1 00:00:02,000 --> 00:00:07,000 Downloaded from YTS.MX 2 00:00:06,041 --> 00:00:09,957 (คลิปบันทึกประวัติศาตร์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับการบูรณะและแต่งสี) 3 00:00:08,000 --> 00:00:13,000 Official YIFY movies site: YTS.MX 4 00:00:09,958 --> 00:00:16,625 (มีการตัดภาพจากหลายเหตุการณ์รวมกัน เพื่อให้ได้ประสบการณ์ดื่มด่ําสมบูรณ์ที่สุด) 5 00:00:26,250 --> 00:00:28,124 (กันยายน ปี 1940) 6 00:00:28,125 --> 00:00:32,708 (ทัพนาซีเยอรมนี เริ่มทิ้งระเบิดบริเตนอย่างหนัก) 7 00:00:36,375 --> 00:00:41,250 อังกฤษเป็นเกาะแห่งสุดท้ายที่ยังยืนหยัดในยุโรป 8 00:00:42,625 --> 00:00:47,500 ไม่ว่าอย่างไร อังกฤษจะต้องล่มสลาย! 9 00:00:52,416 --> 00:00:55,208 (การทิ้งระเบิด "เดอะบลิตซ์" นั้น กินเวลาร่วมแปดเดือน) 10 00:00:56,125 --> 00:00:58,958 (นี่คือเรื่องราวการตอบโต้ของชาวเกาะบริเตน) 11 00:01:01,458 --> 00:01:07,625 เราตกใจกันใหญ่ที่จู่ๆ พบว่าศัตรูอยู่ใกล้ขนาดนี้ 12 00:01:08,250 --> 00:01:11,375 เพิ่งรู้ว่ามีคนพยายามจะทําลายล้างเราจริงๆ 13 00:01:17,083 --> 00:01:18,958 เราทุกคนพากันไปหลบใต้บันได 14 00:01:19,791 --> 00:01:22,125 ฉันคิดเลยเราจะต้องถูกไฟคลอกทั้งเป็น 15 00:01:28,791 --> 00:01:30,791 มันคือชีพจรและการใช้ชีวิต 16 00:01:31,791 --> 00:01:34,708 เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน 17 00:01:35,208 --> 00:01:37,708 ทุกขณะจิตที่เราอยู่ร่วมกันมันช่างมีค่า 18 00:01:42,791 --> 00:01:48,332 การดับไฟกาฬครั้งสุดท้าย ซึ่งหมายจะครอบงําอย่างสะพรึงขวัญ 19 00:01:48,333 --> 00:01:53,290 จะแผ้วทางไปสู่ความสมานฉันท์ 20 00:01:53,291 --> 00:01:55,791 ให้เป็นน้ําหนึ่งใจเดียวกันดียิ่งกว่าแผนการใดๆ 21 00:01:56,958 --> 00:02:01,500 เพราะเราได้ฝ่าภยันตรายลุยไฟมาด้วยกัน 22 00:02:11,875 --> 00:02:17,708 (ยุทธการเดอะบลิตซ์พิชิตอังกฤษ) 23 00:02:24,666 --> 00:02:26,624 (เอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ) 24 00:02:26,625 --> 00:02:31,333 หากเพิ่งเปิดฟังวิทยุตอนนี้ สหราชอาณาจักรประกาศสงครามกับเยอรมนีแล้ว 25 00:02:32,833 --> 00:02:35,415 เช้านี้กองทัพเยอรมันเข้ายึดปารีสสําเร็จ โดยไร้การต่อสู้ 26 00:02:35,416 --> 00:02:39,165 {\an8}และกล่าวว่าการไล่ล่าทําลายศัตรู จนถึงที่สุดได้เริ่มแล้ว 27 00:02:39,166 --> 00:02:41,916 {\an8}(กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร กองบัญชาการฝูงบินขับไล่) 28 00:02:45,625 --> 00:02:48,583 ช่วงวันสําคัญที่สุด ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเพิ่งเริ่มต้น 29 00:02:50,916 --> 00:02:52,916 หากสหราชอาณาจักรถูกยึดครองสําเร็จ 30 00:02:53,458 --> 00:02:57,082 ฮิตเลอร์จะรู้ว่าเขาสามารถช่วงชิง ทุกส่วนของทวีปได้ตามใจชอบ 31 00:02:57,083 --> 00:02:58,957 หนึ่ง สอง สาม เรียบ 32 00:02:58,958 --> 00:03:00,833 หนึ่ง สอง สาม มองขวา 33 00:03:02,000 --> 00:03:03,290 (อิดิธ ฮีพ) 34 00:03:03,291 --> 00:03:05,082 {\an8}(จนท.วางแผนที่ ฐานบินเด็บเดน อายุ 21 ปี) 35 00:03:05,083 --> 00:03:07,374 {\an8}เราไม่รู้หรอกว่าเขาอนุญาตให้ผู้หญิงทําอะไรบ้าง 36 00:03:07,375 --> 00:03:09,166 {\an8}แต่ก็น่าตื่นเต้นอยู่ดี 37 00:03:27,208 --> 00:03:30,416 ตอนนั้นพวกเราอายุเท่าไหร่เอง แค่สิบแปด สิบเก้า ยี่สิบ 38 00:03:32,958 --> 00:03:34,540 ฉันก็อธิบายไม่ถูกหรอก 39 00:03:34,541 --> 00:03:36,624 แต่มันช่างแตกต่าง 40 00:03:36,625 --> 00:03:39,333 จากสิ่งที่พวกเราเคยได้ทํามาก่อน 41 00:03:44,541 --> 00:03:48,374 ก็ชวนหวั่นใจอยู่นะ กับการอยู่ฝ่ายวางแผนที่ 42 00:03:48,375 --> 00:03:50,875 เพราะเรารู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นตรงไหนบ้าง 43 00:03:54,375 --> 00:03:58,582 วันนี้ สายตาของทั้งโลกจับจ้อง มายังอังกฤษและประชาชนของเรา 44 00:03:58,583 --> 00:04:01,249 ศัตรูมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ 45 00:04:01,250 --> 00:04:03,500 ในเครื่องเอสหนึ่งห้า บินต่ํามาก 46 00:04:04,375 --> 00:04:08,374 เหล่าทหารแห่งกองทัพอากาศหลวง ได้รับมอบหมายหน้าที่ 47 00:04:08,375 --> 00:04:12,041 ต้องปกป้องอธิปไตยของราชอาณาจักร บนเกาะเล็กๆ จากนาซีเยอรมนี 48 00:04:25,875 --> 00:04:28,166 เข้ามาใกล้แล้ว สัมผัสได้ 49 00:04:31,458 --> 00:04:32,833 มองซ้ายมองขวาไว้ 50 00:04:42,750 --> 00:04:45,207 เมื่อทํางานตรงนั้นเราก็ทุ่มใจเต็มที่ 51 00:04:45,208 --> 00:04:47,540 แทบจะคอยเชียร์ว่า "เร็วเข้า เอาให้โดน" 52 00:04:47,541 --> 00:04:49,000 เร็วเข้า 53 00:04:52,250 --> 00:04:54,250 ใจเราเหมือนอยู่ในสนามรบกับเขาด้วย 54 00:04:55,250 --> 00:04:57,499 ยิงให้ตก ดีมาก เรียบร้อยแล้ว 55 00:04:57,500 --> 00:04:59,625 โดนไปเต็มๆ เก่งมาก 56 00:05:03,916 --> 00:05:08,125 นั่นทําให้เกิดความใกล้ชิดระหว่างสาวๆ หนุ่มๆ 57 00:05:11,708 --> 00:05:13,500 พวกเขาหล่อเหลาดูดี 58 00:05:14,750 --> 00:05:17,958 เกิดความรักผลิบานไปทั่ว 59 00:05:19,833 --> 00:05:23,666 แต่ฉันไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองจะเจอชายในฝัน 60 00:05:30,625 --> 00:05:32,582 หากป้อมปราการเกาะนี้ตรึงกําลังไว้ได้ 61 00:05:32,583 --> 00:05:36,041 นั่นอาจช่วยสกัดแผนการครองโลกของฮิตเลอร์ 62 00:05:41,291 --> 00:05:45,124 ฮิตเลอร์กําลังรีบ คาดการณ์ได้ว่าจะต้องบุก 63 00:05:45,125 --> 00:05:46,875 {\an8}(เบอร์ลิน เยอรมนี) 64 00:05:52,958 --> 00:05:55,333 หากกองทัพอากาศอังกฤษ 65 00:05:56,333 --> 00:05:59,707 ทิ้งระเบิดใส่เราสอง สาม หรือสี่พันกิโล... 66 00:05:59,708 --> 00:06:01,374 (เสียงอดอล์ฟ ฮิตเลอร์) 67 00:06:01,375 --> 00:06:06,290 เราจะทิ้งระเบิดกลับไป แสนห้า แสนแปด สองแสนสาม... 68 00:06:06,291 --> 00:06:08,583 หรือสามแสนกิโลกรัมในคืนเดียว 69 00:06:13,458 --> 00:06:17,125 เราจะทําลายเมืองของมันให้ราบ 70 00:06:27,208 --> 00:06:30,374 เราจะทําลายเมืองของมันให้ราบ 71 00:06:30,375 --> 00:06:33,083 (ลอนดอน) 72 00:06:36,750 --> 00:06:40,958 ลอนดอนอยู่ในภาวะสงคราม และได้ยินสัญญาณเตือนภัยทางอากาศครั้งแรก 73 00:06:46,708 --> 00:06:48,999 วันนี้อังกฤษกังวลว่าเยอรมนี 74 00:06:49,000 --> 00:06:51,458 กําลังเตรียมการใหญ่เพื่อบุกเข้ายึดครองอังกฤษ 75 00:07:01,416 --> 00:07:03,582 (คําของฮิตเลอร์) 76 00:07:03,583 --> 00:07:06,458 (ประกาศจับ! ฆาตกรรม ลักพาตัว ลักทรัพย์และวางเพลิง) 77 00:07:11,291 --> 00:07:14,332 ในประเทศได้มีการประกาศ 78 00:07:14,333 --> 00:07:18,291 ออกกฎอําพรางแสงไฟ ตั้งแต่เวลาตะวันตกดินของคืนนี้ 79 00:07:23,125 --> 00:07:27,208 (พิพิธภัณฑ์เทท) 80 00:07:33,708 --> 00:07:36,875 (สวนสัตว์ลอนดอน) 81 00:07:42,875 --> 00:07:46,124 เด็ก 400,000 คนอพยพออกจากลอนดอนไปแล้ว 82 00:07:46,125 --> 00:07:48,625 จะมีเด็กที่ตามไปอีกมากในวันพรุ่งนี้ 83 00:07:50,125 --> 00:07:52,207 ยามนี้เป็นช่วงเวลายากลําบากนัก 84 00:07:52,208 --> 00:07:54,957 โดยเฉพาะเมื่อนับการที่ เด็กต้องพรากจากพ่อแม่ผู้ปกครอง 85 00:07:54,958 --> 00:07:58,041 แต่เราต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยเป็นสําคัญ 86 00:08:05,666 --> 00:08:07,540 (เอริค เบรดี้) 87 00:08:07,541 --> 00:08:08,874 ผมเป็นเด็กผู้ชาย 88 00:08:08,875 --> 00:08:10,624 (ผู้อพยพจากลอนดอน ขณะอายุ 5 ขวบ) 89 00:08:10,625 --> 00:08:13,625 สมัยนั้นเด็กผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ 90 00:08:16,875 --> 00:08:20,332 เขาสั่งห้ามไม่ให้วิ่งไปบอกลาพ่อแม่ 91 00:08:20,333 --> 00:08:22,458 หรือไปกอดจูบลากันเป็นครั้งสุดท้าย 92 00:08:35,291 --> 00:08:38,208 เมื่อก่อนผมจะคอยทําตามคิตตี้ พี่สาว 93 00:08:40,916 --> 00:08:42,707 ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้น 94 00:08:42,708 --> 00:08:45,333 เพราะพี่คิตตี้สัญญาว่าจะดูแลผม 95 00:08:52,333 --> 00:08:54,500 คุณแม่มีลางสังหรณ์ 96 00:08:57,833 --> 00:09:01,874 แม่มั่นใจว่าถ้าผมกับพี่คิตตี้ยังอยู่ที่ลอนดอน 97 00:09:01,875 --> 00:09:04,500 จะต้องเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับเราสองคน 98 00:09:11,791 --> 00:09:15,583 นั่นควรจะเหมือนกับไปเที่ยว เขาวาดภาพหลอกเราไว้แบบนั้น 99 00:09:22,625 --> 00:09:26,000 แต่นั่นคือจุดจบของบทหนึ่งในชีวิตผม 100 00:09:26,625 --> 00:09:28,625 จุดจบของวัยเด็ก 101 00:09:33,375 --> 00:09:36,208 ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าความจริงจะเป็นอย่างไร 102 00:09:47,708 --> 00:09:50,291 เขาบอกเราแค่ว่าจะต้องลงสนามรบ 103 00:09:54,166 --> 00:09:56,665 แต่เราไม่รู้หรอกว่าจะต้องรบกับอะไร 104 00:09:56,666 --> 00:09:59,666 (เสียงของอิดิธ ฮีพ) 105 00:10:02,375 --> 00:10:03,666 วันนั้นฉันเข้าเวรอยู่ 106 00:10:10,833 --> 00:10:14,041 แล้วก็มีเสียงตะโกนเตือนข้าศึกบุก เสียงดังวุ่นวายมากเลยล่ะ 107 00:10:18,000 --> 00:10:21,666 จากนั้นก็เห็นทัพเยอรมัน มากัน 400 ถึง 1,000 ลํา 108 00:10:22,166 --> 00:10:24,915 ศัตรูมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ 109 00:10:24,916 --> 00:10:27,666 ในเครื่องเอสหนึ่งห้า บินต่ํามาก 110 00:10:33,208 --> 00:10:35,249 เราเห็นอย่างนั้น เราก็คิดเลยว่า 111 00:10:35,250 --> 00:10:37,791 "ตายแล้ว พวกนั้นจะบินไปลอนดอน" 112 00:10:49,291 --> 00:10:52,291 (ท่าหลัก อีสต์เอนด์แห่งลอนดอน) 113 00:11:14,708 --> 00:11:17,707 คืนนั้นเป็นคืนเดือนกันยายนที่อากาศร้อน 114 00:11:17,708 --> 00:11:20,250 (ทอม เบตส์ ชาวย่านอีสต์เอนด์ อายุ 12 ปี) 115 00:11:23,291 --> 00:11:24,666 ผมเงยหน้ามองฟ้า 116 00:11:29,166 --> 00:11:31,500 เห็นเมฆลอยเป็นปุย 117 00:11:32,083 --> 00:11:33,916 แล้วก็มีลูกบอลเล็กๆ บนฟ้า 118 00:11:35,666 --> 00:11:37,791 ผมคิดเลยว่า "โอ๊ะ นั่นอะไรน่ะ" 119 00:11:42,000 --> 00:11:43,832 ตอนนั้นเราไม่ได้กลัวกันหรอก 120 00:11:43,833 --> 00:11:46,333 เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 121 00:11:52,625 --> 00:11:56,125 ผมเห็นระเบิดพวกนั้นตกลงมาจากฟ้า 122 00:12:00,375 --> 00:12:01,541 สวยน่าทึ่ง 123 00:12:13,208 --> 00:12:15,457 เราไปหลบตรงทางเดินที่ชั้นล่างสุดของแฟลต 124 00:12:15,458 --> 00:12:19,333 เพราะทันใดนั้นก็นึกได้ว่ามันร้ายแรงแค่ไหน 125 00:12:45,166 --> 00:12:50,958 (การทิ้งระเบิดปูพรมวันที่ 1 7 กันยายน 1940) 126 00:12:57,125 --> 00:12:59,540 ศูนย์ควบคุมมารับคําสั่ง 127 00:12:59,541 --> 00:13:03,708 ปั๊มน้ํา 100 เครื่องจากหน่วยอี ถึงสถานี 60 เตรียมพร้อม 128 00:13:12,666 --> 00:13:14,166 สวัสดียามค่ํา ที่นี่ลอนดอน 129 00:13:14,666 --> 00:13:16,832 ขณะรายงานอยู่นี้ยังเกิดเหตุไฟไหม้ใหญ่ 130 00:13:16,833 --> 00:13:20,541 ที่ท่าเรืออีกฝั่งแม่น้ํา และด้านตะวันออกของเขตอุตสาหกรรม 131 00:13:25,041 --> 00:13:27,832 ตลอดคืน รถดับเพลิงจากฝั่งตะวันตกของเมือง 132 00:13:27,833 --> 00:13:29,291 แล่นเข้ามาที่ฝั่งตะวันออก 133 00:13:36,666 --> 00:13:40,208 ผมเพิ่งเคยเห็นไฟไหม้จริงๆ กับตาครั้งแรก 134 00:13:47,291 --> 00:13:49,249 (ริชาร์ด โฮลสโกรฟ นักดับเพลิงรุ่นเยาว์ อายุ 17 ปี) 135 00:13:49,250 --> 00:13:50,957 พวกดับเพลิงรุ่นเก๋าเขาก็ช่วยเหลือ 136 00:13:50,958 --> 00:13:54,124 ด้วยการพูดว่า "ไม่เป็นไร ไอ้หนู ไม่ต้องกลัว ยืนข้างๆ ฉันไว้" 137 00:13:54,125 --> 00:13:56,166 ขอสายยาวสามเท่า 138 00:14:01,416 --> 00:14:05,540 "จับสายดับเพลิงไว้ให้มั่น ไม่ว่ายังไงก็ห้ามปล่อยมือเด็ดขาด 139 00:14:05,541 --> 00:14:08,666 เพราะถ้ามันดีดใส่ทีนี่ตายได้เลยนะ" 140 00:14:12,000 --> 00:14:13,583 อย่าขวางปลายน้ํา 141 00:14:15,750 --> 00:14:19,000 ดับเพลิงรุ่นเก๋าบอกว่า "ไหวไหม ไอ้หนู เป็นอะไรไหม ไอ้หนุ่ม" 142 00:14:20,625 --> 00:14:23,083 เรารู้สึกกลัว ก็กลัวจริงๆ 143 00:14:35,541 --> 00:14:38,040 ผมกําลังยืนบนอาคารสูงมาก 144 00:14:38,041 --> 00:14:43,000 จากตรงนี้เห็นทิวทัศน์ลอนดอนรอบตัวชัดเจน 145 00:14:43,541 --> 00:14:45,124 ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นเหตุน่าสยดสยอง 146 00:14:45,125 --> 00:14:48,041 คงจะเป็นภาพงามตาที่สุดเลยล่ะครับ 147 00:14:48,541 --> 00:14:51,375 ขอบฟ้าทางทิศใต้ทั้งหมด 148 00:14:51,875 --> 00:14:53,833 เรืองแสงไฟไหม้สว่างจ้า 149 00:14:54,791 --> 00:14:57,833 ราวกับเป็นวันแห่งการพิพากษา 150 00:14:58,666 --> 00:15:01,750 ตามที่จารึกไว้ในพระคัมภีร์บางฉบับ 151 00:15:03,958 --> 00:15:06,082 วันแห่งการพิพากษา 152 00:15:06,083 --> 00:15:11,458 (เชลซี ลอนดอนตะวันตก) 153 00:15:14,333 --> 00:15:15,832 (โจน วินด์นัม นักศึกษาศิลปะ อายุ 17 ปี) 154 00:15:15,833 --> 00:15:17,083 จังหวะยิ่งเร่งเร็วขึ้น 155 00:15:17,750 --> 00:15:19,291 คืนนี้จะเริ่มทิ้งระเบิดแล้ว 156 00:15:23,083 --> 00:15:26,750 ท้องฟ้าฝั่งท่าเรือแดงฉานราวกับ พระอาทิตย์ดวงใหญ่มหึมาใกล้ลับขอบฟ้า 157 00:15:33,041 --> 00:15:34,457 ชีวิตน่าทึ่ง! 158 00:15:34,458 --> 00:15:38,416 ไม่รู้เลยว่าเราจะโดนทิ้งระเบิด หรือมีใครหว่านเสน่ห์ใส่ในจังหวะไหนแน่ 159 00:15:40,208 --> 00:15:43,041 ฉันได้เจอหนุ่มหน้าตาดีชื่อว่ารูเพิร์ต 160 00:15:44,333 --> 00:15:47,250 แล้วเขาก็พยายามโน้มน้าวใจเหลือเกิน ให้ฉันยอมสละพรหมจรรย์ 161 00:15:53,750 --> 00:15:56,624 อันที่จริง ฉันชอบหนุ่มที่ห่ามนิดๆ อยู่แล้ว 162 00:15:56,625 --> 00:15:58,791 ฉันชอบชายที่หลงตนเป็นพระเจ้า 163 00:15:59,333 --> 00:16:00,582 (รูเพิร์ต เพื่อนบ้านของโจน) 164 00:16:00,583 --> 00:16:02,665 รูเพิร์ตเป็นคนที่อยู่ในจักรวาลนี้อย่างสบายใจ 165 00:16:02,666 --> 00:16:04,500 เขาคิดว่าตัวเองก็เป็นเจ้าโลกคนหนึ่ง 166 00:16:09,125 --> 00:16:11,666 ฉันอดรู้สึกไม่ได้ว่าทุกชั่วขณะ อาจเป็นจังหวะสุดท้าย 167 00:16:14,000 --> 00:16:16,000 แต่ที่อยู่ตรงข้ามกับความตายคือการใช้ชีวิต 168 00:16:17,916 --> 00:16:20,375 ฉันว่าพรุ่งนี้รูเพิร์ตจะยั่วฉันสําเร็จจนได้ 169 00:16:39,583 --> 00:16:42,500 ตอนออกมาจากบ้าน เราได้ยินเสียงไฟปะทุหนัก 170 00:16:43,583 --> 00:16:46,499 {\an8}(ทอม เบตส์ ชาวย่านอีสต์เอนด์ อายุ 12 ปี) 171 00:16:46,500 --> 00:16:49,541 ได้ยินเสียงจากท่ามาตั้งไกล 172 00:16:55,916 --> 00:16:58,291 พ่อสั่งผมไว้ก่อนจะเข้าประจําการทัพอากาศ 173 00:16:58,791 --> 00:17:00,291 "ดูแลแม่ให้ดีนะ" 174 00:17:05,166 --> 00:17:09,124 ผมเลยบอก "มีหลุมหลบภัยของทางการนะแม่ หลุมหลบภัยเออาร์พี" 175 00:17:09,125 --> 00:17:10,541 "ไปตรงนั้นกันดีกว่า" 176 00:17:14,291 --> 00:17:17,082 ผมรู้สึกว่านั่นน่าจะเป็นที่ปลอดภัย 177 00:17:17,083 --> 00:17:19,333 อยู่ในนั้นปัญหาอะไรก็มาไม่ถึง 178 00:17:32,083 --> 00:17:33,250 แต่มันกลับร้อน 179 00:17:33,750 --> 00:17:35,166 ร้อนขึ้นเรื่อยๆ 180 00:18:04,208 --> 00:18:07,750 ผมตะโกนเรียกแม่ คิดเลย "แม่อยู่ไหน" 181 00:18:10,125 --> 00:18:11,458 ไม่มีใครตอบ 182 00:18:14,666 --> 00:18:17,208 ตอนนั้นก็คิดได้ว่าเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นแล้ว 183 00:18:17,833 --> 00:18:19,041 ระเบิดลงที่นั่น 184 00:18:25,208 --> 00:18:27,874 (การทิ้งระเบิดปูพรมวันที่ 2 8 กันยายน 1940) 185 00:18:27,875 --> 00:18:30,290 บ้านเรือนและชีวิตที่ได้รับความเสียหายสาหัสที่สุด 186 00:18:30,291 --> 00:18:32,707 อยู่ที่ย่านชนชั้นแรงงานของอีสต์เอนด์ 187 00:18:32,708 --> 00:18:36,208 ถนนหลายสายที่มีบ้านหลังเล็กๆ เรียงราย ต่างถูกระเบิดเป็นจุณ 188 00:18:41,041 --> 00:18:44,582 รายงานขั้นต้นแจ้งว่า ผู้เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดลอนดอนคืนวันเสาร์ 189 00:18:44,583 --> 00:18:47,125 อยู่ที่ 400 ศพ บาดเจ็บอีก 1,400 คน 190 00:19:32,708 --> 00:19:35,790 {\an8}ตอนนั้นผมอยู่ที่บ้านพี่สาว มองเห็นบริคเลน 191 00:19:35,791 --> 00:19:37,790 {\an8}(เบอร์นาร์ด คอปส์ ชาวย่านอีสต์เอนด์ อายุ 13 ปี) 192 00:19:37,791 --> 00:19:41,041 {\an8}เชอร์ชิลออกมาเดินตรวจถนนเองเลย 193 00:19:44,375 --> 00:19:47,249 จู่ๆ เราก็ได้ยินเสียงตะโกน ทั้งเฮรับและโห่ไล่ 194 00:19:47,250 --> 00:19:50,916 แล้วเราก็เห็นเขา คนสําคัญ 195 00:19:51,875 --> 00:19:53,416 เขามีตัวตนจริง 196 00:19:58,416 --> 00:20:01,374 ชื่อเชอร์ชิลถือเป็นเสนียดในบ้านผม 197 00:20:01,375 --> 00:20:02,791 จนกระทั่งสงครามมาเยือน 198 00:20:04,250 --> 00:20:06,875 เมื่อนั้นชื่อเขาก็กลายเป็นเทพจุติ 199 00:20:14,708 --> 00:20:15,999 {\an8}(เสียงวินสตัน เชอร์ชิล) 200 00:20:16,000 --> 00:20:19,291 การทิ้งระเบิดลอนดอน อย่างป่าเถื่อนตามอําเภอใจ 201 00:20:20,291 --> 00:20:24,375 อยู่ในแผนการยึดครอง เกาะอังกฤษของฮิตเลอร์อย่างแน่นอน 202 00:20:25,708 --> 00:20:29,000 เขาไม่รู้เสียแล้วว่าจิตวิญญาณชาติอังกฤษ 203 00:20:29,750 --> 00:20:32,833 อีกทั้งสายใยแกร่งทนของชาวลอนดอน 204 00:20:33,708 --> 00:20:37,541 เกิดมาโดยเห็นคุณค่าของอิสรภาพ เหนือกว่าชีวิตตนเองมากนัก 205 00:20:43,708 --> 00:20:48,125 นี่เป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนต้องยืนหยัดยึดมั่นกันไว้ 206 00:20:49,416 --> 00:20:53,458 ประชาชนชาวลอนดอนกําลังเผชิญภัยมหันต์ 207 00:20:54,166 --> 00:20:57,124 โดยที่ยังไม่รู้ว่าปลายทางนี้จะหนักหนา 208 00:20:57,125 --> 00:20:59,125 หรือสาหัสเพียงใด 209 00:21:05,250 --> 00:21:06,750 เขาพาตัวผมออกจากโรงพยาบาล 210 00:21:10,541 --> 00:21:12,083 {\an8}คุณพ่อหาผมจนเจอ 211 00:21:12,208 --> 00:21:15,875 {\an8}(ทอม เบตส์ ชาวย่านอีสต์เอนด์ อายุ 12 ปี) 212 00:21:16,708 --> 00:21:19,750 {\an8}ผมถามพ่อว่า "แม่อยู่ไหน พ่อ แม่อยู่ไหน" 213 00:21:21,750 --> 00:21:22,750 พ่อพูดแค่ว่า 214 00:21:23,583 --> 00:21:24,666 "แม่ตายแล้ว" 215 00:21:28,125 --> 00:21:32,708 แทงใจผมมาก รู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน 216 00:21:35,208 --> 00:21:37,499 ผมเป็นคนพาแม่ไปที่หลุมหลบภัยนรกนั่น 217 00:21:37,500 --> 00:21:39,333 แล้วแม่ก็มาตายไป 218 00:21:42,083 --> 00:21:46,666 ผมไม่เคยทําใจได้ ตลอดชีวิต ไม่เคยทําใจได้ 219 00:21:53,041 --> 00:21:55,833 เจ้าฟ้าหญิงเอลิซาเบธ 220 00:21:57,458 --> 00:22:02,457 พวกท่านนับพันๆ คนในประเทศนี้ ต้องอพยพพลัดถิ่น 221 00:22:02,458 --> 00:22:06,041 และถูกพรากจากบุพการี 222 00:22:09,708 --> 00:22:14,415 เราขอแสดงความเห็นใจอย่างยิ่ง ต่อผู้ที่ต้องไปอาศัยในสภาพแวดล้อมใหม่ 223 00:22:14,416 --> 00:22:16,832 (เจ้าฟ้าหญิงเอลิซาเบธ อายุ 14 ออกอากาศครั้งแรก) 224 00:22:16,833 --> 00:22:17,957 และในขณะเดียวกัน 225 00:22:17,958 --> 00:22:19,124 (เวลส์) 226 00:22:19,125 --> 00:22:21,040 เราขอขอบคุณเหล่าผู้มีน้ําใจไมตรี 227 00:22:21,041 --> 00:22:24,166 ที่ต้อนรับพวกท่านในบ้านพักตามชนบท 228 00:22:25,250 --> 00:22:27,999 ช่วยเดินไปตามชานชาลาเลยนะ 229 00:22:28,000 --> 00:22:29,999 เดินให้เร็วที่สุดด้วย 230 00:22:30,000 --> 00:22:31,915 มีคนบอกว่าพวกเรามาถึงเวลส์ 231 00:22:31,916 --> 00:22:33,791 (เอริค เบรดี้ ผู้อพยพ อายุ 5 ปี) 232 00:22:33,916 --> 00:22:36,125 คนที่นั่นพูดสําเนียงประหลาด 233 00:22:42,625 --> 00:22:45,624 ชั้นเรียนของผมต้องเดินไปทางหนึ่ง 234 00:22:45,625 --> 00:22:48,083 ชั้นเรียนของพี่สาวไปอีกทาง 235 00:22:54,166 --> 00:22:56,707 เหล่าคุณผู้หญิงที่เป็นคณะทํางานจัดการ 236 00:22:56,708 --> 00:23:01,416 ให้ผู้ปกครองบุญธรรม เลือกเด็กคนที่ต้องการได้ 237 00:23:06,625 --> 00:23:09,000 สุดท้ายก็เหลือผมอยู่คนเดียว 238 00:23:09,708 --> 00:23:11,666 ไม่เหลือผู้ปกครองบุญธรรมแล้ว 239 00:23:13,333 --> 00:23:15,083 เมื่อนั้นผมถึงได้กลัวขึ้นมา 240 00:23:19,833 --> 00:23:22,458 จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้า 241 00:23:22,958 --> 00:23:26,958 คุณผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาบอกว่า "ยังเหลือเด็กอพยพอีกไหม" 242 00:23:30,791 --> 00:23:33,207 หล่อนว่า "ไม่ค่อยถูกใจหน้าตาเขา 243 00:23:33,208 --> 00:23:35,166 อยากได้เด็กผู้หญิงมากกว่าด้วย" 244 00:23:37,666 --> 00:23:39,666 ผมพยายามยิ้มเอาชนะใจหล่อน 245 00:23:41,750 --> 00:23:45,416 จนหล่อนบอกว่า "เอ้า ก็ได้ คนนี้ก็ได้" 246 00:23:47,625 --> 00:23:49,833 แล้วผมก็ไปกับหญิงประหลาดคนนั้น 247 00:23:50,833 --> 00:23:52,333 ไม่เห็นวี่แววของพี่คิตตี้เลย 248 00:23:58,416 --> 00:24:02,665 ตอนนั้นมีความเกลียดชังเด็กอพยพจากลอนดอน 249 00:24:02,666 --> 00:24:05,665 ในสายตาของชาวเมืองเหมืองแห่งนี้ 250 00:24:05,666 --> 00:24:08,375 เพราะก่อนหน้านั้น คนงานเหมืองเพิ่งหยุดงานประท้วง 251 00:24:12,083 --> 00:24:15,499 ทําให้พวกเขาเกลียดรัฐบาลใหญ่ที่ลอนดอนมาก 252 00:24:15,500 --> 00:24:18,875 พวกเขาเกลียดวินสตัน เชอร์ชิลมากด้วย 253 00:24:21,666 --> 00:24:23,791 แล้วผมก็จําได้ว่ามีเด็กสามคน 254 00:24:25,208 --> 00:24:28,833 พวกนั้นชอบแกล้งเรา เราก็จะมีเรื่องกับเขา 255 00:24:33,458 --> 00:24:35,790 แล้วคุณแม่บุญธรรมจะบอกว่า 256 00:24:35,791 --> 00:24:40,832 "เด็กอพยพลอนดอนนี่นะ หนีสงครามมา 257 00:24:40,833 --> 00:24:42,958 เพื่อมาก่อสงครามใหม่ที่นี่รึ" 258 00:24:58,208 --> 00:25:02,666 เราอยากบีบให้ชาวลอนดอน ไปอยู่ในหลุมหลบภัยทางอากาศ 259 00:25:09,041 --> 00:25:14,290 เราไม่ได้บินไปที่อื่นนอกจากลอนดอนเลย 260 00:25:14,291 --> 00:25:16,166 (อูลริช ชไตน์ฮิลเปอร์ นักบินลุฟต์วาฟเฟอ) 261 00:25:19,875 --> 00:25:22,500 ไปทุกๆ 20 นาที ไปเป็นคลื่นทีละฝูง 262 00:25:25,375 --> 00:25:31,875 เราเชื่อว่าทําแบบนี้ อังกฤษจะต้องแพ้หมดรูป 263 00:25:38,500 --> 00:25:41,041 ที่นี่จัตุรัสทราฟัลการ์ 264 00:25:42,666 --> 00:25:47,208 ท่านกําลังได้ยินเสียงหวอ เตือนการโจมตีทางอากาศ 265 00:26:03,791 --> 00:26:08,583 (การทิ้งระเบิดปูพรมวันที่ 6 13 กันยายน 1940) 266 00:26:12,583 --> 00:26:14,374 ที่พระราชวังบัคกิ้งแฮม 267 00:26:14,375 --> 00:26:18,208 พระมหากษัตริย์และพระราชินีทอดพระเนตร หลักฐานว่าทรงหนีไปอย่างฉิวเฉียด 268 00:26:19,750 --> 00:26:21,499 เมื่อบ้านของพระองค์เองยังถูกระเบิด 269 00:26:21,500 --> 00:26:24,249 ล้นเกล้าทั้งสองตรัสด้วยความเข้าใจและเห็นใจ 270 00:26:24,250 --> 00:26:28,416 ต่อพสกนิกรที่ล้วนเป็นเหยื่อ ความโหดร้ายทารุณของนาซีเยอรมนี 271 00:26:31,541 --> 00:26:33,833 ตอนที่ในหลวงกับพระราชินีเสด็จ 272 00:26:35,000 --> 00:26:37,082 {\an8}คนส่วนใหญ่ก็เฮรับ แต่ก็มีคนพูดว่า 273 00:26:37,083 --> 00:26:39,458 {\an8}"กลับวังบัคกิ้งแฮมไปเลย" 274 00:26:40,416 --> 00:26:42,583 "แค่นี้กล้าพูดว่าโดนระเบิดเหรอ โดนแค่ลูกเดียว" 275 00:26:43,291 --> 00:26:44,791 "พวกเราโดนกันเป็นพันๆ" 276 00:26:49,958 --> 00:26:53,875 ย่านอีสต์เอนด์มีหลุมหลบภัยไม่เพียงพอ 277 00:26:56,916 --> 00:26:59,291 เรารู้สึกว่าทางรถไฟใต้ดินน่าจะเป็นที่เหมาะ 278 00:27:03,083 --> 00:27:06,458 แต่รัฐบาลตัดสินใจไม่ยอมเปิดสถานีรถไฟใต้ดินให้ 279 00:27:15,125 --> 00:27:19,707 เราจึงรวมตัวประท้วง ให้เปิดรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบระเบิด 280 00:27:19,708 --> 00:27:21,707 (ฟิล พิราทิน ผู้นําคอมมิวนิสต์อีสต์เอนด์) 281 00:27:21,708 --> 00:27:25,000 โรงแรมซาวอย นั่นเป็นเป้าหมายหลัก 282 00:27:31,750 --> 00:27:34,165 เราจะยกระดับสถานการณ์ 283 00:27:34,166 --> 00:27:37,458 เข้ายึดที่หลบภัยในโรงแรมซาวอย 284 00:27:44,416 --> 00:27:47,541 รวมๆ แล้วมีคนมาร่วมขบวนการ 78 คน 285 00:27:49,000 --> 00:27:51,374 (หลุมหลบภัยทางอากาศซาวอย) 286 00:27:51,375 --> 00:27:54,916 เราเข้าไปยึดที่ซึ่งเราไม่มีสิทธิ์จะเข้า 287 00:27:55,458 --> 00:27:57,125 แล้วตํารวจก็โผล่มา 288 00:28:05,000 --> 00:28:08,375 เจ้าหน้าที่ตํารวจคนหนึ่งถามว่า คิดจะทําอะไรกันแน่ 289 00:28:08,958 --> 00:28:12,541 ผมตอบว่า "ที่จริงไม่อยากได้ที่นี่หรอก อยากให้เปิดรถไฟใต้ดินมากกว่า" 290 00:28:13,958 --> 00:28:16,832 (คนงานอีสต์เอนด์บุกซาวอย) 291 00:28:16,833 --> 00:28:21,666 (กลุ่มห้าวโห่เรียกร้องอภิสิทธิ์ ในโรงแรมหรูกลางลอนดอน) 292 00:28:22,666 --> 00:28:23,999 รัฐบาลประกาศ 293 00:28:24,000 --> 00:28:26,958 ไม่อนุญาตให้ประชาชน เข้าไปหลบภัยในระบบรถไฟใต้ดิน 294 00:28:28,208 --> 00:28:30,874 แต่ความคืบหน้าที่น่าประหลาดใจที่สุด ในสงครามเพี้ยนพิลึกนี้ 295 00:28:30,875 --> 00:28:33,082 คือการที่ชาวลอนดอนลุกขึ้นมาจัดการ 296 00:28:33,083 --> 00:28:35,208 และแก้ปัญหาที่หลบภัยใต้ดินลึก 297 00:28:39,666 --> 00:28:41,290 เขาลือกันทั่ว 298 00:28:41,291 --> 00:28:43,374 "ไปหลบในอุโมงค์รถไฟใต้ดินแล้วจะปลอดภัย" 299 00:28:43,375 --> 00:28:46,499 (เบอร์นาร์ด คอปส์ ชาวย่านอีสต์เอนด์ อายุ 13 ปี) 300 00:28:46,500 --> 00:28:49,791 เราไปเจอประตูปิด มีทหารคุม 301 00:28:53,916 --> 00:28:56,166 คนก็มามุงกันด้านหลังเรามากขึ้นทุกที 302 00:28:59,625 --> 00:29:01,374 ช่วยกันเขย่าลูกกรง 303 00:29:01,375 --> 00:29:02,708 "ขอเข้าไปหน่อย!" 304 00:29:08,125 --> 00:29:10,375 ทันใดนั้นก็มีเสียงคํารามกึกก้อง 305 00:29:12,250 --> 00:29:14,708 คนในรัฐบาลเปลี่ยนใจแล้ว 306 00:29:16,625 --> 00:29:20,375 พ่อบอกว่านี่เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของชนชั้นแรงงาน 307 00:29:25,083 --> 00:29:28,208 แล้วนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตใต้ดิน 308 00:29:42,458 --> 00:29:44,624 ช่วงฟ้าใหม่พลิกชะตาในศึกอังกฤษ 309 00:29:44,625 --> 00:29:46,999 หลังจากรอหลายสัปดาห์ กองบัญชาการทหารสูงสุดเยอรมัน 310 00:29:47,000 --> 00:29:49,624 บุกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ เล่นงานกองเรือและท่าเรือ 311 00:29:49,625 --> 00:29:51,790 แต่ละวัน เครื่องบินทิ้งระเบิดและนักบินนาซี 312 00:29:51,791 --> 00:29:54,208 โผคํารามข้ามช่องแคบอังกฤษมาเป็นร้อยๆ ลํา 313 00:30:01,708 --> 00:30:05,707 ปราการเกาะแห่งนี้ เป็นด่านสุดท้ายของยุโรปตะวันตก 314 00:30:05,708 --> 00:30:07,875 ที่ตระหง่านขวางความทะเยอทะยานของฮิตเลอร์ 315 00:30:12,666 --> 00:30:15,125 กองทัพอากาศหลวง เป็นกองทัพอากาศชั้นเลิศระดับโลก 316 00:30:16,000 --> 00:30:19,625 แต่เยอรมนียังเหนือกว่าทางด้านจํานวนเครื่องบิน 317 00:30:27,916 --> 00:30:29,582 {\an8}เราต้องชนะสงคราม 318 00:30:29,583 --> 00:30:32,291 {\an8}แล้วเราก็ตั้งใจจะชนะให้ได้ ไม่ว่าด้วยทางใด 319 00:30:33,708 --> 00:30:37,249 เรารู้ว่ากําลังต่อสู้เพื่อการคงอยู่ของเรา 320 00:30:37,250 --> 00:30:39,250 แล้วจะไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ 321 00:30:42,750 --> 00:30:45,416 ตอนนั้นพวกเราน่าจะมีกันหนึ่งร้อยคนได้ 322 00:30:46,000 --> 00:30:49,625 พวกผู้ชายก็ให้ความนับถือกันดี 323 00:30:50,333 --> 00:30:51,666 เขายอมรับเรา 324 00:30:53,375 --> 00:30:55,582 เรารู้สึกตื้นตันยินดี 325 00:30:55,583 --> 00:30:58,750 ที่เราอยู่ได้ด้วยตัวเอง และทํางานของเราเองได้ 326 00:31:10,458 --> 00:31:14,416 ครั้งแรกที่เจอเดนิส ฉันขับรถแทรคเตอร์ลากเครื่องอยู่ 327 00:31:18,750 --> 00:31:21,833 เขาเอาทรายมาใส่เครื่องเพื่อให้มันเสีย 328 00:31:23,583 --> 00:31:27,333 ฉันจึงบังคับให้เขาติดเครื่องใหม่ สั่งเขาว่า "หยุดรถได้ ก็ต้องติดใหม่ให้ได้" 329 00:31:29,083 --> 00:31:32,166 (ภาพของอิดิธ ฮีพ) 330 00:31:34,250 --> 00:31:35,500 เขาก็ทําได้ 331 00:31:40,708 --> 00:31:43,832 เดนิสค่อนข้างรูปร่างกํายํา แผ่นหลังตรง 332 00:31:43,833 --> 00:31:46,083 เขาก็หน้าตาดีตามสมควร 333 00:31:50,541 --> 00:31:52,499 เขาแทบไม่เคยยิ้มกว้างๆ 334 00:31:52,500 --> 00:31:54,249 เพราะอายที่มีฟันสองซี่ที่ไม่สวย 335 00:31:54,250 --> 00:31:55,957 (เดนิส วิสเลอร์ นักบินกองทัพอากาศ) 336 00:31:55,958 --> 00:31:57,750 แต่เขาก็มีวิธียิ้มของเขา 337 00:31:58,958 --> 00:32:03,000 แล้วเขาก็ตัดสินใจว่าเขาชอบฉัน 338 00:32:07,333 --> 00:32:11,041 เขาถามว่า "คุณจะไปงานเต้นของฝูงบินไหม" 339 00:32:11,666 --> 00:32:12,750 ฉันก็ตอบว่า "ไปสิ" 340 00:32:17,208 --> 00:32:21,541 ตอนออกเวร เราก็แห่กันเข้าไป เขารอฉันอยู่ในนั้นแล้ว 341 00:32:31,333 --> 00:32:33,665 เราโชคดีมากที่ได้เจอกัน 342 00:32:33,666 --> 00:32:36,708 ถ้าไม่มีสงคราม เราคงไม่มีทางพบกัน 343 00:32:41,083 --> 00:32:42,416 เขาเป็นคนตลก 344 00:32:43,041 --> 00:32:45,290 แล้วก็เป็นคนโรแมนติกเหลือเกิน 345 00:32:45,291 --> 00:32:46,750 เราหัวเราะกันหนักมาก 346 00:32:50,291 --> 00:32:55,458 ฉันคิดว่าสถานการณ์ทําให้รักนั้น ยิ่งรุนแรงขึ้น ดีขึ้น และแกร่งขึ้น 347 00:32:58,666 --> 00:33:00,999 ลมหายใจทุกขณะที่อยู่ด้วยกันช่างมีค่า 348 00:33:01,000 --> 00:33:04,958 เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน 349 00:33:13,791 --> 00:33:17,124 ศึกลอนดอนมาถึงช่วงท้ายของเดือนแรก 350 00:33:17,125 --> 00:33:19,083 ลอนดอนยังคงยืนหยัด 351 00:33:19,583 --> 00:33:25,208 (การทิ้งระเบิดปูพรมวันที่ 24 1 ตุลาคม 1940) 352 00:33:26,458 --> 00:33:29,500 เมืองนี้เหนื่อยล้าเหลือแสน แต่จิตวิญญาณยังกล้าแกร่งแน่วแน่ 353 00:33:33,833 --> 00:33:34,958 เรารับได้ 354 00:33:35,666 --> 00:33:38,624 ถ้าเขาคิดว่าจะชนะสงคราม ด้วยการทิ้งระเบิดใส่เด็กและสตรี 355 00:33:38,625 --> 00:33:40,166 เขาคาดผิดมหันต์แล้ว 356 00:33:41,916 --> 00:33:44,500 ที่นี่ลอนดอน เรายังมีชีวิตและสู้อยู่ 357 00:33:46,166 --> 00:33:47,625 สวัสดีค่ะ ขอทุกคนโชคดี 358 00:33:56,000 --> 00:33:59,915 ฉันคิดวนไปมาจนเพลิงปรารถนา ที่มีต่อรูเพิร์ตร้อนรุ่มเมื่อเขาไม่อยู่ด้วย 359 00:33:59,916 --> 00:34:01,750 ฉันไม่ได้เจอเขามาทั้งสัปดาห์ 360 00:34:03,416 --> 00:34:04,915 ตลอดเช้าก็เฝ้าคิดถึงเขา 361 00:34:04,916 --> 00:34:07,791 นั่งจินตนาการว่าจะทนมีชีวิต โดยไม่มีเขาไปได้อีกนานแค่ไหน 362 00:34:11,458 --> 00:34:13,832 ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันเห็นเครื่องบินเยอรมัน 17 ลํา 363 00:34:13,833 --> 00:34:16,291 พร้อมกับลูกปืนโปรยลงมาเป็นร้อยๆ 364 00:34:18,583 --> 00:34:19,500 ได้ยินเสียงตะโกน... 365 00:34:23,041 --> 00:34:24,707 (รูเพิร์ต แฟนหนุ่มของโจน) 366 00:34:24,708 --> 00:34:27,082 นั่นก็เสียงอาร์ วิ่งมาตามถนน 367 00:34:27,083 --> 00:34:29,125 ไม่สนใจปืนอากาศยานเลย 368 00:34:38,583 --> 00:34:40,999 เราเจอคาเฟ่มีระดับชื่อเมานท์วิว 369 00:34:41,000 --> 00:34:42,708 ที่มีวงใส่เสื้อโค้ตแดงเล่นอยู่ 370 00:34:45,125 --> 00:34:47,874 เสาประดับกระจกใหญ่วับวาวเมื่อได้แสง 371 00:34:47,875 --> 00:34:50,291 ฉันมีความสุขจนแทบจะเรียกได้ว่าเมามาย 372 00:34:51,541 --> 00:34:54,166 ทุกอย่างดูแรงเร้าเร็วกว่าปกติ 373 00:34:58,750 --> 00:35:00,832 เราเต้นจนเหนื่อยและเดินกลับ 374 00:35:00,833 --> 00:35:03,000 ผ่านซากปรักหักพังของถนนชาฟส์บิวรี 375 00:35:06,125 --> 00:35:08,083 เราเล่นรักกันอย่างจริงจังมาก 376 00:35:09,916 --> 00:35:12,291 ฉันอิ่มเอมไปด้วยความสงบพึงใจ 377 00:35:13,125 --> 00:35:15,874 นี่เป็นหนึ่งในเรื่องดีงามสะใจที่ยังเหลืออยู่ 378 00:35:15,875 --> 00:35:17,500 ในชีวิตอันย่ําแย่ที่สุดนี้ 379 00:35:26,833 --> 00:35:30,333 หากพวกเยอรมันหมายจะทําลาย ขวัญกําลังใจของชาวลอนดอน 380 00:35:30,916 --> 00:35:32,541 พวกเขาก็คิดผิดอย่างมหันต์ 381 00:35:39,791 --> 00:35:42,540 ทางเยอรมันดูเหมือนจะเปลี่ยนนโยบาย 382 00:35:42,541 --> 00:35:44,666 ด้านการโจมตีสหราชอาณาจักร 383 00:35:45,791 --> 00:35:47,916 โดยหวังจะสร้างความเสียหายหนักขึ้นอีก 384 00:35:56,333 --> 00:35:59,541 ผู้นําเยอรมันบอกใบ้เป็นนัยๆ ว่า สงครามนี้อาจยืดเยื้อ 385 00:36:03,666 --> 00:36:07,125 พวกเราทุกคนรู้ว่าจะเป็นภารกิจที่ยาก 386 00:36:10,541 --> 00:36:13,790 ทุกวันจะมีนักบินที่ไม่ได้กลับบ้าน 387 00:36:13,791 --> 00:36:17,040 {\an8}(แกร์ฮาร์ด เครมส์ นักบินลุฟต์วาฟเฟอ อายุ 20 ปี) 388 00:36:17,041 --> 00:36:18,583 {\an8}ทุกคนขึงขังจริงจัง 389 00:36:23,791 --> 00:36:27,666 ก่อนบินขึ้น ผมมักคิดว่า "เราจะกลับมาอย่างปลอดภัยไหมนะ" 390 00:36:29,791 --> 00:36:31,208 "ตัวเราจะปลอดภัยหรือเปล่า" 391 00:36:33,208 --> 00:36:35,541 "จะได้เห็นบ้านเกิดอีกไหม" 392 00:36:39,666 --> 00:36:42,249 (โคเวนทรี) 393 00:36:42,250 --> 00:36:44,750 (มิดแลนด์ส อังกฤษ) 394 00:36:49,416 --> 00:36:52,666 โคเวนทรีฉลองประวัติศาสตร์ ด้วยงานแห่เทพีโกไดวา 395 00:36:57,125 --> 00:36:59,249 โคเวนทรีเป็นเขตอุตสาหกรรมสําคัญจนถึงทุกวันนี้ 396 00:36:59,250 --> 00:37:00,999 เพราะเคาน์เตสโกไดวา 397 00:37:01,000 --> 00:37:04,833 ผู้ยอมปลดเปลื้องทรัพย์ศฤงคาร เพื่อกู้อิสรภาพให้แก่เมืองนี้ 398 00:37:10,250 --> 00:37:13,832 เมืองโบราณซึ่งโรงงานนับร้อยในนั้น 399 00:37:13,833 --> 00:37:16,541 ผลิตเครื่องกลและเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดในโลก 400 00:37:19,958 --> 00:37:22,707 เราต้องการสตรีจํานวนมาก เข้าทํางานในโรงผลิตอาวุธ 401 00:37:22,708 --> 00:37:24,582 เข้าหน่วยเสริมของกองทัพ 402 00:37:24,583 --> 00:37:29,166 โดยเฉพาะสตรีที่สามารถออกจากบ้าน และไปตามจุดหมายที่กําหนดได้ 403 00:37:36,791 --> 00:37:38,957 มันคือความตื่นเต้นที่ได้ไปในที่ใหม่ๆ 404 00:37:38,958 --> 00:37:40,165 ได้ทําอะไรใหม่ๆ 405 00:37:40,166 --> 00:37:41,915 (ฟรีดา แอนเดอร์สัน คนงานโรงงาน) 406 00:37:41,916 --> 00:37:45,083 โคเวนทรี โคเวนทรี นี่คือโคเวนทรี 407 00:37:46,125 --> 00:37:48,833 ถึงพ่อจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนใจ 408 00:37:51,125 --> 00:37:54,082 พ่อฉันอยากให้ครอบครัวอยู่ด้วยกัน 409 00:37:54,083 --> 00:37:56,916 และโอกาสเดียวที่จะได้เติบโตมีแต่ต้องหนีไป 410 00:38:00,375 --> 00:38:02,041 แต่ไม่ค่ะ ฉันตั้งใจมั่น 411 00:38:02,541 --> 00:38:04,625 ฉันจะไปทํางานเพื่อสงคราม 412 00:38:08,958 --> 00:38:11,375 มีคนพาไปที่โรงงานในวันรุ่งขึ้น 413 00:38:12,625 --> 00:38:14,374 ทุกคนขี่จักรยานกัน 414 00:38:14,375 --> 00:38:17,541 คนเป็นร้อยๆ ขี่จักรยานมาทํางาน 415 00:38:22,541 --> 00:38:24,375 เมื่อเสียงหวอแรกดังขึ้น 416 00:38:28,791 --> 00:38:32,375 เขาก็พูดว่า "เธอพกโชคร้ายมาด้วย เราไม่อยากให้อยู่" 417 00:38:52,416 --> 00:38:55,083 พวกนั้นยิงปืนกลใส่คนบนจักรยาน 418 00:38:57,958 --> 00:39:00,625 ฉันก็อุทานว่า "คนพวกนี้เป็นอะไรกัน" 419 00:39:04,208 --> 00:39:06,250 ฉันเห็นคนล้มไปต่อหน้า 420 00:39:33,958 --> 00:39:36,374 {\an8}เราทุกคนแค่ทําตามหน้าที่ 421 00:39:36,375 --> 00:39:40,083 {\an8}ไม่ได้มีใครอยากทําร้ายพลเรือน 422 00:39:53,791 --> 00:39:58,582 กลยุทธ์โจมตีโคเวนทรี เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้อังกฤษ 423 00:39:58,583 --> 00:40:00,791 เป็นกลยุทธ์ที่ตื้นเขินมาก 424 00:40:19,250 --> 00:40:21,875 เมื่อเริ่มโจมตีทางอากาศ เราก็รู้ว่าต้องหนักแน่ 425 00:40:22,625 --> 00:40:24,499 เราทุกคนไปหลบใต้บันได 426 00:40:24,500 --> 00:40:26,415 (ฟรีดา แอนเดอร์สัน คนงานในโรงงาน) 427 00:40:26,416 --> 00:40:30,208 ทุกคนบอกว่าตรงนั้นเหมาะที่สุด ปลอดภัยสุด 428 00:40:33,666 --> 00:40:36,416 แต่ทันใดนั้นทุกอย่างก็มืดลงและ... 429 00:40:38,125 --> 00:40:39,333 ไฟไหม้ 430 00:40:41,708 --> 00:40:45,040 ฉันไว้ผมยาว ผมก็เริ่มไหม้ 431 00:40:45,041 --> 00:40:47,083 ตอนนั้นมันน่ากลัวมาก 432 00:40:51,708 --> 00:40:54,041 ฉันคิดเลยว่ากําลังจะโดนไฟคลอกทั้งเป็น 433 00:41:00,000 --> 00:41:04,375 (การทิ้งระเบิดปูพรมวันที่ 69 15 พฤศจิกายน 1940) 434 00:41:12,500 --> 00:41:15,665 ขอย้ําเตือนถึงความสําคัญยิ่ง 435 00:41:15,666 --> 00:41:20,083 ที่จะต้องต้มน้ําทั้งหมดก่อนบริโภคในโคเวนทรี 436 00:41:20,666 --> 00:41:22,499 ไม่ว่าได้น้ํานั้นมาจากไหน 437 00:41:22,500 --> 00:41:25,833 ขอให้ทุกท่านต้มน้ําก่อนนําไปใช้ด้วย 438 00:41:27,625 --> 00:41:30,791 (วิหารโคเวนทรี) 439 00:41:34,708 --> 00:41:38,375 เรากลับมาที่เอดินบะระด้วยสภาพผู้อพยพ 440 00:41:46,666 --> 00:41:48,500 ฉันหวาดผวาไปหมด 441 00:41:54,333 --> 00:41:58,333 ตอนที่กลับมาแล้วได้ยินเสียงหวอครั้งแรกๆ 442 00:42:00,166 --> 00:42:02,458 ฉันผวาจนแทบจะเสียสติ 443 00:42:15,208 --> 00:42:17,290 {\an8}เครื่องบินเยอรมันโจมตีพร้อมกันหลายจุด 444 00:42:17,291 --> 00:42:19,040 {\an8}ในสหราชอาณาจักรเมื่อคืนนี้ 445 00:42:19,041 --> 00:42:21,249 {\an8}(ช่องแคบอังกฤษ) 446 00:42:21,250 --> 00:42:23,415 การโจมตีทางอากาศซึ่งดําเนินไปหลายชั่วโมง 447 00:42:23,416 --> 00:42:25,916 กระจายทั่วหลายส่วนของประเทศ 448 00:42:27,791 --> 00:42:30,040 มีการทิ้งระเบิดเพลิงในหลายจุด 449 00:42:30,041 --> 00:42:31,291 (พลีมัธ) 450 00:42:31,416 --> 00:42:32,916 เมืองแถบชายฝั่งทางใต้... 451 00:42:33,750 --> 00:42:36,665 (พลีมัธ) 452 00:42:36,666 --> 00:42:39,749 (เสียชีวิต) 453 00:42:39,750 --> 00:42:42,791 (เซาท์แธมป์ตัน) 454 00:42:45,875 --> 00:42:48,250 (เซาท์แธมป์ตัน) 455 00:42:49,583 --> 00:42:50,957 (บริสตอล) 456 00:42:50,958 --> 00:42:52,416 ทางตะวันตกของอังกฤษ... 457 00:42:53,000 --> 00:42:57,291 (บริสตอล) 458 00:42:59,291 --> 00:43:00,416 แคว้นมิดแลนด์ส 459 00:43:00,916 --> 00:43:05,708 (เบอร์มิงแฮม) 460 00:43:06,541 --> 00:43:07,665 ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ 461 00:43:07,666 --> 00:43:13,625 (แมนเชสเตอร์) 462 00:43:17,208 --> 00:43:19,082 (กลาสโกว์) 463 00:43:19,083 --> 00:43:23,040 (กลาสโกว์ สก็อตแลนด์) 464 00:43:23,041 --> 00:43:25,540 ตอนนี้คุมเพลิงทั้งหมดได้แล้ว 465 00:43:25,541 --> 00:43:27,625 (กลาสโกว์) 466 00:43:28,708 --> 00:43:31,707 การโจมตีทางอากาศเมื่อวานนี้ ตามคําสั่งกองบัญชาการสูงสุดเยอรมนี 467 00:43:31,708 --> 00:43:36,124 ให้เน้นไปที่ลิเวอร์พูล เพื่อให้อ่าวลิเวอร์พูลใช้การไม่ได้ 468 00:43:36,125 --> 00:43:37,582 (ลิเวอร์พูล) 469 00:43:37,583 --> 00:43:40,832 เครื่องบินทิ้งระเบิดเยอรมันเป็นร้อยๆ ลํา เน้นทิ้งระเบิดลิเวอร์พูล 470 00:43:40,833 --> 00:43:44,916 สร้างความเสียหายที่หนักหนากว่านั้นที่โคเวนทรี 471 00:43:48,250 --> 00:43:52,291 เชอร์ชิลเอาแต่พูดว่าพวกเรากล้าเพียงใด 472 00:43:55,916 --> 00:43:57,832 เราไม่มีทางยอมแพ้ 473 00:43:57,833 --> 00:44:00,749 {\an8}(มารี ไพรซ์ ชาวเมืองลิเวอร์พูล อายุ 17 ปี) 474 00:44:00,750 --> 00:44:03,999 {\an8}คนในลิเวอร์พูลหลังโดนทิ้งระเบิด 475 00:44:04,000 --> 00:44:06,250 น่าจะยอมแพ้ชั่วข้ามคืนนั่นแหละ 476 00:44:14,041 --> 00:44:17,708 คนมีอํานาจก็มองว่าไม่ร้ายแรงน่ะสิ 477 00:44:21,000 --> 00:44:25,333 นั่งสั่งการจากหลุมหลบภัยเสริมเหล็ก 478 00:44:29,125 --> 00:44:33,165 ใจฉันเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ที่พวกเยอรมันทํากับเราแบบนี้ได้ 479 00:44:33,166 --> 00:44:36,208 แล้วเราก็ตอบโต้อะไรไม่ได้เลย 480 00:44:38,916 --> 00:44:42,041 เราเป็นแค่คนธรรมดารอให้พวกนั้นมาฆ่า 481 00:44:48,208 --> 00:44:50,791 คุณคิดยังไงกับคําถามเรื่องการตอบโต้ 482 00:44:51,375 --> 00:44:53,707 ถ้าฉันเป็นผู้ชาย ฉันจะข้ามช่องแคบไป 483 00:44:53,708 --> 00:44:56,165 แล้วจะเล่นงานมัน แบบเดียวกับที่มันเล่นงานเราที่นี่ 484 00:44:56,166 --> 00:44:59,374 หลังเหตุครั้งนี้ คุณคิดอย่างไร หากเราจะข้ามไปโจมตีเบอร์ลิน 485 00:44:59,375 --> 00:45:01,000 ทําแบบเดียวกับพวกเขาบ้าง 486 00:45:02,458 --> 00:45:03,915 ผมก็คิดแบบนั้น 487 00:45:03,916 --> 00:45:07,249 แต่อยากเล่นหนักกว่านี้อีกสักหน่อย ในเมื่อไอ้ผู้นํามันร้ายกาจขนาดนั้น 488 00:45:07,250 --> 00:45:09,874 ตอนนี้คุณคิดว่าเราควรไปทิ้งระเบิดเบอร์ลินไหม 489 00:45:09,875 --> 00:45:11,874 แบบเดียวกับที่เขาทํากับเราที่ลอนดอน 490 00:45:11,875 --> 00:45:14,749 คิดแน่ๆ ครับ ทิ้งระเบิดมันเป็นสิบเท่า 491 00:45:14,750 --> 00:45:16,624 ผมสงสารทั้งเด็กและสตรีนะ 492 00:45:16,625 --> 00:45:19,125 แต่เด็กและสตรีของประเทศเราล่ะ 493 00:45:21,541 --> 00:45:26,000 (การทิ้งระเบิดปูพรมวันที่ 100 16 ธันวาคม 1940) 494 00:45:27,833 --> 00:45:29,124 (เสียงวินสตัน เชอร์ชิล) 495 00:45:29,125 --> 00:45:31,458 ผมมั่นใจว่าเราจะประสบความสําเร็จ ในการเอาชนะ 496 00:45:32,250 --> 00:45:34,416 การโจมตีที่รุนแรงร้ายกาจเช่นนี้ 497 00:45:37,208 --> 00:45:41,041 ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะสู้ตราบถึงวาระสุดท้าย 498 00:45:45,583 --> 00:45:49,999 เมืองแฝดแมนไฮม์-ลุดวิกชาเฟน ท่าเทียบเรือในอ่าวใหญ่อันดับสองในยุโรป 499 00:45:50,000 --> 00:45:51,750 กําลังจะโดนโจมตี 500 00:45:53,000 --> 00:45:55,332 ในวงกตของท่าเรือ โรงงานอุตสาหกรรม 501 00:45:55,333 --> 00:45:56,833 และโรงงานเคมี 502 00:46:18,375 --> 00:46:22,790 (กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร กองบัญชาการฝูงบินขับไล่) 503 00:46:22,791 --> 00:46:25,375 เมื่อเราใช้ชีวิตท่ามกลางความตายแบบนั้น 504 00:46:28,166 --> 00:46:32,333 คนไม่ค่อยคิดกันหรอกว่ามันจะเกิดกับเรา 505 00:46:37,541 --> 00:46:40,915 แต่เราจะเริ่มรู้ เขาก็จะเริ่มรู้ 506 00:46:40,916 --> 00:46:43,000 ว่ากระสุนจะมาถึงตัวเมื่อไหร่ 507 00:46:54,000 --> 00:46:56,833 เขาจะมีแววถึงฆาต 508 00:46:57,916 --> 00:47:01,458 จนเราคิดว่า "โธ่ รอบนี้จะไม่ได้กลับบ้านสินะ" 509 00:47:01,958 --> 00:47:03,458 เจ้าตัวก็จะรู้เหมือนกัน 510 00:47:17,875 --> 00:47:22,665 เดนิสบอกว่า "ได้วันพักรอบหน้า ไปเที่ยวด้วยกันได้ไหม" 511 00:47:22,666 --> 00:47:25,333 ฉันตอบว่า "ได้สิคะ ถ้าคุณอยากไป" 512 00:47:27,833 --> 00:47:30,541 เราจัดการนัดกันแล้วไปเคมบริดจ์ 513 00:47:33,916 --> 00:47:35,666 โรแมนติกสุดๆ เลยค่ะ 514 00:47:38,916 --> 00:47:39,916 มันช่าง... 515 00:47:41,791 --> 00:47:44,208 เหมือนฝันมากๆ เลย 516 00:47:54,625 --> 00:47:57,916 เรากินมื้อค่ําแล้วคุยกันไม่หยุดเหมือนทุกครั้ง 517 00:48:03,625 --> 00:48:07,125 แล้วเขาก็บอกว่า "ผมอยากบอกอะไรคุณหน่อย" 518 00:48:10,500 --> 00:48:15,208 เราขึ้นไปที่ห้องนอนฉัน ที่จริงเราห้ามเข้าห้องนอนกับผู้ชายเด็ดขาด 519 00:48:25,833 --> 00:48:28,125 แต่เขาลงไปซื้อแชมเปญขวดหนึ่ง 520 00:48:29,083 --> 00:48:30,250 แล้วบอกว่า 521 00:48:31,333 --> 00:48:32,625 "แต่งงานกับผมนะ" 522 00:48:33,375 --> 00:48:35,166 ฉันตอบว่า "แต่งอยู่แล้ว" 523 00:48:38,916 --> 00:48:42,000 แล้วเราก็แยกย้ายกันไปนอนคนละเตียง 524 00:48:42,500 --> 00:48:44,125 ให้ความนับถือกันอย่างที่สุด 525 00:48:46,375 --> 00:48:47,540 เขาคิดเผื่อฉันเยอะมาก 526 00:48:47,541 --> 00:48:50,708 ในแบบที่ไม่มีทางทําให้ฉันเสื่อมเสีย ไม่ว่าทางใดทั้งนั้น 527 00:48:55,166 --> 00:48:58,458 ในทางกลับกัน ถ้าเขาโน้มน้าว ฉันอาจใจอ่อนนะ 528 00:48:59,250 --> 00:49:03,707 เพราะถ้าใครคนนั้นอาจไม่ได้กลับมา 529 00:49:03,708 --> 00:49:06,040 เราจะยอมพลาดโอกาสนั้นรึ 530 00:49:06,041 --> 00:49:07,916 เพราะจะไม่มีวันนั้นอีกแล้ว 531 00:49:31,000 --> 00:49:34,165 ตอนนั้นวันคริสต์มาส ปีแห่งการทิ้งระเบิดปูพรม 532 00:49:34,166 --> 00:49:36,540 (การทิ้งระเบิดปูพรมวันที่ 109 25 ธันวาคม 1940) 533 00:49:36,541 --> 00:49:38,625 ไม้ฮอลลี่กับลวดหนาม 534 00:49:39,833 --> 00:49:42,041 ปืนกับสายตกแต่ง 535 00:49:47,000 --> 00:49:51,040 สถานทูตเยอรมนีในวอชิงตันบอกว่า ได้แจ้งกับรัฐบาลอังกฤษ 536 00:49:51,041 --> 00:49:53,665 ว่าทางเยอรมนีจะไม่ทิ้งระเบิดอังกฤษพรุ่งนี้ 537 00:49:53,666 --> 00:49:57,666 หากทางอังกฤษยั้งมือ ไม่ทิ้งระเบิดพรมแดนเยอรมนีเช่นกัน 538 00:50:04,083 --> 00:50:06,165 จากวันนี้กว่าจะถึงคริสต์มาสปีหน้า 539 00:50:06,166 --> 00:50:09,875 สิบสองเดือนอันยาวนานซึ่งมีอุปสรรคเลวร้าย และต้องเสียสละเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 540 00:50:11,125 --> 00:50:13,332 ห่างไปไม่กี่ช่วงถนนจากนี้ ณ ที่หลบภัยใต้ดิน 541 00:50:13,333 --> 00:50:15,916 คนทั้งครอบครัวฉลองคืนก่อนคริสต์มาสด้วยกัน 542 00:50:21,208 --> 00:50:24,416 (เชลซี ลอนดอนตะวันตก) 543 00:50:26,750 --> 00:50:29,208 ฉันเห็นซองจดหมายใหญ่ในกล่องไปรษณีย์ 544 00:50:31,458 --> 00:50:33,874 ฉีกเปิดซองแล้วฝันร้ายก็กระโจนออกมา 545 00:50:33,875 --> 00:50:35,916 (บันทึกของโจน วินด์นัม ขณะอายุ 18 ปี) 546 00:50:37,083 --> 00:50:39,958 ไปรายงานตัวเข้ากรมทหาร กองทัพเรือ 547 00:50:45,000 --> 00:50:47,708 "ให้ตาย" ฉันคิด "ต้องฉลองคริสต์มาสคนเดียว" 548 00:50:49,916 --> 00:50:52,541 ฉันอยากตายไปเสียดีกว่า ฉันต้องการรูเพิร์ตเหลือเกิน 549 00:50:56,166 --> 00:50:59,791 ในผับคนแน่น ทุกคนมีความสุข คนเมาร้องเพลงปลุกใจกัน 550 00:51:05,291 --> 00:51:07,916 ฉันกลับใช้คืนนั้นอย่างเปลี่ยวเหงา ในห้องเย็นเฉียบ 551 00:51:08,416 --> 00:51:10,625 นอนทั้งชุดนั้นบนเตียงแข็งๆ 552 00:51:13,166 --> 00:51:15,458 นี่ละคืนคริสต์มาสในยุคลําเค็ญ 553 00:51:18,125 --> 00:51:20,999 การสงบศึกทางอากาศอย่างไม่เป็นทางการ เหมือนจะยังดําเนินต่อ 554 00:51:21,000 --> 00:51:23,415 ซึ่งในหลายประเทศยุโรปฉลอง ราวกับคริสต์มาสซ้ําสอง 555 00:51:23,416 --> 00:51:25,040 (เงินออมสงครามคืออาวุธสงคราม) 556 00:51:25,041 --> 00:51:27,625 ดูเหมือนทั้งสองฝั่งไม่ได้สั่งให้เครื่องบินต่อสู้ขึ้นบิน 557 00:51:30,500 --> 00:51:35,791 (การทิ้งระเบิดปูพรมวันที่ 113 29 ธันวาคม 1940) 558 00:51:37,000 --> 00:51:38,957 อาคารที่ตระหง่านเหนือเขตนครลอนดอน 559 00:51:38,958 --> 00:51:42,416 มหาวิหารเซนต์ปอลตั้งอยู่ในใจทุกคน อย่างไม่มีอะไรเทียบได้ 560 00:51:45,000 --> 00:51:49,250 เซนต์ปอลถูกไฟไหม้มาแล้วสามครั้งตั้งแต่สร้างมา 561 00:51:52,166 --> 00:51:54,082 เซนต์ปอลเป็นสังฆมณฑล 562 00:51:54,083 --> 00:51:56,290 {\an8}(ริชาร์ด โฮลสโกรฟ นักดับเพลิงรุ่นเยาว์ อายุ 17 ปี) 563 00:51:56,291 --> 00:51:58,750 เป็นศูนย์รวมความไว้วางใจ 564 00:51:59,500 --> 00:52:00,583 พระผู้เป็นเจ้าสถิตที่นั่น 565 00:52:03,875 --> 00:52:06,749 ถ้าฮิตเลอร์ถล่มเซนต์ปอลได้ 566 00:52:06,750 --> 00:52:10,124 เขาจะทําลายจิตวิญญาณของชาวลอนดอน 567 00:52:10,125 --> 00:52:11,875 พร้อมกับคนที่เหลือในประเทศนี้ 568 00:52:19,291 --> 00:52:24,291 อังกฤษเป็นเกาะสุดท้ายที่ยังมีเอกราชในยุโรป 569 00:52:28,375 --> 00:52:30,333 ไม่นานจะถึงเวลา 570 00:52:30,833 --> 00:52:33,833 ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องเพี่ยงพล้ํา... 571 00:52:36,166 --> 00:52:40,416 และไม่ใช่ฝั่งนาซีเยอรมนีแน่! 572 00:52:52,416 --> 00:52:58,250 ขณะนี้เกิดการโจมตีทิ้งระเบิด รุนแรงที่บริเวณเขตนคร 573 00:53:03,125 --> 00:53:07,416 มีการตั้งศูนย์ควบคุมที่ลานหน้ามหาวิหารเซนต์ปอล 574 00:53:12,875 --> 00:53:13,832 ถือไว้ 575 00:53:13,833 --> 00:53:16,083 - ถือให้มั่น - อย่าไปอยู่ปลายน้ํา 576 00:53:16,708 --> 00:53:18,416 เขาประกาศชื่อหน่วยเรา 577 00:53:20,166 --> 00:53:25,291 เชอร์ชิลพูดชัดกับหัวหน้าหน่วยดับเพลิง ต้องกู้เซนต์ปอลไว้ให้ได้ 578 00:53:29,583 --> 00:53:35,541 เขารู้สึกว่าถ้ากอบกู้ไว้ได้ เราจะยังมีที่ให้ยึดเหนี่ยวจิตใจ 579 00:53:51,375 --> 00:53:54,125 แต่อย่าเรียกว่าไฟไหม้เลย เรียกว่าพายุไฟดีกว่า 580 00:54:00,750 --> 00:54:03,666 ระหว่างนั้นยังมีระเบิดเพลิงที่ทิ้งลงมา 581 00:54:07,125 --> 00:54:11,083 ถล่มใส่ลอนดอนเป็นพันๆ ลูก 582 00:54:18,833 --> 00:54:20,333 ไอร้อนหนักหนาเหลือจะกล่าว 583 00:54:23,083 --> 00:54:24,999 ถ้าไฟลามไปถึงเซนต์ปอล 584 00:54:25,000 --> 00:54:28,291 ตัวหลังคาโดมคงต้องพังลงมาแน่ 585 00:54:38,708 --> 00:54:41,124 เพลิงพิฆาตของนาซีโจมตีเมืองหลวงเต็มขั้น 586 00:54:41,125 --> 00:54:42,749 (บันทึกของโจน วินด์นัม ขณะอายุ 18 ปี) 587 00:54:42,750 --> 00:54:45,875 พวกมันทําให้เขตนครลุกเป็นไฟ รวมถึงโบสถ์ทั้งหกแห่ง 588 00:54:49,166 --> 00:54:50,874 เสียงเครื่องบินดังไม่หยุด 589 00:54:50,875 --> 00:54:53,750 เสียงเครื่องบินดิ่งพสุธาทิ้งระเบิดก็เลื่อนลั่น 590 00:54:56,458 --> 00:55:00,708 จุดไฟลุกบนถนนจนสว่างราวกับกลางวัน แสงดาวหายกันไปหมด 591 00:55:05,541 --> 00:55:07,750 ภาพซึ่งดูเหมือนนรกบนดิน 592 00:55:09,125 --> 00:55:12,915 โลกจะต้องประจักษ์ภาพการทิ้งระเบิด ที่ไม่ได้เล็งเป้าหมายทางการทหาร 593 00:55:12,916 --> 00:55:16,041 แต่มุ่งทําลายสิ่งที่ทุกคนรักมานานหลายศตวรรษ 594 00:55:17,041 --> 00:55:20,083 อาคารสํานักงานเมืองอันโด่งดัง กิลด์ฮอลล์ 595 00:55:30,041 --> 00:55:32,750 ตอนนั้นผมถึงเริ่มรู้สึกโตเป็นผู้ใหญ่ 596 00:55:33,625 --> 00:55:37,415 เราทํางานตรงนั้นซึ่งเป็นชีวิตของเรา 597 00:55:37,416 --> 00:55:39,166 หรือชีวิตของเพื่อนดับเพลิง 598 00:55:42,041 --> 00:55:46,416 ผมรู้สึกว่า "พระเจ้า ถ้าได้กลับบ้านจะรีบบอกแม่" 599 00:55:52,833 --> 00:55:55,833 ถ้าเราคุมเพลิงไว้ได้ 600 00:55:57,791 --> 00:56:01,416 มันจะไม่คืบไปยังโบสถ์เซนต์ปอล 601 00:56:18,958 --> 00:56:20,166 ที่นี่คือลอนดอน 602 00:56:23,875 --> 00:56:25,041 เงียบกริบ 603 00:56:25,541 --> 00:56:27,583 ตอนนี้เวลาเกือบตีหนึ่งแล้ว 604 00:56:33,583 --> 00:56:35,874 กําแพงเพลิงซึ่งล้อมพื้นที่สามเหลี่ยมขนาดใหญ่ 605 00:56:35,875 --> 00:56:39,375 ในเขตธุรกิจสําคัญของลอนดอนนั้น ถูกดับได้หมดแล้ว 606 00:56:42,958 --> 00:56:44,916 ผมเฝ้าดูไฟจากดาดฟ้า 607 00:56:45,583 --> 00:56:49,499 จินตนาการไม่ยากเลยว่า ลอนดอนเมื่อ 300 ปีก่อนสภาพเป็นอย่างไร 608 00:56:49,500 --> 00:56:52,291 ยามที่เหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ลุกลามไปทั่วเมือง 609 00:56:57,791 --> 00:57:00,999 จากจุดที่ผมยืนอยู่ ดูเหมือนมี ชายคนหนึ่งปาระเบิดเพลิง 610 00:57:01,000 --> 00:57:03,041 จากดาดฟ้าโดยใส่ถุงมือ 611 00:57:12,125 --> 00:57:15,625 ปาฏิหาริย์มากที่ระเบิดเหล่านั้นไม่โดนเซนต์ปอล 612 00:57:17,500 --> 00:57:21,165 ผมคิดเลยว่า "โอย ต้องมีใครดําริมาแน่ๆ ว่า 613 00:57:21,166 --> 00:57:22,666 'จงอย่าแตะต้องที่นั่น'" 614 00:58:05,291 --> 00:58:06,833 พิสูจน์ทราบแน่ชัดแล้วว่า 615 00:58:07,333 --> 00:58:12,625 วิธีการข่มขู่ด้วยการเข่นฆ่าและก่อการร้าย 616 00:58:16,291 --> 00:58:20,374 มิได้ทําลายจิตวิญญาณชาติอังกฤษ ให้อ่อนด้อยลงได้เลย 617 00:58:20,375 --> 00:58:26,208 แต่กลับโหมไฟในใจให้ฮึกเหิมสามัคคียิ่งขึ้นไป 618 00:58:26,833 --> 00:58:29,041 ยิ่งกว่าที่ใครเคยเห็นมาก่อน 619 00:58:42,250 --> 00:58:44,999 เราจะหาคําใดมาชื่นชมกองทัพอากาศ 620 00:58:45,000 --> 00:58:47,415 ซึ่งบินเข้าสู่สนามรบ โดยเสียเปรียบอย่างหนักทุกวัน 621 00:58:47,416 --> 00:58:49,583 แต่ละวันก็ได้ชัยชนะกลับมาทุกครั้ง 622 00:58:51,625 --> 00:58:54,833 อังกฤษพร้อมแล้วที่จะต่อต้าน การรุกรานที่ตั้งเค้าเงื้อง่ามานาน 623 00:58:59,583 --> 00:59:03,500 เครื่องบินนาซีบุกมา 80 ลํา มีถึง 25 ลําที่ไม่รอดกลับไป 624 00:59:09,208 --> 00:59:11,707 จุดเปลี่ยนของสงครามทั้งหมดนี้ 625 00:59:11,708 --> 00:59:14,125 อาจอยู่ที่การใช้คุณภาพเข้าต่อกรกับปริมาณ 626 00:59:16,750 --> 00:59:20,666 {\an8}(กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร กองบัญชาการฝูงบินขับไล่) 627 00:59:21,666 --> 00:59:24,790 เราไม่เชื่อหรอกว่าจะแพ้ 628 00:59:24,791 --> 00:59:26,915 ทุกคนก็รู้สึกอย่างนั้น 629 00:59:26,916 --> 00:59:28,833 อย่างน้อยก็คนที่ประจําสถานีรบ 630 00:59:31,458 --> 00:59:34,208 นั่นก็ช่างไร้เดียงสา 631 00:59:40,791 --> 00:59:43,707 เดนิสกับฉันกําลังเตรียมการแต่งงาน 632 00:59:43,708 --> 00:59:46,125 เพราะเราอยากรีบแต่ง 633 00:59:48,125 --> 00:59:49,415 {\an8}(อิดิธ ฮีพ จนท.วางแผนที่) 634 00:59:49,416 --> 00:59:51,541 {\an8}เขาอยากรีบแต่ง 635 00:59:56,125 --> 00:59:58,125 แต่พวกหัวหน้าก็บอกว่า 636 00:59:58,625 --> 01:00:01,540 เขาไม่ชอบให้นักบินหมั้นกับใคร 637 01:00:01,541 --> 01:00:03,250 เพราะเมื่อนั้นนักบินจะเริ่มระวังตัว 638 01:00:06,625 --> 01:00:09,708 แล้วคนเป็นนักบินขับไล่จะระวังตัวมากไม่ได้ 639 01:00:10,833 --> 01:00:12,624 เขาต้องบุกเข้าไปอย่างเต็มกําลัง 640 01:00:12,625 --> 01:00:16,000 โดยไม่ห่วงพะวงถึงผู้หญิงที่รออยู่ที่ฐาน 641 01:00:25,583 --> 01:00:29,208 ช่วงเช้ามีการโจมตีใหญ่ ฉันเข้าเวร 642 01:00:31,416 --> 01:00:35,458 จําไม่ได้แล้วว่าเครื่องบินเยอรมัน มากี่เครื่อง แต่ก็ไม่น้อย 643 01:00:41,291 --> 01:00:42,540 เปิดช่องสื่อสารไว้ 644 01:00:42,541 --> 01:00:47,415 ศัตรูมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ ในเครื่องเอสหนึ่งห้า บินต่ํามาก 645 01:00:47,416 --> 01:00:51,790 พื้นที่ 243 เฮสติงส์ แอชฟอร์ด โดเวอร์ 646 01:00:51,791 --> 01:00:52,708 รับทราบ 647 01:00:53,791 --> 01:00:55,291 พวกนั้นยิงเราแล้ว 648 01:00:55,958 --> 01:00:57,000 ฉิวเฉียด 649 01:00:57,500 --> 01:01:00,375 - เครื่องของผมน่าจะโดนยิงแล้ว - ใช่ 650 01:01:02,625 --> 01:01:04,957 ตรวจสอบความเร็วเครื่อง 182 651 01:01:04,958 --> 01:01:07,000 ดูความเร็วเครื่อง 182 ให้ดี 652 01:01:07,500 --> 01:01:10,125 มีสัญญาณฉุกเฉินจาก 207 653 01:01:14,250 --> 01:01:17,625 คนแจ้งว่า "มีเครื่องตก 654 01:01:18,500 --> 01:01:20,333 ไม่มีร่มชูชีพ" 655 01:01:27,000 --> 01:01:28,457 รอก่อน 656 01:01:28,458 --> 01:01:31,583 ศัตรู 8170 ถูกกําจัดแล้ว 657 01:01:32,083 --> 01:01:36,500 เปลี่ยนเป็นศัตรู 8171 รอก่อน... 658 01:01:37,125 --> 01:01:38,625 ฉันรู้เลยว่านั่นเครื่องของใคร 659 01:01:40,625 --> 01:01:41,708 รู้ดีในใจ 660 01:01:43,250 --> 01:01:45,625 อย่าถามว่าทําไมถึงรู้ แต่ฉันรู้ 661 01:01:48,208 --> 01:01:51,208 หัวหน้ากองบินบอกว่า "อิดิธ..." 662 01:01:53,416 --> 01:01:54,583 ขอโทษค่ะ 663 01:01:56,333 --> 01:01:57,583 แต่นั่นแหละ เธอบอกว่า 664 01:01:58,458 --> 01:01:59,833 "เดนิสหายตัวไป" 665 01:02:00,333 --> 01:02:01,833 ฉันตอบว่า "ค่ะ ฉันทราบ" 666 01:02:05,041 --> 01:02:06,916 แล้วยังไง... โอ๊ย พอ 667 01:02:11,583 --> 01:02:13,874 (เดนิส วิสเลอร์) 668 01:02:13,875 --> 01:02:17,290 (อายุ 20 ปี) 669 01:02:17,291 --> 01:02:18,875 เครื่องเขาตกในทะเล 670 01:02:21,166 --> 01:02:22,666 ไม่พบอะไรทั้งนั้น 671 01:02:24,500 --> 01:02:25,624 ซึ่งเขาก็ต้องการแบบนั้น 672 01:02:25,625 --> 01:02:29,624 เขาพูดเสมอว่าถ้าเขาถูกยิงเครื่องตกตาย 673 01:02:29,625 --> 01:02:32,375 เขาไม่อยากได้งานศพแบบทหาร 674 01:02:35,708 --> 01:02:38,333 ฉันเสียดายที่เราไม่ได้แต่งงานกัน เรื่องนั้นเสียดายจริงๆ 675 01:02:40,666 --> 01:02:45,750 ฉันไม่สนว่าจะแต่งได้แค่ 24 ชั่วโมง หรือสองวันหรือห้าเดือน 676 01:02:48,333 --> 01:02:49,666 เรื่องนั้นเสียดายมาก 677 01:03:01,791 --> 01:03:03,707 (การทิ้งระเบิดปูพรมวันที่ 245 10 พฤษภาคม 1940) 678 01:03:03,708 --> 01:03:06,832 นี่คือฝูงชนจํานวนหนึ่ง จากจํานวนผู้ชมทั้งหมด 60,000 คน 679 01:03:06,833 --> 01:03:09,625 รอชมนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างเพรสตันนอร์ธเอนด์กับอาร์เซนอล 680 01:03:11,291 --> 01:03:14,249 ทั้งสองทีมออกมาพร้อมกัน เพรสตันใส่ขาสั้นสีเข้ม 681 01:03:14,250 --> 01:03:17,166 (รอบชิงชนะเลิศลีกคัพปี 1941 สนามเวมบลีย์ ลอนดอน) 682 01:03:17,958 --> 01:03:21,207 มีคนออกความเห็นมากมาย ต่อต้านการจัดแข่งชิงถ้วยในภาวะสงคราม 683 01:03:21,208 --> 01:03:24,499 แต่อย่างน้อยก็เปิดโอกาสให้ทหาร และฝ่ายบริการงานสงครามอื่นๆ 684 01:03:24,500 --> 01:03:27,041 ได้พักผ่อนจิตใจ เปลี่ยนบรรยากาศใหม่หมด 685 01:03:32,125 --> 01:03:33,541 เพรสตันโจมตีอีกครั้ง 686 01:03:35,083 --> 01:03:36,250 ได้ประตู 687 01:03:37,916 --> 01:03:40,208 แต่เกมนี้ถูกกําหนดมาให้เสมอกัน 688 01:03:41,416 --> 01:03:44,875 ตัดสินยากทีเดียวว่างานรื่นเริงเช่นวันนี้ เป็นเรื่องที่ควรทําหรือไม่ 689 01:03:51,416 --> 01:03:54,458 คืนนี้จันทร์เพ็ญส่องสว่างเหนืออังกฤษ 690 01:03:56,416 --> 01:03:57,749 เสียงหวอดังเตือนแล้ว 691 01:03:57,750 --> 01:04:00,458 เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มคํารามอยู่ในอากาศ 692 01:04:01,166 --> 01:04:04,416 ดูเหมือนจะเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่ลอนดอนอีก 693 01:04:09,916 --> 01:04:13,916 ส่งไปที่เมืองหลวงของอังกฤษ รายงานโดยเอ็ดเวิร์ด อาร์. เมอร์โรว์ 694 01:04:15,333 --> 01:04:18,165 มีเสียงร้องเพลงโหวกเหวกเป็นระยะ 695 01:04:18,166 --> 01:04:21,041 หรือเสียงเรียกแท็กซี่ 696 01:04:22,166 --> 01:04:26,208 ผมสํารวจหลุมหลบภัยทางอากาศหลายแห่ง ส่วนใหญ่มีคนเพียงครึ่งเดียว 697 01:04:28,125 --> 01:04:31,958 ดูผิวเผินเหมือนเป็นสัญญาณ ของความกล้าและความร่าเริงในลอนดอน 698 01:04:36,083 --> 01:04:40,000 ฉันตัดสินใจว่าถึงเวลาเข้าร่วมกองทัพ ผ่านเข้าไปเป็นคนวางแผนที่ 699 01:04:42,541 --> 01:04:44,916 ก่อนจะประจําการ ได้หยุดยาวช่วงสุดสัปดาห์ 700 01:04:45,541 --> 01:04:47,582 รูเพิร์ตเขียนจดหมายมาว่าเขามาลอนดอนได้ 701 01:04:47,583 --> 01:04:49,916 แต่อาจโดนเรียกกลับเมื่อใดก็ได้ 702 01:04:55,333 --> 01:04:58,750 ฉันก็คิดว่าอาจไปเจอคนใหม่ เป็นนักบินอะไรอย่างนั้น 703 01:05:00,625 --> 01:05:03,333 มั่นใจว่าคงไม่ได้ชอบเขาแม้แต่ครึ่งของรูเพิร์ต 704 01:05:07,333 --> 01:05:09,833 ปาร์ตี้คืนนั้นจัดในสตูดิโอใหญ่มาก 705 01:05:11,041 --> 01:05:14,916 เราได้ยินเสียงตุบๆ จากไกลๆ แต่ไม่มีใครสนใจ 706 01:05:17,583 --> 01:05:20,541 ทันใดนั้นก็มีเสียงหวอหวิวยาวลั่น 707 01:05:21,166 --> 01:05:25,708 ด้านนอกอาจจะเหมือนวันโลกาวินาศ แต่เราเมาเกินกว่าจะสนใจ 708 01:05:37,166 --> 01:05:40,750 เป็นคืนที่ประหลาดมาก ผู้คนไม่กลัวกันเลย 709 01:05:45,625 --> 01:05:48,665 {\an8}ริมถนนมีแผงขายหนังสือพิมพ์... 710 01:05:48,666 --> 01:05:50,749 (บัลลาร์ด เบิร์คลีย์ ตํารวจพิเศษ) 711 01:05:50,750 --> 01:05:52,583 ทั้งที่ทิ้งระเบิดกันอยู่ 712 01:05:55,083 --> 01:05:57,416 ผลรอบชิงถ้วย! 713 01:06:05,583 --> 01:06:08,625 มีโสเภณีเดินมาจากพิคคาดิลลี 714 01:06:10,083 --> 01:06:13,125 เดินร้องเพลงและถือร่ม 715 01:06:14,541 --> 01:06:19,166 ร้องเพลงกลางสายฝน ร้องเพลงกลางสายฝน 716 01:06:41,458 --> 01:06:44,290 ไม่มีการประเมินจํานวนผู้เสียชีวิต 717 01:06:44,291 --> 01:06:46,290 แต่รัฐบาลออกแถลง 718 01:06:46,291 --> 01:06:49,208 ซึ่งบอกว่าจํานวนผู้เสียชีวิตสูงทีเดียว 719 01:06:54,458 --> 01:06:59,875 จู่ๆ ข่าวก็กระจายทั่วยุโรปว่า เยอรมนีประกาศสงครามกับรัสเซีย 720 01:07:02,708 --> 01:07:04,874 แปลว่าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์หมดหวัง 721 01:07:04,875 --> 01:07:06,916 ที่จะเอาชนะอังกฤษได้ง่ายๆ แล้ว 722 01:07:17,000 --> 01:07:21,499 เมื่อคืนไม่มีเครื่องบินเยอรมันบุกมา วันนี้ก็ไม่มี 723 01:07:21,500 --> 01:07:24,291 รู้สึกเหมือนไม่ได้ยินเสียงหวอมาพักใหญ่ 724 01:07:27,166 --> 01:07:29,707 โรงภาพยนตร์ที่เลสเตอร์สแควร์เปิดแล้ว 725 01:07:29,708 --> 01:07:33,041 แม้จะยังคงให้รักษาความปลอดภัยในลอนดอน 726 01:07:34,750 --> 01:07:36,832 และแม้จะได้แผล 727 01:07:36,833 --> 01:07:39,875 ลอนดอนก็ยังมีรอยยิ้มอาบใบหน้าเสมอ 728 01:07:46,791 --> 01:07:48,458 เมื่อเขาเลิกทิ้งระเบิด 729 01:07:48,958 --> 01:07:49,915 (เสียงเอริค เบรดี้) 730 01:07:49,916 --> 01:07:54,916 คุณแม่ก็ตัดสินใจว่าอยากให้เรากลับบ้านทันที 731 01:07:59,500 --> 01:08:01,875 ให้ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้ง 732 01:08:07,000 --> 01:08:10,125 วันรุ่งขึ้นผมก็รีบออกไปเล่นหาเศษวัตถุระเบิด 733 01:08:12,208 --> 01:08:14,291 ผมดีใจมากที่ได้กลับมาอยู่บ้าน 734 01:08:20,750 --> 01:08:22,833 พี่คิตตี้กับผมก็ไปโรงเรียน 735 01:08:25,375 --> 01:08:27,583 ผมไปเรียนฝ่ายประถมต้น 736 01:08:29,666 --> 01:08:31,500 พี่ไปเรียนฝ่ายประถมปลาย 737 01:08:34,250 --> 01:08:37,291 สําหรับเราแล้ว นั่นเป็นวันเรียนหนังสือปกติ 738 01:08:42,291 --> 01:08:45,499 เราเดินไปที่โรงอาหาร 739 01:08:45,500 --> 01:08:48,333 ไปกินแซนด์วิชกันที่นั่น 740 01:08:51,666 --> 01:08:53,957 รู้ตัวอีกที 741 01:08:53,958 --> 01:08:58,625 ก็ได้ยินเสียงเครื่องบินดังลั่นใกล้มากอยู่เหนือหัว 742 01:09:03,208 --> 01:09:06,166 พวกครูตะโกนโหวกเหวกให้ไปหลบใต้โต๊ะ 743 01:09:09,791 --> 01:09:14,875 ผมจําได้ว่าพี่คิตตี้เปิดประตูผ่างวิ่งเข้ามา 744 01:09:16,125 --> 01:09:17,708 แล้วระเบิดก็ลง 745 01:09:35,833 --> 01:09:37,624 (ภาพจากโรงเรียนของเอริค ปี 1943) 746 01:09:37,625 --> 01:09:39,958 สังหรณ์ของคุณแม่กลายเป็นจริง 747 01:09:40,666 --> 01:09:43,458 เกิดเรื่องเลวร้ายกับผมและพี่คิตตี้จริงๆ 748 01:09:49,666 --> 01:09:53,750 ข่าวการโจมตีทางอากาศ โดยเครื่องบินทิ้งระเบิดหลงของเยอรมันบุกเดี่ยว 749 01:09:56,333 --> 01:09:58,791 นี่เป็นการตายอย่างฉับพลัน 750 01:09:59,708 --> 01:10:02,291 แทบไม่มีใครมุดหลบทันด้วยซ้ํา 751 01:10:05,708 --> 01:10:07,791 เด็กน้อยเสียชีวิตทั้งหมด 38 คน 752 01:10:09,875 --> 01:10:11,374 และครูเสียชีวิตหกคน 753 01:10:11,375 --> 01:10:15,000 (คําถามเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ไปถามที่ศาลากลาง) 754 01:10:19,208 --> 01:10:20,750 เขาขุดเอาตัวผมออกมา 755 01:10:30,250 --> 01:10:32,583 ผมบาดเจ็บหนักมาก 756 01:10:37,333 --> 01:10:40,250 คุณแม่จะมาหาที่โรงพยาบาล 757 01:10:41,000 --> 01:10:44,250 แล้วผมก็เอาแต่ถามถึงพี่คิตตี้ 758 01:10:54,708 --> 01:10:59,125 พี่คิตตี้เข้ามาในโรงอาหารเด็ก วิ่งเข้ามาหาผม 759 01:11:01,791 --> 01:11:03,625 พี่เอาตัวบังผมเอาไว้ 760 01:11:04,750 --> 01:11:06,000 แล้วพี่ก็ตาย 761 01:11:14,208 --> 01:11:17,500 ถ้าไม่ได้พี่คิตตี้ ผมคงตายไปแล้ว 762 01:11:18,166 --> 01:11:20,125 แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย 763 01:11:20,625 --> 01:11:24,833 เพราะพี่ถูกคร่าชีวิตไปแทนผม 764 01:11:26,625 --> 01:11:28,291 ผมจะไม่มีวันลืม 765 01:11:40,375 --> 01:11:42,415 มองในหลายๆ ทาง ผมโชคดีมาก 766 01:11:42,416 --> 01:11:47,500 เพราะผมได้เติบโตมาทําอะไรมากมาย 767 01:11:49,250 --> 01:11:53,333 ได้เจอสาวสวยแสนดี แต่งงานกับเธอ มีลูกน่ารักสามคน 768 01:12:13,125 --> 01:12:15,165 ตอนสงครามสงบ เหมือนเราอยู่คนละโลก 769 01:12:15,166 --> 01:12:17,041 (เบอร์นาร์ด คอปส์ ชาวอีสต์เอนด์ อายุ 13 ปี) 770 01:12:18,250 --> 01:12:22,291 พูดง่ายๆ คือตอนนั้นเราต้องลุยไปด้วยกัน จําเป็นต้องรวมใจ 771 01:12:33,333 --> 01:12:36,333 ระบบชนชั้นถูกทําลายไปสิ้น 772 01:12:37,916 --> 01:12:41,000 เรานึกว่าเราควรได้ระบบใหม่ 773 01:12:43,291 --> 01:12:44,625 ชีวิตเราก็ดีขึ้นจริงๆ 774 01:12:48,083 --> 01:12:52,082 (โจน วินด์นัมเข้ากองทหารอากาศหญิงเสริม และเลิกรากับรูเพิร์ต) 775 01:12:52,083 --> 01:12:55,750 (อีก 40 ปีต่อมา เธอนําบันทึกออกมาตีพิมพ์และกลายเป็นนักเขียน) 776 01:12:57,625 --> 01:13:01,541 บางครั้งฉันก็รู้สึกถึงความสําคัญ ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก 777 01:13:02,041 --> 01:13:04,500 แต่ถึงกระนั้น ฉันก็ไม่อาจบรรยายได้ 778 01:13:06,375 --> 01:13:09,291 โลกครึ่งหนึ่งพยายามทําลายอีกครึ่ง 779 01:13:10,125 --> 01:13:12,250 ทุกอย่างไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนก่อนอีก 780 01:13:15,291 --> 01:13:17,958 แต่ตัวฉันไม่ได้รู้สึกแตกต่าง จากช่วงสงครามสงบเลย 781 01:13:18,458 --> 01:13:20,208 เว้นแต่ฉันมีความสุขขึ้นเล็กน้อย 782 01:13:23,875 --> 01:13:26,749 (อิดิธ ฮีพรับใช้ชาติเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง) 783 01:13:26,750 --> 01:13:28,707 (ตลอดจนจบช่วงสงคราม) 784 01:13:28,708 --> 01:13:33,958 (หลังจากนั้นเธอแต่งงานและมีบุตรสาวสองคน) 785 01:13:36,208 --> 01:13:38,875 ฉันว่าเราไม่มีความมุ่งมั่นแบบนั้นอีกนับจากนั้น 786 01:13:40,791 --> 01:13:45,624 ตอนนั้นเราปกป้องวิถีชีวิต ปกป้องประเทศ 787 01:13:45,625 --> 01:13:47,541 ปกป้องประชาชนของเราทุกคน 788 01:13:48,291 --> 01:13:52,541 นั่นรวมถึงพลเรือนที่ลุกขึ้นมาสู้จนตัวตาย 789 01:13:56,041 --> 01:14:00,040 การดับไฟกาฬครั้งสุดท้าย ซึ่งหมายจะครอบงําอย่างสะพรึงขวัญ 790 01:14:00,041 --> 01:14:05,165 จะแผ้วทางสู่ความสมานฉันท์ 791 01:14:05,166 --> 01:14:07,291 ให้เป็นน้ําหนึ่งใจเดียวกันดียิ่งกว่าแผนการใดๆ 792 01:14:08,750 --> 01:14:12,916 เพราะเราได้ฝ่าภยันตรายลุยไฟมาด้วยกัน 793 01:16:03,416 --> 01:16:08,416 คําบรรยายโดย ศันสนีย์ โอบอ้อม 794 01:16:17,041 --> 01:16:19,999 (คําให้การในสารคดีนี้ มาจากผู้รอดชีวิตการทิ้งระเบิดปูพรม) 795 01:16:20,000 --> 01:16:21,040 (ช่วงปี 1939-1943) 796 01:16:21,041 --> 01:16:22,874 (รวมถึงบันทึกซึ่งอ่านโดยนักแสดง) 797 01:16:22,875 --> 01:16:24,791 (อาจมีการปรับเปลี่ยนคําเพื่อความชัดเจน) 798 01:16:26,208 --> 01:16:29,165 (ภาพยนตร์นี้สร้างจากการผสมผสาน ภาพเคลื่อนไหวจากแหล่งต่างๆ) 799 01:16:29,166 --> 01:16:32,291 (ตั้งแต่ภาพจริงจากสารคดียุคนั้น ตลอดจนการจําลองภาพรัฐบาล)