเลยยังไม่มีหลักฐานพอที่จะส่งอัยการเขต 441 00:28:19,364 --> 00:28:21,866 สายสืบสรุปได้ว่า 442 00:28:21,866 --> 00:28:27,163 บ้านที่จอห์น ครีชกับนายบาเญส์ไป 443 00:28:27,163 --> 00:28:30,542 เป็นบ้านของคนชื่อสแตน แมคเควย์ 444 00:28:32,168 --> 00:28:35,213 สแตน แมคเควย์ เป็นเพื่อนออกกําลังกายของจอห์น 445 00:28:35,213 --> 00:28:39,884 เป็นกูรูด้านสุขภาพและฟิตเนสให้ดารา 446 00:28:41,261 --> 00:28:44,264 สแตน แมคเควย์ถูกพาตัว มาที่สถานีตํารวจลอสต์ฮิลส์ 447 00:28:45,056 --> 00:28:48,309 เราไปสอบปากคําเขา แต่เขาขอทนาย 448 00:28:49,269 --> 00:28:55,024 แล้วทนายชื่อดัง ที่ว่าความให้สแตน แมคเควย์ก็โผล่มา 449 00:28:56,484 --> 00:28:59,821 เขาเปิดเผยกับผมมาก เขาบอกว่า "ไท เขาไม่ให้ปากคําคุณหรอก 450 00:28:59,821 --> 00:29:02,240 ผมจะแนะนําเขาว่าอย่าพูด" ผมก็บอก "ไปคุยกับเขาสิ" 451 00:29:03,074 --> 00:29:04,075 แล้วเขาก็ไป 452 00:29:04,993 --> 00:29:10,957 ผ่านไปห้านาที 20 นาที 40 50... 453 00:29:11,708 --> 00:29:14,085 ผมมองจอห์น แล้วก็บอกว่า "นี่มันดีต่อเรามากๆ เลยนะ 454 00:29:14,669 --> 00:29:16,755 ยิ่งเขาอยู่ในนั้นนานก็ยิ่งดี 455 00:29:16,755 --> 00:29:19,591 เพราะยิ่งเขาอยู่ในนั้นนาน พวกเขาก็คุยกันอิสระ" 456 00:29:19,591 --> 00:29:25,180 ทนายคนนั้นคงจะแบบว่า "บ้าเอ๊ย โอ๊ย 457 00:29:25,180 --> 00:29:27,015 คราวนี้คุณทําอะไรอีก" 458 00:29:27,807 --> 00:29:32,896 แล้วเขาก็ออกมา ผมชอบเลย เพราะสภาพเขาเหมือนหมาถูกฟาด 459 00:29:32,896 --> 00:29:36,399 ทุกครั้งที่เราเห็นทนายเอกชน ในสภาพเหมือนหมาถูกฟาด 460 00:29:36,399 --> 00:29:38,276 เป็นเรื่องดีเสมอ 461 00:29:38,276 --> 00:29:41,696 แบบว่า "เอาเว้ย เราเล่นงานคนได้แล้ว" 462 00:29:41,696 --> 00:29:44,866 นี่คือเรื่องเล็กๆ ที่ทําให้สายสืบอย่างเราตื่นเต้น 463 00:29:44,866 --> 00:29:46,493 "เราได้เปรียบแล้ว" 464 00:29:46,493 --> 00:29:50,246 แล้วก็แน่นอน เขาบอกว่า "นี่ มานี่ซิ" เขาอยากคุยกับเราแล้ว 465 00:29:50,246 --> 00:29:52,749 "คุยพรุ่งนี้ที่ออฟฟิศคุณได้ไหม" 466 00:29:53,333 --> 00:29:56,127 "ได้แน่นอน ไม่มีปัญหา" 467 00:29:57,212 --> 00:30:00,632 แล้วเขาก็บอกว่า "นี่ สายสืบ คุณไปส่งเขาที่บ้านได้ไหม" 468 00:30:02,884 --> 00:30:06,554 ผมก็บอก "ได้สิ ไม่มีปัญหาครับ เราจัดการให้" 469 00:30:08,264 --> 00:30:10,141 นี่แหละเหตุผลที่ในฐานะหน่วยสืบฆาตกรรม 470 00:30:10,141 --> 00:30:13,937 เราต้องเดินทางได้โดยไม่ใช้ทางหลวง 471 00:30:13,937 --> 00:30:17,774 เราไปถนนในเมือง แล้วก็จอดมันทุกไฟแดงเลย 472 00:30:17,774 --> 00:30:20,318 จอดนานด้วย เราคุยกันได้เรื่องมากๆ 473 00:30:21,569 --> 00:30:25,073 สแตน แมคเควย์บอกว่าจอห์นมาหา 474 00:30:25,073 --> 00:30:27,534 ขอเอารถมาจอดในโรงรถ 475 00:30:27,534 --> 00:30:30,954 เขาสาบานว่าเขาไม่รู้ ว่าในนั้นมีศพจนกลิ่นเริ่มออก 476 00:30:32,121 --> 00:30:35,416 ไม่มีอะไรดับกลิ่นศพเน่าได้ 477 00:30:35,416 --> 00:30:39,170 แล้วเขาก็บอกว่าเขาไปกดดันครีช 478 00:30:39,170 --> 00:30:41,881 ให้ไปที่นั่น ไปเอาศพออก 479 00:30:41,881 --> 00:30:46,261 เขาบอกว่าจอห์น ครีชโผล่ไปพร้อมกับรถยูฮอล 480 00:30:46,261 --> 00:30:50,306 เขาเอาศพออกมาจากรถ แล้วก็ยกขึ้นรถยูฮอลเองเลย 481 00:30:54,978 --> 00:30:59,858 สุดท้าย จอห์น ครีช ก็มาเอารถเบนซ์ของกาวิน สมิธ 482 00:30:59,858 --> 00:31:01,568 ออกไปจากโรงรถบ้านเขา 483 00:31:07,407 --> 00:31:10,660 เราเขียนหมายค้นส่งไปที่บริษัทยูฮอล 484 00:31:10,660 --> 00:31:14,122 แต่ทุกคนที่เรารู้ชื่อมาในคดีนี้ 485 00:31:14,706 --> 00:31:18,459 ไม่มีเป้าหมายที่เรารู้จักคนไหนเลย 486 00:31:18,459 --> 00:31:21,546 ที่ได้เช่ารถไปในช่วงเวลานั้น 487 00:31:22,171 --> 00:31:23,256 มันก็เลยน่าหงุดหงิด 488 00:31:27,802 --> 00:31:30,722 กาวินหายตัวไป คาดว่าเสียชีวิตแล้ว 489 00:31:30,722 --> 00:31:33,308 แล้วเราก็ยังไม่เจอศพ 490 00:31:33,308 --> 00:31:34,601 เราไม่เจอรถ 491 00:31:35,184 --> 00:31:37,312 เราไม่รู้ว่ามีการใช้อาวุธหรือไม่ 492 00:31:37,312 --> 00:31:40,023 มันมีช่วงไม่คืบหน้า แล้วรูปคดีก็เริ่มจะเสีย 493 00:31:40,023 --> 00:31:43,192 เรารู้ว่า "เราต้องทําอะไรต่อไป" 494 00:31:44,444 --> 00:31:48,448 ผมกับจอห์น คู่หูก็เข้าใจ 495 00:31:48,448 --> 00:31:50,533 ว่าคดีนี้มันเหมือนหมากรุก 496 00:31:51,200 --> 00:31:56,998 ในเกมหมากรุกที่เราเล่น ในฐานะตํารวจสืบสวนฆาตกรรมกับคนร้าย 497 00:31:56,998 --> 00:32:00,668 มันไม่มีกําหนดเวลาเดินหมากสองนาที 498 00:32:03,546 --> 00:32:08,134 สายสืบทั้งสองนาย แล็บบี้กับโอไบรอัน ให้ความช่วยเหลือเราดีมากๆ 499 00:32:08,134 --> 00:32:11,971 มันไม่เหมือนคดีในหนัง 48 ชั่วโมง ไขคดีได้ 500 00:32:11,971 --> 00:32:13,139 มันยังไขไม่ได้ 501 00:32:13,139 --> 00:32:16,100 แต่ทั้งคู่ก็ทุ่มเทให้กับคดีนี้มากๆ 502 00:32:16,100 --> 00:32:17,852 พวกเขาจะสืบจนสุดทาง 503 00:32:21,648 --> 00:32:25,777 (เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 กาวินหายตัวไปเก้าเดือนแล้ว) 504 00:32:25,777 --> 00:32:28,571 ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 505 00:32:28,571 --> 00:32:32,492 สายสืบคนหนึ่งในแผนกสืบสวนฆาตกรรม 506 00:32:32,492 --> 00:32:36,955 เขาเกษียณไปแล้ว เขามาเล่นเทนนิสกับผู้ชายกลุ่มหนึ่ง 507 00:32:37,872 --> 00:32:39,916 ในกลุ่มนั้น 508 00:32:41,292 --> 00:32:42,669 มีพ่อของแชนดริกา 509 00:32:44,629 --> 00:32:48,299 ระหว่างที่พวกเขาตีเทนนิส พ่อของแชนดี้ก็มีท่าทางแปลกๆ 510 00:32:48,299 --> 00:32:51,386 เขาบอกว่าลูกสาวย้ายกลับไปอยู่ด้วย 511 00:32:51,386 --> 00:32:54,806 แล้วเธอก็เล่าว่าสามีไปฆ่าคนตาย 512 00:32:54,806 --> 00:33:00,895 พ่อเธอสะเทือนใจมาก เขารู้สึกว่าต้องเล่าให้เพื่อนฟัง 513 00:33:01,771 --> 00:33:04,399 สายสืบคนนี้ก็รู้จักผม 514 00:33:05,316 --> 00:33:07,610 เขาบอกข้อมูลกับผมทันที 515 00:33:09,278 --> 00:33:11,614 ผมไปแนะนําตัวกับพ่อแชนดี้ 516 00:33:11,614 --> 00:33:14,701 เขาบอกว่า "ผมจะบอกทุกอย่างที่ผมรู้" 517 00:33:16,703 --> 00:33:20,206 เขาบอกว่า "ผมว่ารถยังอยู่ 518 00:33:20,206 --> 00:33:21,874 มันอาจจะถูกชําแหละ 519 00:33:22,583 --> 00:33:26,087 มันอาจจะถูกแยกชิ้นส่วนขาย แต่อะไหล่บางส่วนยังอยู่" 520 00:33:26,087 --> 00:33:27,422 เขาบอกว่า 521 00:33:27,422 --> 00:33:33,136 "คุณต้องไปสืบเรน่า ลิม ผู้ดูแลยายของแชนดี้" 522 00:33:33,636 --> 00:33:36,097 มันน่าแปลกใจสําหรับเราสองคน 523 00:33:36,097 --> 00:33:38,433 มันแบบว่า "ไม่ ไม่มีทาง" 524 00:33:38,433 --> 00:33:42,186 {\an8}เธอเป็นยายวัย 70 ตัวเล็กๆ 525 00:33:42,186 --> 00:33:46,524 {\an8}เป็นผู้ดูแลชาวคริสต์ฟิลิปปินส์ที่ไม่น่าสงสัย 526 00:33:46,524 --> 00:33:50,278 ที่ดูแลญาติแก่ๆ ใกล้ตายของแชนดริกา 527 00:33:50,278 --> 00:33:53,948 แล้วจากจุดนั้น เราก็ปะติดปะต่อได้เลย 528 00:33:53,948 --> 00:33:56,534 "ให้ตายสิ เธออยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่แรก" 529 00:33:59,579 --> 00:34:02,123 นี่คือตัวอย่างของ "ดวงดีดีกว่าฝีมือดี" 530 00:34:02,123 --> 00:34:05,460 เพราะมันคือเรื่องของจังหวะเวลา 531 00:34:05,460 --> 00:34:08,755 อยู่ดีๆ เราก็คืบหน้า แล้วมันก็... 532 00:34:08,755 --> 00:34:10,048 มันบังเอิญล้วนๆ เลย 533 00:34:10,882 --> 00:34:13,176 แต่เราได้เบาะแสมาแล้ว เราก็ต้องสืบ 534 00:34:14,469 --> 00:34:15,970 ผมบอกว่า "ไปหาเธอกัน" 535 00:34:16,554 --> 00:34:20,433 แล้วเราก็เริ่มสั่งเฝ้าระวังเรน่า 536 00:34:21,267 --> 00:34:23,311 สุดท้าย พอเธอเลิกงาน 537 00:34:23,311 --> 00:34:25,688 เราก็เข้าไปหาเธอที่ลานจอดรถ 538 00:34:26,647 --> 00:34:28,900 ดูออกเลยว่าเธอตกใจนิดหน่อย 539 00:34:28,900 --> 00:34:31,903 แต่เธอรู้ว่าเราเป็นใคร เธอรู้ว่าเรากําลังสืบเรื่องอะไร 540 00:34:31,903 --> 00:34:35,406 เราไปคุยกับเธอ แล้วก็อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น 541 00:34:35,406 --> 00:34:39,786 ชื่อเธอโผล่มาได้ยังไง แล้วเธอก็อยากจะช่วยให้เต็มที่ 542 00:34:40,703 --> 00:34:42,330 ผมรู้สึกว่าเธอพูดความจริง 543 00:34:42,830 --> 00:34:45,708 เธอเอาเอกสารให้เราดู 544 00:34:45,708 --> 00:34:50,922 ซึ่งพิสูจน์ว่าเธอจ่ายบิล ค่าเช่าที่เก็บของให้จอห์น ครีช 545 00:34:51,422 --> 00:34:55,802 เธออาจจะรู้หรือไม่รู้ว่าตัวเองจ่ายบิล 546 00:34:55,802 --> 00:34:59,347 ค่าเช่าที่เก็บของซึ่งเป็นที่เก็บหลักฐานฆาตกรรม 547 00:34:59,847 --> 00:35:02,809 ผมไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงนะ แต่ผมเห็นจุดร่วม 548 00:35:02,809 --> 00:35:05,770 "ฮอร์เก ซ่อนโทรศัพท์ให้ที" 549 00:35:05,770 --> 00:35:09,357 "สแตน ผมฝากรถคนอื่นกับศพ 550 00:35:09,357 --> 00:35:11,526 ที่บ้านคุณสักห้าวันได้ไหม" 551 00:35:11,526 --> 00:35:13,986 "เรน่า ฝากจ่ายบิลทีได้ไหม" 552 00:35:14,487 --> 00:35:16,114 คุณเห็นแบบแผนไหม 553 00:35:16,114 --> 00:35:18,032 นี่คือนักต้มตุ๋นตามหลักสูตรเลย 554 00:35:18,032 --> 00:35:23,371 เขาใช้ทุกคนที่ใช้ได้ เพื่อให้ตัวเองมีความผิดน้อยลง 555 00:35:23,371 --> 00:35:24,539 {\an8}(เวสต์ซีมีล็อกอัป) 556 00:35:24,539 --> 00:35:26,916 {\an8}เราออกไปขอหมายค้น 557 00:35:26,916 --> 00:35:31,337 และแน่นอน พอเปิดล็อก เราก็เจอรถของกาวิน สมิธข้างใน 558 00:35:32,713 --> 00:35:36,342 มันน่าตื่นเต้นมากๆ เพราะเราได้รถของผู้ตายแล้ว 559 00:35:36,342 --> 00:35:38,928 ยืนยันว่าสมบูรณ์ดี ไม่ถูกแยกชิ้นส่วน 560 00:35:38,928 --> 00:35:40,555 เพราะดวงดีด้วย 561 00:35:40,555 --> 00:35:43,891 เทพเจ้าแห่งการสืบสวนเข้าข้างเราวันนั้น 562 00:35:50,773 --> 00:35:52,483 หลังจากพบรถ 563 00:35:52,483 --> 00:35:56,946 พวกเขาก็ตัดสินใจว่าจะเร่งสืบสวนเต็มกําลัง 564 00:35:56,946 --> 00:36:00,449 ซึ่งน่าจะนําไปสู่การส่งฟ้อง 565 00:36:00,449 --> 00:36:02,743 แล้วผมก็ร่วมงานกับไทอย่างเป็นทางการ 566 00:36:03,703 --> 00:36:06,372 ผมรู้ว่าบ็อบบี้มีกิตติศัพท์โดดเด่นมากๆ 567 00:36:06,372 --> 00:36:10,918 ในหมู่สายสืบที่ผมเคารพในหน่วยของผม 568 00:36:10,918 --> 00:36:12,837 เขามาจากหน่วยไต่สวนคดีอุกฉกรรจ์ 569 00:36:12,837 --> 00:36:16,465 ซึ่งประวัติแบบเขาก็สร้างได้ยาก ในสํานักงานอัยการเขต 570 00:36:16,966 --> 00:36:18,467 เขาเป็นตัวตึงเลย 571 00:36:24,307 --> 00:36:27,560 หลักฐานสําคัญที่ตํารวจต้องการสรุป 572 00:36:27,560 --> 00:36:32,064 ก็คือรถเป็นจุดจบชีวิตของกาวิน สมิธหรือไม่ 573 00:36:33,065 --> 00:36:34,859 มีงานวิเคราะห์หลายอย่าง 574 00:36:34,859 --> 00:36:37,987 ที่นักวิเคราะห์ทางนิติเวชต้องทํากับรถ 575 00:36:37,987 --> 00:36:40,364 พวกเขาต้องการหลักฐานเลือด 576 00:36:40,364 --> 00:36:45,203 ต้องการหลักฐานทางเซรุ่ม เช่นดีเอ็นเอ น้ําลาย เส้นผม 577 00:36:45,203 --> 00:36:48,956 ทุกอย่างที่โยงได้ว่ากาวิน สมิธอยู่ในรถคันนั้น 578 00:36:50,875 --> 00:36:53,502 เราเห็นว่าป้ายทะเบียนถูกถอดออก 579 00:36:53,502 --> 00:36:55,796 หมายเลขประจําตัวรถยังอยู่ 580 00:36:55,796 --> 00:36:57,131 ไม่ได้ถูกถอดออกไป 581 00:36:57,131 --> 00:37:00,343 นั่นคือวิธีระบุของเรา นี่คือที่เกิดเหตุของเรา 582 00:37:02,678 --> 00:37:04,972 เราเห็นรอยเลือด 583 00:37:04,972 --> 00:37:08,768 มีเลือดแห้งเยอะมากบนเบาะผู้โดยสาร 584 00:37:08,768 --> 00:37:12,313 ที่พื้น หน้าปัด หลังคา เบาะหลัง 585 00:37:14,065 --> 00:37:18,194 มีรอยเลือดกระเซ็น แปลว่ามีการต่อยตีซ้ําๆ 586 00:37:18,736 --> 00:37:22,615 มีเลือดกระเซ็นไปถึงเพดาน 587 00:37:23,658 --> 00:37:26,702 เราเห็นเลือดแห้งในกรอบประตู 588 00:37:27,286 --> 00:37:28,788 ตรงที่ประตูปิด 589 00:37:29,497 --> 00:37:31,374 จนตอนนี้ผมก็ยังไม่เชื่อ 590 00:37:31,374 --> 00:37:34,001 ที่เขาบอกว่าไม่ได้เอาหัวกาวินแนบไว้กับประตู 591 00:37:34,001 --> 00:37:35,628 แล้วปิดประตูอัดใส่ซ้ําๆ 592 00:37:37,171 --> 00:37:40,258 เขาซ้อมผู้ชายคนนี้อย่างโหดเหี้ยม 593 00:37:40,258 --> 00:37:43,552 ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือคนชั่วร้าย 594 00:37:45,471 --> 00:37:49,183 สมิธวัย 57 ปี หายตัวไปเมื่อ วันที่ 1 พฤษภาคม ปี 2012 595 00:37:49,183 --> 00:37:53,729 หนึ่งปีต่อมา รถเบนซ์ของเขาถูกพบ ที่ห้องเก็บของในหุบเขาซีมี 596 00:37:57,483 --> 00:38:01,737 เราต้องโยงจอห์น ครีช กับรถของกาวิน สมิธให้ได้ 597 00:38:01,737 --> 00:38:03,823 เราอยากเก็บรอยนิ้วมือที่รถ 598 00:38:03,823 --> 00:38:09,537 แต่ตอนนี้เราได้จุดโฟกัสแล้ว ว่าจะให้ฝ่ายนิติเวชตรวจตรงจุดไหน 599 00:38:09,537 --> 00:38:12,999 มีหลักฐานในรถที่บ่งชี้ว่าเขาถูกฆ่าในนั้น 600 00:38:12,999 --> 00:38:15,459 นายครีชยังเป็นบุคคลเฝ้าระวัง 601 00:38:15,459 --> 00:38:17,295 (เขตลอสแอนเจลิส) 602 00:38:17,295 --> 00:38:19,714 ผลตัวอย่างดีเอ็นเอกับหลักฐานเลือดออกแล้ว 603 00:38:20,548 --> 00:38:23,134 หลักฐานเลือดเป็นของกาวิน สมิธ 604 00:38:25,636 --> 00:38:28,639 ผมจําสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ 605 00:38:28,639 --> 00:38:30,599 ป้ายทะเบียนหายไป แต่... 606 00:38:30,599 --> 00:38:34,520 นอตขันป้ายทะเบียนข้างซ้ายถูกขันกลับเข้าไป 607 00:38:35,021 --> 00:38:37,898 ผมบอกแล็บอาชญากรรม ว่าผมอยากให้เอาไปตรวจดีเอ็นเอ 608 00:38:37,898 --> 00:38:41,068 แล้วสุดท้ายมันก็ตรงกับจอห์น ครีช 609 00:38:49,952 --> 00:38:51,078 มันก็ทั้งดีทั้งร้าย 610 00:38:55,875 --> 00:38:59,045 เพราะฉันรู้ว่า... 611 00:39:01,922 --> 00:39:03,132 มัน... 612 00:39:03,132 --> 00:39:05,384 คําบรรยายของตํารวจ... 613 00:39:06,886 --> 00:39:11,932 ฉันรู้ว่ามีหลักฐานชีวภาพ กับดีเอ็นเอในรถหลายอย่าง 614 00:39:13,017 --> 00:39:14,852 ตอนนั้นฉันก็รู้แล้ว 615 00:39:18,481 --> 00:39:20,149 ประมาณวินาทีนั้นแหละที่... 616 00:39:21,484 --> 00:39:24,653 มันย้อนกลับไม่ได้แล้ว 617 00:39:24,653 --> 00:39:27,156 แล้วเราก็ถามตัวเอง 618 00:39:27,156 --> 00:39:29,825 "มันเกิดขึ้นได้ยังไง วาระสุดท้ายของเขาเป็นยังไง" 619 00:39:32,078 --> 00:39:33,079 มันทําใจลําบาก 620 00:39:36,290 --> 00:39:37,291 มันยากจริงๆ 621 00:39:43,714 --> 00:39:45,883 (ศาลสหรัฐอเมริกา) 622 00:39:45,883 --> 00:39:49,178 มุมมองของอัยการต่อหลักฐานในตอนนั้น 623 00:39:49,178 --> 00:39:54,183 เราพิสูจน์ได้ตามกฎหมายแล้ว ว่าเรามีหลักฐานแวดล้อมที่แน่นหนา 624 00:39:54,183 --> 00:39:57,228 ว่าจอห์น ครีชเป็นต้นเหตุที่เขาตาย 625 00:39:58,104 --> 00:40:02,024 แน่นอนว่ายังมีจุดสําคัญในเรื่องราว 626 00:40:02,024 --> 00:40:03,651 ที่เรายังไม่รู้อีก 627 00:40:04,610 --> 00:40:08,197 ณ ตอนนั้นในคดีนี้ เรามีพยานที่ให้ความร่วมมือสองคน 628 00:40:08,197 --> 00:40:11,575 เรามีฮอร์เก บาเญส์ กับสแตน แมคเควย์ 629 00:40:12,493 --> 00:40:17,373 สิ่งเดียวที่เรายังไม่มีคือศพผู้ตาย 630 00:40:17,373 --> 00:40:23,170 แล้วเราก็ยังไม่มีพยานที่เห็นเหตุการณ์จริงด้วย 631 00:40:23,170 --> 00:40:26,465 เรื่องที่ไม่รู้เยอะกว่าเรื่องที่รู้ เยอะเกินไปมากๆ 632 00:40:27,258 --> 00:40:32,179 คดีที่ไม่เจอศพคือคดีที่พิสูจน์ยากที่สุด 633 00:40:32,763 --> 00:40:36,350 เรามีแค่หลักฐานเลือดภายในรถ 634 00:40:36,350 --> 00:40:41,230 แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าผู้ตายเสียชีวิตอย่างไร 635 00:40:41,230 --> 00:40:44,275 แพทย์ชันสูตรก็บอกไม่ได้ 636 00:40:44,275 --> 00:40:46,819 อย่างแน่ชัดว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว 637 00:40:47,570 --> 00:40:49,029 การสืบสวนยังดําเนินต่อไป 638 00:40:50,614 --> 00:40:54,201 ณ จุดนี้ เรายังไม่ได้ตั้งข้อหาอะไรกับใคร 639 00:40:55,077 --> 00:40:59,999 จุดที่น่าเศร้าก็คือการไม่รู้อยู่นานมากๆ 640 00:40:59,999 --> 00:41:01,208 มันน่าใจสลาย 641 00:41:02,543 --> 00:41:05,421 ซึ่งก็สมควรแล้ว ลิซ่าใจเสียมากๆ 642 00:41:05,421 --> 00:41:10,009 กับการใช้ชีวิตทุกวันโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 643 00:41:12,720 --> 00:41:15,681 (เดือนตุลาคม ปี 2014 สองปีครึ่งหลังกาวิน สมิธถูกฆาตกรรม) 644 00:41:15,681 --> 00:41:18,559 ถึงจะผ่านไปเกินสองปีแล้ว 645 00:41:18,559 --> 00:41:21,187 เราก็ยังไม่ทํารูปคดีไปเสนออัยการ 646 00:41:21,187 --> 00:41:24,899 จนกว่าเราจะได้ทําทุกอย่างที่รู้สึกว่าทําได้ 647 00:41:27,776 --> 00:41:30,154 เดือนตุลาคม ปี 2014 648 00:41:30,154 --> 00:41:35,034 ในเขตเนินเขาที่พาล์มเดล แคลิฟอร์เนีย 649 00:41:36,076 --> 00:41:38,329 คู่สามีภรรยาพาสุนัขมาเดินเล่น 650 00:41:39,121 --> 00:41:41,999 สุนัขไม่ได้อยู่กับสายจูง มันกลับไปหาเจ้าของ 651 00:41:42,708 --> 00:41:47,338 แล้วมันก็คาบสิ่งที่ดูเหมือนกระดูกคนไว้ 652 00:41:49,173 --> 00:41:52,134 ถ้าได้กลิ่นของที่ชอบ มันจะวิ่งไปเลย 653 00:41:52,134 --> 00:41:54,887 บัดดี้ ลาบราดอร์สีน้ําตาลเจอสิ่งที่มันชอบ 654 00:41:54,887 --> 00:41:57,389 ระหว่างเดินเล่นบนเขาในพาล์มเดลกับเจ้าของ 655 00:41:57,389 --> 00:42:01,685 แล้วพวกเขาก็เรียกตํารวจไปตรวจสอบ 656 00:42:01,685 --> 00:42:06,732 เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุไปตรวจสอบ แล้วแจ้งแผนกสืบสวนฆาตกรรม 657 00:42:06,732 --> 00:42:09,652 ว่าพวกเขาพบหลุมศพตื้นๆ ที่มีซากศพมนุษย์ 658 00:42:11,278 --> 00:42:14,698 พอสายสืบไปถึงที่เกิดเหตุ 659 00:42:14,698 --> 00:42:17,409 พวกเขาก็ไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นใคร 660 00:42:17,910 --> 00:42:20,454 บางครั้งการพิสูจน์อัตลักษณ์ก็ทําด้วยฟัน 661 00:42:21,247 --> 00:42:26,001 บางครั้ง ถ้าศพยังสดพอ เราก็ตรวจลายนิ้วมือได้ 662 00:42:26,001 --> 00:42:30,714 ส่วนในคดีนี้ ซากศพมนุษย์มีร่องรอย 663 00:42:30,714 --> 00:42:33,884 การผ่าตัดหลายครั้งตลอดหลายปีของกาวิน 664 00:42:33,884 --> 00:42:39,306 พวกเขาก็เลยระบุได้ว่านี่คือศพกาวินจริงๆ 665 00:42:46,063 --> 00:42:49,400 เราส่งหลักฐานในที่เกิดเหตุ ไปสํานักงานแพทย์ชันสูตร 666 00:42:50,651 --> 00:42:52,903 แพทย์ชันสูตรก็เริ่มการตรวจสอบ 667 00:42:52,903 --> 00:42:53,988 (จอห์น โด 298) 668 00:42:53,988 --> 00:42:59,159 โดยดูจากเอ็กซ์เรย์ แล้วออกความเห็น กับข้อสรุปว่าเห็นอะไรบ้าง 669 00:42:59,159 --> 00:43:00,244 (ถูกตีด้วยของแข็ง...) 670 00:43:00,244 --> 00:43:06,125 ซึ่งก็เจอแผลป้องกันตัวที่แขนกับกระดูกแตก 671 00:43:06,125 --> 00:43:10,963 เหมือนยกแขนกันไว้ ซึ่งก็สอดคล้องกับสิ่งที่เรารู้ 672 00:43:10,963 --> 00:43:12,506 เขาถูกทําร้ายในรถ 673 00:43:12,506 --> 00:43:16,552 มีร่องรอยและความเห็นแพทย์ ว่าเขากะโหลกแตก 674 00:43:16,552 --> 00:43:20,639 ซึ่งเกิดจากการถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะ 675 00:43:21,307 --> 00:43:25,311 เราเห็นกระดูกเบ้าตาแตกโดยสิ้นเชิง 676 00:43:25,311 --> 00:43:27,605 กระดูกโหนกแก้มแทบจะแหลกเป็นจุณ 677 00:43:30,983 --> 00:43:35,279 การพบศพกาวิน สมิธ ในทางการสืบสวน มันสําคัญมาก เป็นจุดเปลี่ยน 678 00:43:35,904 --> 00:43:40,034 แต่ที่ผมเป็นห่วงคือครอบครัว ผมอยากอยู่ข้างพวกเขา 679 00:43:42,369 --> 00:43:47,207 ผมกับคู่หูควรไปคุยกับคุณนายสมิธและลูกๆ เรื่องนี้ 680 00:43:48,959 --> 00:43:51,295 ฉันจําได้ว่าลิซ่าโทรหาฉัน 681 00:43:51,795 --> 00:43:55,924 แล้วบอกว่าพบศพเขาแล้ว 682 00:43:56,717 --> 00:44:00,179 ฉันรู้สึกว่า... 683 00:44:01,889 --> 00:44:05,476 นั่นคือวินาทีที่หายสงสัย เพราะว่า... 684 00:44:09,605 --> 00:44:10,606 ขอโทษค่ะ 685 00:44:18,656 --> 00:44:20,324 เรารู้ว่ามันเลวร้ายแค่ไหน 686 00:44:22,951 --> 00:44:24,453 แล้วเราก็ได้รู้ว่ามันจบแล้ว 687 00:44:24,953 --> 00:44:27,706 เพราะมันเป็นความจริง 688 00:44:27,706 --> 00:44:29,958 ครอบครัวผู้ตายอยากจะหายสงสัย 689 00:44:31,877 --> 00:44:33,504 ศพทําให้เราหายสงสัยได้ 690 00:44:34,672 --> 00:44:36,632 เราไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น แต่... 691 00:44:41,095 --> 00:44:43,180 เรารู้ว่าเขาไม่กลับมาแล้ว 692 00:44:51,855 --> 00:44:54,733 แม้จะพบศพกาวินแล้ว 693 00:44:54,733 --> 00:44:58,487 ก็ยังมีข้อมูลที่เราไม่รู้ 694 00:44:58,487 --> 00:45:04,743 เจาะจงคือเรายังไม่รู้ว่าครีชฆ่ากาวิน สมิธยังไง 695 00:45:04,743 --> 00:45:08,414 เรารู้ว่าคนเดียวที่รู้ข้อมูลนั้น 696 00:45:08,414 --> 00:45:09,748 คือแชนดริกา ครีช 697 00:45:11,792 --> 00:45:14,002 สิ่งที่เราไม่รู้ ณ ตอนนั้น 698 00:45:14,002 --> 00:45:19,425 คือเธอมีส่วนรู้เห็นแค่ไหนกับการตายของกาวิน 699 00:45:20,384 --> 00:45:24,346 ผลก็คือเราตัดสินใจแจ้งเธอ 700 00:45:24,346 --> 00:45:26,849 ว่าเราจะพิจารณาลดโทษให้เธอ 701 00:45:26,849 --> 00:45:30,060 แลกกับคําให้การตามความจริง 702 00:45:30,060 --> 00:45:31,395 เป็นการยื่นข้อเสนอ 703 00:45:31,395 --> 00:45:35,691 แชนดริกาตกลงให้ความร่วมมือผ่านทนาย 704 00:45:39,611 --> 00:45:40,863 แล้วบอกเราว่า 705 00:45:40,863 --> 00:45:46,910 เธอกลับไปสานสัมพันธ์กับกาวิน สมิธต่อ 706 00:45:46,910 --> 00:45:52,332 แต่พวกเขาไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน 707 00:45:52,958 --> 00:45:55,169 พวกเขามีความผูกพันต่อกัน 708 00:45:55,169 --> 00:45:59,173 แล้วก็คุยกันในรถในฐานะเพื่อน 709 00:46:00,174 --> 00:46:03,343 เธอบอกว่าเธอปลอบใจเขาที่แยกทางกับภรรยา 710 00:46:03,343 --> 00:46:07,806 เขาจะทํายังไง เรื่องลูกๆ หลักๆ ก็ทําหน้าที่เพื่อน 711 00:46:07,806 --> 00:46:13,437 แล้วตอนนั้น ประตูรถก็ถูกเปิด 712 00:46:14,104 --> 00:46:17,608 แล้วจอห์นนี่ก็กระโดดเข้าใส่เธอกับเขา 713 00:46:18,317 --> 00:46:19,610 แล้วก็เริ่มซ้อมเขา 714 00:46:19,610 --> 00:46:24,031 คุณเห็นจอห์นนี่ชกต่อยกาวินกี่ครั้ง 715 00:46:24,031 --> 00:46:25,824 - ห้าค่ะ - ห้าเหรอ 716 00:46:26,617 --> 00:46:28,076 เธอกรีดร้องตะโกน 717 00:46:28,076 --> 00:46:32,790 เธอบอกว่าจอห์นนี่อัดเขาที่หน้าไม่ยั้ง 718 00:46:33,457 --> 00:46:37,044 เธอหนีออกไปทางประตูรถได้ 719 00:46:37,044 --> 00:46:39,880 แล้วร้องบอกให้เขาหยุด เดี๋ยวเขาก็ตายพอดี 720 00:46:40,380 --> 00:46:44,927 ถึงจุดหนึ่ง จอห์นนี่ก็หยุด กาวินหมดสติไปแล้ว 721 00:46:46,011 --> 00:46:48,597 เลือดกระจายไปทั่ว แล้วเขาก็หันมาหาเธอ 722 00:46:48,597 --> 00:46:51,809 บอกว่า "หุบปากซะ ไม่งั้นเธอจะเป็นรายต่อไป" 723 00:46:51,809 --> 00:46:56,563 เธอบอกว่าสุดท้ายเธอก็หันหลังหนีไป 724 00:46:57,064 --> 00:47:01,193 แล้วจอห์นนี่ก็ยังซ้อมเขาต่อ ทั้งที่เขาหมดสติไปแล้ว 725 00:47:02,027 --> 00:47:07,449 ผมคิดว่าแชนดี้ช่วยกลบเกลื่อน เพราะแชนดี้กลัวเขาแทบตาย 726 00:47:12,788 --> 00:47:17,376 (วันที่ 15 มิถุนายน ปี 2017 ห้าปีหลังกาวิน สมิธถูกฆาตกรรม) 727 00:47:17,376 --> 00:47:19,461 (เริ่มไต่สวนคดีฆ่าผู้บริหารฟ็อกซ์) 728 00:47:19,461 --> 00:47:23,757 การดําเนินคดีกับจอห์น ครีช เริ่มเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2017 729 00:47:23,757 --> 00:47:25,092 แผนได้ผล 730 00:47:26,176 --> 00:47:27,719 กาวิน สมิธตายแล้ว 731 00:47:27,719 --> 00:47:31,139 เขาเก็บความลับได้สองปีกว่า 732 00:47:31,139 --> 00:47:32,975 ผมต้องโต้แย้งให้คณะลูกขุนเข้าใจว่า 733 00:47:32,975 --> 00:47:36,895 "ไม่ นี่ไม่ใช่การฆ่าโดยบันดาลโทสะทั่วไป 734 00:47:36,895 --> 00:47:40,482 แต่ที่จริง จําเลยรู้เรื่องการคบชู้มานานแล้ว 735 00:47:40,482 --> 00:47:43,694 แล้วเขาก็วางแผนเป็นขั้นตอน ติดตามว่าภรรยาไปที่ไหน 736 00:47:43,694 --> 00:47:48,240 เขาไม่ได้อยู่ในสภาวะอารมณ์ปั่นป่วน 737 00:47:48,240 --> 00:47:51,910 จนถึงขั้นที่ไม่รู้ตัวว่าเขาวางแผนทําอะไร" 738 00:47:55,372 --> 00:47:58,083 พยานปากเอกบางส่วนก็มีแชนดริกา 739 00:47:58,083 --> 00:48:01,712 ที่เล่าเรื่องได้ว่ากาวินถูกฆ่ายังไง 740 00:48:02,337 --> 00:48:04,172 เขาไม่ได้สู้กลับหรือตอบโต้อะไรเลย 741 00:48:04,172 --> 00:48:06,967 เขาไม่ได้ผลักจอห์นออก เขาไม่ได้ขยับเลยสักนิด 742 00:48:09,303 --> 00:48:11,388 - ผลก็คือ... - แล้วเขาก็ร้องครวญคราง 743 00:48:12,514 --> 00:48:14,349 จอห์น ครีชขึ้นแท่นให้การ 744 00:48:14,349 --> 00:48:18,896 เขาบอกว่าเขาวิวาทโดยสมัครใจกับกาวิน 745 00:48:19,396 --> 00:48:21,356 เขาต่อยผม เขาดึงผมเข้าหาโดยการดึงเสื้อ 746 00:48:21,356 --> 00:48:23,901 เขาใช้มือจับคอผม แล้วก็บีบคอผมไว้ 747 00:48:23,901 --> 00:48:25,652 หัวผมติดอยู่กับเพดานรถ 748 00:48:25,652 --> 00:48:27,529 แล้วเขาก็ใช้นิ้วโป้งทิ่มตาผม 749 00:48:27,529 --> 00:48:29,615 ตัวผมอยู่นอกรถ โน้มเข้าไปแค่หัว 750 00:48:29,615 --> 00:48:31,366 แล้วเขาก็บีบคอ จิกตาผม 751 00:48:32,200 --> 00:48:35,746 จอห์น ครีชอ้างว่ากาวิน สมิธมีอาวุธค้อน 752 00:48:36,330 --> 00:48:40,584 จอห์น ครีชให้การว่าเขายื้อแย่งค้อนมาได้ 753 00:48:41,543 --> 00:48:46,798 สุดท้ายเขาก็พลิกเป็นฝ่ายได้เปรียบ แล้วพลั้งมือฆ่ากาวิน 754 00:48:47,633 --> 00:48:49,801 แต่ทุกอย่างเป็นการป้องกันตัว 755 00:48:50,302 --> 00:48:53,096 แล้วสุดท้ายเขาก็เอา... 756 00:48:53,597 --> 00:48:55,974 เครื่องมือหรือสิ่งของนั้น 757 00:48:55,974 --> 00:48:59,436 กลับบ้านไปด้วย แล้วไปทิ้งในลานบ้านข้างๆ 758 00:48:59,436 --> 00:49:02,856 คุณตัดสินใจไม่แจ้ง 911 ถูกต้องไหม 759 00:49:02,856 --> 00:49:04,191 ผมตัดสินใจเองครับ 760 00:49:04,858 --> 00:49:06,068 ผมต้องทนอยู่กับมันทุกวัน 761 00:49:10,072 --> 00:49:12,824 ในความคิดผม เขาโกหกทุกเรื่องที่พูด 762 00:49:16,244 --> 00:49:20,874 คณะลูกขุนเราในการไต่สวนนี้ พบว่าจําเลยจอห์น ครีช 763 00:49:20,874 --> 00:49:24,002 ไม่มีความผิดฐานฆาตกรรมกาวิน สมิธ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน 764 00:49:25,837 --> 00:49:27,130 ผลตัดสินที่ออกมา 765 00:49:27,130 --> 00:49:31,385 คือไม่มีความผิดฐานฆาตกรรม โดยไตร่ตรองไว้ก่อน 766 00:49:31,385 --> 00:49:36,181 คณะลูกขุนเราในการไต่สวนนี้ พบว่าจําเลยจอห์น ครีช 767 00:49:36,181 --> 00:49:39,434 มีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยบันดาลโทสะ 768 00:49:42,479 --> 00:49:46,733 แต่มีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยบันดาลโทสะ ตามกฎหมายรัฐแคลิฟอร์เนีย 769 00:49:47,609 --> 00:49:48,819 ผมคิดเลย "ไปตายซะ" 770 00:49:48,819 --> 00:49:53,240 นี่มันทั้งไตร่ตรอง วางแผน คํานวณไว้ แล้วเขาค่อยฆ่ากาวิน 771 00:49:53,740 --> 00:49:58,453 ทุกครั้งที่ได้ยินคําตัดสินที่ไม่ใช่ที่เราต้องการ 772 00:49:58,453 --> 00:50:01,081 เราจะรู้สึกหดหู่ เศร้า 773 00:50:03,333 --> 00:50:05,419 ผู้พิพากษาพูดถึงขั้นที่ว่า 774 00:50:05,419 --> 00:50:09,172 ท่านไม่เห็นด้วยกับคําตัดสินของคณะลูกขุน 775 00:50:09,172 --> 00:50:12,926 ท่านรู้สึกว่าอัยการได้พิสูจน์แล้วว่านี่คือฆาตกรรม 776 00:50:12,926 --> 00:50:15,637 คนอื่นทุกคนในห้องพิจารณาคดีนี้ 777 00:50:15,637 --> 00:50:18,932 คงจะโทรแจ้ง 911 คงจะโทรเรียกรถพยาบาล 778 00:50:19,433 --> 00:50:20,642 คุณไม่ได้ทํา 779 00:50:20,642 --> 00:50:24,730 บอกตรงๆ ผมคิดว่า เป็นเพราะคุณเป็นคนเลือดเย็นและโหดเหี้ยม 780 00:50:25,313 --> 00:50:28,316 ท่านจะตัดสินโทษสูงสุดให้จําเลย 781 00:50:28,316 --> 00:50:29,985 ซึ่งก็คือคุก 11 ปี 782 00:50:29,985 --> 00:50:32,738 (ขังมือฆ่าผู้บริหารสูงสุด 11 ปี) 783 00:50:32,738 --> 00:50:37,492 ในใจฉัน ฉันคิดว่า "เขาจะติดคุก 30-40 ปี ใช่ไหม" 784 00:50:37,492 --> 00:50:40,412 นี่มันไตร่ตรองไว้ก่อน 785 00:50:40,412 --> 00:50:44,207 แต่โดนแค่ 11 ปี มันดูไม่ใช่ความยุติธรรมเลย 786 00:50:44,207 --> 00:50:46,543 ฉันโมโหแล้วโมโหอีก 787 00:50:47,335 --> 00:50:49,087 ฉันโกรธมากๆ 788 00:50:49,087 --> 00:50:54,384 โกรธสุดๆ ที่กาวินไม่ได้รับความยุติธรรม 789 00:50:59,598 --> 00:51:02,392 ข่าวดีคือเขากําลังถูกสืบสวน 790 00:51:02,392 --> 00:51:04,978 ในข้อหาใหม่เกี่ยวกับยาเสพติด 791 00:51:04,978 --> 00:51:09,816 และต่อมาก็ถูกดําเนินคดี ข้อหาขนส่งและจําหน่ายยาเสพติด 792 00:51:10,484 --> 00:51:14,654 แล้วเขาก็โดนโทษประมาณ 26 ปี ตามกฎหมายรัฐบาลกลาง 793 00:51:14,654 --> 00:51:18,825 หลักๆ เป็นเพราะว่า เขามีประวัติเคยต้องโทษคดีร้ายแรงมาก่อน 794 00:51:19,659 --> 00:51:23,705 สุดท้ายเขาติดคุกรวมกันเกิน 40 ปี 795 00:51:23,705 --> 00:51:27,209 มันก็ทําให้ลิซ่ากับลูกๆ สบายใจได้บ้าง 796 00:51:27,793 --> 00:51:32,005 การที่เขาต้องโทษจําคุกเป็นระยะเวลานาน 797 00:51:32,005 --> 00:51:34,925 ก็สมควรมากๆ แล้ว 798 00:51:48,021 --> 00:51:50,315 มีหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับเขา 799 00:51:51,566 --> 00:51:53,401 ที่น่าเหลือเชื่อทีเดียว 800 00:51:54,152 --> 00:51:55,028 รู้ไหม 801 00:51:55,028 --> 00:51:58,490 ไม่ใช่ทุกคนที่จะสมบูรณ์แบบ เขาก็ไม่สมบูรณ์ 802 00:51:59,032 --> 00:52:00,450 เขาเป็นอะไรหลายอย่าง 803 00:52:01,368 --> 00:52:03,120 แต่เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม 804 00:52:06,748 --> 00:52:11,378 เขาคว้าโอกาสที่ชีวิตมอบให้ แล้วก็ทําอะไรหลายๆ อย่าง 805 00:52:23,390 --> 00:52:28,103 มันน่าเศร้า มันน่าหดหู่ แต่ผมไม่เสียใจกับคดีนี้เลย 806 00:52:29,938 --> 00:52:33,650 ผมคิดจริงๆ ว่าสายสืบในโรงพักคงมีไม่กี่คน 807 00:52:33,650 --> 00:52:36,111 ที่จะทําได้เท่าครึ่งหนึ่งของเรา 808 00:52:37,362 --> 00:52:41,449 มันอยู่ที่ความมุ่งมั่นกับความสํานึกในหน้าที่ 809 00:52:41,449 --> 00:52:43,785 หน้าที่ของเราคือ การตามหาความจริงและข้อเท็จจริง 810 00:52:43,785 --> 00:52:45,745 และจับตัวคนร้ายมารับโทษ 811 00:52:47,080 --> 00:52:49,332 นั่นคือสิ่งที่เราทํา สิ่งที่เราตั้งใจจะมาทํา 812 00:52:52,669 --> 00:52:54,504 (ปี 2001) 813 00:52:55,380 --> 00:52:58,425 {\an8}(ตอนต่อไป) 814 00:52:59,467 --> 00:53:03,221 วันที่ 20 สิงหาคม ฉันได้รับโทรศัพท์จากบรูซ 815 00:53:03,221 --> 00:53:08,977 เขาบอกว่าภรรยาเขา แจนน่า หายตัวไปตั้งแต่ตอนเช้า 816 00:53:10,145 --> 00:53:12,272 เหมือนกับคดีกาวิน สมิธ 817 00:53:12,272 --> 00:53:15,317 สิ่งสําคัญคือต้องสืบทุกคนที่เกี่ยวโยงใกล้ชิด 818 00:53:16,026 --> 00:53:17,986 เราต้องสืบทุกคน 819 00:53:17,986 --> 00:53:20,822 ใครจะอยากทําร้ายเธอ เธอมีศัตรูหรือไม่ 820 00:53:21,907 --> 00:53:24,576 บรูซบอกว่าเป็นเพราะพ่อของแจนน่า 821 00:53:24,576 --> 00:53:27,329 อาจจะมีคนลักพาตัวแจนน่าไป 822 00:53:27,329 --> 00:53:32,000 พ่อของเธอเป็นนักการเมือง ที่โดดเด่นมากๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย 823 00:53:32,959 --> 00:53:34,085 เธออาจจะหนีออกจากบ้าน 824 00:53:34,794 --> 00:53:37,631 อาจจะมีความสัมพันธ์นอกสมรสเกิดขึ้น 825 00:53:38,340 --> 00:53:42,385 เธอเริ่มจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอก 826 00:53:42,385 --> 00:53:44,721 เธอไปทําฟัน 827 00:53:44,721 --> 00:53:47,641 มีบางอย่างมันดูแปลกๆ ดูน่าสงสัย 828 00:53:48,308 --> 00:53:51,144 เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก อัธยาศัยดีมาก 829 00:53:51,895 --> 00:53:54,856 ไม่มีเหตุผลที่ใครจะทําแบบนี้เลย 830 00:54:37,065 --> 00:54:42,070 คําบรรยายโดย วรากรณ์ จันทา